[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 502111 ครั้ง)

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมว่าผมควรจะเลิกคอมเมนท์ เพราะว่ามันกำลังจะทำให้ผมประสาทเสีย แต่ขอสักหน่อยเถอะครับ (หัวเราะ)

เยี่ยม เยี่ยมจริงๆ เพิ่งคุยกับลูกชายเสร็จก็ต่อกับเจ้าเด็กนั่นเนี่ยนะ (เบ้ปาก มองบน) แรกๆผมยังมองคุณธีรเชษฐ์ดีนะครับ แต่คะแนนประธานบริษัทคนนี้ติดลบไปเยอะแล้วสำหรับผม หลังจากเปิดตัวเจ้าเด็กน้องมีนเนี่ย ไม่เคยเห็นอะไรนอกจากตัวเอง หลงเด็กยังกับอะไรดี

น้องธารธารา คาแรกเตอร์ขโมยหัวใจผมมาก เปิดมาคราวที่แล้วยังไม่เท่าไหร่ แต่คราวนี้โผล่มาแบบเป็นบุคลิกผสมระหว่างวรินทร์กับหมอกสมัยก่อน เท่มากๆสำหรับสายตาผมเลยครับ เยี่ยมมากครับน้อง! ประธานพรรค์นี้กับเจ้าเด็กนี่สมควรแล้ว เย็นชามันเข้าไป อย่าไปแคร์ โนสนโนแคร์ ให้มันรู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำซะบ้าง ให้ดูสิว่ามันจะสำนึกได้เมื่อไหร่กับพฤติกรรมตัวเองเนี่ย ถ้ายังเจอคนไร้หัวใจ ไม่เคยเห็นอะไรนอกจากตัวเองแบบเหมือนนิโคไล ก็ไปร่วมมือกับวรินทร์ bring down the empire ทั้งคู่มันไปเลยครับ วะฮ่าๆๆ (หัวเราะอย่างเสียสติ)

บทนี้ก็ดูเหมือนเปิดตัวธาราธาราให้เรามากขึ้น บุคลิกเขาเป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน ผมถูกใจมากเลยครับ (หัวเราะ) ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมหรือให้น้ำหนักบทกับตัวละครนี้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ตัวเนื้อเรื่องสมบูรณ์มากขึ้นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนะครับ

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สวัสดีปีใหม่จ้าาาาา

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 28: [Then] Bleeding Heart

“แม่ครับ วันนี้ให้เมฆไปทานข้าวด้วยเวลาเดิมรึเปล่าครับ”




เมฆาถามมารดาผ่านโทรศัพท์ ปกติเวลานี้ของวันหากเขามีเวลาว่าง ร่างสูงจะขับรถกลับไปทานข้าวกับมารดาแล้วค่อยกลับมารับมธุวัน ปลายสายเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมา




“ไม่ต้องหรอกจ้ะ วันนี้แม่จะไปสุสาน”




คำตอบของมารดาทำให้เมฆายกนาฬิกาขึ้นมาดู ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นวันที่บนนาฬิกา




วันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของพี่ชายเกศรา ลุงของเมฆาเสียชีวิตในอุบัติเหตุเพลิงไหม้ที่ต่างประเทศตอนที่เมฆาอายุได้สองปี ร่างสูงไม่มีความทรงจำใดๆเกี่ยวกับลุงกรรณวัชรหลงเหลือนอกจากรูปถ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของมารดา ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดเสื้อเต่าไหมพรมสีครีมและกางเกงขายาวสีเข้ม เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวระต้นคอถูกรวบเป็นหางม้าด้วยริบบิ้นสีแดงเส้นเล็ก ใบหน้าเรียวที่คล้ายคลึงกับน้องสาวของตนพอสมควรประดับด้วยรอยยิ้มจางขณะที่ถ่ายรูปกับเกศราหน้าสวนสวยแห่งหนึ่ง มารดาของเขาในรูปถ่ายมีอายุราวๆยี่สิบปี ส่วนกรรณวัชรนั้นดูเหมือนจะอายุไม่ห่างจากน้องสาวมากนัก แต่ความหน้าเด็กเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ถ่ายทอดกันมาตามสายเลือดฝั่งมารดา เมฆาจึงจะไม่แปลกใจเลยหากลุงของเขาจะอายุขึ้นเลขสามแล้วในรูปนั้น




“ให้ผมไปส่งหน้าสุสานมั้ยครับ?”




“ไม่ต้องหรอกจ้ะ พ่อเราให้รถมารอแล้ว เดี๋ยวแม่ไปกับพี่แต้วได้”



“ครับ”




เมื่อได้ยินดังนั้นเมฆาจึงไม่คิดจะเซ้าซี้มารดา บ้านทางฝั่งของเกศราเป็นอะไรที่ลึกลับซับซ้อนจนเมฆาไม่คิดจะใส่ใจที่จะเรียนรู้ เขาจำได้แค่ว่ามารดาของเขาถูกตัดออกจากตระกูลเพราะคบกับธีรเชษฐ์ ตาของเขาที่เป็นคนในตระกูลโดยตรงไม่เคยติดต่อกับเกศรา ส่วนยายของเขาที่ไม่ถือว่าเป็นคนในตระกูลยังพอจะแวะมาเยี่ยมเยียนบ้าง แต่นอกมาเพื่อบังคับในน้องชายคนรองของเขาแต่ตัวบ้าๆเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้แม่อาการดีขึ้น ยายของเขาก็ดูจะไม่ได้สนใจใยดีอะไรพวกเขามากนัก




อันที่จริงหลุมศพที่เกศราไปเยี่ยมนั้น เป็นเพียงแผ่นหินสลักชื่อที่ไม่มีร่างของกรรณวัชรอยู่ในนั้น เถ้ากระดูกของกรรณวัชรถูกฝังอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งคนในตระกูลของเกศราไม่ยอมให้มารดาของเขาไปเยี่ยม




แม้จะรู้สึกสงสารมารดา แต่เมฆาก็รู้ตัวดีว่าตนทำอะไรไม่ได้ ดูเหมือนเกศราจะทำใจยอมรับสภาพนี้ได้มาตั้งแต่เขาจำความได้แล้ว ถึงแม้หญิงสาวมักจะมีร่องรอยของความเศร้าหมองในดวงตาเมื่อหันไปทางรูปถ่ายของพี่ชายก็ตาม




เมฆาสะบัดหัวเพื่อลืมภาพสีหน้าของมารดา แล้วกดต่อสายหาคนรักที่น่าจะใกล้เลิกเรียนแล้ว




“ฮัลโหล?” ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มมุมปากกับเสียงหวานนุ่มที่เขาไม่ได้ยินมาหลายชั่วโมง



เป็นเอามากนะไอ้เมฆ



“หมอกครับ วันนี้เมฆไม่ต้องไปหาแม่แล้ว ไปหาอะไรกินกันมั้ย?”



“ได้นะ หมอกกำลังจะเลิกเรียนพอดี” มธุวันตอบ



การหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อของเมฆาทำให้ร่างสูงรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆกับเพื่อนทั้งสอง ถึงแม้เขาจะมีความสุขกับชีวิตของพวกเขาในตอนนี้ แต่เมฆาก็อดนึกน้อยใจไม่ได้ที่อีกฝ่ายไม่ยอมให้แม้แต่เพื่อนสนิทรู้เรื่องของพวกเขา




“ครับ ถ้าอย่างนั้นเมฆไปรอที่ลาน...โอ๊ย!”



ร่างสูงร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเมื่อรู้สึกถึงวัตถุบางอย่างที่ตกลงมากระแทกหัวไหล่อย่างแรง เมฆายกมือกุมไหล่ตามสัญชาตญาณก่อนจะเห็นว่านิ้วของตนมีของเหลวสีแดงติดมาด้วย




เด็กหนุ่มก้มลงมองวัตถุปริศนาที่ตกลงมาใส่เขาเมื่อครู่ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเป็นกระถางดอกไม้ขนาดกลางกระถางหนึ่ง เมฆาเงยหน้าขึ้นมองตำแหน่งที่เจ้ากระถางดินเผาจะสามารถตกลงมาจากระเบียงได้




“มะ..เป็นอะไรรึเปล่า?”



เสียงของมธุวันฟังดูเป็นกังวล อย่างน้อยก็กังวลมากพอที่ร่างโปร่งเกือบจะหลุดเอ่ยชื่อของเขาออกมา



“อือ นิดหน่อยน่ะ” เมฆาอยากจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่เขารู้ว่าหากมธุวันว่ารู้ทีหลังอีกฝ่ายคงโกรธจนไม่ยอมพูดกับเขาเป็นแน่ “กระถางต้นไม้ตกใส่ไหล่น่ะ ไม่รู้ว่ามาจากไหน?”



“ฮะ? แล้วนี่เจ็บมากมั้ย?”




เมฆาแทบจะหลับตานึกภาพคิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวลของมธุวันในตอนนี้ได้





“ไม่มากหรอก เดี๋ยวเมฆไปทำแผลก่อนแล้วกัน”



“เดี๋ยวหมอกไปหา”




เมฆารู้ดีว่าถึงบอกว่าไม่ต้องมาอีกฝ่ายก็คงไม่ฟัง คนเจ็บจึงทำได้เพียงนัดให้คนรักไปเจอกันที่โรงพยาบาลแล้วเดินกุมไหล่ที่บาดเจ็บไปเรียกรถเพื่อไปหาหมอ




ร่างสูงไม่ได้สังเกตเลยว่าที่ชั้นสี่ของอาคารที่กระถางต้นไม้ตกลงมาใส่ตนนั้น มีร่างของเด็กสาวในชุดนักศึกษามองตามแผ่น
หลังของตนไปด้วยสายตาเคียดแค้น










“เจ็บมากมั้ย เดี๋ยวหมอกไปเตรียมยาให้นะ”



มธุวันวางถาดพิซซ่าที่ตนสั่งมาลงบนโต๊ะหน้าโทรทัศน์แล้วเดินไปเปิดถุงยาดูบรรดาซองยาที่เมฆาได้รับมาจากหมอ แผลที่หัวไหลลึกกว่าที่เมฆาคิดทำให้ต้องเย็บไปหลายเข็ม แต่เจ้าตัวยังมีหน้าถามมธุวันว่าอยากไปทานอาหารเย็นที่ไหน




หลังจากที่เห็นว่าร่างโปร่งไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะออกไปทานอะไร คนเจ็บจึงเสนอให้สั่งพิซซ่ามาที่ห้อง ความจริงแล้วแผลที่เป็นอยู่นี้ไม่ได้สาหัสสากรรจ์อะไร แต่เมื่อเห็นคนรักโอ๋เขาขนาดนี้ เมฆาก็อดพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสไม่ได้




“ป้อนหน่อย”



มธุวันยิ้มอ่อนอย่างเอือมๆระคนเอ็นดูคนช่างอ้อน แต่เมื่อตักพิซซ่าชิ้นใหญ่ใส่จานแบ่งแล้วหันกลับไปหาอีกฝ่าย คนเจ็บก็ฉวยเอวเขาดึงรั้งให้ลงมานั่งบนตักเสียอย่างนั้น




มธุวันขยับนั่งคร่อมตักของเมฆาโดยทิ้งน้ำหนักลงบนหัวเข่าที่กดอยู่บนโซฟาเพื่อไม่ให้ร่างสูงรู้สึกหนัก




“รีบกินให้เสร็จเถอะเมฆ จะได้กินยาแล้วไปนอนพัก”



แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เจ็บอะไรมากนัก แต่มธุวันก็ตามใจคนอ้อนด้วยอดสงสารไม่ได้ มีอย่างที่ไหนเดินอยู่ดีๆก็โดนกระถางต้นไม้ตกใส่




“ไปนอนพักกับเมฆสิ...”



มือใหญ่บีบสะโพกมนอย่างหยอกเย้า มธุวันเลิกคิ้ว ก่อนจะขยับสะโพกบดเบียดให้คนที่คิดจะแกล้งเขาหัวหมุนเสียเอง มธุวันโน้มตัวลงกระซิบชิดริมหูของคนรักด้วยน้ำเสียงเชิญชวน




“ถ้าเป็นเด็กดีกินข้าวกินยาให้เสร็จ พี่หมอกอาจจะพิจารณาก็ได้นะครับน้องเมฆ”



‘น้องเมฆ’กลายเป็นเด็กดีขึ้นมาทันตากับข้อเสนออันยั่วยวนชวนน้ำลายสอ



แน่นอนว่าสัญญาต้องเป็นสัญญา ‘พี่หมอก’จึงยอมพาเด็กโข่งเข้านอนแต่โดยดีตั้งแต่หัววัน







ถึงแม้คนทั้งสองจะไม่ได้’พัก’กันยันฟ้าสว่างก็ตาม




----------

สั้นมาก5555  จริงๆเอามาลาอีกแล้ว ฮือออ ไรท์ต้องไปนอกพื้นที่อินเตอร์เน็ต(คือสัญญาณค่อนข้างอ่อน) แล้วคือไม่มีคอมฮะ5555 อาจจะไม่ได้อัพ แต่ถ้าได้อัพตัวอักษรจะติดกันเป็นพรืด เพราะเคาะบรรทัดในแทบเล็ตไม่ได้ ถ้ายังไงอาจจะมาลงแบบยังไม่เคาะบรรทัดไว้ก่อนแล้วกลับมาช่วงสิ้นเดือนจะเคาะให้เน้อ ไม่อยากหายนาน5555 รักทุกคน ไรท์ขอโทษษษษษ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
มาเปิดปมอีกปมหนึ่งในการเลิกกันใช่มั้ย อยากอ่านต่อมากเลย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฝีมืออีโรคจิตนั่นใช่มั้ย? ชื่อ? ส้ม?  :m16:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
มาอ่านเรื่อยๆ ..

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
รับทราบ
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอที่เหลือจ้า
 :pig4:

ออฟไลน์ Panamapaper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z3: ติดงอมแงมมมม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แค้นอะไรกันหนักหนาหว่า  :confuse:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ปมอื่นยังไม่สนใจ
สนแค่ปมเมฆบอกเลิกหมอก

ออฟไลน์ nutipkra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามๆๆค่ะ

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น่าร้ากกก มาต่อไวๆนะคะ  :ling1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราว่าจะไม่เม้นท์แบบนี้ แต่อดไม่ได้ พาร์ทอดีตนี่เข้าใจว่าต้องมีนะเป็นการเปิดปม แต่ในบางบริบท มันทำเรื่องยืดมากๆเลยค่ะ .. มันจะจบในกี่ตอนเหรอคะ ได้วางไว้ไหม?


ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
วางพล็ตจบแล้วค่ะ แต่กำลังพยายามสมานเรื่องให้มันดีๆอยู่
ขอโทษเน้อที่มันอืด คือพาร์ทเนื้อหาหนักๆไม่กล้าปล่อยมาทีละนิด เดี๋ยวจะสับสนหนักกว่าเก่า5555 ซอรรี่น้า จบแล้วน่าจะมีการรีไรท์ให้กระชับขึ้น

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       อ่านอดีตของทั้งคู่ทีไรคิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขของทั้งคู่ๆมากๆ
สงสารหมอกมากไปอีก เพราะหมอกก็คงคิดถึงช่วงเวลาต่างๆมากเช่นกัน
มากจนต้องมีเกราะขึ้นมาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเอง
       รออ่านตอนต่อไปนะค่ะรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะคนเขียนเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากเลยค่ะ  :mew1:  :mew1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ลุ้นกันไป

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ส้มแน่เลย ร้ายมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
สิบเจ็ดปีก่อน
คฤหาสน์อัลฟอนโซ่, อิตาลี

เปลวเพลิงโหมกระพือตัดกับท้องฟ้าสีมืดมิดยามรัตติกาล เสียงกรีดร้องปะปนกับเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความโกลาหลจากไฟที่ลามติดทั่วทั้งคฤหาสน์หลังยักษ์อย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้น?!”

นิโคไลลืมตาตื่นขึ้นที่คฤหาสน์หลังงามซึ่งอยู่ติดกับคฤหาสน์หลังที่กำลังติดไฟ เด็กชายวัยเจ็ดปีขยี้ตาอย่างง่วงงุนเมื่อได้ยินเสียงตะคอกถามคนรับใช้ของดาห์เลียผู้เป็นมารดา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความใจเย็นและการวางตัวนิ่งในทุกสถานการณ์

“ไอแซคแปรพักต์ครับ มันกับพวกคอยเป็นสายให้พวกกาวิโน่มาโดยตลอด พวกกาวิโน่ลอบเข้ามาตอนที่บอดี้การ์ดเปลี่ยนกะ ตอนนี้ยังไม่ทราบสถานะของคนในบ้านหลักครับ”

นิโคไลแง้มประตูห้องของตนอย่างแผ่วเบา เงี่ยหูฟังสิ่งที่เกิดขึ้นถึงแม้จะไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เด็กน้อยผละจากประตูห้องไปยังผ้าม่านสีดำข้างเตียงที่ปิดสนิท

นิโคไลอาศัยอยู่ในครอบครัวที่ประหลาด เขามักจะรู้สึกอย่างนั้น บิดาและมารดาของเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันเหมือนกับเด็กคนอื่นๆที่นิโคไลรู้จัก แต่ข้อมูลนั้นเป็นสิ่งที่เขาถูกสอนมาตั้งแต่จำความได้ว่าไม่ให้พูดถึง

ในวันหยุดเช่นนี้นิโคไลจะอยู่กับมารดาที่คฤหาสน์ขนาดกลาง ดาห์เลียที่ไม่สามารถหย่าร้างกับบิดาของเขาได้ด้วยเหตุผลทางสังคมเลือกที่จะอยู่อย่างสันโดษตั้งแต่เด็กชายลืมตาดูโลก ดาห์เลียเป็นหญิงสาวชาวรัสเซีย ลูกสาวคนโตของแก๊งมาเฟียขนาดใหญ่ยังคงทระนงตนเป็นคุณนายใหญ่ของบ้าน ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเชือกที่คล้องความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลผู้มีอิทธิพลในโลกมืดทั้งสองตระกูลไว้ด้วยกัน ถึงแม้ว่าในเวลาไม่กี่ปีต่อมา คาร์ลอสจะพาเด็กสาวนักศึกษาชาวไทยคนหนึ่งเข้ามาอยู่กินด้วยประหนึ่งภรรยา ดาห์เลียก็ไม่แม้แต่จะกระพริบตากับการกระทำของสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย

นิโคไลต้องโตขึ้นมาพอสมควรถึงเข้าใจถึงคำว่า ‘คลุมถุงชน’ เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แต่ถึงแม้บิดาและมารดาของเขาจะไม่ได้รักกัน แต่ทั้งสองก็รักและเอ็นดูบุตรชาย ไม่เคยทิ้งให้เขาต้องรู้สึกขาดความอบอุ่น

คาร์ลอส บิดาของเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์อัลฟอนโซ่ ซึ่งเป็นคฤหาสน์เก่าแก่อายุนับร้อยปีที่เป็นของตระกูลอัลฟอนโซ่ย้อนกลับไปตั้งแต่รุ่นที่หนึ่ง นิโคไลใช้เวลาวันจันทร์ถึงศุกร์ที่นั่นกับชายหนุ่ม ถึงแม้คาร์ลอสจะไม่มีเวลาให้เขามากนักจากงานที่รัดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่นิโคไลก็มีความสุขดีกับลูกน้องของบิดาและเงาของตนที่ไม่เคยห่างกาย

รวมถึงร่างเล็กร่างหนึ่งที่มักจะเดินเตาะแตะมากอดขาเขาเวลาที่เขากลับมาจากโรงเรียน เสียงเล็กๆอ้อแอ้ที่เรียกเขาว่า ‘พี่ชาย’ และดวงตาสุกใสสีเทาอมฟ้าเหลือบสีเขียวคล้ายคลึงกับของบิดาของเขา

มิคาเอล น้องชายต่างมารดาวัยสองปีที่เขารักมากกว่าแก้วตาดวงใจ

น้องชายคนเดียวของเขา ที่ตอนนี้นอนหลับสนิทอยู่ในคฤหาสน์ที่กำลังลุกไหม้อยู่ในขณะนี้

“มิคาเอล!”

นิโคไลหมุนตัวกลับไปยังประตูห้องนอนของตน แต่ที่หน้าห้องมีร่างบอบบางของเด็กชายวัยเจ็ดปี เจ้าของเครื่องหน้าสวยหวานและเส้นผมดำขลับยาวสลวยราวกับเด็กหญิง ถึงแม้วรินทร์จะมีอายุมากกว่าเขาเกือบหนึ่งปี แต่นอกเหนือจากความได้เปรียบทางอายุ เด็กชายตรงหน้าอยู่ภายใต้อาณัติของเขาในทุกเรื่อง

“หลบ”

นิโคไลสั่ง ถึงแม้บิดาของเขาจะปฎิบัติต่อกรรณวัชร เงาของตัวเองประหนึ่งลูกแมวเหมียวที่มาคลอเคลียพันแข้งขา แต่ทุกครั้งที่เงาแห่งตระกูลเหลียนทำอะไรที่ชายหนุ่มไม่ชอบใจ ความเฉียบขาดและบทลงโทษที่รุนแรงของคาร์ลอสก็เป็นหนึ่งสิ่งที่นิโคไลเรียนรู้จากการสังเกตมาตั้งแต่เล็ก

“นิค อย่าไปเลยนะ มันอันตราย”

วรินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทุกสัญชาตญาณในร่างกายบ่งบอกว่าสิ่งที่ตนกำลังทำนั้นขัดกับคำสั่งของเจ้าชีวิต แต่เด็กชายไม่อาจปล่อยให้คนตรงหน้าต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเด็กที่มีสายเลือดร่วมกับตนเพียงครึ่งได้

“ริน หลบ”

นิโคไลพยายามขยับผ่านอีกฝ่าย แต่ร่างเล็กยังคงปักหลักอยู่กับที่ไม่ยอมให้เขาไปไหน

“นิค ขอร้องล่ะ…!!”

ร่างของวรินทร์ร่วงลงไปกองกับพื้นด้วยแรงของเด็กชายอายุน้อยกว่า ไม่ใช่ว่านิโคไลเก่งกาจเสียจนเงาตัวน้อยที่ถูกฝึกศิลปะป้องกันตัวมาตั้งแต่ยังเดินไม่ได้จะไม่สามารถหลบ แต่นิโคไลรู้ดีว่าวรินทร์ไม่มีสิทธิ์หลบ

“ฉันคงใจดีกับนายมากไป”

นิโคไลทิ้งท้ายก่อนจะก้าวผ่านร่างที่นอนฟุบอยู่บนพื้นไป



“มิคาเอล! ได้ยินพี่มั้ยมิคาเอล?!”

นิโคไลใช้ทางลับที่เชื่อมระหว่างรั้วของคฤหาสน์ทั้งสองหลังหลบรอดสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปในอาณาเขตของคฤหาสน์อัลฟอนโซ่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามควบคุมเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำตามแรงลมที่กรรโชกพัด แต่เปลวไฟที่ปะทุอย่างต่อเนื่องจากแรงระเบิดที่หาสาเหตุไม่ได้ทำให้คนที่อยู่ภายนอกไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในได้ ท่ามกลางความโกลาหล ร่างเล็กของนิโคไลเล็ดลอดผ่านสายตาของทุกคนไปอย่างง่ายดาย เด็กชายยกมือขึ้นปิดจมูกและริมฝีปากเพื่อป้องกันควันเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ตะโกนเรียกชื่อน้องชายขณะที่ฝ่ากลุ่มควันและเปลวเพลิงเข้าไปในห้องของเด็กน้อยวัยสองขวบ

“แง้!”

เสียงร้องไห้ของเด็กชายบนเตียงดังขึ้น นิโคไลตรงเข้าไปหามิคาเอลที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างขวัญเสีย อุ้มน้องชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดแล้วรีบออกไปจากห้องให้เร็วที่สุดเท่าที่ร่างเล็กๆจะสามารถทำได้

ครืน!

ฝ้าเพดานที่ถูกเพลิงไหม้ตกลงมา นิโคไลห่อตัวใช้แผ่นหลังของตนเป็นเกราะกำบังให้น้องชายตามสัญชาตญาณ เด็กชายหลุดร้องออกมาเมื่อฝ้าแผ่นใหญ่ติดไฟตกลงมาใส่ร่างของตน แต่เพียงเสี้ยววินาทีฝ้าแผ่นนั้นก็ถูกใครบางคนยกออกจากตัวของเขา

“คุณหนู นายน้อย เป็นยังไงบ้างครับ?!”

เสียงนุ่มที่เขาคุ้นเคยดีเสียยิ่งกว่าเสียงของมารดาหรือบิดาของตนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล กรรณวัชรดึงร่างของนิโคไลให้ลุกขึ้นเมื่อมือเรียวเล็กอีกมือคว้าเอาน้องชายที่ยังสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดไปจากเขา

“ทำใจดีๆไว้นะลูก”

ณิรภาปลอบลูกน้อยทั้งที่ตนยังดูเสียขวัญ หญิงสาวที่ผันตัวจากการเป็นนักเรียนนอกมาเป็นภรรยาคนที่สองของมาเฟียใหญ่ได้เพียงสามปีกว่าใช้ผ้าชุบน้ำผืนเดียวที่ตนมีโปะลงบนจมูกของมิคาเอล กรรณวัชรอุ้มนิโคไลแล้วนำทางภรรยารองของเจ้าชีวิตของตนไปยังประตูลับประตูหนึ่งจากในหลายๆบานภายในตัวคฤหาสน์เพื่อไม่ให้พวกกาวิโน่ที่อาจยังไม่ถูกคนของตระกูลเหลียนกำจัดหมดดีได้มีโอกาสซุ่มโจมตีพวกเขาได้

“กรรณ พ่อล่ะ?”

นิโคไลถามคนที่กำลังอุ้มตนอยู่อย่างไม่เข้าใจ เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายอยู่ห่างกายบิดาในเวลาคับขันเช่นนี้มาก่อน

“…”

“ท่านคาร์ลอสสั่งให้ผมพานายน้อยกับคุณณิรภาไปที่ปลอดภัยครับ ผมไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่ไหน” กรรณวัชรเอ่ยขึ้นในที่สุด ดวงตาสีม่วงแปลกตาที่มีเพียงไม่กี่คนในตระกูลเหลียนได้ครอบครองไหวระริก คำสั่งของคาร์ลอสขัดกับสัญชาตญาณพื้นฐานของเงาที่ต้องปกป้องเจ้าชีวิตของตน กรรณวัชรตัดสินใจทำตามคำสั่งของชายหนุ่มถึงแม้นั่นจะหมายความว่าเขาต้องปล่อยให้คาร์ลอสสกัดกั้นผู้บุกรุกห้าคนไว้ด้วยตัวเองก็ตาม

“…”

แม้คำตอบจะไม่บ่งชัดถึงสถานะของบิดา แต่นิโคไลก็สามารถรับรู้ได้จากสัญชาตญาณว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก

นิโคไลถูกชื่นชมจากผู้ใหญ่รอบข้างในความสุขุมเยือกเย็นที่ได้รับการอบรมมาจากทั้งบิดาและมารดา แต่ในเวลานี้ เด็กชายรู้สึกถึงของเหลวร้อนๆที่เอ่อล้นจากดวงตาพร้อมกับหัวใจดวงน้อยที่แตกสลายเป็นเสี่ยง

พวกเขาออกมานอกบริเวณคฤหาสน์ได้อย่างปลอดภัย ที่ด้านหลังของคฤหาสน์ สิ่งที่นิโคไลเห็นคือร่างของมารดาของเขาที่ยืนอยู่กับลูกน้องสามชีวิต และเงาตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหญิงสาวด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา แก้มขาวใสมีรอยฝ่ามือของนิโคไล
ประทับอยู่ แต่วรินทร์ไม่ได้สนใจบาดแผลบนใบหน้าของตน น้ำตาของร่างเล็กพรั่งพรูราวกับทำนบแตกเมื่อเห็นบาดแผลที่ถูกไฟลวกบนไหล่ของเจ้าชีวิต นิโคไลไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าตนบาดเจ็บจนกระทั่งดาห์เลียก้าวเข้ามาดูบาดแผลของเด็กชายแล้วดึงให้นิโคไลตามตนกลับไปที่คฤหาสน์หลังเล็กกว่า

“แม่ครับ น้อง…”

นิโคไลหันไปทางมิคาเอลที่ยังซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของมารดาของตน ดาห์เลียส่ายหน้า

“สองคนนั้นดูแลตัวเองได้ ลูกกลับไปให้หมอดูแผลกับแม่ก่อน” หญิงสาวหันไปหาผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเธอร่วมสิบปีซึ่งยังคงกอดลูกน้อยด้วยท่าทีเสียขวัญ “ฉันช่วยเธอได้แค่นี้ หวังว่าคงจะเข้าใจ”

“ขอบคุณมากนะคะคุณดาห์เลีย”

ณิรภาตอบเสียงแผ่ว นิโคไลอยากจะอยู่กับมิคาเอลต่ออีกสักนิด แต่ความอ่อนเพลียหลังจากสำลักควันไฟและใช้พลังงานวิ่งฝ่ากองเพลิงเข้าไปหาน้อง ทำให้เปลือกตาของเด็กชายปรือปรอยจนแทบยืนไม่อยู่ สติของเขาเลือนรางเสียจนไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดต่อจากนั้นได้

“ผมขอตัวครับ”

กรรณวัชรโค้งศีรษะให้ผู้มีศักดิ์เป็นภรรยาทั้งสองของเจ้าชีวิต ดาห์เลียเพียงแต่พยักหน้าเงียบๆ แต่ณิรภากลับเอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“คุณกรรณอย่ากลับเข้าไปเลยนะคะ ถึงคุณกลับไปตอนนี้ คาร์ลอสก็…”

 หญิงสาวเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้นของตน กรรณวัชรขยับยิ้ม ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนตัดกับเพลิงไหม้ที่โหมกระพืออยู่ด้านหลัง

“ขอโทษนะครับ แต่ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้”




ร่างโปร่งก้าวผ่านซากปรักหักพังจากการโดนไฟไหม้จนตกลงมาและร่างของผู้คนที่ยอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น บ้างเป็นศัตรูที่ถูกกำจัดทิ้ง บ้างก็เป็นเพื่อนร่วมสนามรบ ญาติในตระกูลที่เขารู้จักดี แต่ใบหน้าของกรรณวัชรยังคงเรียบเฉย ไม่แสดงถึงความอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของผู้คนที่เขาเคยรู้จัก

จนกระทั่งเมื่อก้าวเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของผู้นำตระกูลอัลฟอนโซ่คนปัจจุบัน กรรณวัชรยกมือขึ้นปิดปากของตนเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นที่จุกอยู่ที่คอเมื่อเห็นร่างที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ทันทีที่เขาอยู่ในห้อง ระเบิดอีกลูกก็ถูกจุดชนวน เศษซากอาคารพังครืนลงมาปิดกั้นทางออกเพียงทางเดียว แต่กรรณวัชรไม่ได้คิดที่จะกลับออกไปอยู่แล้ว

ร่างโปร่งเหยียบย่ำร่างไร้ลมหายใจของศัตรูที่ถูกคาร์ลอสกำจัดทิ้งที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น คาร์ลอสขยับเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา ร่างสูงของชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าปีปรือตาขึ้นอย่างอ่อนเพลียจากของเหลวสีแดงฉานที่ซึมออกมาจากบาดแผลที่หน้าท้อง เส้นผมสีบลอนด์สว่างชุ่มไปด้วยเหงื่อเปียกลู่ติดหน้าผาก ดวงตาสีเทาอมฟ้าฉายแววอ่อนโยนเมื่อเห็นกรรณวัชรขยับเข้ามาใกล้ มือใหญ่ตบที่ที่ว่างข้างกายอย่างอ่อนแรง เงาผู้ซื่อสัตย์ทิ้งตัวลงข้างกายของเจ้าชีวิตของตนอย่างรู้งาน เอนศีรษะหนุนแขนแกร่งอย่างที่เคยทำมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ใบหน้าหวานซบไหล่แกร่งที่มักจะเป็นที่พักใจให้เขาในวันที่รู้สึกเหมือนตนไร้ที่พึ่งพิง มือเรียวยกขึ้นดึงเชือกผูกผมสีแดงที่คาร์ลอสให้เป็นของขวัญเกิดออก ปล่อยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มสลวยยาวประบ่าให้สยายเป็นอิสระ เขาได้เสียงหัวเราะในลำคออย่างโรยแรงพร้อมกับมือที่ยกขึ้นลูบศีรษะของเขา นิ้วเรียวยาวราวลำเทียนสอดผ่านกลุ่มผมสีน้ำตาลอย่างที่คาร์ลอสชอบทำตลอดมา

“เด็กโง่…กลับมาทำไม…”

กรรณวัชรหลุดหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ทั้งที่เขาอายุน้อยกว่าอีกฝ่ายเพียงหนึ่งปีกว่า แต่คาร์ลอสยังคงยืนกรานที่จะเรียกเขาว่าเด็กน้อยของตัวเองเสมอ แขนเรียวโอบร่างของเจ้าชีวิตโดยระวังไม่ให้สัมผัสแผลกระสุนที่ยังคงมีเลือดซึมออกมาไม่หยุด ริมฝีปากเรียวสีแดงระเรื่อประทับจุมพิตลงบนแก้มสากอย่างแผ่วเบาราวแมลงปอแตะผิวน้ำ

“ก็ผมสาบานไว้แล้วนี่ครับ…”

คาร์ลอสแตะจมูกโด่งเป็นสันลงบนกลุ่มผมนุ่ม ทาบทับริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนใสอย่างแผ่วเบาและเนิ่นนาน แขนแข็งแรงละจากบาดแผลกดไว้ ดึงร่างของคนคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเขาไม่ว่าในยามทุกข์หรือสุขเข้ามาในอ้อมกอดแน่นโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของบาดแผล จูบซับน้ำตาที่ไหลรินลงมาตามพวงแก้มใสอย่างอ่อนโยน

กรรณวัชรไม่เคยเกรงกลัวความตาย

สิ่งที่เขากลัว คือโลกที่ไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง

“นั่นสินะ…ฉันก็สาบานไว้แล้วนี่นา…”

คาร์ลอสเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนล้าเต็มที แต่อ้อมกอดอุ่นของผู้นำตระกูลอัลฟอนโซ่ยังคงไม่คลายจากเงาของตน ถึงแม้เปลวไฟจะโหมกระพือเพียงไรก็ตาม

Till death do us part.

จนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน




ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เริ่มเข้าใจเรื่องราว ..

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก ต้องตั้งใจอ่านสุดๆอ่ะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มาถึงตอนนี้ถึงจะเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง  :pig4:

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อยากให้หมอกได้รู้ต้นกำเนิดของตัวเองซักที รอตอนที่เหลือค่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อดีตของหมอกจะเป็นสาเหตุให้เมฆบอกเลิกหมอกหรือเปล่านะ  :hao3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อออ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       สงสาร... :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด