ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561  (อ่าน 84984 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
รู้สึกชอบวาจังเลย น่ารักมากๆ
 :man1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เอาอีกๆ

อ่านไม่เคยพอเลย

ตอนนี้ความรู้สึกเริ่มชัดเจนมากขึ้น


ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ

รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
เป็นกลจ.ให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ให้ตายเถอะทำไมเขาถึงลืมคิดไปว่าเวลานอนเขาต้องนอนกับคนตัวโต แล้วไอ้อาการขัดเขินเมื่อตอนเย็นยังไม่เท่าตอนนี้เลยให้ตายเหอะ เขาพยายามไม่สบตากับคนที่ตอนนี้นอนเอกเขนกที่เตียงกว้าง เขาเดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง พยามให้ความสนใจกับการเช็ดผม แต่เขาก็รู้สึกเหมือนโดนจ้องอยู่ตลอด
   “จะเช็ดผมจนมันร่วงรึไงวา”
   “พี่ลมง่วงก็นอนไปก่อนเลยครับ” บรรยากศตอนนี้ทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วน มันทำให้เขาทำอะไรรู้สึกเก้ๆกังๆ เขาเหมือนจะรู้แล้วว่า ไอ้คำว่า “รุก” ที่พี่ไม้พูดมันหมายความว่าอะไร
   “พี่ยังไม่ง่วงแต่พรุ่งนี้วาต้องตื่นแต่เช้าไม่ใช่เหรอ ต้องลงไปทำกับข้าวแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” ทำไมเขารู้สึกว่าเสียงมันใกล้เขาอย่างนี้ล่ะ ก่อนที่เขาจะหันไปมือใหญ่ก็คว้าเอาผ้าขนหนูมาซับผมนิ่มอย่างเบามือ ร่างบางได้แต่นั่งหลังตรงแน่ว
   “แห้งแล้วไปนอนได้แล้วครับ” เหมือนคนตัวโตจะสนุกเมื่อเห็นปฏิกิริยา มือไม้พันกัน แต่ก็ไม่ได้พูดแซวมากกว่านี้เพราะไม่งั้นร่างบางคงจะไม่นอนซักที เขาเลยเดินเข้าห้องน้ำไป
   วามองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าห้องน้ำไปเขารีบเดินเอาผ้าขนหนูไปตากก่อนที่จะกระโดดขึ้นเตียงก่อนที่จะคลุมถึงคอแล้วแกล้งหลับ ซักพักเขาก็ได้ยินเสียงเท้าเดินเข้ามาพร้อมกับเตียงที่ยวบลง ก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าผ้าห่มอีกฝั่งดูดึงขึ้น เขาเผลอเกร็งตัว ขยับตัวนิดหน่อยก่อนที่เขาจะผ่อนคลายแล้วก็หลับสนิท
   ลมมองคนที่นอนหันหลังให้ที่ตอนนี้หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ดูเหมือนจะหลับสนิทไปแล้วสินะ เขาขยับเข้าไปใกล้ก่อนที่จะรั้งคนที่นอนสนิทเข้ามากอด เหมือนเป็นความพอดี ถ้าไอ้ไม้มาเห็นเขาตอนนี้คงบอกว่าเขาบ้าที่นอนยิ้ม เขาที่กำลังจะนอนหลับไปคนในอ้อมกอดก็พลิกตัวกลับมา ขยับหาที่สบายๆก่อนที่จะซบลงที่อกเขา ให้ตายเหอะเขาจะนอนหลับได้ไหม ได้แต่ข่มตาหลับพร้อมกับคนในอ้อมแขน

   “พี่กับน้ำไปก่อนนะ อย่ามัวแต่เขินพี่ลมจนโดนเอาเปรียบล่ะ”
   “พี่ไม้!!!” เขาได้แต่เรียกชื่อคนที่แซวเขา ก่อนที่จะก้มลงไปกอดน้ำและหอมแก้มยุ้ยทั้งสองข้าง
   “โอ๋ๆเดี๋ยวน้ำจะจัดการอาไม้ให้น้า”
   ฟอด ฟอด
   “ครับ เอาให้หนักๆเลยนะ” เขากระซิบบอกซึ่งเจ้าลูกหมูก็พยักหน้าหนักแน่น เขายิ้มปล่อยให้อาหลานไปทะเลาะกันเอง  ส่วนเขาก็เดินกลับเข้าครัวไปเก็บทำความสะอาดก่อนที่จะขึ้นไปอาบน้ำ ก็จะไม่ให้เขาเขินได้ไงล่ะ เมื่อเช้านี้เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็เจอกับอกกว้างๆ ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ก่อนที่เขาจะค่อยไล่สายตาขึ้นไปมองใบหน้าคมเข้มที่ยังหลับสนิท ไรหนวดจางๆบนคางได้รูป และแขนแกร่งที่โอบกอดเขาไว้อีก  คิดดูสิว่าเขาจะรู้สึกอายแค่ไหน แถมตอนที่เขาจะลุก พี่ลมตื่นขึ้นมาพอดีรอยยิ้มกว้างนั่นยิ่งทำให้เขาเขินหนักกว่าเดิม เลยได้แต่ขอร้องให้อีกคนปล่อยมือก่อนที่เขาจะวิ่งลงไปข้างล่าง แถมยังได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มตามหลังมาอีก ใช่สิ เห็นเขาลนแล้วสนุกมากเลยสินะ ยังดีที่อีกคนปล่อยให้เขาหายใจหายคอ เพราะตอนเช้าก็เข้าไปในไร่ บอกเพียงจะเข้ามาสายๆ เขาเลยมีเวลาพักหายใจหายคอ  มือเรียวหมุนก๊อกน้ำก่อนที่จะหยิบเอาผ้าขนหนูมาซับน้ำตามตัวก่อนที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำ
   “อ่าวเสร็จแล้วเหรอ พี่กำลังจะเรียกพอดี”
   “ครับ พี่ลมจะไปแล้วเหรอครับ”
   “อืม เดี๋ยวลงไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ” เขาพยักหน้าก่อนที่จะหยิบกระเป๋าลงไปรอข้างล่าง
   ซักพักพี่ลมที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินถือซองเอกสารลงมา ผมเลยลุกเดินตามไป
   “พี่ลมเดี๋ยวนะครับ” เขาเรียกอีกคนไว้ ก่อนที่เขย่งตัวจัดปกเสื้อที่ยังไม่เข้าที่ “เรียบร้อยแล้วครับ”
   “ขอบคุณนะ” เขายิ้มตอบก่อนที่จะหยิบรองเท้ามาใส่บ้าง 
   “พี่ลมจะส่งผมที่โรงพยาบาลหรือพี่จะลงไปด้วยครับ” เขาหันไปถามคนที่ขับรถพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย อารมณ์ดีจริงๆ
   “เดี๋ยวพี่ลงไปด้วยดีกว่านะ”
   “งั้นผมก็ต้องไปธนาคารกับพี่ด้วยนะสิ”
   “ใช่”
   “มันไม่เกี่ยวกับผมไม่ใช่เหรอ” เขาได้แต่ทำหน้างงๆ ให้อีกคนขำ
   “เกี่ยวอยู่แล้วทำไมวาจะไม่เกี่ยวล่ะ” เขารีบหลบสายตาที่สื่อความหมายมากมาย
   “พี่ลมหมายความว่าไง...ครับ”
   “เอาไว้พี่มั่นใจว่าวาพร้อมที่จะฟังพี่พี่จะบอกละกันนะ”  อันนี้เขาเห็นด้วย ตอนนี้ถึงเขาจะรับรู้แต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะฟัง หัวใจเขายังแข็งแรงไม่พอ เกิดได้ยินไปเขาหัวใจวายขึ้นมาจะทำไง และก็เงียบไปตลอดทาง
   มาถึงโรงพยาบาล  คุณหมอก็ดูแผลให้ก่อนที่จะบอกว่าผมดูแลได้ดีมาก ถึงจะเป็นรอยแผลเป็นแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไรเพราะยังไงมันก็อยู่โคนขาไม่มีใครมาเห็นอยู่แล้ว หลังจากตัดไหม พี่ลมก็พาผมไปที่ธนาคารเพื่อยืนเรื่องของกู้เพื่อมาขยายพื้นที่ไร่และโรงงานที่จะเปลี่ยนเป็นโรงงานแปรรูปเต็มตัว
   “งั้นพ่อเลี้ยงเซ็นต์ตรงนี้นะครับ”
   “ครับ” พี่ลมตวัดปากกาก่อนที่พนักงานธนาคารจะตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่บอกว่าเงินก้อนนี้จะเข้าทันที่เมื่อทางผู้ตรวจสอบอนุมัติ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเราสองคนกู้ไม่มากแต่หลักทรัพย์ประกันของทางเรามีมูลค่าและความมั่นคงสูง ไม่น่าจะมีปัญหา
   “เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อยๆกินล่ะกัน วาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย” พี่ลมว่าเพราะตอนนี้ก็ค่อนไปทางบ่ายแล้ว
   “ก็ได้ครับ พี่ลมพาผมไปกินอะไรอร่อยๆนะครับ จะว่าไปตั้งแต่ที่ผมมาอยู่ผมยังไม่เคยไปเที่ยวเลย” เขาพูดเล่นๆเพราะที่ไร่เขาก็ยังเที่ยวไม่หมดเลย
   “อยากไปเที่ยวไหนไหมล่ะ หืม” น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนถามเขา
   “ผมไม่อยากไปเที่ยวหรอกนะครับ ว่าแต่พี่ลมจะพาผมไปกินอะไรอ่ะ”
   “อืม ขนมจีนน้ำเงี้ยวดีไหม พี่มีร้านประจำ”
   “ตามใจคนในพื้นที่เลยครับ” ทั้งผมและพี่ลมต่างขำที่ไม่รู้ว่าขำอะไร พี่ลมขับรถเข้าไปในตัวตลาดกลางเมือง ก่อนที่จะจอดรถหน้าปากซอย แล้วเดินไปอีกนิดก็เจอร้านขนมจีนที่ไม่ใหญ่มากแต่ร้านดูสะอาดสะอ้าน คนนั่งเต็มร้านเลย
   “พ่อลม ลมอะไรพัดมาเนี้ย มาๆนั่งๆ ใครกันล่ะที่หนีบมาด้วยนะ”
   “นี่วาคนของผมเอง ป้าอุ้ย” พี่ลมทักแค่นั้น ก่อนที่จะเดินตามป้าอุ้ยไปที่โต๊ะที่ว่าง
   “แล้วนี่จะกินอะไรกันบ้างจ๊ะ”
   “เอาขนมจีนน้ำเงี้ยวสองที่ล่ะกันป้ากับน้ำเปล่า” พี่ลมสั่ง โดยที่ผมได้แต่มองตาปริบๆปล่อยให้คนที่พามาสั่งให้ มองดูรอบๆร้าน ที่มีคนหลากหลายวัยเข้ามานั่งกิน หลายคนที่พอสบตากับผมแล้วรีบหันหน้าหนี อะไรของเขา
   “ไม่น่าพามาเลย” คนที่นั่งตรงข้ามพึมพำอย่างหัวเสีย
   “อะไรเหรอครับ”
   “ก็ดูพวกนั้นมองดูวาสิ” ผมได้แต่ยิ้มกับอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงคนเดียว แต่ก่อนที่ผมจะตอบอะไรไป น้องก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ ผมมองสำรับอาหารที่มีจานขนมจีน กับถ้วยน้ำเงี้ยว ผักเคียงและแคปหมู กลิ่นหอมมากเลย ผมมองพี่ลมหยิบโน้นหยิบนี่ใส่จาน แล้วทำตาม ก่อนที่จะตักเข้าปาก
   อร่อยจัง
   “น่าจะพาพี่ไม้กับน้ำมาด้วยนะครับ”
   “พอเหอะสองคนนั่นแอบมากินบ่อยกว่าพี่อีก” ผมยิ้มเพราะพี่ไม้เข้าเมืองบ่อยแถมมารับเจ้าลูกหมูอีก คงตะเวรกินตลอดช่วงเย็นสินะ 
   “ผมว่าจะหัดทำให้พี่ลมว่าดีไหม”
   “ดีสิ วาทำอะไรก็อร่อย”
   “กินนี่ไปเลยไป” เขาตักมะเขือเทศไปใส่จานคนช่างหยอด พี่ลมก็ตักเนื้อมาใส่จานผมคืน กินไปตักแบ่งกันไปยังไม่ทันหมดจานก็มีขบวนเดินเข้ามา
   “อ่าว อ่าว อ่าวนึกว่าใคร พ่อเลี้ยงสายลมนี่เอง”
   เคร้ง เสียงวางช้อนดัง ผมมองหน้าพี่ลมที่เป็นสีหน้าที่เค้าไม่เคยได้เห็น
   “พี่ลมขา ปรุงไม่รู้เลยนะคะเนี้ยว่าพี่ลมจะมากินน้ำเงี้ยวที่นี่” ร่างอวบอัดในชุดรัดรูปพุ่งเข้ามานั่งข้างๆแล้วกอดแขนพี่ลมแน่น เขาตักขนมจีนเข้าปากไม่พูดอะไรออกไป เพราะเขาไม่รู้จักคนที่ยืนค้ำโต๊ะอยู่นี่เลย
   “ทำไมฉันต้องบอกเธอ ว่าแต่เสี่ยปานมาทำอะไรแถวนี้คงไม่บังเอิญมาเจอผมหรอกนะ” สายตาคมตวัดมองคนที่พี่ลมเรียกว่าเสียปาน สายตาของคนคนนี้ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเป็นคนดี แถมยังดูเจ้าเล่ห์จนน่าขนลุก
   “แก แกทำไมถึงมานั่งกินกับพี่ลมได้ล่ะยะ”
   “แล้วทำไมวาถึงนั่งกับไม่ได้ก็ในเมื่อวาเป็นคนในครอบครัว” เสียงเข้มเน้นคำว่าคนในครอบครัว ใบหน้าสวยบิดเบี้ยว เมื่อมือใหญ่เอื้อมมากุมมือคนที่เธอรู้สึกเกลียดตั้งแต่แรกเห็น
   “แต่ไอ้นี่มันเป็นผู้ชายนะ!!” เสียงแหลมปรี๊ดจนลูกค้าหลายคนรีบจ่ายเงินแล้วลุกหนี
   “ผมไม่คิดเลยนะว่าพ่อเลี้ยงจะมีรสนิยมแบบนี้” ดวงตาจิ้งจอกมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะแสยะยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่น จนเขาเผลอบีบมือใหญ่แน่น
   “พี่ลม พี่จะทำอย่างนี้กับปรุงไม่ได้นะ” คุณปรุงลุกขึ้นกระทืบเท้าแรงๆ ก่อนที่จะกรี๊ดลั่น
   “ลูกสาวผมทั้งสวยทั้งน่ารักคุณกับตาต่ำไร้รสนิยม แถมยังวิปริสผิดเพศ”สายตาเหยียดหยาม ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกไป พี่ลมก็ควักเงินมาวางไว้ที่โต๊ะก่อนที่จะลุกขึ้นพร้อมกับดึงให้ผมลุกตามพร้อมกับกุมมือผมแน่น แถมยังยืนบังผมไว้อีก
   “ก็ถ้าผู้หญิงมันเร่ขายแถมยังไม่มีจิตสำนึกแบบนี้ ผมคงจะเอามาทำพันธ์หรอกนะ” ทั้งน้ำเสียงและสายตาเย็นซาซะจนเขารู้สึกกลัวใจแทนสองคนนั่น แล้วพี่ลมก็จูงมิอผมออกไป
   “พ่อเลี้ยงจะได้เห็นดีกับผมแน่”
   “หึ ถ้าคิดจะทำอะไรครอบครัวผมก็ลองดูสิ” พี่ลมพูดเสียงเหี้ยมทิ้งท้ายก่อนที่จะจูงมือผมออกมาขึ้นรถ แล้วขับออกไป
   ผมมองคนที่ทำหน้าเครียดไม่เลิก ถึงตอนนี้จะอยู่ที่บ้านแล้วก็ตาม เขาเดินเข้าไปรินน้ำเย็นมาให้ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ
   “ทำหน้าซะน่ากลัวเลยนะครับพี่ลม ไม่ต้องคิดมากนะครับ” เขาบีบมือใหญ่
   “ขอโทษนะ วาเลยกินข้าวไม่เสร็จเลย”
   “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยนะพี่ลม ทำกินที่บ้านก็ได้ ผมไม่อยากให้พี่ลมเครียดแบบนี้เลยนะ”
   “ให้ตายเถอะ พี่ดีใจนะที่วาอยู่ด้วย พี่ไม่ได้เครียดแต่พี่กำลังคิดว่าสองคนนั่นจะมาไม้ไหน”
   “เขาเป็นใครกันล่ะครับ” ผมถามแต่มองมือที่ตอนนี้พี่ลมเป็นฝ่ายกุมไว้แล้วลูบเบาๆ
   “เสี่ยปานตอนนี้มันได้ตำแหน่งรองผู้ว่า ส่วนลูกสาววาเคยเจอแล้วใช่ไหม จริงๆพี่ก็ไม่ได้ยุ่งแต่เหมือนฝั่งนั้นเขาจะเสนอตัวมาก็เถอะ” เขาพยักหน้ารับรู้
   “ไอ้เสี่ยปานมันอยากได้ที่ดินข้างๆที่พี่ชื้อไว้ และมันยังอยากได้ที่ดินข้างหน้าเพราะโครงการที่มันจะทำมันมีผลกับไร่เราโดยตรง พี่ยังไม่เห็นประโยชน์ของโครงการที่มันจะทำเลยซักอย่าง มีแต่เรื่องโกงกิน พี่กับไร่อื่นๆต่างคัดค้านแต่ไอ้เสี่ยนั่นยังไม่ยอมแพ้ยอมกระทั้งให้ลูกสาวมาวุ่นวายกับพี่”
   “พี่ลมน่าจะชอบนะครับ มีแต่คนสวยๆมาวุ่นวาย” อดไม่ได้ที่จะแขวะตั้งแต่ที่ผมมาอยู่นี่สาวน้อยสาวใหญ่ต่างเทียวมาไร่จนหัวกระไดไม่แห้ง
   “แต่พี่ก็ไม่สนใจไม่ใช่เหรอครับ พี่สนแค่คนๆเดียวนี่ล่ะ”
   “พี่ลม!! ผมไปทำกับข้าวรอน้ำดีกว่า” ไม่น่าเปิดช่องให้เลย เขาสะบัดมืออกก่อนที่จะวิ่งหาไปที่หลบภัย 
   
   ลมมองคนที่วิ่งหนีเข้าครัว ท่าทางผมจะมีหวัง แต่เรื่องที่ไอ้เสี่ยนั่นพูดมันทำให้เขาต้องคิดหนักรึว่าเรื่องวุ่นวายภายในไร่จะเป็นฝีมือของมัน ทั้งเรื่องอุบัติเหตุของวาด้วย
   “ไอ้ผู้กอง”
   “(ไงพ่อเลี้ยง)”
   “ตามป่วนน้องกูจนไม่ได้ทำงาน เรื่องที่กูให้ตามนี่ตกลงถึงไหนวะ” ผมถาม
   “(ไม่ได้เรื่องอะไรเลยพ่อเลี้ยง รถไม่เจอหลักฐานที่ชี้ไปทางผู้ต้องสงสัยเลยพ่อเลี้ยง)” ทำงานเนี๊ยบจริงๆนะ ผมคิดก่อนที่จะบอกเรื่องวันนี้ให้ไอ้รุ่นน้องฟัง
   “(พี่ก็ระวังตัวไว้หน่อยนะ ถึงพี่จะขึ้นชื่อแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนมาลูบคมนะ)”
   “เออๆกูฝากด้วยนะ”  ไอ้นัทรับคำก่อนที่จะวางสายไป กลิ่นหอมๆลอยอบอวน สงสัยพ่อครัวจะแสดงฝืมือเสร็จแล้ว ลุกเดินเข้าไปในครัว มองคนที่กำลังตักแกงใส่ถ้วย
   “คุยเสร็จแล้วเหรอครับ เดี๋ยวกินนี่เสร็จผมว่าจะไปดูไร่ส้มหน่อย พี่ลมจะไปด้วยไหมครับ”
   “ได้สิจะเข้าไปทำไมเหรอ” เขาถามก็ในเมื่อส้มพึ่งเก็บผลผลิตไป ตอนนี้ก็เหลือแต่ส้มที่ยังไม่พอดี
   “ผมจะเข้าไปดูสวนหน่อยนะครับ หลังจากการเก็บส้มไปมันก็ต้องดูแลเหมือนองุ่นนะครับ” วาว่าก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ
   “อ้องั้นเหรอพี่ก็พึ่งลองปลูก วาเคยปลูกมาก่อนเหรอ”
   “ใช่ครับแต่คนละสายพันธุ์กับพี่ลมนะ เดี๋ยวผมจะช่วยดูให้ อ้อแล้วงานเลี้ยงพี่ลมยังจะจัดงานเลี้ยงอยู่ไหมครับ” เออผมลืมเรื่องงานเลี้ยงไปเลย
   “พี่ว่าจะจัดวันเสาร์นี้ เดี๋ยวพี่วานวาบอกพวกคนงานด้วยนะ” ถ้ากินดืมวันเสาร์วันอาทิตย์คงไม่มีผลกระทบกับงาน วาพยักหน้า หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็ขับรถพาวาไปที่ไร่ส้ม ที่ตอนนี้เก็บผลผลิตไปหมดแล้วเหลือก็แต่ผลที่สุกช้ากว่าเพื่อน  วารีบเดินลงจากรถทันทีที่ถึงแล้วไปก้มๆเงยๆใต้ต้นส้ม
   “มีอะไรหรือเปล่า”
   “อืม ผมว่าต้นส้มยังไม่แข็งแรงพอนะพี่ลม ถ้าอยากให้รอบหน้าส้มได้ผลผลิตเราต้องบำรุงก่อนที่จะให้ส้มพวกนี้ออกดอกอีกรอบ และต้องริดกิ่งพวกนี้ออก ส้มที่เหลือด้วย” ผมมองคนที่พลิกดูใบส้ม ดูดินที่อยู่บริเวณต้นส้ม ผมคงคิดไม่ผิดจริงๆที่หัวใจผมเลือกคนคนนี้ คนที่เป็นเพื่อนคู่คิด และคนที่เป็นที่พึ่งพิงยามเหนื่อยล้า  ผมเดินเข้าไปหาก่อนที่จะโอบร่างบางจากด้านหลัง
   “พี่ลม...ทำ..ทำอะไรนะ” คนที่อยู่ในอ้อมกอดเขารีบแกะมือ
   “ขอบคุณนะ”
   “เอ๋!?? เรื่องอะไรครับ” เหมือนที่เขาพูดขอบคุณออกไปจะทำให้อีกคนชะงักเลิกแงะมือผมออก เปิดโอกาสให้ผมทำเนียนต่อไป
   “ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตพี่และลูก”
   “อ่า มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอครับ”
   “ไม่หรอก พี่ดีใจจริงๆนะที่วาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพี่” ผมส่งยิ้มกว้างให้คนที่ดันหน้าอกผมไว้ ไม่ยอมสบตาผม
   “รู้แล้ว รู้แล้ว พี่ลมปล่อยผมก่อน” ผมยิ้มกว้างเมื่อสังเกตเห็นใบหูเล็กแดงก่ำ
   “หึๆก็ได้ๆ ยังไงพี่ก็ได้กำไรแล้ว”
   เพี๊ยะ
   แสบ มือเล็กฟาดเต็มแรงที่ต้นแขนเขาจนต้องยกมือมาลูบตรงที่โดนฟาด วายกมือขึ้นอีกครั้งผมรีบถอยห่าง แล้วยกสองมือยอมแพ้
   “เรื่องไร่ส้มพี่จะให้วาดูแลเลยนะแล้วส้มพวกที่เหลือนี่ล่ะ” เขารีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนทำร้ายร่างกายอีกที
   “เดี๋ยวพี่ลมให้คนงานเก็บไปส่งบ้านล่ะกันครับ ว่าจะลองทำแยมกับจะเอาไว้ทำขนมไว้ทาน” คงไม่พ้นไอ้ลูกลิงอยู่ดี รายนี้ก็ตามใจที่จะทำอะไรให้กินตลอด แต่ผมรู้ดีว่าวาจะไม่มีทางปล่อยให้ลูกลิงมันกินจนอ้วนแน่ๆ
   “ได้ แต่พี่ว่าเรากลับกันก่อนดีไหม อีกเดี๋ยวไอ้ลูกลิงกลับเดี๋ยวจะโวยวายหาพี่สุดที่รักไม่เจอ”
   “พี่ลมนี่ชอบแขวะลูกจริงๆเลยนะครับ” อ่าวแล้วทำไมผมถึงโดนค้อนล่ะแค่บ่นเฉยๆเอง ได้แต่ช่วยอีกคนเก็บส้มจนพอใจก็พากลับบ้าน วาก็หอบส้มลงจากรถเข้าบ้านไม่รอผมเลยซักนิด  เข้าไปในไร่ก่อนละกัน เดินตรวจตามไร่องุ่นที่ผมทำเป็นเกือบสามสิบไร่ ยังไม่รวมไร่อย่างอื่นอีกหลายๆอย่าง ยังดีที่นี่อยู่กันแบบครอบครัว ทุกคนต่างตั้งใจทำงานและช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี
   “ไอ้ละออง หายหัวไปไหนของมันวะ”
   “พ่อเลี้ยงจะเรียกผมทำไมเนี้ย” มันโผล่ขึ้นมาจากกองกิ่งองุ่นที่ตัดกองทิ้งไว้ มันไปมุดอะไรอยู่ตรงนั้น
   “มึงทำอะไรอยู่วะ” เขาเดินไปหา
   “นายผมเปล่าอู้นะ” หึ มึงไม่ค่อยร้อนตัวเลยนะ
   “พรุ่งนี้มึงแบ่งคนงานไปไร่ส้มกับกูซัก ยี่สิบคน ส่วนมึงก็อยู่ช่วยทางไร่องุ่นให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ล่ะกัน เพราะวันเสาร์กูจะจัดงานเลี้ยง” พอได้ยินคำว่างานเลี้ยงเท่านั้นล่ะ   มันก็แทบที่จะเฮลั่นไร่
   “หมู่เฮา ป่อเลี้ยงจะจัดงานเลี้ยงวันเสาร์นี้” เท่านั้นล่ะแต่ละคนนี่เฮลั่น
   “แต่ก่อนวันนั้นตั้งใจทำงานไป”  แต่ละคนนี่แทบมุดลงไปตัดกิ่งองุ่นกันแทบไม่ทัน ผมได้แต่ส่ายหัว กฎเหล็กของไร่ มีอยู่สองข้อ คือห้ามเล่นการพนัน และห้ามกินเหล้าจนเสียงานเสียการเขาจะให้โอกาสเพียงสามครั้ง เขาเดินลงไปช่วยแต่งกิ่งจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานถึงได้เดินกลับบ้าน  แค่เดินถึงหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงหัวเราะร่าของไอ้ลูกลิงแล้ว เขาถอดรองเท้าก่อนที่จะเดินตามเสียงไป อยู่ในครัวสินะ
   “ทำอะไรอยู่นะ หืม” เขาถามสองพี่น้องที่กำลังขุดผิวส้มลงหม้ออยู่
   “น้ำกำลังทำแยมครับพ่อลม นี่ๆน้ำทำเองเลยนะ พรุ่งนี้น้ำจะเอาไปให้ตะวันด้วย” เหอะๆ เด็กตะวันนั่นเหรอ ก่อนหน้านี้ยังต่อยกันอยู่เลย อยากบีบแก้มย้วยๆที่ยิ้มกว้างของมันจริงๆ แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำวาก็ใช้ให้ผม ไปหยิบขวดในซึ้งมา
   “ล้างมือก่อนนะพี่ลม”
   “อิๆ พ่อลมโดนดุ”
   “เดี๋ยวเถอะไอ้ลูกลิง” ได้แต่คาดโทษไอ้ลูกลิงที่เยาะเย้ย ก่อนที่จะเดินไปหยิบขวดแก้วในซึ้ง ใส่ถาดมาวางให้ สองพี่น้องที่ดูจะสนุกกันซะจริง  วาใช้ช้อนตักแยมใส่ขวดแก้วจนเต็มหมด เหลือติดก้นหม้อนิดหน่อย
   “พี่ลม ชิมหน่อยครับ” ช้อนเล็กยืนมาตรงปาก เขาชิม สมเป็นฝีมือวา
   “อืม อร่อยดีนะ ไม่หวานมาก” วายิ้มกว้างทันทีที่ผมชม รอยยิ้มที่นับวันจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ
   “ทำอะไรกันอยู่นะครอบครัวสุขสันต์” ไอ้ตัวขัดความสุขเอ้ย
   “อาไม้ๆๆ มาชิมแยมที่น้ำกับพี่วาทำเร็ว”  ไอ้ไม้เห็นสายตาผมก็ขำก่อนที่จะเดินมาชิมแยมจากช้อนหลานตัวเอง
   “เออ อร่อย วาสนใจเอาไปขายไหมพี่จะเอาไปขายที่สหกรณ์ ว่าแต่พี่ลมเรื่องธนาคารว่าไง”
   “อ้อโทรมาเรียบร้อยแล้วครับ ตอนที่พี่ลมเข้าไปในไร่ ว่าแต่ผมพี่ลมก็มีโทรศัพท์ไว้เฉยๆนะ” เอาแล้วไง
   “งั้นเหรอเขาว่าไงบ้างล่ะ”
   “อนุมัติผ่านครับ อ้อพรุ่งนี้ บริษัทเครื่องจักรจะเข้ามาประเมินแล้วติดตั้งให้นะครับ” มีวาอยู่ในครอบครัวแล้วดีจริงๆ  ไอ้ไม้พยักหน้ารับก่อนที่จะถามหาของกิน
   “ทั้งสามคนขึ้นไปอาบน้ำเลยครับ ค่อยลงมาเดี๋ยวผมจะเตรียมไว้ให้ ช้าอดไม่รู้ด้วยนะครับ” เท่านั้นล่ะแยกย้ายกันไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ผมเดินลงมาเห็นแต่ว่าที่จัดโต๊ะอยู่เลยไปช่วย
   “วาเหนื่อยไหม”
   “เหนื่อยอะไรกันครับพี่ลม” คนตรงหน้ายิ้มงงๆให้ผม
   “ที่ต้องดูแลพี่และลูก”
   “ผมเต็มใจทำให้นะครับ” ผมมองใบหน้าเนียนที่ขึ้นสีระเรื่อเมื่อผมขยับเข้าไปใกล้ก่อนที่จะลูบไล้แก้มเนียน
   “ขอบคุณ ขอบคุณวามากจริงๆ” ผมพึมพำข้างหูก่อนที่จะก้มลงสัมผัสแนบชิดความนุ่มหยุ่นแผ่วเบาเหมือนแมลงปอแตะ ก่อนที่จะผละออกอย่างเสียดาย มองคนที่หลับตาพริ้มกับใบหน้าแดงระเรื่อ นั่นทำให้ผมแทบจะอดใจไม่ไหวอยากจะแนบชิดความนุ่มอีกครั้ง
   “ยะ..อย่าพี่ลม” เสียงสั่นๆนั่นทำให้ผมหยุดชะงัก
   “พี่ไม่ขอโทษหรอนะ เพราะพี่อยากจะทำแบบนี้มานานแล้ว” ผมกระซิบเสียงทุ้มข้างหู นั่นยิ่งทำให้แก้มเนียนยิ่งแดงก่ำเหมือนสตอเบอร์รี่สดๆที่น่ากัดชิม แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรลงไป
   “ฮะแฮ่ม พี่ผมกับหลานหิวแล้ว” เสียงมารมาขัดจนได้  ให้ตายเหอะ วารีบผละจากผมไปในทันที ไอ้ไม้ส่งสายตาล้อๆส่วนไอ้ลูกลิงนี่ยกมือมาปิดตา แต่เห็นนะที่มองลอดนิ้วนะ ยังดีที่สองคนนี่ไม่พูดแซวมากมาย บนโต๊ะอาหารเลยมีเพียงอาการขัดเขินเล็กๆน้อยๆ คอยดูเหอะ คืนนี้ผมจะไม่รอจนหลับแล้วค่อยกอดแล้ว                                                   
************************************************************
กรี๊ดดดดดดดดดดดดเกือบไม่ทันลงก่อนเลิกงาน
5555555 พ่อเลี้ยงเรารุกจริงอะไรจริง
แจ้งข่าวนะคะ อาทิตย์หน้า ติดภารกิจไปอบรมอาจจะไม่ได้แต่งลง
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน รักนะคะ
ขอบคุณคนอ่าน รักทุกความคิดเห็นนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อเลี้ยง วา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ปรุงนี่ กรี๊ดซะ ได้ทุกที่ กระทืบเท้านี่ก็ถนัดเจงๆ
ชอบพูดจัง  “พี่ลม พี่จะทำอย่างนี้กับปรุงไม่ได้นะ”  ตลกจริงๆ
นางเป็นอะไรกับพ่อเลี้ยงเหรอ ประหลาดคน
มาว่าการคบของคนอื่นอย่างนั้นอย่างนี้
เขาคบกันบนหัวนางหรือไง
ต้องคบกับนางถึงจะถูกต้องงั้นสิ เหอะ  :fire:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
พ่อเลี้ยงมือไวจังค่ะ น้องเค้ายังไม่ทันเตรียมตัวเลย  :-[

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ลมตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดมองคนที่ยังหลับสนิทในอ้อมแขน เมื่อคืนก่อนนอนเขารั้งร่างบางเข้ามากอด โดยวาทั้งดิ้นทั้งขัดขืนแต่เขาก็เรียกได้ว่าเนียนไม่ปล่อยแถมยังแกล้งหลับไป ได้ยินแต่เสียงประท้วงแผ่วเบาก่อนที่ร่างบางจะหลับไป เขาค่อยลืมตาขึ้นมองใบหน้าเนียน การมีวาเข้ามาในชีวิตเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เขากดจูบที่หน้าผากเนียนก่อนที่จะหลับไปด้วยกัน
   “อือ..” เสียงครางเบาๆพร้อมกับแพขนตาหนาขยับ คิ้วเรียวขมวดแน่น ก่อนที่ตากลมโตจะลืมตาขึ้นฉายแววงงๆ
   “อรุณสวัสดิ์”
   “อ่ะ พะ..พี่ลมปล่อยก่อน” ยิ่งเสียงหวานอ้อนให้เขาปล่อย เขายิ่งอยากแกล้งก่อนที่จะกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น
   “ปล่อยทำไมกันล่ะ กอดไว้อย่างนี้ก็อุ่นดีนี่น่า”ผมมองแก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ ยิ่งผมเย้าแหย่ วาก็เหมือนจะเขินอายได้น่าดูชม
   “พี่ลม!!! เลิกแกล้งผมเถอะ สายแล้วผมจะลงไปทำกับข้าว”เสียงอ่อยๆประท้วง ผมเลยยกยิ้มกริ่ม
   “งั้นหอมแก้มพี่สิ”
   “พี่ลม” เสียงหวานอุทานอย่างจนใจ ดวงตาโตซ้อนมองอีกคนอย่างไม่แน่ใจนัก ก่อนที่จะข่มความอาย เงยหน้ากดจมูกลงแก้มสากก่อนที่จะถอยออกมาในทันที
   “หึๆ พี่ขอกาแฟด้วยนะ” ลมไม่คิดที่จะแกล้งให้อีกฝ่ายอายจนไม่กล้ามองหน้าเขา  ถ้ารุกเกินไปก็ไม่ดีเท่าไหร่ เขาปล่อยวาออกจากอ้อมแขน ทันทีที่ปล่อยร่างบางก็รีบลุกลงจากเตียงหนีลงไปเข้าล่างทันที

   “พี่ลมนะพี่ลม ฮืย” วาได้แต่บ่นอย่างขัดใจ แต่ยังง่วนกับการชงกาแฟให้คนที่บ่นอยู่ ยิ่งอยู่ด้วยกันสองคน พี่ลมยิ่งรุกหนัก แม้บางครั้งจะปล่อยให้เขาพักหายใจหายคอบ้างแต่ทุกครั้งหัวใจเขาทำงานหนักมากเลยทีเดียว
   “หอมจัง” อ้อมแขนจากด้านหลังทำให้ผมสะดุ้ง เมื่ออีกคนลงมาแล้ว
   “อ๊ะ พี่ลม นี่ครับกาแฟ” ผมชี้ที่ถ้วยกาแฟ ไม่ดิ้นหนีไม่ขัดขืน เพราะรู้ว่าทำไปก็เท่าเดิมคนเอาแต่ใจไม่ยอมปล่อยเขาแน่ๆ
   “ขอบคุณนะ” รอยยิ้มกว้างทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ พี่ลมปล่อยให้ผมเป็นอิสระก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา ส่วนผมก็หมุนตัวไปทำกับข้าวต่อให้เรียบร้อยก่อนที่ผมจะหยิบเอาแก้วโกโก้ออกไปนั่งที่โซฟาด้านนอก
   “เสร็จแล้วเหรอ”
   “ครับ วันนี้พี่ลมจะไปไหนบ้าง” ผมจิบโกโก้พลางถามคนที่นั่งดูข่าว เขายังไม่กล้าที่จะสบตาตรงๆกับคนตรงหน้าซักที
   “พี่ว่าจะเข้าไปไร่องุ่นแล้วเลยไปที่สวนส้มด้วย”
   “ว่าแต่เรื่องงานเลี้ยงนี่พี่ลมจะจัดยังไงครับจะให้ผมทำอาหารเองเลยไหมครับ” เขาถามเพราะมันอีกไม่กี่วันแล้ว
   “เดี๋ยวพวกผู้หญิงจะทำกัน เจ้าของงานนะอยู่เฉยๆเลยนะ” ผมที่กำลังจะพูดว่าจะช่วยต้องเก็บคำพูดลงคอทันที ก็ในเมืออีกคนดักคอไว้อย่างนี้ ได้แต่ยอมรับ พี่ลมวางแก้วกาแฟแล้วบอกว่าจะเข้าไร่ เขาเลยขึ้นไปทำธุระส่วนตัวก่อนที่จะเดินไปปลุกเจ้าลูกหมู
   “หมูน้อยของพี่วา ตื่นได้แล้วครับ สายแล้วน้า”
   “อือ.... น้ำง่วง”
   “ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง วันนี้พี่วาทำข้าวต้มเต้าหู้ไข่น้า ถ้าช้าหมดไม่รู้ด้วยน้า” บีบพุงน้อยๆของคนที่ยังงัวเงียแต่พอได้ยินว่ามีของโปรดหมูน้อยก็ดีดตัวลุกขึ้น
   “ตื่นแล้ววววววว”
   “อาบน้ำแล้วค่อยลงไปนะครับ” เขาลูบแก้มยุ้ย น้ำลงจากเตียงหยิบผ้าขนหนูวิ่งเข้าห้องน้ำ ส่วนเขาก็ไปหยิบเอาเสื้อผ้ามาเตรียมไว้ที่เตียง ก่อนที่จะเดินไปอีกห้องพี่ไม้ยังไม่ตื่นเลย แปลกๆนะ ปกติพี่ไม้ต้องลงไปกินกาแฟหลังพวกเขาตื่นได้ไม่นาน
   ก๊อกๆ
   “พี่ไม้ พี่ไม้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เขาเคาะประตูห้องที่ปิดเงียบ
   แกร๊ก
   “อือ วาเหรอ”    
   “พี่ไม้เป็นอะไรรึเปล่า” ผมมองใบหน้าซีดเซียว
   “พี่รู้สึกไม่ค่อยสบาย” สิ้นคำ มือเรียวก็แตะที่หน้าผากซึ่งมันรุมๆหน่อย
   “พี่ไม้เข้าไปพักก่อนนะครับเดี๋ยวผมเอาข้าวขึ้นมาให้” เขาดันหลังพี่ไม้ให้เข้าไปในห้อง เขาแวะไปดูน้ำที่กำลังแต่งตัวแล้วเดินลงไปข้างล่าง
   “ยังไม่มีใครลงมาอีกเหรอ”
   “พี่ลม พี่ไม้ไม่สบายครับ ส่วนน้ำกำลังแต่งตัว” เขาเล่าให้คนที่พึ่งเดินเข้ามาฟังก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวเตรียมอาหารให้ทั้งสองพ่อลูกและตักใส่ถ้วยไว้ให้พี่ไม้
   “เหรอ พี่จะขึ้นไปดูมันหน่อย เดี๋ยวพี่ลงมา” พี่ลมว่าก่อนที่จะเดินขึ้นไปข้างบนสวนทางกับลูกหมูที่วิ่งลงมา
   “อ่าวอาไม้ล่ะ”
   “อาไม้ไม่สบาย น้ำนั่งกินข้าวก่อนนะครับเดี๋ยวพี่ขึ้นไปดูอาไม้ก่อน” กำชับน้ำให้นั่งดีๆก่อนที่จะถือถาดข้าวต้มขึ้นไป ประตูห้องพี่ไม้เปิดอยู่ เขาเลยเอาถาดข้าวต้มไปวางที่โต๊ะ พี่ลมที่เดินออกจากห้องน้ำมา
   “มันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เป็นหวัดได้พักคงจะดีขึ้น” พี่ลมว่าก่อนที่จะเดินออกจากห้อง
   “วางไว้นั่นเลยวาเดี๋ยวพี่ไปทานเอง” พี่ไม้ดูเป็นคนป่วยที่ไม่งอแงเหมือนใครอีกคน ผมวางยาลงข้างๆ ถ้วยข้าวต้ม
   “พี่ไม้มีอะไรโทรเรียกผมได้ตลอดเลยนะครับ” ผมกำชับคนป่วยอีกครั้งค่อยลงไปหาน้ำ วันนี้พี่ลมไปส่งเองก่อนออกจากบ้านเขาโดนน้ำหอมซ้ายหอมขวาจนน้ำลายเปื้อนแก้ม  หลังจากที่สองคนนั่นออกไปแล้วเขาเลยไปดูไร่องุ่นแทนคนตัวสูง
   “ละอองๆ ตรงนี้ละอองต้องดูดีๆนะ” ผมเรียกละอองมาใกล้ๆก่อนที่จะชี้จุดที่ต้องตัดแต่งกิ่ง ไร่องุ่นกว้างมากจนการตัดแต่งกิ่งกินเวลาเกือบๆสองอาทิตย์เลยทีเดียว ตอนนี้ก็ใกล้เสร็จแล้วเพราะแต่ละคนคึกกับงานเลี้ยงวันหยุดนี้จนขยันจนน่ากลัว
   “คุณวา แล้วตรงสวนส้มล่ะครับ”
   “เดี๋ยวบ่ายๆฉันจะเข้าไปดู วันนี้พี่ไม้ไม่สบาย พี่ลมน่าจะต้องเข้าไปดูโรงงาน” ผมหยิบเอากรรไกรแต่งกิ่งมาตัดกิ่งองุ่นช่วยละออง
   “คุณวา โชคดีที่คุณวามาทำงานกับพวกเรา งานที่ไร่ก็ไม่วุ่นวาย พ่อเลี้ยงกับเจ้าน้ำก็มีความสุข” เขาได้แต่เสไปตัดกิ่งองุ่น เพราะคำพูดที่ละอองพูด เขาพร้อมที่จะฟังสิ่งที่พี่ลมต้องบอกรึยัง หัวใจเขาพร้อมรึยัง
   “ละอองปุ๋ยที่สั่งไว้มาส่งรึยัง”ผมถามเปลี่ยนเรื่องเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีการวางบิลส่งของร้านปุ๋ยที่เราติดต่อไว้
   “ยังไม่เห็นเลยนะครับ” พยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่ลม
   “(ว่าไงวา)”
   “พี่ลม ปุ๋ยยังไม่มาส่งเลยครับ ตอนนี้พี่ลมอยู่ไหนครับ”
   “(พี่อยู่ที่โรงงานตอนนี้ช่างเขามาติดตั้งเครื่องให้ วาจัดการให้พี่เลยได้ไหม)” ทางนั้นก็คงวุ่นวาย เพราะกว่าจะติดตั้งเครื่องเสร็จคงจะครึ่งค่อนคืน
   “ได้ครับ พี่ลมอย่าลืมหาอะไรทานนะครับ”
   “(พี่ชักอยากกับไปกินที่บ้านแล้วสิ ไอ้ลูกลิงนะเดี๋ยวพี่ให้คนไปรับไปส่งที่บ้านนะ)”
   “ครับ” ผมกดวางวาย ก่อนจะหันไปกำชับให้ละอองทำงานให้เสร็จก่อนวันพรุ่งนี้เพราะจะได้เอาปุ๋ยมาใส่ ร่างบางสาวเท้าเดินตรงกลับสำนักงาน ที่นี่เราใช้ปุ๋ยธรรมชาติ บวกกับปุ๋ยเพิ่มแร่ธาตุในดินซึ่งเป็นปุ๋ยชีวะภาพ ถึงไร่เราจะทำใช้เองแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะใช้ทั้งไร่ ทั้งที่จะต้องใช้แล้วแต่ทางร้านยังไม่ส่งมาให้อีก
   “สวัสดีครับจากไร่สายลมนะครับ”
   “(เอ่อ ครับ)”
   “พอดีที่สั่งปุ๋ยไว้ยังไม่เห็นเข้ามาส่งเลยนะครับ”
   “(ต้องขอโทษด้วยนะครับปุ๋ยไม่มีส่งให้แล้ว แกร๊ก)” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร ร้านปุ๋ยก็ตัดสายเขาทันทีนี่มันอะไรกัน ร่างบางติดจะไม่พอใจหน่อยๆ แต่ก็เลือกที่จะเปิดสมุดค้นหาเบอร์โทรร้านปุ๋ยที่เคยสั่งซื้อด้วย แต่เหมือนพอได้ยินว่ามาจากไร่สายลมก็พากันปฏิเสธแล้วตัดสายทิ้งทันทีนี่มันเรื่องอะไรกัน
   “พี่ลม โทรหาพี่ลมละกัน” นิ้วเรียวกดเบอร์โทรออกอย่างรวดเร็วรอไม่นานอีกคนก็รับสาย
   “(มีอะไรหรือเปล่าวา)”
   “พี่ลม ไม่มีใครส่งปุ๋ยให้เราเลยครับ” ได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ
   “พี่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร”
   “งั้นเดี๋ยวผมจะลองติดต่อเจ้าอื่นๆดูนะครับ ที่โรงงานเป็นยังไงบ้างครับ”ผมถามด้วยความเป็นห่วงแค่ที่ไร่ยังมีปัญหาเลย
   “(ไม่มีปัญหาอะไร พี่ฝากวาด้วยนะ)”  ผมรับคำก่อนที่จะกำชับอีกคนให้หาอะไรทานด้วยนี่มันก็เที่ยงแล้ว มือเรียวกดค้นหาเบอร์โทรร้านเล็กๆที่อาจจะมีของน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีของเข้าไร่ มีร้านสองร้านที่บอกว่ามีของและจะส่งของมาให้ แต่มันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี
   “ละอองๆ”ผมตะโกนเรียกคนที่พึ่งวิ่งผ่านสำนักงาน
   “ครับ??”
   “เดี๋ยวละอองให้คนขับรถไปเอาปุ๋ยสองร้านนี้นะแล้วเอาบิลกลับมาให้ผมด้วย” ยืนเบอร์โทรและเงินให้ก่อนที่จะเข้าไปติดต่อร้านจากต่างอำเภอที่พอมีของแบ่งให้เขา แต่ต้องเอารถไปขนเองเขาเลยบอกให้ทางร้านรวบรวมไว้ให้ก่อนที่จะไปขนเอาทีเดียวซึ่งทางนั้นก็ใจดีที่จะหาไว้ให้เพราะทางไร่สายลมก็มีเครดิตดี  ร่างบางมัววุ่นวายกับการหาปุ๋ยจนเหมือนว่าจะลืมอะไรไปบางอย่าง
   “พี่ไม้!!!” ผมลืมคนป่วย พอคิดได้ก็รีบปิดสำนักงานรีบสาวเท้ากลับไปบ้าน ฮืออผมลืมจริงๆ  แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อมีรถคุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้าน พี่นัท??
   “สวัสดีครับพี่นัท” ผมยกมือไหว้คนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสอง
   “อ่าว หวัดดีวา กลับมากินข้าวเหรอ”
   “เปล่าครับผมมาดูพี่ไม้” 
   “อ้อหลับไปแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง เออพี่จะเป็นคนไปรับน้ำมาส่งให้นะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานต่อก่อนนะ” ได้แต่พยักหน้างงๆ พี่นัทก็เดินออกจากบ้านขับรถออกไป เอ่อผมคงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้วล่ะมั้ง รีบกินข้าวก่อนที่จะไปหาคนงานที่ยืนรอข้างรถเพราะผมสั่งไว้ก่อนที่จะเข้าสำนักงานว่าจะพากันเข้าสวนส้ม
   “เดี๋ยววันนหลังกลับจากไร่ส้มผมมีเรื่องจะบอกเดี๋ยวช่วยไปรวมกันที่ศาลาด้วยนะครับ”  ผมบอกกับคนงาน ก่อนที่จะขึ้นรถไปยังไร่ส้ม ที่พี่ลมให้ผมดูแล ตั้งใจว่าวันนี้ต้องริดกิ่งให้เสร็จพรุ่งนี้ค่อยมาคิดเรื่องปุ๋ย ผมถือกรรไกรตัดแต่งกิ่งลงไปช่วยคนงาน ถึงจะบอกว่าพี่ลมลองปลูกแต่ก็มีพื้นที่ใหญ่อยู่เหมือนนะเกือบๆสิบไร่ แสงแดดร้อนแรงทำให้ใบหน้าเนียนชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่คนตัวเล็กไม่คิดที่จะไปพัก เพียงใช้หลังมือปาดเหงื่อและผมที่ดูเหมือนตอนนี้จะเปียกชุ่ม
   “คุณวาไปพักเต๊อะเจ้า”
   “ไม่เป็นไรครับช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ” ผมรับแก้วน้ำเย็นที่ป้าตักส่งมาให้ยกขึ้นดื่มก่อนที่จะคืนแก้วแล้วยกยิ้มกว้างให้ป้า ก่อนที่จะเริ่มทำงานต่อ จนย่ำค่ำถึงได้พากันขึ้นรถไปที่ศาลารวมกลุ่มกัน  พอมารวมตัวกันทั้งหมดแล้วก็รู้เลยว่าไร่สายลมเป็นครอบครัวใหญ่แค่ไหน ผมเดินไปด้านหน้า
   “อ่าทุกคนคงรู้จักผมกันแล้วเนอะ วันเสาร์นี้จะมีงานเลี้ยงนะครับ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ ส่วนเรื่องปุ๋ยตอนนี้มีปัญหาอยู่ อีกสองสามวันคงจะเริ่มมีเข้ามายังไงก็ฝากด้วยนะครับ”
   “มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับคุณวา” ผมหันไปมองคนที่ถาม
   “ตอนนี้ผมอยากให้ทุกคนรู้เพียงว่ามีปัญหานิดหน่อยอยากให้ทุกคนช่วยดูแล “ไร่ของเรา” ด้วยนะครับ ส่วนงานพรุ่งนี้ยังไงก็ต้องรอปุ๋ยกัน อยากให้ทุกคนช่วยกันเตรียมพื้นที่ เดี๋ยวผมมาช่วยอีกแรง”
   “แต่ที่แน่ๆช่วยกลับไปทำกับข้าวให้พี่กับไอ้ลูกลิงกินหน่อยสิครับ” ผมรีบหันไปตามเสียงทุ้มที่ดังแทรกเข้ามา พี่ลมเดินเข้ามาหาก่อนที่จะโอบเอวผมแถมยังดึงผมเข้าไปหาอีก
   “พี่ลมปล่อยนะ” ผมกระซิบเบาๆพร้อมกับการพยายามแกะมือที่เหนี่ยวยิ่งกว่าปลาหมึอออกจากเอว
   “นายๆ สงสารคุณวาหน่อยหน้าแดงหมดแล้ว” ยิ่งละอองพูดผมยิ่งอยากจะทำร้ายคนที่ยังเนียนไม่ยอมปล่อยแขนจากเอวผมซักที
   “เอาล่ะพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันต่อแยกย้ายไปพักผ่อน ลูกกูหิวข้าวร้องแง้วๆหาแต่พี่วานั่นพี่วานี่” ผมเงยหน้ามองคนที่นินทาลูกตัวเองแล้วเบ้ปาก คนคนนี้นี
   “พี่ลม ห้ามว่าน้ำนะ” ในที่สุดผมก็แงะมือปลาหมึกออกก่อนที่จะขยับถอยห่าง “ผมจะกลับไปหาน้ำ” ผมว่าก่อนที่จะเดินหนีกลับไปบ้าน ให้ตายเถอะพี่ลมทำไมชอบทำให้เขาเขินหนักนะ

   ลมมองตามหลังคนตัวบางที่เขินได้น่ารักที่รีบเดินกลับบ้าน ก่อนที่จะหันมาหาลูกน้อง จริงๆเขาต้องอยู่คุมงานอยู่ที่โรงงานแต่พอรู้เรื่องปุ๋ยก็คิดได้เลยว่าเป็นฝีมือใคร ทำได้แค่นี้เองเหรอ วาช่วยผมได้มากจริง แถมยังทำได้ดีมากเสียด้วย
   “มองตามขนาดนั้นนายก็ตามกลับไปสิ” ไอ้ละออง ไอ้ห่านี่แซวกูได้ตลอด
   “มึงอยากโดนลดเงินเดือนใช่ไหม”
   “โอ๊ยยยยนาย ไอ้ละอองผิดไปแล้ววว” ผมยิกยิ้มเหี้ยม แซวบ่อยๆวาได้เขินจนไม่กล้าเข้าใกล้เขาพอดี ทุกคนหัวเราะที่ไอ้ละอองทำท่าอ้อนตีนผม
   “อีกเรื่องอยากให้ทุกคนช่วยสอดส่องว่ามีใครแปลกหน้าเข้ามายุ่งย่าม ตอนนี้กูมีปัญหา บอกตรงๆเลยว่าปัญหามันจะมีมาอีก”
   “นายไปงัดข้อกับใครมา”
   “เออกูกำลังเคลียอยู่ เพราะงั้นกูฝากด้วย แค่นี้ล่ะกูกลับไปกินข้าวก่อนแยกย้ายๆ” บอกลาพร้อมกับกำชับทิ้งท้ายกับลูกน้องผู้ชายว่าให้เปลี่ยนเวรกันไปเดินดูตามไร่ให้บ่อยขึ้น ร่างสูงก้าวเท้ายาวๆกลับมาบ้าน กลิ่นหอมของกับข้าวอบอวล
   “มาพอดีเลยครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนถ้าหิวพี่กินก็ได้นะครับ” ผมมองคนที่ยังวุ่นกับการตักกับข้าวใส่จาน ก่อนที่จะเดินไปแย่งเอาจานไปวางก่อนที่รั้งเอวบางเข้ามาใกล้ ไม่ได้ยินเสียงไอ้ลูกลิง ไม่งั้นได้โวยวายเขาแกล้งพี่สุดที่รักของเจ้าน้ำอีก
   “พี่ลม ปะ.....ปล่อยนะครับ” เสียงที่ผมฟังยังไงก็ห้ามผมไม่ได้ทั้งยังเหมือนเชิญชวนให้ผมทำอะไรๆอีกหลายอย่าง ผมกอดเอวบางด้วยมือข้างเดียวอีกมือหนึ่งยกมาปัดผมสีชาที่ตกระใบหน้าทัดหู
   “เหนื่อยไหม ได้ยินว่าไปอยู่ไร่ส้มทั้งเย็นเลย ผิวแดงหมดแล้ว” ผมถามขณะที่มือยังลูบไล้ที่แก้มเนียนเบาๆ ยิ่งทำให้แก้มเนียนขึ้นสีแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม
   “ไม่เหนื่อยครับ แล้วพี่ลมเป็นยังไงบ้าง ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ” ผมก้มลงสบตากับดวงตากลมโตที่ฉายแววเป็นห่วง ให้ตายเหอะ แบบนี้ต่อให้มีปัญหาอีกร้อยแบบ มึงก็เข้ามาเหอะ กูไม่แพ้แน่ๆ
   “ไม่ต้องห่วงแต่พี่จะต้องกลับไปที่โรงงานอีก”
   “แต่มันดึกแล้วจะไม่เป็นไรเหรอครับ”
   “พี่ไม่เป็นไรหรอก วาขึ้นไปอาบน้ำเถอะพี่จะรอกินข้าวพร้อมกัน” อดใจไม่ไหวที่จะก้มลงหอมแก้มเนียน ซึ่งวาก็ไม่ได้เอ่ยทักอะไรเหมือนจะเอียงแก้มให้เขาซะด้วยซ้ำ  กูกินวาก่อนกินข้าวจะดีไหมวะเนี้ย ก่อนทีจะทำตามความคิดอกุศลของตัวเอง ผมก็ปล่อยให้อีกคนเดินหูแดงขึ้นห้อง ไอ้ห่าลม มึงอย่ารีบร้อนสิวะ ตอนนี้ยังไม่ได้ 
   “พ่อลมม วันนี้พ่อลมจะไม่นอนที่บ้านเหรอ”
   “ใช่ พ่อจะไปดูโรงงาน”
   “ดีจังน้ำจะได้นอนกับพี่วา” ให้มันน้อยๆหน่อย
   “ก็แค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้นล่ะ”
   “พ่อลมขี้หวง”
   “ใช่พ่อหวง มีอะไรไหม” เขายักคิ้วใส่ลูกชายที่ตอนนี้ทำหน้าเบ้เหมือนหมั่นไส้ผมเต็มทน โดยที่ว่าได้แต่สายหัวกับการทะเลาะแบบเด็กๆของผมกับไอ้ลูกลิงที่ตอนนี้พัฒนาเป็นลูกหมูแล้ว
   “พี่ฝากบ้านด้วยนะไอ้ไม้มันดีขึ้นแล้วเดี๋ยวไอ้ผู้กองนัทจะมา”
   “ครับพี่ลมก็ขับรถดีๆนะครับ” ให้ตายเหอะกูไม่อยากไปแล้วโรงงานอยากนอนกอดว่าที่เมียเว้ยยย ก็ได้แต่คิดเขาก็ยังเดินขึ้นรถเพื่อขับไปโรงงานอยู่ดี

   วามองตามท้ายรถจนลับสายตาไปจึงได้เดินเข้าในบ้าน ลูกหมูที่ตอนนี้นั่งตาปรือดูการ์ตูนอยู่
   “ป่ะครับน้องน้ำขึ้นไปนอนกันดีกว่านะ” เขาเดินไปปลุกเจ้าลูกหมู
   “งือพี่วา น้ำง่วง ไปนอนกันน้า” ผมยิ้มกับน้ำที่เอาแก้มถูที่อกผม
   “ครับๆ ป่ะไปนอนกัน” คงได้อุ้มน้ำ ที่ตอนนี้น้ำหนักรู้สึกจะเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะ คงต้องงดของทอดซะแล้วสิ ค่อยๆวางน้ำลงบนเตียงก่อนที่จะล้มตัวนอนข้างๆ ลูบหัวลูบหางซักพักเจ้าลูกหมูก็หลับสนิท เขาเลยค่อยๆลุกลงจากเตียงลงไปเก็บของและเตรียมของไว้ทำกับข้าวพรุ่งนี้เช้า

   ก๊อกๆ

   เสียงเคาะประตูทำให้เขาต้องรีเดินออกไปดูก็เห็นพี่นัทยืนยิ้มร่า เขาเลยรีบเปิดประตูให้อีกคนเข้ามา
   “พี่นัทกินอะไรมารึยังครับ”
   “พี่เรียบร้อยแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปหาคนป่วยก่อนนะ” ได้แต่พยักหน้า เมื่ออีกคนเดินขึ้นไปเหมือนเป็นบ้านตัวเอง ท่าทางจะดูคุ้นกับที่นี่นะ ผมเดินเช็คกลอนประตูหน้าต่างก่อนที่จะขึ้นไปนอนกับน้ำ อ่าทำไมผมถึงนอนไม่หลับล่ะเนี้ย ได้แต่ขยับเข้าไปกอดหมูน้อย ดูท่าเขาจะเคยชินกับการที่มีใครกอดซะแล้วสิ
*************************************************
ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วจ้าาาาาาา
พ่อเลี้ยงโคตรเนียน สงสารน้องวาฮ่าๆๆ
จะเอื่อยๆไปก่อนเนาะ ขอจุดเตาต้มน้ำแป๊บ
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
พี่ลมสู้ๆ  :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ย ทำเรื่องแสบ ลอบกัด เรื่องปุ๋ยสินะ
อยากได้ที่ดินเขา
ให้ลูกสาวไปอ่อย ให้ท่าเขาก็ไม่เอา
วางแผนฆาตกรรม ก็ทำ เลวโคตรๆ

เรื่องปุ๋ยขาด ร้านไม่ยอมขาย
ก็สั่งซื้อปุ๋ยข้ามถิ่นเลย
 
พ่อเลี้ยง เนียนถึงเนื้อถึงตัว กอดจูบวา ตลอด
พี่นัท นี่ท่าจะมีไรๆกับพี่ไม้แน่เลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
คงไม่มีอะไรมากนะ ถึงมีพี่ลมกำลังใจเต็มร้อยอยู่แล้ว สู้ๆ นา

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาใจช่วยพี่ลม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ผมตื่นขึ้นมาเมื่อกลางดึกเพราะเสียงฟ้าร้อง ฝนตกเหรอ ไม่เห็นมีเค้าเลย ร่างบางรีบลุกลงจากเตียงคลุมผ้าห่มให้ลูกหมูที่นอนหลับอุตุ ก่อนที่จะเดินลงไปข้างล่างแสงฟ้าผ่ากับเสียงฟ้าร้องดังถี่ขึ้นเป็นระยะๆ ถ้าฝนตกหนักน้ำในฝายจะล้นหรือเปล่า เดินเช็คประตูหน้าต่างว่าปิดดีรึเปล่า ยังไม่ทันที่จะกลับขึ้นไป ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา พอตื่นแล้วก็ไม่อยากนอนต่ออีก ตาโตเหลิอบไปมองนาฬิกาที่ชี้อยู่ที่เลข สาม เดินเข้าครัวไปชงโกโก้ร้อนให้ตัวเองก่อนที่จะมานั่งเล่นที่โซฟาเหมือนเดิม สายฝนยังตกหนักกระทั่งผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วยังไม่ซาเลย จนผมเริ่มเป็นห่วงเรื่องพวกพืชผัก กับฝายแล้วสิ
   ผมนั่งกระวนกระวาย เพราะดูเหมือนฝนจะยังไม่เลิกตกง่ายๆ
   “ฮึก แม่ ฮือออออออ คุณแม่อยู่ไหน” เสียงร้องไห้พร้อมกับเสียงร้องเรียกทำให้ผมต้องรีบวางแก้วแล้ววิ่งขึ้นไปดูน้ำ ทันทีที่เปิดห้องเข้าไปเขาก็เห็นเพียงลางๆว่าร่างป้อมนั่งขุดคู้เป็นก้อนกลมอยู่บนเตียงเขารีบเดินเข้าไปหาแล้วกอดร่างเล็กไว้แน่น
   “น้องน้ำเป็นอะไรครับ”
   “ฮืออออคุณแม่ คุณแม่”เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับเสียงเล็กๆที่เรียกหาคนเป็นแม่ ทำให้ผมกอดน้ำแน่นขึ้น
   “น้ำครับไม่ร้องนะครับ โอ๋ๆคนเก่งของพี่วาเป็นอะไรครับ” ผมได้แต่ลูบหัวลูบหลังเจ้าลูกหมูที่ตอนนี้มีเพียงเสียงสะอื้น มือป้อมกำชุดนอนผมแน่น
   “อึกๆ คุณแม่” น้ำพึมพำพร้อมกับกอดผมแน่นขึ้น และก็เหมือนจะหลับไปแล้วด้วย ผมที่กำลังจะให้น้ำลงนอนดีๆแต่ทันที่ที่ผมไม่ได้กอดน้ำก็ผวาร้องไห้ทันทีทำให้ผมต้องกอดน้ำจนหลับสนิท ผมค่อยๆเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มยุ้ย ผมลืมนึกถึงความเป็นจริงที่ว่าพี่ลมมีครอบครัวแล้ว ถึงผมจะไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินใครในบ้านพูดถึงแต่เขาลืมเรื่องสำคัญนี้ได้ยังไงกัน ผมมองหัวทุยที่ซบอยู่ตรงอกเขา ผมรู้สึกรักเด็กน้อยร่างป้อมคนนี้จริงๆ หากตัดเรื่องความรู้สึกที่ชัดเจนขึ้นทุกวันแล้ว เขาก็ต้องคิดอีกครั้งว่าที่นี่จะใช่ที่ของเขาจริงๆรึเปล่า ผมนอนกอดน้ำจนถึงเวลาปรกติที่ผมต้องลงไปข้างล่างเลยค่อยๆขยับตัว ก่อนที่จะเอาหมอนให้น้ำกอดไว้ แล้วเขาค่อยลงมาเก็บแก้วไปที่ครัว ก่อนที่จะเตรียมทำอาหารเช้าไว้ให้ทุกคน พี่ลมยังไม่กลับเข้ามาเขาเป็นห่วงไร่จริงๆ เลยเลือกที่จะปัดความคิดไร้สาระที่คอยรบกวนจิตใจเขาอยู่เรื่อย
   ก๊อก ก๊อก
   แกร๊ก
   “พี่นัท ผมทำข้าวไว้ให้แล้วนะครับ พี่ไม้เป็นไงบ้างครับ” ผมถามคนที่หัวฟูมาเปิดประตู พี่นัทหาวกว้างๆทีหนึ่ง
   “อ้อขอบคุณนะ ไม้ดีขึ้นแล้วล่ะเดี๋ยวพวกพี่ลงไปกินนะ” ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินไปที่ห้องนอนของน้องน้ำที่ยังนอนหลับอุตุอยู่
   “ตื่นได้แล้วนะครับหมูน้อย”  ผมเขย่าร่างป้อมที่งัวเงียลุกขึ้นนั่งกำลังยกมือขึ้นขยี้ตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้เมื่อคืนจนผมต้องรีบจับมือไว้
   “เดี๋ยวไปล้างหน้านะครับไม่ขยี้นะ”
   “อือ ครับคุณแม่” ผมไม่พูดอะไรกับคำเรียกหา อาจจะเพราะน้ำยังไม่งัวเงียเขาได้แต่บอกให้ไปล้างหน้าอาบน้ำแล้วลงไปทานข้าวแล้วค่อยออกจาห้องไป พอดีที่พี่ไม้เดินออกมาพอดี
   “อ่าพี่ไม้ผมทำกับข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว พอดีผมจะเข้าไร่เลยนะครับ”
   “อ่าว แล้วไม่รอกินกับไอ้ลูกลิงเหรอ”
   “ผมเป็นห่วงไร่เมื่อคืนฝนตกหนักผมจะเข้าไปดูก่อนนะครับ” ผมบอกแล้วรีบเดินลงไปข้างล่างหยิบเสื้อแขนยาวแล้วออกไปที่ไร่ พอดีที่ละอองกำลังขับมอเตอร์ไซ
   “ละอองๆ รอหน่อย” ผมตะโกนเรียก ละอองเบรกซะจนตัวโก่ง
   “อ่าวคุณวา ผมตกใจหมด มาๆซ้อนท้ายผมเลย คุณวาจะไปไหน”
   “เข้าไปไร่ส้มก่อนนะแล้วค่อยไปที่สวนผัก อีกอย่างฉันอยากไปดูฝายด้วยเมื่อคืนฝนตกหนัก” ผมค่อยๆขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่เบาะนั้นแข็งจริงๆ ก่อนที่จะจับเสื้อละอองไว้แน่นเพราะเขากลัวตกจากใจ
   “จับแน่นๆนะคุณวา” แรงออกตัวทำให้ผมแทบจะกอดเอวละอองแน่น
   “ละ.....ละอ๊องงงงงงง” ได้แต่ร้องลั่นเมื่อพลขับบิดออกตัวแรงพร้อมกับเสียงหัวเราะลั่น มันต้องแกล้งผมแน่ๆเลยเลยได้แต่จับเสื้อละอองไว้แน่น เขาจะตกตายก่อนที่จะถึงไร่ส้มไหมล่ะเนี้ย

   ลมที่พึ่งขับรถกลับเข้ามาสวนทางกับใครที่ทำให้เขานอนไม่หลับเพราะไม่ได้กลิ่นหอมๆกอดตอนนอนทำให้เขาต้องรีบกลับมาทันทีเมื่อเช็คความเรียบร้อยที่โรงงาน ที่เขายืนกู้เงินขอลงเครื่องแปรรูปและขยายโรงงานให้มีมาตรฐานหลังจากนี้เขาก็จะยืนขอใบอนุญาต ซึ่งมันจะทำให้พวกคนในพื้นที่มีงานทำแถมเขาก็รับผลผลิตจากสวนซึ่งเขาให้ราคาตามตลาดหลายๆสวนเลยทำข้อตกลงกับโรงงานเขาเรียบร้อย โรงงานเป็นการจัดการของไอ้ไม้เพราะมันเรียนจบด้านนี้มาโดยตรง ไอ้ผมไม่รู้เรื่องกับมันหรอกทำได้แค่ทำไร่ทำสวนนี่ล่ะ
   “ว่าไงไอ้ลูกลิง อร่อยเชียวนะ” ผมแซวลูกตัวเองที่นั่งกินแก้มป่องอยู่
   “อร่อย ไม่แบ่งให้พ่อลมหรอก” หมั่นเขี้ยวลูกตัวเองเว้ย ผมยกมือบีบแก้มยุ้ยๆนั่นแรงๆไปหนึ่งที ก่อนที่จะมองไอ้ไม้และไอ้ผู้กองที่นั่งกินแบบไม่สนใจหัวพี่มันที่พึ่งกลับมาเลย
   “หายแล้วเหรอมึง ไอ้ยาดีเหรอ” เขาปรายตามองไอ้ผู้กองที่นั่งกินข้าวต้มเหมือนอยู่บ้านตัวเอง
   “วาไม่อยู่เข้าไร่ไปแล้ว” แทนที่มันจะด่าอะไรผมมันเล่นผมกลับเหมือนกัน
   “ทำไมไปไร่แต่เช้า”    
   “ไม่รู้สิเห็นบอกว่าเมื่อคืนฝนตกหนักห่วงไร่” ผมพยักหน้าก่อนที่จะบอกว่าขอขึ้นไปนอนก่อน
   วาคิดว่าสิ้นเดือนนี้เขาหักเงินละอองจะผิดไหม ตอนนี้เขาต้องยืนนิ่งๆเพื่อให้ขาหายสั่นจากการนั่งซ้อนท้าย
   “คุณวาไหวไหมครับ”
   “ไม่ไหว นายขับได้หวาดเสียวเกินไปแล้วนะ”ตอนนี้ขาของผมเริ่มหายสั่นแล้ว ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกๆ
   “แล้วคุณวาทำไมมาแต่เช้าล่ะครับ” ละอองถามพร้อมกับเดินตามคนที่หน้าซีด แค่ซ้อนมอไชค์เขาเองไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกน่า
   “เมื่อคืนฝนตกฉันกลัวมีปัญหาเรื่องปุ๋ยเป็นยังไงบ้างล่ะละออง พรุ่งนี้พอที่จะพากันไปเอาได้ไหม”
   “ได้ๆมีรถว่างสองคันพอดีที่โรงงาน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมกับพวกไอ้สินจะพากันไปเอาพอดี” ผมพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปดูไร่ส้มที่ตอนนี้เหมือนว่าน้ำจะท่วมขังเยอะเกินไปอาจจะเป็นเพราะน้ำที่ห้วยมันเอ่อขึ้นมา ช่วงนี้เห็นว่าพายุจะเข้า เขาคงต้องบอกพี่ลม
   “ละอองถ้าพรุ่งนี้ไปเอาปุ๋ยเรียกฉันด้วยนะจะไปดูด้วย”
   “คุณวาไม่ไปกับนายเหรอครับ”
   “พี่ลมคงวุ่นๆพอดีมีธุระในเมือง ป่ะละอองไปที่สวนผักกัน แต่คราวนี้ไม่ต้องซิ่งขนาดนั้นนะ” เขาตบบ่าละออง ที่ยิ้มร่าก่อนที่จะขับรถนิ่มกว่าเดิมขึ้นมาก
   “คุณวามาแต่เช้าเลยนะเจ้า”
   “สวัสดีครับเมื่อคืนฝนตกผมเลยมาดูไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ” การจัดการไร่นี้ยังไม่มีระบบเท่าที่ควรก็เพราะพี่ลมดูแลคนเดียวบางทีมีปัญหากว่าจะแจ้งปัญหากว่าจะแก้ปัญหามันก็ย่ำแย่ไปในบางครั้ง เพราะคนๆเดียวคงเป็นทุกอย่างให้ทุกคนคงไม่ได้
   “ก็แย่อยู่เจ้า ผักคงเก็บขายไม่ได้ สตรอเบอร์รี่ก็เห็นว่าเสียหมดเลยนะเจ้า” ผมพยักหน้า
   “เดี๋ยวผมจะแจ้งพี่ลมให้นะครับ พวกสตรอเบอร์รี่ก็ตัดดอกทิ้งไปเลยนะครับ ค่อยรอรอบหน้า” ผมบอกกับป้าก่อนที่จะให้ละอองพาไปที่ท้ายไร่
   “ผมไปไม่ได้นะคุณวา ที่นั่นมีแค่พวกครอบครัวนายไปได้”
   “งั้นเหรอ อืมงั้นไปไร่องุ่นกัน”
   “คุณวาไม่กลับไปบ้านก่อนเหรอครับ”
   “ไม่ล่ะ ไปเร็วๆละออง” ผมกระโดดซ้อนท้าย เริ่มชินกับการแว้นของละอองแล้ว จนกระทั่งมาถึงไร่องุ่นยังดีที่มันอยู่ที่ราบและอยู่ไกลจากฝาย ตอนนี้คนงานตัดแต่งกิ่งองุ่นเรียบร้อยหมดแล้วกำลังช่วยกันถอนวัชพืชเตรียมพร้อมสำหรับการใส่ปุ๋ย เขาเลยลงมือช่วยพวกคนงาน วันนี้งานที่สำนักงานไม่มีอะไร
   “คุณวาไปกินข้าวกัน”
   “อ้อได้ๆ” ผมวางมือจากจอบก่อนที่จะเช็ดมือกับกางเกงที่ตอนนี้ไม่ได้สะอาดกว่ากันท่าไหร่ ผมกับละอองเดินไปที่ศาลา ที่ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อกินข้าว ผมเดินไปตักข้าวก่อนที่จะนั่งลงกับพวกละอองและสินพร้อมกับคุยกันเรื่องที่จะไปเอาปุ๋ยพรุ่งนี้เช้า
   “เฮ้ยกูว่าเราย้ายโต๊ะดีกว่า” จู่ๆละอองก็สะกิดสินที่นั่งข้างกัน สินเงยหน้าขึ้นเหมือนจะพูดอะไรผมนั่งตรงข้ามได้แต่ทำหน้างง ก่อนที่ทั้งก๊วนจะลุกพรึบหนี
   “ทำไมมากินข้าวที่นี่” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ผมต้องหันกลับไปดู ทำไมพี่ลมทำหน้าเหมือนโกรธใครมา
   “ก็....ก็ผมคิดว่ากินที่นี่จะสะดวกกว่าครับ ผมไม่คิดว่าพี่ลมจะกลับมาแล้ว”
   “สะดวกอะไร” ลมแทบอยากจะคาดคั้นเอากับคนตรงหน้าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขายังไม่เจอร่างบาง แถมไม้ยังพาหลานไปเที่ยวเพื่อปลอบใจเพราะเจ้าน้ำงอแงหาแต่พี่วาอยู่ไหนจนไอ้ไม้ขี้เกียจปลอบเลยพาไปเที่ยวในเมือง ส่วนเขาก็เดินตามหาตัวการที่ไม่พกโทรศัพท์ออกมาเหมือนเคย
   “ก็...”ยิ่งอีกคนอึกอักเหมือนมีอะไรปิดบังเขายิ่งอยากจะเค้นถามติดก็แต่ไอ้หูที่กางเป็นกระด้งของแต่ละคนนี่ทำให้เขาไม่อยากซักอะไรอีก
   “มากับพี่” ได้แต่ทำเสียงเข้มบอกอีกคนให้ลุกเดินกลับบ้านด้วยกันท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของทุกคนเดี๋ยวเถอะ ได้แต่ถลึงตาใส่ไอ้ละอองที่ยังทำตาเสือกอยากรู้อยากเห็นอีกนะมึง เขาเดินช้าๆข้างคนที่ปกติจะพูดนั่นพูดนี่ให้ผมฟังแต่ตอนนี้กลับเงียบแถมยังทำท่าทางเหมือนตอนที่บอกเรื่องที่บ้านด้วย สงสัยมีเรื่องปิดบังผมแน่ๆ ทันทีที่ถึงบ้านคนที่หลบหน้าผมก็หลบเข้าไปในครัว คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ
   “ตกลงมีเรื่องอะไรที่ต้องบอกพี่ไหม” ผมเดินเข้าไปหาก่อนที่จะกักตัวคนที่หลบตาให้อยู่นิ่งๆ
   “พี่ลม ผมจะทำกับข้าว” ผมมองมือเล็กที่พยายามแงะมือผมออกจากเค้าเตอร์ที่ดูเหมือนจะคล้ำลงจากเดิมแต่ก็ยังขาวกว่าผิวคนเหนืออย่างเราๆซะอีก
   “บอกพี่มาก่อนที่พี่จะทำอะไรมากกว่านี้” ผมก้มหน้าเข้าไปชิดกว่าเดิม มองดูวาที่เอนหลังถอยให้ห่างจากผมจนหลังเอนไปพิงเค้าเตอร์
   “ไม่  มันแค่ความคิดที่กวนใจผมอยู่ มันงี่เง่านิดหน่อย” ยิ่งพูดคนตรงหน้ายิ่งก้มหน้าลงต่ำ
   “มีเรื่องอะไรก็บอกพี่ได้ พี่บอกแล้วเราเป็นครอบครัวเดียวกัน” ผมยกมือลูบแก้มเบาๆ จนคนที่ไม่ยอมสบตายอมเงยหน้ามามองผม
   “พี่ลม ผมคิดมากเอง พี่หิวหรือยังผมยังไม่อิ่มเลย”ยังจะเปลี่ยนเรื่องได้อีก
   “พี่อยากฟังทุกเรื่องที่วาคิดมาก ทุกเรื่องที่ไม่สบายใจ”
   “ผม.....ไม่รู้สิครับพี่ลม ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้ มันทั้งกังวล ทั้งกลัว แถมยังไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลยซักนิด” ผมได้แต่ยิ้มให้คนที่กำลังระบายทุกสิ่งออกมา
   “ผมรู้สึกแย่ที่คิดในร้ายๆแบบนั้น มันเหมือนไม่ใช่ตัวผม ตอนที่เห็นน้ำร้องไห้เรียกหาแม่ อึก” ผมยกยิ้มเมื่อพอจะเดาได้ แถมผมยังรู้สึกดีใจเพราะเหมือนคนตรงหน้าจะมีใจให้ผมแล้วนะสิ ผมเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลอยู่แก้มเนียนออก
   “พร้อมที่จะฟังรึยัง เรื่องที่พี่เคยบอกว่าจะบอก” ผมก้มลงพูดใกล้ๆคนที่ยังน้ำตาคลอ
   “อ่า”
   “พี่รู้ว่าวารู้ก็พี่เล่นรุกหนักขนาดนี้ถ้าไม่รู้พี่ว่าวาคงจะซื่อน่าดู” อดไม่ได้ที่จะบีบปลายจมูกแดงๆนั่นหนึ่งที
   “พีชอบวานะ อยากให้วามาดูแลพี่และลูก”
   “พี่ลม แต่มัน...เราพึ่งเจอกัน”
   “ใช่ มันไม่นาน แต่พี่มั่นใจความรู้สึกของพี่ที่ชัดเจนมากพออย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน อยู่ดูแลพี่กับลูก เป็นครอบครัวเดียวกันนะ” วาอาจจะไม่รู้แต่เขาพึ่งเคยรู้สึกแบบนี้จริงๆกับใคร วาเป็นคนเดี๋ยวที่เขาทั้งอยากดูแล อยู่ด้วยแล้วสบายใจวาทำให้บ้านเป็นบ้านเหมือนที่แม่เขาเป็น  ทันทีที่ผมพูดจบ น้ำใสก็กลิ้งลงมา พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
   “อึกพี่ลม วาเป็นได้ใช่ไหม”
   “ได้สิ วาเป็นคนในครอบครัวพี่แล้วนะ ห้ามไปไหนอยากไปพี่ก็ไม่ให้ไปแล้ว” ผมว่าก่อนที่จะเชยคางคนที่ยังยิ้มกว้างก่อนที่จะเช็ดน้ำตาก่อนที่จะก้มลงไปแนบชิดริมฝีปากหยุ่นจากที่ครั้งแรกเพียงแตะแนบชิด แต่ครั้งนี้ผมกดลงแนบแน่นขบเม้มริมฝีปากล่างนิ่มก่อนที่จะแต่ก่อนที่เขาจะสัมผัสลึกซึงเหมือนที่คิดไว้ ฝ่ามือฟาดลงที่แขนผมทำให้ผมต้องปล่อยให้คนที่ฟาดมาแรงๆ ที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำ เม้มปากแน่น
   “ออกไปเลยนะ วาจะทำกับข้าว” เขาได้แต่ยอมถอยออกจากครัวเมื่ออีกคนดันหลังให้ผมออกจากครัว ปล่อยให้อีกคนยืนเขิน
   ให้ตายเหอะจะน่ารักเกินไปแล้วนะ ยกมือลูบหน้าแรงๆ ลิ้นหนาดันแก้ม ให้ตายเหอะ กูจะทนได้ไหมวะ จับกดแม่งตอนนี้เลยจะผิดไหม แต่แม่งเอ๊ย กูไม่รู้วิธีทำเว้ยยยยย
***************************************************
ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วจ้าาาา
เขาหนีไปอู้มาล่ะติดไลฟ์เกมส์อีสปอตไปสองวันไม่ได้ปั่นอะไรเลย
//หลบรองเท้า
เรื่องนี้ยังคงเส้นคงวา ไม่ดราม่าอะไรนะคะ
อ่านแล้วเป็นไงติชมได้น้าาาา น้อมรับทุกสิ่งอย่างค่ะเพื่อพัฒนาฝีมือ
อิอิ รักคนอ่านจ้าาาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สงสารพี่ลม อยากกดวา แต่ไม่รู้วิธีทำ  :z3: :z3: :z3:
ใครจะช่วยบอกวิธีกับพี่ลมได้นะ พี่นัทหรือเปล่า  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :m20: :m20: พี่ลมอยากทำแต่ไม่รู้วิธีอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
จริงง่ะ พี่ลมว่าทำไม่เป็น  :hao6:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
วาได้แต่ขัดเขิน เหมือนอะไรๆจะดูยุ่งเหยิง มือไม้เขาเหมือนจะติดขัดไปหมด คนที่เป็นต้นเหตุหลังจากกินข้าวเสร็จก็เดินขึ้นไปอาบน้ำ ปล่อยให้เขานั่งเขินอยู่คนเดียวนี่ล่ะ
   กริ๊งๆ
   “ครับไร่สายลมครับ”
   “(ขอสายลมหน่อยค่ะ)”
   “เดี๋ยวรอซักครู่นะครับ” เขารู้สึกแปลกใจเมื่อเสียงหวานๆ เขาเดินขึ้นไปตามคนที่อยู่บนห้อง
   “พี่ลมครับ”
   “ครับ” เขาแทบจะหันหลังหนีทันทีเมื่อคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูพันที่เอว
   “อ่า...เอ่อ มีคนโทรมาขอสายพี่ลมครับ” ผมว่าก่อนที่คิดว่าจะเดินออกจากห้องกลับต้องหยุดเมืออีกคนคว้าข้อมือเขาไว้เชิงว่าให้ลงไปพร้อมกัน แต่ทางที่ดี พี่ลมช่วยไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนได้ไหม เขารู้สึกถึงความร้อนที่หน้าทีกำลังลามไปทั้งตัว ก็เมือคนที่อวดกล้ามเนื้อที่ได้จากการทำงานในไร่เดินทั่วบ้านโดยไม่คิดที่จะแต่งตัวเลยซักนิด
   “ครับ”
   “(ลมนี่ปลานะ)” ผมที่กำลังจะหนีแต่เมื่อพี่ลมได้ยินว่าใครโทรมากลับคว้ามือเรียวไปกุมแน่น ผมมองคนที่ทำหน้าเข้มขึ้น จนเขาต้องขยับมายืนใกล้ๆ
   “ว่ายังไง”
   “(ปลาได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วนะ ปลาขอโทษ)” ลมบีบมือคนที่ยืนข้างๆแน่น
   “ไม่ต้องขอโทษ เธอไม่ผิด”
   “(เพราะครอบครัวปลาเอง ลูกเป็นยังไงบ้าง)”
   “น้ำสบายดี ไม่ต้องห่วงถ้าบ้านเธอไม่ทำอะไรสิ้นคิดฉันก็จะปราณีในฐานะที่เป็นญาติเธอ”
   “อ๊ะ” ผมอุทานเมื่ออีกคนยกมือที่กุมไว้ขึ้นจูบเบาๆที่หลังมือพร้อมกับส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าแกล้งเขาจนหน้าแดง ได้แต่ก้มหน้าลงขบเม้มริมฝีปากล่างที่อีกคนมองแล้วเหมือนยั่วเขาเสียมากกว่า แต่ก่อนที่ร่างสูงจะได้ทำตามใจคิด คนในสายก็บอกขอบคุณพร้อมกับขอโทษ ก่อนที่จะตัดสายไปทำให้ลมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆอีกรอบ นั่นก็เรียกความสนใจคนที่กำลังเขินจนตัวจะระเบิดได้
   “มีอะไรรึเปล่าครับพี่ลม” เสียงหวานถามด้วยความเป็นห่วง ลมก้มมองคนที่ไม่ปิดบังอาการเป็นห่วงเขาเลยซักนิด เขาก้าวยาวๆจูงอีกคนไปที่โซฟาก่อนที่เขาจะนั่งลงพร้อมกับรั้งคนที่ยังงงๆนั่งตัก
   “พี่ลม!!”
   “ขอพี่อยู่อย่างนี้แป๊บนะ” วาได้แต่นั่งนิ่งๆให้อีกคนกอดเอวไว้แน่นใบหน้าซบลงที่บ่า
   “มีอะไรรึเปล่าครับพี่ลม” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเงียบ ถึงแม้ไอ้อกแผ่นอกที่แผ่ไออุ่นออกมาจะทำให้หัวใจเขาทำงานหนักก็เถอะ
   “ปลา......คนที่โทรมา....เป็นแม่ของน้ำ” ร่างบางนิ่งเกร็งขึ้นทันทีจนอีกคนรู้สึกได้แขนใหญ่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นคล้ายจะปลอบ
   “พี่กับปลาจบกันแล้ว ตอนนี้ปลาก็มีครอบครัวที่รักเจ้าตัวจริงๆแล้ว” มือใหญ่ยกขึ้นบิบจมูกเล็กเบาๆอย่างหยอกล้อ
   “เรื่องนี้พี่จะเล่าให้วาฟังไม่ใช่เพราะต้องการอธิบายแต่พี่อยากให้วารู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพี่ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไปประมาณสี่ห้าปีก่อน” ลมสูดกลิ่นกายหอมก่อนที่จะเริ่มเล่าอดีตที่ผิดพลาดของตน
   เมื่อห้าปีก่อน เขายังเป็นวัยรุ่นคึกคะนอง กล้าได้กล้าเสียเรียกได้ว่าพ่อยังต้องส่ายหน้า ยังดีที่กำลังจะเรียนจบ ชีวิตของเขาจะเรียกได้ว่าเสเพลไปเลยก็ได้ ทั้งกินเหล้า เที่ยวกลางคืน มั่วผู้หญิง อ๊ะ แต่ผมก็ป้องกันนะเออ อย่ามองผมแบบนั้น ยิ่งไกลหูไกลตาพ่อแม่เรียกได้ว่ายิ่งกว่าหลุดจากโซ่ และผมก็ได้เจอปลาที่ผับ หลังจากคุยกันไม่กี่คำ เราสองคนก็จบกันที่เตียง ต่างฝ่ายต่างพอใจที่มันจะเป็นแค่เพียงคืนๆหนึ่ง แต่เพียงเพราะผมไม่ได้ป้องกัน เพราะผมเมาอีกฝ่ายก็เมา
   ผ่านไปเกือบเดือน
   “ฉันท้อง”  คำบอกเล่าของคนที่มาเคาะห้องเขาตั้งแต่เช้าทำให้ตื่นเต็มตา
   “แน่ใจได้ยังไงว่าลูกกู” ลมแทบจะกระชากอีกคนมาถาม
   “มึงต้องรับผิดชอบลูกกู”ก่อนที่ลมจะว่าอะไร ร่างท้วมสูงวัยก็เดินมาซ้อนหลังปลา พร้อมกับท่าทางเอาเรื่อง ถึงแม้ว่าลมจะยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่นแต่พ่อของเขาก็เป็นถึงพ่อเลี้ยงไม่ได้หมายความว่าจะมากดขี่กันง่ายๆ ตอนนั้นทั้งไร่สายลมและพ่อของปลาเรียกได้ว่าตกเป็นขี้ปากชาวบ้านกันทั่วทั้งจังหวัด ก็ปลาเป็นลูกสาวคนโตของเสี่ยปานที่กำลังทำมีอิทธิพล แต่เรื่องก็จบลงด้วยการที่เขากับปลาต้องแต่งงานกันแต่นั่นก็เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นน้ำตาของแม่
   “ลม ลูกเป็นลูกผู้ชาย ทำอะไรไปแล้วต้องรับผิดชอบนะลูก”
   “แต่..มันไม่ใช่ความผิดผม!!”
   “แต่ลูกต้องทำ” และเขาก็ได้เห็นแม่ร้องไห้ เขายอมแต่งงานเพียงแต่ให้คำขาดว่าการที่ปลาแต่งเข้าบ้าน คนทางบ้านปลาจะไม่มีสิทธิเข้ามาวุ่นวายนั่นคือจุดแตกหักของเขากับครอบครัวปลา หลังจากเรียนจบผมก็ให้ปลาเข้ามาอยู่ในไร่ โดยที่คนบ้านนั้นจะไม่มีสิทธิใดๆมายุ่งเกี่ยว ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทำไร่สายลมให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เขากับปลามีความสัมพันธ์แค่ในนาม และปลาก็เข้าใจ เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของพ่อตัวเอง เลยอยู่เหมือนเป็นเพื่อนกันซะมากกว่า
   จนกระทั่ง วันที่น้ำเกิดมา วันที่ผมรู้ว่าผมควรทำเพื่อใคร ปลาทันทีที่คลอดเมื่อแผลรักษาหายเธอก็หายไปจากไร่สายลมไม่มีใครรู้ว่าอยู่ไหน แต่เพราะข้อตกลงสัญญาที่ปลาเคยทำไว้ลูกจึงเป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว และหลังจากที่น้ำอายุได้สามเดือนเศษ พ่อและแม่ก็จากเขาไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่บนบ่าของเขาตั้งแต่นั้นมาเขาก็ตั้งมั่นที่จะทำเพื่อลูกและไร่สายลม ทุกปีปลาจะติดต่อกลับมาถามไถ่สารทุกสุขดิบ
   “ตั้งแต่นั้นพี่กับเสี่ยปานก็เหมือนจะไม่ลงลอย พอลูกสาวคนเล็กโตก็ให้มาจับพี่ทั้งๆที่พี่เกลียดบ้านนั้นเข้ากระดูกดำ” วาหันไปมองคนที่เล่าเรื่องในอดีตให้เขาฟัง นั่นทำให้วารู้สึกคิดไม่ผิดที่จะเปิดใจให้กับคนๆนี้ แต่จะดีกว่านี้มากถ้าอีกคนแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้
   “แล้วเสี่ยปานเขามาหาน้ำบ้างไหมครับ”
   “ไม่พี่ไม่ให้มันมายุ่ง ตั้งแต่ตอนนั้นมันก็อยากได้ที่ดินจนตัวสั่นตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน” มือเล็กยกขึ้นแตะที่หัวคิ้วที่ขมวดแน่น ก่อนที่จะนวดเบาๆ
   “เดี๋ยวพี่ลมก็แก่เร็วหรอกครับ ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะอยู่ข้างพี่ลม” สิ้นคำมือใหญ่ก็กดท้ายทอยเขาแน่นก่อนจะลิ้มชิมรสหวานจากริมฝีปากบางที่เอ่ยคำหวาน ปลายลิ้นหนาไล่เล็มเลาะขอบหยัก ก่อนที่คนในอ้อมแขนจะโอนอ่อนเผยช่องให้ปลายลิ้นเข้าไปกวาดกวัดริมรสหวาน จูบที่ลึกซึ้งทำให้วาคิดอะไรไม่ออกมือเรียวได้แต่เกาะที่ต้นแขนใหญ่ ปล่อยให้อีกคนปลุกเร้าความรู้สึกวูบวาบไปทั่วร่างกาย
   “อืม...” เสียงครางแผ่วพร้อมกับมือเล็กที่พยายามดันร่างใหญ่ออกเมื่อเขารู้สึกเหมือนจะขาดใจ ลมยอมปล่อยให้คนที่ประท้วงเป็นอิสระ แต่ยังไม่วายที่จะกดจูบที่มุมปากจมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มใส เขาไม่อยากห่างเลยจริงๆ กลิ่นกายหอมอุ่นทำให้เขาเสพติด มือหนาสอดเข้าใต้เสื้อยืดเนื้อนิ่มลูบไล้ผิวเนียนลื่นมือ สัมผัสร้อนจากฝ่ามือด้านทำให้ร่างบางสั่นสะท้าน
   “ยะ.....อย่า.....” เสียงห้ามขาดห้วงและอาการสั่นทำให้ลมต้องหยุดก่อนที่เขาจะห้ามตัวเองไม่ได้ ใบหน้าคมกดหน้าซุกลงที่ซอกคอเนียนสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ปรารถนาที่ปะทุขึ้นมา
   “พี่อยากกินวาจัง” เสียงทุ้มกระซิบเบา นั่นยิ่งทำให้อีกคนรู้สึกเขินอาย นั่งนิ่งๆไม่ขยับเมื่อรู้ว่าอะไรๆมันตื่นทะลุผ้าขนหนูดุนต้นขาอยู่
   “ไม่ต้องสนใจมันเดี๋ยวพี่ขึ้นไปข้างบนก่อน ฟอด” ยังไม่วายที่จะกดจมูกหอมแก้มเนียนไปแรงๆอีกทีก่อนที่วาจะรีบลุกทันทีที่เขาปล่อย ท่าทางแสนกลัวนั่นทำให้เขายกยิ้มก่อนที่จะรีบเดินขึ้นไปจัดการอะไรๆที่บนห้อง
   “ฮืออออออ จะตายแล้ว” วาพึมพำพร้อมกับซุกหน้าลงกับหมอนข้าง เขารู้สึกร้อนจนเหมือนตัวจะระเบิดเลย
   ครืดๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น มือเรียวหยิบมากดรับทันที
   “ครับ”
   “(วานี่พี่นะ)”
   “พี่โย” เสียงติดจะอ้อนทำให้ปลายสายรับรู้ถึงความผิดปกติ
   “(เป็นอะไรหือวา)”
   “พี่โย วาเขิน เขินมากๆเลย” ยิ่งนึกถึงคนขี้อายก็ได้แต่ส่ายหน้าซุกหมอนอิง โยถึงกับงง นี่น้องเขาไปเขินใครเข้าล่ะเนี้ย
   “(ไปเขินใครมาล่ะหืมตัวแสบ เรื่องทางนี้ใกล้จะเข้าที่ พี่จะได้ไปหาเราที่โน้น)”
   “พี่โย วาไม่อยากกลับ” เสียงอ่อยๆทำให้โยธินถึงกับทำหน้าเครียด
   “พี่วา น้ำกลับมาแล้วฮับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ” น้ำร้องก่อนที่จะวิ่งตุบตับมาหาพี่สุดที่รักพร้อมกับกระโดดทับ ??
   “โอ๊ย น้องน้ำครับเดี๋ยวนั่งดีๆน้าพี่วาคุยโทรศัพท์อยู่ครับ” วารีบนั่งดีๆก่อนที่จะตบที่หน้าขาให้น้ำนั่งตัก  น้ำรีบปีนขึ้นนั่งพร้อมกับกอดเอว ซุกกอดพี่วาคนดี ท่าทางออดอ้อนทำให้วาหลุดขำ
   “น้องน้ำสวัสดีลุงโยก่อนครับ” วาพูดขำๆ ก่อนที่จะกดเปิดลำโพงให้น้ำได้ยินด้วย
   “สวัสดีครับลุงโย” น้ำพาซื่อเรียกโยธินตามพี่วาบอก คนปลายสายทำหน้าปั่นอยากอยู่ดีๆก็ได้เป็นลุงซะแล้ว
   “(น้อยๆหน่อยเจ้าวา เรียกพี่ก็พอมั้ง  สวัสดีครับน้องน้ำ)”
   “ครับผม”
   “น้ำหิวยังครับพี่วายังไม่ได้ทำอะไรไว้เลย” ต้องโทษคนที่ยังไม่ลงมานั่นล่ะ
   “น้ำอิ๊มอิ่ม....อาไม้พาน้ำไปเล่นน้ำด้วย แถมอานัทยังชื้อขนมให้น้ำเยอะแยะเลย” เหมือนคำว่าเยอะจะไม่พอ น้ำกางมืออกกว้าง เจ้าลูกหมูเอ๊ย
   “กินเยอะ อีกหน่อยน้ำจะกลิ้งไปแล้วนะ”
   “น้ำไม่อ้วนซักหน่อย ตะวันบอกน้ำกำลังน่ารัก” ถ้าพี่ลมได้ยินนี่จะทำหน้ายังไงกันนะ 
   “น่ารักหรือน่าถีบห๊ะไอ้ลูกลิง” ไม้ที่พึ่งหอบเข้าของเข้ามาพูดดักคอหลานที่ตอนนี้ทำหน้างอง้ำ น่าบีบจริงๆ โยธินฟังเสียงที่ดังลอดเข้ามา ทำให้เขาวางใจได้ว่าน้องชายของเขาเจอกับคนที่ดี เท่าที่ฟังดูเหมือนจะอบอุ่นมากเลยทีเดียวด้วยซ้ำ
   “ลุงโย ลุงโย อาไม้แกล้งน้ำ” วาขำเมื่อเจ้าลูกหมูไม่มีคนให้อ้อนเลยหันไปอ้อนคนที่ถือสายอยู่ จนพี่โยหัวเราะ
   “(เลิกเรียกว่าลุงซักทีเถอะ แล้วพี่จะช่วยได้ยังไงหือ)” เหมือนเขาจะนึกภาพพี่โยตอนนี้ออก ต้องกุมขมับอยู่แน่ๆ
   “ยกพี่วาให้น้องน้ำ น้องน้ำอยากให้พี่วาอยู่กับน้ำ”
   “ไอ้เด็กแสบ พี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อน” พี่ไม้ยีหัวน้ำก่อนที่จะเดินขึ้นข้างบน
   “เดี๋ยวพี่โยคุยกับน้ำนะ วาจะไปทำกับข้าวให้น้องก่อน”
   “เย่ๆ ลุงโยคุยกัน คุยกัน” น้ำคว้าเอาโทรศัพท์ไปถือเอง ได้ยินแต่เสียงโวยวายของพี่โยแต่ก็ยอมคุยกับน้อง ผมเลยปล่อยให้สองลุงหลานคุยกัน เท่าที่ได้ยินแว่วๆ เถียงกันเรื่องลุงนี่ล่ะนะ ได้แต่ส่ายหัวกับคนที่ไม่ยอมแก่ ทำโน้นทำนี่ซักพักอาหารสี่ห้าอย่างก็เสร็จอย่างรวดเร็ว ตอนที่ออกมาจากครัวเขาก็เห็นพี่ลมกับน้ำคุยกับพี่โยอย่างออกรส
   “ขอบคุณมากเลยนะ ได้แนวคิดดีๆอีกเยอะเลย”
   “(ไม่เป็นไร ไว้จัดการเรื่องวุ่นวายทางนี้เสร็จผมจะไปเที่ยวที่ไร่ซักครั้งเพราะเห็นทีคนบางคนคงไม่อยากกลับ)” ผมได้แต่มองถลึงคนที่ดึงให้ผมนั่งข้างๆก่อนที่จะโอบเอวผมไว้ ทั้งๆที่ยังคุยอยู่กับพี่ชายเขา
   “พ่อลม พี่วาของน้ำนะ วาขอพี่โยแล้ว” ไปติดสินบนกันอีท่าไหนล่ะถึงได้เปลี่ยนเป็นจากลุงเป็นพี่
   “พอๆครับ ผมทำกับข้าวเสร็จแล้ว”
   “หึๆ ก็ได้” พี่ลมว่าก่อนที่จะยืนโทรศัพท์คืนให้ผม ก่อนที่จะอุ้มลูกหมูไปที่โต๊ะพี่ไม้ก็เดินลงมาพร้อมกับพี่นัทที่พึ่งเดินเข้าบ้านมา ผมเลยหันมาคุยกับพี่โย
   “วาวางสายก่อนนะพี่โย”
   “(ครับๆ ดูแลตัวเองดีๆ)”
   “ครับผม” ผมกดตัดสายแล้วเดินไปสมทบที่โต๊ะกินข้าว ที่ทุกคนนั่งกันเรียบร้อยแล้ว มือนี้ทุกคนต่างหัวเราะกับเรื่องราวของน้ำ ก่อนที่จะแยกย้ายปล่อยให้สองหนุ่มล้างจานส่วนผมก็ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน เพราะน้ำพี่ลมจะพานอน ผมนั่งเช็ดผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง
   “แกร๊ก”
   “น้ำหลับแล้วเหรอครับ”
   “ใช่ ตอนนี้ก็เป็นเวลาของพี่แล้ว”
   “เหวอ ปล่อยผมเลยนะ” ผมได้แต่ร้องตกใจเมื่อจู่ๆพี่ลมก็เดินมาอุ้มผมขึ้นจนต้องรีบกอดคอคนช่างแกล้งไว้แน่นเพราะกลัวตก
   “มาให้พี่นอนกอดซะดีๆ” พี่ลมว่าก่อนที่จะสอดแขนรองคอก่อนที่จะรั้งผมไปกอด
   “ผมยังไม่ง่วงเลย” ได้แต่บ่นแต่เขาก็ขยับหาที่สบายๆก่อนที่จะนอนนิ่งให้อีกคนกอด ก็เล่นกอดเขาทุกคนนี่นะ
   “ฝันดี” ผมแค่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรเพียงแต่ซุกหน้าลงกับอกกว้าง ก่อนที่หลับไปด้วยความสุขใจ

   และวันที่จัดงานก็มาถึง ผมรีบตื่นแต่เช้าวิ่งวุ่นกับไร่ส้มและไร่องุ่น เพราะปุ๋ยที่สั่งละอองไปเอามาให้แล้วจริงๆก็จะไปด้วยนะเพียงแต่ใครบางคนพอรู้ ก็สั่งห้ามผมทันที ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ตอนนี้ใส่ปุ๋ยเรียบร้อย รอเพียงการแตกยอดใหม่ ยังดีที่ฝนไม่ตกอีก นี่ก็เย็นแล้ว
   “คุณวา คุณวา!!! พ่อเลี้ยงให้มาตาม” ผมได้แต่กลอกตา อะไรอีกล่ะครับ
   “ได้ๆเดี๋ยวฉันไปนะ” ผมเช็ดไม้เช็ดมือให้เรียบร้อย ไหนว่าไปดูฝายแล้วทำไมกลับมาเร็วจัง เขารีบขึ้นซ้อนท้าย
   “มาเถอะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวกับลูกก่อน” อ้อ งานเริ่มแล้วเหรอ
   “มาครับน้ำไปอาบน้ำกัน”
   “อาบด้วยกันนะ” ผมยิ้มก่อนที่จะพยักหน้าตกลง
   หลังจากที่เข้าไปอาบน้ำด้วยกันเราสองคนก็รีบแต่งตัวก่อนที่จะเดินไปที่ศาลา ที่ตอนนี้ทุกคนต่างมารวมตัวกันเกือบหมดแล้วพร้อมกับเสียงดนตรีกระหึ่ม
   “มานั่งนี่มา” ผมอุ้มน้ำขึ้นให้นั่งกลางระหว่างผมกับพี่ลม
   “เฮ้ยๆๆ ค่อยกิน ฟังกูก่อน” พี่ลมร้องบอกซึ่งทุกคนก็พากันหยุดกินหันมาฟัง
   “งานวันนี้กูจัดเพื่อต้อนรับวา เอาจริงๆก็แค่ข้ออ้างเลี้ยงทุกคน ต่อไปวาจะเป็นคนในครอบครัวกูดูแลดีๆด้วย”
   “วิดวิ้วววววววว โห่ววววววววววววววววว” เสียงแซวเสียงโห่ดังมาจากฟากของกลุ่มละออง ก็คงมีกลุ่มนี้กลุ่มเดียวล่ะที่กล้าแซวโดยไม่กลัวโดนหักเงินและไม่กลัวโดนเท้า
   “ทำไมแซวมากๆกูจะให้วาหักเงินเดือนพวกมึงทั้งกลุ่มให้หมด”
   “โอ๊ะ ไอ้สินกูว่าต่อไปเราต้องยืนข้างคุณวาวะ” ละอองหันไปกระซิบกับคู่หูที่ได้ยินกันทั้งศาลา
   “ไอ้ละออง”
   “โอ๊ยยไอ้ละอองล้อเล่น”
   “มึงนิ กูจะพูดต่อล่ะนะ กินได้แต่อย่ากินจนเกิดเรื่องเกิดราว ใครกลับไม่ไหวก็นอนนี่ไปเลยกูเตรียมไว้ให้แล้ว” พี่ลมชี้ไปที่กองผ้าห่มกับมุ้ง นี่เตรียมพร้อมจริงๆ “กินต่อเถอะ” สงสารแต่ล่ะคนล่ะไม่กล้ายกแก้ว จนพี่ลมเลิกพูดเท่านั้นล่ะอย่างกับนกแตกรัง พี่ไม้กับพี่นัทที่พึ่งมาถึงเดินมานั่งโต๊ะ
   “น้ำจะกินอะไรครับ” ผมถามคนที่หันซ้ายหันขวามองทุกคนคุยกัน
   “ไก่ทอด” ผมตักไก่ใส่จานหันเป็นชิ้นๆแล้วปล่อยให้น้ำทานเอง งานเลี้ยงยิ่งดึกก็เหมือนยิ่งคึกโดยเฉพาะกลุ่มละอองที่ตอนนี่ท่าเต้นยิ่งดูแปลกตาและล้ำขึ้นไปทุกที น้ำที่ทีแรกสนุกแต่ตอนนี้เกาะผมเป็นลูกลิงพร้อมกับหลับตาพริ้ม
   “พี่ลม ผมพาน้ำกลับไปนอนก่อนนะ”
   “อืมไปเถอะเดี๋ยวพี่ตามไป” เขาพยักหน้าอุ้มน้ำเดินกลับบ้าน

   ลมมองหลังบางที่อุ้มลูกเขากลับบ้าน หลังจากที่คุยกับพี่ชายวาแล้วเขาก็รู้สึกวางใจในระดับหนึ่งที่พี่วาเหมือนจะรับรู้แต่ไม่ว่าอะไรและยังพูดเหมือนจะไม่พาตัววากลับ
   “มองขนาดนั้นก็กลับไปนอนเหอะ”
   “เงียบเหอะไอ้ไม้”
   “ใช่สิ ไม่ใช่น้องวา” อือหืออถ้ามึงนั่งใกล้ๆนี่กูถีบไปแล้วนะ ทำสะดิ้ง
   “ไอ้ผู้กองเรื่องที่ให้สืบนะถึงไหนแล้ววะ” ผมหันไปถามเรื่องอุบัติเหตุของวา
   “คืบหน้าอยู่พี่ตอนนี้เริ่มสาวถึงตัวคนที่ตัดสายเบรกแล้ว แต่พี่น่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าเป็นคนงานในไร่พี่” นัททำหน้าจริงจัง ผมถอนหายใจก็พอจะรู้
   “เรื่องนั้นขอแค่กูรู้ว่าใครกูจะส่งให้ถึงมือมึง”  ลมมองดูลูกน้องที่กินดื่มกันอย่างมีความสุข
   “อืม เรื่องนี้เกี่ยวกับเสี่ยปานด้วยนะ” อยากจะจัดการให้จบๆเรื่องไปแต่เพราะคำสัญญาของเขากับมารดา
   “กูอยากจัดการเองให้มันจบๆไป แม่งอยากได้อะไรหนักหนากับที่ดินกู กูก็บอกไม่ขายแม่งยังเสือกมาใช่คำว่าพ่อตากับกูอีก แถมยังส่งลูกมาระรานกู”
   “ก็มันเรื่องจริงนะพี่ ถึงพี่ปลาจะไม่อยู่แล้ว ไอ้เสี่ยปลามันก็ยกเรื่องนี้มาพูดได้ส่วนเรื่องปรุงพี่ก็ปล่อยให้ยัยนั่นมาวุ่นวายกับพี่เอง” นี่มันน้องกูป่าววะ แม่งไม่เคยเข้าข้างกูเลย
   “ไอ้ผู้กอง กูอนุญาตให้มึงมานอนที่บ้านกูเดือนหนึ่ง”
   “ไอ้เชี่ยพี่ลม!!!!!”  เชี่ยเต็มหน้ากูเลยสัส
   “หึๆ”
   “ทำไมไม่พอใจ หนีไปนอนโรงงานสิ” ไอ้ไม้บ่นอุบอิบแต่ก็ไม่กล้าเถียงอะไรผมอีก นั่งกินจนจะเที่ยงคืนหลายคนก็กลายเป็นศพเรียบร้อย ผมบอกคนที่ยังมีสติให้ดูแลกัน ส่วนตัวเองก็เดินเซกลับบ้าน หนีไปอาบน้ำให้สร่างเมา จริงๆเรื่องปรุงก็เป็นเพราะผมไม่ห้ามไม่เด็จขาดเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้เขาต้องทำอะไรให้เด็จขาดรวมทั้งเรื่องเสี่ยปานด้วย ที่ตอนนี้รู้สึกว่าจะล้ำเส้นจนเกินไป
   “อือกลับมาแล้วเหรอครับ” วาถามงัวเงียทันทีที่ผมล้มนอนข้างๆ
   “อืมนอนต่อเถอะ” วาพยักหน้าก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับซุกที่อกผม นับวันยิ่งน่ารักนะเรา ก้มลงจูบที่ขมับก่อนที่จะหลับตาลง บางทีเรื่องความรักก็ไม่เกี่ยวกับการมีเซ็กส์กันซะทีเดียว
   ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเมาค้างให้ตายเหอะ ไม่ได้กินนาน เสือกกินเยอะแล้วมาปวดหัวอยู่นี่ไงเขาเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับกลิ่นหอมเดินตามกลิ่นเข้าไปในครัว สงสัยไอ้ไม้ยังไม่ตื่น
   “ตื่นแล้วเหรอครับ”
   “พี่ปวดหัวจังเลยวา” ผมว่ากอ่นที่จะทำเนียนเดินเข้าไปชิดก่อนที่จะวางคางบ่นไหล่เล็ก
   “หือ เมาค้างรึเปล่าครับ” วาหันมามองก่อนที่จะยกมือมาแตะที่หน้าผาก
   “อือ” เขาไม่ตอบอะไรเพียงแต่ซบหน้าที่ไหล่ไม่ไปไหน
   “พี่ลม ปล่อยผมก่อนเดี๋ยวจะชงกาแฟให้”
   “ชงไปสิ”แต่ผมก็ยังไม่ปล่อย ได้ยินวาบ่นเบาๆแต่ก็ไม่ได้ผละออกเพียงแต่ขยับไปชงกาแฟดำหอมกลุ่นให้ผม เลยต้องปล่อยมือรับเอาแก้วกาแฟแต่ยังยืนพิงเค้าเตอร์มองคนทำกับข้าวในครัว เป็นบรรยากาศสบายๆที่ทำให้ผมอยากเจอทุกๆวัน
   “นายยยย นายยยยยเรื่องใหญ่แล้ววววว วววววว” และความหวังของผมก็พังลงทันทีที่เสียงแหกปากของไอ้ละออง
   “มีห่าอะไรแต่เช้าวะ” มันยังตื่นมาป่วนตั้งแต่เช้าได้ไงทั้งๆที่มันกินอย่างกับอาบ
   “นะ.............นาย.......ฟะ.......ไฟไหม้....ไฟไหม้ที่....ที่โรงงาน....” ไอ้ละอองพูดไม่เป็นคำ แต่ตอนนี้ผมแทบจะไม่ได้ยินอะไรแล้ว
   เพล้ง!!       
   “พี่ลม ใจเย็นๆก่อนนะครับ” มือเรียวแตะที่มือใหญ่ที่ตอนนี้กำแน่นทำให้ใจเขาสงบอย่างประหลาด
   “เสียหายไปเท่าไหร่”
   “ไหม้ที่โรงงานเก่าครับนาย” ลมรู้สึกโล่งใจที่โรงงานที่เขาพึ่งลงเครื่องยนต์ไปไม่มีความเสียหาย และที่กูคิดไม่ผิดตัวการแม่งมีคนเดียว มึงจะล้ำเส้นเกินไปแล้วนะไอ้เสี่ยปาน
***********************************************************************
ช่วงนี้สิ้นเดือน รับมาม่าไหมคะ
ฮ่าๆๆไม่ใช่ๆ ตอนนี้ใกล้สิ้นเดือนเค้าเหมือนจะขาดใจ
เปย์นิยายไปเยอะเหลือเกิน
ซดมาม่าวนไป พ่อเลี้ยงอ้อยแรงอ่ะ เกลียด
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้าาาาาาาาา
รักคนอ่าน คนเม้นต์ ขอบคุณทุกความคิดเห็น
เป็นแรงใจที่ดีจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ไอ่เสี่ยนี่ น่ากระทืบมาก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

เราจะกินมาม่าเป็นเพื่อนกัน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จัดการกับเสี่ยปานให้เด็ดขาดซักที
ลูกน้องคนไหนตัดสายเบรก สืบให้ได้ด้วย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
พี่ลมออกไปที่โรงงานทันทีที่ได้ข่าวยังไม่ทันที่จะกินข้าวด้วยซ้ำ เขารีบเดินขึ้นไปเคาะประตูห้องพี่ไม้ พี่ไม้ที่เปิดประตูออกมาในสภาพที่เสื้อผ้ายังเหมือนเมื่อคืน
   “พี่ไม้ละอองพึ่งมาบอกว่าที่โรงงานไฟไหม้”
   “เหี้ย!!!พี่จะรีบไป” พี่ไม้ที่ส่างเมาทันทีที่ได้ยินข่าว
   “พี่ลมไปดูแล้ว ผมขึ้นมาเรียกพี่ไม้”
   “ได้ๆเดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อน” พี่ไม้เดินกลับเข้าห้อง ก่อนที่จะไปถีบคนที่ยังนอนบนเตียง
   “อ่า...งั้นเดี๋ยวผมไปปลุกน้ำก่อนนะครับ” เขารีบหนีก่อนดีกว่าก็เพราะตอนนี้เหมือนพี่ไม้จะโดนพี่นัทแกล้งซะแล้ว ผมรีบหันหลังก่อนที่จะเปิดเข้าไปในห้องน้ำ
   “ตื่นได้แล้วครับลูกหมูรีบแต่งตัวนะครับพี่วาจะพาไปหาพ่อครับคนเก่ง”  น้ำรีบงัวเงียตื่นแล้วรีบลงจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ผมรีบไปเตรียมข้าวใส่ปิ่นโตเพราะผมก็เป็นห่วงที่โรงงานเหมือนกันถึงจะไม่เคยไปแต่ที่นั่นก็เป็นอีกรายรับอีกทางที่ทำผลกำไร ให้ไร่สายลมเพียงพอที่จะเลี้ยงดูคนงานหลายร้อยคน
   “ไปกันเถอะวา” พี่ไม้ที่แต่งตัวลวกกับลูกหมูวิ่งลงมาเขารีบหิ้วปิ่นโตพร้อมกับแก้วกันความร้อนที่ชงกาแฟไว้เต็ม
   “มาครับพี่วาอุ้ม” ผมอุ้มน้ำที่ยังงัวเงีย รีบเดินขึ้นรถที่พี่ไม้ขับมาจอดรออยู่แล้ว พอนั่งเรียบร้อยรถกระบะก็วิ่งออกจากไร่ด้วยความเร็ว ยังดีที่เขาสั่งงานละอองไว้แล้ว ส่วนบ้านพี่นัทคงจะดูให้ โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าพี่นัทมีภารกิจสำคัญอยู่แล้ว นั่งไม่นานเราก็พากันมาถึงโรงงาน ซึ่งไม่ถือว่าใหญ่แต่ก็เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานและตอนนี้กำลังจะขยายให้เป็นโรงงานขนาดกลางที่รองรับเครื่องมือและคนงานเพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้ดันมีเรื่องราวซะก่อน
   “พี่ลมเป็นยังไงบ้างครับ” ผมรีบเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่ทำหน้าเครียด
   “วา ก็เยอะอยู่” พี่ลมว่าก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ มันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ มือเล็กแตะเบาๆที่ต้นแขนแกร่ง
   “ไม่เป็นไรนะครับพี่ลมเดี๋ยวมันก็จะดีขึ้น”
   “พ่อลมมมม โอ๋ๆน้า” น้ำที่ไม่รู้เรื่องแต่เห็นพี่วาของเขาปลอบ เขาก็อยากปลอบพ่อลมบ้าง
   “ไอ้ลูกหมู” พี่ลมก้มลงอุ้มน้ำขึ้นก่อนที่จะฟัดแก้มยุ้ยจนแดงเป็นริ้วๆ
   “ฮ่าๆๆ น้ำจักกะจี้ พี่วา ช่วยน้ำโด้ยยย” ผมได้แต่ยืนมือไปรับน้ำที่พยายามดิ้นมาทางผม พี่ไม้ที่เดินเข้าไปหากลุ่มคนงานตั้งแต่มาถึงพึ่งเดินมา
   “แม่งไม่ได้เรื่องเลยพี่ พวกคนงานมันไม่เห็นอะไรเลย” พี่ไม้พูดอย่างหัวเสีย
   “ไม่ต้องห่วงงานนี้กูเล่นหนักแน่” ดวงตาคมเปล่งประกายจ้าก่อนที่จะหันมาแท็คทีมกับพี่ไม้มาแกล้งน้ำที่ยิ่งถูกแกล้งยิ่งหัวเราะแต่ก็กอดคอผมแน่น จะหายใจไม่ออกแล้วนะ
   “หึๆ เห็นว่าโรงงานพ่อเลี้ยงไฟไหม้แต่ก็คงไม่เป็นอะไรมาสินะถึงยังได้ยิ้มได้” ทุกคนชะงักบรรยากาศดีๆเมื่อครู่หายวับไป ทันที่ที่ร่างท้วมของอีกคนเดินเข้ามา
   “ไม่คิดว่าคนอย่างมึงจะมีเวลาว่างมากถึงได้มาถึงที่นี่” พี่ลมก้าวออกมายืนอยู่หน้าผม 
   “ก็คนในครอบครัว ก็เลยเป็นห่วงเลยจะแวะมาดู”
   “เหอะ กูไม่เคยนับมึงเป็นครอบครัว อย่ามาพูดให้เป็นเสนียดแถวนี้”
   “มึงไอ้ลม หึ นั่นมันหลานกูไม่ใช่เหรอ” ร่างท้วมที่ขยับเดินเข้ามาพี่ลมกางแขนกั้น ส่วนผมก็กอดน้ำแน่น และน้ำก็เหมือนจะเข้าใจรีบกอดคอผมแน่น
   “อย่าคิดแม้แต่จะแตะลูกกูแม้แต่ปลายเล็บ เรื่องเลวๆที่มึงทำกูจะไม่ปล่อยให้มึงล้ำเส้นกูอีกต่อไป วาพาลูกขึ้นรถ” พี่ลมหันมาบอกผมนิ่งๆ ได้แต่พยักหน้าแล้วอุ้มน้ำไปขึ้นรถ และผมก็ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นพี่ลมกับพี่ไม้คุยอะไรกันกับเสี่ยปานอีก ซักพักเสี่ยก็กลับด้วยท่าทางฉุนเฉียว ส่วนพี่ไม้กับพี่ลมคุยกันอีกสองสามคำพี่ลมก็เดินมาที่รถ
   “เป็นไงบ้างครับ”
   “ใครอ่ะพ่อลม” ลูกหมูที่นั่งเคี้ยวแซนวิชตุ้ยๆ ถามทั้งๆที่แก้มยังป่องด้วยแซนวิช
   “อยากรู้เกินไปแล้วไอ้ลูกหมู ก็ไม่มีอะไรแล้ว วา...พี่อยากให้วาอยู่แต่บ้าน แค่สองสามวันนี้ พี่จะรีบจัดการให้เร็วที่สุด” แค่อยู่กับบ้านไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่เขาห่างคนที่ทำหน้าเครียดอยู่ต่างหาก
   “อย่าทำอะไรให้ตัวเองต้องเจ็บตัวนะพี่ลม”
   “ไม่ต้องบอกพี่เลยเรานะเจ็บตัวก่อนพี่อีก พ่อกินด้วยสิไอ้ลูกหมู” แหย่ผมเสร็จยังไม่วายที่จะแหย่ลูกก็รู้ๆอยู่น้ำกับของกิน แย่งได้ซะที่ไหน
   “ม่ายยยนี่ของน้ำ ในเป๋านั่นก็ของน้ำ” อยากจะบีบแก้มที่ป่องเหมือนกระรอกจริงๆ หวงจริงๆนะของกินเนี้ย
   “ไอ้หมูน้อยเอ๊ย อีกหน่อยก็กลิ้งเล่นในไร่เลยล่ะกัน” ถึงพี่ลมจะพูดแบบนั้นแต่ก็เหมือนจะดีใจที่น้ำกินเยอะนะ
   “พี่ไม้เดี๋ยวครับ” ผมเรียกพี่ไม้ที่กำลังจะเดินเข้าโรงงาน
   “อะไรเหรอวา”
   “กาแฟครับกับแซนวิช” ผมส่งแก้วกาแฟกับแซนวิชที่เก็บไว้ต่างหากให้พี่ไม้
   “ขอบใจนะ น่ารักจริงๆเล้ยย”  พี่ไม้ว่าพร้อมกับยกมือมาบีบแก้มผมเบา
   “ไอ้ไม้ปล่อยมือมึงนะ”
   “ปล่อยก็ได้” ฟอด อ่ะ ไม่เพียงแต่ผมที่ตกใจเมื่อพี่ไม้ก้มลงหอมแก้มก่อนที่จะรีบวิ่งหนี พอหันไปมองพี่ลมที่ตอนนี้อ้าปากค้างตัวแข็งไปแล้ว จนผมและน้ำแอบขำอยู่นานสองนานกว่าพี่ลมจะได้สติมาโวยวาย
   “วาทำไมให้ไอ้ไม้หอมแก้มห๊ะ”
   ฟอด ฟอด จุ๊บ
   “ฮ่าๆๆพ่อลมไม่ต้องอิจฉา น้ำก็หอมเหมือนกัน” น้ำที่คิดว่าที่พ่อโวยวายเพราะอิจฉาอาไม้ เลยเอาคืนพ่อด้วยการหอมแก้มพี่วา
   “ไอ้ลูกหมู หืย ไม่ต้องขำวา อย่าให้ถึงทีพี่ ถ้าพี่เอาจริงแล้ววาจะรู้สึก” สายตาคมที่สื่อความหมายออกมา ทำให้เขาต้องเสหลบสายตา ก่อนที่จะยืนปิ่นโตให้
   “พี่ลมจะกินข้าวเลยไหม พี่คงจะอยู่ที่เคลียที่นี่กันพี่ไม้”
   “ไม่หรอกพี่จะกลับไร่เดี๋ยวค่อยกลับไปกินที่ไร่ นั่งดีๆไอ้ลูกหมู” พี่ลมบอกน้ำที่ยังนั่งกินไม่สนใจอะไรจนน้ำต้องลุกขึ้นมานั่งที่เบาะดีๆ พี่ลมถึงขับรถกลับไร่

   “ไอ้นัทกูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” ลมที่ตอนนี้กำลังเดินตรวจไร่องุ่นโดยมีนัทเดินตามมา ส่วนวาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน  วาดูแลไร่ได้ดีจริงๆ ลมคิดเมื่อตอนนี้องุ่นเริ่มแทงยอดอวบ ท่าทางจะได้รับการบำรุงดูแลดี
   “ผมรู้พี่ลมแต่ว่าหลักฐานตอนนี้มันยังมีช่องโหว่อยู่ เดี๋ยวมันก็ดิ้นหนีไปได้” นัทพูดอย่างหนักใจ
   “กูไม่ปล่อยให้มันรอดหรอกเดี๋ยวหลักฐานก็จะถึงมือมึงเอง และกูมีตัวช่วย” นัททำหน้างง เอาเหอะระดับพ่อเลี้ยงไม่ปล่อยคนที่ระรานรอดหรอก
   “เอาเหอะ ผมจะรอ ได้ข่าวว่าตอนนี้มันกำลังดิ้นเลยนิ”
   “ใช่ กูว่าที่มันลงมือแบบนี้เพราะบ่อนทางพม่า” ทำไมลมจะไม่รู้ว่าเสี่ยปานติดการพนัน แต่ก่อนที่เขาปล่อย อาจจะใช่ที่เหตุผลหนึ่งคือเป็นพ่อของปลา แต่หลักๆเขาคิดว่าไอ้เสี่ยนี่ไม่ได้มีน้ำยามากถึงขนาดเล่นงานเขาได้ แต่เขาก็ประมาทเกินไป หมาจนตรอกมันทำได้ทุกอย่างจริงๆ ถึงได้ทำทุกทาง แถมยังยอมแลกทุ่มทุนทุกอย่างที่มี น่าสมเพศ
   “พี่ลมนี่นะรู้ขนาดนี้แล้วยังปล่อยให้มันเล่นอยู่ได้”
   “ก็นะ กูผิดเองล่ะตอนนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้ กูมีคนให้ห่วงเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว”
   “นี่จริงจัง”
   “เออเหลือแต่ไปขอกับพี่ชายวานั่นล่ะ”เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาคิดหนักกว่าการที่จะจัดการเสี่ยปานเสียอีก
   “เหอะๆ งั้นผมไปก่อนนะพี่”
   “เออจะไปไหนก็ไป” เขาโบกมือไล่โดยไม่สนใจสายตาค่อนแคะของมันเลยซักนิด  เขายังคงเดินสำรวจไร่องุ่นต่อ

   “พี่วา น้ำไม่เข้าใจ”
   “ตรงไหนเหรอครับ” ผมที่ถือจานผลไม้เดินไปหาน้ำที่นั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะหน้าทีวี ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ
   “อ้อ ตรงนี้น้องน้ำต้องบวกข้างหลังก่อนครับ” เขาชี้จุดที่น้ำไม่เข้าใจ น้ำเป็นเด็กเรียนรู้เร็วตอนนี้สามารถบวกเลขในใจได้แล้ว การบ้านทุกอย่างก็ทำเอง ไม่เข้าใจถึงขอความช่วยเหลือ ผมนั่งดูน้ำทำการบ้านไป สลับกับที่ผมเตรียมผักสำหรับทำอาหารเย็น
   เอี๊ยดดดดดดดดดดด 
   เสียงบดของล้อยางดังลั่น ทั้งผมและน้ำต่างสะดุ้ง
   ปัง
   “ฉันมาหาลม” เสียงแว๊ดๆเป็นเอกลักษณ์ของร่างระหงที่ก้าวเข้ามาในบ้าน
   “พี่ลมไม่อยู่ครับ” ผมกระซิบบอกน้ำ น้ำพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินขึ้นห้องตัวเองก่อนที่ลุกขึ้นไปคุยด้วยเพราะเห็นท่าทางหาเรื่องของอีกฝ่ายแล้ว คงไม่แคล้วที่จะมาหาเรื่องเขาแน่ๆ
   “หึ แกมาอยู่อะไรที่นี่ คิดจะมาเกาะลมเหรอ แกต้องการเท่าไหร่”
   “หมายถึงอะไรครับ”
   “โง่” สายตาหยามเหยียดนั่นไม่ได้ทำให้ผมโมโหอะไร เพียงแต่ผมรู้สึกสงสาร สงสารคนๆนี้ที่ยังยึดติด
   “แกต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะออกไปจากชีวิตพี่ลม”
   “พี่ลมไม่มีค่าเท่ากับเศษเงินพวกนั้นหรอกนะครับ ผมว่าคุณปรุงกลับไปดีกว่านะครับตอนนี้พี่ลมไม่อยู่”
   “แกเป็นใครมีสิทธิอะไรมาไล่ฉัน แกคงไม่รู้สินะ ฉันเป็นน้องสาวของปลา อ้อแกคงจะแปลกใจว่าปลาคือใคร ปลาคือแม่ของน้ำ ตอนนี้นังนั่นทิ้งพี่ลมไปฉันควรจะเป็นคนที่เข้ามาเป็นนายหญิงของไร่สายลม” หญิงสาวพูดอย่างเพ้อฝัน เธอเกิดมาเป็นลูกสาวคนเล็กที่ถูกทุกคนรอบตัวกล่าวชมทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำ ถึงแม้สิ่งที่เธอทำจะผิด แต่เมื่อทุกคนรอบตัวชื่นชม นั่นคือสิ่งที่ถูก เมื่อโตขึ้นมา เธอถูกห้อมล้อมไปด้วยคนที่เห็นด้วยกับเธอ หมุนรอบตัวเธอ ใครที่ไม่เห็นด้วยจะถูกมองเป็นแกะดำ และถูกโจมตี นั่นยิ่งให้เธอมั่นใจในการกระทำของตัวเองว่าถูก
   ตอนที่พี่สาวของเธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อลม ตอนแรกเธอได้แต่เหยียดหยามว่าพี่สาวเหลวแหลกของเธอไปคว้าผู้ชายระดับไหนมาเป็นสามี แต่เมื่อเธอได้เจอลม เธอกลับตกหลุมรักผู้ชายคนนั้น เธอเคยพร่ำขอกับบิดาว่าเธออยากแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอถูกขัดใจ  แต่เธอรู้ดี รู้ดีว่าทั้งสองคนนั่นไม่ได้รักกัน ลมรักเธอ  เขาคอยสบตากับเธอเสมอ ดังนั้นเธอต้องจะต้องได้เคียงคู่กับเขา หลังจากที่เด็กนั่นคลอดออกมาแล้วพี่สาวของเธอหายตัวไป ตอนนั้นบิดาหัวเสียมาก ในตอนนั้นเธอคิดว่าเป็นโอกาสของเธอ แถมบิดายังคอยสนับสนุน นั่นยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเธอจะต้องได้เข้ามาอยู่ในบ้านนี้แน่
   จนกระทั่ง ........ไอ้ผู้ชายคนนี้มา ผู้ชายที่ทำให้ลมวิปริต ทำให้คนรักของเธอเปลี่ยนไป ดังนั้นเธอต้องกำจัดหมอนี่
   “ฉันเคยเตือนแกแล้ว แต่แกก็ยังดื้อด้านกลับมา” เรียวปากแดงเสยะยิ้มบิดเบี้ยว วาเริ่มรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อคนตรงหน้าเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นั่นทำให้วาระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม
   “หมายความว่ายังไงครับคุณปรุง ในเมื่อผมกับคุณแทบไม่ได้คุยกัน คุณเตือนผมตอนไหนกัน”
   “เหอะ แกน่าจะตายๆไปตั้งแต่รถคว่ำ แต่แกก็หนังเหนียว” ผมได้แต่ตกใจเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนบงการ ผู้หญิงคนนี้ทัศนคติผิดเพี้ยนไปแล้ว
   “ผมคงคิดโง่ๆจริงๆ คุณปรุงนั่นก่อนดีไหมครับ ค่อยๆคุยรายละเอียดกัน” ผมพยายามที่จะคล้อยตามเพื่อไม่ให้อีกคนสติแตก
   “หึ” ขาเรียวก้าวไปยังโซฟา ก่อนที่จะมองกองหนังสือมือสวยปัดทิ้ง ผมนั่งลงตรงข้ามก่อนที่จะเก็บอุปกรณ์ทำครัวให้พ้นมือ คุณปรุงพูดเล่าเรื่องราวความรักของตัวเองก่อนที่จะเข้าเรื่องการจ้างให้เขาออกจากชีวิตพี่ลม แต่ก่อนที่ผมจะเออออ
   “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ทางที่ดีอกควรหายไปจากพี่ลมตลอดกาล” ให้ตายเถอะผู้หญิงคนนี้สติหลุดไปแล้วจริงๆ
   “คุณปรุงใจเย็นๆก่อนนะครับ”
   “หึๆ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีเขารีบลุกขึ้นแต่ก็เหมือนจะช้ากว่าคนที่สติหลุดไปแล้ว เล็บยาวจิกเข้าที่แขนขาวเป็นรอยยาว
   “โอ๊ย” ผมจับมือคุณปรุงออก ก่อนที่จะกุมไว้แน่น
   “ได้สติซะทีเถอะคุณปรุง” ผมตะโกนอย่างเหลืออด แต่เหมือนจะเป็นการกระตุ้นอีกคนให้พุ่งเข้ามาทำร้าย แต่เขาก็จับมืออีกคนไว้แน่นยังไงซะแรงผู้หญิงก็ยังน้อยกว่าแรงผู้ชายอย่างผม แต่ผมก็โต้กลับไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้หญิง
   “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” ในที่สุดความช่วยเหรอที่เขาตามมาก็มาถึง
   ลมรีบกลับมาทันทีที่เจ้าลูกหมูโทรไปรายงาน แต่กว่าที่จะมาถึงเขาก็เห็นผู้หญิงน่ารำคาญนั่นยื้อยุดกับวา เขารีบเดินไปกระชากแขนคนที่คล่อมวาจนตัวปลิวกระแทรกโซฟา
   “โอ๊ยย” เสียหวีดร้องไม่ได้เรียกความสนใจของผมได้ เขาพุ่งไปดูร่างบางที่กำลังลุกขึ้น ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นเมื่อเห็นรอยแดงรอยถลอกที่แขนขาว
   “พาผู้หญิงไร้สติไปส่งโรงพัก”
   “ครับนาย” ละอองรีบรับคำก่อนที่จะล็อกแขนสองข้างดึงตัวออกไป
   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แกอย่ามาแตะตัวฉันนะ ลมคุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ”
   “หุบปากแล้วออกไปจากบ้านฉันซะ” ละอองได้ยินแบบนี้ก็รู้แล้วว่านายตัวเองโมโหแล้ว รีบลากคนออกไป สงสัยงานนี้เขาจะต้องเบิกเงินแน่ๆเพราะหูเขาใกล้บอดแล้ว
   “เป็นไงบ้าง”
   “ไม่เป็นไรครับพี่ลม”
   “พี่วา ฮือออออ” ยังไม่ทันที่วาจะตอบอะไรร่างตุ้ยนุ้ยก็พุ่งเข้ามาหา ได้แต่กอดปลอบน้ำที่น้ำตานอง คงจะกลัวสินะ
   “ยืนแขนมาให้พี่ดูหน่อย” ลมบอกวาที่ตอนนี้กอดกันกลม วายืนแขนข้างที่โดนจิกมาให้เขา
   “ให้ตายเถอะพี่น่าจะมาเร็วกว่านี้”
   “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ลม” ถึงแม้ว่าวาจะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็ยังไม่ชอบใจเลย ความรู้สึกที่ปกป้องอีกคนไม่ได้ 
   “เดี๋ยวพี่ทำแผลให้ นี่น้อยๆหน่อยไอ้ลูกหมู” เขามองไอ้ลูกหมูที่กลายล่างจากลูกลิงตอนนี้จะกลิ้งได้อยู่แล้ว ตอนนี้กอดยังไม่พอยังอ้อนให้วาหอมแก้มอีกหลายครั้ง  คนโดนอ้อนก็ทำตามที่ขออีก เขาใส่ยาจนเรียบร้อย
   “เย็นนี้เดี๋ยวพี่ทำกับข้าวเอง” พูดจบวาก็เงยหน้า ตากลมยิ่งเบิกกว้าง
   “วาไม่อยากให้ห้องครัวพังหรอกนะ” ผมล่ะชอบตอนที่วาแทนตัวว่าวาจริงๆ ได้ยินตอนคุยกับคุณโย วาอย่างนั้นวาอย่างนี้ เหมือนอ้อนเขาจริงๆ
   “ไม่พังหรอกเดี๋ยวพี่จะให้วาสอน” เอาน่าทำงานไร่มาทั้งชีวิตกะอีแค่เข้าครัวมันคงไม่พังหรอก
   “ก็ได้ครับ แต่วาโหดนะ”
   “ไม่กลัวอยู่แล้ว”
   “น้ำก็จะทำด้วยยยยย” อยากมีส่วนร่วมจริงๆนะ เขาโยกหัวทุยแรงๆหนึ่งที เอาล่ะจะยากแค่ไหนกันเชียว
   “พี่ลม หันครับไม่ใช่สับ”
   “นี่พ่อลมดูสิ น้ำยังทำได้เลย”
   “พี่ลมนั้นเกลือครับไม่ใช่น้ำตาล
   “พ่อลมนี่ไม่รู้อะไรเล้ย”
   “พี่ลม!!! คนสิครับไหม้แล้ว”
   “จะกินได้ไหมน่อ”
   โว้ยยยยยยยยยย กูขอกลืนน้ำลาย การทำอาหารแม่งโคตรยากเลยเว้ย
*************************************************************
 :katai4: ปั่นแบบแหกนรกแตกมาก
คนคนหนึ่งมีบุคลิกนิสัย เกิดจากการบ่มเพาะจากสังคม
สิ่งสำคัญคือ ครอบครัว ว่าเลี้ยงดูแบบไหนมา
เคยมีคนแบบนี้โผล่มาในชีวิต ได้แต่อ้าปากค้าง
กับอาการโลกหมุนรอบตัวเอง  :mew5:
เอาล่ะพร้ำเพ้อเกินไปแล้วฮ่าๆๆ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
เข้ามาเม้นต์ ไปกดไลค์พูดคุยได้ที่เพจนะคะ
https://www.facebook.com/letter123.writer/
รักคนอ่านทุกคนนะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เป็นนี่นะ จะแกล้งเหวี่ยงชะนีปรุงให้กระแทกขอบโต๊ะขอบประตูแรงๆ
ใครว่าก็จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
   เคยมีคนเคยให้สัญญาไว้ แต่สุดท้าย คนคนนั้นกลับลืมเลือนทุกอย่างทั้งๆที่ เขาจำทุกอย่าง ช่างแม่งเหอะ  ลืมๆมันไปเถอะไอ้เรื่องสมัยขาสั้น สวัสดีครับกระผมนายไม้  เกิดมาเป็นลูกคนเล็กแต่ดันเกเรไม่ได้เพราะไอ้พี่ชายสุดที่รักมันดันเกเรไปก่อนเลยต้องเป็นลูกชายแสนดี อย่า อย่าทำหน้าอย่างนั้นครับ ผมก็เด็กผู้ชายคนหนึ่งนะครับ  ผมก็สอบติดที่มหาลัยกรุงเทพกูเป็นไทแล้วเว้ยยยยย  สี่ปี  สี่ปีที่ไร่สายลมพบเจอความเปลี่ยนแปลง  สี่ปีที่มีการสูญเสีย และการได้สมาชิกใหม่ในครอบครัว หลังเรียนจบผมก็กลับมาช่วยพี่ลมดูแลไร่  โดยที่ผมดูแลส่วนโงงานแปรรูปเล็กๆ  ที่มีโคลงการที่จะขยายให้โรงงานใหญ่ขึ้น เพื่อรับผลผลิต จากชาวสวนในจังหวัด
   “ไอ้ไม้กูจะให้มึงรับผิดชอบโรงงานไปเลยนะ”
   “พี่ ผมรู้น่าว่าพี่ขี้เกียจ”
   “เออมึงก็รู้ดี จะให้กูไปดูแลโรงงานกูว่าเจ๊ง” พี่ผมยังไงก็ยังเป็นพี่ที่เหนือความคาดหมาย ได้ตลอด จากไร่เล็กๆขยายเพิ่มขึ้นปลูกพืชหลายอย่างมากขึ้นทั้งผักและผลไม้ ส่วนที่คัดเกรดก็จะส่งไปที่ตลาด ส่วนพวกที่ตกคัดเกรดก็จะส่งเข้ามาที่โรงงานแปรรูป  งานที่นี่ก็ไม่มีอะไรมากมาย ชีวิตใช้กับการทำงานที่โรงงานอาจจะวิ่งไปช่วยงานที่ไร่ แล้วก็ช่วยเลี้ยงหลานตัวอ้วน
   “ยามม้าย....” เจ้าน้ำที่ตอนนี้ได้ขวบครึ่งแต่ความฉลาดนี่เกินวัย  ดูจากที่เรียกผมสิ พูดไม่ชัดยังอุตส่าห์เรียกผมอีก
   “ไรครับลูกลิง” ได้ฉายาว่าลูกลิงก็เพราะว่าติดคน ถ้าอยู่กับใครจะติดคนนั้น วันนี้ที่โรงงานเป็นวันหยุด แต่งานที่ไร่มันไม่มีวันหยุดผมเลยดูแลหลานเอง
   “ยิว” เออ...กินเก่งจริงเว้ย ผมเดินไปครัวหยิบขนมปังกับแยมมาทา  กินกันตาย ชีวิตลูกผู้ชายครัวคือพื้นที่ห้ามเข้า  เปิดดูรายการการ์ตูนทิ้งให้น้ำดูส่วนผมก็นั่งดูบัญชี ซึ่งเป็นอะไรที่เกลียดมาก ตอนเรียนยังสอบผ่านแบบงงๆเลยเว้ย อยากจะจ้างคนมาทำบัญชีนะ แต่มีผู้หญิงมาสมัครและเรื่องหลายอย่างก็ตามมา โดยเฉพาะ เรื่องวอแวกับพี่ชายเขา พ่อม่ายลูกติดแต่ดีกรีความรวยดึงความสนใจสาวๆหลายคนแล้ว   นั่งกินขนมปังเสร็จก็พาลูกลิงขึ้นไปนอน  ผมก็นั่งงมบัญชีต่อไป ทำทุกอย่างได้ยกเว้นบัญชี
   เอี๊ยด 
   เสียงรถที่ไม่คุ้นเคยนั่นทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
   “พี่ล๊มมมมมมมม” เสียงตะโกนเรียกหาพี่ชายที่ฟังดูคุ้นหู แต่เขาก็เดินออกไปเปิดประตู
   นัท......
   “พี่ลมอยู่ในไร่” ปัง บอกจบเค้าก็ปิดประตูทันที ตั้งแต่ที่เขากลับมา เขาก็แทบจะไม่คุยกับเพื่อนสมัยเด็กอีกเลย  แม้จะบอกว่าเขาไม่แคร์แต่เขาก็ยังไม่พร้อม
“เฮ้ ไม้ใช่ไหม ตั้งแต่กลับมาทำไมไม่ได้คุยกันเลยวะ”  จะเอาห่าอะไรมาคุยวะ กูไม่อยากคุยกับมึงเว้ย อยากจะตะโกนออกไปนะ แต่เขาเลือกที่จะหอบของเดินขึ้นไปห้องนอนน้ำ เลือกไม่สนใจ เอาน่าถึงจะอยู่จังหวัดเดียวกัน ถึงจะรู้จักกันตั้งแต่เด็ก แค่การหลบหน้าคนๆหนึ่งทำไมจะทำไม่ได้   
แต่เขาคิดผิด!!!!!!!!!!!
   “ไม้ไปกินข้าวกัน”
   “..............”
   “นี่มันพักเที่ยงแล้วไม่ใช่เหรอ กูมีเวลาว่างอีกชั่วโมง เดี่ยวต้องกลับไปขึ้นเวร” ผมกรอกตามองบนใครจะคิดว่าหลังจากที่เขาเปิดประตูไปเจอหน้ามัน มันก็เล่นเสนอหน้ามาให้เห็นทุกเที่ยง ทุกวัน
   “ไม่ว่าง” ผมบอกก่อนที่จะปิดประตูห้องทำงานแล้วล็อคแน่นหนา จะมาวุ่นวายอะไรกับกูหนักหนาวะ  อีกชั่วโมงมันก็คงจะกลับไปเอง 
   แม้มือจะเปิดแฟ้ม แต่ดวงตากลับเหม่อลอย มันเป็นความผิดของเขาเอง ที่หลงละเมอกับความรักแรกกับคำสัญญาที่อีกฝ่ายไม่คิดจริงจังเพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงเพื่อนสมัยเด็กของเขา
   ‘ไม้ มึงว่ากูจะมีแฟนไหมวะ”   
   ‘หน้าตาอย่างมึงไม่น่าจะยาก’
   ‘แต่ถ้าจะให้ครบกับพวกผู้หญิงกูคบกับมึงดีกว่าวะ แม่งอยู่ด้วยแล้วสบายใจชิบหาย”
   ‘มั่วแล้วมึง’
\   ‘เอางี้ไหม ถ้าจบม.หก เอาวันที่จบนะเว้ย มึงยังไม่มีแฟนกูจะเป็นแฟนกับมึง’ พอคิดย้อนถึงตรงนี้ เรียวปากบางยกยิ้ม เมื่อนึกถึงความสุขเมื่อตอนนั้น แต่มันก็เหมือนลมปากช่างเถอะ ถึงแม้จะผิดหวังแต่ท้ายที่สุดหัวใจเขาก็เลือกที่จะรักคนคนนี้แม้แต่ตอนที่เขาเลือกที่จะลองคบใคร แต่หัวใจเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง  ได้แต่ยินยอมที่จะยอมผิดหวัง  แต่จะให้เขากลับไปเป็นเพื่อนมัน ตอนนี้เขายังเป็นให้ไม่ได้จริงๆ ปิดโรงงาน แวะทักทายยามกะเย็นก่อนที่จะขับรถกลับ เขาแวะตลาดเพื่อที่จะชื้อของสดเข้าไปไว้ในตู้ แต่เย็นวันนี้คงต้องกินแกงถุงไปก่อน 
   “พี่นัท ร้านนี้น่าอร่อยมาก ทานร้านนี้กัน” เพียงได้ยินชื่อเขาก็หันมองหา ก็เห็นเพียงร่างสูงของอีกคนที่ถูกหญิงสาวเดินควงแขนเข้าร้านอาหาร  เขาควรพอแล้วจริงๆ  รีบสั่งรีบจ่ายก่อนที่จะรีบขึ้นรถบึ่งกลับบ้าน บางทีเขาก็คิดว่าตัวเองโง่เง่า หัวใจดื้อรั้น จนรู้สึกเกลียดใจตัวเอง
   “กินข้าวกันพี่ ไอ้ลูกลิงเลิกดูได้แล้ว”  ผมเรียกสองคนที่ยังเล่นกันอยู่ให้มากินข้าว ซึ่งกว่าจะย้ายก้นกันมาได้  ก่อนที่จะลงมือกินข้าวกันได้ซักที บางทีเขาควรที่จะโฟกัสกับสิ่งที่เหลืออยู่ ..............เลิกเพ้อฝันแบบเด็กๆได้แล้ว
   “ไม้ไปกินข้าวเที่ยงกัน”  หลายวันถัดมานัทก็กลับมาหลังจากที่หายไปหลายวัน พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
   “ที่ไหนวะ” ผมกองงานไว้ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าตัง และโทรศัพท์ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอหน้างงๆของมัน
   “ไม่ไปเหรอ กูต้องรีบกลับมาดูโรงงาน” ผมยกคิ้วสงสัย ก่อนที่มันจะเลิกเอ๋อแล้วเดินพาไปที่รถ พาผมไปกินขนมจีนน้ำเงี้ยว เออเอางี้เหรอ  ระหว่างที่กิน ก็ไม่มีการพูดคุยใดๆ ก่อนที่มันจะมาส่งผมที่โรงงาน หลังจากนั้นก็มาชวนผมกินข้าวบ้างบางครั้ง บางวันผมก็ไม่ว่าง หรือมันไม่ว่าง  และมันก็ไปช่วยราชการที่อื่น หัวใจผมก็เหมือนจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
   “นี่ผู้ช่วยใหม่ ชื่อวา” การที่ได้วามาอยู่ในครอบครัวทำให้ชีวิตจืดชืดของพี่ชายเขามีความสุขมากขึ้น น้ำก็มีความสุข ส่วนผมก็มีอาหารดีๆกิน แถมยังอร่อยมาก ไม่ต้องพึ่งอาหารถุงแล้ว แถมยังบัญชีที่มั่วชั่วของผมยังได้น้องวาช่วยดูแล พ่อพระมาโปรดชัดๆ
   “วาพี่ไปนอนโรงงานนะ” ผมตะโกนบอกคนที่นั่งเล่นกับไอ้ลูกลิงที่ติดวาเป็นตังเม วาร้องบอก ช่วงนี้โรงงานกำลังจะขยายเพื่อติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่เพื่อรองรับการผลิต  และพี่ชายตัวดีเขาก็เตือนเรื่องเสี่ยป่าน เอาเหอะ เขาคงต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นอีก ถึงจะระวังแต่ยังโดนลอบกัดยังดีเป็นแค่กองไม้ มันก็แค่เตือน
   แต่ที่คิดไม่ถึงคือน้องวาโดนหางเลขไปด้วย ผมรีบไปรับไอ้ลูกลิงทันทีที่พี่ลมโทรมาบอก
   “อาไม้ พี่วาเป็นอะไร” ผมไม่ตอบแต่ลูบหัวทุยก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปที่โรงพยาบาล ยังดีที่น้องไม่เป็นอะไรมาก เขาเทียวไปเทียวมาระหว่างโรงพยาบาลกับโรงงานและยังต้องรับส่งน้ำอีก เหมือนหลายสิงหลายอย่างวุ่นวายจนเขาไม่ทันรู้ว่าใครอีกคนมันย้ายกลับมาแล้ว จนกระทั่งมีสายเรียกเข้าของเบอร์ไม่คุ้น
   “ครับ”
   “(ไม้ฝากบอกพี่ลมหน่อยนะว่าเรื่องคดีนะ กำลังตรวจสอบอยู่)” ว่าแล้วที่ตาขวาเขากระตุกทั้งวันต้องมีเรื่อง
   “บอกเองสิวะกูไม่ว่างแค่นี้ล่ะ” ถึงจะว่าอย่างนั้นอีกคนก็ยังโทรมาบอกผ่านเขา พอไปโวยวายกับไอ้พี่ตัวดี มันก็ทำตัวไม่รู้เรื่อง  ให้ตายเหอะ ได้แต่หนีมาอยู่โรงงาน
   “ซ่า”
   “เชี่ย!!!” เปียกให้ตายเหอะ ทั้งหัวเขานี่เปียกหมดแล้ว ก็ไอ้ลูกน้องตัวดีสาดน้ำมาเต็ม แต่ก็โทษมันไม่ได้ เขาสั่งทำความสะอาดโรงงาน แต่ดันมายืนผิดที่เอง หลังจากที่มันขอโทษขอโพย เขาก็ได้แต่เดินหัวเปียกไปทำงานในห้อง
   แค่ก
   กูป่วยจ้า สาดดดดด  วาขึ้นมาเคาะห้อง เขาได้แต่พูดเสียงแหบก่อนที่วาจะยกข้าวขึ้นมาให้ ใช่สิไม่ใช่ไอ้พี่ลมนิ ง่อยแดกแล้วพาล ไอ้พี่ตัวดีก็ขึ้นมาดู ก่อนที่จะพาวาไปด้วย อ่าว กูป่วยนะเห้ยยยยยยยย ไอ้แต่นอนปวดหัวเจ็บคอ มุดตัวอยู่ในผ้าห่ม
   เย็น
   ความเย็นทำให้เขาต้องลมตาขึ้นก็เห็นคนที่ไม่ควรมาอยู๋ในห้องเขากำลังใช้ผ้าเช็ดแขนเขาอยู่
   “ไง ดีขึ้นรึเปล่า”
   “มาได้ไง” เสียงที่เปล่งออกมาแทบจะไม่มีแรง
   “มาหาพี่ลมเลยรู้ว่าไม่สบายเลยขึ้นมาดูแลให้” ตอนเขาป่วยคนที่ไม่อยากให้มาเจอที่สุดก็คนคนนี้นั่นล่ะ   เช็ดตัวเสร็จอีกคนก็ยกถ้วยโจ๊กใส่ขิงมาให้
   “เดี๋ยวกูกินเอง มึงไปเถอะกูดีขึ้นแล้ว” เขายืนมือไปรับแต่อีกคนกลับถือไว้แล้วนั่งลงตักโจ๊กก่อนที่จะยืนมาใส่ปากเขา จะป้อนเหรอ
   “กูจะกินเอง”
   “กูจะป้อน อ้าปาก”
   “ออกไป เดี๋ยวนี้” ยิ่งอาการปวดหัวรุมเร้ายิ่งทำให้เขาไม่อยากให้อีกคนอยู่ จนอีกฝ่ายยอมวางโจ๊กแล้วเดินออกจากห้องไป เขาลุกขึ้นกินโจ๊กกับกินยา ถึงจะกินโจ๊กได้ไม่กี่คำ เขาก็กรอกยาลงไป ไม่ชอบการป่วยเลยจริงๆ  แต่หลังจากที่อัดยาเขาก็สลบหลับไปถึงเช้า
   หนัก
   “เห้ยยยย” เขาร้องลั่นห้องก็เมื่อไอ้คนที่เขาไล่ไปเมือวานกลับนอนเอาแขนพาดคอเขาอยู่เนื้ย รีบยกแขนออกก่อนที่เขาจะถีบอีกคนลงจากเตียง
   “โอ๊ย” ผมรีบลุกจากเตียงเดินหนีเข้าห้องน้ำไม่สนใจไอ้คนที่ร้องโอดโอย เปลี่ยนเสื้อผ้าเดินออกมา มองคนที่ลูบท้องอยู่ปลายเตียงก่อนที่จะเดินหนี
   “ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยเหรอ”   
   “ขอบคุณ และทีหลังไม่ต้องมาวุ่นวาย”
   “มึงเป็นอะไรของมึงวะ ตั้งแต่กูกลับมาเนี้ย คุยกันดีๆไม่ถึงสิบประโยคเลยนะเว้ย เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย”
   “...เออ โทษที เดี๋ยวกูลงไปก่อนนะ” แม่งกูเกลียดคำว่าเพื่อนเว้ยยยยยยยยยยยยยย  ลงมาอย่างหัวเสียก่อนที่จะบอกวาว่าจะไปโรงงาน ไม่อยากอยู่เจอไอ้คนบนห้องนั้นเท่าไหร่ เออ เพื่อนกูจะกลับเป็นเพื่อนมึงก็ได้ ห่าเอ้ย
   

********************************************************************************
เอาพาร์ทพี่ไม้มาลงแก้ขัด มาฝึกงานให้พนักงานใหม่ต่างจังหวัด
เหนื่อยมากกกกกกกกกก เจอโรงแรมที่ถ้าพักนานกว่านี้
เค้าคงได้เขียนเรื่องสยองขวัญ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ว่าแต่มันโอเคไหม
อ่านแล้วช่วยบอกเราด้วยน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน รักคนเม้นต์
จุ๊บๆๆๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด