◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 315734 ครั้ง)

ออฟไลน์ yumenari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ลุงลูก หนูลูก
เอ็นดูนางจ้ง 

อยากจะบอกนางว่า
ลุง หนูจะเป็นอะไรก็ได้ แต่หนูเปนผัวปุริมไม่ได้

ขอบคุณค่ะ มาต่อไวไวน้า อิอิ

ออฟไลน์ HeIsMine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ย!! มีความแม่ผัวลูกสะใภ้ไปอีก  :hao7:

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
 โัถถถถ ลุ๊งงงงงงงง สงสารปุริมจริงๆเลยยยยยย :hao7:

ออฟไลน์ mu_mam555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ปวดหัวกับลุงแทนพี่ปูนจริงๆ

ออฟไลน์ tutatoomtam

  • รัก.................!
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โว้ยยยยยยยยยยยยอิลุง555555555555

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ขำในความเด๋อของลุงยังคอดว่าเขาเป็นเมียอีก55555ไม่สงสารแม่งละโว้ยยย  :z6:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เป็นลูกเขยปะทะแม่ยายดีกว่ามั้ยคุณลุง

ออฟไลน์ jay..jay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แหม..แหม..แหม คุณดาหลามาได้ยินประโยคเด็ดเลยนะคะ
รอ..รอ..รอ อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววว :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ppnplg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พัทลุง เธอหวังอะไรก็ได้
แต่เธอหวังเป็นผัวปุริมไม่ได้ไง
ลุงโว้ยยยย5555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 15 _ในความรักและความจริง มีความโรคจิตซ่อนอยู่_




อย่างที่ผมรู้เสมอมาว่าคุณดาหลาไม่ใช่พวกกีดกันทางเพศ และน่าจะไม่มีปัญหาถ้าเกิดลูกคนใดรักชอบเพศเดียวกัน แต่มันต้องไม่ใช่การได้ยินลูกชายตัวเองบอกว่าได้ถูกนิ้วของแฟนล่วงล้ำประตูหลังกับหู ผมเดาว่าแม่คงสะเทือนใจพอดู เพราะถ้าผมเป็นแม่ผมอาจจะช็อกไปแล้วก็ได้

ดังนั้นการเปิดอกคุยกันจึงเกิดขึ้น

แม้ผมพยายามหลีกเลี่ยงให้แม่ปล่อยผ่านพี่ปูนไปก่อน แต่คำตอบที่ได้คือรอยยิ้มเย็นยะเยือกที่ผมไม่กล้าขัดขืนอีก คุณดาหลาต้องการให้เราทั้งหมดไปทานอาหารแบบสบายๆ เพื่อคุยกันแบบเปิดใจ แม้ผมจะคิดว่าการกินข้าวไปด้วยถกเรื่องเครียดไปด้วยมันน่าจะทำให้อาหารไม่ย่อยมากกว่าจะเกิดบรรยากาศแบบสบายๆ แต่อย่างที่บอกว่าผมไม่สามารถสอดปากแย้งคุณพยาบาลแกได้จริงๆ

“พี่โอเคมั้ย?”  ผมจับมือพี่ปูนแน่นคล้ายแสดงความเข้มแข็งของผู้นำ แต่ลึกๆ ก็ยังอดกังวลไม่ได้อยู่ดี ที่คิดไว้ในหัวก่อนหน้าคือการพาพี่ปูนไปบ้านไหว้แม่ฝากตัวตามมารยาทที่ควรเป็น ไม่ใช่การโป๊ะแตกโจ๋งครึ่มอะไรแบบนี้ เฮ้อ~

“มีตรงไหนที่ไม่โอเค?”  เมียรักผินหน้ามามองผมราวกับได้ยินคำถามปัญญาอ่อน

“ก็ทุกตรงอะ แบบว่า...เผื่อพี่อาจจะยังไม่อยากให้ใครรู้”  ผมจำต้องเบี่ยงหน้าหลบสายตาพี่ปูนเพราะกลัวว่าจะอดใจไม่ได้จนเอาหัวโหม่งหน้านิ่งๆ ของเมียสักที

“ไม่รู้สิ พี่เองก็บอกไม่ถูก...”  แม้จะเป็นคำพูดที่ดูขาดความมั่นใจไปสักนิด แต่น้ำเสียงนั้นกลับหนักแน่นขัดกันเหลือเกิน ผมเหลือบสายตามองแม่ที่ยืนตีหน้านิ่งรอผมอยู่ตรงรถที่ไม่ไกลกันนัก ก่อนจะหันมามองเจ้าของมือที่กระตุกขืนผมไว้ให้หยุดกับที่ เซ็กส์ซี่กายแห่งทศวรรษยิ้มพรายหล่อเหลามองผม ไม่ใช่รอยยิ้มที่หล่อไปวันๆ แต่มันเป็นยิ้มที่พริ้มพรายไปถึงนัยน์ตา

“พี่ไม่เคยจริงจังกับใครขนาดนี้มาก่อน...ลุงคือคนแรกที่พี่หวังว่าจะเป็นคนสุดท้าย”

จะรออยู่ทำไมล่ะครับ

“บ้า~ ลุงเขินอะปุริม”  หน้าไม่ได้ร้อนไม่ได้แดงอะไรหรอก แต่ปากเนี่ยหุบลงมาไม่ได้เลยคอยแต่จะฉีกยิ้มจนแก้มปวดไปหมด มือที่กุมกันไว้ก็ดึงสะบัดไปมาอย่างกับเป็นเรือไวกิ้ง ท่วงท่าเยอะเสียจนพี่ปูนหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างเอ็นดู (ผมคิดว่างั้นน่ะนะ)

“ไปเถอะ เดี๋ยวคุณน้ารอจนโมโหหรอก”

“โอเค เดี๋ยวเจอกันนะ”  ผมบอกให้พี่ปูนขับรถตามไปยังร้านที่คุณดาหลาแกเจาะจงเสร็จก็รีบวิ่งไปหาคุณดาหลาที่ใบหน้าเจือรอยยิ้มเย็นเยียบเหมือนแม่คะนิ้งในหน้าหนาว แม่ไม่ได้พูดอะไรมากเมื่อผมไปหยุดยืนหัวเราะแหะๆ ตรงหน้า แค่ชวนขึ้นรถด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เท่านั้น ส่วนผมก็นั่งหน้าคู่กับแม่ไปด้วยบรรยากาศเงียบเหมือนป่าช้า แม่ไม่พูดอะไรสักคำเมื่อเห็นผมยิ้มให้ท้ายรถของพี่ปูนที่ขับออกไปก่อน

ผมเดาว่าคุณดาหลาอาจจะผิดหวังหน่อยๆ

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเป็นแม่คงอยากได้ลูกสะใภ้ตัวเล็กหน้าตาน่ารักเพื่อคู่กับลูกชายของตัวเอง แทนที่จะเป็นสะใภ้สูงใหญ่หุ่นควายแบบนี้ แต่ผมเชื่อว่าแม่จะก้าวผ่านความระทมในจุดนี้ไปได้ เพราะทุกการเริ่มต้นมักไม่สวยงามเสมอไป ปลายทางต่างหากที่จะวัดความสำเร็จ...มั้ง?

เอาน่า~ ไม่ว่ายังไงเสน่ห์ของพี่ปูนจะทำให้ผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ พี่ปูนมีข้อดีมากมาย (...ใช่มั้ย?) ถึงจะกุมข้อเสียเอาไว้พอๆ กันก็เถอะ ความคิดอาจจะสลับซับซ้อนไปบ้าง แม้หัวใจดูขมุกขมัวมีส่วนมืดครึ้มไปสักหน่อย แต่ก็เป็นคนที่ผมตกลงใจแล้วว่าชอบคุณดาหลาคงไม่ใจร้ายเหมือนบทแม่ในละครหรอก 

“เหม่ออะไรอีกแล้วลูกฉัน” 

เสียงเหนื่อยหน่ายของคนขับคนสวยดังเรียกสติผมกลับเข้าร่าง ผมหันไปมองคุณดาหลาก่อนจะกวาดสายตาไปทั่ว ก็พบว่าเรามาถึงร้านอาหารที่เป็นเป้าหมายแล้ว 

“ลงค่ะคุณลุง”  เสียงประตูปิดตามหลังคำสั่ง ผมจนใจที่จะขบคิดต่อจึงก้าวลงจากรถบ้าง เราเดินไปพร้อมกันเพื่อไปสมทบกับพี่ปูนที่ยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว ใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ส่งยิ้มให้พวกผมพลางผายมือเปิดทางให้แม่เดินเข้าไปในร้านก่อนราวกับสุภาพบุรุษชั้นดี

ร้านนี้เป็นร้านอาหารฝรั่งที่มีดีตรงห้องกั้นแยกแบบส่วนตั๊วส่วนตัว คุณดาหลาเดินตรงเข้าไปหาพนักงานต้อนรับ พูดคุยเล็กน้อยก่อนจะถูกนำทางไปยังโซนห้องกระจกด้านหลังสวนเล็กๆ ภายใน ผมเหลือบมองพี่ปูนที่ยืนอยู่ข้างๆ คว้าจับมือเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ จังหวะเดียวกันก็หันไปเห็นสายตาพนักงานหญิงจากมุมไม่ไกลนักจับคู่กันส่งสายตาปริบๆ ให้แฟนผม นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังมีเรื่องเครียดล่ะก็จะหันไปยักคิ้วยิ้มเย้ยให้

“ไม่ต้องกลัวนะ แม่ผมไม่ดุหรอก”  ผมดึงสายตากลับมาที่พี่ปูนอีกครั้ง

“ถึงดุพี่ก็ไม่กลัว”  พี่ปูนยกยิ้มพลางจูงมือผมให้ก้าวเดินตามไป

ผมมองสองข้างทางที่ผ่าน โต๊ะด้านในนั้นมีผู้จับจองอยู่ประปราย อาจจะเพราะว่ายังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นเสียทีเดียว ภายในร้านจึงดูเงียบสงบเคล้าเสียงบรรเลงเพลงคลาสสิค ส่วนโซนห้องกระจกด้านหลังนั้นเมื่อมองกวาดไปยังร้างผู้คนอยู่ พี่ปูนพาผมเดินเข้าไปยังห้องมุมสุดที่พนักงานเปิดรอไว้อยู่แล้ว

คุณดาหลานั่งรออยู่ก่อนด้วยทีท่าสบายอกสบายใจ ดวงตาสอดส่ายพลิกหน้าเมนูหนังสีดำในมืออย่างเลือกเฟ้น ไม่ได้สนใจแม้ว่าผมจะเลือกนั่งลงอีกฝั่งเคียงข้างพี่ปูน พนักงานแจกเมนูให้ทันทีเมื่อปรับท่านั่งกันเรียบร้อย ยังดีที่ร้านนี้ไม่ใช่พวกร้านอาหารฝรั่งจ๋าแบบที่เมนูทุกตัวอักษรเป็นภาษาฝรั่งเศสปนอังกฤษ ผมค่อยโล่งอกที่ไม่ต้องรีดเค้นความรู้ทางด้านภาษาเพื่ออาหารหนึ่งมื้อ

แม่สั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย แต่ผมยังนั่งงมอยู่เหมือนคนไม่รู้ว่าชีวิตกำลังต้องการอะไร คุณดาหลาทำเพียงอมยิ้มนั่งมองความลำบากใจของลูกชายตัวเองเงียบๆ แต่ยังดีที่พี่ปูนไม่ทิ้งผมไว้กลางทาง เมื่อได้รับความช่วยว่าจะเป็นผู้สั่งอาหารให้เอง ผมก็พยักหน้าแบบโล่งอกพร้อมกับปิดเมนูเล่มโตส่งคืนพนักงานทันที พี่ปูนก็สั่งรัวเร็วแบบเดียวกันมาทั้งสองชุด และเมื่อพนักงานรับออร์เดอร์เดินออกไป ทั้งห้องก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที

“เอ่อ...ไหนว่าจะพาไปกินสุกี้ไง”  ผมหาเรื่องคุยทำลายความเงียบ 

“ก็แม่อยากกินสเต็กขึ้นมาแล้วนี่”  คนสวยบุ้ยหน้าใส่ผมก่อนจะหันไปมองพี่ปูนพร้อมรอยยิ้มหวาน  “คุณปูนชอบทานอาหารประเภทไหนจ๊ะ?”

“ผมทานได้ทุกประเภทครับ แต่ที่ชอบที่สุดก็คงเป็นอาหารบ้านๆ ที่ทำกินกันเองมากกว่า”  พี่ปูนก็ยิ้มหวานตอบกลับไป

“อุ๊ย แสดงว่าคุณปูนทำอาหารอร่อยแน่เลย”

“หึหึ ไม่หรอกครับ ผมทำไม่เป็นเลยมากกว่า”  หลังจากเสียงตอบทุ้มต่ำแสนสุภาพแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาก็หันมามองผมพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนมากุมมือผมที่ใต้โต๊ะ ดวงตาคมส่งแววหยาดเยิ้มไม่ปิดบังจนผมอดหน้าร้อนนิดๆ ไม่ได้ เมื่อเห็นว่าทำหน้าผมไหม้สมใจแล้วถึงได้หันกลับไปมองหน้าคุยกับคุณดาหลาต่อ  “ผมชอบเวลามีคนทำให้ครับ ที่จริงผมก็กำลังรอคำเชิญจากคุณน้าที่ว่าจะให้ไปชิมฝีมือของลุงอยู่”

เมียผมก็คนจริง เล่นเอาคุณดาหลาอึ้งไปพักใหญ่เลยเชียวล่ะ

“ถ้าคุณปูนยอมปล่อยให้ลูกชายน้ากลับบ้านบ้าง ก็คงจะได้เชิญมาเร็วๆ นี้หรอก”  วาจาเนิบนาบแถมยังกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใสที่แฝงไปด้วยคำตำหนิเล็กๆ พี่ปูนที่คล้ายจะรู้ความผิดจึงก้มหัวเล็กน้อยคล้ายขออภัย อย่างน้อยในฐานะแฟนที่ดี ผมก็ควรจะพูดออกหน้าแก้ตัวให้คนรักบ้าง แต่ใครจะไปรู้ว่ายิ่งเหมือนเพิ่มเชื้อไฟให้ปะทุเข้าไปอีก

“อย่าว่าพี่ปูนเลยแม่ ลุงเต็มใจอยู่ดูแลพี่เขาเอง ลุงบอกแม่แล้วไงว่าพี่เขาอยู่คนเดียว”

“แหมๆ แม่ชักอยากรู้แล้วสิว่าคบกันมานานขนาดไหนแล้ว ถึงได้ออกรับแทนกันขนาดนี้”

พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหารทานเล่นที่แม่สั่งไว้ นับว่าช่วยผมที่กำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกได้พอดู จนพนักงานกระพือขนตาให้เมียผมจนสาแก่ใจและออกไป ของว่างบนโต๊ะก็น่ากินแต่ยังไม่มีใครเริ่มแตะ ภายใต้โต๊ะบนหน้าตักของผม พี่ปูนกุมมือผมแน่น ผมเองก็บีบมือตอบอย่างส่งผ่านกำลังใจ

“ผมต้องขอโทษคุณน้าด้วยนะครับในสิ่งที่ทำให้คุณน้าไม่พอใจ”  พี่ปูนกล่าวเสียงจริงจัง  “ลุงเป็นเด็กว่าง่าย ใจอ่อนอยู่แล้ว เพราะผมโน้มน้าวลุงถึงได้ยอมค้างเป็นเพื่อน อย่าโทษลุงเลยนะครับ”

คุณดาหลาเผยรอยยิ้มบางๆ พลางยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเล็กน้อย  “...ว่าต่อสิจ๊ะ”

“...ผมแอบชอบลุงมานานแล้วครับ”

หืม!!!?

ผมหันขวับไปมองคนข้างๆ พี่ปูนดูเอียงอายไม่ยอมสบตาผมซ้ำยังหูแดงคอแดงเถือก ...เรื่องจริงหรือนี่! ผมก็เข้าใจนะว่าถ้าพี่ไม่อยากเป็นเมียผมพี่คงไม่ลักหลับผม แต่นี่ถึงขั้นแอบชอบมานาน

โอย~ เมียผมน่ารักจังวุ้ย!

“หวังว่าคุณน้าจะเมตตา รับผมไว้เป็นลูกชายอีกสักคน”

พี่ปูนเอ่ยหนักแน่น หัวใจผมงี้เต้นตุบตับคล้ายจะตกหลุมรักเมียตัวเองยังไงก็ไม่รู้ ผมต้องต่อสู้กับความรู้สึกอยากโน้มคอพี่ปูนลงมาฟัดแก้มให้สาใจด้วยการบีบมือใหญ่ข้างที่กุมกันไว้ให้แน่นขึ้น พี่ปูนเป็นคนแรกในบรรดาแฟนทั้งหลายของผมที่เอ่ยจริงจังว่าชอบผมต่อหน้าแม่

ท่ามกลางบรรยากาศสีชมพูที่พวกเราสร้างขึ้นกันเงียบๆ คุณดาหลาวางแก้วไวน์ขาวลงเบาๆ เริ่มหยิบส้อมขึ้นมาตักอะไรสักอย่างที่น่าจะเป็นสลัดมะเขือเทศกับแฮมสดเข้าปากด้วยรอยยิ้มที่แตะแต้มอยู่ตลอด

"แต่น้าออกจะแน่ใจว่าลูกชายตัวเองไม่ชอบผู้ชาย"

"เราคบกันด้วยวิธีที่ไม่ปกติสักเท่าไหร่ครับ"  พี่ปูนตอบกลับทันควัน ไม่มีอ้ำอึ้งคิดนานให้เสียเวลา

"เรื่องชักน่าตื่นเต้นแล้วสิ"  คุณดาหลาหัวเราะเบาๆ  "เล่าให้น้าฟังหน่อยได้มั้ย?"

"คือว่า --" 

ก่อนที่อะไรจะหลุดออกไปจากปากพี่ปูน ผมก็ใช้ฝ่ามือข้างที่ว่างและออกจะเค็มนิดๆ ของตัวเองตะครุบเอาไว้ได้ทัน เอาจริงใช่มั้ย? ผมเขม่นสายตาห้ามปรามพี่ปูนเป็นการใหญ่ พี่คงไม่คิดจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดหรอกนะว่าเพราะพี่อยากเป็นเมียผม ถึงได้ลักหลับผมที่กำลังเมา ไม่ได้นะ! ไม่ได้!! ขืนพูดออกไปแบบนั้นแม่จะมองลูกสะใภ้อย่างพี่ยังไง

"ลุงเมาแล้วปล้ำพี่ปูนน่ะแม่"  ผมโพล่งออกไปโดยไม่ทันไตร่ตรองให้ดี ไม่ใช่แค่แม่เท่านั้นที่ตกใจจนเสียอาการมือไม้อ่อนส้อมร่วงลงบนจานเสียงดัง แม้แต่คนข้างๆ ผมยังหันขวับมามองด้วยดวงตากึ่งโมโหกึ่งสับสน แต่ทั้งคู่ร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

"ห๊า!! /อะไรนะ!!"

เสียงสามัคคีดังลั่นจนบริกรที่เดินเข้ามาเพื่อเสิร์ฟอาหารถึงกับสะดุ้งโหยง ผมสะกิดพี่ปูนให้ควบคุมอาการพลางส่งสายตาเป็นนัยให้คุณดาหลาสงบสติอารมณ์ หากเมื่อบริกรเดินออกไป คนทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่อารมณ์เดิมแต่ต่างกันตรงที่แม่นั้นมองพี่ปูนด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ส่วนพี่ปูนก็กำลังถลึงตาใส่ผมเหมือนเสือพร้อมตะครุบเหยื่อ

"น้าขอโทษนะคุณปูน"  คุณดาหลาเอ่ยด้วยความสงสารสุดซึ้ง ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยคำขออภัย  "น้าไม่คิดเลยว่าลุงจะกลายเป็นคนแบบนี้"

"ไม่ใช่นะครับ!"  พี่ปูนหันขวับไปแก้ตัวกับแม่ วินาทีต่อมาก็หันมาประจันหน้าผม ตางี้ดุประหนึ่งร็อตไวเลอร์  "ไหนว่าลุงเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วไง!"

"ก็เข้าใจแล้ว"  ผมตอบกลับเสียงเบาๆ หันไปส่งยิ้มให้คุณดาหลาที่กำลังตีคิ้วขมวดด้วยความสงสัยก่อนจะโน้มคอพี่ปูนเข้ามาแล้วหอมแก้มแรงๆ พร้อมกับกระซิบความจริงอย่างรวดเร็ว  "ตามน้ำกับผมไปก่อนนะ"

"หมายความว่ายังไงกันแน่"  คุณพยาบาลสาวผู้ปราดเปรื่องตามล่าหาความจริงทันที  "อ้อ!....ใช่แล้ว ที่แม่ได้ยินนั่นอีกล่ะ ลุงจะอธิบายยังไง"

น้ำท่วมปากขึ้นมาทันที ผมควรจะอธิบายกับแม่ว่ายังไงดีหว่าในเรื่องนั้น เป็นวิธีการผลัดกันสร้างความแฮปปี้งั้นเหรอ? แต่ผมยังไม่เคยได้จกตูดพี่ปูนเลยนะ หรือจะอ้างว่าเป็นเส้นทางสายเฉพาะที่แม่ไม่มีวันเข้าใจ บ้าชะมัด! ผมเผลอพูดเสียงดังด้วยความโมโหแท้ๆ เชียว นอกจากแม่จะได้ยินชัดเจนแล้วผมว่าเสียงมันต้องดังไปถึงหูพี่เปี๊ยกแน่นอน หมดกันคราวนี้...ผมไม่เหลือสภาพลูกผู้ชายสายรุกไว้ให้เชิดหน้าชูตาแล้ว

“ลุงได้ยินที่แม่ถามมั้ย”  เสียงคุณดาหลาไม่ส่อแววนิ่มนวลอีกต่อไป ดังเช่นชื่อเล่นผมที่ไม่เรียกนำหน้าว่า ‘คุณ’ อีกแล้ว

“สรุปก็คือลุงปล้ำพี่ปูน เราเป็นแฟนกัน แม่ได้ลูกสะใภ้แล้ว -- ยินดีด้วยครับ”

“พัทลุง!!”  พี่ปูนตวาดเสียงก้อง ตอนนี้ดวงตาคมเข้มนั่นเหมือนถูกแผดเผาด้วยเปลวไฟ เส้นเลือดปูดโปนข้างขมับชัดเจน พี่ปูนกำลังโมโหสุดๆ แบบที่ว่าถ้าไม่มีบุคคลที่สามอยู่ด้วย ผมต้องถูกบ้องกะโหลกด้วยมือแกร่งปานเหล็กกล้าเป็นแน่

“โอ๋ๆ ที่รักใจเย็นๆ นะ ลุงบอกพี่แล้วว่าแม่รับเรื่องของเราได้”  ผมปล่อยให้แม่นั่งเอ๋อไปก่อน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปลอบโยนเมียขี้อาย ผมลูบหลังลูบไหล่เอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน ตาก็เหลือบมองมือใหญ่ที่กำแน่นบนหน้าตักไปด้วยเพื่อหาทางหนีทีไล่  “ลุงหิวแล้วล่ะ กินให้อิ่มก่อนเนอะแล้วค่อยคุยกัน”

ไม่มีใครส่งเสียงเห็นด้วยออกมาแต่ผมก็ถือว่าความเงียบคือการตกลง ผมหวังว่าท่าทีกระตือรือร้นจนออกหน้าออกตากับอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าจะช่วยให้คนทั้งสองปล่อยผ่านผมไปชั่วคราว และก็ดูจะเป็นอย่างนั้นเพราะแม่เลือกตั้งคำถามกับพี่ปูนเป็นระยะ

“ครอบครัวคุณปูนทราบหรือเปล่าคะที่คบกับลุงน่ะ”

“ผมตัวคนเดียวครับ”  พี่ปูนตอบกลับเรียบๆ สั้นกระชับและไม่คิดอธิบายความต่อแม้ว่าจะได้รับสายตาจากเราสองแม่ลูก ผมเพิ่งจะรู้วันนี้แหละว่าพ่อแม่ของพี่ปูนเสียชีวิตแล้ว

“น้าขอเสียมารยาทถามนะจ๊ะ...แล้วญาติพี่น้องล่ะคะ?”  ผมว่าแม่คงอยากรู้จริงๆ เพราะปกติแล้วแม่ไม่ใช่คนช่างซักไซ้เท่าไหร่นักในเรื่องส่วนตัว

“ไม่มีครับ” 

เสียงตอบกลับก็ดูนุ่มนวลอยู่หรอก แต่จู่ๆ บรรยากาศจากตัวพี่ปูนก็เย็นเยียบขึ้นมา แม้แต่รอยยิ้มที่เจืออยู่ก็หายวับไป ไม่ต้องประกาศออกปากก็พอจะเดาได้เลยว่านี่คือหัวข้อที่คนนอกห้ามแตะ คุณดาหลาแกรู้สึกผิดถึงขนาดเตะขาผมเบาๆ ใต้โต๊ะเพื่อให้ช่วยกอบกู้สถานการณ์

“ไว้ลุงจะทำบาบีคิวให้กินนะ น่าตาอาจจะไม่ดีแต่เนื้อหมักอร่อยเด็ดสุดๆ” 

“สวนบ้านน้าบรรยากาศดีมาก ตั้งเตาปิ้งกันไปจิบเบียร์ไปด้วย คุณปูนต้องชอบแน่” 

หมดกันแม่ผม...ตอนแรกก็มาทำเข้มใส่เขา ตอนนี้ต้องกลายมาออกปากชวนเขาให้ไปบ้านเสียเอง

“ผมจะตั้งตารอครับ”  รอยยิ้มพี่ปูนกลับมาแล้วแม้จะเหมือนการแสร้งทำเสียมากกว่าก็เถอะ  “ถ้าให้ผมเดา ลุงคงทำอาหารเก่งเหมือนคุณน้า”

“ใครว่าล่ะจ๊ะ”  คุณดาหลาคลี่ยิ้มสบายใจได้เล็กน้อยเมื่อการสนทนาเดินหน้าต่อไปได้  “คุณลุงน่ะได้พ่อเขามาเต็มๆ ทำอาหาร ทำความสะอาด งานบ้านไม่มีบกพร่อง ขาดคุณลุงไปสักคนน้ากับคุณป้าถึงกับลำบากเลยล่ะ”

“ลุงไม่ใช่คนใช้นะแม่”  ผมล่ะเซ็งจริงๆ

“ผมเองก็ไม่ถนัดเรื่องพวกนี้เหมือนกันครับ เรียกว่าไม่ชอบเลยน่าจะถูกกว่า”

“น้าก็เหมือนกัน แค่ทำงานก็เหนื่อยจะแย่แล้วถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะแตะเลย”

บรรดาคุณหญิงคุณชายเขาคุยกันครับ ขี้ข้าอย่างผมก็นั่งฟังแบบช้ำใจไป คงต้องโทษที่พ่อสอนผมมาดีเกินไป ไม่ว่าจะไปอยู่กับใครที่ไหนก็เลยไม่พ้นเป็นข้ารับใช้เขา มีแม่กับพี่อย่างนั้น แถมยังได้แฟนอย่างนี้อีก ชีวิตยิ่งกว่าดาวพระศุกร์อีกมั้งตัวผมเนี่ย

“บอกตรงๆ นะครับว่าตอนนี้ผมก็ยังทึ่งไม่หาย ถ้าลุงไม่บอกว่าคุณน้าคือแม่ ผมก็หลงคิดไปว่าต้องเป็นพี่สาวแน่นอน”  มาถึงช่วงพิธีกรรมล่าสาวแก่แม่หม้ายที่พี่ปูนถนัดซะที ต่อให้เป็นคนได้รับคำอวยมาตลอดชีวิตอย่างคุณดาหลามันก็ต้องมีระทวยกันบ้างแหละ ยิ่งหมดเงินไปกับเครื่องประทินโฉมและการเข้าคอร์สดูแลผิวมากเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะได้คำชมเท่านั้น

“คิกๆ คุณปูนก็พูดเกินไปค่ะ น้าเนี่ยสี่สิบกว่าแล้วนะจ๊ะ”  ถ้าคุณดาหลาเป็นปลาทูน่า พี่ปูนก็เหวี่ยงแหตกสำเร็จแล้วล่ะครับ 

“ผมพูดจริงๆ นะครับ คุณน้ายังดูเหมือนอายุสามสิบต้นๆ อยู่เลย หมายความว่าต้องมีของดีแน่ๆ”

“คิกๆ พูดอะไรอย่างนั้นจ๊ะ เนี่ย~ ไม่ค่อยได้ใช้อะไรเท่าไหร่เลยนะ น้าแค่คิดแต่เรื่องดีดี ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระ ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เองแหละจ้ะ”

ไปแล้วแม่ผม...

ได้ข่าวว่าสวดมนต์แค่วันพระ กิจกรรมโปรดคือซุบซิบข่าวสารกับลูกสาวแล้วก็จูงมือกันลงคอร์สเสริมความงามคนละเป็นหมื่น ครีมบำรุงวางเต็มโต๊ะเครื่องแป้ง นี่หรือคือการที่บอกว่า ‘ไม่ค่อยได้ใช้อะไรเท่าไหร่’

“ว่าแต่คุณปูนเองก็ดูแลตัวเองดีมากเลยนะคะ ผิวหน้าดีจังเลยจ้ะ เนียนกริ๊บเลย โบกรองพื้นมารึเปล่าจ๊ะเนี่ย”

“ผมไม่แต่งหน้าหรอกครับ แค่ทาครีมธรรมดาเท่านั้นเอง”

นี่ก็อีกคน...

ไอ้เรื่องไม่แต่งหน้าก็เห็นจะจริง แต่กว่าจะนอนกว่าจะประทินผิวเสร็จก็เล่นเอาคนรอหาวแล้วหาวอีก กระปุกครีมอาจจะเยอะไม่เท่าสาวๆ ที่บ้านผม แต่ก็มากจนผมสงสัยว่าผู้ชายจำเป็นต้องบำรุงขนาดนี้ด้วยหรือ

“เป็นของอะไรจ๊ะเนี่ย ถ้าจะดีมากๆ”

“ของจากฝรั่งเศสน่ะครับ คนรู้จักผมอาศัยอยู่ที่โน่นก็เลยฝากซื้อง่าย ไว้ผมจะเอามาฝากให้คุณน้าลองใช้ดูนะครับ มันช่วยปรับสภาพผิวหน้าแถมยังลบเลือนริ้วรอยได้ดีอีกต่างหาก ตัวผมเนี่ยทำงานมาตั้งแต่เด็ก ริ้วรอยความเครียดมันก็เลยเกิดขึ้นเร็ว แต่คุณน้าดูสิครับ...”  ว่าแล้วเมียผมก็ยื่นหน้าไปให้คุณดาหลาที่ชะโงกหน้าเข้ามามองอย่างสนใจ  “ไม่มีเลยใช่มั้ยล่ะครับ”

“ต๊าย~ จริงด้วยจ้ะ ยิ่งมองใกล้ๆ หน้ายิ่งเนียน”  สีหน้าคุณดาหลาตอนนี้เหมือนโดนครอบงำจากเซลล์ขายเครื่องสำอางไปแล้วเรียบร้อย  “ถ้าคุณปูนสั่งเข้ามาอีกน้าฝากซื้อสักสองกระปุกนะจ๊ะ”

“ไม่มีปัญหาเลยครับ” 

ปิดการขาย... นี่ถ้าพี่ปูนเป็นพวกขายตรง คงได้มงกุฎเพชรเพราะแม่ผมเนี่ยแหละ

“คุณลุงควรดูแลหน้าตาแบบพี่เขาบ้างนะ เราน่ะอะไรก็ไม่ใช้ซื้ออะไรให้ก็ไม่เอา”  แล้วคุณดาหลาก็ตวัดสายตากลับมาแขวะผมจนได้ ผมก็คร้านจะตอบโต้เลยแสร้งพยักหนารับพลางจิ้มเนื้อไก่เข้าปากไปเรื่อย

“ผมสั่งซื้อเซ็ตที่เหมาะกับสภาพผิวของลุงไว้แล้วล่ะครับ จ้ำจี้จ้ำไชกันหน่อยน่าจะชินไปเอง”  เมียผมก็รีบโปรยความมั่นใจให้กับแม่ผัวทันที  “ถึงจะดูผิวบางแพ้ง่าย แต่ลุงผิวหน้าดีอยู่แล้ว แสดงว่าต้องได้มาจากคุณน้าแน่นอนเลยครับ”
“คิกๆ น้าก็ว่าอย่างนั้นล่ะจ้ะ”

เหอะ เหอะ ...ผมล่ะนึกความเข้มของคุณดาหลาก่อนหน้านี้ไม่ออกแล้ว     

 มื้ออาหารผ่านไปแบบรื่นเริง ของหวานถูกสั่งเข้ามาและทานกันอย่างเอร็ดอร่อย แม่กับพี่ปูนนั่งจิบกาแฟคุยกันกระหนุงกระหนิง ส่วนผมก็นั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆ เพียงลำพังตามประสาคนวงนอกที่ไม่ได้สนใจสภาพหนังหน้าตัวเองเท่าไหร่ มาถึงตอนนี้ผมก็พอเดาได้เลยว่า พี่ปูนต้องเป็นพวกเดินช้อปปิ้งในห้างได้เป็นชั่วโมงๆ เข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ได้ทั้งวี่ทั้งวันเหมือนสองสาวที่บ้านผมแน่นอน

“ขอบคุณคุณน้านะครับที่ไม่รังเกียจผม”  แล้วพี่ปูนก็วกเข้าเรื่องที่สำคัญกว่า สีหน้าดูจริงจังขึ้นมาอีกนิด รอยยิ้มก็จริงจังขึ้นมาอีกหน่อย 

“นี่มันยุคสมัยที่เรื่องเพศไม่ได้ถูกจำกัดแค่ผู้หญิงกับผู้ชายแล้วนี่จ๊ะ”  คุณดาหลาถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางหันไปยิ้มให้พี่ปูนอย่างอ่อนโยนดุจนางฟ้า  “ไม่ว่าจะสถานะไหนก็ตามแต่ ถ้าลูกชายน้าเลือกใคร น้าก็พร้อมจะรับคนนั้นเป็นลูกอีกคนอย่างไม่มีข้อแม้ น้าเชื่อว่าคุณลุงจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”

“ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุดก็ได้ครับ”  พี่ปูนยิ้มขื่น

“แต่ก็คงไม่ถึงกับไม่เหลือดีล่ะมั้งจ๊ะ”

พี่ปูนบีบมือผมแน่นขณะก้มหน้ารับด้วยรอยยิ้มเจือมุมปากกับคำหยอก  “ขอบคุณครับคุณน้า”

ผมว่าคุณดาหลาแกยอมตั้งครีมกระปุกแรกแล้วล่ะ

พี่ปูนหันมายิ้มกับผม และอาศัยจังหวะที่แม่ก้มหน้าดูข้อความที่เข้ามาในมือถือก็โน้มใบหน้าเข้าหาผม ริมฝีปากแตะข้างแก้มรวดเร็วพร้อมกับกระซิบเบาเบาๆ  “เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอยู่นะ”

“ครับๆ”  ผมรับคำส่งๆ และยอมนั่งเงียบมองการสนทนาระหว่างแม่กับเมียที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยปล่อยให้มือข้างหนึ่งนั้นถูกพี่ปูนกุมเอาไว้ด้านล่าง เรียวนิ้วเกาะเกี่ยวพัวพันกันไปมา หยอกล้อกันเงียบๆ แบบที่ไม่มีใครสามารถมองเห็น ผมเท้าคางฟังเรื่องต่างๆ ที่ไม่ค่อยจะเข้าใจนัก หากมันไม่น่าเบื่อเลยสักนิด

เสร็จสิ้นมื้ออาหารโดยการที่พี่ปูนทำการจ่ายค่าอาหารทั้งหมดแบบเสี่ยล่ำซำ ผมคร้านจะขัดข้องอะไร ส่วนคุณดาหลาที่แม้จะรับน้ำใจเอาไว้ แต่ก็ออกปากชวนพี่ปูนไปทานข้าวที่บ้านอีกครั้งพร้อมกับนัดหมายกำหนดการคร่าวๆ แถมตลอดทางเดินไปขึ้นรถยังคุยไปหัวเราะไปไม่หยุด ดูท่าจะถูกใจลูกสะใภ้คนนี้น่าดู มีการนัดแนะไปช้อปปิ้งกันนอกรอบด้วย ใช่สิ! ผมมันเป็นลูกชายที่ไม่รู้เรื่องเครื่องสำอางอะไรเลยนี่

“ถ้าคุณน้าไม่ว่าอะไรผมขอไปส่งลุงที่บ้านเองได้มั้ยครับ? พอดีว่าผมมีเรื่องต้องปรึกษากับลุงเล็กน้อย”

ถ้อยคำนอบน้อมหวานหูที่พี่ปูนเอ่ยออกมาไม่มีทางที่แม่ผมจะปฏิเสธแน่ และก็ตามนั้นคุณดาหลาเธอยิ้มรับแล้วบอกลาลูกสะใภ้คนใหม่ เดินเฉิดฉายไปขึ้นรถอย่างอารมณ์ดีผิดกับขามา


v
v
v
[มีต่อจ้า]

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
[ต่อค่ะ]


ผมกับพี่ปูนยืนมองรถของแม่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากที่จอด ต่อเมื่อลับสายตาไปแล้วพี่ปูนก็จับมือผมกึ่งลากกึ่งจูงไปที่รถทันที เมื่อต่างฝ่ายต่างขึ้นมานั่งประจำที่อยู่ภายในห้องโดยสาร บรรยากาศมันก็ชักจะอึดอัดพิกล ผมเหล่ตามองพี่ปูนไปพลางขยับทิศทางของก้นให้นั่งอย่างสบาย

“พี่จะคุยอะไรกับผมเหรอ?”  ผมชิงเปิดประเด็นก่อน เมื่อพี่ปูนหันมาก็รีบฉีกยิ้มเอาใจ แต่อีกฝ่ายกลับมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาเพื่อนับตัวเลือก

“จะเอากันที่ไหนเลือกมา”  เอ๊ะ! เอ๊!?? ขณะที่ผมยังทำหน้าหมางงอยู่พี่ปูนก็รีบบอกตัวเลือกทันที  “หนึ่ง ที่ห้อง สอง ที่โรงแรม สาม ในรถ”

“คุยกันรึเปล่าพี่ มาองมาเอาอะไร”  เมื่อเช้าก็เพิ่งเอาไป บ้าจริง~ ผมได้แต่ขมุบขมิบปากตามหลัง

“พี่ก็คุยด้วยไง”  ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอ้พี่ปูนก็ขยุ้มหัวผมกระชากเข้าไปหาปากมันแรงๆ ดูดจ๊วบจ๊าบแถมยังกัดริมฝีปากผมจนเจ่อ ดีนะเลือดไม่ออก แต่แทนที่จะปล่อยให้ผมโมโหบ้าง ไอ้บ้าก็ตีหน้าขรึมออกรถทันควันพร้อมกับหันมาทิ้งท้ายเสียงเข้ม  “เลือกมาเลยนะ ไม่งั้นพี่จะเลือกเอง”

“ไม่เอาสักที่อะ! ถ้าอยากคุยก็คุยมันที่นี่แหละ”  ผมใช้การกระแทกเสียงเข้าสู้

“ถ้าลุงจะเข้าใจง่ายๆ เรื่องก็คงจบไปแล้ว คิดแล้วก็หมั่นเขี้ยวอยากฟัดแม่งสักที ทำไมถึงได้มโนเก่งอย่างนี้วะ”  พี่ปูนเหวี่ยงกลับเสียงเข่นเขี้ยว เสี้ยววินาทีที่หันมามองผมนั้นมันเหมือนกับพวกฆาตกรโรคจิตเลย ผมงี้ใจหายวาบรีบมองออกไปยังสองข้างทางทันทีว่าเป็นเส้นทางเปลี่ยวร้างผู้คนหรือไม่

“ก่อนหน้านี้ผมยังโมโหพี่อยู่นะ”  ตาก็มองหาทางหนีทีไล่ไป ปากก็อดโต้ตอบไม่ได้  “พี่หลอกผม!”

“เออ! บอกมาให้พี่ฟังชัดๆ ไปเลยว่าพี่หลอกลุงเรื่องอะไร!”

“ได้!!”  อารมณ์ขึ้นแล้วโว้ย~  “พี่หลอกว่าผมเมาแล้วปล้ำพี่ แต่ที่จริงพี่ต่างหากที่หลอกปล้ำผม! ทำไมวะ อยากเป็นเมียผมก็บอกกันดีๆ เดะ! แล้วยังมาหลอกให้ผมรับผิดชอบอีก”

“เมีย!! พี่น่ะเหรออยากเป็นเมียลุง!!”  พี่ปูนแม่งตะโกนลั่นรถ

“ก็เออน่ะเซ่!! ไม่งั้นจะสร้างเรื่องแบบนั้นทำไม”  ผมก็เถียงกลับคอเป็นเอ็นตะเบ็งเสียงให้เทียบเท่ากัน

ไม่เคยเลยสักครั้งที่ผมจะขึ้นเสียงใส่แฟนตัวเอง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำให้ผมไม่พอใจแค่ไหน เพราะว่าเป็นผู้ชายด้วยกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงได้ทำให้ผมปลดปล่อยแบบนี้ ถามว่าโมโหมากมั้ย ก็คงตอบได้ว่าไม่เท่าไหร่ แต่มันหงุดหงิดตรงที่อีกฝ่ายปากกับใจไม่ตรงกัน กลับดำเป็นขาว ให้ร้ายว่าเรื่องเกิดเพราะความมโนของผม คนแบบนี้ก็มีด้วยรึไง!

“ได้...”  พี่ปูนแค่นเสียงรอดไรฟัน ผมยังนั่งหน้าตึงไม่หันไปดูสีหน้าคนพูด  “ได้เลยพัทลุง...”

   พี่ปูนเร่งเครื่องยนต์มากขึ้น ขับปาดซ้ายป่ายขวาให้คนด่าบุพการีไล่หลัง ไอ้ผมก็หงุดหงิดอยู่หรอกแต่ควรเงียบปากกับโชเฟอร์ที่กำลังโมโหอยู่

“วันนี้ให้มันรู้กัน! กูจะฟัดให้ช้ำไปเลย..”  ประโยคหลังมันพึมพำรอดไรฟันออกมาแต่ห้องโดยสารมันเงียบไง ผมก็เลยได้ยินชัดเจนเหมือนมากระซิบที่ข้างหู

“ฟัดอะไร! พูดให้เคลียร์นะพี่ปูน”

ไร้ซึ่งคำตอบ พี่ปูนหันมามองผมด้วยรอยยิ้มเหี้ยม หัวเราะหึๆ อย่างโฉดชั่วขณะขับรถไปตามถนนซอกซอยด้วยความเร็วเท่าที่จะฝ่าไปได้

ผมนั่งไปด้วยใจหวั่น มือกุมสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น โมโหก็โมโห กลัวก็กลัว เดี๋ยวนี้คนทะเลาะกันแล้วขาดสติทำเรื่องไม่ดีเยอะแยะ ใจผมนี่คิดถึงแม่เลย แม่จะรู้มั้ยว่าใครฆ่าผม จะรู้รึเปล่าว่ามันไปหมกศพผมไว้ที่ตรงไหน ขณะที่รถขับเคลื่อนไป หัวผมก็กำลังดีไซน์ว่าจะไปเข้าฝันแม่แบบไหนดี 

แต่อย่างน้อยพี่ปูนก็ไม่ได้ขับพามาตามข้างทางรกร้าง ร้านอาหาร ร้านเหล้าริมถนนเริ่มเปิดไฟสว่าง ผมพยายามมองโลกในแง่ดีว่าพี่ปูนอาจจะพามาเคลียร์ที่ร้านเหล้าสักร้าน แต่เมื่อขับตรงไปเรื่อยๆ สองข้างทางก็พลุกพล่านน้อยลง แล้วในที่สุดผมก็ต้องโยนวิถีการมองโลกแบบเด็กๆ นั้นทิ้งไป เมื่อพี่ปูนหักรถเลี้ยวขวับเข้า...ม่านรูด...

Love Hotel บรรยากาศดี ที่จอดรถมิดชิดเพราะยังคงเอกลักษณ์ม่านหนาทึบไว้ได้อย่างน่ากลัว ผมหันมองคนข้างๆ ตาโต ไม่ใช่ว่าไม่เคยเข้า แต่ไม่คิดว่าพี่ปูนจะพามาคุยกันที่แบบนี้ต่างหาก มันไม่ใช่สถานที่นัดมาเพื่อการประชุมหารือสิ่งใด ผมแทบจะซุกหน้าลงกับตักเมื่อพี่ปูนลดกระจกเพื่อสอบถาม พนักงานก็ทำงานว่องไวเปิดม่านโบกรถให้เข้าไปทันที

พี่ปูนไม่พูดอะไรสักคำเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วลงไปจ่ายเงินกับพนักงานที่รีบเดินตามเข้ามา ผมยังนั่งนิ่งชั่งใจอยู่ว่าจะเปิดประตูรถวิ่งหนีดีมั้ย? พี่ปูนรู้ได้ไงว่าตรงนี้มีม่านรูด? แล้วทำไมไม่ไปหาที่คุยกันดีกว่านี้วะ? มีแต่คำว่าทำไมๆ เต็มหัว และขณะกำลังจะด่าตัวเองว่าทำไมไม่ขัดขืนเสียตั้งแต่แรกประตูรถก็ถูกเปิดออก ผมจ้องตอบพี่ปูนเขม็งไม่ยอมลงจากรถง่ายๆ

"พามาทำบ้าอะไรที่นี่!"

"ลงมา"  พี่ปูนชักเสียงเข้มใส่ รอผมยังไม่ถึงสองวินาทีดีความอดทนก็หมด พี่ปูนโน้มตัวเข้ามาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวผมแบบไร้ความปรานี แล้วมันก็ใช้พละกำลังช้อนตูดผมลอยออกมาจากเบาะ ต่อให้ไม่ยินยอมก็เถอะแต่สองมือผมก็รวบคอมันไว้แน่น ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็หมุนตัวก้าวเดินฉับฉับตรงเข้าประตูไปทันที

แม่ง~ ผมกรี๊ดได้มั้ยวะ!!

เสียงประตูปิดตามหลังด้วยการสะกิดจากปลายเท้า ผมมองรอบห้องที่ตกแต่งได้อย่างอีโรติก กระจกบานใหญ่ติดข้างกำแพง แบบที่ไม่ว่าคนบนเตียงทรงกลมตรงหน้าจะแหวกลีลาไปที่มุมใดก็สามารถเห็นได้หมด ไฟสลัวกับผนังสีโอลด์โรสดูละมุนมาก ไม่ไกลจากเตียงมีโซฟารูปทรงแปลกที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะนอนได้สบาย ผมก็พอรู้อยู่บ้างว่าเอาไว้เพื่อทำอะไรก็เลยรีบเสมองไปทางอื่นแทน

พี่ปูนเดินฉับๆ มาถึงเตียงนุ่มน่านอนสีขาวสะอาด จากนั้นก็ทำทีจะโยนผมลงไป แต่ด้วยความที่คิดเองออเองไม่ปรึกษากันก่อน ผมที่ปล่อยมือไม่ทันจึงเป็นการรั้งคนอุ้มให้ล้มลงมาด้วย พี่ปูนดูจะไม่ได้ตกใจเท่าไหร่ล้มมาท่าไหนก็นอนอยู่ท่านั้น ความซวยเลยตกมาสู่คนที่โดนทับอย่างผมแทน

“อึดอัด”  เสียงโอดครวญพอจะชอนไชเข้ารูหูอยู่บ้าง พี่ปูนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือไปถอดรองเท้าของตัวเองและของผมแบบไม่รีบร้องให้คนมองอย่างผมใจเต้นด้วยความกังวล เสร็จแล้วมันก็หันกลับมาถ่างขาผมจนกางเกงแทบปริแล้วแทรกตัวเข้ามาล้มทับดังเดิม  “ลุกออกไปโว้ย! ไหนว่าจะมาคุยกันไงเล่า”

“พี่บอกว่าคุยไปเอาไปต่างหาก”

“ไม่ใช่แล้ว! ก่อนมาไม่ได้พูดอย่างนี้”  ดิ้นสิครับจะรออะไร  “ไม่เอานะพี่ปูน คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

“พี่กลัวลุงหนี” 

“ถ้าหนีก็หนีไปนานแล้ว!”  โอ๊ย~ ทำไมถึงได้พูดยากพูดเย็นอย่างนี้วะ แล้วมือนั่น! มือมันเลื้อยไปใหญ่แล้ว  “เฮ้ยๆ ถอดเสื้อผมทำไม!”

“ถ้าโป๊ก็จะหนีไม่ได้ไง”

“จะบ้าเรอะไงพี่ปูน”  ผมได้แต่โวยเสียงหลงพยายามยักษ์งี่เง่าออกไป แต่แทนที่จะยอมถอดใจที่เปลื้องผ้าผมไม่สำเร็จ มันกลับลงน้ำหนักทับมาเต็มแรงแล้วจับหน้าผมมาจูบแทน ริมฝีปากเราบดเบียดจนแทบจะผสานเป็นเนื้อเดียว ริมฝีปากเจ็บจี๊ดคล้ายถูกฟันกระทบ ผมนิ่วหน้าเมื่อได้ลิ้มรสชาติของเลือดหากมันก็เจือจางหายไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการจงใจ แต่ความอ่อนโยนของพี่ปูนเกิดขึ้นหลังจากนั้น ทุกริมฝีปากที่แนบลงมานุ่มนวลมากขึ้นคล้ายจะขออภัย

“พี่จะทำยังไงดี”  พี่ปูนพึมพำกับตัวเอง ดวงตาคมสบมองผมมันเต็มไปด้วยความลังเลไม่แน่ใจ ผิดกับความกล้าที่ออกมาจากปากเมื่ออยู่ในรถ สมกับที่เป็นไบโพล่าจริงๆ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จนผมปีนกระไดตามไม่ทัน

“เริ่มจากนั่งคุยกันดีกว่ามั้ย”  ผมรีบเสนอ

“พี่อยากนอนคุยแบบนี้”  แต่ไม่โดนสนองซะงั้น...

ร่างหนาพลิกตัวออกเพื่อให้ผมหายใจหายคอได้โล่งสะดวก แต่ก็ยังทำน่ารักเอนหัวซบอกกวาดแขนป่ายขากอดไว้จนผมกระดิกกระเดี้ยตัวไม่ได้อยู่ดี ผมยอมทุกอย่างแหละถ้าจะไม่ต้องออกแรงฟัดกันบนเตียง ผมยังไม่พร้อมจริงๆ

“พี่...ชอบลุง”  พี่ปูนเอ่ยเสียงเบาหวิว หน้าอกผมทำหน้าที่เป็นเครื่องสะท้อนเสียงจนทำให้มันดังก้องอยู่ในหัว นึกขอบคุณพี่ปูนในใจที่ดึงดันจะนอนคุยกัน ทำให้ผมไม่ต้องอับอายกับสภาพหน้าตัวเอง มันต้องตลกแน่ๆ เพราะตอนนี้ผมปวดแก้มน่าดู

“เออ...จริงเหรอที่บอกแม่น่ะ”  ผมอ้อมแอ้มถามกลับ  “ชอบผมมานานแล้วจริงดิ”

“ดูไม่ออกเหรอ?”

ใครดูออกก็ประหลาดแล้วล่ะครับพี่! คุยกันดีๆ สักสามนาทียังลำบากเลย

“ทำไมล่ะ ผมคิดว่าเราเหมือนคู่กัดกันซะด้วยซ้ำ”  มานึกดูแล้วก็ไม่มีช่วงเวลาไหนที่น่าจะทำให้พี่ปูนประทับใจได้เลย เกิดมาก็ยังไม่เคยมีประวัติโดนแอบชอบมาก่อน หรือว่าเสน่ห์ของผมนั้นมาเบ่งบานเอาช่วงเวลานี้แล้วเกิดไปทิ่มตาผู้ชายคนนี้เข้า ไม่น่าใช่... สูงก็ไม่มาก น่าตาก็งั้นๆ จุดเด่นอะไรก็ไม่มี แต่ถ้าจะให้ประเมินผมว่าตัวเองก็ดีในระดับหนึ่งอยู่หรอก เพียงแต่บรรดาผู้หญิงก่อนหน้าไม่เปิดตามองผมให้ดีต่างหาก

“ลุงสว่างมาก สดใสมาก มากจนพี่รู้สึกว่าตัวเองมืดมน”  พี่ปูนเริ่มพูดต่อ คล้าไม่ได้ยินคำถามก่อนหน้า  “แต่ไม่ว่ายังไงพี่ก็ละสายตาจากลุงไม่ได้เลย พี่พยายามแล้วนะ...แต่มันทำได้ยากจริงๆ”

“..........”

“เขาบอกกันว่า ‘คนเรามักจะถูกดึงดูดจากคนที่ต่างจากตัวเอง’ นั่นแหละคือทั้งหมดที่เกิด พี่ไม่สนหรอกว่าระหว่างเราจะญาติดีกันหรือเปล่า เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นพี่ก็ไม่รู้จะเข้าใกล้ลุงยังไงดี พี่ไม่เคยต้องพยายามพาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตใครมานานแล้ว”

“.........”

“พี่ไม่ใช่คนดีอะไร แต่จนถึงตอนนี้ลุงยังชอบพี่อยู่ใช่มั้ย?”

“...อื้ม”  ตอบไปพร้อมความรู้สึกทะแม่งๆ ผมเพิ่งจะรับรู้ว่าโดน ’ชอบ’ ไปหยกๆ ตลอดมาก็ไม่เห็นจะเคยบอกกันมาก่อน พอมาฟังการบรรยายความรู้สึกแบบน้ำไหลไฟดับอย่างนี้มันเลยชักกังวลยังไงไม่รู้

“มากพอจะไม่ทำให้เราเลิกกันได้รึเปล่า?”

“เอ่อ...มันต้องดูที่เหตุและผลประกอบด้วยนะพี่”  ของอย่างนี้มันตัดสินแค่รักไม่รักได้เสียที่ไหนกัน ต่อให้รักแค่ไหนแต่ถ้าโดนนอกใจอีกผมก็ขอลาเหมือนกัน รึว่า!!!

“นี่พี่นอกใจผมอีกแล้วเหรอห๊ะ!”

“ไม่ใช่!!”

“แล้วที่สาธยายมาทั้งหมดเนี่ยเพื่ออะไร มันต้องมีเรื่องแน่อะพี่ปูน ไม่งั้นพี่จะมานั่งบรรยายว่าชอบผมอย่างงู้นอย่างงี้ทำไม!?”

“ปัดโธ่เอ๊ย! ทำไมถึงเป็นคนชอบหักอารมณ์คนอื่นอย่างนี้นะ”  เสียงพี่ปูนเหนื่อยหน่ายสุดแรง ร่างหนาขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะฉุดผมที่ตีหน้านิ่วคิ้วขมวดให้ลุกขึ้นตามบ้าง

“บอกมาตามตรงเลยนะ”

“เปล่า!”  เสียงหนักแน่นกระแทกหนักหน่วงจนน้ำลายกระเด็นโดนหน้า  “เปล่าๆๆ พี่ไม่เอาใครนอกจากลุง ไม่มีอีกแล้ว”

“ก็พี่เล่นพูดจาแปลกๆ ผมก็กังวลน่ะสิ”  ผมขมุบขมิบแก้ตัวพลางเช็ดหยดน้ำลายออกจากแก้ม  “อย่าตีหน้าเข้มดิ พี่พูดอะไรผมก็เชื่อทั้งนั้นแหละ ไม่มีก็ไม่มีสิ!”

“พี่ควรจะจับลุงปล้ำก่อนแล้วค่อยคุยกันจริงๆ”  พี่ปูนถอนหายใจเฮือกโต

“แข็งแรงจังเลยนะเมียจ๋า~ เมื่อวานก็ทำ เมื่อเช้าก็ทำ พักบ้างเถอะนะจ๊ะ”  อาจจะดูเหมือนคำเย้าแหย่ แต่ใครจะรู้บ้างว่ามันคือคำอ้อนวอนเล็กๆ ผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่มีแรงจะมาจุ๊กกรู้กับแฟนทุกวันหรอกนะ

“ลุง...”

“หืม?”

“เรื่องในคืนนั้น”  พี่ปูนไม่ขำไปกับผม สีหน้าหนุ่มหล่อเกือบจะเรียกว่าเคร่งเครียดได้  “ระหว่างเราไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากลุงเมาแล้วอ้วก กับถีบพี่ตกเตียงสองรอบ”

“..........”

“ลุงไม่ได้ปล้ำพี่แล้วพี่ก็ไม่ได้ลักหลับลุง พี่ไม่ได้เป็นเมียลุงและไม่เคยคิดที่จะเป็นด้วย”

   ผมมองพี่ปูนเพื่อหวังว่าในวินาทีต่อมาอีกฝ่ายจะอมยิ้มขันกับมุกตลกของตัวเอง แต่ไม่เลย... ใบหน้าพี่ปูนเต็มไปด้วยความเครียดและกังวล เหมือนจะยืนยันทุกคำพูดที่ออกมาจากปากว่าคือเรื่องจริง และตอกย้ำว่าตลอดเวลานั้นผม...ผมโง่เง่ากลายเป็นตัวตลกมานานแค่ไหน

“หมายความว่าไง...”  ในที่สุดผมก็หาเสียงตัวเองเจอ แต่แปลกที่มันแปลกแปร่งเสียจนไม่เหมือนเสียงตัวเอง

“ลุงเข้าใจผิดทั้งหมด และพี่ก็ใช้โอกาสนั้นเพื่อให้เราได้ใกล้ชิดกัน”

งั้นเหรอ...ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความคิดเพ้อเจ้อของผมสินะ

“มันอาจจะเป็นวิธีการที่ขี้ขลาดไปหน่อย แต่ว่าพี่--”

   ผัวะ!!

 การต่อยหน้าคนครั้งแรกทำให้กำปั้นของผมเจ็บแปร๊บน่าดู แต่พอมองซีกหน้าตกตะลึงของพี่ปูนที่หันไปตามแระปะทะแล้ว ความเจ็บมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกสาสมขึ้นมา แค่คิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คนที่ผมให้ใจ คนที่ผมชอบและเริ่มที่จะมีความรักด้วยนั้นหลอกลวงผมมาตลอดเวลา เพราะความเข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ? เพราะอยากจะใกล้ชิดกันงั้นเหรอ? นั่นรวมถึงการแอบหัวเราะกับความซื่อบื้อของผมด้วยรึเปล่า...

“...ลุง”  เสียงพี่ปูนแหบพร่า ไม่มีเค้าอารมณ์เสียหรือโกรธเคืองให้เห็น มีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดที่แผ่ออกมาจนผมรู้สึกได้เท่านั้น  “พี่ขอโทษ”

“คราวนี้นะพี่ปูน เก็บคำขอโทษของพี่เอาไว้เหอะ ผมไม่ต้องการมัน”  ผมไม่สนใจฝ่ามือที่ยื่นเข้ามาหาและปัดมันออกไปอย่างไม่ใยดี ผมขยับตัวออกมาจากเตียงอย่างรวดเร็ว เมื่อยืนอย่างมั่นคงได้จึงหันกลับไปมองพี่ปูนอีกครั้ง

“พี่รักลุงจริงๆ นะ”

“ผมก็รักพี่เข้าให้แล้วเหมือนกัน”

มันช่างเป็นคำบอกรักกันและกันที่ไม่อาจทำให้จิตใจชื่นบานได้เลย

“แต่ความรู้สึกที่ผมเสียไป พี่ว่าผมควรจะซ่อมมันยังไงดี”

“..........”

“ทำไมผมต้องรู้สึกว่าเป็นคนโง่เพราะความรักของพี่ด้วยล่ะ ขำบ้างมั้ย แอบหัวเราะผมบ้างรึเปล่าในทุกคำพูดที่ผมคิดเองเออเองน่ะ ความรักของพี่ทำให้ผมเหมือนตัวตลก...”

“พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้น”

“คิดว่าผมจะยอมพี่ทุกเรื่อง อ้าแขนรับทุกอย่างที่พี่ทำเหรอ?”

“ลุง”  พี่ปูนถัดตัวลงมาจากเตียงบ้าง ผมถอยหลังทันทีเมื่อคนตรงหน้ายืดตัวขึ้นเต็มความสูงทำให้รอดพ้นจากมือที่เอื้อมมาคว้าจับได้อย่างฉิวเฉียด 

“ผมมันซื่อบื้อจริงๆ”  เรื่องราวต่างๆ มันแล่นเข้าหัวอย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องที่พี่ปูนพยายามจะกดผมเหลือเกิน ทั้งทุกท่วงท่าที่ทำกันมันไม่ได้สื่อถึงความเป็นเมียสักนิด แล้วยัง...นิ้ว!! พระพุทธเจ้า!!! ผมเชื่อทุกคำที่พี่ปูนพูด ถึงขนาดยอมให้ผู้ชายเอานิ้วเข้ามาในก้น ตั้ง...ตั้งสามนิ้ว! แล้ว...แล้วผมก็รู้สึกดีไปกับมัน ใครใช้ให้ไอ้คนชั่วคนนี้มีเทคนิคแพรวพราวขนาดนั้นกัน! ไหนจะทุกคำพูด ทุกความอ่อนโยนนั่นอีก แล้วยังจะมีความอ่อนแอ ความบ้าบอ ความชั้วร้ายต่างๆ นานาที่แสดงออกมาเมื่ออยู่ด้วยกันอีกล่ะ

ผมไม่เคยใกล้ชิดกับใครได้เท่านี้เลยนะ ไม่เคยยอมใครมากเท่านี้ด้วย ไม่เคย...รักใครมากเท่านี้เหมือนกัน

“ผมไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง”  สิ้นคำ พี่ปูนถลาเข้ามาหมายจะกอดแต่เมื่อเห็นผมเบี่ยงตัวหนีจึงเปลี่ยนมาจับสองมือไว้แน่นแทน 

“ให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ”

“ผมเคยให้พี่ไปแล้วนี่ เรื่องเมื่อตอนนั้นไง จำได้มั้ย”

“ตอนนั้นมันไม่เหมือนกัน ไม่นับไม่ได้เหรอ”

ผมมองหน้าคนตลบตะแลงแล้วก็ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ยังความรู้สึกเมื่อตอนนั้น  “คราวนั้นผมคิดว่าเป็นเพราะพี่ไม่เคยเป็นเมียผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยยังปรับตัวไม่ได้ แต่เมื่อเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ มันก็จะกลายเป็นว่าทั้งๆ ที่พี่บอกว่าชอบผม แต่ก็ยังไปมีอะไรกับคนอื่น...”

“พี่ไม่เคยคิดอยากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใคร พี่ก็พยายามที่จะไม่ยึดติดกับลุงมากไปแต่มันทำไม่ได้ พี่ไม่อยากเสียลุงไป ถ้าไมใช่ลุงพี่ก็ไม่ต้องการใครหน้าไหนทั้งนั้น”

“เราพอก่อนดีมั้ย?”  ผมมองหน้าพี่ปูน แววตาที่มองมานั้นปฏิเสธข้อเสนอผมอย่างชัดเจน  “ในเมื่อมันเริ่มจากความเข้าใจผิดก็หยุดมันแต่เพียงเท่านี้เถอะ”

“ไม่!”  ร่างสูงดึงตัวผมเข้าไปกอดเต็มรัก ฝังหน้าแนบซอกคอผมปล่อยลมหายใจร้อนผ่าวกระทบผิวถี่รัว

“ปล่อยผม”

“ไม่!!”

“พี่ปูน!! อย่าทำให้มันแย่ไปกว่าเดิมเลย”

วงแขนที่รัดรอบกายผมอยู่อ่อนแรงลง ร่างของพี่ปูนปล่อยผมออกจากพันธนาการอย่างช้าๆ สีหน้าย่ำแย่ไม่ต่างจากครั้งหนึ่งที่ผมเคยเห็น และต่อให้เป็นในชั่วขณะนี้ ผมก็ยังคงไม่ชอบสีหน้าแบบนี้ของพี่ปูน มันทำให้ผมใจอ่อนได้เสมอ แต่ผมต้องพยายาม...

“ถ้าพี่ปล้ำลุงตอนนี้ ลุงจะใจอ่อนกับพี่บ้างมั้ย?”

“ไม่...”  ไม่แน่ ผมต่อให้ในใจด้วยความกังวล ขืนเจอเทคนิคชั้นเซียนฝ่ามืออรหันต์ หรือชิวหาพาเพลินล่ะก็ ผมต้องอ่อนปวกเปียกคล้อยตามพี่ปูนอีกแน่ แถมคราวนี้คงไม่ใช่แค่นิ้วหรอกที่จะทะลวงด่านธรณี แต่จะเป็นแตงร้านคัดพิเศษดุ้นนั้นต่างหากที่จะขุดหน้าดินของผมให้เป็นโพลง

แค่คิดก็เจ็บตูดแล้ว!

“ผมจะกลับบ้าน”  ผมปล่อยมือพี่ปูนออกอย่างรวดเร็ว บรรยากาศในห้องก็ชวนเสียตัวซะขนาดนี้ ถ้าไม่รีบออกไปให้ไว ใครจะรู้ว่าพี่ปูนจะทำอะไรขึ้นมา ลูกบ้าในเรื่องใต้สะดือยิ่งเยอะอยู่ด้วย

“ให้พี่ไปส่งนะ” 

ผมไม่ปฏิเสธการอาสาในครั้งนี้ แต่ตลอดระยะเวลาของการเดินทางเราไม่คุยอะไรกันเลยนอกจากการบอกทิศทาง ผมไม่รู้ว่าภายใต้ใบหน้าข่มกลั้นนั้นพี่ปูนคิดอะไรอยู่ แต่สำหรับผม...ผมไม่ได้เกลียด และความรู้สึกที่ว่ารักคุณเข้าแล้วมันก็ไม่ได้จางหายไป เพียงแต่ว่าผมยอมไม่ได้กับการถูกหลอกมาตั้งเนิ่นนาน เหมือนตัวเองเป็นหมากตัวหนึ่งในแผนการรักบ้าๆ ของพี่ปูน เพราะมันเป็นความรักที่เกิดขึ้นเพราะถูกชักจูง...ผมถึงยอมรับไม่ได้

เหตุและผล ความรู้สึกต่างๆ นานามันตีกัน ขัดแย้งกันไปมาจนผมปวดหัว ทุกอย่างมันรวดเร็วเกินไปจนปรับใจลำบาก -- ไม่จริงน่า? ก่อนหน้านี้ผมเจอเรื่องที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบกะทันหันมาตั้งเยอะแยะ อย่างเวลาถูกบอกเลิกนั่นไง ไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนบอกล่วงหน้าหรือแสดงทีท่าให้ผมรับรู้ได้ก่อนเลยสักครั้ง แต่ผมก็ผ่านมันมาได้แบบไม่ยากเย็น ไม่เห็นต้องคิดวุ่นวายสับสนเหมือนอย่างตอนนี้เลย

มันคงเป็นข้อเสียของความรักสินะ

“ลุง...”  เสียงพี่ปูนดังขึ้นเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกกระจกหน้า ทิวทัศน์คุ้นเคยบอกให้รู้ว่าผมมาถึงบ้านตัวเองเรียบร้อย 

“ขอบคุณที่มาส่งครับ”  ผมเอ่ยพลางปลดเข็มขัดนิรภัยออก แต่ในขณะที่จะเอื้อมมือเปิดประตูลง แขนผมก็ถูกฝ่ามือใหญ่ดึงรั้งเอาไว้ก่อน

“พี่จะมีหวังแค่ไหน ถ้าพี่จะไม่ยอมแพ้” 

“แล้วพี่คิดว่าต้องพยายามแค่ไหน ผมถึงจะยอมใจอ่อนล่ะ”  ผมย้อนถามเสียงเข้ม พี่ปูนสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที ฝ่ามือที่กุมแขนผมไว้แน่นขึ้นจนรู้สึกเจ็บนิดๆ

“พี่จะทำทุกทาง และหวังว่ามันจะไม่ต้องไปถึงหนทางสุดท้าย”

“เอ่อ...อะไรคือหนทางสุดท้าย?”  บรรยากาศชักจะหนาวเย็นเกินไปแล้วนะผมว่า สายตาที่มองมาพาให้ขนลุกเกรียวได้ไม่ยากเลย

“พี่จะพาลุงไปขังไว้สักที่ ทำทีเป็นบอกคุณน้าว่าเราจะไปเที่ยวกัน”  น้ำเสียงพี่ปูนเหมือนกำลังพูดเรื่องบันเทิงใจ แต่ผมกลับรู้สึกว่ากำลังได้ยินแผนการฆาตกรรมของฆาตกรโรคจิต  “พี่จะมัดลุงไว้ แล้วเราจะมีเซ็กส์กันทั้งวันทั้งคืน จนกว่าร่างกายของลุงจะขาดพี่ไม่ได้ จนกว่าลุงจะอ้อนวอนขอร้องให้พี่กระแทกเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก...”

ผ...ผมอยากจะชักมือตัวเองมีเหลือเกิน

“เมื่อไหร่ที่ร่างกายของลุงจดจำพี่ได้ ต่อให้ไม่รัก ต่อให้เกลียดแค่ไหน แต่ลุงก็ไม่มีทางไปจากพี่ได้แน่นอน”

พี่ปูนแสยะยิ้ม ยกมือผมขึ้นไปจรดกับริมฝีปาก เนิ่นนานและนุ่มนวลเกินกว่าผมจะกระชากมือตัวเองออกมา แต่เหตุผลที่สำคัญกว่าคือผมไม่กล้าโวยวายอะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ พี่ปูนเหมือนพร้อมทำอย่างที่พูดในตอนนี้โดยไม่สนความพยายามแบบคนปกติด้วยซ้ำ

“พี่จะพยายาม ขอแค่ลุงเปิดโอกาสให้พี่ก็พอ”

“คระ...ครับ”  ผมกลืนน้ำลายก้อนโตลงคอ  “ผมจะเปิดให้กว้างๆ เลย”

“หึหึ เด็กดีของพี่”

แล้วก็จบด้วยการโดนหอมแก้มอีกฟอดใหญ่

ผมยืนมองรถพี่ปูนเคลื่อนตัวออกไป ความรู้สึกขนพองสยองเกล้ายังไม่จางหาย รูขุมขนยังขึ้นเม็ดเพราะอาการขนลุกอยู่เลย ถึงจะไม่พูดให้ชัดเจนก็เถอะ แต่ผมถูกข่มขู่อยู่แน่นอน มันเป็นการขอคืนดีกันแนวไหนวะ จับมัดเหรอ? จะให้ผมอ้อนวอนงั้นเหรอ? ถ้าถึงเวลานั้นผมคงต้องเป็นอย่างที่พี่ปูนต้องการแน่ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมจะไม่อ่อนปวกเปียกไปกับความเร่าร้อนนั้น ไม่ได้การล่ะ ผมต้องปกป้องอธิปไตยของตัวเองอย่างสุดชีวิต ไม่อย่างนั้นล่ะก็...บรื๋อ~ ผมลูบแขนตัวเองไปมาอากาศที่จู่ๆ เย็นยะเยือกทำให้ผมขนลุกซู่ไปทั้งร่าง

ให้ตายเถอะ! ผมรู้จักความโรคจิตของพี่ปูนน้อยไปจริงๆ




-------------------------------------------------------------------TBC.


สวัสดีค่ะ...ปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขสมหวัง สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะคะ


ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai1: :katai1: :katai1: กรี๊ดดดดดด!!!ฟหกดฟหกดฟหกด มาต่อแล้วช่างกร้าววววใจ ถึงลุงจะยังไม่เสร็จพี่ปูน แต่ท่าทางคงไม่รอดมือมารปูนแน่ๆ  :hao7:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สวัสดีปีใหม่นะคะ!
ในที่สุดลุงก็รู้ความจริงสักทียยย ความเป็นสามีของนายล่มแล้วนะ 55555
พี่ปูนสู้ๆนะ ไม่ถึงทางสุดท้ายแน่นอน กลัวพี่มากเด้อ 55555

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จะดราม่าแล้วเชียวนะ ลุงทำเสียเรื่องเลยฮาแทน5555555

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
พี่ปูนพูดซะลุงกลัวกันเลนทีเดียว

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชอบความโรคจิตของพี่ปูน

ว้ายๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ jittrawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบพี่ปูนแบบเน้ โรคจิตไปเลย โรคจิตรักหลงน้องลุงคนเดียว ชอบๆๆๆๆ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ้โหวววว ในที่สุดคุณลุงก็รู้ความจริง(แบบถูกต้อง)สักที
นี่ก็ลุ้นอยู่ตั้งนาน ว่าเมื่อไหร่ลุงจะคิดออกเอง (แบบถูกต้องด้วยน่ะ) แต่ก็ไม่สำเร็จสักที..ฮาาา

ปล. สวัสดีปีใหม่ค่าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
มีพิมพ์ผิดนิดหน่อยนะจ้ะ

ความชั้วร้ายต่างๆ นานาที่แสดงออกมาเมื่ออยู่ด้วยกันอีกล่ะ  ... ชั่วร้าย
ผ...ผมอยากจะชักมือตัวเองมีเหลือเกิน   .... อันนี้งง ไม่เข้าใจ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ก่อนอื่น
ขำคุณดาหลาก่อน ลุงบอก คุณดาหลายอมตั้งแต่ครีมกระปุกแรก อิอิอิ
ลุง ยังมโนซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าว่าเป็นสามี อันนี้ยอมใจคุณลุง
พี่ปูน ตอนนี้หื่นๆ จิตนิดๆ แต่ก็ห้ามใจตัวเองได้ที่ไม่ปล้ำคุณลุง เป็นแบบที่
เราชอบ ลุงไม่เอา เราขอนะปุริมเนี่ย
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ลุงผลาดไปอยู่ในอุ้งมือโรคจิตของพี่ปูนซะแล้ว เอาใจช่วยลุงนะ  :sad4:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ magic-moon

  • mgKapleGD
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Pretty Girls from your city for night

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
พอเห็นชื่อตอนเต็มๆ เราก็อ่านมาจนจบตอนแล้วเราก็จะได้คำตอบที่เราคิดไว้ในใจตั้งแต่เห็นชื่อตอนว่า ตรูว่าแล้ว ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ คุณลุงก็ตกเป็นเบี้ยล่างเขาอยู่ร่ำไป ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกบ้าน กร้ากกกกก  :m20:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ jorjinney

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดภาพตามที่พี่ปูนพูดแล้วก็ :pighaun: :pighaun:
ตายไปเลยค่าาาา

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เลเวลความโรคจิตของพี่ปูนอัพขึ้นแล้ว :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

พี่ปูน จิตจริงๆ
พี่ปูน ลุง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ไม่น่ามีอะไรระหว่างสองคน แต่ก็มี
ลุง ที่ดูใจดี สบายๆ กลายเป็นคิดมากซะนี่  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พี่ปูน จะทำยังไงให้ลุง หายโกรธ คืนดีล่ะเนี่ย   :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด