<<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>  (อ่าน 162942 ครั้ง)

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อยากรู้จังว่าใครเป็นหนอนบ่อนใส้

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เกินเยียวยาจริง ๆ องค์ราชิด

สงสารกวินท์ ต้องมาลำบาก แล้วไม่รู้หนทางข้างหน้า
ชารุกข์ตามมาถูกด้วย ได้เติมพลังแล้ว ขอให้ปลอดภัยนะ

ใครนะ ทำกันได้ อยากรู้จริง

ออฟไลน์ Lutuan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะจบแล้วหรอ ฮรือ ใจหาย
ท่านชารุกข์ยังมีเวลามาเอ้าท์ดอร์อีก 555555555

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
อิอิมีncก่อนแยก :hao7: ฟินค่า

ออฟไลน์ mmanitaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
งึยยย ชอบมาก คืออิน อ่านแล้วรู้สึกแบบเขินตาม ร้สึกตาม รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                           ลมหายใจแห่งผืนทราย

                                                                                      บทที่ 21


                    “ปวดแผลบ้างหรือเปล่า”


                    คาลีลเอ่ยถามเมื่ออยู่เพียงลำพังกับวิกเตอร์ภายในห้องเล็ก ๆ ที่คาลีลใช้อาศัยอยู่ เขาจำเป็นต้องพักห้องเดียวกับคาลีล

เพราะสถานทูตต้องเตรียมที่พักไว้เผื่อสำหรับช่วยเหลือคนอื่นด้วย วิกเตอร์หันไปมองบาดแผลที่ฟาฮีมเย็บและทำแผลให้แล้วจึงเอ่ยปาก

ยอมรับ


                    “ปวดตุ้บ ๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกไกลหัวใจ”


                    วิกเตอร์พูดจบเขาก็คว้าโทรศัพท์มากดเบอร์โทรหาแอนนิสรุ่นพี่ที่สำนักข่าวส่งมาให้ปฏิบัติหน้าที่แทนกวินท์ซึ่งยังคงไม่รู้

ชะตากรรม


                  “วิกเตอร์ หายไปไหนมาหลายวัน ฉันเป็นห่วงเสียแทบแย่”


                      แอนนิสส่งเสียงดังมาทางโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้น เธอใจไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อวิกเตอร์ขาดการติดต่อไปพักหนึ่ง แค่

กวินท์ถูกจับตัวไปก็เป็นข่าวดังไปทั่วโลกแล้ว แอนนิสเกรงว่าวิกเตอร์จะได้รับอันตรายไปด้วยอีกคน


                    “ไปอยู่กับแหล่งข่าวใหม่น่ะแอนนิส ผมปลอดภัยดี ขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องเป็นห่วง  ตอนนี้เหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง”


                    “แย่ บอกเลย” แอนนิสกล่าวตอบทันควัน

                     “ผู้ชุมนุมประท้วงตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้ พวกเขาเหมือนไฮดร้า ล้มไปสิบกลับเพิ่มมาอีกยี่สิบ ทุกคนต่างก็มีความจง

เกลียดจงชังต่อรัฐบาลและกษัตริย์ราชิด”


                 “กษัตริย์ราชิดส่งกำลังไปจู่โจมกองโจรในทะเลทรายดาฟาร์”


                “ว่าไงนะ” น้ำเสียงของแอนนิสบอกถึงความตกใจ


                “ไม่เห็นมีข่าวนี้ออกมาเลย นี่นายไปรู้เรื่องจากไหนวิกเตอร์”


                 “ข่าวกรองได้จากวงในสุด ๆ น่ะสิแอนนิส รับรองว่าไม่มีผิดพลาด”


                “เรื่องใหญ่แล้ว หัวหน้ากองโจรที่ชื่อชารุกข์น่ะ เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในฮาลียันมากเลยนะ ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าพวกเขา

อาจจะเป็นคนของกษัตริย์พระองค์ก่อน”


                 “พรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณนะ ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่สถานทูตแล้ว”


                    วิกเตอร์เอ่ยลาและวางสายจากแอนนิส เขาหันกลับมาให้ความสนใจกับคาลีลที่กำลังง่วนอยู่กับการเปิดเครื่องมืออะไร

บางอย่างที่เจ้าตัวแบกมาจากด้านท้ายของรถยนต์ วิกเตอร์ยังนึกทึ่งเมื่อเห็นคาลีลซ่อนมันอยู่ตรงที่วางล้อรถสำรองและมีการปกปิดอย่าง

ดีจนมองไม่ออก


                  “คุณเป็นสายลับเหมือนอย่างในหนังใช่ไหมคาลีล” วิกเตอร์พูดสัพยอก


                 “เป็นเจมส์บอนด์ ซีไอเอ หรือเป็นเคจีบีกันแน่”


                 “ผมก็เป็นผมนี่แหละ จะให้เป็นคนอื่นทำไม”


                    คาลีลอดยิ้มออกมาไม่ได้ วิกเตอร์ร่าเริงจนทำให้เขาลืมความเคร่งเครียดไปได้บ้าง และเมื่อวิกเตอร์มองเห็นรอยยิ้มของ

คาลีลหัวใจของเขาก็เต้นเร็วอย่างน่าประหลาดใจ

               ผู้ชายยิ้มยากตรงหน้ากำลังมีอิทธิพลสำหรับเขาอย่างไม่มีสาเหตุ วิกเตอร์เผลอมองใบหน้าจริงจังเป็นงานเป็นการ หากแต่

เวลายิ้มกลับทำให้สว่างไสวขึ้นมาได้


                   “คุณรู้จักกับโจรคนนั้นเหรอ ชื่ออะไรนะ ชารุกข์ไช่ไหม”


                   “อืม ใช่”


                    คาลีลตอบรับขณะที่ยังสนใจกับการเปิดเครื่องมือของเขา


                    “ไปรู้จักกับเขาได้ยังไง”


                   “ผมกับชารุกข์เป็นเพื่อนกัน เราเรียนโรงเรียนสมัยประถมมาด้วยกัน”


                   คาลีลแปลกใจตัวเองที่ไว้ใจชายชาวต่างชาติที่นอนเค้เก้อยู่บนเตียง เขากล้าจะเล่าเรื่องความลับต่าง ๆ ให้วิกเตอร์ฟัง ทั้ง

ที่หากใครรู้จะเป็นอันตรายต่อเขามาก


                  “คุณเป็นเพื่อนกับโจรคนนั้นทั้งที่เขาเป็นศัตรูกับทางการ และคุณก็ทำงานอยู่ในคณะรัฐบาลเนี่ยนะ”


                  วิกเตอร์เอียงคอจ้องมอง คาลีลทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ คาลีลยักไหล่เบาๆ


                  “เขาไม่ใช่โจรธรรมดานะ สักวันคุณก็จะรู้ถ้าเรื่องทุกอย่างมันจบลง อ๊ะ เปิดเครื่องได้แล้ว”


                   คาลีลอุทานด้วยความยินดี เขาหันมาทำสัญญาณให้วิกเตอร์หยุดพูดก่อนที่คาลีลจะเงี่ยหูฟังเสียงคำพูดภาษาอารบิกที่ดัง

ออกมาจากเครื่องนั้น และยิ่งตั้งใจฟังสีหน้าของคาลีลก็ยิ่งเผือดซีดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขายื่นมือไปปิดเสียงเครื่องมือนั้น


                  “มีอะไรหรือเปล่าคาลีล ไอ้เจ้ากล่องนี้มันคืออะไร แล้วเสียงที่พูดออกมาเป็นเสียงใคร”


                   อดถามไม่ได้เมื่อเห็นอากัปกิริยาของคาลีลที่นิ่งงันไป ราวกับคาลีลกำลังตกใจอะไรบางอย่าง


                  “มันเป็นเครื่องดังฟัง ผมแอบไปติดไมโครโฟนไว้ที่ห้องของสมเด็จพระราชาธิบดีเมื่อเช้านี้เอง”


                    คาลีลตอบเสียงสั่น เมื่อตอนเช้าเขาใช้ช่วงเวลาที่กษัตริย์ราชิดมัวแต่กริ้วแอบติดไมโครโฟนตัวจิ๋วไว้ที่ใต้โต๊ะทำงานของ

พระองค์โดยที่ทรงไม่ทันได้สังเกตเห็น มันเสี่ยงมากคาลีลรู้ดี แต่ผลของมันก็ยอดเยี่ยมเหลือเกิน


                   “เสียงนั่นคือเสียงของกษัตริย์ราชิดงั้นหรือ”


                  วิกเตอร์ตื่นเต้นโดยทันที เขาลุกขึ้นมาและเขย่าที่ไหล่ของคาลีลด้วยความอยากรู้


                 “เกิดอะไรขึ้นคุณถึงทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกอย่างนี้”


                 คาลีลกลืนน้ำลาย หัวใจเต้นรัว


                     “ทรงโทรศัพท์ติดต่อกับสายของพระองค์และทรงเรียกชื่อเขาออกมา ไม่ได้การละวิกเตอร์ ผมต้องรีบหาทางติดต่อกับ

ชารุกข์ เขาจะต้องรู้ว่าใครคือคนของสมเด็จพระราชาธิบดีโดยเร็วที่สุด”








                    กวินท์ก้าวเดินกลับมายังเหมืองแร่ร้างที่กองคาราวานจากหมู่บ้านยาคีนใช้เป็นที่ตั้งกระโจมหลบซ่อนจากทหารของ

รัฐบาล บาฮาม้าคู่ใจของชารุกข์พาเขามาส่ง ณ จุดเดิมที่มารับ หลังจากนั้นเขาจึงเดินกลับมาโดยมีเหยี่ยวอับบาสบินนำทางบนท้องฟ้า

เป็นเพื่อน

                  ลมหนาวยามดึกสงัดพัดกรูอาบไปทั้งกายจนกวินท์ต้องยกแขนขึ้นกอดอกและห่อไหล่ไว้ เขาได้แต่นึกถึงความอบอุ่นจาก

อ้อมกอดและสายใยรักที่เพิ่งถักทอทบทวีกับชารุกข์ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่นาที เพื่อให้ความรู้สึกนั้นปลอบประโลมหัวใจยามต้องเดินอย่าง

เดียวดายกลางทะเลทรายกว้าง แต่กวินท์มั่นใจว่าเขาจะอยู่ในสายตาของหัวหน้ากองโจรแห่งดาฟาร์จนกว่าชารุกข์จะมั่นใจว่าเขา

ปลอดภัยแล้ว

                   แรงกอดกระชับจากวงแขนแกร่งยังสลักแน่นอยู่ ความสุขสมในรักทำให้กวินท์ยิ้มออกมาได้ ชารุกข์อ่อนหวานแต่ก็รุ่มร้อน

ดุจเปลวไฟเจิดจ้า เขาเป็นผู้นำพาให้กวินท์หลงอยู่ในแรงปรารถนาทั้งในรักและความสัมพันธ์อันลึกซึ้งจนกวินท์ไม่อาจถอนใจจากเขาไป

ให้ผู้ใดได้อีกต่อไป

                   รอยยิ้มสุขใจเลือนหายทันควันเมื่อกวินท์เดินกลับมาถึงหน้ากระโจมสำหรับเขา มองเห็นเงาตะคุ่มหน้าปากทางเข้า

กระโจมเล็ก กวินท์ชะงักก่อนจะก้าวเข้าไปด้วยความระมัดระวัง และเมื่อจ้องมองผ่านความมืดจนเห็นว่าเป็นใครกวินท์จึงถอนหายใจ

อย่างโล่งอก เขาก้าวเข้าไปหยุดยืนต่อหน้าบุคคลผู้นั้น





มีต่ออีกนิด....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2017 00:22:46 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้....





                “คุณลุงรีฮาน ยังไม่นอนอีกหรือครับ”


                “ฉันนอนไม่หลับหรอกพ่อหนุ่ม”


                 น้ำเสียงของชายสูงวัยเต็มไปด้วยความเครียดและกังวลปะปนกันไป ชายชราบนรถเข็นพ่นลมหายใจระบายมันออกมา


                  “หากเธอเป็นฉัน เธอจะยังนอนหลับได้ลงหรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้

คนที่รักเราเดือดร้อนไปด้วย เธอจงมองดูพวกเขาเหล่านั้นสิกวินท์”


                  รีฮานทอดสายตาไปยังหมู่กระโจมที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลนัก


                  “พวกเขาเหล่านั้นต้องประสบกับความลำบาก ต้องพลัดพรากจากถิ่นฐานที่อยู่เพียงเพราะต้องการปกป้องคนแก่ไร้ค่าอย่าง

ฉัน”


                     กวินท์จุกในคอเมื่อได้ฟังคำพูดสะท้อนจากหัวใจของรีฮาน เขาเห็นใจชายชราที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมหาบุรุษผู้ทรงอำนาจ

ที่สุดในประเทศ แต่บัดนี้ต้องกลายเป็นคนพิการใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นและต้องหลบซ่อนตัวตลอดเวลา ไหล่ของรีฮานค้อมลู่สั่นไหวเพราะ

ความรันทด


                    “คุณลุงไม่ใช่คนไร้ค่านะครับ กลับกันเสียอีกเพราะทุกคนรักคุณลุงต่างหากถึงได้ทำทุกอย่างเพื่อให้คุณลุงได้ความชอบ

ธรรมกลับคืนมา”


                      รีฮานแหงนหน้าขึ้นมองพระจันทร์บนท้องฟ้าสีดำที่เริ่มคล้อยต่ำลงจากกึ่งกลางฟ้า น้ำเสียงพร่าสั่นยามเอ่ยออกมา


                     “ได้รับความชอบธรรมแล้วจะเป็นเช่นไร ฉันมันก็แค่ตาแก่ขี้แพ้หมดสิ้นความหวัง แต่อย่างน้อยฉันก็ดีใจว่ายังมีความหวัง

ใหม่ที่เยียวยาและเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจให้กับพวกเขารวมถึงตัวฉันเองด้วย”


                     กวินท์เข้าใจดีว่าชารุกข์นั่นเองที่รีฮานกล่าวถึง


                     “เขาเป็นลูกที่ดี ชารุกข์รู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่นมาโดยตลอด เขามาในเวลาที่เหมาะสมและกลายเป็นผู้นำที่ใครๆ ก็ให้

ความเคารพ ทุกคนพร้อมจะปฏิบัติตามหากเขาเอ่ยคำสั่งของเขาออกมา”


                      คำพูดของรีฮานสะกิดใจของกวินท์ คิ้วเรียวย่นเข้าหากันเมื่อกำลังคิดตามว่ารีฮานมีจุดประสงค์อะไรกันแน่


                      “ฉันเคยบอกเขาก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นมาเป็นผู้นำว่า เขาจะต้องยอมแบกภาระเหล่านี้ไปตลอดชีวิตเพราะมันเป็นหน้าที่

ของผู้นำ ชีวิตของเขาจะมีไว้เพื่อคนที่เขาปกครองหาใช่เพื่อตนเอง และเมื่อไหร่ที่เขาขึ้นขี่หลังเสือก็ยากที่จะลงมาได้ แต่ในที่สุดเขาก็

ตัดสินใจที่จะรับหน้าที่นั้น”


                      รีฮานถอนหายใจยาว ฟังแล้วรู้ว่าชายสูงวัยสงสารบุตรชายของเขา


                     “หากการต่อสู้ครั้งนี้สำเร็จ เขาจะกลายเป็นผู้นำคนใหม่ และในฐานะผู้นำชารุกข์ไม่สมควรจะมีเรื่องด่างพร้อยใดๆมาให้

เป็นที่ครหา เขาจะต้องเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบสำหรับประชาชนชาวฮาลียันทุกคน พวกเขาสูญเสียกันมามากแล้ว อัลลอฮควรประทานพร

เป็นของขวัญให้พวกเขาทดแทนกับสิ่งที่เสียไป”


                       หัวใจของกวินท์หล่นหายไปกับผืนทราย ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อเข้าใจจุดประสงค์ทั้งหมดของชายชราตรงหน้าแล้ว


                      ผู้เป็นบิดามาเยือนเพื่อบอกให้รู้ว่า กวินท์คือเรื่องด่างพร้อยในชีวิตของบุตรชาย


                      บุตรชายซึ่งจะก้าวขึ้นเป็นมหาบุรุษในอนาคตหากได้ชัยชนะในการต่อสู้


                      “คุณลุงต้องการอะไรกันแน่ครับ จะบอกอะไรกับผมกันแน่”


                       เขาแกล้งโง่ถามออกไป เผื่อว่าบางทีอาจจะเข้าใจผิดไปเอง น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นช่างสั่นไหวเต็มที


                      “คนแก่ผ่านโลกมามากอย่างฉันพอจะมองออกว่าชารุกข์กับเธอรู้สึกต่อกันเช่นไร เขารักและคิดถึงเธอมากจนยอมเสี่ยง

อันตรายที่จะมาหาเธออย่างในคืนนี้”


                        รีฮานไม่ใช่คนโง่ เขามองทุกอย่างกระจ่างไม่ทิ้งลายราชสีห์


                       “เขาจะต้องเสี่ยงอีกกี่ครั้ง แล้วเธอทนได้อย่างนั้นหรือที่เขาต้องเสี่ยงเพื่อเธอ”


                       “คุณลุง!”


                        น้ำเสียงของรีฮานไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขายังคงพูดเนิบนาบนุ่มนวลแต่ทว่ามันกลับกรีดลึกจนหัวใจของกวินท์แตก

สลายไม่มีชิ้นดี


                       “อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ในฐานะที่ฉันควรจะทำอะไรเพื่อคนในชาติบ้าง ฉันอยากจะขอร้องเธอกวินท์”


                      กวินท์ตกใจเมื่อจู่ ๆ รีฮานก็เลื่อนกายลงจากรถเข็นมาอยู่กับพื้นดิน ชายชราก้มหน้าซ่อนความเจ็บปวดที่มีไม่แพ้กวินท์

เช่นกัน เสียงของรีฮานแหบเครือเมื่อกล่าวประโยคที่ทำร้ายทั้งตัวเองและชายหนุ่มเบื้องหน้า


                   “ในฐานะของฉัน ฐานะของคนเป็นพ่อ ได้โปรดเสียสละความรักของเธอเพื่อชารุกข์ ขอให้เขาได้ทำหน้าที่ของผู้นำอย่าง

สมบูรณ์แบบ ฉันขอร้องเธอกวินท์”


                   น้ำตาหยดหนึ่งไหลร่วงอาบแก้ม ไหล่ของกวินท์สั่นสะท้านกับคำขอร้องของอดีตกษัตริย์ที่ยอมคุกเข่าให้เขา มันเป็นเรื่อง

ที่กวินท์เองก็เคยคาดการไว้ แต่ไม่นึกว่ามันจะมาถึงอย่างฉับพลันเช่นนี้


                    ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหา เขายกหลังมือปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะประคองให้รีฮานขึ้นมานั่งบนรถเข็นเช่นเดิม


                  “อย่าทำแบบนี้อีกเลยครับ คุณลุงไม่ควรจะมาคุกเข่าให้คนอย่างผม”


                   “ผิดแล้วกวินท์ ฉันต้องคุกเข่าให้เธอเพราะฉันกำลังขอร้องในสิ่งที่ยากที่สุด ฉันขอโทษ”


                     รีฮานไม่อาจปิดบังความรู้สึกอดสูได้ ดวงตาของเขาแดงก่ำไม่ต่างจากกวินท์ ชายต่างวัยทั้งสองปล่อยให้ความเงียบ

เข้าปกคลุม มีเพียงเสียงลมหวีดหวิวราวกับมันเป็นเสียงร่ำไห้ของหัวใจ


                       “หากผมตกลงในสิ่งที่คุณลุงต้องการ”


                      ในที่สุดกวินท์จึงได้เอ่ยออกมา


                     “ยาก็อบจะเป็นคนพาเธอไปส่งถึงหน้าสถานทูตทันทีที่ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า”


                      สบตากันโดยไม่ต้องพูดอะไรอีก รีฮานรู้ว่าคนที่บุตรชายของตนหลงรักนั้นจะตัดสินใจอย่างไร


                     “ในฐานะของชาวฮาลียันคนหนึ่ง ฉันขอขอบใจสำหรับการเสียสละของเธอนะกวินท์”


                      อดีตบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ค้อมศีรษะให้เขา ก่อนที่จะบังคับรถเข็นกลับหลังและจากไปในความมืดมิด กวินท์มองตามจนลับตา

แล้วจึงก้าวเข้าไปในกระโจม ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งชันเข่าคุดคู้พลางฝังใบหน้าลงไป เขาร้องไห้ออกมาเมื่ออยู่เพียงลำพัง


                      “รอผมนะกวินท์ ผมจะรีบจบเรื่องทุกอย่างโดยเร็วที่สุด และเมื่อถึงวันนั้น เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน”


                      ประโยคสุดท้ายที่ชารุกข์พูดยังก้องอยู่ในความทรงจำ กวินท์เสียใจที่เขาไม่อาจอยู่เพื่อคนที่เขารักได้อีกต่อไป








                        กวินท์นั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิม เขาร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา จนกระทั่งได้ยินเสียงกุกกักหน้ากระโจมจึงได้ลุกขึ้นเดินออกไป

เขาพบยาก็อบยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเช้าตรู่ในเหมืองแร่ร้างกลางทะเลทราย


                         “ผมได้รับคำสั่งให้ไปส่งคุณครับกวินท์”


                         ยาก็อบกล่าวเสียงเบา กวินท์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาก้าวเดินตามหลังยาก็อบราวกับหุ่นยนต์ไปที่ม้าตัวหนึ่ง ยาก็อบ

ช่วยส่งให้เขาขึ้นไปขี่อยู่บนหลังม้าและควบมันตามหลังยาก็อบโดยทิ้งเหมืองแร่ร้างไว้เบื้องหลัง กวินท์ไม่ได้หันไปมองอีก เขาไม่อยาก

ให้ภาพทั้งหมดตอกย้ำความเจ็บปวดให้เขาอีกต่อไป

                   กวินท์แทบจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าเขาเดินทางด้วยม้าและต่อด้วยรถยนต์ที่ยาก็อบหาได้จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งได้อย่างไร เขา

ตกอยู่ในภวังค์ตลอดทางจนกระทั่งผ่านพ้นเขตทะเลทรายเข้าสู่ความเจริญของตึกรามบ้านช่อง   ไม่นานนักยาก็อบก็ขับรถเข้ามาในเขต

ฟาดิเลาะห์เมืองหลวงของฮาลียัน  กวินท์สะดุ้งสุดตัวเมื่อยาก็อบเขย่าตัวเขาเบา ๆ


                       “กวินท์ ถึงสถานทูตอังกฤษแล้วครับ”


                        ชายหนุ่มเพิ่งจะกลับมามีสติสัมปชัญญะ เขาเหลียวมองรอบตัวก่อนจะถอนหายใจเมื่อกลับมาสู่ภาพอันคุ้นเคย


                        “ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ แต่ทำไมดูคุณเศร้าๆ และรู้สึกว่าเป็นการมาส่งคุณในแบบที่ไม่ดีเลย เฮ้อ”


                        ยาก็อบเอ่ยออกมาเมื่อรู้ว่าต้องจากกัน เขาถูกชะตากับกวินท์มาก กวินท์ฝืนยิ้มให้ยาก็อบ


                      “สักวันก็ต้องจากกันอยู่ดี ผมขอบคุณสำหรับมิตรภาพระหว่างเรานะยาก็อบ ขอให้คุณโชคดี”


                       “เช่นกันครับกวินท์”


                      กวินท์ก้าวลงจากรถ ก่อนจะปิดประตูรถเขาหยิบซองจดหมายออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านในแล้วส่งให้ยาก็อบ


                     “ผมฝากจดหมายฉบับนี้ให้เชคฮชารุกข์ บอกเขาว่าขอโทษที่ไม่ได้อยู่รอความสำเร็จของเขา และขอโทษที่ไม่ได้อยู่

กล่าวคำอำลาด้วยตัวเอง”


                     ยาก็อบรับซองจดหมายจากกวินท์ เขาโบกมืออำลาเป็นครั้งสุดท้าย กวินท์รอจนรถยนต์ของยาก็อบขับจากไปจนลับ

สายตาจึงได้เดินเข้าไปในสถานทูต

                      เมื่อรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สถานทูตแล้ว ความวุ่นวายก็บังเกิดเมื่อรู้ว่าเขาคือกวินท์ แอนเดอร์สัน ผู้สื่อข่าวที่ถูกกองโจร

แห่งดาฟาร์จับกุมตัวไป นายสมิธและนางรำไพพรรณ แอนเดอร์สันรีบออกมาหาบุตรชายด้วยความตื่นเต้นยินดีเมื่อได้รับการแจ้งว่ากวินท์

กลับมาจากทะเลทราย ทันทีที่กวินท์ได้พบหน้าบิดามารดาเขาก็ตรงเข้าไปสวมกอดและร้องไห้ออกมาอยู่ในอ้อมกอดนั้น

                   กวินท์ไม่รู้ว่าตนเองร้องไห้เพราะดีใจที่ได้พบกับพ่อแม่อีกครั้ง หรือเพราะเสียใจที่ต้องจากใครคนหนึ่งโดยไม่ได้เอ่ยอำลา

กันแน่เพราะมันผสมปนเปกันจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตาอาบแก้ม




                                                                     TBC


                                                เป็นบทที่ แต่งยากที่สุดเลย ฮืออออ

                                           
:dont2: :dont2: :dont2: :dont2:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2017 00:33:28 โดย Belove »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ความรัก ต้องเสียสละหรือ สงสารจัง
ขอให้ชารุกข์ชนะ เป็นกำลังใจให้
 :mew4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่เราสินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สงสารทุกคนเลย :heaven

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ยังเศร้าอยู่ดี

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ  เศร้ามาก

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
 :hao5:รู้สึกเศร้า ขอให้ชารุกกะกวินสมหวังก็พอ อย่าแยกกันเลยน้า

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
สงสารกวินทร์จังงงง

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โอย... น้ำตาจะไหน ชารุกข์จะทำยังไงล่ะนี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เพราะหน้าที่อันยิ่งใหญ่ จึงทำให้ต้องแยกจากกันซินะ
ต่างฝ่ายต่างเสียใจ แล้วชารุกข์จะยอมแยกกันง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารกวินท์ :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
บีบหัวใจที่สุดเลย  :sad4:
ว่าแต่ ใครคือหนอนบ่อนไส้ล่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หน้าที่กับหัวใจสวนทางกัน...

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สงสารกวินท์ จะทนอยู่ยังไง ถ้าใจยังรัก
แล้วต้องมาจากลาแบบไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหม

เข้าใจนะว่า อยากให้ชารุกข์คู่ควร แต่ลูกจะไม่มีหัวใจ ท่านพ่อจะยอมรับได้หรอ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ถึงเวลาต้องจากกันแล้วซินะ

ให้ซารุกข์ปฏิบัติการเพื่อชาติให้สำเร็จก่อน แล้วมาพบกันใหม่

ตอนนี้ขอจี๊ดเจ็บแต่เพียงลำพัง

555 เพ้ออ่ะ. ตื่นมาตอนฝนตกฟ้าร้องมาอ่านดราม่าตอนนี้


ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ความรักจะอยู่ในหัวใจอย่างมั่นคง

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
น่าสงสาร คนสืบตำแหน่งคนต่อไปท่าทางจะต้องเป็นคุณหมอน้องชายแทนเสียแล้วละ

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
วันนี้ก็มาถึงจนได้ tt กวินท์ต้องไปแล้วจริงๆหรอ แง้งงงง 
ก็รู้ว่าพ่อหวังดี ไม่อยากให้ลูกมีความกังวลหรือจุดด่างแม้จะเป็นจุดเล็กๆตอนขึ้นรับตำแหน่งหรือหากได้รับชัยชนะ แต่นี้มันคือการพรากเอาสิ่งที่ทำให้ชารุกข์มีความสุขไปจากเขาเลยนะ ทำไมไม่คิดดีๆอ่ะ ฮึยยยยยย !
#อินเกิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด