◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 301795 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โป๊ยมันร้ายยนะ จะแกล้งพี่ปูน แต่ใช้ลุงเป็นเครื่องมือเนี่ย ไม่สงสารเพื่อนบ้างเลยหรือ
แต่ก็ดีใจด้วยนะ ที่ลงเอยกับพี่กรด้วยดี หลังจากเก็บไว้ในใจมาตั้งนาน
 :a5:
ห๊ะ ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ คงต้องคิดถึงลุงแน่นอน เนี่ยยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีปลูกแตงร้านเท่าไหร่ จะจบซะแล้ว อิอิิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เอ็นดูคุณพ่อโป้ยอยากได้ลุงเป็นสะใภ้

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
โอ้ยยยยย ไม่อยากคิดถึงสภาพของคุณลุง
ไม่รู้ว่าคุณปุริมจะ....ขนาดไหน
อ๋อยยยย

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ทำไมถึงทำกับลุงได้ 555555
หนูลูกสงสาร

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อย่าทำพัทลุงงงงงงงงง
อยากรู้ว่าพี่ปูนจะรู้ทันมั้ย 55555555

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก
 :-[

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อีโป้ยเลวมากแกล้งเพื่อน555555

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อิเพื่อนเลวววววววว

ลุงจะลาป่วยก่วันดี?

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โป้ย........... ไอ้เพื่อนตัวร้าย ตัวแสบ  :z6: :z6: :z6:
ยังไงๆ ลุงก็ซื่อ ตามไม่ทันเพื่อนโป้ย เอิ่มมม.....เพื่อนทุกคนน่ะแหละ   :really2: :เฮ้อ:  :serius2:
พี่ปูน โดนโป้ยเอาคืนซะและ  :m20: :laugh:
แต่ลุงนี่สิ จะโดนเอาคืนหนักกว่าใคร   :z1: :pighaun: :haun4:
มันน่าให้โป้ย โดนพี่กร รุกคืนบ้างนะเนี่ย  :laugh: :m20:
       :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
โป้ยนี่ชอบแกล้งลุงจริงนะเนี่ย ใครได้ประโยชน์ในเรื่องนี้มากสุดก็ต้องโป้ยแหละรู้เรื่องของทุกคนจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ได้กินซะทีนะโป๊ยยย  :z1:

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
โป้ยแกล้งลุงทำไมมม55555555555555

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
อิโป้ยอิเพื่อนเลวววว แกล้งลุงให้ตายคาเตียงชัดๆ 5555555

ว่าพี่ปูนหื่นกาม ตัวเองน้อยที่ไหน ฟาดพี่กรคาเตียง อิโป้ยแกมันร้ายยย  :z1:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มีแต่คนแกล้งลุงอ่าอย่า :hao7:
จะจบแล้วๆๆ รอจ้า

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รอเล่มเลยเนี่ย ขอตอนพิเศษใส่ไข่เยอะๆๆๆๆๆ เลยนะคับ พรีออเดอร์ด่วนๆๆๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อารมณ์นี้ กร คือ ฟีลบอบบาง ฟีลน่าเอ็นดูมาเต็มมากค่ะ
น่ารัก ตลอดมามีแต่โป้ยมาตลอด ไม่แลใครเลย
โป้ยก็บ้าบอ สมใจแล้วทีนี้ แถมได้ความรักที่มั่นคงมานาน

แล้วอะไร ไปแกล้งลุงทำไม ระวังปูนเอาคืนหนักกว่าเดิมนะ

เอ็นดูลุง ทำไมซื่อแบบนี้ไปได้นะ ดูไม่ออกเลยหรอคนเรา
ชอบความลุงเอ็นดูปูนน่ะ ใส่ใจมาก และทำให้ปูนเป็นผู้เป็นคน

ปูนคะ ลุงต้องยังทำงานเนาะ ยังต้องลุกจากเตียงบ้างไรบ้างเนาะ
ไม่ต้องทำเหมือนกับอดยากหนักมาก และอย่าลืมเอาคืนโป้ยนะ

ใกล้จบแล้ว ยังคิดถึงความลุงอยู่เลยค่ะ จบไปมีเหงาน่ะ

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อดีตพี่ปูนโหดร้ายสำหรับเราที่อ่านนิยายมา4-5ปีมากมากที่สุด ความรู้สึกที่ไม่มีใครักนี่มันเจ่บปวดนะ อุแงงโชคดีของพี่ปูนมากๆที่มาเจอลุง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รอ ..........  :z3: :z3: :z3:
ให้พี่ปูนเอาคืนโป้ย หนักๆ  :z6:
แบบให้พี่กรไปทำงานไกลๆ เป็นเดือนๆ
แล้วพี่ปูนก็พาลุงไปเที่ยวรอบโลกซะเลย  :impress2:
ให้โป้ยงุ่นง่าน หงุดหงิด ห่างทั้งพี่กร ไม่มีลุงมาเป็นเพื่อนคุย กร๊ากกกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่ปูน  ลุง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
น่ารักจังเลย ชอบทัศนคติของลุงมากๆ
ความรักที่ใช้ทั้งใจและสมอง ดีจัง
ถึงจะเป็นคนคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อย 55555
รอติดตามตอนจบน้าาา
สู้ๆน้าคนเขียน  :กอด1:

ออฟไลน์ Fujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
โอ้ยฟินไปเลยจ้า เจ้าลุงก็ยังเป็นกระต่ายน้อยให้เพื่อนโป้ยใช้แกล้งพี่ปูนได้ต่อไปเรื่อยๆไม่อยากนึกสภาพลุงหลังจากไม่ให้พี่ปูนกอดนานเป็นเดือนเลย คิดว่าคงได้รอหยุดยาวๆเลย แต่ไม่ต้องกลัวนะมีหลัวเป็นเจ้าของบริษัทสะอย่าง ส่วนโป้ยกับพี่กรตอนนี้คือคอมพลีทเขาก็รอของเขามานานอะนะปูนนี่ก็ร้อนแรงไม่ใช่เ่ล่นๆเลย

ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอรู้สึกใจหายเหมือนกันนะ การเดินทาง2ปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเนอะ ไม่คิดว่าตามอ่านมาได้นานขนาดนี้ถึงนักแต่งจะหายไปบางจนลืมเนื้อเลยไปแล้วก็ตาม แต่ก็กลับไปอ่านย้อนเพราะเอ็นดูเจ้าลุงนี่แหละ

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
น่ารักทุกคนเลย...อ่านไปขำไป รักลุง สงสารพี่ปูน ลุ้นไปกับคู่พี่กร-โป้ย ....

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ขำมากแต่ละคน อากง น้องลุง แต่ละคนคิดไปไกลมาก :ling1:

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เอ็นดูคุณลุง ไม่อยากให้จบเลย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 28 _สมภารของไก่วัด


ส่วนที่หนึ่ง สมภาร!!




ลุงเปลี่ยนไป

แรกเริ่มนั้นผมแค่รู้สึกเอะใจ แต่นานวันเข้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความมั่นใจ สังเกตจากการนอนค้างด้วยกันลดน้อยลง มีอะไรกันแทบจะนับครั้งได้ ข้อความที่เคยส่งให้สม่ำเสมอกลับขาดตอนไป แถมยังเป็นคำสั้นๆ ที่อ่านทีไรก็ได้แต่นิ่วหน้าขัดใจ แม้จะยิ้มให้ ยังพูดจาเอาใจอยู่บ้างแต่คล้ายจะมีบางสิ่งบางอย่างปิดบังเอาไว้

ไม่ใช่ว่าไม่เคยถาม แต่คำตอบที่ได้คือถูกพูดปัดไปปัดมา แล้วลงท้ายที่อีกฝ่ายวิ่งหนีไป

เหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าตัวเองนั้นใจเย็นกับพัทลุงได้มากขนาดไหน ผมไม่โวยวาย ไม่เร่งร้อนหาความจริง ผมรับมือกับอาการแปลกๆ ของคนรักได้ดีเกินกว่าที่ตัวเองคิด คงเพราะเวลาผมมองค้นหาเข้าไปในตาโตๆ คู่นั้น มันยังคงเปล่งประกายเวลาเราจ้องตากัน ยังคงทอความอบอุ่นอ่อนโยนยามมองมาที่ผม... เพราะฉะนั้นแล้ว ให้ตายผมก็ไม่เชื่อว่าลุงแปลกไปเพราะหมดรักกัน!!

“วันนี้ผมไม่ค้างนะ”

ผมหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงที่กำลังขยับตัวลุกออกจากอ้อมกอด ลุงนั่งหันหลังอวดโครงสร้างแสนเย้ายวนให้ผมต้องเก็บกลืนน้ำลาย ยามเจ้าตัวก้มลงหยิบบางอย่างบนพื้นก็ทำเอาเจ้าสองก้อนเต่งตึงลอยหวือในอากาศ อวดช่องทางชุ่มลื่นที่คล้ายจะยังปิดไม่สนิทราวกับล่อหลอกให้คนเข้าไปสำรวจ

คงไม่มีใครสั่งสอนสินะว่าถ้าอยากกลับบ้านก็ห้ามยั่วผัวตัวเองแบบนี้

ผมยื่นมือเข้ารั้งเอวบางเอาไว้ในจังหวะที่เจ้าตัวกำลังจะลุกขึ้น เป็นผลให้ร่างของลุงเสียหลักล้มลงบนที่นอนแล้วถูกผมลากมานอนทับไว้อีกครั้ง ลุงร้องเบาๆ อย่างขัดใจแต่ก็ไม่ได้ดิ้นรนให้เปลืองแรง

“ไม่ทำแล้วนะ”

“อีกสองรอบแล้วจะยอมให้กลับ”  ผมปัดตกคำค้านไปแบบไม่สนใจคนหน้าง้ำ ลุงมันขมุบขมิบปากบ่นผมสองสามประโยคแล้วค่อยหันมาตีหน้าเข้มใส่ผมคล้ายจะไม่ยอมตกลง

“อาทิตย์นี้เพิ่งจะได้เอากันครั้งนี้ครั้งเดียวเองนะ ลุงจะทรมานพี่เกินไปแล้ว!”  ผมแสร้งโวยวายเกินความจำเป็น และนั่นทำให้สีหน้าคนฟังอ่อนลงรีบร้อนเข้ามากอดแขนไถหัวไปมาอย่างออดอ้อน

“ก็ลุงมีความจำเป็น ปุริมอย่าโมโหสิ”

“ความจำเป็นอะไรที่ทำให้เดือนกว่ามานี้ลุงทำตัวแปลกไป”  ผมถามเสียงเครียด พยายามไม่ใจอ่อนไปกับท่าทางน่ารักกับดวงตากลมๆ ที่มองช้อนขึ้นมา แต่มันก็ยากเย็นจริงๆ เวลาถูกลุงอ้อนทีไรผมไม่เคยขึงขังใส่ได้นานสักครั้ง

พัทลุงกระพริบตาปริบๆ เหมือนเด็กที่ตอบคำถามคุณครูไม่ได้ เมื่อเห็นผมยังคงจ้องหวังคำตอบไม่ลดละ เจ้าตัวก็เริ่มล่อกแล่กแล้วเบนสายตาหนีไปทางอื่น ทำทีเอาแก้มไถแขนผมเอาตัวรอดไปเงียบๆ

โคตรจะมีพิรุธ!

ลุงเป็นนักโกหกที่แย่ที่สุด แต่ประเด็นมันอยู่ที่ผมไม่รู้ว่าลุงปิดบังเรื่องอะไรเอาไว้ ในเมื่อบีบบังคับให้ตอบไม่ได้ผมก็จำต้องหว่านแหในเรื่องที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อนเพื่อนดูปฏิกิริยา

“หรือลุงมีคนอื่น...”  คราวนี้พัทลุงหันมาจ้องผมตาโต ผมมเลยใส่ประโยคกล่าวหาเพิ่มเข้าไปอีก  “อยากเลิกกับพี่แล้วใช่รึเปล่า?”

“เพ้อเจ้อน่าปุริม!”  ไอ้ตัวแสบพ่นลมหายใจ พลิกตัวออกจากวงแขนผมแล้วเป็นฝ่ายจัดท่าขึ้นมานั่งตักแทน ฝากรอยอุ่นๆ ข้างแก้มหนึ่งทีแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม  “ผมรักพี่จะตายห่าอยู่แล้ว คนที่ต้องกลัวว่าจะต้องถูกบอกเลิกควรเป็นผมต่างหาก”

“ไหงมาโบ้ยให้พี่”

“ก็ปุริมหล่อมากไง มีแต่แมลงวันตอมหึ่งๆ”

“ผัวเป็นคนไม่ใช่ขี้นะที่รัก”  ผมหลุดยิ้มให้กับคนช่างฉอเลาะ รู้ตัวอีกทีก็ถูกลุงฉุดออกจากเรื่องดราม่าไปซะแล้ว

“นั่นแหละๆ แต่ต่อให้เป็นขี้ลุงก็รัก”  พูดจบก็จูบผมเบาๆ  “วันนี้ไม่กลับแล้วก็ได้ เดี๋ยวคนแก่จะน้อยใจ”

“ไม่ทันแล้ว” 

“งั้นต้องง้อแล้วล่ะมั้ง...ง้อแบบไหนดีน้า~”   ลุงเอียงหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ยิ่งถ้อยคำกระซิบที่ตามมาเล่นเอาผมขนลุกซู่ด้วยความตื่นเต้น  “หม่ำแตงดุๆ ให้ดีมั้ย?”

“ดุยังไงครับ”  จบ! ...ผมเลิกคิดซักไซ้หาความชั่วคราว ลุงนี่มันนักโกหกชั้นแย่ แต่เป็นนักเบี่ยงเบนอารมณ์ชั้นยอดจริงๆ

“หูย~ อยากรู้ต้องลองเนอะ”  เล่นหูเล่นตากับผมเสร็จก็หัวเราะชอบใจ นับวันจะร้ายใหญ่แล้ว

“กลายเป็นเด็กทะลึ่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่หืม?”  ผมกระเซ้าขณะเริ่มโหมโรงบทรักด้วยฝ่ามือลงบนสองก้อนเนื้ออวบแน่นเต็มมือ

“ก็ตั้งแต่ได้พี่เป็นผัวนั่นแหละ!”  ลุงตอบชัดถ้อยชัดคำในทันทีสีหน้านั้นเหม็นเบื่อจนผมต้องหัวเราะออกมา

แต่พัทลุงก็ทำให้ผมหัวเราะได้ไม่นานนักหรอก เพราะหลังจากนั้นปากผมก็เปล่งแต่เสียงครางออกมาไปอีกนานหลายชั่วโมง   

.

.

.

พัทลุงยังคล้ายจะหลบเลี่ยงผมต่อไป บางครั้งก็ทำให้ผมชักรู้สึกว่าตัวเองเหมือนสุนัขที่รอคอยเจ้าของมาให้ความดูแล พอเริ่มเหงาเริ่มแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ ก็จะได้รับการลูบหัวหยอกล้อสักที  บางทีลุงอาจจะลืมไปว่าผมไม่มีหางให้กระดิก ไม่ได้พอใจกับการดูแลแค่ชั่วครู่ชั่วยามแล้วเห็นว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด

แต่ผมก็รักลุงเกินกว่าที่จะเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีแล้วเป็นฝ่ายหันหลังเดินจากไป นั่นทำให้ผมต้องวนเวียนอยู่กับความสัมพันธ์แปลกๆ แบบนี้มาหลายสัปดาห์แล้ว และก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าที่ลุงจะพอใจ

“แกแน่ใจนะว่าพัทลุงไม่ได้มีคนอื่น”  พันกรวางแก้วโอลด์ แฟชั่นที่เกือบหมดแล้วลงบนโต๊ะ พิงพนักด้วยท่าทีผ่อนคลายพลางวาดขาไขว้กันอย่างสบายอารมณ์

“อย่ามาทุบคานบ้านคนอื่น!”  ผมว่า ยกแก้ววิสกี้ลงคอหนึ่งอึกใหญ่  “ถึงจะคบกันไม่นานแต่กูก็รู้ว่าลุงไม่ใช่พวกชอบสวมเขาให้ใคร มันมีนัยยะอื่น”

“เพียงแต่มึงยังคิดไม่ออก”  พันกรถอนหายใจ จากนั้นก็หันไปทางคนข้างกายที่นั่งในท่วงท่าสบายยิ่งกว่า  “ลุงได้เล่าอะไรให้โป้ยฟังบ้างมั้ย?”

ผมหันไปมองคนถูกตั้งคำถามที่ดื้อจะติดตามเพื่อนสนิทผมมาให้ได้ แถมยังนั่งดื่มเงียบๆ ไม่เข้าร่วมวงสนทนาจนกระทั่งมีคำถามเจาะจงขึ้น โป้ยวางแก้วมาตินี่พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่กระตุกหัวคิ้วผมได้ไม่น้อย นัยน์ตาสีดำตวัดมองผมราวกับสื่อบางอย่าง

“จะว่าเล่าก็เล่า จะว่าไม่ได้เล่าก็คงได้”  คนพูดไหวไหล่ สีหน้าราวกับอยู่เหนือกว่าคนทั้งหมด แต่จากจุดรวมสายตามันเหมือนจะเฉพาะเจาะจงมาที่ผม

“ทำไมต้องทำเล่นลิ้นมีเลศนัยด้วยเนี่ย”  กรตีคนรักตัวเองเบาๆ อย่างหยอกล้อ ซึ่งดูน่าหมั่นไส้นิดๆ สำหรับคนไกลเมียอย่างผม  “แค่บอกให้เพื่อนพี่สบายใจหน่อยเถอะ ปูนมันเครียดมาพักใหญ่แล้ว”

“มันใช่หน้าที่ของผมเหรอ”  โป้ยคว้าแก้วมาตินี่ขึ้นจิบอีกครั้ง ปรายสายตามองผมแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ

จากที่แค่เอะใจในตอนแรกผมเปลี่ยนมาเชื่อมั่นขึ้นอีกระดับ เรื่องที่พัทลุงลุกขึ้นมาทำอะไรแปลกๆ นั้นต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง และจากรอยยิ้มท้าทายของคนตรงหน้าผมนี้มันชี้ชัดไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย และเมื่อนึกย้อนไปก่อนหน้าที่ผมทำโป้ยมันกระวนกระวายไปหลายวัน คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนั้นมีหรือที่จะไม่โต้กลับผมคืนโดยทำให้อยู่ในสถานะเดียวกัน

ยอมรับเลยว่าคราวนี้มันเล่นผมซะหมอบเลย!

“แกไปเป่าหูลุงวิธีไหนกัน”  ผมถามขึ้นเสียงเรียบ แม้ในใจอยากจะเขวี้ยงแก้วบนโต๊ะใส่คนยิ้มเยาะตรงหน้าสักทีก็ตาม  “แกเล่นฉันแสบมากนะไอ้โป้ย”

“อะไร? เรื่องอะไร?”  พันกรมองสลับผมกับแฟนหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ แน่ล่ะ... ถ้าเพื่อนผมจะลาดกว่านี้ก็คงไม่หลงรักงูเห่าแบบนั้นมานานสองนานหรอก

“มันเอาคืนกูเรื่องมึงก่อนหน้านี้ไง”  ผมบอกแค่นั้นก็ทำพันกรคิดได้ในไม่กี่วินาทีต่อมา ใบหน้าหล่อเหลาของพระรองขายได้หันไปมองคนรักด้วยแววตาเอาเรื่องทันที

“อะไร!? ก็พี่ปูนแกล้งผมก่อนนี่”

“แล้วมันใช่เรื่องที่เราต้องไปเอาคืนหรือโป้ย”  พันกรว่าเสียงเข้ม เล่นเอาคืนถือไพ่เหนือกว่าเมื่อสักครู่กลายเป็นเด็กน้อยที่ถูกผู้ปกครองดุไปในทันที ทำเอาผมต้องเก็บกลืนรอยยิ้มเยาะเย้ยเอาไว้แทบไม่ทัน

“ทำไมเล่า มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยเอง อีกอย่างผมก็ไม่ได้บังคับลุงสักหน่อย เป็นมันต่างหากที่ตัดสินใจทำ”  โป้ยว่าพลางหันมามองผม  “แฟนพี่มันเลือกที่จะทำแบบนี้เอง ทำพี่ไม่ลองนั่งทบทวนตัวเองล่ะว่าเพราะอะไร”

จนถึงขนาดนี้แล้วมันก็ยังจ้องจะฝากระเบิดเอาไว้ในใจผมอีก! จะให้ผมกลับไปนั่งทบทวนอะไรอีก ในเมื่อผมทำทั้งหมดนั่นมาแล้ว!

“คายออกมาให้หมดเลยนะโป้ยถ้าไม่อยากให้เราทะเลาะกัน”  แต่ก็ใช่ว่าผมจะสิ้นไร้ไม้ตอกเสียทีเดียว เพราะพันกรกล้าหาญจับคางโป้ยบังคับให้หันไปสบตา   

“ใช่!”  ผมออกปากสนับสนุนเพื่อนเต็มที่

 “วันนั้นเราคุยกันแล้วไง และมันก็เป็นความผิดพี่เองที่จำเบอร์โป้ยไม่ได้”

“ใช่!”  ผมส่งเสียงอย่างเห็นพ้อง

“มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของใครต้องสั่นคลอน”

“ถูกต้อง!”

“กูพูดรวมถึงมึงด้วยปูน!”

“ชิ!”  ผมสะบัดหน้าหนีถ้อยคำแทงใจ ก็ใครใช้ให้โป้ยมันชอบขวางหูขวางตาผมแต่แรกล่ะ ก่อนหน้าก็ทำตัวเป็นน้องที่ดีไปไหนไปกัน แค่พอผมจ้องจะเคลมลุงเท่านั้นก็วางท่าเป็นอริกับผมจนรู้สึกได้แล้วอย่างนี้จะให้ผมชอบมันต่อไปได้อย่างไรกัน

“ทำตัวเหมือนเด็กทั้งสองคน แล้วลุงที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรก็ต้องพลอยรับกรรมไปด้วย”  กรมันว่ายาวๆ แล้วจบประโยคด้วยเสียงพึมพำประมาณว่า ‘เด็กไม่รู้จักโต’ ก่อนจะหันไปยกค็อกเทลดื่มจนหมดแก้ว ทำท่าจะเรียกสั่งเพิ่มอีกแต่ถูกโป้ยขัดขวางไว้ได้ทัน

“พอแล้ว พรุ่งนี้พี่มีนัดพบลูกค้าลืมแล้วรึไง”  แม้จะสามารถดึงรั้งมืออีกฝ่ายให้ลงมาได้ แต่โป้ยก็ไม่อาจห้ามสายตาคมกริบที่สบอยู่ได้ มันถอนหายใจยาวเหยียดแล้วหันมาทางผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไหร่  “ผมขอโทษพี่ด้วยแล้วกัน เลิกแล้วต่อกันโอเคมั้ย?”

ณ. จุดนี้ผมบอกเลยว่าการนิ่งเฉยนั้นไม่ช่วยให้ตัวเองหลุดรอดจากผู้กระทำผิดไปได้ เพราะเมื่อแฟนที่เคารพของไอ้กรเอ่ยออกมาก่อนขนาดนี้แล้ว ถ้าผมจะไม่พูดออกไปบ้างคงได้ฟังกรว่าเข้าให้อีกรอบเป็นแน่

“พี่ก็ขอโทษ”  ผมบอกด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจเช่นเดียวกัน ก่อนจะหันไปหาเพื่อนที่จับจ้องอย่างกับเป็นครูระเบียบ  “พอใจมั้ยมึง?”

พ่อดาราแค่พ่นลมหายใจสั้นๆ จากนั้นก็ทำหน้าที่เพื่อนที่ดีโดยการเค้นคอแฟนหนุ่มจนคนต้นเรื่องบอกออกมาจนหมดเปลือก ความรู้สึกคนฟังนั้นทั้งขำทั้งโมโห แฟนมันก็ช่างเป็นนักวางเพลิงชั้นเยี่ยม ส่วนแฟนผมก็แสนซื่อจนได้ถ้วยได้โล่ โดนปั่นหัวจนคิดได้ยังว่าผมจะเผลอตัวไปหลงชอบพันกร แล้วยังจะเรื่อง...

“น้องมันก็คงอยากลองบ้างน่ะปูน”  พันกรเอ่ยแก้ต่างให้ทั้งที่กลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตกอยู่แล้ว

“มึงลองกับไอ้โป้ยไปเหอะ!”

“เกี่ยวอะไรกับผมเล่า เมียพี่มันฝังใจของมันเองต่างหาก”  ไอ้โป้ยรีบแย้ง  “ตอนหว่านล้อมเรื่องอื่นมันก็ยังกล้าๆ กลัวๆ แต่พอเป็นเรื่องนี้มันกลับรับคำรวดเร็ว และขอเถอะ! เพื่อนผมมันเป็นฝ่ายทำมาตลอด ก่อนหน้านี้พี่ผิดที่ทำให้มันเข้าใจว่าตกเป็นเมียมันเองนะ ลุงมันจะฝังหัวก็ไม่แปลกรึเปล่า”

“เหมือนมึงอยากให้กูปล้ำมันตั้งแต่ครั้งแรก”

“ถ้าเป็นงั้นผมคงประเคนตีนใส่พี่ไม่ยั้ง!”

“คิดว่ากูจะยอมโดนตีนเฉยๆ ก็ลอง”

สองคนจ้องตากันไปมา จนครูระเบียบอดรนทนไม่ไหวอีกครั้ง

“พอได้แล้ว! ปูนอายุมากกว่านะโป้ย มันไม่น่ารักเลยนะที่พูดจาแบบนั้น”  มันหันไปว่าแฟนตัวเองให้ผมกระหยิ่มใจได้ไม่นาน ก็ถึงทีส่งสายตาฟาดฟันมาทางผมบ้าง  “โป้ยเป็นน้องนะ มึงเป็นพี่ควรพูดกับน้องดีๆ ไม่ใช่รึไง!”

และก็เป็นอีกครั้งในเวลาสั้นๆ ที่ผมกับไอ้โป้ยต้องมานั่งผลัดเอ่ยคำขอโทษให้กัน


...คิดว่าผมคงไม่ออกมาดื่มกับไอ้กรไปอีกพักใหญ่เลยล่ะ

.

.

.

ผมควรจะต้องหาวิธีแก้เผ็ดลุงสักที ไอ้เรื่องคล้อยตามคำพูดคนอื่นก็เรื่องหนึ่ง แต่ไอ้การที่หวังจะกดผมจนตบปากรับคำผู้ไม่หวังดีเนี่ยสิที่เป็นปัญหาใหญ่ ไอ้ผมรึก็คิดว่าถูกทำเรื่องน่าอายไปตั้งมากขนาดนั้นจะยอมรับสถานะของตัวเองได้แล้ว แต่กลับยังหวังรุกฆาตโดยหวังให้ผมสมยอมแบบแนบเนียน

โกรธไอ้คนเป่าหูไหม? ก็ใช่! แต่เมียเรามันก็ร้ายไม่เบาเหมือนกัน!

จากปากคำของโป้ยนั้น วันสิ้นสุดแผนการคือวันเลี้ยงรุ่นที่จะจัดขึ้นร้านอาหารกึ่งผับเล็กๆ ที่ให้บังเอิญว่าเป็นร้านของคนรู้จักผมพอดี จำนวนคนเกือบร้อยก็คงจะเหมาปิดทั้งร้านอย่างไม่ต้องสงสัย

พอถามต่อเรื่องว่าลุงมีแผนการอย่างไร ไอ้โป้ยก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ความว่าตัวมันแค่เป็นคนจุดประกายเท่านั้น แต่เพราะช่วงนี้ชีวิตรักสดใสซาบซ่านก็เลยไม่ได้ไปสนใจสอบถามอะไร ที่จริงแล้วถ้าวันนี้มันไม่ได้มานั่งได้ยินการสนทนาก็เกือบๆ จะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ

ผมได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไปเงียบๆ ...สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันมาได้นานขนาดนี้!!

ความคิดของลุงนั้นจะว่าเดาง่ายก็ง่าย จะว่าเดายากก็เล่นเอาปวดหัวน่าดู พัทลุงคนซื่อๆ คิดอะไรไม่ซับซ้อน แต่ก็มีเล่ห์เหลี่ยมไม่โง่เขลา แค่นิสัยส่วนตัวก็ขัดแย้งกันเองแล้วจะให้ผมเดาทางออกหมดก็ใช่ที่ แล้วครั้งนี้ถึงกับลุกขึ้นมาปีกกล้าขาแข็งใส่ผมได้ก็สุดจะรู้แล้วว่าในหัววางแผนการแบบไหนอยู่

แต่ไก่วัดตัวเล็กจ้อย จะมาแน่กว่ามนุษย์สมภารไปได้อย่างไร

หึๆ...

หึๆๆ!!

“พี่ปูนเป็นอะไรอะ?”

“..........”  เสียงทักจากคนในความคิดดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปทางต้นเสียงก็เจอสายตาเหยียดๆ มองมา

“หัวเราะไรอย่างกะคนโรคจิต”  พัทลุงเดินเข้ามาใกล้ ถึงกับยื่นมือออกมาอังหน้าผาก  “ตัวไม่ร้อนนะพี่”

“ตลกแล้ว”  ผมปัดมือนุ่มๆ ทิ้ง อยากจะคว้ามาฟัดเหมือนกันแต่ติดที่กลิ่นน้ำปลาอบอวลไปหน่อย  “วันนี้ทำอะไรกินเนี่ย”

“ปลานิลทอดตัวใหญ่ๆ ราดซอสน้ำปลา แล้วก็ยำทะเลมีกุ้งตัวโตๆ ของหวานเป็นบัวลอยงาดำน้ำขิงลูกเบิ้มๆ  ”  ลุงร่ายรายการอาหารพลางถอดผ้ากันเปื้อนไปด้วย

ตั้งแต่ได้เมียทำอาหารเก่ง ผมก็ตัดสินใจจ้างมัณฑนากรจากบริษัทที่เคยไปเป็นที่ปรึกษาให้มาออกแบบห้องครัวใหม่ เน้นการทำอาหารไทยแบบเต็มรูปแบบ เลยต้องติดตั้งกระจกบานเลื่อนเพื่อกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนป้องกันกลิ่นเล็ดลอดออกไป ก็เลยซื้อชุดโต๊ะอาหารใหม่ให้เข้ากัน ไหนๆ แล้ว ก็เลยปรับปรุงห้องนั่งเล่นไปด้วย แต่เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนก็ใช้มานานพอดูแล้วก็เลยเปลี่ยนไปซะเลย


ลุงโวยวายน่าดู…


ที่จริงหมดเงินไปเป็นแสน... แต่จำต้องบอกมันไปว่าไม่กี่หมื่นบวกได้ของฟรีและแถมเพื่อเอาชีวิตรอดล้วนๆ

แต่นับว่าคุ้มค่าเงินเพราะลุงก็ขยันใช้ครัวเรื่อยๆ ทำเอาผมติดรสมือจนไม่อยากไปทานอาหารไทยที่ไหนอีก น้ำหนักนั้นรึก็ขึ้นเอาขึ้นเอาจนได้ไปใช้บริการฟิตเนสซะคุ้มค่าสมาชิก

“เชิญรับอาหารค่ำครับคุณหลวง”  ลุงเอ่ยแซว เพราะไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายผมก็เลยจำต้องนั่งสบายๆ รออาหารเสร็จเท่านั้น ว่าจบก็เดินนำผมไปล้างมือก่อนเตรียมตักข้าวสวยหอมๆ ใส่จานวางบนโต๊ะทั้งสองฝั่ง ผมที่ล้างมือเสร็จก็มานั่งประจำที่พร้อมลงมือกินกับข้าวที่หน้าตาธรรมดาแต่อร่อยติดใจ

“วันนี้ลุงกลับไปนอนบ้านนะ”  ผมชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคคุ้นหูในช่วงนี้ แต่ผมแสร้งรับฟังอย่างสงบพร้อมกับพยักหน้าตอบรับไปเงียบๆ

“..........”  คราวนี้กลับเป็นลุงที่ชะงักไปบ้าง ผมเงยหน้ามองคนตรงข้ามด้วยความสงบดุจเดิม

“ทำไม?”

“...พอดีว่าแม่ไปปฏิบัติธรรมกับเพื่อนที่วอร์ดก็เลยไม่มีใครอยู่กับป้า”  ลุงอธิบายเพิ่มเติม ซึ่งผมก็เข้าใจได้ไม่ยากเพราะลุงมักจะห่วงผู้หญิงที่บ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าดูจากดวงตากลมที่หรี่แคบลงขณะจ้องผมอยู่นี้ ปฏิกิริยาตอบสนองของผมคงผิดจากที่เจ้าตัวคาดไปหน่อย

“อือ ไปเถอะ”  ผมวางท่าไม่สนใจเต็มที่ แม้ในใจอยากจะร้องตามไปนอนค้างด้วยก็ตาม  “ให้พี่ไปส่งมั้ย?”

“...เอ่อ...เดี๋ยวผมกลับเองดีกว่าพี่จะได้พักผ่อนสบายๆ”

“โอเคตามนั้น”

แล้วการสนทนาของเราก็คล้ายจะขาดช่วงไปตั้งแต่นั้น ผมเสแสร้งกินอาหารไปเรื่อยๆ อย่างคนไม่ได้อยากสักเท่าไหร่ทั้งที่ความจริงคืออร่อยฉิบหาย พอเห็นท่าทางของผมลุงก็พลอยกินน้อยไปโดยปริยาย ลุงสังเกตความผิดปกติอย่างกะทันหันของผมเงียบๆ แม้กระทั่งตอนที่ผมออกปากให้ลุงกลับบ้านได้โดยที่ไม่ต้องเก็บจานล้าง เจ้าตัวก็ยังแค่ออกปากถามย้ำสั้นๆ

“พี่แน่ใจนะ”

“อื้ม”

“ใช้เครื่องล้างจานเป็นนะ”

“อื้ม”  คำตอบแสนสั้นของผมทำเอาลุงเงียบไปหลายวินาที

“งั้นผมไปนะ”

“ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกพี่ด้วย”  ลุงยิ้มรับกับคำห่วงใยเหมือนเคยจากผมก่อนจะโบกมือลาด้วยท่าทางน่ารักเช่นเคย


โคตรไม่อยากให้กลับไปไหนเลย!


ผมได้แต่ถอนหายใจกับตัวเองให้เสียงประตูที่ถูกปิดลง ห้องเงียบเหงาขึ้นมาจับใจ ในหัวเริ่มคิดถึงอสังหาริมทรัพย์ใกล้บ้านของลุงขณะที่เดินกลับไปนั่งกินกับข้าวบนโต๊ะจนเกลี้ยงจาน เห็นทีผมต้องเริ่มติดต่อบริษัทนายหน้าเพื่อหาซื้อบ้านสักหลังใกล้ๆ ถ้าหลังติดกันได้จะยิ่งวิเศษเพราะลุงจะได้เดินไปมาง่ายๆ ให้สมใจคนรักครอบครัว

นี่ถ้าได้อย่างใจจริงๆ ผมจะโดนลุงบ่นจนหูชาขนาดไหนก็ไม่รู้...

ค่ำนั้นลุงส่งข้อความมาตามที่ถูกสั่ง ผมเปิดอ่านเพื่อให้คลายความกังวลแต่ต้องหักห้ามนิ้วมือสุดฤทธิ์ที่จะไม่ให้พิมพ์ตอบกลับไปตามความเคยชิน แม้กระทั่งลุงส่งมาบอกฝันดีผมก็ต้องทำใจแข็งอ่านไปเงียบๆ

หลายวันหลังจากนั้นผมยังคงความนิ่งเงียบของตัวเองไว้ได้อย่างดี ผิดกับเจ้าไก่ตัวดีที่เริ่มร้อนรนขึ้นมาบ้าง

“วันนี้ลุงก็กลับบ้านนะ”

“อืม”  ผมตอบรับเสียงเย็นชาดังเคย หากคราวนี้คนฟังกลับทำหน้ามุ่ยอมลมจนแก้มตุ่ยใส่ผม

“วันพรุ่งนี้ก็จะไม่มาหาแล้วนะ”

“อาห๊ะ”

“วันมะรืนด้วยนะ!”

“ลุงสะดวกเมื่อไหร่ค่อยมาแล้วกัน พี่เข้าใจ”  ผมพยักหน้าพลางอมยิ้มให้กับหน้าจอไอแพดในมือทั้งที่มันเป็นข้อความเรื่องงาน  “เดี๋ยวพี่ไปส่งลุงกลับบ้านนะ พอดีพี่จะไปดื่มกับเพื่อนแถวนั้นด้วย”

“..........”  ผมเหลือบมองสีหน้าคนนิ่งงันก่อนจะหย่อนระเบิดลูกใหญ่ตามไปทันที

“กับเจน่า...บอกไว้ก่อนนะเดี๋ยวจะเข้าใจผิดอีก”

“..........”

ความเงียบเกิดขึ้นนานหลายนาทีหลังจากที่ผมยกชื่อศัตรูหัวใจที่ลุงทึกทักให้เป็นขึ้นมา ตามจริงคือหลังจากส่งลุงกลับบ้านแล้วผมคงได้แต่กลับมานอนเหงาๆ ที่ห้องคนเดียวตามเดิม แต่ก็นะ...บางทีผมก็หมั่นไส้ลุงนิดๆ เลยต้องโมเมแต่งเรื่องขึ้นมา เพราะฉะนั้นผมถึงยังก้มหน้าก้มตาอ่านไฟล์เอกสารด้วยรอยยิ้มโง่ๆ รอคอยปฏิกิริยาของลุงอย่างใจจดใจจ่อ

“ไม่กลับแล้ว!! ลุงจะค้างกับปุริมที่นี่”

ผมลอบยิ้มในใจแต่ก็ยังแกล้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าเปี่ยมคำถาม  “แต่พี่นัดกับเพื่อนไว้แล้ว”

“งั้นปุริมจะทิ้งลุงให้อยู่คนเดียวเหรอ”

“..........”  ผมมองคนเสียงอ่อนขยับตัวเข้ามาใกล้จนขาแทบจะเกยก่าย วงแขนนุ่มกอดท่อนแขนผมไว้แน่นยามช้อนสายตากลมโตขึ้นมอง 


แหม่~ น่ารักจังโว้ย!!


“อย่าไปเลยนะ”

ผมแทบจะอ่อนระทวยไปกับคำอ้อนขอ ในหัวนี่คือจับลุงฟัดแก้มจนช้ำไปหลายทีแล้ว แต่บทบาทที่เลือกนั้นทำได้แค่มองความน่ารักตรงหน้าด้วยความนิ่งสงบเท่านั้น

“คืนนี้นอนกอดกันดีกว่าเนอะ”

“...แน่ใจ?”  เสียงผมเริ่มสั่นไปแล้วเมื่อจินตนาการถึงค่ำคืนหฤหรรษ์ที่กำลังจะเกิด

“อื้ม!”

“ก็ได้... ถ้ายอมหม่ำแตงแบบดุๆ อย่างวันนั้นให้อีก”  หมดกันการแสดงที่เสแสร้งมาตลอด! แต่ลุงคงจะยังไม่รู้สึกตัว เพราะคลี่ยิ้มเผล่ด้วยความสบายใจออกมาทันทีที่ความลามกของผมผุดออกมา

“นั่นแน่~ ชอบล่ะสิ”

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกน่า”  ผมตอบอย่างสงวนท่าที ส่วนในความจริงในใจน่ะหรือ?... ชอบมาก! ชอบโคตรๆ โดนไปทีทั้งตัวแทบจะละลาย ทั้งหน้าตา ทั้งเสียง กระตุ้นผมเสียจนฟัดลุงจมเตียงได้ทั้งคืน

“มาๆ ไปอาบน้ำกันดีกว่า”  ลุงอมยิ้ม ฉกริมฝีปากกับแก้มผมหนักๆ แล้วฉุดผมให้ลุกขึ้นเดินตามไป

ถามว่าอิดออดไหม? เอาเป็นว่าผมเปลื้องผ้าเร็วกว่าลุงก็แล้วกัน!

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ส่วนที่สอง ไก่วัด!!




หลังจากความห่างเหินของ และชื่อนางแบบคนงามสุดเซ็กซี่อดีตไอดอลยามเหงาของผมหลุดออกมาจากปากพี่ปูน ผมก็แทบจะลืมไปเลยว่าตัวเองแสร้งทำตัวห่างเหินตั้งแต่แรกเพราะอะไร ความกังวลที่เกิดขึ้นมาฉับพลันในตอนนั้นทำเอาตัวเองไม่อยากห่างจากพี่ปูนสักก้าว จนเมื่อได้นั่งทบทวนตัวเองให้ดีอีกครั้งก็รู้สึกได้ว่ามันช่างเป็นเรื่องงี่เง่าเหลือเกิน

ชีวิตทุกวันนี้มันดีมากอยู่แล้ว

ต่อให้คนที่พี่กรแอบชอบจะเป็นพี่ปูนก็แล้วไงล่ะ ผมไปห้ามความรู้สึกใครไม่ได้นี่นา และถ้าพี่ปูนจะชอบพี่กรก็คงไม่มีทางมองคนธรรมดาๆ อย่างผมตั้งแต่แรกหรอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ปูนทำให้ผมมันมากยิ่งกว่าแฟนคนไหนจะเคยทำให้ ความรักของเรามันดีมากเสียจนผมไม่ควรต้องมาหยุดคิดกับคำพูดใครเลยแม้แต่น้อย แต่ไอ้โป้ยก็เล่นชกใต้เข็มขัดผมโดยการยกเรื่องตำแหน่งบนสังเวียนขึ้นมาพูด

ผมเป็นผู้ชายโอเคมั้ย?

ถึงอาวุธจะยิ่งใหญ่อลังการไม่เท่าเขาแต่ก็ควรให้มันสัมผัสอย่างอื่นบ้างนอกจากมือกับปากนี่นา ถึงจะพอใจกับการถูกฟัดแค่ไหนแต่ผมก็หวังว่าสักวันจะได้เป็นฝ่ายขุดหลุมพี่ปูนบ้าง ต่อให้หนอนน้อยของผมอาจจะไม่ทำให้หลุมของพี่แกรู้สึกระคายเคืองเลยก็ตามทีเถอะ!

คิดแล้วก็อดตัดพ้อบิดาบนสวรรค์ไม่ได้เลยให้ตายสิ...

 ความตั้งใจแรกเริ่มนั้นผมช่างแสนเรียบง่าย ผมจะทำตามคำแนะนำของโป้ยโดยสงบ ไม่มีการยื่นคำขาดประเภท ‘ถ้าพี่ไม่ยอมให้ผมจิ้มงั้นเราก็เลิกกัน!’ ผมต้องการการสมยอมโดยความเต็มใจ อย่างที่พี่ปูนก็อดทนรอให้ผมพร้อมในตอนแรก ผมกะว่าจะแสร้งเฉยชาไปจนกว่าพี่ปูนจะสติหลุด โวยวายออกมาแล้วอ้อนวอนผมด้วยถ้อยคำประมาณว่า ‘พี่จะยอมลุงทุกอย่าง’ จากนั้นผมก็จะยื่นข้อเสนอด้วยท่าทางเป็นต่อ แล้วพี่ปูนก็จะรู้สึกอับจนหนทางต้องพยักหน้ายอมรับด้วยความเอียงอาย

แค่นึกถึงภาพพี่ปูนร้องครางใต้ร่างผมด้วยความขัดเขิน หรือแม้กระทั่งความคิดที่ว่าร่างกายสมบูรณ์แบบของพี่ปูนขึ้นควบขับบนตัวผม ภาพหวังเหล่านั้นทำให้ผมอดทนเสแสร้งมาได้เป็นเดือน แต่...เฮ้อ~ความหวังบางอย่างก็เกินกว่าที่เราจะเอื้อมคว้าไว้ได้

“อา~ ตรงนั้น! อีก...เสียว...”

ความเป็นจริงคือผมต่างหากที่เป็นฝ่ายควบขับบนร่างสมบูรณ์แบบของพี่ปูน แม้ว่าการที่พี่ปูนครางใต้ร่างผมจะเป็นจริงหากสีหน้าที่แสดงนั้นห่างไกลกว่าคำว่าเขินอายลิบลับ

“ชอบมั้ย? หืม... อา~ ชอบมั้ยที่รัก”

“อื้ม! ลุงจะขาดใจแล้ว”  เป็นผมที่เขินอายทั้งที่พูดคำน่าอายออกมามากมาย เป็นผมที่ร่ำร้องด้วยความพอใจ

ผมช่วยขยับแบ่งเบาภาระอีกต่อไปไม่ไหว พี่ปูนจึงดึงร่างผมลงไปกอดไว้แน่นก่อนจะขยับกายด้วยตัวคนเดียว ที่นอนใหม่นั้นช่วยส่งแรงได้อย่างดีเยี่ยมสมราคาทำให้จังหวะสะโพกของพี่ปูนไม่มีสะดุดแม้แต่น้อย เสียงเนื้อกระแทกดังสม่ำเสมอไม่หยุด หนอนน้อยของผมที่ถูกเสียดสีกับกล้ามท้องของคนใต้ร่างก็ถึงกับสิ้นความแข็งแกร่งต้องหลั่งน้ำตาออกมาในที่สุด ไอ้ผมก็เสียวทั้งข้างหน้าข้างหลังจนเผลอรัดแตงร้านไม่หยุดพลอยทำให้เจ้าของสวนโมโหหว่านเมล็ดเต็มหลุมผมอย่างเกรี้ยวกราด

บางทีผมก็อยากจะปาถุงยางใส่หน้าพี่ปูนแล้วพูดว่า ‘พี่มึงจะเก็บเอาไว้เป่าเล่นรึไง!’ แต่ก็ต้องโทษความใจอ่อนของตัวเองที่ถูกอ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ยอมมาตลอด นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงได้อุ้มได้หลายท้องจนพ่อต้องร้องไห้แน่ๆ

พี่ปูนยังคงขยับสะโพกสอดแทรกร่างผมอย่างเชื่องช้าพลางจูบผมอย่างไม่รู้เบื่อ กระทั่งแตงร้านอ่อนตัวหลุดออกมาจากหลุมพี่ปูนถึงได้ยอมเปลี่ยนท่าให้ผมนอนลงกับที่นอนแล้วขยับกายเข้ามากอดไว้แทน บรรยากาศระหว่างสองเรานับว่าชื่นมื่นยิ่งนัก

ผมไม่รู้ว่ายามที่พี่ปูนคบกับคนอื่นๆ เป็นเช่นไร แต่ความเย็นชาที่ผมได้รับมาในช่วงสั้นๆ นั้นทำให้ผมรู้ตัวว่าก่อนนี้ตัวเองได้รับการปฏิบัติดีขนาดไหน ความดื้อที่จะเอาใจสารพัดของพี่ปูนที่ผมออกจะรำคาญนิดๆ เมื่อมันไม่เกิดขึ้นนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าที่จริงแล้วผมชอบมันเอามากๆ แม้กระทั่งการคุยผ่านตัวอักษรที่ทำให้ผมยิ้มได้ตลอด หากเมื่อไม่ได้รับการตอบกลับนั้นทำให้ปวดใจได้ไม่น้อยแค่ไหน

บางทีมันก็เหมือนโชคดีในสถานการณ์ร้ายๆ ถ้าผมไม่งี่เง่าแบบนั้นก็คงไม่ได้รู้ว่าทุกสิ่งที่เป็นนั้นมันดีมากอยู่แล้ว โชคดีที่ทุกอย่างยังกู้กลับคืนมาได้

“พรุ่งนี้ลุงไปงานเลี้ยงรุ่นนะ”  ผมรีบชิงบอกคนที่กำลังซุกไซ้คอผมก่อน เมื่อเห็นท่าทางว่าจะได้เริ่มสงครามสยิวกันต่ออีกรอบเพราะแตงร้านพันธุ์ดีนั้นแข็งถูไถหน้าท้องผมอีกแล้ว

“อืม~ ไปกี่โมง”  พี่ปูนพึมพำถามชิดผิวเนื้อ ขณะที่ขยับร่างเปลี่ยนท่าทางผมให้ขึ้นมานอนหงายอ้าขาอล่างฉ่างบนร่างแข็งแรง และจังหวะที่ผมกำลังไว้อาลัยให้กับความอายของตัวเอง เจ้าแตงร้านดุ้นเขื่องก็ถูกฝังลงหลุมเป็นที่เรียบร้อย เข้าลึกง่ายดายเสียจนนึกเศร้ากับสภาพหลุมของตัวเอง

“อ๊ะ! ผมนัดโป้ยไว้ห...อ๊า~ หกโมง....”

“รับทราบครับที่รัก”  พี่ปูนตอบรับจากนั้นก็ก้มฉกจุกนมผมเข้าปากไปอีกรอบ  “ทีนี้อ้าขวากว้างๆ แล้วขยับสะโพกร่อนให้ผัวเต็มที่เลยนะจ๊ะ”

“พี่ปู๊น!!! อย่าพูดทะลึ่ง -- อื้อ!!”

“ไม่ใช่ชอบ?”

“มันเขินโว้ย!”  พี่ปูนหัวเราะตอบผมเสียงดัง ว่าไปเถอะไม่มีเลิกไม่มีสลดหรอก! ชอบนักคำทะลึ่งสัปดนแบบนี้ ไอ้ผมก็ยุขึ้นง่ายซะด้วย -- นี่แน่ะๆๆๆ พ่อจะร่อนให้หักกันไปข้างเลย!!

.

.

.

“เดินให้มันดีๆ หน่อยไอ้ลุง”

เสียงโป้ยดังขึ้นหลังจากเราลงจากรถเป็นที่เรียบร้อย มันส่ายหน้าพลางมองผมด้วยความเวทนาขณะหยุดยืนรอให้ผมเดินโขยกเขยกไปสมทบ

หลังจากผ่านสงครามมาสี่ครั้งภายในคืนเดียว มันเลยช่วยไม่ได้จริงๆ กับสภาพร่างกายที่เกือบจะพิการของผมในตอนนี้ พี่ปูนเล่นยุยงผมทั้งคืนทำเอาสะโพกเคล็ดขัดยอกเดินไม่ถนัดไปทั้งวัน ตอนแรกก็กะจะปฏิเสธงานเลี้ยงทำทีไม่สบายกะทันหันอยู่หรอก แต่นอกจากไอ้โป้ยจะไม่เชื่อแล้วนั้น ความห่วงใยยังไม่มีให้แม้แต่น้อย มันลากผมกลับบ้านไปแต่งตัวแล้วรอจนถึงเวลาเดินทางเลยด้วยซ้ำ

“ลุงปวดอยู่นะวีรภาพ ความเห็นใจไปอยู่ที่ไหนหมด!”

“มึงทำตัวเองนะคุณลุง อย่าให้กูต้องเดาเลยว่ามึงไปทำอะไรมาถึงได้เป็นอย่างนี้”  ไม่เห็นใจไม่พอ ยังจะส่งสายตาเหยียดหยามมาให้อีก! คนอำมหิตอย่างโป้ยไม่รู้หรอกว่าการเป็นเมียเนี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ

“มึงไม่อยากรู้หรอกโป้ย”

“กูอยากรู้ ...เล่ามาสิ”  พวกผมสองคนหยุดเดินก่อนที่อีกไม่กี่ก้าวจะถึงประตูร้านที่จัดงาน ไอ้เพื่อนนิสัยเสียจ้องผมอย่างท้าทายคงคิดว่าผมคงไม่กล้าเล่าออกมา แล้วสุดท้ายมันก็จะได้หัวเราะเยาะเย้ยผมล่ะสิ หึ!! ฝันไปเถอะเพื่อน

“ต้องเท้าความก่อนว่าของพี่ปูนแม่งใหญ่มากไง แล้วทีนี้พวกกูก็ซ่ำกันไปสี่รอบ มึงต้องนึกไม่ถึงแน่ๆ ว่ากู--อื้อ!”

“พอๆ ไอ้ห่า!”  ไอ้โป้ยรีบถลามาอุดปากผมด้วยสีหน้าเลิกลัก  “กูยอม กูไม่อยากรู้แล้วโอเคมั้ย!”

ผมบิดหน้าออกจากมือเพื่อนแล้วส่งสายตาแห่งผู้มีชัยไปให้

“ยังจะทำหน้าเหนือใส่กูอีก ตั้งแต่มีผัวนี่หน้าด้านขึ้นเยอะนะพัทลุง”

“อยากรู้เหรอว่ากูผ่านอะไรมาบ้าง” 

“ไม่โว้ย!!”  โป้ยโวยลั่น ทำผมหัวเราะออกมาเบาๆ กับสีหน้าสุดเซ็งของเพื่อนช่างสาระแน 

สถานที่ที่เลือกจัดงานนั้นเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปนัก เพียงพอให้แปดสิบกว่าคนที่มามีพื้นที่ดีดดิ้นตามจังหวะเพลงกันตามอัธยาศัย ผมกับโป้ยเดินผ่านเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานทำให้การทักทายหยอกล้อมีไปตลอดทาง มันเหมือนทุกอย่างย้อนกลับไปยังวันเก่าๆ ตอนที่เดินชนไหล่กันทุกวัน เจอหน้ากันบ่อยพอๆ กับครอบครัว แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันทุกคนแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่เฮไหนเฮนั่นมาตลอดสี่ปี

“ยังตัวติดกันเหมือนเดิมเลยนะพวกมึง”  คำทักที่เรียกว่าถอดแบบเดียวกันมาจากอีกหลายๆ คน ไม่ได้ทำให้โป้ยหงุดหงิดแต่อย่างใด กลับกันมันยิ่งคึกทำอวดทุกคนที่ถามด้วยกันบีบแก้มผมโชว์มั่ง หอมแก้มผมเรียกเสียงเป่าปากบ้าง

“แต่งกันเมื่อไหร่อย่าลืมเชิญพวกกูนะโป้ย กูอยากไปกั้นประตู ฮ่ะๆๆ”  แล้วก็เฮฮากันยกใหญ่

“แม่กูเรียกสินสอดแพงไปหน่อย ไอ้โป้ยไม่มีปัญญาว่ะ”  ผมเกทับอีกหนึ่งคำรบเรียกเสียงหัวเราะ จากนั้นก็สอบถามสารทุกข์สุกดิบกันอีกหลายประโยค ก่อนเดินจากวงสนทนาที่ได้ชื่อว่าขี้เหล้าที่สุดในรุ่นไปทางชุดโซฟาหน้าบาร์ที่เสี่ยอ่ำโบกมือหย็อยๆ เรียกพวกผมอยู่

“มาช้านะครับพวกมึง กูกับไอ้เจมส์นี่อิ่มจนจุกมาถึงคอหอยแล้ว”  เพื่อนอ่ำว่าพลางพยักเพยิดไปทางเพื่อนชื่อเจมส์ที่อยู่กลุ่มเดียวกันเมื่อสมัยเรียน แต่พอเรียนจบมันก็เลือกไปทำงานที่ญี่ปุ่นเลยทำให้ห่างกันไป

“พุงเป่งแล้วไอ้เจมส์”  ผมล้อเลียนพลางหย่อนก้นลงตรงที่ว่างถัดจากโป้ย

“กูคิดถึงอาหารไทยโคตรๆ ที่โน่นก็มีนะแต่มันไม่เหมือนกินที่บ้านเราว่ะ”  ว่าจบเพื่อนเจมส์ก็ตักยำถั่วพลูคำโตเข้าปากไปเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

คนอื่นที่เดินผ่านมานั้นแทบจะแก้วมีเหล้าติดมือกันทุกคน แต่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่นี้กลับเรียกรายไปด้วยอาหารคาวหวานมากมายที่ตักมาสุมกันไว้จากไลน์บุฟเฟต์ เครื่องดื่มที่มีก็ดันเป็นพวกน้ำพันช์เสียอีก ไอ้โป้ยกวาดมองแล้วถึงกับโอดครวญ

“เหล้าล่ะวะ!”  เท่านั้นก็ได้เสียงตอบรับระงมทั่วโต๊ะ

“พวกกูหิวกันนี่หว่า”

“มึงเอามาเผื่อกูด้วย”

“กูอยากกินเบียร์ว่ะ”

“กูยังไม่อิ่มเลย”

“โอ่ย!! มีพ่อเป็นนกกันเหรอพวกมึง”  ไอ้โป้ยถึงกับปวดหัว  “ลุกไปช่วยกูถือเลยไอ้บอย”  มันหันไปกระดิกนิ้วเรียกเพื่อนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง

“กูแดกอยู่เห็นมั้ย ใช้เมียมึงโน่น!”

ผมที่กำลังจะเอื้อมจกทอดมันกุ้งก็มีอันต้องละมือไปก่อนอย่างเสียอารมณ์ ผมแบกท้องที่เริ่มร้องโครกครากไปหอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับโป้ยกลับมาที่โต๊ะหลายขวด โป้ยก็ชงเหล้ากลับมาได้หลายแก้วชนิดที่ถ้าไม่เกรงใจคงได้ยกมาทั้งขวด

เราทั้งกินทั้งดื่มกันไม่ยั้ง เอ่ยแซวกันตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ใครเดินเข้ามาชนก็ชนตอบ ใครชวนลุกไปดิ้นก็ยืนพรึบพรับตามกันออกไป ผมที่กำลังกรึ่มก็กำลังวาดลวดลายสายแดนซ์ตามเพลงกะกลุ่มขี้เหล้าชนิดที่ลืมเจ็บสะโพกไปเลย กระทั่งเสียงหนึ่งทักทายขึ้นจากทางด้านหลัง

“ดิ้นยับเลยน้า...”

ผมหันไปมองต้นเวียงหวานๆ แล้วก็พบกับแพรยืนยิ้มด้วยใบหน้าน่ารัก เธอยังเหมือนครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน น่ารัก ยิ้มหวาน แต่เหมือนความสดใสที่มีมันจะเจือจางลง สังเกตได้จากความหม่นหมองที่พาดผ่านแววตา

“สบายดีมั้ยแพร ไม่เจอกันนานเลย”  ผมทักทายด้วยน้ำเสียงจริงใจอย่างที่สุด ความสุขที่มีมันทำให้ผมไม่เก็บการถูกทิ้งมาใส่ใจอีกต่อไป

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ลุงดูมีความสุขมากนะเนี่ย”

“ก็นานๆ มาเจอกันทีนี่”  ผมกับแพรเดินห่างออกมาจากวงเต้น  “แล้วนั่งตรงไหนล่ะ ทำไมเราไม่เห็นแพรเลย”

“ก็เราเพิ่งมาถึง เข้ามาก็เห็นลุงเต้นเย้วๆ กับพวกป้างอยู่เลยเดินเข้ามาทักก่อน”

“ฮะๆๆ งั้นไปนั่งกับพวกเรามั้ย เอาจริงๆ คือเราก็ไม่เห็นพวกเพื่อนของแพรสักคนเลยนะ”  ผมว่าพลางช่วยมองหาอีกรอบ

“พวกนั้นมากันไม่ได้สักคนน่ะ”

“งี้แพรก็เหงาแย่น่ะสิ”  แพรอมยิ้มเศร้าๆ ให้ผมอย่าสื่อความนัย ก่อนที่เสียงหวานๆ จะแพร่งพรายมันออกมาจากปาก

“ที่จริงเรามาเพราะอยากเจอลุงมากกว่า”

“..........”

“เราหาที่คุยกันหน่อยนะ”

ผมนิ่งไปหลายวินาทีก่อนที่ความเศร้าบนใบหน้าของแพรจะทำให้ผมตัดสินใจเดินตามเธอออกไปจากความวุ่นวายข้างใน แพรเดินนำออกไปยังประตูอีกบานที่ต่อเชื่อมกับสวนเล็กๆ ที่มีชุดโต๊ะเล็กวางตั้งอยู่ประปราย เธอเดินนำไปนั่งยังโต๊ะตัวหนึ่งที่ว่าง แต่แทนที่เราจะนั่งคนละฝั่ง แพรกลับย้ายที่มานั่งข้างกันเสียจนแนบชิด

ผมได้แต่อึกอักกับความสนิทสนมที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้น อยากจะขยับหนีแต่แขนก็ถูกอีกฝ่ายรัดไว้อย่างจงใจ

“แพร...นั่งดีๆ สิ”  ผมพยายามชักแขนหนีออกจากความหยุ่นนุ่ม แต่อีกฝ่ายกลับไม่ให้ความร่วมมือแม้แต่น้อย

“ให้แพรกอดหน่อยเถอะนะ ตอนนี้แพรเหนื่อยมากจริงๆ”

น้ำเสียงที่ราวกับอัดอั้นตันใจเสียมากมายทำเอาผมดึงดันต่อไปไม่ลง  “เกิดอะไรขึ้น?”

“ลุงคงรู้จากเพื่อนแล้วว่าแพรมีแฟนใหม่” 

“อื้ม”

“แต่เราเลิกกันแล้วล่ะ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เอง”  พูดจบแพรก็ถอนหายใจออกมา แนบใบหน้าลงกับไหล่ผมราวกับต้องการพึ่งพิง

“เสียใจด้วยนะ”  ผมบอกเบาๆ ตั้งใจหันหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบกลิ่นหอมที่โชยออกมาจากร่างนุ่มนิ่มข้างกาย ในหัวนั้นตีกันให้ถึงหนทางหนีออกจากสถานการณ์ตรงหน้า

“แพรไม่น่าเลิกกับลุงเลย... ลุงเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่แพรเคยคบด้วย แพรมันโง่”

“ช่างมันเถอะน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว”

“มันมีคนอื่นน่ะลุง แพรเห็นตำตาเลยด้วยซ้ำ ในห้องของเรา บนเตียงของเรา มันเอาผู้หญิงคนอื่นมานอน!”  แล้วผมก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังขึ้นผะแผ่วที่ทำเอาหัวใจบุรุษอ่อนยวบในทันใด ผมเดาว่าแพรคงไม่ได้ตั้งใจทำให้ผมอึดอัด แต่คงเห็นว่าผมน่าจะช่วยปลดปล่อยความไม่สบายใจให้เธอได้

“อะไรที่ไม่ดีก็ปล่อยทิ้งไปนะ เริ่มต้นใหม่เถอะ”  ผมเอ่ยปลอบอย่างเก้กัง แต่ก็ยังอุตส่าห์ยกมือขึ้นมาลูบกลุ่มผมนุ่มเพื่อให้กำลังใจ

“ลุง...ลุงเปลี่ยนไปรึยัง?”  ผมชักมือออกจากหัวแพรทันทีราวกับแตะถูกของร้อน ส่งสายตาจ้องแพรด้วยความงุนงงก่อนที่อีกฝ่ายจะเฉลยออกมา  “เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมได้มั้ย?”

ห๊ะ!!!

“จะบ้าเหรอแพร นี่เราเพิ่งเจอกันได้แค่ไม่กี่นาทีเองนะ”

“แต่เราเคยเป็นแฟนกันมาแล้วไง เป็นเพื่อนกันมาก่อนด้วย”

นี่แพรช้ำใจจนสติหลุดไปแล้วหรือไงกัน ถึงได้กล้าหาญกลับมาขอคบกับแฟนเก่าที่ถูกตัวเองเขี่ยทิ้งน่ะ แถมหลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยด้วยซ้ำ เป็นความสัมพันธ์ที่หาเยื่อใยไม่เจอเลยแท้ๆ

ผมอยากจะผลักผู้หญิงคนนี้ทิ้งแต่ก็ทำใจแข็งไม่ลง ได้แต่หันมองซ้ายขวาหวังว่าจะมีตัวช่วยผ่านเข้ามา และพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งผม เพียงแต่...

ตัวช่วยนั้นไม่รอให้ผมร้องขอก็ก้าวฉับๆ ตรงมาด้วยท่วงท่าดุดัน ตามด้วยกลุ่มผู้ช่วยที่เหลือที่ผันตัวเองไปเป็นไทยมุง ผมเห็นไอ้โป้ยทำไม้ทำมือเป็นเชิงว่ามันเป็นคนโทรหาผู้ช่วยให้เอง และยังอุตส่าห์ทำมือปาดคอตัวเองเพื่ออวยพรผมอีกต่างหาก

ไอ้เลว!!

“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า?”  คุณตัวช่วยร่างใหญ่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ผมงี้หนาวไปทั้งสันหลัง แต่แพรมันยังไม่รู้ มันยังตีมึนนั่งซุกอกผมอยู่ท่าเดิม

“ไม่มีอะไรค่ะ”  มันบอกพลางกรีดน้ำตา ...ตอนนี้ผมก็อยากกรีดน้ำตาเหมือนกัน

“ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อยแฟนผมสักทีสิครับ”

เงียบกริบทั้งคนนั่งฟังแล้วก็กลุ่มที่ยืนฟัง แต่อยากน้อยความตกใจก็ทำให้วงแขนของแพรคลายออกจนผมรีบกระชากตัวเองลุกออกมาจากที่นั่งได้สำเร็จ เมื่อตั้งหลักได้ผมก็รีบเดินไปยืนข้างๆ พี่ปูนที่กำลังแผ่รังสีความโมโหออกมา

“มาได้ไงอะ”  ผมรีบถามเพื่อทำลายความเงียบ ทำให้พี่ปูนละสายตาจากแพรมามองที่ผมแทน

“โป้ยส่งข้อความไปให้มารับลุงกลับ”  พี่ปูนตอบสั้นๆ แล้วก็หันกลับไปจ้องแพรต่อเหมือนเดิม  “แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”

“เพื่อนเก่าน่ะมันมีปัญหานิดหน่อย”  ผมรีบตอบเพื่อเอาตัวรอดพร้อมกับกระซิบว่าเมื่อกลับไปจะเล่าให้ฟัง พี่ปูนก็ทำพยักหน้านิ่งๆ ผมก็เลยจัดการแก้ความเข้าใจผิดของแพรให้กระจ่างไปด้วยเลย  “แพรนี่พี่ปูน แฟนเราเอง”

“.........”  แพรได้แต่เงียบ ยิ่งเห้นมันก้มหน้านิ่งเหมือนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อก็นึกสงสารไม่น้อย เลยต้องหันไปพยักพเยิดกับโป้ยให้พามันหลบออกไปก่อน

“ไปดื่มเหล้ากันโว้ยแพร ไม่ได้เจอกันตั้งนานเนอะ”  แล้วไอ้โป้ยก็ส่งไม้ต่อให้หญิงหนึ่งในกลุ่มไทยมุงให้รับหน้าที่แทน หญิงเดินฝ่าความเงียบเข้ามาฉกตัวแพรไปแบบเนียนๆ

“กลับเลยมั้ย”  พี่ปูนถามขึ้นในที่สุด

ผมพยักหน้าอย่างไม่อิดออด เลยพาพี่ปูนไปแนะนำตัวกับพวกขาเสือกทั้งหลายแบบง่ายๆ ก่อนกลับ พวกนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรมากได้แต่ยกมือยกไม้สวัสดีกันไปตามเรื่อง แต่ผมเชื่อว่าเมื่อคล้อยหลังผมไปแล้ว ไอ้โป้ยคงจะสาธยายให้พวกนั้นฟังเองว่าผมกับพี่ปูนรักกันขนาดไหน

พี่ปูนขับรถพาผมกลับคอนโดฯ ด้วยความเงียบมาตลอดทาง แม้ว่าผมจะนั่งอธิบายอย่างละเอียดแทบจะนาทีต่อนาทีถึงเหตุการณ์ที่เกิดเพื่อให้พี่ปูนสบายใจก็ตาม พี่ปูนแค่พยักหน้าตอบโต้ผมเท่านั้น ไม่มีคำพูดอื่นใดออกมาจากปากรูปกระจับที่เม้มแน่นแม้แต่น้อย

เมื่อเราถึงห้องพี่ปูนก็ให้ผมอาบน้ำก่อน พอเสร็จออกมาก็พบเจ้าของห้องยืนอยู่หน้าประตู พี่ปูนหอมแก้มผมเร็วๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำต่อ มันเป็นรอยจูบอุ่นๆ ที่มาพร้อมกับกลิ่นบุหรี่เจือจาง ผมรู้ว่าพี่ปูนกำลังเครียด แต่ก็รู้ว่าพี่ปูนจะไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เห็นผิดไป ไม่อย่างนั้นระเบิดคงกระหน่ำลงตรงนั้นไปแล้ว

ผมนอนรอเงียบๆ ไม่นานนักพี่ปูนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงใหญ่แข็งแรงเดินตรงดิ่งมายังเตียงโดยมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้ ใบหน้าหล่อบาดใจเผยยิ้มให้ผมแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างกัน พี่ปูนนอนหงายมองเพดานอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะพลิกตัวมากอดเอวผมไว้แล้วซุกนิ่งๆ อีกสักพัก

“พี่เหมือนจะเข้าใจแล้วว่าลุงรู้สึกยังไงเรื่องเจน่า”

“กับแพรมันไม่มีอะไร สารภาพเลยว่าไม่เคยมีอะไรกันเลยด้วย”  ผมเพิ่มคำอธิบายด้วยความขัดเขิน

“มันก็แค่...พี่หึงมาก”

ทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้นะ

ผมขยับตัวก้มจูบแก้มพี่ปูนฟอดใหญ่ ฟัดหัวหอมๆ สองสามรอบก่อนที่ร่างผมจะถูกพลิกให้ไปนอนเกยแผ่นอกกว้าง กลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมอาบน้ำเจือกลิ่นกายเฉพาะตัวทำเอาเผลอสูดดมไปหลายครั้ง

“พี่เคยหึงลุงกับโป้ยด้วยนะ”

“นั่นปัญญาอ่อนมาก”  แค่คิดก็ขนลุกจะแย่!  “ผมสาบานเลยว่าไม่เคยซู่ซ่ากับผู้ชายหน้าไหนนอกจากพี่”

“ตื่นเต้นจังที่ได้ยิน”

“อยากตื่นเต้นกว่านี้อีกมั้ย?”  ต้องบอกว่าผมเบี่ยงเบนความสนใจของพี่ปูนได้อีกครั้ง ผมขยับตัวขึ้นไปซบลงกับซอกคอหอมๆ จูบเบาซับแผ่วเบา

“ผมชอบเวลาพี่กอดผม”

“..........”   

“ถึงตอนแรกตั้งใจว่าจะเป็นผัวที่ดีของพี่ก็เถอะ”  พี่ปูนหัวเราะออกมาเบาๆ มือหนาลูบหัวผมไปมา  “แล้วหลังจากนั้นผมก็ตกใจที่สุดในชีวิตเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วรู้ตัวว่าเป็นเมียพี่ไปซะแล้ว”

“โอว~ คืนนั้นจัดว่าเด็ดมาก”  คนนึกถึงความหลังหัวเราะจนอกกระเพื่อม

“ปุริมรักลุงมากมั้ย?”

“มากสิ...รักมากกว่าใครทั้งหมด”  แล้วผมก็ถูกจูบที่ริมฝีปากนานอยู่หลายวินาที

“อืม ลุงก็รักปุริมมากเหมือนกัน”  เราคลอเคลียกันไปเรื่อยเปื่อย พี่ปูนครางเบาๆ อย่างพึงใจยามผมลูบไล้แผ่นอกเปลือยเปล่าด้วยปลายนิ้ว  “แต่ไหนๆ เราก็รักกันขนาดนี้แล้ว ปุริมไม่ลองมาเป็นเมียลุงสักทีสองทีเหรอ”

แล้วทุกอย่างก็ชะงักไป ชิ!! ผมก็คิดแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ 

“ไหนว่าชอบเวลาที่พี่กอดไง”

“ก็ผมเป็นผู้ชายนี่ มันก็อยากจะใช้งานไอ้ที่มีอยู่บ้าง”

พี่ปูนอมยิ้ม ใช้นิ้วเกลี่ยใบหน้าผมอย่างอ่อนโยนพลางขบคิด  “พี่ซื้อตุ๊กตายางให้”

“ก็ดีนะ แต่เอาตัวที่ผมเคยชี้ให้พี่ดูนะ”  ผมยอมล้อเล่นไปด้วย แม้จะรู้สึกแปลกพิกลว่าพี่ปูนอาจซื้อมาให้ผมจริงๆ

“โอเค แต่ต้องทำต่อหน้าพี่นะ”

“พี่แม่ง! โรคจิตจริง” 

“แต่รักใช่มั้ย?”

“เออ!!”

พี่ปูนหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็กอดผมซะแน่นเพื่อพลิกตัวเราให้สลับตำแหน่งกันอีกครั้ง แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกสักพักใหญ่ ความร้อนค่อยๆ พวยพุ่งขึ้นจากสองร่างของเรา การโรมรันพันตูเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่นเหมือนทุกครั้ง คุ้นเคยอย่างที่ทำมาตลอด กระทั่งตอนที่เรียวนิ้วชุ่มเจลหล่อลื่นขยับขยายช่องทางก็ยังทำให้ผมเสียวกระสันได้อย่างทุกที

“ทำให้พี่ดูนะ ตัวหนึ่งแพงมากนะขอบอก”

“พี่ปูน!!”   ผมขยับท่าทางให้สบายยามของร้อนจดจ่อช่องทาง

“น่านะ”

ผมได้แต่กลอกตาให้กับความลามกของคนรัก ...แต่สุดท้ายผมก็ยอมเขาเหมือนที่ผ่านมา

“ถ้าไม่ถ่ายคลิปก็จัดไป”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่สั่งเลย!”

“อื้อ~”

หลังจากนั้นมีแต่เสียงครวญครางของเราคละเคล้าไปกับความรุ่มร้อนที่มีแต่จะมากขึ้นทุกนาที…

ผมนับตัวเองว่าเป็นคนโชคดี และคนโชคดีก็ไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ

ทุกคนต้องเคยผ่านความรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง หรือแม้กระทั่งความรู้สึกที่ว่าอยากจะกลับไปแก้ไขอดีตสักครั้ง

‘สิ่งใดที่เกิด สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ’ ผมเคยอ่านผ่านตามาจากหนังสือเล่นไหนสักเล่ม คราแรกผมไม่เข้าใจ จนตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจคำนั้นได้ถ่องแท้รึยัง

แต่ทุกสิ่งทุกเหตุการณ์ที่เกิดย่อมมีผลกระทบสอดคล้องกันไป มันคล้ายจะเป็นบททดสอบชีวิตว่าเราจะผ่านมันต่อไปได้แล้วเข้มแข็งขึ้น หรือจะขังตัวเองไว้แล้วปล่อยให้สิ่งที่เกิดนั้นวนเวียนทำร้ายซ้ำไปมา

เหมือนที่พ่อผมจากไปแล้วทิ้งความเศร้าเอาไว้ให้คนในครอบครัว แต่ก็ทำให้พวกเราเรียนรู้ที่จะรักและดูแลกันให้มากกว่าเดิม

อย่างที่ผมอาจจะโดนทิ้งมาหลายครั้ง แต่ผมที่ไม่จมอยู่กับความล้มเหลวแบบนั้นในที่สุดก็ได้พบคนที่ดีกว่าใคร

และเช่นเดียวกับที่ผมไม่เคยต้องมาตกอยู่ในสถานะเมียของใคร พอก้าวผ่านมันมาได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อย

อาจมีเรื่องเสียใจ เรื่องขัดเคือง หรือกระทั่งเรื่องงี่เง่ามากมาย แต่ผลของสิ่งเหล่านั้นก็ทำให้รู้ว่าเราควรจะปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างไร ได้เรียนรู้ทุกอย่างไว้เป็นประสบการณ์ ทั้งเรื่องดีและเลวร้าย

ชีวิตผมอาจจะไม่ได้หวือหวาตื่นเต้นเหมือนใคร แต่ทุกวันที่เป็น...มันดีมากแล้วจริงๆ




--------------------------------------- THE END------------------------------------------------

ใช้เวลายาวนานนนนนมากๆ

แต่ในที่สุดเรื่องสมภารกับไก่วัดก็จบไปจนได้

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ยังแวะเวียนเข้ามาติดตาม

ขอบคุณทุกคนที่ยังรอคอยตัวอักษรสุดท้ายของเรื่องนี้

ขอบคุณทุกคำชม และคำแนะนำ

ทุกคอมเมนต์คือกำลังใจที่ดีเยี่ยมเสมอมาจริงๆ ค่ะ

ขอบคุณจากใจ

[Lady Mellow]

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ปล. คราวนี้ก็ถึงคิวตามเก็บเรื่องอื่นแล้ว
และถ้ามีข่าวเรื่องรวมเล่มจะมาแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ หรือติดตามกันได้ที่หน้าเพจนะจ๊ะ








ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
จบแล้วววววววว ลุงยังคงน่ารักเหมือนเดิมมม
ป.ล. รอน้องต่ายกับพี่จันทร์นะคะ คิดถึงๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องพูดว่าไงนะเห็นคำว่าจบอย่างนี้​ ใจหนึ่งก็โล่งอีกใจหนึ่งก็รู้สึกใจหายอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด