วาลPart
ดิ่งด่อง ดิ่งด่อง
“เอ๊ะใครมานะ”
“วาลมีใครมากดกริ่งหน้าบ้านอ่ะครับ”
“ไม่รู้ครับ เดียวผมออกไปดูเอง”
“ครับ” ใครกันนะที่มากดกริ่งที่หน้าบ้าน บ้านผมเองก็ไม่ค่อยมีคนมาด้วยสิ นอกจากคนที่อยู่ในห้องน้ำล้างหน้าล้างตาก่อนจะมากินข้าวกัน ส่วนน้องวินนั้นนั่งเล่นที่ห้องรับแขกกันหมีที่พี่ชาร์ปซื้อให้ ไม่รุ้ไปได้มาตอนไหน ซื้อให้เมื่อไร เฮ้อ สิ้นเปลืองจริง
“ครับๆ มาแล้วครับ อ่ะ ไม่ทราบว่ามาหาใครครับ”
“มีหาชาร์ปนะ”
“มาหาคุณชาร์ปหรือครับ”
“ใช่ ฉันเห็นรถชาร์ปจอดอยู่”
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นเช่นเข้ามาข้างในก่อนนะครับ”
“ขอบคุณ”
“เชิญครับ”
“ใครมาอ่ะ วะ อะ คะ คุณวิ”
“ว่าไงคะพี่ชาร์ป รีบออกมาเพราะมาหาใคร”
“เอ่อ คือว่า”
“ไม่ต้องมาโกหกพี่เลยนะคะ บอกมาว่ามาหาใคร”
“น้องวินครับเดียวเราเข้าไปในครัวกันนะครับ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ด้วยกันตรงนี้นี่แหละคะ จะได้รู้กันไปเลย”
“มันจะดีหรือครับ”
“เอาเถอะวาล มาถึงขนาดนี่แล้ว คุณวิครับนี่วาลครับ”
“รู้แล้วค่ะ แต่อยู่รู้ว่าพี่ชาร์ปมาหาเขาทำไม”
“ผมมาหาคนรักของผมไม่ได้หรือครับ”
“คนรัก”
“อะ เรา ไม่ ชะ”
“ครับคนรักของผม” ผมยังไม่ทันจะได้ปฏิเสธอะไรออกไป คนหัวร้อนก็ตอบออกไปเสียก่อน
“เต็มปากเต็มคำมากเลยนะคะ ที่รีบออกมาก็เพราะเหตุนี้สินะคะ”
“ใช่ครับ”
“เอ่อ คือว่า”
“ค่ะ มีอะไรค่ะ”
“คือว่า”
“ไม่ต้องเกร็งหรอกค่ะ น้องวาล ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
“เอ๊ะ คุณวิรู้จักผมด้วยหรือครับ”
“เฮ้อ เลิกเล่นดีกว่า เริ่มไม่สนุกแล้ว พี่อะ รู้จักเราดีเลยละ แต่มันก็ผ่านมานาน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ตั้งแต่พี่ชาร์ปประกาศแต่งงาน”
“ครับ ผมจำไม่ได้เลย” จะจำได้ยังไงละครับ ญาติทางฝั่งพี่ชาร์ปผมเองรู้จักไม่กี่คนเอง ที่รู้จักก็แค่พ่อแม่พี่ชาร์ปและคนใช้ที่บ้านแค่นั้นเอง
“ก็คงจะเป็นแบบนั้นละนะ เพราะพี่เองก็ได้ยินแค่เรื่องของเราจากพี่ชาร์ปเล่า และได้ดูรูป แล้วก็ตามมาดูว่าคนที่จะมาเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของครอบครัวธนจันทรเป็นอย่างไร เป็นคนดีไหม และจะมาหลอกลวงหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูดูก็เป็นคนดีพอตัว นิสัยน่ารัก แต่พี่ชาร์ปนี่สิไม่รักดีทิ้งหนูได้ลงคอ น่าตีจริงๆนะ”
“อ้าว ผมผิดหรือครับ”
“ใช่/ใช่ครับ” สองเสียงประสานกันจนคนที่นั่งข้างตัวสะดุ้งโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีเสียงเล็กๆเร้นรอดออกมาก่อน
“แม่ครับ น้องวินหิวแล้ว ตอนไหนน้องวินจะได้กินครับ” และเสียงนั้นก็คือเสียงลูกชายของผมครับ ไม่รู้ไปรอในครัวตั้งแต่เมื่อไร
“เอ่อ แม่ขอโทษครับ แม่ลืมไปเลย”
“หนูวาลค่ะ เด็กนั้นลูกใครค่ะ ทำไมถึงเรียกวาลว่าแม่ละคะ”
“เอ่อ คือ คือว่า”
“ลูกชายของวาลครับคุณวิ” ผมกำลังจะตอบแต่ก็อึกอักที่จะตอบ จนพี่ชาร์ปตอบออกมา
“หะ ลูกชาย ลูกชายบุญธรรมหรือ”
“มะ ไม่ใช่ครับ ลูกชายวาลเองครับ”
“ลูกชาย!” คุณวิถึงกับตาโต และช็อกไปอีกเมื่อพี่ชาร์ปเป็นคนบอกรายละเอียด
“ครับ ลูกชายที่วาลคลอดออกมาเองครับ และเป็นลูกชายของผมครับ ลูกชายโดยสายเลือดก่อนที่ผมจะทำผิดต่อวาล ที่ทำไปเพราะผมคิดว่าความคิดอันบ้าดีเดือดของผมที่อย่างมีลูกแต่มันดันเป็นความผิดพลาดที่ทำให้ผมเสียคนที่ผมรักไป แต่ตอนนี้ผมก็ตามหาเขาคนนั้นจนเจอ เจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ และคนนั้นคือวาลครับ”
“หนูวาล อย่ารีบให้อภัยพี่ชาร์ปง่ายๆนะ เล่นตัวไปก่อนนะลูก พี่จะเป็นกำลังเสริมให้หนูเอง” จากที่คุณวินั่งฟังพี่ชาร์ปเล่าก็หันมากระซิบบอกผมว่าอย่าให้อภัยง่ายๆ และจะเป็นแบล็คอัพเสริมทัพให้ผมด้วย ดีใจจังเลยคุณวิเหมือนแม่ของผมอีกคนเลยครับ
“เอ่อ ครับ”
“กระซิบอะไรกันครับ”
“ไม่นิค่ะ ไม่คุยกับพี่ชาร์ปแล้ว หนูวาลค่ะลูกหนูวาลชื่ออะไรลูก”
“น้องวินครับ เด็กชายชาวินครับ”
“ชื่อยังคล้องจองกันด้วย น้องวินครับ มาหายย่าหน่อยครับ”
“น้องวินครับ มานิครับ ยกมือไหวคุณย่าวิก่อนเร็วครับ”
“สวัสดีครับคุณย่าวิคนสวย”
“ว้าย ตายแล้ว เด็กอะไรพูดจาน่ารัก อย่างนี้ต้องมีรางวัลให้นะคะ”
“คริคริ น้องวินขอผักเยอะๆนะครับ”
“อร้ายยยย น่ารักไปไหนลูก ย่าอดใจไม่ไหวแล้ว มาให้ย่ากอดหน่อยมา”
“ไปสิครับ”
“ครับผม” แล้วน้องวินก็เดินไปหาคุณวิอย่างตื่นเต้น
“ว้าย ตายแล้ว ยิ่งดูใกล้ๆยิ่งเหมือนพ่อ ผิวขาวได้แม่นะ ดูสิดู”
“คุณวิบอกให้ใครดูครับ” พี่ชาร์ปถาม
“เอ่อ นั้นสินะ”
“แม่ครับน้องวินหิวแล้ว อยากกินข้าวแล้วครับ” แล้วน้องวินก็พูดแทรกขึ้นมาเพราะความหิว
“เอ่อ ออ ไปครับ คุณอยู่ทานมื้อค่ำด้วยกันนะครับ”
“ได้หรือจ๊ะ” คุณวิถามเพื่อความแน่ใจ
“ได้ครับ แต่อาหารอาจจะไม่ถูกปากนะครับ แม่แต่ของพื้น ๆ ที่ทำกินในครอบครัวครับ”
“อย่าเกรงใจเลย หนูวาล พี่เป็นคนกินง่าย สบายๆ”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นเชิญที่โต๊ะทานข้าวด้านนี้เลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ น่ารักแล้วยังมารยาทดีด้วย พี่ปลื้ม”
“แหะ ๆ” ผมจะถือว่าเป็นคำชมนะครับ
“เชิญนั่งเลยครับ” แล้วพี่ชาร์ปก็ชวนเชิญทุกคนให้นั่งลง คงคิดว่าเป็นบ้านตัวเองละสิ
“นี่พี่ชาร์ป ที่นี่บ้านหนูวาลนะคนที่จะเชิญควรเป็นหนูวาลนะ ไม่ใช่พี่ชาร์ป”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละครับ”
“หรือคะ” คุณวิก็มองบนแบบติดตลก น่ารักจัง
“เชิญนั่งเถอะครับ อย่างทะเลาะกันเลยครับ เดียวจะไม่ได้กินข้าวกันพอดี”
“โอะ จริงด้วยคะ แต่ดูอาหารแล้ว healthy จังเลยนะคะ พี่ชาร์ปจะกินได้ไหมคะนิ”
“เอ่อ คือว่า...”
“ผมมากินเป็นประจำ กินได้อยู่แล้วครับ”
“แล้วทำไมมีแต่ผักละคะน้องวาล”
“คือว่า...”
“ของโปรดน้องวินเขานะครับ” แย่งตอบหมดเลย คนบ้า งอนแล้ว
“ของน้องวินหมดเลยเหรอครับ กินผักเก่งจังเลยนะครับ”
“ใช่ครับ น้องวินชอบกินผักมากเลย เดียวน้องวินจะกินให้ดูนะครับ” แล้วเจ้าตัวก็ตักผัดผักคำโตเข้าปาก
“เก่งจริง ๆ หลานคุณย่า หายากนะคะเด็กที่ชอบกินผักแบบนี้”
“ที่จริงก็อย่าให้กินเนื้อบ้างแหละครับกลัวน้องวินจะได้สารอาหารไม่ครบ แต่น้องดันไม่ชอบอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เท่าไรครับ ทุกมื้อเลยมีแต่ผัก ผลไม้แล้วก็ปลา ไข่ ที่ให้โปรดตีนเท่านี้แหละครับ”
“กินเพื่อสุขภาพแต่เด็กเลยนะคะ เก่งจริง ๆ เอาละไม่ให้เป็นการเสียเวลาถ้าอย่างนั้นเรามากินข้าวกันเถอะคะ”
“จริงด้วยครับ เดียวผมตักข้าวให้นะครับ”
“ขอบคุณคะน้องวาล” หลังจากนั้นเราทั้งสี่คนก็กินข้าวกันที่โต๊ะและมีอีกหนึ่งตัวที่นอนอยู่ในบ้านเล็กนอกบ้าน
“อาหารอร่อยมากเลย ไม่คิดเลยนะว่าวาลจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้”
“ขอบคุณครับ แต่ก็มีแต่ผักทั้งนั้นเลย เพราะน้องวินกินเนื้อสัตย์ไม่ค่อยได้ครับ”
“อ้าว จริงหรือค่ะ ตายแล้วพี่ก็ว่าอยุ่ว่าทำไมถึงมีแต่ผัก แต่ก็ดีแล้วละค่ะ น้องจะได้แข็งแรงไม่เป็นโรคง่าย”
“ครับ ผมก็เสริมโปรตีนให้น้องตลอดครับ”
“ดีมากเลยคะ นี่ก็มืดมากแล้วถ้ายังไงพี่กลับก่อนนะ ว่างๆเจอกันนะคะน้องวาล”
“ครับผมแล้วเจอกันใหม่ครับ” แล้วผมก็เดินไปส่งคุณพี่วิที่หน้าบ้านโดยมีรถคันนึงจอดรออยู่ที่หน้าบ้าน
“ไปแล้วนะน้องวาล ฝากความคิดถึงถึงน้องวินด้วยนะ ว่างๆก็พาน้องวินไปเที่ยวหาพี่ก็ได้นะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ รบกวนเปล่าๆนะครับ”
“ไม่ได้รบกวนอะไรเลย คนกันเอง ต้องไปนะคะ นี่คือคำสั่ง ใอย่างนั้นโปรเจคใหม่ที่พี่ชาร์ปทำไหว้พี่จะยุติมันเลยละ” ถึงกับขู่กันแบบนี้จะให้ผมทำอย่างไรได้ละครับนอกจาก
“ก็ได้ครับ ถ้ามันจะไม่เป็นการรบกวนพี่วิ”
“ดีมากค่ะ พี่ไปก่อนละนะคะ ไว้เจอกันใหม่นะ คราวหน้าจะมากินฝีมือน้องวาลอีก พี่เริ่มติดใจรสมือน้องวาลแล้วสิ”
“ได้เสมอครับ แต่ก็แค่อาหารบ้านๆก็แค่นั้นเองครับ”
“ถึงจะอาหารบ้านๆ แต่รสชาติระดับภัตตาคารเลยนะคะ งั้นพี่ไปละ บะบายคะ”
“ครับผม สวัสดีครับ” แล้วคุณพี่วิก็เดินไปที่รถที่จอดอยู่ ไม่นานรถก็เคลื่อนตัวออกไป แล้วผมก็ปิดบ้านเดินกลับเข้ามาในบ้านเพื่อเก็บจานชามเพื่อที่จะเอาไปล้าง แต่พอเข้ามาก็เห็นว่าพ่อลูกเขากำลังช่วยกันล้างจานอย่างขะมักเขม้นหัวเราะเอิ้กอ้ากสนุกสนาน คิดแล้วก็มีความสุขจนหลุดยิ้มออกมาจนได้ หรือว่าผมจะย้อมใจอ่อนให้พี่ชาร์ปดีนะ เพราะเห็นลูกมีความสุขผมก็มีความสุขกับลูกไปด้วย แต่ความผิดที่พี่ชาร์ปทำมันก็ไม่น่าให้อภัยเอาเสียเลย เฮ้อผมควรจะทำยังไงดีครับ คิดแล้วปวดหัวจัง
น้องวินPart
“ป๊ะป๊าแกล้องน้องวินอีกแล้ว” ป๊ะป๊าขี้แกล้ง ไม่น่ารักเลย
“5555 ก็ลูกชายป๊ะป๊าน่าแกล้งนิครับ”
“งือ ๆ ๆ ๆ ๆ ป๊ะป๊าอะ ไม่คุยด้วยแล้ว เดียวไม่ช่วยทำเลยนิ”
“โอเคครับ ไม่แกล้งแล้วครับ เดียวล้างไม่เสร็จ พอล้างไม่เสร็จคุณลูกจะงอนเอา”
“ดีมากครับ ทำไปเลย น้องวินจะล้างแล้ว เดียวแม่ก็จะเข้ามาแล้วก็จะชมว่าเราสองคนเก่ง ช่วยทำงาน คริคริ เป็นไงละความคิดน้องวิน”
“เก่งมากครับครับ หึหึ” แล้วน้องวินกับป๊ะป๊าก็ช่วยกันล้างจานกันต่อครับ
ตุ๊บ
“ป๊ะป๊า เสียงอะไรหล่นอะครับ”
“น้องวินอยู่นี่นะเดียวป๊ามา”
“ครับ” แล้วป๊ะป๊าก็รีบวิ่งออกไปดูว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้คือเสียงอะไร
“วาล วาลเป็นอะไร ทำไมมานอนตรงนี้” น้องวินได้ยินเสียงป๊ะป๊าเรียกแม่วาลก็รีบวิ่งมาดูด้วยความตกตื่นใจ
“แม่ครับ แม่วาล ป๊ะป๊า แม่เป็นอะไรครับ”
“ป๊าก็ไม่รู้ครับ เสียงตุ๊บเมื่อกี้ก็คงเป็นแม่วาลที่ล้มละมั่งครับ น้องวินไปหยิบโทรศัพท์ให้ป๊าหน่อยครับ”
“ครับ” แล้วผมก็รีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ให้ป๊ะป๊าโดยมีเสียงป๊ะป๊าร้องเรียกแม่อยู่ตลอดเวลาเลยครับ
“วาลตื่นสิวาล วาลครับได้ยินพี่ไหม วาล วาล วาลตื่นครับ อย่าเป็นแบบนี่สิครับ” น้องวินได้ยินก็มีน้ำตาไหลออกมากลัวว่าแม่ครับจะเป็นอะไรไป น้องวินกลัวมากเลยครับ กลัวมาจนวิ่งไม่ทันมอง สะดุดขาตัวเองล้มลงไป
“ตุบ โอ้ย ฮืออออออ แม่ครับ น้องวินเจ็บ”
“น้องวินครับไม่เป็นอะไรนะครับ เดียวป๊ะป๊าโทรเรียกรถพยาบาลก่อนนะครับ” ในหัวน้องวินตอนนี้ไม่มีอะไรเลยครับมันขาวโพลนไปหมดแล้วครับ ได้แต่ร้องไห้ก็ว่าแม่จะไม่ตื่น กลัวว่าแม่จะไม่กลับมาอยู่กับน้องวิน
#############################################################
มาครบ 100% นะครับ มาต่อจนครบจนได้
ไม่มีเวลาเลย ทำงานทุกวัน วันหยุดก็นอนทั้งวัน(ไรท์ขี้เกียจเอาง่ายๆ) หายไปนานมากเลยครับ แต่ไม่ทิ้งแน่นอนครับ ใกล้จบแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมีตอนพิเศษไหม คงน่าจะมี อิอิ รอหน่อยนะครับ
คุณวิมาดีมาร้ายก็น่าจะรู้แล้วละนะครับ