ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561  (อ่าน 85152 ครั้ง)

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
   ไม้แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าไอ้นัทมันมาขอโอกาส ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้ให้มันเห็นแต่สุดท้ายผมก็แพ้มันตลอดกับคำที่มันถามผมก็ยังไม่มีคำตอบให้ถ้าเกิดเขาให้โอกาสกับมันแล้วสุดท้ายคนที่ยังเสียใจยังเป็นเขาล่ะ
   “ฉัน.....ยังไม่รู้” ผมได้แต่ก้มหน้าตอบไม่ยอมสบตาด้วย รับรู้ถึงแรงบีบที่มือแรงขึ้น
   “งั้นขอได้ไหมแค่นายไม่หนีหน้าฉันก็พอ” น้ำเสียงทุ้มที่ติดจะอ้อนวอนในทีนั่นทำให้ผมอกไม่ได้ที่จะพยักหน้าตอบรับคำขอ มันยิ้มกว้างก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอดแน่นจนผมต้องยกดันอกกว้างให้มันปล่อยเขาออก
   “มึงพากูมาที่ไหนวะ นี่กี่โมงแล้วเนี้ย” ขยับตัวหนีออกห่างคนที่ทำให้หัวใจเขาเริ่มทำงานหนักขึ้นไปทุกทีแล้วถามเพื่อทำลายความรู้สึกแปลกๆที่มันจักกะจี้หัวใจเขาอยู่ ไอ้นัทมันนั่งอมยิ้มก่อนที่จะล้มตัวนอนมองผมแต่ไม่ยอมตอบคำถามผม จนผมเลิกคิ้วเพื่อกระตุ้นให้มันตอบคำถาม
   “บ้านกูเองล่ะ ซื้อตั้งแต่ปีที่แล้วตอนนี้ก็สองโมงเช้าแล้วล่ะ” ผมมองดูรอบๆมันเป็นห้องนอนเปิดโล่งมีเพียงชั้นวางโฮมเธียเตอร์กั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล็กมันเป็นหลังเล็กๆที่น่าอยู่เลยทีเดียว 
   “กูหิว” บอกมันไป
   “เดี๋ยวกูไปทำให้ มึงจะอาบน้ำก่อนก็ได้นะ หาเสื้อผ้าเอาเลยในตู้” มันชี้ไปที่ตู้บิวท์อินแล้วค่อเดินไปที่ครัว ผมลุกเดินไปเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าที่ดูใหญ่กว่าไชต์ผมนิดหน่อยแล้วค่อยเดินเข้าห้องน้ำกระจกใส
   เหี้ย!!!!!!!!
   กูจะอาบน้ำยังไงวะ
   “ไอ้นัทห้องน้ำอะไรของมึงวะ” ผมตะโกนลั่นทีแรกไม่ได้สังเกตเพราะมัวแต่ใจเต้นกับไอ้ท่าทีอ้อนของมัน
   “จะร้องทำไมมันมีผ้าม่านบิดน่า” มันร้องมาบอกจากครัว ผมเลยเดินเข้าไปก็เห็นว่ามันมีผ้าม่านสีขุ่นกั้นซ่อนอยู่
   “มึงนี่คิดไงทำห้องน้ำแบบนี้วะ” ผมตะโกนไปว่ามันแล้วค่อยเดินเข้าห้องน้ำรูดม่านปิดยังดีที่มันไม่ปีดได้
   “ก็กูอยู่คนเดียวนี่หว่า” เออกูผิดเองที่ให้มึงพากูมาบ้านมึง ไอ้สันขวานผมก็ได้แต่บ่นมันในใจแล้วค่อยอาบน้ำใส่เสื้อผ้าแล้วค่อยออกจากห้องน้ำ
   “เหี้ย มึงมายืนอยู่นี่ทำไม” ผมแทบผงะเมื่อเปิดออกมาไอ้นัทมันนั่งอยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำ
   “เปล๊า...กูจะมาเรียกไปกินข้าว” ผมพยักหน้าถึงจะงงๆที่มันไม่ยอมสบตาผมก็เถอะ ผมนั่งลงที่โต๊ะหน้าทีวี มันส่งจานข้าวมาให้ มองกับข้าวที่ดูน่ากินมันมีฝีมือทำกับข้าวด้วยเหรอวะ จะว่าไปก็เห็นมันเข้าไปช่วยวาทำกับข้าวแต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะน่ากินขนาดนี้ ผมนั่งกินเงียบๆยอมรับว่าฝีมือมันก็ถูกปากเขาไม่น้อย
   “อร่อยไหม” มันถามเมื่อผมกินเอากินเอาไม่ยอมคุยกับมัน เลยพยักหน้ารัวๆในเมื่อข้าวยังเต็มปาก มันยิ้มกว้างแล้วตักกับข้าวใส่จานผมรัวๆ
   “กูจะไปทำงาน” ผมบอกถึงตอนนี้จะสายแต่ผมก็ต้องเข้าไปโรงงานปล่อยให้ไอ้ทัพทำงานคนเดียวคงจะยังไม่ได้
   “กูจะไปส่ง”
   หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อยมันก็ยอมไปส่งผมที่ทำงาน แต่มันก็ไม่ยอมกลับแถมยังเดินขึ้นไปที่ห้องทำงานอีก พอถามมันก็ไม่พูดอะไร
   “อ่าวกูนึกว่ามึงจะไม่มาทำงานแล้ว” ไอ้ทัพทักขึ้นพร้อมกับเหล่มองคนที่เดินตามหลังมา
   “ทำไมกูจะไม่มาทำงานวะ” ผมถามกลับงงๆแต่มันไม่ตอบแต่หัวเราะแล้วเดินมากอดคอผม
   “ยังไงกับเพือ่นผมครับผู้กองนัท” ไอ้ทัพหันไปหาเรื่องคนที่มองอยู่
   “ก็อย่างที่คุณเข้าใจนั่นล่ะครับ ว่าแต่ช่วยเอามือออกด้วยครับ” ผมได้แต่ยืนมองงงๆที่จู่ๆไอ้นัทก็เดินมาจับมือไอ้ทัพออก แล้วขยับตัวมายืนข้างๆผม
   “แต่ตอนนี้ไอ้ไม้ก็ไม่มีใครแถมผมก็เพื่อนมันจะจับจะกอดก็ไม่เห็นแปลกอีกอย่างผมก็นอนกับมัน” ได้แต่มองมันสองคนที่จ้องตากันถ้าเป็นปลากัดแม่งคงท้องไปแล้ว    
   “พวกมึงคุยอะไรกันวะ วุ้ยพอๆๆ กูจะทำงาน มึงก็กลับไปได้แล้วไอ้นัท” ผมโบกมือไล่ไอ้นัทที่ยังคงแง่งๆกับไอ้ทัพอยู่
   “งั้นตอนเย็นกูมารับ”
   “รับทำไมวะกูก็จะกลับไปนอนบ้านอยู่แล้ว” หันไปทำหน้างงใส่มัน ซึ่งไอ้ทัพแม่งก็ไม่ยอมรามือหันไปยักคิ้วแบบว่ากูเหนือกว่าให้ไอ้นัท มึงจะมาตีกันนี่ไม่ได้นะเว้ยยยย
   “กูจะพามึงไปนอนบ้านกู”
   “ไอ้นัทกูจะนอนบ้านกู” และกลายเป็นผมที่ต้องโมโห “แค่ให้โอกาสนะไอ้นัทไม่ได้หมายความว่ามึงจะมาทำตัวเอาแต่ใจกับกูได้นะ กลับไปเถอะ” มันมองหน้าผมนิ่งก่อนที่จะไม่พูดไม่จาแล้วเดินกลับออกไป ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
   “มึงไปพูดแบบนั้นมันก็คงจะเสียใจนะเว้ย” 
   “ตกลงมึงอยู่ข้างไหนกันแน่วะ” เดินผ่านมันไปนั่งที่โต๊ะถามไอ้ทัพงง เหมือนจะช่วยกูแต่ตอนนี้กลับไปเข้าข้างไอ้นัท
   “กูเข้าข้างคนที่น่าสนุกว่ะ” แทบจะโยนแฟ้มเอกสารฟาดใส่หน้ามัน นี่มันไปติดเชื้อมาจากพี่โยรึไงวะ
   “แล้วมึงก็ไปปั่นหัวมันนี่นะ”
   “หึๆ ตกลงกันได้แล้วสินะ” มันหันมาทำตัวจริงจังจนผมตามอารมณ์มันไม่ทัน
   “กูตกลงจะให้โอกาสมัน แต่กูไม่รู้วะไอ้ทัพ แม่งอยู่ดีๆก็มาบอกชอบกูแม่งตอนนี้กูยังงงอยู่เลยเนี้ย”หันไปปรึกษาเพื่อนสนิทที่นั่งยิ้มกริ่ม
   “กูว่ามึงทำตามที่ใจมึงต้องการเถอะในเมื่อมันมาขอโอกาสกับมึงแล้วก็เอาคืนให้หนักๆเลย” เดี๋ยวนะทำไมเพื่อนผมดูเปลี่ยนไป
   “ใครเข้าสิงมึงวะไอ้ทัพ” ผมทำหน้ากลัวมัน
   ผลั๊วะ
   “มีคนมาตื้อแล้วโง่นะมึง” มันตบหัวผมแรงจนน้ำตาซึมแล้วกลับไปทำงาน เหี้ย กูเจ็บไอ้เพื่อนเลวววววว มองแรงใส่มันก่อนที่จะหันกลับมาทำงาน พักเที่ยงไอ้ทัพก็ลากคอผมไปกินข้าวแล้วกลับมาโหมงานต่อจนกระทั่งมืดค่ำพวกผมก็เตรียมตัวกลับ
   “อ่าวนัท” ผมอุทานชื่อมันด้วยความแปลกใจเมื่อมันยืนอยู่ข้างๆรถผม
   “กลับกับกูนะ”มันเอื้อมมือมาจับมือผมไว้พร้อมกับบีบเบาๆ อย่าบอกนะว่ามารอรับผม ได้แต่ถอนหายใจหนักทำไมวันนี้ผมถึงได้ถอนหายใจหลายครั้งจริงๆ ยังไงก็จะพาผมกลับไปด้วยจริงๆสินะ ไอ้ทัพมันยืนขำอยู่ด้านหลัง
   “ไอ้ทัพกูกลับกับไอ้นัทนะ” พอเห็นสายตาของนัทก็ทำให้ผมใจอ่อนอีกแล้ว
   “เออๆ” ไอ้ทัพโบกมือไล่ผมก็โดนไอ้นัทลากขึ้นรถ ตกลงกูจะโดนลากตลอดเลยใช่ไหม พอกลับขึ้นรถมาไอ้นัทก็เงียบผมก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดียอมให้มันพากลับบ้านใหญ่ หือ ทำไมมาบ้านหลังนี้ล่ะผมไม่กล้าที่จะเข้าบ้าน
   “เข้ามาสิ” มันเดินมาจูงมือผมเข้าบ้าน ผมขีนตัวเองไว้เล็กน้อยแต่ก็ยังสู้แรงควายของมันไม่ได้
   “อ่าวมากันแล้วเหรอจ๊ะ แม่ไม่ได้เจอหนูนานมากเลยโตขึ้นมาแล้วหล่อจัง แม่ทำกับข้าวหลายอย่างเลย” รอยยิ้มของแม่นัททำให้ผมเริ่มสบายใจ บนโต๊ะอาหารคุณแม่ชวนผมคุยตลอดทั้งยังคอยคะยั้นคะยอให้ผมกินโน้นกินนี่ตลอดจนผมเริ่มทำตัวสบายๆ อย่างสนิทใจมากขึ้น และปัญหาหลังจากนี้คือตอนนอนทำไมผมต้องนอนกับมัน
   “กูนอนข้างล่างก็ได้นะ” แม้เราจะ...เอ่อ..จะเรียกความสัมพันธ์ยังไงดี เรียกว่ากำลังพัฒนาแต่จะมาให้ผมมานอนข้างๆมันมันก็รู้สึกแปลกๆนะ หลายปีที่ผมและมันไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันเลยแต่พอมันขอโอกาสมามันก็เล่นถึงเนื้อถึงตัวผมทั้งกอดทั้งจับมือทำให้หัวใจผมทำงานหนักเลยทีเดียว
   “ไม่ต้องหรอกถ้ามึงยังไม่สะดวกใจกูจะไปนอนห้องแขกก็ได้นะมึงใช้ห้องนี้เลย เอ่อ..ฝันดีนะ” พูดจบมันก็เดินออกจากห้องทิ้งให้ผมยืนอมยิ้มเมื่อสังเกตเห็นว่ามันก็รู้สึกไม่ชินเหมือนกันกับผม ถือวิสาเปิดตู้หยิบของจำเป็นเข้าห้องน้ำ  ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้างที่กลิ่นอาฟเตอร์เชฟที่ติดอยู่บนที่นอนทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น ผมได้มานอนบนเตียงของมัน อ่าทำไมผมรู้สึกเขินอย่างนี้ได้หวังว่ามันจะไม่เป็นเพียงฝันดีชั่วครั้งชั่วคราวที่พอตื่นขึ้นมาผมจะต้องเสียใจ ช่างมันก่อนเถอะถึงเวลานั้นผมค่อยคิดล่ะกัน ในเมื่อจะให้โอกาสผมก็จะยอมทำตามหัวใจดูซักครั้งล่ะกัน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาซักพักผมก็คล้อยหลับไป

   ทัพไทย Part
   ผมโดนทิ้งแล้วครับ โดนทิ้งจากเพื่อนสนิทที่ตอนนี้วี่แววความรักของมันท่าทางจะสดใส หลังจากที่เริ่มงานที่นี่ผมก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ส่วนเรื่องจิตใจ ผมว่าผมหลุดพ้นแล้วล่ะถามว่ามันติดต่อมาไหม มันยังพยายามติดต่อมาแต่ผมปิดช่องทางการติดต่อทุกทางยกเว้นก็แต่ทางพี่เจนที่ผมยังติดต่ออยู่และพี่เจนเป็นคนบอกผมเองว่ามันพยายามติดต่อผม ผมเลยบอกปัดทางพี่เจนว่าผมไม่อยากคุยด้วยอีกแล้ว
   ตอนที่รู้ว่ามันต้องการทดลอง เหมือนหัวผมว่างเปล่าสิ่งที่มันทำทำร้ายความรู้สึกดีๆให้หมดไป เรื่องนั้นชั่งมันเถอะ ผมเริ่มชินกับที่นี่แถมบ้านไอ้ไม้ยังอบอุ่นมากอีกด้วย
   และวันนี้ผมก็ต้อนนอนคนเดียวอีกแล้ว ให้ตายเถอะพอเพื่อนจะสมหวังผมก็รู้สึกเหงาๆเหมือนกันนะ แต่อย่างน้อยก็ดีใจกับมันที่สมหวังซักทีรึเปล่านะ ผมนอนกลิ้งเล่นบนเตียงเหมือนที่เคยทำ พร้อมกับเปิดโน๊ตบุ๊คไว้
   ติ๊งๆ
   เสียงแจ้งเตือนสไกป์ทำให้ผมพลิกตัวไปมองใครสไกป์มา ไอดีที่ขึ้นมาไม่คุ้นตาผมไม่กดรับจนกระทั่งไอดีนั้นทักมา
   [จะไม่รับหน่อยเหรอทัพ ผมรู้นะว่าคุณดูอยู่] ผมขมวดคิ้วแน่นเมื่อภาพใครบางคนแวบเข้ามาในสมอง ไม่น่าใช่ ผมกดรับเมื่อใครอีกคนคอลมาอีก
   “hi”ไอ้น้ำเสียงร่าเริงผิดกับผมที่ต้องหลุบตาลงเมื่ออีกคนนอนคว่ำโชว์แผ่นอกกว้างบนที่นอน
   “มีอะไรถึงได้ทักมาแล้วรู้จักสไกป์ผมได้ยังไง” ผมคว้าเอาหมอนมารองเพื่อจะคุยได้สะดวก
   “ว่างแล้วนี่ทำอะไรอยู่เหรอ” อีกคนพลิกตัวนอนตะแคงโดยมีผ้าห่มคลุมสะโพกโชว์ซิกแพคขาวสะท้อนแสงนีออน จะโชว์ทำไมวะแต่ก็ไม่ตอบคำถามที่ผมถามไป
   “กำลังจะนอน” ผมฟุบหน้าลงกับหมอนมีคนคุยด้วยก่อนนอนก็ทำให้ความรู้สึกโหวงๆหายไป
   “เป็นไร ทำหน้าเหมือนลูกหมาเมายาหึๆ” อยากต่อยหน้าคนจังเลยครับ ไม่กวนซักวันชีวิตคงไม่มีความสุขสินะ
   “เปล่าแค่ต้องนอนคนเดียว”
   “เหงารึไง” แม่งคำถามจี้ใจดำ ผมฟุบหน้าลงแล้วส่ายหน้ากับหมอน
   “เดี๋ยวก็ขาดใจตายหรอ” ไม่รู้ทำไมพอคุยกับพี่โยแล้วผมจะเป็นตัวของตัวเองทำตัวเหมือนเด็กๆ
   “ง่วงแล้ว ที่โน่นน่าจะดึกมากแล้วคุณยังไม่นอนอีกเหรอ” เวลาที่ต่างกันก็น่าจะราวๆหกชั่วโมงตอนนี้ สามทุ่มที่โน้นก็น่าจะตีสาม
   “ก็พึ่งตื่นอีกเดี๋ยวต้องออกไปแล้ว จะนอนเลยก็ได้นะไม่ต้องปิดหรอก” ผมเอียงหน้าหันไปมองคนที่ไปหยิบเอาหนังสือมาตอนไหนมาอ่าน ผมเลยขยับตัวหาที่สบายๆ ฟังเสียงคนอีกฟากเปิดหนังสืออ่านผมก็เริ่มเคลิ้มหลับก่อนที่จะหลับสนิทผมได้ยินแว่วว่าใครอีกคนบอกหลับฝันดี
   
   ผมตื่นขึ้นมาคอมยังเปิดไว้พร้อมโปรแกรมสไกป์ที่ยังเปิดอยู่แต่ใครอีกคนไม่อยู่แล้วมีเพียงเสียงเพลงเบาๆที่เปิดคลอไว้ ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา เลยลุกจากเตียงทำธุระให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาปิดคอมแล้วเตรียมตัวไปทำงาน ซึ่งวันนี้ไอ้ไม้บอกว่าจะไม่เข้าโรงงาน ไอ้เพื่อนเชี่ยยยยยยปล่อยกูทำงานคนเดียววว
   ทำงานงกๆคอยมีหนูนิวซื้อเข้าซื้อน้ำมาส่งให้ไอ้เพื่อนตัวดีมันไม่แม้จะโทรเข้ามาถามไถ่แถมวันนี้ยังมีของเข้าโรงงานอีกผมต้องวิ่งลงไปตรวจดูของ ไอ้ไม้มันสอนผมตั้งแต่วันแรกแล้ว กว่าจะเสร็จก็แทบหมดวันจนตอนนี้ผมเดินคอตกออกจากโรงงานตอนสามทุ่ม
   “ไอ้ไม้ทำไมทำงานแบบนี้ได้ทุกวันน้า” ผมนวดคอพร้อมกับเดินออกมาจากโรงงาน
   “ทัพ......” เสียงเรียกคุ้นหูทำให้ผมต้องตกใจเมื่อตองยืนพิงรถอยู่ที่หน้าโรงงาน
   “มาที่นี่ได้ยังไง” เท้าหยุดชะงักเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเราสองคน
   “ทัพกลับมาคืนดีกลับเราได้ไหม”
   เชี่ย!!!!!!!!!!!!
********************************************
เอามาลงตามสัญญา
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า คนทึ่มที่พอรู้ตัวแล้วทำไมรุกเร็ว
ส่วนพี่ทัพปัญหากำลังมา 555555
 :katai4: อาจจะสั้นแต่ตอนต่อไปจะพยายามลงให้เร็วๆน้า

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เสียใจด้วยนะตอง ทัพไม่มีใจให้แล้ว  :beat:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นัท ไม้  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เชียร์ให้ไม้ใจอ่อนไวๆ

ตอง ตามติดทัพ ถึงไร่เลย
ทัพ คงหมดเยื่อใยแล้ว
โย ทัพ  :กอด1:

พี่ลม วา น้องน้ำไม่มีบทเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ต่อไปก็อ่านคู่ของ. ทัพโย. นัทไม้.

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
รีบมานะโยเดี๋ยวโดนแย่งนะ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
นัท ไม้  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เชียร์ให้ไม้ใจอ่อนไวๆ

ตอง ตามติดทัพ ถึงไร่เลย
ทัพ คงหมดเยื่อใยแล้ว
โย ทัพ  :กอด1:

พี่ลม วา น้องน้ำไม่มีบทเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
แค่กๆ คนเขียนลืมพี่ลมไปแล้ว //ผิดฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ผมยืนนิ่งเหมือนโดนแช่แข็งกับคำขอคืนดีของคนที่อยู่ตรงหน้าที่ดั้นด้นมาหาผมถึงที่นี่ แม้จะแปลกใจแต่ผมก็ไม่ได้มีความคิดที่จะกลับไปคืนดี
   “ดึกแล้วตองกลับไปเถอะ” ผมบอกปัดไปเพื่อที่ไม่อยากคุยต่อแต่เหมือนตองจะไม่ยอมเป็นฝ่ายรุกเดินเข้ามาจับมือผมแน่น ก้มลงมองมือที่ถูกกุมไว้คิดถึงตอนที่ผมพยายามที่จะจูงมือนี้เดินไปพร้อมกันแต่กลับมาพังเพราะความคิดโง่ๆของอีกฝ่าย
   “ทัพฟังตองนะ”
   “ตอง เราว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วนะที่ตองทำตองคิดว่ามันถูกแล้วเหรอ” ผมดึงมือตองออกพร้อมกับขยับหนี มองคนที่น้ำตาไหลอาบแก้มป่องด้วยสายตาว่างเปล่า มันใช่เหรอที่จู่ๆมาบอกเลิกในวันครบรอบต่อให้เขานอนคิดตีลังกาคิดยังไงผมก็ไม่สามารถเข้าใจได้
   “เราขอโทษนะทัพ อึก กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”
   “ตองมาร้องขออะไรในเมื่อตองเป็นคนทำมันพัง”ผมคงน้ำเสียงปกติต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมพยายามไม่โมโหใส่เพราะเขาก็เป็นคนเป็นห่วงที่เคยรักแต่จนถึงตอนนี้ผมทนไม่ไหวจนต้องตะคอกออกไป
   “อึก....เราขอโทษ”
   “ตองกลับไปเถอะ ครั้งนี้ถือว่าขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะเจอกัน”
   “ทำไมล่ะทัพ ทัพจะให้อภัยเราไม่ได้เลยเหรอ” น้ำเสียงอ้อนวอนไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนในเมื่อตอนนี้ใจผมมันพึ่งที่จะดีขึ้นทำไมต้องมาสะกิดแผลผมด้วย
   “ตองเราจะกลับมาคบกันไม่ได้ในเมื่อความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้มันถูกทำลายลงไปแล้ว” เขาเมินหน้าหนีไม่สบตากับสายตาตัดพ้อที่ส่งมา
   “ขับรถกลับดีๆนะตอง ขอให้โชคดีเราคงจะไม่เจอกันอีกแล้ว” บอกลาคนที่ยืนร้องไห้แล้วเดินมาขึ้นรถนั่งมองคนตัวเล็กขึ้นรถแล้วขับออกไปผมถึงได้ขับรถกลับมาบ้านในสภาพเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ
   “พี่ทัพไหวไหมครับ” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น
   “ไม่เป็นไรหรอกวา เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปนอนเลยนะ ขอบคุณมาก” ผมยิ้มกว้างให้วาก่อนที่จะขึ้นไปอาบน้ำนอนกลิ้งบนเตียงเปิดเพลงเบาๆฟัง ทุกคนอาจจะคิดว่าผมโคตรใจร้ายแต่ว่าสิ่งที่มันเสียไปแล้วมันไม่ใช่เพียงแค่คำขอโทษจะเรียกทุกอย่างให้กลับคืนมา ผมที่พยายามเยียวยาบาดแผลตัวเองให้มันดีขึ้นแต่ทำไมมันต้องโผล่มาทำให้ผมรู้สึกเจ็บอีกล่ะ ในเมื่อสิ่งที่ตองทำคือการไม่ไว้ใจมันก็สามารถบอกได้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ตองไม่ไว้ใจทั้งๆที่ผมทุ่มเททุกอย่างให้แม้จะดีขึ้นแต่ตอนนี้ผมก็นอนร้องไห้ แม่งเอ๊ยกูเกลียดตัวเองจังวะ
   ติ๊งๆ 
   ตอนที่ผมกำลังเศร้า เสียงทักสไกป์ดังขึ้นทำให้ต้องรีบเช็ดน้ำตาให้หมดแล้วกดรับ ภาพจากอีกประเทศก็เด้งขึ้นมาภาพใครอีกคนกำลังนั่งเช็ดผมแม้เวลาที่ต่างกันแต่ผมก็เดาได้ว่าคนตัวสูงพึ่งเลิกงานทั้งๆที่แตกต่างหกชั่วโมงทันทีเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่เช็ดผมก็ทำหน้าตกใจแล้วรีบพุ่งมาจ้องใกล้ๆ
   “ทำไมร้องไห้” ช่างสังเกตจริงๆนะ ผมไม่ตอบทำให้พี่โยยกโน๊ตบุ๊คขึ้นวางบนโต๊ะ
   “นี่ตาแดงหมดแล้ว ตกลงเป็นอะไรกันครับอย่าบอกเหตุผลว่าฝุ่นเข้าตานะ” แม้คำพูดจะเหมือนเย้าแหย่แต่น้ำเสียงจริงจัง
   “ผมเจอมัน” ผมบอกเสียงแผ่วพร้อมกับซบหน้าอิงหมอน ได้ยินเสียงใครอีกคนถอนหายใจหนัก
   “แล้วเขามาทำอะไรที่นั่นล่ะ” พี่โยถาม ผมเลยตอบอู้อี้ไปว่าตองแอบขึ้นมาหาเขาเมื่อกี้นี้แถมยังเล่าให้คนอีกประเทศฟังทุกอย่างที่พึ่งได้เจอมานั่นทำให้ผมรู้สึกโล่งเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจฟังเขาพูดไม่พูดอะไรออกมาจนผมเล่าจบ
   “โอ๋เอ๋ไม่ร้องนะเด็กดี” ไอ้น้ำเสียงกวนๆนั่นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นถลึงตาใส่คนในจอ
   “ผมไม่ใช่เด็กนะพี่โย” แม้จะพูดอู้อี้อีกฝ่ายก็ส่งยิ้มให้
   “สบายใจขึ้นรึยัง” ผมพยักหน้ากับหมอนนุ่มมองอีกคนนั่งทำงาน
   “ทำอะไรอยู่” พี่โยปรายตามามองทางผมแวบหนึ่ง
   “บัญชีนะ” พี่โยหันหน้ากระดาษมาให้ผมเพียงแค่เห็นตัวเลขผมก็ตาลายแทนแล้ว
   “ที่โน่นก็มันดึกแล้วนะ” ผมว่าขึ้นลอยๆ
   “ห่วงพี่เหรอครับ พี่วาเรานั่นล่ะควรนอนพรุ่งนี้ตื่นมาหน้าตาคงดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม” เรื่องอื่นหยามได้แต่เรื่องหน้าตานี่หยามไม่ได้เลยครับ
   “ถึงอย่างนั้นผมก็หล่อกว่าพี่ล่ะกัน” พอได้ยินพี่โยก็หลุดขำแม้แต่จะบอกอย่างนั้นผมก็ยอมรับว่าพี่โยนั่นหล่อกว่าผมจริงๆแต่เรื่องอะไรจะบอกให้อีกคนรู้เล่าเสียเชิงหมด
   “งั้นเหรอ หล่อกว่าพี่จริงเหรอ” ไอ้น้ำเสียงล้อๆนั่นคืออะไรกัน
   “เออ” ผมกระแทกเสียงใส่คนในจอซึ่งหัวเราะขำลั่นผมทำหน้าเซ็ง
   “ง่วงก็นอนเถอะ ไม่ต้องคิดมากนะครับ”
   “ไม่ได้คิดอะไรแล้ว” มันดีขึ้นจริงๆเมื่อมีใครคุยด้วย ส่วนไอ้เพื่อนเขามันรอดกลับมาให้ได้ก่อนก็แล้วกันนะ
   “แล้วทำไมได้อยู่คนเดียวไม้ล่ะ”
   “อ้อ มันท่าทางจะสมหวังในความรักเลยลืมเพื่อนไปแล้ว” ผมพูดยิ้มๆพี่โยทำหน้างงแต่ก็พยักหน้าเข้าใจ
   “เหงาล่ะสิ”
   “ไม่เหงาซักหน่อย”
   “แน่ใจเหรอครับ” พี่โยเลิกคิ้วถาม อยากจับคอคนเขย่าจริงๆเลยให้ตายเหอะกวนได้ตลอด แต่เอาจริงๆเขาก็เหงาอยู่นิดๆ
   “ก็นิดหน่อย”
   “งั้นพี่จะมาคุยด้วยทุกคืนดีไหม” เงยหน้ามองด้วยความประหลาดใจ
   “ว่างมากเหรอครับ” ผมพลิกตัวนอนหงายฟังอีกฝ่ายเปิดบัญชีแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษเสียงขีดเขียนทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีคนอยู่ด้วยนั่นทำให้ผมไม่รู้สึกเหงา
   “เห็นแก่เด็กตาดำๆ” โว้ยยังหาเรื่องผมอีก คุยโน่นคุยนี่ไปจนผมหลับไปก่อนอีกครั้ง งานวันนี้มันเหนื่อยจริงๆจนเผลอหลับไปทั้งๆที่ยังคุยกันอยู่ด้วยซ้ำ
   ตื่นเช้ามาผมก็ทำกิจวัตรประจำวันปกติที่เพิ่มขึ้นมาก็มีเพียงปิดคอมที่พี่โยติดโพสอิทสีแสบตาหน้ากล้องบอกว่าพี่แกออกไปทำงานแล้วและบอกให้ผมเช็ดน้ำลายด้วย จะไม่เห็นตัวก็ยังกวนผมได้เป็นคนที่มีความสามารถล้นเหลือจริงๆ ผมลงไปทานข้าวเช้าด้านล่าง
   “อรุณสวัสดิ์ครับพี่ทัพ” รอยยิ้มของวานี่สมแล้วที่พี่ลมจะรักวาขนาดนี้
   “หวัดดีวันนี้มีอะไรกินนะหอมจัง”
   “เป็นข้าวผัดรวมมิตรครับ” อาหารเพื่อเจ้าลูกน้ำอีกแล้วล่ะสิ ผมรับจานข้าวผัดที่น้องส่งให้ผมว่าถ้าผมยังกินกับข้าวฝีมือวาน้ำหนักผมคงจะขึ้นแน่ๆ
   “วาพี่ถามอะไรหน่อยสิ” วาทำหน้างงแต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาฟัง
   “พี่โยนี่กวนตลอดเลยเหรอ”
   “เอ๋.พี่ทัพยังติดต่อกับพี่โยอยู่เหรอครับ” ตากลมโตลุกวาวมีประกายจ้าเมื่อผมพูดถึงพี่โย
   “แค่กๆ  ก็......ใช่ยังติดต่ออยู่” ผมแทบจะสำลักข้าวเมื่อวาจ้องผมเขม็ง
   “อืม..พี่โยจะเป็นอย่างนี้กับคนที่สนิทด้วยนะครับ คนสำคัญของพี่โยเท่านั้นล่ะครับที่พี่โยจะแสดงตัวตนที่แท้จริงให้เห็น” มันควรจะดีใจหรือเสียใจดีล่ะครับ วาพยายามที่จะซักไซ้เรื่องที่ผมคุยกับพี่โยแต่ผมก็เงียบจนวาถอยไปเอง
   “พี่ไปทำงานก่อนนะ” ผมร้องบอกวาที่อยู่ในครัว แล้วค่อยขับรถไปที่โรงงาน
   “นิวไอ้ไม้ยังไม่มาเหรอ” ผมถามน้องนิวที่กำลังกินขนมอยู่หน้าห้อง
   “ยังไม่มาเลยพี่ทัพ หายไปไหนก็ไม่รู้ นี่หนูก็ติดต่อไม่ได้แล้วเนี้ย” ไม่พูดเปล่าเจ้านิวชูโทรศัพท์ที่ติดต่อหาไอ้ไม้หลายสาย นี่ไอ้นัทมันหิ้วเพื่อนเขาไปไหนวะ เดินเกาหัวเข้าห้องแล้วโทรหาพี่ลม
   “(ไง)”
   “พี่ลมไอ้ไม้แม่งไม่มาทำงานวันที่สองแล้วนะ ตกลงไอ้ผู้กองมันพาเพื่อนผมไปไหน” คุยโทรศัพท์ไปดูบิลไป แม่งกูปวดหัว งานบางงานต้องรอไอ้ไม้มาเซ็นต์อนุมัติแล้วไอ้ผู้กองมันลากเพื่อนผมไปกกวันนี้ก็วันที่สองแล้ว งานแม่งไม่เดิน
   “(อ้อ กูว่างานนี้มึงกับกูจะได้เล่นผู้กองวะ ไอ้ไม้โทรมาบอกว่าขอลี้ภัย)” อ่าว เหี้ยแล้วไหมล่ะ ไอ้ผู้กองแม่งทำอะไรกับเพื่อนกูวะ
   “พี่จะทำไรก็เรียกผมด้วยล่ะกัน ผมไม่เอามันไว้แน่” บอกเสียงเข้ม กูอุตส่าห์เชียร์เสือกทำเสียเพื่อนกูจะเป็นไงบ้างเนี้ย  ได้แต่ทำงานที่ไม่ได้รอไอ้ไม้เซ็นต์ให้เสร็จ
   “พี่กลับนะนิว” ปิดห้องแล้วบอกกับนิวที่นั่งรอแฟนมารับ ซึ่งพึ่งคบหาดูใจกันแถมหวานจนน่าอิจฉา นี่ผมชักจะเป็นคนขี้อิจฉาแล้วสิ การอกหักครั้งเดียวทำให้ผมเริ่มนิสัยเสีย หรือด้านมืดผมพึ่งเปิดเผย หึๆไ ไอ้แต่หัวเราะกับความคิดไร้สาระ ผมกลับมาถึงบ้านไร่สายลมในเวลาไม่นาน พี่ลมกับวาและเจ้าลูกน้ำนั่งหน้าเครียดอยู่
   “ตกลงไอ้ไม้มันหายหัวไปอยู่ไหนพี่” ผมทรุดตัวลงนั่งข้างๆทันที
   “ไม่รู้วะ มันส่งข้อความมาบอก แล้วก็ติดต่อไม่ได้เลย” ผมพิงพนักแล้วอุ้มเจ้าลูกน้ำมาฟัด
   “อาทัพหน้าเครียด” เจ้าลูกหมูดึงแก้มผมเล่น
   “เครียดเพราะอาไม้ไม่กลับบ้านครับลูกน้ำ” ผมก้มลงฟัดแก้มที่ขาวเหมือนโมจิจนเจ้าลูกน้ำดิ้นเพราะความจั๊กกะจี้
   “คิกๆ อาทัพ พอแล้ว คิกๆ” มือป้อมถูกยกขึ้นยันหน้า ผมรู้แล้วทำไมทุกคนเวลาเครียดถึงมาฟัดเจ้าลูกน้ำ
   “แล้วพี่จะเอาไงกับผู้กอง” ผมจิ้มแก้มโมจิไปหันไปคุยกับพี่ลม
   “พี่จะเอาคืนให้น้องกูสิวะ อุตส่าห์ให้โอกาสไปแต่มันก็ยังทำไอ้ไม้เจ็บไงพี่ก็ไม่ยอมแน่ๆ” ผมพยักหน้าเห็นด้วย ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั่นแต่ความสัมพันธ์มันก็เหมือนใยเส้นเล็กที่ถูกสะกิดก็ขาดและไอ้ผู้กองก็รักษามันไว้ไม่ได้
   “ทั้งสองคนอย่าทำอะไรที่มันร้ายแรงเกินไปนะครับ”
   “ไม่ แม่มันก็อนุญาตแล้ว” ถึงจะงงว่าเกี่ยวอะไรกับแม่ไอ้ผู้กองแต่เหมือนพี่ลมจะจับมือกับสายลับฝั่งโน้นมานานแล้ว เห็นทีว่าไอ้ผู้กองคงจะตายแน่ๆคราวนี้ หลังจากที่กินข้าวและคุยกันผมนั่งเล่นกันกับเจ้าลูกน้ำและวา พี่ลมขึ้นไปข้างบน
   “พี่วา น้ำคิดถึงอาโย” จู่เจ้าลูกน้ำที่กำลังออกอ้อนวาก็พูดถึงคนที่พึ่งกลับไปได้อาทิตย์
   “งั้นรอคุยไหมล่ะเจ้าลูกน้ำ” ผมยืดแก้มขาวนั่นแรงๆ
   “อ๊ะพี่โยคอลมาทุกคืนเลยเหรอครับ” ผมว่านะวาก็ต้องมีเชื้อเจ้าเล่ห์จากไอ้พี่โยแน่ๆ
   “ก็...อืม”  ยอมรับไปตรงๆนี่ละ    
   “เดี๋ยวอาไปเอาคอมก่อนนะครับ” ก้มฟัดแก้มน้ำแรงๆก่อนที่จะเดินไปเอาโน้ตบุ๊กแล้วลงมา นั่งที่เดิมรอเวลาที่คนอีกประเทศจะคอลมา
   ติ๊งๆ
   ไม่นานเสียงคอลก็ดังขึ้นผมกดรับภาพเดิมๆพี่โยที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอม
   “อาโย”
   “หือน้ำเหรอ” พี่โยทำเสียงประหลาดใจเมื่อเห็นหน้าป้อมๆโผล่เต็มหน้าจอ จนผมต้องบอกให้น้ำนั่งคุยดีๆ
   “ทำไงก่อนครับน้ำ” เสียงวาบอกกับน้ำ น้ำยกมือป้อมก่อนที่จะยกมือไหว้พี่โย
   “อาโยน้ำคิดถึง พี่วาก็คิดถึง อาทัพก็คิดถึง” เดี๋ยวๆเจ้าลูกน้ำดูท่าจะทำเกินหน้าที่
   “หือ อาทัพคิดถึงอาโยจริงๆเหรอครับน้ำ” เหมือนพี่โยจะเลิกทำงานแล้วหันมาคุยกับน้ำจริงๆจังๆ
   “อือ อาทัพคิดถึงอาโย” เอาแล้วไงหลานรักเล่นผมแล้วไง น้ำยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าหงึกหงักยืนยันคำพูดตัวเอง
   “คิกๆ พี่ทัพแย่แล้วล่ะครับ” วาหัวเราะ
   “เจ้าแสบอยู่ด้วยเหรอ”
   “สวัสดีครับพี่โย” วาชะโงกหน้าไปทักทายพี่โยคุยกันไม่กี่คำก่อนที่จะขอตัวขึ้นไปข้างบนเพราะพี่ลมเรียก
   “ไม่คุยอะไรกับพี่หน่อยเหรอ” เมื่อเห็นผมเงียบไปพี่โยก็หันมาเรียกผม
   “ก็เห็นคุยกับหลานอยู่ แล้วไม่ทำงานต่อแล้วเหรอ”  ผมถามกลับไป
   “ก็อยากคุย” ไม่รู้ว่าอยากคุยกับหลานหรืออยากคุยกับผมกันแน่เลยได้แต่นั่งทำหน้าอึนๆ ดูคนที่หันไปคุยเล่นกับหลานแล้วผมนั่งฟังไปบางทีก็หัวเราะกับอาการตลกๆของน้ำที่โดนพี่โยแกล้ง 
   “น้ำครับขึ้นนอนได้แล้ว” วาลงมาตามน้ำเมื่อคุยกันเพลินจนลืมเวลา น้ำบอกลาก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป
   “แล้วค่อยคุยกันนะครับพี่โย”วาโบกมือลาแล้วพาน้ำขึ้นไปนอน ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟา
   “เบือแล้วเหรอ” ใครอีกคนทักผมเมื่อเห็นผมนอนเงียบ
   “ยัง พี่ทำงานไปเถอะผมจะนอนแล้ว”
   “มีปัญหาอีกหรือเปล่า” น้ำเสียงเป็นห่วง
   “ไม่หรอกแค่ผมง่วง” ผมว่าพร้อมกับหลับตาลงเหมือนจะเป็นความเคยชินที่จะนอนฟังใครอีกคนทำงานแล้วหลับไป
   “ไม่ไปนอนบนห้องดีๆ”
   “ขี้เกียจ” เสียงอีกคนเริ่มแผ่วในความรู้สึกผมแล้วผมก็นอนหลับไปทั้งๆที่นอนอยู่บนโซฟา และก็เป็นอีกคืนที่ผมหลับพร้อมๆกับใครอีกคน

   Mai Part
   ผมตืนขึ้นมาพร้อมกับการหลับสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแม้จะไม่ใช่เตียงตัวเองก็เถอะ จัดการธุระส่วนตัวเสร็จผมก็ลงไปข้างล่างที่แม่กำลังตั้งโต๊ะพอดี
   “เดี๋ยวผมช่วยครับ”
   “ตื่นแล้วเหรอคะ นอนหลับสบายดีไหม” รอยยิ้มกว้างชวนให้ผมยิ้มตอบกลับไป
   “หลับสบายครับ แล้วนัทล่ะครับแม่” หันมองไปรอบๆก็ไม่เห็นมัน
   “ยังไม่ตืนมั้งคะ แม่ก็ยังไม่เห็น กินข้าวกันดีกว่าจ๊ะ” เมื่อคุณแม่ชวนผมก็ไม่ปฎิเสธที่จะกินข้าวก่อน อาสาล้างจาน ทีแรกว่าจะออกไปทำงานก่อนแต่ไอ้นัทดันตื่นแล้วลงมาซะก่อน
   “เดี๋ยวกูไปส่ง”
   “อืม” รอมันไม่นานมันก็พร้อมที่จะไปส่ง
   “ไปเที่ยวกันดีกว่า” นั่งไปได้ครึ่งทางมันก็คิดเปลี่ยนเส้นทางเลี้ยวเข้าตัวเมือง
   “เดี๋ยวนะไปเที่ยวในเมืองนี่นะ” ไปที่อื่นกูยังจะไม่แปลกใจเท่านี้เลย แต่มันก็ไม่เปลี่ยนใจขับรถยิ้มๆจนกระทั่งมาถึงร้านกาแฟที่ผมเคยเห็นมันมากับผู้หญิงวันที่มันลืมสัญญา อ่า ไม่อยากเข้าเลยซักนิด แต่ก็ยอมแพ้แรงความที่มันลากผมเข้าไปนั่งในร้าน
   “กูจะกลับไปทำงาน” ผมทำหน้าเซ็งไอ้ทัพมันโทรมาไอ้คนที่นั่งตรงข้ามนี่ก็แย่งไปรับแถมยังลางานให้ผมเรียบร้อย
   “กินไปเถอะน่าแล้วก็เลิกทำหน้างอได้แล้วครับ”  ผมปัดมือที่มันจิ้มๆแก้มเล่นแต่ก็หลุดยิ้มกับไอ้อาการเสียงอ่อนของมัน
   “เออๆ ว่าแต่จะพากูมานั่งกินกาแฟแค่นี้เหรอ” ตักเค้กเข้าปากในเมื่อหยุดแล้วก็ขอพักให้สบายๆล่ะกัน
   “เดินเที่ยวในเมืองนี่ล่ะ ไปกัน” แล้วมันก็จูงมือผมเดินเข้าตลาด พากันเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ เดี๋ยวก็แวะชิมอาหารพากันแวะนั่นแวะนี่   เหมือนช่วงเวลาเก่าๆหวนกลับคืนมา ผมเริ่มรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ข้างๆกันมากขึ้นเหมือนตอนสมัยม.ปลาย มองมือหนาที่กุมมือผมไว้ยิ่งทำให้ใจผมเริ่มลืมความเจ็บขอแผลในใจ
   “ยิ้มเยอะๆแล้วก็น่ารักดีนะ” จู่ๆมันก็พูดขึ้นทำเอาผมทำหน้าไปไม่ถูก
   “บ้าแล้วมึง” ไอ้แต่ว่ามันแล้วเดินหนีไปอีกทาง ใจผมเต้นแรงจนได้ยินเสียงก้องอยู่ในหู
   “เขินแล้วด่าแรงนะมึงนะ” มันเดินมาทันผมแล้วจับมือผมไว้เหมือนเดิม โอ๊ยกูเขินเข้าใจไหมว่ากูเขิน ได้แต่บ่นขมุบขมิบเดินตามมันไป ก่อนที่พวกเราจะตัดสินใจเลือกร้านอาหารร้านหนึ่งเพื่อทานอาหารกลางวันที่ค่อนไปบ่ายกว่าแล้ว
   “เดี๋ยวกูเข้าห้องน้ำก่อนนะ” หลังจากสั่งอาหารผมก็ขอไปเข้าห้องน้ำ
   ซ่า
   ให้ตายเถอะวันนี้เป็นเหมือนกับอยู่ในความฝัน ฝันที่เคยคิดไว้ตอนนั้นให้ตายเถอะ พยายามล้างหน้าเพื่อเรียกสติ เช็คความเรียบร้อยแล้วผมก็เดินกลับมาที่โต๊ะ

   เคยรู้สึกเหมือนอยู่ดีๆตัวเองก็ตกลงเหวไหมครับ ตอนนี้ผมเหมือนจู่ๆก็โดนถีบลงจากสวรรค์ให้ร่วงลงสู่เหว เมื่อที่ทีผมเคยนั่นตอนนี้มีใครนั่งแทน มือขาวเกาะแขนไอ้นัทท่าทางสนิทสนมเอียงเข้าหากระซิบกระซาบและรอยยิ้มกว้างทำให้ผมแทบไม่อยากก้าวเข้าไปแทรก
   “อาจจะเป็นแค่เพื่อน” ผมได้แต่บอกกับตัวเองแล้วเดินไปที่โต๊ะ
   “โทษทีนานไปหน่อย”
   “อ่าวนัทนัดกับเพื่อนไว้เหรอ แล้วทำไมไม่บอกแพรล่ะคะ”  มือเรียวตีที่ไหล่ไอ้นัทไปทียิ่งทำให้ผมยิ่งรู้สึกหายใจไม่ออก
   “เอ่อสองคนนี่เป็น....”ผมถามเรื่องที่ใจอยากรู้ที่สุด ตอนนี้เหมือนหัวใจมันหยุดเต้นหายใจไม่ออก
   “คือก็เขินๆนะคะ แพรนะคะยินดีที่ได้รู้จัก เป็น...คู่หมั่นกับนัทค่ะ” รอยยิ้มหวานนั่นทำให้ผมสะอึก
   “แพร!!” เสียงไอ้นัทดูจะตกใจแต่มันก็ไม่ได้ห้ามหรือแก้ตัวอะไรที่คุณแพรพูดและที่โดนเกาะแกะอยู่ ผมยิ้มให้ทั้งสองคน
   “เอ๋ผมไม่เคยรู้เลยครับ แต่พวกคุณเหมาะสมกันมากเลยครับ เออเมื่อกี้ที่โรงงานโทรมากูต้องกลับแล้ววะโทษทีนะเพื่อน” ผมไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าอะไรออกไปไอ้นัทไม่ได้คิดที่จะพูดตัดอะไรออกไป หรือไม่แม้จะห้ามผม รีบเดินออกจากร้านลืมไปแล้วว่าตัวเองไม่ได้เอารถมาโบกแท็กซี่ ไม่รู้ว่าบอกให้ไปที่ไหนจนรถมาจอดที่หน้าโรงเรียน ผมมองรั้วภาพความทรงจำเก่าๆก็ย้อนกลับมา ผมเงียบก่อนที่จะบอกจุดหมายต่อไป แล้วโทรหาพี่ลม เหมือนเหตุการณ์นั้นจะวนมาเหมือนเดิม
   “พี่ลม”
   “(ไงไอ้ไม้โดนจัดหนักไปรึไงถึงได้ไม่ไปทำงาน)” เพียงได้ยินเสียงผมก็เหมือนกับกลับไปเป็นไม้ตอนม.ปลาย
   “อึก พี่ลม......”
   “(มึงเป็นไรไอ้ไม้)” น้ำเสียงตกใจแฝงด้วยความเป็นห่วงทำให้ผมร้องหนักขึ้นกว่าเดิม
   “พี่....ผม..ขอหายไปซักพักนะ” ตอนนี้ที่ร้องไห้ผมก็แค่ผิดหวังเพราะแผลเก่ามันก็แค่เปิดออก แต่ตอนนี้ผมมีสติพอที่ไม่ทำอะไรโง่ๆ ผมแค่ผิดหวัง แต่ยังไม่ถึงกับจะตายผมรู้ดีว่าเพราะผมให้โอกาสมันเองผมก็ต้องเจ็บเอง ได้ยินปรายสายถอนหายใจหนัก
   “(หายแล้วก็กลับมานะมึง บ้านรอมึงอยู่เสมอ)”
   “ขอบคุณนะพี่ลม ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว” มันรับคำแล้วผมก็ตัดสายปิดเครื่องพร้อมกับที่จะหนีไปพักคงไม่นานที่ผมคงพร้อมที่จะกลับมา และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
*******************************************
ตอนนี้อาจจะช้าหน่อยเพราะปัญหารุมเร้านะคะ
พี่โยกับทัพนี่มาสายสโลว์ความสัมพันธ์
ส่วนพี่ไม้................... :hao5: :hao5:
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
สงสารไม้ แต่หมั่นไส้พี่โย อิอิอิ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นัทต้องมีเหตุผลอธิบาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Apinnoolek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบพี่โย ฮ่าๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Nut Part
   ผมพึ่งรู้ว่าตัวเองซวยมากก็คราวนี้ล่ะ เมื่อสาวที่ผมเคยควงแถมยังควงมาตั้งแต่สมัยเรียนตำรวจส่วนความสัมพันธ์มันเหมือนเพื่อนมากกว่าคู่ควงหลายๆอย่างที่ผมกับแพรเข้ากันได้ดีแต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้แพรอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ ทั้งๆที่พึ่งได้โอกาสและในวันนี้ผมได้รู้ว่าผมคิดถูกแล้วว่าหัวใจผมมันเต้นแรงแค่ไหนเมื่อเห็นไม้ทำท่าทางเขินอาย รอยยิ้มกว้างที่ผมไม่ได้เห็นมานาน แต่ทุกอย่างก็พังลงหมดเมื่อแพรเข้ามาและยังบอกอีกว่า
   “คู่หมั่นค่ะ” ผมตกใจแทบตายเมื่อแพรบอกสถานะที่พวกผมเคยพูดเล่นๆกันภายในหมู่เพื่อน สีหน้าของไม้ทำให้ผมอยากจะย้อนเวลากลับไป รอยยิ้มชืดที่เคยส่งให้ผมกลับมาอีกครั้ง
   “ขอตัวนะครับ” ไม้เดินออกไปแล้ว เดินออกไปพร้อมกับหัวใจผมที่มันปวดร้าวเมื่อเห็นสายตาตัดพ้อ
   “แพรปล่อยผม” ผมพยายามแกะมือที่กอดแขนผมไว้
   “เป็นอะไรไปคะ นัท คนเมื่อกี้นี่เพื่อนนายเหรอ” แพรยอมปล่อยแขนและหันมาคุยกับผม
   “เธอพาความซวยมาหาฉันจริงๆนะ” ผมอดไม่ที่จะว่าแม้จะไม่เป็นสุภาพบุรุษก็เถอะ ผมรีบลุกขึ้นจากโต๊ะวิ่งออกไปแต่ผมก็ไม่เห็นไม้แล้ว ให้ตายเถอะไม่รู้ว่าไม้จะคิดไปถึงไหน มือกดโทรหาไม้ตลอดเวลาจนกระทั่งติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้ ผมยังไม่อยากโทรไปหาพี่ลม ตอนที่ขอโอกาสไปพี่ลมเตือนเขาแล้วได้แต่ภาวนาว่าไม้จะไม่ตัดโอกาสนั้นจริงๆ และเหมือนความหวังของผมจะเริ่มริบหรี่เมื่อรุ่งขึ้นอีกวันผมก็ยังติดต่อไม้ไม่ได้ เอาวะเป็นไงเป็นกัน ผมขับรถเพื่อไปที่ไร่สายลม
   “เดี๋ยวครับผู้กอง นายไม่ให้ผู้กองเข้า” ละอองยกมือขึ้นกันผมทันทีที่กำลังจะเข้าไปในบ้านเพราะตอนนี้น่าจะกินข้าวเช้ากันอยู่
   “ไปบอกพี่ลมว่าฉันมีเรื่องด่วนจะคุยด้วย”
   “แต่กูไม่มีเรื่องด่วนที่ต้องคุยกับมึงวะไอ้ผู้กอง” เสียงแหบห้าวดังออกมาก่อนที่ผมจะเห็นตัวพี่ลมซะอีก
   “พี่แต่ผมติดต่อไม้ไม่ได้”
   “ปล่อยมันเข้ามาไอ้ละออง” ละอองยอมปล่อยให้ผมเข้าบ้านทันทีที่นายสั่งผมรีบเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นทุกคนนั่งอยู่ยกเว้นน้ำที่สงสัยไปโรงเรียนแล้ว
   “กูให้มึงพูดก่อน” สีหน้าเครียดของทุกคนในบ้านทำให้ผมรู้แล้วว่าผมทำเรื่องเลวร้ายลงไปแล้ว
   “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เรื่องที่เกิดขึ้นมันแค่เรื่องเข้าใจผิด กับแพรนั่นก็แค่เพื่อนแต่มันก็เกิดเรื่องเข้าใจผิดแล้วผมก็ติดต่อไม้ไม่ได้เลย” ผมที่ยืนอยู่กลางบ้านโดยมีสายตาสามคู่มองโทษผมอยู่ วาลูบแขนพี่ลมไปมาเมื่อพี่ลมกำหมัดแน่น
   ผลั๊วะ
   “อึก” หมัดหนักๆกระแทกจนผมเซไอ้รสสนิมในปากท่าทางปากจะแตก
   “พี่ลม!!” เสียงวาร้องอย่างตกใจ ผมส่ายหน้าไปมาเพราะหมัดหนักๆทำให้ผมมึนเลยทีเดียว ผมยกมือเช็ดที่มุมปากก็เห็นเลือดติดออกมา แตกจริงๆสินะผมสมควรโดนแล้ว
   “กูให้โอกาสที่มึงขอ ไอ้ไม้ก็ให้โอกาสมึงกูไม่รู้ว่าเหตุการณ์แม่งมันเกิดอะไรขึ้น กูอยากต่อยมึงมากกว่านี้แต่กูรู้ถึงทำไปน้องกูก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น ถึงมึงจะบอกว่ามันเป็นเหตุบังเอิญหรือห่าเหวอะไรแต่น้องกูก็เสียใจอีกแล้ว” ผมได้แต่ก้มหน้าจริงที่พี่ลมว่าทุกอย่างเพราะผมไม่บอกไม่พูดค้านอะไรออกไป ไม้จะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกเพราะผมไม่รีบอธิบาย
   “มึงมันโง่แต่คนที่โง่กว่าคือไอ้ไม้ที่ผ่านมากี่ปีๆมันก็ยังรักมึง รักทั้งๆที่มึงไม่ได้สนใจ ไม่ได้แคร์อะไรมัน กูว่าคนที่โง่คงเป็นน้องกู”
   “ผมไม่อยากให้มันจบตรงนี้” พี่ลมถอนหายใจแรงเมื่อผมทำได้แค่ก้มหน้าสำนึกผิด
   “กูไม่อยากตัดความหวังน้อยนิดของมึงนะ แต่ไอ้ไม้มันพอแล้ว” เหมือนตัวผมชาไปแล้วเมื่อคิดว่าไม้พอแล้วมันหมายถึง...มันจะไม่ให้โอกาสผมอีกแล้วเหรอแล้วจะให้ผมทำอะไรได้ล่ะ แต่ผมยังไม่อยากยอมแพ้
   “ไอ้ผู้กองกูบอกเลยนะ....ว่าเพื่อนกูตอนนี้มันอาจจะหยุดแต่มันจะเดินไปข้างหน้าเหมือนกูและมึงก็จะเป็นแค่อดีตสำหรับมัน” แม้จะเกลียดขี้หน้าเพื่อนไม้แต่ผมก็ต้องยอมรับว่ามันพูดถูก
   “กูจะไม่ยอมเป็นอดีตของไม้หรอกนะ” ผมหันไปตอบกลับทั้งๆที่ผมไม่มีความมั่นใจในสิ่งที่พูดเลยซักนิด
   “หึๆมึงคิดว่าจะทำได้งั้นเหรอกูบอกเลยถ้าไอ้ไม้กลับมาครั้งนี้มึงจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรอกนะ”ผมแทบจะยั้งตัวเองไว้ไม่อยู่เมื่อสิ่งที่ทัพพูดมันแทงใจดำ
   แปะ
   ผ้าห่อน้ำแข็งถูกแตะที่มุมปากจนผมสะดุ้งเพราะความแสบบอกขอบคุณวาที่ยังใจดีเอาน้ำแข็งมาให้ผม
   “พี่นัท วาว่าท้ายที่สุดพี่นัทต้องยอมรับว่าพี่ไม้ขอจบแล้วพี่จะยื้อไปทำไมครับ”
   “แต่พี่รักมันนะวา” ผมรีบตอบแต่ก็ได้เสียงหัวเราะเยาะจากสองคนนั่นเป็นการตอบรับ ผมจะทำอะไรได้อีก ผมอยากให้ย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่นิ่งเงียบจนไม้เข้าใจผิด
   “พี่นัทความรักของพี่กับพี่ไม้มันสวนทางกัน พี่ทำความรักของพี่เหมือนการเล่นขายของพี่นัทควรจะปล่อยพี่ไม้ได้แล้วนะครับ”น้ำเสียงราบเรียบแต่ความหมายของคำพูดนั้นกลับบาดลึกลงในใจผมเอง
   ผมควรปล่อยไม้ไปจริงๆเหรอ!??

   “เฮ่อ........” ผมได้แต่ถอนหายใจเมื่อพี่นัทเดินคอตกกลับบ้านไป ทั้งที่พี่นัทและพี่ไม้ต่างก็ใจตรงกันแล้วแต่ทำไมมันถึงสวนทางกันแบบนี้ไปได้นะ
   “ถอนหายใจทำไมครับ” สัมผัสเบาๆที่หัวทำให้ผมเอนตัวพิงกับอกแกร่ง
   “ทำไมความรักมันถึงได้ยุ่งยากแบบนี้ล่ะครับ” ร่างบางปิดตาลงปล่อยให้มือหนาลูบผมนิ่ม
   “วาไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าสองคนนั่นมีวาสนาต่อกันจริงๆก็คงจะได้อยู่ด้วยกันเองล่ะ ทำไมทำหน้าเศร้าจังเลย หือ”  ผมเงยหน้ามองใบหน้าครามแดดมีไรเคราจางๆเพราะเมื่อเช้ามัววุ่นวายร่างใหญ่เลยไม่ได้โกน มือเรียวยกแตะไล่ตามสันกราม
   “วารักพี่ลมนะครับ” เรียวปากบางเผยรอยยิ้มหวาน ถ้อนคำหวานบอกรักทำให้หัวใจของลมเต้นรัว
   “พี่ก็รักวา” สิ้นคำอ้อมแขนใหญ่ก็ตวัดเอวบางกอดรัดจนแน่น ผมยกมือขึ้นกอดตอบส่งผ่านความรู้สึกหวานให้แก่กันและกัน
   “พี่ชักไม่อยากไปทำงานแล้วสิ” ผมได้แต่หลุดขำเมื่อพี่ลมทำท่าจะเกเรไม่ยอมไปทำงานแถมมือหนายังสอดเข้ามาใต้เสื่อเขาอีก ความสม่ำเสมอและความมั่นคงของพี่ลมทำให้ใจทั้งดวงนั้นไปอยู่กับอีกฝ่ายไม่ยาก
   “อย่าเกเรสิครับพี่ลม......เอ่อ...ไว้ตอนค่ำนะครับ” ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบาจนแทบจะกระซิบ ได้แต่ก้มหน้างุดซุกกับอกกว้างรู้สึกเขินอายกับถ้อยคำที่พูดออกไปมันเหมือนเป็นการยอมในสิ่งที่พี่ลมเคยขอ
   “หือ!! พูดจริงเหรอ” พี่ลมดันตัวผมออกมือใหญ่เชยคางขึ้นผมได้แต่เสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตากับแววตาคมที่เปล่งประกายกล้าเมื่อเข้าใจความหมายที่ผมพูด
   “ตอบพี่หน่อยสิคนดี”
   “ก็อย่างที่พี่ลมเข้าใจนั่นล่ะ!! วาไม่คุยด้วยแล้ว” ผมรีบหนีจากสถานการณ์ที่ผมทำให้ผมเขินมาก
   ฮืออออ ผมบอกไปอย่างนั้นได้ยังไง อ๊ากกก ตอนเย็นผมหนีไปนอนกับน้ำได้ไหม ทำไมผมรู้สึกเขินจัง พี่ลมเข้าไร่ไปด้วยอาการหน้าบานจนลูกน้องทำหน้างงว่านายไปโดนตัวไหนมาถึงได้ยิ้มร่าหน้าบานขนาดนั้น
   ตอนเย็นหลังจากที่ไปรับน้ำแล้วผมก็เข้าครัวทำกับข้าวเย็นตามปกติ พี่ทัพโทรมาบอกว่าจะนอนที่ณโรงงานเพราะเครื่องยนต์มีปัญหาเพราะฉะนั้นวันนี้ผมเลยอยู่กันสามคน พี่ไม้โทรติดต่อมาเองแม้จะยังไม่กลับมาแต่น้ำเสียงที่ได้ยินนั่นทำให้ผมรู้สึกชื้นใจขึ้นบ้างที่พี่ไม้น่าจะรู้สึกดีขึ้น
   “น้ำขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วครับ” ผมร้องบอกน้ำที่นั่งดูการ์ตูนหลังจากทำการบ้านเสร็จแล้ว
   “คร๊าบบบบ” น้ำรีบลุกขึ้นจากโซฟาวิ่งมาทางผม
   “วันนี้อาบน้ำคนเดียวนะครับ” ผมทรุดนั่งลงให้เสมอกับน้ำลูบแก้มที่เหมือนโมจินั่นเบาๆ น้ำพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้างเอียงแก้มป่องมาหาผม
   ฟอด ฟอด
   “ไปได้แล้วครับคนเก่ง” น้ำยิ้มร่าเมื่อผมหอมแก้มทั้งสองข้างแล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน ตอนนี้ผมฝึกให้น้ำช่วยเหลือตัวเองทั้งการอาบน้ำและการแต่งตัว และการทำหลายๆอย่างด้วยตัวเอง  กลับเข้าไปทำกับข้าวต่อ ตอนนี้งานที่ไร่เริ่มกลับมายุ่งอีกครั้ง ต้นส้มและองุ่นเริ่มแตกช่อดอกทั้งผมและพี่ลมต่างวุ่นกับการบำรุงหลายอย่างเพื่อให้คุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน
   “หอมจัง เจ้าลูกหมูล่ะ”
   “ขึ้นไปอาบน้ำครับ พี่ลมก็ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ” ผมบอกเมื่อเห็นสภาพเลอะฝุ่นเลอะโคลนดูไม่ได้
   “ไม่ให้รางวัลพี่เหมือนลูกเหรอ” พี่ลมก้มหน้าลงมาใกล้แถมยังเอียงแก้มมาให้ผมอีกจนผมยกมือดันหน้าไว้
   “เต็มไปด้วยฝุ่นแบบนี้วาไม่ทำหรอกนะครับ”  แกล้งทำหน้าแหยงๆใส่เอาจริงๆเขาก็แค่เขินเท่านั้นล่ะ
   “โอ๊ย เจ็บนะพี่ลม” ผมร้องลั่นยกมือปิดจมูกเมื่อพี่ลมบีบจมูกผมแรง แดงรึเปล่าเนี้ย
   “ทำหน้าแบบนี้ใส่พี่เดี๋ยวก็โดนดีหรอก หึๆ ไม่ทำพี่ทำเองก็ได้”
   ฟอด ฟอด
   จากที่ต้องปิดจมูกผมต้องเลื่อนมาปิดแก้มที่โดนฉวยโอกาสหอมแก้มไปคนละฟอด
   “แดงเลย พี่ขอโทษนะ”พอเห็นปลายจมูกแดงๆของผมพี่ลมก็ลูบเบาๆ
   จุ๊บ
   “อือ ไม่เอาแล้ว” ผมรีบก้าวถอยหลังให้ห่างคนเอาเปรียบผมอยู่ได้
   “หึๆ คืนนี้ยังไงก็ไม่รอดหรอกนะ” ได้แต่ขยับหนีจนไปชิดเคาเตอร์ครัวโดยที่ตัวต้นเหตุเดินผิวปากขึ้นไปอาบน้ำส่วนผมได้แต่ปลอบใจที่ตุ้มๆต่อมให้กลับมาเป็นปกติ หายใจคล่องแล้วค่อยไปตั้งโต๊ะกินข้าวพอดีกับสองหนุ่มลงมา
   “ไหนหอมไหมคนเก่ง” ก้มลงอุ้มน้ำสูดกลิ่นแป้งที่ดูเหมือนน้ำจะเทมาซะครึ่งกระปุกกดจมูกลงกับแก้มนุ่มกลิ่นหอมโชยออกมา
   “หอมไหมครับพี่วา”
   “หอมครับคนเก่ง ป่ะกินข้าวกันดีกว่านะ” ผมวางน้ำลงที่เก้าอี้เด็ก
   “พี่ไม้อีกกี่วันจะกลับครับ”
   “พรุ่งนี้ล่ะมั้ง พี่บอกไปว่าไอ้ทัพมันจะตายคาโรงงานแล้วมันเลยบอกวันกลับ” ดูพูดเข้าจริงๆก็เป็นห่วงน้องแต่พูดดีๆไม่ได้
   “พี่ไม้ดีขึ้นไหมครับ” ถ้าหากกลับมาผมเดาได้เลยว่าพี่นัทต้องไม่ยอมแพ้แต่ใจของพี่ไม้ก็คงไม่เหมือนเดิม
   “เท่าที่ฟังเสียงก็น่าจะโอเคขึ้นแล้วล่ะ”
   “น้ำคิดถึงอาไม้” น้ำพูดขึ้นเมื่อเห็นเราสองคนพูดถึงพี่ไม้
   “พรุ่งนี้อาไม้ก็กลับมาแล้วครับ” ผมลูบหัวทุยเบาๆ น้ำยิ้มร่ากลับไปตั้งอกตั้งใจกินเหมือนเดิม  พี่ลมรับหน้าที่ล้างจาน ส่วนผมก็พาน้ำขึ้นนอน
   “ฝันดีนะครับ”ผมก้มลงจูบหน้าผากพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้น
   “น้ำรักพี่วานะครับ” จู่ๆน้ำก็พูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นจูบแก้ม ผมรู้สึกกระบอกตาร้อนผ่าวเมื่อถ้อยคำใสซื่อที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
   “พี่ก็รักน้ำครับ” ผมกอดน้ำแน่น
   “พี่วาอยู่กับน้ำตลอดไปเลยนะครับ” ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา
   “อือพี่จะอยู่กับน้ำตลอดไปครับ”

   “ขี้แงอะไรกันทั้งสองคน” ลมเดินเข้ามาในห้องนอนลูกก็เห็นคนที่รักของเขาร้องไห้กอดกันแน่น
   “เปล่าครับ” ลมส่ายหัวแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆคนที่น้ำตาคลอแล้วค่อยยกมือเช็ดน้ำตา
   “ถึงเวลานอนได้แล้วเจ้าลูกหมู”
   “ฝันดีพ่อลม” ลมก้มลงจูบแก้มป่องของเจ้าลูกตัวแสบแล้วจูงมือคนที่พยายามอิดออดไม่อยากกลับห้อง พอเข้ามาในห้องวาก็ดูเก้ๆกังๆก่อนที่จะบอกว่าไปเข้าไปอาบน้ำผมได้แต่แอบขำจริงๆที่วาพูดเมื่อตอนกลางวันผมก็รู้สึกดีใจแต่ผมก็ไม่อยากให้วากดดันตัวเองจนกลายเป็นว่ากลัวไปซะอย่างนั้น ผมนอนเอนหลังอยู่บนเตียงไม่นานวาก็ออกมาจากห้องน้ำผมเดินเข้าไปแย่งผ้าขนหนูในมือวาแล้วลงมือเช็ดผมให้ บ่อยครั้งที่วาจะบ่นเรื่องที่ผมเช็ดผมให้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆผมอยากทำให้
   “แห้งดีแล้วนอนกันเถอะ” ผมดันหลังคนที่ยังหันมามองผมงงๆ อย่าหันมามองแบบนั้นนะ ผมตวัดเอวบางเข้ามากอด วาดิ้นขยุกขยิกเมื่อผมบอกว่าฝันดี
   “พี่ลม..”
   “ถ้าวายังไม่พร้อมก็นอนนิ่งๆเถอะ”
   “ผมพร้อมนะพี่ลม” แม้เสียงจะแผ่วแต่แรงกอดที่เอวพร้อมหน้าที่ซุกลงกับอกนิ่ง เห็นแค่ใบหูแดงก่ำ มือใหญ่ค่อยๆสอดเข้าไปใต้เสื้อนอนนิ่มสัมผัสผิวเนียนลื่นมือร่างบางสั่นน้อยๆ
   “พี่รักวานะคนดี” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู
   “อือ..” แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรริมฝีปากบางถูกบดเบียดแนบชิด เรียวบางนุ่มหยุ่นเผยอรับลิ้นหนาไล่ต้อนเกี่ยวกระวัดลิ้นเล็กจนน้ำใสไหลซึมแต่ทั้งคู่ไม่สนใจ มือต่างฝ่ายต่างลูบไล้ปลุกเร้าเพิ่มความร้อนให้แก่กัน เสื้อผ้าต่างถูกถอดโยนทิ้งร่างเปลือยเปล่ากอดรัดลูบไล้ ท่ามกลางอากาศหนาวข้างนอกภายในห้องอุณหภูมิกลับร้อนผ่าว เหงื่อเปียกชุ่มที่รู้ว่าเป็นของใคร เมื่อแกนกายสอดแทรกลมได้แต่ขบกรามแน่นเมื่อถูกบีบรัด เล็บสั้นจิกข่วนแผ่นหลังกว้าง เสียงครวญหวานแทรกกับเสียงสอดกระทบก้องทั่วห้อง เมื่อใกล้ถึงฝั่งฝันลมกอดเอวบางแน่นสอดกายเข้าแรงๆอีกสองสามทีก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำขุ่นเข้าสู่ช่องทางบีบรัดไม่ต่างกับแกนกายร่างบางที่ปลดปล่อยไปพร้อมๆกัน
   “แฮ่กๆ” เสียงหอบผสานแผ่นอกกระเพื่อมหลังจากจบกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียง รีมผีปากหนาคลอเคลียไม่ห่างหลังคอไหล่ลาดกดจูบหนักๆจนเกิดรอยแดงตัดกับผิวขาว ร่างบางขยับเล็กน้อยเพราะความอึดอัด
   “อือ..พี่ลม” เรียวปากแดงก่ำเปล่งเสียงแหบพร่าเมื่อสิ่งที่ยังอยู่ในร่างเริ่มขยับขยายอีกครั้ง
   “อีกรอบนะคนดี” ร่างขาวไม่มีสิทธิได้ตอบอะไรเมื่ออีกคนเริ่มขยับอย่างเร่งเร้า และไม่มีทางรู้เลยว่า ร่างสูงจะร้องขอ “อีกรอบ” ตลอดทั้งคืน 

   ลมตื่นขึ้นมาตามเวลาที่เคยชินแม้จะพึ่งหลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมง เมื่อคืนเป็นคำคืนที่วิเศษที่สุดในชีวิต ดวงตาคมทอประกายอ่อนโยนเมื่อมองคนที่นอนหลับสนิทซุกอยู่ในอ้อมกอดเขา ผิวเนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มมีรอยแดงแต้มอยู่จนแทบไม่มีช่องว่าง เมื่อคืนเขาเอาแต่ใจตักตวงให้สมกับที่อดอยาก..ไม่ใช่สิ อดกลั้นมานานจนตอนนี้วาถึงยังได้หลับสนิทเพราะความอ่อนเพลียจากการตามใจผมทั้งคืน ก้มลงจูบไหล่ขาวก่อนที่จะลุกลงจากเตียง ดึงผ้าห่มคลุมคนที่นอนหลับสนิทแล้วก้าวยาวๆเข้าห้องน้ำวันนี้เขาต้องไปส่งลูกเองคนเดียว ปล่อยให้วาได้พักคงจะดีกว่ายังดีที่เขาทำเช็ดตัวและเช็คดูแล้วท่าทางจะไม่มีไข้ จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปปลุกไอ้ลูกหมูขี้เซา
   “ตื่นได้แล้วนะลูกหมู  สายแล้วพ่อให้สามสิบนาที” น้ำงัวเงียลุกขึ้นเดินลากเท้าเข้าห้องน้ำ ต้องขอบคุณที่วาสอนน้ำได้ดีน้ำเลยเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ ปล่อยให้น้ำจัดการตัวเองผมก็กลับเข้าห้องนั่งลงที่เตียง
   “วา”
   “อือ ครับ” แม้จะรับคำแต่ก็ยังไม่ลืมตาทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะกดจูบที่ไหล่ลาดยกมือขึ้นลูบเบาๆ
   “พี่จะออกไปส่งลูกนะ วาเอาอะไรไหม”
   “อือสายแล้วเหรอครับ” ผมยิ้มกว้างกับอาการคลอเคลียมือผมที่เหมือนแมวน้อย
   “ใช่ วันนี้พักผ่อนนะ รู้สึกไงบ้าง” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
   “เหมื่อยไปทั้งตัวเลย”
   “หึๆ งั้นพักไปนะเดี่ยวพี่กลับมา” จูบเบาๆที่ขมับ  วามุดหน้าลงกับหมอนหลับไปแทบจะทันที 

   “โอ๊ะๆๆ ทำไมนี้นายหน้าบานเป็นจานดาวเทียมล่ะน่อ มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า” ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าขึ้นรถไอ้ละอองมันก็มาลอยหน้าลอยตาแซวผม
   “นั่นสิฮะพี่ละออง” ลูกผมก็เป็นไปกับมันอีก ไม่ควรปล่อยลูกไว้กับมันจริงๆ
   “เลิกยุ่งกับกูได้แล้วนะมึง ไปทำงานได้แล้ว ป่ะเจ้าลูกหมู พ่อจะรีบกลับมาดูแลพี่วาของเรา” ถ้าไอ้ละอองมันฉลาดคงแปลคำพูดผมออกและดูเหมือนว่ามันจะฉลาดเพราะมันอ้าปากค้างตัวแข็งทื่อไปแล้ว
   หลังจากที่ส่งลูกที่โรงเรียนที่ได้อาหารเช้าเป็นข้าวเหนียวหมูปิ้งอาหารทำเองนะอย่าคิดให้ผมทำเลยไม่งั้นได้สร้างบ้านหลังใหม่ก่อนโครงการที่คิดจะทำแน่ๆ ผมคิดที่จะสร้างบ้านหลังเล็กให้กับไอ้ทัพและไอ้ไม้ถึงพวกมันสองคนจะนอนที่โรงงานมากกว่าก็เถอะแต่จะให้ผู้ชายตัวโตๆสองคนนอนในห้องเดียวกันคงไม่มีความส่วนตัวเท่าไหร่ เลยคิดที่จะปลูกบ้านหลังใหม่ข้างๆให้กับพวกมันสองคน
   ถือถ้วยข้าวต้มพร้อมกับยาที่จะให้คนที่ยังนอนหลับกินกันไว้   เปิดประตูเข้าไปวายังนอนหลับอยู่โดยไม่มีท่าทีที่จะตื่นเลยซักนิด
   “ตื่นขึ้นกินข้าวก่อนนะ”
   “อือ...พี่ลม”
   “มาลุกขึ้นกินข้าวก่อน”ผมรีบประคองวาที่ยังงัวเงียให้นั่งเอนหลังดีๆ วารีบลืมตาทันทีเมื่อผิวกายโดนอากาศเย็นๆเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าก็รีบตะครุบผ้าห่มคลุมจนถึงคอผมได้หลุดขำ
   “อายอะไรกันพี่เห็นหมดแล้ว” ยิ่งผมพูดวาก็ยิ่งจะมุดตัวลงใต้ผ้าห่ม ผมคงต้องเลิกแซวก่อนที่วาจะมุดหนีไม่ยอมกินข้าว
   “พี่เลิกแซวแล้วกินข้าวก่อนเถอะจะได้กินยา”
   “ไม่กินยาได้ไหม” วาว่าเสียงอ่อย
   “ไม่ได้ ถึงตัวจะไม่ร้อนแต่ก็ต้องกินกันไว้ก่อน” ผมพยายามไม่สบตากลมที่ออดอ้อนวอนขอไม่กินยาเพราะมันจะทำให้ผมใจอ่อน ป้อนข้าวจนหมดปัญหาก็เกิดเมื่อวาก้มหน้างุดไม่ยอมรับยาไปกิน
   “กินยาวา” ต้องทำเสียงเข้มให้วายอมรับยาไปกิน
   “ไม่กินได้ไหมอ่า” เสียงอู้อี้ไม่ยอมรับยาไปซักที
   “อย่าให้พี่ต้องป้อนเองด้วยปากนะรับรองเราจะอายจนไม่กล้ามองหน้าพี่แน่ๆ” พอได้ยินผมขู่แขนขาวก็ยืนมาคว้ายาโยนเข้าปากพร้อมกับกรอกน้ำจนหมดแก้ว พึ่งรู้ว่าวาก็มีมุมเด็ก เด็กยิ่งกว่าน้ำซะอีก
   “ไม่ต้องขำเลยนะพี่ลม”
   “หึๆ นอนต่อเถอะ” ลูบหัวทุยแม้จะไม่มีอาการหวัดแต่ผมก็รู้ดีว่าวาเหนื่อย
   “วา”
   “หือ..ครับ”
   “ไว้เราไปหาพ่อแม่วาด้วยกันนะ” จริงอยู่ที่ผมพาวาไปบอกกับพ่อแม่แล้วถึงแม้จะโตแล้วแต่ผมก็อยากทำทุกอย่างให้ถูกครรลองอีกอย่างวาก็คงจะคิดถึงพ่อแม่ ถ้างานที่ไร่อยู่ตัวเพราะผมคิดจะให้ไอ้ละอองและไอ้สินขึ้นมาดูแลแม้มันจะดูซื่อบื้อแต่มันก็เป็นคนซื่อสัตย์ ดังนั้นงานที่ไร่คงไม่มีปัญญา
   “พี่ลม”
   “พี่อยากไปขอวากับท่าน บอกว่าพี่รักอยากให้วามาเป็นคู่คิดดูแลกันและกันตลอดไป
   “อึก พี่ลม....วารักพี่ลมนะ” วาโถมทั้งตัวมากอดผม ถ้อยคำรักกับเนื้อตัวเปลือยเปล่านี่ไม่ได้อยู่ในความคิดของผมเลย
   “วา ถ้าไม่ปล่อย พี่ได้กินวาแน่ๆ” ผมกระซิบเสียงแหบพร่า วารีบผละออกแล้วมุดตัวลงใต้ผ้าห่มทันที หึๆ เขาก็ไม่อยากรังแกคนรักมากไปหรอกนะ 
   “ไงกลับมาแล้วเหรอมึง” ผมที่เอาถ้วยไปเก็บออกมาก็เห็นไอ้ไม้เดินเข้าบ้านดี
   “อืม” แม้จะมีสีหน้าเหนื่อยๆแต่แววตาของมันก็ดูเด็ดขาด เห็นทีคงไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะมั้ง
   “แล้วเป็นไง” คำถามที่มันเข้าใจรอยยิ้มจางๆที่ยังดีที่ยังมี
   “ไม่ต้องห่วงแล้วพี่ผมไม่เป็นไรแล้ว” ถึงจะสงสารแต่ก็ไม่อยากให้มันเสียใจอีก
   “ถ้ามึงตัดสินใจอย่างนั้นก็ดี ยังไงกูกับไอ้ทัพก็เอาคืนมึงไปแล้ว”
   “..............” แม้จะแค่แว๊บเดียวแต่ผมก็เห็นว่ามันเป็นห่วง
   “ถ้ากูบอกว่ามึงเข้าใจผิดล่ะ แต่กูก็ไม่บ่อกให้มึงให้อภัยมันหรอกนะ ถ้ามึงตัดแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะถ้ามึงจะคู่กันจริงคงได้คู่กันนั่นล่ะ”เดินเข้าไปโยกหัวมัน
   “แล้วไมพี่อยู่บ้านได้วะ” มันนอกเรื่อง
   “กูดูแลวา” บอกมันเพียงเท่านี้สมองมันก็คิดลึกได้ถึงใจกลางโลกแล้ว
   “พี่กูไม่ไร้น้ำยาแล้วเว้ย”
   “กูว่าปิดเทอมจะพาวากลับบ้าน”
   “แล้วใครจะดูแลไร่กับโรงงาน” มันถามผม ก็คิดไว้แล้วว่ามันจะไม่ยอมอยู่แน่ๆ
   “เออกูมีวิธี ขึ้นไปพักผ่อนเถอะกูเข้าไร่ล่ะ” ไล่มันขึ้นไปนอนท่าทางเหมือนคนนอนไม่พอ เรื่องหนีงานไปเที่ยวคงต้องคิดหาวิธีก่อนล่ะกัน และผมก็เดินหน้าบานเข้าไร่ให้พวกไอ้ละอองแซวแม่งทั้งวัน
**************************************************************
ในที่สุดพี่ลมกับน้องวาก็ตกล่องปล่องชิ้นกันซะที จุดพลุ
ส่วนไม้ก็  :hao5:
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นต์เข้ามา่อ่านนะคะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โว๊ะ วันนี้คนงานมีความสุขแน่ๆ เพราะพี่ลมอารมย์ดีทั้งวัน
 :z2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แหมๆ........พี่ลม เอาคืนให้สมกับที่อดกลั้นมานาน  :z1: :pighaun: :haun4:

นัท นายซวยมาก
เวลาล้อๆกัน อย่ายอมให้เข้าถึงตัวแต่แรก ต้องตัดไฟแต่ต้นลม
เป็นไงคู่หมั้นขำๆ ที่เคยไม่รู้สึกไร
ยังดีที่เรียกแค่คู่หมั้น ไม่ใช่เมียๆ  :z6: :z6: :z6:
ตอนนี้กกลายเป็นไฟลามทุ่งไปแล้ว
พาความลำบาก และเจ็บตัวมาหาตัวเองแล้ว
ให้แม่ช่วยอีกไหม ผุู้กองนัท  :hao3: :hao3: :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม้กับนัทนี้อุปสรรคเยอะนะเป็นกำลังใจให้ นัท และผู้เขียนนะ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ไม่เข้าใจ ทำไมนัทไม่ตอบปฎิเสธหรือธิบายตั้งแต่แรก  :ling1: ถ้าไม้จะไม่ให้อภัยก็เข้าใจได้นะ เฮ้อออออ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
น้องวาน่ารัก ชอบๆๆ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Mai Part
   ในที่สุดพี่ชายเขาก็สมหวังได้แต่แสดงความยินดีกับพี่ชายและพยายามไม่ล้อวาที่ตอนบ่ายลงมาจากห้องด้วยท่าเดินแปลกๆ ที่พี่ลมบอกว่าพี่ท่านกับไอ้ทัพเอาคืนให้แล้วมันออกจะรู้สึกทั้งสะใจและเป็นห่วง แล้วไอ้ที่พี่ลมบอกว่าเข้าใจผิดนั่นทำให้ผมสงสัยแต่พอถามใจตัวเองว่าจะให้อภัยมันไหม
   ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมันมีความสุขมาก
   มันเป็นช่วงเวลาที่ผมแค่ให้โอกาสนัทอาจมีเรื่องที่ทั้งผมและมันต้องปรับ ผมให้มันเต็มร้อยแต่มันพึ่งเริ่มนับหนึ่ง ผมควรที่จะลดให้ความรู้สึกให้เท่ากันเพื่อที่เขาและมันจะเดินไปพร้อมกันได้หรือเปล่า
   ผลัวะ
   “เหม่อเข้าไปไอ้หอก” มาถึงมันก็ทำร้ายร่างกายผม
   “สัด กูเจ็บนะเว้ย”
   “ดีขึ้นยัง”  มันถามเสียงจริงจังผมพยักหน้าตอบ ก่อนที่จะถามในสิ่งที่ผมคิด
   “มึงคิดว่ากูจะให้อภัยมันดีไหม” มันหันมามองหน้าผมแล้วยกยิ้มร้าย
   “กูว่ามึงนะใจอ่อนให้มันแล้วเหอะจะถามกูทำมะเขืออะไรไอ้หอก” แม่งด่ากูตลอด
   “ก็ไม่รู้สิแล้วเรื่องเข้าใจผิดนี่เรื่องอะไรวะ” ผมลุกไปนอนข้างๆ มันขยี้หัวผมจนฟู
   “เรื่องคู่หมั่นนะเป็นแค่เพื่อนมัน แต่ไม้มึงต้องคิดดีๆนะ ถ้ามึงจะคบกันกับมันต่อมึงจะอยู่กับมันด้วยความระแวงอย่างนี้เหรอถึงมึงจะกลับไปคบแล้วมันทั้งๆที่ระแวงทุกเรื่องอย่างนี้เหรอ”
   “กูก็อยากจะเชื่อมันนะทัพแต่มันไม่เคยคบผู้ชายเลยนะเว้ย แถมที่มันคบก็มีแต่ผู้หญิงสวยๆทั้งนั้นกูเลยไม่มั่นใจ”ผมบอกเสียงเบา แม่งก็ไม่มั่นใจจริงๆนะ
   “มึงคิดอย่างนี้สิ มึงเป็นผู้ชายคนเดียวที่ทำให้มันชอบเชียวนะเว้ย” มันพูดติดตลกซึ่งก็ได้ผล เออคิดแบบนี้มันจะเข้าข้างตัวเองไปไหมวะ
   “หึๆ มึงก็คิดได้นะ”
   “ก็จริงนะเว้ย มึงควรจะตัดสินใจและคุยกับมันให้เรียบร้อยตกลงกันให้ได้ว่าจะเอายังไง ไสหัวไปคุยกับมันได้แล้ว” มันผลักหัวผมจนคอแทบเคล็ด  ผมเลยตัดสินใจที่จะโทรหามัน ทันทีที่เปิดเครื่องแจ้งมิสคอลก็ดังรัวจนผมตกใจกับสายที่โทรเข้ามีเพียงเบอร์เดียว เบอร์ไอ้นัท  ยังไม่ทันที่จะกดโทรกลับมันก็โทรเข้ามาพอดี
   “ฮัลโหล”
   “(ไม้มึงเป็นไง กูขอโทษที่ทำให้เสียใจ กูผิดเองที่ไม่อธิบายให้มึงฟัง คุยกับกูได้ไหม)” ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรมันก็รัวอย่างกับปืนกล
   “ใจเย็นๆก่อนนะ กูสบายดีตอนนี้กูอยู่ไร่ มึงมาหากูหน่อยสิ”
   “(ได้ๆกูจะรีบไป)” ฟังจากน้ำเสียงก็รู้เลยว่ามันจะรีบมา
   “ไม่ต้องรีบมากยังไงกูก็รอฟังมึงอยู่” ผมบอกมันเพราะเห็นการกระตือรือร้นที่จะมาหา มันรับคำแล้วก็ตัดสายไปเลย
   ผมนั่งรอมันที่ห้องนั่งเล่นไอ้ทัพลงมากินน้ำมองผมยิ้มๆ แล้วเดินสะบัดตูดขึ้นห้อง พี่ลมก็เดินกอดเอวน้องวาเดินเข้าบ้านมา อะไรจะประคบประงมขนาดนั้น
   “น้องวาพี่ได้ข่าวว่าช่วงลูกหมูปิดเทอมจะกลับบ้านเหรอ”
   “อ่าครับ” วาหลบตาผมทันทีเมื่อพูดถึง
   “ดีเลยพี่จะได้ไปพักผ่อนด้วย”
   “แล้วมึงนั่งรอใครอยู่” เกลียดพี่ชายตัวเองนี่จะผิดไหมแม่งรู้ทันเขาตลอด
   “ไอ้นัท” บอกไปมันก็ยิ้ม หันไปกระซิบอะไรกับวาแล้วก็บอกว่าจะไปรับลูก ปล่อยให้ผมนั่งรอไอ้นัทอยู่คนเดียว ไม่นานนักเสียงจอดรถดังลั่นหน้าบ้าน
   ปัง
   “ไม้!!!” มันจะตะโกนทำไมนะ  ไม่ตะโกนเปล่ามันรีบเดินเข้ามาใกล้แล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่น
   “ปะ...ปล่อยกูไอ้นัท” ผมรีบทุบหลังบอกมันเมื่อมันแน่นมากจนผมหายใจแทบไม่ออก
   “เอ่อ...กูขอโทษ มึงเป็นไงบ้างกูขอโทษ” มันยกมือขึ้นลูบตามหน้าตามตัว พอได้มองหน้ามันชัดๆแล้วก็เห็นรอยช้ำที่มุมปากและแก้มดูท่าจะโดนทั้งไอ้ทัพและพี่ลมไปหลายหมัดและรอยคล้ำใต้ตานั่นอีก
   “ไปนั่งก่อนเถอะ” ผมบอกเมื่อมันยังยืนกอดเอวผมแน่น  พอพากันนั่งแล้วทั้งผมและมันก็เงียบไป มือที่ถูกกุมไว้โดนลูบเบาๆ
   “นัท กูจะขอยกเลิกทุกอย่างทีเคยตกลงไว้” ทันทีที่ผมพูดจบไอ้นัทก็เงยหน้าขึ้นทันทีแววตาคมฉายแววเจ็บปวด
   “ทะ..ทำไมละไม้” เสียงแผ่วที่ถูกแปล่งออกมาแฝงความเจ็บปวด
   “กูไม่มั่นใจ.....ทั้งที่อยากจะเชื่อใจมึงให้เต็มร้อยแต่กูก็ยังระแวง” ผมก้มมองมือที่ถูกกุมไว้ ส่วนหนึ่งเพราะในใจเขาก็ไม่มั่นใจ
   “กูรู้ไม้”
   “มึงไม่เคยคบกับผู้ชาย แถมกูก็ให้ใจมึงเต็มร้อย แต่มึงพึ่งเริ่ม ดังนั้นกูจะยกเลิกทั้งหมด”
   “เดี๋ยวนะหมายความว่า.....มึงจะยอมให้โอกาสกูอีกเหรอ” มันเงยหน้ามองผมแบบไม่เชื่อสายตา ผมส่ายหน้า
   “กูไม่ได้ให้โอกาสมึง แต่กูอยากให้เราสองคนเริ่มต้นพร้อมกัน” ผมพูดจริงจัง ผมจะปล่อยให้ทุกอย่างในอดิตเป็นแค่เรื่องราวที่ผ่านไป จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
   หมับ
   “ขอบคุณนะไม้ กูจะเริ่มต้นใหม่ กูไม่ขอสัญญาอะไรอีกแล้วแต่กูจะทำทุกอย่างให้มึงเห็นว่ากูจริงจังกับความรักครั้งนี้” ผมได้แต่รับคำอู้อี้กับไหล่กว้าง
   “มึงไปกินข้าวเย็นกับกูนะ” จู่ๆมันก็ดันตัวผมออกแล้วชวนผมไปกินข้าวเย็นเฉยเลย   
   “อืมก็ได้นะ กูขอไปเปลี่ยนเสื้อก่อน” มันพยักหน้าพร้อมกับนั่งรอ
   “ไงดีกันแล้วสิ” น้ำเสียงกวนตีนทักขึ้นทันทีที่เห็นหน้า
   “ก็ไม่ถือว่าดีมั้งเรียกว่าเริ่มต้นใหม่ดีกว่า” ผมถอดเสื้อโยนทิ้งลงตะกร้าแล้วหยิบเสื้อตัวใหม่มาใส่
   “(อ่าวสวัสดีน้องไม้)” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นผมรีบใส่เสื้อทำตาโตเมื่อเสียงนั่นมันเสียงพี่โยนี่หว่า
   “พี่โย! ไอ้ทัพทำไมมึงไม่บอกกู” ผมรีบใส่เสื้อแล้วเดินไปหาไอ้ทัพที่ตอนนี้นอนคว่ำหน้ากับโน๊ตบุ๊คที่เปิดโปรแกรมไว้ พี่โยนั่งโบกมือให้ผม โอ้โหสองคนนี้มีซัมติงกันถึงขนาดไหนแล้ววะเนี้ย ถึงได้สไกป์คุยกัน
   “ดีครับพี่โย คุยกับไอ้ทัพไปนะผมจะไปกินข้าวแล้ว” ยกมือไหว้คนในจอแล้วเดินหนีออกจากห้องปล่อยให้สองคนนั่นสวีท ??กันต่อ
   “ไปเถอะ” ไอ้นัทเดินมาจูงมือผมไปขึ้นรถพอดีกับพี่ลมกับครอบครัวกลับมา
   “อ่าวจะออกไปข้างนอกกันเหรอ”
   “ครับน้องวา” ไอ้นัทเป็นคนตอบแทนยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากด้วยซ้ำ
   “งั้นเที่ยวให้สนุกนะครับ”
   “อย่าทำให้น้องกูร้องไห้อีกล่ะ” น้ำเสียงพี่ลมเอาจริงเอาจังเสียจนผมรู้สึกตื้นตันพี่มันก็ห่วงผมตามแบบของมันนั่นล่ะนะ
   “ผมไม่ทำผิดซ้ำซากหรอกนะครับ” ไอ้นัทว่าก่อนที่จะดึงผมขึ้นรถแล้วพาผมขับไปที่ร้านอาหารชื่อดัง แต่ก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะผมก็เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตามาแต่ไกลจนผมต้องหยุดยืนนิ่ง
   “เป็นไร”
   “ไม่ได้กินกันสองคนเหรอ” ผมเงยหน้าถามมัน มันจะพาผมมากินข้าวกับเพื่อนมันหรอกเหรอ
   “ไปเถอะไม่เป็นไรหรอก” ว่าจบมันก็ดึงลากผมไปที่โต๊ะ
   “มาช้านะมึงแล้วมึงพาใครมาด้วยล่ะนั่น”
   “เอ๋คุณไม้”
   “นี่ไม้ ว่าที่แฟนกูเอง” ผมเงยหน้าตกใจเมื่อไอ้นัทแนะนำตัวผมกับกลุ่มเพื่อน พร้อมกับดึงผมให้นั่งลงข้างๆ มือที่ถูกกุมไว้
   “ว่าที่?? มึงจีบเขาไม่ติดเหรอวะ นี่มึงชอบผู้ชาย” เพื่อนมันคนหนึ่งถามขึ้น ได้แต่หันมองซ้ายมองขวาไม่กล้าสบตาไอ้นัทที่จ้องผมอยู่
   “กูไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคน กูชอบแค่ไม้” เชี่ย ผมรู้สึกหน้าร้อนมาก ท่ามกลางเสียงแซวว่าไอ้นัทเสี่ยวผมหันไปมองคนที่พูดเต็มปากเต็มคำและพาผมมาเปิดตัวกับเพื่อน มือที่ถูกกุมไว้ผมบีบตอบพร้อมกับยกยิ้มกว้าง
   “ไม้ แพรขอโทษนะ ที่นัทหน้าตาเป็นแบบนี้ก็เพราะเราใช่ไหม” สาวสวยที่นั่งข้างๆผมกระซิบถาม เหลือบมองรอยซ้ำบนหน้าของคนที่กำลังหัวเราะกับเพื่อนแล้วพยักหน้าเบาๆ
   “คิกๆ สมน้ำหน้า ไม้ไม่ต้องคิดมากนะแพรนะแกล้งนัทเล่นๆเท่านั้นล่ะกับมันนะ ไม่มีอะไรในกอไผ่แน่ๆ” รอยยิ้มกว้างทำให้ผมยิ้มตอบ
   “นี่ๆคุยอะไรกันห๊ะ ไม้ไม่ต้องไปยุ่งกับยัยนั่นนะ”ไอ้นัทที่เห็นผมหัวเราะกับแพรกันสองคนมันก็เอามือพาดไหล่ดึงผมให้ออกห่างจากแพร
   “ปากเสียยะ หวงเข้าไปสิ” แพรชี้หน้าคาดโทษนัท ผมได้แต่นั่งขำ แรกๆอาจจะเกร็งๆไปพอผ่านไปซักพักก็เริ่มคุยกันได้ถูกคอจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปข้ามวัน
   “ง่วงแล้วเหรอ” ไอ้นัทกระซิบถาม ผมพยักหน้าหงึกหงักเพราะตาจะปิดแล้วผมไม่ค่อยได้นอนดึกซักเท่าไหร่แถมช่วงนี้ผมยังนอนไม่พออีก
   “กูกลับล่ะ จะต้องไปส่งไม้ด้วย” พวกเพื่อนๆที่กำลังสนุกได้ที ผมบอกลาทุกคนไอ้นัทก็จูงมือกลับไปที่รถ ขึ้นรถได้ผมก็ปรับเบาะเอนลงนอนเพราะตาจะปิดแล้ว
   “นอนเลยก็ได้เดี๋ยวไงก็ไปนอนบ้านกูไหม”
   “อืม” ตอบรับคำแบบเบลอๆยังไงก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปค้างบ้านมันซักหน่อย ผมหลับสนิทไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามาถึงบ้านไอ้นัทตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว  ผมเลยบอกมันให้ไปส่งที่ไร่
   “กูไปล่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงกูไปกินข้าวด้วยได้ไหม” ดูเหมือนไอ้นัทจะถามความสมัครใจผมก่อน
   “ก็แล้วแต่มึงเลย กูจะเข้าโรงงานไม่รู้งานจะทับคอไอ้ทัพตายรึยัง” ตอนนี้ยังเช้าผมคงทันไปโรงงานพร้อมกันกับไอ้ทัพ
   “อืม ไปนะ”
   “เอ่อ..ขับรถดีๆ” บอกมันอุบอิบแล้วหนีเข้าบ้าน  ไม่อยากอยู่ดูหน้ามันหรอกนะ ร้อนหน้าไปหมดแล้ว 
   โชคดีที่ในบ้านมีแค่วาถ้าไอ้พี่ลมอยู่ผมคงโดนแซวจนไปไม่ถูกแน่ๆ ทักวาสองสามคำแล้วก็ขึ้นห้องไอ้ทัพมันยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำนอนคว่ำหน้าโดยมีโน๊ตบุ๊คเปิดอยู่ แอบชะโงกหน้าไปดูก็เห็นแค่ห้องนอนฝั่งโน้นพร้อมกับโพสอิทสีแสบตา  อืม สองคนนี่ยังไงยังไงกันอยู่น้า
   “ไอ้ทัพตื่นเว้ย เข้าโรงงานได้แล้ว” ผมกระโดดทับมัน
   “อ๊ากกกไอ้เหี้ยไม้” ผมรีบลุกหนีเข้าห้องน้ำทันทีที่มันโวยวาย อยู่ให้มันถีบเอานะสิ จนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมค่อยออกมาไอ้ทัพก็ยืนทำหน้าอาฆาตผมอยู่บนเตียง
   “ไปอาบน้ำได้แล้วมึง”
   “อย่าให้ถึงทีกูนะมึง” มันชี้หน้าคาดโทษผมแล้วเดินเข้าห้องน้ำ  ผมเลยลงไปข้างล่างเพื่อที่จะรอกินข้าว
   “ไงหนีไปเที่ยวมาเหรอมึง”
   “พูดไม่เพราะนะพี่ลม” หึๆเหมือนพี่ชายผมจะลืมไปว่าลูกนั่งอยู่ด้วยเลยโดนวาดุให้
   “วันนี้อาไม้ไปส่งนะเจ้าลูกหมู”
   “อาไม้ขี้โกง” อ่าวไปโกงหลานตอนไหนวะเนี้ย
   “อาขี้โกงตอนไหน”
   “อาไม้มีบ้านหลังใหม่อาไม้ขี้โกง” หือบ้านหลังใหม่
   “ไม่ต้องทำหน้างง พี่คิดจะปลูกบ้านหลังใหม่ให้แกกับทัพ จะให้นอนห้องเดียวกันตลอดก็ยังไงอยู่แล้วน้ำได้ยินเลยโวยวายกับแกนั่นล่ะ” พยักหน้าหงึกหงักนี่พี่ชายเขาคิดที่จะปลูกบ้านใหม่ให้เขากับไอ้ทัพเลยเหรอ
   “จริงๆก็คงจะปลูกให้ทัพอยู่คนเดียวซะล่ะมั้งเพราะแกคงจะแต่งออกไม่ได้แต่งเข้า” เชี่ยยยยย อยากจะด่าพี่ตัวเองแต่หลานนั่งหัวโด่เลยได้แต่เข่นเขี้ยวแต่ไม่สามารถทำอะไรไอ้พี่ตัวดีได้ โดยที่มันยกคิ้วเยาะเย้ยผม หืย อย่าต่อยพี่ชายตัวเองเว้ย
   “ทำหน้าตาเหมือนคนไม่ได้ขี้นะไอ้ไม้ผุ”
   เสือก
   ผมด่าแบบไม่ออกเสียงมันทำท่าจะด่ากลับผมเลยชี้ไปที่เจ้าลูกหมูไอ้ทัพเลยแยกเขี้ยวใส่ผมแล้วนั่งลงกินข้าว
   “พี่ไปก่อนนะวา” บอกวาแล้วพวกผมสามคนก็ไปขึ้นรถแวะส่งน้ำที่โรงเรียนค่อยเข้าโรงงานและผลของการที่ผมหนีงานไปสามวันก็เป็นผล แฟ้มงานที่รอผมอนุมัติก็กองซะครึ่งโต๊ะ
   “พี่ไม้กลับมาทำงานได้ซะที นี่เอกสารอีกกองนะคะที่พี่ต้องเซ็นให้สมกับที่พี่อู้งาน” ไอ้นิวที่พอผมนั่งเก้าอี้ยังไม่ทันอุ่นก็หอบงานมาอีกหอบใหญ่
   “ทำไมงานมันเยอะขนาดนี้”
   “ก็ใครใช้ให้มึงอู้ ป่ะนิวลงไปในโรงงานกันปล่อยให้ไอ้เจ้าของนั่งทำงานไป” ไอ้ทัพเดินกอดคอไอ้นิวเดินออกจากห้องทิ้งผมให้อยู่กับกองงาน กูจะไม่ทิ้งงานอีกแล้วให้ตายเถอะ นั่งเซ็นๆอ่านๆจนกระทั่งเที่ยง ไอ้นัทก็มารับผมไปกินข้าวแล้วก็กลับมาส่งผมที่โรงงาน เหมือนเป็นการกลับมาทำความรู้จักกันใหม่แม้ผมจะรู้ทุกอย่างก็เถอะเหมือนว่าจะเป็นการเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ น่าจะว่างี้ได้สินะ
   “กับข้าวมันคงจะอร่อยมากสินะถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
   “ก็คงเหมือนมึงที่เดี๋ยวนี้นอนคนเดียวไม่ได้ล่ะวะ”
   “ไอ้ไม้!!”
   “ไรไอ้ทัพ!!” ต่างคนต่างจ้องหน้ากันนิ่ง คิดว่าแซวกูได้อย่างเดียวเหรอในเมื่อมันก็มีเรื่องให้ผมแซวเหมือนกัน เท่าที่แอบถามวาก็รู้ว่ามันกับพี่โยคุยกันทุกคืน หึๆ หลังจากที่จ้องตากันเงียบๆมันก็ยอมแพ้
   หึๆ มึงแพ้แล้ว
   
ทัพ Part
   ไอ้ไม้นะไอ้ไม้มีความสุขแล้วแซวไม่ได้เลยนะดันโดนมันตอกกลับมาซะผมโต้กลับคืนไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ผมเริ่มชินกับการที่ต้องคุยกับอีกคนก่อนนอนทุกคืนและมันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันซะแล้วที่ก่อนนอนแล้วตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อความที่พี่โยแปะไว้ แม้จะรู้สึกแปลกๆแต่ผมก็ไม่คิดที่จะหาคำตอบให้กับความรู้สึกที่มันเพิ่มขึ้นมาทุกทีๆ บางทีการเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องจำกัดความ และค้นหาความรู้สึกตัวเอง เพราะบางทีมันอาจเป็นความรู้สึกที่เขาคิดไปแค่ฝ่ายเดียวเพราะงั้นเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว
   วันนี้ผมก็กลับบ้านคนเดียวอีกแล้วไอ้ไม้แม่งไปเดทกันอีกแล้ว ครั้งนี้ดูท่าทางจะมั่นคงกว่ารอบที่แล้ว วันก่อนพึ่งได้รับข่าวดีว่าห้องที่ผมประกาศขายมันขายได้แล้วแถมยังได้ราคาดีอีกด้วยทีแรกว่าจะไปหาซื้อบ้านเล็กๆเพราะเขาก็เกรงใจพี่ลมที่ต้องมาอาศัยอยู่ในบ้าน แต่เมื่อเช้าพอรู้ว่าพี่ลมคิดที่จะปลูกบ้านแยกให้ผมกับไอ้ไม้ทำให้ผมรู้สึกดีใจและรู้สึกอบอุ่น แต่จะให้พี่ลมทำให้เปล่าๆมันก็คงไม่ใช่ผมเลยตั้งใจที่จะออกเงินค่าบ้านให้เลย
   “ไม่ต้องเกรงใจพี่เลยไอ้ทัพยังไงพี่ก็คิดที่จะสร้างให้ไอ้ไม้อยู่แล้วมันก็แค่เพิ่มห้องมาอีกห้อง ถึงแม้พีคิดว่าไอ้ไม้คงไม่ได้อยู่ มึงก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกูแค่มึงกูเลี้ยงได้น่า” อยากกอดพี่มันนะแต่กลัวโดนตีนถีบออกมา
   “อาทัพ น้ำอยากคุยกับอาโย” เจ้าลูกน้ำที่แต่ตัวเตรียมนอนแล้วกระโดดขึ้นนั่งข้างๆเขย่าแขนออดอ้อน
   “แล้วทำไมถึงมาอ้อนอาล่ะครับ”
   “ก็อาทัพคุยกับอาโยตลอดนิครับ น้าๆๆๆ” เพิ่มระดับการอ้อนด้วยการซบหน้าที่ไหล่ถูไปมา ผมเลยยกมือขยี้หัวทุยแรงๆ
   “งั้นไปนอนกับอาไหม”
   “เย้ๆ ไปๆๆ” ผมได้แต่ส่ายหน้ากับอาการดีใจจนเวอร์ของน้ำ เอาเถอะผมจะได้มีเพื่อนนอนด้วย พึ่งรู้เหมือนกันล่ะครับว่าผมเป็นคนขี้เหงาขนาดนี้
   “ไงเจ้าลูกหมูอย่ากวนอาทัพล่ะ” พี่ลมที่อุ้มน้ำมาส่งผมที่ห้องกำชับกับน้ำที่พยักหน้ารัวๆ
   “ครับ ฝันดีครับพ่อลม” น้ำหอมแก้มพี่ลมจนเปียกเป็นที่พอใจแล้วก็ดิ้นลงวิ่งขึ้นเตียงผมทันที
   “เจ้าแสบ ฝากหน่อยนะทัพ” ผมยิ้มเพราะตอบอะไรไม่ได้เมื่อน้ำกลิ้งมาทับเขาจนจุก แม้จะผอมลงแต่ก็หนักไม่ใช่เล่นนะ
   นอนเล่นกันซักพักเสียงแจ้งโปรแกรมก็ดังขึ้นผมกดรับแล้วปล่อยให้น้ำเป็นคนคุย เพราะยังไม่อาบน้ำ และอีกอย่างเขาก็ไม่อยากถลำลึกควรรักษาระยะห่างมากกว่านี้ จริงๆวันนี้เขาตั้งใจจะไปเปิดคอมด้วยซ้ำ
   ฟอด
   “คุยไปนะอาไปอาบน้ำก่อน” ผมก้มหอมแก้มยุ้ยแล้วหยิบผ้าหนีเข้าห้องน้ำได้ยินแต่เสียงออดอ้อนของน้ำเป็นระยะๆ ผมพยายามถ่วงเวลาจนกระทั้งข้างนอกไม่มีเสียงอะไรแล้วสงสัยว่าเจ้าน้ำคงจะหลับแล้วแน่ๆ พอออกมาก็จริงน้ำหลับปุ๋ยไปแล้ว เดินไปตากผ้าขนหนูแล้วกลับมาที่เตียงห่มผ้าให้น้ำหอมแก้มป่องนั่นไปทีหนึ่ง แล้วล้มตัวนอนข้างๆน้ำแล้วหลับตาลง
   “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ”    ปรือตามองจอก็เหมือนเดิมคือพี่โยนั่งทำงาน
   “อืม” มันเหมือนทุกวันแต่สิ่งที่เปลี่ยนคือความรู้สึกผมรึเปล่านะถึงได้มองภาพคนกวนประสาทที่นั่งทำงานแล้วมันดูเท่อย่างบอกไม่ถูก แต่มันก็เป็นความรู้สึกของผมฝ่ายเดียวมันก็แค่ความเหงาเพราะงั้นผมควรที่จะทิ้งความรู้สึกนี้ไปซะจะดีกว่า
   “ง่วงแล้วเหรอ มีอะไรหรือเปล่า”    พี่โยทักเมื่อเห็นผมเหม่อ
   “ไม่มีไร แค่เหนื่อยๆ งั้นฝันดีนะครับ” ผมบอกแล้วปิดโปรแกรมไปในทันที ก่อนที่จะปรับลมหายใจตัวเองที่เหมือนคนทำอะไรผิดแล้วหนี ฟู่ว ผมต้องปรับความรู้สึกตัวเองแล้วจริงๆ มันก็แค่เหงา  ใช่ผมก็แค่เหงา
*************************************************
เอามาลงสั้นๆ
ในส่วนของความรู้สึกไม้ถึงแม้จะยังไงก็รักล่ะนะ
ส่วนอีพี่นัทก็เริ่มที่จะทำอะไรๆ ให้ชัดเจน
ต้องเข้าใจพี่นัทว่าพึ่งรู้ตัวไง โง่มานานฮ่าๆๆ
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ใกล้จบแล้วสินะ น่ารักจังครอบครัวนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ลม ไม่ไร้น้ำยาแล้ว
ทะนุถนอมวา จนไม้หมั่นไส้
พี่ลม วา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

นัท พาไม้  ไปเปิดตัวว่าที่แฟนกับเพื่อนๆด้วย
นัท ไม้  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

พี่โย ทำให้ทัพหวั่นไหวแล้ว
รีบกลับมาจีบทัพเป็นจริงจังได้แล้ว
พี่โย ทัพ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
คงต้องรุกให้หนักกว่านี้ล่ะแหละโยไม่งั้นคงนกแน่

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
โยคะ.. รุกฆาตค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
หลังจากที่ไอ้ไม้กับกับไอ้นัทกลับมาคบกันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทิศทางทีดี ทำให้ผมหมดห่วงเรื่องของมัน
   “อืออพี่ลมปล่อยวานะ” เสียงหวานประท้วงเมื่อผมยังไม่ยอมปล่อยให้วาลุกจากเตียง
   “พี่ไม่อยากลุกเลย” ไม่ว่าป่ามือผมก็ไม่หยุดนิ่งลูบไล้ตามแผ่นหลังเนียนที่เต็มไปด้วยรอยแดง หลังจากที่คืนนั้นวายอมผมก็โมเมกินวาแทบทุกคืน หึๆ แม้จะประท้วงแต่วาก็ยอมผมอยู่ดี แต่ผมก็ไม่ได้รังแกน้องขนาดนั้นหรอกนะ เพียงแต่การได้นอนแนบชิดนั่นทำให้ผมมีความสุขเหลือเกิน
   “สายแล้วครับ แล้วก็หยุดลูบวาได้แล้วนะ อือ” วาส่งเสียงครางเมื่อผมเลื่อนไปสะกิดยอดอกแดงก่ำ แย่ล่ะผมทำร้ายตัวเองด้วยสิ ชักไม่อยากปล่อยแล้วสิ
   “วาลุกไปก่อนที่พี่จะกินวาอีกรอบดีกว่านะ” พูดจบวาก็ทำตาโตเพราะสัมผัสถึงอะไรๆที่มันตื่นขึ้น
   “พี่ลมหลับตาเลยนะ”
   “จะอายอะไรกันพี่เห็นมาหมดแล้ว” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ผมก็ยอมหลับตาให้คนขี้อายลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมนอนเล่นบนเตียงยิ่งได้ครอบครองผมยิ่งรักวาเพิ่มขึ้นทุกวันๆ ให้ตายเถอะผมมีความสุขมากจนจะสำลักตายอยู่แล้ว
   “พี่ลมยิ้มอะไรกันครับ”
   “พี่มีความสุข เดี๋ยวพี่จะปลุกลูกเองวาลงไปข้างล่างเลยนะ” วาพยักหน้ารับแล้วเดินออกจากห้อง จะนอนอู้ต่อก็ใช่ที่ผมเลยลุกขึ้นไปจัดการอะไรๆให้เรียบร้อยแล้วเข้าไปปลุกลูกหมูที่นอนหลับอุตุ
   “ตื่นได้แล้วลูก” ผมฟัดแก้มยุ้ยๆของเจ้าน้ำแรงๆเพื่อเป็นการปลุกลูกถ้าวามาเห็นผมคงโดนดุ
   “อือ น้ำง่วง” ไอ้อาการง่วงๆนี่เหมือนกับวาตอนจะตื่นนอน
   “ตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ” น้ำงัวเงียลุกขึ้นพยักหน้าแล้วลงจากเตียงเดินโซเซเข้าห้องน้ำ เพราะวาเป็นคนสอนให้น้ำทำอะไรเองผมเลยไม่ต้องเข้าไปวุ่นวาย ปล่อยให้น้ำจัดการตัวเองผมเลยลงไปกวนวาดีกว่า
   “นี่กาแฟครับ”
   ฟอด
   “ขอบคุณครับ” หอมแก้มไปทีแลกกับโดนวาฟาดที่ไหล่   ผมนั่งดูข่าวตามปกติซักพักทัพก็ลงมา
   “พี่ เรื่องบ้านนะ จะสร้างจริงเหรอ” ผมรู้ว่าไอ้ทัพมันเกรงใจแต่ผมก็รู้จักกับมันมานานแถมมันก็ไม่มีใครแล้วผมก็ถือมันเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง
   “สร้างดิวะ”
   “งั้นผมจะออกเงินด้วยนะพี่จะให้พี่ออกให้คนเดียวผมเกรงใจ” ผมพยักหน้าเข้าใจ
   “อยากได้แบบไหนล่ะ” จะปลูกบ้านก็ต้องตามใจผู้อยู่
   “ไม่ต้องหลังใหญ่มากนะพี่เอาแบบบ้านพี่นี่ล่ะผมชอบ เอาไว้แค่นอนก็พอแล้ว ยังไงผมก็ต้องมาอาศัยน้องวาทำกับข้าวให้กินอยู่ดี” มันพูดยิ้มๆ ก็จริงของมันทุกคนต่างติดรสมือของวากันหมดแล้วขนาดพวกคนงานยังไม่เว้นเลยล่ะ
   “อืมงั้นกูจะให้ช่างมาดูให้ล่ะกัน อ่าวลงมาแล้วเหรอลูก” หันไปเจอเจ้าลูกหมูที่แต่งตัวเรียบร้อยแต่ตายังปรือๆอยู่
   “อรุณสวัสดิ์ครับอาทัพ พ่อลม” น้ำยกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปในครัว ได้ยินแต่เสียงงุ้งงิ้งของสองแม่ลูก อ่ะอย่าไปเรียกให้วาได้ยินเชียวนะครับ ผมได้โดนหยิกเนื้อเขียวหมดแน่ๆ พออ้อนพี่วาเสร็จก็ออกไปวิ่ง รอบบ้าน ผมก็ได้เวลาเข้าไร่ไปดูคนงานเก็บผัก
   “วาพี่เข้าไร่นะ” 
   “ครับพี่ลม อย่าลืมกลับมากินข้าวล่ะ” วาตะโกนออกมาบอกจากในครัว เพราะหลายวันก่อนผมทำงานเพลินลืมกลับมากินข้าววานี่บ่นผมใหญ่เลย
   “ครับ เข้าไปด้วยกันไหมไอ้ทัพ”
   “ไปพี่” มันวางแก้วแล้วลุกตามผม ซ้อนมอไซค์ไปที่ส่วนของสวนผัก ที่กำลังเก็บกะหล่ำปลีขึ้นรถ ผมเลยเดินไปหาไอ้ละอองส่วนไอ้ทัพนี่เดินเข้าไปในไร่ไปช่วยคนงานเก็บผักแล้ว
   “เป็นไงบ้างไอ้ละออง”
   “แหมๆนายกูนับวันยิ่งหน้าบานชีวิตหวานชื่น ไอ้ละอองอิจฉา” มันยังไม่เลิกแซวผมอีก
   “อิจฉามึงก็ไปแดกไอ้สันสิ” ผมบอกมันหน้านิ่งๆ มันทำตาโตแทบจะพุ่งมาปิดปากผม
   “นายจะพูดทำไมเนี้ย” มันโวยวายแล้วหันไปยุ่งกับการชั่งน้ำหนักผักที่จะขนขึ้นรถ
   “หึๆ กูไม่พูดก็ได้ เอามาเดี๋ยวกูจดเอง” มันรีบส่งสมุดจดน้ำหนักให้อย่างเชื่อฟัง
   ผมจดน้ำหนักทั้งหมดที่ได้ก็ราวๆตันกว่า ถือว่าผลผลิตไร่ดีกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีกทั้งที่ผมไม่ได้ปลูกเยอะ  ไอ้ละอองยังทำหน้างอนผมที่ดันพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง
   “มึงไปส่งที่ตลาดเลยไป” ผมรู้ว่ามันอยากไปในเมืองแต่มันเป็นมือขวาของผมเลยไม่ค่อยได้ออกจากไร่เท่าไหร่
   “จริงเหรอนาย นายใจดีที่สูดดดด” มันกระโดดดีใจแล้ววิ่งไปขึ้นรถจนผมร้องตามไม่ทันอะไรมันจะดีใจขนาดนั้น
   “เดี๋ยวพวกที่เหลือนี่ก็ไถกลบได้เลยนะ พอไถกลบเสร็จก็เอาปุ๋ยคอกในโกดังมาโรยกับพวกปุ๋ยหมักเอามาฉีดตามดินให้เรียบร้อยเลยนะ”
   “ครับนาย”
   “ทัพกลับไปกินข้าวกันเถอะ” ผมเรียกไอ้ทัพที่ดูเหมือนจะสนุกที่ได้มาเก็บผัก
   “ครับพี่” เช็ดไม้เช็ดมือแล้วรีบวิ่งมาหาผม ซ้อนท้ายกันกลับบ้านพอดีที่ทั้งวาและทั้งน้ำจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว
   “นึกว่าจะต้องไปตามซะแล้วนะครับ”
   “ฮ่าๆ พึ่งขนผักเสร็จนะ พี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ” เพราะสภาพมันเละทั้งผมและทัพเลยขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวลงมากินข้าว ไอ้ทัพก็ไปที่โรงงาน
   “เฮ้ บอกไอ้ไม้ด้วยนะว่าให้กลับบ้านวันนี้”
   “ผมว่าต้องบอกให้ไอ้ผู้กองดีกว่ามั้งครับ”  เออจริงมันขยันมาลากไอ้ไม้ไปนอนพักด้วยตลอด
   “เออวะ แต่มึงบอกมันไว้ถ้าไอ้ผู้กองมาก็ลากคอมันมาด้วยกันจบ” ไอ้ทัพส่ายหน้าแบบจนใจแต่ก็รับคำ ผมกับวาไปส่งน้ำที่โรงเรียน
   “ไปล่ะครับ ขอบคุณครับพ่อลมพี่วา” น้ำยกมือไหว้ พร้อมกับไปหอมแก้มวาแล้ววิ่งเข้าห้องเรียนไป  ได้แต่ส่ายหน้ากับการนัวเนียของสองคนนี้ หลังจากกลับมาที่ไร่ผมให้วาทำบัญชีส่วนผมก็ไปที่ไร่องุ่น แม้จะแยกย้ายกันทำงานแต่ตอนเที่ยงผมก็กลับมากินข้าวที่บ้าน ตกบ่ายก็ไปรับลูกด้วยกันแม้จะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาแต่ผมก็ไม่ยอมที่จะให้วาขับรถไปรับลูกคนเดียวผมไม่อยากเจอเหตุการณ์ที่บีบหัวใจผมอีกแล้ว
   “กลับมาแล้ว”
   “อาไม้!!! อ่าวอานัท” น้ำที่วิ่งเข้าไปหาอาต้องเบรกเมื่อเห็นคนที่เดินตามหลังมา
   “ไงเจ้าน้ำ” น้ำวิ่งพุ่งเข้าไปกอดอานัทให้ฟัดแก้มป่องแล้วเข้าครัวไปช่วยวาทำกับข้าวส่วนพวกไร้ความสามารถในการทำครัวก็ออกมานั่งชุมนุมกันที่โซฟา
   “ทัพว่าจะเอาแบบบ้านหลังนี้ แกคิดว่าไง”  เมื่อมีน้ำอยู่ผมเลยต้องลดคำพูดที่ไม่ดีลง
   “ก็เอาอย่างที่ทัพว่าก็ได้นะพี่ ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
   “ทำอย่างกับจะได้กลับมาอยู่” ผมแทบจะลุกแท็คมือกับไอ้ทัพเมื่อมันตอกกลับไอ้ไม้
   “หึๆ”
   “แล้วทำไมจะไม่ได้กลับมาอยู่ล่ะ อย่ามาพูดมั่วๆน่า” แม้มันจะว่าผมสองคนแต่ผมก็เห็นว่าแก้มมันขึ้นสี เขินแล้วพาลนะเนี้ย
   “งั้นเอาไม่ใหญ่มากห้องนอนสองกับห้องนั่งเล่นก็พอใช่ไหม” ผมจดความต้องการของมันลงสมุด
   “อ้อ เอาห้องน้ำที่พอจะใส่อางอาบน้ำด้วยนะพี่ลม” ผมกรอกตา มันจะชอบอ่างอาบน้ำเกินไปแล้วนะ
   “ชอบนักหรือไงวะไอ้อ่างอาบน้ำเนี้ย”
   “พี่ไม่รู้เวลาเราทำงานเหนื่อยๆมันก็ต้องการการพักผ่อนนะ แช่น้ำอุ่นนะสบายจะตายไป” ไอ้ทัพพยักหน้าเสริม อืมอ่างอาบน้ำเหรอ หึๆ
   “พี่คิดไรหื่นๆใช่ไหม” ไอ้ทัพมันทักผม
   “อะไรหาเรื่องพี่ละ” แม้จะบอกปัดมันไปแต่สิ่งที่คิดในหัวของผมมันถึงได้ไหลมาเป็นฉากๆล่ะเนี้ย
   “หน้าพี่โคตรหื่น”ไอ้ไม้มันว่าให้จนต้องปรับสีหน้าให้ปกติ
   “ห้องนอนสอง ห้องนั่งเล่น อ่างอาบน้ำ เอาสองชั้นหรือชั้นเดียว”
   “ชั้นเดียวก็พอมั้งเนาะทัพ”
   “อืม  ห้องกว้างแค่สองเมตรหกสิบหรือสามเมตรก็น่าจะพอ” ผมพยักหน้าในเมื่อเป็นห้องของพวกมันอยากได้อะไรก็ตามนั้น ผมจดลงบนสมุดซึ่งมันก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อต่างคนต่างออกความคิดเห็น โดยมีเจ้าน้ำออกความคิดเห็นด้วยในบางครั้ง
   “ทานข้าวได้แล้วครับ” วาเรียกพวกผมทันทีที่ตั้งโต๊ะเสร็จ อาหารมากมายที่ทำเสร็จในเวลาไม่นานเพราะมีนัทเข้าไปช่วยถ้าให้พวกผมไปช่วยนี่คงเละ
   ตลอดการกินอาหารเย็นที่อบอุ่นไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงพูดเจื้อยแจ้วของน้ำ ทำให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านอย่างแท้จริง  นี่ล่ะคือครอบครัวของผม ครอบครัวที่มีวาเข้ามาเติมเต็มความอบอุ่นให้
   
   หลังจากที่ตกลงว่าอยากได้แบบไหนเสร็จเรียบร้อยพี่ลมก็เรียกช่างมาเขียนแบบผมพอใจกับแบบที่ถูกเขียนขึ้นพี่ลมเลยให้ผมเข้ามาคุมการก่อสร้างโดยให้เหตุผลว่ามันเป็นบ้านของผม จริงๆผมว่าพี่แกกลัวจะเสียเวลาที่จะสวีทกับน้องวาแน่ๆ หลังจากที่คุยกับพี่โยครั้งสุดท้าย ตอนนี้ผมแทบที่จะไม่เปิดคอมแล้วนั่นทำให้ผมรู้สึกเหงาๆแต่ก็มีงานให้ทำจนหัวหมุนช่วยให้ผมลืมเรื่องความรู้สึกที่มันเพิ่มมากขึ้นได้
   “ตรงนี้แบบนี้ใช่ไหมครับ”
   “ไหนครับ อ้อ ครับ ผมขอให้มันกว้างกว่านี้ได้ไหม ตรงห้องน้ำ” ผมชี้แปลนห้องน้ำของไอ้ไม้ที่ต้องการให้มันกว้างครึ่งหนึ่งของห้องนอนด้วยซ้ำ เลยต้องดูเรื่องนี้ให้เป็นพิเศษเดี๋ยวมันไม่พอใจมันจะโวยวาย
   “มันจะไม่ใหญ่ไปเหรอครับ”
   “ไม่หรอก พอดีคนอยากได้มันอยากได้แบบนี้”
   “โอเคครับงั้นจะจัดให้ตามที่ต้องการเลยครับ” แม้จะรูสึกแปลกใจแต่ช่างก็ยอมทำตามความต้องการอยากได้ห้องน้ำที่ใส่อ่างอาบน้ำได้ ไอ้ไม้ก็ปล่อยให้ผมมาดูส่วนมันก็อยู่ที่โรงงาน
   “พี่ทัพไปกินข้าวกันครับ” วาเดินมาเรียก มันได้ได้สร้างห่างจากบ้านหลังใหญ่ไม่กี่ก้าวแทบเรียกได้ว่าสร้างต่อกันเลย
   “โอเคพี่จะไปแล้ว” วันนี้พี่ลมบอกว่าจะเข้าไร่ไม่ออกมาผมเลยได้นั่งกินกับวาสองคน
   “พี่ทัพได้คุยกับพี่โยไหมครับ” คำถามที่เล่นเอาผมเกือบสำลักข้าว
   “อ้อไม่นะ พี่เหนื่อยหัวถึงหมอนก็หลับเลยไม่ค่อยได้คุยกัน” มันอาจจะเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวที่ว่าผมเลยไม่กล้าสบตาวาด้วยซ้ำที่บอกวาไปแบบนี้
   “งั้นเหรอครับ” วาพยักหน้าเข้าใจผมเลยเงียบไปสนใจกินต่อ วาขอตัวไปส่งกับข้าวพี่ลมก่อนผมเลยอาสาล้างจานให้ จริงอยู่ที่ไม่ได้คุยกว่าผมจะหลับต้องพลิกไปพลิกมานานแค่ไหนจนกว่าจะหลับ แต่ผมก็เลือกไปแล้ว
   เฮ้อ....
   “ถอนหายใจอะไรหนักหนาวะ” ได้แต่บ่นให้ตัวเองที่พอเผลอผมก็ต้องถอนหายใจบ่อยๆ ให้ตายเถอะไอ้อาการโหวงๆในใจคืออะไรกัน ตอนที่เขาผิดหวังจากตองผมยังไม่อาการหนักเท่านี้เลย เลิกๆ ไอ้ทัพมึงนี่นับวันยิ่งเพ้อนะ ลูบหน้าลูบตาเรียกสติตัวเองหนักๆแล้วกลับไปคุมงานต่อ
   หลังจากที่แปลนพอใจโครงสร้างทั้งหมดก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างผมก็ปล่อยให้ช่างจัดการไปส่วนผมก็กลับไปทำงานที่โรงงาน
   “ไม้ไปกินข้าวกัน”
   “กูก็นั่งอยู่ด้วยป่ะวะ” ทุกวันที่ไอ้ผู้กองมารับไม้ มันอดไม่ได้ที่จะเป็นก้างจะ ถ้าไม่ขัดไอ้ผู้กองเหมือนจะผิดศิลธรรมในตัวเขายังไงไม่รู้
   “ไม่ชวนมึงก็ไปด้วยไม่ใช่เหรอวะ”
   “แหมกับไอ้ไม้นี่เสียงอ่อนเสียงหวานเลยนะมึง กูว่ากูเดาอนาคตมึงได้วะ” หลังๆมายิ่งผมกวนมันยิ่งสนิทกันแปลกๆ
   “ไอ้ทัพมึงก็เลิกหาเรื่องมันเถอะ ว่าแต่มึงจะกลับไปทำงานวันไหน” ไอ้เพื่อนรักที่เห็นคนรักดีกว่า
   “ก็อาทิตย์หน้าก็กลับไปทำงานแล้วล่ะ”
   “งั้นเหรอ”
   “ทำหน้าหมาหงอยเชียวนะมึง” เอาจริงๆไอ้สองคนนี้เป็นเป้าที่ผมแกล้งกวนประสาทคลายเหงา ลืมเล่าให้ฟังหลังจากที่ตองมาง้อวันนั้นผมก็ไม่ได้ข่าวอีกเลยแต่พี่เจนเล่าให้ฟังว่าตองได้คนดามใจใหม่แล้ว ซึ่งผมก็ดีใจด้วยเพราะยังไงซะตองก็ไม่ได้เป็นคนรักที่เลวร้ายเพียงแต่การตัดสินใจที่ทำลงไปทำให้ผมหมดซึ่งความไว้ใจ
   “ไอ้ทัพมึงเป็นไรวะทำไมกวนพวกกูจัง”
   “เปล๊า ไปกินข้าวใช่ไหมไปดิ”  ผมตัดบทลากคอไอ้ไม้ออกไปจากห้อง ขอทำตัวไร้สาระกวนมันสองคนไปก่อนละกันถ้าจะให้ไปกวนพี่ลมกับวาผมไม่อยากเสี่ยงโดนตีนขนาดนั้น
   “อันนี้อร่อยนะ” มองนัทที่ตักกับข้าวใส่จานให้ไม้ และไอ้เพื่อนตัวดีก็หน้าบานยิ้มแป้นไม่ได้บ่งบอกเล๊ยว่าดีใจแค่ไหนที่ไอ้นัทคอยดูแลนะ
   “อ่ะไม้อันนี้ก็อร่อยนะ” ผมตักข่าไปใส่จานไอ้ไม้ แหม ทำไมไมองกูตาคว่ำอย่างนี้วะ
   “ไอ้ทัพมึงเป็นไร” ไอ้ไม้มันวางช้อนลงแล้วหันมาเซ้าซี้ผมแทน
   “ก็บอกว่าไม่เป็นไรไงวู้ จะเซ้าซี้กูทำไม” พอบอกอย่างนั้นทั้งไอ้นัทและไอ้ไม้ตางจ้องหน้าผมนิ่งเป็นการบังคับกลายๆว่ามึงจงบอกกูมาซะ
   “ก็กูพยายามทำตัวบ้าๆอยู่เพื่อกำจัดความรู้สึกบ้าๆ” ผมบอกพร้อมกับถอนหายใจยาว ไอ้ไม้จ้องผมนิ่ง
   “เออน่ากูกวนพวกมึงเฉยๆน่า เดี๋ยวกูก็กลับมาเป็นปกติ”
   “แน่ใจมึงเป็นหนักกว่าตอนเลิกกันกับแฟนเก่ามึงอีกนะ”
   “ก็นะ กูก็ยังไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน” ผมเขี่ยข้าวไปมา ไอ้ไม้มันก็ไม่เซ้าซี้ผมอีกปล่อยให้ผมจมกับความคิดแล้วหมดอารมณ์ที่จะกินข้าวเลยแหะ หลังจากที่กินข้าวเที่ยงไปผมก็เริ่มจมกับตัวเองกับสิ่งที่ผมรู้สึก กับความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นหลังจากที่ไม่ได้คุยกับพี่โย นี่ผมเป็นคนที่ตกหลุมรักใครง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ใจง่ายไปแล้วนะทัพ
   “วันนี้กลับไปนอนบ้านไหม”
   “คงไม่วะ”
   “แหมเพื่อนกู ไม่ใช่ยอมมันแล้วหรอกนะ” แม้จะไม่ได้ว่าอะไรแต่มันก็ไปค้างกับไอ้ผู้กองบ่อยๆ
   “ไอ้บ้ากูไม่ได้ง่ายแบบนั้นนะเว้ย”
   “ว่าแต่คู่มึงนี่ตกลงใครกดใคร” ผมเท้าคางถามมันนิ่งๆ และได้ผลไอ้ไม้นี่หน้าแดงก่ำตะโกนด่าผมแล้วเดินหนี หึๆ ดูท่าเพื่อนผมคงจะโดนกดซะแล้วละมั้ง คืนนี้ผมก็ต้องนอนคนเดียวอีกแล้วเหรอเนี้ย
   “อาทัพ อาทัพ น้ำนอนด้วยได้ไหม” หลังกินข้าวเสร็จเจ้าน้ำก็มาอ้อนขอนอนกับผม
   “ทำไมอยากนอนกับอาล่ะครับ”ผมอุ้มน้ำขึ้นมากอด
   “น้ำกลัวอาทัพเหงา” โอ๊ย ผมฟัดแก้มยุ้ยจนน้ำดันหน้าผมออก น่ารักจริงๆเลยหลานคนนี้
   “อาว่าเพราะน้ำกลัวมากกว่า เอาสินอนกับอาก็ได้” ผมฟัดพุงนิ่มอย่างที่ไอ้ไม้เคยบอกไว้ว่าฟัดน้ำแล้วจะรู้สึกหายเหนื่อยซึ่งมันจริง
   “น้ำคุยกับอาโยได้ไหม” อ่าตอนนี้ผมชักไม่อยากให้หลานไปนอนด้วยแล้วสิ
   “อาก็ไม่รู้เหมือนกันครับอาไม่ได้คุยกับอาโยนานแล้ว”
   “น้าๆๆๆอาทัพใจดี๊ ใจดี” น้ำถูหน้ากับอกผมอ้อนๆ
   “อ่าครับได้ครับเดี๋ยวอาจะลองดูครับ วา วันนี้น้ำนอนกับพี่นะ” ผมที่กำลังจะอุ้มน้ำที่กลายร่างเป็นลูกลิงเรียบร้อย
   “อาทัพเร็วๆซี น้ำอยากคุยกับอาโย” พอถึงห้องน้ำก็เร่งให้ผมเปิดคอม
   “ครับๆ” กดดันจริงๆ ผมรีบเปิดคอมออนไลน์สไกป์เห็นไอดีพี่โยออนไลน์อยู่เลยกดคอลไป
   “อาไปอาบน้ำนะคุยกันไปยาวๆเลย”
   ฟอด
   หอมแก้มยุ้ยนั่นแรงๆหนึ่งทีก่อนที่จะกระโจนไปคว้าผ้าขนหนูหนีเข้าห้องน้ำทันทีระหว่างอาบน้ำผมก็ได้ยินเสียงคุยเจื้อยแจ้วดังแว่วเข้ามา พยายามทำทุกอย่างให้ช้าเพื่อนที่จะไม่อยากออกไปคุย แต่สุดท้ายผมก็หนีความจริงไม่ได้แต่งตัวออกมาจากห้องน้ำ น้ำที่กำลังปรือตาท่าทางจะง่วงแล้วสินะ
   “นอนได้แล้วครับคนเก่ง”
   “อือ ฝันดีครับอาทัพ”
   ฟอด
   “ฝันดีครับ” ก้มลงหอมแก้มยุ้ยห่มผ้าให้ตัวเล็กแล้วค่อยลุกเอาผ้าเช็ดตัวไปตากพยายามไม่สนใจคนที่อยู่ในจอ จนเขาเดินกลับมาบนเตียงเตรียมตัวนอน
   “หายไปไหนมาหลายวัน”
   “เหนื่อยนะ” ผมโกหกไปพร้อมกับนอนลงข้างน้ำ พี่โยเลิกคิ้วเข้มขึ้นเหมือนไม่เชื่อคำโกหกผม และผมก็ไม่พูดอะไรต่อพี่โยก็เงียบแม้จะเงียบแต่ความรู้สึกคุ้นเคยก็กลับมา
   “อย่าโกหกพี่เลยดีกว่า บอกพี่มานะทัพ”
   “ผม..ไม่ได้โกหกอะไรซักหน่อย” แม้จะรู้สึกเคืองๆกับน้ำเสียงที่ดูหาเรื่องของพี่โยหน่อยก็เถอะ
   “เอาล่ะมาคุยกันดีๆ นายเป็นอะไรบอกพี่มา” พี่โยเลิกทำงานแล้วหันมาคุยด้วยสีหน้าจริงจัง
   “ไม่ได้เป็นอะไร ทำงานต่อเถอะผมจะนอนแล้ว”
   “ทัพ พี่ดูก็รู้แล้วว่าเราหลบหน้าพี่ มีอะไรรึเปล่า ไม่อยากคุยกับพี่สินะ” ไอ้น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจลงท้ายนั่นคืออะไร
   “ไม่ใช่ซักหน่อย”
   “เอาเถอะพี่เข้าใจแล้ว ฝันดีนะ” แล้วก็พี่โยก็ตัดไป แถมยังออฟไลน์ด้วย เดี๋ยวสิ!! ผมลุกขึ้นนั่งปกติพี่โยจะไม่เป็นคนปิด ก็น่าจะดีแล้วไม่ใช่เหรอทัพ ทั้งๆที่น่าจะคิดแบบนั้นแต่ผมกลับรู้สึกหน่วงๆในหัวใจยิ่งกว่าเดิม
   หลังจากที่คุยกันเมื่อคืนผมก็แทบนอนไม่หลับเลย พี่โยโกรธเหรอ ผมตื่นนอนด้วยอาการเบลอเลยขอกาแฟเข้มๆจากน้องวา
   “ขอบคุณนะ”
   “พี่ทัพเป็นอะไรหรือเปล่าครับ รึว่าน้องน้ำกวนจนพี่ทัพไม่ได้นอน” วาถามเมื่อเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของผม
   “อ้อไม่เป็นไรหรอกพี่นอนไม่หลับเอง วาพี่ถามอะไรหน่อยสิ”
   “ได้ครับพี่ทัพอยากรู้อะไรครับ” พอวาทำท่าตั้งใจฟังคำถามผมก็พูดไม่ออก
   “อ่า.....เอ่อพี่โยเป็นพวกโกรธง่ายรึเปล่า” วาทำตาโตเมื่อผมถามถึงพี่โยก่อนที่จะรีบตอบอย่างกระตือรือล้น
   “อย่างที่พี่ทัพคงจะรู้นิสัยพี่โยนะครับ พี่โยชอบแกล้งแต่เป็นคนจริงจังแถมยังเป็นคนที่ชอบปกป้องแบกรับทุกอย่างแต่พี่โยไม่ค่อยโกรธใครหรอกนะครับ พี่ทัพถามทำไมเหรอครับ”
   “ก็เปล่าหรอก”  ผมทำให้พี่โยโกรธจริงๆเหรอเนี้ย
   “แต่ถ้าที่โยโกรธ ง้อง่ายๆเลยครับแค่ขอโทษแล้วอ้อนหน่อยพี่โยก็หายโกรธแล้วล่ะครับ”
   “พี่ไม่ได้อยากรู้ซักหน่อย พี่ไปทำงานดีกว่า” อ้อนเหรอ ใครจะอ้อนกันถือว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไปล่ะกัน ไม่แน่พี่โยอาจจะไม่ได้โกรธอะไรผมก็ได้

   ผมอาจจะหลอกตัวเองไปก็ได้เมื่อคืนนี้ที่ผมเปิดคอมไว้แต่ใครอีกคนก็ไม่ออน หรือพี่โยจะโกรธเขาจริงๆ
   “โกรธจริงๆเหรอ” บ่นเบาๆก่อนที่จะปิดคอมนอน ทั้งๆที่น่าจะดีแล้ว ทั้งๆที่ผมน่าจะดีใจแต่ผมก็ยังรู้สึกผิด วันหนึ่งก็แล้ว สองวันก็แล้วจนขึ้นวันที่สามผมก็ไม่เห็นพี่โยออนไลน์อีกเลยจะถามกับวาผมยิ่งไม่กล้า ทั้งๆที่มันควรดีใจแท้ๆ

   ไม่รู้ว่าไอ้ทัพเป็นเหี้ยอะไร ยอมให้มันกวนตีนยังดีกว่ามันทำงานเป็นบ้าเป็นหลังแล้วเงียบแบบนี้ หลังจากที่มันบอกว่ามันกวนผมเพราะอะไรจู่ๆวันนี้แม่งมาเป็นอีกคนแถมยังดูท่าทางจะหนักกว่าตอนที่มันมาหาผมอีก
   “มึงไหวไหม หยุดก็ได้นะ”
   “กูไม่รู้วะไอ้ไม้ทั้งๆที่กูน่าจะดีใจที่ไม่ต้องติดต่อกันอีกแต่...กูกลับรู้สึกเหมือนชีวิตกูขาดหาย”
   “มึงชอบเขา” ถ้าให้ผมเดาก็คงเป็นพี่โยไม่รู้ว่ามันไปชอบกันตอนไหน
   “ก็น่าจะ”
   “แล้วมึงเอาไงทำไมไม่สานต่อไปล่ะ” หายากที่ไอ้ทัพจะเล่าอะไรให้ฟัง มันเป็นพวกเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัวไม่ว่าจะเสียใจแค่ไหนอาจเป็นเพราะมันอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่วัยรุ่นเลยมีนิสัยเสียแบบนี้ ยังดีที่มันเข้มแข็งไม่เหมือนชาวบานมันจะดึงตัวเองกลับมาได้เสมอ
   “กูไม่กล้าวะ อีกอย่ามันใกล้...ใกล้ตัวเกินไป”
   “มึงกลัวสินะ” มันชะงักนิ่งแล้วพยักหน้ารับ กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่
   “กูไม่กล้าที่จะรักว่ะ..แต่ช่างกูเถอะอีกหน่อยก็คงจะดีขึ้นไม่ต้องห่วง” ถ้ามันพูดแบบนี้แสดงว่ามันก็พร้อมที่จะตัดใจแล้ว นิสัยมันถ้าคิดจะตัดคือตัด ผมควรจะทำยังไงดี อยากช่วยให้เพื่อนรักสมหวังในความรักซักที
   “ไม่ต้องทำหน้าเครียดเลย กูกลับล่ะ มึงวันนี้ไอ้ผู้กองมารับใช่ไหม”
   “อือ” มันพยักหน้าแล้วเก็บของเดินออกจากห้องไป ผมถอนหายใจทั้งๆที่มันดีขึ้นแล้วแต่กลับดูแย่ลงกว่าตอนนั้นเสียอีกตอนที่ผมเสียใจมันก็คอยอยู่ข้างๆแต่ตอนนี้มันเสียใจผมกลับช่วยอะไรมันไม่ได้ ผมควรทำยังไงดี โขกหัวกับโต๊ะเผือจะคิดออกดีไหมวะ
   “ทำแบบนั้นไม่เจ็บรึไง” ผมสะด้งเมื่อไอ้นัทจู่ๆก็เดินเข้ามา
   “ไม่อ่ะ”
   “เป็นอะไรไป”
   “ไม่มีอะไรวันนี้จะกลับไปกินข้าวกับแม่ก่อนใช่ไหม” ผมเก็บของแล้วเดินไปหาคนที่ยืนรอที่หน้าห้อง หลังจากที่ไปเปิดตัว?? กับเพื่อนๆและผมก็เข้าใจมันแล้วตอนนี้ก็เหมือนผมกับเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่เริ่มก้าวไปพร้อมกัน
   “เดี๋ยวแวะชื้อของเข้าบ้านด้วย” ผมพยักหน้าแต่ยังคิดเรื่องของไอ้ทัพอยู่ “เป็นอะไรไป”
   “หือ อ้อคิดเรื่องไอ้ทัพนิดหน่อยนะ”
   “อ้อ อย่าคิดมากมันเป็นเรื่องที่ไอ้ก้างนั่นจะคิดได้เอง” คำพูดคำจา นัทตั้งฉายาใหม่ให้ไอ้ทัพว่าก้าง ไม่ใช่หมายถึงหุ่นอะไรหรอกแต่เป็นเพราะไอ้ทัพชอบขัดคอเป็นก้าง
   “ก็ไปเรียกมันอย่างนั้นนะ จะซื้ออะไรบ้างวะ” อีกเรื่องที่เปลี่ยนไอ้นัทมันจะไม่ค่อยพูดพวกคำหยาบกับผมจริงๆก็รู้สึกแปลกอยู่ล่ะนะ
   “พวกของกินนั่นล่ะต้องซื้อเพิ่มเพราะใครบางคนมันกินเก่ง”
   “เด๊ะๆ ใครกินเก่งวะ ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก”
   “โอ๋ๆ ไม่ต้องทำหน้าบึ้ง ป่ะลงไปซื้อของกัน เย็นนี้อยากกินไร” มีมันก็ดีไปอย่างครับถึงไม่ได้ไปนอนบ้านแม่แต่ผมก็ไม่อดตายเพราะมันทำกับข้าวอร่อยมากแต่ก็ยังแพ้น้องวาอยู่ดี
   “อยากกินยำรวมมิตรวะ”
   “งั้นไปซื้อของกันก่อนล่ะกัน” มือหนาแตะเข้าที่ต้นแขนผมเบาๆเชิงบังคับให้เดินไปด้วยกัน ทีแรกผมทำท่าว่าจะสะบัดออกก็มันเป็นถึงผู้กองจะให้มาเดินใกล้เขาผมกลัวว่าหลายคนจะมองมันไม่ดีมากกว่าแต่มันก็เปลี่ยนมากุมมือผมแทน ให้ตายเหอะกูไม่ด้านเท่ามึงนะ ได้แต่ยอมให้มันจูงเข้าร้านโน้นออกร้านนี้จนข้าวของเต็มมือเลยพากันกลับ
   ตอนเย็นนัทกับแม่ก็ลงครัวทำกับข้าวมากมายจนผมอิ่มตื้อไปหมด เมื่อมันชวนออกไปเดินย่อยอาหารผมเลยไม่ปฏิเสธ เดินออกมาเงียบๆที่สวนหน้าบ้านบนยากาศตอนมืดเงียบสงบเหมือนบ้านที่อยู่ไกลตัวเมือง
   “อิ่มวะ”
   “ก็เล่นกินไปขนาดนั้นไม่อิ่มก็แปลก”
   “ก็แม่ทำกับข้าวอร่อย” ผมเล่นกินข้าววันละสองจานแบบนี้รับรองน้ำหนักขึ้นแน่ๆ ทั้งผมและนัทต่างนั่งเงียบๆ
   “กลับไปทำงานแล้วคงไม่ค่อยได้กินข้าวเที่ยงด้วยกันเท่าไหร่นะ” จู่ๆมันก็พูดทำลายความเงียบ
   “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้นะนัท ทำหน้าที่ของแต่ละคนให้ดีก็ส่วนเรื่องของเรากูว่าค่อยๆเป็นค่อยๆไปแบบนี้เรื่อยๆก็ดีนะ ไม่ต้องทำอะไรให้กูมากก็ได้แค่มึงยังอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว” พูดเองก็ชักจะเขินเองแหะ
   “ไม้....มึงโคตรน่ารักเลยวะ” ไม่พูดเปล่ามันโถมตัวมากอดจนผมตั้งหลักไม่ทันได้แต่อยู่นิ่งๆให้มันกอด
   “แน่นไปแล้วนะ” ผมเตือนเมื่อมันยังกอดผมแน่นไม่ยอมปล่อย จะมานั่งกอดกันหน้าบ้านแบบนี้มันคงไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมยังมือปลาหมึกล้วงเข้ามาในเสื้อผมอีก
   ป๊าบ
   “โอ๊ย เจ็บนะไม้”
   “เลื้อยแล้วนะมือมึงอ่ะ” มองไอ้คนสำออยที่ดิ้นกุมหน้าผากที่ผมฟาดไปเบาๆเอง
   “โถแค่นิดหน่อยเอง ทำเยอะกว่านี้ค่อยมาว่ากูเลื้อยดีกว่าน่า” ดู!! ดูมันพูดแล้วไอ้สายตาแพรวพราวนั่นอีก  ผมชักไม่ไว้ใจที่จะนอนกับมันแล้วสิ ครั้งหน้าผมไม่ควรที่จะมานอนค้างบ้านมัน
****************************************************************
ิขอบอกเลยว่าตอนนี้โผล่มาครบทุกคน 555
พี่ลมจ้องแต่หาวิธิกินวาให้อร่อย  :hao6:
ส่วนโยกับพี่ทัพ ฮ่าๆๆขอเอาให้หน่วงต่อไปหน่อย
ไอ้พี่นัทนี่ก็เริ่มออกลายแล้ว
ส่วนน้องน้ำยังเป็นขวัญใจคนเขียนเช่นเดิม 555
สปอยตอนหน้า
คนจะง้อ จะง้อได้น่ารักหรือน่าถีบ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะคะ
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้าเพื่อเป็นการพัฒนา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
ปล. จบแล้วจะมีตอนพิเศษประมาณสองตอนนะคะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ลมก็ยังเป็นคนในฝันของผู้อ่านคนนี้เสมอนะ. อยากเป็นวา อยากเจอผู้ชายแบบคุณลมที่ทั่งอบอุ่นและปกป้องย่อมรับทุกอย่าง. หลงรักพี่จริงๆๆนะนี้

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขำละอองแซวเจ้านาย แล้วโดนตอกกลับ
เอว่าแต่.. ทั้งไร่สายลมนี้จะมีคู่ชายชายกันหมดเลยใช่ไหมคนเขียน
 :z2: :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด