และแล้วดึกดื่น ค่ำคืนนั้น(คาดว่านะ) ไอโมก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วก็ต้องงงกับตัวเองมากมายว่าทำไมตูถึงได้ มาหลับอยู่ในท่านี้หว่า….ท่าที่ว่าคือนอนคว่ำหน้า หัวมุดอยู่ใต้หมอน…ปวดเบ้าตาหมึบๆ…งงตัวเองจริงๆ….ให้ดิ้นตาย…
ไม่ต้องงงนานครับ เมื่อไอโมขยับตัวนิดเดียว แขนของสิ่งมีชีวิตตัวนึงที่ผมเริ่มชั่งน้ำหน้ามันละ..ได้เข้ามาโอบที่เอวผมแล้วทำท่าเหมือนกับจะดึงเข้าไปกอด…
ไอโมสลัดสะบัดออกทันที ด้วยนึกออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่กระผมจะหลับ…
ไอเลว ไอชั่ว ไอคนทรยศ…ฮึกก..มึงต่อยกู…(เค้าไม่ได้ต่อย)…กูจะไม่อยู่ร่วมห้องกับคนเลวร้ายจิตใจชั่วช้าอย่างมึงอีกตอ่ไป
ว่าแล้วไอโมก็ก้าวขาลุกออกจากเตียงนอนอันอ่อนนุ่ม คว้าผ้านวมแล้วก็หมอนมาถือไว้ในวงแขน..แล้วเดินกระทืบเท้าตึงๆฝ่าความมืดออกไปจากที่ ที่มีไอคนชั่วมันนอนอยู่…ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะรู้สึกตัวอะปล่าวว่าผมงอน เอ้ย โกรธมันอย่างหนักจนไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับมันแล้ว
ไอโมหอบหมอน กับผ้าห่มมาล้มตัวนอนลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น…แอร์ก็ไม่เปิดกะประท้วงแหละ..
พอหัวถึงหมอนไอโมก็คิดหล่ะครับ…ว่าจะแบ่งข้าวของกับมันยังไงดี จะเลิกกับมันแล้วนี้ครับ…
“บ้านหลังนี้ กูจะเอา…”
“รถ มันกูก็จะเอา”
“ร้านหนังสือ ร้านวีดีโอ ก็ต้องเป็นของกู…” ผมนอนคิดว่าผมกับมันมีสมบัติพัสฐานอะไรอีกบ้างจะได้แบ่งๆกันให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว..
รวมๆแล้ว…ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว…ส่วนมันให้ไปหาเอาใหม่แล้วกัน…ชิ ชิ…
“บ้านมึงรวยหนิ..หาเอาใหม่แล้วกัน หึ..กูมันจน..งั้นกูเอาหมด”
‘กริ๊ก’…ไอโมเงี่ยหูฟังสุดฤทธิ์…แบบว่าเอาผ้าห่มคลุมโปงหง่ะ…แอร์ก็ไม่เปิดรอ้นก็ร้อน ตับแทบระเบิด..งืดๆ..
‘ครืดดดดด’
เสียงครืดเบาๆ …พร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆที่พยายามก้าวเดินให้เบาที่สุด ได้เดินตรงดิ่งมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่…พอถึงตัวผมแล้วมันก็หยุด หยุดอยู่ตรงหน้าผมนี่เอง….
แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุม ผมหล่ะอยากจะรู้จริงๆว่ามันมายืนทำด๋อยอะไร…ไม่รู้รึไงว่าผมอะโกรธมันอยู่ โกรธมากด้วย…
แล้วเสียงฝีเท้าหนักๆที่พยายามเดินเบาๆ(ยังไง) ก็ได้ก้าวเดินห่างจากผมไปช้าๆ….แล้วเสียงกริ๊ก และเสียงครางฮึ่มๆเบาๆของเครื่องปรับอากาศ ตามมาด้วยเสียงครืดคราดของเจ้าประตูบานเลื่อน…
และทุกอย่างก็กลับไปสู่ความเงียบงันอีกครั้ง…
ผมยังคลุมโปงอยู่เหมือนเดิม…แต่เริ่มสบายตัวขึ้นมาบ้างแล้ว….และผมก็คิดหล่ะครับว่าพรุ่งนี้ผมจะเอายังไงกับชีวิตผมดี… ณ เวลานั้นผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถอยู่ร่วมชายคากับมันได้อีกต่อไป…
อย่ากระนั้นเลย…
ไอโมกระโดดลุกขึ้นยืน…แล้วสาวท้าวเดินไปยังโทรศัทพ์บ้านที่วางอยู่ในที่มุมห้อง…
คว้ามาถือไว้ แล้วกดหมายเลขที่ต้องการออกไปทันใดอย่างไวว่อง…..
ตรื๊ดดดดดดดด ตรื๊ดดดดดดดดดดดด
“มีรายยยยย” และแล้วหลังจากที่ผมรอให้มันมารับสายอยู่ชาติครึ่ง ไอเจ้าอ้อนตัวดีมันก็รับสายผม
“อ้อน…มึงปิดร้านยัง” ถามมันออกไปพร้อมใจที่เต้นตุ่มๆต่อมๆ
“ยัง มีไร..” ผมเหลือบมองนาฬิกาบนโทรศัพท์
เที่ยงคืน…คงใช้เวลาประมาณ 30 นาที..
“ปล่าวๆ.. รอกูที่ร้านแหละเดี๋ยวกูไปหา..” แล้วไอโมก็วางสายไปเลย…
แล้วกระผมก็กดสายโทรออกอีกครั้ง…เพื่อโทรเรียกแท๊กซี่….
แท๊กซี่บอกผมว่า..ให้ผมรอประมาณ 30 นาที ไม่เกินนี้แน่นอน…
ไอโมก็หันรีหันขวางด้วยถ้าจะไปข้างนอกในสภาพนี้มันก็อุบาทเกินไปนิด ผมเดินเร็วๆขึ้นบันไดไปอีกครั้ง ที่หมายของผมคือห้องทำงาน…ที่ห้องนี้ มีทั้งเศษเงินและก็กางเกงที่ผมพอจะใส่ได้บ้างโดยไม่อุจาดตา…
และพอผมเดินเข้าห้องทำงานไปก็เริ่มค้นตามที่ต่างๆหล่ะครับ..โบ๋เบ๋ โจ๋เจ๋..ที่ที่ผมเคยวางแบงค์ร้อย แบงค์ยี่สิบ เหรียญต่างๆไว้ ไม่มีหลงเหลือเลยซักที่…กางเกงที่ผมเคยเอามาพาดๆไว้แถวๆนี้ก็ไม่มี…
ผมช้ากว่ามันอีกแล้วครับ…ไอชั่วคิมมันได้จัดการตัดหนทางการหนีออกจากบ้านของผมไปหมดสิ้นแล้ว…มันคงรู้ไส้ผมหล่ะมั้งนะ…โกรธมันทีไรผมก็หนีออกจากบ้านไปทุกที…หลังๆไอคิมมันเอาของ ของผมไปซ่อนหมดอะ ผมก็ไม่สน เดินเก็บเศษตังค์รอบๆบ้าน แล้วหนีไป…และวันนี้มันเจือกรู้ทันเก็บกวาดตัดช่องทางการหนีออกจากบ้านของผมไปเสียสิ้น…แต่คนอย่างไอโมเหรอจะยอมแพ้ง่ายๆ…
เสียงโทรศัพท์บ้านครางขึ้นเบาๆเมื่อผมเดินคอตก เข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง….
ผมรีบยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์มาถือไว้ในมืออย่างไวว่อง
“ครับผม..”
และคนที่โทรเข้าก็คือคุณพี่แท๊กซี่ ที่ผมโทรไปตามนั้นเอง….ไอโมก็รีบวิ่งออกจากบ้านไปหล่ะครับ..คว้าได้อีแตะก็สวมเข้าไป เปิดประตูรั้ว แล้วกระโดดขึ้นรถแท๊กซี่ สีเหลืองเขียวไปอย่างด่วนๆ…
ผมนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนรถด้วยอาการประสาทแดรก…ก็นะออกจากบ้านไม่มีตังค์ซักบาทแถมยังแต่งตัวอะไรก็ไม่รู้…มันก็ต้องโหวงๆเหวงๆกันบ้างแหละ….
ประมาณ 30 นาทีโดยประมาณ…รถแท๊กซี่เหลืองเขียว ก็พาผมมาจอดอยู่หน้าร้านเช่าหนังสือการ์ตูนร้านนึง ในซอยหน้าม.ธุรกิจบัณฑิตย์..
ไฟหน้าร้านยังสว่างโร่…ผมรู้สึกใจชื้นมากมายก่ายกอง รอดตายแล้วกู…..
“รอแป๊บนะพี่ เดี๋ยวผมไปเอาตังค์กับเพื่อนแป๊บ” แท๊กซี่มองหน้าผมอย่างไม่ค่อยไว้ใจ..
“แฮะ เพื่อนผมเป็นเจ้าของร้านนี้เองครับ ถ้ายังไงพี่จะเข้าไปกับผมก็ได้นะ…”
“ไม่เป็นไร ผมรออยู่นี่แหละ เร็วๆหน่อยแล้วกัน” พี่แท๊กซี่ที่แส๊นนนนใจดีกัดฟันตอบผมหุหุ
ผมยิ้มให้พี่เค้าแหย๋ๆ แล้วเปิดประตูออกไปอย่างว่อง…
เดินแกมวิ่งไปหาคุณน้องอ้อนสุดที่รักด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม…..
“อ้อน…ยืมตังค์ 100 จ่ายค่าแท๊กซี่”
ไออ้อนมองหน้าผมแบบงงๆ แบบว่าอะไรของมึง ขณะนั้น ในร้านมัน มีน้องๆนักศึกษาลูกค้ามันยืน อยู่ 2-3 คน..พวกเค้ามองหน้าผมแล้วแอบยิ้มกันด้วยหง่ะ ฮือ…
ไออ้อนมันไม่ว่าอะไรครับ มันยื่นแบงค์ร้อยให้ผม …เฉยๆนี่แหละ..แล้วมันก็หันไปยิ้มกับลูกค้าของมันแบบร่าเริงสุดฤทธิ์ ส่วนผมได้ตังค์แล้วก็เดินแกมวิ่งกลับไปยังพี่แท๊กซี่ สุดหล่ออีกครั้ง
“ไม่ต้องทอนนะครับ ขอบคุณมากพี่”…ผมพูดอย่างใจป่ำ พร้อมกับยิ้มอย่างเท่ห์ให้พี่เค้า..
แล้วเดินเอื่อยๆ ไม่เร่งไม่รีบเข้าไปหาไออ้อนในร้าน…
ซึ่งตอนนี้ลูกค้าของมันได้ออกจากร้านไปกันหมดแล้ว…ผมลากเก้าอี้ไปนั่งลงตรงหน้าโต๊ะคิดเงินที่มันนั่งจิ้มคอมฯต๊อกๆแต๊กๆอยู่…
“ทะเลาะกับผัวอีกแล้วสิมึง” ผมที่เตรียมยิ้มประจบต้องกระชากยิ้มตัวเองกลับแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเพื่อนเลิฟพูดดังว่า..
ทำหน้างอนๆใส่มัน…
“อ๋อ จะบอกว่า ไม่ใช่ผัวอีกหล่ะสิใช่มะ หึหึ..” มันดักคอผมเฉ๊ยยยยย คนอะไรกันนี้…
“เรื่องของกู…” ผมพูดด้วยน้ำเสียงแบบมีอารมณ์เล็กๆ
“อาเหรอ…..เรื่องของมึง แต่คนที่รับกรรมคือกู…หรือมึงจะเถียง”มันทำหน้าเป็นต่อผม
“โหยยยย ใครจะกล้าเถียงมึงงงงงงงง” ผมพูดประชดมันอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งมันนะหนิ…
และนับแต่วันนั้นเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆที่ผมได้มาอาศัยหลับนอนอยู่ที่ห้องไออ้อนแถวๆ ม.ธุรกิจบัณฑิต ที่ที่มันเปิดร้านเช่าหนังสืออยู่(แต่ตอนนี้เจ้งไปแล้วหล่ะอิอิ) …
ผมไม่มีตังค์ติดตัวมาซักบาท ก็ยืมเจ๊อ้อนเค้านี่แหละครับ หลายอยู่ ก็ไอโมต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่นี้เนอะ…ไหนจะค่ารถแท๊กซี่ไปทำงานอีกหล่ะ..โหยลำบากอะ ฮือ….
บางวันไออ้อนมันก็พาผมนั่งมองน้องๆ เล่นน้ำที่สระหน้าหอพักมัน..ชื่นตาชื่นใจกันไปอิอิ……
ตลอดอาทิตย์นั้นผมอยู่กับอ้อนด้วยความสนุกสนานทุกวันกินอิ่มนอนหลับ ไปเที่ยวไปดูหนังกันแทบทุกวัน..บางวันก็นั่งแซวเด็กที่มายืมหนังสือที่ร้านมันอะแหละ..ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เจออะไรใหม่ๆ..จิตใจไอโมก็เลยเริ่มดีขึ้นไปด้วย…
ไอคิมเหมือนตายจาก ..ผมไม่ได้ข่าวคราวอะไรจากมันเลย แต่ผมคาดว่ามันคงติดต่อกับไออ้อนตลอดอะนะ…เห็นไออ้อนมันแอบคุยโทรศัพท์พูดอะไรอุบๆอิบๆ แล้วเมียงๆมองๆมาที่ผม ชิ ชิ….
คืนวันเสาร์ หลังจากที่ผมมาอยู่กับไออ้อน และอาศัยพึ่งใบบุญมันอยู่เป็นอาทิตย์…
วันนี้ผมก็นั่งเฝ้าร้านหนังสืออยู่กะไออ้อนแหละ เด็กที่ร้านกำลังส่งเมล์ให้ผมตรวจงาน ซึ่งผมก็ตรวจดูจากเครื่องไออ้อน…
กรุ่งกริ่งๆ
เสียงกระดิ่งหน้าร้านไออ้อนดังขึ้นเบาๆ…ผมเงยหน้ามอง….ก็นึกว่าเป็นลูกค้าหง่ะ…..
“อ้าว..มาแล้วเหรอมึง…ช้าชะมัดเลย…รีบๆพามันกลับไปซะที กูขี้เกียจเลี้ยงมันละ” ไออ้อนมันว่างี้อะ .ผมก็หันไปส่งค้อนให้มันหน่อย…
ไอคิมมันส่งยิ้มให้อ้อนนิดๆ.....
แล้วพยักหน้าให้ผมทีนึง..ไอโมก็นะรอเค้ามารับอยู่แล้วนิครับ...ลุกขึ้นยืนช้าๆแล้วก้าวขาเข้าไปหาไอบ้าคิมไปแบบไม่มีอิดออด
“กูไปนะ..”
“เออ ..โชคดี..อย่าให้มันหนีมาอีกหล่ะ…หึหึ”..ชิ เคืองเพื่อนแต่ขี้เกียจตอบโต้ครับ..
แบบว่าตอนนี้อยากกระโดดกอดไอคิมมากมายเลยอะแบบว่าเค้าคิดถึงคิมสุดๆไปเลยหง่ะฮือ…(แล้วทำปากดีบอกจะเลิกกับเค้าชิชิ)..
พอถึงรถไอคิมมันก็เปิดประตูให้ผม…พอผมหย่อนก้นลงนั่งไอคิมมันก็ปิดประตูตามหลัง…แป๊บเดียวมันก็เปิดประตูเข้ามานั่งข้างๆผม…
ผมกับมันนั่งกันเงียบๆอยู่บนรถแบบ ไม่รู้จะคุยอะไรกันดี…ผมก็ออกจะเขินๆหน่อยๆด้วย…อยากขอโทษมันมากมาย แต่ก็นะ…อายหง่ะ…
ไอโมเลยได้แต่นั่งก้มหน้าแบบว่าสำนึกผิด…
พอเงยหน้าไปมองไอคนขับมันหน่อยก็เห็นว่ามันกำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ไอกระผมก็ไม่กล้ากวน…แบบว่าเกรงใจ..ไม่กล้าพูดอะไรด้วย…คือเขินไง แฮะ
บรรยากาศมันแปลกๆอะครับบนรถอะ…มันดูอิลักอิเลี่ยยังไงบอกไม่ถูก…กระผมก็เลยกะจะเปลี่ยนบรรยากาศ จึงยื่นมือไปกดเครื่องเล่นเพื่อฟังเพลงหน่อย..
เสียงเพลงหวานๆค่อยๆดังขึ้นมาไอโมจึงขยับมือออกจากปุ่ม…แต่แล้วก็มีมือดียื่นมาจับมือไอโม แล้วกุมไว้ไม่ยอมปล่อย…
ผมหันหน้าไปมองหน้าไอคนใจดำที่มันไม่ยอมมารับผมกลับซะที…พร้อมกับทำหน้างอๆใส่มันแก้เขินด้วย…
ไอคิมแม่มตาวาวเลยทีเดียวเชียวแหละ…มันคงหายโกรธผมแล้วหล่ะมั้งนะ ผมคิดว่า..ขนาดผมที่โกรธมันมากมายถึงกับจะเลิกกับมันยังหายไม่มีเหลือเลยหนิ…
ตอนนี้รู้แต่ว่าอยากจูบปากแดงๆที่ยิ้มนิดๆนี่จังเลยครับ….(เขินๆ)…
หรือว่าผมจะทำหน้าตาให้มันจับได้รึเปล่าก็ไม่รู้ว่าผม..แอบคิดลามกจกเปรตกับมันอยู่ ไอคิมมัน..หลี่ตามองผม แล้วหักพวงมาลัยรถขวับเข้าข้างทางทันทีทันใดเลยหง่ะ…
“ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง”
ไอคิมบ้ามันชะโงกหน้าเข้ามาหาผม แขนข้างนึงมันค่ำไว้ที่พนักที่นั่ง ส่วนมืออีกข้างมันก็ยื่นมาดึงจมูกผมเล่น…
“แบบไหน..ใครทำ” ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้…แอ๊บแบ๊วสุดฤทธิ์ ประมาณว่าเขิน อิอิ..
“ออเหรอออ..” มันทำเสียงยานครางล้อเลียนไอโมด้วยหง่ะ
ไอคิมมันมองผมตาวาว แล้วก้มหน้าลงมาจุ๊บเบาๆที่แก้มผมด้วย…เว้ย ตายเลย ตายเลย ไอโมทำตัวไม่ถูกเลยอะ…มาจุ๊บแก้มเค้าได้ไงหง่ะ ฮือ…อายอะอาย อายๆๆๆๆๆ…
“หายงอนเรารึยัง…” ไอคิมมันถามผมเสียงนิ่งๆแต่ตาหวานมากมาย…มือมันก็ยังจับนั่นดึงนี้บนหน้าผมไปเรื่อย…
“ไม่ได้งอน..” ผมตอบอุบอิบก้มหน้า หลบตาสุดฤทธิ์
แบบกูเขินนะเว้ยอย่าทำหวานๆกะกูได้ปะ กูทำตัวไม่ถูก อยากตะโกนบอกมันเสียเหลือเกิน..กาซิก กาซิก..
“จะให้เชื่อไหม” มันถามปากชิดแก้มผม
“แล้วแต่” ยิ่งก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิมซะอีก (โอ้ย ไอเลว มึงทำบ้าไรเนี่ยะ กูเขิน)
“เชื่อก็ได้…” ไอคิมมันพูดง่ายๆ แต่ปากกับจมูกของมันอะคลอเคลียอยู่กับแก้มผมไม่ยอมห่างเลยหง่ะ ฮือ…
ขนลุกซุ่ๆเลยอะไอโมอะ..กาซิก กาซิก..กูจะตายไหมวะวันนี้…หน้าไอโมร้อนผ่าวๆ…กัดปากตัวเองไว้แน่นตัวเกร็งสุดฤทธิ์..
“งั้น..นายมีอะไรจะพูดกับเราไหม…”
ไอโมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองสบตากับมันด้วยอยากจะรู้ว่า..มันหมายความว่าไง…มันมองผมอย่างรอคอย..นิ้วหัวแม่มือมันขยับมาเกลี่ยเบาๆที่ริมฝีปากผม..
ไอคิมมันจ้องเป๋งมาที่ปากของผม มันมองอย่างรอคอย รอเพื่อให้ผมพูดบางสิ่งบางอย่างออกมา…
“เอ่อ…ระ..เรา.. “ ผมพูดตะกุกตะกัก
“เรา…ขอโทษ..” ในที่สุดผมก็พุดออกมาจนได้…
คราวนี้ไอคิมมันยิ้มทั้งปากและตาของมันเลยเชียวหล่ะ…มันดึงหน้าผมเข้าไปหามันพร้อมกับที่มันฉกริมฝีปากลงมาประกบกับริมฝีปากผมอย่างหมั่นเขี้ยว…
เป็นจูบที่หวานซึ้งตรึงใจดีเสียเหลือเกินครับ…
“เมียใครนะน่ารักจริง..ถึงบ้านก่อนจะให้รางวัลอย่างงาม หึหึ” มันจูบผมจนอิ่มหนำมันก็ขยับริมฝีปากมากระซิบเสียงกระเส่าอยู่กับใบหู…
ไอโมหล่ะสยิวกิ้วจริงๆเลยครับ….คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ บทจะร้ายก็ร้ายซะจนผมสยอง บทจะหวาน ก็หวานซะจนผมไปไม่เป็นเลย ...........เขินๆๆๆ……
เห็นไหมหล่ะครับว่าไอคิมอะ มันงี่เง่า อิอิ................นี้แหละครับ โม คิม ของจริง ไม่รู้เป็นไง โกรธกันไม่เคยได้นานเลย................อาจจะเพราะผมโกรธง่ายหายเร็ว(มั้งนะ) ส่วนไอคิม มันก็ไม่ค่อยถือสาผมเท่าไหร่หรอกครับ มันบอกมัวแต่ถือสาหาความกะผมมีหวังชาตินี้คงไม่มีวันอยู่อย่างสุขสงบมันว่าเงี่ยะ
...............พูดงี้..........แน่จริงมึงเลิกกะกูไหมหล่ะ โด่เอ้ยยยยยยยยย.............................
***********เป็นอันว่าจบ**********
