หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]  (อ่าน 180046 ครั้ง)

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
โดน!!!!

ออฟไลน์ vavavivi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งจะเข้ามาอ่าน จะฮาไปไหนเนี่ย อาเหมย ลื้อหนีงานแต่งอย่างงี้  หงส์ซานของเราเลยได้ฟินเลย ฮาๆๆๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เสร็จแน่ๆๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สี่เท้ายังรู้พลาด

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
จังเรียงกระป๋องไว้แบบนี้โดนแดกแน่ๆ...

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :laugh: :z1:

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ซันไรส ผู้น่าสงสาร

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
 :haun4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เฮียซันโดนพี่หมอจับกินแน่ๆ :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หงส์ซาน #13 คุณหมอจอมป่วน [P.9][7-6-2017] 100%
« ตอบ #279 เมื่อ: 09-06-2017 16:51:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รอ

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
หงส์ซาน #14 ภูเขาไฟระเบิด


ผมจ้องมองดวงตาของคนที่อยู่เหนือร่างผมขึ้นไป กัดกรามแน่น ผมเพิ่งสังเกตว่าห้องไม่ได้ปิดม่านตรงหน้าต่าง แสงจากไฟหน้าแพจึงสาดเข้ามาให้เห็นภาพภายในได้อย่างชัดเจน
 
ใครเป็นคนเปิด
 
ไม่ใช่ผมหรือวิกเซอร์แน่ๆ
 
“เล่นอะไรของคุณ”
ผมถามออกไปเสียงเบา
 
แต่ให้ตาย เสียงผมมันแปร่งพร่ายังไงพิกล
 
ร่างกายผมร้อนไปหมด รู้สึกเลือดกำลังวิ่งพล่าน ศูนย์รวมของเลือดทั้งหมด ไปกระจุกรวมกันอยู่ที่ส่วนกลางลำตัวจนตอนนี้มันตั้งชันจนเห็นเป็นภูเขาฟูจิลูกย่อมๆ แล้ว
 
“ไม่ได้เล่น แต่เอาจริง”
 
“คุณเอายาอะไรให้ผมกิน”
ผมถามกลับเสียงนิ่ง ทั้งที่พอจะรู้อยู่แล้ว
 
“ยานอนหลับไง”
 
ผมร้องหึในลำคอ กัดกราม จ้องนิ่งอยู่ยังใบหน้าของคนด้านบน
 
“ใช่ หลับสนิทเลย”
ผมตอบประชด พยายามบังคับร่างกายไม่ให้รู้สึกเกินกว่านี้
 
“ถ้าเกิดคนที่กินน้ำกระป๋องนี้เป็นวิกเซอร์ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น”
 
“ฉันรู้ว่าพวกนายถือคำสั่งเป็นประกาศิต เมื่อฉันบอกว่ากระป๋องนี้สำหรับนาย ฉันมั่นใจว่าวิกเซอร์ต้องไม่กิน”
 
“ไม่กินอะไร หมอนั่นเกือบกินไปแล้วถ้าผมไม่แย่งคืน!”
ผมตอกกลับเสียงหนัก
 
“อ้าว เหรอ ว้า คิดไปไม่ถึงจริงๆ วิกเซอร์ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นนะ ออกจะเคร่งคำสั่ง”
 
“น้องผมรวนหมดเพราะคนอย่างคุณนั่นแหละ”
 
“จริงเหรอ”
พูดจบมือของหมอก็ตะปบลงมาบนภูเขาฟูจิน้อยๆ ของผม ผมครางออกมาทันที ความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้รับเมื่อวานเทียบไม่ได้กับวันนี้เลย ร่างกายผมกระตุกวูบ มือไม้ที่ว่าจะวางไว้เฉยๆ เผลอยกขึ้นมาจับเอวของคนด้านบนบีบแน่น
 
“สงสัยจะจริงแฮะ”
 
ผมกัดกราม จ้องหน้าหมออย่างอดทน
 
“ผมหมายถึงวิกเซอร์ คุณทำให้น้องผมสูญเสียสัญชาตญาณการระวังภัยไป มันไม่ดีแน่กับหน้าที่การงาน”
 
“ถ้าฉันหวังฆ่าหรือทำร้ายเขา วิกเซอร์อาจรู้ แต่ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าหรือทำร้ายวิกเซอร์นี่ จะจับไม่ได้ก็ไม่แปลก”
 
“ไม่ว่าจะแบบไหน คุณก็ทำให้เขาบกพร่อง ปล่อยผมได้แล้วคุณหมอ”
ผมบดกรามแน่นจนได้ยินเสียงกรามลั่น
 
“คนที่จับฉันอยู่ตอนนี้คือนายนะซันไรส์”
 
ผมก้มมอง และก็จริงดังว่า เพราะสองมือผมบีบเอวหมอแน่น ผมสั่งให้ตัวเองปล่อยหมอออก แต่มือหมอที่กำลังไต่ภูเขาฟูจิผมอยู่หยุดการกระทำผมลง หนำซ้ำผมยังทำเรื่องที่ค้านกับใจ นั่นคือค่อยๆ ดึงเอวของคนด้านบนต่ำลงมาเรื่อยๆ จนร่างของหมอแนบชิดกับร่างของตัวผมเอง ความเสียวซ่านทำเอาผมกดท่อนหน้าของหมอเพื่อบดขยี้ภูเขาไฟฟูจิแรงๆ
 
ผมซี้ดปาก ของหมอเองก็ขยับตื่นตัวเหมือนกัน
 
“คุณมันหาเรื่อง อยากโดนเอารึไง”
ผมถามด้วยคำถามหยาบๆ ในขณะที่เลื่อนสองมือต่ำลงไปบีบขยำเนินเนื้อของหมอ กดให้ร่างกายเราแนบติดกันมากขึ้น
 
“ใช่”
หมอตอบรับมาตรงๆ จนผมยังอึ้ง เขาพยายามพยุงตัว สีหน้าดูอึดอัด คงเพราะส่วนนั้นของหมอทิ่มอยู่กับภูเขาไฟฟูจิที่กำลังแข็งตัวของผม
 
“แต่อยากขนาดไหนนายก็เข้ามาไม่ได้หรอกซันไรส์ ฉันยังไม่พร้อม”
 
“ไม่พร้อมแล้วคุณมากระตุ้นผมแบบนี้ทำไม!!”
ผมตะคอกอย่างเหลืออด กดท่อนล่างของหมอแรงขึ้นจนหมอครางออกมาเสียงดัง
 
ไม่รู้ว่าเจ็บหรือเสียวกันแน่
 
หมอคลี่ยิ้มทั้งที่ยังทำสีหน้าเจ็บปวด แต่มันก็เครือๆ กันไปกับความเสียวซ่าน ยังไม่หยุดพยายามขยับยกตัวขึ้น แต่ผมกดแน่นไม่ยอมให้อิสระกับเขา
 
“เพราะฉันมั่นใจว่าแค่ปากกับมือก็ทำให้นายมีความสุขได้น่ะสิ”
 
“ผมไม่คิดว่าการกระทำของคุณจะสร้างความสุขให้ผมนะ”
 
“ได้แน่ ถ้านายยอมให้ฉันทำให้ดีๆ ปล่อยซันไรส์ ฉัน อึก อ๊า เจ็บ”
หมอครางออกมาเมื่อผมบดขยี้ท่อนล่างของเราเข้าหากันแรงขึ้นอีกที
 
อย่าว่าแต่หมอเลย ผมเองก็ทั้งเจ็บทั้งเสียวเหมือนกัน
 
“ไม่ปล่อย ลงโทษไง คุณจะได้ไม่คิดทำอะไรอุตริและพิเรนทร์แบบนี้อีก”
 
หมอพยายามจะยกตัวขึ้นอย่างทุลักทุเล แต่ผมก็มือเหนียวไม่ปล่อย
 
ไม่รู้ว่าหมอเป็นคนแข็งแรงมาก่อนอยู่แล้ว หรือว่าผมอ่อนแรงลงกันแน่ ในที่สุดหมอก็สามารถพยุงตัวลุกนั่งได้ แต่ท่อนล่างยังแนบติดอยู่กับเป้ากางเกงผม ภูเขาไฟฟูจิชนอยู่ตรงร่องรอยแยกของเปลือกโลกหมอพอดี ผมจับมันบดภูเขาไฟทันทีอย่างเสียวสะท้าน
 
แม้จะเพียงภายนอก แต่เพราะความต้องการมันถูกไล่ไปกระจุกรวมกันอยู่ที่เดียวนานแล้ว ขยับไม่กี่ทีผมก็พวยพุ่ง
 
พุ่งทั้งที่น้องผมยังอยู่ภายในกางเกงนั่นแหละ
 
ศักดิ์ศรี ความมั่นใจ ความอึดอัดมันคับแน่นอยู่ในอก ผมมองตาคนด้านบน
 
“อ้าว เรียบร้อยไปแล้วเหรอ เร็วจัง”
 
เอาปืนมายิงกันเลยดีกว่า
 
ผมกัดกราม จับคนด้านบนพลิกลงไปนอนแทนที่ จับสองข้อมือหมอกดแนบติดไว้ข้างหัวไหล่ ก้มซุกซอกคอทันที หมอแหงนหน้ารับการรุกรานจากผม ผมไล่ปากต่ำไปยังแผงอกที่ไม่ได้กว้างมากนั้น
 
เอาตามจริงถ้าหมออยู่กับหงส์ซาน เขาจะดูตัวใหญ่ และเป็นที่พึ่งให้หงส์ซานได้เป็นอย่างดี แต่พอมาเทียบกับผม หมอก็เป็นเพียงผู้ชายหุ่นเพรียวๆ ธรรมดาเท่านั้น ไม่บางและไม่หนาจนเกินไป เป็นขนาดกำลังพอฟัดพอเหวี่ยงโดยไม่ต้องกลัวว่าจะบอบช้ำจนต้องคอยทะนุถนอมแบบหงส์ซาน
 
รายนั้นถ้ามานอนกับผม เอวคงหักเป็นสองท่อนเพราะผมแรงเยอะ
 
ร่างกายผู้ชาย ส่วนนี้ไม่ได้นูนเด่นเหมือนผู้หญิง แถมจุกที่ควรจะตั้งชันขึ้นมาให้สัมผัสได้ชัดๆ ก็ไม่มี แต่เพียงการลากผ่านของผมเบาๆ สิ่งที่แบนราบในตอนแรกก็นูนเด่นขึ้นมาสะดุดปากผมเบาๆ ผมใช้ปลายลิ้นตวัดรัดมันทันทีผ่านเสื้อ
 
หมอกำมือแน่นทั้งที่ข้อมือยังไม่เป็นอิสระ ครางอื้อไปกับสัมผัสนั้น ผมตวัดต้อนมันเข้าปากสลับกับงับเบาๆ
 
“อ๊า ซันไรส์”
หมอครางอีกรอบ
 
เซนซิทีฟไม่เบา
ผมเลื่อนปากขึ้นไปยังลำคอ ใบหู และวกกลับมาหาตุ่มไตเล็กๆ นั้นต่อ
 
“ไม่ต้องทำอะไรฉันซันไรส์ เดี๋ยวฉันจัดการให้”
 
ผมไม่ฟังเสียงอะไรทั้งนั้น มาทรมานกันด้วยการทำให้ผมอยากจนร่างจะระเบิดแบบนี้ ผมจะทำให้เขารู้สึกแบบเดียวกันบ้าง ร่างหมอเกร็งไปหมด ทั้งหอบ ทั้งคราง แถมท่อนล่างยังเลื่อนสไลด์รุนแรง
 
เรื่องปรนเปรอสาวๆ ผมก็ถนัดไม่แพ้กัน
 
เพียงแต่หมอไม่ใช่สาว แต่ผมก็ไม่โง่ที่จะเดาไม่ออกว่าร่างกายผู้ชายต้องการเล้าโลมตรงจุดไหนเป็นพิเศษ
 
ผมถอนมือหมอออกเพื่อมาเลิกเสื้อหมอร่นไปที่คอ หมอรีบหยุดมือผมไว้ แต่ก็ทำได้แค่จับข้อมือเท่านั้น ผมพลิกนิดเดียวก็กดข้อมือหมอลงไปไว้ที่เดิม ใช้ปากในการร่นเสื้อที่ตกลงมาให้สูงขึ้นไปอีกจนโชว์แผงกล้ามอกหมอเบาๆ
 
หมอเป็นคนซ่อนรูปพอควร ร่างกายหมอเป็นนายแบบได้สบายๆ ผิวก็เนียนพอตัว
 
ผมฉกปลายลิ้นเข้าหายอดอกเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนนั้นทันที ของหงส์ซานเป็นสีขาวอมชมพู หมอขยับหน้าอกเข้าหาปากผม ผมกัด รัด เลียสลับกับยกหน้าขึ้นไปซุกซอกคอหมอ แต่ชักรำคาญ เพราะพอหมอดิ้นเสื้อมันก็ร่นตกลงมาอีก ผมจึงลุกถลกเสื้อหมอออกจากหัวซะเลย หมอรีบจับสองไหล่ผมเพื่อหยุดไว้ พอๆ กับปากที่ร้องห้ามปราม
 
หมอตั้งใจจะแกล้งผม แต่ผมจะเอาคืนให้สาสม
 
พอไร้เสื้อมาปิดกั้น การกระตุ้นเร้าอีกคนให้ทรมานปางตายก็ทำได้ง่ายขึ้น
 
“พอแล้วซันไรส์ ฉัน...”
หมอคงอยากไปจะแย่แล้ว แต่ผมไม่ปล่อยให้หมอได้สิทธิ์นั้นเร็วนักหรอก
 
หมอคงทนไม่ไหว เขาเลื่อนมือที่จับไหล่ผมอยู่ลงไปด้านล่าง ล้วงผ่านเข้าไปในกางเกงตัวเอง แต่ผมดึงมันกลับมาขึ้นมาข้างตัวตามเดิม หมอขยับอย่างทรมาน ผมไล่ปากต่ำลงไปยังหน้าท้องได้รูป หมอมีกล้ามเนื้อนิดๆ มันกำลังไหวกระเพื่อมเพราะแรงอารมณ์
 
หมอขยับดันส่วนหน้าตัวเองขึ้นมาชนของผมจนผมเองก็ชักจะทนไม่ไหว บางทีถึงเวลาต้องปลดปล่อยอีกรอบแล้ว
 
ผมจับหมอลุกขึ้นคุกเข่า พอๆ กับตัวผมเองที่ขยับตั้งตัวตรงด้วยเข่าสองข้าง ถลกกางเกงลงต่ำจนภูเขาไฟฟูจิออกมาเตรียมระเบิดภายนอก จับหัวหมอกดเข้ามาใกล้
 
“อยากนักก็ทำเลย”
ผมพูดเสียงต่ำ
 
“ปล่อยมือก่อน”
 
“ไม่”
ผมตอบปฏิเสธ
 
“ฉันทำไม่ถนัด อยากทำไปพร้อมๆ กันด้วย”
 
ผมแสยะยิ้ม จ้องมองดวงหน้าปรอยฉ่ำอย่างเหนือกว่า
 
“ไม่”
ผมก้มลงไปกระซิบใกล้ๆ
 
“ทำให้ผมไปได้เมื่อไหร่ ผมจะให้รางวัลเมื่อนั้น”
ผมกดหัวเขาให้ลงไปหาภูเขาไฟลูกเดิม หมอจำต้องรับเอาเข้าปาก
 
แม้จะถูกบังคับ แต่หมอก็ไม่ละทิ้งลวดลายอันเหนือชั้นในการใช้ปาก พลังดูดเอย ลิ้น ฟัน และริมฝีปาก แค่นั้นก็ทำเอาผมไปได้ง่ายๆ อีกรอบ
 
หมอตวัดปลายลิ้นเก็บกินทุกหยาดหยดลูกๆ ผมจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว
 
เอาตามจริงแล้วผมก็ชอบนะ ผู้หญิงบางคนยังกินไม่หมดขนาดนี้เลย
 
ผมมองดูปลายลิ้นที่ตวัดออกมาเลียริมฝีปากนั้น
 
มันดูดีไม่หยอก
 
ผมจึงให้รางวัลอีกคนตามสัญญาด้วยการจับหมอพลิกหันหลังเข้าหาอก จับหมอนั่งมาบนตักแล้วขยับให้ ผมว่าหันทิศเดียวกันแบบนี้น่าจะทำได้ง่ายขึ้น แผ่นหลังเปลือยเปล่าของหมอแนบติดอยู่กับหน้าอกผม
 
หมอครางได้เร้าอารมณ์ดีเหมือนกัน หมอจับมือผมที่กำลังขยับให้
 
“อ๊า ดีเร็วซันไรส์”
หมอเร่งมา สองแขนผมโอบรอบหมอไว้ ผมใช้เพียงมือเดียวในการไล่ต้อนหมอให้จนมุมด้านล่าง ส่วนอีกมือไล่ไต่ไปแถวๆ ยอดอก หมอบีบมือผมแรงทั้งบนและล่าง
 
“ไม่ไหวแล้ว”
หมอครางออกมาเสียงดัง บีบมือผมแรงขึ้นแล้วพ่นลาวาอุ่นๆ ออกมา
 
อกของคนด้านหน้าไหวกระเพื่อม มือผมยังไม่หยุดรีดเร้นเอานมข้นหวานตราหมีออกมา
 
น้ำนมมีคุณภาพพอควร
 
เพราะหมอไม่ได้ใช้ยา พอหมอปลดปล่อยเขาก็สงบความเกรี้ยวกราดลง แต่ของผมโดนยา ต่อให้ไปแล้วมันก็แค่ยวบลงเล็กน้อยเท่านั้น
 
ผมจับหมอหันมาเผชิญหน้า บีบคางอีกคนแรง
 
“รับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย”
ผมบอกแค่นั้น จับหมอก้มหน้าลงไปหาภูเขาไฟฟูจิด้านล่างอีกรอบ
 
หมอไม่อิดออดที่จะทำ ถ้าจะให้หมอเป็นเครื่องบำบัดแบบฟูลออฟชั่นต้องใช้ทั้งมือและปาก พออุปกรณ์ครบ สวรรค์ก็อยู่เคียงข้างผมแล้ว ใช้เวลาไม่นานหมอก็ระเบิดภูเขาผมได้อีกรอบ
 
ผมจ้องมองคนที่กำลังทำความสะอาดไปรอบๆ ด้วยปลายลิ้น กลีบปากที่ถูกเลียจนชุ่มฉ่ำนั้นทำเอาผมรู้สึกต้องการลิ้มรสมันแปลก ๆ ผมจับหมอลงไปนอนหงาย แนบผสานกลีบปากเข้าหากันทันที
 
หมอตอบรับด้วยการโอบวงแขนมารอบลำคอผม คงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ผมถึงได้รู้สึกว่าคืนนี้ หมอมีเสน่ห์ยังไงพิกล
...
...
...
...
...

หมอขยับเปลี่ยนท่าจนหนังสือการ์ตูนที่วางอยู่บนอกหล่นตกพื้น แต่ยังนอนนิ่งอย่างไม่รู้สึกตัว
 
ผมไม่ได้อยากสนใจ แต่มันก็อดไม่ได้ถ้าเห็นอะไรมันไม่อยู่กับที่กับทาง ผมขยับลุกอย่างแผ่วเบาตรงไปหยิบหนังสือที่หล่น นำมันไปวางไว้บนอกคนหลับอีกที
 
เวลานอนก็ดูไร้พิษสงดีอยู่หรอก แต่เวลาตื่นก็ปีศาจดีๆ นี่เอง
 
หมอขยับปรับท่าอีกนิดหน่อยแล้วนิ่งสงบลง กลีบปากที่ปิดสนิทเผยอเปิดเล็กน้อย เพิ่งสังเกตว่าจมูกหมอมันเป็นสันก็จริง แต่แอบมีงอนตรงปลายนิดๆ (แสดงว่าเป็นพวกดื้อรั้น) หน้าผากมน ผมยาวปรกคิ้วหมดแล้ว
 
ผมขมวดคิ้ว
 
แล้วนี่ผมจะมายืนพิจารณาหมออยู่ทำไมกัน ผมละสายตาจากปีศาจปัญญาอ่อนตรงหน้า เดินกลับไปนั่งที่เดิม
 
...
...
...
...
...
 
#หงส์ซาน
 
ผมตื่นอีกทีตอนสิบโมง คุ้ยหาขนมกินเล่นที่ซื้อเตรียมมากิน พี่หมอนอนคอพับโดยมีหนังสือการ์ตูน(ปัญญาอ่อน)วางอยู่บนอก ไร้เงาของซันไรส์ คงหลบเข้าไปนอนในห้อง อากาศที่นี่ดีสุดๆ ผมยืดตัวสูดลมหายใจเข้าปอดอีกรอบ เห็นบางแพเขามีฟูกมาปูนอนรับลม ผมหันมองเข้าไปภายในห้อง ลุกขึ้นเดินหา ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าที่นี่ก็มีเหมือนกัน พับซ่อนไว้ในตู้
 
ผมรีบลากมันออกมาปู อยากเล่นน้ำหรือพายเรือเล่นนะ แต่รอพี่หมอตื่นก่อนละกัน ผมนอนคว่ำ หันหน้าเข้าหาน้ำ หยิบมือถือมากดเล่น สลับกับมองวิวมองน้ำ น้ำที่นี่ราบมาก ไม่มีคลื่นเหมือนทะเล ยกเว้นเวลาเรือแล่นเข้ามาใกล้ๆ จะมีคลื่นนิดหน่อย แต่ก็ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่เขาจะดับเครื่องก่อนเรือถึงแพ
 
ผมสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็มีใครสักคนมาคร่อมร่างผมไว้ ผมรีบพลิกหันไปมอง ตาโตเมื่อเห็น
 
ไอ้บ้วยครับ
 
“ไหนว่ากลับมาหลังเที่ยง”
ผมยกมือถือดูเวลา สิบเอ็ดโมง มันยิ้ม เกลี่ยเส้นผมที่ระตาผมออกให้แผ่วเบา
 
ให้ตายหัวใจผมเผลอเต้นแรงไปกับสัมผัสอันอ่อนโยนนั้นด้วย
 
“พอดีอยากกลับมากินข้าวกับเมีย”
 
ผมหน้าบูดขึ้นมาทันที ผลักคนตรงหน้าออกแรง
 
แต่ให้ตายเถอะไอร่อนแมน!
 
มันไม่ขยับเลยสักนิด ร่างแกร่งแค่กระตุกเพราะแรงผลักของผมเท่านั้น
 
“ปล่อย ไม่อายชาวบ้านชาวช่องเขารึไง”
ผมผลักอีกรอบให้ขยับ แต่มันไม่ขยับครับ
 
“อายทำไม สามีพาภรรยามาฮันนีมูน”
ฟังดูเพราะขึ้นเยอะ แต่ความหมายมันก็แบบเดียวกันนั่นแหละ
 
“ปล่อยสิวะ”
ผมผลักอีกรอบ รู้สึกไอแดดจะแรงไปจนรู้สึกหน้าร้อนๆ ยังไงพิกล ผมต้องรีบหลบรังสียูวีก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวฝ้าขึ้น
 
มันไม่ขยับ ผมจึงใช้วิธีกระเถิบตัวขึ้นสูงหวังหนีไปด้านบน มันขยับแขนมากั้นช่วงไหล่ผมไว้ ผมจะพลิกหนีไปด้านข้าง มันตามมากั้นไว้ได้อีก ผมขยับตัวลงต่ำหวังมุดหนีลงไปด้านล่างแทน มันหยุดผมไว้ด้วยเข่าครับ แทรกลงมาตรงกลางระหว่างขาพอดี
 
ผมเสียววูบเลย เพราะส่วนนั้นของผมชนเข้ากับขามันเบาๆ ผมรีบเขยิบขึ้นไม่ให้ถูก ขยับพยายามพลิกซ้ายพลิกขวาพลิกหน้าพลิกหลังอีกรอบ แต่ไม่ว่าจะหลบไปทางไหนมันก็กั้นเอาไว้หมด
 
ผมหยุดดิ้น มองมันตาขวาง
 
“หาเรื่องรึไง รึอยากโดนต่อย”
ผมขู่อย่างนักเลง
 
“เอาสิ ถ้าหงส์ต่อยเฮียได้ เฮียจะปล่อย”
 
ท้ามาก็รับคำท้าทันที
 
ผมยกหมัดจะต่อย แต่มันรับหมัดผมไว้ได้ กำแน่นในมือในลักษณะขยุ้ม
 
“ปล่อย”
ผมพยายามดึงหมัดกลับ มันเปลี่ยนจากกำมือผมมาเป็นจับข้อมือผมไว้แทน กดตรึงไว้เหนือหัว
 
“เหลืออีกข้าง ต่อยมาสิ”
มันท้าอีกรอบด้วยน้ำเสียงเนิบๆ เอียงหน้าให้ทำดีๆ
 
คือ...มึง กูไม่ได้โง่นะ ขืนต่อยไปก็โดนยึดหมัดไว้อีกรอบน่ะสิ คราวนี้ละ ท่าโคตรส่อต่อการโดนล่วงละเมิดทางเพศเลย
 
ผมไม่ต่อยแต่ใช้วิธีดันมันออก ดิ้นขลุกขลักยึกยักไปมา ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ผมมองมันตาขวางยิ่งกว่าเดิม มันเลื่อนมือมาเกลี่ยแก้มผมเบาๆ สงสัยไอร้อนจากแดดข้างนอกมันจะแผดเผาแรงขึ้นจนผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่างตอนนี้ ผมเมินหลบตาที่มองมาอย่างเชื่อมหวานนั้น
 
“เฮียไม่อาย แต่หงส์อาย”
ผมอ้อมแอ้มบอก หวังว่าความอ่อนลงบ้างของผมจะทำให้มันใจอ่อน
 
“แต่เฮียชอบเวลาหงส์อาย น่ารักดี”
 
โว้ย!! แบบไหนมันก็ไม่ยอม
 
ผมกำหมัดหวังต่อยอีกหมัด แต่มันรับไว้ ไม่ได้เอาไปตรึงไว้เหนือหัวอย่างที่คิดไว้ตอนแรกหรอกครับ ตรึงไว้แถวๆ ข้างไหล่นั่นแหละ ผมมองตาขุ่น มันจ้องหน้าผมนิ่ง มองและมองอยู่อย่างนั้น
 
“จะมองหาซากฟอสซิลรึไง”
ผมว่าเสียงขุ่น ร่างกายร้อนวูบวาบยิ่งกว่าเดิม มันไม่สนเสียงนกเสียงกาของผม ก้มหน้าลงมาจูบซับที่หน้าผาก เกลี่ยต่ำลงมาตามแนวสันจมูก จุมพิตที่ปลายจมูกแผ่วเบา เกลี่ยปากคลอเคลียไปมาสลับกับเกลี่ยไซ้ด้วยปลายจมูกมันเอง มาจบลงที่ปากแนบปาก มันวางเอาไว้เฉยๆ ครับ ไม่ได้ขยับ ไม่ได้ล่วงล้ำ
 
แต่ให้ตายเถอะ TT
 
ผมไม่ได้ขัดขืนมันเลยสักนิด
 
“ปล่อย”
ผมกระซิบท้วง มันเลื่อนปากไปที่แก้มเกลี่ยเบาๆ แล้วฝังปลายจมูกลงจนแก้มผมบุ๋ม
 
ตัวผมเห่อร้อนไปหมด ผมว่ามันไม่ได้มาจากรังสียูวีข้างนอกหรอก น่าจะมาจากมันนี่แหละ มันเลื่อนปากกลับมาแนบปากผมต่อ คราวนี้มาแบบฟูลออฟชั่นครับ ปาก ฟัน ลิ้น แถมน้ำลายอีกด้วย มันคงกลัวผมปากแห้ง
 
ผมครางปรามในลำคอ แต่เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้นก็ต้องโอนอ่อนผ่อนตามขยับปากตอบรับทุกการรุกเร้า มันไม่ได้จูบแบบปลุกอารมณ์หรอก จูบธรรมดา ปากแนบปาก ลิ้นแนบลิ้น ฟันกระทบกระทั่งกันนิดหน่อยเหมือนเพื่อนทักทายกันด้วยการชนไหล่
 
เพียงชั่วเดี๋ยวเดียว ผมก็ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน นอนนิ่งๆ ให้มันชิมจนหนำใจ มันถอนปากออก
 
จูบมาซะนาน ปากชาไปหมด
 
ผมเลียริมฝีปาก ตามันยังไม่หยุดมองตาผม มันทิ้งตัวลงไปนอนหงาย จับผมพลิกขึ้นไปนอนเกยอยู่บนตัวมันแทนที่ ผมร้องเหวอจะลุก แต่มันรัดเอวผมไว้แน่น ใช้ขาเกี่ยวขาผมไว้กันดิ้นรนขัดขืน
 
“เล่นบ้าอะไร”
 
“เขาเรียกสวีท”
 
“สวีทบ้าสวีทบอ เขามีไว้สำหรับคนรักกัน อั๊วไม่ได้รักเฮียสักหน่อย”
 
มันยกยิ้ม จ้องตาผมไม่หลบไปไหน
 
“เดี๋ยวก็รัก”
 
“รู้ได้ไง อั๊วไม่ใจง่ายขนาดนั้นหรอก ปล่อย!!”
ผมพยายามจะดึงตัวออก แต่มันไม่ปล่อย มองตาผมนิ่งอยู่ตามเดิม
 
“บ้า ประสาท โรคจิต ชอบกินพวกเดียวกัน”
ผมด่าใส่มันเบาๆ ฟังดูหึ่งๆ เป็นยุงตอมหูยังไงพิกล มันหัวเราะรับฟังเฉย ขยับพลิกนอนตะแคงข้าง ตัวมันบังผมจากแพอื่นๆ ที่จะมองมามิด ดีว่าแพเราเป็นแพริมสุด อีกด้านเป็นป่า
 
มันจับคางผมไว้อีกรอบ มอบจูบให้อีกที แต่จูบคราวนี้มันเป็นแบบเร่าร้อน หนำซ้ำมันยังซุกมือซนๆ เข้ามาผ่านชายเสื้อควานเข้ามาลูบไล้หน้าท้อง แผงอก และจบลงตรงหัวนมผมอีกต่างหาก
 
“นี่ อย่ามาโรคจิตทำอะไรข้างนอกแบบนี้นะ”
ผมรีบติงทันทีเมื่อมันถอนปากออก
 
“เฮียไม่ทำอะไรหรอก แค่ชอบเวลาหงส์หน้าแดง น่ารักดี”
 
โว้ย ไอ้บ้า!!
 
ผมพยายามหยุดมือมันไว้ แต่มันหยุดไม่อยู่หรอกครับ มันซุกมือเข้ามาในกางเกงผมแล้ว กอบกุมน้องน้อยไว้
 
“เข้าไปในห้องก็ได้”
ผมรีบชวน พยายามหยุดมือซนๆ นั้นลง
 
“ไม่ล่ะ ตรงนี้แหละ ได้อารมณ์ดี”
 
“โรคจิต”
ผมด่าพร้อมพยายามหยุดมือภายในลง แต่มันไม่หยุดครับ ขยับเบาๆ จนเรี่ยวแรงในการขัดขืนของผมค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ
 
“อย่า อาเฮีย หงส์ขอร้อง”
ผมปรามเสียงสั่น แต่แทนที่เขาจะหยุด กลับขยับเร็วขึ้นไปอีก ผมบีบต้นแขนมันแรง มุดหน้ากับอกกว้าง มือเท้าเกร็งไปหมด
 
ตอนนี้มันทั้งอาย ทั้งกดดัน กลัวคนโผล่มาเห็นด้วย ผมอ้าปากงับอกเสื้อมันหวังหยุดเสียงครางตัวเองลง เวลาช่วยตัวเองไม่เห็นต้องครางเร้าอารมณ์แบบนี้เลย
 
“อ๊า เฮีย…”
ผมครางกระเส่าเมื่อความต้องการมาถึงขีดสุด มันขยับเร็วขึ้นกระทั่งผมยอมแพ้หลั่งเลือดขาวใส่มือมัน ผมหอบแฮก หัวใจเต้นรัวเป็นกลอง ค่อยๆ คลายปล่อยมือที่บีบเกร็ง ปล่อยปากจากเสื้อมันด้วย
 
“หงส์ของเฮียน่ารักที่สุด”
 
“ไอ้บ้า”
ผมต่อยมันไปปักใหญ่ แต่มันหาได้สะดุ้งสะเทือนไม่ หัวเราะหึๆ ถอนมือออก ผมมองตาโตเมื่อมันยกมือเปื้อนน้ำขึ้นเลีย
 
“สกปรก”
 
“ของเมียมันสกปรกตรงไหน”
 
คะ คือ ขนาดผมยังขยะแขยง นี่มันไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง
 
“ทุเรศว่ะ”
ผมก้มหน้าด่าใส่อกมันแทนด่าใส่หน้าตรงๆ เผื่อหน้าอกมันจะมีสปีกเกอร์ส่งผ่านเสียงด่าผมขึ้นไปยังสมองมันบ้าง ได้ยินเสียงหัวเราะพออกพอใจของมันดังกลั้วอยู่ด้านบน
 
ผมหยุดด่าเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาใกล้

 
“เจ้านายครับ อาหารพร้อมแล้วครับ”
เป็นเสียงของวิกเซอร์
 
ผมเงยหน้าจากอกไอ้บ๊วย ส่วนตัวมันเองพลิกหันไปมอง ขยับลุก ผมจึงถือโอกาสนั้นลุกหนีออกมายืนห่างๆ กวาดมองไปรอบๆ
 
ไม่มีใครสนใจมองมาที่ผมกับไอ้บ๊วยหรอกครับ ยกเว้นพี่หมอกับซันไรส์
 
ซันไรส์มองมาด้วยสายตานิ่งเรียบติดจะเย็นชาผสมชิงชังตามเดิม ในขณะที่พี่หมอ…
 
เอิ่ม…
 
มองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
 
พี่แกนั่งอยู่บนผ้าใบตัวเอง หันหน้ามาทางผมกับบ๊วย ค้ำคางตั้งศอกบนเข่านั่งดูเฉย เหมือนดูหนังหรือการแสดงอะไรสักอย่าง อาหารวางอยู่เต็มโต๊ะข้างๆ
 
พี่หมอไม่พูดไม่แซวอะไรทั้งนั้น ถึงตอนนี้ก็ยังมองผมไม่วางตา
 
ผมโคตรอาย ไม่คิดว่าพี่หมอจะตื่นแล้ว
 
หรือว่าตื่นเพราะเสียงผมครางเมื่อกี้
 
“หนะ หน้าด้านว่ะ พี่หมอ”
ผมอ้อมแอ้มต่อว่า
 
มันด่าได้ไม่เต็มปากครับ เพราะเรามาทำกันกลางแจ้งให้เขาเห็นเอง แต่มันไม่ใช่ความผิดผมนะ คนผิดคือไอ้บ๊วยต่างหาก
 
บ๊วยมันไม่สนใจว่าเพื่อนตัวเองจะมองยังไง เดินหน้านิ่งไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พี่หมอ ผมยังยืนอยู่ที่เดิม ทำตัวแทบไม่ถูก
 
“ครางดังๆ หน่อยก็ไม่ได้ พี่หมอจะได้ฟังด้วย”
 
ผมจะบ้าตาย เพราะหน้าด้านหน้าทนแบบนี้นี่เองถึงเป็นเพื่อนสนิทกันได้ ผมไม่สนใจพี่หมออีก เดินตึงๆ จนแพไหวไปยังโต๊ะอาหาร ทิ้งตัวลงนั่ง จ้องหน้าคนร้ายที่มาพรากลูกๆ ออกจากอกพ่ออย่างผมตาขวาง
 
“ไม่ล้างมือรึไง”
ผมถามไอ้หื่นข้างตัว เพราะเอ่อ..มือนั้นเพิ่งจะ…
 
มันหันมามอง ยกยิ้ม ซันไรส์เดินหน้านิ่งเข้ามาหาพร้อมทิชชู่เปียก มันรับไปถือ เช็ดเบาๆ ผมจิ๊ปาก ลงมือตักอาหารกิน
 
ไอ้บ๊วยมันเรียกสมุนมันมานั่งกินด้วยกัน เพราะหลังจากนี้เราจะไปนั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนกัน
 
พี่หมอเป็นคนคุยสนุก เขาทำให้ผมหายเหงาไปได้มากโข หลังจบมื้อเที่ยง เรานั่งเล่นรอไกด์ พอบ่ายโมงสิบนาทีไกด์ก็โผล่ นั่งเรือมากับคนขับร่างผอมเกร็ง ผิวดำเมี่ยมตามประสาคนตากแดดแทบจะตลอดเวลา เราจะไปชมเขาสามเกลอแล้วก็ส่องสัตว์ครับ โอกาสเจอมีประมาณ 1 ใน 10 แต่ถึงไม่เห็นก็ถือว่าไปนั่งเรือชมวิวเล่นละกัน เราทุกคนถูกบังคับให้สวมเสื้อชูชีพ รูปขบวนตามเดิมคือผมนั่งคู่กับบ๊วย พี่หมอกับซันไรส์ ส่วนวิกเซอร์นั่งคู่กับไกด์ หลังสุดเลยคือคนขับเรือตัวดำ
เสบียงติดตัวมีแค่น้ำเปล่าคนละขวดเท่านั้น เรือพาแล่นเอื่อยๆ ไปตามลำน้ำใสสะอาด บ๊วยมันไม่นั่งเฉย ดึงเอาผมไปนั่งอิงอกมันด้วย ลำบากแต่ขัดขืนไม่ได้ วงแขนข้างหนึ่งโอบมารอบเอวผม นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิงและรักมันจริงคงมีความสุขพิลึก
 
แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านหลังคามากระทบผิว ดีแต่ว่าเรือกับน้ำเย็นๆ ทำให้ความร้อนไม่ได้ทำร้ายเรามาก พอใกล้ริมตลิ่งเขาก็ชี้ชวนให้ช่วยกันสอดส่ายสายตามองหาสัตว์ป่าที่จะออกมากินน้ำให้เห็น ผมยกตัวจากอกไอ้บ๊วยซึ่งมันก็ยอมดีๆ พยายามเพ่งตามองหา
 
“นั่นครับ นกเงือก นกที่ถือว่าเป็นมาตรวัดความอุดมสมบูรณ์ของป่า”
ไกด์คนเก่งของเราชี้ชวนให้ดู
 
ผมพยายามเพ่งมองไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง ใบแทบไม่มีเหลือติดต้น ลำต้นสูงชะลูด แผ่กิ่งออกไปทุกทิศทุกทาง ตั้งอยู่โดดเด่นท่ามกลางต้นไม้ใบเขียวสด บนนั้นมีนกอยู่จริงๆ รูปร่างพิลึกกึกกือยืนตาปรือๆ อยู่บนกิ่งแถวๆ กลางต้น ไกด์อธิบายเล่าถึงที่มาที่ไป รวมถึงการขยายเผ่าพันธุ์ของมัน ผมฟังหูซ้าย ย้ายไปหูขวา พี่หมอนี่ทำตัวเป็นช่างภาพ National Geographic ลุกขึ้นเดินไปถ่ายรูป เห็นซูมแล้วซูมอีกจนนกแทบจะมาแปะอยู่หน้ากล้องรอมร่อ ผมว่าถ้าอยากได้ภาพชัดๆ ไปเสิร์ซ Google เอาง่ายกว่านะ ผมนั่งมองเฉย พอๆ กับไอ้บ๊วย
 
หลังจากหนำใจจากนก เขาก็พาเรือขับวนไปรอบๆ ผ่านภูเขาหินผาตั้งตระหง่าน สวยงามจนผมอ้าปากค้าง วิญญาณช่างภาพพี่หมอออกฤทธิ์อีกรอบ ถ่ายรูปแชะๆ ผมยังอดใจไม่ไหวหยิบมือถือออกมาถ่ายเลย บ๊วยก็ทำด้วยเหมือนกัน ภูเขาที่นี่มันเป็นภูเขาหิน มีต้นไม้แซมอยู่บนหัวเหมือนผมคน

ที่เขาบอกกุ้ยหลินเมืองไทยเพราะแบบนี้แหละมั้ง สวยจริงๆ
 
เขาพาเราไปยังแลนด์มาร์กอีกที่ของเขื่อนเชี่ยวหลานนั่นก็คือเขาสามเกลอ เป็นภูเขาหินรูปร่างแปลกๆ สามลูกตั้งเรียงกัน คนขับพาเรือวนไปจอดยังมุมที่สวยที่สุด เขาบอกว่าจริงๆ มาดูช่วงเช้าจะเห็นหมอกปกคลุม จะสวยกว่านี้ ยิ่งมีพระอาทิตย์สาดแสงลงมานี่สวรรค์ชัดๆ เลย แต่พอดีเรามากันบ่ายจะเย็นแล้ว แสงสาดไปคนละทิศ แต่มันก็ยังสวยอยู่ดี
 
ผมนี่มองตาโตแล้วโตอีก เรือพาวนอ้อมไปอีกด้าน ทำให้แสงสาดเข้ามาในเรือ ผมยกกล้องขึ้นส่องเพื่อหามุมสวยๆ ในการถ่าย วาดกล้องไปเรื่อยๆ
 
กระทั่งมาหยุดอยู่ยังใบหน้าของคนข้างๆ แทนที่จะมองวิวมองภูเขา มันกลับมานั่งมองผมนิ่งๆ เท่านั้น
 
หน้าผมเห่อร้อนขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุลดกล้องลงมอง
 
“มองทำไม ไม่มีภูเขาบนหน้าอั๊วสักหน่อย”
ผมอ้อมแอ้มถาม
 
“เฮียมองภาพที่สวยที่สุดอยู่”
 
ผมหันไปมองด้านหลัง เผื่อจริงๆ แล้ววิชั่นของมันคือด้านหลังผม มันก็สวยหมดแหละ ผมขยับตัวเบี่ยงหลบ แต่มันก็ยังตามมามองผมอยู่เหมือนเดิม ผมชักไปไม่เป็น
 
“ละ เลิกมองได้แล้ว”
ผมห้ามอย่างตกประหม่า
“ภูเขาน่ะ มองไป แก่แล้ว อีกหน่อยก็เข้าโลง คงไม่มีโอกาสได้มามองอีก”
 
มันอมยิ้ม ยกมือค้ำคางตั้งศอกกับเข่ามอง
 
“นั่นน่ะสิ หงส์ท่ามกลางภูผาสวยๆ แบบนี้คงไม่มีให้เห็นบ่อยๆ”
 
“หงส์ที่ไหน ที่นี่มีแต่นกเงือก”
 
มันไม่ตอบ มองมาด้วยสายตาระยิบระยับ
 
ผลักคนตกน้ำนี่ผิดกฎหมายเมืองไทยไหมครับ
 
แต่ถ้าผมทำแบบนั้นจริง ซันไรส์หรือวิกเซอร์คงกระโดดมาเตะก้านคอผมตกน้ำตามลงไปด้วย
 
ผมรีบหันหลังให้ มองวิวอย่างอื่นต่อ แต่รู้สึกหลังคอมันร้อนๆ ยังไงพิกล ผมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเสีย 

to be Con..

ติดอ่านนิยายอีกแล้ววววว ซื้อมาร้อยกว่าเล่ม ตั้งใจจะอ่านให้หมดก่อนงานหนังสือครั้งใหม่จะมาถึง สวรรค์ชั้น 9 -,.- :heaven
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2017 21:22:05 โดย memew »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ป่านนี้ลูกๆของเฮียซันเข้าไปอยู่เต็มท้องหมอแล้วม้างงงงงง :z1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ benten_nn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตายอย่างสงบ :heaven :heaven :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เฮียนี่หื่นได้ไม่รู้เวล่ำเวลา กะสถานที่เล้ย   :hao3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
นั่งอ่านเฮียจีบเมียไป แบบนี้ไม่นานอาหงส์ต้องรักเฮียแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ sebest

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
หงส์ซาน #15 แพ้ราบคาบแก้ว


เรือทิ้งห่างจากเขาสามเกลอเพื่อส่องสัตว์ต่อ คราวนี้เจอลิงครับ ไกด์ชี้ชวน ผมมองตามแต่ยังไม่เห็น เขาบอกมันตกใจเสียงเรือวิ่งเข้าป่าไปแล้ว ก่อนไอ้บ๊วยจะสะกิดไหล่ผม ชี้ไปยังพื้นริมน้ำ ผมตาโตเมื่อเห็นลิงขนสีน้ำตาลเข้มตัวหนึ่งยืนหันหน้าลอกแลกมองมาทางเรา ในมือถืออะไรสักอย่างที่น่าจะเป็นผลไม้
 
“เอ้า โบกมือทักทายเพื่อนหน่อย”
บ๊วยมันยกมือขึ้นประกอบ ผมมองมันตาขวาง มันหัวเราะร่วน เขาหยุดให้เราถ่ายรูปแล้วพาเรือแล่นไปตามทาง สักพักไกด์ก็ชี้ให้ดูกระทิงตัวโตที่ยืนหันก้นให้ เขาพาเรือขับเข้าไปใกล้แล้วดับเครื่อง เพราะเดี๋ยวมันตกใจหนีเข้าป่าไปก่อน พี่หมอรัวมือถือ แต่คงได้แต่ภาพก้นพี่หมอจึงป้องปากตะโกนใส่มัน
 
“เฮ้ย ไอ้เพื่อนยาก หันหน้ามาให้ถ่ายรูปหน่อย!!”
 
ไม่รู้ว่ามันได้ยินเสียงพี่หมอหรือว่าอะไร มันเอี้ยวหน้ามามองดีๆ ประมาณสามสี่วินาทีแล้วเดินก้นบิดเข้าป่าไปอย่างเมินเฉย ได้ยินเสียงพี่หมอบ่นอุบอิบ ผมหัวเราะร่วน คนขับสตาร์ทเรืออีกรอบ กระทั่งไปเจอกวางตัวเบ้อเร่อยืนสีแทบกลืนกับหญ้าริมน้ำ ตัวนี้น่าจะเป็นกวางรับแขกครับ มันยืนด้วยท่าทางสง่างาม สะบัดหูสะบัดหาง ปากเคี้ยวอะไรอยู่แยบๆ พี่หมอรัวกล้องอีกรอบ มันหันหน้ามาทางเราดีๆ ผมก็ถ่ายมันไปหลายช็อตเลย
 
เรือวิ่งไปอีกพักก็เจอลิงอีกตัว เลียงผาด้วย ไกด์บอกเราโชคดีมาก เพราะเจอสัตว์ค่อนข้างเยอะ
 
ไกด์ถามว่าอยากไปชมวิวไหม มีสองจุดให้ชมคือเขาสกกับเขาไกรสร แต่ต้องเดินไกลและปีนป่ายกันค่อนข้างเยอะ เย็นมากแล้วด้วย กว่าจะไปจะกลับมันจะดึกเสียก่อน อันตราย บ๊วยกับพี่หมอจึงลงความเห็นกันว่าไม่ไป กลับไปโดดน้ำเล่นที่แพดีกว่า เรือจึงพาเรากลับ
 
อากาศกำลังดีเลยครับ พอเรือส่งถึงที่ผมก็วิ่งถลาลงน้ำนำร่องไปก่อนทันทีดังตูม พี่หมอโดดตามลงมาติดๆ สักพักไอ้บ๊วยก็ตามลงมาด้วย ผมรีบว่ายน้ำดึบๆ หนีตัวอันตรายประจำเขื่อนทันที
 
แต่มันว่ายเร็วกว่า ตามมาประกบหลัง หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก ทำใจอย่างเดียว บนฝั่งไอ้น้ำยาล้างจานกับน้ำยาขัดส้วมยังยืนนิ่งทำหน้าที่ประหนึ่งหุ่นปั้น ผมเอ่ยปากชวนไปเล่นๆ
 
“ลงมาเล่นน้ำด้วยกันสิซันไรส์วิกเซอร์”
 
สองคนนั้นยังยืนนิ่งประหนึ่งเสียงผมเป็นเสียงตอมหึ่งๆ ของแมลงหวี่
 
ผมย่นจมูกใส่
 
“ลงมาสิ ทั้งสองคน”
ไอ้บ๊วยมันสั่งด้วยน้ำเสียงเบาๆ สองคนนั้นขยับ ถอดเสื้อออกจากหัว ก้าวตามลงมาตามสั่ง
 
ผมจิ๊ปาก
 
เออ ผมมันไม่ใช่เจ้านายของพวกมันนี่
 
เอาตามจริงตั้งแต่วันแรกที่สองคนนี้โผล่มา ผมน่าจะอยู่ในฐานะนักโทษมากกว่า เพราะมันไม่ยอมให้ผมหลุดพ้นสายตาเลย
 
ผมไม่ได้สนใจคนทั้งคู่ ขยับว่ายน้ำไปเรื่อยๆ ก่อนร่างทั้งร่างจะเบรกกึก เพราะเอวถูกยึดจับไว้ด้วยสองมือใหญ่ๆ ของใครบางคน
 
ผมหันไปมอง
 
“เกาะหลังเฮียไหม”
 
“ไม่ใช่สัมภเวสี”
 
มันหัวเราะหึๆ แต่หันหลังให้ ผมชั่งใจอยู่อึดใจเดียวก็ลอยไปเกาะหลังมันไว้ ครั้งที่แล้วเล่นน้ำกันกลางคืน ครั้งนี้กลางวัน คนละอารมณ์เลย มันพาว่ายช้าๆ ผมเกาะทุ่นมีชีวิตลอยไปเรื่อยๆ ตอนแรกเกาะเฉยๆ แต่มันสบาย ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวแนบติดแผ่นหลังอีกคนมากขึ้น กระทั่งหน้าผมอยู่ห่างหน้ามันเพียงนิด
 
“ทำไมเฮียถึงยอมแต่งงานกับอั๊ว”
ผมถามขึ้นมาเงียบๆ มันหยุดว่ายน้ำ ผมขยับไปลอยตัวด้วยตัวเอง
 
ถึงมันไม่บอก ผมก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
 
มันลอยตัวหันมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ สีหน้านิ่งเรียบ แสงแดดยามเย็นฉาบไล้ใบหน้ามันให้ดูสุขุมขึ้น
 
ให้ตาย ป๊ากับม๊าก็ช่างปั้นให้ออกมาหล่อได้ใจ
 
มันไม่ตอบ แต่ขยับมาจูบหน้าผากผมเบาๆ
 
“อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ หงส์ แล้วหงส์จะรู้คำตอบที่แท้จริง การแต่งงานครั้งนี้มันไม่ใช่แค่งานเท่านั้น”
 
ผมหลบสายตานั้นเสีย ว่ายไปเกาะหลังมันตามเดิม พระอาทิตย์คล้อยตัวต่ำลงไปเรื่อยๆ เรามองไปยังทิศทางเดียวกัน ผมกระชับกอดมันแน่นขึ้น มองเจ้าดวงโตๆ ที่กำลังจมลึกลงไปใต้น้ำ
 
มันจับผมลงจากหลัง ดึงมาด้านหน้า ไม่พูดอะไร จับผมจูบอีกรอบ
 
ผมบอกไม่ถูกว่าทำไมรอบนี้ผมไม่สะบัดสะบิ้งดิ้นหนีอะไร ไม่อายว่าจะมีใครเห็นด้วย ปล่อยให้มันเป็นผู้พยุงตัวเราสองคน โอบสองวงแขนรอบลำคอแกร่ง ตอบรับรสจูบนุ่มนวลนั้น
 
มันถอนปากออก มองตาผม ก้มจูบแก้มแผ่วเบา น้ำเย็นๆ ร้อนขึ้นมาทันที
 
“พระอาทิตย์ตกหนีแล้ว”
ผมอ้อมแอ้มพูดหนีความรู้สึกกระดากที่บังเกิดขึ้น มันยิ้ม จับผมเกาะหลังอีกรอบ พาว่ายขึ้นฝั่ง เห็นพี่หมอเล่นน้ำอยู่แถวๆ ขอบแพ ส่วนวิกเซอร์กับซันไรส์ ลอยอยู่ในน้ำครับ แต่ลอยนิ่งไม่ต่างกับยืนอยู่บนฝั่ง เหมือนเปลี่ยนสถานที่ลงมาทำหน้าที่บอดี้การ์ดในน้ำกันมากกว่า ผมลงจากหลังบ๊วยว่ายเองเมื่อระยะมันใกล้เข้าไป
 
“ปลาตายกันหมดเขื่อนแล้วครับน้องหงส์”
 
ผมมองคนพูดงงๆ
 
“ทำไม”
 
“โดนมดบุก จับปลาไปกิน เพราะน้ำแถวนี้มันหวานจนมดขึ้น”
 
โห
 
ผมหน้าร้อนผ่าว อุบอิบว่า ‘บ้า’ เบาๆ ว่ายไปเกาะขอบแพ ตีขาเล่นป๋อมแป๋ม พี่หมอหัวเราะ ลอยตัวไปใกล้เพื่อนตัวเองเพื่อพูดคุยหัวเราะกันตามประสาเพื่อนสนิท ผมไม่ได้สนใจสองคนนั้น สองมือเกาะขอบแพ พยุงร่างอย่างสบายอารมณ์
 
ก่อนสะดุ้งเฮือกเพราะโดนคร่อมร่างจากทางด้านหลัง ผมหันไปมอง
 
ผู้ร้ายประจำเขื่อนนี่เอง สองมือมันวางไว้ข้างๆ มือผม แผงอกแนบมากับแผ่นหลัง ดันเบา ๆ จนผมลอยชิดขอบแพเข้าไปอีก
 
“จะเบียดเข้ามาทำไมเนี่ย”
ผมโวยวายเบาๆ ออกแรงที่แขนดันตัวเองถอยหลังเพื่อผลักอีกคนออกห่าง
 
“เฮียอยากอยู่ใกล้ๆ หงส์”
 
ตูม!!!
เหมือนโดนระเบิดร่วงใส่หัวแบบไม่มีหวอเตือน ผมขยับเอาอกไปชิดขอบแพตามเดิม อุบอิบพูดไม่หวังให้ใครได้ยิน
 
“บ้า”
 
ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ มันขยับมาชิดหลังผมอีกรอบ เวลาแพขยับ ร่างเราก็ขยับเคลื่อนไหวไปตามกระแสคลื่นเบาๆ นั้น จะว่าไปมันก็เพลินดี
 
แต่มันจะเพลินกว่านี้ถ้าไม่มีอะไรมาทำให้หัวใจผมเต้นผิดปกติแบบนี้ มันขยับมือมาจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง คลึงเบาๆ
 
“มือซีดหมดแล้ว”
 

“แช่น้ำนานมันก็ต้องซีดเป็นธรรมดา” ผมขยับเบาๆ ดึงมือออกห่าง คือหัวใจมันเต้นผิดปกติครับ สงสัยต้องให้พี่หมอช่วยตรวจสุขภาพหลังเที่ยวเสร็จนะเนี่ย
มันตามมากุมมือผมไว้เหมือนเดิม แทรกผสานนิ้วเราเป็นหนึ่งเดียว
 
โอ๊ย เขิน…
 
“อุ่นขึ้นไหม”
มันกระซิบถาม
 
“ไม่ได้หนาวนี่”
ผมตอบกลับเสียงเบา ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ แล้วมันก็งับหูผมมาเบาๆ ผมเอี้ยวหน้าไปมองตาขวาง มือยังถูกยึดอยู่จึงทำอะไรไม่ได้
 
มันขบลงมาเบาๆ อีกรอบ ผมรีบเบี่ยงหน้าหนี ด่ามันทางสายตาอีกรอบ มันตามมางับอีก
 
“เป็นหมารึไง”
 
“มั้ง”
 
“หน้าด้าน”
 
มันเพียงแค่ยิ้มตอบรับเท่านั้น ด่าอะไรไปไม่เคยสะทกสะท้านเลยตานี่
 
“หิวรึยัง”
อยู่ๆ มันก็ถามขึ้น เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ผมพยักหน้ารับ มันมองไปทางซันไรส์กับวิกเซอร์ สองคนนั้นมองมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว รับทราบด้วยกระแสจิตพากันว่ายน้ำขึ้นฝั่งไป
 
พวกนั้นก็หน้าด้านว่ะ มองกันอยู่ได้ นี่มันจะต้องดูพวกผมไม่คลาดสายตาตลอดเวลาเลยรึไง
 
พี่หมอว่ายน้ำลอยมาเกาะแบบเดียวกับผมข้างๆ บ๊วยมันยังไม่ขยับไปไหน
 
สายตาผมปราดไปเห็นร่องรอยอะไรบางอย่างบนคอพี่หมอ ต่ำลงไปแถวๆ คอเสื้อ พอดีเสื้อเปียกแล้วมันถูกร่นลงจึงเห็น มันเป็นสีกลีบกุหลาบ รูปร่างหน้าตาคุ้นๆ นะ
 
“พี่หมอ ไปโดนอะไรกัดมาหรือเปล่า เป็นรอยเลย”
ผมดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมข้างหนึ่งชี้คอตัวเองให้ดูเป้าหมาย พี่หมอทำหน้าฉงน ยกมือลูบเบาๆ ตรงจุดนั้น ทำท่านึก พักหนึ่งก็ยิ้มพราย
 
“สงสัยจะโดนปลิงดูด”
 
ผมตาโต
 
“ที่นี่มีปลิงด้วยเหรอ”
ผมทำท่าจะขึ้นจากน้ำ แต่ไอ้บ๊วยรวบเอวไว้ มองหน้าเพื่อนตัวเอง
 
พี่หมอหัวเราะร่วน
 
“ไปนอนกับใครมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
ไอ้บ๊วยถามเพื่อนมันเอง
 
นอนกับใคร??
 
อ๋อ รอยคิสมาร์คนี่เอง
 
โธ่ คิดว่าโดนปลิงดูดจริงๆ
 
ผมจ้องมองรอยนั้นอีกรอบ เกิดความสงสัยเหมือนบ๊วยมันเลยครับ ไปนอนกับใครที่ไหนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะอยู่ด้วยกันแทบจะตลอด
 
พี่หมอยักไหล่ ไม่ตอบ เกาะขอบแพนิ่งเฉย ยิ้มกริ่ม มองตรงไปทางวิกเซอร์กับซันไรส์ ยกยิ้มนิดหนึ่ง ผมมองตามสายตาพี่หมอ สองคนนั้นเวลาลงน้ำจะถอดเสื้อประจำ ตอนนี้จึงเห็นกล้ามได้ชัดๆ ถ้าไม่ติดว่าสองพี่น้องนี่ปากหมาจนหมาจริงๆ ขอเป็นลูกศิษย์ ผมว่าสองพี่น้องนี้ต้องเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็กมากแน่ๆ

กล้ามเป็นลอนคนละหกห่อ
ไม่ใช่สิ น่าจะมากกว่านั้น ผมไล่สายตานับ 6…7…8 
 
โอ้โห แปดห่อแน่ะ
 
ตัวโตขนาดนั้น ไอ้นั่นก็คง…
 
ผมลดหน้าต่ำลงให้น้ำสูงปริ่มขึ้นเกือบมิดจมูกดับความร้อนและความคิดอุบาทว์ในหัวตัวเอง
 
คิดอะไรพิลึกวะหงส์ซาน
 
ผมขยับ ชะงัก เพราะรู้สึกถึงรังสีทะมึนจากคนด้านหลัง ผมเอี้ยวหน้ามอง ไอ้บ๊วยหน้าบูดเป็นตูดลิงเลย
 
“โดนปลิงกัดรึไง อยู่ๆ ก็หน้าบูด”

“มองอะไรอยู่”
 
“มองหน้าเฮียไง”
 
“ไม่ใช่ ก่อนหน้านี้”
 
ผมขมวดคิ้ว มองกลับไปทางสองพี่น้องต่างชาติบนแพ
 
“มองซันไรส์กับวิกเซอร์ไง”
ผมตอบตามตรง มันหน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม
 
อะไรวะ
 
ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากพี่หมอ แล้วรายนั้นก็โดดขึ้นแพไป ผมทำท่าจะโดดขึ้นตาม แต่ไอ้บ๊วยมันยึดเอวไว้
 
“จะขึ้นแล้ว หนาว”
 
มันจับผมหันไปเผชิญหน้า ประคองผมให้ลอยด้วยตัวเอง จับจูบอีกรอบ
 
โอ๊ย อะไรมันจะจูบบ่อยขนาดนี้ เอะอะจูบ เอะอะจูบ
 
“ห้ามมองผู้ชายคนไหนนอกจากเฮียอีก”
 
ผมอ้าปากค้าง
 
“บ้ารึไงแค่มอง”
 
“แต่หงส์เป็นเมียเฮีย”
 
“บ้ารึเปล่า แค่มอง แล้วนั่นก็บอดี้การ์ดเฮียนะ”
 
“ไม่ว่าใครก็ห้ามมองทั้งนั้น ยกเว้นเฮีย”
 
“เผด็จการ”
 
“ถ้ามองผู้ชายคนไหนอย่างชื่นชมแบบเมื่อกี้อีก เฮียจะปล้ำแปดยก”
 
“โรคจิตแล้วเฮีย นี่มันเข้าข่ายริดรอนสิทธิมนุษยชนนะ”
 
“แล้วแต่จะคิด แต่ถ้าหงส์มองใครแบบเมื่อกี้อีก… แปดยก”
มันเน้นคำหลังชัดเจน
 
อื้อหือ มึง แค่สี่ยกกูก็นอนเดี้ยงไปสามวันแล้วแปดยกนี่คงเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิตแน่ๆ
 
“ก็ได้ๆ หนาว ขึ้นได้ยัง”
ผมรับปากอย่างเสียไม่ได้ มันยิ้มออกมาบางๆ จูบหน้าผากผมเบาๆ จับผมยกหวืดขึ้นไปนั่งแหมะบนแพ ผมรีบขยับลุก มันก้าวตามขึ้นมาติดๆ
 
น้ำจากตัวเราสองคนไหลพรากเป็นทาง วิกเซอร์เดินเข้ามาหาพร้อมผ้าเช็ดตัวสองผืน ผืนหนึ่งให้ผม อีกผืนให้เจ้านายมันเอง ผมรับมาซับตัวเดินเข้าห้องไป

ผมขอใช้สิทธิ์ที่เดินเข้าห้องเป็นคนแรกจะเข้าไปอาบน้ำก่อน แต่พอจะปิดประตูห้องน้ำก็ต้องชะงัก เพราะมีมือปริศนามาหยุดไว้ ผมเงยหน้ามอง
 
ไอ้บ๊วยครับ
 
“อาบด้วยกันจะได้ไม่เสียเวลา”
 
ผมตาโต เรื่องอะไร หาเรื่องให้โดนล่วงละเมิดน่ะสิ
 
“ไม่!!”
ผมตอบพร้อมดึงประตูปิด แต่ฤทธิ์เทวดารึจะสู้ซาตาน มันดันผลัวะเดียวก็ขยับเข้ามาด้านในได้แล้ว
 
“งั้นเฮียอาบก่อน อั๊วอาบทีหลังได้”
ผมจะเดินออก แต่มันรั้งจับเอวผมไว้
 
“มาให้ทำโทษข้อหามองชายอื่นก่อน”
 
“ห้ามกันขนาดนี้ไม่ควักลูกตากันออกเลยล่ะ ปล่อย!”
ผมพยายามดิ้นรน
 
“อยากทำเหมือนกัน แต่ถ้าควักออก หงส์ก็มองไม่เห็นเฮียน่ะสิ ไม่คุ้มเท่าไหร่”
มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

มันจับผมออกห่างจากประตู ปิดประตูลงเสียงดัง…กรึบ
 
ผมมองประตูบานนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์
 
โอกาสรอดชีวิตเหลือเพียง 0.0001% เท่านั้น
 
“เอ่อ เฮีย หงส์หิวข้าว”
ผมเอาลูกอ้อนเข้าสู้ ขยับไปยืนห่างจากมันร่วมวา
 
“อาหารยังไม่มาเลย”
 
“หงส์เหนื่อย อยากรีบอาบน้ำให้เสร็จเร็วๆ”
 
มันยกยิ้ม เลิกถอดเสื้อตัวเองออกโยนตุบลงพื้น ผมมองตามเสื้อตัวนั้นแล้วหันกลับมามองเจ้าของเสื้ออีกที มันยกยิ้มอย่างตัวร้าย จับขอบกางเกง ผมถอยกรูดไปติดกำแพง
 
อยากกลายร่างเป็นสไปเดอร์แมนแล้วปีนกำแพงหนี แต่ทางรอดของผมถูกดักไว้หมดแล้ว พอทำอะไรไม่ได้ ผมยกหมัดขึ้นตั้งการ์ดทันทีแบบมวยไทยเตรียมสู้
 
มันชะงัก หัวเราะออกมาเสียงดัง
 
“โดนน้ำมากจนสมองบวมรึไง”
 
“เอาดิ เข้าใกล้ ต่อยตาแตก”
 
มันเลื่อนมือจากขอบกางเกงมากอดอกเอียงคอมอง
 
“ต่อยเฮียให้ได้สักหมัดสิ แล้วเฮียจะปล่อยไป”
มันท้าผมเหมือนเดิม อยู่นี่ผมว่ามีโอกาสมากกว่าข้างนอกนะ ผมยกการ์ดสูงรับคำท้า พยายามมองหาช่องว่างเพื่อต่อย
 
คือ…ผมเรียนมวยไทยมาแค่หลักสูตรเร่งรัด (พอดีมันเจ็บผมเลยไม่ได้เรียนต่อ)
 
เอาไงดี เบ้าตาไหม
 
ไม่ได้ๆ มันต้องไปทำงานต่อ เดี๋ยวหมดความน่าเชื่อถือ
 
กระโดงคาง
 
โหย หน้าแข็งเป็นหินแบบนั้น ผมว่ากระดูกมือผมคงจะหักมากกว่า
 
มุมปากไหม
อืม น่าสน แต่ถ้าปากเขียวมาน้ำยาล้างจานคงจับผมกระทืบ
 
หรือเจาะไข่มันดี ไม่มีใครเห็น น็อกดาวน์พาวเวอร์
 
อืม เป็นความคิดที่ดี งั้นเตะไข่มันนั่นแหละ เอาให้หมดสมรรถภาพไปเลย
 
ฉึบ!!
 
ไม่ใช่เสียงแข้งผมที่หวดออกไปตามใจคิดหรอกครับ แต่เป็นเสียงของมันที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาจับสองข้อมือผมไว้ต่างหาก
 
อ้าว ซวยละ
 
มันยกยิ้ม
 
“ใช้เวลาคิดนานเกินไปนะหงส์ ครั้งหน้าตัดสินใจให้เร็วกว่านี้หน่อย”
แล้วมันก็จับหมัดผมไปรวบรวมกันไว้ด้วยกันด้านหลัง แทรกเข่าเข้ามาตรงกลางระหว่างขา ดันจนหลังผมติดกำแพง
 
“เฮ้ย!! ปล่อย”
มันใช้มือที่ว่างถลกเสื้อออกจากตัวผม ม้วนมัดเป็นปมผูกข้อมือผมติดกัน ผมตาโต
 
“โรคจิตแล้ว มัดทำไม ปล่อย!!”
ผมท้วงหน้าตื่น
 
หรือว่ามันจะเป็นพวกซาดิสม์วิปริต ชอบความรุนแรง
 
มันยกยิ้ม สอดมือแทรกผ่านขอบกางเกงไปบดคลึงก้อนเนื้อกลมๆ ของผม ไม่หนักไม่เบา มืออีกข้างลูบไล้มาทั่วผิวเนื้อเปลือยเปล่าด้านหน้า ผมครางฮือเมื่อมันคีบหัวนมผมด้วยหลังนิ้วชี้และนิ้วกลาง
 
“เดี๋ยวเฮียอาบน้ำให้”
มันเปิดฝักบัว ราดน้ำจนตัวผมเปียกชุ่ม (จริงๆ มันก็เปียกมาก่อนหน้านั้นแล้วจากการเล่นน้ำ) มันหันไปกดสบู่จากกล่องข้างกำแพงมาถูจนเกิดฟอง นำมันมาลูบไล้บนเนื้อตัวผม
 
“บ้าหรือเปล่า ปล่อยนะเว้ยไอ้โรคจิต!!”
ผมพยายามดันมันออกด้วยไหล่ มันไม่สนการขัดขืนของผมลูบไล้ฝ่ามือไปมา มือมันผ่านไปที่ไหน ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปตามจุดนั้น ผมครางฮือเมื่อมันลูบผ่านยอดอกผมเบาๆ มันตั้งชันมาก่อนหน้านั้นแล้ว ตอนนี้ยิ่งตั้งเข้าไปใหญ่ มันค่อยๆ จับกางเกงผมรูดออกจากตัวช้าๆ ทิ้งลงพื้นข้างตัว
 
น้องผมตื่นขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ มันไล้วนฝ่ามือไปรอบๆ ขยับถอดกางเกงตัวเองออกบ้างจนตอนนี้เรามีสภาพไม่ต่างกันแล้ว ไม่อยากมองเลย เพราะไอ้นั่นมันชี้หน้าผมอยู่ มันแก้ปมผ้ามัดข้อมือผมออก ผมรีบจับสองต้นแขนมันไว้ทันทีดันออก ตอนนี้เรี่ยวแรงผมเหลือไม่ถึงครึ่ง ผิวเนื้อเต็มไปด้วยสบู่
 
“อ๊า…”
ผมครางสยิวออกมาเมื่อมือนั้นเกลี่ยมาทั่วบั้นเอว มันโอบร่างผมไว้ ก่อนค่อยๆ แทรกนิ้วผ่านรอยแยกด้านหลัง ผมตาโตจะดันตัวออก แต่มันยึดโอบไว้
 
มือมันลื่นพรืดเพราะสบู่ มันจับผมพลิกหันหลังทันที ดึงสะโพกเข้าหามัน
 
“ไม่ทำนะ”
ผมร้องขอ ถึงจะรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยก็เถอะ
 
คิดว่ามันจะฟังคำขอผมไหมล่ะ
 
คำตอบก็คือ…
 
“อืม..”
ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อเนินเนื้อสองข้างถูกจับแยกกว้าง แล้วบางสิ่งอุ่นร้อนแข็งปั๋งค่อยๆ แทรกผ่านเข้ามา ผมแนบหน้าเข้ากับกำแพงห้องน้ำ แยกขาออกกว้างขยับสะโพกเพื่อผ่อนคลาย มันก้มงับติ่งหูผมเบาๆ ขยับชำแรกผสานร่างของเราทีละนิดๆ มันไม่ได้รีบร้อน แต่ทำช้าๆ ทำเบาๆ สบู่ลื่นๆ ช่วยได้เยอะมากเลย
 
“ไอ้หื่น”
ผมด่ามันไป ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ มันดึงสิ่งนั้นออกช้าๆ แล้วใส่กลับเข้ามาใหม่แผ่วเบา
 
“I want to make Love to you”
 
“พูดจีนก็ได้นะ น่าจะฟังลื่นหูกว่าภาษาอังกฤษ”
ผมรวนมันไปอีกรอบ มันหัวเราะหึๆ
 
“โรแมนติกกับเฮียหน่อยหงส์”
 
“อยากได้กระติกให้ไปขอซันไรส์”
 
“หงส์!”
มันขยับแรงขึ้นเหมือนต้องการทำโทษ ผมครางสะท้านตัวสั่นริกไปหมด
 
มันจับผมพลิกหันไปเผชิญหน้า ยกสองขาผมขึ้นโอบรอบเอวมัน ดันหลังผมแนบติดกำแพง ผมรีบโอบสองมือรอบคอมันทันทีเพื่อพยุงร่างกันร่วง
 
มันดันคางผมขึ้นเบาๆ บังคับให้สบตา กระซิบแผ่ว
 
“บอกรักเฮียสิ หงส์ซาน”
 
ผมกัดกราม จ้องกลับด้วยดวงตากึ่งปรอยกึ่งไม่พอใจ กระซิบกลับ
 
“ไม่”
 
มันคลอเคลียริมฝีปากกับปากผม ไปที่แก้ม เปลือกตา หน้าผาก
 
“พูดสิ”
ใครมันบ้ามาร้องขอให้บอกรักกันเวลานี้วะ ผมไม่สนใจเมินหลบไปด้านข้าง มันจับคางผมให้หันมาสบตาอีกรอบ
 
“นะ พูดสักคำให้เฮียชื่นใจหน่อย” ปากมันร้องขอในขณะที่ท่อนล่างก็ขยับไม่หยุด ช้าๆ เบาๆ ยิ่งทำปราการที่ผมตั้งไว้สูงลิบก่อนหน้าก็ค่อยๆ พังทลายลงมา
 
“นะ Please, for me”
กูบอกว่าภาษาจีนก็ได้ ไม่ฟังกันเลยไอ้นี่
 
“Please”
น้ำเสียงมันทั้งกระเส่า เร่าร้อน ออดอ้อนและอ่อนหวาน ผมขยับซุกหน้ากับหน้าอกมันกระซิบแผ่ว
 
“หงส์รักเฮีย”
 
มันดันตัวผมออกจากอก ก้มจูบ มันเป็นจูบที่ไม่ได้เร่าร้อน แต่กลับเชื่องช้า หวามไหว ติดจะดูอ่อนหวานจนน่ากลัว
 
‘หงส์รักเฮีย’
ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆ ไปกับคำพูดที่ไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ แบบนั้นก็ไม่รู้
 
ถ้าเปรียบรสจูบครั้งนี้เป็นขนมหวาน ตอนนี้ผมก็กำลังละเลียดกินมันอยู่อย่างเอร็ดอร่อย โดยมีคนป้อนคือไอ้บ๊วยนั่นแหละ
 
ยิ่งกินยิ่งหวาน ยิ่งกินยิ่งอร่อย
 
พอมันหยุด ผมยังรู้สึกเสียดายเลย ผมมองมันตาปรอย มันยิ้มนิดๆ ปล่อยผมยืนกับพื้นอีกรอบ พลิกหันหน้าเข้ากำแพง ผมไม่ได้ขัดขืนหรือคิดจะดิ้นรนหลีกหนีอีก สองมือค้ำยันกำแพงไว้รองรับร่าง ได้ยินเสียงทุ้มครางเบาๆ มือหนึ่งของมันค้ำกุมมือผมไว้กับกำแพง อีกข้างประคองอยู่ที่สะโพก
 
หัวใจผมไหวแรงสุดๆ
 
ไม่ใช่เพราะร่างกายที่กำลังถูกกระตุ้น แต่เป็นเพราะมือมันที่กำลังกอบกุมมือผมไว้ตอนนี้ต่างหาก บ๊วยมันเร่งจังหวะหลังจากรบด้วยลีลาลีลาศมาชั่วระยะหนึ่ง เวลาช้าก็นิ่มนวลดีอยู่หรอก เวลาเร่งนี่เอวแทบหัก


รอบเดียวครับ แต่อย่างที่เคยบอก ผมกับมันเป็นพวกอึดด้วยกันทั้งคู่ รอบเดียวก็เล่นเอาเอวผมเคล็ดไปเลย
 
ผมออกมาแต่งตัวเป็นเวลาเดียวกับที่ซันไรส์มาเคาะห้องพอดีบอกว่าอาหารพร้อมแล้ว ผมพยายามปรับสภาพเนื้อตัว แต่มันเคล็ดขัดยอกที่สะโพกจนเดินเป๋ไป ออกไปก็เห็นพี่หมอนั่งห้อยขาริมแพ พี่แกใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสามส่วน
 
โอ้โห เห็นรอยกลีบกุหลาบชัดเลย
 
ผมยังงงไม่หายว่าพี่หมอเอาเวลาที่ไหนไปเต๊าะสาว
 
จะว่าไปนักท่องเที่ยวสวยๆ มาเที่ยวแพแบบเราก็เยอะ หน้าตาพี่หมอก็หลอกล่อสาวได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ดีกรีหมอเครดิตดียิ่งกว่าบัตรทอง แค่เห็นสาวๆ คงพร้อมใจยินดีให้รูดเสื้อชั้นในได้ง่ายๆ ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่ง เบ้หน้านิดๆ เพราะยังหน่วงตรงนั้นอยู่ พี่หมอลุกขึ้นจากน้ำมานั่งบ้าง
 
อยากแซวเรื่องรอยบนตัวพี่หมอเหมือนกัน แต่กลัวโดนแซวกลับ ผมเลยเลือกที่จะเงียบๆ ไว้ มื้อนี้เรากินกันค่อนข้างมืด แสงจากดวงไฟสว่างไสวไปทั่ว มันสวยมากจริงๆ เรากินไปนั่งคุยกันไปอย่างออกรส บางเรื่องผมก็ไม่รู้เรื่องหรอก มื้อนี้มีแค่สามคนครับ เพราะวิกเซอร์กับซันไรส์แยกไปกินอีกสำรับ
 
แน่นอนว่าหลังจากมื้อเย็น บ๊วยมันต้องทำโรแมนติกด้วยการลากผมไปนั่งบนฟูกที่ผมลากมาปูชานแพ ข้างๆ เป็นแก้วไวน์ ดื่มกันเงียบๆ
 
มันก็ดื่มไปกอดผมไป จูบได้จูบ ลูบไล้ได้ลูบไล้ เก็บเล็กเก็บน้อยไป ใจแข็งขนาดไหน เจอแบบนี้ก็ระทวยได้เหมือนกันนะครับ
 
“แก่จนปูนนี้แล้วทำไมเฮียยังไม่แต่งงาน”
ผมหาเรื่องคุย จริงๆ คือกะจะรวนมันแก้เบื่อไปงั้นเอง
 
มันมะเหงกผมเบาๆ
 
“เฮียแค่สามสิบต้นๆ แก่ที่ไหน”
 
“แก่ก็ยอมรับมาเถอะว่าแก่ ไม่มีใครว่าหรอก โกงอายุล่ะสิ หน้าเงี้ยอย่างกับห้าสิบห้า”
จริงๆ ไม่ถึงหรอกครับ ข่มมันไว้ก่อน มันหัวเราะหึๆ
 
“ขิงน่ะ ยิ่งแก่ยิ่งร้อนแรงนะ”
 
“พอดีไม่ชอบขิง ชอบน้ำเต้าฮู้มากกว่า แล้วตอบได้รึยังว่าทำไมยังไม่แต่งงาน”
 
“พอดียังไม่เจอคนถูกใจ”
 
“เป็นเกย์?”
ผมถามตรงๆ มันส่ายหน้าไปมา ตอนนี้มันนอนตะแคงข้างเอกเขนกอยู่บนฟูก รองด้วยหมอน ยกส่วนบนสูง ผมนั่งอยู่ตรงซอกพุงมัน หันหน้าเข้าหาแม่น้ำ ไม่เห็นวิกเซอร์แล้วครับ ไม่รู้ว่าง่วงแล้วเข้านอนก่อนหรือเปล่า เห็นแต่พี่หมอกับซันไรส์ แต่แค่แวบเดียวเท่านั้น เพราะบ๊วยมันดึงความสนใจผมกลับ
 
“หงส์เป็นผู้ชายคนแรกที่เฮียนอนด้วย”
 
ผมส่ายหน้าไปมา
 
“ไม่เชื่อ ท่าทางดูชำนิชำนาญราวกับผ่านมาแล้วอย่างโชกโชน”
 
มันหัวเราะหึๆ
 
“ของพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็เรียนรู้ได้แล้ว ร่างกายมนุษย์มันมีไม่กี่จุดหรอกที่กระตุ้นได้”
 
ผมหน้าร้อนผ่าว
 
“หื่น”
ผมอ้อมแอ้มด่า พูดไปชักเข้าเรื่องใต้สะดือ
 
“สเปกเป็นแบบไหน”
ผมถามต่อ
 
มันไม่ตอบ แต่มองหน้าผมนิ่งๆ
 
“เอ้า ตอบสักที สเปกเป็นแบบไหน”
 
มันระบายยิ้มออกมาบางๆ
 
“ดื้อ”
อื้อหือ โรคจิตเปล่าวะ ชอบคนดื้อเนี่ยนะ
 
“ปากไม่ตรงกับใจ”
เลวร้ายกว่าดื้ออีก 
 
“ขาว”
โอ้ อันนี้ธรรมดา สเปกชายไทย
 
“เตี้ย”
หะ!! เดี๋ยวนะ มันความหมายเดียวกับผู้หญิงตัวเล็กหรือเปล่า
 
“ซื่อบื้อ”
 
“สเปกทุเรศจัง”
ผมสวนกลับทันทีที่มันพูดจบ มันหัวเราะร่วน
 
“คงหาได้หรอกนะ สเปกแบบนี้”
 
มันมองหน้าผม แล้วหัวเราะออกมาอีกรอบ
 
อะไรวะ
 
“แล้วใครเป็นต้นคิดให้เฮียตกลงมาแต่งงานกับอั๊ว”
ผมถามต่อ
 
“เฮียเอง”
 
ผมทำหน้าฉงน
 
“เฮียรู้จักหงส์จากข้อมูลที่ส่งมาให้เพื่อแต่งงานกับอาเหมย”
 
ผมพยักหน้าหงึกๆ
 
“หลังจากนั้นก็ส่งนักสืบไปตามดูพฤติกรรมตลอด”
 
ผมอ้าปากค้าง
 
“ตอนไหน”
 
มันยกยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถาม
 
“พอเหมยหนีไป เฮียเลยเสนอกับป๊าม๊าว่าจะขอแต่งงานแทน”
 
ผมจิ๊ปาก
 
“คิดได้เนอะ โรคจิตจริงๆ เหมยก็ไม่น่าหนีไปเลย ถ้าได้แต่งงานกัน ป่านนี้เราคงมีความสุขร่วมกัน แถมยังมีหลานให้ป๊ากับม๊าอุ้มด้วย”
 
“หนีไปน่ะดีแล้ว เพราะถ้าเหมยอยู่ เฮียก็ไม่ได้แต่งงานกับหงส์น่ะสิ”
 
“แต่อั๊วไม่อยากแต่งงานกับเฮีย อยากแต่งงานกับเหมยมากกว่า”
ผมบอกมันตามตรง มันไม่ต่อความเรื่องนั้นเสถามไปเรื่องอื่น
 
“หงส์อยากมีลูกเหรอ”
 
“เอ้า ถามได้ อยากสิ รึเฮียไม่อยากมี?”
 
มันจ้องหน้าผม
 
“ไอ้อยากมันก็อยาก แต่ดีแล้วที่หงส์เป็นผู้ชาย เพราะถ้าเป็นผู้หญิงแล้วท้อง ลูกเราอาจได้เชื้อสมองบวมแบบหงส์”
 
ผมอ้าปากค้าง
 
“ใครสมองบวม!!”
 
มันหัวเราะหึๆ โอบวงแขนรอบเอวผม
 
“ไม่ว่าหงส์จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เฮียก็ดีใจที่ได้แต่งงานกับหงส์”
 
ผมอึ้งฟัง สมองกำลังทำการประมวลผลอย่างหนัก
 
“แน่สิ หงส์เป็นตัวนำโชคเฮียนี่ จะเพศไหนเฮียก็ไม่สนอยู่แล้ว”
 
มันจ้องหน้าผม พ่นลมหายใจแรงจนเส้นผมบนหน้าผากผมสะบัดพรืด ตามด้วยมะเหงกลูกใหญ่
 
“บื้อ”
 
แล้วมันก็หัวเราะ มองตาผม
 
“แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของหงส์ เฮียถูกแวดล้อมด้วยมนุษย์เจ้าเล่ห์ สวมหน้ากากเข้าหากัน คิดซับคิดซ้อน ฉลาดเป็นกรด พอมาเจอคนแบบหงส์ในวงสังคมแบบนี้ก็ทำให้เฮียแปลกใจไม่น้อยว่ามีด้วยเหรอคนแบบนี้”
 
ผมขมวดคิ้วมองงงๆ
 
นี่มันกำลังชมหรือด่าผมอยู่กันแน่?
 
มันจ้องหน้าผม เกลี่ยแก้มแผ่วเบา โดนมันสัมผัสทีไร ไม่ว่าที่ไหน ตรงนั้นจะร้อนวูบวาบทุกที
 
“หงส์อยู่กับเฮียแล้วไม่มีความสุขเหรอ”
 
“ไม่ ปวดสะโพกจะตาย”
 
มันหัวเราะ
 
“นอกจากปวดสะโพกล่ะ”
 
ผมนิ่งคิด เอาตามจริงยกเว้นเวลามันล่อจนผมลุกไม่ได้ไปสามวัน นอกนั้นผมก็ถือว่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่ต่างกับอยู่บ้านนั่นแหละ
 
มันยกหน้าขึ้นมาจูบหน้าผากผมเบาๆ กระชับกอดผมแน่นขึ้นไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบอะไร
 
ผมก็ไม่คิดจะยอมรับกับมันตรงๆ มองเหม่อไปยังท้องน้ำยามค่ำคืนสะท้อนแสงจันทร์และดวงดาวอีกครั้ง วันนี้ท้องฟ้าสดใสเห็นดาวได้แจ่มชัดกว่าเมื่อวานอีก
 
ยิ่งวงแขนมันโอบกระชับมามากเท่าไหร่ หัวใจผมยิ่งเต้นเร็วมากขึ้นเท่านั้น



To be Con
รอเวลาให้น้องหงส์ใจอ่อนเร็ว ๆ สู้ ๆ เฮียไป่หลง








ข่าวสารและนิยายเรื่องอื่นๆ: https://goo.gl/WbWxt8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2017 09:39:25 โดย memew »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
น้องหงษ์ ถามอย่างงี้ระวังปลิงดูดแทนนะ 5555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เฮียบ๊วยกลัวลิงน้อยจะหลงเสน่ห์น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาขัดห้องน้ำล่ะสิ  555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เดี๋ยวคงได้เจอปลิงยักษ์

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อิหนู เดี๋ยวคืนนี้โดนดูด ทั้งตัวนะ จ้องขนาดนั้น

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เดี๋ยวคงได้เจอปลิงยักษ์
5555  :m20:  เจอเม้นนี้ลั่นเลย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด