◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◦●สมภารกับไก่วัด●◦|| *แจ้งข่าวหนังสือ* || 5-3-63 หน้า 54 ||  (อ่าน 302160 ครั้ง)

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
ไม่มาต่ออีกแล้วหรออออออ. เสียใจจัง

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
อ่านชีวิตปูนคร่าวๆ ยังปรี๊ดเลย เอาจริงนะ ตอนเด็กไม่ดูแลกัน ไม่รัก รังแต่ทำร้าย พอจะตายแล้วจะมายุ่งอะไรกะเค้าอีก ความกตัณญูรู้คนที่ผู้ใหญ่พร่ำสอนมันควรมีลิมิตนะ
ดังนั้น ถ้าสุดท้ายปูนจะำปรับตำแหน่งก็อยากให้ไปแบบยึดอำนาจไปเลยสะใจดี อย่าไปเพราะใจอ่อน แบบนั้นมันน้ำเน่าเกิ้น

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
เสร็จสมอารมณ์หมาย ได้เมียชื่อลุงแล้ว

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
 :haun4:  แต่ตอนท้ายแอบสงสารพี่ปูน

ออฟไลน์ Namnamboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
สงสารพี่ปูน
ลุงไม่มีทางทิ้งพี่ปูนหรอก
ลุงรักพี่ปูน พี่ปูนสบายใจได้

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
รออยูนะคะ มาต่อเรื่องนี้หน่อยนะคะ

 :mew2:

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
นานแล้วหนา

เข้ามาปัดกวาดเช็ดถู

นั่งลงแล้วถอนหายใจ :เฮ้อ:

เมื่อไรน้อเธอจะมา :a6:


ออฟไลน์ popaye

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เข้าใจปูนเลย ทีตอนเราโดนกระทำไม่มีใครเหลียวแล พอตอนนี้มาเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นพ่อ คิดว่ากว่าจะผ่านมาได้มันง่ายนักรึไง

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
มาเงียบๆ
[/size]

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 18 _ไก่ตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดไม่มิด? _





ทำไปแล้ว...


ผมทำมันไปแล้ว...


พ่อครับ! ลูกชายพ่อเป็นชายเหนือชายแล้วนะครับ...

ทุ้ย!!!

ผมขยับก้นไปมาพลางหลับตาตั้งสมาธิใหม่อีกหน

ขอโทษนะครับพ่อ ลุงจะจริงจังแล้วนะ

พ่อครับ...ลุงคงมีหลานชายไว้สืบสกุลของพ่อไม่ได้แล้วนะครับ นี่ต่างหากคือเรื่องที่ลุงอยากจะบอกกับพ่อ ช่วยเข้าฝันบอกแม่ทีว่าพ่อไม่คิดมากเรื่องนี้นะครับ ถึงแม่จะรับได้แต่ลุงกลัวแม่แอบคิดว่าทำไมสกุลเราถึงได้สั้นจัง แล้วถ้าเผื่อพ่อมีเลขเด็ดก็แวะไปเข้าฝันป้าทีนะครับ ป้าเสียมาสี่งวดติดแล้ว เล่นแค่ 20 บาทแต่พูดมากจนลุงหูชาเลยครับ ทางที่ดีก็บอกให้เลิกเล่นไปซะด้วยเลยดีกว่านะครับพ่อ เรื่องหลักๆ ก็มีเท่านี้ล่ะครับ ลุงไม่อยากลงรายละเอียดยิบย่อยให้พ่อตกใจ เดี๋ยวพ่อจะหลุดอุทานจนเพื่อนบนสวรรค์มองแรง

อ้อ! เผื่อพ่อจะกังวล ถึงแฟนลุงจะเป็นผู้ชายเทาๆ แต่ก็เป็นเทาออกขาวนะครับ บางมุมอาจจะดูร้ายไปบ้าง อึมครึมไปบ้าง แต่ก็ยังนับว่าเป็นแฟนที่ดีครับเพราะงั้นพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะ

 รักและคิดถึงพ่อเสมอนะฮะ


ผมก้มลงกราบโกฏิสีเงินที่ใส่อัฐิของพ่อหนึ่งครั้งก่อนจะย้ายสายตาไปมองรูปใบหน้ายิ้มแย้มในกรอบที่ตั้งอยู่ข้างกัน ไม่ว่าเมื่อไหร่พ่อก็มักจะยิ้มแบบนี้เสมอและต่อให้ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ พ่อก็คงแค่ตบบ่าแล้วบอกให้ผมเลือกทางเดินที่ตัวเองสบายใจที่สุดอยู่ดี เพราะพ่อเป็นคนมองโลกในแง่ดีแบบนี้ทุกคนถึงได้เสียใจเมื่อพ่อจากไป

“อะแฮ่ม!!”

ผมหันหลังกลับไปมองต้นเสียงกระแอมแทบจะในทันทีก็พบหญิงสาวรูปงามคนหนึ่งยืนพิงกรอบประตูด้วยท่วงท่านางแบบ ช่วงขายาวที่พ้นกางเกงขาสั้นเอวย้วยไขว้กันอย่างน่ามอง เสื้อยืดเก่าเก็บที่ผ่านการซักมานานนับสิบปีบัดนี้คอกว้างจนตกจากไหล่ดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบ ผมยาวหยักศกฟูฟ่องเหมือนถูกหวียีมาทั้งหัวช่างนำสมัยจนต้องร้องหาพระเจ้า

นี่เป็นสไตล์การแต่งตัวในลุคเพิ่งตื่นของนางสาวปราจีน -- โปรดอย่าเลียนแบบพี่ผมเลยนะครับ เพราะดูจากสารร่างและเมคอัพที่ยังล้างไม่เกลี้ยงบนหน้า เมื่อวานคงไม่ได้อาบน้ำก่อนนอนอีกแล้วแน่ๆ

“ตั้งใจตื่นมาไหว้พ่อแต่เช้าหรือมาสารภาพบาปกันยะ”

“ไปอาบน้ำได้แล้ว”  ผมรีบลุกขึ้นเดินไปรุนหลังคนแต่งตัวไม่เรียบร้อยให้พ้นจากเขตศักดิ์สิทธิ์ของห้องพระ  “ลุงซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋มาไว้ให้ มีชากับน้ำเต้าหู้ด้วยเลือกเอานะ”  ผมดันป้าไปจนถึงห้อง

“จ้าๆ”  ป้ารับคำพลางปล่อยให้ผมดันหลังไปจนถึงห้อง แต่ในจังหวะที่เปิดประตูเพื่อที่จะเข้าไป สาวสวยสภาพโทรมก็ชะงักแล้วหันมาเก๊กขรึมใส่ผม  “แล้วรู้บทลงโทษของตัวเองดีใช่มั้ย?”

“รู้แล้วน่า!”  ผมผลักพี่สาวตัวเองเข้าห้องแล้วปิดประตูให้ทันที ผมรีบเดินหนีลงไปข้างล่างโดยไม่สนเสียงบ่นที่ดังรอดออกมาจากประตู

สองเท้าซอยยิกลงไปตามขั้นบันได จนเมื่อเหยียบพื้นได้สำเร็จแข้งขาก็พลันอ่อนยวบขึ้นมา ผมเดินเซไปทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร แต่เพียงแค่ก้นกระแทกกับแผ่นไม้เท่านั้นความเจ็บแปร๊บก็แล่นไปตามไขสันหลังเข้าสู่สมองและสั่งให้ตูดยกลอยเหนือที่นั่งทันที ผมกลั้นใจเก็บเสียงโอดโอยของตัวเองลงคอก่อนจะค่อยๆ หย่อนก้นตัวเองลงไปอีกครั้งด้วยระดับที่นุ่มนวลกว่าเดิม

นอกจากจะถูกพี่ปูนพ่นคำว่า ‘เมีย’ ใส่หน้าแล้ว กลับบ้านมายังถูกคุณดาหลาลงโทษซ้ำสองอีก! แต่จะไปโทษใครได้นอกจากตัวเอง ถ้าวันนั้นไม่ฉุกละหุกไหลไปตามน้ำกับไอ้โป้ยผมคงไม่ถูกย่ำยีจนบอบช้ำถึงเพียงนี้ ไม่สิ! ของที่มันเสียไปแล้วจะไปพูดถึงอีกทำไม!! เพราะสิ่งที่ตามมานั้นมันก็น่าอับอายไม่แพ้กัน...ในที่สุดในวัย 25ปี ผมก็ถูกกำหนดเวลากลับบ้านอีกครั้งหลังจากที่ไม่เจอกับการลงโทษนี้มาเป็น 10ปี นี่มันเป็นเรื่องน่าอายที่สุดสำหรับผู้ชายวัยฉกรรจ์ที่ต้องเจอ แต่ในเมื่อผมเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงของครอบครัวเองก็เลยต้องก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมไป จะแก้ตัวก็อึกอักไม่เต็มปากเดี๋ยวจะพานหลุดเผยความจริงให้ต้องมุดหน้าหนีลงดินซะเปล่าๆ

ผมถอนหายใจยอมรับในชะตากรรมก่อนที่สายตาจะเหลือบไปมองนาฬิกาบนผนังที่กำลังบอกว่าใกล้ถึงเวลาที่ผมสมควรจะต้องออกจากบ้านแล้ว ผมพาร่างกายห่อเหี่ยวพร้อมกระเป๋าเป้เดินโซซัดโซเซมาใส่รองเท้าแล้วเปิดประตูบ้านออกไป บริเวณบ้านของผมนั้นเรียกได้ว่าเล็กน้อยถ้าเทียบกับหลังอื่นๆ ในบริเวณ แต่จนทุกวันนี้ผมยังอดทึ่งไม่ได้ที่พ่อมีที่ดินในย่านนี้และปลูกบ้านขึ้นมาเองโดยที่ไม่ทิ้งภาระไว้ให้พวกเราแม่ลูกสานต่อ เพราะถึงจะบอกว่าเล็กก็เถอะแต่ถ้าเทียบกับพื้นที่บ้านเดี่ยวทั่วๆ ไปก็นับว่าใหญ่กว่าพอสมควรล่ะ

ผมชอบที่นอกบ้านเราปูด้วยพื้นหินขัดแต่ก็ยังมีสวนเล็กๆ ที่มีต้นไม้ใบหญ้าสวยงาม มีชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้ที่มองไปมองมาแล้วเข้ากับประตูรั้วมากกว่าจะเข้ากับสภาพนอกบ้าน แต่ที่มองไปแล้วช้ำใจกว่าคือบรรดาต้นไม้ในสวนพากันเหี่ยวเฉาลงเพราะช่วงนี้ขาดการดูแล ...เฮ้อ~ ผมถอนใจอีกรอบเมื่อคิดว่าสามอาทิตย์ต่อจากนี้คงได้มีเวลาดูแลพวกมันทุกวันจนเบื่อแน่นอน ไหนจะพื้นโรงรถที่รอผมไปขัดอีกล่ะ ฝุ่นตามซอกมุมรอบบ้านที่เกิดจากการละเลยนั่นก็ด้วย ผมเดินคิดไปตลอดทางแม้กระทั่งจังหวะที่ก้าวเท้าพาตัวเองออกจากประตูเล็ก


อา...แค่หลับตาก็เห็นถึงงานมากมายที่รออยู่แล้ว



“เมียพี่เก่งจัง หลับตาเดินได้ด้วย”



หัวคิ้วกระตุกหงึกๆ กับถ้อยคำเย้าแหย่ที่ดังมาจากด้านซ้ายมือ แค่เสียงคุ้นเคยนั่นก็ทำเอาผมต้องถอนหายใจแรงๆ เพื่อสะกดอารมณ์ก่อนจะหันไป อนึ่ง...จะขออธิบายลักษณะถนนหน้าบ้านผมสักหน่อย มันเป็นซอยแคบที่ฝืนตีเส้นสองเลน มีรถสัญจรหลักคือมอเตอร์ไซค์กับจักรยาน มีฟุตบาทเล็กๆ ให้ผู้รักสุขภาพวิ่งออกกำลังกายสูดควันพิษได้ในยามเช้าและเย็น เพื่อนบ้านนั้นไม่ได้ออกมาเฮฮาตั้งกลุ่มเมาท์มอยเพราะรั้วสูงใหญ่ปิดสนิทบ้านใครบ้านมันกันทั้งนั้น แต่เพราะซอยตรงนี้คือทางลัดไปยังจุดตั้งตลาดซอยตรงข้ามก็เลยมีคนสัญจรผ่านกันทุกเพศวัย

ใครบ้างที่อาศัยอยู่กรุงเทพแล้วไม่เคยเห็นรถหรูๆ แพงๆ ยิ่งคนแถวนี้มีแต่จะเบือนหน้านี้กันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ดวงตาผมรับภาพได้คือคนที่เดินสวนไปมาต่างให้ความสนใจไปยังจุดเดียวกัน

ผมกระพริบตาปริบๆ มองฝ่าแสงอาทิตย์อ่อนละมุนในยามเช้าที่สาดมาจากทางเบื้องหน้า สิ่งที่ตระหง่านอยู่ริมริ้วไม้ระแนงของบ้านผมคือรถยุโรปที่ขึ้นชื่อว่าเวลาเสียทีค่าอะไหล่แพงสุดๆ ที่แม้เจ้าของจะใช้มาแล้วหลายปีแต่ก็ยังหรูดูดีอยู่เหมือนเดิม ไม่หรอก...นั่นไม่ใช่จุดรวมสายตาของคนผ่านทาง เพราะเหนือกระโปรงรถสีดำเงาวับคือบั้นท้ายของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนขึ้น แสงแดดฉาบไล้เจ้าของร่างสูงให้ดูฟุ้งราวกับจับต้องไม่ได้ แต่เมื่อสองเท้านั้นก้าวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นคำว่า ‘น่ามอง’ ที่ผุดขึ้นมาในหัวก็ดูจะน้อยไป นี่เองคือจุดเรียกทุกสายตาให้หันมามอง รถหรูน่ะเกลื่อนถนนจนต้องเบ้ปาก แต่คนหล่อน่ะ...ใช่ว่าคุ้ยขยะแล้วก็เจอเสียเมื่อไหร่

พี่ปูนยืนยิ้มหวานอยู่เบื้องหน้า ผมยุ่งๆ ที่ผมสางเล่นเมื่อคืนก่อนตอนนี้ถูกเซ็ตเป็นทรงตามสมัย ดวงตาคมเข้มสีดำสนิทที่สะท้อนภาพผมเมื่อวานตอนที่มาส่งกลับบ้าน วันนี้ก็ยังคงมีภาพของผมอยู่ในนั้นเหมือนเดิม จมูกโด่งเป็นสันนั่นสินะที่คืนก่อนยังไซ้ตามร่างผมไม่หยุด แล้วยังริมฝีปากบางดูนุ่มนิ่มนั่นอีกที่คืนนั้นได้ทำการอุกอาจกับร่างกายผมไปตั้งหลายอย่าง

หน้าผมเห่อร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ ยามเห็นฝ่ามือใหญ่แข็งแรงยื่นออกมาปลดกระเป๋าเป้บนไหล่ไปถือไว้เอง ความทรงจำที่ว่ามันอุ่นร้อนจนแทบจะเผาไหม้ผิวเนื้อขนาดไหนตอนถูกลูบคลำก็เกิดขึ้นมาดื้อๆ แล้วยังจะ...ผมมองลงไปที่ใต้หัวเข็มขัดอย่างไม่ได้ตั้งใจ ...แล้วไอ้นั่นก็…ที่...มันเข้าไป...



...บึ้ม!!



เหมือนหัวสมองผมถูกมือดีวางระเบิดจนสติมันแตกพล่านไปหมด ความทรงจำเมื่อคืนก่อนมันย้อนเข้ามาแบบไม่ปะติดปะต่อ ผมจำไม่ได้ทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ความเจ็บก็ชักนำภาพเหตุการณ์เข้าสู่สมองเป็นช่วงๆ บางแวบก็คล้ายได้ยินเสียงครางของพี่ปูนที่มาพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาชุ่มเหงื่อ บางทีก็ได้ยินเสียงตัวเองร้องโอดครวญคลอไปกับเสียงครางรอดไรฟันจากคนเหนือร่างที่ทำสีหน้าได้เซ็กซี่กว่าใคร สำหรับผมตอนนั้นมันเหมือนภาพฝันที่เหมือนจริงที่สุดในชีวิต อาจเกิดจากที่ผมถูกพี่ปูนรุกเร้าหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเลยบอกกับตัวเองว่า...ผมฝันเปียกเพราะพี่ปูนเข้าให้แล้ว

แต่เมื่อตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นนั้น ร่างกายผมปวดระบมแถมยังเจ็บตรงก้นชนิดที่ว่าน้ำตาเกือบจะไหล สิ่งแรกที่รู้สึกคือความเย็นที่ห่อหุ้มร่างไร้เสื้อผ้าของตัวเอง พอจะขยับตัวด้วยความตกในเท่านั้นก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างไหลออกมาจากช่องทางด้านหลัง เมื่อทำใจกล้าป้ายของเหลวนั้นขึ้นมาดูหัวคิ้วก็ขมวดฉับในทันที ฝันเปียกมันไม่ได้ทำให้ผู้ชายหลั่งออกมาทางก้นแน่! ความตกใจทำให้ร่างผมชาหนึบแล้วพอกวาดตามองโดยรอบก็พบร่างบนที่นอน ใบหน้าของคนในความฝันของผมกำลังนอนหลับด้วยใบหน้าอิ่มเอิบจนน่าหมั่นไส้



มันสินะที่...ที่...



ผมอับอายจนจนเผลอตะโกนออกมา นั่นทำให้พี่ปูนตะลีตะลานตื่นขึ้นด้วยความตกใจแล้วจบด้วยการรับลูกถีบจากผมไปหนึ่งดอก หลังจากนั้นผมก็ยังต้องนอนซมในอ้อมกอดพี่ปูนไปอีกหนึ่งคืนและต้องถึงกับโวยวายกว่าที่อีกฝ่ายจะยอมปล่อยผมกลับบ้านในตอนเย็นของเมื่อวาน

ตอนอยู่ด้วยกันผมก็อายนะ แต่พี่ปูนก็จะเข้ามานัวเนียจนความเขินมันเปลี่ยนเป็นความเคยชิน แต่พอกลับมาบ้าน ได้นอนคนเดียวในห้องที่อยู่มาทั้งชีวิตผมกลับรู้สึกว่ามันขาดอะไรไปบางอย่าง ใจมันไม่สงบอย่างที่เคยเป็น ผมนอนพลิกไปพลิกมาทั้งคืนอย่างกับว่าผมไม่ชินที่จะนอนคนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมก็นอนคนเดียวมาตลอด ไม่กี่วันก่อนหน้าก็ยังหลับคนเดียวได้สบาย   


ผมถามตัวเองทั้งคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้น


ทำไม...ผมจึงคิดถึงพี่ปูนมากขนาดนี้



“อรุณสวัสดิ์ครับ”


ผมมองเจ้าของเสียงนุ่มนวลที่ยิ้มสดใสแข่งกับแสงแดดยามเช้าด้วยใบหน้าร้อนผ่าว มัวหลงอยู่กับความเปล่งประกายเลยไม่ทันระวังถูกริมฝีปากอีกฝ่ายจูบแก้มแรงๆ ในที่สาธารณะ ความอายผสมผสานกับความโมโหทำเอาใบหน้าผมเห่อร้อนจนแทบจะลุกไหม้ พี่ปูนยืดตัวขึ้นมองผมด้วยสีหน้าพึงพอใจอย่างยิ่งยวด

“อย่าทำหน้าแบบนั้น”

“...........”  ผมอยากจะสะบัดหน้าหนี! อยากจะปั้นสีหน้าให้ดูโกรธกว่านี้ชะมัด

“มันจะทำให้พี่อดใจไว้ไม่ไหว”

“พี่ปู๊น!!!”  เลือดทั้งร่างกายคงขึ้นมากองอยู่บนหน้าของผมแล้วแน่ๆ มันทั้งร้อนทั้งหนักเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!

“ทำไมลุงถึงได้น่ากินอย่างนี้ล่ะ หืม?”  พี่ปูนยังยั่วยวนผมไม่หยุดหย่อน ฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งคว้ากุมมือผมเอาไว้แล้วยกขึ้นจูบเบาๆ  “เราโดดงานกันอีกสักวันดีมั้ย? นะ...ตอนนี้พี่อยากกินลุงให้หมดทั้งเนื้อทั้งตัวเลย”

“...ม...ไม่เอา”

“เถอะนะ...”

“...ไม่”

พี่ปูนอมยิ้ม ใบหน้าคมเข้มเลื่อนเข้ามาจูบแก้มผมอีกครั้งแล้วกระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำที่นุ่มหูที่สุด  “คิดถึงจัง

ผมจะทำอะไรได้นออกจากผลักพี่ปูนออกไปด้วยเรี่ยวแรงราวกับเด็กทารก ส่วนใบหน้านั้นคงร้อนจัดจนหลอมละลายไปแล้วล่ะ

“ถ้าคราวหน้าปฏิเสธพี่เสียงเบาแบบนี้อีก พี่จะเข้าข้างตัวเองว่าลุงตกลงนะ”  พี่ปูนยิ้มกริ่ม จากนั้นจึงจูงมือผมมาที่รถพร้อมเปิดประตูให้ด้วยท่าทีสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วแบบที่ผมคงไม่มีวันเลียนแบบได้ ก่อนจะเดินอ้อมรถอวดโฉมให้คนเดินถนนมองแล้วเปิดประตูฝั่งตัวเองขึ้นมานั่ง

ขณะนี้คือช่วงเวลาเช้าตรู่ คนขับขี่รถมีไม่น้อย คนเดินถนนนั้นนับว่ามีมาไม่ขาดตอน แล้ว... แล้วเมื่อกี้ผมทำอะไรลงไป! บ้าบอไปแล้วไอ้ลุง!! ผมโถมตัวซบหน้าลงกับคอนโซลรถด้วยความอับอายประหนึ่งถูกแก้ผ้ากลางที่สาธารณะ ผมปล่อยให้พี่ปูนหอมแก้ม ปล่อยให้ผู้ชายมาทำท่าสนิทชิดเชื้ออย่างที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นเพื่อนกันได้ ต่อหน้าต่อตาประชาชนในละแวกบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิดแถมยังอยู่หน้าบ้านตัวเอง -- บ้าเอ๊ย!!

อนุภาพของการถูกจิ้มมันรุนแรงขนาดนี้เลยเรอะ

“เป็นอะไร?”

“..........”

“ลุง?”

“...กำลังเขินอยู่”   

เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมาทันทีแต่ไม่มีการล้อเลียนใดให้ผมได้อับอายเพิ่มเติม มีเพียงฝ่ามืออุ่นๆ ที่ตบลงบ่าพร้อมเตือนให้ผมนั่งพิงเบาะแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนที่รถยนต์จะเคลื่อนตัวออกไปอย่างเชื่องช้า ผมทำตามอย่างว่าง่ายโดยคุมใบหน้าตัวเองไม่ให้หันมองพี่ปูนได้อย่างดี ไม่กี่นาทีที่ผ่านไปเมื่อกี้ก็ทำลายความเป็นลูกผู้ชายจนย่อยยับไปแล้ว ผมจำต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อกอบกู้มันขึ้นมาใหม่

“หายเขินรึยัง?”  คำถามกลั้วเสียงหัวเราะทำคิ้วผมกระตุกเล็กน้อยแต่ก็ยังคงไม่ยอมหันไปมองคนข้างๆ พี่ปูนก็ยอมขับรถไปเงียบๆ ราวกับรู้ใจ แต่...แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมแอบเหลือบมองก็จะเห็นว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายหยักโค้งด้วยรอยยิ้มเสมอ พานให้เศษซากของความเป็นชายที่ปะติดปะต่อขึ้นมาใหม่พังทลายลงซ้ำแล้วซ้ำอีก


พี่ปูนคือตัวหายนะต่อหัวใจขนานแท้


.

.

.



“ร่างกายโอเคแล้วใช่มั้ย?”

คำถามหลังจากนั่งเงียบกันมาเสียนานดังขึ้นจากเจ้าของรถคันงามที่ขับเข้ามาจอดสนิทที่ลานหน้าบริษัทเป็นที่เรียบร้อย ผมหันไปมองหน้าเพื่อหาความนัยของคำถามน่าอาย แต่พี่ปูนกลับไม่ได้มองหน้าผมเพื่อชงเข้าเรื่องลามกหรืออะไร เพราะงั้นคำตอบจากปากผมเลยไร้ซึ่งความอายอย่างทุกที

“ก็ยังเจ็บขัดบ้างนิดหน่อย เมื่อเช้าเผลอกระแทกก้นกับเก้าอี้ใช่ป่ะเล่นเอาจี๊ดไปตามสันหลังเลย”

“ครั้งแรกก็ประมาณนี้แหละ ต่อไปก็ไม่เท่าไหร่หรอก”  พี่ปูนอมยิ้มพลางเอี้ยวตัวหยิบกระเป๋าเอกสารจากเบาะหลัง 

“ครั้งแรกมันควรทะนุถนอมกันรึเปล่า อ่อนโยนนุ่มนวลอะไรแบบนี้อ่ะ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเต็มสูบเหมือนตายอดตายอยากมาแรมปี”  ผมล่ะอยากแย่งคว้ากระเป๋าสีดำในมือพี่ปูนแล้วฟาดเข้าหน้าหล่อๆ ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้นั่นซะจริง

“ลุงไม่เป็นพี่ ลุงไม่รู้หรอก”

“เอาซี้!! ลุงก็อยากลองเหมือนกัน ครั้งหน้าเป็นพี่มานอนเจ็บตูดบ้างนะ”

“..........”

“เย็นนี้เลยมะ!”  ผมถลึงตาจ้องพี่ปูนอย่างเอาเรื่อง

“...พี่ว่าฝนทำท่าจะตกแล้วล่ะ รีบเข้าข้างในกันเถอะ”  พูดจบ ไอ้คนเปลี่ยนเรื่องก็รีบลงจากรถเป็นการกระตุ้นผมทางอ้อม

ผมเปิดประตูลงจากรถด้วยความหงุดหงิด เงยหน้ามองท้องฟ้าสีสดที่สว่างจ้าด้วยแสงอาทิตย์ ...ฝนจะตกบ้านพ่อพี่รึไง แดดเผาแรงจนหัวจะไหม้อยู่แล้วเนี่ย!!!

ตั้งแต่รู้ตัวว่าประตูเมืองถูกตีแตก ผมก็คล้ายจะยอมรับชะตากรรมไปแล้วว่าชาตินี้คงหมดโอกาสได้สลับบทบาทบนเตียง ถ้าพี่ปูนจะผอมกว่านี้สักนิด กล้ามน้อยกว่านี้สักหน่อย ผมก็พอจะเข้าข้างตัวเองว่าคงพอมีโอกาสกลับมาตีป้อมมันแตกได้บ้าง แต่นี่...

เฮ้อ~ นับจากนี้ผมคงต้องเข้าเว็บบอร์ดที่เปี่ยมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีทำให้กล้ามเนื้อหูรูดกระชับไม่หย่อนคล้อยแล้วล่ะ ไหนจะวิธีทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังอีก บัดซบเอ๊ย! การเป็นเมียผู้ชายนี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

“คิดอะไรอยู่ หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”  พี่ปูนหยุดรอผมที่กำลังเดินเอื่อยให้เข้าไปสมทบ คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองมาด้วยความสงสัย ใช่สิ! คนสมใจแบบมันจะมารับรู้ความรู้สึกผมได้ยังไง

“คิดว่าจากนี้จะหาวิธีหลบเลี่ยงพี่ยังไงดี”  ผมประชดตอบออกไป

“เรื่องไหนที่ทำไม่ได้ก็อย่าไปคิดให้มันเสียเวลาเลย”  แล้วดูคำโต้กลับที่พี่ปูนให้ผมสิ! นี่ถ้าผมมีนิสัยสู้คนนะป่านนี้พี่ปูนคงเบ้าตาช้ำเพราะโดนต่อยด้วยความหมั่นไส้แล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่มีแฟนเป็นคนรักสงบอย่างผม ไม่งั้นไม่โดนแค่เหวี่ยงค้อนหน้าคว่ำใส่หรอก

“ไม่ต้องมายิ้ม!!”  ผมถลึงตาสู้ความหล่อ เบี่ยงตัวหลีกหนีวงแขนที่หมายจะโอบไหล่  “นี่มันที่ทำงานนะพี่ อย่ามาประเจิดประเจ้อได้ป่ะ!”

“นี่งอนพี่อยู่เหรอ”  ยิ่งเห็นผมหน้าตูมพี่ปูนก็ยิ่งอมยิ้ม ไอ้ผมก็ยิ่งของขึ้นไปกันใหญ่

“ลุงเป็นผู้ชายนะ ไม่มางอนอะไรง่ายเหมือนพวกผู้หญิงหรอก”

“ตรรกะอะไรของลุงกัน”  พี่ปูนขำคิก ไม่ขำเปล่าด้วยยังจะฉุดมือผมให้เปลี่ยนเส้นทางไปยังมุมอับตรงหน้าประตูห้องน้ำ ผมรีบกวาดสายตาไปทั่วบริเวณด้วยกลัวว่าจะเจอใครเข้าโดยบังเอิญอีกครั้งเหมือนวันนั้นที่โป๊ะแตกต่อหน้าคุณดาหลา แต่ชั้นล่างทั้งชั้นว่างเปล่า แม้แต่ห้องอาหารก็ยังร้างผู้คน ผมโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด...

พี่ปูนดันผมให้ชิดผนังก่อนจะรวบเอวผมไว้ด้วยวงแขนแข็งแรง ผมได้แต่ทำหน้าตื่นกับฉากในละครที่ดันเกิดขึ้นในชีวิตจริง สองตาผมจับจ้องดวงตาคมที่ถูกทำให้อ่อนโยนลงด้วยรอยยิ้มหวานน่ามอง นัยน์ตาสีดำสนิทสะท้อนภาพใบหน้าผมราวกับกระจกเงาเพียงแต่มันดูระยิบระยับกว่าเท่านั้น


ให้ตายเถอะ...จะมีสักครั้งมั้ยที่ผมจะใจแข็งกับคนๆ นี้ได้นานเท่าที่ใจอยากน่ะ


“อันที่จริงพี่ชอบเวลาลุงงอนนะ”  พี่ปูนเอ่ยเสียงเบาพลางก้มลงหอมแก้มผมฟอดใหญ่แล้วเคล้าคลึงแก้มผมด้วยปลายจมูก  “พี่รู้สึกว่าตัวเองชอบที่จะง้อลุงยังไงก็ไม่รู้”

“งั้นผมจะโกรธพี่บ่อยๆ”  คงไม่ต้องคิดแล้วว่าทำไมเสียงถึงอ่อนลง ตอนนี้แค่ทำเก๊กกลั้นยิ้มไว้ยังลำบากเลย

“ไม่เอาสิ เวลาลุงโกรธพี่ทำอะไรไม่ถูกหรอก...แค่งอนก็พอ”  เสียงงี้อ้อนระดับสิบ ต่อให้เป็นนักมวยแชมป์โลกมาได้ยินก็ต้องใจละลายกันบ้างล่ะ แล้วนับประสาอะไรกับลูกไก่ลูกกาอย่างโผ๊ม!!

“ลุงไม่ใช่คนขี้งอนซะหน่อย” 

“จริงเร๊อ~”  พี่ปูนทำเสียงสูง แต่ก่อนที่ผมจะได้โต้แย้งใดใดริมฝีปากก็ถูกความนิ่มทาบทับปิดเสียงจนสิ้น ความละมุนเจือความหวานฟุ้งกระจายในปาก ผมหลับตาปล่อยให้อีกฝ่ายลิ้มรสอย่างยินยอม แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะสมองส่วนที่ยังพอมีสติอยู่มันทำการสั่งห้ามเอาไว้

“นี่ที่ทำงานนะ”  ผมผลักอกพี่ปูนเบาๆ เป็นเชิงปฏิเสธ ซึ่งพี่ปูนก็ยอมถอยใบหน้าออกไปแต่โดยดีแม้จะส่งเสียงไม่พอใจก็ตาม

“ไว้เย็นนี้นะ”  ผมส่ายหน้ากับข้อเสนออย่างหน้าไม่อายของอีกฝ่าย ไม่ได้อย่างนี้ก็จะเอาอย่างนั้นสิน่า

“ผมโดนเคอร์ฟิวอยู่นะ บอกไปเมื่อคืนจำไม่ได้รึไง”

“พี่จะพาลุงไปส่งถึงหน้าบ้านก่อนสี่ทุ่มแน่ๆ”

“จริงอะ”  ผมหรี่ตามองคนลั่นวาจาที่ไม่น่าเชื่อน้ำคำอย่างยิ่ง

“ก็อย่าทำตัวน่ารักน่าเอานักสิ”

หน้าผมร้อนวูบขึ้นมาทันที ทำไมต้องมาพูดเรื่องทะลึ่งด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าเคล้าใบหน้าเซ็กส์ซี่แบบนี้ด้วย ทั้งหมดมันเป็นเพราะตัวผมน่ากินงั้นเรอะ! ผมอยากจะแย้งว่าไม่เคยทำตัวแบบนั้นสักครั้ง มีแต่พี่ปูนนั่นแหละที่จ้องจะเอาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

“ไปทำงานได้แล้ว!”  ผมทำเสียงดังแก้เขิน แต่แทนที่จะเชื่อฟังพี่ปูนกลับเอาแต่ยกยิ้มยั่วไม่ไปไหน คนอะไรเอาแต่ใจเหลือเกิน! เราจ้องกันเหมือนเล่นเกมส์จ้องตาว่าใครอ่อนด๋อยกว่าแพ้ ซึ่งผลมันก็เห็นกันอยู่ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

“…แล้วถ้าไปส่งผมช้าล่ะน่าดู!”

สิ้นคำที่ต้องการเท่านั้นแหละ พี่ปูนก็ยิ้มกว้างฉกแก้มผมด้วยปากหนักๆ แล้วก็เดินจากไปอย่างอารมณ์ดีขั้นสุด เหลือเพียงผมที่ยืนลูบแก้มตัวเองไปมาเพื่อไล่ความร้อนที่ไม่มีทีท่าว่าจะเจือจางลง

พี่ปูนทำทุกอย่างให้มันดูแปลกใหม่สำหรับผมเหลือเกิน อาจจะเพราะว่าผมไม่เคยเป็นเมียใครมาก่อนด้วยแหละก็เลยทำให้รู้สึกว่าการถูกอ้อน ถูกเอาใจมันสร้างความรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจไม่น้อย บรรดาคุณผู้หญิงเขารู้สึกแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่านะถึงได้ชอบงอน ชอบให้แฟนง้อกันนัก



-- แกร่ก --



บรรยากาศสีชมพูรอบตัวผมหดหายไปในทันที เสียงบางอย่างจากด้านข้างเรียกสองตาผมให้พุ่งตรงไป ลูกบิดห้องน้ำขยับเชื่องช้าก่อนที่ประตูสีเปลือกไม้จะค่อยๆ ถูกดึงเข้าไป ความรู้สึกของผมตอนนี้มีแต่คำว่า ‘ฉิบหาย’ ลอยวนอยู่เต็มหัว

ศีรษะที่มีผมสีดำสนิทเหมือนเพิ่งผ่านการย้อมปิดหงอกมาค่อยๆ โผล่อออกจากรอยแยกของประตูคล้ายจะสอดส่องรอบนอก ความไม่เป็นธรรมชาติที่เห็นนั้นเหมือนเป็นหินที่ถ่วงใจผมให้ตกลงสู่พื้น หน้าที่เคยร้อนแดงของผมตอนนี้เปลี่ยนเป็นซีดและเย็นเฉียบ ผมพยายามถอยหลังให้ชิดกำแพงด้านข้างมากที่สุดด้วยหวังว่ามันจะกลืนร่างผมให้หายไป แต่เมื่อศีรษะนั้นโผล่พ้นประตูออกมาเต็มหัวผมก็รู้ดีแก่ใจว่ามันคงเป็นไปไม่ได้! 

ว๊าย แม่แหก!!"

เสียงของป้าจิ๋มสบถดังด้วยความตกใจเมื่อหันหน้ามาเจอผมเข้าอย่างจัง ไม่ใช่แค่แม่หรอกที่แหก ความเป็นบุรุษของผมก็แหกแล้วเหมือนกัน!

“ป้าจิ๋ม”  ผมครางชื่อป้าเสียงแผ่ว ขณะมองอีกฝ่ายผุดออกมาจากห้องน้ำเต็มตัว

คนสองวัยต่างมองกันอย่างอิหลักอิเหลื่อ สีหน้าป้าแกตอนนี้มันบอกหมดแล้วว่าการสนทนาของผมและแฟนหนุ่มนั้นถูกแกได้ยินเสียจนสิ้น ป้าจิ๋มดูอึดอัด อับอายและไม่สบายใจยิ่งกว่าผมซะอีก

“คือป้าไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะคะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะออกมายังไงดี”

“...ป้าครับ คือผม--“

“ป้าจะรูดซิปปากให้สนิทเลยค่ะคุณลุง จะไม่เอาไปพูดให้คุณริชฟังเด็ดขาดค่ะว่าคุณลุงกับคุณปูนเป็นแฟนกัน”  ว่าแล้วป้าแกก็ตะครุบปากตัวเอง สองตาล่อกแล่กจนผมไม่อยากจะเชื่อคำมั่น เขารู้กันทั่วว่าพี่ริชกับป้าจิ๋มชอบคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กัน พูดง่ายๆ คือช่างเมาท์มอยเรื่องชาวบ้านนั่นแหละ แล้วมีหรือที่ป้าจิ๋มแกจะอดใจไว้ได้อย่างที่ปากพูด

“ขอบคุณครับป้า ลำพังตัวผมคงไม่เท่าไหร่หรอก แต่กับพี่ปูนเนี่ยสิ...”  ผมจำต้องขู่ป้าแกสักเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง “พี่เขาเป็นเจ้านาย เป็นคนเซ็นจ่ายเงินเดือนนะป้า ถ้าเกิดว่าเรื่องแดงออกไป...”  ผมแสร้งทำหน้านิ่วคิ้วขมวด สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียดและกังวล “พี่ปูนเขา..เขาไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ครับ ป้าไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นคนร้ายกาจแค่ไหน”

บนเตียงน่ะนะ!… ผมต่อให้ในใจ แค่คิดถึงความอึดทน เอาแต่ใจและหื่นกามที่เคยประสบ บรื๋อ~ แค่คิดก็เจ็บก้นแล้ว!

“อู๊ย~ เชื่อใจป้าได้เลยค่ะคุณลุง”  สายตาคุณป้าลูกสามหนักแน่นขึ้นในทันที ตบอกตัวเองส่งสัญญาณให้ผมเชื่อมั่นจนน่ากลัวว่าซี่โครงจะยุบลงไป  “ป้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นค่ะ!”  ว่าแล้วแกก็เดินกลับเข้าห้องน้ำไปอีกรอบพร้อมกับปิดประตูสนิท


...เพื่อ?


ความงงก็มีไม่น้อย แต่ผมก็ไม่รรีรอที่จะอยู่ถามหรอกนะว่าทำไปทำไม? ในเมื่อป้าจิ๋มให้โอกาสผมหนีแล้ว ผมก็ซอยเท้าวิ่งไปขึ้นบันไดอย่างไวเช่นกัน

ผมคาดโทษพี่ปูนด้วยความฮึดฮัดในใจ จะไม่มีการยอมคล้อยตามการโอ้โลมของผู้ชายชั่วช้าคนนั้นอีกแล้ว! คราวก่อนก็เป็นคุณดาหลามาเจอ คราวนี้ก็เป็นป้าจิ๋มอีก ถ้ามีคราวหน้าอีกผมคงต้องหาจอบมาขุดดินฝังตัวเองแล้วล่ะ!!

ทุกสายตาคล้ายจะจับจ้องมองมาที่ผมเมื่อเท้าข้างสุดท้ายย่ำลงบนพื้นของชั้นสองเรียบร้อย บรรยากาศที่ค่อนไปทางสงบเงียบเป็นปกติอยู่แล้วตอนนี้มันคล้ายจะดูเงียบลงกว่าเดิม ผมกระชับกระเป๋าแน่นก่อนจะเดินตัวลีบผ่านโต๊ะพี่เปี๊ยก แวะทักทายเสียงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกขัดเขินอย่างประหลาด

"หวัดดีครับพี่"

"สวัสดีลุง แล้วนี่เราหายป่วยแล้วเหรอ? พี่กับริชว่าจะไปเยี่ยมอยู่พอดี"  น้ำเสียงเอื้ออารีของพี่ไอดอลคนโปรดทำเอาผมหน้าม้านไม่น้อย ไอ้ที่ตอแหลว่าป่วยก็ไม่ใช่หนักหนาอะไรเลย เพียงแค่ผมต้องการพักเพื่อซ่อมแซมประตูที่เสียหายหนักก็เท่านั้น

"ดีขึ้นมากแล้วครับพี่ ขอบคุณนะครับ"  ผมยกมือไหว้พี่เปี๊ยกอีกครั้ง ผลัดกันยิ้มให้กันอีกสองสามทีก่อนที่ผมจะเผ่นไปนั่งโต๊ะตัวเอง



---------------------->>>>>> มีต่อค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2018 00:33:36 โดย L@DYMELLOW »

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
[ต่อค่ะ]




ผมจัดเเจงเก็บสัมภาระ เปิดคอมฯ หยิบอุปกรณ์ในการทำงานให้พร้อมใช้สอย ทำทุกอย่างโดยพยายามไม่สนใจไอ้บุรุษที่นั่งข้างกันแม้แต่น้อย ถ้าความรู้สึกต่อพี่เปี๊ยกคือความกระดากที่ต้องทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงโดยใช่เรื่อง ความรู้สึกต่อไอ้ผู้ชายข้างๆ นี้คงประมาณอยากจะก่อเหตุฆาตกรรม

"เป็นไงบ้างครับเพื่อน"

แม้จะไม่ได้ยื่นหน้ายื่นตามาใกล้ แต่น้ำเสียงของไอ้โป้ยนั้นเต็มไปด้วยความหยอกล้อ ผมรีบข่มความอายแสร้งปั้นหน้านิ่งๆ ยักไหล่นิดหน่อยตอนตอบว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจนั้น...เพราะมึง!! ผมกร่นด่าเพื่อนสนิทในใจ ถ้ามันไม่เป็นคนก่อเรื่อง ไม่เอารูปบ้าบอให้พี่ปูนดูเรื่องก็คงไม่แดงขึ้นมา ประตูเมืองผมคงไม่ถูกตีจนแหก พวกไอ้เป๋ไอ้เสี่ยก็คงจะยังไม่รู้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้เพื่อนเลว!

ถามว่าผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ...ก็ผัวผมมันฟ้องน่ะเซ่!!! ไม่ฟ้องเปล่า มันยังซักไซ้ไล่เรียงถึงเรื่องรูปถ่ายที่ไอ้โป้ยส่งมาเสียละเอียดยิบ เล่นเอาผมปวดกระบาลสะเทือนไปถึงตูด

"ไม่เป็นไรจริงเหรอ? กูกับพวกไอ้เสี่ยโทรไปก็ไม่รับ ไม่อ่านข้อความด้วย"

"กูนอนไง"  ผมตอบเสียงห้วน

"นี่มึงโดนหลายดอกจนนอนแบบหมดสภาพเลยงั้นดิ"

"ไอ้เชี่ยโป้ย!"  ผมตวาดเสียเบาพร้อมกับหันไปถลึงตาใส่เพื่อนสนิทที่แสนเลว ไอ้โป้ยมันอมยิ้มมองผมด้วยสีหน้าราวกับรู้เรื่องทุกอย่างทำเอาหางคิ้วผมกระตุกงึกๆ  "ทั้งหมดเป็นเพราะมึงนั่นแหละ! เพราะฉะนั้นกูจะเลิกคบกับมึง!"

"ฮ่าๆ กี่วันล่ะมึง กูจะได้เตรียมตัวถูก"

"มึงแม่ง!!"  เมื่อคำขู่ไม่ได้ทำให้ไอ้โป้ยสำนึกผมก็ทำได้แค่ฟาดงวงฟาดงากับตัวเองแล้วตัดสินใจเลิกมองหน้ามันชั่วคราว

แต่โป้ยมันกลับเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ก่อนจะจับคางผมให้หันไปสบตา ผมยังคงมองมันด้วยความบึ้งตึงเช่นเดียวกับโป้ยที่คราวนี้มันไม่ได้มีรอยยิ้มล้อเลียนผมอีกแล้ว ใบหน้าที่มีความคมเข้มผิดกับลูกคนจีนใช้สายตาคาดคั้นจ้องผมด้วยแววจริงจัง

"กูขอโทษ"  น้ำเสียงหนักแน่นที่เพื่อนเอ่ยออกมาก็บรรเทาความโกรธของผมในพริบตา แต่ไม่ใช่ว่าหายโมโหมันแล้วหรอกนะ!  "กูแค่หมั่นไส้พี่ปูน ...เอาจริงๆ แล้วก็หมั่นไส้พวกมึงทั้งคู่นั่นแหละ"

"กูไปทำอะไรให้"  ผมถามเสียงเข้ม นึกไม่ออกจริงๆ ว่าไปทำตัวขัดตาเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถึงจะไปทำจริงๆ แค่ด่าก็พอรึเปล่า ไม่ใช่วางแผนเพื่อนำไปสู่การเสียตัวของเพื่อนแบบนี้

"...เอาเป็นว่าโป้ยขอโทษนะลุง"  ว่าแล้วก็ทำมากระพริบตาอ้อน คิดว่าน่ารักตายห่าล่ะ

"กูยังโกรธมึงอยู่"  ผมพยายามสะบัดหน้าหนี แต่นิ้วไอ้เพื่อนเวรก็ยังจะหนีบคางผมให้หันกลับไป  "กูเจ็บนะวีรภาพ!"

"บอกกูมาตามตรงนะลุงว่าพี่เขาขืนใจมึงรึเปล่า"  น้ำเสียงมันจริงจังเบอร์สุดทำเอาผมหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที

"ข...ขืนใจบ้าบออะไรของมึง! กูเป็นผู้ชายเหอะ"

"ตอนเมากรึ่มๆ ใครถามอะไรมึงก็บอกหมดอ่ะ อย่าให้กูพูดเลยนะว่ามึงสาธยายอะไรออกมาบ้าง"

ถ้าหน้าผมสุกจนไหม้ได้ก็คงเป็นสภาพที่เกิดขึ้นตอนนี้แหละ โอเค! เรื่องแย่ที่สุดคือการที่คุณเมาแล้วจำแทบไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ซึ่งมันเกิดกับผมประจำที่เหล้าเข้าปากจำได้มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ปริมาณแก้วที่กระดกเข้าไป นับว่าเป็นข้อเสียที่เป็นประโยชน์แก่พวกเพื่อนนิสัยไม่ดีของผมเหลือเกิน

"จนป่านนี้แล้วอย่ามาตอแหลใส่กูน่า”  ไอ้โป้ยเหยียดยิ้ม

ผมหมดซึ่งความอดทนกับเพื่อนช่างสอดรู้คนนี้แล้ว! ในเมื่อมันอยากจะรู้มากนักล่ะก็  “เออ!!”  ผมกระแทกเสียงตอบมันเสียงดังอย่างลืมตัว

“เออ? เอออะไร?”  ถึงขนาดนี้แล้วมันก็ยังจะกวนตีนผมอยู่อีก

“กูมี ‘ผัว’ แล้ว!! ดีใจมั้ยมึง? ปรบมือยินดีกับเพื่อนมึงสิ”  ผมกระแทกเสียงพูด ยกเว้นก็แต่ชื่อตำแหน่งใหม่เท่านั้นที่เกือบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ   

ไอ้โป้ยหัวเราพรืดแบบกลั้นไม่อยู่ แล้วก็ยังบ้าจี้พอที่จะยกฝ่ามือขึ้นตบเสียงดัง ผมนี่ไม่กล้าหันไปมองพี่เปี๊ยกเลยที่พากันส่งเสียงรบกวนแบบนี้ ส่วนไอ้คนหัวเราะก็ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยสักนิดมันยังคงขำจนไอค่อกแค่กออกมา ดี!! สำลักน้ำลายตายห่าไปเลย!

“กูดีใจจริงๆ”  มันว่าพลางกรีดน้ำตาที่เล็ดออกมา ยื่นหน้าพูดด้วยเสียงเบาแบบคนรู้กาละเทสะ  “ในที่สุดเพื่อนกูก็เป็นสาวแล้ว ฮ่าๆๆๆ”  แต่เสือกหัวเราะเสียงดังจนชาวบ้านสงสัย

เพื่อนเลวๆ อย่างนี้มีใครต้องการมั้ยครับ ผมยกให้ฟรีแถมพาราหนึ่งกระปุกเลย


.

.

.



ผมยังคงอารมณ์เสียอยู่เล็กน้อย

โป้ยมันล้อเลียนผมด้วยสายตาทุกครั้งที่พี่ปูนกับผมสบตากัน ยิ่งตอนเลิกงานที่พี่ปูนเดินมารอผมด้วยท่าทางระริกระรี้เกินเหตุนั้น มันถึงกับส่งข้อความตามมาว่า

[อย่าจัดหนักนะมึง เดี๋ยวหมดแรงมาทำงานไม่ได้อีก]

พร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์แสดงความรู้สึกมาให้อีกซึ่งป่านนี้มันคงหัวเราะงอหายอยู่หน้าจอแน่ แค่คิดหัวผมก็เดือดปุดๆ แล้ว แม้จะด่ามันกลับไปแต่ก็ยังระงับความหงุดหงิดจาดข้อความนั้นได้ยากจริงๆ...แต่การจะทำยังไงไม่ให้บทสรุปเป็นไปตามที่มันล้อไว้เนี่ยสิยากกว่า

ผมละริมฝีปากออกจากการจูบที่แสนจะดูดดื่ม ก่อนจะเริ่มครางเบาๆ ไปกับการซุกไซ้ซอกคอที่เรียกได้ว่าละมุนที่สุดเท่าที่เคยโดนมา พี่ปูนขบเม้มผิวเนื้อหนักบ้างเบาบ้างแถมยังตวัดลิ้นเลียคล้ายชิมรส ระหว่างนั้นก็เปลื้องผ้าผมไปเรื่อยจนท่อนบนไร้สิ่งปกปิดส่วนกางเกงนั้นก็หลุดก้นลงมาแล้วเกือบครึ่ง

ถ้าถามว่าทำไมถึงเข้าสู่บทร้อนแรงนี้ได้ ก็เพราะว่าเมื่อเลิกงานปุ๊บพี่ปูนก็ลากผมเข้าห้องปั๊บ ยังไม่ทันจะสะบัดรองเท้าออกก็ถูกคว้าคอไปดูดปากแล้ว จูบกันไปถอดกันมาก็ลากกันขึ้นบนห้องนอนจนได้ พี่ปูนทำเหมือนพวกอดอยากปากแห้งแถมยังกระตุ้นจนผมต้องการตามไปด้วย ไอ้ที่อยากจะจะห้ามก็ห้ามไม่ออก แต่ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้อยู่พรุ่งนี้ผมอาจจะหมดแรงแบบที่ไอ้โป้ยว่าเข้าให้จริงๆ แล้วไอ้เพื่อนเวรนั่นก็จะล้อผมไม่หยุด

“อืม...ไปที่เตียงนะ”  พี่ปูนพึมพำขณะนัวเนียอยู่ข้างแก้ม ลมหายใจฟืดฟาดด้วยแรงอารมณ์รับกับแตงร้านตรงหว่างขาที่อยากออกมาอวดศักดาเต็มที

คำว่า ‘กูตายแน่’ ลอยวนอยู่ในหัวผมไม่หยุด ถามว่ายอมมั้ยก็ต้องบอกว่าเต็มใจ แต่ครั้งแรกผมเมาๆ เคลิ้มๆ นี่หว่า แล้วตอนนี้พี่ปูนก็อารมณ์มาเต็มมันมิทะลวงจนหลุมผมทะลายเลยเรอะ!

“อ...อาบน้ำก่อนนะ”  เพราะฉะนั้นเพื่อให้ผมไม่ถูกล้อและบรรเทาหน้าดินที่อาจถูกกรุยจนเสียหาย การตัดกำลังนั้นคือสิ่งที่ถูกที่ควร  “นะๆ อาบน้ำกัน”

“ไม่เอาเสียเวลา”  ว่าแล้วไอ้คนแข่งกับเวลาก็ก้มงับนมผมคำโต

“ลุงอยากให้พี่อาบน้ำให้นี่”  ผมก็พยายามดันหัวมันออก พี่ปูนนิ่งคิดกับคำขอแต่แล้วมันก็เลือกที่จะปฏิเสธอีกครั้งด้วยสีหน้าที่กระหายหนักกว่าเดิม

“ไว้เอากันเสร็จก่อนนะ แล้วพี่จะได้สอนลุงล้วงน้ำออกมาด้วยไงล่ะ”

กูไม่ต้องก๊านน!

ไอ้พี่ปูนทำให้ผมหมดทางเลือกแล้วจริงๆ ผมกลั้นใจพุ่งตัวเข้าสู่อ้อมกอดตนตัวโตแล้ววาดมือลงบนขอบกางเกงยีนเพื่อปลดกระดุมออก เมื่อรูดซิปลงมาเท่านั้นแตงร้านพันธุ์ดีก็แทบจะเด้งทะลุกางเกงในออกมา ผมไม่รอช้าล้วงมือเข้าไปกอบกุมราชาของสายพันธุ์แตงแล้วลูบไล้ประหนึ่งของศักดิ์สิทธิ์ พี่ปูนระทวยไม่ต่างจากลูฟี่โดนหินไคโร จะต่างกันก็ที่ช่วงเวลานั้นแตงร้านของลูฟี่คงไม่ปึ๋งปั๋งขึ้นมาแบบพี่ปูน

“ลุงอยากกินนี่อ่ะ”  ผมอยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาดเหลือเกิน แต่เพื่อเป้าหมายผมก็ยังต้องจัดการกับของในมือต่อไป  “เราไปล้างให้หอมๆ กันดีกว่าเนอะ”  พี่ปูนมีทีท่าลังเลเล็กน้อย จังหวะหนึ่งมันก็เหลือบไปทางเตียงนอนคล้ายกับว่าจะลากผมลงไปปล้ำซะเดี๋ยวนี้ แต่อีกใจก็คงอยากจะโดนผมทำร้ายด้วยปากเอามากๆ เห็นความกลัดกลุ้มในเรื่องกามของแฟนผู้เพียบพร้อมก็ให้อ่อนใจ แต่มันก็หมายความว่าผมอาจจะประสบความสำเร็จดังใจก็ได้


โบราณเขาว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อนใช่มั้ย?


“ปุริม...”  ผมละมือจากของร้อนแล้วเปลี่ยนมายืดตัวขึ้นโอบรอบคออีกฝ่าย ริมฝีปากผมจูบเม้มไปตามแนวคางจนกระทั่งถึงใบหู ผมเป่าลมใส่เบาๆ แล้วกระซิบด้วยเสียงที่คิดว่ากระเส่าเหลือเกิน  “อยากกินน้ำหวานๆ ของพี่จัง”

พี่ปูนเบิกตาโตมองผมราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง นิ่งค้างจนผมต้องกระแอมแก้อายออกมา ผมก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะต้องมาพูดเรื่องแบบนี้ แต่เพื่อหูรูดและศักดิ์ศรีความเป็นชายที่ค้ำคออยู่...ผมจำต้องแรด

“นะปุริม”  ผมออดอ้อนอีกรอบ คราวนี้พี่ปูนกระพริบตาปริบๆ เหมือนคนเพิ่งได้สติ และเมื่อพ่อยอดชายตั้งตัวได้รอยยิ้มยั่วเย้าก็พาดทับริมฝีปาก มือไม้ก็เริ่มซุกซนขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากนั้น...ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ผมต้องการ พี่ปูนแทบจะลากผมเข้าห้องน้ำ เปลื้องผ้ารวดเร็วอยากกับมันเป็นของร้อน เราผลัดกันถูร่างกายให้สะอาดแถมยังเน้นหนักที่แตงร้านประหนึ่งจะให้ออกมาหอมอย่างที่ผมต้องการ



และหลังจากนั้นของหลังจากนั้นอีกที...  “อึก!...อื้อ~”



ตอนนี้สภาพผมโคตรไม่น่าดู ไม่สิ…ไม่มีครั้งไหนน่าดูเลยเวลาผมมีแตงของพี่ปูนอยู่ในปาก ทั้งน้ำตา น้ำมูกและน้ำลายมันพากันย้อยออกมาแบบห้ามไม่อยู่ ใบหน้าก็ร้อนวูบวาบจนเดาได้เลยว่าต้องแดงก่ำแน่นอน ผมเองก็เป็นผู้ชายที่ดูหนังโป๊น่ะนะ แต่นักแสดงหญิงพวกนั้นไม่เห็นดูสภาพทุเรศเหมือนผมเลย พวกคุณเธอดูมีความมั่นใจในทุกท่วงท่าที่กลืนกินของอุ่นๆ ในมือเข้าไป สีหน้านั้นเปี่ยมด้วยความมั่นใจและมาดมั่น

ผมว่าตัวเองยังฝึกฝนไม่พอ

เสียงหยาบโลนดังไม่ขาดสาย ผมไล้เลียแตงร้านอุ่นๆ ไปตลอดความยาวก่อนจะดูดส่วนหัวหนักๆ แล้วบ๊วบมันลงคออีกรอบ พี่ปูนหอบหายใจหนักหน่วงพลางส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจอย่างยิ่งยวด แม้มือใหญ่จะลูบหัวผมหนักไปนิดและหวิดจะกระชากผมจนหลุดติดมือหลายครั้งก็ตาม แต่ผมก็ยังคงทำหน้าที่จนกรามแทบค้าง ลิ้นก็ชาจนหนักอึ้ง ปากก็เหมือนจะเห่อบวมยังไงพิกล

“อา...อา~ ลุงพี่จะถึงแล้ว”  เสียงทุ้มกระเส่าครางออกมา ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกเป็นสัญญาณว่าใกล้ได้เวลาแล้ว ผมกะจะทำเนียนเอาปากออกก่อนแต่ผู้ชายชั่วช้าคนนี้กลับกดหัวผมลงจนแตงหัวทู่เข้าไปเซฮัลโหลกับลิ้นไก่ในคอ ผมอยากจะโก่งคออาเจียนแต่มันกลับไปบีบรัดสิ่งที่อยู่ในปากให้อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามชอบใจซะงั้น และในท้ายที่สุดธารน้ำอุ่นร้อนก็พุ่งลงไปโดยที่ผมไม่มีโอกาสขัดขืน

เสียงไอดังขึ้นทันทีที่ริมฝีปากผมถูกปล่อยให้เป็นอิสระ กลิ่นคาวของน้ำรักคลุ้งไปทั่วทั้งปากและมันเผลอลงคอไปมากจนผมอยากจะอาเจียน พี่ปูนขยับกายเอื่อยเฉื่อยเพื่อเอี้ยวตัวไปหยิบทิชชู่บนหัวเตียงมายื่นให้ ผมรับมันไปสั่งหยาดน้ำคาวที่โพรงจมูกออกมาเป็นอย่างแรกมันทำผมแสบจมูกจนน้ำตาเล็ด

เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ ผมตวัดสายตามองตัวต้นเหตุทันที พี่ปูนขยับตัวมานั่งขัดสมาธิ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มและนัยน์ตาดำขลับนั้นก็พราวระยับอย่างยิ่ง เหมือนคนทั้งมีความสุขทั้งขบขันในคราวเดียว ผมกำลังจะอ้าปากบริภาษออกไปแต่คนตรงหน้ากลับโถมตัวกอดผมเสียเต็มรัก สองร่างเสียการทรงตัวจนล้มลงไปบนที่นอนกว้าง

เพราะมีหญิงสาวผู้ชื่นชอบละครน้ำเน่าอยู่ที่บ้านสองคนผมจึงผ่านหนังทำนองนี้มาพอสมควร จากประสบการณ์และท่าทางของพี่ปูนนั้นทำให้ผมอิ่มใจขึ้นมาทันที อย่างน้อยการลงทุนจนแสบจมูกของผมก็นับว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นอกจากเรื่องที่ผมสามารถตัดกำลังพี่ปูนได้บ้างแล้วนั้นผลพลอยได้คงหนีไม่พ้นความประทับใจแน่นอน

พี่ปูนถูไถซอกคอผมราวกับลูกแมวตัวใหญ่ ผมยิ้มกริ่มรอเวลาที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเลื่อนขึ้นมาสบตา มอบจูบดื่มด่ำให้แล้วตามด้วยรอยยิ้มกับคำชมหวานๆ และคำบอกรักซึ้งๆ

“..........”


ผมยังคงแย้มยิ้มรอ...แม้ว่าพี่ปูนจะเริ่มขยับจัดท่าเพื่อแทรกตัวเข้ามาตรงหว่างขาผม


“..........”


ผมคิดว่าจะยังได้สักหนึ่งคำชม...แม้ว่าอีกฝ่ายจะเริ่มใช้นิ้วนวดหน้าหลุมเพื่อหวังให้มันนิ่ม


“..........”


โอเค!! ผมมันบ้าบอไปเองแหละ!!


“ไอ้พี่ปูนใช้เจลด้วยสิโว้ย!!!”

“โทษทีๆ”

ผมนอนฉีกขาอย่างหมดอาลัยตายอยากเมื่อร่างหนาหนักผละออกไปคว้าหลอดเจลมาบีบใส่นิ้ว ร่างปานรูปสลักกลับมาแทรกอยู่ในตำแหน่งเดิม และแน่นอนว่าผมได้รอยยิ้มหวานๆ ตามที่ตั้งใจไว้ แต่นอกจากการแค่นยิ้มตอบกลับไปผมก็ไม่มีอะไรจะให้แล้ว ซึ่งพี่ปูนสนใจเสียที่ไหนกัน

ปลายนิ้วชุ่มเจลเย็นๆ นวดวนจุดแข็งกระด้างให้นิ่มนวลขึ้น และเหมือนทุกครั้ง ผมถูกพี่ปูนปรนเปรอส่วนหน้าไปด้วยจนไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเสียงครางที่ผมหลุดปากไปนั้น เป็นส่วนหน้าหรือหลังกันแน่ที่รู้สึกมากกว่า

“อื้อ~”  ผมพยายามห้ามเสียงตัวเองไม่ให้ขึ้นสูงมากเกินไป แต่มันก็ดูจะยากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนิ้วขยันที่พากันเข้าไปซุกซนข้างในกำลังกระตุ้นจุดที่ทำเอาก้นลอยไม่ติดพื้น เสียงครางไต่บันไดขึ้นสูงเรื่อยๆ จนฝ่ามือไม่อาจปิดกั้นได้อีก

พี่ปูนโน้มตัวลงมาจูบขมับชื้นเหงื่อของผมอย่างไม่รังเกียจ ริมฝีปากนุ่มเล็มไล้ไปตามใบหน้าแล้วไต่วนขึ้นไปบริเวณหูก่อนจะแหย่ลิ้นเข้าไปหยอกเย้าให้ผมขนลุกเกรียวผสานไปกับเสียงหอบคราง

“สูดหายใจลึกๆ นะ”  พี่ปูนกระซิบเสียงพร่า ผมหลับตาแน่นอย่างยอมรับความจริงทันทีที่ฝ่ามือแยกขาผมให้อ้ากว้างกว่าเดิม ผมตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนิ้วมือถูกถอนออกไปจากช่องทางแล้วถูกอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก และในทันที่ที่มันฝ่าปราการนุ่มๆ เข้าไปผมก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นปราบไปทั่วสันหลัง ผมรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงคลอดลูกถึงได้แหกปากกันปานนั้น ก็ในเมื่อสิ่งที่เรามีอยู่กับสิ่งที่กำลังจะทลายเข้าไปมันไม่ได้เหมาะสมกันเอาซะเลย

“อึ๊! เจ็บ~”  ผมครางลั่น  “เจ็บอ่ะ!! เลือดออกแน่เลยปุริม!”

“พี่จะทำช้าๆ”  พี่ปูนหอบหายใจหนัก น้ำเสียงคล้ายสะกดกลั้นความต้องการอย่างยิ่งยวด  “หายใจเข้าลึกๆ นะ ผ่อนคลายให้พี่”

“ไม่ได้อ่ะ เอาออกเหอะนะ”  ผมเริ่มงอแงหนักทั้งๆ ที่รู้สึกได้ว่าไอ้แตงเวรตะไลนั่นกำลังไถลลงหลุมไปเรื่อยๆ

“มันเคยเข้าไปแล้ว นี่ก็กำลังเข้าไปอยู่”  น้ำเสียงพี่ปูนเริ่มหื่นขึ้นเรื่อยๆ

ผมพยายามลืมตาขึ้นมอง ภาพที่เห็นนั้นเหมือนตัวเองกำลังดูภาพยนตร์วาบหวามเรื่องหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาประดับไปด้วยแรงอารมณ์ที่พยายามสะกดกลั้น สองตาคมหลุบมองจุดเชื่อต่อระหว่างเราแบบไม่คลาด ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะภาพที่เห็นหรือเปล่าที่ทำให้พี่ปูนดูจะหายใจแรงขึ้นทุกขณะ หยาดเหงื่อชโลมผิวกายตึงแน่นแม้ว่าอากาศในห้องจะเย็นฉ่ำ มันไหลผ่านแผ่นอกแข็งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เรื่อยลงมายังหน้าท้องเครียดเกร็งเป็นลอนลูกสวยงาม

ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าภาพนั้นทำให้ผมรู้สึกวูบวาบนิดๆ

ลมหายใจถูกสูดเข้าปอดลึกๆ หลายครั้งเพื่อหวังให้ความเจ็บปวดนั้นคลายลงไปบ้าง แต่นั่นก็ทำให้เจ้าของแตงเคลื่อนกายเข้าไปได้ลึกล้ำขึ้นกว่าเดิม ผมได้แต่อ้าปากปล่อยเสียงครางในระหว่างที่ร่างกายถูกเติมเต็ม และเมื่อสุดทาง ร่างหนักแน่นก็โน้มกายลงมากอดผม จูบปากและหอมแก้ม พร่ำบอกว่าผมเป็นเด็กดีของเขาขนาดไหน...

นอกจากเสียงครางแล้ว ที่ริมฝีปากผมเปล่างออกมาได้ก็มีแค่ชื่อของพี่ปูนเท่านั้น ผมว่าตัวเองเรียกชื่อพี่ปูนออกไปมากกว่าที่เรียกชื่อเพื่อนรวมกันทั้งเดือนเสียอีก และทุกครั้งที่มันหลุดออกมาจากปากของผม เจ้าของชื่อก็มักจะตอบสนองด้วยการซุกไซ้ไปตามเนื้อตัวราวกับชื่นชอบที่จะได้ยิน ผมเดาว่าเพราะอย่างนี้หรือเปล่า พี่ปูนเลยไม่ค่อยได้ครางชื่อผมซะเท่าไหร่

“ดีมั้ย?”  พี่ปูนกระซิบถาม ซึ่งผมก็ตอบรับกลับด้วยเสียงครางเช่นเดิม

พี่ปูนเคลื่อนกายเชื่องช้าแต่ทุกจังหวะกลับเสียดสีจุดที่ราวกับเป็นศูนย์รวมของความต้องการ ผมตัวสั่นเป็นลูกนก เปียกชื้นเหมือนหมาตกน้ำ ฉีกขาอ้ากว้างประหนึ่งนักกีฬายิมนาสติก และกำลังละลายไม่ต่างจากสายไหมในปาก

“อืม...ปุริม~” 

พี่ปูนก้มลงจูบผมหนักๆ จากนั้นค่อยๆ พลิกตัวผมตะแคงข้างโดยที่แตงยังคงไม่หลุดออกจากหลุม ฝ่ามือใหญ่ยกขาผมขึ้นพาดบ่าแล้วเคลื่อนตัวเข้ามาลึกล้ำยิ่งกว่าเดิม รุนแรงกว่าเดิมจนผมไม่อาจรับรู้อะไรได้เลยนอกจากเสียงครางตัวเองและความเสียวร้อนที่ทำเอาหน้าท้องวูบวาบ

ในคืนนั้นผมก็จำได้รางๆ อยู่เหมือนกันว่าตัวเองครางหนักเป็นนักแสดงหนังเอ็กส์ขนาดไหน แต่การต้องมารับรู้ยามที่มีสติครบร้อยนี่มันช่างสะเทือนจิตใจได้มากกว่าหลายเท่านัก ผมรู้ทุกการกระทำ รู้ทุกท่วงท่า และรู้ดียิ่งกว่าว่าอีกไม่นานตัวเองคงจะทะลักทลายความสุขออกมา

ผมกลายเป็นตุ๊กตาให้พี่ปูนดัดท่าทางจนพอใจ ไม่ว่าจะฉีกขา ยกก้น หรือแม้กระทั่งแอ่นหน้าท้าเพดาน กว่าเรื่องราวการต่อสู้อันดุเดือดของเราสองคนจะจบลง ร่างกายของผมก็ประท้วงความเจ็บปวดออกมาจนแทบจะขยับไม่ได้ ในขณะที่ผมนอนคว่ำเพราะระบมก้นที่ถูกทารุณกรรม ทั้งถูกตี ถูกบีบขย้ำ แต่ไอ้คนทำกลับนอนนวยนาดซุกแผ่นหลังผมอย่างมีความสุข มือนึงก็ลูบสางเส้นผมให้ มือนึงก็นวดคลึงก้นให้เบาๆ

“กี่โมงแล้วเนี่ย”  ผมถามออกไปด้วยเสียงที่แหบต่ำกว่าเดิม หากคำตอบกลับเป็นเสียงครางฮึมฮัมต่ำๆ ในลำคออย่างมีความสุขของคนที่ยังคงอ้อยอิ่งกับร่างกายผมไม่เลิก  “พี่ปูน...ผมหิวข้าวแล้วอ่ะ ต้องกลับบ้านด้วย”

“พี่ไม่อยากให้กลับเลย”  พี่ปูนตอบทันท่วงที น้ำเสียงเอาแต่ใจชัดเจน  “อยู่กับพี่ต่ออีกหน่อยนะ”

ผมเหลือบมองนาฬิกาติดผนังด้วยความละอาใจ สองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว กว่าจะอาบน้ำแล้วก็เดินทางคงไปถึงบ้านแบบเฉียดฉิวพอดีแน่ ผมถอนหายใจออกมาเฮือกยาว ไม่ว่ายังไงก็คงยอมตามใจพี่ปูนไม่ได้แน่นอน ผมพลิกตัวลุกขึ้นนั่งมองคนนอนกลิ้งไปแผ่หลา ดวงตาที่จ้องตอบนั้นไม่ยินยอมอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากจ้องหน้าไม่ยอมกันสักพัก พี่ปูนก็ยอมยกธงขาวแบบจำยอม แต่ก่อนจะเดินเปลือยอวดรูปร่างเข้าห้องน้ำไปก็ยังไม่วายหันมาทำเสียงเข้มแบบคนไม่ได้ดั่งใจ และมันช่างบาดลึกลงใจผ่านไปยังจุดซ่อนเร้นที่ยังเจ็บแปร๊บๆ ให้เจ็บนักยิ่งกว่าเดิม

“รอให้พ้นเคอร์ฟิวก่อนเถอะ อย่าหวังว่าจะได้ลุกจากเตียงเลย!”



พี่ปูนเข้าห้องน้ำไปแล้ว...



ผมรู้ว่าพี่เขาคงไม่พอใจเท่าไหร่ แต่การคาดโทษผมแบบนี้พี่เขาไม่คิดเลยเหรอว่าผมจะรู้สึกยังไง...ผมควานหามือถือด้วยน้ำตาคลอเบ้า กดพยัญชนะแต่ละตัวในแอพค้นหายอดนิยม ผมปาดน้ำตาทิ้งเพื่อมองคำค้นหาของตัวเองที่แสดงผลออกมามากมาย ผมเลื่อนดูหัวข้อหลากหลายก่อนจะสะเทือนใจกับตัวเลือกหนึ่งแล้วกดคลิกเข้าไปทั้งน้ำตา...


‘วิธีกระชับรูทวารให้ฟิตเหมือนโดนเปิดซิง’





--------------------------------------------------------------------------------------------------TBC.


แล้วก็จากไปอย่างเงียบเชียบ...  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
หายไปนานจนนึกว่าจะไม่มาต่อแล้ว
เห็นแล้วโอ้โฮนึกว่าตาฝาด
ยอมรับจากใจว่าคิดถึงคุณลุงมากจริงๆ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อร๊ายยยยย อิลุง กลวิธีมัดใจผัวสินะ  ขมิบเข้าไปค่ะลูกกกกกก

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เย้ๆ มาต่อแล้ว แต่ขอเรื่องของโป้ยด้วยสิ นะ นะ นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ร้อนแรงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
เนี่ยลุงกลัวสามีเบื่อเหรอจ๊ะถึงต้องหาวิธีกระชับรูทวารงะ   คิดถึงคู่นี่จริงๆ  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
แง้ คิดถึงมากกกกก ตอนต่อไปขอพี่กรได้มั้ยค๊าาาา
อยากอัพเดทพี่กรบ้างงงง

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
นึกว่าตาฝาด เย้ๆๆ มาต่อแล้วววว อิอิ

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ลุงหายไปนานเลยกลับมาแล้ว  :mc4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีต่อใจเจงๆ..............อ่านไปยิ้มไป ถูกใจสุดๆ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มันดีถึงสองต่อเลยนะ
๑ ไรท์ มาต่อ ฮูเร้ๆๆๆๆๆ  :mew1:
๒ ได้อ่านฉากโรแมนซ์ พี่ปูน ลุง   :katai4: :pighaun: :haun4:
ตายอย่างสงบไปเลย  :jul1:

โป้ย ตัวร้าย เพื่อนเลวของลุง  :z6:
สองจิตสองใจเลยที่จะให้โป้ยสมหวัง   :z3: :serius2:
แกล้งลุงดีนัก (แม้ผลลัพธ์จะถูกใจพี่ปูน เอ่อ....คนอ่านก็ด้วย)
อยากให้สมหวังยากหน่อย แบบขัดอกขัดใจ  กร๊ากกก  :katai2-1:

พี่ปูน  ลุง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2018 07:41:23 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ดีใจมากๆๆที่คุณเหมียวกลับมาแล้ว :กอด1:

ตอนนี้เหมือนน้องลุงโดนรุมแกล้ง ปุริมน่ากลัวขึ้นทุกที :hao6: :hao7: :haun4: :haun4:

 :pig4: :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่ปูน น้องลุง กลับมาร้อนแรงปนน้ำตาเล็กน้อย หลังจากหายไปนาน

น้องลุงคงอยากให้แม่ยืดเวลาเคอร์ฟิวส์นานๆ ใช่มั๊ยจ๊ะ

น้องลุงสู้ สู้ นะ 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด