บทส่งท้าย
ชีวิตของหนูพุกคนน่ารักปุ๊กปิ๊กและพ่อยอดชายของเขาก็ยังอยู่ดีกินดีมีความสุขทุกวัน ไอ้โรห์ยังคงเสมอต้นเสมอปลายเหมือนเคย ตอนเป็นเพื่อนดูแลดียังไงตอนเป็นแฟนแล้วยิ่งดูแลดีกว่าเดิมอีก ตอนนี้รู้สึกเหมือนโชคหล่นทับสามชั้นพอๆกับพุงนุ่มนิ่มของตัวเอง
จากตอนแรกที่อายหุ่นตัวเองอยู่นะแต่กลับกลายเป็นว่าพ่อยอดชายชอบขยำเนื้อผมเล่นมาก มันบอกว่าเมื่อก่อนไม่กล้าทำเพราะกลัวผมโกรธ แล้วตอนนี้ไม่กลัวกูโกรธแล้วหรือไงวะ? ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆ แต่ก็บ่นไปงั้นนั่นแหละ ถึงเวลาจริงๆผมก็นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาล้มลุกให้มันกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพอใจนั่นแหละครับ
ตอบตามตรงว่าผมก็แอบติดสัมผัสมันเหมือนกัน
“พุกตัวนุ่มนิ่ม ฉันชอบ” มันพูดแบบนี้ฟังแล้วใจอ่อนยวบเลย ไหนใครบอกว่ามันตามใจผม เอาจริงๆผมว่าผมตามใจมันเยอะมากเลยนะ ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าจะได้จับพุงกะทิน้อยๆของผมอะ ไม่มีทางหรอก!
ชีวิตผมเหมือนจะเหมือนเดิมทุกอย่างแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ...ช่วงหลังมานี้ผมติดสอยห้อยตามไอ้แขกไปโรงยิมบ่อยขึ้นตามแต่เวลาและโอกาสอำนวย มันก็ยังติดพันกับการซ้อมของมันไป ให้ผมเตะต่อยเป็นการขยับร่างกายตามประสา ไม่ได้ให้หักโหมจนร่างกายรับไม่ไหว แต่ผมก็หันมาทำให้มันจริงจังมากขึ้นไม่เยาะแยะเหมือนเมื่อก่อน
จากแรกๆที่เหนื่อยสายตัวแทบขาดก็เริ่มปรับตัวได้เรื่อยๆ อาจจะยังไม่ถึงขนาดวิ่งสู้ฟัดรอบโรงยิมหลายรอบเหมือนคนอื่นแต่ก็ร่างกายก็ปรับตัวมากพอที่จะยกขาเตะสูงถึงช่วงกลางตัวไอ้พี่เก่งได้ก็แล้วกัน แรกๆชอบล้อผมว่าผมจะยกขาขึ้นมั้ยบ้างล่ะ…
ยิ่งช่วงนี้เฮียแกดูจะสนุกกับการยกนวมล่อเป้าให้ผมแตะตุบตับในช่วงแวลาที่พวกเฮียแกว่างเว้นจากการซ้อมของพวกทีมชาติ
“ซ้าย...ขวา… ยกขาสูงกว่านี้ได้อีกมั้ยไอ้พุก” ผมพยายามกัดฟันยกขาแตะตามจังหวะคนพูดแต่ร่างกายยังคงเป็นอุปสรรคไม่น้อย
ไอ้เฮียเก่ง แม่ง! กูเหนื่อยแล้วเว้ย หอบแฮ่กจนลิ้นห้อยแล้วเห็นมั้ยเนี่ย แล้วไอ้โรห์ไปไหนนน มาช่วยกูก๊อน
“แฮ่ก...ไม่ไหว...แล้ว แฮ่ก เว้ยย” ผมพูดไปหอบไป กัดฟันเข่นเขี้ยว
พอเห็นผมจะไม่รอดจริงๆนั่นแหละเฮียแกถึงได้หยุด ผมถึงกับทิ้งตัวลงนั่งแผ่สามสลึงอยู่บนพื้น
“อะไรวะ แค่ล่อเป้าไม่กี่ทีก็หอบเป็นหนูตากแดด”
“เออ ให้ผมล่อเฮียบ้างมั้ยล่ะ” สะบัดเสียงตอบอย่างหงุดหงิด
“ล่อเป้าเถอะ อย่ามาล่อกูเลย กูกลัวมึงทับแบน” กัปตันชมรมคาราเต้หัวเราะลั่นเมื่อเห็นผมทำตาเขียวใส่
ไอ้เฮี้ยยยยยยย พูดผิดชีวิตเปลี่ยนมั้ยละไอ้พุก
“โรห์~” ผมรีบส่งเสียงเรียกไอ้แขกที่กำลังเดินเช็ดเหงื่อเข้ามาหา คนอะไรวะเหงื่อโซมขนาดนี้ยังจะหล่อทะลุทะลวง
“เขาห้ามนั่งตอนเพิ่งออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆนะ” เสียงทุ้มนุ่มดังพร้อมกับรอยยิ้ม
“อืม…” แต่ใครจะสนผมยืนแทบไม่ไหว
“ฮึบ…” อยู่ไอ้แขกมันก็ช้อนใต้วงแขนก่อนจะดึงตัวผมให้ลุกขึ้นยืน ถึงภายนอกผมอาจจะดูตัวใหญ่กว่ามันแต่เรื่องพละกำลังแล้วเด็กบนตราขวดซีอิ๊วอย่างผมหรือจะสู้นักกีฬาคาราเต้ทีมชาติอย่างมันได้ครับ! สุดท้ายผมก็ลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายจนได้
“เหนื่อย”
ฟาโรห์หัวเราะเบาๆ ผมรีบอ้อนมันอย่างที่ทำเป็นประจำ
“ทนอีกนิดนะ” มันบีบจมูกผมแล้วโยกไปมาเป็นเชิงมันเขี้ยว
“ก๊ะดั้ย” ผมบอกเสียงอู้อี้
นอกจากจะที่ติดสอยห้อยตามไอ้แขกไปโรงยิมแล้วเวลาอยู่คอนโดผมก็ฟิตไม่น้อยนะครับ หนูพุกคนนี้ซิทอัพลดพุงวันเว้นวันเลยนะจะบอกให้ โดยมีไอ้ฟาโรห์เป็นผู้ช่วย
“หนึ่ง...สอง...ฮึบ” ผมพยายามจะฝืนร่างกายให้ลุกขึ้นนั่งตามเสียงนับของคนที่ช่วยจับขาผมไม่ให้ขยับไปมา
“เก่งมาก...”
วันนี้ไอ้โรห์ใส่แค่กางเกงวอร์มขายาวสีดำสนิทโดยไม่ได้ใส่เสื้อ เผยให้เห็นแผ่นอกแกร่งสีน้ำตาลเนียนสวย แม่งมันเหมือนเป็นสิ่งล่อตาล่อใจที่ทำให้ผมฮึดสู้ ฝืนเกร็งหน้าท้องแล้วลุกขึ้นมา จมูกผมเกือบทิ่มหัวไหล่หนาจนอยากจะลองงับให้แสบๆคันสักทีสอง
ที
“ฮึบบบบ” ผมกลั้นใจอีกครั้งแล้วลุกขึ้นมาอย่างเร็ว ความแรงทำให้ผมสามารถอ้าปากกัดผิวเนื้อแข็งๆของมันได้พอดิบพอดี
“โอ...” ร่างสูงหนากระตุกเมื่อสัมผัสถึงคมเขี้ยวเล็กๆ
ผมถอนปากออกก่อนจะอมยิ้ม ไอ้ฟาโรห์มันเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มที่มุมปาก ก้มลงมองรอยฟันเล็กๆสีแดงจางๆบนช่วงไหล่
“กัดฉันทำไม?”
“ไม่รู้” เคยเป็นมั้ยครับที่แบบอยู่ๆก็มันเขี้ยวขึ้นมาเฉยๆ แม่งคนอะไรวะ...แค่กล้ามก็หล่อแล้วอะ… “คันฟัน”
ไอ้หล่อมันหัวเราะ “เป็นหมาเหรอไง?”
ดูมัน...เดี๋ยวนี้พูดจาไม่เพราะเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ
ผมแลบลิ้นใส่มัน หงายหลังลงไปนอนกับพื้นแล้วเกร็งหน้าท้องเพื่อยันตัวขึ้นมาใหม่ แต่ไอ้คนที่จับขามันดันยื่นหน้าเข้ามาทำให้ริมฝีปากเราทั้งสองมันสัมผัสกัน ผมสะดุ้งเล็กน้อย มองนัยน์ตาหวานย้อยด้วยใบหน้าเห่อเล็กน้อย
รอยยิ้มมุมปากของมันทำให้ผมแยกเขี้ยวแต่มันก็ยังไม่ยอมขยับหน้าออกไปราวกับท้าทายเลยได้แต่ขยับร่างกายซิทอัพเป็นจังหวะเหมือนเดิม ริมฝีปากได้รูปชนกับริมฝีปากผมทุกครั้งที่ยันร่างกายขึ้น
จุ๊บ…
จุ๊บ…
จุ๊บ…
…
แม่ง! สยิวกิ้วฉิบหาย
แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้มีแรงซิทอัพติดต่อกันได้นานกว่าปกติอีกแหนะ?...
นอกจากออกกำลังกายทั่วไปแล้ว...ผมยังมีออกกำลังกายรอบพิเศษด้วยครับ อันนี้ไม่ได้อยากได้แต่โดนไอ้แขกมันยัดเยียดครับ
“อื้อ...ไอ้โรห์” ผมพึมพำเสียงแหบเพราะยังสะลึมสะลืออยู่ รู้สึกถึงจมูกโด่งกำลังซุกไซ้ตามซอกคอและไหปลาร้า “ขอนอนก่อนนะ ง่วง” มึงจะมากวนกูทุกวันเว้นวันไม่ได้นะเว้ย
ให้ร่างกายกูได้พักผ่อนบ้าง! เอ่อ หมายถึงว่า วันก่อนผมเพิ่งจะซิทอัพมา ส่วนวันก่อนหน้านั้นผมก็ไปเข้าโรงยิม เขาบอกว่าออกกำลังกายอย่าหักโหมแต่ที่มันกำลังทำนี่ยิ่งกว่าหักโหมอีก
“ไม่อยาก ‘ออกกำลังกาย’ แล้วหรือไง?” เสียงทุ้มนุ่มพร่าลงเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นที่รดอยู่ตรงไหปลาร้าทำให้ผมขนลุกขนชัน
อยากจะพลิกตัวหนีแต่โดนอ้อมแขนแข็งแรงกักเอาไว้ ตอนนี้อยากจะนอนแต่สงสัยจะไม่ได้นอนแล้วแหงเลยอะ...ชีวิตแม่งเศร้ามาก
“ให้กูนอนไม่ได้หรือไงอะ”
“แต่ฉันอยากให้พุกแข็งแรงเพราะงั้น...” ร่างสูงใหญ่คร่อมคนที่นอนหลับอยู่ ไอร้อนผ่าวจากร่างกายแผ่ออกมา “มาออกกำลังกันเถอะ...”
“อือออ...”
บางคนอาจจะตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้าด้วยการจ๊อกกิ้งตามสวนสาธารณะแต่ทำไมการออกกำลังกายตอนเช้าตรู่ของผมถึงได้กลายเป็น…
การออกกำลังกายบนเตียงไปเสียอย่างนั้นล่ะ?
“ไอ้โรห์ กู...แฮ่ก...อา...ไม่ไหว...”
“อืมมม ขยับเร็วกว่าสิพุก”
ผมกำลังโยกตัวเองอยู่บนร่างกายสูงหนาของมัน มันเหนื่อยจนใจจะขาดอยู่แล้วแต่มือใหญ่ไม่ยอมให้ผมหยุดพักเลยสักนิด ความแข็งแกร่งร้อนผ่าวอยู่ในตัวผมจนเหงื่อซึม
“อื้ออออ” ได้แต่ร้องครางเมื่อบางสิ่งมันดันลึกเข้ามากว่าเดิม
“ทำแบบนี้จะได้ผอมเร็วขึ้นไง”
เชื่อมึงกูก็เป็นหมาแล้วไอ้แขก!
.
.
.
“เอาวะ!” ผมรวบรวมกำลังใจให้กับตัวเอง ตอนนี้หนูพุกคนนี้กำลังทำการใหญ่อีกครั้งแล้ว
ตราชั่งแบบดิจิตอลค่อยๆขยับตัวเลขเมื่อผมก้าวเท้าขึ้นไปยืนอยู่บนแท่น ผมเบิกตามองเมื่อตัวเลขสีแดงที่หยุดนิ่ง
แม่เจ้าโว้ยยยย!
หักโหมฟิตหุ่นแถบตาย โดนไอ้โรห์มันเคี่ยวกรำเกือบทุกคืน
ลดลงอีกแค่สี่ขีด!
ผีเปรตที่สุด!!
“ฮือ โรหหหห์”
“โอ๋ๆ ไหนดูสิลดไปได้เท่าไหร่” เสียงทุ้มนุ่มดังที่ข้างหูพร้อมกับแขนสีน้ำผึ้งเนียนสวยโอบไหล่กระชับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด ร่างสูงใหญ่โยกตัวนุ่มนิ่มของผมไปมาเหมือนจะปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวโรห์ช่วยพุกเอง”
ที่ไม่น่าไว้ใจสำหรับผมตอนนี้ที่สุดคือสายตาวิบวับของมันนั่นแหละ ดูชั่วร้ายชะมัด
“ไม่เอาแล้ว ไม่ลด!” ผมพูดใส่หูมัน
ฟาโรห์หัวเราะ ใบหน้าคมเข้มดูเจิดจ้าเพราะรอยยิ้ม สุดท้ายผมก็ได้แต่อมยิ้มตามมันไปอย่างห้ามไม่อยู่
“รักนะโรห์” ผมพูดพร้อมกับโอบเอวอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
ฟาโรห์วางคางลงบนกระหม่อมแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นเข้าไปอีก เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับ
“รักเหมือนกัน”
“รักมากมั้ย?”
“รักหนักมากเลยล่ะ”
หุ่นก็รุ่น Heavy Weight แล้ว...ความรักของผมยังหนักมากเช่นกัน...
- END -
สวัสดีค่า
วันนี้อาโปเอาพิเศษส่งท้ายของเรื่องนี้มาลงให้อ่านกันนะคะ ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายที่จะลงในเว็ปให้อ่านกันนะคะ ส่วนตอนพิเศษที่เหลือขออนุญาตนำไปลงในเล่มแทนค่า
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดและยังเป็นกำลังใจให้กันเสมอและยังหวังว่าเรื่องราวของหนูอ้วนๆกับพ่อยอดชายของเขายังทำให้ทุกท่านยิ้มได้เสมอเมื่อได้เปิดอ่านนะคะ
ปล. สำหรับเรื่อง รักหนักมาก จะตีพิมพ์กับสนพ. Hermit Books ค่ะ ส่วนกำหนดการออกคาดว่าน่าเป็นช่วงงานสัปดาห์หนังสือเดือนตุลาคม และหากมีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไรอาโปจะนำมาแจ้งให้ค่ะ
ปล.สอง. หลังจากจบเรื่องนี้แล้วอย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ อาโปยังมีเรื่องต่อๆไปมาให้อ่านกันน้า
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการสนับสนุนเสมอมาค่า