◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 301758 ครั้ง)

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ลุงใสมาก น่ารักอ่ะ พี่ปูนดูมีปมเรื่องครอบครัว รอตามอ่านเรื่อยๆเลย

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณกรกับโป้ยคืออะไร ยังไง ดูน่าสงสัย
แต่ลุงนี่ไม่ไหว น่ารักจริงๆ คุณสมบัติความเป็นเมียนี่ครบถ้วนแต่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
โอ้ยยยย อ่อยยยย  โอ้ยยย อยากอ่านต่อ  งื้ออ

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เขินนน ตอนประโยคสุดท้ายยย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เป็นผัวไม่รุ่ง เป็นเมียดีกว่าน้าา คุณลุง

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
หนูยังมั่นในความผัวอีกนะน้องลุง   :laugh:  อิพี่ปุริมมีความทำลายล้างสูงมากๆๆ

  :pig4: :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :-[ :-[ โอยยอยากอ่านต่อแล้ว!!! สนุกมากค่ะ รักลุงมากพี่ปูนนี้ร้ายไม่เลิกอะ  :ling1: :ling1: โอยไม่ไหวแร้ว

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ทูนหัว คุณลุงเดียงสาจัง อยากฟัด

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โถถถ เจ้าไก่น้อยยยย  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
นี่ก็อยากได้คนแบบลุงคือน่ารักกก แง่ง
จริงๆระหว่างพี่เปี๊ยกกับริชก็ดูสนิทกันม๊ากมากแต่ในกรณีมีเมียมีลูกก็ไม่อยากคิดแนวผิดหลักเท่าไหร่ สงสารลูก ฮือออ ยกเว้นแต่จะมีอะไรที่เมียไม่ดีงี้ แฟนมีชู้งี้
ลุงน่าร้ากกกกก รักมาก อยากเก็บไว้ข้างกาย คิดว่าพี่ปูนมีปมครอบครัวอ่ะ ดูจากแววตาที่เธอมองมา

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
:impress2: ลุงน่ารัก  พี่ปูนคงหลงน้องมากขึ้นทุกวัน
ทั้งทำอาหาร-ทำงานบ้างเก่ง แถมยังก้นสวยอีก.. 5555
.

.

ว่าแต่..พี่กรกะโป้ย มีซัมติงกันรึป่าวน๊าา  :hao4:

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เมียคุณลุงทไให้เขินอีกแล้ว  พลังทำลายล้างสูงมาก อร้ายยยย :-[ :-[

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ลุงงงง ทำไมซื่อ ทำไมเป็นคนแบบนี้ ยังคงมึนว่ามีความผัวมาก
แถมเล่นใหญ่ไฟกระพริบตลอด ลุงดูอาการปูนออกด้วย เหมือนปูนนอยด์เรื่องที่บ้านหรอ

ปูนเนียนนะ กะฝากตัวใช่ไหม ทำดีมาก แล้วเรื่องขอจูบน่ะ ดูดวิญญาณลุงหรอ ถึงเพ้อได้ขนาดนั้น

กรเป็นอะไรคะ แล้วโป้ยเล่นใหญ่ไปทำไม

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
กรี้ดดดดดดดดดดดดด
พึ่งเข้ามาอ่านนนนนนนนน
มีความเอ็นดูน้องลุงงงงงง

คือน้องลุงนี่มาแบบพล็อตสามีตีตรามาก
(เข้าใจว่าตัวเองเป็น"สามี"แต่ความจริงโดนเขาตีตรา)
อะไรจะซื่อ(บื้อ) น่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้
(ขนาดพี่ปูนยังดูเอ็นไปแล้ว)
ชอบๆ น้องลุงดูไม่ค่อยมีสติ 555555
(ถ้ามีสติน้องจะรู้ว่าน้องไม่ได้เป็นผัวใคร)

โป้ยกับกรนี่ยังไง
เธอรักกันชอบกันด้วยใจใช่มั้ย
รอชมมมม

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ถึงกับต้องมาคอมเม้นด้วยอาการแบบนี้  :a5: :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ Aomoto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณลุงเป็นผัวที่ใจง่ายมากเลยนะ ใจง่ายจนสบายตัวตลอดเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ปุริม ร้ายกาจจจจ
เนียนแบบไม่เนียน ฮ่าๆๆๆ คือรุกหนักมากแต่ปั๋วเด็กมันบื้อไง สงสารมัน

ออฟไลน์ yumenari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :really2:พอถึงประโยค นี่ผัวนะ
 
นี่ลั่นเลยยยยย

คุณลุงงง

อยากฟังคุณปุริม รายงายบ้าง บรรยายความเอ็กของอิลุง

เพราะอิลุงบรรยายทีไร นี่เบลอตัลหลอดดด

นี่ผัวนะ
ลั่นอีกรอบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2017 20:18:43 โดย yumenari »

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เพิ่งเข้ามาอ่าน คือฮาความมึนของลุงมาก5555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณลุงน่ารักเกินไปแล้ว กว่าจะรู้ว่าบทบาทตัวเองที่แท้จริงเป็นยังไงก็คงถูกสมภารจับกินจนไม่เหลือกระดูก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2017 06:23:17 โดย malula »

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อิลุงงงงงน่ารักเว่อ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ทูนหัวจ๋า
เมื่อไหร่จะกระจ่างแจ้งในโพสซิชั่น ผ/ม จ๊ะ
บวกเป็ดน้อยๆ
fc พี่ปูน
หล่อร้ายชิหาย 555
 :hao7:

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 7 _การอภัย คือการให้ที่ใครก็คู่ควร_



เสียงรองเท้าดังกระทบพื้นดังก้องมาแต่ไกล เรียกสายตาของพนักงานหนุ่มทั้งสามคนให้ละสายตาจากงานที่ทำเพื่อมองไปยังทางบันไดขึ้นลงเป็นตาเดียว เสียงรองเท้าที่คาดว่าจะเป็นส้นสูงดังใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียงนั้นเผยให้เห็นเจ้าของที่เผยร่างให้คนชั้นบนเห็นทีละหน่อยตามจังหวะการก้าวเดิน

ผมได้ยินเสียงไอ้โป้ยผิวปากเบาๆ รับการมาเยือนของผู้หญิงสุดสวยนางหนึ่ง เป็นสตรีที่คุ้นหน้าค่าตาดีสำหรับพวกเราทุกคนแต่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวเป็นๆ แบบนี้ ผมสีช็อกโกแลตเป็นลอนสยายเต็มแผ่นหลังพลิ้วไหวไปมารับฝีเท้าที่ก้าวเดินอย่างมาดมั่น รองเท้าแม่คุณคงจะส้นสูงเจ็ดแปดนิ้วได้แต่มันกลับทำให้คนสวยยิ่งดูสง่าขึ้นไปอีก ใบหน้านั้นเกลี้ยงเกลาตกแต่งสีสันมาอย่างดี สวยจนน่าตะลึงขนาดพี่เปี๊ยกยังมองตาค้าง

เจน่า ครอส นางแบบแสนจะเซ็กซี่ที่สุดในขณะนี้ของประเทศ

สาวลูกครึ่งสเปนที่คมเข้มเปี่ยมเสน่ห์คนนี้ ถ่ายแบบวาบหวิวอวดเรือนร่างมาแล้วแทบทุกหัวแมกกาซีน ที่ต้องบอกว่าแทบ เพราะยังไม่เคยเห็นเธอขึ้นปกบ้านและสวนกับนิตยสารครัวมาก่อน ทรวดทรงองค์เอวของแม่คุณนั้นปราบบรรดานางแบบทั้งหลายจนสิ้นซาก ผมเดาว่าผู้ชายหลายคนในประเทศคงต้องมองรูปหวิวเธอแล้วชักว่าวไปด้วยแน่ๆ อะแฮ่ม! นี่ผมไม่ได้พาดพิงถึงตัวเองนะ

เจน่าหยุดยืนเพื่อมองซ้ายขวา ปลายหัวคิ้วขมวดเล็กน้อยคล้ายจะไม่พอใจอะไรสักอย่าง ในบริษัทรับออกแบบเล็กๆ นี้ไปทำอะไรให้คุณนางแบบดังขุ่นเคืองถึงขนาดต้องบุกมานะ หรือว่าจะมาติดต่อเรื่องงาน? แต่น้อยครั้งมากๆ ที่ลูกค้าจะถ่อมาถึงที่นี่ เพราะบริษัทนี้มักจะเอาตัวเองไปประเคนให้ถึงตักลูกค้าอยู่เสมอ แค่โทรมากริ๊งเดียวสองท่านผู้นำก็วิ่งแจ้นออกไปหาแล้ว ง่ายดายยิ่งกว่าสั่งพิซซ่าซะอีก

“ฉันมาพบปูน”   เสียงทุ้มเล็กน้อยสำหรับผู้หญิงดังกังวาน แลดูมีมนต์ขลังมากขนาดที่ว่าพี่เปี๊ยกตาเยิ้มไปทั้งรอยยิ้ม   “ปูนอยู่รึเปล่า?”

“คุณปุริมไปโรงพิมพ์ครับ”   ถ้าไม่ใช่ไอ้โป้ยตอบกลับจะเป็นใครได้ มันกุรีกุจอเดินออกไปนอบน้อมตรงหน้านางแบบตัวสูงเกือบเท่ามันแทบจะทันที   “ใกล้แค่นี้เองครับ อีกเดี๋ยวคงกลับมา”

“งั้นฉันจะรอ”   เจน่าคนงามสะบัดเสียงห้วน เธอมองไปรอบๆ อีกครั้งก่อนจะหันกลับมาสบตาไอ้โป้ย   “ฉันจะนั่งตรงไหนได้บ้าง ไม่สิ...ห้องของคุณปูนอยู่ไหน”

“ทางด้านโน้นครับ”   ไอ้ตัวสาระแนผายมือไปทางห้องด้านในสุด ประหนึ่งข้าทาสคอยเชื้อเชิญเจ้านายไปที่พำนัก

“ฉันจะรอที่นั่น รบกวนเอาเครื่องดื่มมาให้ทีนะ ขอเป็นน้ำผลไม้แล้วกัน”

“เอ่อ...ครับ”   ผมแอบขำคิกกับหน้าปุเลี่ยนๆ ของเพื่อน

“อ้อ -- ถ้าหาแบบคั้นสดๆ ให้ฉันไม่ได้ก็ขอเป็นแบบกล่อง100%นะ ไอ้พวกที่ผสมน่ะรสชาติไม่ได้เรื่อง -- ขอบใจ”

ไม่ใช่นางแบบแล้ว นี่มันนางพญาชัดๆ

ผมต้องรอจนกระทั้งแม่คุณนางแบบดังเดินเข้าไปในห้องพี่ปูนก่อนถึงจะเบ้ปากออกมาให้สมอยากได้ แต่คงไม่ใช่แค่ผมหรอกที่หาจังหวะอยู่ เมื่อป้าจิ๋มแม่บ้านวัยกลางคนรีบพุ่งขึ้นมาจากทางบันได ปรี่เข้ามาเกาะของโต๊ะพวกผมไว้ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“ป้าบอกว่าจะให้รอที่มุมรับแขกข้างล่างเธอก็ไม่ฟัง ตวัดตามองซะป้าขนลุกเลย”

“คนดังก็อย่างนี้แหละป้าจิ๋ม”  ผมพยายามปลอบใจคุณป้าลูกสาม  “เรามีน้ำผลไม้สดมั้ยป้า?”

“จะมีได้ยังไงเล่าคะ พวกคุณดื่มแต่กาแฟกับนม อ้อ เครื่องดื่มชูกำลังด้วย”  ป้ารีบตอบ  “อ๊ะ แต่มีน้ำผลไม้ของคุณริชอยู่เหมือนกัน”

“ยี่ห้ออะไรครับป้า”  เพื่อนโป้ยรีบถาม มันคงกลัวว่าป้าจิ๋มจะต้องเดินตากแดดไปซื้อให้ตรงความต้องการของคุณนางแบบ แต่เมื่อป้าจิ๋มบอกชื่อยี่ห้อมาเท่านั้น พวกผมก็โล่งใจกันไป  "ป้าไปรินใส่แก้วมาเลยนะ แล้วเอาขึ้นมาที เดี๋ยวผมเข้าไปให้เอง”

“แต่นั่นของคุณริชนะคะ”  ป้าจิ๋มแย้ง คงกลัวจะถูกต่อว่าทีหลัง ป้าแกมักปกป้องทรัพย์สินในตู้เย็นส่วนรวมให้พวกผมเสมอแหละ แกรู้ว่าอันไหนของใคร กินได้หรือไม่ได้ แต่น้ำผลไม้ของพี่ริชเนี่ยไม่เคยมีใครไปแย่งของแกสักที ผมเหลือบมองไปยังห้องสารพัดหน้าที่ที่ยังเงียบกริบคล้ายไม่รับรู้เรื่องราวภายนอก

“เดี๋ยวผมซื้อมาคืนให้กล่องนึงเลย”  เมื่อได้คำรับปากจากผม คุณป้าแม่บ้านก็เดินตัวปลิวกลับลงไปที่ด้านล่าง

ผมหันสบตากับพี่เปี๊ยกที่หลุดจากการเคลิ้มไปนานแล้ว พี่เปี๊ยกคงคิดเหมือนกับผมเพราะพี่แกพึมพำบางอย่างแล้วส่ายหัวไปมาก่อนจะกลับไปก้มหน้าทำงานตามเดิม ผมได้ยินมาว่าปีๆ หนึ่งเจน่าทำเงินได้เยอะน่าดู เพราะนอกจากงานในประเทศแล้ว ต่างประเทศก็รุมจ้างเธอเหมือนกัน ก็นะ...จะเริดเชิดหยิ่งก็คงไม่แปลก

แต่มันทำให้ผมผิดหวังเล็กน้อย ผมอุตส่าห์เก็บหนังสือรวมภาพของเจน่าไว้อย่างดี เอาไว้ดูเวลา เอิ่ม...เวลาเบื่อๆ แต่หลังจากเห็นท่าทางแบบนั้นของเธอแล้วความประทับใจมันก็ลดลงวูบเลยทีเดียว ถึงอย่างไรผมก็จะไม่โยนหนังสือเล่มนั้นทิ้งหรอกนะเพราะว่ามันเด็ดดวงจริงๆ แค่คงจะไม่หยิบขึ้นมาดูแก้เบื่ออีกก็เท่านั้น

แป๊บเดียวเท่านั้น ป้าจิ๋มก็กลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับแก้วทรงสูงที่บรรจุน้ำสีส้มอมแดง โป้ยเองก็เดินไปรับไม้ต่ออย่างทันท่วงทีแล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหาเส้นชัย แต่พอมันเปิดประตูออกมาอีกรอบเท่านั้นแหละ หน้างี้ผ่องอิ่มเอิบมาเชียว

“โอ้โหแม่คุณเอ๊ย! หุ่นนี่เด็ดยิ่งกว่าในนิตยาสารอีก”

“กูนึกว่ามึงจะบ่นเรื่องความเป็นคุณนายของเจน่าซะอีก”   ผมหันไปมองเพื่อนโป้ยอย่างเหลือเชื่อ ปกติแล้วมันไม่ค่อยชอบผู้หญิงแบบนี้เท่าไหร่   “ทั้งหยิ่ง ถือตัว แถมสั่งมึงอย่างกะเป็นพ่อบ้านอีก มึงไม่ชอบไม่ใช่เหรอ?”

“จิ๊ๆ เพื่อนลุงครับ”   มันส่ายหน้าไปมา   “มึงดูนะครับ หุ่นแบบนั้น หน้าอกเอย เอวเอย ไหนจะบั้นท้ายกลมกลึง มึงเห็นช่วงขาเรียวยาวนั่นมั้ย ต่อให้คุณเธอจับกูไปเฆี่ยนด้วยแซ่กูก็ยอม”

“หน้ามึงฟินเกินไปแล้ววีรภาพ”   ผมเบ้ปากใส่มัน   “ฝันให้ตายมึงก็ไม่ได้แอ้มเขาหรอก แต่ถ้ากลับบ้านไปขัดจรวดด้วยรูปเขาละก็มึงคงทำได้”

“แหมๆ พัทลุง มึงก็ซื้อเล่มนั้นพร้อมกูนั่นแหละ เปื่อยรึยังอะหรือว่ามันเหนียวจนหน้ากระดาษติดกันหมดแล้ว”

“ไอ้เชี่ย!”   ผมผลักหัวมันแรงๆ ไปหนึ่งที ไอ้เพื่อนเวร! เปิดเผยให้คนรู้ซะได้

“อย่ามาทำเขิน กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว ไส้มึงกี่ขดกูรู้หรอก”   แทนที่มันจะปล่อยผ่าน ไอ้โป้ยดันทะลึ่งตัวเข้าหาผม จับมือทั้งสองข้างผมไว้แน่นแล้วยื่นหน้าล้อเลียนผมซะใกล้

“อย่าๆ กูก็รู้เหมือนกันว่าความจัญไรมึงมีมากแค่ไหน”   ผมก็ยื่นหน้าเข้าสู้ ยักคิ้วหลิ่วตาสื่อความนัยให้บ้าง

“ทำไมพัทลุงถึงได้รู้จักโป้ยดีขนาดนั้นน้า~”   

“ก็มันเป็นสันดานของวีรภาพอ่ะ ลุงจะไม่รู้ได้ไง”   ผมหัวเราะหึหึ ไอ้โป้ยก็เกทับด้วยสามหึพร้อมฉีกยิ้มเลวๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ? ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่รึเปล่า? เพราะเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ประถมเลยรู้จักนิสัยกันทุกซอกทุกมุมดี มันรู้ความลับของผมยิ่งกว่าใครในโลก ส่วนผมก็กุมวีรกรรมเลวๆ ของมันไว้เพียบ ถ้าเกิดเกลียดกันขึ้นมาเมื่อไหร่คงขุดเรื่องเก่ามาด่ากันได้สามวันไม่จบ

“เล่นอะไรกัน”

เสียงราบเรียบดังขึ้นใกล้ตัว ทำเอาผมกับโป้ยต้องเบือนหน้าไปหาต้นตอพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เบื้องหน้าผมคือชายตัวสูงผู้ครองตำแหน่งเซ็กซี่กาย ยืนกอดอกตีหน้าเข้ม ขมวดคิ้วฉับส่งสายตาทิ่มแทงมาให้พวกผม

“กลับมาแล้วเหรอครับพี่ ทางโรงพิมพ์ว่าไงครับ”   ไอ้โป้ยปล่อยมือผมแล้วหันไปคุยกับลูกพี่มันทันที   

“สรุปว่าผิดที่ทางเขาน่ะ พอไปยืนยันกันสีมันเพี้ยนไปจากที่พรู้ฟมาให้จริงๆ นี่คงต้องเลื่อนส่งไปแต่พี่โทรหาลูกค้าแล้ว”   พี่ปูนพูดกับโป้ย แต่หางตานั้นยังส่งมามองผมเป็นระยะ ทำเอาผมหนาวสันหลังนิดๆ   “แล้วเมื่อกี้เล่นอะไรกัน”

“อ๋อ~”   ไอ้โป้ยลากเสียงยาวอย่างมีเลศนัย มันปรายตามองผมเล็กน้อย ก่อนจะโพล่งออกไปแบบไม่ไว้หน้าความสัมพันธ์สิบห้าปีของเราสักนิด   “แค่แซวกันเรื่องที่ไอ้ลุงชักว่าวไปพลางดูรูปนางแบบไปพลางอ่ะครับพี่”

“วีรภาพ!! มึงนี่มัน”   ผมยกตีนถีบหลังมันเต็มๆ จนหน้ามันทิ่มเข้าพุงพี่ปูน แต่มันก็หาได้วกกลับมาทำร้ายผม มีเพียงเสียงหัวเราะสะใจเท่านั้น

“นางแบบคนไหนล่ะ”   ไอ้พี่ปูนอมยิ้มชั่วพร้อมกับมองผมด้วยสายตาโคตรเจ้าเล่ห์

“ก็ --“

“พี่ปูน! มีคนมารอพี่ที่ห้องอ่ะครับ”   ผมพูดแทรกเสียงดังก่อนที่ไอ้โป้ยจะเผยชื่อนางแบบออกมา และมันก็ได้ผลเมื่อพี่ปูนเหลียวมองไปที่ห้องทำงาน สายตาคมเพ่งมองเข้าไปสักพักก็ขมวดคิ้วมุ่น

“...ทำงานต่อเถอะ”   มันเหลือบมองผมอีกครั้ง พูดสั้นๆแล้วเดินตรงเข้าไปยังห้องทำงาน

ผมมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นจนกระทั่งหายเข้าไปในห้อง สองตาสอดรู้ของผมพยายามเพ่งมองผ่านกระจกฝ้า ผมเห็นเงาร่างสูงๆ ของพี่ปูนยืนอยู่ และเห็นอีกร่างที่เพิ่งลุกขึ้นยืน และไม่กี่วินาทีต่อมาร่างอ้อนแอ้นของเจน่าก็โถมเข้ากอดพี่ปูนเนิ่นนาน บางอย่างในตัวผมแล่นแปล๊บๆ ไปทั่วกับภาพนั้น มันเจ็บยิบๆ อย่างไม่สบายตัวที่สุด และผมก็ได้แต่อดทนเอาไว้

“มึงว่าเจน่าเป็นอะไรกับพี่ปูนวะ”   เสียงกระซิบถามของไอ้โป้ยคล้ายเสียงตะโกนก้องอยู่ในหูผม

“มึงถามกู แล้วจะให้กูไปถามใคร...”

นั่นดิ...แล้วถ้าผมอยากรู้ ผมควรจะถามใครดี

ผมพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดแง่ลบออกไปจากหัวสมอง ผมไม่ควรคิดแง่ร้ายกับเมียตัวเอง และถึงมันจะเป็นจริง...ผม...ผมก็ควรให้เวลาพี่ปูนปรับตัวบ้าง พี่ปูนอาจจะไม่เคยเป็นเมียใครมาก่อนก็เลยยังไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร หรือว่าเจน่าอาจจะเป็นแฟนคนเก่า -- เวรแล้วไง -- ก่อนที่ผมจะได้พี่ปูนแล้วรวบรัดเอามาเป็นเมีย ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ปูนมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า แต่พี่เขาก็ตอบรับผมง่ายๆ นี่หว่า บางทีอาจจะเป็นแค่คู่นอนกันก็ได้ ผู้ชายดูดีอย่างนั้นคงต้องมีกันบ้าง ขนาดเสี่ยกับโป้ยยังมีเลย ใช่ๆ...ผมต้องไม่เข้าไปก้าวก่าย ต้องให้เวลาพี่ปูนค่อยๆ เคลียร์ปัญหาส่วนตัว

สมัยที่แม่ยังสาวกว่านี้ก็มักจะโดนจีบสม่ำเสมอ เคยมีถึงขนาดแสดงตัวว่าชอบแม่ต่อหน้าพ่อก็มี ตอนนั้นพ่อทำยังไงนะ... ผมนึกย้อนไปยังอดีตที่จำได้ พ่อแค่นั่งยิ้มแล้วปล่อยให้แม่จัดการ ก็เพราะพ่อรู้ว่าแม่รักใครที่สุด พ่อเลยไม่เคยตามหึงหวงเหมือนผู้ชายคนอื่น พ่อเผื่อพื้นที่ว่างให้ความเป็นส่วนตัวแก่แม่เสมอ

ผมก็ควรจะทำอย่างนั้น ใช่มั้ย? แม้จะไม่รู้ว่าพี่ปูนรักใครที่สุดก็ตาม

แม้จะหาข้อสรุปให้ตัวเองได้แล้วแต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะทำเป็นไม่สนใจ ในขณะที่มือก็ทำงานแต่หูของผมก็คอยรับฟังเสียงจากรอบข้าง และเมื่อเสียงประตูเปิดออกมาก็ทำเอาผมเป๋ไปเล็กน้อย เสียงรองเท้าส้นสูงผสานกับเสียงรองเท้าหนังดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดตรงบริเวณโต๊ะโป้ย ผมพยายามจับจ้องหน้าจอคอมฯ โดยไม่หันไปมอง

“เดี๋ยวพี่ออกไปธุระนะ คงไม่กลับเข้ามาอีก ถ้ามีเรื่องด่วนโทรหากรแล้วกัน”

เสียงพี่ปูนสั่งความกับไอ้โป้ย ผมรีบตวัดสายตาดูตัวเลขเล็กๆ ที่มุมหน้าจอ...มีธุระตอนสี่โมงเย็น แถมยังไม่คิดกลับเข้ามาอีก แล้วที่ให้โทรหาพี่กรนี่หมายความว่ายังไง พี่ไม่ว่างรับสายหรือพี่ตั้งใจจะปิดเครื่องเลย...แล้ววันนี้ผมไม่จำเป็นต้องไปหาพี่สินะ?  ความคิดแย่ๆ อัดแน่นอยู่ในหัวแต่ผมก็ยังฝืนตัวเองให้นิ่งเอาไว้ได้อย่างดี

ถึงอย่างนั้นผมก็หวังว่าพี่ปูนจะเรียกผม หรืออย่างน้อยก็ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ผมหันไปมองเขา แต่เปล่าเลย...พี่ปูนก็แค่เดินจากไปง่ายๆ พร้อมกับนางแบบหุ่นดีที่ควงแขนกันอย่างสนิทชิดเชื้อ ผมเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของทั้งสองคนเงียบๆ ทั้งคู่ดูเข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ ความเซ็งเกิดขึ้นทันทีอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พอหุ้นส่วนบริษัทเดินลับสายตาไปผมก็แทบจะโยนอุปกรณ์ในมือลงกับโต๊ะ มันเซ็งจนไม่อยากจะทำอะไร ก็เลยยกนิ้วขึ้นมาดูขี้เล็บซะอย่างนั้น

“กูว่าต้องเป็นแฟนกันแน่ๆ แต่ทำไมแก้มพี่ปูนถึงแดงเหมือนรอยมือเลยวะ”

คำคาดเดาของไอ้โป้ยลอยมาตามลมอีกครั้ง ผมเลือกที่จะเงียบหากไม่กี่นาทีต่อมาเสียงข้อความจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมหยิบมันขึ้นมาดูเพื่อที่จะพบว่าชีวิตนั้นมันเซ็งซับ เซ็งซ้อน เซ็งซ่อนเงื่อนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

[วันนี้ไม่ต้องไปหาพี่แล้วนะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยนัดกันใหม่]

ง่ายๆ สั้นๆ แลดูไร้ความสำคัญนิดหน่อย อยากนัดก็นัด อยากเบี้ยวก็ยกเลิก

ผมนั่งจ้องข้อความของพี่ปูนอยู่พักหนึ่ง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเงียบไปเลยหรือว่าจะถามถึงเหตุผลดี แต่พี่ปูนก็บอกไอ้โป้ยแล้วนี่ว่ามีธุระ บอกมันเพื่อหวังให้ผมได้ยินงั้นเหรอ เฮ้อ~ เอาไงดีวะลุง!

[OK]

สติ๊กเกอร์ร่าเริงตัวหนึ่งเด้งขึ้นไปบนหน้าจอพร้อมกับตัวหนังสือ มันดูเริงร่าผิดกับคนส่งอย่างผม นี่คงเป็นข้อดีของการสื่อสารแบบไม่เห็นหน้าสินะ เพราะไม่ว่าคนส่งจะห่อเหี่ยวขนาดไหนแต่คนรับก็คงไม่ได้รับรู้

ผมนั่งมองหน้าจออีกสักพัก แต่ไอ้ตัวร่าเริงที่ส่งไปนั้นก็ยังไม่ได้ถูกอ่าน พี่ปูนแม่งแค่ส่งมาบอกเท่านั้นจริงๆ มันไม่ได้อยากจะรู้คำตอบของผมอยู่แล้วงั้นสิ

“ไอ้โป้ย”   ผมเรียกเสียงยาน สายตายังคงจับจ้องหน้าจอที่ยังไร้การเปลี่ยนแปลง

“ว่า”

“คืนนี้ไปแดกเหล้ากัน”

“จัดไป”   

น้ำเสียงเพื่อนโป้ยดูบันเทิงใจมากนับว่าผมชวนคนไม่ผิดจริงๆ ผมมองหน้าจอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะตามเดิม ในเมื่อคนทางโน้นไม่คิดจะอ่านหรือโต้ตอบกลับบ้างก็ป่วยการที่ผมจะนั่งจ้องต่อไป

.
.
.

“เอ้า ชน!!”

เสียงแก้วกระทบกันไปมา ก่อนต่างคนจะกรอกน้ำสีอำพันในแก้วของตัวเองเข้าปาก แม้ว่าวันนี้จะไม่ครบองค์ประชุมเพราะขาดเพื่อเป๋ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนต้องอยู่ทำโอที แต่ก็พอจะชุ่มชื่นจิตใจกันบ้างด้วยเสี่ยอ่ำที่ถูกหวยหลายหมื่นบาทจะขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเพื่อนในค่ำคืนนี้ด้วยงบไม่เกินห้าพันบาท นับว่าใจป้ำจริงๆ สำหรับเสี่ยอ่ำ

“วันนี้มึงเดาดิ๊ว่าใครมาที่ออฟฟิศกู”   ไอ้โป้ยเริ่มเปิดเรื่องด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่มันกลับทำให้ผมที่รู้เรื่องดีอยู่แล้วถึงกับเซ็งขึ้นมาในทันที   “เจน่า! มึง เจน่ามาหาลูกพี่กูที่ออฟฟิศ”

“เจน่าไหนวะ”   ไอ้อ่ำตีหน้างง

“เจน่า ครอสไงไอ้เสี่ย”

“ไม่จริงน่า!!”   ไอ้เสี่ยอ่ำร้องเสียงหลง สีหน้าผิดหวังสุดฤทธิ์ประหนึ่งถูกหวยแล้วเจ้ามือตาย   “นางฟ้าของกู ทำไมๆๆ วันก่อนกูยังเพิ่งดูหนังสือของแม่เจ้าประคุณแก้เบื่ออยู่เลย”

 “มึงเอ๊ย~ อกเป็นอก เอวเป็นเอว ในหนังสือเป็นไงตัวจริงแม่งถอดแบบมาเด๊ะๆ สมแล้วที่กูทุ่มซื้อเก็บไว้ตั้งสองเล่ม”  หน้าโป้ยนี่ซาบซึ้งขั้นหนัก ระดับมันก็เอาไว้เก็บเล่มนึง ส่วนอีกเล่มก็คงเอาไว้แก้เบื่อเหมือนพวกผม

“ของมึงแค่สอง แต่ของกูนี่สาม กูแก้เบื่อหนักไปไงแม่ง เสือกเหนียวติดกันจนดูไม่ได้ต้องซื้อใหม่เลย”

“จัญไรมากอะไอ้อ่ำ”   ผมพ่นหัวเราะพรืดกับความหน้าด้านของเพื่อน มันใช่เรื่องที่ต้องเอามาบอกกันมั้ยมึง

เจน่ารู้คงดีใจตายห่าที่พวกผมใช้หนังสือรวมภาพเธออย่างคุ้มค่าขนาดนี้

“ว่าแต่เพื่อนลุงครับ”   ไอ้อ่ำมันส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยใส่ผมก่อนจะพยักพเยิดไปอีกด้าน   “มีนางหนึ่งมองมึงใหญ่เลย”

เมื่อผมหันไปตามคำชี้ชวน ก็เจอกลุ่มสาวๆ กำลังเฮฮาปาร์ตี้กันอยู่ หนึ่งในนั้นพอเห็นผมก็ทำหน้าเอียงอายให้แต่ยังคงสบตาสื่อความนัยให้อยู่ ก็น่ารักดีนะ ตัวเล็กสมกันดี ผมประบ่าแถมยิ้มหวานเสียด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนในยามโสดคงเข้าไปขอทำความรู้จักแล้ว แต่นี่ผมมีพันธะตัวเบ้อเริ่มจะให้เดินดุ่มๆ เข้าไปชวนคุยก็ใช่ที่

“ขอผ่านว่ะ ตอนนี้กูมีเมียแล้ว”

“ห๊ะ!!!”

สองเสียงประสานดัง สีหน้าอ่ำกับโป้ยนี่ตกใจกันอย่างเห็นได้ชัด พวกมันคงไม่ตกใจขนาดนี้ถ้าผมใช้คำว่า ‘แฟน’ เพราะเป็นอันรู้ว่ายังอยู่ในขั้นที่คบกันใสใส แต่ในเมื่อผมชี้ชัดลงไปแล้วว่าเป็น ‘เมีย’ นั่นหมายความว่าได้เสียกันเป็นที่เรียบร้อย ถ้าใช้คำว่า ‘คุยๆ กันอยู่’ คือแม่งมีอีกหลายคนเป็นตัวเลือกซึ่งเป็นคำที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มาก่อน กลุ่มผมมันแยกประเภทความสัมพันธ์กันแบบนี้แหละครับ

“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ? ทำไมกูไม่รู้”   ไอ้โป้ยออกแนวฮึดฮัดเล็กน้อย มันยอมไม่ค่อยได้ที่จะรู้รายละเอียดชีวิตผมช้าไปกว่าตัวผมเอง   “มึงเพิ่งเลิกกับแพรมันเองนะ”

“ใช่!!”   ไอ้อ่ำรีบสำทับ   “ถึงขนาดได้กันแล้วนี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ มึงไม่ใช่คนไวไฟขนาดนั้น”

“ถูกของไอ้อ่ำ เพราะขนาดผู้หญิงนอนให้ท่าบนเตียงมึงยังคิดว่าเขาง่วงนอนเลย”

ประจารกูเข้าไปไอ้พวกเวร!

“ก็วันนั้นกูเมา ก็เลยเผลอได้กันอ่ะ”   ผมอ้อมแอ้มสารภาพ พยายามบอกกว้างๆ ไม่ชี้ชัดว่าวันไหน   “ตื่นมาก็เสร็จไปแล้ว แถมยังบอกว่ากูทำแรงด้วยนะ ตั้งสองรอบเลยนะมึง”

“เชี่ย~ ไม่น่าเชื่อ”   เพื่ออ่ำครางด้วยสีหน้าก้ำกึ่งจะยอมรับ แต่ไอ้โป้ยเนี่ยสิ...มันกอดอกเขม่นมองผมเหมือนเพิ่งคิดอะไรได้   “พัทลุงแม่งโตแล้วเพื่อนโป้ย จากหนูแฮมสเตอร์กลายเป็นหนูแกซบี้แล้ว”

แล้วหนูมันเกี่ยวอะไรกันวะเสี่ย?

“หมายความว่ามึงเมา พอตื่นขึ้นมาก็ได้เมีย”   โป้ยที่นิ่งเงียบเอ่ยเสียงเรียบไล่เรียงเหตุการณ์   “เมียมึงคงไม่ใช่คนที่กูรู้จักใช่มั้ย?”

อีเชี่ย! จิตสัมผัสแม่งแรงจริงๆ   “ไม่อ่ะโป้ย มึงไม่รู้จักหรอก”

“แล้วมึงเอาคนไม่รู้จักกันมาเป็นเมียเนี่ยนะ”   ไอ้อ่ำรีบเสริม   “กรณีแบบนี้กูเห็นว่าน้ำแตกแล้วแยกทางจะเหมาะสมกว่าป่ะ”

“พ่อกูไม่ได้สอนให้กูเป็นคนอย่างนั้น”

“อันนี้ไม่ได้หลอกด่าพวกกูใช่มั้ย?”

“เปล่า แค่กูอยากแสดงความรับผิดชอบ”   ผมชี้แจงเหตุผลโดยหลบเลี่ยงการกล่าวอ้างถึงเมียนักกล้ามที่ป่านนี้คงกำลังกินหอยอร่อยเหาะไปแล้ว   “แล้วพอกูบอก เขาก็ยอมรับ ก็เลยคบกันแค่นั้นแหละ”

“ง่ายไปป่าววะ? ไม่ใช่ว่ามึงโดนผู้หญิงคนนั้นหลอกนะ”   เพื่ออ่ำยังสงสัยไม่เลิก แต่การตอบคำถามมันยังไม่น่าอึดอัดเท่าสายตาไอ้โป้ยที่มองมาอย่างจับผิด คล้ายกับว่ามันเชื่อมโยงบางอย่างได้และรู้โดยไม่ต้องคาดคั้นว่าผมปิดบังมันอยู่   “มันหลอกให้มึงซื้อของบ้างรึเปล่า? หรือขอเงินมึงบ้างมั้ย?”

“ไม่อ่ะ ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก คือเขาเป็นคนมีเงินน่ะ”

“จริงนะมึง”   ผมเริ่มซาบซึ้งกับความห่วงใยของอ่ำ มีเพื่อนน้อยแต่คุณภาพคับแก้วนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง   “มึงมันซื่ออ่ะลุง อย่าเพิ่งไปปักใจอะไรง่ายๆ นะเว่ย คนเพิ่งเจอกันมึงยังไม่รู้จักนิสัยเขาดีพอหรอก ขนาดอีแพรที่คบเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานพอเป็นแฟนได้ไม่เท่าไหร่ยังทิ้งมึงไปหาผัวใหม่ง่ายๆ เลย”

เกือบ...เกือบจะซึ้งอยู่แล้วเชียวไอ้หะเรี่ย!!

“มึงไปกินเหล้ากับใครวะ”   ไอ้โป้ยเริ่มคำถามอีกครั้ง

“เอ่อ...คนเดียวอ่ะมึง”

“เหรอ~ มึงแดกเหล้าคนเดียวได้ด้วย อืมๆ”   แล้วมันก็พยักหน้าทำทีเข้าใจ แต่เปล่าเลย! สายตามันบอกว่าไม่เชื่อผมสักนิด   “กูอยากเห็นหน้าเมียมึงจัง มีรูปมั้ย?”

“เออๆ กูก็อยากเห็น” 

เหงื่อกาฬเริ่มแตกพลั่กกับการเรียกร้องของเพื่อนทั้งสอง ถ้าดูจากรูปการแล้ว ไอ้อ่ำมันคงไหลไปตามกระแสไม่ได้คิดอะไรเท่าไหร่ แต่ไอ้โป้ยเนี่ยสิมันต้องมีบางอย่างอยู่ในใจแล้วแน่ๆ เหมือนอย่างที่ตอนนี้มันขอดูรูปเมียผมแต่สีหน้ามันไม่ได้ต้องการอยากรู้อยากเห็นเท่าไอ้อ่ำ มันแค่ลองเชิงผมดูเท่านั้น

“มันขี้อาย ไม่ชอบถ่ายรูป”   ผมตอบเลี่ยงๆ แล้วกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม เพื่อนโป้ยส่งเสียงหึขึ้นจมูกรับการแถของผมแล้วคงตัดสินใจปล่อยลูกหมาตาดำๆ ไปโดยการเปลี่ยนเรื่องคุย

ซึ่งเรื่องที่มันเริ่มก็ไม่ได้ห่างไกลจากตัวผมเลยสักนิด

“มึงได้ยินข่าวแพรรึเปล่า?”

“ได้ยินดิ ยังไงมันก็เพื่อนกัน”   อ่ำก็ตอบรับพร้อมสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ เรื่องอะไรกันวะ? ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องกับเขาบ้างเลย   “มันก็บ้าเนอะเชื่อผัวไม่ลืมหูลืมตา”

“เรื่องอะไรกันวะ?”   ผมอดสอดขึ้นมาไม่ไหว   “เอาจริงๆ นะกูเพิ่งรู้ด้วยซ้ำว่าแพรมันมีแฟนใหม่แล้ว”

“ซื่อจริงเพื่อนกู”   เพื่อนอ่ำตบบ่าผม แสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างที่สุด   “ข่าวแว่วมาว่าพอมันเลิกกับมึงปุ๊บ วันต่อมามันก็ควงกับอีกคนทันที”

อ๊าวไอ้แพร...หมายความว่าไงวะเนี่ย

“แฟนใหม่มันอ่ะเป็นลูกเจ้าของบริษัทที่มันทำอยู่ หล่อ รวย แต่เจ้าชู้ชิบหาย”   สายข่าวอ่ำเริ่มรายงาน   “กูได้ข่าวมาว่ามันมีกิ๊กไปทั่ว แต่ไอ้แพรมันก็หลงไม่ลืมหูลืมตาไง ใครเตือนมันก็ไม่ฟัง”

“แต่กูเลิกกับมันไปไม่เท่าไหร่เองนะ อะไรมันจะรักจะหลงกันเร็วปานนั้น”

“โลกมันหมุนไวอ่ะเพื่อนลุง”   ไอ้โป้ยหลิ่วตาให้ผม พร้อมกับเหยียดรอยยิ้มสื่อความนัยมาให้   “ขนาดมึงยังมีเมียใหม่แล้วเลย”

เกลียด! -- ผมเกลียดจิตสัมผัสของไอ้โป้ยที่สุด!

.
.
.

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
.
.
.

การทำงานอีกหนึ่งวันผ่านพ้นไปอย่างเงียบเชียบ

เหล่าพนักงานก็ยังตั้งอกตั้งใจกันทำงานเหมือนเดิม เว้นเสียแต่ว่าเจ้านายทั้งสองหายตัวไปพร้อมกัน ดาราอย่างพี่กรก็คงกำลังถ่ายละครตามวันที่ให้คิวไว้อย่างตั้งใจ ส่วนอีกคน...ผมไม่ได้รับข้อความจากพี่ปูนอีกเลยหลังจากที่เดินควงหายไปกับนางแบบดัง วันนี้ก็ไม่ได้โผล่หน้ามาที่ออฟฟิศด้วยซ้ำ

คงเพลิดเพลินกันอยู่ล่ะสิ

ผมโคลงหัวไล่ความคิดนั้นออกไปจากหัวสมอง เขาก็แค่เดินกอดกันแล้วหายไปข้ามวันแค่นั้นเอง อาจจะพากันไปกินอาหารทะเลไกลๆ หอยมันคงอวบใหญ่ถึงได้กินกันข้ามวัน...เท่านั้นเอง!

“เป็นไรวะ?”  คนข้างตัวสงเสียงถามด้วยความสงสัย ผมส่ายหัวไปมาแทนคำตอบพลางเก็บของยัดลงกระเป๋า แต่โป้ยมันก็ยังตื๊ออยู่นั่น  “กูเห็นมึงทำหน้าตูมตั้งแต่เช้าแล้ว งอนใครมา ป้าเหรอ?” 

“ผู้ชายเขาไม่งอนกันหรอกนะโป้ย”  ผมเถียงเสียงเข้ม ใครจะไปงอน! ผมไม่ได้งอนใคร!

“เพื่อนลุงครับ คบกันมาตั้งกี่ปีแล้ว”  ไอ้เปื้อนยื่นมือมาบิดแก้มผมเร็วๆ แต่ก็เจ็บจนต้องตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ  “เวลามึงงอนทีไร แก้มเนี่ย~”  คราวนี้ไอ้คนไม่รู้สึกรู้สาตั้งใจบีบเสียแทบช้ำ ผมเจ็บจนต้องปัดมือมันออกแรงๆ  “ตูมเป็นอึ่งอ่างพองลม”

“มึงมั่ว”

“แต่เวลามึงน้อยใจนะ ปากเนี่ยคว่ำจนน่าบิดเชียว”  แล้วมันก็บิดปากผมอีกครั้ง สีหน้าสนุกสนานเหลือเกินนะมึง

“เกลียดมึงอะวีรภาพ”  ผมโมโห แต่ก็ทำได้แต่จ้องหน้าเพื่อนนิ่ง ทำอะไรมันไม่ได้หรอก ผมไม่นิยมใช้ความรุนแรง

“เดี๋ยวกูทำปากคว่ำบ้างเลย”  มันยังล้อเลียนผมไม่เลิก

ผมแยกเขี้ยวให้ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดี แล้วหันกลับมาจัดการเก็บโต๊ะให้เรียบร้อย โป้ยมันก็เหมือนแม่กับป้านั่นแหละ ชอบแกล้งผมได้ตลอด อย่าให้ถึงคราวผมบ้างเถอะ!

“อ้าว พี่ปูน!”

มือที่กำลังยัดสมุดจดลงประเป๋าเป้ชะงักในทันที ผมพยายามทำใจให้สงบแต่ก็ยังไม่ได้หันกลับไป หูพลางตั้งใจฟังเสียงของเพื่อนกับเจ้าของชื่อที่อาจจะเพิ่งกลับจากการไปกินอาหารทะเลมา

“เข้ามาเอาของหรือครับ มาซะเย็นเลย”

“อื้ม นี่โป้ยกำลังจะกลับแล้วใช่มั้ย?”  เสียงพี่ปูนฟังดูปกติมาก มากเสียจนผมรู้สึกเจ็บยิบๆ ที่หน้าอกอีกแล้ว

“ครับ ว่าจะแวะกินข้าวกับลุงมันสักหน่อย -- อ้าวเห้ย! เก็บของเป็นชาติเลยนะเอ็ง หลับรึไง”

ผมล่ะเบื่อเพื่อนตัวเองจริงๆ

ในเมื่อหลบไม่ได้อีกต่อไป ก็จำต้องยืดตัวขึ้นมาจากลิ้นชัก ผมเป็นผู้ชายที่ผ่านการถูกทิ้งมาเจ็ดครั้ง ภูมิคุ้มกันผมหนาแน่นพอที่จะไม่ทำสีหน้าให้ตัวเองดูน่าสงสารสำหรับอีกฝ่าย ในเมื่อพี่ปูนทำตัวปกติได้ ผมก็จะปกติให้เหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“ดีพี่”  ผมยกมือไหว้ คนตัวสูงตรงหน้าไม่ยิ้มตอบ ไม่รับไหว้ ผมก็ทำแค่ยักไหล่ไม่หาความ พยายามไม่สนใจด้วยว่าเสื้อผ้าที่พี่ปูนใส่อยู่จะเป็นชุดเดียวกับเมื่อวาน เอาจริงๆ คือผมไม่เหลือบไปมองพี่ปูนอีกเลยต่างหาก

“งั้นพวกผมไปแล้วนะพี่”  โป้ยปิดบทสนทนา มันลุกขึ้นยืนก่อนแล้วค่อยสะกิดให้ผมลุกตาม เมื่อเดินอ้อมโต๊ะมาเจอกันได้ มันก็วาดมือคล้องไหล่ผมทันที ผมที่ขี้เกียจจะผลักไสมันก็เลยยอมเดินแนบชิดปานจะกลืนกินกันไป

“เดี๋ยว!”  คนเบื้องหลังรั้งจะหวะก้าวเท้าของพวกผมไว้ด้วยเสียงเข้มต่ำ เราหยุดเดินแล้วหันไปมองพี่ปูนพร้อมกัน  “พี่ลืมไปว่ามีงานด่วนต้องบรีฟกับลุง”

ผมทำหน้างงใส่เป็นจังหวะเดียวกับเสียงพ่นลมทางจมูกของโป้ยเกิดขึ้นเบาๆ

“งานอะไรอะพี่ ด่วนเลยเหรอ?” 

“ด่วนมาก”  พี่ปูนตอบย้ำในคำถาม ผมถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง เกลียดงานด่วนจริงๆ โว้ย! แล้วทำไมต้องมาเอาตอนแบบนี้ด้วยวะ

“งั้นมึงกลับไปก่อน”  ผมเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกกับคนที่แนบแน่นกันอยู่

“ได้ไง ไหนบอกว่าวันนี้จะไปนอนกับกู”  โป้ยก็แสนดีก้มหน้าลงมารับการสนทนา แต่เฮ้ย! ตกลงกันไปเมื่อไหร่วะ แค่ไอ้เรื่องจะไปกินข้าวนี่มึงยังไม่ได้ถามกูด้วยซ้ำ

“งั้นมึงกลับไปรอที่บ้าน”

“ก็บอกอยู่ว่าจะไปกินข้าวก่อนกลับ”  ไม่ว่าเปล่า ดันทะลึ่งเอานิ้วมาฉกแก้มผมอีกแล้ว

“วีรภาพ!” 

พวกผมคล้ายจะลืมพี่ปูนไปเสียสนิท ดีที่รังสีแปลกๆ มันพุ่งเข้าใส่จนผมต้องหันไปมอง คนตัวโตยืนตัวตรง กอดอกจ้องตาเขม็ง  “จะมาได้รึยังพัทลุง”

“ครับๆ”  ผมตอบรับเสียงหน่าย พลิกตัวออกมาจากวงแขนเพื่อนพร้อมกับบอกมันไปด้วย  “จะรอก็ตามใจนะมึง ถ้านานอย่าบ่นให้ได้ยินนะ”

“โป้ยกลับไปก่อนดีกว่า พี่จะได้บรีฟสบายๆ ไม่ต้องรีบ”  พี่ปูนสวนขึ้น

“ตามสบายเลยพี่ ผมรอได้”  โป้ยเน้นคำ

มันชักจะแปลกไปใหญ่แล้ว สองสายตาจ้องสบกันข้ามหัวผมแทบจะได้ยินเสียงปะทะกันเปรี๊ยะๆ มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกพี่กับลูกน้องคู่นี้กันหว่า จ้องอย่างกะจะฟาดปากกัน แต่ถ้าให้คะเนแล้ว เพื่อนโป้ยของผมคงร่วงแพ้น็อคไปแน่ มันสูงอยู่หรอก แต่หุ่นหนาแค่ครึ่งของพี่ปูนเท่านั้นเอง

“มึงมีเรื่องอะไรกับพี่ปูนป่าววะ?”  ผมยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูมัน พยายามบีบเสียงให้แค่เราสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน เพื่อนโป้ยหันมายิ้มกริ่มให้ผม แล้วทำท่าเดียวกันบ้าง เพียงแต่มันต้องโน้มหัวลงมาถึงจะเจอหูผม

“ไม่เสือกดิครับ”

ผมทุบอกมันแรงๆ อย่างหมั่นไส้

“ตามน้ำเข้าใจนะ กูพูดอะไรก็ออเออไป”

“อะไรวะ? อึ๊!!!”

ไอ้เชี่ยโป้ย! มันหอมแก้มผมดังฟอดเลย สันขวานจริงๆ ขนกูลุกไปทั้งตัวแล้วเนี่ย แล้วยังมีหน้าอมยิ้มกลับมากระซิบผมต่ออีก

“ทำไมกูถึงได้มีเพื่อนทั้งโง่ทั้งซื่อแบบมึงว้า...มึงเป็นซะอย่างนี้เลยตามใครไม่ทัน”

อะไรของมึ๊ง!!??

“พัทลุง!”

ไอ้นี่ก็หน้าเข้มเหลือเกิน ไม่ตรงเข้ามาแดกหัวไอ้โป้ยเลยล่ะ!

“โป้ยนั่งรอข้างล่างนะลุง”  มันว่าจบก็ผลักผมไปข้างหน้า แล้วตัวมันก็ผิวปากหวือลงบันไดไป

ผมที่ยืนมองแผ่นหลังเพื่อนด้วยความงุนงงได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีอันเซแทดๆ ไปตามแรงดึงมหาศาลของหมีควายตกมัน พี่ปูนลากผมเข้าไปในห้องทำงาน แล้วจัดการเหวี่ยงผมลงบนโซฟาตัวเล็กติดกำแพง เสียงล็อกประตูดังขึ้นจังหวะเดียวกับที่ผมตะกายขึ้นมานั่งด้วยความโมโห

“ทำบ้าอะไรของพี่วะ!!”  ผมตวาดเสียงดัง แต่คนตรงหน้ากลับพุ่งเข้าใส่ผมจนล้มลงไปอีกครั้ง บนโซฟาขนาดกะทัดรัด ผมถูกน้ำหนักของอีกฝ่ายกดทับลงมาจนหายใจไม่สะดวก  “ปล่อยนะพี่ปูน!”

แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหนก็ฝืนแรงของคนตัวใหญ่ไม่ได้ พี่ปูนนอนทับแน่นิ่ง โอดรัดตัวผมไว้เหมือนงูเหลือมขนาดยักษ์ ฝังใบหน้าหล่อเหลากับซอกคอ ปล่อยให้ลมหายใจรินรดเนิ่นนานจนผิวบริเวณนั้นร้อนผ่าวคละคลุ้งไปกับกลิ่นเหล้าที่โชยออกมา

มันไม่ใช่ท่วงท่าที่สะดวกสบายเอาเสียเลยแต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มการสนทนายังไง นอกจากจะงงกับเพื่อนแล้ว ยังต้องมางงกับพฤติกรรมของเมียตัวเองอีก มันเกิดอะไรขึ้นกันวะ? ไม่ใช่ว่าไปเริงร่ากับนางแบบหุ่นสะบึมมารึไงกัน ควรจะแฮปปี้หลั่นล้าไม่ใช่รึไง ถ้าเป็นผมนะคงเหมือนได้โบยบินขึ้นสวรรค์ฟินไปสามวันเจ็ดวันต่อเนื่องแน่

“พี่ไปนอนกับคนอื่นมา”

กูว่าแล้วเชียว... ไหนว่าอยากเป็นทูนหัวของผมไง

เชี่ยเอ๊ย!! มันใช่เรื่องที่ต้องมาสารภาพบาปกับผัวตัวเองเรอะ

“อ๊าก!”  ผมร้องเสียงดังจนคนนอนทับสะดุ้งโหยง เมื่อควบคุมสติได้แล้ว ผมก็พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง พ่อสอนเสมอว่าเวลาโกรธใครต้องใช้สติให้มาก เวลาทะเลาะกันยิ่งต้องห้ามปากตัวเองให้ได้ ผลที่เกิดย่อมมาจากเหตุของแต่ละฝ่าย ถ้าเราทำความเข้าใจได้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

แต่ตอนนี้ผมโกรธ

ถึงผมจะนับถือพุทธ แต่ผมกลับชอบเรื่องการสารภาพบาป ผมว่ามันเป็นหนึ่งในกระบวนการยอมรับผิดต่อตัวเอง ถึงบาปนั้นมันจะไม่ลดน้อยลง แต่เราได้ระลึกในสิ่งไม่ดีที่ทำ ได้จำนนต่อจิตสำนึกของตัวเองว่าที่ทำไปนั้นคือความผิด มันเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ยไม่รู้? แต่อย่างน้อยพี่ปูนก็สารภาพความจริงนั้นออกมา ผมชอบคนที่กล้าทำก็กล้ายอมรับ ผมชอบฟังความจริงจากปากเจ้าตัวมากกว่าฟังจากปากของบุคคลที่สามสี่ห้า แต่ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บหรอกนะ ...เจ็บอย่างน่าใจหายเลยล่ะ

“ลุง...”

“ยังไม่อยากฟังอะ ไม่ต้องพูดหรอก ยังไม่ต้องบอกอะไรด้วย”  ผมว่าตัวเองกำลังอยู่ในอาการของคนรับความจริงไม่ได้ แค่หัวเรื่องก็หนักพอดูแล้วไม่ต้องมาแจกแจงหัวข้อย่อยตอนนี้หรอก

“แค่ครั้งนี้ จะไม่มีอีกแล้ว”  พี่ปูนยังไม่ยอมหยุด มันพูดอู้อี้อยู่กับคอผม  “อย่าเกลียดพี่นะ”

“บอกว่าไม่ต้องพูดอะไรไง”  ผมบอกเสียงเครียด พี่ปูนนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ อยู่กับซอกคอผมเหมือนเดิม  “ลุกมาคุยกันดีดีเหอะ หลอกผมใช่มั้ยเรื่องว่าจะมาบรีฟงานน่ะ”

หมีควายก็ยังพยักหน้าท่าเดิม แต่ไม่ยอมกระดุกกระดิกไปไหน เอาวะ! ไหนๆ ก็ตัวเริ่มชาแล้ว คุยยาวไปเลยแล้วกัน

“จบกันดีป่าว”  ผมเริ่มพูดด้วยเสียงไร้อารมณ์ ไอ้ควายข้างบนตัวเกร็งขึ้นทันที แต่มันก็ยังเงียบฟังหากแรงรัดนั้นกลับมากขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บ  “ก็ผมขอคบพี่เพราะเรื่องคืนนั้นใช่มั้ย? แต่พี่กับผมไม่ได้รักกันสักหน่อย มันก็เข้าใจได้อะนะถ้าพี่จะมีผู้หญิงที่ติดพันอยู่ แต่ผมน่ะต่อให้ยังไม่ได้รัก ก็ถือเรื่องซื่อสัตย์เอามากๆ นะพี่”

พี่ปูนเพิ่มแรงวงแขนจนผมต้องร้องประท้วง เมื่อแรงรัดคลายลงผมก็เริ่มพูดต่อ  “พี่เป็นผู้ชายแถมหล่อด้วย จะให้มาเป็นเมียของผมคนเดียวมันก็น่าสงสารไปหน่อย แต่ผมก็ไม่นิยมแนวฮาเร็มเหมือนกันอะ”

“ไม่มีอีกแล้วจริงๆ สาบานเลย”  เสียงอู้อี้เช่นเดิมโต้ตอบกลับมา

“การสาบานมันไร้สาระว่ะพี่ มันเป็นนามธรรมเชื่อถือไม่ได้ เพื่อนผมยกมือสาบานกันปาวๆ แต่พอฝนตกฟ้าร้องก็เห็นเดินกันสบาย ไม่เห็นฟ้าผ่าพวกแม่งตายห่ากันสักคน”

พี่ปูนนิ่งเงียบไป

“ผมไม่อยากก้าวก่ายชีวิตพี่ ยิ่งไปปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใครผมยิ่งไม่อยากทำ จริงๆ นะ ผมว่าเราหยุดแค่นี้ดีกว่า”

ผมเงียบไปเช่นกัน หัวใจผมยังเต้นทั้งๆ ที่ยังเจ็บระบม พอเท่ามันน่าจะดีที่สุด...ก่อนที่....ก่อนที่ผมจะชอบพี่มากไปกว่านี้... ก่อนที่หัวใจผมจะยังเต้นแต่เจ็บหนักกว่าเดิม

ผมยู่หน้าให้กับบรรยากาศอึมครึม จริงหรือวะเนี่ยพัทลุง ว่าสุดท้ายแล้วมึงก็เหมือนคนอื่นๆ ที่หลงเสน่ห์พี่ปูนเข้าจนได้... นั่นสินะ ถ้าไม่ชอบ ถ้าไม่รู้สึกอะไร หัวใจผมมันจะรู้สึกขนาดนี้ได้ยังไง

“ไม่เลิก” 

“แล้วพี่จะให้ผมทำไง”  ผมขมวดคิ้วให้กับหลังหูของคนดื้อดึง  “จะให้ร้องด่า โมโหทุบตีพี่เหรอ ผมทำไม่เป็นหรอกนะ”  บ้านผมไม่สนับสนุนเรื่องการใช้กำลัง แต่ไม่ใช่ว่าเกิดมาจะไม่เคยโดนตีนะ แต่พ่อสอนไว้ว่าห้ามใช้กำลังโดยไม่มีเหตุผล ปัญญาชนต้องแก้ปัญหาด้วยสติ

“อย่าเลิก...ไม่เอา”

เสียงถอนหายใจดังขึ้น และความเงียบช่วยขับให้มันดังก้องกว่าเดิม

พี่ปูนยืนยันความต้องการชัดเจน หมายความว่าผมคือผู้ตัดสินใจชี้ขาดในเรื่องนี้ ท่ามกลางความเงียบที่ครอบคลุมห้องทำงานอบอ้าวนี้อยู่ ผมหลับตาลง ใคร่ครวญทุกอย่างในหัวเงียบๆ พี่ปูนนอกใจผม แต่จะเรียกว่านอกใจได้รึเปล่า? เอาเป็นว่า เมียผมนอกกายไปกับผู้หญิงแล้วกัน แน่นอนว่าผมเสียใจแล้วก็เจ็บที่ใจ แต่สติของผมนั้นกลับเข้าใจ มันกล่อมสมองผมว่าพี่ปูนยังใหม่นักกับการเป็นเมียใคร ผมควรให้เวลาพี่ปูนปรับตัว แต่หัวใจผมมันก็บอกสมองว่ามันรับไม่ได้ แล้วต่อไปผมจะเชื่อใจพี่ปูนอีกได้ยังไง ผมไม่ชอบการระแวงใคร แต่ถ้าอนาคตผมเห็นพี่ปูนหายไปกับผู้หญิงคนไหนอีกผมก็คงต้องคิดมากแม้ว่าความจริงจะไม่มีอะไร

แล้วผมก็ถามตัวเอง... ถามตัวตนข้างใน ถามว่าพัทลุงรับได้มั้ยถ้าจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง พี่ปูนมีค่าพอให้ผมรีเซ็ตทุกอย่างหรือไม่ สำคัญมากพอที่จะหยุดความเสียใจแล้วเดินต่อไปข้างหน้าได้หรือเปล่า ผมไม่เคยต้องมาเผชิญกับความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่เคยต้องบอกเลิกใคร...และก็ไม่มีใครเคยขอหรือให้โอกาสผมแก้ตัวเหมือนกัน

ผมบอกสติ ว่านี่จะเป็นการเข้าใจครั้งสุดท้าย พี่ปูนใช้เวลาปรับตัวหมดไปแล้ว

ผมบอกหัวใจ ต่อให้อนาคตจะต้องมีเรื่องให้ระแวงแค่ไหน แต่สติคงจะช่วยให้หัวใจผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ผมบอกกับตัวเอง ผู้ชายคนนี้ยังมีค่า ยังเหลือความสำคัญมากพอให้ผมใส่ใจ

ใช่ว่าทุกคนที่ทำผิดจะต้องได้รับแต่ความผิดหวัง โอกาสของพี่ปูนคือความกล้าที่จะยอมรับในความผิดที่ทำ   


“โอเค...ไม่เลิกก็ไม่เลิก”  ผมอาจจะยอมแพ้ง่ายไปนิด แต่เอาน่า ทุกความสัมพันธ์ย่อมมีจุดสิ้นสุด แต่ทุกคนควรได้โอกาสแก้ตัว  “ลุกขึ้นมาคุยกันได้แล้ว”

คราวนี้ของหนักเริ่มขยับเขยื้อนออกไปพลอยให้รู้สึกโล่งเหมือนร่างมันเบาหวิวขึ้นมา พี่ปูนลุกขึ้นนั่งเชื่องช้า กระเถิบตัวเว้นระยะให้ผมได้ลุกขึ้นนั่งบ้าง เรานั่งห่างกันเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในท่วงท่าที่หันหน้าเข้าหากัน และเป็นครั้งแรกของวันที่ผมมองหน้าพี่ปูนแบบเต็มตา

อืม...หล่อโคตร แต่ก็โทรมมากเช่นกัน

“อธิบายมาดิ”

พี่ปูนหลบสายตาอย่างที่ไม่เคยทำ เม้มริมฝีปากบางไปมาคล้ายกระอักกระอวลใจไม่น้อย แต่ก็เริ่มพูดขึ้น  “กับเจน่า มันเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน”

“พี่ขายตัวให้เธอเหรอ?”  ผมอุทานด้วยความตกใจ

“ไม่ใช่”   มันมองผมแบบละเหี่ยใจเล็กน้อยก่อนจะเริ่มพูดต่อไป  “มันเป็นเรื่องเซ็กส์ที่เข้ากันได้ ไม่มีค่าตอบแทนอะไรที่ต้องเสีย ไม่เรื่องมาก ไม่ต้องประดิษฐ์คำพูดหรือรักษามารยาทใส่กัน เริ่มบนเตียงแล้วก็จบลงบนเตียงแค่นั้น”

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเม้มปากแน่น พี่ปูนชำเลืองมองผมเล็กน้อยพลางยื่นฝ่ามือหนาสองข้างมารวบกุมมือผมเอาไว้

“ค่อนข้างหลายปี มันนานกว่าใคร...ก็เลย...”

“มีคนอื่นด้วย?”  ผมพยายามห้ามเสียงตัวเองไม่ให้ขึ้นสูง พี่ปูนส่ายหน้าเลิ่กลั่กคล้ายเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดปากออกมา

“ไม่มีแล้ว จบกับทุกคนแล้ว แต่...แต่เจน่าไม่เหมือนคนอื่น แบบว่าความสัมพันธ์ไม่ได้อยู่ในข่ายซื้อขายน่ะ พอพี่ปฏิเสธมากเข้าก็เลยโมโหจนมาหาพี่ถึงนี่ พอบอกว่าอยากเลิกก็เลยโดนตบ”

มิน่าเมื่อวานเพื่อนโป้ยถึงได้พูดว่าแก้มพี่ปูนมีรอยมือ ผมพอเข้าใจแม้จะได้เจอกับนางแบบดังคนนั้นแค่แป๊บเดียว สวยและหยิ่งขนาดนั้นคงรับการถูกทิ้งไม่ได้

“เธอคงชอบพี่มาก”

“ไม่เลยสักนิด”  พี่ปูนบอกเสียงชัดหนักแน่น  “เจน่าเป็นคนมีอีโก้สูง พี่เหมือนไปสะกิดจุดนั้นเธอก็เลยไม่พอใจ เธอเป็นผู้หญิงชอบควบคุม มันก็ใช่ที่ว่าความสัมพันธ์ที่มีคือความเท่าเทียม แต่พี่รู้ว่าถ้าปฏิเสธไป ผู้หญิงคนนั้นต้องไม่ยอมจบแน่ พี่คิดง่ายๆ ว่าแค่ครั้งสุดท้าย แต่ว่ามัน...เป็นครั้งแรกที่พี่รู้สึกผิดต่อใครมากขนาดนี้ ”

“...แล้วพี่รักเธอรึเปล่า?”

“ไม่มีวัน”  ชัดเจนยิ่งกว่า  “ถ้าไม่ใช่เรื่องเซ็กส์ พี่คงทนคนแบบนั้นไม่ได้หรอก มันเหมือนกันเกินไป”

“แล้ว...เธอยอมเหรอ แบบว่า ที่พี่ถอยห่างออกมาน่ะ”

“เมื่อวานเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ เจน่าคิดว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมเมื่อได้ทำกัน แต่ผลมันออกมาว่าไม่ใช่ ป่านนี้ก็คงหงุดหงิดกับการหาคนใหม่อยู่”  พี่ปูนหน้าหด สลดลงอีกครั้ง

“ใส่ถุงยางรึเปล่า?”

“พี่มีสติทุกครั้ง ใส่ตลอดไม่ว่ากับใคร”

ผมถอนหายใจออกมายาวเหยียด ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองต้องมานั่งรับรู้ชีวิตเซ็กส์ของเมียมาก่อน การมีเมียเป็นผู้ชายนี่มันช่างเปิดโลกทัศน์ของผมเหลือเกิน

“แต่พี่ไม่เสร็จนะ”  เสียงเดิมยังอ้อมแอ้มพูดต่อ ผมจ้องคนตรงหน้าด้วยความฉงน พี่ปูนเหลือบมองผมแล้วหลุบตาต่ำลงทันทีด้วยความขัดเขิน ริ้วสีแดงเจือจางอยู่บนสองแก้มของหมีควายตัวใหญ่


คนเราถ้าทำท่าถึงขนาดนี้ มันก็ดูน่ารักได้เหมือนกันนะ


 “พี่อยากรีบทำให้มันจบไป เอาจริงๆ แล้วมันไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่”  พี่ปูนก้มหน้าด้วยความอับอาย ผมก็อยากจะอมยิ้มอะนะ แต่เรื่องมันเครียดจนทำไม่ได้  “ทำได้แป๊บเดียวทางนั้นเขาก็ไม่พอใจ ตบพี่อีกรอบแล้วก็ลาขาดกันเลย”

ผมอยากจะบอกพี่ปูนว่าไม่ต้องแจกจางรายละเอียดก็ได้ แต่ก็เงียบไว้ปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูดต่อไป ถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ผมควรจะต้องฟังผมก็จะยอมฟังเงียบๆ

“พี่รู้สึกผิด ผิดมากจริงๆ หน้าลุงมันลอยมาเลย รู้สึกไม่ดีมากๆ”  พี่ปูนหน้าสลดอีกครั้ง  “พอเจน่ากลับไป พี่ก็สั่งเหล้าขึ้นมาดื่ม แล้วพอรู้สึกตัวตื่นขึ้นพี่ก็รีบมาที่นี่”

ท่าจะดื่มไปเยอะมาก กลิ่นละมุดหึ่งไปทั้งตัว แม้แต่ปากยังมีแต่กลิ่นเหล้า

“ความจริงพี่อยากจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่ทำได้นะ กับคนอื่นที่คบผ่านๆ พี่ก็ยังเก็บเจน่าไว้อยู่ แต่มันไม่เหมือนกัน...ลุงไม่ใช่คนพวกนั้น พี่รู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี แต่พี่ไม่อยากเลวในสายตาลุง” 

ผมมองหน้าพี่ปูนอีกครั้ง เซ็กซี่กายแห่งปีกลายร่างเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ หน้าโทรม ใต้ตาดำคล้ำ สังเกตดีๆ ก็เห็นตอหนวดขึ้นตามแนวคาง ผมที่เคยเซ็ตอย่างดีก็ฟูฟ่องยุ่งเหยิง แม้แต่เสื้อราคาแพงก็ยังยับยู่ยี่

ถึงผมจะยังไม่กล้าถามว่าพี่ปูนรักชอบผมบ้างหรือไม่ แต่จากที่เห็น...อย่างน้อย ผมก็ยังมีความสำคัญ

“เริ่มกันใหม่นะพี่ปูน” 

พี่ปูนเงยหน้ามองผมในทันที นัยน์ตาดำขลับวาวโรจน์ขึ้นมา  “จริงนะ”

“แต่ถ้าพี่นอกใจ หรือนอกกายผมอีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น...พี่จะเป็นได้แค่คนแปลกหน้าสำหรับผมทันที”

“...........”

“และผมไม่ขอคำสัญญาอะไรด้วย ผมเป็นคนง่ายๆ นะพี่ อยากเลิกก็บอก ทนไม่ไหวก็พูดออกมา ผมไม่ร้องไห้ตีโพยตีพายหรอก เพราะผมก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน”

“ลุงหล่อว่ะ”  พี่ปูนยิ้มน้อยๆ

“อยากได้ยินมานานแล้วคำเนี้ย”  ผมยิ้มออกมาบ้าง ภูเขาในอกมันอันตรธารหายไปหมด แต่ก็ยังทิ้งเศษหลงเหลือรบกวนจิตใจไว้บ้าง ผมได้แต่หวังให้ลมพัดหอบมันลอยหายไปเร็วๆ เพราะเมื่อผมตัดสินใจจะเริ่มใหม่ ทุกอย่างที่ผ่านมาจะต้องเป็นเพียงอดีตที่ไม่จำเป็นต้องไปจดจำ

“จูบได้มั้ย?”

“ปากเหม็น ผมไม่จูบด้วยหรอก”  ผมผลักหน้าที่กำลังยื่นมาหาออก พลางอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวลุกขึ้นยืนทันที  “ในเมื่อบรีฟเสร็จแล้ว ผมก็จะกลับล่ะ”

“ไปค้างกับพี่ไม่ได้เหรอ?”

“คงไม่ได้หรอก วันนี้โป้ยจองตัวผมไว้แล้ว”

“พี่ไม่!...”  พี่ปูนชะงักปากกลางคัน เค้าความไม่สบายใจฉายอยู่บนใบหน้า แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาส่งยิ้มเครียดให้ผมแทน  “ไว้วันอื่นก็ได้”

“โอเค”  ผมตอบตกลง โบกมือบ๊ายบายเจ้าของห้อง แล้วเปิดประตูออกมาทันที

เมื่อลงบันไดมาถึงพื้น ผมก็เริ่มมองหาเพื่อนรัก แล้วก็เจอโป้ยนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่แถวโซนรับรอง ดูท่าจะเล่นเกมส์ออนไลน์ที่มันชอบ สีหน้าเมามันมาก ขนาดผมเดินเข้าไปใกล้มันยังทำแค่ส่งเสียทัก

“แป๊บมึง บอสใกล้ตายห่าแล้ว”

ผมก็เลยจำต้องนั่งลงข้างๆ มัน ชะโงกหัวเข้าใกล้เพื่อดูความเป็นไป ไอ้ตัวผมที่ไม่ได้มาสายนี้ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไงถึงไหน ได้แต่มองนิ้วเพื่อนโป้ยขยับรัวเร็วอยู่บนหน้าจอมือถือ

“งานใหญ่มั้ยล่ะมึง บรีฟกันซะนานเชียว”  มันเหยียดยิ้มให้กับหน้าจอ ผมเห็นจังหวะมาถึงก็ไม่ปล่อยให้มันผ่านเลยไป จับไหล่เพื่อนเป็นหลักค้ำไว้ แล้วยื่นหน้าไปกัดแก้มมันทันที ไอ้โป้ยร้องโหยหวนเกือบทำโทรศัพท์ตกพื้นกันเลยทีเดียว

“เชี่ยลุง!”  มันรีบยกหลังมือขึ้นปาดน้ำลาย ผมมองรอยฟันบนแก้มเพื่อนอย่างสะใจ ชอบหยิกแก้มกูนัก เป็นไงล่ะมึงกูทบต้นทบดอกให้เลย  “ไอ้ห่า กูตายเลย”  มันครางเสียงหลงเมื่อยกมือถือขึ้นดู

ไอ้เพื่อนชั่วผลักหัวผมแรงๆ แล้วลุกขึ้นยืนพลางเก็บมือถือลงกระเป๋า มันดึงตัวผมขึ้นมาด้วยพร้อมกับประเคนสันมือลงบนหัวผมเป็นการเรียกน้ำย่อย

“ตอนแรกกะว่าจะพาไปแดกอาหารดีๆ แต่กูเปลี่ยนใจแล้ว”  คนพูดยิ้มโฉดขึ้นมา  “กลับไปทำกับข้าวให้กูกินเลย ขอแบบดีที่สุดเท่าที่ฝีมือครัวกากๆ ของมึงจะทำได้”

หนอย! นี่มันดูถูกกันชัดๆ

“จัดไปเลยวีรภาพ มึงได้รับประทานอาหารเหลาฝีมือลุงแน่”

“เอ้า! รอช้าทำไมล่ะวะ”  โป้ยกลั้นยิ้ม ส่งเสียงฮึกเหิม

“ไป!! กูจะถลุงตู้เย็นบ้านมึงให้แหก เหมือนวันนี้มึงจะได้แดกเป็นมื้อสุดท้ายเลย”

ไอ้โป้ยปล่อยก๊าก แล้วเราก็กอดคอพากันเดินออกไปยังลานจอดรถ

.
.
.

ไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่า...มีสายตาหนึ่งคู่แอบมองอยู่ด้วยความหวั่นไหว


 

_________________________________________________________________



อุ้ยๆๆ สมภารทำตัวไม่ดีเลย
ด่าเฮียแล้วก็ให้อภัยเฮียแกเถิด เฮียแกไม่เคยคบใคร

ตอนต่อไปพบกับ...ชีวิตของสมภารใจร้าย...ที่ทุกคนเรียกร้อง (เหรอ?)

ขอบคุณที่เข้ามาติดตามและคอมเมนต์กันนะคะ

L@DY MELLOW

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หึหึ เสร็จแน่สมภาร โดนจับได้ซะแล้ว
รอดูว่าพ่อโป้ยจะกันท่ายังไง 5555
 :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด