กิจวัตรประจำวันผมไม่มีอะไรมาก ตื่นแต่เช้ามืดออกไปวิ่งและไปกินข้าวบ้านลุงชิดสายหน่อยก็ไปรายงานตัวกับเจ้าลูกลิงที่ต้องหอมแก้มเขาก่อนไปโรงเรียนก่อนจะเข้าไปสำนักงานเคลียร์บิลตอนเช้า ส่วนสายหน่อยก็เข้าไร่ไปกับคนงาน ผู้คนที่นี่ทำให้ผมอุ่นใจเหมือนอยู่บ้านทั้งใจดีและอบอุ่น
“คุณวาเจ้า พ่อเลี้ยงเปิ้นเอิ้นนะเจ้า” หือ นิ่งคิดคำแปลบางคนที่นี่ไม่พูดภาษากลางซึ่งทำให้ผมงงเป็นบางคำ มือที่กำลังเก็บองุ่นหยุดก่อนที่จะวางตระกร้ากรรไกร แล้วเดินไปที่รถโฟร์วิลที่จอดอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
“คุณลมมีอะไรเหรอครับ”
“นายไม่มีโทรศัพท์หรือไง” ร่างใหญ่ได้แต่ถอนหายใจเมื่อเขาตามหาผู้ช่วยที่ต้องตะเวรตามถามทุกคนในไร่ กว่าจะเจอ
“ผมยังไม่ชื้อเลยนะครับ มีงานด่วนเหรอครับ”
“ขึ้นรถไปกับชั้น ไอ้ลูกลิงมีปัญหา” เท่านั้นล่ะ ร่างบางรีบเปิดประตูขึ้นรถโดยทันที่ ตั้งแต่มาที่นี่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ลงมาในเมือง คุณลมขับรถด้วยความเร็วที่ผมต้องกำสายเบลล์แน่น ตลอดการลงเขาเหมือนขึ้นรถไฟฟ้าเหาะ เขาได้เกร็งไปตลอดทางจนถึงโรงเรียนใหญ่ในตัวอำเภอ คุณลมก็รีบเดินลงจากรถ เขาได้แต่รีบวิ่งตาม ทำไมเดินเร็วอย่างนี้นะ ได้แต่อนาทใจที่ตัวเองขาสั้นได้แต่วิ่งตามทั้งที่อีกคนแค่เดินเร็ว
“พ่อลม!!! ฮืออออออออออออออ” ทันทีที่คุณเปิดประตูห้องพักครูเข้าไป ร่างป้อมก็พุ่งเข้ามากอดแน่นก่อนที่จะร้องไห้โฮ
“เกิดอะไรขึ้นครับครู”
“เอ่อ...... เดี๋ยวรอผู้ปกครองอีกคนก่อนนะครับ” คุณครูมีท่าทีลำบากใจเมื่อมองไปยังเด็กอีกคนที่ริมฝีปากเล็กยังมีรอยช้ำอยู่เลย เจ้าตัวป้อมยังคงร้องไห้โฮอยู่บนบ่าคุณลม ซักพักแม่ของเด็กอีกคนก็เดินเข้ามา เสียงรองเท้าสั้นสูงที่ดังกระแทกพื้นทำให้เดาได้ไม่อยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“เกิดอะไรกับลูกชั้น ไหนลูกไอ้อีที่ไหนกล้ามาต่อยหน้าลูกชายฉัน” ร่างเพรียวในชุดสีแดงแจ๊ด
“เอ่อ....คุณแม่ครับใจเย็นๆก่อนนะครับ”
“หุบปาก จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” เสียงแว้ดๆ ลั่นห้องพักครู ทำให้ผมปวดหูจริงๆ ผมเลยเดินไปสะกิดไหล่กว้าง
“เดี๋ยวให้น้องไปอยู่ข้างนอกกับผมดีกว่าครับ” อยู่ในนี้ก็มีแต่จะทำให้น้ำร้องไห้หนักยิ่งขึ้น ยิ่งคุณแม่ตะโกนเสียงดัง น้ำยิ่งร้องไห้เพราะตกใจ คุณลมมองหน้าผมนิ่งก่อนจะพยักหน้า
“น้องน้ำครับ คนเก่งไปกับพี่วาก่อนนะ” ผมกล่อมเด็กน้อยที่ยังร้องไห้จ้าอยู่บนไหล่พ่อ เจ้าตัวป้อมเงยหน้ามองผม ดวงตากลมโตที่ตอนนี้แดงก่ำ แก้มป่องเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ผมรู้สึกสงสารน้องจริงๆ น้ำโผเข้าหาผมก่อนทีจะคอผมแน่น ร้องไห้ต่อ ผมเดินหนีออกจากห้อง ยังได้ยินเสียงแว้ดๆตามหลังมา
“นี่ไอ้เด็กนั่นใช่ไหมที่ต่อยหน้าลูกชายฉัน” ลมมองคนที่โวยวายนิ่ง คุณครูประจำชั้นทำสีหน้าหนักใจ
“เกิดอะไรขึ้นครับครู” ผมเลิกสนใจคนที่ยังๆตะโกนเร่าๆตั้งแต่เข้ามายังไม่เห็นเดินเข้าไปหาลูกซักครั้งนี่เหรอคนเป็นแม่คน
“คือว่าน้องตะวันกับน้องน้ำทะเลาะกัน จนน้องน้ำต่อยน้องตะวันก็เป็นอย่างที่เห็นล่ะครับ” ลมหันไปมองเด็กน้อยที่ยังนั่งก้มหน้าอยู่ เจอหมัดไอ้ลูกลิงนี่คงจะเจ็บหนักเห็นอย่างนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่อเลี้ยงไร่สายลมนะ
“เห็นไหมไอ้เด็กอันตพาลนั่นทำร้ายลูกฉันก่อน”
“ช่วยเงียบๆซักทีได้ไหม” น่ารำคาญจริงๆ “ ต้นเหตุล่ะครับ”
“คือ น้องตะวันว่าน้องน้ำว่าลูกไม่มีแม่นะครับ” ยิ่งพูดเสียงคุณครูยิ่งแผ่ว ตาคมตะวัดไปมองคนแม่ที่เงียบกริบ
“คือเกิดเรื่องแบบนี้ผมจะเรียกผู้ปกครองมาให้รับทราบพฤติกรรมก่อนนะครับ”
“ไอ้เด็กนั่นจะต้องมาขอโทษลูกฉัน”
“ช่วยหุบปากซักที แล้วหันไปดูลูกตัวเองซะแหกปากอยู่ได้ ลูกเจ็บตัว ตั้งแต่คุณเข้ามาก็มาแว้ดๆ ทำอย่างกับที่นี่เป็นตลาดสด หันไปดูลูกก่อนดีไหม” คนอย่างพ่อเลี้ยงลมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายครอบครัวเขาหรอกนะ
“กะ....แกคิดว่าแกเป็นใคร”
“เป็นคนที่มีการศึกษาพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ถ้าคุณต้องการให้ลูกผมขอโทษลูกคุณก็ต้องขอโทษลูกผมก่อน ลูกคุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าลูกผมว่าลูกไม่มีแม่ผมจะไม่ยอมจบเรื่องเหมือนกัน” เสียงเย็นนั่นทำให้ทั้งห้องรู้สึกเย็นยะเยือก
“พ่อเลี้ยงครับใจเย็นๆก่อนนะครับ” ครูได้แต่เหงื่อตกแต่ในใจนี่เย็นเฉียบ
“พ่อเลี้ยง??” เธอได้แต่เหงือตอนี่เธอไปงัดข้อกับใครหรือเปล่า ตอนที่โรงเรียนโทรมาเธอได้แต่คิดว่าต้องเอาเรื่องคนทีต่อยลูกเธอ เธอคนที่เป็นเมียของปลัดอำเภอใครก็ต้องเกรงใจ
“เอ่อนี่พ่อเลี้ยงลม ไร่สายลมครับ” เธอได้แต่อ้าปากค้าง พ่อเลี้ยงลมคนทั้งจังหวัดต่างรักและเกรงใจนับภาษาอะไรกับแค่ปลัดอำเภอที่เวลาเจอยังต้องให้เกียรติพ่อเลี้ยงคนนี้เลย
“เอ่อ......ดิฉันต้องขอโทษพ่อเลี้ยงด้วยนะคะ” เธอได้แต่พูดเสียงเบา ไม่กล้าสบตาคมคนตรงหน้า “ตะวันมาขอโทษพ่อเลี้ยงสิ”
“ช่างเถอะ” เขาได้แต่สงสารเด็กน้อยที่โดนตวาดใส่ทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บไม่เบา
“เดี๋ยวผมไปตามน้ำก่อน” ลมบอกก่อนที่จะเดินออกมาตามหาผู้ช่วยและลูกชายตัวแสบของเขา เขาเดินตามหาเห็นแผ่นหลังที่นั่งโยกกล่อมลูกน้อยของเขา
“อึก พี่วาทำไมเขาต้องว่าน้ำด้วย ทำไมต้องว่าน้ำว่าไม่มีแม่ แม่ไม่รักน้ำเหรอครับ ฮือ” เขาได้ยินเสียงงุ้งงิ้งของลูกชายที่ยังสะอึกสะอื้นอยู่ในกอดของผู้ช่วยเขา
“ไม่ครับน้องน้ำ คุณแม่น้องน้ำรักน้องน้ำแน่นอนครับ ไม่คิดอย่างนี้นะครับ” วาเขาไม่รู้เรื่องครอบครัวของเจ้านาย เพียงแต่เขารู้สึกสงสารคนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเหลือเกิน
“ฮือออไม่มีใครรักน้ำ”
“ไม่คิดอย่างนั้นนะครับคนเก่ง ใครว่าไม่มีใครรัก พ่อลมก็รักน้ำ อาไม้ ลุงชิด พี่ๆในไร่รักน้ำกันทุกคนนะครับ พี่วาก็เหมือนกัน พี่วาก็รักน้องน้ำนะ พูดแบบนี้พี่วาเสียใจนะครับ”
“น้ำขอโทษ”เจ้าตัวป้อมกล่าวขอโทษเสียงอ่อยๆ ผมยิ้ม
“แต่น้องน้ำไม่ควรจะทำร้ายเพื่อนอย่างนั้นนะครับ”
“ก็ตะวัน...” ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบาลง
“น้องน้ำก็ไม่ควรทำร้ายเพื่อนนะครับ เพื่อนเจ็บตัวน้องน้ำเสียใจไหมครับ” ผมก้มหน้าลงถามเจ้าตัวป้อม
“เสียใจครับ”
“งั้นไอ้ลูกลิงไปขอโทษเพื่อนเค้าซะ” ผมรีบหันไปมอง ก็เจ้านายเขามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนที่จะเดินมานั่งลงข้างๆแล้วลูบหัวทุยเบาๆ ก่อนที่เจ้าตัวป้อมจะให้พ่ออุ้ม คุณลมอุ้มพาน้องน้ำกลับเข้าไปข้างใน ที่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่เขาอุ้มน้องน้ำออกไป
“น้ำ ตะวันขอโทษ” ทันทีที่ปล่อยทั้งสองเจอหน้ากันตะวันก็ขอโทษน้ำ
“น้ำก็ขอโทษตะวันนะ” และทั้งสองคนก็คืนดีกันง่ายๆ คุณลมเลยพาเจ้าตัวป้อมกลับก่อนที่โรงเรียนจะเลิก หลังจากที่ขึ้นรถมาน้องน้ำก็เอาแต่กอดเอวผมแน่นเรียกได้ว่าเป็นลูกลิงจริงๆ สงสัยว่าร้องจนเหนื่อยตอนนี้ลิงหลับไปแล้ว จนรถจอดที่หน้าบ้าน ตอนนี้ขาผมเริ่มชานิดๆแล้ว น้ำหนักเจ้าน้ำน้อยซะที่ไหนล่ะ คุณลมเปิดประตูลงจากรถก่อนที่จะเดินอ้อมมาฝั่งผม
“เดี๋ยวฉันอุ้มลงไปเอง” คุณลมสอดมือใหญ่มาอุ้มน้ำออกจากตัก สัมผัสจากมือหนาที่ถูกต้นขาทำให้เขาเกร็งในทันที
ลมรู้สึกแปลกใจเมื่อทันทีทีเขาโดนขาเจ้าตัวเหมือนจะเกร็งจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นมอง แก้มขาวมีสีระเรือชวนมองทำให้เขาต้องเผลอมองเพลินจนวาต้องเตือน เขาอุ้มเจ้าลูกลิงเข้าบ้านโดยผู้ช่วยตัวเล็กเดินตามมา ผมวางน้ำลงที่เตียงลายเบ็นเท็น วาหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถือเอากาละมังเล็กกับผ้าขนหนู ผมหลีกให้คนที่ดูเหมือนจะคล่องกว่าผมเช็ดตัวให้ ถึงผมจะเลี้ยงน้ำเพราะแม่เจ้าน้ำทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็กผมกับเจ้าไม้ช่วยกันเลี้ยง โดยมีผู้ช่วยมือหนึ่งคือเมียลุงชิดป้าแย้มคอยช่วย พ่อกับแม่ผมเสียไปก่อนที่น้ำจะเกิดไม่นาน ผมกับไม้ช่วยกันดูแลไร่จนตอนนี้ขยับขยายจากที่เป็นเพียงไร่เล็กๆจนกลายเป็นไร่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เจ้าน้ำเป็นของขวัญที่ล้ำค่า เป็นแรงผลักดันให้ผมเป็นกำลังใจ เห็นผมกับไอ้ไม้เลี้ยงมาแบบนี้แต่นี่คือดวงใจไร่สายลม ผมมองคนที่ค่อยๆเช็ดเนื้อเช็ดตัวน้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมได้ยินเสียงรถอยู่หน้าบ้านเลยลงไป ปล่อยให้พี่สุดที่รักเจ้าน้ำดูแลไป แปลกที่ผมไว้ใจวาง่ายๆ
“คุณลมขา ปรุงมาชวนไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” ผมถอนหายใจแรง ตั้งแต่ที่ผมกับไม้ทำไร่ให้ใหญ่โตพวกผู้หญิงพวกนี้ก็พยายามเข้ามาวุ่นวายกับผม ไอ้ไม้นะเหรอแม่งเอาตัวรอดไหลอย่างกับปลาไหลมันไม่ยอมออกไปนอกไร่ซักครั้งนอกจากซื้อข้าว ตอนปกติก็โน้นฝังตัวอยู่ในโรงงาน พวกผู้หญิงเลยเล็งมาที่ผมไง กูเหนื่อยยยยย จะบ้าตาย
“ผมไม่ว่างต้องขอโทษด้วย”
“เอ๊ะ ปรุงมาชวนคุณทุกครั้งคุณก็บอกว่าไม่ว่าง วันนี้คุณพ่อก็มาทานข้าวด้วยนะคะ” ผมได้แต่กลอกตา พ่อคุณเธอมาแล้วยังไง เป็นแค่เสี่ยแก่ๆคนหนึ่งที่พยายามมาชื้อไร่แต่ผมไม่ขาย เลยใช้แผนลูกสาว ซึ่งลูกสาวก็ดันเป็นใจด้วยนะสิ
“ไม่ครับ”
“คุณลม คุณจะหักหน้าปรุงเกินไปแล้วนะ”
“เรื่องของคุณสิ ผมไม่ได้อย่างให้คุณมาวุ่นวายกับผมหรือไร่ของผมอยู่แล้ว” ผมตอกกลับ เรื่องมากจริงๆ ปิดประตูหน้าบ้านไม่สนใจเสียงกรี๊ดที่ดังลั่นหนวกหูจริงๆ ทรุดตัวนั่งที่โซฟาก่อนที่จะปิดตาลง วันนี้เหนื่อยจริงๆ
“คุณลมทานอะไรหน่อยไหมครับ” วาที่เดินลงมาหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าน้ำเสร็จ ได้ยินเสียงกรี๊ดเหมือนมีใครมาขอส่วนบุญเลยคิดจะลงมาดู ก่อนที่จะเห็นเจ้านายในสภาพเหนื่อยล้า เหมือนตอนพี่โยเหนื่อยหลังกลับมาจากไร่เลย ตอนออกจากไร่ก็ก่อนเที่ยงตอนนี้ก็บ่ายสองแล้ว
“ก็ดีเหมือนกัน”
“งั้นรอแปบนะครับ” อาหารอร่อยๆช่วยให้ดีขึ้น ผมเดินเข้าครัวทำข้าวผัดผักรวมง่ายๆกับผัดผักเพิ่มอีกอย่าง ตอนเย็นค่อยคิดว่าจะทำอะไรล่ะกัน
“คุณลมทานข้าวครับ” ผมเรียกคนที่ยังพิงโซฟาหลับ คุณลมลุกเข้าห้องน้ำก่อนที่จะออกมาในสภาพที่หัวเปียกแล้วเดินมาที่โต๊ะกินข้าว คนคนนี้ ได้แต่ส่ายหัวก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าขนหนูหน้าบ้าน มายืนให้
“ขอบคุณ” รับไปขยี้สองสามทีก่อนที่จะพาดไว้ที่เก้าอี้ก่อนจะเริ่มกินข้าว ซึ่งผมก็กินเงียบๆ
“ไม่ถามอะไรเหรอ” ผมเงยหน้าจากข้าวก่อนที่จะส่ายหน้า ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเข้าไปยุ่ง มันเป็นปัญหาส่วนตัวของเจ้านายตัวเอง
“ฉันจะให้โทรศัพท์อีกเครื่องไปใช้นะ หาตัวนายนี่ลำบากจริงๆ” ลมว่าผู้ช่วยเขาเข้าไร่ทีไรเหมือนหายตัว กว่าจะเจอก็โน้นมาทำข้าวเย็นให้
“อ่า ครับ”
“ไม่คิดจะติดต่อกลับบ้านเหรอ” มือเรียวชะงักก่อนจะตักข้าวเข้าปากไม่ตอบคำถามใดๆ
“พรุ่งนี้วันหยุดนายจะไปไหนไหม”
“ไม่ครับ”
“งั้นไปกับฉัน” พูดเออออเสร็จสรรพ ก่อนที่จะกินข้าวไม่สนใจว่าเขาจะปฎิเสษไหม เออเอาเถอะไงก็ว่าง กินข้าวเสร็จคุณลมก็ไปล้างจานเหมือนเคย ผมที่คิดว่าจะหนีเข้าไร่ไปเก็บองุ่นช่วยคนงานต่อก็ต้องพับแผนเมื่อคุณลมบอกจะพาผมไปที่หลังไร่
“แล้วน้ำล่ะครับ” ผมถาม
“ไอ้ไม้กลับมาแล้ว ไปกันเถอะจะได้กลับมาทันทำข้าวเย็น” ว่าแล้วก็เดินดุ่มๆไม่รอผม อีกแล้ว เห็นใจหน่อยได้ไหม ขาผมสั้นตามไม่ทันเว้ยยยยยย
รถใหญ่คันเดิมวิ่งเรียบตามรั้วลวดหนามถนนขรุขระที่ทำให้เขาหัวโยกหัวคอน อ่าข้าวผัดจะรอดไหม เหมือนคนขับจะสังเกตได้เลยค่อยๆขับ คุณลมนี่ตีนผีจริงๆ ขับมาไกลจนผมคิดว่ามันไกลกว่าตอนที่เข้าเมืองด้วยซ้ำ ยิ่งเข้าใกล้ท้ายไร่ ยิ่งเห็นความเป็นธรรมชาติที่ยังเหลืออยู่ ต้นไม้ใหญ่สีเขียวอากาศที่บริสุทธิ์กว่าที่ไร่ นั่นทำให้ผมถึงกับยิ้ม รถจอดใต้ต้นจามจุรีใหญ่
“ที่นี่ท้ายไร่เหรอครับ” เขาถามด้วยความแปลกใจก็มันเหมือนเป็นอุทยานป่าไม้ ต้นไม้ใหญ่สูงไล่ระดับ แสงแดดที่ลอดลงมานั้นแทบไม่ทำให้รู้สึกร้อนเลยซักนิด เหมือนเขาจะได้ยินเสียงน้ำไกลๆ
“ใช่ ฉันไม่ขยายไร่มาถึงตรงนี้ ตามมาสิ” คุณลมเดินนำผมรีบวิ่งตาม ยิ่งเดินลึกยิ่งได้ยินเสียงน้ำชัดขึ้น ภาพที่ผมเห็นเหมือนภาพวาดเลยจริงๆ ลำธารเล็กที่มีฝายกั้น แสงแดดอ่อนนั่นทำให้ภาพที่เห็นเหมือนมีมนต์เสน่ห์
ลมมองคนข้างๆที่เหมือนจะตกหลุมรักที่นี่เข้าให้แล้ว เพราะรอยยิ้มกว้างกับดวงตาที่เป็นประกาย ที่นี่เขาปล่อยให้เป็นป่าธรรมชาติ ไม่มีการตัดไม้ดูแลให้ความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก
“เล่นน้ำไหม”
“แต่ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน” กว่าจะกลับถึงไร่เขาคงไม่สบายก่อน
“ในรถมี”
“งั้นเล่นครับ” เขาหันไปยิ้มกว้างก่อนจะถอดรองเท้า เรียบร้อยก่อนที่จะกระโดดลงน้ำเย็นช่ำ ลมยิ้มให้กับอาการเด็กๆนั้นก่อนที่จะเดินไปนั่งที่พื้นหินไม่ลงไปเล่นด้วย
“คุณลมไม่เล่นเหรอครับ” วาที่ดำผุดดำว่ายถาม
“ไม่ล่ะ ว่ายน้ำเก่งนะ”
“พี่โยสอนว่ายตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ” เป็นครั้งแรกที่คนตัวเล็กเล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาฟังถึงจะเป็นการหลุดออกมาก็เถอะ เขานั่งมองคนที่เล่นน้ำ รอยยิ้มแต้มใบหน้านั่นยิ่งทำให้ผู้ช่วย ยิ่งมองทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามันน่ารัก
หือ
น่ารัก
น่ารัก!!???
มึงต้องบ้าแน่ๆไอ้ลม ทำไมมองผู้ชายว่าน่ารักได้วะ ลมได้แต่สะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดบ้าๆ แต่เมื่อมองไปที่ผู้ช่วย อืม......ก็น่ารักจริงๆนะ
ปล.
ไม้กลับมาถึงบ้านยังไม่ทันที่รถจะจอดดี เขาก็เห็นพี่ชายสุดที่รักขับรถออกไปกับผู้ช่วยคนสวย จะไปไหนกัน เขาเดินเข้าบ้านขึ้นไปดูไอ้ลิงแสบ เขาตกใจเมื่อพี่ชายโทรไปบอกว่าเจ้าน้ำไปต่อยหน้าเพื่อน พอรู้เหตุผลเขายิ่งสงสารหลาน ก่อนที่จะเดินลงมาข้างล่างก่อนที่จะเห็นโน้ตเล็กๆหน้าตู้เย็น บอกว่าจะไปท้ายไร่ หือ!!!???? พี่เขาพาผู้ช่วยคนน่ารักไปท้ายไร่ โอ้ววววววพระสงฆ์ พายุจะเข้าไร่หรือเปล่า ท้ายไร่ไม่ใช่ใครจะไปได้ แต่พี่เขากับพาผู้ช่วยคนน่ารักไป
แหมๆๆ
จะเกิดอะไรสนุกๆไหมน้า ไม้คิด
****************************************************************
ฮือออออขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ

เป็นแรงใจที่ดีมากเลย ดีใจที่มีคนชอบเรื่องนี้นะคะ
เรื่องนี้จะออกแนวอบอุ่นหัวใจ ดราม่าไม่มาก (เหรอ)
ยังไงก็ฝากตามต่อด้วยนะคะ