ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 205872 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] Trap หัวใจพ่ายรัก


Part 10# Wayo 6 แพคแน่นๆของพี่โซ่


“วา...วาครับ...เช้าแล้วนะ ตื่นได้แล้ว” เสียงนุ่มๆ กระซิบอยู่ที่ข้างหู พร้อมกับมืออุ่นๆ ที่กำลังเขย่าแขนของผมเบาๆ ผมที่รู้สึกว่ายังไม่อยากตื่น อยากนอนต่ออีกนิดเลยเอามือปัดๆ ออกโดยไม่แม้แต่จะลืมตา


“อืม...ขออีก 5 นาที” ผมตอบด้วยเสียงยานคาง


“แต่พี่ให้วา 10 นาทีแล้วนะครับ”


“ก็บอกว่าอีก 5 นาทีงาย” ใครก็ไม่รู้น่ารำคาญเป็นบ้า ก็บอกว่าขอ 5 นาที...5 นาทีได้ยินม้ายยยยยย


“มันจะสายแล้วนะครับวา ถ้าวาไม่ตื่นตอนนี้พี่จะปลุกด้วยวิธีของพี่แล้วนะครับ”


หืม? วิธีการพูดแบบนี้มันคุ้นๆ อยู่นะ มันเหมือนกับ...เหมือนกับ...เหมือนกับใครสักคนที่ผมต้องคุ้นเคยมากๆ แต่ผมก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร


พี่ภู? คงจะปลุกโดยการดึงผ้าห่มออกจากตัวผมแล้วล่ะ


พี่ธาร? ตัดออกไปได้เลยเพราะไม่คล้ายตั้งแต่เสียงแล้ว


พี่พฤกษ์? คงไม่เขย่าตัวผมอย่างอ่อนโยนขนาดนี้


พี่เพลิง? เฮอะ! ไอ้พี่บ้านั่นคงไม่ปลุกผมด้วยมือหรอก ตรีนสะกิดไม่ก็ถีบผมตกเตียงแน่นอน!


   เอ...ถ้าหากไม่ใช่พี่ภู พี่ธาร พี่พฤกษ์ หรือพี่เพลิง แล้วคนที่สนิทสนมหรือใกล้ชิดกับผมขนาดนี้เป็นใคร? ซึ่งหลังจากใช้สมองคิดอยู่หลายวินาทีในที่สุดผมก้ได้คำตอบ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือ...


   “พี่โซ่!”


ผมรีบลืมตาขึ้นมา จึงเห็นว่าใบหน้าหล่อๆ ของไอ้พี่มันกำลังหลับตาแล้วเคลื่อนเข้ามาใกล้ผม ผมที่คิดว่าตัวเองต้องไม่พ้นโดนขโมยจูบแน่ๆ เลยรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วผลักที่อกของไอ้พี่มันไปจนสุดแรง!


ซึ่งตอนแรกผมก็ตั้งใจจะวีนแตกโวยวายให้ลั่นห้องอยู่แหละ แต่พอมองเห็น 6 แพคที่อยู่ตรงหน้าผมก็ถึงกับตาสว่าง


โอ้แม่เจ้า! ตอนนี้ไอ้พี่โซ่พันแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวไว้ที่รอบเอวเท่านั้น!


ละ...แล้วนอกจากนั้น มะ...เมื่อกี้...มือของผมก็จับหมับเข้าที่แผ่นอกของไอ้พี่มันไปด้วย แถมยังจับไปแบบเต็มๆ แล้วก็เน้นๆ จนรู้ด้วยแหละว่าแผ่นอกของไอ้พี่มันนั้นแน่นแค่ไหน!


“เป็นอะไรไปครับวา?” ไอ้พี่โซ่ถามด้วยความงงๆ เมื่อเห็นผมนั่งนิ่ง (หรือถ้าเอาตามจริงก็คือตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ) อยู่บนเตียง


“หรือว่าโกรธจริงๆ ที่พี่แกล้งจะจูบหรอครับ?” ไอ้พี่โซ่พูดจบก็ทำท่าจะเดินตรงเข้ามา


โอ้ไม่นะ! ถ้าเข้ามาใกล้กว่านี้มีหวังเลือดกำเดาของผมต้องพุ่งแน่ๆ!


“ปะ...ปะ...เปล่าพี่ ตะ...แต่ผม...ผม...ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ!” แล้วผมก็รีบลุกจากเตียงวิ่ง 4x100 ไปเข้าห้องน้ำทันที โดยที่ไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเอามาอุดจมูกเผื่อเลือดกำเดามันจะไหลออกมา


ให้ตายสิ! ผู้ชายอะไรหุ่นทรมานใจเป็นบ้า! ดีนะที่เลือดกำเดาของผมมันไม่ไหลออกมาจริงๆ!


เอ...แต่ก็น่าแปลกอยู่นะที่ผมไม่ยักกะตกตะลึง หรือตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงขนาดนี้กับพวกพี่ชายที่บ้าน ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่ก็หุ่นดีมี 6 แพคด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่เพลิงที่มักจะไม่ค่อยสวมเสื้อ เดินโชว์กล้ามแน่นๆ ร่อนไปร่อนมาซะทั่วบ้านแบบไม่มียางอาย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันแฮะ


แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมมีเวลาไปหาคำตอบที่ไหน ผมต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปประจำบูธที่ห้องบอลลูมข้างล่างนี่นา


ผมสลัดเรื่องไม่เป็นเรื่องออกจากหัวแล้วเริ่มต้นอาบน้ำ ผมใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็อาบเสร็จแล้วเดินออกมา แต่อย่าคิดล่ะว่าผมจะพันผ้าเช็ดตัวมาแบบไอ้พี่โซ่ โนวววว ผมใส่ชุดเดิมออกมาหยิบเสื้อผ้าแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำต่างหาก


“ว้า อดเห็นอกขาวๆ ของวาเลย” ไอ้พี่โซ่แอบบ่นอย่างเสียดาย


เฮอะ! อย่าฝันเลยว่าจะได้แอ้มผมง่ายๆ ถึงจะแค่อาหารตาก็อย่าแม้แต่จะคิด!


   แล้วหลังจากที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้ว ผมกับไอ้พี่โซ่ก็เดินลงไปหาพี่จ๋าที่กำลังกินข้าวอยู่ข้างล่าง พวกเราใช้เวลาไม่นานก็กินอิ่มเลยรีบไปประจำที่บูธ ตอนนี้เป็นเวลา 8.15 น. อีก 15 นาทีจะมีพิธีเปิดงานคนเลยเริ่มทยอยกันเข้างานแล้ว


   8.30 น. ไม่ขาดไม่เกินประธานของงานก็มาถึง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในนายทุนชื่อดังระดับประเทศ พิธีกรเมื่อเห็นท่านเดินเข้ามาก็กล่าวให้ทุกคนลุกขึ้นยืนและปรบมือต้อนรับ จนกระทั่งท่านเดินไปถึงเวทีก็กล่าวสุนทรพจน์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ใช้เวลา 10 กว่านาทีจึงเสร็จสิ้นก่อนที่ทีมงานจะเปิด VTR ให้แขกภายในงานรับชมร่วมกัน


   เมื่อ VTR จบประธานกับพิธีกรก็ลงจากเวทีแล้วเริ่มเดินตามบูธ โดยจะเดินวนตามเข็มนาฬิกาเป็นรูปตัว U ตามผังของห้องบอลลูม ซึ่งพอไปถึงแต่ละบูธท่านก็จะซักถามเรื่องต่างๆ โดยคร่าวๆ โดยให้เวลา 3 – 5 นาทีเพื่อให้พนักงานประจำบูธพรีเซนต์บริษัทของตัวเองให้น่าสนใจที่สุด


แน่นอนว่าช่วงเวลานี้จะพลาดไม่ได้ เพราะถือเป็นนาทีทองที่ทุกสายตาของนักลงทุนในงานจะโฟกัสมาที่บูธ ตัวแทน (หรือจะเรียกอีกอย่างก็คือความหวังของบริษัท) อย่างพวกผม ก่อนที่จะมาที่นี่เลยต้องซักซ้อมและท่องสคริปต์กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ถึงจะจำได้อย่างขึ้นใจแล้วพอถึงเวลาจริงๆ ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี


“กินนี่มั้ย เขาบอกว่าช่วยลดอาการตื่นเต้นได้นะ” ไอ้พี่โซ่ยื่นลูกอมให้ผม 1 เม็ด


“เห็นผมเป็นเด็กรึไงครับ” พูดไปงั้นแหละ แต่ก็รับมาแล้วรีบแกะเข้าปากอย่างไว อื้ม...ความเย็นและรสหวานๆ ของลูกอมช่วยลดอาการตื่นเต้นลงได้จริงๆ ด้วยแฮะ


“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึเปล่า”


“ก็...ก็โอเคแหละครับ” ผมเสหน้าไปอย่างอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้


“อย่ามาทำซึนน่า อยากขอบคุณก็บอกมาเร็วๆ พี่รอฟังอยู่” ไอ้พี่โซ่พูดยิ้มๆ เอาจริงๆ ตอนแรกผมก็ว่าจะพูดอยู่หรอก แต่พอได้ยินแบบนี้ก็ไม่พูดมันละ หมั่นไส้!


ผมย่นจมูกแล้วเชิ่ดหน้าใส่ ไอ้พี่โซ่ที่เห็นอย่างนั้นก็เลยเอาแต่วอแวผม การกระทำนั้นอยู่ในสายตาของผู้ชายคนหนึ่งที่จ้องมองอยู่ แต่พวกผมก็ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด


เนื่องจากงานนี้เป็นงานใหญ่ มีบริษัทชั้นนำมากมายที่สนใจเข้าร่วมงาน ดังนั้นภายในห้องบอลลูมเลยมีบูธตั้งอยู่ถึงเกือบครึ่งร้อย กว่าที่ประธานจะเดินมาถึงบูธของพวกผมที่อยู่เกือบสุดของปลายตัว U อีกด้านเลยกินเวลาไปเกือบเที่ยง ซึ่งแน่นอนว่าการพรีเซนต์บริษัทของพวกผมนั้นผ่านไปได้ด้วยดี


เมื่อเดินครบทุกบูธเวลาก็เป็นเที่ยงตรงพอดีราวกับถูกคำนวณไว้ ประธานจึงเชิญนักลงทุนทุกคนไปทานข้าวยังห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ด้านข้าง แล้วช่วงบ่ายค่อยให้นักลงทุนมาเดินตามบูธที่สนใจอีกทีหนึ่ง ซึ่งก็สามารถเดินได้จนถึง 2 ทุ่มตามกำหนดเวลาปิดงาน


“อุ้ย! ผอ.โทรมา” พี่จ๋าพูดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น


“สงสัยคงจะถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีมั้ยมั้งครับ” ช่างกะเวลาโทรมาถามได้ดีจริงๆ พอประธานออกจากห้องไปปุ๊บก็โทรมาปั๊บเชียวนะครับผอ.


“งั้นเดี๋ยวพี่รับสายก่อนนะ...สวัสดีค่ะผอ. จ๋าพูดค่ะ...เรียบร้อยดีค่า พรีเซนต์ได้เริ่ดตามที่ซ้อมกันมาเป๊ะๆ เลยค่ะ...เรื่องนั้นผอ.ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ จ๋ากับน้องๆ จะต้องตกนักลงทุนได้แน่นอนค่ะ!...อะไรนะคะ? จริงหรอคะผอ.! งั้นงานนี้จ๋าและน้องๆพร้อมลุยเต็มที่แน่นอน ผอ.รอฟังข่าวดีได้เลยค่ะ!” แล้วหลังจากนั้นพี่จ๋าก็วางสายไป ส่วนผมก็ตาปริบๆ เพราะเดาบทสนทนาช่วงหลังไม่ได้


“ดีใจอะไรครับพี่จ๋า แล้วทำไมต้องทำท่าฮึกเหิมขนาดนั้นด้วยล่ะครับ” ไอ้พี่โซ่ถาม


“ก็ผอ.บอกว่า ถ้าพวกเราตกนักลงทุนรายใหญ่ได้ จะให้โบนัสปลายปีกับเราสองคนเพิ่มน่ะสิ!” พอได้ยินแบบนี้ไอ้พี่โซ่ก็ทำท่าฮึกเหิมไม่ต่างจากพี่จ๋า ส่วนผมที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเลยไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่พอพี่จ๋าบอกว่าส่วนของผม ผอ.จะยื่นหนังสือให้เบื้องบนพิจารณาจ้างเป็นพนักงานประจำ เท่านั้นแหละ...


“ผมจะพยายามเต็มที่เลยครับ!” ไฟความฮึกเหิมได้ลุกท่วมร่างของผมแล้ว!


“แต่ก่อนจะลุยเรื่องงาน ห่วงเรื่องปากของตัวเองก้อนก็ดีนะครับวา นี่มันก็เที่ยงแล้วนะ” ไอ้พี่โซ่นี่ก็ขัดอารมณ์ผมซะจริง แต่แอบบ่นไปงั้นแหละ ผมรู้หรอกน่าว่าไอ้พี่มันเป็นห่วงผม


“นั่นน่ะสิ ช่วงนี้คนไม่ค่อยมี งั้นพวกเราสลับกันไปกินข้าวดีมั้ย ไปทีละคนแล้วให้ 2 คนเฝ้าบูธเผื่อมีคนมา” พี่จ๋าเสนอ


“แต่ผมยังไม่หิว พวกพี่ไปกินเลยก็ได้ครับ” ตอนเช้าผมกินไปตั้งเยอะแล้ว เพราะงั้นตอนนี้พวกที่อยู่ในกระเพราะมันเลยยังย่อยไม่หมดน่ะสิ


“ถึงไม่หิวแต่ก็ต้องกิน เพราะกว่าจะได้กินอีกทีก็หลัง 2 ทุ่มเลยนะ” ไอ้พี่โซ่หันมามองผมด้วยสายตาดุๆ ชิ!


“งั้นผมไปกินก็ได้ แต่ขอไปคนสุดท้ายแล้วกันนะครับ ไปตอนนี้ผมคงกินได้ไม่เกิน 3 คำหรอก” พอพูดแบบนี้ไอ้พี่โซ่ค่อยยิ้มออกมาได้ จากนั้นก็หันไปหาพี่จ๋า


“Ladies first เชิญก่อนเลยครับ” แต่ยังไม่ทันที่พี่จ๋าจะได้ตอบอะไร แก๊งพี่สาวเมื่อวานก็ดันสอด...อ๊ะ โทษๆ ผมใช้คำผิด ต้องใช้ว่าก็ดันพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน


“ได้ยินว่าน้องโซ่จะไปกินข้าว งั้นไปกินพวกพี่...เอ๊ย! ไปกินกับพวกพี่ตอนนี้เลยดีมั้ย” ก็ถ้าสีหน้าแสดงออกชัดขนาดนั้นไม่ต้องแก้คำก็ได้มั้งแหม่ ส่วนคำถามนั่นก็เหมือนกัน ถ้าจะรุมทึ้งลากไอ้พี่มันไปโดยไม่ฟังคำตอบแบบนั้นแล้วจะถามเพื่อ!


“ก่อนจบงานพี่ว่าพี่หาโอกาสดักตบยัยพวกนั้นดีกว่า” พี่จ๋าพูดอย่างฮึดฮัด แต่มีแค่คนเดียวจะไปสู้คนเป็นสิบได้ยังไงกันเล่า


“ผบว่าตบคนของเรามันน่าจะง่ายกว่านะครับ มีอย่างที่ไหนใครลากไปไหนก็ไปกับเขาหมด คนเจ้าชู้!” นี่หรอที่บอกว่ารักว่าชอบผม ใครเชื่อก็คงต้องเลิกกินข้าวแล้วหันไปกินหญ้าแทน!


“น้องวาอย่าว่าน้องโซ่ของพี่สิ น้องโซ่ของพี่ไม่ได้เจ้าชู้ น้องโซ่ของพี่แค่ปฏิเสธคนไม่เก่งเฉยๆ” เฮอะ! ใช้ยาเสน่ห์สำนักไหน ทำไมผู้หญิงถึงได้รักได้หลงขนาดนี้เนี่ยไอ้พี่โซ่!


“คร้าบๆ พี่โซ่ของพี่จ๋าเป็นคนดีที่หนึ่งเลย” ผมเบ้ปากแล้วกลอกตามองบน พี่จ๋าคงเห็นว่าผมแกล้งทำขำๆ ล่ะมั้งก็เลยหัวเราะออกมา


ช่วงนี้พึ่งจะเที่ยงนิดๆ ในห้องบอลลูมเลยไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ จะมีก็แค่พนักงานประจำบูธละคนสองคนเท่านั้น เพราะงั้นผมกับพี่จ๋าก็เลยยืนเมาท์กันเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมา แต่ว่าพวกผมก็คิดผิดเพราะดันมีนักลงทุนหนุ่มใหญ่คนหนึ่งเดินมาทางนี้พร้อมกับผู้ติดตาม


“ผมสนในโปรเจคนี้ พวกคุณช่วยอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมให้ฟังหน่อยได้มั้ย” ผมกับพี่จ๋าหันไปมองหน้ากันอย่างไม่คาดคิด ก่อนที่จะรีบสลัดความเอ๋อทิ้งแล้วสวมบทมืออาชีพที่ได้เตรียมตัวกันมา


ส่วนใหญ่คนที่อธิบายจะเป็นพี่จ๋ามากกว่า ผมจะเป็นคนเสริมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 นาทีที่คุยกัน นักลงทุนคนนั้นกลับเอาแต่มองมาที่ผม แทบไม่มองหน้าพี่จ๋าที่อธิบายรายละเอียดต่างๆ เลยสักนิด


“ลืมแนะนำตัวไปเลย ผมชื่ออิทธิ เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารบริษัท S Corporation” หลังจากที่เขาพูดจบเลขาที่อยู่ด้านหลังก็ยื่นนามบัตรให้พวกผมคนละใบ


โอ้มายก็อด! S Corporation นี่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เลยนี่นา เพราะงั้นผมกับพี่จ๋าเลยหันหน้ามองกันโดยอัตโนมัติ ถึงจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็เป็นอันรู้กัน...ต้องจับบริษัทนี้ให้อยู่หมัดให้ได้!


“ไม่ทราบว่าท่านมีข้อสงสัย หรือสนใจจะถามรายละเอียดของโปรเจคเพิ่มเติมมั้ยคะ” พี่จ๋ายิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าให้คุณอิทธิ


“ความจริงผมก็อยากฟังรายละเอียดและอยากถามอะไรมากกว่านี้อยู่หรอก แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ผมต้องไปทำธุระ กว่าจะกลับมาอีกทีก็คงจะเป็นหลังปิดงานไปแล้ว” พอได้ยินแบบนี้ ผมกับพี่จ๋าก็น้ำตาแทบไหลเพราะเสียดายโอกาสทองสุดๆ


แต่แล้ว ความหวังที่หลุดลอยไปก็ดูเหมือนว่าจะมีแสงสว่างลอยวาบขึ้นมา


“เอาอย่างนี้มั้ยล่ะ ถ้าหลังจากนั้นคุณว่างมาอธิบายรายละเอียดอื่นๆ ให้ผมฟังล่ะก็ ผมจะพิจารณาเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทคุณก็ได้” คุณอิทธิให้ทางเลือกกับพวกเราตัดสินใจ...ไม่สิ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นแค่ผมคนเดียว


“การอธิบายรายละเอียดที่ว่า...”


“ก็แค่นั่งคุยชิลๆ ที่บาร์หรือร้านอาหาร แต่ว่าผมเชิญคุณแค่คนเดียวนะ” คุณอิทธิพูดจบก็ยกยิ้มขึ้นมา ผมรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจรอยยิ้มนั่น แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าขึ้นลงเฉยๆ


“เอาล่ะ ถ้าหากตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็ติดต่อมาแล้วกัน หวังว่าผมจะได้ยินข่าวดี” พูดจบคุณอิทธิก็เดินจากไป จนกระทั่งลับสายตาแล้วพี่จ๋าถึงได้สะกิดผม


“น้องวาจะไปตามคำชวนรึเปล่า”


“แล้วถ้าเป็นพี่จ๋า พี่จ๋าจะไปรึเปล่าครับ”


“นั่นน่ะสิ อืม...ก็คงจะลองไปอยู่มั้ง เขาไม่ได้นัดในห้องพักของโรงแรมหรือที่ลับตาคนนี่นา ถ้าเห็นท่าไม่ดีค่อยปลีกตัวออกมาก็น่าจะได้”


“ผมก็คิดเหมือนพี่จ๋าเลยครับ ลองไปดูก่อนก็ไม่น่ามีอะไรเสียหาย” ก็อย่างที่พี่จ๋าว่า คุณอิทธิเขาไม่ได้นัดผมไปที่ลับตาคนนี่นา ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ ผมก็สามารถร้องให้คนอื่นช่วยได้


ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าถ้าการที่คุณอิทธิเรียกผมไปหามันเป็นกับดักล่ะนะ แต่บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เขาอาจจะอยากร่วมงานกับบริษัทผมจริงๆ แล้วก็...อาจจะรู้สึกถูกใจผมนิดๆ เลยอยากหาเรื่องใกล้ชิดอะไรแบบนี้ล่ะมั้ง


“อ้อ! แต่ผมขออย่าให้พี่จ๋าบอกพี่โซ่ได้มั้ยครับ เพราะถ้าบอกพี่โซ่ต้องห้ามไม่ให้ผมไปแน่ๆ” เชื่อมั้ย รายนั้นน่ะคงต้องทำหน้าดุแล้วพูดด้วยเสียงแข็งกร้าวว่า ‘พี่ไม่ให้ไป!’ แน่นอน


“มันจะดีหรอน้องวา” พี่จ๋าทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเห็นด้วย


“แบบนี้แหละดีแล้วครับ ผมดูแลตัวเองได้พี่จ๋าไม่ต้องห่วงหรอก” ผมอายุ 23 แล้วนะ ไม่ใช่เด็ก 13 หรือ 3 ขวบที่จะโดนผู้ใหญ่หลอกได้ง่ายๆ


“ถ้าอย่างนั้นน้องวาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรก็รีบโทรบอกพี่”


“ได้เลยครับผม!” ผมตะเบ๊ะท่าแบบทหาร “อ๊ะ! พี่โซ่มาพอดี อย่าลืมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วยนะครับ”


“จ้า” พี่จ๋ารับคำแล้วก็ทำตามที่พูดเป็นอย่างดี เพราะพอไอ้พี่โซ่มาถึงพี่จ๋าก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งก็คงจะไม่ได้แอบบอกตอนที่ผมไม่อยู่ด้วย เพราะตลอดทั้งบ่ายจนกระทั่งจบงาน ไอ้พี่มันไม่ได้แสดงอาการว่ารู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย


และแล้วงานออกบูธครั้งนี้ก็ปิดฉากไปได้ด้วยดี มีนักลงทุนหลายกลุ่มหลายคนที่สนใจร่วมงานกับบริษัท ซึ่งเรื่องสัญญาพี่จ๋าจะแจ้งผอ.ให้ติดต่ออีกที พวกผมแค่มีหน้าที่พรีเซนต์บริษัทเฉยๆ


2 ทุ่มนิดๆ หลังจากประธานกล่าวปิดงานพวกผมก็พากันเก็บบูธ ตอนจัดใช้เวลานานหลายชั่วโมง แต่ตอนเก็บนี่ใช้เวลาแค่ 30 – 40 นาทีเท่านั้น เพราะงั้นแค่ 3 ทุ่มพวกเราก็พากันขึ้นไปบนห้องพักกันแล้ว โดยจะนัดกันอีกทีก็ตอนเที่ยงที่ให้เช็คเอาท์ ตามด้วยการกินอาหารกลางวันที่นี่เป็นมื้อสุดท้าย จากนั้นก็ให้รถของโรงแรมไปส่งขึ้นเครื่องบินไฟลท์ตอนบ่าย 3


“ผมขออาบน้ำก่อนนะครับพี่โซ่” พูดจบผมก็เบี่ยงตัวหลบ เมื่อไอ้พี่มันจะเนียนกอดตอนที่ปิดประตูห้อง คงกะจะใช้มุกชาร์จพลังอะไรนั่นล่ะสิท่า แต่ใสเจียเสียใจด้วยนะ มุกเก่าๆ มันใช้กับผมซ้ำไม่ได้หรอกพี่!


 หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วไอ้พี่โซ่ก็เข้าไปอาบต่อ ผมเลยใช้โอกาสนั้นรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจัดหน้าจัดผมให้ดูดี โดยไม่ลืมเช็คเอกสารโปรเจคในซองที่เตรียมไว้ว่าข้อมูลครบรึเปล่า


“หืม? จะออกไปไหนน่ะครับวา แต่งตัวซะดูดีเชียว” ไอ้พี่โซ่ทักขึ้นเมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ


อู้ววววว 6 แพคแน่นๆ กระแทกตาจนกำเดาจะไหลอีกแล้วพ่อคุ๊ณณณณ ซู้ดเลือดกำเดา -.,-


“อ้อ นี่ผมลืมบอกพี่โซ่สินะครับ พอดีเพื่อนที่เรียนด้วยกันมีมาฝึกงานแถวนี้คนนึง พอมันรู้เลยนัดเจอผมที่ห้องอาหารข้างล่าง สักชั่วโมงกว่าๆ เดี๋ยวผมขึ้นมา ถ้าจะนอนก่อนก็ฝันดีล่วงหน้านะครับพี่”


“อ้อ อืม” ไอ้พี่โซ่ทำหน้างงๆ แน่ล่ะก็ผมเล่นร่ายรัวๆ เร็วๆ ซะขนาดนั้นไอ้พี่มันจะฟังทันรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก่อนที่ไอ้พี่มันจะพูดหรือถามอะไรออกมา ผมก็รีบเผ่นแน่บออกจากห้องไปเป็นที่เรียบร้อย


เอาล่ะ Mission Complete ไปหนึ่ง เหลืออีกหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นงานหินสุดๆ เลยล่ะ


ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินขึ้นลิฟต์ลงไปด้านล่าง ก่อนหน้านี้ผมหาจังหวะโทรไปบอกคุณอิทธิว่ายินดีไปพบ คุณอิทธิจึงนัดเจอกับผมตอน 3 ทุ่มครึ่งที่บาร์ของโรงแรม


เวลา 21.25 น. ผมยืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้า มาถึงนี่แล้วยังไงก็ขอลองดูสักตั้ง การเสี่ยงของผมมันก็แลกกับอนาคตและโบนัสของพวกพี่ๆ ก็อย่างที่เคยได้ยินกันไงล่ะ ถ้าอยากได้ลูกเสือมันก็ต้องเข้าถ้ำเสือ


แต่ถึงจะเป็นการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ผมก็ไม่ได้ประมาทหรอกนะเพราะได้โทรหาพี่จ๋าก่อนที่จะเข้าไป แล้วผมก็ยังตั้งปุ่มอัดเสียงที่โทรศัพท์เอาไว้ด้วย เห็นมั้ยล่ะว่าผมดูแลตัวเองได้ ผมไม่ได้โง่พาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายโดยไม่คิดทำอะไรเลยสักหน่อย


“สวัสดีครับคุณอิทธิ รอผมนานมั้ยครับ” ผมยกมือไหว้และกล่าวทักทายเมื่อเดินเข้าไปใกล้


โต๊ะนี้อยู่ไม่ไกลจากประตูทางเข้าเท่าไหร่ ผมเลยมองเห็นคุณอิทธิได้ตั้งแต่ที่เดินเข้ามา ซึ่งจากการที่ลองกวาดสายตาดู ไม่น่ามีผู้ติดตามคนอื่นตามคุณอิทธิมา ส่วนลูกค้าในบาร์ก็คงไม่ใช่หน้าม้า เท่าที่ดูก็คุ้นหน้าค่าตาเพราะเป็นพนักงานประจำบูธในห้องบอลลูมทั้งนั้น คงจะมาฉลองกันเพราะหาลูกค้าได้ตามเป้านั่นล่ะ


“ผมพึ่งมาเมื่อกี้นี้เอง เชิญนั่งครับวา”


“ขอบคุณครับ” แหม่ ยังคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ก็เรียกผมซะสนิทสนมเลยนะตาลุงคนนี้ อุ้ยๆ โทษที ลืมไปว่านี่ลูกค้าจะเรียกตาลุงไม่ได้ กัดฟันเรียกพี่ในใจก็ได้วะ


“สั่งอะไรดื่มหน่อยมั้ย”


“ไม่เป็นไรครับผมไม่...”


“น้องๆ ทางนี้” แล้วพี่ (กัดฟันแบบสุด) จะถามผมเพื่อถ้าจะเรียกเด็กเสิร์ฟมาอยู่แล้ว! ปัดโธ่!


“รับอะไรดีครับ” นี่ก็รีบเดินมาเชียวนะ เห็นท่าทางพี่คนนี้ราศีจับเหมือนอาเสี่ยน่ะสิ เลยเมินโต๊ะอื่นแล้วรีบถลามาเชียว


“เอ่อ...เป๊ปซี่แก้วนึงแล้วกันครับ” เด็กเสิร์ฟพยักหน้ารับ แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็เดินเอาน้ำมาวางไว้ตรงหน้าผม โดยก่อนจะกลับก็ได้ทิปติดไม้ติดมือไปใบนึง


อื้อหือออ แสงสะท้อนจากแบงค์สีเทากระแทกเข้าตา ป๋าสายเปย์ตัวจริงเลยเว้ยเฮ้ย!


“เรามาเริ่มคุยเรื่องโปรเจคกันเลยดีมั้ยครับ” ผมยังไม่กระหายเลยเลื่อนแก้วเป๊ปซี่ออกไปข้างๆ


“ได้สิ วาอธิบายต่อจากเมื่อกลางวันได้เลย” พอได้ยินแบบนี้ ผมก็รีบหยิบเอกสารออกจากซองแล้วส่งให้คุณอิทธิ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะสนใจโปรเจคนี้จริงๆ เพราะเล่นเปิดไฟฉายจากมือถือส่องดูเอกสาร ตั้งใจฟังที่ผมอธิบาย แล้วก็ซักถามข้อสงสัยกับข้อมูลเพิ่มเติมเป็นระยะ


ดูท่าทางผมกับพี่จ๋าจะคิดมากและมองคุณอิทธิในแง่ร้ายเกินไปนะเนี่ย


“เป็นยังไงบ้างครับ โปรเจคนี้ของบริษัทเราน่าสนใจมากเลยใช่มั้ยครับ” เด็กฝึกงานที่ฮาร์ดเซลได้ขนาดนี้มันต้องมีโบนัสให้ แล้วก็ต้องจับเซ็นสัญญาเป็นพนักงานประจำได้แล้ว!


“อืม เป็นโปรเจคที่ดีแล้วก็น่าสนใจมาก แต่ว่าผมต้องการปรับเปลี่ยนรายละเอียดตรงจุดนี้นิดหน่อย”


“จุดไหนหรอครับ” ผมชะโงกเข้าไปใกล้คุณอิทธินิดนึง เพราะมองไม่ค่อยเห็นตรงที่ปลายปากกาจิ้ม


“ตรงนี้...อ๊ะ! แล้วกัน หล่นไปไหนแล้วเนี่ย” เวรกรรม จู่ๆ พี่แกก็ทำปากกาหล่นซะงั้น จับยังไงล่ะนั่น ถ้าเรี่ยวแรงไม่มีก็กลับขึ้นห้องไปนอนฟื้นพลังเถอะ


“เดี๋ยวผมก้มหาให้แล้วกันครับ” เฮ้ออออ ยุ่งยากซะจริง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ผมไม่ทำให้ขนาดนี้หรอกนะ มืดก็มืด หาก็ยาก กว่าจะเจอก็ทำเอาก้มจนปวดหลังไปหมดแล้วเนี่ย


“นี่ครับคุณอิทธิ” ผมยื่นปากกาคืนให้ คุณอิทธิเลยยื่นมือมารับไป ตอนแรกผมก็หวั่นๆ อยู่ว่าจะแอบโดนจับมือรึเปล่า แต่ก็ปรากฏว่าเปล่า คุณอิทธิแค่จับที่ปลายปากกาไปเฉยๆ


“ขอบใจมากนะ”


ลองถ้าเป็นอย่างนี้ก็แสดงว่าผมคิดมากไปเองจริงๆ นั่นแหละ แอบรู้สึกผิดนิดนึงเหมือนกันที่ก่อนหน้านี้ผมมองคุณอิทธิในแง่ร้าย ไหนๆ ก็ไหนๆ ปิดแอพบันทึกเสียงไปเลยแล้วกัน โทรศัพท์ที่อยู่ในกางเกงก็ชักจะร้อนขึ้นมาแล้ว


“ว่าแต่ตรงไหนนะครับที่คุณอิทธิต้องการปรับเปลี่ยน”


“อ้อ ตรงนี้...” แล้วคุณอิทธิก็แจ้งรายละเอียดมา ผมคิดว่าน่าจะสามารถปรับเปลี่ยนได้เลยรับปากไป แต่ก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ผอ.โทรติดต่ออีกที สรุปว่าวันนี้การเจรจาก็ผ่านไปได้อย่างลุล่วง


เตรียมปิดบ้านฉลองที่ได้งานแน่ล่ะคราวนี้!


“เอ้าดื่มน้ำดื่มท่าสักหน่อย คุยกันตั้งครึ่งชั่วโมงคอไม่แห้งไปหมดแล้วหรอ” คุณอิทธิพูดด้วยท่าทางสบายๆ แล้วก็ยังอุตส่าห์เลื่อนแก้วเป๊ปซี่มาที่ตรงหน้าผม


“ขอบคุณมากๆ เลยครับ” ผมหยิบแก้วขึ้นมาด้วยความเกรงใจ บวกกับรู้สึกกระหายนิดๆ เลยดูดเข้าไปซะอึกใหญ่ ซึ่งทันทีที่กลืนเข้าไปน้ำที่อยู่ในปากมันก็แทบพุ่ง!


มุงจะใส่เหล้าลงในเป๊ปซี่ทำเพื่ออออออออ! ตูสั่งเป๊ปซี่เฉยๆ ไม่ใช่รึไงฟายยยยยยยยย!


“เป็นอะไรไปน่ะ!?” คุณอิทธิถามด้วยความตกใจ ส่วนผมก็ไอค่อกๆ แค่กๆ นิดหน่อย จนกระทั่งหายจากอาการสำลักแล้วผมจึงได้พูดขึ้น


 “ขอโทษที่เมื่อกี้ผมเสียมารยาทนะครับ คือผมไม่คิดว่าในเป๊ปซี่จะผสมเหล้ามาด้วย”


“หรือวาแพ้แอลกอฮอล์เลยดื่มเหล้าไม่ได้?”


“เปล่าครับเปล่า ดื่มได้ครับ แต่ว่าผมแค่ตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะผสมลงในเป๊ปซี่น่ะครับ”


ผมไม่ค่อยได้เข้ามาที่แบบนี้เท่าไหร่ บางทีอาจจะเป็นทำเนียมที่รู้กันอยู่แล้วก็ได้ว่า ถ้าสั่งเครื่องดื่มอะไรก็ตามก็จะผสมเหล้ามาให้เลย
ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าสั่งโซดาน้ำ คงไม่มีลูกค้าคนไหนที่จะดื่มโซดาใส่น้ำเท่านั้นหรอกจริงมั้ย แล้วอย่างเป๊ปซี่กับโค้กก็เหมือนกัน ผมเคยได้ยินผ่านหูอยู่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบผสมกับเหล้าดื่ม


“เปลี่ยนแก้วใหม่ดีมั้ย เดี๋ยวผมเรียกคนมาเปลี่ยนให้” แล้วคุณอิทธิก็ทำท่าจะเรียกเด็กเสิร์ฟมาทางนี้


“ไม่เป็นไรครับคุณอิทธิ ผมดื่มได้จริงๆ ครับ” ว่าแล้วก็ดูดลงคอไปอีกอึกใหญ่


“ถ้าวาพูดอย่างนั้นผมก็ตามใจ ว่าแต่เราจะแยกกันตรงนี้เลยมั้ย นี่ก็ 4 ทุ่ม 15 แล้ว” คุณอิทธิดูนาฬิกา ผมคิดว่าแยกกันตอนนี้ก็ดีเหมือนกันเลยพยักหน้าตอบตกลง


“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ สำหรับวันนี้ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณอิทธิมากๆ...ครับ” ในจังหวะที่ยืนขึ้น ผมรู้สึกแข้งขาไม่ค่อยมีแรงแปลกๆ เลยเซลงไปนั่งที่โซฟา แถมไม่ใช่เฉพาะแข้งขา เพราะร่างกายของผมมันก็ยังรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ อีกด้วย


หรือว่าเหล้าแพงมันเลยแรงเป็นธรรมดา?


แต่จะบ้าเรอะ! ถึงจะเมาเพราะเหล้าแรงอาการที่แสดงมันก็ไม่ใช่แบบนี้!


ในแก้วเป๊ปซี่ของผมต้องมีอะไรผสมอยู่อีกนอกจากเหล้า!


2BC


 :a11: สวัสดีค่าทุกคน Trap หัวใจพ่ายรัก ตอนที่ 10 ก็จบลงไปแล้วน้า คงจะแปลกใจกันสินะคะที่ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวมากกก แบบว่าเราไม่ได้แบ่งครึ่งก่อนลงเหมือนทุกทีน่ะค่ะ แต่ลงไปแบบทั้งตอนเลย เพราะตอนหน้าไม่แน่ว่าเราอาจจะมาลงช้ากว่ากำหนด  :m17:
อย่าที่เราเคยแจ้งไปเนอะว่าเรามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ตอนนี้ข้างนั้นใกล้จะหายสนิทแล้วค่ะ แต่อีกข้างก็ดันมาเป็นอีก คราวนี้เป็นหนักกว่าเดิมด้วยค่ะ วันนี้ตอนที่ไปหาหมอถึงขนาดเลือดไหลออกมาเป็นน้ำตาเลย สยองขวัญรับฮาโลวีนมากกกก  :katai1:
ที่วันนี้สามารถมาลงนิยายได้เพราะว่ายังมีฤทธิ์ยาชา+ยาแก้ปวดอยู่น่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าหลังจากหมดฤทธิ์ยาแล้วจะปวดนรกแค่ไหน เพราะงั้นเราเลยไม่แน่ใจว่าจะมาลงนิยายได้ตามนัดรึเปล่าเลยลงไปแบบเต็มๆ ไว้เดี๋ยวถ้าอาการเราดีขึ้นเมื่อไหร่แล้วเราจะรีบมาลงต่อให้นะคะ เชื่อว่าคงจะค้างคากันมากล่ะเนอะ แล้วมาเอาใจช่วยน้องวากันด้วยนะคะทุกคนนน บ๊ายบายยยย  :bye2:
(24 ต.ค. 61)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ
น้องวาเอ๊ยยยยยย

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
น้องวาโดนยาแล้วใช่มั้ยนั่น หวังว่าอิพี่โซ่มันจะเอะใจแล้วแอบตามลงมาดูน้องนะ  :sad4:

ปล.คุณนข.หายไวๆนะคะ พักผ่อนเยอะๆน้า เป็นห่วงค่า :กอด1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
วาเอยวา เด็กอ่อนหัดเอย รอพี่โซ่มาช่วยแล้วกัน รักษากุงเกงให้อยู่กับเอวให้ดี ๆ แล้วกัน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โดนวางยาตอนเก็บปากกาแน่เลย

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
เอาแล้ววววววเหมือนจะมีnc :hao6:

ไรท์รักษาตัวให้หายก่อนค่อยมาอัพต่อนะ เป็นห่วงค่ะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ขอให้หายเร็วๆนะคะคุณคนเขียน รุนแรงและอันตรายมากๆพักให้หายก่อนดีกว่า

น้องวาโดนตาลุงหัวงูนี่วางยาซะแล้ว พี่โซ่ช่วยน้องด้วย :serius2:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] Trap หัวใจพ่ายรัก


Part 10# Wayo ดวงอาทิตย์ของผม


“เป็นอะไรไปน่ะวา!?” คุณอิทธิรีบเข้ามาประคองผมด้วยความเป็นห่วง


แต่ถุยเถอะลุง! มุงไม่ต้องมาเสแสร้งงงงงงงงงงงงงง!


“แก...ใส่อะไรลงไป” ผมพยายามเค้นเสียงให้เป็นปกติมากที่สุด แต่ให้ตายเถอะ เสียงที่ออกมาทำไมมันถึงได้เหมือนเสียงครางแบบนั้นล่ะปัดโธ่!


“Spanische ยาปลุกเซ็กส์แบบรุนแรงไงล่ะหนู หึหึ” ในเมื่อมันเห็นว่าผมรู้ตัวแล้ว ก็เลยไม่คิดจะแอ๊บเป็นลุงใจดีอีกต่อไป


ไอ้แก่ตัณหากลับเอ๊ย! เสียงหัวเราะว่าชั่วแล้ว แต่หน้าของมันแม่มชั่วกว่าเสียงไปอี้กกกกกก


“ไอ้...เหี้ย...เอ๊ย...” ขอหยาบสักครั้งเถอะ นอกจากคำนี้ผมก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าอีตาลุงตัณหากลับนี่ได้อีกแล้ว เพราะสมองของผมตอนนี้มันคล้ายกับว่ากำลังชา แถมความต้องการของร่างกายก็สูงมากขึ้นกว่าเดิม จนเสียงที่เปล่งออกมามันแทบจะกลายเป็นครางกระเส่า


“จุ๊ๆ พูดคำหยาบแบบนี้เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ เห็นทีพี่คงต้องพาไปอบรมบนห้องซะแล้ว” สารร่างแบบนี้ยังกล้าเรียกตัวเองว่าพี่อีกเรอะไอ้แก่!


แล้วนี่แม่มไม่คิดจะมีใครมาช่วยผมสักคนเลยใช่มั้ย พากันปล่อยให้ไอ้แก่นี่มันพยุงผมที่ร่างกายปวกเปียกออกไปจากโต๊ะได้ยังไง ไม่มีใครคิดจะสงสัยหรือว่าเข้ามาถามไถ่ผมสักนิดเลยหรอ


“ช่วย...ด้วย...” ผมพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ว่ามันก็เหมือนเดิม เสียงที่ผมพูดมันแทบไม่ต่างจากเสียงคราง


“เปล่าประโยชน์น่า เก็บแรงไว้ครางให้พี่ฟังดีกว่านะหนูน้อย หึหึ” ไอ้แก่มันกระซิบที่ข้างหูของผมแล้วหัวเราะอย่างสกปรก ตอนนี้ผมอยากชกแล้วก็กระทืบไอ้แก่นี่เป็นบ้า แต่ขนาดจะกำหมัดแขนของผมมันยังสั่นระริกเลยเถอะ


ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้คงมีแค่อย่างเดียวสินะ นั่นก็คือทำใจยอมรับชะตากรรมเพราะผมดันคิดว่าตัวเองฉลาด แต่ที่จริงผมมันทั้งโง่ ทั้งประมาท ทั้งอวดเก่ง จนตามเกมของไอ้แก่นี่ที่มันหลอกให้ผมตายใจไม่ทัน


ผมนี่มันโง่ชะมัดเลย...


“เด็กดี ยอมแพ้แล้วสินะ” ไอ้แก่ยิ้มกริ่มเพราะเห็นว่าผมยอมอยู่นิ่งๆ เลิกต่อต้าน


ใช่...ผมเลิกแล้วจริงๆ ก็มันไม่มีประโยชน์อะไรนี่ ถึงจะพยายามดิ้นหรือพยายามร้องแค่ไหน แต่แรงแค่นี้ก็คงไม่มีใครมองเห็นและไม่มีใครได้ยินเสียงของผมอยู่ดี


“พี่โซ่...”


แปลกนะที่ผมเรียกชื่อนี้ออกมา หรือเพราะไอ้แก่ตัณหากลับมันเรียกผมว่าเด็กดีก็ไม่รู้ ก็คำนี้เป็นคำที่พี่โซ่ใช้เรียกผมบ่อยๆ นี่นา


“อะไรนะ? หนูอยากให้พี่ใช้โซ่? โอ้ย่อมได้! ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แหมชอบเล่นรุนแรงก็ไม่บอก” ไอ้แก่ใช้มือสกปรกบีบแก้มผมไปมา แต่ผมไม่มีอารมณ์จะเถียง แถมร่างกายยังร้อนขึ้นเรื่อยๆ เลยปล่อยให้ไอ้แก่มันพูดพล่ามแล้วทำตามใจ


“พี่โซ่...พี่โซ่......พี่โซ่........”


ผมเอาแต่เรียกชื่อของพี่โซ่ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่ผมออกจะโกรธแล้วก็เกลียดพี่มันขนาดนั้นแท้ๆ แต่พอเกิดเรื่องผมดันคิดถึงหน้าของพี่มันเป็นคนแรก ผมนี่มันแปลกคนชะมัด


“วา...”


หืม? สงสัยนี่คงจะเป็นผลข้างเคียงของยาที่ไอ้แก่มันให้ผมกินแน่ๆ เพราะว่าผมดันหูแว่วได้ยินเสียงของพี่โซ่ซะงั้น ทั้งๆ ที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่โซ่นี่นา


แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น...


“เอามือสกปรกออกจากวาเดี๋ยวนี้!”


เสียงที่ดังขึ้นอยู่ที่ด้านหลังทำให้ผมหันมองกลับไป ภาพของพี่โซ่ที่เหงื่อซกเพราะดูเหมือนว่าจะวิ่งวุ่นตามหาผมอยู่นานปรากฏอยู่ตรงหน้า วินาทีนั้นผมรู้สึกราวกับว่าเห็นแสงสว่างในความมืดมิดที่ผมกำลังเผชิญ


ดวงอาทิตย์ของผมมาช่วยผมแล้ว...


และเพียงเสี้ยววินาทีหลังจากนั้นร่างของผมก็ถูกกระชากไปปะทะกับอกหนา ความร้อนของอุณภูมิร่างกายกับเสียงหัวใจที่ได้ยิน มันช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แถมนอกจากนั้น...


“นี่หรอเพื่อนที่บอกว่าเรียนด้วยกัน! นี่มันเพื่อนพ่อหรือว่าเพื่อนวากันแน่หา!” ความเกรี้ยวกราดอย่างแรงของพี่มันถ้าเป็นความฝันก็คงจะสมจริงเกินไปล่ะ


ว่าแต่...มันใช่เวลาจะมาด่าผมเรื่องนี้มั้ยล่ะพี่!


“แก...ไอ้คนที่อยู่ด้วยกันกับวาที่บูธ” เสียงของไอ้แก่ทำให้พี่โซ่ละสายตาจากผมไปมองมัน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เห็นแววตาคาดโทษเพราะดูเหมือนว่าจะยังคงโกรธผมอยู่


แต่อย่าดุผมเยอะแล้วกัน ผมสำนึกไม่ทันหรอกนะครับพี่!


“ถ้าจำได้ก็ดีเพราะผมก็ขี้เกียจแนะนำตัว ส่วนคุณคงจะชื่ออิทธิที่เป็นกรรมการบริหาร S Corporation สินะ?”


“ใช่” ไอ้แก่ยิ้มที่มุมปากแล้วยืดอกขึ้นอย่างอวดเบ่ง


“งั้นดีเลย เพราะผมจะได้เขียนชื่อกับตำแหน่งของคุณอย่างถูกต้องตอนที่ส่งคลิปนี้ไปให้สื่อ หึหึ” พี่โซ่ชูโทรศัพท์ขึ้น แต่ก็รีบเก็บกลับเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็วเพราะเดี๋ยวไอ้แก่มันจะฉกเอาไปได้


“คลิปอะไร! บอกมาเดี๋ยวนี้ว่ามันคือคลิปอะไร!”


“คุณแน่ใจหรอว่าอยากให้ผมพูดตรงนี้จริงๆ?” ถึงตรงนี้มันจะใกล้ประตูทางเข้าบาร์ แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มี ส่วนที่หันมองมาทางนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย


“ถ้าคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คุณอยากรู้มั้ยว่าบอร์ดบริหารจะจัดการยังไง กับกรรมการบริหารที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมแบบคุณ” คำพูดของพี่โซ่ทำเอาไอ้แก่ถึงกับหน้าซีด


“แก...แกต้องการอะไร...”


“คงเป็นความล่มจมแบบฉิบหายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดของคุณล่ะมั้ง” ถึงจะพูดจารุนแรงแบบนั้น แต่ริมฝีปากของพี่โซ่ก็ยังคงยกยิ้มแบบหนุ่มดอกไม้ไม่ต่างจากเดิม ผมที่เคยเห็นพี่โซ่โหมดดาร์กแบบนี้มาแล้วยังทำใจให้ชินได้ยาก แล้วนับประสาอะไรกับอีตาลุงแก่ๆ


ของมันแน่ว่าก็ต้องกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว!


“ขะ...ขอร้องล่ะ ลบคลิปแล้วฉันจะยอมทุกอย่าง” หึ! สะใจเป็นบ้า! อีตาลุงที่ทำท่าเป็นอวดเบ่งเมื่อกี้ท่าทางตอนนี้ไม่ได้ต่างจากหมาเชื่องๆ เลยสักนิด!


“ถ้าผมลบคลิปแล้วผมจะเหลืออะไรไปต่อรองกับคุณล่ะ แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ถ้าคุณยอมทำตามเงื่อนไขที่ผมบอก ผมรับรองด้วยชีวิตเลยว่าจะไม่มีวันปล่อยคลิปของคุณเด็ดขาด” ไอ้แก่ลังเลอยู่สักพัก จากนั้นเมื่อลองไตร่ตรองดูแล้วจึงได้พยักหน้าลงช้าๆ ก็นะ...มันไม่มีทางเลือกนี่นา


“ได้ บอกเงื่อนไขของแกมา”


“1.เลิกยุ่งกับวา”


“ได้” ไอ้แก่ตอบอย่างไม่ลังเล แหงล่ะ ลองไม่รับปากพี่โซ่เล่นมันหนักแน่


“2.เลิกพฤติกรรมชั่วๆ แบบนี้ซะ ถ้าผมได้ยินว่าคุณทำแบบนี้กับเด็กที่ไหนอีก คลิปของคุณไปถึงมือสื่อแน่” ข้อนี้ถึงแม้จะดูน่าลำบากใจสำหรับมันไปสักหน่อย แต่ว่ามันก็ยอมพยักหน้ารับปากอย่างโดยดี


“ได้”


“ส่วนข้อสุดท้าย ภายใน 3 วันเซ็นสัญญาเป็นลูกค้าบริษัทของผมด้วย แต่ว่าคุณไม่ต้องโผล่หน้ามาเองล่ะ เพราะถ้าผมเห็นหน้าคุณอีก ไม่แน่ว่าผมอาจจะมือลั่นส่งคลิปไปให้สื่อก็ได้” เงื่อนไขนี้ไอ้แก่ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ บางทีอาจจะไม่ได้คิดเซ็นสัญญาเป็นลูกค้าบริษัทของผมอยู่แล้วตั้งแต่แรกล่ะมั้ง


“เรื่องนั้น...”


“ผมไม่คิดต่อรอง แล้วผมก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากพอที่จะฟังคุณด้วย ตอบมาแค่ว่าได้หรือไม่ได้” พี่โซ่พูดด้วยเสียงเย็นเยียบ ไอ้แก่ที่ถูกบีบมากๆ เข้าเลยกำหมัดแน่น แต่ในเมื่อตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่กัดฟันรับปากไปเท่านั้น


“ได้”


“งั้นก็ดี ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ขอตัว” พี่โซ่ที่ยังคงโอบกอดผมไว้ตรงแผ่นอกพาผมก้าวออกไป แต่พอนึกอะไรได้เลยหยุดกึกแล้วจึงหันไปมองไอ้แก่ที่อยู่ด้านหลัง


“อ้อ ขอเตือนไว้อย่าง ถ้าหากคุณคิดว่าจะให้คนมาอุ้มหรือว่าเก็บผมล่ะก็...บอกไว้ก่อนเลยนะว่าพ่อผมเป็นสารวัตร” คำพูดนั้นก็ทำให้ไอ้แก่ถึงกับเบิกตากว้าง ก็ไม่รู้เหมือนกันล่ะนะว่ามันตกใจที่พ่อของพี่โซ่เป็นตำรวจยศใหญ่ หรือว่าคิดจะทำอย่างที่พี่โซ่เดากันแน่เลยทำหน้าตกใจซะขนาดนั้น


อ้อ แต่ที่พูดไปเมื่อกี้พี่โซ่ไม่ใช่แค่ขู่มันหรอกนะ พ่อของพี่เขาเป็นสารวัตรจริงๆ ที่ผมรู้เรื่องนี้ก็เพราะเมื่อก่อนเคยถามที่มาของชื่อโซ่ ส่วนเรื่องคลิปผมพึ่งมารู้ทีหลังว่าของแบบนั้นมันไม่มีตั้งแต่แรก ถ้าหากมีจริงป่านนี้ไอ้แก่คงถูกส่งเข้าซังเตไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้ต่อรองอะไรหรอก


“ขะ...ขอบคุณนะครับพี่...ที่มาช่วยผมไว้...” ผมพยายามเค้นเสียงพูดเพื่อขอบคุณจากใจ แต่เสียงที่เปล่งออกไปก็ยังคงเหมือนเสียงครางอยู่ดี


“ถ้าพูดไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน” พี่โซ่พูดกับผมห้วนๆ ท่าทางเหมือนกับอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่


“โกรธผม...หรอครับ”


“แล้วมันสมควรโกรธมั้ยล่ะ ทำอะไรไม่รู้จักคิด คิดว่าตัวเองเก่งนักใช่มั้ย ถ้าหากพี่ไม่เอะใจแล้วไปช่วยไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นรู้บ้างมั้ยวา!”


“รู้...สิครับ...” แค่คิดว่าไอ้แก่นั่นมันคิดจะทำอะไร ผมก็รู้สึกรังเกียจและขยะแขยงจนแทบบ้าอยู่แล้ว


ในสายตาของพี่โซ่ตอนนี้ผมคงจะเป็นแค่เด็กอวดดี อวดเก่ง แต่ก็ทำอะไรไม่เห็นได้ เพราะงั้นเลยอาจจะผิดหวังจนเลิกรักผมไปแล้วล่ะมั้ง ก็สีหน้าของพี่เขาไม่ได้ยิ้มให้ผมเหมือนกับที่ผ่านมานี่นา แล้วพอคิดว่าต่อไปนี้พี่เขาอาจจะไม่ยิ้มให้ผมอีก น้ำตาของผมมันก็ไหลลงมาช้าๆ


“ขะ...ขอโทษ...ครับ...” และทันทีที่เห็นน้ำตาของผม พี่โซ่ที่อ้าปากตั้งท่าจะว่าต่อก็ถึงกับต้องตัดใจไป ผมที่คิดว่าพี่เขาอาจจะยังรักผม ไม่ได้เกลียดผมอย่างที่คิดก็เลยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง


“แล้วนี่รู้มั้ยว่าโดนเอาอะไรให้กิน”


“เอ่อ...เห็นมันบอกว่า...เป็นยาปลุก ชะ...ชื่อ Spanis อะไรสักอย่าง...” แม้จะอายที่ต้องบอกให้พี่โซ่รู้ แต่ถึงจะไม่พูด แค่ดูตรงกางเกงของผมพี่โซ่ก็คงจะพอเดาได้ เพราะตอนนี้มันทั้งแข็งและเปียกแฉะไปหมดแล้ว


“บ้าฉิบ!” พี่โซ่สบถออกมา จากนั้นก็ไม่รอช้ารีบช้อนตัวผมขึ้นอุ้มทันที


“อ๊ะ!” ด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะถูกอุ้มแบบนี้ผมเลยหวีดร้องเสียงหลง แล้วก็เพราะกลัวตกผมก็เลยต้องใช้สองมือโอบรอบลำคอของพี่โซ่เอาไว้แน่น


“พี่จะรีบพาขึ้นไปอาบน้ำเย็นบนห้อง” ผมครางอืออาพยักหน้ารับรู้ การที่พี่โซ่อุ้มผมขึ้นมาก็เพราะว่าถ้าให้ผมเดินขึ้นไปเองมันก็คงจะช้า


แต่ว่ารู้อะไรมั้ย พอได้สูดกลิ่นกายของพี่โซ่อย่างใกล้ชิดมันก็ยิ่งทำให้ผมใจเต้นรัว ส่วนร่างกายมันก็ร้อนระอุ เกลียวคลื่นที่เคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายมันเดือดพล่านอยากปะทุออกมาเต็มที


“อือ...พี่โซ่...” คราวนี้ผมครางออกมาจริงๆ สติของผมกำลังจะหายไป แทนที่ด้วยความต้องการมากมายที่ยากเกินความควบคุม


“อึ่ก! ใกล้จะถึงห้องแล้ววา!” พี่โซ่เร่งฝีเท้ามากขึ้นเมื่อผมอ้าปากงับเข้าที่ลำคอ ซึ่งนั่นก็ทำให้วงแขนที่กอดผมอยู่ถึงกับกระตุกเกร็ง


“พะ...พี่โซ่...” เสียงครางชื่อสุดกระเส่าของผม รวมทั้งสัมผัสของปลายจมูกที่คลอเคลียอยู่ตรงซอกคอทำเอาพี่โซ่แทบจะคำราม แต่ถึงอย่างนั้นพี่เขาก็พยายามหักห้ามใจ วงแขนแกร่งอุ้มผมอย่างมั่นคงตรงเข้าไปในห้อง ผ่านเตียงนอนเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็เปิดน้ำจากฝักบัวแบบแรงสุดให้พุ่งมาใส่เราสองคน


“อ๊ะ!” น้ำเย็นเฉียบทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง แล้วก็ดูเหมือนว่าจะทำให้ผมมีสติมากขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้พี่โซ่วางผมลงพื้น แต่ผมก็ยังไม่สามารถยืนด้วยตัวเองได้ พี่โซ่ที่เห็นอย่างนั้นเลยต้องใช้สองมือประคองแผ่นหลังของผมเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเราสองคนต้องแนบชิดกันอย่างเคย


“พี่...พี่โซ่เปียกหมดแล้ว” ในเวลาแบบนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร มันทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งประหม่า แล้วก็ทั้งสารพัดความรู้สึก


“อืม ช่างมัน” พี่โซ่ยังคงพูดห้วนๆ เช่นเดิม แถมยังพูดโดยที่ยังไม่ยอมมองหน้าผม ตอนแรกผมก็คิดว่าพี่โซ่ยังโกรธ แต่พอหลุบสายตาไปมองยังเบื้องล่างเท่านั้นแหละผมก็ชักไม่แน่ใจ เพราะผมเห็นส่วนนั้นของพี่โซ่ที่แข็งชันจนแทบดุนดันออกมานอกกางเกง


ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก


ตอนนี้หัวใจของผมมันเต้นแรงมาก ก่อนที่มันจะมากขึ้นไปอีกเมื่อพี่โซ่เสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าขึ้นไป แล้วไหนจะแผ่นอกและกล้ามท้องแน่นๆ ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดเพราะเสื้อที่เปียกโชกมันแนบเนื้อนั่นอีก มันก็ทำให้ผมยิ่งเนื้อตัวสั่นระริกและร้อนรุ่มมากกว่าเดิม น้ำเย็นๆ จากฝักบัวที่พุ่งลงมาตกกระทบจนเปียกโชกมันไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว


“พะ...พี่โซ่...ผมร้อน...” เสียงของผมกระเส่ามากขึ้น ตอนนี้สมองของผมมันมึนและเบลอไปหมด จนหักห้ามความต้องการและควบคุมการกระทำของตัวเองไม่ได้


“วา! อย่าทำแบบนี้! มีสติหน่อย!” พี่โซ่พยายามเรียกสติของผมโดยการเขย่าที่ตัวไปมา เมื่อผมพยายามยื่นวงแขนเข้าไปกอดและจูบ รวมทั้งลูบไล้แผ่นอกและกล้ามท้องของพี่โซ่ตามความปรารถนา


“พี่โซ่ช่วยผมที...ผมต้องการพี่...นะ...นะครับ...”


“มีสติหน่อยวา!”


“ผมมีสติทุกอย่าง...ผมต้องการพี่...แค่พี่คนเดียว...” พอได้ยินผมพูดแบบนี้ แววตาของพี่โซ่ก็ไหวระริกด้วยความลังเล แม้จะเป็นแค่เพียงเสี้ยววินาทีแต่ผมก็มองเห็นมัน


“พี่ก็ต้องการผมด้วย...ใช่มั้ยครับ” ผมใช้โอกาสที่พี่โซ่ยังคงนิ่งวางมือลงที่แผ่นอกแล้วลูบต่ำลงไปช้าๆ เรียกเสียงครางต่ำพร้อมทั้งแหบพร่าได้เป็นระยะ แล้วทันทีที่ฝ่ามือของผมสัมผัสและกอบกุมตรงส่วนนั้น เสียงครางที่ต่ำสุดๆ จนแทบจะเป็นเสียงคำรามก็ดังขึ้นมา


“วา...ถ้าจะเล่นก็พอแค่นี้ พี่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะอ่อนโยนกับวาได้หรอกนะ” สีหน้าอันดุดันของพี่โซ่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งที่พูดนั้นคือเรื่องจริง ตอนนี้พี่โซ่คงกำลังโกรธผมอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าโกรธเรื่องที่ผมดื้อจนเกือบจะไม่รอดเงื้อมมือของไอ้อิทธิ หรือว่าโกรธที่ผมดื้อดึงบอกว่ายังไงก็ต้องการพี่โซ่


แต่จะเพราะอะไรก็ช่าง ตอนนี้ผมต้องการพี่โซ่จนแทบทนไม่ไหว ในส่วนลึกของร่างกายอยากให้พี่โซ่กระแทกเข้ามาใจจะขาดอยู่แล้ว!


“พี่จะรุนแรงกับผมแค่ไหนก็ได้ แรงไม่กลัว กลัวไม่แรงครับพี่” และทันทีที่พูดจบร่างของผมก็ถูกดันไปติดผนัง ตามด้วยการถูกบดขยี้ที่ริมฝีปากอย่างรุนแรง!


2BC


 o14 สวัสดีค่า Happy Halloween ค่าทุกคน วันนี้มีใครแต่งหน้าเป็นผีลงเฟสลงไอจีมั้ยน้อ ส่วนเค้าน่ะไม่ต้อง หน้าสดปกติก็ไม่ต่างจากผีเลยค่า  :sad3:
ตอนที่ 10 นี้ตอนแรกเราตั้งใจว่าสักเสาร์หรืออาทิตย์ถึงจะอัพลง เพราะกะไปพักดวงตาที่เป็นปัญหาแบบยาวๆ แต่วันนี้ที่ไปพบคุณหมอแกก็บอกว่าดีขึ้นมากแล้ว เพราะงั้นก็เลยไม่รอแล้วค่ะ กลับบ้านปุ๊บมาลุยมันเลย แบบว่า...กลัวคนอ่านจะค้างคากันน่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ล่ะนะว่าจะค้างกันมากกว่าตอนที่แล้วมั้ย อิอิ  o3
ส่วนตอนหน้าเจอกันวันเสาร์นะคะ แล้วมาลุ้นกันค่ะว่าจะมี NC อย่างที่หวังกันมั้ย ถ้ามีลีลาของพี่โซ่จะเด็ดขนาดไหน งู้ยยยยย แค่คิดก็เขินจนกำเดาแทบไหลแล้วค่า  :haun4:
ปล.ปกนิยายเรื่องนี้มาแล้วน้าา ถ้าใครยังไม่เห็นก็ไปส่องได้ที่เพจหรือทวิต Sameejaejung ได้เลยค่า  :o8:
(31 ต.ค. 61)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ปูเสื่อ แถวหน้ารอดูตอนไปต่อเลยเนี่ย... NC จงมา!!

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
"แรงไม่กลัว กลัวไม่แรงครับพี่"

ได้เสียแน่นอน :m25:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
รอมานาน จดหมายไม่เคยจะมี!!~

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ่านแล้ว ได้แต่สงสาร.........  สงสารกำแพงจะรับแรงสั่นสะเทือนได้กี่ริตเตอร์นะ  :hao4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ติดกำแพงแล้ว ..

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ปูเสื่อรอเลยจ้า.  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
รอตอนหน้าด้วยใจจดจ่อ :z1: :z1:

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
 :hao6: น้องจะถูกพี่กินแล้ว

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] Trap หัวใจพ่ายรัก


Part 11# Wayo คนไม่อ่อนโยน NC-18


“อื้อ!” ผมรู้สึกตกใจเพราะไม่คิดว่าพี่โซ่จะจู่โจมแบบรุนแรงและกะทันหันแบบนี้ บางทีพี่เขาอาจจะหมดความอดทนกับผมแล้วจริงๆ แต่สิ่งที่พี่เขาทำก็ใช่ว่าผมจะไม่ชอบ


ผมยกสองแขนขึ้นโอบรอบลำคอหนา จากนั้นก็เอียงใบหน้า 45 องศาเพื่อให้จูบได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น พี่โซ่จึงได้สอดลิ้นเข้ามา ก่อนที่จะเกี่ยวพันรัดรึงและดูดดุนอย่างรุนแรง จนปลายลิ้นรวมทั้งริมฝีปากของผมมันถึงกับเกิดอาการชา


แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจูบแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกดี แถมยังดีมากๆ จนส่วนนั้นของผมที่แข็งขึงมันปวดหนึบจนแทบจะเป็นเจ็บปวดอยู่แล้ว


แล้วก็ดูเหมือนว่าพี่โซ่จะรู้ความต้องการนั้น เพราะพี่เขาได้ชันเข่าขึ้นแล้วแทรกเข้ามาระหว่างขาของผม แรงเสียดสีก่อให้เกิดความเสียดเสียวจนผมครางระงม เสียงจูบกับเสียงครางด้วยความสุขสมของผมดังก้องไปทั่วห้องน้ำ


“อือ...อืม...พี่โซ่...ผม...” ผมตั้งใจจะบอกว่าไม่ไหวแล้ว แต่พี่โซ่ที่รู้ว่าผมจะพูดอะไรก็ชิงถอดเสื้อตามด้วยกางเกงของผม ส่งผลให้ส่วนนั้นที่อุดอู้อยู่ในร่มผ้าเป็นเวลานานดีดตัวขึ้นมาแล้วยิ่งขยายใหญ่ โดยที่ช่วงปลายก็คายน้ำใสๆ ออกมาอย่างไม่ขาดสาย


ผมไม่รู้ตัวว่าน้ำที่ฝักบัวหยุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะงั้นน้ำที่กำลังไหลออกมามันจึงไม่ได้ถูกชะล้างออกไป ดังนั้นเมื่อฝ่ามือของพี่โซ่ได้กอบกุมมันเอาไว้จึงสามารถขยับรูดรั้งได้อย่างง่ายดายและไหลลื่น สร้างความเสียวซ่านและสุขสมให้ผมจนถึงกับต้องครางออกมา


“อ๊า...พี่โซ่...พี่โซ่!...อ๊า!”  ผมกอดไหล่หนาเอาไว้แน่น แล้วก็ยิ่งเพิ่มแรงลงไปมากขึ้นเมื่อพี่โซ่เร่งความเร็วในการขยับฝ่ามือ ความรู้สึกที่ถูกคนอื่นทำให้มันดีกว่าทำด้วยตัวเองตั้งเยอะ ยิ่งบวกกับฤทธิ์ยาที่กำลังปั่นป่วนอยู่ในร่างกายด้วยแล้ว เพียงไม่ถึงนาทีหลังจากที่พี่โซ่เริ่มใช้มือผมก็ไปถึงฝั่งฝัน


“อ๊ะ...อ๊าาาา!” ของเหลวสีขาวขุ่นและเหนียวข้นพุ่งออกไปจนเต็มฝ่ามือของพี่โซ่ แต่ถึงจะปลดปล่อยออกไปแล้วความต้องการของผมก็ยังคงอยู่ พี่โซ่ที่รู้ดีจึงได้จับตัวผมพลิกจนใบหน้าแนบติดผนัง จากนั้นก็ยกสะโพกของผมขึ้นแล้วสอดนิ้วที่เปียกลื่นนิ้วหนึ่งเข้ามาข้างใน


“อ๊ะ!” ผมสะดุ้งตกใจกับความแปลกใหม่ที่ถูกสอดใส่เข้ามา แต่ก็ยังดีที่ผมไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่เคยจินตนาการ เพียงแค่รู้สึกอึดอัดเท่านั้น


“แน่นเชียว อย่าเกร็งล่ะ พี่กำลังจะใส่นิ้วที่สองเข้าไป” แต่ถึงจะได้ยินแบบนั้นผมกลับทำตามไม่ได้ เสียงกระเส่าสุดเซ็กซี่ของพี่โซ่ทำเอาผมเผลอเกร็งจนบีบรัดนิ้วที่อยู่ข้างใน พี่เขาจึงยังไม่ได้สอดอีกนิ้วเพิ่มเข้ามา ทำเพียงแค่ขยับนิ้วข้างในเข้าออกและหมุนวนไปมาเท่านั้น


กระทั่งช่องทางของผมขยายออกนิ้วที่สองจึงได้ถูกสอดเข้ามาเพิ่ม ความอึดอัดที่มากขึ้นทำให้ผมส่งเสียงครางประท้วง แต่ก็ถูกพี่โซ่เอียงคอมาจูบอย่างดูดดื่มจนผมส่งเสียงออกไปไม่ได้ จนเมื่อร่างกายของผมชินนั่นแหละริมฝีปากของผมถึงได้เป็นอิสระ


“อา...อะ...อา...อาา...” ตอนนี้จากเสียงครางที่ตั้งใจจะประท้วง ได้กลับกลายเป็นเสียงหอบกระเส่าด้วยความสุขสมไปซะแล้ว นิ้วเรียวยาวของพี่โซ่ที่ขยับเข้าออกทำเอาผมเกิดความรู้สึกเสียวอย่างที่ไม่เคยรู้จัก ทั้งผนังช่องทางที่ถูกเสียดสี ปลายนิ้วที่หักงอเล็กน้อย แล้วก็จุดสัมผัสตรงนั้น...


“อ๊ะ! ยะ...ไม่!” จู่ๆ ร่างกายของผมก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะข้างในช่องทางด้านหลังที่มันสั่นระริกจนบีบรัดนิ้วของพี่โซ่แน่น ความรู้สึกที่รุนแรงแบบนั้นทำเอาผมกลัวจนต้องขยับถอยหนี แต่พี่โซ่ก็ใช้วงแขนกอดรัดเอวผมเอาไว้จนไม่สามารถหนีไปไหนได้


“ไม่อะไร ไม่เอาเบาๆ แต่เอาแรงๆ รึเปล่าวา” พี่โซ่ก้มลงมากระซิบที่ข้างหูของผม น้ำเสียงที่ฟังดูร้ายๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความกระเส่ายิ่งทำให้ร่างกายของผมสั่นสะท้าน แล้วยิ่งพี่เขาก้มหน้าลงมาดูดที่ซอกคอ ไปพร้อมๆ กับการขยับนิ้วเข้าออกที่ช่องทางโดยกดเน้นย้ำแต่ตรงจุดนั้น ความเสียวกระสันก็ทำให้ผมหวีดร้องลั่นอย่างสุดเสียง


“อ๊า! อ๊ะ...อ๊า...พี่โซ่! ผมจะ...ยะ...อ๊า...จะเสร็จอีกแล้ว!” ยิ่งพี่โซ่ได้ยินว่าผมจะเสร็จก็เร่งจังหวะการขยับนิ้วให้เป็นกระแทกกระทั้น จุดกระสันของผมถูกกดย้ำๆ ส่วนซอกคอของผมก็ถูกดูดและเลีย ความเสียวที่ได้รับทำเอาห้วงอารมณ์ของผมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดก็มาถึงฝั่งฝันเป็นรอบที่สอง


“พี่โซ่! อ๊าาาา!” ของเหลวสีขาวขุ่นถูกฉีดพ่นออกมาอีกครั้ง แต่ร่างกายของผมมันก็ยังไม่พอ ยิ่งช่องทางด้านหลังรู้จักความหฤหรรษ์ที่ทำให้ไปถึงฝั่งฝันนี้ด้วยแล้ว ไฟราคะของผมมันก็ยิ่งลุกไหม้แรงยิ่งขึ้นไปอีก สติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดถูกแทนที่ด้วยความต้องการจนสามารถทำเรื่องที่มันน่าอาย


“มะ...มากกว่านี้ ผมต้องการพี่ สะ...ใส่ของพี่เข้ามา...” ไม่พูดเปล่าผมยังยกบั้นท้ายที่กำลังสั่นระริกขึ้นแล้วหันหน้าไปมองยังด้านหลัง


สายตาคมกริบของพี่โซ่ที่กำลังจ้องมาทำให้ผมถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนที่หลังจากนั้นผมจะแทบหายใจไม่ออกเมื่อพี่โซ่ถอดเสื้อผ้าของตัวเองทิ้ง แผ่นอกกับกล้ามท้องแน่นๆ รวมถึงแก่นกายอันใหญ่โตที่เหยียดตรงชี้มาที่ผม ภาพที่เห็นทำเอาผมแทบจะหยุดหายใจ


“ต่อให้วาจะบอกพี่ว่าไม่ พี่ก็จะไม่หยุดให้หรอกนะ” พี่โซ่พูดจบก็เอาแก่นกายที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำรักของผมจ่อลงมาที่บั้นท้าย ความใหญ่โตและร้อนระอุที่สัมผัสได้ทำเอาผมส่งเสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจ สะโพกบดเบียดและส่ายร่อนไปมาอย่างไม่รู้ตัว


“ซี้ดด...พี่โซ่...” แค่ส่วนปลายของแก่นกายพี่เขาเสียดสีกับที่ปากทางเข้า ผมก็เสียวจนแทบจะเสร็จอยู่แล้ว ซึ่งพี่เขาก็คงไม่ต่างกัน เพราะว่าผมได้ยินเสียงครางต่ำออกมาเป็นระยะ ในขณะที่ส่วนปลายก็คายน้ำใสๆ ออกมาจนเปียกเยิ้มช่องทางของผมไปหมดแล้ว


“เตรียมใจเป็นของพี่ไว้แล้วสินะ” สิ้นเสียงนั้นแก่นกายอันใหญ่โตก็ถูกดันเข้ามารวดเดียวจนมิดลำ เท่านั้นแหละความจุก เจ็บ และอึดอัดก็แล่นพล่านขึ้นมาทั่วร่าง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากความรู้สึกพวกนั้นยังมีความเสียวปะปนอยู่ด้วย


“อื้อ!” ยิ่งพี่โซ่ขยับแก่นกายเข้าออกความเจ็บแสบก็ยิ่งแผ่กระจาย แต่ในขณะเดียวกันความเสียวซ่านมันก็ยิ่งทวีคูณขึ้นจนกลบความรู้สึกอย่างอื่น แล้วไม่นานผมก็ลืมความจุก เจ็บ และอึดอัดที่เคยรู้สึกไปจนหมดสิ้น


“อ๊า...อ๊ะ...ดี! พี่โซ่...แรงกว่านี้! เข้ามาลึกๆ...อื้ม...อ๊า!” ผมแทบไม่รู้ตัวเลยได้พูดเรื่องที่มันน่าอายขนาดไหน ในสมองมันรับรู้ได้เพียงอย่างเดียวคือตอนนี้ผมกำลังรู้สึกดีและเสียวจนแทบบ้า ผนังช่องทางจึงบีบรัดท่อนเนื้อของพี่โซ่แน่น


“ซี้ดดด...” พี่โซ่หลุดเสียงครางออกมาอย่างสุดกลั้น จากนั้นก็เร่งจังหวะการซอยแก่นกายให้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมคือกระแทกเน้นๆ ตรงจุดเสียวที่อยู่ข้างใน ซึ่งนั่นก็ทำให้ความเสียวมันยิ่งไต่ระดับขึ้นไปจนเห็นสวรรค์รำไรอยู่แล้ว


“พี่โซ่! อ๊า...เสร็จแล้ว...ผมจะเสร็จอีกแล้ว! พี่ครับ! อ๊า...อ๊าาาาา!” ความสุขสมที่ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ในชีวิตถูกปลดปล่อยออกไปเป็นสาย ส่วนแก่นกายของพี่โซ่ก็ยังคงเคลื่อนไหวข้างในช่องทางของผมอย่างดุดัน ความเสียวกระสันทำให้ผมที่ถึงแม้จะเสร็จไปแล้วหวีดร้องลั่น ช่องทางด้านหลังตอดรัดท่อนเนื้อของพี่โซ่อย่างถี่ยิบ


“อื้ม...วา!” พี่โซ่ครางอย่างพึงพอใจแล้วซอยแก่นกายเข้ามาอย่างไม่ยั้ง ทั้งรุนแรงและรวดเร็วจนเสียงเนื้อที่กระทบกันดังก้องไปทั่วห้องน้ำ ก่อนที่พี่โซ่จะครางต่ำจนแทบเป็นเสียงคำราม แล้วก็จัดการกระแทกแก่นกายเข้ามาข้างในตัวผมเป็นครั้งสุดท้าย


“อึ่ก! อาาาส์” สิ้นเสียงนั้นความเสียวซ่านทั้งหมดของพี่เขาก็ถูกฉีดพ่นเข้ามา ความรู้สึกที่อุ่นวาบอยู่ข้างในทำให้ผมรู้สึกดีจนช่องทางด้านหลังกระตุกตอดถี่ๆ ส่วนนั้นของพี่โซ่ที่อ่อนลงไปนิดนึงจึงแข็งตัวขึ้นมา


“ยังไม่พอสินะ” แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นพี่โซ่กลับถอนแก่นกายออกไป ซึ่งในจังหวะที่ผมรู้สึกต้องการอะไรมาเติมเต็มจนแทบจะตายเสียให้ได้ พี่โซ่ก็พลิกตัวให้ผมหันหน้ากลับมาแล้วก้มหน้าลงมาจูบที่ริมฝีปากของผม


“อื้อ!” ผมถูกบดขยี้อย่างไม่ปราณี อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ผมท้าทายพี่โซ่เองล่ะมั้งว่า ‘แรงไม่กลัว กลัวไม่แรง’ แต่ว่าผมก็ไม่นึกเสียใจหรอกนะ ก็ผมต้องการให้พี่โซ่ทำแบบนั้นกับผมจริงๆ นี่นา


หลังจากที่จูบผมจนพอใจแล้วพี่โซ่ก็ก้มหน้าลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอของผม ส่วนสองมือก็บีบเค้นตรงแผ่นอก ผมเคยอ้วนมาก่อนเลยมีเนื้อตรงนั้นมากกว่าผู้ชายทั่วไป ตอนแรกผมก็รู้สึกไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่ แต่พอเห็นพี่โซ่บีบเค้นอย่างมันมือผมก็เลยเปลี่ยนใจ การมีเนื้อตรงหน้าอกมันก็ไม่เลวเหมือนกันล่ะนะ


“อ๊ะ!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่เขาก้มหน้าลงไปต่ำมากขึ้นจนถึงแผ่นอก ก่อนที่ลิ้นร้อนๆ จะตวัดขึ้นลงตรงส่วนยอดที่มันตั้งชูชัน เท่านั้นแหละความเสียวซ่านก็ยิ่งแล่นพล่านไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย


เสียงครางด้วยความสุขสมของผมดังประสานกับเสียงอันลามกจากยอดอกที่ถูกดูดเลีย พี่โซ่ยังคงไม่อ่อนโยนทำอย่างรุนแรง แต่นอกจากผมจะไม่ปฏิเสธยังแอ่นอกรับ ในขณะที่ส่วนกลางลำตัวก็สั่นระริกเต็มไปด้วยความต้องการ ซึ่งช่องทางด้านหลังที่มีน้ำขุ่นสีขาวไหลออกมาจนเต็มเรียวขาก็เช่นเดียวกัน


“อา...อ๊ะ! พี่โซ่!” พี่เขาที่เห็นแบบนั้นเลยใช้สองแขนแยกสองขาของผมแล้วยกขึ้นไป โดยให้แผ่นหลังของผมแนบติดกับผนังห้องน้ำเอาไว้ ส่วนแก่นกายอันใหญ่โตของพี่เขาก็จ่ออยู่ที่ปากทางเข้าของผมเข้าพอดี


ไม่มีคำพูดบอกกล่าว ท่อนเนื้อร้อนๆ ของพี่เขาก็กระแทกเข้ามารวดเดียวจนมิดด้าม ความเสียวซ่านที่ได้รับทำเอาผมร้องครางลั่นห้องน้ำ ช่องทางด้านหลังบีบรัดท่อนเนื้อที่อยู่ข้างในแน่น


“ซี้ดด...” สีหน้าและเสียงที่หลุดครางออกมาของพี่โซ่ทำเอาผมใจเต้นรัว ส่วนช่วงล่างก็สั่นระริกและตอดท่อนเนื้อถี่ยิบ ทำเอาพี่โซ่เสียวซี้ดจึงยิ่งเร่งจังหวะการกระแทกเข้ามาให้เร็วขึ้น แรงขึ้น และหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น


“อ๊ะ...อ๊า...ข้างใน!...อ๊า...มันเสียว!...อ๊า!” ผมร้องครางด้วยความสุขสม เมื่อท่อนเนื้อของพี่เขากระแทกเข้ามาโดนจุดเสียวที่อยู่ข้างใน สองขาของผมเกาะเกี่ยวสะโพกหนาเอาไว้เพื่อให้เข้ามาข้างในได้ลึกๆ ร่างกายของผมต้องการกลืนกินพี่เขาให้ได้มากที่สุด


“วา...อาา...” พี่โซ่กัดริมฝีปากล่างแน่น ความเสียวที่ถูกผมบีบและตอดรัดอย่างรุนแรงคงจะทำให้พี่เขาเสียวแทบบ้า ซึ่งผมก็ไม่ต่างกัน โดนพี่เขากระแทกกระทั้นอย่างดุดันขนาดนั้น มันก็ทำให้ผมเสียวสุดๆ จนแทบขาดใจอยู่แล้ว


“พี่โซ่...อ๊า...พี่โซ่...” ตอนนี้ผมใกล้จะถึงฝั่งฝันเต็มที พี่โซ่ที่ใกล้จะถึงเหมือนกันก็บีบสะโพกของผมให้แน่น แล้วกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างไม่มียั้ง ทั้งหนักหน่วง รุนแรง และกระแทกโดนจุดเสียวของผมซ้ำๆ ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที...


“อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า! พี่โซ่!...อ๊าาาาา!” ความเสียวซ่านของผมก็ถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ส่วนพี่โซ่เมื่อถูกบีบรัดและกระตุกตอดอย่างถี่ยิบก็ทนต่อไปไม่ไหว แก่นกายได้ถูกกระแทกกระทั้นเข้ามาเป็นยกสุดท้าย ก่อนที่พี่เขาจะฝังกายเข้ามาในส่วนที่ลึกที่สุด แล้วฉีดพ่นทุกหยาดหยดเข้ามาในตัวของผม


“ซี้ดด...อาา...” เราสองคนหอบหายใจออกมา ก่อนที่สักพักพี่โซ่จะยื่นใบหน้าเข้ามาจูบผมเพราะรู้ว่าผมยังคงไม่พอ ข้างในตัวของผมมันยังร้อน บีบรัด สั่นระริก และตอดท่อนเนื้อของพี่เขาถี่ๆ อยู่เลย


“ไปที่เตียงกันดีกว่า” ผมพยักหน้า จากนั้นพี่เขาก็ล้างคราบอะไรต่อมิอะไรต่างๆ ออกไปจากตัวของผม แน่นอนว่าร่างกายของเราสองคนนั้นยังเชื่อมต่อกัน จนเมื่อเรือนร่างของผมเนียนลื่นไม่มีคราบเหนียวๆ แล้วนั้น พี่โซ่ก็เช็ดตัวเราสองคนอย่างลวกๆ แล้วอุ้มผมในท่าอุ้มแตงออกไปจากห้องน้ำ


“อืม...” ดูเหมือนว่าพี่โซ่จะชอบการจูบกับผมมาก เพราะตั้งแต่เดินออกมาพี่เขาเอาแต่จูบแล้วก็ดูดที่ริมฝีปากของผมไม่ยอมปล่อย แต่ผมก็ใช่ว่าจะไม่ชอบ ก็เพราะชอบนั่นแหละผมถึงได้จูบตอบ จูบของพี่โซ่มันทำให้ร่างกายของผมร้อน แถมยังร้อนมากซะจนช่วงเอวบดเบียดและส่ายร่อนเข้าหาท่อนเนื้อของพี่โซ่ด้วยความต้องการ


“เด็กดี ไม่ต้องรีบ เรามีเวลาทั้งคืน” พี่โซ่พูดด้วยเสียงแหบพร่า แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ตัวพี่เขาเองนั่นแหละที่รีบร้อนก้าวเท้ายาวๆ ไปที่เตียง
พอไปถึงพี่โซ่ก็นั่งพิงขอบเตียงโดยให้ผมนั่งคร่อมที่ตักเอาไว้ ถึงจะไม่เคยทำแต่ผมก็รู้ว่าพี่เขาต้องการให้ผมทำอะไร สะโพกของผมจึงยกขึ้นลงโดยเริ่มจากช้าๆ


“อ๊ะ!” แต่ก็ดูเหมือนว่าการกระทำของผมจะไม่ถูกใจคนที่อยู่ใต้ร่าง เพราะในจังหวะที่ผมยกสะโพกขึ้นมือของพี่โซ่ก็ออกแรงกดตัวของผมลงมา แถมหลังจากนั้นก็ยกตัวของผมขึ้นสูงแล้วกดลงมาซ้ำๆ มิหนำซ้ำพี่เขายังเด้งแก่นกายขึ้นสวนอีกด้วย


“อ๊ะ...ยะ...ระ...แรงไป...มันลึก!...อื้ม...อ๊า...”


“ก็ไหนวาบอกว่าชอบลึกๆ แรงๆ” พี่โซ่ยิ้มที่มุมปาก แต่จะมาเอาอะไรกับคนที่กำลังต้องการมากอย่างผมกันล่ะ ตอนนั้นพูดอะไรไปบ้างผมจำไม่ได้หรอก ส่วนตอนนี้...ซี้ดดด จะว่าไปการที่ถูกกระแทกเข้ามาลึกๆ แรงๆ มันก็เสียวเป็นบ้า


“อ๊า...ครับพี่...แรงกว่านี้! อ๊า! ผมเสียวจังพี่โซ่!” คราวนี้ไม่ใช่แค่พี่เขาเท่านั้นที่ออกแรงทำ แต่ผมก็ยกสะโพกขย่มพี่เขาอย่างเมามัน ท่อนเนื้ออันใหญ่โตที่เสียดสีกับผนังช่องทางทำเอาผมเสียวมากจนแทบขาดใจ


แต่ว่าผมยังเสียวได้มากกว่านั้น เพราะพี่โซ่ได้ใช้มือบีบเค้นที่แผ่นอกของผม ก่อนที่จะก้มหน้าลงมาดูดเลียตรงส่วนยอด ในขณะที่ท่อนเนื้อด้านหน้าก็ถูกมือหนารูดรั้งขึ้นลง ความสุขสมที่ได้รับพร้อมกันถึงสามจุดทำเอาผมเสียวสุดๆ จนใกล้ถึงอีกรอบ ซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้


“อ๊ะ...อ๊า...พี่โซ่...อ๊า...” ผมจิกทึ้งเส้นผมดำขลับไปมา ส่วนสะโพกก็ขย่มกลืนกินแก่นกายของพี่โซ่ด้วยความเร็วสูงสุด แถมยังดูดกลืน บีบรัด และกระตุกตอดท่อนเนื้อร้อนๆ อย่างถี่ยิบ ทำเอาพี่เขาถึงกับครางซี้ดแล้วกระแทกแก่นกายขึ้นสวนอย่างดุดันยิ่งกว่าครั้งไหนๆ จนในที่สุดห้วงอารมณ์ของผมก็พุ่งสูงไปถึงจุดสุดยอด


“อ๊าาาาาา!” ผมปลดปล่อยออกไปอีกครั้ง ส่วนพี่โซ่นั้นยังไม่เสร็จ เมื่อเห็นผมแข้งขาอ่อนเปลี้ยไม่มีแรงขย่มจึงได้พลิกตัวผมลงไปนอน สองมือล็อกที่สะโพกของผมเอาไว้แน่น จากนั้นก็ซอยแก่นกายเข้าออกอย่างรุนแรง โดยถอนออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับไปจนสุดความยาว


ความเสียวซ่านในร่างกายของผมก่อตัวขึ้นอีกครั้ง แต่อันที่จริงจะบอกว่ามันไม่เคยดับมอดลงไปน่าจะถูกมากกว่า สองขาของผมจึงกอดเกี่ยวสะโพกหนา จากนั้นก็แอ่นรับเพื่อให้ส่วนนั้นของพี่เขาเข้ามาได้ลึกมากขึ้น ความเสียวซ่านของเราสองคนจึงเพิ่มมากขึ้น เสียงกระทบกันของเนื้อดังระงมไปกับเสียงคราง


“วา...” ผมคิดว่าพี่โซ่คงจะใกล้เสร็จแล้วเลยครางชื่อผมเสียงกระเส่าแบบนั้น ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีและยิ่งมีอารมณ์ ช่องทางด้านหลังของผมจึงยิ่งบีบรัดท่อนเนื้อที่กำลังขยับเข้าออก พี่เขาจึงยิ่งซอยแก่นกายเข้ามาอย่างไม่ยั้ง ทั้งดุดันและรุนแรง แต่ก็เสียวอย่างสุดใจ


“ซี้ดดด...วา...!”


“อ๊าา! พี่โซ่!” เราสองคนครางออกมาพร้อมกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่แก่นกายจะปลดปล่อยความสุขสมออกมา น้ำของผมที่ถึงแม้จะออกน้อยลงก็เปรอะเปื้อนไปตามช่วงท้อง ส่วนน้ำของพี่โซ่ก็ทะลักเข้ามาจนอัดแน่นไปทั้งช่องทางของผม ปริมาณของมันยังคงมีมากแทบไม่ลดลงเลย


“พี่...” ด้วยความสงสัยผมเลยตั้งใจจะถามออกไป แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรผมก็ถูกจูบที่ริมฝีปากเข้าซะแล้ว จูบของพี่โซ่ยังคงรุนแรง แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีจนสมองมันขาวโพลน


ผมไม่รู้ว่าคืนนั้นเป็นของพี่โซ่ไปอีกกี่ครั้ง รู้แต่ว่าผมทั้งสุขสม เสียวซ่าน แล้วก็เมามัน พี่โซ่เติมเต็มความต้องการของผมจนล้นทะลัก ความทรงจำสุดท้ายก่อนที่ภาพของผมจะตัดนั่นก็คือ ร่างทั้งร่างมีแต่น้ำรักของพี่โซ่เต็มไปหมดเลย...


2BC


 :jul1: สะ...สวัสดีค่า สูญเสียเลือดกันไปกี่ลิตรบอกเค้ามา ส่วนเค้าน่ะพูดเลยว่าหมดตัวววววววววว เฮือก!  :m25:
ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไร เอาเป็นว่าใครเลือดไม่พอมาขอรับได้นะคะ เพราะเค้าเตรียมมาเผื่อเยอะมากกกกก ว่าแต่...ลีลาของพี่โซ่ถูกใจกันมั้ยคะ คิดว่าดุดันหนักหน่วงอย่างที่น้องร้องขอมั้ยน้อออ  :oo1:
ส่วนตอนหน้าเจอกันไม่อังคารก็พุธนะคะ มาดูกันว่าโดนไปซะขนาดนั้นน้องวาจะมีแรงตื่นรึเปล่า อ้อ ส่วนพรุ่งนี้เดี๋ยวเค้าจะมีรูปสเก็ตปก box มาให้ชมที่เพจนะคะ มาลุ้นกันน้าว่าจะโดนใจกันมั้ยยยย  :-[
(3 พ.ย. 61)

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อูยยยยย ดุเดือดขนาดนี้ ลุกไม่ขึ้นแน่ๆน้องวา
 :jul1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เขาแก้แค้นกันจนดุเดือดเชียว   :jul1:

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หือ ดุเดือดมาก เลือดหมดตัวแล้ววว

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ฮืม....... ปูนเขาดีจริงๆ   :hao6:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: ของเค้าดีจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด