ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 205874 ครั้ง)

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
แหม่. นึกว่าเพลิงจะสารภาพรักกะน้องพาย ก็ดูออกจะหลงน้องพายอย่างกับอะไรดี   :laugh:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยังไงล่ะพาย

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เอ๊าาาา เงิบ พี่เพลิง กลับมาไวๆเลย

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
เปิดจอง Rabid หัวใจคลั่งรัก
«ตอบ #904 เมื่อ21-06-2018 20:37:55 »

เปิดจอง Rabid หัวใจคลั่งรัก

​ตั้งแต่ 23 มิ.ย. – 31 ก.ค. 61


- ราคา 279 บาท สั่งจองได้ที่ https://goo.gl/h3p255

- ของแถมรอบจอง ที่คั่น 1 ใบและโปสการ์ด 2 ใบ​

- พิเศษ! ผู้ที่โอนมาก่อน 250 เล่มแรก รับการ์ดใสลายจิบิและลาย IG ของอีตาเพลิงเพิ่มอีก 2 ลาย!


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจหรือทวิตเตอร์ sameejaejung เลยค่ะ

ฝากรับคู่ #เพลิงพาย ไปเลี้ยงดูด้วยนะคะทุกคน ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2018 17:42:57 โดย Sameejaejung »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :z13:
อ่านไปแล้วตบหน้าผากไปด้วย นุ้งพายลูกก เข้าใจผิดไปใหญ่เลย ปั๊ดโถ่ 555555
น้องคือซื่อมาก อิตาเพลิงนังคงต้องบอกตรงๆ แล้วมั้งเนี่ย 555
รอตอนหน้าค่ะ ><

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เพลิงแกต้องพูดให้เคลียร์ เมียแกยิ่งโง่ๆอยู่ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
นุ้งพายจะอึนไปมั๊ยคะลูก  เห็นเพลิงหน้าแดงหูแดงน่าจะนึกสงสัยหน่อยนะว่าคนหน้ามึนอย่างนี้น่ะ จะเขินจากอะไรได้บ้างง่ะ   :katai1:

ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
น้องพายยยยแกจะมาซึนไม่ได้นะ5555+

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นังเพลิงงงงงงงงงงงงง ทำให้พายเข้าใจฐานะตัวเองผิดอีกแล้ว บอกตรง ๆ ไม่ได้หรือไงฟ่ะ  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ป่ะโทะ พี่เพลิง คนขี้อาย :o8:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
555555 อิเพลิงงง ถ้าไม่พูดตรงๆ พายก็ไม่รู้หรอกว่าพิเศษยังไง ก็บอกเองว่าเซ็กซ์เฟรนแล้วมาเปลี่ยนใจก็ต้องบอกดิว่ารัก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
บางทีก็เข้าใจยาก ทั้ง 2 ฝ่าย นะ

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ยิ้มแก้มแทบแตก เพลิงหูแดงดั๊วะ นั้ลลั่ค! :o8:

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] R. Rabid หัวใจคลั่งรัก


Part 10# Pie คนที่ไม่เคยอ่อนโยน


หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อยผมกับเพลิงก็เข้ามหา’ลัยพร้อมกัน รถของเพลิงยังคงเด่นสะดุดตาเหมือนเดิม ทำเอาเมื่อลงจากรถสายตาเป็นสิบๆ คู่ก็จ้องมองมาทางนี้จนผมรู้สึกกระอักกระอ่วน ผิดกับเพลิงที่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ ซึ่งอาจเป็นเพราะชินแล้วล่ะมั้ง


“ตอนเที่ยงเดี๋ยวกูโทรหา แล้วเราไปหาอะไรกินกัน” เพลิงพูดขึ้นเมื่อเดินมาส่งผมที่หน้าห้อง วันนี้ทั้งเช้าและบ่ายเราสองคนต่างก็เรียนวิชาเฉพาะของสาขา ดังนั้นจึงไม่ได้เรียนรวมกันในห้องใหญ่


“นายไปกินกับเพื่อนนายเถอะ เพราะเราก็ต้องไปกินกับเพื่อนเราเหมือนกัน” เพลิงกลอกตามองบนอย่างเซ็งๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น


“เอางั้นก็ได้ แต่ตอนเย็นมึงต้องไปกินข้าวกับกู ห้ามนัดกับใครเด็ดขาด” ก็ยังดีล่ะนะที่เพลิงไม่ได้ห้ามให้ผมไปกินข้าวกับอินน์ตอนเที่ยง


“อืม เจอกันที่รถนายแล้วกัน งั้นเราเข้าเรียนแล้วนะ” เพลิงพยักหน้า ผมเลยเปิดประตูเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เดินตรงไปยังแถวหน้าสุดที่มีอินน์นั่งอยู่คนเดียว


“อ้าว หายป่วยแล้วหรอพาย” ตอนแรกผมก็งงว่าตัวเองได้ป่วยตอนไหน แต่พอนึกย้อนกลับไปก็จำได้ว่าเพลิงบอกอินน์ไปแบบนั้น


“เอ่อ...อืม ตอนนี้เราหายดีแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง”


“ไม่เป็นไร แต่ว่าน่าอิจฉาจังเลยนะที่มีบุรุษพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด” อินน์พูดยิ้มๆ


“บุรุษพยาบาล...หมายถึงเพลิงน่ะหรอ?”


“ก็แล้วมีคนอื่นรึไง แหม...น่าอิจฉาจริงๆ เลยน้า เราก็อยากมีคนมาคอยดูแลเวลาเจ็บป่วยแบบนี้บ้างจัง” อินน์พูดโดยที่เหม่อมองเพดานพร้อมกับอมยิ้ม ราวกับว่ากำลังจินตนาการถึงฉากที่พึ่งพูดถึง


“อย่างเพลิงน่ะหรอจะคอยดูแล ทำให้ป่วยหนักกว่าเดิมสิไม่ว่า” ซึ่งขณะที่พูดผมไม่ได้รู้เลยว่า คนที่ถูกพูดถึงกำลังจามออกมาอย่างแรง


‘ฮัดเช่ย! แม่งเอ๊ย! ใครนินทากูวะ!’


“เออใช่ ว่าแต่เมื่อวานอาจารย์ได้สั่งงานรึเปล่า” ผมถามอินน์เพราะพึ่งนึกขึ้นได้


“มีให้ส่งตอนเย็นวิชานึง แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเราทำส่งให้แล้ว” พอได้ยินแบบนั้นผมก็เบิกตากว้าง รู้สึกรักเพื่อนอย่างอินน์มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า


“โหย ขอบใจมากเลยนะอินน์” ถ้าไม่ติดว่าคนในห้องเรียนเยอะแยะผมคงพุ่งตัวกอดอินน์แน่นๆ ไปแล้ว


“ไม่เป็นไรหรอกพาย ก็เราเพื่อนกันนี่นา” อินน์ยิ้มจนตาหยี ยิ่งได้ยินแบบนี้ผมก็ยิ่งรักอินน์มากขึ้นไปอีก โชคดีจริงๆ ที่ผมมีเพื่อนที่ดีถึงขนาดนี้


“ต่อไปถ้าอินน์อยากให้เราช่วยอะไรก็บอกมาได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”


“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกพาย ก็แค่งานไม่กี่คะแนนเอง”


“ถึงงั้นก็เถอะ แต่เราก็อยากตอบแทนอินน์นี่นา” แต่ละงานใช่ว่าง่ายที่ไหน ถ้าพวกผมเรียนอนุบาลหรือประถมก็ว่าไปอย่าง


“ไว้เดี๋ยวค่อยว่ากันวันหลังก็แล้วกัน อาจารย์มาแล้ว” อินน์ตัดบทอย่างไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ผมที่ถึงแม้อยากจะเซ้าซี้ก็ทำไม่ได้เพราะต้องเริ่มเรียนแล้ว


เมื่อหมดคาบเราสองคนก็ไปกินข้าวกันที่โรงอาหาร จากนั้นก็ขึ้นตึกมาเรียนต่อจนหมดคาบวิชาของตอนบ่าย วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผ่านไปอย่างเรียบง่าย ก็นะ...อย่างที่บอกไปว่าผมมันคนจืดจาง ถ้าไม่ถูกใครจับเปลี่ยนลุคหรือเดินอยู่ข้างเพลิงก็แทบไม่มีใครมองเห็น ดูสิ ไม่อย่างนั้นจะมีคนเดินชนผมหรอทั้งที่ทางเดินตรงลานจอดรถออกจะกว้าง


“อุ้ย! ขอโทษค่ะ!” เธอคนนั้นพูดพร้อมกับก้มลงเก็บหนังสือที่หล่นช่วยผม ผมที่คิดว่าเสียงนั้นดูคุ้นๆ เลยเงยหน้าขึ้นไปมอง


“อ้าว เดือนนี่เอง” ผมยิ้มทักทาย แต่ก็ไม่รู้ทำไมเดือนที่พอรู้ว่าคนที่เดินชนเป็นผมกลับทำหน้าตึงใส่ซะงั้น


“หึ!” แถมถ้าผมได้ยินไม่ผิด เดือนน่าจะทำเสียงขึ้นจมูกใส่อีกต่างหาก


“เอ่อ...เดือนจอดรถไว้แถวนี้หรอ ว่าแต่กวีล่ะ ทำไมไม่ได้มาด้วยกัน” ผมพยายามชวนคุยเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น


“ยังมีหน้ามาถามอีกนะ” ผมไม่เข้าใจเลยทำหน้างง แต่พอนึกถึงคำพูดของกวีเมื่อคืนแล้วผมก็เบิกตากว้าง


“นี่อย่าบอกนะว่า...” กวีบอกเลิกเดือนอย่างที่พูดจริงๆ!


“ดีใจมากมั้ยที่แย่งแฟนกูไปได้” สายตาของเดือนจ้องมองผมอย่างเกลียดชัง ทำเอาผมยิ่งตกใจและลนลาน จนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายที่ตรงไหน


“คือ...เราไม่ได้แย่งกวีไปจากเดือนเลยนะ”


“อ๋อ คือจะบอกว่ากวีเป็นของมึงอยู่แล้วว่างั้น?”


“มันไม่ใช่อย่างนั้น เรากับกวีเป็นแค่เพื่อนกัน”


“เพื่อนบ้าเพื่อนบออะไร! มึงมองกวีด้วยสายตาแบบไหนคิดว่ากูดูไม่ออกงั้นหรอ!” คำพูดนั้นของเดือนทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็น เซ้นส์ของผู้หญิงนี่แรงอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ ด้วย


“เรา...เอ่อ...ขอโทษนะ ตอนนั้นเราชอบกวีจริงๆ นั่นแหละ แต่ว่าตอนนี้เราไม่ได้คิดแบบนั้นกับกวีแล้ว” ผมรู้สึกแย่กับการกระทำของกวีเอามากๆ คนที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่มีค่าพอที่จะให้ผมไปชอบเลยสักนิด ทำไมผมถึงเคยหน้ามืดตามัวไปชอบตั้งหลายปีก็ไม่รู้


“ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว? เฮอะ! มึงอย่ามาตอแหล!” น้ำเสียงที่ยิ่งเกรี้ยวกราดและดังมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นักศึกษาที่เดินอยู่แถวนี้มองมาที่ผมกับเดือนอย่างสนอกสนใจ ผมที่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เลยพยายามจะพูดให้เรื่องมันจบ แต่ก็ดูเหมือนว่าเรื่องราวมันจะยิ่งบานปลายมากขึ้นไปอีก


“เราพูดความจริงนะเดือน จะให้เราสาบานตรงนี้เลยก็ได้”


“ต่อให้มึงสาบาน 9 วัดกูก็ไม่เชื่อ! กูกินข้าวนะไม่ได้กินหญ้า! ลับหลังกูแอบไปกินแฟนกูมากี่รอบแล้วล่ะ! อีเกย์ร่านไร้ยางอาย!” คำด่าของเดือนทำเอาผมรู้สึกชาไปทั่วทั้งหน้า ยิ่งบวกกับการที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนร่วมครึ่งร้อย มันก็ทำให้ผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากจนไม่กล้าสู้หน้าใคร ผมได้แต่กอดหนังสือเอาไว้แล้วก้มหน้าลงต่ำเพียงอย่างเดียว


“เรากับกวีไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยนะเดือน เราสองคนเป็นแค่เพื่อน...”


เพียะ!


แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจนจบประโยค ใบหน้าของผมก็ต้องหันไปตามแรงกระทบ ก่อนที่ความแสบร้อนมันจะวาบขึ้นมาที่ข้างแก้ม
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมโดนคนตบหน้า


“คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในละครรึไงถึงได้มาทำเป็นบีบน้ำตา!” เดือนถลึงตาใส่ผมพร้อมกับตวาดดังลั่น ส่วนน้ำตาของผมที่มันไหลออกมานั้นมันเป็นเพราะผมเจ็บใจตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยต่างหาก


สู้คนไม่เป็นแถมยังเถียงไม่เก่ง ผมนี่มันเป็นคนกากจริงๆ เลย


“นี่ยังไม่คิดจะหยุดใช่มั้ย! หรือต้องโดนตบอีกสักทีมึงถึงจะหยุดบีบน้ำตาได้!” ไม่รู้ว่าเพราะโกรธแค้นที่คิดว่าผมแย่งแฟน หรือเป็นเพราะกำลังได้ใจที่รังแกผมต่อหน้าคนมากมายได้ เดือนเลยยกมือขึ้นมาหมายจะตบผมอีกครั้ง ซึ่งผมก็หลับตาปี๋เตรียมใจเอาไว้แล้วแหละ
แต่แล้ว...


“จะทำอะไรพายของกู!” เสียงที่ดังขึ้นอยู่ตรงหน้าทำให้ผมลืมตาขึ้นมามอง จึงพบว่าเพลิงได้จับที่ข้อมือของเดือนเอาไว้แล้วสะบัดออกไปก่อนที่จะฟาดเข้าที่แก้มของผมได้เพียงเสี้ยววินาที


ตอนนี้ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีเลยได้แต่มองไปที่เพลิงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สายตาของผมมันก็ได้สื่อออกไปหมดแล้วว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง และถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้พูดออกไป แต่เพลิงที่เข้าใจจึงได้ใช้แขนอีกข้างโอบกอดผมเอาไว้ ผมรู้สึกได้ถึงความหวงแหนและต้องการปกป้องจากอ้อมกอดของเพลิง


“เกิดอะไรขึ้น! นี่อย่าบอกนะว่าเดือนทำร้ายพาย!” กวีที่พึ่งจะมาถึงพูดขึ้น ผมมองไม่เห็นหรอกว่าตอนนี้กวีกำลังทำหน้าแบบไหน เพราะเพลิงได้กดศีรษะของผมลงไปจนแทบจะจมที่แผ่นอก แถมยังกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงความโกรธและไม่พอใจในน้ำเสียง


“ถ้าใช่แล้วจะทำไม! คนหน้าด้านอย่างมันดีแค่ไหนแล้วที่เดือนไม่ตบด้วยรองเท้า!”


“ก็ลองกล้าทำดูสิ! กูไม่สนหรอกนะว่ามึงจะเป็นเพศไหนยัยหมูตัวเมีย!” แน่นอนว่าประโยคนี้กวีไม่ได้พูด คนที่พูดคือเพลิงที่กำลังหัวเสียและเกรี้ยวกราดสุดๆ ส่วนเดือนก็คงจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่


“กะ...แก...นี่ฉันเพศแม่แกนะ!”


“งั้นกูก็เพศพ่อมึงเหมือนกันล่ะวะ!”


“กะ...กะ...กะ...กรี๊ดดดดดดดดดดดด!” เดือนที่ไม่คิดว่าเพลิงจะตอบโต้แบบนี้ก็ร้องกรี๊ดออกมาดังลั่น เสียงนั้นคงทำให้เหล่านักศึกษาที่เข้ามามุงมีมากขึ้นแน่ๆ ผมจึงกระตุกแขนเสื้อของเพลิงแล้วเงยหน้าขึ้นไปด้านบน


“ช่วยพาเราออกไปจากตรงนี้ที เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วเพลิง” แค่ลองมองไปรอบตัวเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่จากจำนวนคนและสายตานับร้อยที่จ้องมองมา มันก็ทำให้ผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากจนอยากร้องไห้ขึ้นมาเลย


“โอเค ได้” เพลิงตอบรับคำขอของผม ก่อนจะหันไปพูดกับกวีเป็นการทิ้งท้าย


“สั่งสอนแฟนมึงให้ดีๆ หน่อย ถ้ายังอยากแก่ตายอยู่ก็อย่ามายุ่งกับพายของกูอีก” สิ้นเสียงนั้นเสียงกรี๊ดด้วยความโกรธของเดือนก็ดังขึ้นมา ตามด้วยคำด่าที่ราวกับว่ายกทั้งสวนสัตว์มาด่าเพลิงยังไงยังงั้น ส่วนทางด้านกวีก็หันมองไปที่เดือนด้วยความเย็นชา จากนั้นจึงหันกลับมามองที่เพลิง


“กูกับเดือนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”


“กวี!” แล้วจากที่กำลังด่าเพลิงอยู่เดือนก็เปลี่ยนเป้าหมายไปด่ากวีแทน


“หึ! กูเข้าใจแล้วว่าทำไมยัยนั่นถึงได้คลั่งเหมือนตกมัน หน้าตากับสมองของมึงนี่โง่ไปทางเดียวกันเลยเนอะ คงจะคิดว่าพอเลิกกับยัยนั่นแล้วพายจะไปคบกับมึงว่างั้น? เฮอะ! คงจะได้แค่ฝันเพราะพายเป็นของกู!” กวีไม่พูดอะไรได้แต่กำหมัดแน่นอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะคงจะรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่มีทางหันไปคบกับคนเห็นแก่ตัวอย่างกวีได้แน่นอน


“ไปเถอะมึง” เพลิงพูดจบก็โอบกอดผมให้แน่นยิ่งขึ้น ก่อนจะพาเดินฝ่าฝูงชนไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล


คำพูดของเพลิงยังคงแข็งกระด้างไม่เคยอ่อนโยนแม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหน แต่น่าแปลกไม่รู้ทำไมที่แผ่นอกผมกลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและรู้สึกถึงความปลอดภัย


ผมคิดว่าผมชอบเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเพลิง...


2BC


 :m18: สวัสดีค่าทุกคน Rabid หัวใจคลั่งรัก ตอนที่ 10 ก็จบลงไปแล้วน้า ในที่สุดตอนก็ขึ้นเลข 2 หลักจนได้  :katai2-1: แล้วก็ไถ่โทษที่เมื่อวานเค้าไม่ได้มาตามนัด พอดีเหนื่อยมากและเบลอๆมึนๆเลยกลัวว่าจะพิมพ์ผิดๆถูกๆเราเลยมาลงวันนี้ แล้วก็ลงแบบไม่ค้างคาจะได้สบายใจกันไปเนอะ  :m1:
ว่าแต่ตอนนี้มีใครหวีดอีตาเพลิงบ้างขอเสียงหน่อยค่า แต่เอ...หรือจะว่ามันแทนเพราะปากหมาไปด่าผู้หญิง อีตานี่มันเกรี้ยวกราดด่าไม่เลือกเพศจริงๆ นี่พระเอกหรือตัวร้าย 55555  :laugh:
ส่วนตอนหน้าสัญญาว่าวันพฤหัสได้อ่านกันแน่นอน พูดเลยว่าเตรียมหมอนไว้จิกได้เลย  แต่จะจิกเพราะฟินหรือโมโหอันนี้ค่อยไปลุ้นอีกทีเนอะ อิอิ แล้วเจอกันน้าบ๊ายบายยยยย  :bye2:
ปล.เพลิงพายเปิดจองเรียบร้อยแล้วน้า ดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยจ้า >>> ❤ จิ้มเบาๆนะจ๊ะเดี๋ยวพายช้ำ ❤ <<< ฝากรับคู่นี้ไปเลี้ยงดูด้วยนะคะที่ร้ากกก
(25 มิ.ย. 61)

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
กวีแย่จริง
เอาตรงๆ ยัยเดือนนางก็น่าสงสารหน่อยๆนะ
เหมือนโดนกวีหลอกใช้เบาๆ
พอคิดว้านางไม่ใช่ก็บอกเลิกนาง ไปแปลกที่จะโกรธ
แต่เสียใจกับกวีด้วยนะ ต่อให้แกเลิก พายก็ไม่ไปหาหรอกย่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ปกป้อง ป้องกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไม่อ่อนโยน แต่ใส่ใจความรู้สึก  ใจบางแล้วจ้า~

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ค่อยสมเป็นพระเอกหน่อยนะเพลิง

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


ตอนนี้ครบทุกรส ทุกตัวละครเลย

พระเอก_เพลิงผู้เข้ามาปกป้องนายเอก_พายผู้ถูกกระทำ

นางร้าย_เดือนผู้ที่ความผิดหวังมาบังตาทำให้ร้ายยยจนตบผู้ชายได้

แล้วก้อพระรอง_กวี ที่คงต้องช้ำใจไปตามระเบียบ. 555


 :beat:  :beat:  :beat:  :beat:  :beat:  :beat:


……

.

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ไงล่ะ พายของกู

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตั้งแต่อ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่เพลิงทำดี ทำถูกต้อง  o13

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ไม่อ่อนโยนแต่อบอุ่น ชอบอ่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
พระเอกมากกกกกกกรี๊ดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เพลิงสุดยอด
แต่เดือนร้ายจริงๆ
กวีก็เห็นแก่ตัวสุดๆ

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] R. Rabid หัวใจคลั่งรัก


Part 10# Pie ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน


“มึงโอเคใช่มั้ย” เพลิงถามหลังจากที่เราสองคนนั่งกันอยู่ในรถ


ตอนนี้เพลิงสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วแต่ยังไม่ได้ขับออกไปไหน ส่วนไทยมุงทั้งหลายก็มองมาจากที่ไกลๆ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มากนักเพราะรู้ว่าเพลิงกำลังอารมณ์ไม่ดี แล้วฟิล์มรถคันนี้ก็ทึบมากจนไม่สามารถมองทะลุถึงข้างในได้


“อืม เราโอเค” ถึงจะตอบแบบนั้นแต่ผมกลับรู้สึกตรงกันข้าม ผมรู้สึกแย่มากจนแว้บหนึ่งคิดว่าอยากจะหายจากโลกนี้ไปซะ


ป่านนี้เรื่องที่เดือนด่าผมคงจะรู้กันทั่วทั้งมหา’ลัย แล้วหลังจากนี้ผมจะมีหน้าไปเรียนได้ยังไง ผมทนไม่ได้หรอกนะที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาแล้วก็ถูกนินทาไม่ว่าจะต่อหน้าหรือว่าลับหลัง ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมเครียดจัดจนกำหมัดแน่น เล็บที่ค่อนข้างยาวเพราะไม่ได้ตัดมาสักพักเลยจิกเข้าที่มือ ผมไม่รู้สึกเจ็บและไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด จนกระทั่งเพลิงยื่นมือมาจับที่มือของผมเอาไว้


“ไม่ต้องกลัว กูจะปกป้องมึงเอง” สิ้นเสียงนั้นน้ำตาของผมมันก็ไหลออกมา วินาทีนั้นความรู้สึกร้อยพันมันประเดประดังเข้ามาจนเอ่อล้นในใจของผม ความเครียดที่กำลังสะสมจวบจนจะระเบิดได้สลายหายไป แต่ก็ดูเหมือนว่าเพลิงจะไม่เข้าใจเลยรีบดึงตัวผมเข้าไปกอด


“ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวไงเล่า ถ้ายัยนั่นหรือใครกล้ามาทำร้ายมึงอีกกูไม่เอามันไว้แน่...บ้าเอ๊ย แล้วนี่มึงจะยิ่งร้องไห้ทำไมวะเนี่ย” ถึงคำพูดของเพลิงจะดูเหมือนหัวเสียและเกรี้ยวกราด แต่ความจริงแล้วเพลิงกลับกังวลและทำอะไรไม่ถูกมากกว่า


“ฮึ่ก...ขะ...ขอบใจมากนะ...ถ้าวันนี้ไม่มีนาย...เรา...ฮึ่ก...คงจะแย่กว่านี้แน่ๆ” ผมพยายามฝืนพูดทั้งที่กำลังสะอื้น เมื่อกี้ผมมันทั้งกากและอ่อนแอจนช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ แต่ว่าแค่คำขอบคุณผมต้องพูดมันให้ได้ ผมขอบคุณเพลิงจากใจที่เข้ามาช่วยปกป้องผม


“อะไรเล่า ที่แท้มึงก็ร้องไห้เพราะเรื่องนี้เองหรอ” น้ำเสียงของเพลิงดูโล่งใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบที่ศีรษะของผมไปมา ผมรู้สึกว่าวันนี้เพลิงอ่อนโยนต่างจากปกติมากๆ จนหัวใจของผมถึงกับเต้นแรงขึ้นมาเลย


“ระ...เรา...เราโอเคแล้วล่ะเพลิง” และก่อนที่เพลิงจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวนี้ ผมก็รีบขืนตัวออกมาแล้วกลับไปนั่งอย่างเรียบร้อยที่เก้าอี้


“มีที่ที่อยากไปมั้ย บอกมาเลยไม่ต้องเกรงใจ กูจะพามึงไปทุกที่เลย” เพลิงพูดราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร


ใช่แล้ว ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ อยากไปให้ไกลจากตรงนี้ ไม่อยากเจอหน้าใครและไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น จะไปที่ไหนก็ได้ ไปอยู่นานหลายๆ วัน นานมากพอจนผมลืมหรือเลิกใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้


“ถ้าหาก...เราอยากไปทะเล...” ผมพูดด้วยเสียงอ้อมแอ้ม ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะผมไม่แน่ใจว่าเพลิงจะสามารถพาผมไปได้มั้ย มันจะไกลเกินไปรึเปล่า

 
ส่วนถ้าถามว่าทำไมผมถึงอยากไปทะเล นั่นก็เป็นเพราะว่าผมยังไม่เคยเห็นแล้วก็ไม่เคยไปเลยสักครั้งในชีวิต หากได้มองเห็นอะไรใหม่ๆ อยู่ในบรรยากาศที่แตกต่างจากเดิม มันก็อาจจะเยียวยาความรู้สึกแย่ๆ ให้หายไปก็ได้


“ไม่มีปัญหา กูบอกแล้วไงว่าถ้ามึงอยากไปไหนกูก็จะพามึงไปทุกที่” เพลิงยกมือขึ้นมาวางบนศีรษะของผม ผมจึงยิ้มให้เพลิงทั้งที่ไม่คิดว่าวันนี้ผมยังจะยิ้มออกมาได้อีก ก่อนที่เพลิงจะขับรถออกไปโดยที่ต่อสายหาใครคนหนึ่งไปด้วย


“ฮัลโหล ตอนนี้ผมกำลังจะไปบ้านพักที่หัวหินนะพี่ภู บอกคนไปทำความสะอาดแล้วก็เปิดบ้านไว้รอหน่อยดิ...ไม่ได้ไปเล่น จะไปนั่งทำวิจัยแล้วก็คิดโปรเจคจบ...จะตามมาคุมเลยมั้ยล่ะถ้าไม่เชื่อ...ไม่รู้ดิ กลับวันไหนเดี๋ยวบอกอีกที แค่นี้นะ ผมขับรถก่อน” แล้วเพลิงก็วางสายไป ท่าทางที่โกหกได้อย่างลื่นไหลทำเอาผมอดที่จะทึ่งไม่ได้ แต่อีกใจนึงก็ชักหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน ที่ผ่านมาผมคิดว่าตัวเองต้องเคยโดนเพลิงหลอกหลายเรื่องแน่ๆ


“บ้านที่หัวหินปกติไม่มีใครอยู่หรอ” ผมชวนเพลิงคุย คงเป็นเพราะรถเงียบเกินไปตั้งแต่ที่เพลิงวางสายจากพี่ชายล่ะมั้ง


“อืม ปกติกูกับคนที่บ้านก็จะอยู่กันที่กรุงเทพนี่แหละ”


แล้วเพลิงก็เล่าต่อว่า บ้านหลังนี้พี่ชายคนโตของเพลิงซื้อไว้เมื่อช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เห็นว่าเป็นสถานที่ที่พี่ชายขอคบกับแฟนและแต่งงานกัน ที่นั่นมีแต่ความทรงจำอันสวยงามและอบอวลไปด้วยความรัก แถมบรรยากาศก็ดีมากเหมาะแก่การมาพักผ่อน พี่ชายของเพลิงเลยตัดสินใจซื้อเอาไว้เพราะคงจะได้ไปอีกหลายครั้ง ถึงแม้ราคาจะสูงเอาเรื่องเพราะเป็นที่ติดทะเล แต่ถ้าเทียบกับความรู้สึกยังไงมันก็คุ้ม


“ฟังดูแล้วโรแมนติกจังเลยเนอะ พี่ชายของนายคงจะรักแฟนน่าดูเลย” ถึงแม้จะไม่เคยเห็น แต่จากคำบอกเล่าพี่ชายของเพลิงต้องรักแฟนมากแน่ๆ ทำเอาผมอดที่จะรู้สึกอิจฉาขึ้นมาไม่ได้ ถ้าผมมีแฟนที่รักผมมากแบบนั้นก็คงจะดีสินะ


“เออ รักมากเลยล่ะ มึงเชื่อปะว่าก่อนหน้านี้กูไม่เคยเชื่อในความรักเลยนะ แต่ตอนนี้ความเชื่อของกูมันได้เปลี่ยนไปแล้ว” ขณะนี้รถกำลังติดไฟแดงอยู่พอดี เพราะงั้นเพลิงจึงได้หันมาทางนี้แล้วจ้องเข้ามาในดวงตาของผม ซึ่งผมก็รู้สึกยินดีด้วยจากใจจนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้


“นี่ถ้าพี่ชายของนายรู้ว่า ได้ทำให้มุมมองความรักของนายเปลี่ยนไป พี่ชายของนายคงจะดีใจมากๆ เลยเนอะ” ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นของผมเพลิงก็ไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถเหมือนเดิม


นี่เพลิงเป็นอะไรไป? หรือว่าผมพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ?


แต่ถึงจะพยายามถามตัวเองเท่าไหร่ผมก็ไม่ได้คำตอบ แถมความง่วงยังถามหาจนผมค่อยๆ จมสู่ห้วงนิทรา เพลิงที่สังเกตเห็นจึงกดสวิตช์ด้านข้างเพื่อปรับเลื่อนเบาะให้เอนราบ ผมก็พึ่งรู้วันนี้นี่แหละว่ารถราคาแพงมันมีระบบภายในที่ต่างจากรถธรรมดา ก็นึกว่าแพงเพราะตราสัญลักษณ์กับชื่อแบรนด์ซะอีก


เกือบ 3 ชั่วโมงหลังจากนั้นผมถึงได้ตื่นขึ้นมา ซึ่งผมก็พบว่าตัวเองได้มาถึงบ้านพักที่หัวหินเป็นที่เรียบร้อย บ้านหลังนี้เป็นบ้านสไตล์วินเทจที่ตั้งอยู่ริมทะเล หลังใหญ่พอสมควรเพราะน่าจะมีหลายห้อง เป็นบ้านที่สวยงามเหมาะแก่การมาพักผ่อนเพราะบรรยากาศดีมากจริงๆ


“บ้านสวยมากเลย”


“คิดแล้วว่ามึงต้องชอบ เข้าไปดูข้างในกัน” เพลิงพูดจบก็เดินนำผมเข้าไปในบ้าน โดยที่สองมือของเพลิงก็ถือถุงเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ที่แวะซื้อก่อนเข้ามา เพลิงไม่รู้ว่าผมจะอยู่กี่วันเลยซื้อมาซะเยอะ แถมพอจะให้เงินก็ยังไม่ยอมรับไว้อีก


“ที่บ้านนี้มี 6 ห้อง มึงอยากนอนห้องไหนเลือกได้ตามสบาย อ้อ แล้วก็เลือกของใช้กับเสื้อผ้าเข้าไปด้วยนะ” ผมรู้สึกงงเล็กน้อยว่าทำไมเพลิงไม่ให้ผมหยิบของทั้งหมดเข้าไปในห้องเลย จะให้ผมเลือกไปทำไม แต่เพลิงก็เดินเข้าไปในห้องครัวที่อยู่ไม่ไกลซะก่อน เพราะงั้นผมเลยไม่มีโอกาสที่จะได้ถาม


ผมหันไปเลือกเสื้อผ้ากับของใช้แล้วเดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่มองเห็นวิวทะเลชัดที่สุด แถมยังสามารถเปิดประตูที่เป็นกระจกออกไปเดินเล่นที่ชายหาดและรับลมทะเลได้เลย ก่อนที่ผมจะเดินสำรวจห้องพร้อมกับเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าที่ ซึ่งพอผ่านไปสัก 5 นาทีเพลิงก็เดินเข้ามาหาผม


“หิวรึยัง กับข้าวเสร็จแล้วนะ”


“หืม? นี่นายเข้าครัวไปทำกับข้าวงั้นหรอเพลิง” ผมถามด้วยความแปลกใจ รู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่คนอย่างเพลิงทำกับข้าวเป็น แถมยังทำให้ผมกินด้วยอีกต่างหาก รู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ


แต่ถึงผมจะคิดอย่างนั้น...


“มึงจะบ้ารึไง ถ้ากูทำกับข้าวครัวคงไหม้บ้านคงวอดกันพอดี คิดอะไรปัญญาอ่อน” เพลิงส่ายหน้าไปมา ส่วนผมก็หน้าจ๋อยไปตามระเบียบน่ะสิที่ดีใจเก้อ


“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นเมื่อกี้นายเดินเข้าไปในครัวนี่นา”


“กูเดินไปเช็คไงว่าแม่บ้านทำกับข้าวไว้ให้รึเปล่า”


“อ๋อ” ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง


“ให้ตายสิ นี่กูคิดว่าวันนี้จะใจดีกับมึงแล้วนะ แต่จู่ๆ ดันมาถามอะไรแบบนี้กูก็เผลอลืมตัวน่ะสิ เฮ้ออออ ช่างเถอะไปกินข้าวกันมึง กูยกอาหารไปที่โต๊ะแล้ว” เพลิงพูดจบก็กอดคอผมออกไป ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดอะไร แค่เดินตามไปอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้ทำไมผมถึงได้แอบอมยิ้มออกมา


ที่โต๊ะอาหารมีกับข้าวอยู่ 3 อย่างพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ แต่ละอย่างมีวัตถุดิบหลักเป็นของทะเลที่สดใหม่ รสชาติหวานล้ำและเนื้อแน่นมากกว่าที่เคยกินครั้งไหนๆ ทำเอามือนี้ผมเจริญอาหารมากกว่าปกติทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีอารมณ์กินเลยด้วยซ้ำ


“ขอบใจนายมากนะ อาหารอร่อยมากๆ เลย”


“กูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ถ้าจะขอบคุณก็ไปขอบคุณแม่บ้านนู่น”


“เราไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องอาหาร แต่เราหมายถึงทุกอย่าง เราดีใจมากนะที่ตอนนี้มีนายอยู่ด้วย” ทันทีที่ผมพูดจบเพลิงก็ดูจะอึ้งๆ ไป แถมใบหูก็แดงเถือกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ


“กะ...ก็แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยน่า อ่า...ไปเดินเล่นข้างนอกกันมั้ย ตรงชายหาด...แบบว่า...บรรยากาศมันน่าจะดี” ผมไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เพลิงถึงได้พูดตะกุกตะกัก แถมส่วนที่แดงก็ยังไม่ใช่เพียงแค่ใบหูแล้ว แต่ใบหน้าก็ยังแดงจัดแทบจะไม่ต่างกันเลยด้วยซ้ำ


“ก็ดีเหมือนกัน งั้นเราไปกันเลยมั้ย”


“อืม” เพลิงพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเก็บจานชามไปวางไว้ที่ซิงค์ ซึ่งจานชามพวกนี้พวกผมไม่ต้องล้าง พรุ่งนี้ตอนเช้าแม่บ้านจะเข้ามาจัดการพร้อมทำกับข้าวไว้ให้พวกเรา


ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งไม่ถือว่าดึกมากสำหรับกรุงเทพ แต่สำหรับที่นี่คงจะถือว่าดึกเลยล่ะเพราะเงียบสงบเอามากๆ เสียงอย่างเดียวที่มีคือเสียงคลื่นที่เคลื่อนตัวเข้ามากระทบชายฝั่ง น้ำเย็นๆ กับทรายนุ่มๆ ที่เท้าของผมสัมผัสได้ให้ความรู้สึกที่สดชื่นและผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน


ผมกับเพลิงไม่ได้คุยอะไรกันมาก แค่เดินไปด้วยกันเรื่อยๆ โดยหันไปมองหน้ากันเป็นครั้งคราวและส่งยิ้มให้กันบ้าง แต่น่าแปลกที่เราสองคนกลับเหมือนว่าได้รู้จักกันมากขึ้น ระยะห่างได้แคบลง จนกระทั่งกุมมือกันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ผมรู้แต่ว่ามือคู่นี้ของเพลิงช่างอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็แข็งแรงมากพอที่จะสามารถปกป้องผมได้


หลังจากที่เดินเล่นด้วยกันร่วมชั่วโมงผมกับเพลิงก็กลับเข้าบ้าน ต่างคนต่างไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มานั่งคุยกันที่หน้าประตูกระจกของห้องผม ชมวิวทิวทัศน์ข้างหน้าพร้อมรับลมเย็นๆ ที่พัดผ่านมาเป็นระรอก


“เราขออยู่ที่นี่จนถึงวันอาทิตย์เลยได้มั้ย” วันนี้เป็นวันพุธเพราะงั้นวันพรุ่งนี้กับวันศุกร์ก็ต้องขาดเรียน ด้วยความที่เป็นเด็กทุนผมจึงไม่เคยทำตัวเหลวไหลแบบนี้มาก่อน แต่ว่าตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะกลับไปจริงๆ แล้วผมก็ปิดมือถือเพื่อตัดขาดจากทุกๆ คนอีกด้วย มีแค่อินน์คนเดียวที่ผมส่งข้อความไปบอกว่าขอหลบไปทำใจสักพัก หากพร้อมเมื่อไหร่แล้วผมจะกลับไปเรียน


 “มึงจะอยู่ที่นี่กี่วันก็ได้ จะอยู่ทั้งเดือนก็ไม่มีปัญหา กูจะอยู่ข้างๆ มึงเอง” เพลิงวางมือลงที่ศีรษะของผมแล้วยิ้มออกมาบางๆ ผมรู้สึกตื้นตันเอามากๆ จนอดที่จะน้ำตาซึมออกมาไม่ได้


“ขอบใจนะ แต่ว่าอยู่ทั้งเดือนคงไม่ไหว คงโดนไล่ออกกันทั้งคู่กันพอดี”


“นั่นสินะ แค่วันจันทร์กูยังไม่กลับบ้านพี่กูได้ตามมาลากคอแน่ๆ” แล้วผมกับเพลิงก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนที่เราสองคนจะนั่งมองคลื่นและรับลมทะเลอีกสักพัก เมื่อคิดว่าดึกมากแล้วเพลิงจึงได้ลุกขึ้นแล้วก็ชวนผมกลับเข้าไปข้างใน


“ฝันดีแล้วกัน ถ้ามีอะไรหรือนอนไม่หลับก็เรียกกูได้ตลอดเลยนะ กูอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละ” เพลิงพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ผมที่ถึงแม้จะยังรู้สึกงงๆ แต่ก็เดินออกไปส่งแต่โดยดี


“เอ่อ...อืม...ฝันดีเหมือนกัน” อะไรกัน ผมก็นึกว่าเพลิงจะนอนกับผมที่ห้องนี้ซะอีก


“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น หรือมึงยังคิดมากเรื่องที่ถูกยัยนั่นด่าอยู่” เพลิงถามผมด้วยความเป็นห่วง จะเป็นอะไรมั้ยนะถ้าผมจะขอใช้ประโยชน์จากตรงนั้น ก็ผมยังไม่อยากแยกกับเพลิงนี่นา


“ปะ...เปล่าหรอก แต่ว่า...เราไม่อยากนอนคนเดียว นายช่วยนอนเป็นเพื่อนเราหน่อยได้มั้ย” ผมพูดด้วยความประหม่า แถมยังก้มหน้าลงต่ำซะจนมองไม่เห็นว่าเพลิงกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่


“...” เพลิงไม่ยอมตอบอะไรได้แต่นิ่งเงียบ ผมเลยอายนิดๆ แถมยังรู้สึกผิดที่เอาแต่คิดจะรบกวนเพลิงเลยว่าจะบอกไม่เป็นไร


“คือ...”


“ถ้าแค่เพื่อนกูไม่นอน”


“หา?”


“กูไม่อยากเป็นแค่เพื่อนของมึง” เพลิงมองเข้ามาในดวงตาของผมอย่างจริงจัง แต่ผมไม่เข้าใจความหมายนั้นเลยขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เพราะผมกับเพลิงก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนี่นา เราสองคนเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์ หรือว่าบางทีเพลิงอาจจะอยากเลื่อนขั้นไปมากกว่านั้น?


จากเซ็กส์เฟรนด์เป็นเพื่อน ถ้างั้นจากเพื่อนก็ต้องเป็น...?


“เราให้นายเป็นเพื่อนสนิทเลยก็ได้” เท่านั้นแหละเพลิงก็แยกเขี้ยวใส่ผม แล้วใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากจนหน้าผมหงายทันที


“เพื่อนสนิทบ้านมึงแม่งเอากันได้ด้วยรึไง!”


“ถ้างั้นแล้วนายอยากจะเป็นอะไรกับเราล่ะ ทาสกับเจ้านายงั้นหรอ”


“โว้ยยยยย! ชักไปกันใหญ่แล้วนะมึงนี่!” คราวนี้เพลิงเอามือตบหน้าผากตัวเอง ดูท่าทางหงุดหงิดราวกับว่าผมพูดไม่ได้ดั่งใจ


ก็ผมจะรู้มั้ยล่ะว่าเพลิงอยากจะเป็นอะไรกับผม ผมไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้เข้าสังคม แล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกับใคร เพราะงั้นผมเดาใจเพลิงไม่ถูกหรอกนะ ทำไมถึงไม่ยอมพูดให้มันชัดๆ ไปเลยก็ไม่รู้


“ช่างแม่งเถอะ เอาเป็นว่าถ้าอยากให้นอนเป็นเพื่อนกูจะนอนด้วยก็ได้” เพลิงพูดจบก็จัดการปิดประตูแล้วจูงมือผมขึ้นไปนอนบนเตียง


หลังจากที่ปิดไฟและห่มผ้าขึ้นมาจนเกือบถึงคอแล้วเพลิงก็กอดผมเอาไว้ พอผมเงยหน้าขึ้นไปเพลิงก็ก้มหน้าลงมาจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผาก แต่ผมก็ยังลืมตาอยู่อย่างนั้นจนเพลิงต้องเอ่ยปากถาม


“เป็นอะไร ทำไมยังไม่ยอมนอนอีก”


“คือ...ปกติมันไม่ใช่แบบนี้”


“แล้วปกติที่มึงว่ามันคือแบบไหน”


“ก็...นายจะต้อง...เอ่อ...ทำ...ก่อน...” ยิ่งพูดเสียงของผมก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ แถมยังอู้อี้ด้วยจนเพลิงไม่น่าจะฟังรู้เรื่อง เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจถามออกไปอีกครั้ง


“วันนี้จะไม่ทำหรอเพลิง”


“หา?” เพลิงทำหน้างงไปแว้บหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจเลยถอนหายใจออกมา สีหน้าของเพลิงตอนนี้ดูเหลืออดกับผมยังไงก็ไม่รู้


“มึงนี่น้า กูก็อุตส่าห์ฝืนอ่อนโยนทำตัวเป็นคนดีแทบตาย แต่สุดท้ายกูก็ต้องกลับมาเป็นดีแตกเหมือนเดิมจนได้” เพลิงพูดจบก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้ จากนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าของผมออกไปโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


“มึงเป็นคนยั่วกูเองนะ จะมาโทษกูทีหลังไม่ได้นะเว่ย” คำพูดของเพลิงเหมือนเป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย หากผมเปลี่ยนใจตอนนี้เพลิงก็อาจจะหยุดทัน แต่นอกจากจะไม่ห้ามผมยังยื่นสองมือขึ้นไปโอบรอบลำคอของเพลิงเอาไว้อีกต่างหาก


“เราไม่โทษนายหรอก แล้วนายก็ไม่ต้องฝืนอ่อนโยนกับเราด้วย” เมื่อได้ยินแบบนั้นเพลิงก็ไม่ทนอีกต่อไป แล้วก็ก้มหน้าลงมาจูบที่ริมฝีปากของผมทันที


จูบนี้ไม่ได้มีความอ่อนโยน ยังคงรุนแรงและดุดันเหมือนเดิม แต่ผมกลับรู้สึกชอบ ยินดี และเต็มใจ ซึ่งผมก็ไม่ได้หมายถึงเรื่องจูบอย่างเดียว ผมหมายถึงเรื่องที่กำลังจะกลายเป็นของเพลิงด้วยเช่นกัน...


2BC


 o15 ฮัลโหลวววว สวัสดีค่า Rabid ตอนที่ 10 ก็จบลงไปเรียบร้อยแล้วน้า ตอนนี้มาเลยวันที่นัดไว้ไปชม.กว่าๆ ซึ่งเราก็ต้องขอโทษจริงๆค่าเพราะทำโอทีกว่าจะถึงบ้านก็เที่ยงคืนกว่าเลย ฮือออออ  :sad2:
แล้วเพื่อเป็นการไถ่โทษเค้าเลยตัดของตอนหน้ามาใส่ตอนนี้ให้ยาวมากขึ้น ซึ่งก็หวังว่าจะชื่นชอบตอนนี้กันนะคะ มีหลายรส หลายอารมณ์ หลายรสชาติ โดยเฉพาะความหวานที่ชาตินึงจะได้เห็นจากอีตาเพลิงสักที 55555  :laugh: ส่วนตอนหน้าอย่างเร็ววันอาทิตย์ หรืออย่างช้าวันจันทร์เจอกันค่า ดึกๆเหมือนเดิมนะที่ร้าก บ๊ายบายยยยยย  :bye2:
(29 มิ.ย. 61)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด