ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 205853 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ minmin96

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ความจริงมันไม่ใช่?แล้วเป็นยังไงล่ะอินท์..เพื่อนรัก
จบคือจบ!!!แถมเป็นการจบที่เจ็บ!!จบแบบไม่สวยอย่างนี้ มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะสานต่อ?ที่ผ่านมาเป็นบททดสอบอย่างดีเลยว่า..ทั้งสองคนยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ!!
ไปเรียนต่อ ไปสร้างตัว โอกาสไม่ได้มีมาง่ายๆ ปั้วนะหาง่าย หากเลิกกันไปไม่ได้อะไร นอกจากความเสียใจ.. แต่การศึกษานี่เป็นความรู้ติดตัวเราไปจนตาย!!
ถ้าให้เดาอิเพลิงคงไปซ้อมคนที่มาคุยกับพายแน่ๆ
คนอย่างเพลิง เจ้าชู้ เอาแต่ใจ ใจร้อน ไม่พูดคุยกันด้วยเหตุผล ประชดกันไป ต่อให้กลับมาคบกัน
ท้ายที่สุดคงจบแบบเดิมๆถ้าไม่แก้ไขนิสัยแย่ๆนะ

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
แอบสงสารเพลิงนะถ้าพายไปแล้วไม่บอกมันอ่า

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] R. Rabid หัวใจคลั่งรัก


Part 14# Pie ปรับความเข้าใจ


“วะ...ว่าไงนะ?” ผมแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เรื่องที่อินน์บอกว่าไม่ได้คบกับเพลิงยังไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องที่อินน์บอกว่าเพลิงมีพี่ชายฝาแฝดชื่อพฤกษ์ เรื่องที่ฟังดูน่าเหลือเชื่อขนาดนั้นมันคือเรื่องจริงแน่หรอ?


“พายอาจจะไม่เชื่อ แต่ว่าเราพูดความจริงนะ เอาเรื่องที่เพลิงมีพี่ชายฝาแฝดชื่อพฤกษ์ก่อน เรามีทั้งรูปแล้วก็คลิปยืนยันเลย” อินน์พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็เข้าเฟซบุ๊คแล้วค้นหาชื่อแฟนเพจอะไรวายๆ สักอย่างแต่ผมดูไม่ทัน จากนั้นอินน์ก็เลื่อนฟีดลงมาสักพักจนเจอคลิป VDO หนึ่งก็กดเล่นแล้วส่งให้ผมดู


คลิปนั้นเป็นคลิปของผู้ชายคนหนึ่ง ถึงจะมองหน้าไม่ค่อยชัดเพราะแสงค่อนข้างน้อยและคลิปค่อนข้างสั่น แต่ผมก็พอมองออกว่ารูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนกับเพลิงมาก ต่างกันก็แค่ทรงผมและคนคนนั้นสวมแว่นสายตา ลุคเดียวกันกับที่ผมเห็นในหอสมุดนั่นแหละ โดยที่เขากำลังร้องเพลงและหอบช่อดอกไม้ที่ทำจากเงินขนาดใหญ่ทำเซอร์ไพรส์ผู้ชายที่ผมเห็นอยู่ด้วยกัน บรรยากาศดูอบอุ่นและโรแมนติกมากจนผมนึกอิจฉาในใจ


หลังจากนั้นอินน์ก็เลื่อนคลิปไปจนถึงช่วงท้ายๆ ตอนนั้นมีเสียงกองเชียร์ตะโกนให้ทั้งคู่จูบกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ชายที่คนหน้าตาเหมือนเพลิงทำเซอร์ไพรส์ให้ถึงกับเหวอและลนลาน


‘ทำไงดีวะไอ้พฤกษ์’


‘ก็ไม่ต้องทำยังไง ทำตามที่พวกนั้นบอกก็จบ’


‘เฮ้ยๆๆ นี่มึงเอาจริงดิ’


‘จริงไม่จริงเดี๋ยวมึงก็รู้’


‘อะ...ไอ้...ไอ้พฤกษ์...’



และแล้วเสียงของเขาก็เงียบไปแต่เพียงเท่านั้น เพราะโดนริมฝีปากของผู้ชายที่หน้าตาเหมือนเพลิงแนบลงมาปิดเอาไว้ซะก่อน แต่ว่าคิสซีนนั้นผมและผู้ชมที่รายล้อมอยู่มองไม่เห็น เนื่องจากผู้ชายที่หน้าตาเหมือนเพลิงเอื้อมมือไปคว้าช่อดอกไม้ที่ทำจากเงินมาปิดบังใบหน้าของพวกเขาเอาไว้


“พายได้ยินชัดเลยใช่มั้ยว่าผู้ชายที่อยู่ในคลิปชื่อพฤกษ์ไม่ใช่ชื่อเพลิง” อินน์ถามผมเมื่อคลิปจบลง


“อืม” ผมพยักหน้า คลิปที่ยอดดูเกือบล้านขนาดนี้คงไม่ใช่คลิปที่จัดฉากขึ้นเพื่อหลอกผมแน่ๆ อีกอย่างวันที่ที่ลงมันก็ตั้งแต่เทอมที่แล้ว เพลิงคงไม่หยั่งรู้อนาคตจนสร้างคลิปนี้มาเตรียมเอาไว้หรอก


ชักรู้สึกผิดขึ้นมาเลยแฮะ


ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วแหละว่าทำไมวันนั้นเพลิงถึงได้เกรี้ยวกราดถึงขนาดนั้น...


“จริงๆ คลิปนี้มันดังมากเลยนะ แต่พายไม่เคยเห็นเพราะไม่ค่อยเล่นโซเชียลใช่มั้ยล่ะ”


“อืม” ผมพยักหน้า ถึงอย่างนั้นก็เถอะแต่ทั้งเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ แล้วก็อินสตราแกรมผมมีแอคเคาท์ทั้งหมดเลยนะ แต่ที่ผมแทบไม่ได้เข้าจนฟีดรกร้างเป็นเพราะผมไม่รู้จะเข้าไปทำไม ก็ผมแทบไม่มีเพื่อนสักคนเลยนี่นา เวลาโพสต์อะไรสักอย่างคนกดถูกใจแทบจะเป็นศูนย์


“จะว่าไป ถ้าอินน์รู้เรื่องคลิปนี้ แสดงว่าอินน์ก็รู้อยู่แล้วงั้นหรอว่าเพลิงมีพี่ชายฝาแฝดชื่อพฤกษ์” แต่ก็น่าแปลกนะ ถ้าอินน์รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ตอนนั้นอินน์จะแนะนำให้ผมเปลี่ยนชื่อเป็นพฤกษ์เพื่อหนีเพลิงทำไม ชื่อที่เหมือนกับฝาแฝดของตัวเองขนาดนี้ยิ่งจะสะดุดตาล่ะสิไม่ว่า


“เราเคยเห็นคลิปนี้มาแล้วแต่เราไม่รู้ว่าเป็นเพลิง พายก็เห็นนี่ว่าคลิปมันทั้งมืดทั้งสั่น แถมผู้ชายในคลิปยังใส่แว่นแล้วก็ชื่อพฤกษ์อีกต่างหาก”


ส่วนเรื่องที่ว่าอินน์รู้เรื่องนี้ได้ยังไง ก็เป็นเพราะวันนั้นหลังจากที่เพลิงลากอินน์ออกไป พี่ชายฝาแฝดของเพลิงก็โทรมาถามข่าวคราวพอดี เพลิงเลยเล่าให้ฟังทั้งหมด จากนั้นก็หันมาขู่อินน์ว่าถ้าเอาเรื่องนี้มาบอกผมจะกระทืบให้ตาย


“กระทืบเนี่ยนะ!? ทำไมเพลิงถึงได้ใจร้ายแบบนั้น! อย่างน้อยอินน์ก็เป็น...” ตอนแรกผมก็กะจะพูดว่าเป็นคนที่คบด้วย แต่พอนึกออกว่าก่อนหน้านี้อินน์บอกว่าไม่ได้คบกับเพลิง ผมเลยชะงักแล้วก็เงียบไป


“เราไม่ได้เป็นอะไรกับเพลิงทั้งนั้น ขนาดเพื่อนยังเป็นไม่ได้ด้วยซ้ำแล้วเพลิงจะดีกับเราทำไม อีกอย่างทั้งโลกคงมีแค่พายคนเดียวแหละมั้งที่เพลิงดีด้วย พายอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ แต่ว่าเพลิงคอยเฝ้าดูพายอยู่ห่างๆ ตลอดเลยนะ”


“เฝ้าดู...งั้นหรอ?” ผมพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่พอค่อยๆ ทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาดูผมก็ถึงได้เข้าใจ เหตุการณ์ที่หน้าห้องสอบเพลิงคงตั้งใจจะมาช่วยผมจริงๆ สินะ ส่วนเรื่องที่ตอนผมเปลี่ยนลุคใหม่ๆ แล้วมีหลายคนเข้ามาคุยด้วยแต่จู่ๆ ก็หายไป คิดว่านั่นก็คงจะเป็นฝีมือของเพลิงเหมือนกัน


อีตาบ้าเอ๊ย


ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ก็ไม่รู้จะมองว่าการกระทำแบบนั้นของเพลิงมันน่ารักหรือว่าน่าหมั่นไส้ดี


“ที่เราได้อยู่ข้างๆ เพลิง ก็เพราะเพลิงให้เราคอยจับตาดูพาย แล้วก็ให้รายงานเรื่องพายให้ฟังนี่แหละ” น้ำเสียงของอินน์ที่ติดจะเศร้าๆ เล็กน้อยทำให้ผมที่กำลังอมยิ้มอยู่ถึงกับต้องรีบหุบลง ถึงแม้ตอนนี้ผมกับอินน์จะไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ผมจะไปมีความสุขในขณะที่เพื่อนกำลังทุกข์ได้ยังไง


“แรกๆ เราคิดว่าแค่ได้อยู่ใกล้เพลิงเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้วนะ แต่หลังๆ เราแทบจะลืมไปแล้วว่าความสุขมันคืออะไร และที่เราเสียใจมากที่สุดก็คือตอนที่เลือกเพลิงแล้วหันหลังให้พาย ในสายตาของพายเราคงจะเป็นเพื่อนที่เลวมาก แล้วเราก็ไม่คิดหรอกนะว่าพายจะยอมยกโทษให้ แต่ว่าอย่างน้อยก็ขอให้รับคำขอโทษของเราเอาไว้เถอะนะ...เราขอโทษจริงๆ” อินน์พูดทั้งน้ำตา ผมรับรู้ได้ถึงความจริงใจในคำขอโทษ ที่ผ่านมาอินน์รู้สึกผิดต่อผมจริงๆ


“ไม่ต้องร้องไห้นะอินน์ เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้วอย่าไปคิดมากเลย” ผมพูดจบก็สวมกอดอินน์เอาไว้ การกระทำนั้นยิ่งทำให้อินน์ร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่แล้วขอโทษผมซ้ำไปซ้ำมา


ผมกอดปลอบและลูบหลังอินน์อยู่สักพัก ในขณะนั้นผมกำลังก้มหน้าอยู่เลยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง จนกระทั่งอินน์หยุดร้องนั่นแหละผมถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าไม่ไกลมาก ผมเห็นสีหน้าของเขาอย่างชัดเจนว่ากำลังเศร้าแค่ไหน


“เพลิง...” ผมพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ แต่อินน์ก็ได้ยินจึงค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกมา จากนั้นก็ใช้หลังมือปาดน้ำตาที่นองหน้าของตัวเองทิ้ง


“พายไปปรับความเข้าใจกับเพลิงเถอะนะ” อินน์ตบที่บ่าของผมเบาๆ โดยที่ใบหน้ายังคงเปื้อนคราบน้ำตา แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าอินน์เอาใจช่วยให้ผมคืนดีกับเพลิงจากใจ เพราะรอยยิ้มของอินน์นั้นกลับมาสดใสเหมือนกับที่เคยเป็นแล้ว


ผมส่งยิ้มให้แล้วมองแผ่นหลังของอินน์ที่ค่อยๆ เดินจากไปสักพัก จากนั้นจึงหันไปหาเพลิงที่กำลังเดินใกล้เข้ามา จนกระทั่งเพลิงมายืนอยู่ตรงหน้าผม เราสองคนจึงได้เอ่ยปากพูดออกมาพร้อมกัน


“เราขอโทษนะ”


“กูขอโทษนะ”


ผมกับเพลิงเราสองคนถึงกับอึ้งและทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าต่างฝ่ายต่างก็ตั้งใจจะขอโทษตัวเอง พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ผมกับเพลิงเลยยิ้มออกมาน้อยๆ ความประหม่าจากการที่ไม่ได้เผชิญหน้ากันมาอย่างยาวนานจึงค่อยๆ จางลง


“กูขอเป็นคนพูดก่อนแล้วกัน” เพลิงเป็นคนเอ่ยปากขึ้นก่อนทั้งที่ผมก็ตั้งใจจะพูดแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยอมพยักหน้าลง


“ที่ผ่านมากูมักจะเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แถมยังทำประชดมึงหลายๆ อย่างทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ กูขอโทษที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยได้ ขอโทษที่กูมีทิฐิมากเกินไป แล้วก็ขอโทษที่กูทำให้มึงเสียใจนะพาย”


“เราก็ต้องขอโทษนายเหมือนกัน ที่ผ่านมาเราเอาแต่หนีปัญหา เราปิดกั้นทุกอย่างเพราะไม่กล้าเผชิญความจริง เราอาจจะผิดมากกว่านายด้วยซ้ำก็ได้ อย่างที่นายเคยบอกว่าเราไม่เคยถาม ไม่เคยเปิดโอกาสให้นายได้แก้ตัว เราขอโทษจริงๆ”


“ไม่ กูต่างหากที่ผิดมากกว่า ทั้งๆ ที่กูรู้อยู่แล้วว่ามึงเข้าใจผิดเรื่องอะไร แต่กูก็ไม่พยายามอธิบายให้มากพอ แถมกูยังหัวร้อนจะจับเพื่อนมึงทำเมียประชด แล้วหลังจากนั้นก็แกล้งทำเป็นคบกันด้วย เพราะงั้นคนที่ควรขอโทษก็คือกู กูผิดไปแล้ว ยกโทษให้กูเถอะนะ”


น้ำเสียงของเพลิงอ้อนวอนผมมากกว่าครั้งไหนๆ ที่ผมเคยได้ยินมา ส่วนสายตาและสีหน้าก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังรู้สึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเองจริงๆ เพราะงั้นผมจึงได้คลี่ยิ้มออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปสัมผัสที่ข้างแก้มของเพลิงด้วยความอ่อนโยน


“อืม” เท่านั้นแหละเพลิงก็พุ่งเข้ามากอดผมทันที วินาทีแรกผมรู้สึกตกใจจนตัวแข็งค้าง แต่หลังจากนั้นความคิดถึงและโหยหามันก็ทำให้ผมน้ำตารื้นขึ้นมา ก่อนที่ผมจะกอดตอบเพลิงอย่างแนบแน่นไม่แพ้กัน


“กูรักมึงนะพาย รักมาก รักแบบที่ไม่เคยรักใคร แล้วกูก็คิดว่าทั้งชีวิตของกูคงจะรักมึงได้แค่คนเดียว”


คำสารภาพรักที่แทบไม่อ่อนหวาน แถมยังติดจะแข็งกระด้างไปด้วยซ้ำ แต่ผมกลับรู้สึกถึงความหนักแน่นและจริงใจที่เพลิงส่งมาให้ ซึ่งนั่นก็ทำให้น้ำตาของผมที่เอ่อคลออยู่มันไหลลงมาเป็นสายทันที


“เราก็รักนายเหมือนกันเพลิง” ผมไม่รู้เหมือนกันว่าหลงรักเพลิงตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีผมก็รักเพลิงเข้าให้แล้ว และผมก็ไม่เคยเสียใจที่รักเพลิงเลยแม้แต่เสี้ยววินาที เพราะอย่างที่เคยบอกไปว่าสำหรับผมความรักแม้จะสมหวังหรือผิดหวังมันก็ยังสวยงามเสมอ


“เรื่องที่มึงจะไปเรียนต่อที่ลอนดอน กูจะไม่บอกว่าจะไม่ให้มึงไป เพราะไม่ว่ามึงจะไปที่ไหนกูก็จะตามมึงไปด้วย...กูไม่อยากอยู่ห่างจากมึงอีกแล้ว” พูดถึงตรงนี้เพลิงก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ความรู้สึกเศร้า เหงา เดียวดาย และเสียใจส่งผ่านเข้ามาจนถึงหัวใจของผม ซึ่งแน่นอนว่าตลอดมาผมก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นเดียวกัน


“ขอบคุณนะที่นายคิดจะทำเพื่อเราขนาดนี้ เราก็ไม่อยากอยู่ห่างจากนายเหมือนกัน” พูดจบผมก็ออกแรงกอดรัดเพลิงให้แน่นขึ้นพลางหลับตาลง เพื่อให้รู้สึกถึงความรักและความอบอุ่นของเพลิงให้ได้มากที่สุด ก่อนที่ผมจะกลั้นใจดันอ้อมกอดนั้นออก แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว


“แต่เราว่านายอยู่ที่นี่ไม่ต้องตามเราไปหรอกนะ” ทันใดนั้นจากสีหน้าที่มีความสุขของเพลิงก็เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ


“ทำไม...”


“นายควรจะเลือกทางเดินของตัวเองไม่ใช่เดินตามทางของใคร อีกอย่างเราสองคนก็ห่างกันนานเกินไป จนเราคิดว่ามันเลยจุดที่จะบอกรักกัน คบกัน แล้วก็อยู่ด้วยกันแล้ว” ระยะเวลาหลายเดือนที่ห่างกับเพลิงทำให้ผมชินที่ต้องอยู่คนเดียว จริงอยู่ที่บางเวลาผมอาจจะเหงาอยู่บ้าง แต่ผมก็สามารถอยู่กับมันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้


“ที่ผ่านมาเราสองคนอาจจะรักกันไม่พอ ถึงไม่เคยพยายามจะเข้าใจอีกฝ่ายและปรับความเข้าใจกัน เพราะงั้นเราสองคนลองห่างกันอย่างจริงๆ จังๆ ดูนะ เผื่อจะทำให้เราสองคนรักกันมากขึ้น ถึงตอนนั้นเราค่อยมาคบกันนะเพลิง” พูดถึงตรงนี้ผมก็น้ำตาคลอ แต่ผมก็พยายามจะไม่ร้องไห้ เพราะที่ผ่านมาผมร้องไห้มามากเกินพอแล้ว


“มึง...ต้องอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่” น้ำเสียงของเพลิงดูสั่นนิดๆ ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดราวกับจะขาดใจเมื่อได้ยินคำตอบของผม


“เราต้องเรียนที่นั่น 2 ปีและทำงานใช้ทุนอีก 2 ปี”


“4 ปีเลยงั้นหรอ” เพลิงเงยหน้าขึ้นแล้วหลับตาลง คงจะไม่อยากให้ผมเห็นดวงตาแดงก่ำที่ราวกับจะร้องไห้ออกมา


“ถ้าหาก 4 ปีที่เราอยู่ที่นั่นนายรอเราไม่ได้เราก็ไม่...”


“ยังไงกูก็จะรอ!” โดยไม่ทันที่ผมจะได้พูดจนจบประโยคเพลิงก็พูดขัดขึ้น สายตาคู่นั้นถึงแม้จะแดงก่ำแต่ผมก็เห็นถึงความจริงจัง หนักแน่น และมั่นคง


“นายยังไม่ต้องรีบตอบเราตอนนี้ก็ได้”


“จะตอนนี้หรือตอนไหนคำตอบของกูมันก็คือคำเดิม กว่าจะมาเจอมึงจนได้รักมึงกูยังรอตั้ง 22 ปีได้เลย เพราะงั้นกะอีแค่ 4 ปีทำไมกูจะรอไม่ได้ ระหว่างนี้กูจะพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อรอมึงกลับมา” เพลิงฝืนยิ้มแม้ว่าที่ใบหน้ากำลังมีน้ำตาไหลลงมา ภาพที่เห็นทำเอาผมรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมากไปถึงใจกลางของหัวใจ


น้ำตาของลูกผู้ชายมันไม่ได้ไหลออกมาง่ายๆ ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ...


“แม่งเอ๊ย ให้มึงเห็นสภาพแย่ๆ ของกูจนได้ นี่กูเป็นคนอ่อนแออย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” เพลิงสบถออกมาอย่างหัวเสีย แล้วจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา แต่ผมก็ใช้มือคว้าเอาไว้แล้วยื่นอีกข้างขึ้นไปเช็ดน้ำตาของเพลิงแทน


“ขอโทษนะที่เราอาจดูเหมือนเอาแต่ใจ แต่เราสัญญาเลยว่าหลังจากกลับมาเราจะไม่ห่างนายไปไหนอีกแน่นอน” คำสัญญานี้ผมขอใช้ชีวิตและหัวใจของตัวเองเป็นหลักประกัน


“4 ปีที่มึงอยู่ที่นั่นกูขอไปหามึงบ้างได้มั้ย”


“ไม่ต้องมาหรอกเพลิง เราสองคนยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย อีกอย่างเราคงตั้งหน้าตั้งตาคอยจนไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนแน่ๆ”


เรื่องนั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญคือผมไม่อยากให้เพลิงเสียเวลาและเสียเงินตั้งมากมายเพื่อผม ถ้าบินตรงไปกลับครั้งนึงก็เสียเวลาไปเต็มๆ 1 วัน ส่วนราคาตั๋วก็น่าจะเหยียบ 2 แสนได้ คนอย่างเพลิงไม่มีทางรอต่อเครื่องและนั่งชั้นประหยัดเพื่อเซฟค่าใช้จ่าย แล้วไหนจะค่ากินค่าอยู่ในระหว่างที่อยู่ที่นั่นอีก


“ถ้ามึงจะพูดแบบนี้กูก็คงทำได้แค่รออย่างเดียวสินะ” เพลิงพูดอย่างเศร้าๆ จากนั้นก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อเอาอะไรสักอย่างออกมา ก่อนที่ผมจะเห็นว่าเป็นสร้อยเกียร์ 2 เส้น เส้นหนึ่งเป็นของผม ส่วนอีกเส้นเป็นของเพลิงที่ผมฝากอินน์เอาไปคืนตั้งแต่เทอมที่แล้ว


“เรานึกว่านายทำของเราหายไปแล้วซะอีก” เพราะหลังจากที่ผมฝากสร้อยเกียร์ไปคืนให้เพลิง อินน์ก็บอกว่าเพลิงหาของผมไม่เจอจนคิดว่ามันน่าจะหายไปแล้ว


“กูเก็บเอาไว้อย่างดีเลยต่างหาก แต่กูไม่กล้าคืนเกียร์ให้มึง เพราะกูทำใจไม่ได้ถ้าต้องปล่อยมึงไป” พอได้รู้แบบนี้ จากที่เคยเสียใจและน้อยใจต่างๆ นานา แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกมีความสุขจนมันเอ่อล้นไปทั้งหัวใจ


“มึงช่วยรับเกียร์ของกูไปอีกครั้งจะได้มั้ย” เพลิงถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ครั้งที่แล้วเพลิงเป็นคนบังคับให้ผมใส่ แต่ครั้งนี้ผมยินดีและเต็มใจ แถมยังสัญญาด้วยว่าจะใส่ติดตัวและจะรักษามันเป็นอย่างดีแน่นอน


“อืม” เมื่อผมพยักหน้าเพลิงก็สวมสร้อยเกียร์เข้าที่คอของผม ก่อนที่เราสองคนจะจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย คำพูดแทนใจนับร้อยพันถูกส่งไปถึงกันและกัน ก่อนที่สักพักผมจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงเมื่อเพลิงเคลื่อนใบหน้าลงมาหาผมช้าๆ


จูบนี้ไม่มีความเร่าร้อนและไม่ได้เป็นจูบที่ลึกซึ้ง เป็นเพียงแค่การที่ริมฝีปากสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาเท่านั้น แต่ผมกลับรับรู้ได้ถึงทุกความรู้สึกของเพลิงที่ส่งผ่านมา โดยเฉพาะความรักที่ตอนนี้ได้อัดแน่นและตราตรึงอยู่ในหัวใจ


ผมจะจดจำช่วงเวลานี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป...


“กูรักมึงนะพาย”


“อืม เราก็รักนายเหมือนกัน”


แล้วหลังจากวันนั้นเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ผมก็ต้องขึ้นเครื่องไปลอนดอน ที่ผมต้องไปก่อนทั้งๆ ที่ยังไม่เปิดเทอมเป็นเพราะต้องไปเรียนคอร์สปรับพื้นฐานด้านภาษา ในวันนั้นมีแค่ครอบครัวของผมมาส่งเพราะผมขอร้องไม่ให้เพลิงมา ช่วงเวลาที่ต้องจากลามันคงจะเศร้าและหน่วงมาก ผมไม่อยากจากไปด้วยความรู้สึกแบบนั้น แล้วผมก็ไม่อยากให้เพลิงต้องรู้สึกแบบเดียวกันด้วย


แต่ผมก็ไม่รู้เลยว่าในวันนั้นเพลิงได้แอบมา โดยมองส่งผมเข้าเกทจนแผ่นหลังลับสายตา จากนั้นก็เดินไปที่หน้าต่างแล้วมองเครื่องบินที่ผมนั่งไปจนลับขอบฟ้า ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยใบหน้าอันแสนเศร้า


“รีบกลับมานะพาย...”


2BC


 o18 สวัสดีค่า Rabid หัวใจคลั่งรัก ตอนที่ 14 ก็จบลงไปเรียบร้อยแล้วน้า ตอนนี้มันก็จะเศร้าๆ ซึ้งๆ หน่วงๆ นิดนึงเนอะ ยื่นทิชชู่ให้ทุกคนซับน้ำตา ถ้าม้วนนึงไม่พอมาขอเพิ่มได้เลยนะคะที่รัก  :hao5:
ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเรียกว่าแฮปปี้เอนดิ้งหรือแซดเอนดิ้งดี แต่สำหรับเค้ามันก็คือแฮปปี้เอนดิ้งนะ เพลิงกับพายสารภาพว่ารักกัน แถมยังปรับความเข้าใจกันได้อีกต่างหาก ถึงจะต้องจากกัน 4 ปี แต่หลังจากนี้ถ้าได้คบกันก็คงจะยิ่งรักกันมากกว่าเดิม เพราะความห่างมันก็คงจะทำให้ยิ่งคิดถึงและโหยหากันและกันล่ะเนอะ  o15
ส่วนตอนหน้าจะเป็นบทส่งท้ายนะคะ จะเป็นบทสรุปและตอนจบที่แท้จริงของคู่นี้ว่าจะเป็นยังไง แล้วก็จะเชื่อมโยงไปถึงคู่น้องวาที่หลายๆคนกำลังตั้งตารอด้วย แล้วเจอกันวันศุกร์ช่วงค่ำๆนะคะที่รัก บ๊ายบายยยยยย  :bye2:
(24 ก.ค. 61)

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พอปรับความเข้ากันได้ ก็ต้องจากกันอีกล่ะ แต่ 4 ปีก็นานพอจะพิสูจน์ความรักว่าจริงจังแค่ไหน ถึงตอนนั้นก็คงมีความสุขมากมายนะจ๊ะเด็กๆ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


รอ4ปี……ตายยยยยเลยดีกว่าเถอะ


 :jul1:  :jul1:  :jul1:  :jul1:  :jul1:  :jul1:


หงอยเหงาเศร้าใจอ่ะ ……

เพลิงจะทนไหวไหมนะ.

ทำไมให้ไปหาไม่ได้นะพายยยยย


 :z3:  :z3:  :z3:  :z3:  :z3:   :z3:  :z3:


………

.

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตัดฉับไปตอนที่กลับมาไทยเลยได้ไหม อิอิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถือว่าเป็นการปรับปรุงนิสัยใจร้อนของเพลิงแล้วกัน  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ห่างแต่เคียงชิดใกล้
ไกลแค่เพียงคิดถึง
ใกล้เพราะใจคำนึง
ไกลแต่ใจหยั่งถึง..ว่าเรารักกัน

เพลิงพาย

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
4 ปี อะไรก็เกิดขึ้นได้นะ มันไม่ใช่การวัดใจหรือแสดงรักแท้อะไรหรอกสำหรับเรา คิดในแง่ของความเป็นจริงเลวร้ายที่สุดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไป จะมานั่งเสียดายไหมนะว่าช่วงเวลาก่อนหน้าไม่น่าทำอย่างนั้นเลย อย่างเพลงเวลาไม่เคยพอ ฟังทีไรเศร้าทุกที 55555 แบบว่าอินจัด

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
 :sad4: 4ปีมันนานเกินไป

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
บินไปหาเถอะ ชีวิตจริงมัรอไม่ไหวหรอกสี่ปี

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ถ้าไม่ปากแข็งตั้งแต่แรกก็ไม่เป็นแบบนี้ รอไปนะเพลิง สู้ๆ :กอด1:

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] R. Rabid หัวใจคลั่งรัก


Part 15# Plerng บทส่งท้าย


   “เร็วๆ สิวา! เดี๋ยวพี่ก็ไปสนามบินไม่ทันหรอกเว่ย!” ผมตะโกนเร่งวาที่ยังคงอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าจะแต่งตัวอะไรนานกันนักกันหนา ผมก็บอกแล้วว่า 2 ทุ่มจะออกจากบ้าน แต่นี่ปาไปตั้ง 2 ทุ่ม 15 แล้วแต่วาก็ยังไม่ยอมออกจากห้องสักที


   “เสร็จแล้วๆ จะรีบอะไรนักหนาก็ไม่รู้ อีกเกือบ 3 ชั่วโมงเครื่องถึงจะลงนะไม่ใช่อีก 30 นาที” วาเปิดประตูห้องออกมาแล้วทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผม


ใบหน้าเมื่อในอดีตที่ติดจะน่ารักตอนนี้กลับออกไปทางสวยซะมากกว่า ส่วนสูงที่เคยถึงแค่ไหล่ของผมก็ขยับขึ้นมาจนถึงต้นคอ ทรงผมที่เคยตัดสั้นก็ไว้ยาวซะจนเกือบประบ่า รวมๆ แล้วทั้งรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนจากเด็กกะโปโลโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย


   ก็นะ...นี่มันผ่านไป 4 ปีแล้วนี่นา


   “แกว่ารถในกรุงเทพมันมีน้อยรึไง ทางไปสนามบินแม่งติดจะตายห่า พี่ก็ต้องเผื่อเวลาเอาไว้น่ะสิวะ”


   “แต่ก็ไม่ต้องเผื่อตั้ง 3 ชั่วโมงก็ได้ปะ วันเสาร์รถมันไม่ค่อยเยอะเหมือนวันธรรมดา วิ่งบนมอเตอร์เวย์แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว ไม่รู้จะรีบเวอร์วังไปไหน” วากลอกตาใส่แล้วเดินหนีผมลงไปข้างล่าง


หนอย...ไอ้น้องบ้านี่มันน่าเขกกบาลสั่งสอนจริงๆ ทีกับพี่ภู พี่ธาร หรือไอ้พฤกษ์นี่พูดเสียงอ้อนเสียงหวาน แถมยังมีครับแทบจะทุกประโยค แต่ทีกับผมนี่แทบจะเล่นหัว ส่วนไอ้คำว่าครับก็แทบจะไม่มี มันน่าโมโหจริงๆ!


แต่ก็เอาเถอะ วามันก็สองมาตรฐานกับผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะถ้ามองย้อนกลับไปผมก็ชอบแกล้งมันหนักกว่าใครในบ้าน ทำตัวไม่น่าเคารพ แล้วก็ชอบหาเรื่องชวนทะเลาะกับมันเป็นประจำ จนมันคงจะคิดว่าผมเป็นเพื่อนมันแทนที่จะเป็นพี่ชายไปแล้ว


เฮ้ออออออ อนาถใจ!


“พร้อมกันหมดแล้วใช่มั้ยทุกคน” ผมถามเมื่อเดินมาถึงข้างล่าง ตอนนี้ที่ห้องรับแขกแทบจะดูแออัดเพราะมีตั้ง 8 ชีวิตอยู่รวมกัน ซึ่งก็มีทั้งพี่ภู ตะวัน พี่ธาร หมอก ไอ้พฤกษ์ ไอ้ซ่า วา แล้วก็ผม การที่ทุกคนมารวมตัวกันแบบนี้ก็เพราะกำลังจะไปรับว่าที่สะใภ้ของครอบครัวคนล่าสุด ที่กำลังเดินทางกลับมาจากลอนดอน


“พร้อม!!!!!!!” 7 เสียงตอบกันอย่างพร้อมเพรียง ท่าทางแต่ละคนจะดูตื่นเต้นไม่ต่างจากผมเลยนะเนี่ย


“โอเค ถ้างั้นก็ไปกันเลย!” ผมพูดจบก็เดินนำออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านนอก ก่อนที่รถทั้ง 4 คันจะขับตามกันออกมา โดยที่แต่ละคันก็นั่งกันเป็นคู่ๆ ส่วนผมที่คู่ยังมาไม่ถึงก็เลยต้องหิ้ววาที่ยังไม่มีคู่มานั่งด้วยอย่างช่วยไม่ได้


แต่จะว่าไปถ้าจะบอกว่าวาไร้คู่มันก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะตั้งแต่ขึ้นปี 2 ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งคอยมารับมาส่งวาอยู่ตลอดนี่หว่า


“เออ แกไม่ชวนไอ้รุ่นพี่คนนั้นมาด้วยล่ะวา” ผมถามในขณะที่กำลังขับรถ


“จะชวนมาทำไมล่ะ ผมไม่ได้คบกับพี่เขาสักหน่อย”


“ไม่ได้คบแต่ตามรับตามส่งแกเป็นปีๆ เนี่ยนะ?”


“ก็แล้วผมบังคับที่ไหน พี่เขาสมัครใจมารับมาส่งเองต่างหาก” วาตอบอย่างไม่ยี่หระ เออ! เอากับมันสิ!


“แกนี่จะใจแข็งไปถึงไหน ไอ้รุ่นพี่คนนั้นมันก็ดูเป็นคนดีจะตาย ขนาดพี่ภูยังให้สามผ่านเลย หรือว่าแกยังไม่ลืมไอ้รุ่นพี่เหี้ยนั่นที่มันเคย...”


“ไฟแดงแล้วพี่เพลิง!” วารีบพูดขัดขึ้น ผมจึงได้รีบเหยียบเบรกก่อนที่จะเลยเส้นขาวไปแค่นิดเดียวเท่านั้น


เฮ้ออออออ เกือบไปๆ


“เป็นไงล่ะมัวแต่พูดมาก หรือว่าเดือนนี้ยอดใบสั่งที่ส่งมาบ้านยังไม่ถึงเป้าเลยจะทำยอดเพิ่ม?” วาทำหน้ากวนประสาทใส่แถมยังแลบลิ้นให้ผมอีกต่างหาก


“หนอย...กวนตีนจริงนะไอ้น้องเวร” ว่าแล้วผมก็จัดการเขกกะโหลกวามันไปทีนึง มันจึงทำเป็นเล่นใหญ่โอดครวญโวยวายเหมือนจะตายซะให้ได้ ซึ่งการที่มันทำแบบนั้นผมรู้ว่ามันไม่อยากให้ผมพูดถึงเรื่องในอดีต เพราะงั้นผมก็จะหยุดพูดแค่นี้ก็ได้


   หลังจากนั้นเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวผมก็ขับรถต่อไป ไอ้ผมมันก็เป็นพวกตีนผีที่ขับรถเร็วอยู่แล้วเลยมาถึงก่อนใครในบ้าน โดยทำเวลาไปแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะงั้นเวลาที่เหลือผมถึงได้เอาแต่นั่งฟังวาบ่น แต่ผมก็ไม่สนเพราะหัวใจของผมกำลังจดจ่ออยู่กับคนที่กำลังเดินทางกลับมา


   เวลา 4 ปีมันยาวนานและทรมานมากสำหรับผม โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ผมแทบไม่เป็นอันทำอะไร ถ้าไม่มัวแต่นั่งเหม่อลอยก็เอาแต่ส่องเฟซบุ๊ค ไอจี และทวิตเตอร์ที่แทบจะรกร้างของพาย ผมที่มีสถานะเป็นแค่เพื่อนจึงทำได้เพียงแค่เท่านี้


การตัดสินใจของพายหลายคนอาจจะมองว่าใจร้าย แต่สำหรับผมนั้นคิดว่ามันสาสมแล้ว ที่พายตัดสินใจไปเรียนต่อส่วนหนึ่งก็เพราะตัวผมเอง ถ้าตอนนั้นผมไม่เอาแต่ประชดและถือทิฐิบ้าบอ ตอนนี้ผมกับพายอาจจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปแล้วก็ได้


เฮ้อออออ ชีวิตของคนเรามันก็แบบนี้ อีกอย่างมันก็คงเป็นเวรกรรมของผมด้วยมั้งที่เมื่อก่อนมีความสัมพันธ์กับคนอื่นไปทั่ว ไม่เคยเห็นหัวใคร แล้วก็คิดว่าการมีแฟนมันเหมือนกับการมีห่วงผูกคอ แต่ตอนนี้ผมได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าจะมีใครเข้าหาผมก็ไม่เคยสนใจ ในเมื่อผมเจอคนที่ใช่แล้วผมจะไปสนคนอื่นทำไม สายตาของผมมีเอาไว้มองพาย ส่วนหัวใจของผมก็มีไว้เพื่อรักพายได้แค่คนเดียว


   เกือบเดือนที่ผมมีสภาพแห้งเหี่ยวเหมือนคนใกล้ตายอยู่ที่บ้าน ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองเมื่อพายทักไลน์มาหา ถามว่าผมสบายดีมั้ย งานที่ทำอยู่เป็นยังไง มีความสุขดีรึเปล่า นั่นแหละผมถึงคิดว่าจะอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เกิดพายรู้ว่าสารรูปผมเป็นยังไงแล้วปันใจไปให้หนุ่มๆ ที่อังกฤษก็ฉิบหายกันพอดีน่ะสิผม


   เพราะงั้นหลังจากที่คุยกับพายจบผมเลยรีบโทรไปบอกที่ทำงาน ซึ่งเป็นบริษัท IT ชั้นนำว่าพร้อมทำงานแล้ว หลังจากที่ผมขอเลื่อนไป 1 เดือนโดยอ้างว่าติดปัญหาทางบ้านนิดหน่อย ซึ่งที่นั่นก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะอยากได้ผมเข้าทำงานอยู่แล้ว


ก็นะ...คนมันเก่งก็งี้ พูดแล้วจะหาว่าคุย บริษัทนั้นขอจองตัวผมโดยให้เงินเดือนสูงลิ่วตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 3 ที่ผมไปฝึกงานนู่น


    การที่ผมลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองทำให้คนในบ้านโดยเฉพาะพี่ภูถึงกับทำหน้างง เพราะที่ผ่านมาพี่แกขู่ผมสารพัดว่าให้เลิกซึมกะทือแต่ผมก็โนสนโนแคร์ แถมพี่แกยังงงมากขึ้นไปอีกเมื่อผมไปขอเบิกเงินเพื่อเรียนต่อโท


ก็ผมจะยอมน้อยหน้าว่าที่แฟนในอนาคตได้ยังไงล่ะจริงมั้ย ผมอยากจะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบและดีพร้อมเพื่อให้คู่ควรกับพาย ที่สำคัญเรียนกับทำงานไปพร้อมกันมันก็อาจจะทำให้ผมฟุ้งซ่านเรื่องของพายน้อยลงก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าความรู้สึกของผมจะเปลี่ยนไป ผมยังคงรักพายเหมือนเดิม


   พอพายรู้ว่าผมกำลังเรียนต่อโทก็ยินดีกับผมใหญ่ แถมยังดีใจเพราะจะได้มีเพื่อนคอยปรึกษา ตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกจริงๆ ที่คิดเรียนต่อ ถึงแม้ว่าผมจะเหนื่อยจนบางวันแทบไม่มีเวลานอน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีเรื่องได้คุยกับพาย


   เราสองคนคุยกันประมาณเดือนละ 2 – 3 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะเป็นการคุยเรื่องเรียน เรื่องทั่วไป และถามสารทุกข์สุกดิบเท่านั้น ไม่ได้คุยกันเรื่องอื่นหรือเรื่องหัวใจเลยแม้แต่น้อย เพราะพายกางเขตเฟรนด์โซนได้อย่างชัดเจนมากจนผมไม่กล้าข้ามไป แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้ว่าในหัวใจของพายยังคงมีผม ส่วนผมก็เหมือนกัน ผมขีดฆ่าปฏิทินทุกวันเพื่อนับถอยหลังรอพายกลับมา


   ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้พายจะเป็นยังไงบ้าง เพราะเลยครึ่งปีแล้วที่พายไม่ลงรูปตัวเองในโซเชียลเลย แต่ไม่ว่าจะอ้วนขึ้น เป็นสิว เป็นฝ้า เป็นกระ หรือเป็นอะไรก็ตาม แต่ผมก็มั่นใจว่าผมยังคงรักพายเหมือนเดิม ตอนนี้ผมอยากเจอพายจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว


   “พี่เพลิง ใช่ไฟล์ทนี้รึเปล่าที่พี่สะใภ้นั่งมา” วาสะกิดผม ผมที่กำลังอยู่ในภวังค์เพราะเอาแต่จินตนาการถึงพายอยู่เลยสะดุ้ง แล้วก็ตั้งใจฟังประกาศถึงเที่ยวบินที่กำลังจะมาถึง


   “เออ ไฟล์ทนี้แหละ” แล้วผมก็รีบบอกให้ทุกคนเดินไปยังจุด meeting point ที่อยู่ตรงชั้น 2 ประตู 3 เพื่อรอรับพาย


วันนี้การที่พายบอกให้ผมมารับแทนที่จะเป็นพ่อกับแม่ นั่นก็เป็นเพราะว่าพายบินมาถึงดึกเลยไม่อยากรบกวนพวกท่าน ส่วนการที่บรรดาคนในครอบครัวของผมพากันแห่มารับพายด้วย ก็เป็นเพราะอยากเจอหน้าว่าที่แฟนของผมใจจะขาด อีกอย่างคืนนี้ผมก็จะไม่กลับบ้านด้วยแหละ


ถามว่าผมจะไปนอนบ้านพาย?


   เรื่องนั้นเอาไว้วันหลังที่ผมจะไปฝากตัวเป็นลูกเขยอย่างเป็นทางการ ส่วนคืนนี้ผมกับพายจะไปนอนที่อื่น ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหน เป็นโรงแรมที่เมื่อ 4 ปีที่แล้วผมกับพายมักจะไปใช้บริการบ่อยๆ นั่นแหละ


   “หึหึ” ผมแอบยิ้มที่มุมปากเมื่อสมองกำลังจินตนาการไปไกล แต่แล้วผมก็ถูกไอ้พฤกษ์เอาศอกกระทุ้งไหล่ เพราะดูเหมือนว่ามันจะรู้ความคิดในสมองของผม อีกอย่างผู้โดยสารขาเข้าก็เริ่มทยอยกันออกมาแล้ว ผมเลยลืมเรื่องสัปดนที่อยู่ในสมองเพื่อชะเง้อมองหาพาย และในที่สุดผมก็เจอเข้าจนได้


   วินาทีนั้นราวกับว่าโลกทั้งใบได้หยุดชะงักลง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผมดูเหมือนว่ากำลังหยุดเคลื่อนไหว ไม่เว้นแม้แต่ผมกับพายที่กำลังจ้องมองใบหน้าของกันและกัน ซึ่งหลังจากนั้นดวงตากลมโตคู่สวยก็มีหยดน้ำตาไหลลงมา


    พายดูโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ใบหน้าที่สวยหวานอยู่แล้วยิ่งสวยหวานขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว อาจเป็นเพราะพายดูมีน้ำมีนวลและสมส่วนไม่ผอมแห้งเหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นพายแบบไหนผมก็ชอบด้วยกันทั้งนั้น ไม่สิ...ต้องพูดว่ารักต่างหาก เพราะความรู้สึกของผมมันได้เลยคำว่าชอบไปเป็นรักตั้งนานแล้ว


   “เพลิง...”


   “พาย...”


   เราสองคนต่างก็เรียกชื่อของอีกฝ่าย ก่อนที่พายจะก้าวมาหาผมโดยที่ผมก็ก้าวไปหาพายเช่นกัน ระยะทางที่ความจริงก็สั้นๆ แต่สำหรับเราสองคนมันกลับยาวมาก เพราะงั้นจากขาที่กำลังก้าวเดินเลยกลายเป็นวิ่งโดยเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ


จนกระทั่งระยะห่างจากไม่รู้กี่สิบเมตรเหลือเพียงแค่ศูนย์ พายก็พุ่งตัวเข้าสู่อ้อมกอดของผมด้วยความคิดถึงโดยไม่สนใจสายตาของใคร ส่วนผมเองก็ไม่สนใจเช่นกัน ผมกอดรัดพายเอาไว้แน่นด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ


“เป็นแฟนกูนะพาย” ในที่สุดประโยคที่ผมอยากจะพูดตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วก็ได้พูดมันออกไปสักที


“อืม แต่ไม่ใช่แค่แฟน เพราะเราจะเป็นทุกอย่างให้นายเลยเพลิง” พายส่งยิ้มที่สวยที่สุดในชีวิตมาให้ผม จากนั้นก็โผเข้าสู่อ้อมกอดของผมอีกครั้งด้วยความสุขล้น ซึ่งผมก็เช่นเดียวกัน


การที่อยู่ห่างกันมันไม่ได้ทำให้ความรักของเราสองคนน้อยลงไปเลย แต่กลับกันมันยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันจนมันแทบจะทะลักออกมา จากนี้ผมสัญญาเลยว่าจะไม่มีวันปล่อยพายไปไหนอีกเด็ดขาด เราสองคนจะอยู่เคียงข้างกันและรักกันตลอดไป...


...จบบริบูรณ์...


 o15 สวัสดีค่า หลังจากที่ติดตามอ่านกันมาหลายเดือน ในที่สุดคู่เพลิงพายก็แฮปปี้เอนดิ้งอีกคู่ตามพวกพี่ๆไปเรียบร้อยแล้วค่า เย่!  :katai2-1: ถึงแม้ก่อนจะแฮปปี้คู่นี้ต้องเจอดราม่าศึกใหญ่กว่าใครในบ้าน แต่คนเจ้าชู้และร้ายกาจอย่างอีตาเพลิงก็ต้องเจอแบบนี้แหละค่ะจะได้รู้จักเห็นค่าของความรักเนอะ  o3
ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบและประทับใจความรักของคู่นี้กันนะคะ ความหวานๆอาจจะไม่มีเท่าไหร่เพราะไม่ใช่สไตล์อีตาเพลิง แต่ความแซ่บและกร้าวใจเชื่อว่ามันมีกว่าใครในบ้านแน่นอน  :impress2:
ส่วนเรื่องของน้องวาที่หลายๆคนกำลังรอกัน วันนี้เค้าก็แอบแง้มเรื่องหนุ่มที่จะมาเป็นหวานใจน้องวามานิดนึง ซึ่ง...จะเป็นคนไหนเอาไว้มาลุ้นกันนะคะ ตอนนี้ขอเค้าพักไปจัดการรูปเล่มของอีตาเพลิงสักพัก ประมาณต้นเดือนหน้าอาจจะสามารถเริ่มลงได้ค่า  o18
แอบกระซิบบอกชื่อเรื่องก่อนเลยก็คือ...T. Trap หัวใจพ่ายรัก เอ...ดูจากชื่อเรื่องแล้วพอเดากันออกมั้ยน้อว่าจะเป็นแนวไหน?  :m21: ได้ข่าวว่าหลายๆคนเตรียมต้มมาม่าเอาไว้ จะใช่แนวนี้มั้ยน้อ เพราะแต่ละเรื่องที่เคยเดากันก็พลิกล็อกกันหมด ทั้งคุณธาร พฤกษ์ แล้วก็อีตาเพลิง อิอิ  :laugh:
แล้วเจอกันเรื่องน้องวานะคะ ขอขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะที่ติดตามอ่านคู่เพลิงพายมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ  :pig4: รักทุกคนมากๆเลยนะคะ บ๊ายบายยยยย  :bye2:
ปล.ขออนุญาตขายลูกชายนิดนึงเนอะ  :m17: หนังสือ Rabid หัวใจคลั่งรัก จะปิดจองในวันที่ 31 ก.ค. นี้แล้วน้า ราคาสินสอดเบาๆแค่ 279 บาท การ์ดใสยังได้อยู่นะคะ หากสนใจสามารถกดสั่งจองได้เลยน้า >>>จิ้มๆ<<< มีตอนพิเศษในเล่ม 2 ตอนด้วยกัน คือ1.หลังกลับจากสนามบิน และ 2.ตอนที่เพลิงไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเขยของบ้านพายจ้า  o18
(27 ก.ค. 61)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
จบประทับใจมาก หวานเชียว เพลิงเปลี่ยนไปในทางที่ดี ชอบคะ ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่าน

รอเรื่องน้องวา

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
กรีดร้อง!!! จบได้หวานมากกกก 
ปล. อยากได้ตอนพิเศษอ่ะ อิอิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จบไปแล้วอีกคู่ 4 ปีทำให้เพลิงเป็นผู้เป็นคนได้นี่ คุ้มนะ  :hao3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอเรื่องของวา~

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ อีก 1 เรื่องคับ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ดีแล้วที่เพลิงเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีความอดทนได้มากขึ้น มีความสุขซะทีนะ รอเรื่องน้องวาค่ะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รอตัว T อยู่นะ ..

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] Trap หัวใจพ่ายรัก


Intro# Wayo เรื่องในอดีต


‘หลังเลิกเรียนมาเจอกันที่หลังตึกเก่าได้มั้ยครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกแล้วก็มีของจะให้พี่ แต่พี่ต้องมาคนเดียวอย่าให้ใครรู้เรื่องนี้นะครับ’


หลังจากที่ตัดสินใจอยู่นานผมก็กลั้นใจวิ่งเอาจดหมายไปใส่ไว้ใต้โต๊ะของรุ่นพี่ม.6 ที่ชอบ ตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยงพอดีเลยไม่มีใครอยู่เพราะทุกคนลงไปกินข้าวกันหมด พอใส่เอาไว้แล้วผมก็รีบวิ่งออกมาจากห้องก่อนที่จะมีใครจับได้


ในที่สุดความในใจที่ผมเก็บเอาไว้ตลอดทั้งปีก็จะถูกเปิดเผยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่หวังจะให้พี่เขารับรักผมหรอก ก็พี่เขาออกจะหล่อแล้วก็ป๊อปซะขนาดนั้น ส่วนผมมันก็แค่รุ่นน้องในชมรมที่ตัวอ้วนกลมแถมยังสิวเขรอะ ห่างไกลจากคำว่าดูดีไม่พอยังออกไปทางน่าเกลียดซะมากกว่า แล้วอย่างนี้ผมจะกล้าคาดหวังให้พี่เขารับรักผมได้ยังไง แค่ปกติพี่เขายิ้มให้และใจดีด้วยมันก็เกินฝันของผมแล้ว


ถ้าอย่างนั้นถามว่าทำไมผมถึงคิดจะสารภาพรัก?


นั่นก็เป็นเพราะผมอยากบอกความในใจของตัวเองให้รับรู้ เพราะวันนี้เป็นวันที่พี่เขาจะมาเรียนเป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ผมจะไม่ได้เจอกับพี่เขาอีกต่อไปเพราะพี่เขาจบการศึกษาแล้ว นอกจากนี้ผมยังอยากจะให้ของขวัญตอบแทนที่พี่เขาใจดีกับผมมาโดยตลอดอีกด้วย


รู้สึกตื่นเต้นจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย...


ด้วยเหตุนี้ตลอดช่วงบ่ายผมเลยแทบไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอน ในสมองเอาจดจ่ออยู่ที่เรื่องจะสารภาพรักอย่างเดียวเท่านั้น จนกระทั่งเสียงออดหมดเวลาคาบสุดท้ายดังขึ้น ผมจึงได้รีบเก็บของลงกระเป๋าแล้วไปรอที่หลังตึกเก่าที่กำลังจะถูกบูรณะ


การที่ผมเลือกนัดเจอพี่เขาที่นี่ก็เพราะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมา ก็ถ้ามีคนพลุกพล่านคงจะไม่มีใครกล้าสารภาพรักใช่มั้ยล่ะ ซึ่งหลังจากที่ผมยืนรอประมาณ 10 นาทีพี่เขาก็เดินมา รอยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าเช่นเดิม


“คิดแล้วเชียวว่าต้องเป็นโย”


“ทะ...ทำไมพี่ถึงรู้ว่าเป็นผมล่ะครับ” ผมพูดอย่างตะกุกตะกักเพราะรู้สึกประหม่า


“พี่จำลายมือของโยได้ หัวจะกลมๆ โตๆ น่ารักดี” คำพูดนั้นทำเอาผมรู้สึกเขินจนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ แต่เหนือกว่าการปลื้มที่พี่เขาบอกว่าจำลายมือของผมได้ ก็คือการที่พี่เขาบอกว่าลายมือของผมน่ารัก นี่ถ้าหากพี่เขามองว่าหุ่นอ้วนกลมของผมน่ารักไปด้วยก็คงดี


แต่ก็นะ...มันคงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว


“ว่าแต่โยนัดพี่มาเจอที่นี่มีเรื่องอะไรจะบอกงั้นหรอ”


“คือ...ผะ...ผม...อยากจะบอกว่า...ยะ...ยินดีด้วยนะครับที่เรียนจบแล้ว!” ให้ตายสิ ประโยคที่ตั้งใจจะสารภาพรักดันกลายเป็นประโยคแสดงความยินดีที่เรียนจบไปซะได้ ทำไมผมต้องมาป๊อดเอาวินาทีสุดท้ายด้วยก็ไม่รู้


“เอ่อ...อื้ม ขอบใจมากนะ” พี่เขาดูจะงงๆ อยู่เหมือนกันเพราะคำพูดของผมมันสุดแสนจะธรรมดา ต่างจากคำว่าสำคัญที่เขียนบอกบนจดหมายเอาไว้ลิบลับ


“ละ...แล้วผมก็มีของขวัญจะให้ด้วยครับ” ผมพูดจบก็ยื่นขวดโหลที่ใส่โซ่พลาสติกที่เป็นรูปตัว C ทั้งหมด 999 อันไปให้


โดยที่ผมเรียงโซ่ตามสีรุ้งเพราะเป็นคำขึ้นต้นของนามสกุลพี่เขา ส่วนจำนวนก็มาจากวันและเดือนเกิดที่เป็นเลข 9 นอกจากนี้ด้านนอกของขวดโหลผมก็ตัดกระดาษสีแปะเป็นคำว่า Congratulation ทั้งยังตกแต่งไปด้วยกลิตเตอร์และไอเท่มให้น่ารัก โดยไม่ลืมใส่ชื่อของพี่เขาที่ฝาขวดโหล


“ขอบใจมากนะ น่ารักมากเลยโย พี่จะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย” แค่ได้เห็นรอยยิ้มที่สว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ของพี่เขา ผมก็คิดว่าคุ้มค่าแล้วที่นั่งคิดและลงมือทำตั้งหลายคืน แถมผมยังมีแรงฮึดที่จะสารภาพรักให้สำเร็จอีกด้วย


“เอ่อ...ผมยังมีอีกเรื่องนึงที่อยากจะบอกพี่...”


 “หืม? เรื่องอะไรหรอ?” ดวงตาเรียวยาวของพี่เขาเบิกกว้างขึ้นอย่างสนอกสนใจ ส่วนใบหน้าที่อยู่สูงกว่าผมมากเลยก้มลงมานิดหน่อย ทำเอาผมถึงใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยใบหน้าร้อนผ่าว


“คะ...คือ...ผม...ชะ...ชะ...ชอบ...ผมชอบพี่นะครับ!” ถึงแม้จะตื่นเต้นและประหม่าสุดๆ ผมก็สามารถพูดออกไปจนได้ ส่วนพี่เขาที่ได้ยินคำสารภาพรักของผมก็ดูจะอึ้งๆ ไป แต่ยังไม่ทันที่พี่เขาจะได้ตอบอะไรกลับมา ก็มีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนโผล่ออกมาซะก่อน


“เหยดดดดด ไอ้น้องอ้วนนี่แม่งเป็นเกย์ว่ะมึง”


“ไม่เจียมสังขารเอาซะเล้ย สิวเต็มหน้าขาก็เบียดยังจะใฝ่สูงชอบเดือนโรงเรียนว่ะ”


“เออ แม่งโคตรใจกล้าหน้าด้าน ตัวอย่างกับช้างหน้าตาก็ทุเรศแม่งใครมันจะไปเอา”


แล้วก็อีกสารพัดคำดูถูกและเหยียดหยาม จริงอยู่ว่ารูปร่างของผมมันก็อ้วนเกินมาตรฐาน ส่วนใบหน้าก็มีสิวค่อนข้างเยอะ แต่ทำไมคนพวกนั้นต้องด่าว่าผมราวกับผมไม่ใช่คน แถมยังหัวเราะเยาะกันอย่างสนุกสนานถึงขนาดนี้ด้วย


ถึงผมจะอ้วน แต่ผมก็ไม่ได้ไปอ้วนบนตัวของคนพวกนั้นไม่ใช่หรอ?


ถึงผมจะมีสิว แต่มันก็ขึ้นอยู่ที่หน้าของผมไม่ใช่ของคนพวกนั้นไม่ใช่รึไง?


และถึงแม้ว่าผมจะอัปลักษณ์หรือว่าน่าเกลียดแค่ไหน แต่มันก็เป็นเรื่องของผมคนพวกนั้นมาเดือดร้อนด้วยทำไม?


ผมไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจจริงๆ!


“เฮ้ยพวกมึง พูดกันเกินไปแล้ว” ถึงแม้พี่เขาจะพยายามห้ามปรามเพื่อน แต่ก็พูดยิ้มๆ ไม่ได้จริงจัง เพราะงั้นจากที่เคยชอบผมถึงได้เกลียดรอยยิ้มนั่น รอยยิ้มอันจอมปลอมที่มีแต่ความเสแสร้ง!


“พี่...บอกเรื่องจดหมาย...ให้พวกเพื่อนรู้หรอครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปถามด้วยน้ำตานองหน้า ในขณะที่มือก็กำแน่นจนเล็บได้จิกเข้าไปในเนื้อ แต่นั่นมันก็เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บที่ใจ


“พี่ขอโทษนะโย คือพวกมัน...” แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร พวกเพื่อนของพี่เขาก็กรูกันเข้ามาโดยมีคนหนึ่งพุ่งมากอดคอ แรงที่ปะทะทำเอาขวดโหลที่ผมพึ่งมอบให้พี่เขาหลุดจากมือร่วงลงไปที่พื้น เสียงแก้วที่แตกกระจายและเสียงโซ่ที่ทะลักออกมาดังชัดในโสตประสาทของผม


ทำไมพี่เขาไม่ยอมถือมันไว้ดีๆ หรือความจริงแล้วพี่เขาก็ไม่ได้เห็นความสำคัญของมันอยู่แล้ว...


ของขวัญที่ผมอุตส่าห์คิดและลงมือทำตั้งหลายวัน แต่สำหรับพี่เขามันก็คงจะเป็นแค่ขยะไม่ได้มีค่าสักนิดเลยใช่มั้ย...


ผมมองเศษแก้วและเศษโซ่ที่กระจายอยู่บนพื้นด้วยน้ำตานองหน้า ตอนนี้หัวใจของผมมันก็พังไม่เป็นชิ้นดีเช่นกัน ก่อนที่มันยิ่งจะถูกกระทืบซ้ำจนแทบจะจมดิน


“มึงก็บอกไอ้น้องอ้วนนี่ไปดิว่ามึงให้พวกกูมา บอกว่ามีเรื่องสนุกๆ จะให้ดู ฮ่าๆๆๆ”


คำพูดและเสียงหัวเราะสุดสกปรกนั้นทำเอาผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ความรู้สึกโกรธ แค้น อับอาย แล้วก็สารพัดความรู้สึกนับล้านที่ถาโถมเข้าใส่ทำเอาผมสั่นไปหมดทั้งร่าง ก่อนที่ผมจะตัดสินใจวิ่งฝ่าฝูงชนออกมา ไม่อย่างนั้นผมต้องเป็นบ้าไม่ก็คิดอยากจะฆ่าคนพวกนี้แน่ๆ!


“โย!” เสียงไอ้รุ่นพี่เลวๆ ที่ผมแอบรักร้องเรียกผมเอาไว้ แต่ผมก็ไม่คิดจะหยุดหรือหันหลังกลับไป ผมไม่อยากหายใจร่วมกับคนพวกนั้นแม้สักเสี้ยววินาที และไม่อยากเป็นตัวตลกให้คนพวกนั้นหัวเราะเยาะอีกต่อไปแล้ว!


จากนี้ความรู้สึกที่ผมเคยมีต่อคนสารเลวพรรค์นั้น...โซ่ สุริยะ รุ้งรวิพัฒน์ จะเปลี่ยนจากความรักเป็นความแค้นตลอดกาล!


2BC


 :mc2: สวัสดีค่ะทุกคน หลังจากที่ให้รอกันซะนาน ในที่สุด Trap หัวใจพ่ายรัก ซึ่งเป็นเรื่องของน้องวาที่หลายคนรอกันมานานก็ได้ฤกษ์เปิดตัวแล้วค่า ฮูเร่!  :mc3:
เปิดเรื่องมาก็เฉลยปมของน้องวาที่แอบเกริ่นๆไว้ตั้งแต่เรื่องของพี่ภูกันเลย แน่นอนว่าไม่ได้ดาร์กดำมืดอย่างที่เค้าเคยบอกไป แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องการถูกทรยศและถูก Bully มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อจิตใจพอสมควร ใครที่เคยโดนล้อน่าจะเข้าใจฟีลนี้เนอะ คือคนล้ออาจจะขำแต่คนที่ถูกล้อมันไม่ขำด้วยแน่ๆ  :monkeysad:
ถึงตอนนี้หลายๆคนอาจจะพอเดาพล็อตกันออกแล้ว (มั้ย? อิอิ) แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ซีเรียส เชือดเฉือน หรือปะทะคารมอะไรแบบนั้น จริงๆเรื่องมันจะออกไปทางน่ารักเลยนะ (ในมุมเค้า แต่มุมคนอื่นไม่รู้ววว 55555  :laugh:) อ้อ...แน่นอนว่าไม่ใช่ใช่แนว SM โซ่แส้กุญแจมืองี้ไม่มีเน่อ ไม่ใช่แนวเค้า 55555
ส่วนพระเอกของเรื่อง เอ...จะใช่รุ่นพี่คนนี้มั้ยน้า  :m28: ถึงจะเอ่ยถึงชื่อซะเต็มแม็กซ์กับสปอยหน้าปกที่มีโซ่ (ดูได้ที่เพจ Sameejaejung เลยค่า) แต่ลืมอะไรไปรึเปล่า? รุ่นพี่อีกคนที่พี่ภูให้สามผ่านแถมยังไปรับไปส่งวาตั้งแต่ตอนปี 2 นั่นไง ใครกันน้าที่จะได้เป็นพระเอก เดี๋ยวมาลุ้นกันตอนที่ 1 เนอะ ซึ่งเราจะพยายามมาต่อใน 2-3 วันนะคะ ตอนนี้งานศพคุณยาก็เรียบร้อยแล้ว เราน่าจะมีเวลาเขียนต่อแล้วล่ะค่ะ  :m1:
แล้วเจอกันน้า ยังไงก็ขอฝากน้องวากับรุ่นพี่ (ที่รัก) ไว้ด้วยนะคะ แล้วก็หากชื่นชอบฝากคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้า รักทุกคนนะคะ จุ๊บๆ  :mew1:
(18 ส.ค. 61)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด