“จะไปไหนอะ พี่โมบาย”
“กลับบ้านนะสิ” พี่โมบายลากผมเดินไปหน้าโรงเรียน ตอนแรกนึกว่าจะนั่งรถเมล์ แต่พี่โมบายกับโบกแท็กซี่
สามคันแรกที่เรียก ล้วนแต่ปฏิเสธที่จะไปส่ง อ้างว่าเดี๋ยวส่งรถไม่ทันบ้าง น้ำมันจะหมดบ้าง ถ้ามันรู้แล้วมันจะออกมาวิ่งทำพระแสงน้ำเงี้ยวอะไรของมันวะ
“ถ้าคันนี้ไม่ไปอีกนะ คอยดูพี่บ้างละกัน”
“พี่จะทำอะไรอะ” ผมถามด้วยความทึ่งในความแมนของพี่โมบาย
“คอยดู”
สักพัก พี่โมบายก็โบกรถแท็กซี่สีชมพูแปร๊นคันนึง
“พี่คับ ไปลาดพร้าวครับ”
“.......................................... พี่แท็กซี่เงียบไปอึดใจด้วยสีหน้าลังเล
“ผมไหว้ละครับ พี่ครับ ไปเหอะนะๆๆๆ” อะโด่ กรูนึกว่าแน่ ที่แท้เมิงก็ยกมือไหว้เขาปะลก ปะลก 555
“เอ้า ก็ได้ ไอ้หนู ขึ้นมา”
เมื่อขึ้นมาบนรถได้ ความเงียบก็เข้าควบคุมบรรยากาศทันที
“มะขาม” จู่ ๆ พี่โมบายก็เรียกชื่อผม ทำเอาผมสะดุ้งเลย
“อะไรหรอครับพี่”
“พี่ไม่รู้ว่าเรื่องมันจะกลายมาเป็นแบบนี้อะ พี่ขอโทษนะ” เมิงจะขอโทษกรูเรื่องอะไร
“เออ พี่ขอโทษผมเรื่องอะไรครับ ผมต่างหากที่เป็นคนบอกรักพี่” ชะแว๊บนึง ผมสังเกตได้ว่าพี่คนขับแท็กซี่เหลือบมองมาทางเบาะหลังที่ผมสองคนนั่งอยู่
“แต่พี่ก็ เออ...เป็นคนที่ เออ...จูบ มะขามนะ” ถ้าไม่ผิด ผมสังเกตเห็นพี่คนขับแท็กซี่ ตาเหลือกเหมือนเจอผี พร้อมทั้งเข้าเกียร์ผิดจังหวะ ทำให้รถกระตุกนิดหน่อย
“แต่ผมว่า ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณพี่หญิงนะครับเนี่ย ที่ทำให้ผมรู้จากปากพี่เนี่ย” พี่โมบายไม่ตอบ แต่หันมายิ้มให้ผม พร้อมขยี้หัวผมไปมา ส่วนพี่คนขับแท็กซี่ตอนนี้นะหรอ 555 เหมือนคนบ้าไปแล้วครับ
“อ้าว แม่ จะไปไหนเนี่ย” ผมร้องถามแม่ เมื่อมาถึงบ้านผม และเห็นแม่ผมกำลังยกกระเป๋าสามใบใหญ่ออกจากบ้านอย่างทุลักทุเล ส่วนเจ้าพี่โมบายตัวดีนั้น กุลีกุจอรีบเข้าไปช่วยยกกระเป๋าใหญ่ เอาใจแม่ยายสุดฤทธิ์ อิอิ
“นี่แม่ไม่ได้บอกลูกหรอจ๊ะ ว่าแม่จะไปเกาหลี”
“หา เกาหลี” ผมกับพี่โมบายร้องออกมาพร้อม ๆ กัน
“ไปทำไมอะ” ผมเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ก่อน เลยรีบถามแม่ นี่แม่ทั้งคน ผมก็กลัวว่าจะถูกหลอกไปขายแรงงาน หรือไปค้ากาม ยิ่งสวยเลือกได้อยู่ด้วย
“อิอิ” แม่เอามือปิดปาก หัวเราะด้วยอาการสะเทิ้นอายนิด ๆ
“แม่จะไปดูคอนเสิร์ต ดงบังชิงกิอะจ๊ะ ลูกโมบายจ๊ะ แม่ฝากมะขามด้วยนะจ๊ะ” ไอ้ประโยคแรกแม่ตอบผม แต่ประโยคหลังแม่หันไปพูดกับพี่โมบายที่ยกนิ้วโป้งให้แม่ผมสองนิ้ว
“โหแม่ ดงบังชิงกิเนี่ยนะ จะทันสาว ๆ เขาไหมเนี่ย”
“อะ อะ อย่าดูถูกแม่นะจ๊ะ เคยได้ยินไหมจ๊ะที่เขาว่า สวยมักนก ตลกมักได้ อิอิ แม่ก็จะได้ความตลกเนี่ยแหละ ทำให้หนุ่มดงบังชิงกิหลงแม่ อิอิ”
“อ้าว คุณแม่ครับ แล้วคุณแม่จะถึงตัวพวกนั้นได้ยังไงหละครับ” คราวนี้พี่โมบายถามบ้าง
“ก็แหม แม่ก็ส่ง SMS ไปชิงรางวัลนะสิ และที่สำคัญ เขาให้เข้าไปทักทายได้ถึงหลังเวทีด้วยนะ เขาเรียกว่าอะไรน้า อ้อ ประมาณว่าเป็นแขก VCD อะจ๊ะ”
“เออ แม่กำลังจะหมายถึง VIP ใช่ไหมครับ”
“เออ ๆ ๆ นั่นแหละ วีไอพีนั่นแหละ ไว้แล้วจะเอาแป้งโรยและขูดเลขมาฝากนะจ๊ะ” แม่ผมพูดไปก็สะเทิ้นอายไป
“เออ คนนะแม่ ไม่ใช่ต้นโพธิ์ ที่จะขูดหาหวย” แม่ผมนี่ก็ปล่อยมุขตลอด แป๊กบ้าง รอดบ้างตามประสา
“อิอิ พูดเล่น แม่ไปหละ เหล่าหนุ่ม ๆ เทพเจ้ารอแม่อยู่ อีก5 วันเจอกันนะจ๊ะ” ว่าแล้ว แม่ผมก็ลากกระเป๋าใบสุดท้ายขึ้นแท็กซี่มุ่งหน้าสู่สนามบิน เพื่อตามฝัน ดงบังชิงกิ เฮ้ยยยยย แม่ตรู!!!~
หลังจากที่ผมสองคนมองรถแท็กซี่ลับหายไปยังมุมถนนแล้ว ความเงียบก็เข้าครอบคลุมอีกครั้ง
“นี่ไม่คิดว่าจะชวนพี่เข้าบ้านเลยหรอ” เป็นไอ้พี่โมบายอีกครั้งที่พูดขึ้นทำลายความเงียบ
“อืม...ก็เข้ามาสิ” ว่าแล้วผมก็รีบก้มหน้าแดง ๆ หลบวูบในทันที เมื่อคิดถึงว่า เราอยู่กันสองต่อสองในบ้าน อิอิ บ้า เรายังเวอร์จิ้นอยู่เลยนะยะ
“พี่กินอะไรไหม เดี๋ยวทำให้กิน” ผมหมุนไปหมุนมา ไม่รู้จะทำอะไรดี นี่เป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองในบ้านเนี่ย
“พี่นั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวหาอะไรให้กิน” ผมเอื้อมมือจะไปจับมือพี่โมบายให้มานั่งรอที่โซฟา แต่พี่โมบายกับชักมือออก ทำให้ผมชะงักไปเหมือนกัน
อะไรวะ ตรูงง