หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]  (อ่าน 178603 ครั้ง)

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #150 เมื่อ14-05-2017 00:56:08 »

ยังรู้สึกว่าอาหงส์ไม่ได้รักเฮียหรอก อาจจะมีเคลิ้มๆบ้าง แต่ยังไม่รักแน่ๆอ่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #151 เมื่อ14-05-2017 04:49:02 »

เฮียสะกดจิตหงส์ อิอิ

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #152 เมื่อ14-05-2017 06:28:06 »

 :hao7:
หวานจนใจละลายแล้วเด้ออออออ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #153 เมื่อ14-05-2017 08:31:32 »

เอาเลาเข้าช่องฟรีซที ละลายล้าวววววววว//หงส์บอกเฮียหลงไม่ได้บอกมึง :z6:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #154 เมื่อ14-05-2017 08:42:21 »

ตามๆๆๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #155 เมื่อ14-05-2017 09:27:21 »

เฮียไป่ แก หลง น้องจริงจังมากกกกก

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #156 เมื่อ14-05-2017 10:31:19 »

 o13

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: หงส์ซาน #7 ดูแล [P.5][13-5-2017] 100%
«ตอบ #157 เมื่อ14-05-2017 16:00:49 »

อาเฮียแกหลงเมียเด็กน่าดูเลย 5555

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
หงส์ซาน #8 หัวใจไหวไม่เป็นจังหวะ


 
‘หงส์รักเฮียหลง’

อ้ากกกกกก

ไอ้สมองบ้า ไอ้สมองระยำ ไอ้สมองเจ้ากรรม จะไปคิดถึงคำพูดนั้นทำไมกัน!!

ผมในจินตนาการกำลังพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะใช้ยางลบแท่งใหญ่ๆ ลบคำพูดเมื่อกี้ออกจากหัว

มันต้องเป็นนักสะกดจิตแน่ๆ แล้วเป็นบ้าอะไรมาสะกดจิตให้ผมรักมัน ต้องการอะไรจากผม!!

ไม่รู้ว่ายาจีนที่มันป้อนดีหรือว่าเพราะร่างกายผมปรับสภาพได้แล้ว สองวันผมก็เดินได้คล่อง เคล็ดขัดยอกนิดหน่อยเท่านั้น ผมบอกมันว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ มันบอกจะพาไป แต่ขอเคลียร์งานก่อน จะพาไปกินข้าวเย็นกับคนที่บ้าน

“เจ็กหงส์!”

ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียงเรียก ฉีกยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

อาฮง
หลานผมเองครับ คงจะมาทำหน้าที่พาผมกลับบ้านตามธรรมเนียม ผมรีบเดินเข้าไปกอดคอหลานแน่นทันที ห่างกันแค่อาทิตย์เดียวก็คิดถึงได้เหมือนกัน

“ได้ข่าวว่าป่วยเหรอเจ็ก”

ผมแก้มร้อนผ่าวกับคำถามนั้น ไม่กล้าบอกว่าโดนเอาจนนอนซม

“นิดหน่อย ผิดที่”

หลานผมพยักหน้ารับหงึกๆ

“มาไง”

“ตอนแรกอากงจะให้คนที่บ้านมาส่ง แต่อั๊วแวะไปทำธุระจึงนั่งแท็กซี่มาเอง”

ผมพยักหน้ารับทราบ หลานผมกวาดมองไปรอบๆ

“บ้านโคตรใหญ่ กว้างกว่าบ้านเราอีก”

ผมแอบเบ้หน้า ไม่ได้ออกความเห็นอะไร

“ดีนะที่มีปลาคาร์ปให้เจ็กไม่เหงา”

“มาเล่นกับเจ็กบ่อยๆ สิ”

“เรียนแทบจะไม่ได้โงหัวโงหาง”

ผมหน้าบูดใส่ พี่ๆ ผมรวมถึงหลานๆ ทุกคนได้เรียนกันในโรงเรียนดีๆ ทั้งนั้น ยกเว้นผมนี่แหละที่อาป๊าให้เรียนที่บ้านตั้งแต่จำความได้ เพราะงี้แหละผมถึงได้ชอบแผลงฤทธิ์

ประมาณสี่โมงครึ่ง รถของไอ้บ๊วยก็วนเข้ามาจอดภายในรั้วบ้าน วิกเซอร์วิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้ ผมไม่ได้ขยับ เพียงแต่มองตามเท่านั้น หลานผมรีบยกมือไหว้คนตัวสูงทันที

“มานานแล้วเหรอ”

“ครับ อาเตี๋ยหลง”

“เจ็กหลง”
ผมรีบแก้ให้หลานเปลี่ยนคำพูดทันที (อธิบายกันนิดนะครับ สำหรับคนที่ไม่รู้ อาเตี๋ยที่ฮงเรียกคือพี่เขยครับ นั่นหมายถึงผมจะอยู่ในฐานะเมียมันทันที ซึ่งผมไม่ยอม) 

“อ่า..ก็เขาเป็น”

“เจ็ก”
ผมบอกสั้นๆ เสียงขุ่น

“เรียกเจ็กก็ได้ฮง รอก่อนนะขอเจ็กไปอาบน้ำก่อน”

“ครับ”

“มานี่สิอาหงส์”

ผมมองตามคนเรียกงงๆ

“ไปทำไม”

“มาก่อน เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อนออกเดินทาง”

ผมนิ่งคิด บางทีอาจมีเรื่องต้องคุยกันจริงๆ ก็ได้ ผมพยักหน้า เดินตามไปติดๆ พอเข้าห้อง มันก็ดึงผมเข้าไปกอดทันที กดจูบลงมา จูบไม่จูบเปล่า สอดลิ้นเข้ามาด้วย ผมครางอื้อในลำคอ สมองกำลังประมวลผลกับสิ่งที่เกิดขึ้น

นี่มันหลอกผมเข้ามาจูบเหรอ!!

พอสาแก่ใจมันก็ค่อยๆ คลายปล่อย ปากชาช้ำไปหมด มันใช้ปลายจมูกเกลี่ยริมฝีปากผมไปมา

“อยู่บ้านคิดถึงเฮียบ้างรึเปล่า”

“ไม่”
เป็นคำตอบที่หนักแน่น มั่นคงและรวดเร็วจนผมยังทึ่ง ผมน่าจะไปเล่นเกมชิงรางวัลนะเนี่ย น่าจะชนะ

“เหรอ ไม่ได้คิดสักนิดเลยเหรอ”

“ไม่”
ผมตอบกลับรวดเร็วและน้ำเสียงโทนเดิม มันหัวเราะหึๆ

มึงจะดมอะไรกูหนักหนา

“แต่เฮียคิดถึงหงส์นะ คิดถึงคำพูดที่หงส์บอกรักเฮียด้วย”

อ้ากกกกก กูไม่ได้ตั้งใจจะพูดกับมึง มึงบังคับให้กูพูดเองต่างหาก มึงบังคับให้กูรู้สึก นี่กูอุตส่าห์ลืมมันไปแล้วแท้ๆ มาพูดทำไมให้กูได้ย้อนเวลาไปหาจิ๋นซี

ผมร้อนไปทั่วทั้งหน้าลามไปถึงหู

“หน้าแดงเชียว เขินเฮียเหรอ”

เปล่า กูกำลังโกรธมึงอยู่ต่างหาก!

ผมมองมันตาขุ่นขวาง ชี้มาที่ปากตัวเอง

“เฮียอ่านปากหงส์นะ”

มันจ้องปากผมตาม สีหน้าดูลุ้นนิดๆ

“หงส์..รัก..เฮีย”

ตามันมีแววดีใจนิดๆ

“นั่นเป็นคำพูดที่หงส์ไม่ได้รู้สึก แต่ถ้าเอาตามความรู้สึกคือ อ่านปากนะ อ่านปาก”
ผมจิ้มให้ดูชัดๆ

“หงส์ เกลียด เฮีย ชัดยัง!!”

มันนิ่งไป นิ่งแบบนิ่งจริงๆ นัยน์ตาดีใจก่อนหน้าเรียบสงบลง

“ออกไปรอเฮียข้างนอกก่อนก็ได้ เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน”
มันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ คลายปล่อยผมออกจากอ้อมแขน เดินเข้าห้องน้ำไป

ผมยืนเคว้ง

คือเอาตามจริง ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยพูดว่าเกลียดใครสักคน เพราะไม่เคยมีคนทำให้ผมรู้สึกเกลียดมาก่อน

และถามว่าผมเกลียดมันจริงๆ ไหม ก็เกลียดนะ เพราะมันบังคับผมทุกอย่าง ทำให้ผมเจ็บตัว ทำให้ผมระบม ทำให้ผมหมดศักดิ์ศรี ทำให้ผมเป็นของมัน

และตอนนี้ มันกำลังทำให้ผมคิดถึงแต่เรื่องของมัน

ใช่ ผมเกลียดมัน…
เพราะมันทำตัวอยู่เหนือชีวิตผม

ผมเกลียดมัน…
เพราะตอนนี้ในหัวผมมีแต่เรื่องของมัน ภาพมัน

ผมยืนนิ่ง มองผ่านบานประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท ได้ยินเสียงน้ำดังซู่ คาดเดาเอาว่าคนด้านหลังบานประตูคงกำลังอาบน้ำอยู่

ผมหันหลังทันทีเพื่อออกไปให้ห่างที่สุด

นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เกิดไม่ใช่เหรอ ให้เขารู้สึกไม่พอใจ รู้สึกไม่ดี โกรธ หรืออะไรก็ตาม เพื่อให้เขายอมหย่ากับผมเร็วๆ

แต่เมื่อกี้ รู้สึกว่าบ๊วยมันกำลังเสียใจ

มันเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้วางแผนไว้แต่ต้น ผมถนัดทำให้คนโกรธแล้วแลกหมัด แต่ไม่ถนัดทำให้คนเสียใจ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ลูกผู้ชาย

แล้วมันจะมาเสียใจกับผมเรื่องอะไร เราแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ สิ่งที่มันต้องการ มีเพียงลายเซ็นผมเพื่อใช้ในสัญญาธุรกิจเท่านั้น

ส่วนเรื่องบนเตียง อาจเพราะอารมณ์พาไป ได้ลองของใหม่ ขนาดผมที่ขยะแขยงเรื่องพวกนี้ยังมีอารมณ์ง่ายๆ มันก็ผู้ชาย จะสนุกสนานรื่นเริงหลงใหลก็ไม่แปลก



“เจ็ก!!”
ผมสะดุ้งเฮือกตอนถูกเรียก เบรกกึก ตรงหน้าอีกแค่ครึ่งก้าวคือต้นไม้ขนาดใหญ่ ผมมองตะลึง นี่ถ้าไม่มีเสียงของอาฮง ผมคงได้เดินชนต้นไม้แน่ๆ 

หลานผมรีบเดินเข้ามาหา จับผมไปอังหน้าผากเบาๆ

“เหม่ออะไรขนาดนั้นเจ็ก ยังไม่หายป่วยเหรอ”

ผมพยายามปรับอารมณ์ พยักหน้าใส่นิดๆ

“คงงั้น”

ผมมองหน้าหลานชายคนโตของบ้าน มันหล่อเอาการ เป็นความหล่อที่ถูกผสานกันมาได้อย่างลงตัวจากทั้งพ่อและแม่ ของผมได้พ่อมาแค่อย่างเดียวคือคิ้วที่เรียงกันเป็นทางดูชัดกว่าแม่ที่คิ้วบาง จมูกไม่ได้โด่งอย่างพ่อ แต่เชิดงอนนิดๆ เหมือนเหล่าม๊า

ครับ ผมได้จมูกคุณทวดมาแทนที่จะเป็นจมูกพ่อหรือแม่ ผ่าไปไกลมาก ป๊าเคยบอกว่าเป็นจมูกของเด็กดื้อ

ผมดื้อตรงไหน ก็แค่มีความคิดเป็นของตัวเองเท่านั้น

เพราะป๊ากลัวผมเกเรถ้าขืนส่งไปเรียนที่อื่น จึงเลือกที่จะหาครูดีๆ มาสอนผมที่บ้านมากกว่า

แต่มันก็ได้ผลนะ ขนาดสอนอยู่บ้าน ผมยังปีนกำแพงรั้วหนีมาแล้วนักต่อนัก ขืนไปเรียนที่โรงเรียนด้านนอกจริง ผมคงเป็นหัวหน้า หรือไม่ก็ลูกน้องแก๊งเด็กเลวที่ไหนสักแห่งแน่ๆ

เหล้า ป๊าก็ไม่ให้ดื่ม บุหรี่ ม๊าก็ไม่ให้แตะ ถูกเลี้ยงดูเหมือนหงส์สมชื่อนั่นแหละ

ริมฝีปากผมได้เหล่ากง เวลาปกติมันก็ดูเหมือนยิ้ม แต่เวลาอารมณ์เสียมันก็คว่ำได้ใจ ซันไรส์บอกผมเป็นคนอ่านง่าย แต่ผมว่าพวกนั้นอัจฉริยะมากกว่า

ผมมีผมสีเดียวกับม๊า ผิวขาวเป็นเรื่องปกติของคนไทยเชื้อสายจีน ตัวไม่ยืดอีกเลยตั้งแต่อายุ 16

ทำไมผมไม่เก่งแบบเฮียหยก ทำไมผมไม่หล่อเท่าเหล่าอาเฮีย ทำไมผมไม่ได้รับการไว้วางใจแบบคนอื่นบ้าง

“เป็นไรเจ็ก อยู่ๆ ก็ทำหน้าเศร้า ไหวไหม พักก่อนก็ได้นะ กลับวันหลังก็ได้ พวกอาม๊าอากงเข้าใจ”

ผมหันไปยิ้มใส่หลานชาย ลูบหัวเบาๆ

“มีเรื่องให้เจ็กคิดน่ะ เหนื่อยไหมอาฮง”

“เรื่องเรียนเหรอ เหนื่อยมากเจ็ก ต้องตื่นแต่ตีห้า อ่านหนังสือ ไปโรงเรียน ทำกิจกรรม กลับมาทำการบ้าน แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นี่แค่มอต้นนะ มอปลายจะขนาดไหน มหา’ลัยอีก”

ผมจับหัวหลานโยกเบาๆ ฮงเป็นเด็กเรียนดี เชื่อฟังผู้ใหญ่ อาจจะเพราะเป็นพี่คนโตของบ้านด้วยล่ะมั้ง หน้าที่ความรับผิดชอบต่อครอบครัวค่อนข้างสูง บางครั้งผมก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เกิดเป็นพี่คนโต เพราะเห็นแล้วเหนื่อยแทน เหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่มันก็ได้ความภาคภูมิใจกลับคืน ผมว่าเฮียหยกคงถูกหล่อเลี้ยงให้มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิใจนี่แหละ

ภูมิใจที่ทำให้ครอบครัวก้าวหน้าต่อไป ภูมิใจที่ได้ดูแลธุรกิจ ภูมิใจที่ทำให้พ่อแม่ปู่ย่าตายายภูมิใจด้วย

“ลื้อโชคดีมากรู้ไหมฮง”

เด็กมันมองหน้าผมงงๆ

ผมแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แสงสว่างอันร้อนแรงยามบายโรยลงบ้างแล้ว

“ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เรียนกอไก่ถึงฮอนกฮูก เรียนจบแค่ชั้นปอสี่ หรือไม่ก็ไม่ได้เรียนเพราะไม่มีเงินมีทอง หรือมี แต่ไม่ได้เรียนหลักสูตรปกติแบบคนอื่นเขา”

“อย่างเจ็กใช่ไหม”
เด็กมันต่อให้ ผมไม่ตอบ แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอยู่อย่างนั้น

“กงของลื้อมีเหตุผล”
ผมสอนหลานไปงั้น แต่เอาตามจริงลึกๆ แล้วผมก็ยังเสียใจที่ไม่ได้ไปเรียนแบบคนอื่น

“อาป๊าเคยบอกเหตุผลที่ไม่ให้เจ็กไปเรียนข้างนอกแล้ว”

ผมพยักหน้า เลื่อนมือจากหัวลงไปพาดรอบบ่า

“โตขึ้นเยอะเลยนะเรา อีกหน่อยคงโตแซงเจ็กไปไกล”

อาฮงหัวเราะร่วน

“ฮงชอบออกกำลังกายเจ็ก เหนื่อยขนาดไหนก็ลงไปเล่นบาส ป๊าชอบลากฮงไปตีเทนนิสด้วย”

“เออ เนอะ ไม่ได้ตีนานละ อยากตีเหมือนกัน วันไหนว่างๆ โทรหาเจ็กนะ เราไปตีเทนนิสกัน”

“เอาสิ”
ฮงบอกด้วยน้ำเสียงดีใจ

ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านหลัง ผมหุบยิ้มลงเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาแต่นิ่งเรียบของคนที่เดินมา ผมว่าหน้ามันบูดยิ่งกว่าตอนก่อนอาบน้ำอีก

ผมเดินเข้าไปใกล้ พูดกับมันไม่ให้ฮงได้ยิน

“ถ้าไม่อยากไปขนาดนั้นยกเลิกก็ได้”

มันจ้องตาผม ไม่พูดอะไร โอบไหล่ผมไว้ พยักหน้าใส่ฮง

“ป่ะ”

ฮงยิ้มร่า เดินไปที่รถ ผมพยายามจะดึงตัวออก แต่มันยึดจับแน่น

“ตอนนี้เรากำลังแสดงบทผัวเมียกันนะ ในระยะเวลานี้ กรุณาทำตัวให้เหมือนด้วย”

ผมนิ่งไป เงยหน้ามอง

พูดแบบนี้แปลว่าจะมีวันที่มันจะปล่อยให้ผมเป็นอิสระใช่ไหม

ไม่มีเวลาและโอกาสได้ถาม ซันไรส์เปิดประตูให้ อาฮงนั่งเบาะหน้าคู่กับวิกเซอร์คนขับ ส่วนผมนั่งหลังกับมัน ซันไรส์ขับตามมาด้วยรถอีกคัน

ผมนั่งตื่นเต้น คุยน้ำลายแตกฟองกับฮง ไม่พูดกับบ๊วยมันสักคำ ในขณะที่มัน นั่งหน้าเครียดมาตลอดทาง

คงเกร็งที่ต้องกลับบ้านไปพบพ่อแม่ผม
 

พอรถจอดสนิท อาฮงลงไปก่อน ผมรีบถลาตามลงไปทันที วิ่งเข้าไปกอดม้า ส่วนป๊าไม่กอดหรอก กอดเฮียฮันด้วย ไอ้บ๊วยให้ลูกน้องมันนำของเยี่ยมของฝากตามธรรมเนียมมาให้ป๊ากับม้าเพียบ อาฮงนี่ได้อังเปาซองอย่างหนา

ลาภปากเด็กไป

“ไปทำอีท่าไหนมาถึงไม่สบาย หายแล้วรึยังลูก” ม้าลูบหัวผมเบาๆ ถาม ผมหน้าร้อนผ่าว อยากบอกม้าเหลือเกินว่าหลายท่ามาก แต่ไม่เอาครับ เดี๋ยวแม่ช็อก

“หายแล้ว คงเป็นไข้เพราะแปลกที่”

“ไม่ได้ไปดื้อกับอาเฮียเขาใช่ไหม”

“อั๊วเคยดื้อด้วยเหรอ”

“มีด้วยเหรอที่ลื้อจะไม่ดื้อ อาหงส์”
เฮียฮันสวนมาทันที ผมหน้าบูด

“อาหงส์ดื้อกับลื้อมากไหมอาหลง”
อาป๊าถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คงกลัวว่าผมทำให้ไม่พอใจมากๆ แล้วมีผลกับธุรกิจล่ะมั้ง

“ไม่มากครับ ผมเอาอยู่”
เหมือนโดนระเบิดหล่นใส่หัว มีผลทำให้ตัวผมไหม้ในบัดดล

ใช่ เอาอยู่มาก

เอาจนสะโพกคราก นอนซมไปสองสามวันต่อครั้งเลย

“ไปๆ เข้าไปกินข้าว นี่ม้าลงมือทำเองเลยนะ ของโปรดลื้อทั้งนั้น”
ม้าพาผมเข้าบ้าน ผมฉีกยิ้ม ก้าวตามไปติดๆ ไอ้บ๊วยเดินตาม รั้งท้ายด้วยบรรดาลูกน้องของมัน แต่ไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะด้วยหรอก ยืนอยู่แถวๆ หน้าประตูนั่นแหละ

ผมคุยน้ำไหลไฟดับกับคนที่บ้าน ส่วนมันก็ถูกถามไถ่พอประมาณ ที่เหลือก็คุยกับป๊าเรื่องงาน

อยากอยู่นานๆ แต่เผลอแผล็บเดียวก็สามทุ่มแล้ว ป๊าบอกให้กลับเพราะเกรงใจไอ้บ๊วย ผมอิดออดได้ไม่นานก็ต้องกลับตาม บอกลาทุกคน เดินหน้ามุ่ยขึ้นรถ

พอรถเคลื่อนที่ ผมหันกลับไปมองด้านหลัง เหมือนเด็กน้อยสักคนที่กำลังจะจากไปแดนไกล พอลับตาผมก็หันกลับมาที่เดิม ไอ้บ๊วยยังนั่งหน้านิ่ง

“เหนื่อยเหรอ”
ผมเดาเอาจากความเงียบของมัน

“ห่วงด้วยเหรอว่าจะรู้สึกยังไง”

“ถามตามมารยาทไปงั้น”
แล้วผมก็นิ่งไป ไม่อยากยุ่งด้วยอยู่แล้ว

“หงส์”

“หือ?”
ผมหันไปขานรับ ก่อนร้องเหวอ เพราะถูกดึงขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักกว้าง

“ทำบ้าอะไรเนี่ย!!”

“นั่งอยู่เฉยๆ น่า”

“จะบ้ารึไง ให้นั่งเฉยๆ ในท่าทุเรศแบบนี้เนี่ยนะ อายวิกเซอร์บ้าง!!”

“อายทำไม วิกเซอร์ขับรถ”

“ปล่อยสิโว้ย ไอ้หน้าด้าน”
ผมพยายามดิ้นขลุกขลัก รถมันก็เบาะกว๊างกว้าง

“นั่งนิ่งๆ”
มันสั่งต่อ โอบรอบลำตัวผมไว้จนเนื้อตัวแนบประสาน สภาพตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตาหมีที่ถูกเด็กน้อยสักคนกอดแน่น

“ที่นั่งตั้งกว้าง ต่างคนต่างนั่งไปดิ”
ผมยังไม่หยุดยื้อ มันไม่พูดอะไร โอบกอดผมไว้จนรอบ รู้สึกถึงริมฝีปากที่กดลงมาบนหัว ยิ่งกอด หัวใจผมยิ่งแนบประสานเข้ากับหัวใจมัน

พอสู้ไม่ได้ยกนี้ผมจึงต้องยอมแพ้ไปตามระเบียบ ยอมนั่งนิ่งๆ ให้มันโอบกอดไว้แบบนั้น

“บ้า โรคจิต ประสาท วิปริต”
ผมด่ามันไปให้ได้ยินเบาๆ เสียงผมมันคงดังหึ่งๆ เป็นยุงตอมหู

“อย่าให้เฮียเกิดอารมณ์ในรถอาหงส์”

“นั่นแหละที่ว่าบ้า โรคจิต วิปริต ชอบเกิดอารมณ์ในที่สาธารณะ ปล่อยสิเว้ย”

“ด่าเฮียอีกคำเดียว จะเมคเลิฟตรงนี้ให้วิกเซอร์ดู”

ผมหุบปากลงฉับ นั่งนิ่งให้มันกอดเพียงอย่างเดียว ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ

เปล่าครับ ไม่ใช่จากไอ้บ๊วย แต่มาจากคนขับต่างหาก

ไอ้วิกเซอร์ ขอร้องล่ะ ถึงรู้ว่าเป็นพี่น้องซันไรส์ แต่อย่าได้หัวเราะเย้ยหยันกูแบบพี่มึงได้ไหม!!

ผมพลิกเอียงหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ดูวิวข้างทาง กลิ่นตัวมันลอยคลุ้ง มันเป็นกลิ่นเท่ๆ แต่นุ่มนวล วงแขนมันคล้ายปีกนก โอบกอดผมไว้จนแน่น ได้ยินเสียงหัวใจกำลังเต้น ผมขมวดคิ้ว

แล้วที่ได้ยินตอนนี้ เป็นเสียงหัวใจของใครกันแน่

ผมนิ่งฟัง มันมีทั้งหัวใจของมันและหัวใจของตัวผมเอง ยิ่งเอียงหน้าแนบแบบนี้ยิ่งได้ยินเสียงชัด มันกระชับกอดผมแน่นขึ้นไปอีก ปากจูบซับบนหัวผมครั้งแล้วครั้งเล่า

“ได้ยินเสียงหัวใจเฮียหรือเปล่าอาหงส์”

“ไม่ได้ยิน”
ผมปฏิเสธ ทั้งๆ ที่ได้ยินชัดเลย

“ฟังสิ ฟังเสียงหัวใจเฮีย ฟังว่ามันเต้นยังไง เต้นในจังหวะของใคร”

“ทำไมต้องฟัง ไม่ฟัง”
ผมงัดหัวตัวเองขึ้น แต่ถูกกดจนหูแนบตำแหน่งหัวใจมันตามเดิม

“นี่ ถ้าอยากตรวจหัวใจตัวเองขนาดนั้น โทรเรียกพี่หมอมาเลย รับรองรู้อาการ เผื่อเป็นโรคหัวใจจะได้รีบผ่าตัดเอามันออก”

“เลิกดื้อ แล้วฟังเงียบๆ อาหงส์” มันสั่งเสียงเฉียบ ผมดิ้นขลุกขลัก แต่ก็ไม่อาจเอาชนะเจ้าของวงแขนแกร่งนั้นได้ สุดท้ายผมต้องยอมฟังเสียงมันเต้นอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้มันเต้นยังไง ตอนนี้ก็ยังเต้นเหมือนเดิม ฟังไปฟังมาก็ชักเพลินแฮะ

เปลือกตาผมค่อยๆ ปิดลงช้าๆ

“ได้ยินเสียงไหมอาหงส์”
ได้ยินเสียงถามลอยละล่องมาตามลม คำสุดท้ายที่ได้ยินแว่วๆ ปิดท้ายสวิตซ์ที่กำลังจะดับของผมคือ...

“อ้าว”
แค่นั้นแหละ


(80%)




“หงส์”

อืม…
อะไร แผ่นดินไหวในเมืองไทยเหรอ

“หงส์ตื่น”

ผมค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง

“อืม…”

“ถึงบ้านแล้ว ไปอาบน้ำนอนป่ะ”

“ไม่อาบไม่ได้เหรอ ง่วง” ผมงอแง

“ไปอาบก่อน จะได้สบายตัว”

ผมพยักหน้า ขยับ รู้สึกแปลกๆ ผมตาโตเมื่อเห็นว่าตัวเองยังนั่งคร่อมอยู่บนตักกว้างเหมือนเดิม

นี่อย่าบอกนะว่าผมนั่งท่านี้มาตลอดทาง

คนที่เดินมาเปิดประตูให้คือซันไรส์ ผมรีบขยับจากตักมันลงจากรถไปยืนที่พื้นทันที ซันไรส์มองมาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่นัยน์ตาดูเอือมระอา

เฮ้ย! ทำไมมึงต้องมองกูด้วยสายตาแบบนี้ด้วยวะ ไงกูก็เป็นเมียเจ้านายมึงนะ เวลาปฏิบัติกับเจ้านายล่ะดี๊ดี กับกูล่ะเหยียดหยามกันเข้าไป

“มองหน้าหาเรื่อง”
ผมถามมันไปฉุนๆ

“รีบไปอาบน้ำดีกว่าครับ หน้ายับจนขี้เหร่ยิ่งกว่าเดิมแล้ว”

อ้ากกกกกกกกกกก

ไอ้น้ำยาล้างจาน ปากมึงมีไว้กัดกูอย่างเดียวใช่ไหม!!

ผมรำงิ้วถวายแหวนใส่มันทันที (แน่นอน ว่าเป็นแค่ความคิดเท่านั้น เพราะในชีวิตจริง ผมไม่กล้าหือกับมันหรอก ขืนทำจริง คงเป็นผมนี่แหละ ที่จะกลิ้งหลุนๆ เป็นลูกขนุนไปติดรั้วแทน)

“เร็วเข้าเถอะ”
ไอ้บ๊วยมันประคองเอวผมเบาๆ ให้เดิน ผมดีดตัวหนีทันที เดินลิ่วๆ นำมาก่อน

ผมเข้าอาบน้ำก่อนเป็นคนแรก ออกไปก็เห็นสามี(ทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย) นั่งอ่านหนังสืออยู่ ผมไม่สนใจคนตัวสูง โดดขึ้นเตียง มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ปิดตาลง

ผมสะดุ้งโหยงรีบลืมตาโพลงเพราะแรงยุบข้างๆ

ระแวงครับ เกิดมันเฮี้ยนอยากทดสอบความอึดของผมขึ้นมาคงยุ่ง

“มีอะไร”
ผมกำผ้าห่มแนบอกแน่น มองแบบไม่ไว้ใจ มันมองหน้าผม เกลี่ยเส้นผมผมแผ่วเบา

“ทำไมไม่เช็ดหัว เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

“เย็นดี รีบไปอาบน้ำสิ จะได้มานอน”

มันยกยิ้ม

“เป็นห่วงเฮียเหรอ”

“เปล่า จะได้ปิดไฟเร็วๆ แสงแยงตา เวลาหลับเขาไม่ให้มีแสงภายในห้องไม่รู้รึไง”

มันพ่นลมหายใจแรง ดีดมะกอกมาหนึ่งเปรี้ยง ผมร้องโอ๊ย ขยับลุกนั่งถลกแขนเสื้อขึ้นสูง จ้องมันตาขวาง 

“หาเรื่อง!”

มันหัวเราะหึๆ

“อยากไปฮันนีมูนไหม”

ผมขมวดคิ้วมองงงๆ

ฮันนีมูน?

นั่นมันกิจกรรมสำหรับคู่แต่งงานใหม่ไม่ใช่เหรอ

ผมเบรกความคิดลงกึก ผมกับมันก็เพิ่งแต่งงานกันนี่หว่า

แต่ผมไม่ได้เต็มใจนี่ ถ้าจะไปฮันนีมูนกับใครสักคน เราต้องไปกับคนที่เรารักสิ

“มัลดีฟ อยากไปไหม หรือมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรือเปล่า”

ผมตาโต ชีวิตที่ถูกจำกัดอยู่แต่ในบ้านทำให้ไม่ค่อยได้เห็นโลกกว้างเท่าไหร่

“พูดจริงหรือเปล่า ไปวันไหน!”

“ขอเคลียร์งานสักวีคละกัน”

ผมเลิกผ้าห่มทิ้ง

“ได้ดำน้ำด้วยหรือเปล่า”

มันพยักหน้ารับ

“พายเรือ”

มันพยักหน้าอีก

“ให้อาหารปลา”

มันพยักหน้าอีกรอบ ผมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

มันมองผมอึ้งๆ

“ไป!”
ผมอยากไปมัลดีฟ จริงๆ ก็อยากไปทุกที่แหละ แต่ไม่มีใครพาไป จะไปเองป๊ากับม้าก็ไม่ยอมให้ไป บอกรอให้เฮียๆ ว่างแล้วพาผมไป

เหอะ จนแต่งงานมีลูกโตกันหมดแล้วยังไม่เห็นมีใครว่างพาผมไปกันสักคน (ขนาดเจ้าดูคาติที่เฮียหยกซื้อให้ ผมยังทำได้แค่บิดเล่นภายในสวนเท่านั้นเอง ปล.ผมไม่ได้เอามาครับ ป๊ายังไม่อนุญาต) ได้แต่นั่งตาละห้อยดูในเว็บไซต์หรือทีวีเท่านั้น

“หายง่วงแล้วเหรอ”
มันถามผมยิ้มๆ

“แพ็คเสื้อผ้าตอนนี้เลยจะดูเห่อเกินไปรึเปล่า”

มันหัวเราะเสียงดัง

“ไว้ใกล้ๆ ก่อนละกัน เสื้อผ้าน่ะจัดไม่เกินชั่วโมงก็เสร็จแล้ว”

ผมจิ๊ปาก หัวใจเต้นแรง อยากไป อยากไป อยากไป

“ขอรางวัลนำเที่ยวล่วงหน้าได้ไหม”

ผมมองมันงงๆ

“อะไร รางวัลนำเที่ยว”

มันมองหน้าผม นิ่งคิด แล้วจิ้มแก้มตัวเองเบาๆ

“ตรงนี้ หนึ่งที”

“อยากโดนต่อยเหรอ”

“อาหงส์ เฮียว่าลื้อไม่โง่นะ”

แต่กูไม่อยากฉลาดตอนนี้ว่ะ รู้หรอกว่ามันต้องการอะไร แต่เรื่องอะไรผมจะทำ

“ราตรีสวัสดิ์”
ผมปฏิเสธดื้อๆ ทิ้งตัวมุดเข้าไปในผ้าห่ม ตะแคงหันหลังให้ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงตา

“เด็กดื้อ!!”
มันกอดผมไว้ทั้งผ้าห่ม พลิกผมเข้าหาตัวเอง ผมเบิกตากว้าง กอดผ้าห่มแน่นขึ้นป้องกันการล่าอาณานิคม

มันหัวเราะหึๆ

“ปล่อย!!”
ผมพูดอู้อี้ผ่านผ้าห่มที่ปิดไว้เกือบคลุมหัว ขยับดิ้นดุ๊กดิ๊กเป็นดักแด้ภายใน

“หอมแก้มเฮียก่อน แล้วเฮียจะยอมให้นอน”

ผมจะโหม่งหน้าผากมัน แต่มันเบนหัวหนี

“หอมสิ”

“อยู่ในครัว”

มันทำหน้างุงงง ก่อนหัวเราะออกมาอีกรอบ

“ตั้งแต่นอนกับผู้หญิงมา ลื้อเป็นคนที่พูดยากที่สุดเลยนะหงส์”

ตาผมเป็นประกาย ยอมดึงผ้าห่มลงจนปากเป็นอิสระ

“พอดีอั๊วไม่ใช่ผู้หญิง และที่สำคัญ ไม่ได้เต็มใจจะนอนกับเฮียด้วย”

มันยกยิ้ม

รู้สึกเหมือนตัวเองทำอะไรพลาดไปอย่างแฮะ

ใช่แล้ว

ผ้าห่มหลุดปาก

แล้วคาดเดากันออกไหมครับ ว่าระหว่างผมยกผ้าห่มขึ้นมาปิดปากอีกรอบ กับนักล่าอาณานิคม ใครจะเร็วกว่ากัน

แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ผมแน่ๆ

“อื้อ…”
ผมครางท้วงในลำคอเมื่อโดนสูบปากอย่างรุนแรงชนิดปลิงยังอาย หนำช้ำมันยังส่งงูเข้ามาฉกลิ้นผมด้วย มันบดเบียดแนบชิดชนิดพรากไปหมด ทั้งสติและลมหายใจผม กว่ามันจะปล่อยปากผมก็ชาช้ำไปหมด

ผมหอบแฮก จ้องมันตาขวาง แทนที่มันจะหวาดเกรงสายตาผมบ้าง กลับมองมาตาวาว เลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ

“ขอบใจสำหรับจูบหวานๆ”

ไอ้บ้าเอ๊ย ใครไปให้มันวะ มันบังคับเอาเองต่างหาก ผมด่าทอมันด้วยสายตา ปากยังคงหอบแฮก

“อย่ายั่วเฮียหงส์”

กูไปยั่วมึงตรงไหน!!

ผมรีบดิ้นอีกรอบ มารอบนี้มันยอมปล่อยผมออกดีๆ ก่อนปล่อยยังไม่วายฉกแก้มผมไปฟอดใหญ่

มันจะอะไรนักหนากับร่างกายผมวะ!

แล้วมันก็เดินดุ่มๆ เข้าห้องน้ำไป ผมรีบฝังร่างกับที่นอนอีกรอบ หวังว่ามันจะไม่เฮี้ยนทำอะไรผมอีกนะ

ผมพยายามข่มใจให้หลับ เวลาเกือบ 15 นาทีที่มันอาบน้ำแต่งตัว เป็นเวลานานมากพอให้ผมหลับได้ แต่เพราะรสจูบเร่าร้อนเมื่อกี้ทำให้หัวใจผมทำงานผิดปกติ กว่ามันจะสงบแรงเต้นลงมาให้เป็นปกติและพร้อมสำหรับการหลับได้ ไอ้บ๊วยก็เดินออกมาแล้ว ผมแกล้งหลับเฝ้าฟังเสียงที่เกิดขึ้นภายในห้อง

แม้จะปิดตา แต่ก็เห็นแสงไฟในห้องได้ไรๆ พอมันปิดไฟทุกอย่างก็มืดสนิท

มันเดินขึ้นเตียง ณ ฟากของมัน ขยับยกผ้าห่มขึ้น แทรกตัวเข้ามา ขยับร่างเข้ามาชิด ยิ่งทำหัวใจผมยิ่งไหวแรง

ให้ตาย สงบเดี๋ยวนี้เจ้าหัวใจบ้า

มันแนบหน้าอกลงกับแผ่นหลังผม

ตามด้วยวงแขนที่โอบมารอบเอว

ตามด้วยริมฝีปากที่หัว

หัวใจผมยังคงไหวแรง

ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเหนือขึ้นไป มันเบาจนผมไม่แน่ใจว่าคนพูดจงใจให้ผมได้ยิน หรือไม่ต้องการให้ผมได้ยินกันแน่

“ราตรีสวัสดิ์ อาหงส์ของเฮีย”

ใครเป็นของมึงกัน!

ผมได้แต่เถียงอยู่ในใจ ไม่อยากให้มันแนบหัวใจลงมาติดมาก ไม่งั้นมันคงได้ยินเสียงหัวใจผมที่เต้นในจังหวะผิดปกตินี้แน่ๆ 

แม้ดวงตาจะปิด แต่สติไม่ได้ปิดตามไปด้วย

หลังสิ้นคำพูดของมันไม่กี่วินาที ก็ได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแล้ว

ใจอยากขยับหนีไปจากอ้อมแขนมัน เพราะรู้สึกจั๊กจี้หัวใจยังไงพิกล

แต่มันก็รู้สึกอบอุ่นจนคิดว่าน่าจะนอนได้แล้ว

ง่วงแล้ว

ตาผมปิด เพียงไม่นาน สติผมก็ดับตามลงไปด้วยช้าๆ




to be Con..

ตอนหน้าสำหรับคู่รอง
...
...
...
(มีหนังสือและ e-book เรื่องหงส์ซานให้จองและดาวน์โหลดอ่านกันได้แล้วค่ะ ที่นี่>> https://goo.gl/WbWxt8)
(เข้าไปดาวน์โหลด e-book ได้ในลิงค์เดียวกันค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2017 19:53:27 โดย memew »

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เฮียหลงอย่าโกรธน้องเลย ต้องให้เวลาน้องหงส์หน่อยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เมื่อบังคับให้รักให้ยอม ก็ต้องรับให้ได้ในสิ่งที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง  :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เอาน่ะเฮีย บังคับน้องมาก ๆ ก็ไม่เวิร์คนะ

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลาอะเนาะ ยังอยู่กันไม่เท่าไหร่เองงง
แล้วยิ่งน้องหงส์ไม่ได้ชอบผู้ชายแต่ถูกบังคับให้มาเป็นเมียผู้ชาย
ไม่ได้ถูกจับคลุมถุงชนธรรมดา มันก็ทำใจลำบากนะ
ว่าแต่อาเฮียรู้สึกยังไงกับหงส์นะ ถึงมีอาการ  :hao4: :hao3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เฮียหลงคงน้อยใจเมียอ่าาา

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 ทำไมเป็นคนเดียวที่ให้เรียนที่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ไม่ให้ทำอะไร มีความสงสัยมาก :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
 หงส์น่ารัก  :mew1:   :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :mew1: :mew1: เหมือนเฮียอ่อนลงเยอะเลยอะ หงส์ก็ดูเหมือนเลี้ยงง่ายนะถึงดูดื้อไปหนอ่ย

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เฮียหลงอย่าน้อยใจน้องหงส์เลยนะ ค่อยๆเรียนรู้กันไป อยากไปทะเลรักหวานฉ่ำแล้วววว

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ต้องใช้เวลา เพราะเริ่มต้นก็มาจากแต่งเพราะธุรกิจ ไม่ได้ความรัก

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รักเฮีย หลงเฮีย  :impress2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ก็ดูรักมาก แล้วตอนเจอปากหมาใส่ วันเข้าหอก็ข่มขืน


เราอยากได้เหตุผลที่เฉลยแล้ว เอออออออออ เข้าท่า

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Re: หงส์ซาน #9 คอนโทรล [P.6][22-5-2017] 100%
«ตอบ #177 เมื่อ19-05-2017 20:15:19 »

09
คอนโทรล
...
...
...
#ซันไรส์

เสียงมือถือผมดังขึ้นเบาๆ ผมล้วงหยิบจากกระเป๋าเสื้อสูทออกมอง พ่นลมหายใจแรงเมื่อมันโชว์เบอร์ของคนที่ผมไม่อยากรับสาย ผมกดรับอย่างจำใจ ยกแนบหู
 
“ว่างไหม ไปซื้อการ์ตูนของสัปดาห์นี้ให้หน่อย”
 
“ไม่ว่าง” ผมตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
 
“เอาทุกเรื่องเลยนะ”
 
“ผมไม่ว่าง”
 
“ขอบใจ หิ้วไปที่บ้านไป่หลงได้เลย เดี๋ยวจะแวะไป”
 
“ผมไม่ว่างครับคุณหมอ”
 
“ขอบใจ”
แล้วปลายสายก็ตัดไปแค่นั้น
 
ผมขมวดคิ้ว ทำไมชีวิตผมต้องมาเจอแต่คนดื้อๆ แบบนี้นะ ผมมองไปยังคนที่ยังคงนั่งยิ้มใส่ปลาคาร์ป สีหน้าหงส์ซานตอนนี้ดูบริสุทธิ์ไร้พิษสง แต่อย่าให้เปิดปากพูดเชียว
 
หมาดื้อดีๆ นี่เอง
 
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายถึงมาหลงเสน่ห์ลิงหน้าจืดแบบนี้ได้ ผู้หญิงสวยๆ ทรวดทรงดีๆ ดีกรีการศึกษาสูงๆ หรือคนที่มีความพรั่งพร้อมด้านการสืบพันธุ์ให้เลือกมากมาย ท่านก็ไม่เอา

หงส์ซานหยิบอาหารเม็ดมาโปรยให้ปลาในบ่อกินต่อ

“กินเยอะๆ นะ จะได้อ้วนๆ”
 
ผมกรอกตาขึ้นมา
มีมนุษย์หน้าไหนคุยกับปลากันบ้าง = =
 
แต่เพราะลิงปัญญาอ่อนตรงหน้าผมนี่แหละ ถึงทำให้เจ้านายมีรอยยิ้มมากขึ้นจากงานหนักๆ ที่ทำ หงส์ซานไม่มีทางรู้หรอกว่าแต่ละวันเจ้านายผมต้องต่อสู้กับอะไรบ้าง
 
และดูเหมือนตอนนี้ความสุขของท่าน คือการได้กลับบ้าน กลับมาโอบกอดหงส์ซานไว้
 
ได้ยินเสียงรถวนเข้ามาจอด ผมหันไปมองตาม ยกนาฬิกาขึ้นดู
 
ทำไมวันนี้เจ้านายกลับเร็วจัง
 
หงส์ซานมองสิ่งเดียวกับผมอยู่เหมือนกัน แต่จ้างให้ร้อยล้านหงส์ซานก็ไม่ขยับไปรับเจ้านายผมอย่างคนเป็นเมียที่ดีควรทำหรอก
 
ผมเดินเข้าไปหา พอรถจอดสนิทวิกเซอร์ก็วิ่งมาเปิดประตูให้แล้ว เจ้านายขยับออกมายืนอย่างสง่างามอยู่ข้างตัวรถ
 
“หงส์ซานล่ะ”
มันแทบจะเป็นคำถามแรกของทุกครั้งที่เจ้านายผมกลับถึงบ้าน
 
“ให้อาหารปลาอยู่ครับ”
 
เจ้านายผมส่ายหัว
 
“ถ้าวันไหนหงส์ซานจับปลาขึ้นมาใส่ปลอกคอฉันจะไม่แปลกใจเลย”
 
ผมหัวเราะในลำคอพอๆ กับวิกเซอร์
 
ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่เชื่อว่าหงส์ซานอาจทำจริงๆ ต่างหาก
 
“เออ เมื่อกี้ไอ้หมอเมสเสจมาบอกว่าปล่อยนายให้ไปซื้อการ์ตูนให้มันหน่อย ไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปดูลิงให้อาหารปลาก่อน”
 
ผมทำหน้าเหนื่อยใส่ ค้อมหัวให้เจ้านาย วิกเซอร์พยักหน้ามาทางผม เดินตามเจ้านายไป ผมถอนหายใจออกมาทำลายโลกอีกรอบ เดินตรงไปที่โรงรถ คว้าเอารถสีดำประจำตำแหน่ง ค่อยๆ ขับถอยออก
 
อาชีพผมเป็นอาชีพที่มีเกียรติ สิ่งสำคัญคือความรักและความซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย ซึ่งผมไม่ต้องใช้ความพยายามเลย มันอยู่ในกมลสันดาน มันสืบสายเลือดมาตั้งแต่รุ่นทวดของทวดของทวดของทวดแล้ว ลากเส้นไปไม่ถูกว่าใครคือคนแรกที่มารับหน้าที่บอร์ดี้การ์ดให้กับตระกูลหยางผู้ยิ่งใหญ่

ผมเป็นบอดี้การ์ดประจำตระกูล ในขณะที่หมอกันต์เป็นหมอประจำตระกูล เรามีอาชีพต่างกัน แต่ความรับผิดชอบเหมือนกันคือรักและซื่อสัตย์ต่อทุกสายเลือดในตระกูลนี้

ผมพารถออกนอกรั้ว วิ่งไปบนถนนที่รถเริ่มจะพากันติด ผมขับอย่างใจเย็น วิ่งตรงไปยังสยามเซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้าที่มีร้านการ์ตูนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ซ่อนตัวอยู่ ใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีกว่าผมจะหาที่จอดได้

และนี่คงเป็นสาเหตุให้หมอชอบโทรหาผมมากกว่า

ผมกลายเป็นเป้าสายตาทันทีที่ก้าวลงจากรถ ผมไม่สนใจใคร กดล็อก กระชับเสื้อสูทให้เข้าที่เข้าทาง เดินนิ่งๆ เข้าประตูไป

ยิ่งเดินคนยิ่งมอง พอผมมองกลับบ้าง พวกนั้นก็พากันสะดุ้งถอยกรูดกันเป็นทิวแถว

ผมมุ่งตรงไปกระทั่งถึงที่หมาย ผมไม่สนสายตาใครก็จริง แต่ก็ไม่เคยชินสักครั้งกับการต้องมายืนอยู่ในร้านสำหรับวัยรุ่นแบบนี้ เด็กๆ มองกันใหญ่ เขยิบหนีเมื่อผมส่งสายตาเย็นชาใส่ ผมเดินไปดูแผงการ์ตูนออกใหม่สำหรับสัปดาห์นี้ ยกมือถือขึ้นมาดูเมสเสจรายชื่อการ์ตูนนอกเหนือจากหนังสือออกใหม่ที่เจ้าตัวส่งมาให้

พนักงานดูจะยุ่งวุ่นวายยิ่งกว่าเดิมเมื่อผมก้าวเข้าไปภายใน แค่มาซื้อการ์ตูน ไม่ได้จะมาฆ่าใครแถวนี้

ผมหยิบตะกร้า เลือกการ์ตูนใส่ลงไป เห็นหน้าปกแต่ละเรื่องก็ได้แต่ทอดถอนใจ ผมเคยสงสัยว่าคนเรียนจบสูงๆ มาอ่านหนังสือปัญญาอ่อนแบบนี้ได้ยังไงกัน

และนี่คือสาเหตุที่ผมไม่ยอมป่วยเป็นอะไรกับเขาเลย

กลัวครับ กลัวจะโดนหมอกันต์รักษา และผมก็เป็นคนเดียวที่ยังไม่เคยผ่านมือเขาเลย

ผมเดินเข้าไปด้านในเมื่อหนังสือด้านนอกที่ต้องซื้อหมด วนหยิบทีละล็อกก่อนชะงัก มองคนที่ยืนถือหนังสือเล่มที่ผมกำลังต้องการอยู่พอดี

เจ้าตัวพลิกส่องดูสภาพ ทำให้จังหวะนั้นเห็นผมเข้าพอดี เขาลดหนังสือลง ฉีกยิ้มกว้าง

“มาแล้วเหรอ”

ผมขมวดคิ้วมุ่น ถ้ามาเองได้ แล้วจะให้ผมมาทำไม
 
“คิดว่าติดตรวจซะอีก”
 
“ตรวจเสร็จแล้ว”
 
“ทำไมไม่โทรบอก ผมจะได้ไม่ต้องออกมา”
 
หมอไม่ตอบ ฉีกยิ้มกว้าง วางการ์ตูนเล่มนั้นใส่ตะกร้าที่ผมถืออยู่
 
“เหลือเรื่องอะไรบ้าง”
 
ผมถอนหายใจแรง
 
“หมอกันต์ ผมไม่ได้ว่างเป็นเบ๊ให้คุณได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกนะ”
 
“เหลือเรื่องอะไรบ้าง”
 
ผมถอนหายใจแรงอีกรอบ ร่ายรายชื่อเรื่องที่ยังขาด
 
“ทางนู้น”
แล้วเจ้าตัวก็เดินนำ ผมจำต้องเดินตามไปติดๆ มาคนเดียวว่าโดนมองหนักแล้ว มากับหมอยิ่งโดนมองมากกว่าเดิมอีก
 
ในสายตาคนไทยหรือคนเอเชีย คนอย่างหมอคงเข้าข่ายว่าหล่อมาก ต่างกับหงส์ซานที่ถูกมองว่าน่ารัก แต่สำหรับผม ผมว่าทั้งหมอกันต์ทั้งหงส์ซานหน้าจืดไปหน่อย ผมไม่ชอบคนเอเชีย คนเอเชียหล่อๆ ในสายตาผมมีแค่เจ้านายผมเท่านั้น นอกนั้นหน้าจืดหมด
 
คนมองหมอแล้วพากันกรี๊ดกร้าดตื่นเต้น พอผมปราดสายตามองก็พากันสะดุ้ง หลบถอยกันเป็นทิวแถว
 
เจ้าตัวเดินไปหยิบการ์ตูนมาลงตะกร้าอีกสองสามเล่ม
 
“อยากได้หนังสือโป๊สักเล่มไหม”
 
ผมมองคนถาม
 
“ไม่ ถามทำไม”
 
“เห็นทำหน้าดุ คิดว่าเก็บกด”
 
ผมถอนหายใจแรง นี่ถ้าหมอไม่ใช่หมอประจำตระกูลหยางและไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทเจ้านายผมจับถ่วงน้ำไปนานแล้ว
 
“เรียบร้อยแล้วก็กลับ”
 
“เรียบร้อย”
แล้วเจ้าตัวก็เดินนำ ผมเดินตามไปติดๆ มีคนต่อคิวอยู่สามสี่ราย ผมเดินตามไปเข้าแถวรอด้วย เพราะพื้นที่มีจำกัดทำให้ตัวเราต้องขยับมาชิดกัน ได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ จากคนด้านหน้า หมอกันต์ตัวเล็กกว่าผม แต่ก็โตกว่าหงส์ซาน รายนั้นเหมือนลูกลิงซนๆ ตัวหนึ่งมากกว่า

ยิ่งเย็นเด็กๆ ยิ่งเลิกเรียนมาซื้อของ คนตรงหน้าต้องขยับจนแผ่นหลังแนบติดกับอกผม หัวเขาอยู่ใกล้จมูกผมนิดๆ ที่มาของกลิ่นจางๆ คือหัวเขาสินะ

มีเด็กคนหนึ่งวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา ทำให้คนแถวนั้นถอยกันเป็นแถบๆ ไม่ต่างกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ผมจับเอวเขาไว้เบาๆ รับร่าง

“ขอโทษค่ะ” น้องคนนั้นรีบขอโทษขอโพย ผมมองด้วยสายตาไม่พอใจ เด็กนั่นเบะหน้าทำท่าจะร้องไห้ รีบรับของที่จ่ายเงินเสร็จพอดี วิ่งลิ่วหายไป

“อยู่ข้างนอก ไม่ต้องทำหน้าดุก็ได้ เด็กๆ กลัวกันหมดแล้ว”

“ก็ปกติ”
ผมตอบกลับราบเรียบ

“ดุเป็นปกติน่ะสิ”
เจ้าตัวยกตัวขึ้นปรับสภาพเนื้อตัวดีๆ ถึงคิวพอดี ผมวางหนังสือเขาลงบนเคาน์เตอร์ พนักงานรีบลนลานคิดเงิน แจ้งราคา

หมอยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ หยิบเงินมาจ่าย (หลายเล่มก็จริง แต่ราคาไม่แพง) พนักงานทวนยอดเงิน นำไปคีย์เข้าเครื่อง ผมรับถุงมาหิ้วเองทั้งหมด เดินลิ่วออกไปก่อน

“เดี๋ยว ยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม”
หมอวิ่งตามมาติดๆ

“จะกลับไปกินที่บ้าน”

“เข้าร้านนั้นกันดีกว่า”
เขาจับแขนผมลากให้เดินตาม ผมถอนหายใจอีกรอบ เถียงไปก็ไม่ชนะ จำต้องหิ้วถุงการ์ตูนเดินตามเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นไป

(40%)

พนักงานสาวสวยเชื้อชาติสัญชาติไทยแต่หน้าคล้ายคนญี่ปุ่นในชุดกิโมโนถูกระเบียบเดินออกมาต้อนรับ พาเราสองคนไปนั่งยังโต๊ะที่ยังว่างอยู่

ผมไม่ชอบอาหารญี่ปุ่น ผมชอบอาหารฝรังเศสหรือรัสเซียอาหารบ้านเกิดผมเองมากกว่า (ผมเป็นลูกเสี้ยวเหมือนหมอนั่นแหละ แต่เสี้ยวทางฝั่งยุโรปเป็นส่วนใหญ่)

พนักงานสาวสวยคนเดิมยื่นเมนูให้ หมอพลิกเปิดรัวสั่งทันที ดีหน่อยตรงที่ร้านนี้มีอาหารนานาชาติด้วย ผมสั่งเมนูโปรดไป เพราะชักจะหิวเหมือนกัน พนักงานยิ้มหวานอีกรอบ ค้อมให้สไตล์คนญี่ปุ่นก้าวเดินจากไป

หมอหยิบการ์ตูนออกมาจากถุงทั้งกอง แกะพลาสติกออก กรีดดูเร็วๆ คงจะตรวจสอบสภาพหนังสือนั่นแหละ เสียมาจะได้เปลี่ยนเลย ถ้าไปเจอที่บ้านก็จะนำมาเปลี่ยนทีหลัง ดีว่าล็อตนี้ไม่มีเสียสักเล่ม หมอเอาหนังสือทั้งหมดยัดใส่ถุงตามเดิม หยิบออกมาเพียงเล่มเดียวเพื่อเปิดอ่าน

ผมไม่เคยชินสักทีกับคนเป็นหมอที่มาอ่านการ์ตูนปัญญาอ่อนแบบนี้

ดวงตานั้นจ้องเป๋งอยู่บนหน้ากระดาษ ปากวาดรอยยิ้มกว้างเมื่อเรื่องราวไปชนเรื่องขบขัน คงรู้ว่าผมมองอยู่ถึงได้เหลือบตามอง

“มองไร”

“มองหมอปัญญาอ่อน”

คนตรงหน้ายกยิ้ม ตรงนี้แหละที่เหมือนเจ้านายผม

“คิดว่ามองเพราะฉันหล่อซะอีก”

ผมส่ายหัวไปมา แต่ไม่ตอบ อาหารมาพอดี คิวเยอะ เลยรอนานนิด ผมตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของตัวเอง คนตรงหน้าใช้ตะเกียบคีบกินอย่างไม่รีบร้อน ผมกินค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับอีกคน กระทั่งอิ่มก็เรียกคิดเงิน

“795 บาทค่ะ”
พนักงานสาวส่งยิ้มหวานจ๋อยมาให้หมอ รายนั้นวางบัตรลง พนักงานเดินจากไป หมอหันกลับมาอ่านการ์ตูนต่อ ผมพยายามมองหาเสน่ห์ของคนตรงหน้า ไปไหนมาไหนด้วยกันมีแต่ผู้หญิงชอบ

พนักงานเดินกลับมาอีกครั้ง เขารับบัตรคืน สาวนางยิ้มประหม่า เม้มปากนิดๆ ชี้ให้ดูใบเสร็จ

“เบอร์น้ำค่ะ”

หมอก้มมองตาม บนนั้นมีเบอร์โทรที่เขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินชัดเจน หมอฉีกยิ้มหวานหล่อเหลาพาเอาสาวเจ้าแทบระทวยลงกับพื้น

“พอดีบ้านผมมีเครื่องกรองน้ำแล้วครับ ขอบคุณสำหรับอาหาร ไว้โอกาสหน้าผมจะมาทานใหม่”
พูดจบเจ้าตัวก็ลุก ผมลุกตาม คว้าถุงการ์ตูนมาถือ พนักงานสาวอ้าปากค้าง สีหน้าเงิบๆ งงๆ

ผมหัวเราะหึๆ

“หัวเราะอะไร” เขาหันมาถาม

“เปล่า” ผมตอบรับนิ่งๆ “สวยออก ปฏิเสธทำไม”

หมอยักไหล่

“พอดีไม่ชอบพันธุ์น่ารักๆ พันธุ์ดุเร้าใจกว่า”

ผมขมวดคิ้ว มองคนพูดงงๆ

“จริงสิ อาหารของเด็กๆ ที่บ้านใกล้หมดแล้ว เราไปซื้อกันเถอะ”

“ผมจะกลับแล้ว คุณไปซื้อคนเดียวเถอะ”

“ป่ะ”

ผมถอนหายใจแรงอีกรอบ ชวนไม่ชวนเปล่า เจ้าตัวยังคล้องแขนผมกันหนีอีกด้วย ผมจำต้องเดินตาม ตรงไปมาร์ทชั้นล่างสุด เขาดึงรถเข็นออก ผมวางหนังสือลงไป ทำหน้าที่เข็น เจ้าตัวพาผมเดินตรงไปยังโซนอาหารสัตว์เลี้ยง ขนซื้ออาหารเม็ดกระสอบใหญ่ สำหรับสุนัขโต ส่วนใหญ่เป็นอาหารนำเข้าที่ราคาค่อนข้างแพง ขนมสำหรับหมา แชมพู และหวีอันใหม่

“ซื้อปลอกคออันใหม่ดีไหมน้า”

“อันเก่าเพิ่งซื้อนี่”

“พวกมันคงเบื่อแล้ว”

“หมาไม่ขี้เบื่อเหมือนคนหรอก”

“รู้ได้ไง”

“เดาเอา”

“เหรอ คิดว่าเป็นอยู่เลยรู้ดีซะอีก”

นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสนิทเจ้านาย ผมคงซัดด้วยหลังมือให้คอหักตายแน่ๆ เจ้าตัวคนพูดยิ้มหวาน หันไปหยิบปลอกคอมาเลือกลาย สามอันแรกเลือกได้อย่างง่ายๆ แต่อันสุดท้ายเลือกไม่ได้สักทีว่าจะเอาแบบไหน เห็นยืนชั่งใจอยู่นาน

“อันไหนสวย”
เจ้าตัวหันมาถาม ผมมองของตรงหน้า ชี้ไปยังสีดำลายเท่ๆ ทางขวา แล้วเขาก็วางอันนั้นลง

ผมถอนหายใจแรง ถามแล้วไม่เลือกจะถามทำไม เจ้าตัวทำท่าจะเดินออกไปจากจุดนั้น แต่เปลี่ยนใจ หยิบอันที่ผมเลือกใส่ตะกร้าอีกชิ้น

“เอามาทำไมตั้งห้าอัน ที่บ้านมีแค่สี่”

หมอไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น แทนที่จะกลับเลย กลับพาวนไปซื้อไวน์ ทิชชู่ ครีมอาบน้ำ น้ำยาโกนหนวด กระทั่งของเต็มรถเข็น

“นานๆ มีคนช่วยหิ้ว”
ผมถอนหายใจเป็นรอบที่พัน กระทั่งไม่มีที่จะวางในรถเข็นนั่นแหละ เจ้าตัวถึงยอมหยุด พาไปจ่ายเงิน

“จอดรถไว้ชั้นไหน” ผมถาม จะได้หิ้วของไปให้ถูก

“ไม่ได้เอารถมา”
ผมหันไปมองงงๆ

“แล้วมายังไง รถไปจอดไว้ที่ไหน”

“มันขี้เกียจวิ่ง เลยจอดไว้ที่บ้าน นั่ง BTS มา”

สภาพของเยอะแบบนี้ ผมคงต้องไปส่งอย่างเสียไม่ได้แน่ๆ ผมไม่พูดอะไร พอเขาจ่ายเงินผมก็เข็นรถตรงไปยังลานจอด มุ่งตรงไปยังรถตัวเอง เปิดฝากระโปรงรถ นำของทุกอย่างเข้าไปไว้ภายใน บางส่วนวางไว้เบาะหลัง พอเรียบร้อยก็นำรถเข็นไปแอบๆ ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาเก็บ

เจ้าของของทั้งหมดเปิดประตูขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อย ผมก้าวขึ้นไปนั่งประจำ สตาร์ทเครื่อง ขับเคลื่อนตัวรถออกไป เขาเอื้อมกดเปิดเพลงฟังเบาๆ ฮัมตาม

“เห็นว่าวันนี้จะไปบ้านเจ้านาย”

“ใช่ แต่เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่บ้านก่อน”

ผมพยักหน้า นั่งอยู่บนท้องถนนรถติดๆ อีกเกือบชั่วโมงก็พารถมาถึงบ้านหมอได้สำเร็จ บ้านหลังใหญ่พอประมาณ แต่ทั้งหลัง มีเขาอาศัยอยู่กับหมาเพียง 4 ตัวเท่านั้น

ลูกๆ ของหมอพากันออกมายืนรอกันเป็นทิวแถว ส่งเสียงร้องงี๊ดง๊าด ส่ายหางกันเป็นพัลวัน (หมอไม่นิยมตัดหางหมา) บ้างกระโดดเกาะรั้ว บ้างยื่นปลายจมูกออกมาทักทาย บ้างก็ยื่นขาหน้าออกมารอรับ

หมอกดลดกระจกลงส่งเสียงทักทาย พวกนั้นยิ่งดีใจอย่างบ้าคลั่งทำเหมือนไม่ได้เจอกันมาเป็นชาติ หมอกดเปิดประตูรั้วด้วยรีโมต พอมันสุด ผมก็ขับรถเข้าไปจอด พวกเด็กๆ วิ่งวนมารอฝั่งที่หมอนั่ง หมอเปิดประตูลงไปหา

“ไงเด็กๆ วันนี้พ่อมีปลอกคอใหม่มาให้ด้วยนะ”

ผมดึงเบรกมือ ดับเครื่อง เปิดประตูก้าวตามลงไปด้วย ไม่สนใจว่าหมอจะทำอะไร เดินไปเปิดฝากระโปรงรถนำของทุกอย่างออกมาถือ

“มาเลยเด็กๆ มาช่วยกันหิ้วของหน่อย”
หมอเรียก หมาที่มีไอคิวค่อนข้างสูงกว่าหมาทั่วไปเดินมาล้อมหน้าล้อมหลัง หมอเปิดประตูด้านหลังของรถออก หยิบเอาเฉพาะถุงที่หมาน่าจะหิ้วได้ใส่ปากพวกมันทีละตัว

พวกนั้นสะบัดหางดีใจใหญ่ เดินไปรอแถวๆ ประตูเข้าบ้านอย่างรู้งาน หมอกันต์ถือเองอีกหลายถุง เดินไปไขประตู ลำเลียงกันเข้าไปทั้งคนทั้งหมา ผมหิ้วเยอะสุด นำมันไปวางไว้บนโต๊ะ (จริงๆ หมาของหมอสามารถเข้านอกออกในเองได้ตลอดเวลาเพราะมีประตูหมาไว้ให้สำหรับพวกมันโดยเฉพาะ มันใหญ่ชนิดเด็กหรือคนตัวเล็กๆ สามารถมุดเข้าไปได้สบายๆ แต่อยู่ในมุมที่คนไม่เห็นเลยไม่รู้ว่ามี)

ผมรื้อนำของทุกอย่างออกมาจัดให้เข้าที่ก่อนเจ้าตัวจะออกคำสั่ง รายนั้นสาละวนกับการเอาปลอกคอมาเปลี่ยนให้หมาตัวเอง ใช้เวลาไม่นานผมก็จัดของเสร็จ รวบถุงขยะทั้งหมดยัดลงถัง

ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสดังมาจากห้องรับแขก ผมเดินนิ่งๆ ออกไป

“เรียบร้อยแล้ว ผมขอตัว”

“เดี๋ยว ไปด้วยสิ”

“เอารถตัวเองไปสิ”

“รถเสีย”

ผมถอนหายใจแรง ไม่พูดอะไร

“ไปก่อนนะเด็กๆ เฝ้าบ้านดีๆ”
พวกนั้นพากันเห่าโฮ่งเสียงดัง หมอหันมามอง กวักมือเรียกผมเบาๆ ผมเดินนิ่งๆ เข้าไปหา เจ้าตัวหยิบปลอกคอที่ผมเลือกขึ้นมาถือ อมยิ้ม ปลดล็อกแล้วเอามาใส่คอทันที ผมรีบจับมือเขาไว้ด้วยสัญชาตญาณป้องกันภัย ทำให้มือผมกุมมือเขาไว้แน่น

“จะทำอะไร”

“ชอบไม่ใช่เหรอ ฉันให้”

“ผมไม่ใช่หมา”

“เห็นทำหน้าดุตลอดคิดว่าใช่ เอาไปสิ ฉันให้ พี่เชฟไม่ชอบ”

“ไม่เอา”
ผมจ้องด้วยดวงตาดุๆ คนตรงหน้าฉีกยิ้ม ผมกระชากมือนั้นออก พอๆ กับปลอกคอ ก้าวนำออกไป คนด้านหลังบอกลาหมาตัวเองอีกรอบ วิ่งตามผมมาติดๆ ผมก้าวขึ้นรถ สตาร์ทเครื่องทันทีที่เขานั่งประจำที่ได้

ดึกแล้ว รถจึงไม่ติดมาก พอลงรถได้ เขาก็วิ่งร่าไปหาหงส์ซานทันที รายนั้นก็ฉีกยิ้มกว้างรับ

คนปัญญาอ่อนเข้ากันได้ดีกับคนปัญญาอ่อนจริงๆ





“ไปไหนมาพี่”

“หมอกันต์ให้ไปซื้อการ์ตูน”

วิกเซอร์หัวเราะ แต่ผมหัวเราะไม่ออก

“เจ้านายล่ะ”

“อาบน้ำ”

ผมพยักหน้าเข้าใจ สลับกับน้องไปทำหน้าที่คอยดูแลคนที่นั่งดูทีวีอยู่ เวลานายใหญ่ไม่อยู่หงส์ซานจะอยู่ข้างล่างนี่ประจำ แต่เวลาอยู่จะไม่สุงสิงกับใครหรอก

หงส์ซานเป็นเหมือนนกน้อยที่พร้อมจะบินออกจากกรงได้เสมอถ้าเผลอเปิดกรงทิ้งไว้ นั่นทำให้เจ้านายผมต้องคอยจับตามองตลอด

“น้องหงส์ ได้ข่าวว่าจะไปฮันนีมูนเหรอ”

“แค่ไปเที่ยวพี่หมอ ไม่ได้ไปฮันนีมูน” หงส์ซานค้าน ทั้งที่ความเป็นจริงยังไงก็หนีไม่พ้น

“ไปไหน”

“มัลดีฟ”

หมอกันต์ตาวาว

แล้วสองคนนั้นก็พูดคุยกันจนเจ้านายผมเดินหล่อลงมา เขามองผมนิดหนึ่ง ไม่พูดอะไร เดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ หงส์ซาน ดึงลิงนั่นไปนั่งบนตัก
 
“ชักอิจฉาคนมีเมียซะแล้วว้า”
 
“อยากมีก็หาสิ หน้าตาฐานะก็ใช่จะขี้ริ้ว” เจ้านายผมตอบ
 
“กำลังจะจับใส่ปลอกคอ ช่วงนี้กำลังดุได้ที่”
 
“คนหรือหมา”
หมอกันต์ไม่ตอบ หัวเราะหึๆ เหลือบมองมาทางผม ผมขมวดคิ้วมอง ทำหน้านิ่งๆ ไม่ได้สนใจอะไรอีก
 
เวลาที่เจ้านายเข้านอน คือเวลาพักผ่อนผมเช่นกัน (ผมทำงาน 24 ชั่วโมง แต่สามารถแวบไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองได้เมื่อเจอช่วงเวลาเหมาะๆ และเห็นว่าเจ้านายมีคนช่วยดูและมีความปลอดภัยพอควร) พอรายการทางทีวีที่หงส์ซานดูอยู่จบ เจ้านายผมก็กดปิดทีวี ไล่ให้เพื่อนกลับบ้าน
 
ดูจากท่าทางเจ้านายวันนี้ ผมว่าพรุ่งนี้หมอกันต์ต้องวิ่งโร่มารักษาหงส์ซานอีกแน่ๆ
 
หมอกันต์อ้าปากหาว
 
“คืนนี้ขอนอนนี่ละกัน ขี้เกียจกลับ พรุ่งนี้ไม่มีงาน”
 
“ตามใจ ก็ดี เผื่ออาจต้องใช้บริการหมออีก”
เป็นไปตามที่ผมคิดไหมล่ะ
 
หมอหัวเราะหึๆ อย่างรู้กัน ยกเว้นเหยื่อที่ดูจะไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
 
พอเจ้านายไป ผมก็เดินกลับเข้าห้องตัวเองบ้าง ผมใช้เวลาชำระล้างร่างกายไม่นานก็เรียบร้อย ทิ้งตัวลงนอน หัวไม่ทันจะถึงหมอนก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ผมลุกจากเตียง เดินตรงไปเปิดประตู เห็นหมอกันต์มายืนยิ้มแฉ่งตรงหน้า
 
“กลัวผี ขอนอนด้วยคนสิ”
 
ผมขมวดคิ้ว เจ้าตัวไม่รอให้ผมอนุญาต สอดตัวเข้ามาภายใน เดินดุ่มๆ ขึ้นไปบนเตียง รื้อผ้าห่มคลุมตัว
 
จะไล่ก็คงไม่ไป ผมเลิกสนใจ ปิดไฟอีกรอบ ทิ้งตัวลงนอนนิ่งๆ แล้วผมก็หลับไปแค่นั้น
 
หลับไปได้สักพัก ผมต้องลืมตาพรึบด้วยสัญชาตญาณที่ถูกฝึกมาอย่างดี ผมก้มมอง มือของคนที่นอนข้างๆ พาดมากอดบนเอว ผมหันไปมอง เจ้าตัวยังนอนนิ่ง
 
สงสัยจะละเมอ ผมค่อยๆ จับมือนั้นออก พักหนึ่งมันก็ตวัดกลับมาพาดอีก ผมขมวดคิ้ว
 
จับออกอีก
 
นี่ละเมอ หรือว่าหมอยังไม่หลับ
 
“หมอ” ผมเรียก
 
คนด้านข้างเงียบ
 
“หลับหรือตื่นอยู่”
ปกติผมจะเก่งเรื่องจับความรู้สึกคน แต่หมอกับเจ้านาย คือสองบุคคลที่ผมยากจะจับความรู้สึกได้ ยกเว้นบางเวลาจริงๆ แต่หมอนี่เดาไม่ออก เพราะเอาจริงกับเล่นแทบแยกกันไม่ออก
 
ตอนนี้ก็เหมือนกัน สภาพทางกายภาพ หมอหลับแน่ๆ แต่มือที่กอดผมอยู่นี่ทำให้ผมไม่แน่ใจ
 
“หมอ”
ผมเรียกอีกรอบ
 
เขายังเงียบอยู่ ผมจับมือเขายกออกอีกรอบ คราวนี้มันกลับมากอดใหม่
 
ผมว่าหมอตื่นแล้วแน่ๆ
 
“หมอ อย่าล้อเล่น ดึกแล้ว”
ผมบอกเสียงเย็น ถ้าเป็นคนอื่น คงกลัวจนขนลุก ยกเว้นอยู่สามคนนี่แหละ ที่ไม่ค่อยเกรงกลัวกับออร่าสังหารที่ผมส่งไป เจ้านายน่ะยกเว้นไว้เถอะ สองคนที่เหลือก็หมอกับลิงปัญญาอ่อนอย่างหงส์ซานนั่นแหละ ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ผมปล่อยให้เขากอดไว้อย่างนั้น ไม่รู้จะเล่นพิเรนทร์อะไรอีก
 
ผมสะดุ้งเฮือก เมื่อมือนั้นเลื่อนต่ำลงไปที่หน้าท้อง ผมขมวดคิ้ว เริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจ แล้วมือนั้นก็ต่ำลงไปอีก และก่อนที่มันจะแตะลงบนส่วนสงวนผม ผมรีบตะครุบจับมือนั้นไว้ทันที
 
“หมอ!!”



To be Con..
โบราณว่าไว้ อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจหมอ ....
.
.
.
.
.

(มีหนังสือและ e-book เรื่องหงส์ซานให้จองและดาวน์โหลดอ่านกันได้แล้วค่ะ ที่นี่>> https://goo.gl/WbWxt8)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2017 19:29:54 โดย memew »

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
Re: หงส์ซาน #9 คอนโทรล [P.6][19-5-2017] 40%
«ตอบ #178 เมื่อ19-05-2017 21:36:33 »

 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: หงส์ซาน #9 คอนโทรล [P.6][19-5-2017] 40%
«ตอบ #179 เมื่อ19-05-2017 22:16:07 »

 :mew1: :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด