ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไร่สายลม ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ โยxทัพ 15/3/2561  (อ่าน 85129 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทัพ หนีพี่โย ไม่พ้นร้อก  o18

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
หึหึ   พี่โยสายจัด... มาแล้ว

 :hao3:     o3

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ร้ายจริงพี่โย  ทัพเอ๋ย ไม่รอดมือพี่โยแน่แน่  :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มันส์พะยะค่ะเลยทีนี้ ได้ยินเพลงละครเพลิงพระนางลอยมาเลยอ่ะ ตอนหน้าเจ้าหลวงโยธินปะทะเจ้านางตองแหล(ม)เพื่อแย่งชิงเจ้านางทัพพีหลวง แซ่บไปอิ๊กกกกก มาต่อโวยๆน๋าจ้าววว

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อ่านทตามทันแล้วจ้า สนุกมากเลย

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
บรรยากาศบนโต๊ะตอนนี้แทบถึงจุดเยือกแข็งเมื่อพี่โยนั่งข้างๆผมพร้อมกับยกแขนอีกข้างมาพาดบนเก้าอี้ผมคล้ายโอบไหล่กลายๆ แต่ที่ทำให้ผมเหงื่อตกยิ่งกว่าคือตองที่ตอนนี้เม้มปากทำตาโต อาการก่อนวีนแตกชัดๆ
   “นั่นใครกันนะทัพ” น้ำเสียงเหวี่ยงมาเต็มๆ
   “เอ่อ..”
   “สวัสดีครับ เราเคยคุยกันแล้ว พอมาเจอตัวจริงแล้ว...............” พี่โยเว้นวรรคไป สายตาคมกวาดมองตองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะยกยิ้มกว้าง
   “ทำไมเจอแล้วทำไม” ผมเริ่มที่จะเดาผลได้รางๆแล้วล่ะว่าใครจะชนะ ทางที่ดีผมควรนั่งนิ่งๆปล่อยให้คนที่ตามมาป่วนจัดการเองดีกว่า ผมยกแก้วน้ำขึ้นกินพยายามทำตัวให้ลีบเข้าไว้
   “ก็ไม่เท่าไหร่” รอยยิ้มเยาะประดับบนใบหน้าทำให้หน้าตาดูกวนเบื้องล่างเพิ่มขึ้นอีก
   “แก!!....ทัพไม่น่าไปคบกับคนไม่มีมารยาทแบบนี้เลยนะ” ดวงตากลมหงุดหงิดสะบัดหน้ามาทางเขา เวรแล้วไง
   “ต้องบอกว่าทัพตาสว่างแล้วจะดีกว่านะครับ  ส่วนคนไม่มีมารยาทนั้นผมก็เคยบอกคุณไปแล้วนิครับ หิวรึเปล่า” ใบหน้าเรียบเฉยต่อว่าอีกคนก่อนที่จะหันมายิ้มอบอุ่นแถมถามด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันจนผมแทบจะตรบมือให้กับการเปลี่ยนอารมณ์ไปมาไวยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสี
   “ก็นิดหน่อย”
   “งั้นสั่งอะไรทานดีกว่านะ” เหมือนพี่โยจะเมินตองโดยการยกมือเรียกพนักงานเพื่อขอเมนู ผมเปิดดูไปเรื่อยๆ คิดถึงฝีมือวาแฮะ
   “อันนี้อะไรนะทัพ” คนข้างๆสะกิดถาม ผมชะโงกหน้าไปมองเมนูในมือใหญ่ ที่พี่โยชี้ที่เมนูหนึ่ง
   “อ้ออันนี้ล่าเตียงครับพี่โย เป็นหมูกับเครื่องเทศแล้วห่อด้วยไข่ที่ทอดเป็นตาข่ายมั้งครับ ผมก็ไม่ได้แน่ใจ”
   “อ้อ น่าทานดีนะ งั้นผมเอานี่ และนี่กับแกงนี้นะครับ เห็นทัพชอบกินตอนอยู่บ้านลม” น้ำเสียงสบายๆที่คำพูดบ่งบอกถึงความสนิทสนมของผมกับพี่โย แล้วไอ้แกงนั่นนะ พี่แกรู้ได้ยังไงว่าผมชอบ 
   “นี่นาย!!”
   “อ่าวคุณยังอยู่เหรอครับ”
   “ทัพ  ไม่น่าตาต่ำคบกับคนแบบนี้ไปได้เลยนะ ต่ำ!!” ผมได้แต่ส่ายหน้าเมื่ออีกคนดูเหมือนจะของขึ้นเพราะอาการสนิทสนมของผมกับพี่โย
   “ว้าแย่จังเลยนะ ทัพไม่น่าตาต่ำเลยจริงๆ นี่ทนคบไปได้ยังไง ผมออกจะหล่อ รวย แถมยังคอยดูแลตามใจทัพทุกอย่าง ผิดจากใครบางคนที่ไม่ซื่อสัตย์กับคนรัก คุณคิดว่าคนแบบไหนมันต่ำกว่ากันละครับ”และผมต้องแปลกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อใบหน้าติดจะขี้เล่นตอนนี้รอยยิ้มขี้เล่นหายไปแววตาคมดูแข็งกร้าว จนผมนึกหวั่น
   ปัง
   “แก!!”  ตองทุบโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นยืนเตรียมการที่วีนแตกจนผมคิดว่าควรจบเรื่องไร้สาระแล้วจะได้กินข้าวซะที
   “ตอง ฉันขอพูดตรงๆเลยนะ นายเป็นคนขอเลิกกับฉันเอง จะกลับมายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไมอีก ช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่าเลิกแล้วต่อกันอย่ามายุ่งกับฉันอีก”
   “นาย.............นายกล้าพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง”
   “ฉันกล้ากว่านี้อีกนะตอง นายเป็นคนหักหลัง เป็นคนบอกเลิก เป็นคนบอกว่าไม่ได้รักฉัน เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธิมาเรียกร้องอะไร ถือว่าเราจบกันแล้วเลิกแล้วกันไป ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะเจอกัน” พอพูดจบตองก็อึ้งไป เพราะไม่เคยเห็นผมเป็นแบบนี้มาก่อน ก็แน่ล่ะตอนเป็นแฟนกับเป็นศัตรูกันมันก็อีกเรื่อง
   “ทัพ ทำไมเป็นแบบนี้”
   “จริงๆก็เป็นนิสัยจริงๆล่ะนะ แต่นายไม่เคยสังเกตฉันดีๆเอง กลับไปเถอะแล้วก็เลิกติดต่อกับฉันได้แล้ว”
   “เห็นไหมล่ะครับ ว่าทัพนั้นไม่เลือกคุณ” นี่ก็กระพือไฟจริงๆ ว่างเป็นไม่ได้ใช่ไหม พอดีกับอาหารที่พนักงานเอามาเสิร์ฟ ผมเลยจิ้มเอาล่าเตียงยัดเข้าปากคนที่อยู่ว่างเป็นไม่ได้ ปั่นตลอด
   “ทัพจะเลิกกับผมจริงๆเหรอ ทัพไม่รักผมแล้วเหรอ” พอเล่นบทเรียกร้องไม่ได้ก็มาบีบน้ำตา
   “ต้องบอกว่าเราเลิกรักนายไปแล้วดีกว่านะตอง และฉันก็ไม่คิดที่จะกลับไปด้วยหรอกนะ”
   “ถ้าฉันบอกว่าทุกอย่างที่ทำไปเป็นเรื่องโกหกล่ะ” หือ ผมหันไปสบตากับตอง แววตาที่ไม่โกหก หมายถึงอะไร เรื่องที่บอกว่ามีคนรักนะเหรอที่ว่าโกหก
   “เราแค่อยากทดสอบ เราไม่คิดว่าทัพจะโกรธจนเลิกกับเราไปเลย เราขอโทษนะทัพ” ผมรู้สึกตัวชา หมอนี่คิดอะไรของมัน ทำไมต้องทดสอบ ผมกำมือแน่นจนรู้สึกถึงเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อ
   มันคิดบ้าอะไรของมัน
   ยิ่งได้ฟังผมยิ่งโมโห ก่อนที่จะพูดอะไรออกไปก็มีมือใหญ่เอือมมาปิดตาผมพร้อมกับมือที่ถูกกุมไว้
   “ไสหัวไป”
   “อะ..”
   “ไสหัวไปอย่าคิดกลับมาอีก ก่อนที่ฉันจะทำอะไรร้ายๆลงไป” น้ำเสียงเหี้ยมทำให้ผมเดาสีหน้าพี่โยไม่ออกเลย
   “มันไม่เกี่ยวกับแกเลยซักนิด”
   “นายคิดเล่นสนุกแต่เคยนึกถึงจิตใจของคนที่รักนายเลยซักนิดคนอย่างนายต่อให้มีเพชรอยู่ในมือก็ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ คนอย่างนายไม่สมควรที่จะรักใครด้วยซ้ำ นี่ค่าอาหาร ส่วนนายก็อยู่กับความคิดบ้าๆของนายไปซะ”  ผมไม่รู้ว่าเดินไปทางไหนเพราะไอ้พี่โยยังไม่ยอมเอามือออกได้แต่เดินตามพี่ลมนำทางไป ไม่ได้ยินเสียงเรียกตามหลังของตอง จนกระทั่งถึงที่รถพี่โยยอมปล่อยแล้วดันเขาเข้าไปในรถ ไม่รู้ว่าหยิบเอากุญแจรถไปตอนไหน ผมนั่งพิงเบาะพร้อมกับหลับตาลง นี่ผมเสียใจไปเพราะไอ้การอยากทดสอบงี่เง่าเหรอวะ
   “อยากร้องไห้ไหม” เสียงทุ้มที่มาพร้อมกับมือใหญ่ที่วางบนหัวทำให้ผมรู้สึกทนเข้มแข็งไม่ไหวแล้ว
   “โอ๋ๆๆ มานี่มา....มาซบอกพี่มา” แม้น้ำเสียงจะกวนตีนไปหน่อยแต่ผมก็ยอมโดนดึงเข้าไปซบบ่ากว้าง แม่งผู้ชายตัวโตๆกอดซบไหล่กันน่าขำซะมัดแต่ผมก็ยอมซบ มือหนาลูบหัวลูบหลัง
   “แม่งเหมือนคนโง่”
   “ผมบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ได้โง่ ผมเอาคืนให้คุณแล้วไง โอ๋ๆไม่ร้องน้าเด็กน้อย”
   “ใครเด็กน้อยกัน ปล่อยได้แล้วเว้ย” ผมที่พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนแกร่งที่ยิ่งดิ้น ยิ่งรัดผมแน่น อะไรของมันวะ
   “หายใจไม่ออกเว้ยปล่อยได้แล้ว” ผมทุบบ่ากว้างแรงๆจนพี่โยยอมปล่อย
   “ตาแดงหมดแล้ว” ถ้อยคำพร้อมกับมือที่ลูบตามหางตานั่นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ จนต้องปัดมือนั้นทิ้งไป
   “ว่าแต่ทำไมคุณตามผมมาได้”
   “ก็...จีพีเอสไงคุณ”
   หือ
   “เดียวนะ อย่างบอกนะโทรศัพท์ผม”
   “ใช่ เมื่อคืนนี่ตอนคุณหลับผมแอบเปิดเครื่องคุณแล้วเปิดติดตามไว้นะ” พูดด้วยสีหน้ายิ้มไม่มีวี่แววความสำนึกผิดเลยซักนิดทำเอาพูดไม่ออก 
   “ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ตัดบทเปลี่ยนเรื่อง ตอนนี้ท้องผมโอดครวญเพราะหิว เสียดายอาหารที่สั่งไป
   “ไม่เป็นไรแล้วนะ” แม้จะดูกวนประสาทแต่เขาก็รู้สึกความเป็นห่วงในน้ำเสียง ตอนนี้ในใจเขาความรู้สึกมันจบไปแล้ว
   “ไม่เป็นไรแล้ว แต่ตอนนี้ผมหิวมาก”
   “งั้นไปกินร้านไหนดี” ผมลืมไปว่าคนขับรถของเขาไม่รู้จักทางในกรุงเทพ
   “เปลี่ยนที่กัน” พอผมบอกพี่โยกลับส่ายหัวปฎิเสธแล้วบอกให้ผมบอกทางเอา เลยคิดว่าไปกินที่คอนโดดีกว่าเพราะพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางแต่เช้า จนถึงคอนโดผมแวะสั่งข้าวแล้วค่อยขึ้นห้อง
   “คุณจะกลับพร้อมกันกับผมรึเปล่า”
   “ก็ต้องกลับพร้อมคุณสิ คุณจะทิ้งผมรึไงทัพ” เหมือนอีกคนยังสนุกกับการสวมบทบาทเพราะสายตาหวานกับเสียงออดอ้อนนั่น ทำให้ผมถอนหายใจ รู้สึกเหมือนจะแก่ขึ้นอีกหลายปีถ้ายังอยู่ใกล้คนคนนี้
   “ครับๆ งั้นผมเก็บของก่อนล่ะกัน อาหารมาก็เรียกด้วยนะ” ผมบอกแล้วเดินเข้าห้องไปเก็บเสื้อผ้า ผมคิดว่าจะปล่อยห้อง เพราะคงไม่คิดที่จะกลับมาที่นี่แล้ว จะปล่อยให้ว่างก็คงจะเปล่าประโยชน์เกินไป พับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าจนหมดเหลือเพียงข้าวของกระจุกกระจิกที่ต้องแพ็คใส่กล่อง
   “ทัพ มากินข้าวก่อน เดี๋ยวกินเสร็จพี่จะเข้าไปช่วย” ไอ้คำสรรพนามที่เปลี่ยนไปแม้จะทำให้เขาแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะทักท้วง เดินออกไปกินข้าวจนเสร็จอีกคนก็ทำตามที่พูดเข้ามาช่วย
   มาช่วยป่วนนะสิ!!
   “คุณเอาไปใส่กล่องโน้นสิใส่กล่องนี้เดี๋ยวก็แตกกันพอดี”
   “ก็พี่ไม่รู้” แม้จะพูดเสียงอ่อนแต่ผมก็ไม่ได้ใจอ่อนหรอกนะ ยืนคุมให้พี่โยเก็บของเข้าให้เป็นระเบียบโดยดี กว่าจะเก็บของเสร็จก็ปาไปครึ่งค่อนคืน จนผมไล่ให้คนที่ช่วยป่วนไปนอนแม้จะดื้อดึงในตอนแรกแต่เมื่อผมเงียบแล้วทำหน้าเข้มพี่โยก็ยอมไปนอนแต่โดยดี ส่วนผมก็เก็บส่วนสุดท้ายแล้วค่อยคลานขึ้นเตียงไปนอน สายๆค่อยออกเดินทางล่ะกันพวกของนี่ก็จะจ้างบริษัทขนส่งขนไปให้ก็รถที่เขามีมันเป็นรถแนวสปอร์ต ขนได้แค่ของไม่กี่อย่างหรอก ล้มตัวลงนอนข้างๆคนที่นอนหลับสนิท นอนพักเอาแรงก่อนล่ะกัน

   คนที่คิดว่าหลับกลับลืมตาตื่นขึ้นมา มองใบหน้าหล่อที่นอนหลับสนิท อาจจะคิดว่าเขาแปลกที่จู่จองตั๋วเครื่องบิน บินตามคนที่พึ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เรียกลมไปคุยเรื่องอนาคตของวา เอาจริงๆผมก็ไม่ได้ห้ามอะไรซักหน่อย แค่มา....อ่า ...อะไรนะ ทัพชอบว่าผมมาป่วนใช่ผมมาป่วน และผมก็เห็นน้องมีความสุขแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว ก่อนกลับเข้าบ้านไม้ก็เข้ามาปรึกษาผมเรื่องของทัพ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็เป็นห่วง จากการที่ผมได้คุยผมก็รู้สึกเป็นห่วงเหมือนกัน เลยตัดสินใจตามมายุ่งนี่ไงล่ะ ทันทีที่เห็นหน้าเหวอๆนั่นทำให้ผมคิดถูกที่ตามมา ทั้งๆที่น่าจะโมโหแต่ทัพกลับเป็นคนยอมลงให้ นั่นทำให้ผมเข้าใจว่าทัพเป็นคนอ่อนโยนแค่ไหน และโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย เรื่องที่โกหกเขามองแวบเดียวก็รู้เลยว่าโกหก ผมเลยทำทุกวิถีทางที่สามารถตามอีกคนไปได้ที่ร้านอาหาร
   ผมแทบจะกระโจนต่อยอดีตคนรักของทัพเมื่อมันพูดว่าต้องการทดสอบ โง่เง่า ผมไม่เคยเห็นใครโง่เง่าแบบนี้ในโลกเลยให้ตายเถอะ ดีแล้วที่ทัพเดินออกมา แบบนี้ล่ะดีแล้ว ทัพเหมาะรอยยิ้มกว้างๆกับใบหน้ามีชีวิตชีวามากกว่า ผมถึงได้คอยปั่นหัวอยู่นี่ไง  อาจจะแปลกๆ แต่ผมก็รู้สึกว่า ใช่ คนๆนี้อาจจะเป็นคนที่ ใช่ สำหรับเขา แต่มันคงไม่ใช่ตอนนี้ ที่ผมจะเดินหน้าเพื่อค้นหาคำตอบว่า ทัพเป็นคนที่ใช่จริงๆไหม
   ลูบเบาๆที่หางตาคมที่ยามตื่นแววตาเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและมีร่องรอยเศร้าแฝงอยู่ เอาเหอะ จะเป็นยังไงก็เป็นไปตามนั้นล่ะกัน เมื่อคิดตกร่างสูงก็เข้าสู่นิทราอย่างแท้จริง

   Lom Part
   .ให้ตายเหอะพี่ว่าที่เมียมาทิ้งประเด็นให้แล้วก็ปัดตูดหนีไปเที่ยวกับไอ้ทัพแล้ว แม้จะรู้สึกสงสารทัพแต่ก็ดี  คำเตือนสุดท้ายของโยทำให้เขากังวล
   “อย่าเลี้ยงงูไว้ในบ้านรีบจัดการให้เสร็จไม่งั้นฉันจะเอาน้องกลับ อีกเรื่องฉันเดาว่านายคงจะคิดที่จะอยู่ร่วมกันกับวาแล้วสินะ  ขออย่างเดียวอย่าทำให้วาต้องทุกข์ใจ” ผมเข้าใจความหมายของโยดี ถ้าหากจะอยู่ร่วมกันแล้วนั้น ผมจะต้องไม่ทำให้วาทุกข์ทั้งกายและใจ แม้ในไร่จะไม่มีใครรู้สึกแปลก แต่ภายนอกล่ะ แม้เขาไม่คิดจะแคร์แต่คนอ่อนหวานอย่างวา  เขาไม่อยากจะให้วาทุกใจเลยจริงๆ
   “พี่ลมทำหน้าเครียดจังครับ”
   “วา พี่อาจจะทำให้วามั่นใจในทุกๆด้านไม่ได้ แต่พี่จะพยายามให้วาไม่ทุกข์ใจนะคนดี” แววตากลมฉายแววงงงวยแต่ซักพักก็เผยรอยยิ้มหวาน
   “พี่ลม วาไม่คิดมากหรอกนะครับ วาเข้าใจทุกคน วาสนใจแค่ครอบครัววา ครอบครัวเราเท่านั้นล่ะครับ วาไม่เก็บเรื่องนั้นมาคิดมากหรอกนะครับ” สิ้นคำตอบวาผมก็ยิ้มกว้างก่อนที่จะดึงรั้งร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนสูดกลิ่นหอมกรุ่นจากผิวเนียน กอดที่วากอดตอบนั่นทำให้ผมรู้สึกเต็มตื้น  วาของผมช่างน่ารักจริงๆ
   “เดี๋ยวพี่เข้าไร่นะ จะกลับมากินข้าวเย็นส่วนไอ้ไม้พี่ว่าน่าจะนอนโรงงาน” เดี๋ยวนี้ไอ้ไม้ดูจริงจังกับงานมากกว่าปกติเสียอีกเอาเถอะ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองล่ะ
   “เดี๋ยววาทำกับข้าวรอนะครับ” อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มเนียนซักฟอดก่อนที่จะรีบเดินหนีหลบมือเรียวที่เขินแล้วจะฟาดเขาตลอด เขินแล้วทำร้ายร่างกาย
   ผมเข้าไปในไร่ก่อนที่จะเรียกไอ้ละอองกับไอ้สินมา
   “มีอะไรครับนาย”
   “กูมีเรื่องจะให้มึงทำ” เมื่อเห็นว่าผมจริงจังเจ้าสองตัวก็ไม่ทำท่าทีเล่นทีจริง
   “ว่ามาเลยครับนาย”
   “กูอยากเก็บเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด มึงจำตอนที่วาเกิดอุบัติเหตุ” เจ้าสองคนนั่นก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วทำหน้าอยากรู้อยากเห็นว่าผมจะพูดอะไรต่อ
   “จับตัวไอ้เก้าส่งตำรวจ”
   “ห๊า!!!”
   “ไอ้เก้า” กูบอกให้เงียบมันเสือกแหกปาก เออดีจริงวุ้ยลูกน้องกูแต่ละคน
   “กูบอกให้เงียบไงไอ้พวกซื่อบื้อ”
   โป๊ก โป๊ก
   เขกหัวให้รางวัลมันคนละที ไอ้สองตัวนี้มันเชื่อถือได้ไหมเนี้ย เลยบอกให้มันตามผมขึ้นรถเพื่อไปที่บ้านพักคนงาน เขารู้ตัวนานแล้วเพียงแต่มันเป็นลูกของลุงชิต ผมไม่อยากให้ลุงชิตเสียใจเพราะยังไงลุงก็เป็นคนเก่าคนแก่แถมยังคอยดูแลเจ้าน้ำอีก ผมเป็นห่วงความรู้สึกของลุงชิตมากกว่า
   “อ่าวพ่อเลี้ยงมาทำอะไรเหรอครับ” สีหน้ายิ้มแย้มนั่นยิ่งทำให้ผมลำบากใจที่จะพูด แต่สิ่งที่โยเตือนไว้มันก็เป็นเรื่องจริงจะให้เลี้ยงงูเพื่อที่ซักวันมันจะแว้งกัดเอานะเหรอ
   “ลุงผมมาหาไอ้เก้า”
   “มันก่อเรื่องอะไรอีกเหรอครับ” รอยยิ้มกว้างหายไปเหลือเพียงหน้าตาวิตกกังวลทำให้ผมยิ่งไม่กล้าที่จะพูดออกไป
   “ไอ้เก้ามันเป็นคนตัดสายเบรกรถของวา”  สีหน้าตกใจก่อนที่ข้าวของในมือจะร่วงลงพื้น พร้อมกับใบหน้าสิ้นหวังของลุงชิตทำให้ผมลำบากใจ
   “มันทำไม......... ทำไมมันเลวแบบนี้”  ผมไม่มีคำตอบให้ ลุงชิตเพียงบอกว่าไอ้เก้ามันนอนอยู่ในห้อง ผมบอกให้ไอ้สองคนนั่นไปลากตัวมันส่งโรงพัก
   “นาย นาย ผมผิดไปแล้ว อย่าส่งผมให้ตำรวจเลยนะ นาย” ไอ้เก้ามันถลามามาคุกเข่าอ้อนวอนผม
   “ไอ้ลูกไม่รักดี มึงไม่ต้องมาอ้อนวอน ไอ้ละออง ไอ้สิน จับมันไป เอามันไปให้พ้นๆหน้ากู” ลุงชิตตะโกนลั่นผมเลยพยักหน้าสั่งให้ไอ้ละอองกับไอ้สินหิ้วปีกไอ้เก้าไปโรงพัก คล้อยหลังสองคนนั่นไปลุงชิตก็ล้มลงจนผมต้องรีบเข้าไปพยุงพาไหนั่งพักดีๆ
   “ไม่เป็นอะไรนะลุง”
   “พ่อเลี้ยงลุงขอโทษ ลุงสั่งสอนไอ้เก้าไม่ดี มันถึงได้เลวได้ทำชั่วแบบนี้”
   “มันไม่เกี่ยวกับลุงหรอกนะ มันขึ้นอยู่กับตัวมันเองต่างหาก ผมเองก็ไม่อยากเอาเรื่องอะไรมันหรอกนะลุง เพียงแต่มันทำร้ายคนที่ผมรัก ลุงคงเข้าใจผมนะ”
   “ลุงไม่ได้โกรธพ่อเลี้ยงหรอกนะ ลุงโกรธตัวเอง โกรธไอ้ลูกเวรที่มันกล้าทำร้ายคนมีบุญคุณกับมันล้นหัว” ผมลูบหลังลุงที่นั่งร้องไห้ แม้จะเป็นผลลัพธ์ที่ผมเดาได้แต่คนที่สูญเสียก็ไม่มีอะไรที่จะมาทดแทนความรู้สึกนั้นได้ ผมนั่งปลอบลุงชิตจนลุงดีขึ้น ผมเลยเดินกลับบ้าน ทันทีที่เดินเข้าไปกลิ่นหอมก็ลอยอบอวลทั่วบ้าน
   “กลับมาแล้วเหรอครับ มีอะไรรึเปล่าครับพี่ลม”
   “พี่ขอเพิ่มพลังแปบ” พูดเสร็จผมก็เดินไปรวบตัวร่างบางเข้ามากอด สูดกลิ่นกายหอมที่ช่วยผ่อนคลายจนผมรู้สึกดีขึ้นค่อยคลายอ้อมกอด
   “พี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ” แม้จะทำหน้างงแต่วาก็ไม่ซักถาม
   หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาที่โต๊ะ ที่ตอนนี้เจ้าน้ำกำลังอ้อนวาให้ป้อนนั่นป้อนนี่ ผมนั่งกินคอยแกล้งเจ้าน้ำที่ขยันอ้อนว่าที่เมียเขานักหนา  ว่าแต่เขาจะให้วาคงว่าที่นี่อีกนานไหม สมควรที่ผมจะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นอีกขั้นรึยังนะ แต่ทุกอย่างที่จะพัฒนาเขาและวาต้องพร้อมที่จะก้าวไปพร้อมๆกัน
   ใช่มือขวาตัวเองต่อไปก็แล้วกันนะไอ้ลม
   
   แม้การที่จะต้องนอนกอดกันทุกคืนนั่นยิ่งทำให้ความต้องการของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ผมก็ไม่อยากให้วากลัว อาศัยมือขวาตัวเองนี่ล่ะวะ คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ผมต้องทนกับความน่ารักยามที่วานอน ยิ่งวาไว้วางใจผมมากเท่าไหร่ ตอนหลับวายิ่งอ้อดอ้อนยิ่งกว่าตอนตื่นเสียอีก
   “อือ” นี่ไง มาแล้ว เสียงครางด้วยความสบายเมื่อวาขยับตัวหาที่สบาย ใบหน้าหวานถูไถบนอกเหมือนแมวน้อยที่ขยับหาที่อุ่นสบาย มันจะดีกว่านี้มากถ้ามันไม่ใช่อกผม โอ๊ยทำไมน่ารักแบบนี้นะ ได้แต่กำมือแน่นยับยั้งความตั้งใจที่จะจับกินซะตอนนี้ ขณะที่ผมตั้งสติวาก็เหมือนจะแกล้งผมเข้าไปอีก
   “พี่ลม...” ไอ้การละเมอเป็นชื่อเขานี่แกล้งกันใช่ไหม อยากจะปลุกอีกคนมาชดใช้ความผิดแต่ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มบางแตะแต้มบ่งบอกถึงความสุข จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ วาเป็นความสุขของผมจริงๆ
   “ฝันดีคนดีของพี่” ผมกระซิบบอกก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนที่จะเข้าสู่ค่ำคืนแสนอบอุ่นหัวใจ
***************************************************
แค่กๆ เหมือนทุกคนรักพี่โยมากฮ่าๆๆ
คนเขียนก็ชอบนางมากเช่นกัน
ในส่วนของพี่ลม เป็นความสุขที่ไม่สุด  เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า55555
ตอนหน้าเราจะไปดราม่ากับพี่ไม้และคุณนัทนะคะ //ผายมือ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน เข้ามาเม้นต์นะคะ
ตามอ่านทุกคนเม้น แล้วยิ้มกว้างจนน้องที่ทำงานถาม 555555
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กำบังฟินเลย. จบล่ะ. 555. เป็นกำลังใจให้นะ. เลียนต่อไวไวนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :angry2:  ตอง คิดได้ไง ทดสอบว่าทัพรักจริงหรือเปล่า
ด้วยวิธีบอกเลิก ไม่รักอีกแล้ว มีคนใหม่แล้ว
อย่างนี้เข้าทางพี่โยเลย  :hao3:

เอ.....พี่ลม นี่รักวามาก หรือป๊อดกันแน่  o18 o18 o18
พี่ลม วา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่โยตัวร้ายยยยยย :laugh:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
พี่โย กับ ทัพก็ผ่านไปแล้ว
พี่ลมก็เกร็งมือไปก่อนตอนนี้
รอพี่ไม้ กับพี่นัท ว่าใครเป็นพระเอกนายเอก
 :katai2-1:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
หลังจากที่ดูคนงานขนของขึ้นรถพร้อมกับแจ้งจุดหมายปลายทางผมก็กลับขึ้นรถขับกลับบ้านไอ้ไม้เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น โดยมีบุคคลที่ตามติดเขาเป็นขี้ปลาทองทีแรกนั้นพี่โยขอขับแต่ผมไม่ไว้ใจหรอกนะ ขับรถมาได้ครึ่งวันผมก็แวะเข้าปั๊ม
   “เปลี่ยนให้พี่ขับให้ไหม”
   “พี่รู้จักทางเหรอ” ผมถามกลับไปจะรู้จักทางจริงๆนะเหรอ
   “ไม่หรอกเดี่ยวทัพค่อยบอกพี่ละกัน จะให้ขับคนเดียวก็จะเกินไป”
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกอย่างพี่ก็ไม่มีใบขับขี่จะมาขับมันก็ไม่ใช่ ผมว่าไปต่อกันเถอะครับจะได้ถึงไม่ดึกมาก”เปิดประตูเข้าฝั่งคนขับปล่อยให้อีกคนหอบถุงขนมที่พึ่งซื้อตามขึ้นรถตามมา ผมก็ออกรถอีกครั้งถ้าขับด้วยความเร็วประมาณนี้น่าจะถึงประมาณ 2-3ทุ่ม ขับไปซักพักนมจืดเสียบหลอดเรียบร้อยก็ยืนมาตรงหน้า
   “กินอะไรรองท้องก่อน ตั้งแต่เช้าแล้วไม่หิวเหรอ” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับขยับหลอดมาจ่อปากผมจนต้องอ้าปากกินตามที่อีกคนป้อนจนพอใจ ยังไม่ทันได้ว่าอะไรขนมปังก็ถูกยื่นมาจ่อปากเขาอีก มือหนาขยับเข้ามาใกล้สองสามทีเชิงให้ผมอ้าปากกินได้แล้ว ได้แต่ทำตามความต้องการของคนที่แกะขนมรออีกสองสามห่อ นี่กะจะให้เขาอิ่มเลยใช่ไหม
   “พี่ก็กินบ้างเถอะผมอิ่มจนจุกแล้วเนี้ย” ได้บอกคนที่ป้อนเขาเอาป้อนเขาเอาจนขนมปังหมดไปสองสามห่อแล้ว คนป้อนยังไม่กินอะไรเลย
   “อ่าวเหรอ เห็นป้อนแล้วก็กินเอากินเอา เหมือนแฮมเตอร์นึกว่าหิวจัด” ทำดีได้ไม่สุดจริงๆเลยคนๆนี้ หลังจากนั้นพี่โยก็นั่งกินโน่นกินนี่ไปเรื่อยพร้อมกับส่งมาป้อนเขาเมื่อเห็นว่าขนมที่กินมันอร่อย ผมเลยได้แต่ตามใจอยากป้อนก็ป้อน แวะพักเข้าห้องน้ำอีกรอบก่อนที่จะยิงยาวถึงบ้านเลย ในที่สุดการเดินทางยาวก็ถึงจุดหมาย พวกผมมาถึงก่อนรถขนส่งเอกชนซะอีกเพราะไม่ได้แวะทานข้าวเลย
   “กลับมาแล้วเหรอครับ หิวกันรึเปล่าเหนื่อยไหมครับ” เสียงหวานๆของวาที่ถามด้วยความเป็นห่วงทำให้ผมแทบหายเหนื่อย
   “พี่หิวจังเลยวา มีอะไรให้พี่กินบ้าง” ผมรีบวางกระเป๋าที่โซฟาก่อนที่จะเดินเข้าไปหาวาที่ครัว ลืมคนที่เดินทางมาด้วยกันเสียสนิท
   “วาทำกับข้าวไว้เยอะแยะเลยล่ะครับ เดี๋ยวพี่ทัพ พี่โยขึ้นไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนแล้วค่อยลงมาทานล่ะกันครับ พอดีกับพี่ลมกลับมา” พอวาพูดขึ้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ยินเสียงเจ้าลูกน้ำเลยสงสัยออกไปข้างนอกกับพี่ลมแน่ๆ
   “แล้วไอ้ไม้ล่ะวา” ผมถามหาไอ้เพื่อนสนิทที่โทรติดต่อไม่ได้ จนผมนึกว่ามันหายสาบสูญที่โรงงานซะแล้ว
   “พี่ไม้ติดงานที่โรงงานจนไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้วล่ะครับ”
   “วา พี่คิดถึงจัง” คนที่ผมลืมไปแล้วกลับเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับกอดเอววาซุกหน้าลงที่ไหล่บางโดยที่วาหัวเราะน้อยๆเมื่อพี่ชายตัวโตอ้อนเหมือนเด็กๆ แต่ทำไมผมรู้สึกคิ้วกระตุกนะ
   “ทำอะไรกัน ห๊ะ” น้ำเสียงดุดันทำให้ผมต้องรีบหันกลับไปมองที่หน้าครัวพี่ลมที่อุ้มน้ำอยู่แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจไม่ใช่พี่ลมที่มาแบบเงียบๆแต่เป็นสีหน้าที่หน้ากลัวนั่นต่างหาก
   “โอ๊ะโย่ว พี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ”
   ฟอด
   ยังไม่วายที่จะหอมแก้มน้องก่อนที่จะเดินเบียดไหล่พี่ลมขึ้นบนห้อง ผมว่าพี่โยแกล้งพี่ลมแน่ๆ รู้ว่าพี่ลมขี้หึงแค่ไหนยังไปแหย่พี่มันอีก เห็นทีผมต้องปล่อยให้คู่นี้เคลียปัญหาก่อน
   “ลูกน้ำไปเล่นน้ำกับอาทัพป่ะ” ผมเดินเข้าไปรับเจ้าลูกน้ำก่อนที่จะบอกทั้งสองคนว่าขึ้นไปอาบน้ำก่อน ลูกหมูดูดีใจดี๊ด๊าที่ได้ไปอาบน้ำกับผม
   “อาทัพของฝากล่ะ ของฝากน้ำล่ะครับ”
   “อยู่ในกระเป๋าอาครับ เดี๋ยวอาบน้ำกินข้าเสร็จเราค่อยเอาไปเปิดกันเนาะ” ผมบีบแก้มยุ้ยๆของน้ำที่ตอนนี้รู้สึกว่าจะลดลงไปเยอะแต่ก็ยังน่าบีบเหมือนโมจิลูกขาวๆทีเดียวเลยล่ะ
   “เย้ๆ ของฝากของฝาก” น้ำร้องดีใจ ผมพาน้ำไปหยิบเสื้อผ้าที่ห้องก่อนที่จะพาไปที่ห้องนอนผมเพราะห้องน้ำมันใหญ่กว่ามาก ต้องบอคุณไอ้ไม้ที่มันสร้างอ่างอาบน้ำใหญ่ขนาดนี้ มันบอกว่าเวลาทำงานเหนื่อยๆต้องได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ  ผมจับเจ้าลูกน้ำถอดเสื้อผ้าก่อนที่ผมจะถอดเสื้อผ้ามีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว น้ำที่เปิดรองไว้เต็มอ่าง
   “ไปเล่นน้ำกันลูกน้ำ” ผมจูงมือป้อมเข้าห้องน้ำก่อนที่จะลงแช่น้ำด้วยกัน เสียงหัวเราะคิกคักดังก้องทั่วห้องน้ำ ผมคิดถูกแล้วสินะ มาอยู่ที่นี่ผมได้หัวเราะ มีความสุขกับการเลี้ยงหลาน ส่วนไอ้คนที่คิดโง่ๆนั่น ปล่อยแม่งไปเถอะ
   “อาทัพเหม่ออะไรครับ”
   ซ่า
   “แค่กๆ หนอยแนะกล้าแกล้งอาเหรอ” เจ้าลูกน้ำที่ถามผมเสร็จก็สาดน้ำใส่หน้า
   “คิกๆ ยอมแล้ว อาทัพน้ำยอมแล้วคิก” น้ำดิ้นไปมาเพราะผมจี้เอวจนน้ำต้องเกาะคอผมไว้ เมื่อน้ำเริ่มเย็นเลยให้น้ำขึ้นจากอ่างผมคว้าเอาผ้าขนหนูมาพันไว้แล้วหยิบอีกผืนมาพันลูกน้ำจนเป็นดักแด้ค่อยอุ้มขึ้นไปนอนบนเตียง ผมปล่อยให้น้ำแต่งตัวเองก่อนที่ผมจะหันไปแต่งตัวบ้าง เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วผมก็อุ้มน้ำลงไปข้างล่างที่ดูเหมือนจะกลับมาหวานชื่นแล้ว
   “ลงมากันแล้วเหรอครับ ทานข้าวกันดีกว่าครับ” ทันทีที่ผมวางน้ำลง ลูกน้ำก็วิ่งขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประจำตัวส่วนผมก็นั่งลงข้างๆ ก่อนที่จะรับจานข้าววันนี้ไอ้ไม้ก็นอนที่โรงงานอีกแล้วสินะ
   “หือ” จู่ๆไก่น่องหนึ่งก็ลอยมาอยู่จานเขาเพราะมันแต่สนใจน้ำเลยไม่ทันมองว่าใครเป็นคนตักมาให้
   “อร่อยนะ” และคนที่ตักมาก็บอกว่ามันอร่อย จนผมยิ้มขอบคุณ แล้วค่อยตักเนื้อไก่เข้าปาก จนอิ่มแล้วผมก็อาสาไปล้างจานเอง
   “มาพี่ช่วย”
   “อ่าวไม่ไปเล่นกับน้ำหรอกเหรอครับ” ผมถามพี่โยก่อนหน้านี้เห็นเล่นกับน้ำอยู่เลยเพราะกินเสร็จก่อนผม
   “ไม่ล่ะ เจ้าหมูน้อยนั่นทวงของฝากแล้วน่ะเลยเข้ามาช่วย” อ้อ ผมพยักหน้ารับพร้อมกับเร่งมือล้างจานส่วนพี่โยก็ช่วยล้างน้ำสะอาดแล้วเช็ดวางบนชั้นเรียบร้อย
   “ใบสุดท้ายแล้วครับ งั้นผมขึ้นไปหยิบของฝากให้น้ำก่อนนะครับ” พี่โยพยักหน้าผมเลยเดินขึ้นไปหยิบของฝากที่เป็นรถบังคับที่แวะซื้อก่อนที่จะกลับมา เจ้าลูกน้ำดีใจยกใหญ่ทั้งหอมแก้ม จุ๊บปากจนผมต้องรีบเบรกไว้ น้ำวิ่งเอาของไปอวดพ่อและก็วา จนผมอดขำไม่ได้เห่อจริงๆนะ
   “อ้อพี่โยจะกลับวันไหนนะครับ”
   “พี่ว่าอีกสามวันพี่ก็จะกลับแล้วล่ะ ทิ้งงานที่บ้านไว้นานแล้ว” พอรู้ว่าอีกสามวันใครอีกคนจะกลับแล้วเขาก็รู้สึกโหวงๆในใจแหะ
   “งั้นพี่โยอยากไปเที่ยวไหนไหมล่ะครับ วาจะพาไป”
   “ทำงานไปไอ้ตัวยุ่ง พี่จะพักอยู่บ้านนี่ล่ะ” เหมือนผมจะเห็นพี่โยกรอกตาอยู่นะ ได้แต่มองพี่โยที่ยิ้มร่าเล่นกับหลาน เอาเถอะก็คงเป็นคนที่แค่เดินผ่านเข้ามาในชีวิตแค่นั้นแต่ต้องขอบคุณพี่โยที่ช่วยดึงเขาออกจากความรู้สึกแย่นั้นถึงแม้จะเป็นวิธีการแปลกๆก็เถอะ  เล่นกันซักพักวาก็ขอตัวพาน้ำไปนอนเหลือแต่พวกผมสามคน
   “ทัพก็นอนห้องไอ้ไม้ไปเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจยังไงซะก็ถือว่าที่นี่เป็นบ้านล่ะกันนะ” พี่ลมว่าคงจะเพราะไอ้ไม้นอนที่โรงงานซะส่วนใหญ่ดังนั้นห้องนั้นยังไงก็ว่า  ผมพยักหน้ารับ
   “พรุ่งนี่จะเข้าไร่กับฉันไหม”พี่ลมหันไปถามพี่โยซึ่งพี่โยก็พยักหน้า ส่วนผมก็บอกว่าขอจัดข้าวของให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปเริ่มทำงานกับไอ้ไม้ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอน
   รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นมาช่วยวาทำกับข้าวแล้วค่อยให้วาไปปลุกน้ำ ยังไงซะงานเขาตอนนี้ก็ไม่มี ที่ผมสามารถย้ายมาที่นี่โดยไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงข้างหลังเพราะเขาเองก็ไม่เหลือใครในชีวิตแล้ว บิดามารดาเสียหลังจากที่เขาเรียนจบไม่กี่ปี ทันทีที่ไอ้ไม้รู้ข่าวมันก็รีบลงไปหาเขาทันทีแถมยังคอยปลอบ ตอนนี้ตอนที่เขาเขวมันก็ยอมช่วยเขา เพราะฉะนั้นอะไรที่ช่วยไม้ได้ ผมก็เต็มใจที่จะช่วยมัน สายๆหน่อยหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายรถบริษัทขนส่งก็มาถึงพร้อมกับคำขอโทษเพราะรถเกิดเสียทำให้ต้องพักกลางทาง ผมเลยไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ให้ช่วยขนของขึ้นบนห้อง ผมนั่งจัดเสื้อผ้าเข้าตู้พอดีกับที่ไม้มันกลับเข้ามาบ้าน
   “กลับมาแล้วเหรอวะ” มันถามขณะที่ไปเก็บเสื้อลงกระเป๋า คงจะไม่กลับบ้านอีกแล้ว
   “เออวะ”
   “เป็นไงบ้างวะ” เก็บเสื้อผ้าเสร็จมันก็วางกระเป๋าไว้แล้วลงมานั่งข้างๆ ที่ถามคงจะหมายถึงเรื่องของตอง
   “สรุปที่กูเสียใจเพราะความโง่ของมันวะ เอาเหอะยังไงกูก็ดีขึ้นมากแล้ว”
   “คิดถูที่กูให้พี่โยไปด้วย” ให้มันเข้าใจแบบนั้นก็คงจะเป็นที่สบายใจของมันก็เอาเหอะ แต่ก็ต้องขอบคุณมันล่ะนะ
   “เออ กระผมขอบคุณคุณไม้นะครับกระผม” พูดจบมันโบกหัวผมไปหนึ่งที
   “พรุ่งนี่ไปหากูที่โรงงานด้วยล่ะกันมึง เดี๋ยวพี่ลมคงพาไป”
   “เออ ไม่อยู่กินข้าวเย็นก่อนเหรอวะ”
   “ไม่วะกูงานเยอะ” ผมรู้ดีที่มันโหมทำงานหนักตั้งแต่วันที่คุยกับคนที่ชื่อนัท มันแทบจะไม่กลับมานอนบ้านโหมงานทำงานแทบทุกอย่างจนแทบเหมือนจะเป็นยามจนถึงคนงานทำงานทุกอย่างในโรงงานแล้ว ยังดีมันไม่มาเหมางานที่ไร่อีก
   “พักบ้างนะมึง เดี๋ยวจะได้ตายซะก่อน”
   “เออ ไม่ต้องห่วงกูน่า กูรู้ตัวดี” ผมแทบไม่เชื่อคำพูดมันเลยซักนิด มันไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันฝืน ฝืนมากเลยทีเดียวได้แต่ตบบ่ามันแรงๆก่อนที่มันบอกว่าจะกลับไปโรงงาน ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บของต่อไป ทุกอย่างมันต้องผ่านไปด้วยตัวเองโดยที่เขาก็ช่วยอะไรมันไม่ได้
   
   Mai Part
   ผมรู้ดีว่าไอ้คำที่บอกว่ารู้ตัวดีนั้น ผมโกหกไอ้ทัพและโกหกตัวเองผมเสแสร้งว่าตัวเองไม่เป็นไร แกล้งว่าตัวเองเข้มแข็งแต่ในทุกๆวัน ในทุกเวลา ในทุกวินาที ผมกลับทำทุกอย่างตามที่สมองสั่งงานแต่ตัวกลับรู้สึกว่าเปล่า ทั้งๆที่บอกตัดมันไปแล้ว ท้ายที่สุดคนที่เสียใจก็ยังคงเป็นเขา
   เฮ้อออ
   ได้แต่ถอนหายใจรอบที่ล้านแปด พร้อมกับยกมือขึ้นนวดระหว่างตาที่ปวดุบๆเมื่อผมจ้องทั้งคอมและเอกสารนานจนดวงตาต้องประท้วงด้วยอาการล้าจนผมต้องหลับตาซักพัก
   “พี่ไม้ จะกินอะไรไหม” ไอ้นิวเดินเข้ามาในห้อง ตอนนี้คงเลิกงานแล้วสินะ คิดถึงกับข้าวฝีมือวาชะมัด แม้จะกลับไปบ้าแต่ผมก็แค่กลับไปเอาเสื้อผ้าแถมวายังไม่ได้กลับมา ไอ้นิวจะเป็นคนชื้ออาหารฝากยามมาส่งผม
   “เอาข้าวและกับข้าวมาซักสามสี่อย่างล่ะกัน”
   “รับทราบเจ้าค่ะ เดี๋ยวฝากพี่ยามขึ้นมาให้นะ หนูไปล่ะคะ” ผมโบกมือไล่ไอ้นิวทั้งๆที่ก็เป็นสาวเป็นนางแต่นิสัยก็ยังกระเปิ๊บกระป๊าบแก่นแก้วจริงๆยังเด็กนี่ก็เห็นกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย แต่ยิ่งโตยิ่งซน ซักพักลุงยามก็ถือถุงกับข้าวขึ้นมาส่ง ผมขอบคุณพร้อมกับแบ่งกับข้าวให้ลุงถุงหนึ่ง ก่อนที่ผมจะแกะกับข้าวใส่ถ้วยแม้จะอร่อยแต่ผมก็ยังคิดถึงรสมือของวา
   ครืด ครืด
   เสียงโทรศัพท์ที่สั่นทำให้ผมต้องวางช้อนก่อนที่จะลื้อหาท่ามกลางกองเอกสารที่วางเต็มโต๊ะก่อนที่จะเห็นว่ามันอยู่ข้างล่างท่ามกลางเศษเอกสาร
   “สวัสดีครับ............อัลโหล....ได้ยินรึเปล่าครับ” ผมต้อถามซ้ำเมื่อเสียงปลายสายมีเพียงเสียงของรถ เสียงพูดคุย ผมคิดว่าน่าจะเป็นคนโทรผิดเมื่อไม่มีชื่อที่แสดงขึ้นจนผมคิดจะวางสาย แต่เสียงคุ้นหูทำให้ชะงักแทบหยุดหายใจ
   “(ไม้)” เสียงเบาๆทำให้ผมยกโทรศัพท์ออกจากหูเพื่อที่จะดูเบอร์แต่มันก็ไม่ใช่เบอร์ที่เขาคุ้นตาเลย
   “อ่า....นัท”
   “(อืม...กูเอง)” และทั้งผมและมันก็ต่างพากันเงียบ เอ๊า จะเงียบทำไมวะมึงเป็นคนโทรมานะเฟ้ยยยย ใจจริงก็อยากจะตะโกนออกไปนะเพียงแต่.......เขาไม่อยากเป็นเหมือนเดิม
   “มีธุระอะไรหรือเปล่า พอดีติดงานอยู่” ผมรีบที่จะหาข้ออ้างที่จะดัดสาย
   “(เรื่องเสี่ยปาน ตอนนี้ได้ข่าวว่าโดนฆ่าตัดตอนไปแล้ว)” แม้ข่าวที่ได้ยินจะน่าตกใจแต่ผมก็โล่งใจที่จะได้ไม่มีคนมาลอบกัดแล้ว ได้แต่อโหสิกรรมให้แม้จะทำเรื่องราวให้กับครอบครัวเขาแต่ทุกคนก็ได้รับผลกรรมที่ได้กระทำกันไว้แล้วขอเพียงไม่มีเวรมีกรรมต่อกันแล้วก็พอ
   “งั้นจะบอกพี่ลมให้ละกันนะ”
   “(ไม้ เดี๋ยวก่อน)” มันเรียกผมไว้แล้วก็เงียบ ตกลงจะเรียกผมไว้ทำไมวะ
   “(สบายดีไหม)” เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย อยากตะโกนให้ลั่นโรงงาน กูไม่สบายทั้งนั้นล่ะ  ทั้งกายและใจกูเหนื่อยยยยย
   “สบายดี แค่นี้ก่อนนะพอดียุ่งมาก” ผมบอกปัดพร้อมกับโกหกมันอีกแล้วกดตัดสายไป  ผมแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งแต่การทำลายข้าวของไม่ใช่นิสัยของผมเลยได้แต่วางลงแรงๆ มองกับข้าวที่คงหมดอารมณ์กิน ทำไมผมต้องฝังใจกับรักครั้งแรกที่มันยาวนานขนาดนี้ด้วย ได้แต่เอนหลังพิงเก้าอี้ก่อนที่จะตัดสินใจเอากับข้าวไปไว้ในตู้เย็นก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อแช่น้ำอุ่นเผือว่าอาการเครียดๆเซ็งๆของเขาจะทุเลาลง
   ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่จะจับเอากับข้าวเมือคืนเข้าไมโครเวฟ เพื่ออุ่นกินตอนเช้า จัดการตัวเองเสร็จผมก็เดินลงไปทักลุงยามที่กำลังจะเปลี่ยนเวร แล้วเดินเข้าโรงงานเหมือนออกกำลังตอนเช้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องทำงานเหมือนเดิม ทำไมรู้สึกว่าโลกผมนับวันยิ่งแคบลงกันน้า
   นั่งทำงานจนกระทั่งจะเที่ยง เจ้านิวก็ยังไม่เข้ามาถามว่าเขาจะกินอะไรรึเปล่าสงสัยว่าวันนี้ต้องพึ่งตัวเองซะแล้ว แต่ก่อนที่ผมจะได้ลุกจากเก้าอี้ กลิ่นหอมก็ทำให้ผมท้องร้องเสียงดัง กลิ่นนี้มัน
   “น้องวา???”
   “เสียใจ น้องวาโดนพี่ลมกักตัวไว้วะ กูเลยเอาเสบียงมาส่งมึงคนเดียว” ไอ้ทัพพูดถึงพี่ลมก็ทำให้ผมขำ ยิ่งพี่โยอยู่ที่ไร่ด้วย วันนี้หลานเขาก็ไปโรงเรียนเพราะงั้นรับรองได้ว่าต้องมีก้างชิ้นโตตามติดไปทุกที่แน่ๆ
   “เหรอวะ ส่งปิ่นโตมาเลยมึง กูโคตรคิดถึงกับข้าวฝีมือวา” ผมยืนมือไปรับปิ่นโตเถาโตที่ไอ้ทัพถือมา ซึ่งมันส่ายหน้าก่อนที่จะส่งมาให้ผม พอเปิดเท่านั้นล่ะกลิ่นหอมก็ลอยอบอวน
   “ตกลงมึงจะใช้ชีวิตอยู่นี่เลยหรือไงวะ” ไอ้ทัพที่นั่งดูผมกินจู่ก็ถามขึ้น
   “ก็ไม่นะ กูก็กลับบ้านอยู่ไง” ผมตอบแต่มันก็รู้ดีว่าผมโกหกมัน เมื่อมันทำหน้าจริงจังขึ้นแล้วจ้องหน้ากดดันผม
   “เออ กูรู้ตัวน่า”
   “เหรออออออออออออออออ” มันลากเสียงยาวประชดกูนี่หว่า
   “เย็นนี้กลับบ้านด้วยกันไฟต์บังคับพี่ลมสั่งให้กูลากคอมึงกลับบ้านด้วย” ได้แต่ถอนหายใจรอบที่หนึ่งล้านหนึ่ง กลับไปฟัดไอ้ลูกหมูเยียวยาจิตใจ ไอ้ทัพก็อยู่ช่วยผมจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน พอผมเลิกงานเร็ว ลุงยามถึงกับทักขึ้นด้วยความแปลกเมื่อผมกลับเร็ว
   “อ่าวพี่ไม้กลับมาแล้วเหรอครับ” วาทักทันทีที่เห็นผมเดินเข้าบ้านมา
   “คิดถึงกับข้าวฝีมือวา” วาเพียงแต่ยิ้มตอบแล้วไล่ให้ผมขึ้นไปอาบน้ำ เพราะก่อนกลับผมลงไปโรงงานไปดูช่างที่เข้ามาเช็คเครื่องยนต์ในโรงานทั้งเนื้อทั้งตัวเลยเปื้อนไปด้วย ผมเลยขึ้นไปอาบน้ำก่อนที่จะลงมาช่วยวาตั้งโต๊ะ พอดีกลับสองพี่ใหญ่กลับมาบ้าน
   “กินข้าวกันก่อนครับ”
   “ลูกหมูของอา” ผมวิ่งเข้าไปหาเจ้าน้ำทันทีที่เห็นผมเข้าไปหาก็สะบัดหน้าหนี บ่งบอกถึงอาการงอนหนักมาก แถมยังไม่หันมาคุย แต่ไปออเซาะพี่โย ไอ้ทัพ เออกูโดนหลานเทแล้วใช่ไหมเนี้ย ไอ้พี่ลมพอเห็นหน้าผมเหวอก็หัวเราะ
   “หึ สมน้ำหน้า” โอ๊ยยยยยเจ็บปวดดด โดนหลานเท ผมกลับไปนั่งลงกินข้าวพยายามขอคืนดี และผมก็รู้ว่าพี่โยจะกลับในวันพรุ่งนี้ แต่เช้าด้วยผมเลยอาสาจะไปส่งพร้อมกับไอ้ทัพที่ขอไปด้วยแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพี่โยดูท่าทางจะใส่ใจไอ้ทัพโดจการตักโน้นตักนี่ให้ไม่หยุด แถมไอ้ทัพก็ไม่ได้โวยวายแถมยังบอกขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่แฝงความเศร้าอีกต่อไป นี่กูพลาดอะไรไป กูเสือกไม่ทันนนนนน พลาดจริงๆเลยกู  แม้ผมจะพยายามจับสังเกตเพิ่มแต่เหมือนพี่โยจะรู้ทันเลยหันมาตักแกงใส่ถ้วยผมพร้อมกับบอกว่ากินให้อร่อย แต่สายตามึงอ่ะไม่ใช่เลย จนผมต้องหยุดเสือก หันมาง้อหลานที่เริ่มใจอ่อนแล้วกลับมาคุยกับผมแล้ว กลับมานอนบ้านก็ช่วยทำให้ผมสบายใจ
   “กลับมานอนบ้านได้แล้วมึงนะ” ไอ้ทัพมันกำชับผมอีกรอบตอนที่ขึ้นมานอนบนเตียง
   “กูแค่ยังทำใจไม่ได้วะ”
   “แผลของมึงลึก จะให้หายง่ายๆก็ไม่ใช่แต่มึงต้องเดินหน้าได้แล้ว” แหมๆๆพูดเหมือนมันผ่านเรื่องราวทั้งหมดมาได้แล้วผมหันไปมองหน้ามันก็เห็นว่ามันไม่มีความเศร้าอีกต่อไป
   “เหรอแล้วมึงคงจะเดินหน้าแล้วสินะ กับใครว้า” ผมยกยิ้มกว้าง
   “หุบปากแล้วนอนไปเลยสัส” มันเหวแล้วพลิกตัวหันหลังหนี ไอ้ป๊อดดดดดดดด
***************************************************
อ๊ายยยย เลิกอู้แล้วค่ะ
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้าาาาา


อย่างที่ชี้แจงในเพจเนาะ
เท่าที่คิดๆไว้ก็คงอีกไม่นานแล้วทีจะปั่นเรื่องนี้ให้จบ แล้วจะได้ไปจับเรื่องอื่นทีค้างไว้
ต่อ
รักคนอ่าน ทุกคนค่ะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เรื่องยุ่งยากกำลังจะเข้าที่แล้วสินะ ไม้อย่าแซวทัพให้มากนะ เค้าเขิน อิอิอิ :-[

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นัทนี้ก็ปากแข็งนะ. แต่ไม้นี้จะปักใจ. ทัพกับโยจะได้นักกันแต่ก็พลันจากจร  แต่ก็สามพ่อลูกนะ. วา. ลม. น้องน้ำ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อยากรู้เรื่องของนัทครับ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คู่หลัก พี่ลม วา  :กอด1: :กอด1: :กอด1: ไปโลด

คู่รอง พี่โย ทัพ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: ก็ไปได้ดี
 
คู่ นัท ไม้  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:  เงียบกริบ
นัท นิ่งอยู่ได้
รอรู้ว่าพี่โยชอบทัพก่อนใช่มั้ย
ถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองซื่อบื้อ และไม้ยังชอบตัวเอง
อยากอ่านพาร์ทนัทแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รีบมาๆๆๆนะ. รออ่าน. อยู่เบย

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
รุ่งเช้าผมกับไอ้ทัพเตรียมตัวไปส่งพี่โยที่ตอนนี้กำลังล่ำลากับน้องชายที่หน้าประตูโดยมีพี่ลมยืนเป็นแบล็คกราวน์อยู่ด้านหลัง
   “ถึงแล้วพี่โยโทรหาน้องด้วยนะครับ”
   “ได้ อยู่ที่นี่ก็ทำตัวดีๆล่ะ” พี่โยโยกหัววาแรงจนพี่ลมจ้องเขม็ง
   “อ้อส่วนลม อย่าคิดจะทำอะไรที่มันข้ามขั้นนะลม” ผมได้แต่แอบขำกับไอ้ทัพเมื่อพี่ลมทำหน้าเหวอๆ แหมพี่ชายกูคิดจะเคลมน้องวาแน่ได้ข่าวแอบซุ่มศึกษาแต่ที่ดูๆพวกผมคงได้จุดพลุฉลองกันทั้งไร่แน่ๆ
   “ไม่ได้ทำอะไรหรอกน่า”
   “เหรออออออออออ” ผมกับไอ้ทัพพูดขึ้นพร้อมกันไอ้พี่ลมชี้หน้าคาดโทษพวกผม วากอดลาพี่โยก่อนที่พวกผมจะขึ้นรถเดินทางไปที่สนามบิน ช่วยกันถือกระเป๋าที่เพิ่มขึ้นเพราะวาแพ็คของฝากไปให้ครอบครัวที่โน้น
   “ขอบคุณมากนะที่มาส่ง”
   “ไว้ว่างพี่ก็มาเที่ยวที่ไร่อีกนะครับ ยังไงก็เป็นคนกันเอง”ไอ้พี่โยยิ้มกว้างเพราะเข้าใจความหมายที่ผมสื่อ เอาน่าถือว่าโมเมช่วยพี่ชายตัวเอง
   “ไว้ว่างก่อนล่ะกันนะ ว่าแต่หลับเหรอทำไมเงียบจัง” พี่โยหันไปถามไอ้ทัพที่กำลังหาวอ้าปากกว้าง
   “ใครบ้าจะยืนหลับ รีบๆกลับไปได้แล้ว” เหมือนมีบรรยากาศกรุ่นๆที่ผมรู้สึกเป็นส่วนเกินแหะ
   “ไปแล้วก็อย่านั่งเหงาล่ะ”
   “รีบๆกลับไปได้น่า” ไอ้ทัพปัดมือที่โบกผ่านไปมาผ่านหน้าหล่อๆของมันที่ทำหน้ายุ่งขึ้นไปทุกทีๆที่พี่โยกวนประสาท นี่กูพลาดอะไรไปวะ เมื่อพี่โยสังเกตว่าผมเริ่มทำหน้างง ก็บอกลาครั้งสุดท้ายก่อนที่พี่โยจะเดินเข้าเกตไปขึ้นเครื่อง ผมเดินไปกอดคอไอ้คนที่ยังเหม่อมองตามหลังคนที่เดินเข้าไปไกลแล้ว
   “กลับไปทำงานได้แล้วไอ้หล่อ”
   “เออไอ้ไม้ผุ” มันยกมือขึ้นมากอดคอผมคืน ใช่ไงกูเตี้ยกว่ามึงทำให้มันพาดแขนที่คอเขาได้อย่างสบายๆผมเอามือลงก่อนที่จะผลักมันออกทำให้มันหันมาขยี้หัวผมแรงๆทีก่อนที่จะเดินหล่อนำผมกลับไปที่รถ ไอ้หล่อ ไอ้เสาไฟฟ้า ได้แต่ลูบผมที่ฟูขึ้นจากการโดนขยี้ให้เข้ารูป แล้วรีบวิ่งไปให้ทันมัน ทำไมล่ะก็ในเมื่อมันเป็นคนเอากุญแจไป
   และความบังเอิญที่มีในโลกก็ทำให้ผมไม่ได้ทันรู้เลยว่ามีใครที่กำลังเดินออกมาจากเกตมองดูความสนิทสนมกันของสองเพื่อนซี้ด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก

   “ผู้กองนัทดูอะไรเหรอครับ” เสียงทักจากด้านหลังทำให้ร่างสูงในชุดเครื่องแบบหันกลับไปหาเพื่อนร่วมงานที่เดินทางไปพร้อมกันแต่กลับมาก่อนกำหนดเมื่องานที่เขาได้รับมอบหมายนั้นถูกเขาเร่งงานจนต้องกลับก่อนกำหนดไปหลายสัปดาห์
   “ไม่มีอะไรครับ เรากลับกันดีกว่า”ร่างสูงเดินลากกระเป๋าออกจากสนามบินขึ้นรถที่ทางสน.ส่งมารับเพื่อพาผมไปรายงานผลทันที รายงานผลเสร็จผมก็ได้รับวันหยุดอาทิตย์หนึ่งซึ่งก็สมควรผมให้จ่าอีกคนขับรถมาส่งที่บ้าน
   “กลับมาแล้วครับแม่”
   “ว่าไงเจ้าดื้อ” เวลาที่แม่ทักผมแบบนี้นั่นหมายความว่าผมต้องทำอะไรให้ท่านแม่ไม่พอใจแน่ๆ
   “เอ่อ............ผมทำอะไรผิดเหรอครับ”ได้แต่โยนกระเป๋าทิ้งแล้วเดินไปกอดร่างเล็กของผู้ให้กำเนิด
   “ทำไมถึงได้รีบกลับมาหืม ไหนบอกว่าจะไปเดือนหนึ่งนี่รีบกลับมาเพราะลูกไปแอบมีแฟนใช่ไหม” สิ้นคำของมารดายทำให้ผมต้องกรอกตานี่แม่คิดว่าเขามีแฟนอีกแล้วเหรอ แม้มารดาจะเลี้ยงดูเขาแบบตามใจแต่ก็ยังไม่ค่อยจะโอเคนักที่จะให้เขายอมคบหากับผู้หญิงนัก ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร่
   “ผมแค่อยากกลับมาอยู่กับแม่ไงครับ ไม่ดีใจเหรอ”
   “ดีใจจ้าดีใจ ขึ้นไปพักเถอะเดี๋ยวตอนเย็นแม่จะทำอะไรอร่อยๆให้ทาน”
   ฟอด
   “ขอบคุณครับ” แอบหอมแก้มนุ่มไปหนึ่งทีก่อนที่จะหิ้วข้าวของขึ้นห้อง โยนของกองๆไว้แล้วเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงใหญ่ หลับตานึกถึงเหตุผลที่ทำให้ผมต้องทุ่มเทกับการทำงานจนมันเสร็จเร็วกว่ากำหนด
   เออกูผิดที่จริงจังกับคำพูดมึง กูผิดที่เคยเชื่อทุกอย่างที่มึงพูด ผิดที่ชอบมึง
   ผิดที่ยังเพ้อฝัน กูเคยคิดนะว่าทำไมกูจริงกังกับคำสัญญาของมึงทำไมทั้งๆ
   ที่กูก็เคยเจ็บ เคยเสียน้ำตา
   เพียงนึกถึงคำพูดของไอ้ไม้ที่ตะโกนกรอกมาทางโทรศัพท์ก็ทำให้เขาหัวตื้อคิดอะไรแทบไม่ออก คำสัญญาที่ผมเคยให้ไว้กับมัน คำที่มันบอกรักผม ที่มันบอกว่าผมเคยทำให้เสีย ทำให้มันร้องไห้ ผมไม่เคยเห็นมันร้องไห้มาตั้งนานแล้ว ให้ตายเหอะทุกคำมันไม่หายไปไหน คอยแต่จะวนเวียนตอกย้ำให้ผมรู้สึกผิด ใบหน้าคมเข้มหันไปมองกรอบรู้บนหัวเตียง รูปสมัยมัธยมที่เขายืนกอดคอกับไอ้ไม้
   คำสัญญาสมัยม.ปลายที่มันถาม
   สัญญาที่ไม่มีใครเราจะมาเป็นแฟนกัน
   ยอมรับเลยว่าผมลืมไปแล้ว คงจะเป็นอย่างที่ไอ้ไม้มันว่า ที่ผมชอบพ่นคำสัญญาจนมันดูไม่มีค่าอะไรมากกว่าลมปาก จนกระทั่งถึงเวลาอาหารเย็นผมก็ลงไปข้างล่างแม่กำลังยกหม้อข้าวมาที่โต๊ะพอดี
   “อ่ะวันนี้แม่ทำของโปรดไว้เยอะเลย”
   “คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่มากเลยครับ” ผมนั่งลงพร้อมกับรับจานข้าวมามองบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยของชอบเขา นั่งทานไปซักพักผมถึงได้เอ่ยปากถามมารดา
   “แม่........ถ้ามีคนผิดสัญญากับแม่ แม่จะโกรธเขาไหม” แม่มองหน้าผมพร้อมกับหรี่ตาลง
   “นัทฟังแม่นะ รู้ไหมความหมายของคำว่าสัญญาคืออะไร” แม่ถามผมกลับซึ่งผมก็พยักหน้าแน่นอนสิใครจะไม่รู้
   “เพราะมันเป็นคำสัญญามันจึงสำคัญและมีความหมายเพราะงั้นลูกไปให้สัญญาอะไรกับใครไว้ล่ะ”
   “ผม ผิดสัญญากับมันมาหลายครั้งแล้วครับ” เมื่อนึกดูดีๆผมบอกสัญญากับมันหลายครั้งแต่ผมก็ผิดสัญญากับมันแทบทุกครั้งเลย ยิ่งนึกถึงผมยิ่งไม่อยากกินข้าว
   “กับไม้นะเหรอ”
   “แม่.. แม่รู้ได้ไงครับ” ผมได้แต่อึ้งเมื่อแม่เขาพูดถึงไม้  แม่ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยกยิ้มซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจสุด
   “แม่รู้ยังไงไม่สำคัญ เพียงแต่ลูกรู้สึกยังไงตอนนี้” เหมือนเป็นคำถามที่ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าผมรู้สึกยังไงกันแน่ในหัวตอนนี้มันพันกันยุ่งเหยิงไปหมดจนผมแทบคิดอะไรไม่ออกแล้วกับการที่จะสานสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าอย่างไม้
   “ผมไม่รู้ครับแม่ ผมอยากเป็นเพื่อนกับไม้เหมือนตอนนั้น” แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากแต่ผมก็คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับไม้ สมัยม.ปลาย พวกผมเรียกได้ว่าเป็นเด็กแสบของชั้นทั้งแกล้งเพื่อน ป่วนอาจารย์ เล่นสนุก เมื่อเห็นผมก็ต้องเห็นไม้ ไม้คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอและผมก็สบายใจที่ได้อยู่กับไม้ มันไม่เหมือนอยู่กับคนอื่นไม่งั้นผมจะอยากกลับไปสนิทกับไม้อีกทำไมทั้งๆที่ห่างกันตั้งหลายปี เขาพึ่งรู้ว่าระยะห่างของเขากับไม้ไม่ใช่เพราะช่วงเวลาแต่เป็นระยะห่างของความรู้สึกที่แตกต่างของผมกับไม้ต่างหาก
   “แม่ว่าในเมื่อลูกเป็นคนผิดสัญญากับลูกไม้แล้ว และเท่าที่แม่ดูๆนะ ลูกไม่คิดเหรอว่าไม้ยังอยากสนิทกับลูก แล้วลูกจะเดินดุ่มๆเข้าไปแล้วขอเป็นเพื่อนเหมือนเดิมนะเหรอแม่ว่าลูกไม่ใช่แค่ดื้อนะแต่ลูกนะทึ่มอีกด้วย” ผมได้แต่สะอึกไม่ใช่ที่แม่ว่าผมทึ่มแต่ผมคิดตามที่ว่าไม้อยากสนิทกลับผม แล้วยิ่งภาพที่ได้เห็นวันนี้ ไม้ยังอยากจะสนิทกับผมไหม
   “แม่ไปอาบน้ำก่อนล่ะเก็บจานด้วย เฮ่อ....ไม่น่าเลี้ยงลูกออกมาให้ทึ่มแบบนี้เลย” เดี๋ยวนะแม่ แม่บ่นแล้วเดินตูดสะบัดขึ้นห้องปล่อยให้ผมนั่งบื้ออยู่คนเดียว ทำไมแม่ต้องถอนหายใจแรงแบบนั้นด้วยเล่า
*****************************************************
เอามาลงให้เต็มแบบสั้นๆ

รู้กันแล้วนะคะว่านัทเป็นคนยังไง 5555

ช่วงนี้คนไข้เยอะอาจจะไม่ได้ป่ันเท่าไหร่นัก

แต่จะพยายามเข้ามาต่อให้นะคะ อ่านเแล้วเป็นไง

บอกเค้าด้วยน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
มาต่ออีกหน่อยนะ อยากรู้เรื่องราวนัท+ไม้ในอดีต นะ นะ
 :z13:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นกำลังใจให้นะ. อ่านแล้วติด. ชอบ. 555. เป็นตัวละครที่เราอยากเป็นนะ. 555.

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นัท รู้ว่าไม้สำคัญ อยากอยู่กับไม้ไปเรื่อยๆ
แล้วถามตัวเองสิ ไม้สำคัญยังไง ขาดไม่ได้ใช่มั้ย
แล้วอยากให้ไม้มาอยู่กับตัวเองด้วย ในสถานะไหน
คิดสิผู้กองจอมทึ่ม   :m16: :m16: :m16:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
หลังจากที่ส่งพี่โยกลับไปแล้วผมกับไอ้ทัพก็ไปทำงานต่อ แม้จะวุ่นวายขนาดไหนไอ้ทัพก็ยังลากเขากลับไปบ้านทุกวัน แถมยังทำตัวติดกับผมทุกฝีก้าวราวกับกลัวว่าผมจะทำอะไรโง่ๆอย่างนั้นล่ะ เพียงแต่วันนี้มันต่างออกไป เสียงพูดคุยในบ้านมีเสียงของคนที่ผมคุ้นหูอยู่ เท้าที่กำลังก้าวเข้าบ้านหยุดชะงักจนไอ้ทัพหันมามองงงๆ
   “กูกลับไปนอนที่โรงงาน”
   “หยุดเลยมึง”
   แอ๊ก แม่งเดินมาล็อกคอเขาเฉยเลย ไอ้เพื่อนเวรรรร
   “กลับมาแล้วครับ” ไอ้ทัพเดินเข้าไปทักไอ้พี่ลมกับวาโดยที่ล็อกคอผมลากให้เดินตามไป
   กูหายใจไม่ออกแล้วเว้ยยยย
   ผมยกมือขึ้นตบหลังไอ้ทัพที่มันยังทำเนียนล็อกไม่ยอมปล่อย
   “แค่กๆ ไอ้........ทัพหายใจไม่ออกแล้วนะ(เฟ้ย)เล่นบ้าอะไร(ของมึงวะ)” ต้องมีการดูดเสียงเมื่อน้ำยังนั่งจ้องตาแป๋ว ขืนได้หลุดหยาบนี่คงโดนวาหมายหัวแน่ๆ ไอ้ทัพเพียงหยักไหล่แล้วเดินไปนั่งลงข้างๆลูกหมู ปล่อยให้ผมได้แต่ยืนเคว้ง
   “งั้นฉันขึ้นไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน” เพื่อหาทางออกให้ตัวเองผมเลยเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับคนที่ยังนั่งคุยกับพี่ลม
   “อืมไปเถอะ” มันโบกมือไล่ผมแล้วหันไปฟัดหลานต่อ แม่งเห็นหลานดีกว่ากูไอ้เพื่อนเลว ผมเลยได้ทีวิ่งขึ้นห้องปิดประตูห้องผมก็ทรุดลงนั่งพิงประตูทันที มันมาทำวะ เอาน่ามันอาจจะมาคุยกับพี่ลมสูดหายลึกนะไอ้ไม้ ทำเป็นเหมือนแค่คนรู้จักกันก็พอ หายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่แช่น้ำจนตัวเปื่อยออกมายังไม่เห็นไอ้ทัพขึ้นมาแม้เขาพยายามเตะถ่วงเวลาแต่ยังไงเขาก็ต้องลงไปอยู่ดี หวังว่าลงไปมันจะไม่อยู่ ผมเดินลงไปเรียกไอ้ทัพให้ขึ้นไปอาบน้ำ
   “กูขึ้นไปนะ” ผมพยักหน้าแล้วค่อยเดินเข้าครัว อ่าววาหาย ได้แต่โคลงหัวไปมาไอ้พี่ชายก็หายไปด้วยหนีไปสวีทกันที่ไหนวะ
   “อาไม้ น้ำหิว” น้ำอยู่คนเดียวไม่น่าจะใช่ วาไม่ยอมแน่ๆงั้นคนที่ยังอยู่ ไอ้นัท
   “ครับๆ มาเดี๋ยวอาน้ำเอาให้นะ ว่าแต่พ่อหายไปไหน อึบ” ผมอุ้มน้ำขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะก่อนที่จะถามหาพี่ชายตัวดี
   “ไม่รู้ครับ พ่อลมให้น้ำอยู่กับอานัทแล้วก็พาพี่วาไป” น้ำว่าพร้อมกับพองลมเต็มแก้มงอนที่พี่วาโดนฉุดไปสินะ ผมจิ้มแก้มป่องนั่นสองสามทีก่อนที่จะเดินเข้าไปตักกับข้าวที่วาทำไว้มาที่โต๊ะพร้อมกับจานข้าวสี่จาน ถ้าจะไม่ตักให้อีกฝ่ายก็จะเหมือนแล้งน้ำใจมากเกินไปเขาเลยตักมาเผือแต่ก็ไม่ได้เรียกคนที่นั่งคุยโทรศัพท์มาหรอกนะ
   “อ่ะกินเยอะๆนะเจ้าลูกหมู” ถ้าจะโทษว่าใครที่ทำให้เจ้าลูกหมูน้ำหนักเยอะขนาดนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะเขาส่วนหนึ่งที่ชอบพาน้ำไปกินอะไรอร่อยๆเมื่อมีโอกาสนั่นทำให้เจ้าลูกหมูจ้ำม่ำแบบนั้นไงล่ะ มองดูน้ำกินด้วยความสุขแล้วผมก็เริ่มกินบ้าง ไอ้ทัพทำไมยังไม่ลงมาอีกนะ นั่นกินจนข้าวพร่องลงไปครึ่งจานคนที่เขาไม่อยากเจอหน้าก็เดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว ทั้งที่อยากจะถาม ไหนว่าไปทำงานหนึ่งเดือนไงทำไมถึงได้กลับมาเร็ว เพียงแต่จะให้เขาเอ่ยปากถามก็คง..ไม่ เรื่องอะไรที่เขาจะต้องถามมันล่ะ ของร้องล่ะไอ้ทัพมึงรีบไสหัวลงมาซักที่เหอะ
   ความเงียบที่หน้าอึดอัดดำเนินต่อไปจนน้ำได้แต่มองหน้าผมและหน้าไอ้นัทสลับไปมาแล้วก้มหน้ากินต่อไป ส่วนผมก็พยายามไม่สนใจคนที่แอบจ้องผมอยู่ จะจ้องอะไรหนักหนาวะ หลังๆมานี่รู้สึกว่าผมจะทำได้แค่คิดในใจ เจอไอ้ทัพก็แพ้ทางมัน เจอไอ้นัทเขาก็ไม่อยากจะคุย
   “ผอมลงไปนะ” จู่ๆไอ้คนที่จ้องเขานิ่งก็พูดขึ้นหมายถึงเขาเหรอ แค่ไม่นานผมคงไม่ได้ผอมลงอะไรขนาดนั้นหรอกนะ เอ๊ะหรือกูผอมลงจริงๆวะ ผมเผลอก้มสำรวจเนื้อตัวว่าผอมลงไปจริงหรือเปล่ากว่าจะนึกได้ก็มีเสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้นเสียก่อนทำให้รู้ตัวว่าเผลอไปอีกแล้ว
   “น้ำอิ่มยังครับ” ผมหันไปถามน้ำที่พยักหน้าหงึกหงักตอบ
   “น้ำจะขึ้นไปอาบน้ำกับอาทัพ อาทัพชวนน้ำไปเล่นอาบน้ำด้วย” เจ้าลูกหมูว่างั้นก่อนที่จะลงจากเก้าอี้วิ่งตุ๊บตั๊บขึ้นด้านบน ซวยแล้วไงกู แล้วความเงียบก็แผ่กระจายทั่วโต๊ะกินข้าว
   ......................
   เมื่อเห็นว่าอีกคนก็ไม่คิดที่จะพูดอะไร ผมก็ลุกขึ้นถือถ้วยชามออกไปเก็บที่อ่างล้างจานก่อนที่คิดจะขึ้นไปข้างบน
   หมับ
   “เดี๋ยวสิ คุยกันก่อนนะไม้” นัทคว้าข้อมือเขาไว้ตอนที่เดินผ่านพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มที่ดูอ่อนแรงที่มีอ้อนวอนเจืออยู่ในน้ำเสียง
   “.....”ผมเงียบมองมือใหญ่ที่กำข้อมือเขารอบ
   “นะ.ไม้” ผมยอมนั่งลงตรงข้าม แต่พอนั่งแล้วมันก็เงียบไม่พูดอะไร ตกลงมันจะคุยอะไรกับผมกัน
   “ถ้าจะเงียบอย่างนี้ฉันก็ขอขึ้นไปนอนก่อน” ผมเตรียมที่จะลุกมันก็ยอมเปิดปาก
   “กูขอโทษ”
   “เท่านี้ที่มึงจะพูด” จะมาพูดทำไมวะ
   “ไม่ใช่ ที่กูขอโทษคือขอโทษที่ลืมสัญญาตอนนั้น” สัญญานั่น
   ปัง!!
   “มึงจะพูดขึ้นมาทำไม มึงจะกลับมาทำไม”ผมกระชากคอเสื้อมันพร้อมเค้นเสียงถามมัน มันจะกลับมาทำไม กลับมาตอนที่เขายังไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาได้ มายุ่งวุ่นวายให้เขาเขวทำไม
   “มึงคิดเหรอว่าแค่คำขอโทษจะทำให้กูรู้สึกดีขึ้น กูพอแล้ว มึงเข้าใจใช่ไหมกูพอแล้ว กูเหนื่อย” ผมก้มหน้าลงเพื่อซ่อนสีหน้าและดวงตาที่เริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่ผมกำลังอดกลั่นไม่ให้มันไหลออกมาเขาไม่อยากร้องไห้ให้มันเห็น เพราะทุกครั้งที่ผมร้องไห้มันไม่ได้อยู่ข้างผมซักครั้ง ผมไม่อยากอ่อนแอ
   “ไม้ กู......”
   “พอแล้ว...พอแล้วทุกอย่าง” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่ปล่อยมือออกจาคอเสื้อมันพร้อมกับเงยหน้าสบตากับคนที่มีสีหน้าคล้ายเจ็บปวด ทำไมล่ะกูต่างหากที่ต้องเจ็บปวด คนที่เจ็บปวดต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอ
   “ไอ้ไม้ มาหากูนี่” เหมือนสวรรค์เห็นใจผมส่งไอ้ทัพที่แม่งหายหัวไปนาน ผมเดินไปหามันซึ่งมันก็คว้าคอผมกดเข้ากับไหล่มันพร้อมกับมือที่ลูบหัวเบาๆ
   “เดี๋ยวกูจัดการเองจะร้องก็ร้องนะมึง” มันกระซิบบอกทันทีที่มันบอกผมก็เหมือนเขื่อนแตกมือกำชายเสื้อนอนของมันแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลซึมผ่านเสื้อไอ้ทัพ
   “กูว่ามึงกลับไปก่อนดีกว่านะ” เสียงไอ้ทัพดูจริงจัง
   “กูต้องการคุยกับไม้”
   “มึงนี่ดื้อด้านนะ อย่างที่มึงเห็นไอ้ไม้ไม่ต้องการเจอมึง ไม่อยากคุยกับมึง เพราะฉะนั้นมึงควรไปได้แล้ว” ผมได้แต่กำชายเสื้อไอ้ทัพไว้แน่น
   “แต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนาย พี่ลมก็อนุญาตแล้ว”ม
   “แต่มึงเห็นอาการไอ้ไม้ไหม กูว่ามึงไม่ต้องมาเจอมันอีกเลิกยุ่งกับมันได้แล้ว” แม้ไอ้ทัพจะห้ามปรามแต่เหมือนไอ้นัทจะไม่ยอมยังที่จะทู่ซี้จะคุยกับผม
   “ไม้มึงขึ้นห้องไป” ไอ้ทัพลูบหัวผมเบาๆ ผมพยักหน้าหงึกหงักกับไหล่กว้างแต่กอนที่ผมจะเดินหนีขึ้นข้างบน ข้อมือผมก็โดนมือใหญ่ดึงพร้อมกับถูกยกขึ้นพาดบ่า
   “เฮ้ย!!!” ผมได้แต่ร้องลั่น พอจะเงยหน้าเรียกไอ้ทัพ มันดันโบกมือลาหมายความว่าไงวะ ไอ้เพื่อนเลววววววววววววววววววววว แต่ก่อนที่ผมจะทำจะร้องแหกปากก็ถูกโยนเข้ารถกระบะคันใหญ่พร้อมกับคาดเข็มขัดให้เขาพร้อมเสร็จสรรก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นฝั่งคนขับแล้วบึ่งรถออกไป นี่มันเกิดบ้าอะไรของมัน

   Nut Part
   หลังจากที่คุยกับแม่ผมก็กลับมานอนคิดนั่งคิดแทบจะตีลังกาคิดผมก็เริ่มเข้าใจตัวเองขึ้นมานิดหน่อย เขาได้แต่คิดว่าทำไมต้องยึดติดกับไม้ อยากคุย อยากอยู่ใกล้  คิดถึงความห่วงใย คิดถึงอาการโก๊ะเปิ่นที่ผมมองว่ามันน่ารัก ความคิดที่ยุ่งเหยิงเริ่มตกตะกอน
   ผมชอบมันเหรอ
   ถ้านี่คือความรู้สึกชอบผมก็คงมีคำตอบเรื่องความรู้สึกและเรื่องที่ผมอยากจะให้มันมาอยู่ข้างๆผมอีกครั้ง แต่สิ่งที่ดังขึ้นในหัวคือคำที่แม่ว่า ไม้มันยังอยากกลับมาไหม ยิ่งคิดยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบีบรัดหัวใจ แค่รู้ว่ามันจะไม่กลับมาผมก็รู้สึกเสียใจจนแทบทนไม่ไหว ผมคงเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้แล้วสินะ
   รุ่งเช้าผมลงมาก็เห็นแม่ตั้งโต๊ะรอแล้ว ผมนั่งคนข้าวต้มจนมันจะเละเป็นโจ๊กอยู่แล้ว
   เพี๊ยะ
   “โอ๊ย แม่ตีผมทำไม” ผมยกมืออีกข้างขึ้นลูบมือที่โดนมือเล็กฟาดแรง
   “จะคนทำไมล่ะคะ กินเข้าไปสิ”
   “แม่ ผมจะไปหาไม้” แม่วางช้อนก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับผมแววตาของคนที่ผ่านโลกมามาก และยิ่งเป็นคนที่เลี้ยงดูผมมา แม่เข้าใจดีกว่าผมว่าผมรู้สึกยังไงด้วยซ้ำ
   “ไปหาทำไมล่ะคะ”
   “ผมเข้าใจที่แม่ว่าผมแล้วล่ะ ผมอยากให้ไม้อยู่ข้างๆผม” เหมือนผมเห็นดวงตานั้นมีประกายแปลกๆ แม่ยิ้มน้อยๆก่อนที่จะบอกว่าก็ต้องเตรียมตัวรับกรรมไปนะ ผมขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่จะเดินทางเข้าไร่สายลม ถามหาพี่ลมจะให้ไปหาไม้เลยผมคงจะปรับความเข้าใจไม่ได้ต้องมีผู้ช่วยซักหน่อย
   “ไง อะไรทำให้มึงโผล่หน้ามาไร่กู” น้ำเสียงที่ฟังดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ทำให้ผมเดาออกสามถึงสี่ส่วนว่าพี่ลมรู้เรื่องที่ผมกับไม้ทะเลาะกันแน่ๆ
   “ผมจะมาหาพี่เรื่องไม้”
   “เรื่องนั้นกูว่ามึงอย่าเลยดีกว่านะ” พี่ลมวางงานที่กำลังทำแล้วเดินเข้ามากอดคอเขาพร้อมกับพูดตัดความหวังที่จะได้ผู้ช่วยมา
   “ทำไมล่ะพี่ลม ผมอยากเจอไม้”
   “มึงทำให้น้องกูเสียใจมานานมากแล้วนะ กูไม่ได้เห็นมันร้องไห้หนักตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้วและกูก็ไม่ยอมปล่อยผ่านแล้ว” ได้แต่ยอมก้มหน้ารับคำต่อว่าที่มันเป็นเรื่องจริง แต่พี่ลมก็ถอนหายใจหนักเมื่อเห็นสภาพผม
   “กูจะให้โอกาสครั้งเดี๋ยวแต่ก็ไม่รู้นะว่าไอ้ไม้มันจะยอมคุยกับมึงไหม” ยิ่งพี่ลมบอกนั้นยิ่งเป็นการตัดความหวังที่ริบหรี่ของเขาให้น้อยลงกว่าเดิม
   “ผมก็ไม่รู้” พี่ลมเพียงส่ายหน้าแล้วก็ว่าให้ผมว่าฉลาดขึ้นมานิดหนึ่ง ผมโง่ตรงไหนกันเมื่อเห็นว่าผมอยู่ว่างๆพี่ลมก็ใช้งานผมทันที
   “พี่ลมจะแกล้งพี่นัททำไมครับ”น้องวามาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผมเมื่อเห็นว่าเสื้อยืดสีขาวตอนนี้มันเละจนแทบไม่เหลือสีเดิมแถมทั้งตัวยังชุ่มไปด้วยเหงื่อ
   “ใครแกล้งไม่มี๊ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับที่มันทำกับไอ้ไม้อีก” พี่ลมก็ยังสาดเกลือใส่แผลผมอีกครั้ง เอาเถอะผมผิดไปจริงๆ
   “ไม่เป็นไรครับน้องวา”
   “เล่นอย่างกับเด็กๆ” วาหันไปค้อนพี่ลมที่ดูมีความสุขที่ได้กลั่นแกล้งผม
   “อย่าช้าๆคนงานใหม่ เสร็จนี่ก็ไปช่วยขุดหลุมเตรียมปลูกส้มด้วยนะป่ะวาไปรับน้ำกัน อย่าอู้นะมึง” ผมได้แต่ถอนหายใจตั้งหน้าตั้งตาทำงานไปจนถึงเย็นผมถึงได้กลับไปพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ซักที และตอนนั้นที่ไม้กลับมา ยิ่งผมเห็นความสนิทสนมของสองคนนั่นผมยิ่งรู้สึกเหมือนอากาศหายใจน้อยลงไปทุกที หลังจากที่ไม้ขึ้นไปอาบน้ำพี่ลมกับวาก็บอกว่าจะพากันไปดินเนอร์ข้างนอก ส่วนทัพหลังจากที่ประเมินผมแล้วก็ยอมที่จะขึ้นไปข้างบนปล่อยให้ผมกับไม้ได้อยู่ด้วยกัน
   ไม้ไม่ได้โวยวายแต่น้ำเสียงที่พูด มือสั่นเทาที่กำคอเสื้อผมแน่นทำให้ได้รู้ว่าไม้เจ็บปวดแค่ไหน ผมทำร้ายไม้มานานแค่ไหนแล้ว มองดูไม้ที่ไม่ร้องไห้ต่อหน้าผมแต่ร้องไห้กับเพื่อนสนิทแล้วยังมือที่ลูบหัวนั่นอีก
   เอามือนั่นออกไปนะ
   เท่านี้ผมคงเข้าใจ หัวใจตัวเองแล้วสินะผมถึงได้ไปฉุดคนที่ไม่ยอมร้องไห้ให้ผมเห็นขึ้นรถ ผมขับรถออกจากไร่เหลือบมองคนที่ไม่ยอมสบตาแถมยังไม่ยอมมองหน้าผมด้วยจนกระทั่งผมจอดรถที่บ้านหลังเล็กที่ผมซื้อไว้นานแล้ว
   “ลงมาสิ” ยืมมองคนที่ยังก้มหน้ามือกุมกันแน่นที่หน้าตัก เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมลงมาผมก็เลยฉุดลงมาลากเข้าบ้านพร้อมกับปิดประตูแน่นหนา
   “จะคุยกันก่อนได้ไหม” ผมนั่งลงข้างๆไม้ที่ยังไม่มองหน้าผมจนผมต้องบังคับให้ไม้หันมามอง
   “ไม่ฉันบอกนายไปแล้ว” ผมมองตาที่แดงก่ำที่ดูก็รู้ว่าร้องไห้หนักแค่ไหนผมยกมือลูบเบาๆที่ใต้ตาช้ำนั่น
   “ขอโทษที่ทำนายร้องไห้อีกแล้ว” ยิ่งผมพูดดวงตากลมที่เคยเปล่งประกายในความทรงจำตอนนี้กลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
   “อึก ฉันบอกว่าพอแล้วไง” น้ำเสียงแหบพร่านั่นยิ่งทำให้ไม้ดูน่าสงสารทั้งยังที่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลยิ่งทำให้ผมเจ็บปวดไปด้วย
   “ฉันไม่ยอมหรอกนะ ฉันจะไม่ยอมปล่อยนายไปอีกแล้ว”ผมดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด
   “อึก พอแล้ว ฮืออ”ทันทีที่อยู่ในอ้อมแขนผมไม้ก็ปล่อยโฮเหมือนเด็กๆความเปียกชื้นที่ที่ซึมผ่านเนื้อผ้าทำให้หัวใจของผมเหมือนถูกบีบรัดโดยมือที่มองไม่เห็น
   “ชู่ ไม่ร้องแล้วนะ” ยิ่งผมปลอบไม้ก็ยิ่งร้องไห้หนักผมลูบแผ่นหลังที่ดูบอบบางของไม้ไปมา ผ่านไปพักใหญ่ไม้ก็นิ่งเงียบไปจนผมแปลกใจเลยคลายอ้อมกอดก็เห็นว่าไม้นั้นหลับไปแล้ว
   ผมอุ้มไม้ที่ตัวเบากว่าที่เห็นไปนอนบนเตียงก่อนที่จะหยิบผ้าขนหนูไปชุบน้ำแล้วมานั่งลงข้างๆคนที่นอนหลับทั้งๆที่หน้าเต็มไปด้วยรอยน้ำตา ค่อยๆบรรจงใช้ผ้าขนหนูซับตามแก้มเนียนลบคราบน้ำตาที่เปื้อนไปทั่ว ขอบตาแดงก่ำนั่นยิ่งทำให้ดูน่าสงสารและคนที่ทำให้ร้องไห้ก็ไม่ใช่ใครเป็นผมเอง
   “อือออ อึก” เสียงละเมอพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนั่นยิ่งทำให้ผมปวดใจ ผมโยนผ้าทิ้งไปส่งๆก่อนที่จะล้มตัวลงนอนรั้งคนที่หลับเข้ามากอด หวังว่าตอนที่ตื่นขึ้นมาไม้จะยอมฟังผม
   
   ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้ายผมก้มมองคนที่ยังนอนหลับในอ้อมแขนซุกหน้ากับอกผมนั่นทำให้ผมถอนหายใจโล่งอก นอนมองคนที่หลับสนิทในอ้อมกอดแล้วรู้สึกเหมือนนี่คือสิ่งที่เหมาะเจาะกับสิ่งที่ขาดหายไปของผมได้อย่างพอดี  ซักพักคนในอ้อมกอดก็ขยับตัวขนตาแพหนากระพริบถี่ๆเหมือนยังงงว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก่อนที่จะผงะดันผมออก
   “ตื่นแล้วเหรอ”
   “ปะ...ปล่อยนะ” น้ำเสียงสั่นแหบพร่าพวงแก้มแดงระเรื่อนั่นยิ่งทำให้ผมมองเห็นว่าไม้...น่ารัก
   “ไม่ปล่อยคุยกันก่อนได้ไหม ขอร้องล่ะ” แตะเบาๆที่แก้มเนียนไม้สะดุ้งแต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆเหมือนรอฟังผมพูด
   “อาจจะเหมือนข้อแก้ตัวที่เห็นแก่ตัวแต่ขอโทษที่ลืมคำสัญญานั่น” คนในอ้อมแขนตัวสั่นเทาเมื่อพูดถึงคำสัญญานั่น
   “และจะเป็นอะไรไหมที่ฉันจะขอใช้สัญญานั่นตอนนี้จะได้ไหม” ไม้แทบจะเงยหน้ามองผมทันทีที่พูดจบ ใบหน้าไม่ปิดบังความไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูดเลยซักนิด
   “ฉันรู้ตัวช้า เราคบกันนะ” ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ หน้าเหวอๆของน้ำแทบจะทำให้ผมหลุดขำถ้าไม่ใช่ว่ากลัวอีกคนโกรธผมคงขำไปแล้ว
   “ดะ....เดี๋ยวสิ มันต้องมีอะไรผิดแน่ๆ ปล่อยเลยนะเว้ย” พอหายตกใจมันก็กลับมาดื้อจนผมต้องปล่อยให้มันลุกขึ้นนั่ง ผมที่ชี้ฟูกับอาการตกใจนั่นยิ่งทำให้ผมเห็นว่าไม้น่ารักจริง นี่ผมพลาดไปได้ยังไงตั้งนาน
   “มึงเล่นบ้าอะไรของมึง” มันหันมาทำหน้าจริงจังกอดอกพร้อมกับจ้องหน้าผมนิ่ง
   “ยอมมองหน้ากูแล้วรึไง” มันแทบจะยกมือฟาดแต่ก็ห้ามตัวเองไว้ได้ทันแล้วมาจ้องหน้ากดดันผม
   “ไม่ได้ล้อเล่น กูพูดจริงๆกูผิดเองที่โง่มานานให้โอกาสกูได้ไหม” ผมดึงมือมันมากุมไว้พร้อมกับลูบเบาๆ
   เผาะ
   หยุดน้ำตาร่วงเป็นสายนั่นยิ่งทำให้ผมใจเสียเพราะกลัวใจไม้ที่มันจะไม่ยอมให้โอกาสผม
   “ไม้กูขอโทษที่ผ่านๆมากูกลับไปแก้ไขมันไม่ได้ แต่ขอร้องล่ะให้โอกาสกูได้ไหม”ตอนนี้ให้ผมทำอะไรก็ยอมทั้งนั้นขอเพียงให้ไอ้ไม้ให้โอกาส
   “อึก มึงจะไม่ผิดสัญญากับกูอีกแล้วใช่ไหม”
   “กูจะไม่สัญญาแต่กูจะให้มึงรอดูที่การกระทำของกู มึงจะให้โอกาสกูไหมไม้” ผมมองคนที่ก้มหน้าเงียบไม่พูดไม่จา ถ้าเทียบกับสิ่งที่ผมทำผิดไปผมแทบไม่มีความมั่นใจเลยว่ามันจะให้โอกาสผม ขอแค่ความหวังเล็กๆให้กับคนที่พึ่งรู้ตัวแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
***************************************************
ลงตอนใหม่สั้นๆนะคะ

ปั่นงานหัวหมุนเลยล่ะคะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าาาา หลังจากนี้อาจจะได้ลงช้า

คงไม่น่าจะเกินวันพุธนะคะ

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
อ้าววว
 :a5:
ไม้เป็นนายเอกหรอกหรือ ที่ผ่านมาหลงเข้าใจผิดซินะ
แต่ก็ไม่เป็นไร ขอให้สมหวังนะ อย่าได้ร้องไห้อีกเลย

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
อ้าววว
 :a5:
ไม้เป็นนายเอกหรอกหรือ ที่ผ่านมาหลงเข้าใจผิดซินะ
แต่ก็ไม่เป็นไร ขอให้สมหวังนะ อย่าได้ร้องไห้อีกเลย
เดี๋ยววนี่คิดว่าไม้เป็นพระเอกเหรอฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นัท รู้ล่ะสิว่าที่ผ่านมา ว่าตัวเองน่ะโง่
แต่โง่แบบทำให้ตัวเองมีความสุขนี่ ใช่ป่ะ เพราะคบสาวๆไปเรื่อย
แต่ไม้ อยู่กับความทุกข์ทรมาน มองนัทที่มีความสุข เพราะนัทลืมสัญญา

ยังดีที่นัท รู้สึกตัวได้ ฉลาดขึ้น มาง้อไม้
เข้าใจกันได้ซะที รู้ละสิว่าไม้ น่ารัก
นัท ไม้  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
จะได้อ่าน nc  ใช่มั้ยไรท์ที่น่ารัก รอนะะะะะ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด