My SON ฝากรักลูกชายตัวน้อย (BL Mpreg) - My SON (My Heart Coming Soon)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My SON ฝากรักลูกชายตัวน้อย (BL Mpreg) - My SON (My Heart Coming Soon)  (อ่าน 64998 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีใครเอาข้าวไปให้ไข่เจียวกินบ้างยัง อย่าให้ไข่เจียวตายเจียวนะ เด๋วเจอข้อหาทารุณกรรมสุนัข  :mew5:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
วาลต้องหายนะ :katai1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1


“หนึ่ง สอง ซั่ม เอ้า สาดเลย” เสียงเด็กน้อยนามว่าวาลเล่นสาดน้ำอยู่ที่หน้าบ้านอย่างสนุกสนานกับคนเป็นพ่อของตัวเอง วาทญาได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นลูกชายและสามีอันเป็นที่รักของเธอเล่นน้ำกันแบบครอบครัว เล่นแบบที่ไม่มีการกรีดกันหรือการบังคับอะไร ถ้าจะย้อนไปสมัยเมื่อเธอสาวๆนั้นก็คงไม่อยากจะคิดย้อนไปเพราะมันช่างขมขื่นเสียเหลือเกิน เทศกาลไหนไหนก็ได้แต่ดูอยู่บ้านเพราะพ่อกับแม่เธอไม่ให้ออกไปเล่นที่ไหน จนมาถึงช่วงวัยรุ่น เข้ามหา’ลัยนั้นแหละถึงได้รู้ว่าโลกภายนอกเขาไปถึงไหนกันแล้ว และเสียงหัวเราะที่ได้ยินอยู่นี้ก็เป็นความสุขของเธออีกเช่นกันที่เลือก วายุพัฒน์ ชายอันเป็นที่รัก เขาทั้งสองรักและแต่งงานกันในวันสำคัญของไทยอย่างวันสงกรานต์ ฟังไม่ผิดหรอกคะ เราสองคนแต่งงานกันในวันสงกรานต์จริง เพราะผู้ใหญ่ทางฝั่งวาทญาหาฤกษ์งานแต่งได้วันที่ 13 เม.ย. 25XX หลังจากนั้นสองปีเราทั้งสองการได้ให้กำเนิดเด็กชายตัวน้อยนามว่า วาฤทธิ์ หรือน้องวาล หลานชายคนแรกของตระกูล แต่ก็เป็นหลานชั่งของตระกูลด้วยเหมือนกันเมื่อพ่อกับแม่ของเธอนั้นอยากได้หลานสาวมากกว่าหลานชาย แล้วเราสองคนก็ต้องโดนไล่ออกจากบ้านมาซื้อบ้านเป็นของตัวเองด้วยเงินเก็บอันน้อยนิดจากการทำงานของเราทั้งสอง เพื่อจะสร้างอนาคตใหม่ของครอบครัว และเป็นที่พักอาศัยใหม่ของเจ้าลูกชายคนนี้ด้วย วายุมีนิสัยเหมือนเด็ก แต่เวลาทำงานความเป็นเด็กในตัวก็จะถึงปิดบังเอาไว้ไม่ให้แสดงออกมา ส่วนฉันวาทแม่ของน้องวาลก็ทำงานเป็นแม่บ้านเฝ้าลูก ส่งลูกไปโรงเรียน หลังจากแต่งงานฉันก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย ทำไงได้ละเนอะก็พ่อเจ้าวาลบอกว่าไม่อยากให้เหนื่อยแค่เลี้ยงเจ้าวาลก็เหนื่อยแย่แล้ว แต่จะบอกให้นะวาลเลี้ยงงานมาก มากแบบกอไก่ล้านตัวเลยคะ ว่านอนสอนไง ไม่งอแง นิสัยน่ารัก เป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะกับเด็กผู้ชาย คิดแล้วกลุ้มใจ โตมาลูกชายฉันคงต้องได้สามีเป็นแน่



“แม่ครับ มาเล่นน้ำกันครับ”



“ไม่ละจ๊ะ ตามสบายเลยนะทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ แม่ทำกับข้าวยังไม่เสร็จเลย”



“แป๊บเดียวเองแม่ เดียวค่อยทำก็ได้”



“เจ้าลูกคนนี้นิ”



“ปล่อยแม่เขาเถอะลูก ไปเราไปสาดน้ำคนอื่นกัน”



“ไปๆ สาดๆ” เสียงหัวเราะของสองพ่อลูกนั้น ทำให้คนเป็นแม่ยิ้มออกมาได้อีกครั้งอย่างมีความสุข นี้สินะครอบครัวที่อบอุ่น







“แม่ครับ มาเล่นน้ำกันนะ”



“ไม่เอาครับ แม่ยังทำกับข้าวไม่เสร็จเลย น้องวินเล่นไปก่อนนะ เล่นเสร็จจะได้ไปวัดกันนะครับ”



“ก็ได้ครับ น้องวินเล่นเสร็จแล้วเดียวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”



“ครับ อย่าวิ่งนะเดียวล้มนะ”



“ครับผม” สิ้นเสียงน้องวินผมก็มาทำอาหารต่อครับ วันนี้ก็จะไปสรงน้ำพระที่วัด แล้วก็ถือไปทำบุญด้วย  และก็ไปสรงน้ำพ่อกับแม่ของผมอีกที นี่ก็ห้าปีแล้วสินะที่พ่อกับแม่จากไปไม่มีวันกลับ แต่ผมก็ไปหาท่านตลอดในเทศกาลสำคัญๆทางศาสนา หรือวันสำคัญของไทยเอง ไปทีไรน้องวินเป็นต้องตื่นเต้นดีใจทุกที่ไม่รู้ทำไม แต่ก็ดีแล้วละครับ คิดอะไรเพลินๆหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าก็เกือบไหม้



“ตายแล้ว เกือบไหม้เลยไหมละนั้น”



“แม่ครับ น้องวินอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ว่าหิวจัง น้องวินกินข้าวก่อนออกไปได้ไหมครับ”



“ได้ครับ แม่ครับเตรียมไว้ให้แล้วครับ” เล่นเสร็จก็บ่นหิวเลยนะครับลูกคนนี้



“เย้ รักแม่ที่สุดเลย”



“ครับผม ไหนมาให้แม่ครับหอมหน่อยสิ ฟอด ชื่นใจจังเลย”



“คริคริ แน่นอนครับ” แล้วน้องวินก็ทานอาหารไปครับ ผมก็ไปจัดเตรียมอาหารไว้สำหรับทำบุญ และเตรียมของเพื่อที่จะเอาไปสรงน้ำพระและสรงน้ำธาตุของพ่อและแม่ด้วย



“คนเยอะจังเลยครับแม่”



“ก็วันนี้วันสงกรานต์ยังไงละครับ เป็นวันที่น้องวินรอคอยอยู่ไม่ใช่หรือครับ”



“ใช่แล้ว น้องวินรอวันสงกรานต์ตลอดเลย เพราะน้องวินจะได้เล่นสาดน้ำกับแม่ แล้วก็สาดคนอื่น”



“แล้วสาดโดนใครไหมละครับ”



“แม่อะ ก็ไม่โดนใครเลย แฮะๆ”



“ปะ เราเข้าไปในวัดดีกว่านะครับ เดียวไม่ทันพระสวดนะครับ”



“ครับผม”



หลังจากฟังพระสวดมนต์ รับศีลรับพรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลงจากศาลาผมก็พาน้องวินมาสรงน้ำพระครับ น้องวินดีใจใหญ่ของทำเองบ้างละหัวเราะคึกคักเหมือนมาเล่นสวนสนุกยังไงยังนั้น ต่อไปผมกับน้องวินก็เดินไปที่ธาตุของพ่อกับแม่เพื่อมาสรงน้ำท่านทั้งสองครับ



“พ่อครับ แม่ครับ วาลพาน้องวินมาสรงน้ำให้นะครับ”



“คุณตา คุณยาย น้องวินมาอาบน้ำให้นะครับ” แล้วเราสองแม่ลูกก็สรงน้ำที่ธาตุ และช่วยกันทำความสะอาดรอบๆธาตุของพ่อและแม่ น้องวินก็ช่วยด้วยถึงจะช่วยได้ไม่มากแต่ก็ทำด้วยใจ หลังจากทำความสะอาดรอบธาตุแล้วเราสองแม่ลูกก็ลากลับไปบ้าน เพราะตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว แดดแรงด้วยอยู่นานเดียวน้องวินจะไม่สบายเอาได้



“แม่ครับน้องวินหิวแล้ว” หลังจากที่กลับจากวัด เจ้าลูกชายก็บ่นหิวตลอด โดนสาดน้ำบางแต่ก็ไม่ได้โดนมากเพราะบอกว่าเดียวเด็กไม่สบาย แต่น้องวินนี้ดี๊ด๊าใหญ่เลยครับ จะได้เล่นน้ำนี้นะ วันนี้เด็กๆรอคอย



“ครับๆ เสร็จแล้วครับ ลงมือทานได้เลย”



“เย้ๆ รักแม่ที่สุดเลย” หลังจากนั้นก็พากันกินข้าวอิ่มหนำสำราญกันไป แล้วก็เป็นดั่งคาด หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มปิดลง แล้วเราสองแม่ลูกก็หาที่หลับนอนกันครับ ตื่นมาก็คงพาน้องไปเล่นน้ำที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้านนี้แหละครับ คงไม่ไปไหนไกล เดียวหลงจะเป็นเรื่องเอาได้ ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ



“แม่ครับ ตื่นๆๆๆๆ”



“ครับผม ตื่นแล้วครับ ว่าไงครับ”



“แม่เห็นปืนฉีดน้ำลายพี่โดเรม่อนน้องวินไหม”



“ปืนฉีดน้ำเหรอ ก็อยู่ที่ห้องเก็บของไงครับ”



“น้องวินไปหาแล้วไม่เจอเลย”



“เหรอครับ เดียวแม่ครับไปดูให้นะ” ลุกเร็วไปหน่อยหน้ามืดเลยครับ นั่งสักพักแล้วก็ลุกไปหาปืนให้เจ้าลูกชาย



“นี่ไงครับ ใครเอามาซ่อนไว้ตรงนี้ละครับ” เจอแล้วครับ อยู่ในกะละมังซักผ้า



“แหะ แหะ น้องวินเอามาไว้เอง”



“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย”



“ก็น้องวินไม่ได้หาตรงนี้อะ แม่ไม่งอนน้องวินสิ”



“ไม่งอนครับแต่ต่อไปน้องวินต้องหาให้ดีดี หาให้ทั่วนะครับ”



“ครับผม”



“ไปเตรียมตัวกัน วันนี้แม่ครับจะพาไปเล่นน้ำ ไปเร็ว”



“เย้ รักแม่ที่สู๊ดเลย ไปเตรียมตัว ปืนพร้อม เสื้อพร้อม น้องวินพร้อมแล้ว”



“พร้อมแล้วก็รอแม่ครับก่อนนะครับ เดียวแม่ไปล้างหน้าเปลี่ยนชุดก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดเลยครับ เอาละเรียบร้อย



“พร้อมหรือยังครับ”



“พร้อมแล้วครับ”



“อย่างนั้น ไปกันเลย”



“เย้ เย้ ไปกันเลย”









20ปีต่อมา



“วินจะพาเราไปไหนอะ”



“เดียวก็รู้เองแหละ วินไม่พาพีไปตากแดดหรอกน่า”



“ให้มันจริงเถอะ พียิ่งกลัวดำอยู่ สงกรานต์ที่ไร ถ้าพีไม่อยู่บ้านก็ไปเที่ยวต่างประเทศเลย”



“ครับ ครับ ใกล้ถึงแล้วครับ”



“ให้มันจริง นี้บอกใกล้ถึงมาสิบรอบละจะถึงจริงๆยัง”



“จะถึงแล้วครับ”



“ที่นี้ที่ไหนอะวิน”



“บ้านแม่วินเอง”



“ฮึ บ้านแม่วิน”



“ใช่ครับ”



“แต่วินบอกว่าแม่วินเสียไปแล้วนิ”



“ก็ใช่ครับ แต่ก่อนแม่เสีย แม่บอกให้เอาอัฐิมาไว้ที่บ้านหลังนี้



“อ้อ แบบนี้นี่เอง”



“วันนี้เราจะมาสรงน้ำอัฐิแม่ของวินกัน”



“วินเสียใจไหมที่แม่เสียไปเร็วขนาดนี้”



“ถามว่าเสียใจไหมเหรอ เสียใจมาก เรากินไม่ได้ นอนไม่หลับ ป๊าต้องค่อยปลอบตลอดเลย นอนทีไรก็เอาแต่เพ้อถึงแม่ตลอดเลย เราเราโดตมาก็มีแม่นี้แหละที่อยู่ข้างเราเสมอ”



“วินครับ พี่ขอโทษนะที่เอาแต่ใจโดยไม่รู้เลยว่าวินเศร้าแค่ไหน”



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงแม่จะไม่อยู่แต่วินยังมีป๊าและมีพีอยู่นะครับ ไม่เอาไม่ร้องสิครับ”



“ก็ พี่เสียใจนิ อึก วินคงรักแม่มากเลยสินะ”



“คนเรามีเกิดก็ต้องมีเจ็บและสักวันก็ต้องตายจากกันไปแหละครับ ไม่ร้องนะครับ”



“อือ ไม่ร้องก็ได้”



“ไปครับ ถึงแล้ว”



“บ้านสวยจัง”



“นี้เป็นบ้านคุณตาคุณยายของเราเอง ส่วนต้นไม้เรากับแม่ช่วยกันปลูก แม่ชอบต้นไม้ เพราะต้นไม้ทำให้ใจเราสงบ แม่ชอบมาก วันว่างแม่ก็จะมานั่งเล่นที่หน้าบ้าน รอเรากลับจากโรงเรียน ถึงแม่จะคืนดีกับป๊าแต่แม่ก็ไม่ขอย้ายไปอยู่บ้านป๊านะ แม่ชอบที่นี้เพราะที่นี้คือบ้านของแม่ และแม่ก็อยู่ที่นี้จะถึงวาระสุดท้ายของท่าน”



“อึก วินเข้มแข็ง มาเลย พีฟังพียังรู้สึกเศร้าเลย”



“ไม่เอาครับไม่ร้องนะ ปะ ไม่หาแม่กัน”



“อือ”



หลังจากที่จอดรถแล้ว ผมและพีก็เดินเข้ามาในบ้าน แล้วผมก็พาพีขึ้นไปยังห้องพระเพื่อที่จะได้ทำการสรงน้ำอัฐิของแม่ คุณตา คุณยาย ของผม ผมได้เตรียมน้ำอบไทยกลิ่นหอมที่คุณแม่และคุณยายชอบมาด้วย ส่วนคุณตานั้นต้องเป็นน้ำอบกลิ่นกลางๆไม่ฉุนมากหรือทำเป็นน้ำผสมแป้งให้คุณตาก็ได้ คุณแม่เคยบอกมาครับ หลังจากที่เราสองคนสรงน้ำอัฐิแม่ คุณยาย คุณตา เสร็จแล้ว ผมและพี่ก็กลับไปที่บ้านหลังใหญ่เพื่อไปสรงน้ำคุณป๊า ที่คุณป๊าไม่มาด้วยท่านกลัวว่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะคุณป๊ารักคุณแม่มาก แต่ท่านต้องเข้มแข็งเพื่อที่จะผ่านวันร้ายๆอันแสนเศร้านั้น



สรงน้ำคุณป๊าเสร็จก็ถึงเวลาไปเล่นน้ำครับ ก่อนที่จะไปเล่นน้ำผมและพีก็ไม่ลืมที่จะไปสรงน้ำพ่อแม่ของพีก่อนไปเล่นน้ำครับ สรงน้ำท่านทั้งสองเสร็จผมก็ขอท่านทั้งสองเพื่อพาพีไปเล่นน้ำกันครับ โดยเราสองคนจะไปเล่นน้ำกันที่เชียงใหม่ครับ ไปละนะครับ สวัสดีวันสงกรานต์นะครับ









#########################################################

มาต่อตอนพิเศษวันสงกรานต์ให้ไปอ่านให้คลายความคิดถึงกันนะครับ

ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ไทย

สวัสดีวันสงกรานต์นะครับ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
สรุปคือวาลเสียไปก่อนเหรอคะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่ยอม เรื่องนี้จะจบแบบนี้ไม่ได้   :ling1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ขอบคุณ ทุกรีดท่านที่ยังรอไรท์นะครับ ขออภัยที่ดองนานไปหน่อย แต่ตอนนี้ก็จะมาลงให้ได้อ่านกันเรื่อยๆนะครับ
ใครที่สงสัยว่าวาลจะจากไปจริงๆนั้น อันนี้ไรท์ก็ยังตอบไม่ได้ เพราะที่ลงเป็นแค่ตอนพี่เศษ หรืออาจจะจริงตามพล็อตเรื่องที่เคยวางไว้ แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งทุกคนครับ รีดทุกคนก็อย่าทิ้งไรท์นะครับ

 
:katai4:  :mew2: :katai4: :mew3: :katai4: :mew4: :katai4:

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
หลังจากที่ผม น้องวิน พี่ชาร์ปกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ผมก็ตัดสินใจว่าจะเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ที่ผมตัดสินใจว่าจะผ่าตัดนั้นไม่ใช่เพราะใคร แต่เพราะเจ้าชายตัวน้อยของผม ถึงจะมีความเสี่ยงที่ผมจะเดินไม่ได้เพราะเนื้องอกกดทับเส้นประสาทไปบ้างส่วนที่หมอได้อธิบายให้ฟัง และการดำรงชีวิตหลังการผ่าตัด ถ้าผ่านไปได้ด้วยดีผมก็มีชีวิตต่อไปได้แต่ต้องทำกายภาพบำบัดอีกนาน แต่ถ้าผมไม่ผ่าเนื้องอกอาจจะแปลสภาพเป็นเนื้อร้ายและกลายเป็นมะเร็งได้ ผมไม่อยากทรมานจากการต้องมานั่งทำครีโม กินยาเป็นกำๆ และผมก็ตัดสินใจจะผ่าเอามันออกก่อนอะไรอะไรจะสายเกินไป



“วันนี้นอนวินมาความสุขมาเลย น้องวินมีพ่อแล้ว น้องวินดีใจจังเลย”



“ถามป๊ะป๊ายังว่าจะรับเราเป็นลูกเขาหรือเปล่า”



“ป๊ะป๊าชาร์ปครับ ป๊ะป๊าชาร์ปจะรับน้องวินเป็นลูกไหมครับ”



“รับครับ”



“ปฏิเสธก็ได้มั่งครับ”



“หึ หึ”



“เห็นไหมแม่ ป๊ะป๊ารับน้องวินเป็นลูกแล้ว”



“น่ารักขนาดนี้ไม่รับก็บ้าแล้วครับ” หัวเราะเฮฮากันใหญ่เลยสองพ่อลูกคู่นี้



“แล้วแม่น้องวินละครับจะรับพี่ชาร์ปคนนี้เป็นสามีไหมครับ”



“รับเลย รับเลย รับเลย”



“ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะเจ้าตัวแสบ”



“ว่าไงครับ จะรับรักพี่อีกสักครั้งได้ไหมครับ”



“ฮืม ขอคิดดูก่อนนะครับ”



“แบบนี้ก็แสดงว่าป๊ะป๊าโดนหักอกใช่ไหมครับ”



“เสียใจจัง”



“พอเลยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้”



“ก็น้องวินเด็กอยู่นิครับ”



“ครับเด็กน้อย เดือนหน้าก็จะเข้าป.1แล้วนะเรา แม่ยังหาโรงเรียนให้ไม่ได้เลย”



“ยังหาไม่ได้เหรอวาล เอาแบบนี้ไหม พี่พอจะมีเพื่อนที่รู้จัก เขาเป็นครูสอนโรงเรียนประถมเอกชนน่ะ”



“วาลคงไม่มีเงินพอจ่ายหรอกครับ ขอเป็นรัฐบาลได้ไหมครับ”



“พี่จ่ายเอง”



“ได้ไงครับ”



“ได้สิก็เราเป็นครอบครัวเดียวกันนิ ใช่ไหมน้องวิน”



“คริคริ ใช่ครับผม”



“เอ่อ แต่ว่า”



“ไม่มีแต่ครับ เพื่อนอนาคตของน้องวิน ลูกของเราสองคนไงครับ และเพื่อไถ่โทษที่พี่ไม่เชื่อใจวาล”



“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ” หลังจากนั้นก็จบเรื่องของน้องวิน เราทั้งสามก็มาคุยกันเรื่องต่างๆพอหอมปากหอมคอเบาๆ นี่สินะครับคำว่าครอบครัว



อีกด้าน





“สวีทกันเข้าไป รักกันเข้าไป คุณชาร์ปต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น” รินลดาแอบฟังทั้งสามคนคุยหยอกล้อกันที่หน้าห้องพักคนไข้ด้วยอารมณ์คับแค้นในใจ



สายตาของเธอมองไปยังร่างที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเครียดแค้น



“หึ ฉันต้องจัดการเสี้ยนหนามหัวใจของฉันเสียแล้ว” รินลดาพูดแค่นั้นก็เดินจากไปจากจุดที่เธอแอบมองและแอบฟังบทสนทนาต่างๆของทั้งสามคน





อีกไม่กี่นาทีนี้ผมก็ต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้วรู้สึกกลัวยังไงก็ไม่รู้ครับ เพราะนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตผมเลยที่ต้องผ่าตัดใหญ่และเป็นการผ่าตัดสมอง เจาะกะโหลกอีก คิดแล้วก็กลัวนะครับ



“เป็นอะไรไปครับ ดูทำหน้าเข้าสิ” อยู่ๆพี่ชาร์ปก็พูดขึ้นมา ตกใจหมดเลยละครับ



“เอ่อ คือว่า วาลกลัวนะครับ นี่ก็ครั้งแรกที่เข้าห้องผ่าตัด และก็เป็นการผ่าตัดใหญ่และเสี่ยงมากด้วย พี่ชาร์ปจะให้ผมรู้สึกดีหรือไงครับ คนยิ่งกลัวว่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่” ผมบ่นออกไปเสียยาวยืดเพราะผมรู้สึกกลัวจริงๆ



“ครับ ครับ พี่ขอโทษครับ ไม่กลัวนะ ไม่ต้องกังวลด้วย พี่จะอยู่เป็นกำลังใจให้ที่หน้าห้องผ่าตัดนะครับ” ผมได้แต่พยักหน้าให้พี่ชาร์ปและยิ้มให้ด้วยว่าผมไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่ในใจลึกๆแล้วผมกังวลมาเลยละครับ



“แม่ไม่ต้องหวังน้องวินนะ น้องวินอยู่กับป๊ะป๊าได้ครับ แม่เข้าไปแล้วแม่ต้องหายนะครับ”



“ครับผม” แล้วผมก็หันไปยิ้มให้ลูกชายตัวน้องของผม น้องวินครับเป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะครับ





หลังจากนั้นบุรุษพยาบาลก็เข้ามาเข็นเตียงผมไปยังห้องผ่าตัด รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับ กลัวไปหมด แต่ทำยังไงได้ละครับผมตัดสินใจไปแล้วนิครับ เอาละ ต่อไปก็เป็นของจริงแล้วละครับ



“สวัสดีค่ะคุณวาฤทธิ์ ไม่ต้องกลัวนะคะ ต่อไปจะเป็นการลมยาสลบแล้ว ทำใจให้สบายนะคะ ไม่ต้องกลัว ถ้าง่วงก็หลับไปเลยนะคะ” หลังจากที่พยาบาลวิสัญญี ได้ทำการลมยาสลบผมแล้ว เธอก็พูดกล่อมผมจนผมหลับไปในที่สุด



ในห้องผ่าตัด



“สวัสดีค่ะคุณหมอนุ”



“สวัสดีครับ ตอนนี้ลมยาสลบแล้วใช่ไหมครับ”



“ลมยาเรียบร้อยแล้วค่ะ”



“ความดันเป็นยังไงบ้างครับ”



“ความดัน 118/76 ปกติค่ะคุณหมอ”



“โอเคครับ เริ่มการผ่าตัดได้ครับ ขอไฟด้วยครับ”



“ค่ะ”



“โกนผมเรียบร้อยนะครับ”



“เรียบร้อยค่ะ”



“ขอมีดด้วยครับ”



“นี่ค่ะ”



“จะเริ่มการผ่าตัด เคสเนื้องอกในสมอง คุณวาฤทธิ์ อายุ 27 ปี เริ่มการผ่าตัดนะครับ”



“เริ่มการผ่าตัดได้ค่ะ”







######################################################

 :katai4: :katai4: มาต่อให้แล้วนะครับ 30 %  :katai4: :katai4:

 :katai5: :katai5: รอกันหน่อยนะครับ :katai5: :katai5:

 :mew2: :mew2: ยังไงก็รอหน่อยนะครับ  :mew2: :mew2:

 :hao5: :hao5: อย่าหนีกัน :hao5: :hao5:

 :katai4: :katai4: อย่าโกรธกันนะครับที่มาช้า  :katai4: :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2018 21:32:54 โดย DNT48 »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชะนีตัวนี้ ยังไม่ยอมจบเรื่องอีกนะ วอนโดนของนิ  :z6:

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
หน้าห้องผ่าตัด พ่อลูก ชาร์ปและน้องวินกำลังนั่งเฝ้ารอเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ รอค่อยคนในห้องผ่าตัดอย่างใจจดจ่อ



“ป๊ะป๊า น้องวินหิวจังเลยครับ”



“น้องวินหิวแล้วหรือครับ เดียวป๊ะป๊าออกไปหาอะไรให้ทานนะครับ”



“น้องวินไปด้วยครับ”



“ไม่รอแม่หรือครับ”





“น้องวินว่าอีกนานกว่าแม่จะออกมา เราไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับ”



“โอเคครับ ไปกันครับ ”



หลังจากนั้นสองพ่อลูกก็จูงมือกันเดินออกไปหาอะไรกินกัน ก่อนจะกลับมานั่งเฝ้าบุคคลอันเป็นที่รักของทั้งสองคน





ในห้องผ่าตัด ผ่าไปแล้วกว่า 3 ชั่วโมง



“เปิดกะโหลกได้สำเร็จครับ  ขอฟอร์เซปด้วยครับ”



“นี่ค่ะ”



“ซับเหงื่อให้ด้วยครับ”



“เรียบร้อยค่ะ”



“คุณหมอค่ะ ความดันคนไข้ลดต่ำลงค่ะ”



“เตรียมยาความดันฉีดให้ด้วยครับ”



“ฉีดเรียบร้อยค่ะ”



“ความดันเป็นยังไงบ้างครับ”



“ตอนนี้ความดันกลับมาเป็นปกติแล้วค่ะ”



“ครับ เริ่มการผ่าตัดต่อได้ครับ”



เวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง การผ่าตัดก็ยังไม่มีท่าว่าจะสำเร็จ เหตุเพราะ วาลมีภาวะความดันลดต่ำตลอดเวลา และก็หัวใจหยุดเต้นไป จนต้องได้ทำการเปิดเครื่องปอดหัวใจเทียมขึ้นมาช่วยปั้มเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆได้ และมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาอีกมากมาย การผ่าตัดครั้งนี้เลยล่าช้าไปอีกหลายชั่วโมง พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลวิ่งกินให้วุ่น เข้าออกห้องผ่าตัดของวาลเป็นว่าเล่น เตรียมยาเอย เพิ่มเครื่องมือแพทย์เอย เห็นแล้วเหนื่อยแทนพวกเข้าเหล่านี้แล้วละครับ



“ตอนนี้ทำการตัดเนื้องอกออกมาแล้วครับ ต่อไปจะเป็นการเย็บปิดแผลและปิดกะโหลกนะครับ”



“ขอไหมละลาย และไนลอนด้วยครับ”



“นี่ค่ะ”



“ขอบคุณครับ ต่อไปจะเป็นการปิดเยื้อหุ้มสมองนะครับ”



“ทำการปิดเยื้อหุ้มสมองค่ะ”



“ทำการปิดเยื้อหุ้มสองเรียบร้อยครับ ต่อไปจะทำการปิดกะโหลกครับ”



“ทำการปิดกะโหลกค่ะ”



“ทำการปิดกะโหลกเรียบร้อยครับ ต่อไปจะเป็นการเย็บปิดแผลที่ศีรษะครับ”



“ปิดแผลที่ศีรษะค่ะ”



“ขอไนลอนด้วยครับ”



“ไนลอนค่ะคุณหมอ”



“เริ่มการเย็บปิดแผลที่ศีรษะครับ” คุณหมอทำการเย็บปิดแผลที่ศีรษะให้กับวาลแล้วเรียบร้อย ก็หันไปสั่งพยาบาลให้ทำความสะอาดแผลและทำการปิดแผลเป็นการเสร็จสิ้นการผ่าตัดในครั้งนี้





หน้าห้องผ่าตัด



“แม่เข้าไปนานจังเลยครับ น้องวินเป็นห่วง หาววววว”



“เป็นห่วงหรือง่วงครับ” ชาร์ปไม่อยากให้ลูกเครียดเลยแกล้งแย่ไป



“ทั้งสองอย่างเลยครับ”



“ไม่ต้องมายิ้มเลยเรา ถ้าง่วงก็มาครับล้มตัวลงนอนที่ตักป๊าได้นะครับ”



“ครับผม” แล้วน้องวินก็ล้มตัวลงนอนที่ตักผม เวลาผ่านไปไม่นานน้องวินก็หลับไปเพราะความเพลียสะสม เพราะเป็นห่วงแม่ของเขานั้นแหละครับ ผมเองก็ไม่ต่างกันครับแต่ต้องรอให้คุณหมอออกมาก่อนผมถึงจะสบายใจได้ ไม่นานคุณหมอก็ออกมาจากห้องผ่าตัด ผมเลยอุ้มน้องวินเดินเข้าไปถามอาการของวาล



“คุณหมอครับ ไม่ทราบว่าวาลเป็นยังไงบ้างครับ” ผมร้อนใจมาก ขออย่าให้วาลเป็นอะไรมากเลย ขอให้ปลอดภัยด้วยนะครับ



“คนไข้ปลอดภัยครับ การผ่าตัดเป็นไปอย่างเรียบร้อยดีครับ แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจได้เพราะคนไข้มีอาการแทรกซ้อนหลายอาการคงต้องพักดูอาการที่โรงพยาบาลไปอีกสักระยะครับ อีกสักครู่พยาบาลก็จะเข็นคนไข้ไปที่ห้องปลอดเชื้อเพื่อรอดูอาการ ถ้าไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วงก็จะย้ายไปที่ห้องพักคนไข้ให้ทันทีครับ  ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับ ” หมอบอกเสร็จก็ขอตัวไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ไม่นานบุรุษพยาบาลก็เข็นวาลออกจากห้องผ่าตัดไปที่ห้องปลอดเชื้อเพื่อดูอาการ ผมเห็นวาลแล้วก็ได้แต่มองโดยช่วยอะไรไม่ได้ สายระโยงรยางค์ เครื่องช่วยหายใจเต็มไปหมดเลยครับ



“คุณรินครับมีเอกสารอะไรที่ผมต้องเซ็นอีกไหมครับ”  หลังจากวันที่วาลออกจากห้องผ่าตัดจนถูกย้ายมาห้องปลอดเชื้อนี้ก็เข้าวันที่3แล้วที่วาลยังอยู่ในห้องนั้น ผมเลยตัดสินใจว่าจะเอาน้องวินไปอยู่ที่บ้านกับผม น้องจะได้มีคนค่อยดูแล และผมก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมาก ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็อดเป็นห่วงลูกชายไม่ได้เพราะเวลาน้องจะนอนน้องวินจะชอบละเมอถึงแม่ตัวเองเป็นประจำ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ก็ได้แต่ให้น้องวินมานอนกับผมที่ห้องเดียวกัน



“ไม่มีค่ะคุณชาร์ป”



“หมอแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ มีธุระที่บ้านครับ”



“เอ่อ ค่ะ”



หลังจากนั้นผมก็ลุกขึ้นเก็บของแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้องแต่ก็โดนทักขึ้นจากเลขาของผม



“คุณชาร์ปค่ะ คือว่า...”



“ครับ มีอะไรหรือครับ”



“คือว่า วันนี้รินขอติดรถกลับด้วยได้ไหมค่ะ”



“แล้วรถคุณรินละครับ”



“คือว่า...ระ รถของรินเอาเข้าศูนย์เช็คสภาพค่ะ อีกนานเลยค่ะกว่าจะมาส่งรถให้” เอาไงดีละครับงานนี้ ผมก็รู้นะครับว่าเลขารินต้องการจะจับผม แต่ที่ผมไม่เอาเธอออกก็เพราะเธอเป็นคนทำงานดี แต่ก็ไม่มีอะไรที่เธอทำผิดหรือพลาดอะไรในเรื่องงาน



“เอ่อ ผมคงไม่สะดวกนะครับ”



“อะค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ รินเรียกแท๊กซี่ก็ได้ค่ะ”



“ขอโทษดด้วยนะครับ ผมมีธุระด่วนมากจริงๆ”



“ไม่เป็นไรค่ะคุณชาร์ป”



“ผมขอตัวละนะครับ” แล้วผมก็รีบเดินออกมาจากห้องทำงานของตัวเองด้วยความเร่งรีบ รีบเพื่อที่จะไปรับน้องวิน และรีบพาไปหาแม่ของเขาหรือว่าที่ภรรยาของผม ไม่รอช้าผมก็ลงลิฟท์เดินมาจนถึงรถตัวเองแล้วก็ทำการสตาร์ทกลับไปรับลูกชายเพื่อไปเยี่ยมวาลด้วยกัน อีกไม่นานน้องวินก็จะเปิดเทอมแล้ว ผมก็ยังไม่ได้หาโรงเรียนให้น้องเลย พรุ้งนี้ว่าจะโทรถามเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงเรียนดูว่ายังรับเด็กเข้าเรียนอยู่ไหมเพราะเลยระยะเวลาการรับสมัครมาแล้ว คงต้องใช้เส้นสายแล้วละมั่งครับงานนี้





ไม่นานผมก็มาถึงบ้าน น่าแปลกวันนี้ทำไมรถไม่ค่อยติดเลย ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ด้วย แต่ก็ดีครับจะได้ไปหาวาลได้สะดวกไม่ต้องมาทนรถติด



“ป๊ะป๊ามาแล้ว เย้ๆ น้องวินรอป๊ะป๊านานมากเลย น้องวินอยากไปหาแม่ครับแล้ว ป๊ะป๊าไปอาบน้ำแต่งตัวเลยนะ”



“ครับๆ ป๊าไปแล้วครับ น้องวินรอป๊าอยุ่ข้างล่างนะครับ เดียวป๊าลงมา”



“ครับผม” แล้วผมก็รีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อนไปที่ห้องของตัวเองแล้วทำการผลัดผ้า เตรียมอาบน้ำ อาบน้ำไปก็คิดเรื่องโรงเรียนของลูกชายไปด้วย



“เอาว่ะไม่ต้องรอพรุ่งนี้แล้ว โทรมันวันนี้เลยละกัน” คิดได้ดังนั้นผมก็รีบอาบน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินมาหยิบโทรศัพท์กดโทรหาเพื่อนครับ





“ฮัลโล มึงว่างป่ะ” รอสายไม่นานเพื่อนผมก็กดรับทันที



“ว่างมีไรว่ามา ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา วันนี้มีอะไรว่ะ หรือมึงทำใครท้อง” รับปุ๊บหาเรื่องปั๊บเลยครับไอ้คนนี้



“เอ่อ มีเรื่องอยากจะรับกวนหน่อยว่ะ”



“มีเรื่องไรว่ามา”



“คือว่า กูจะขอฝากลูกชายกูเข้าโรงเรียนมึงหน่อยว่ะ”



“ห่ะ ฝากลูก มึงไปทำใครท้องมาว่ะ ทำไมกูตกข่าว”



 “เรื่องมันยาวเดียวเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้ยังไง จะรับฝากให้ได้ไหมว่ะ”



“ฝากอ่ะกูฝากได้ แต่นักเรียนที่นี้มันรับเต็มโควตาแล้วนี้สิ เดียวยังไงจะรับไว้เป็นพิเศษก็แล้วกัน”



“ขอบใจมึงมานะพัชร เดียวเรื่องที่กูทำใครท้องเดียวก็จะเล่าให้มึงฟังเองตอนพาลูกไปรายงานตัวที่โรงเรียน”



“เอ่อๆ ไม่ต้องมาขอบใจกูหรอกมึง เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนดิว่ะ”



“แล้วโรงเรียนมึงเปิดเทอมวันไหนว่ะ”



“ต้นเดือนหน้าเลย เพราะเด็กเข้าใหม่ส่วนใหญ่เข้าเกินเกณฑ์ทั้งนั้นต้องทำการปรับพื้นฐานกันอีก เดียวเด็กจะรับไม่ไหวเอา”



“อ่อ โอเคมึง ยังไงก็ขอบใจมากนะเว้ย กูขอตัวละ แค่นี้นะ”



“เอ่อๆ แล้วเจอกัน” แล้วผมก็วางสายเพื่อนไป มองดูเวลาแล้วก็ต้องรีบ ปล่อยน้องวินรอไม่ไหวจริงๆเลย ต้องรีบละครับ เช็คของว่าเอาไปครบไหม พอดูว่าครบแล้วก็เดินลงบันไดไปหาลูกชายตัวน้อยครับ





“น้องวินครับป๊ามาแล้วครับ เราไปกันเถอะครับ”



“ครับผม แต่ป๊าขึ้นไปน๊านนาน ป๊าไปทำอะไรครับ”



“ไม่มีอะไรครับ ป๊าอาบน้ำเพลินไปหน่อย  เหนื่อยด้วยเลยแช่น้ำนานไปนั้นแหละครับ” โกหกลูกไม่ดีเลยครับ ไม่อยากโกหกแต่ทำไงได้ละครับผมมีความลับบางอย่างที่บอกเจ้าตัวน้อยไม่ได้ด้วย



“จริงนะครับ” ฉลาดจังนะ ฉลาดเหมือนใครนะ อ่อเหมือนวาลไง



“จริงครับ เราไปกันดีกว่าเนอะ เดียวแม่รอนะครับ”



“ที่แม่ครับรอก็เพราะป๊าอาบน้ำนานไงละ น้องวินไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”



“อ้าว น้องวินครับ รอป๊าด้วยครับ” ไม่พูดเปล่า รีบวิ่งออกไปยืนที่ประตูหน้าบ้านเลยครับ เหมือนใครนะ คิดแล้วผมก็ได้แต่ยิ้ม ดูยังไงก็เหมือนวาลทุกระเบียบนิ้ว วาลเองก็สอนลูกมาดี เป็นเด็กดี ฉลาด น่ารักและที่สำคัญน่าแกล้งเหมือนกันเลย



มาถึงโรงพยาบาล น้องวินก็เปิดประตูรถแล้ววิ่งไปข้างในก่อนผมเลยครับ เฮ้อไม่น่าโกหกเลย โดนลูกงอนแล้วไหมละครับ





“น้องวินครับรอป๊าด้วยครับ”





######################################################

 :katai4: :katai4: :katai4: มาต่อให้ครบ 100 %  แล้วนะครับ :katai4: :katai4: :katai4:

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: รอกันนานมั้ยครับ หายไปนานเลย :katai5: :katai5: :katai5:

ยังไงก็รอหน่อยนะครับ

อย่าหนีกัน :mew1: :mew1: :mew1:

 :katai3: :katai3: :katai3: อย่าโกรธกันนะครับที่มาช้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวังว่าวาลจะหายเร็ว ๆ นะ ส่วนน้องวินจะได้เข้าโรงเรียนใหม่แล้ว แล้วไข่เจียวล่ะ ลืมไข่เจียวไม่ได้นะ  :hao3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :angry2:  รินน้งร้าย ต้องทำร้ายวาลแน่เลย 
เวรกรรมตามสนองทันตาแน่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ชาร์ป Part

                หลังจากหาที่จอดรถได้ผมก็ทำการล็อครถ แล้ววิ่งตามลูกชายเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อตามไปงอน และไปดูคนรักของผมที่ยังไม่ฟื้นในห้องปลอดเชื้อ โดยหมอบอกว่าเพราะร่างกายของวาลอ่อนแอ บวกกับอาการแทรกซ้อนอื่นๆที่มีก็เลยทำให้การฟื้นตัวช้า แต่ก็ไม่เป็นเจ้าชายนิทราแน่นอน พอผมฟังดังนั้นก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย กลัวว่าวาลจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้วผม กับน้องวินจะทำยังไงละครับ น้องวินยิ่งอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อใกล้เข้าโรงเรียนเต็มที คิดแล้วตัวผมเองก็ได้แต่ยิ้ม แต่เมื่อเข้ามาที่ห้องปลอดเชื้อก็ต้องหุบยิ้มลงทันใดเมื่อเห็นคนรักของตัวเองยังนอนหายใจอยู่ในนั้น



“น้องวินครับเราไปใส่ชุดปลอดเชื้อกันครับ จะได้เข้าไปหาแม่กัน” มองน้องวินที่ยืนมองแม่อันเป็นที่รักของเข้านอนอยู่ในห้องนั้นจากที่เป็นเด็กร่าเริงแต่ต้องมามีหน้าตาที่เศร้าลงเวลามองไปยังร่างที่ยังหายใจนอนอยู่ในนั้นทุกวัน ถึงอยู่ที่บ้านน้องวินจะไม่มีอาการเศร้าสร้อย แต่เมื่อมาที่โรงพยาบาลแล้วหน้าของลูกชายผมนั้นดูเศร้าแล้วเหมือนน้ำตาจะคลออยู่ด้วยแต่ก็คนกลั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นห่วง ผมเห็นแล้วก็สงสารลูกนะครับ “วาลเมื่อไหร่จะตื่นขึ้นมาครับคนดี” ได้แต่คิดอยู่ในใจ



“ไปกันครับ น้องวินอยากคุยกับแม่แล้ว” แต่เมื่อผมชวนเจ้าตัวก็หันมายิ้มให้คงจะลืมไปแล้วว่างอนผมอยู่ ถ้าคุยเรื่องแม่น้องวินจะเปลี่ยนเป็นคนที่อ่อนโยนไปเลยครับ



“ไปครับ เยี่ยมเสร็จจะได้ไปกินข้าวกันและวันนี้ป๊าจะพาน้องวินไปดูโรงเรียนด้วยนะ” อุตส่าห์ว่าจะพาไปหลังจากวาลฟื้น แต่เห็นว่าใกล้เปิดเทอมแล้วเลยชวนน้องวินไปซะวันนี้เลย



“เย้ น้องวินอยากไปโรงเรียน แต่ตอนนี้น้องวินไปหาแม่ก่อนน้องวินคิดถึง” แล้วผมก็พาน้องไปหาพยาบาลที่อยู่ประจำการห้องปลอดเชื้อ เพื่อไปรับชุดปลอดเชื้อมาใส่







หลังจากที่เยี่ยมวาล นั่งมองน้องวินพูดกับแม่ของเข้าอยากมีความสุข ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มมองลูกคุยกับแม่ของเขาคุยกันโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบโต้อะไรมาเลย แต่ผมก็รู้ว่าน้องวินเองมีความสุขมาที่ได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้แม่เขาฟัง นั่งฟังจนหมดเวลาเยี่ยมเลยพาน้องวินมากินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใจกลางเมือง ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารที่ให้ความรู้สึกแบบครอบครัวมากๆครับ บรรยายกาศเหมือนบ้านตัวเองยังไงไม่รู้ครับ ถ้าวาลฟื้นแล้วออกโรงพยาบาลได้ผมจะพาเขามาทานที่นี้กับน้องวินมันคงจะดูเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากเลยละครับ คิดแล้วก็ได้แต่นั่งยิ้มกับความคิดของตัวเอง จนน้องวินสะกดผมเลยหลุดออกจากภวังค์หันมาสนใจลูกชายตัวน้อยของผมแทนครับ



“ป๊ะป๊าครับ น้องวินอยากกินไข่หวานครับ แล้วก็น้องวินขอสลัดทูน่าด้วยครับ” ลูกชายหันมาสั่งผมแทนเลยครับ



“ได้ครับ เอาซุปมิโซะด้วยไหมครับ” ผมถามออกไปไม่รู้ว่าน้องวินจะชอบหรือเปล่า



“เอาครับน้องวินอยากลองกิน”



“ได้เลยครับ เดี๋ยวป๊าสั่งให้นะครับ เอ่อ น้องครับพี่ขอไข่หวาน สลัดทูน่า ซุปมิโซะ 2 ที่ ข้าวหน้าเนื้อ ซาชิมิ น้ำเปล่า และชาเย็นครับ” แล้วผมก็เรียกพนักงานมารับออเดอร์อาหารครับ



“ค่ะ รายการอาหารมี ไข่หวาน 1 ที่ นะคะ สลัดทูน่า 1 ที่ ซุปมิโซะ 2 ที่ ข้าวหน้าเนื้อ 1 ที่ ซาชิมิ 1 ชุด น้ำเปล่า 1 ที่ และชาออริจินอลเย็น 1 ที่นะคะ รออาหารประมาณ 5 นาทีนะคะ” แล้วพนักงานก็เดินออกไป ผมจึงหันมาถามน้องวินว่ากินปลาดิบได้ไหม



“น้องวินครับ”



“ครับ”



“น้องวินกินปลาดิบได้ไหมครับ”



“แม่บอกว่าน้องวินเด็กอยู่กินไม่ได้ครับเดียวท้องเสีย แม่ห้ามไม่ให้กินครับ”



“หรือครับ ถ้าอย่างนั้นน้องวินอยากได้อะไรเพิ่มไหมครับ ป๊าจะได้สั่งเพิ่มให้”



“ไม่แล้วครับ แค่นี้น้องวินก็กินไม่หมดแล้ว” พูดจบก็ยิ้มหวานใส่เลย จะไม่ให้รักได้ไง ลูกก็น่ารัก แม่ก็น่ากอดแบบนี้ ทำไมน่า ทำไมผมถึงคิดที่จะผิดทำร้ายจิตใจของวาลได้นะ คิดแล้วก็นึกแต่โทษตัวเองในใจ ถ้าผมไม่เลิกกับภรรยาคนก่อนผมก็คงจะไม่ได้มาจะวาลอีกครั้ง ความบังเอิญไม่ได้มีมาบ่อยๆหรอกนะ แต่ความบังเอิญครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้มันหายไปอีกครั้งเป็นแน่ ผมสัญญา





แล้วอาหารก็มาเสิร์ฟ ผมและน้องวินก็กินกันไปโดยมาเสียงน้องวินชมเรื่องรสชาติอาหารว่าอร่อยตลอดเวลาเลย



“ไข่หวานอร่อย อร่อยกว่าร้านที่แม่พาไปกินอีกครับ สลัดกันอร่อย ซุปก็อร่อย มันเรียกว่าซุปอะไรนะครับ” กินไปชมไปจนมาตกที่ซุปมิโซะ เจ้าลูกชายก็ถามว่าคือซุปอะไร



“มันคือซุปมิโซะครับ อร่อยก็ทานให้หมดนะครับ”



“หมดอยู่แล้วครับ ระดับน้องวินไม่มีคำว่าเหลือครับ” พอได้กินอาหารที่ถูกปากน้องวินก็ยิ้มและชื่นชมอาหารว่าอร่อยไม่ขาดเลยครับ ร้านนี้ผมก็พึ่งจะมากินครั้งแรก อร่อยอย่างที่น้องวินว่าจริงๆครับ ข้าวหน้าเนื้อหมด ซาชิมิที่เสิร์ฟก่อนหน้าผมก็กินคนเดียวจนหมด คือมันสดมากๆครับ อร่อยมาก



“อิ่มหรือยังครับ”



“อิ่มมากเลยครับ น้องวินเลยขอเบิ้ลไข่หวานไปสองจานเลย ท้องน้องวินจะแตกไหมครับ”



“หึหึ” ได้แต่หัวเราะในลำคอกับความน่ารักของลูกชาย แต่ไม่นานก่อนจะเรียกเช็คบิล ผมก็เห็นว่าที่คอน้องวินมีผื่นแดงขึ้น ผมว่าน้องวินต้องแพ้อะไรสักอย่างในอาหารแน่นอนครับ เลยเรียกพนักงานมาถ้าว่าในซุปมิโซะมีการใช้ซุปอะไร และได้ความว่าใช้ซุปที่ทำมาจากกระดูกวัวที่คัดมาอย่างดีแล้วก็กรองมาทำซุปมิโซะ และผมก็ได้รู้ว่าในซุปมิโซะมีสิ่งที่ลูกชายแพ้





หลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อย พนักงานก็ขอโทษที่ไม่ได้บอก แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของเข้าหรอกครับ เป็นผมเองที่ไม่รอบคอบจนลูกชายเกิดอาหารแพ้อาหารขึ้นมา แต่ดีที่ไม่แพ้มากแค่เป็นลมพิษ ไม่ได้เป็นอาหารเป็นพิษหรือแพ้รุนแรง วันนี้ว่าจะพาไปดูโรงเรียนก็เป็นอันต้องพับไป แต่ต้องไปโรงพยาบาลแทนเพราะน้องวินบอกว่าคันมาก ผมเห็นแล้วก็อดที่จะสงสารลูกไม่ได้ ผมคนเป็นพ่อที่แย่มากขนาดที่ไม่สอบถามให้ระเอียดก่อนสั่งอะไรให้ลูก จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น





หลังจากหาหมดเสร็จก็ได้ยามาทั้งยากินยาทาแก้คัน ตรวจเสร็จรับยาก็กลับบ้านพาน้องมาพักผ่อนครับ พอกลับมาก็เห็นว่าไข่เจียวเจ้าลูกหมาน้อยของน้องวินได้มาอยู่ที่บ้านเราแล้ว คงมีคนไปเอามาหลังจากที่น้องวินอ้อนวอน ผมเลยสั่งให้คนไปรับเอามาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ แต่นอนนี้น้องวินคงเล่นกับเจ้าไข่เจียวไม่ได้เพราะคันมากจนหลับไป ตามตัวน้องมีแต่สีคาราไมด์ยาทาแก้คนครับ ตื่นมาคนต้องให้กินยาแก้แพ้อีก เห็นสภาพลูกก็ได้แต่ถอนหายใจ สงสารลูกจับใจ เป็นเพราะผมแท้ๆที่ไม่รู้อะไรเลย เพราะเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วจนน้องต้องเข้าโรงพยาบาล และครั้งนี้ก็เป็นเพราะผมอีกที่น้องต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะอาการแพ้ แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก ถ้าแม่น้องวินฟื้นแล้วรู้ว่าน้องวินเข้าโรงพยาบาลเพราะผมคงโดนโกรธอีกเป็นแน่



“เฮ้อคิดแล้วปวดหัว ทำตัวเองแท้ๆไอ้ชาร์ปเอ้ย” หลังจากเอาน้องวินที่หลับเพราะอาการคันไปนอนที่ห้องผมก็กลับเข้ามาที่ห้องทำงานของตัวเองเพื่อสะสางงานทั้งหมด วันนี้คงไม่ได้ออกไปไหนแล้วเอาเป็นว่าทำงานทั้งหมดนี้ก็แล้วกัน





หลังจากนั่งทำงานมาร่วม3ชั่วโมงผมก็ทำเสร็จ แล้วออกจากห้องทำงานว่าจะลงมาหากาแฟดื่มสักหน่อย เลยเดินไปดูน้องวินที่ห้องหน่อยละกัน



“พี่หมี วันนี้น้องวินได้กินไข่หวานด้วยละ พี่หมีอิจฉาน้องวินละสิ ไม่ต้องอิจฉาน้องวินนะ เดียววันหลังน้องวินบอกป๊าให้พาพี่หมีไปด้วย แต่น้องวินจะไม่มีซุปอะไรนะ มิโอะ มิโมะ อะไรนั้นอีกแล้ว เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าน้องวินกินแล้วน้องวินก็เป็นแบบนี้เลย” เดินมาถึงห้องลูกชายแล้วก็แง้มประตูดูก็ได้เห็นเด็กน้องกำลังนั่งคุยกับตุ๊กตาหมีตัวโปรดของตัวเองอย่างออกรสเลยครับ เห็นแล้วก็ทำให้ยิ้มได้ มีฟงมีฟ้องด้วย







วาลPart



ผมลืมตาตื่นขึ้นมา ด้วยแสงที่จ้าทำให้ผมต้องหรี่ตาเพื่อปรับโฟกัสให้ได้ที่ แล้วหลังจากนั้นก็ลืมตาตื่นขึ้นเต็มที่แล้วหันมองไปรอบๆ ก็เห็นแต่ท้องฟ้าที่สดใส ผมคิดนะครับว่า ผมต้องตื่นมาในห้องสีขาวของโรงพยาบาลสิครับ แต่ทำไมมาโพล่ที่นี้ได้ละครับ ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามทางเดินที่เงียบสงบ เดินไปเรื่อยเปื่อยไม่เร่งรีบ มองสองข้างทางก็ไม่เจอผู้คนเลย เอ๊ะตอนนี้ก็ตอนเช้าแต่ทำไมไม่มีคนออกมาเดินกันเลย พอสังเกตดีดีทั้งสองข้างทางก็ไม่มีบ้านเรือนสักหลัง มันดูแปลกๆนะครับ แปลกมาก แล้วผมอยู่ที่ไหนละครับ เดินต่อไปด้วยหัวใจที่สั่นระรั่ว แล้วเริ่มออกวิ่งไปเรื่อยๆตามทางเดิน ผมวิ่งมาจนสุดทาง มีทางแยกและมีป้ายบอกทาง ทางขวาบอกว่าเป็นยังโลกมนุษย์ ส่วนทางซ้ายบอกไปยังส่วนที่สงบสุขผมมองไปยังฝั่งซ้ายก็เห็นผู้คนกำลังเดินกันอยู่ และผมผมก็มองมาทางขวา ไม่มีคนเดินอยู่เลยสักคนเดียวครับ ผมรู้สึกว่ามันเริ่มแปลกๆแล้วนะครับ แล้วก็มีคนเดินมาที่ผมสี่คนเป็นคู่ชายหญิง เดินมาหาผม ผมได้แต่เพ่งมองว่าเขาคือใคร พอคนที่สี่เดินเข้ามาใกล้ผม ไม่รู้น้ำตามันมาจากไหน อยู่ดีดีมันก็ไหลมาเองโดยอัตโนมัติครับ ไหลแบบเอาเป็นเอาตายเลยครับ เพราะสี่คนที่ผมเห็นคือ พ่อแม่ของผม และอีกคู่คือพ่อและแม่ของพี่ชาร์ปครับ



“วาลลูก ทำไมหนูมาอยู่ที่นี้ละจ่ะ” แม่พี่ชาร์ปเอ่ยถามผม ผมเองก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วบอกท่านไปว่า



“ผมเองก็ไม่รู้ครับว่าตัวเองมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”



“วาล ลูกยังไม่ถึงฆาต ลูกต้องเดินไปทางนั้น” แม่ผมบอกแล้วชี้ไปทางขวามือ



“วาลลูก พ่อไม่รู้ว่าลูกมาที่นี้ได้ยังไง แต่ลูกควรไปทางนั้นนะ” พ่อผมจับที่ไหล่ของผมแล้วกล่าวบอก



“หนูวาล พ่อไม่รู้นะวาลหนูมาอยู่ที่นี้เพราะเหตุผลอันใด แต่ที่นี้คือโลกแห่งความตาย คนที่ตายเท่านั้นถึงจะมาอยู่ที่นี้ได้” พ่อพี่ชาร์ปบอกผม



“ผมไม่รู้ อึก ว่าผม ฮึก มะ มาอยู่ที่แห่งนี้ได้ยังไง” ผมสะอื้นตอบพ่อของพี่ชาร์ปไป



“วาลลูก ลูกเองยังไม่ถึงฆาต ลูกต้องไปทางนั้น ลูกต้องไปเดียวนี้ ไม่อย่างนั้นผู้เฝ้าประตูแห่งความตายจะมาจับร่างของหนูไปนะลูก” แม่ของผมบอกกล่าวด้วยความห่วงใย



“ผม ผะ ผม ไม่อยากทิ้งพ่อกับแม่ไปเลยครับ” ผมตอบออกไปทั้งน้ำตา



“ไม่ได้ลูก ลูกยังไม่ถึงแก่กรรม ลูกยังไม่ถึงวาระที่จะต้องตาย ลูกต้องไปฝั่งทางนั้น” แม่ของพี่ชาร์ปเอ่ยบอกผม



“ถ้าวาลไม่รีบไป พ่อแม่จะเดือดร้อนเอาได้นะลูก” แม่ผมบอกกลับมา ส่วนตัวผมก็เอาแต่ร้องไป ส่ายหัวไปมาไม่ยอมปล่อยมือจากพวกท่าน



“วาล วาลต้องไปแล้วลูก เวลาของพ่อกับแม่มันหมดไปนานแล้ว ลูกต้องกลับ” พ่อของผมผลักให้ผมออกห่างไป



“รีบไปนะลูก แล้วก็บอกกับชาร์ปด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง” พ่อพี่ชาร์ปฝากฝั่งผมเอาไว้ แล้วผมก็เดินไปทางแยกที่มีป้ายเขียนว่าโลกมนุษย์ พอมองไปอีกฝั่งพ่อแม่ผม และพ่อแม่พี่ชาร์ปก็ได้เดินกลับไปรวมกลุ่มกับผู้คนที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว ผมมองด้วยน้ำตาที่ไหลอาบทั้งสองแก้มแล้วก็ทำให้หันกลับมายังทางที่ต้องเดินต่อไป ทางข้างหน้านี้ผมไม่รู้ว่าจะทอดยาวไกลแค่ไหน แต่ผมก็ต้องเดินไปให้ถึงจุดหมายของผมให้ได้





ชาร์ปPart



 บ่ายวันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลว่าวาลมีอาการที่ดีขึ้นและจะได้ย้ายจากห้องปลอดเชื้อไปที่ห้องพักคนไข้พิเศษที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ตามที่ผมของร้องเอาไว้ หลังจากที่วางสายไป ผมก็เดินมาหาลูกชายของผมที่อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่กลับไม่อยู่ที่ห้อง



“ไปไหนนะ ถ้าเจอจะจับตีก้นเสียให้เข็ดเลย” ผมเดินหาเด็กชายชาวินตั้งแต่ชั้นสองของบ้าน จนมาห้องนั่งเล่น ห้องครัว และหน้าบ้านก็ไม่เจอ แต่พอจะเดินไปหลังบ้านก็ได้ยินเสียเล็กๆคุยอยู่กับใครไม่ทราบได้



“วันนี้น้องวินนอนจนขี้เกียจนอนแล้ว น้องวินคิดถึงไข่เจียวจังเลย น้องวินบอกให้ป๊ะป๊าพามาตั้งแต่วันแรกก็ไม่ยอมพามา น้องวินคิดถึงจังเลย ไข่เจียวหิวไหม เดียวน้องวินไปเอาอาหารมาให้กินนะ” และเด็กชายชาวินก็วิ่งจากสวนหลังบ้านเข้ามาโดยไม่ทันมองว่าผมยืนดูอยู่



“อ่ะ น้องวินตกใจหมดเลย ป๊ามายืนหล่อทำอะไรตรงนี้ หลบไปน้องวินรีบ น้องวินจะไปเอาข้าวมาให้ไข่เจียว ไข่เจียวหิวแล้ว” พอเห็นว่าเป็นไครก็บ่นใหญ่เลยครับลูกชายผม



“หายดีแล้วหรือครับตัวยุ่ง แล้วลงมาทำไมไม่บอกป๊าละครับ”



“ก็น้องวินเห็นว่าป๊าทำงานอยู่เลยลงมาเองครับ แล้วน้องวินได้ยินเสียงหมาร้องเลยเข้าไปดูก็เลยรู้ว่าไข่เจียวมาหาน้องวินแล้ว” ที่แท้ก็เป็นห่วงน้องหมานี้เอง



“จริงหรือครับ แล้วน้องวินทานข้าวแล้วหรือยังครับ” ผมถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง



“น้องวินยังไม่หิวครับ หลบก่อนนะ น้องวินจะไปเอาอาหารมาให้ไข่เจียว ไข่เจียวหิวแล้ว” ห่วงแต่คนอื่นไม่ห่วงตัวเอง นิสัยแบบนี้นิสัยของวาลเลยครับ ผมได้แต่ยิ้มแล้งหลบทางให้ลูกชายเข้าไปเอาอาหารมาให้เพื่อนของเขากิน



“ให้ไข่เจียวแล้ว น้องวินต้องมาทานข้าวนะครับ จะได้ทานยา แล้วไปหาแม่วาลกัน”



“แม่ฟื้นแล้วหรือครับ” ดูท่าเจ้าตัวจะดีใจมากที่ผมพูดถึงแม่ของเขา



“ยังครับ แต่ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าย้ายแม่วาลมาห้องพักพิเศษแล้ว” หลังจากที่น้องวินให้อาหารไข่เจียวเสร็จผมก็ก้มลงไปอุ้มน้องวินขึ้นมาเพื่อที่จะพาไปทานอาหารเย็นครับ





หลังจากที่พามาที่ห้องทานอาหาร แม่ครัวก็นำอาหารเข้ามาเสิร์ฟ โดยส่วนมากจะเน้นเป็นผักและอาหารที่น้องวินไม่แพ้ครับ เพราะผมไม่อยากให้ลูกต้องทรมาน แค่วันนี้เห็นน้องวินเป็นลมพิษผมก็ใจจะขาดอยู่แล้วครับ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมวาลถึงต้องทำอาหารเอง นี้คือเหตุผลสินะครับ เพราะน้องวินแพ้อาหารหลายอย่าง การทำอาหารให้น้องวินจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ถึงอาหารน้องวินจะจำกัดว่ากินได้แค่ไม่กี่อย่างแต่เจ้าตัวก็ทานมันอย่างเอร็ดอร่อย และบอกว่าอันนี้อร่อยอันนั้นอร่อย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยิ้มได้และไม่ต้องห่วงอะไรแล้วละครับ



“กินเสร็จแล้วน้องวินก็ไปอาบน้ำนะครับ เดียวเราจะไปหาแม่วาลกัน” หลังจากที่กินมาได้สักพักผมก็บอกจุดประสงค์ที่จะไปวันนี้



“เย้ น้องวินจะได้ไปหาแม่แล้ว น้องวินคิดถึงแม่ครับ” เจ้าตัวดีใจมาก ขนาดพึ่งพาไปหาเมื่อเช้าเองนะครับ แต่ก็บ่นคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ถึงน้องจะติดแม่แต่น้องวินก็ไม่บ่นเวลาอยู่ห่างแม่มากนั้น แต่จะบอกบอกกับตุ๊กตาว่าจะปกป้องแม่ จะคอยดูแลแม่ไม่ให้แม่เป็นอันตรายอีก ผมก็ได้แต่ยิ้มให้ความน่ารักและความช่างคิดของลูกชายคนนี้ ไม่รู้เลยว่าตัวเองอาจจะติดนิสัยอยากปกป้องคนที่เรารักจากใครถ้าไม่ใช่จากลูกชายของตัวเอง





หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็บอกให้น้องวินไปดูไข่เจียวได้แต่เจ้าตัวบอกว่าจะไปหาแม่ก่อนแล้วค่อยกับมาหาไข่เจียว ผมเลยบอกให้ไปอาบน้ำ พอบอกแค่นั้นน้องวินก็วิ่งขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ผมหรือก็ขึ้นไปอาบน้ำชำระร่างกายตัวเองเสียหน่อย จะได้ไปเฝ้าวาลที่โรงพยาบาลได้ ผมได้บอกแม่บ้านว่าให้เตรียมเสื้อผ้าของผมและของน้องวินให้ เพื่อนที่จะได้ไปนอนเฝ้าคนที่เป็นที่รักของเราสองคนพ่อลูกครับ



“น้องวินครับเสร็จหรือยังครับ” หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ผมก็มาตามน้องวินครับ



“เสร็จแล้วครับ” พอบอกอยากนั้นผมก็เลยเปิดประตูเข้าไปดูว่าเสร็จจริงไหม แล้วก็ปรากฏว่าเสร็จจริงครับ แต่งตัวน้องรักมาก ใส่ชุดเอี้ยมตัวโปรดและเสื้อลายจุดขาวน้ำเงิน น่ารักน่าฟัดมากเลยครับ ผมก็มองอย่างแปลกใจนะครับ แต่เจ้าตัวก็บอกว่า



“แม่สอนให้น้องวินใส่เอง เวลาเรารีบจะได้ไม่เป็นภาระให้แม่ต้องคอยแต่งให้ครับ” แบบนี่นี้เอง น้องวินเป็นเด็กฉลาดครับ ทำให้ดูครั้งเดียวก็จำได้แล้ว และก็ทำออกมาดีด้วย การสอนของวาลทำให้ผมอึ้งไปหลายอย่างเลยนะครับ ขนาดสอนให้ทำอาหารเองแบบง่ายๆ เช่นไข่เจียวที่น้องวินชอบ การหันผักที่พ่อแม่บางคนยังไม่อยากให้จับมีดแต่วาลกล้าที่จะให้น้องวินทำ เป็นการสอนที่ดีมากเลยครับ การใส่เสื้อผ้า อาบน้ำเอง ผมเห็นยังอึ้งไม่หายเลยครับ นี้แหละเด็กดีและเป็นอนาคตรั้วของชาติ



“ถ้าเสร็จแล้วก็ไปกันครับ เดียวแม่วาลรอนานไม่ดีนะครับ”



“ครับผม ไปกันเลย”





แต่พอขึ้นรถแล้วขับออกมาไม่ทันไรก็หลับไปแล้วครับลิงน้อยของผม คงจะเหนื่อยบวกกับฤทธิ์ของยาที่กินไปด้วย เลยทำให้หลับไปครับ ไม่เป็นไรครับพอถึงแล้วเดียวค่อยปลุกอีกทีให้เจ้าตัวหลับไปก่อนก็แล้วกันครับ



หลังจากฝ่ารถติด น้องวินตื่นมาถามว่าถึงหรือยังสามรอบผมก็บอกไปว่ายังไม่ถึง แล้วก็หลับต่อ จนตอนนี้มาถึงโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ



“น้องวินครับ ถึงแล้วครับ ตื่นได้แล้วครับ” พอจอดรถได้ผมก็ลงมาปลุกน้องวินครับ



“อือ ถึงแล้วหรือครับ” น้องวินก็งัวเงียตื่นตาปรือถามขึ้น



“ครับ ถึงแล้วครับ ป่ะลงไปหาแม่กัน”



“ครับผม” พอบอกว่าไปหาแม่นี้ตื่นเต็มตาเลยครับ



“อย่าวิ่งนะครับ เดียวป๊าเอาของหลังรถก่อนนะครับ”



“น้องวินช่วยครับ” ลูกที่ดีมีอาสาช่วยด้วยครับ



“มันหนักนะ” ผมแกล้งบอกไป เพราะจริงๆแค่นี้ผมเองคนเดียวก็ข้นไปหมดครับ



“หนักน้องวินก็ช่วยได้ครับ” แต่ผิดคาดครับ เจ้าตัวบอกจะช่วยเลยให้ถืออันที่เบาที่สุดครับ



“เอานี่ไปเลยครับ ไม่หนักมาก น้องวินจะได้ไม่ล้ม”



“ครับผม” แล้วเจ้าตัวก็ถือสิ่งที่ผมยื่นให้แล้วเดินไปด้วยกันครับ



พอเข้ามาในโรงพยาบาลพยาบาลสาวทั้งหลายที่คุ้นหน้ากันดีก็เอ่ยชมน้องวินไม่ขาดสายเลยครับ



“น้องวินน่ารักนะคะ ดูสิช่วยคุณพ่อถือของด้วย”



“นั้นสิค่ะ น่ารัก โตขึ้นต้องหล่อ น้ำใจงามเหมือนคุณพ่อแน่เลย”



“น้องวินก็เป็นที่รักข้องทุกคนแหละค่ะ”



“น้องวินวินน่ารักไปแล้ว ดูชุดวันนี้สิค่ะ”



“ชมน้องมาก ดูด้วยว่ามากับใคร น้องมากับพ่อเขา พวกเธอนี่นะ ไปทำงานไป”



“ค่ะคุณหัวหน้า”



“น้องวินของป้า น่ารักอะไรขนาดนี้” แล้วพี่พยาบาลที่เป็นหัวหน้านางพยาบาลทั้งหลายก็เอ่ยชมน้องวิน โดยมีสายตาของลูกน้องพยาบาลมองมาด้วยใบหน้าเอือมๆ  แล้วก็พากันนินทาหัวหน้าของตัวเอง ผมเห็นก็ได้แต่ยิ้มเท่านั้น ส่วนน้องวิน ไม่สนใจอะไรเลยว่ามีคนชมหรืออะไรเพราะตอนนี้เขาอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองไปแล้วครับ เดินไปยิ้มไป คงดีในที่จะได้นอนกับแม่ของตัวเองละครับ ดูสิยิ้มไม่หุบเลย ขนาดพี่ป้าน้าอานางพยาบาลชมยังไม่หันไปมองเลย ได้แต่มองตรงไปยังทางข้างหน้าเท่านั้น หนทางข้างหน้าที่จะได้หาผู้เป็นแม่อันเป็นที่รัก







#############################################################

 :mew3: :mew3: มาต่อให้แล้วนะครับ  :mew3: :mew3:

 :katai4: :katai4: ขอโทษที่หายไปนานเลย  :katai4: :katai4:

 :hao5: :hao5: คงคิดถึงน้องวินแย่  :hao5: :hao5:

 :mew2: :mew2: ด่าไรท์ได้นะครับ  :mew2: :mew2:

 :mew6: :mew6: แต่อย่าว่าน้องวิน แม่วาล ป๊าชาร์ป เลยนะครับ  :mew6: :mew6:



อ่านแล้วถูกใจ กดไลค์ คอมเม้น

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มาแล้ว คิดถึงไข่เจียวที่สุดเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
มาแล้ว คิดถึงไข่เจียวที่สุดเลย  :กอด1:

ไข่เจียวมาแล้ว มาพร้อมพี่วินครับ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีใจ ไรท์มาต่อ   :mew1:

วาล กลับมาหาลูก กลับมาหาคนที่รัก ได้แล้ว
ยังไม่ถึงเวลาที่วาลจะไปจากโลกแห่งวิญญาณนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ดีใจ ไรท์มาต่อ   :mew1:

วาล กลับมาหาลูก กลับมาหาคนที่รัก ได้แล้ว
ยังไม่ถึงเวลาที่วาลจะไปจากโลกแห่งวิญญาณนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


เอาใจช่วยวาลด้วยนะครับบบ   :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
สนุกมากค่ะ ชอบบบบ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
สนุกมากค่ะ ชอบบบบ :mew1: :mew1: :mew1:

ขอบคุณที่ชอบนะครับ ยิ่งกลัวว่าจะไม่มีคนอ่าน ดีใจจังยังมีคนอ่าน  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ DNT48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1


ชาร์ปpart



“น้องวินรอป๊าด้วยครับ อย่ารีบวิ่งครับเดียวล้ม” ผมบอกลูกชายไม่ทันขาดคำก็สะดุดขาตัวเองล้มลงไป นี้สินะครับที่โบราณได้ว่าเอาไว้ คิดว่าจะเกิดอะไรห้ามทันไม่อย่างนั้นจะเป็นจริง แต่ก่อนไม่เชื่อนะครับแต่ตอนนี้ ตอนที่ทักลูกชายแล้วล้มลงไปผมเชื่อสนิทใจเลยครับ



“น้องวิน เป็นยังไงบ้างลูก ป๊าบอกแล้วว่าอย่าวิ่ง เป็นยังไงครับ ล้มเลย ไหนให้ป๊าดูสิครับว่ามีแผลต้องไหนไหม เจ็บหรือเปล่าครับ” นั่งลงไปประคองลูกขึ้นมาแล้วก็ถามลูกว่าเป็นยังไงบ้าง



“น้องวินไม่เป็นอะไรครับ ไม่เจ็บด้วย แม่บอกว่าถ้าเราล้มก็ห้ามร้องไห้ แต่ถ้าเจ็บหรือเป็นแผลก็รีบไปให้แม่ทำแผลให้ครับ น้องวินได้ยินแม่บ่นเวลาน้องวินล้มแล้วได้แผลว่า “เวลาแม่เห็นน้องวินเจ็บแม่เจ็บกว่าหลายเท่า เวลาแม่เห็นน้องวินร้องไห้แม่ก็จะแอบไปร้องไห้น้องวินเคยแอบได้ยินบ่อยๆ” แต่น้องวินก็ไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้นะครับ” น้องวินบอกมาแบบนั้นแล้วก็หันมายิ้มให้ผม วาลจะรู้ไหมว่าวาลเลี้ยงลูกดีมาก ดีกว่าอยู่กับพี่เสียอีก น้องวินเข็มแข็งจนผมเองที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งแล้วยังยอมแพ้ให้ลูกชายตัวน้อยของผมเลยครับ



“น้องวินเก่งมากครับ แม่วาลคงภูมิใจนะครับ แล้วนี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”



“น้องวินไม่เจ็บครับ สบายมากเลย” บอกแบบนั้นก็ยิ้มแป้นเลยครับ



“ตายแล้ว น้องวินเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ พอดีดิฉันเห็นน้องวิ่งแล้วล้มลงไปนะคะ” พยาบาลที่เป็นหัวหน้าฝ่ายพยาบาลเดินมาถามด้วยสีหน้าตื่นตกใจที่เห็นน้องวินวิ่งแล้วสะดุดล้ม



“น้องวินไม่เป็นอะไรครับ” น้องวินหันไปตอแล้วยิ้มหวานให้หัวหน้าพยาบาล



“น้องวินไม่เป็นอะไรมากครับ ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ”



“อ่ะค่ะ น้องวินไม่เป็นอะไรป้าก็ดีใจค่ะ”



“ขอบคุณครับ ยังไงผมกับลูกขอตัวก่อนนะครับ” แล้วพยาบาลไปว่าไม่เป็นไรก่อนจะอุ้มน้องวินขึ้นมา



“ค่ะ”



หลังจากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อง ผมก็อุ้มน้องวินตรงไปยังห้องพักที่วาลถูกย้ายมาด้วยความดีใจปนกังวลใจนิดๆ กังวลใจที่ว่าจะต้องเห็นว่าใส่เครื่องอะไรหลายๆอย่าง สายระโยงรยางค์เต็มไปหมดจนน่าใจหายนั้นก็ตีวนในหัวผมไปหมดเลยครับ แต่พอก้มมองน้องวินที่เห็นประตูห้องพักนั้นก็ต้องยิ้มตาม รอยยิ้มดีใจที่จะได้นอนกับแม่ กอดแม่นั้นเป็นสิ่งที่น้องวินคงคิดถึง พอเปิดประตูเข้าไปได้ผมก็วางน้องวินลงให้เดินไปหาแม่ของเขาที่น้องอยู่บนเตียง ดวงตาหลับสนิทไม่มีการไหวติ่งใดใด สายที่เคยพันระโยงระยางก็ไม่มีแล้วจะมีก็แค่ท้อออกซิเจน เครื่องวัดความดัน เท่านั้น ที่ศีรษะก็ยังมีผ้าพันแผลอยู่เหมือนเดิม เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้





“แม่ครับ น้องวินมาหาแล้วนะครับ วันนี้น้องวินจะนอนกับแม่นะครับ แม่จะได้ไม่เหงาแล้ว เมื่อกี้น้องวินวิ่งสะดุดล้มแหละ แต่น้องวินไม่ร้องไห้เลย ป๊ะป๊าตกใจมากเลยที่เห็นน้องวินล้ม คริคริ ถ้าแม่ได้เห็นหน้าป๊ะป๊านะ มาจะขำหนักๆเลย หน้านี้เอ๋อมากเลย” แล้วก็มาฟ้องแม่สินะลูกชาย แต่ก็ทำให้ผมยิ้มออกนะครับ ความน่ารักของน้องวินมั่งจะทำให้ผมและคนรอบข้างยิ้มได้เสมอ



“ฟ้องแม่ใหญ่เลยนะครับลูกชาย”



“น้องวินไม่ได้ฟ้องนะ น้องวินแค่มาเล่าให้แม่ฟ้อง” แล้วก็หันมายิ้มร้ายใส่ผม นี้ลูกชายผมเจ้าเล่ห์แต่เด็กเลย



“เจ้าเล่ห์นะเรานิ”



“น้องวินไม่เจ้าเล่ห์ น้องวินน่ารัก แม่ก็บอก”



“ครับๆ น่ารักก็น่ารัก แล้วหิวหรือยังครับ ออกไปซื้ออะไรมากินกันไหมครับ”



“ไม่หิวครับ น้องวินยังอิ่มอยู่เลยครับ แล้วก็อยากอยู่กับแม่ด้วยครับ”



“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นเรามาเฝ้าแม่วาลกันเนอะ”



“ครับผม” แล้วเราสองคนก็นั่งเฝ้าวาล พูดคุยกันบ้างตามประสาพ่อลูก เบื่อๆก็เปิดโทรทัศน์ดูการ์ตูนกับน้องวินไป ดูไปก็ยิ้มไป เห็นลูกยิ้มได้ผมเองก็มีความสุขแล้วครับ นี้สินะที่เขาเรียกว่าครอบครัวที่น่ารัก ครอบครัวที่อบอุ่น และผมเองก็คิดแล้วว่าต่อไปจะไม่ทำร้ายวาลและลูกอีกเพราะพวกเขาทั้งสองคือครอบครัวที่ฟ้าประทานมาให้ผม







“น้องวินง่วงหรือยังครับ” ดึกมากแล้วที่เรานั่งดูโน่นดูนี่ในช่องสี่เหลี่ยมขนาดกลางของโรงพยาบาล ผมเลยหันไปถามน้องวินที่นั่งตาปรือจะหลับแหล่มิหลับแหล่ข้างๆ



“ครับน้องวินง่วงมากเลยครับ เราไปนอนกันนะครับ” น้องวินหันมาตอบผมว่าตัวเองก็ง่วงแล้ว ที่ยังไม่ยอมนอนคงเพราะกลัวว่าถ้าแม่ตัวเองตื่นแล้วตัวเองจะได้เห็นคนแรก ผมแค่คิดนะครับ เพราะหลังจากที่พูดคุย โน่นนี่นั้นไปเรื่อย น้องวินก็เอาแต่จ้องแม่ของตัวเอง



“ไปครับ ไปนอนกัน” โรงพยาบาลแห่งนี้ดีมากๆเลยครับ มีเตียงสำหรับญาติผู้ป่วยด้วย คงคิดเผื่อว่าต้องมีการเฝ้าแน่นอน แต่ราคาก็สูงตามละนะครับ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพื่อคนที่ผมรักทั้งสองแพงแค่ไหนผมสู้ได้สบายขอแค่เขาทั้งสองหลับสบายเป็นพอ



“ครับผม” แล้วน้องวินก็เดินตามผมไปที่เตียงเพื่อนที่จะนอน



“ถ้าอย่างนั้นน้องวินนอนไปก่อนนะครับ ป๊าออกไปคุยธุระสักแป๊บก่อนนะครับ เดียวป๊ากลับมา”



“คราบบบบ” ตอบมาเสียงยานคางมากครับลูกชายผม คงง่วงเต็มที่



“เดียวป๊ามานะครับ นอนไปก่อนเลย” แล้วผมก็ออกมาจากห้องพักของวาลเพื่อที่จะไปขอหม่อนและผ้าห่มมาอีกชุด ถึงห้องที่วาลพักอยู่จะมีเตียงสำหรับญาติแต่มั้นเป็นเตียวเดี่ยวถ้าผมนอนกับน้องวินมีหวังได้นอนทับลูกชายเป็นแน่ครับ





น้องวินPart



หลังจากป๊ะป๊าออกไปแล้ว น้องวินก็ลุกนั่งเฝ้าแม่อยู่ห่างๆ ถึงจะง่วงแต่น้องวินอยากอยู่ดูว่าแม่ครับจะตื่นมาตอนไหน น้องวินอยากกอดแม่ครับ อยากนอนกอดแม่นะครับแต่ที่ตัวแม่ยังมีสายอะไรไม่รู้อยู่เต็มตัวไปหมดเลย



“แม่ครับ รีบตื่นนะครับน้องวินคิดถึง ไข่เจียวก็คิดถึงแม่ครับนะครับ” ได้แต่พูดออกไปแบบนั้นไม่รู้แม่จะได้ยินหรือเปล่า พี่หมีน้องวินก็ไม่ได้เอามาด้วย น้องวินไม่มีเพื่อนคุยเลย



ง่วงจัง นอนก่อนนะครับทุกครับ



หลังจากที่น้องวินหลับไปไม่นาน ก็ต้องสะดุดตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอะไรบางอย่างที่มีความแหบปนอยู่นั้น



“นะ  น้ำ.....ขอ.....น้ำ.....หน่อย......นะ......” เสียงที่แหบแห้งนั้นเงียบหายไป เสียงแม่วาลหรือเปล่านะ เอะหรือว่าจะไม่ใช่นะ



“งือ เสียงใคร” ลงจากเตียงได้น้องวินก็เดินไปที่เตียงของแม่เพื่อฟังเสียงว่าใช่เสียงแม่หรือเปล่า



“ขะ ขอ นะ น้ำ หน่อย” เสียงที่แหบพล่าที่เอ่ยขอน้ำดื่มนั้นก็พลันทำให้น้ำตาสองข้างแก้มของน้องวินไหลลงมาอาบสองแก้ม น้องวินยืนอยู่สักพักก่อนจะตังสติวิ่งไปยกเหยือกน้ำมาเทใส่แก้ว พร้อมเสียงสะอื้น ถึงจะหนักแต่เพราะความเป็นห่วงแม่และป๊ะป๊าก็ไม่อยู่น้องตัวช่วยเหลือตัวเองให้ได้ทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้นั้นแหละสิ่งที่แม่วาลได้สอนไว้ พอเทน้ำเสร็จแล้วก็มองหาหลอด แต่หายังไงก็หาไม่เจสักที



“อึก หลอดไปไหนหมด น้องวิน ฮึก จะ จำได้ว่าอยู่ตรงนี้ แล้วมันหายไปไหนละ” น้ำตาที่ไหลอาบแก้มทำให้สายตาพล่ามัวและมีแค่แสงสลัวจากข้างนอกเท่านั้นจึงทำให้หาอะไรสำบาก จะวิ่งไปหาป๊ะป๊าก็ไม่รู้อยู่ไหน ในตอนที่ไม่มีใครน้องวินจำเป็นต้องช่วยตัวเองให้ได้



“น้องวินต้องทำให้ได้ น้องวินอึก จะไม่ร้องไห้ รอก่อนนะครับคุณแม่” และแล้วความพยายามของเด็กชายชาวินก็สัมฤทธิ์ผลในการหาหลอดจนเจอ



“แม่ครับ ดื่มน้ำนะครับ” หลังจากที่น้องวินหาหลอดได้ก็นำไปจ่อที่ปากของมารดาแล้วทำการป้อนน้ำให้คนที่พึ่งพื้นแล้วกระหายน้ำเป็นอย่างมากได้ดื่ม วาลดูดน้ำเข้าไปจนเกือบหมด หลังจากที่ได้ดื่มน้ำก็ทำให้ชุ่มคอแล้วสบายขึ้นหลังจากนั้นก็หลับไปอีกรอบ น้องวินมองแม่ที่สงบลงไปก็ได้แต่ปล่อยให้พักไป เจ้าตัวคิดว่าแม่คงหิวน้ำเลยตื่นมาขอน้ำกินแล้วก็หลับไปอีกรอบ น้องวินนั่งดูผู้เป็นแม่ที่มีสีหน้าที่ดูดีขึ้น ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาบนใบหน้า





ชาร์ปPart



หลังจากที่ได้ชุดเครื่องนอนแล้วผมก็รีบเดินกลับไปยังห้องพักของวาลทันที พอผมเปิดประตูก็เห็นน้องวินนอนหลับที่ข้างเตียงของคนเป็นแม่ ก่อนผมออกไปน้องวินยังนอนที่เตียงพักญาติอยู่เลย ทำไงถึงมานอนตรงนี้ได้นะ หรือว่าละเมอมา พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็เห็นว่ามือน้องวินนั้นจับมือของแม่ตัวเองอยู่ คงจะละเมอแล้วมานอนตรงนี้ ผมได้แต่คิดแบบนั้น ก่อนจะทำการปูที่นอนให้ตัวเองเสร็จสับแล้วก็ไปอุ้มน้องวินให้กลับมานอนที่เตียงอย่างเดิม แต่ดูเหมือนว่าน้องวินจะไม่ยอมปล่อยมือจากวาลเลย เป็นอะไรไปนะ ดึงยังไงก็ไม่ยอมปล่อย จะปลุกก็กลัวว่าจะงอแง ถ้าอย่างนั้นให้น้องวินนอนบนเตียงกลับวาลก็แล้วกัน



“ฝันดีนะครับคนดีของพี่ จุ๊บ ฝันดีนะครับลูกชายป๊า จุ๊บ” หลังจากจัดท่านอนให้น้องวินได้นอนอย่างสบายแล้ว ผมก็เดินไปนอนที่เตียงสำหรับญาติคนไข้ พอถึงที่นอนหัวถึงหมอนก็หลับไปอย่างง่ายดาย



เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนเข้าห้องน้ำ พอหันไปมองก็ไม่เจอน้องวินแล้ว สงสัยจะไปฉี่ รอไม่นานน้องวินก็เดินออกมาแล้วก็เห็นผมที่นั่งอยู่บนเตียง ผมเลยทักขึ้น



“ว่าไงครับลูกชาย ตื่นเช้าจังครับ” ทักทายยามเช้าเห็นน้องวินแบบพึ่งจะตื่นผมชี้ไปคนละทิศคนละทางเลยครับ



“ป๊ะป๊ามาตั้งแต่ตอนไหนครับ” ไม่ตอบแต่ถามผมกลับเลยครับ



“ป๊ามาตอนที่เห็นน้องวินนอนกุมมือแม่วาลมือคืนไงครับ หลับไม่รุ้เรื่องแม่ละเมอมานอนจับมือแม่อีกนะเรา”



“น้องวินไม่ได้ละเมอนะครับ เมื่อคืนคุณแม่ตื่นมาขอกินน้ำ คุณแม่ตื่นแล้วนะครับ” วาลตื่นมาเมื่อคืนหรือ



“แม่วาลตื่นมาเมื่อคืนหรือครับ ทำไมไม่บอกป๊าละครับ” ผมถามออกไปเสียงดังนิดหน่อยด้วยความตกใจปนสงสัย



“ครับผม แต่ป๊าจะเสียงดังทำไมครับเดียวก็รบกวนแม่หรอกครับ เมื่อคืนน้องวินเอาน้ำให้กินก็หลับไปครับ” เมื่อได้ยินที่น้องวินพูดแบบนั้นผมก็หันไปดูร่างของวาลที่นอนหลับอย่างสบายใจอยู่บนเตียงนอน แต่พอสังเกตุดูสีหน้าของวาลก็ดูดีขึ้นไม่ซีดขาวเหมือนตอนก่อนแล้ว ตอนนี้เหมือนจะมีเลือดฝาดบนใบหน้า สีหน้าดูสดใสขึ้น แสดงว่าน้องวินคนพูดจริง คิดได้ดังนั้นผมก็กดออดเรียกพยาบาลทันที่เลยครับ และก็ลืมไปว่าผมเองพึ่งจะตื่นหน้ายังไม่ล้างฟันยังไม่แปรงเลยครับ





ก๊อก ก๊อก ก๊อก



“ไม่ทราบวาลคุณวาฤทธิ์เป็นอะไรหรือค่ะถึงได้กดออดเรียกมา” ไม่นานพยาบาลก็เดินเข้ามาถามว่ากดออดเรียกทำไม



“คือว่าเมื่อคืนนี้ภรรยาของผมฟื้นขึ้นมาครับ แล้วก็หลับไปครับ” ผมบอกออกไปอย่างไม่มีสติเท่าไหร่เพราะมันดีใจ ตกใจ ปะปนกันไปหมดครับ



“เดียวดิฉันจะไปตามคุณหมอมาดูอาการให้นะคะ รอสักครู่ค่ะ” หลังจากที่พยาบาลเดินออกไป น้ำตาของลูกผู้ชายอย่างผมก็ไหลออกมาอาบสองแก้ม ผมเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงคนไข้แล้วจับมือของวาลลูบไปมาอย่างหวงแหน



“ในที่สุด อึก ในที่สุดวาลก็กลับมาหาพี่แล้ว” ผมร้องไห้ไม่อายลูกชายที่ยืนมองอยู่



“ป๊ะป๊าไม่ต้องร้องนะครับ แม่วาลจะกลับมาหาแล้วนะครับ น้องวินยังไม่ร้องเลย” ผมหันไปยิ้มให้น้องวินพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ยื่นมือไปลูบหัวทุยของลูกชาย น้องวินเป็นเด็กที่น่ารักและเข้มแข็ง ข้อนี้ผมต้องขอบคุณวาลที่เลี้ยงลูกมาดีมาก ดีกว่าใครที่ไหนผมคิดอย่างนั้น



“ครับ ป๊าจะไม่ร้องไห้ครับ ป๊าจะเข้มแข็งเพื่อแม่วาล อย่างที่น้องวินบอกนะครับ” ยิ้มให้ลูกชายทั้งน้ำตา



“ครับผม”





ก๊อก ก๊อก ก๊อก



“ขออนุญาตค่ะ” ไม่นานพยาบาลคนเดิมก็เข้ามาตามด้วยหมอประจำตัวของวาล



“เชิญครับ” ผมเรียนเชิญคุณหมอ และพยาบาลเข้ามาในห้อง และหลีกทางให้หมอทำการตรวจเช็คร่างกายของวาล



“หมอขอตรวจอาการของคุณวาลหน่อยนะครับ”



“ครับ” แล้วคุณหมอก็ตรวจร่างกายของว่า ฟังเสียงการเต้นของหัวใจ ดูความดัน ดูการตอบสนองของม่านตา แล้วดูแผลที่ศีรษะของวาล หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอก็มีปฏิกิริยาที่แสดงความดีใจแล้วหันมาบอกกับผมว่า



“ร่างกายของคนไข้เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว อีกไม่นานก็ฟื้นแล้วครับ”



“แต่เหมือนว่าวาลจะตื่นมาตอนกลางดึกนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น มีแค่น้องวินลูกชายของผมที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดครับ” ผมก็บอกไปตามที่น้องวินบอกมา



“แสดงว่าการฟื้นตัวเริ่มคงที่แล้วนะครับ ถ้าคนไข้ฟื้นก็กดเรียกได้ตลอดเลยนะครับ ผมจะรีบมาดูอาการให้อย่างรวดเร็วครับ”



“ขอบคุณครับคุณหมอที่ช่วยวาลภรรยาของผม”



“มันเป็นหน้าที่ของหมอที่จะช่วยชีวิตคนไข้อยู่แล้วครับ ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ มีอะไรก็กดเรียกได้เลยนะครับ”



“ครับ น้องวินครับมาขอบคุณคุณหมอก่อนเร็วครับ”



“ขอบคุณครับคุณหมอที่ช่วยแม่วาลของน้องวิน”



“ครับผม เต็มใจช่วยเต็มที่ครับผม อาหมอไปก่อนนะครับ ผมขอตัวนะครับคุณชาร์ป”



“ครับคุณหมอ ขอบคุณอีกครั้งครับ” หลังจากนั้นคุณหมอเจ้าของไข้ของวาลก็เดินออกไปเพื่อไปทำหน้าที่ของตนเอง ผมและน้องวินก็มาจัดการทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยผมก็ออกมาจัดการปอกผลไม้ไว้ในน้องวินได้ทานรองท้องไปก่อนเห็นแบบนี้เรื่องงานครัวผมก็พอทำได้นะครับและอาหารเช้าคงต้องรอสักพัก เพราะพึ่งโทรไปสั่งทางโรงพยาบาลให้เตรียมอาหารมาให้



“หิวหรือยังครับ ทานผลไม้รองท้องไปก่อนนะครับ” ถามน้องวินที่นั่งมองวาลอยู่ไม่ห่างคงจะรอว่าแม่จะฟื้นมาตอนไหน



“หิวนิดหน่อยครับ แต่ทานรองท้องก่อนก็ได้ครับ” น้องวินหันมายิ้มให้ผมเล็กน้องก่อนจะหันไปสนใจแม่ตัวเองต่อ ผมได้แต่คิดในใจขึ้นให้วาลรีบตื่นขึ้นมาโดยเร็วเพราะผมสงสารน้องวินเหลือเกิน น้องวินไม่ไปไหนเลย เอาแต่นั่งเฝ้าแม่ตัวเอง และก็ไม่ร่าเริงเหมือนเดิมที่ผมเคยเห็น เอาแต่นั่งมองวาลไม่ห่างไปไหน เปิดโทรทัศน์ให้ดูก็ไม่ดู รีบๆตื่นมานะวาล



ไม่นานนัก อาหารเช้าก็มาส่งที่ห้องพัก อาหารส่วนใหญ่ก็จะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพครับ เห็นแล้วก็ไม่อยากกินเลย แต่ทำไงได้ละครับ ทางผมออกไปซื้อไม่ได้เพราะเป็นหวงวาลและน้องวิน ก็เลยทำใจโทรสั่งอาหารของโรงพยาบาลมาแทน จากนั้นเราสองคนพ่อลูกก็นั่งกินข้าวกันไปครับ กินไปเงียบๆไม่มีใครพูดคุยอะไรกัน กินไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงที่แหบแห้งดังขึ้น



“น้อง วิน  น้อง วิ วิน ครับ” เสียงเรียกน้องวินดังขึ้นมาขณะที่เรากำลังรับประทานอาหารกันอยู่ น้องวินหยุดกินแล้ววิ่งไปที่เตียงของวาลทันที แล้วก็เอื้อมมือไปหยิบออดมากดเรียกพยาบาลที่อยู่เวรทันที ผมเองกหยุดกินแล้ววิ่งไปนั่งข้างเตียงของวาลที่ร้องเรียกน้องวินอยู่



“น้องวินครับมานี้ครับ” ผมเรียกลูกชายแล้วตบที่ตักตัวเองเพื่อให้น้องวินมานั่งที่ตักของผม



“ป๊ะป๊า แม่เรียกน้องวิน” แววตาแล้วน้ำเสียงของน้องวินดูดีใจมาก ไม่ต่างจากผมครับ



“ครับป๊าก็ได้ยินครับ แม่วาลจะตื่นมาอยู่กับเราแล้วนะครับ”พูดไปก็สะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้





ก๊อก ก๊อก ก๊อก



“ขออนุญาติค่ะ” ไม่นานพยาบาลก็เดินเข้ามาพร้อมคุณหมอเจ้าของไข้ของวาลก็เดินตามมาโดยถือแฟ้มสำหรับการซักประวัติตรวจประเมินมาด้วย



“เชิญครับ สวัสดีครับคุณหมอ” กล่าวเชิญและทักทายคุณหมอไป แล้วหันไปดูวาลอีกรอบก็เห็นว่าตอนนี้วาลลืมตาขึ้นมาแล้ว แต่เพราะนห้องคงแสงจ้าเกินไปเลยหลับตาลงไปอีกรอบเพื่อปรับโฟกัสใหม่



“สวัสดีครับคุณชาร์ป หมอขอตรวจดูอาการของคุณวาลหน่อยนะครับ พี่หวานครับผมขอชาร์ตคนไข้หน่อยครับ” พอคุณหมอได้ชาร์ตแล้วก็เริ่มตรวจอาการของวาลอีกรอบ “อาการข้างต้นไม่น่าเป็นห่วงนะครับ...” พอคุณหมอพูดแค่นั้นวาลก็ลืมตาขึ้นมากมองไปรอบห้องพักแล้วถามขึ้น



 “ผมหลับไปนานไหมครับ”



“สามวันเต็มครับที่หลับไป อาการไม่น่าเป็นห่วงมาก แต่ต้องอยู่พักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อนนะครับ แล้วผมจะจัดยาให้นะครับ เพราะต้องทานยาฆ่าเชื้อป้องกันแผลติดเชื้อ และตอนนี้ก็ให้ทานอาหารอ่อนๆไปก่อนนะครับเพราะคนที่พึ่งจะฟื้นระบบย้อยอาหารยังทำงานไม่เต็มที่เท่าไหร่ แล้วก็ถ้าคนไข้ลุกเดินได้หมอก็อยากให้เดินออกกำลังกายบ้างนะครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรที่ผิดปกติก็กดเรียกได้ตลอดเวลาเดียวพยาบาลที่อยุ่เวรจะเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ ขอตัวนะครับ”



“ขอบคุณครับคุณหมอ”  หลังจากที่คุณหมอออกไปแล้วผมก็เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงคนไข้อีกครั้ง และดูแม่ลูกคุยกันไป คนเป็นแม่นั้นร้องไห้ไปแล้วครับ น้ำตาไหลออกมาพร้อมเสียงสะอื้นพร้อมกอดลูกชายตัวน้อยเอาไว้และน้องวินก็คอยเช็ดน้ำตาให้วาลไปด้วยดูแล้วเป็นภาพที่น่ารักมากเลยครับ แล้วว่าก็หันมามองที่ผมแล้วถามขึ้น



“พี่ชาร์ปไม่ไปทำงานหรือครับ” ไม่เคยที่จะห่วงตัวเองก่อนเลย นี่แหละนิสัยของวาลชอบที่จะห่วงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ



“ไม่ครับ ท่านประธานไม่เข้าบริษัทคงไม่มีใครว่าหรอกครับ” แล้วก็ได้วงหน้าค้อนมาวงใหญ่เลยครับ



“ไม่ได้นะครับ ทำไมละเลยแบบนี้ละครับ ปล่อยบริษัทแบบนี้ได้ยังไงครับ”



“โธ่วาลตื่นมาแล้วก็ว่าพี่เลยนะครับ แล้วนี้หิวไหมครับ กินอะไรไหม” น้อยใจนะครับที่โดนว่าแบบนี้ แต่เพราะความเป็นห่วงของคนที่เรารักความน้อยใจทั้งหลายเลยไม่แสดงมันออกมาให้เขาเห็นหรอกครับ



“ก็หิวนะครับไม่ได้กินอะไรมาตั้งสามวัน ดูสิครับตัววาลบวมน้ำเกลือไปหมด”



“ก็จริงนะ น้องวินดูคุณแม่สิครับตัวบวมมากเลย พี่ว่าวาลคงต้องไปเดินออกกำลังกายบ้างแล้วละ เอาไว้ตอนที่เราร่างกายสมบูรณ์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นก่อนละกันเดียวพี่พาไป”



“ขอบคุณครับ แต่ตอนนี้วาลหิวมากเลยครับมีอะไรทานไหมครับ”



“ไม่มีเลยครับ เดียวพี่โทรให้ทางโรงพยาบาลจัดอาหารอ่อนมาให้เรากินนะ อาจจะจืดชืดไปบ้างก็กินหน่อยละกัน คิดเสียว่ากินเพื่อร่างกายของเรา”



“ครับผม แล้วน้องวินทานข้าวหรือยังครับ สายมากแล้วนะครับ”



“น้องวินทานไปนิดเดียวเอง แม่ก็เรียกน้องวิน เมื่อคืนบอกหิวน้ำน้องวินก็เอาน้ำมาให้แล้วแม่ก็หลับไป น้องวินขี้เกียจเดินไปนอนที่เตียงเลยนอนจับมือแม่ที่เตียงตรงที่ป๊านั่งแล้วตอนเช้ามาน้องวินขึ้นมานอนบนเตียงได้ยังไงก็ไม่รู้”



“ละเมอหรือเปล่าเรา” แอบแย่ลูกไปครับ



“น้องวินไม่เคยละเมอเลยนะ ไม่เชื่อถามแม่ครับได้เลย” มีกอดอกพูดอย่างภาคภูมิใจ



“ครับๆ ป๊ายอมแล้ว น้องวินไม่ได้ละเมอหรอครับ ป๊าอุ้มน้องวินขึ้นไปนอนเองครับ ตอนแรกป๊าจะพาไปนอนที่เตียงแต่น้องวินเลยไม่ยอมปล่อยมือแม่วาลเลย ป๊าเลยจัดท่าให้น้องวินนอนสบายๆกับแม่วาลไงครับ หายสงสัยหรือยังทีนี้”



“หายแล้วครับ แหะๆ” น้องวินก็คือน้องวินอยู่วันยังค่ำ น่ารักแบบไหนก็ยังน่ารักช่างพูด ช่างเอาใจใส่ทุกคนไปหมดสิน่า



“เอาละครับน้องวินลงมาก่อนครับแม่วาลจะได้พักผ่อน วาลพักผ่อนไปก่อนนะ เดียวข้าวมาพี่จะเรียก”



“ไม่เอาหรอกครับ นี่วาลก็นอนมาสามวันติดละ วาลไม่ง่วงเท่าไหร่หรอกครับ”



“โอเค ได้ครับ เดียวพี่โทรให้ทางโรงพยาบาลจัดอาหารให้ก่อนนะ”



“ขอบคุณครับ” แล้วผมก็เดินไปที่โทรศัพท์ที่ใช้เฉพาะภายในโรงพยาบาลกดเบอร์โทรออกไปที่ชั้นโรงครัวเพื่อให้เขาจัดเตรียมข้าวตัมมาให้ สั่งเสร็จเรียบร้อยก็หันกับไปดูก็พบกับภาพที่น่ารักคือ แม่ลูกนอนกอดกันกลมเลย ตอนแรกบอกไม่ง่วง แล้วตอนนี้ละ หลับทั้งแม่ทั้งลูกเลยครับ อยากเก็บภาพประทับใจนี้ไว้จังนะ คิดแล้วก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพน่ารักของคนที่ผมรักหมดใจทั้งสองคน





อีกด้าน



“รักกันเข้าไป คุณชาร์ปค่อยดูเถอะ ค่อยดู สักวันคุณต้องเสียใจที่ไม่เลือกฉัน ค่อยดูความหายนะที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวอันแสนน่ารังเกียจของคุณได้เลย”  รินเอ่ยออกมาเมื่อเห็นภาพอันบาดตาบาดใจ แล้วเธอก็ยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้องเมื่อคิดแผนการชั่วร้ายไว้ในหัว รินเป็นคนที่มีแผนการสำรองเพื่อจัดการคนที่เธอเกลียดเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันแผนการที่เธอจะทำเพื่อกำจัดคนที่เธอเกลียดนั้นเธอเองก็ได้คิดเอาไว้หมดแล้ว หลังจากนั้นเจ้าหล่อนก็เดินออกจากประตูห้องพักของวาลไปเพื่อที่จะไปเตรียมการในการจัดการเสี้ยนหนามหัวใจของเธอ



“พวกวิปริตจะต้องหายไปจากคุณชาร์ป คุณชาร์ปต้องเป็นของฉันคนเดียวคอยดู หึหึ”









#############################################################

มาแล้วครับ เป็นอีกตอนที่แต่งได้ยากมากไม่รู้จะเขียนออกมาได้อรรถรสหรือเปล่า แต่บอกเลยว่าแต่งไปมันจุกในอก การแสดงอารมณ์อาจจะไม่มากพอก็ขออภัยด้วยนะครับ

แล้ววาลก็ฟื้น ครอบครัวสุขสรรค์ก็กลับบมา

รินนางคิดจะทำอะไรนะต้องค่อยติดตามกันนะครับ







ชอบก็กดไลค์

ถ้าใช่ก็คอมเม้น

ถ้าอยากให้ใจก็แชร์ไปด้วยนะครับ





ปล. เรื่องนี้ขอสปอยว่าจะมีภาคน้องวินแน่นอนครับ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ปล 2. ถ้าเรื่องนี้ได้รับความนิยมมากๆอาจจะมีการรวมเล่มเกิดขึ้นนะครับ แต่ถ้าไม่มีคนชอบมากหรือไม่มีคนอยากให้รวมเล่มก็จะไม่รวมครับก็อ่านฟรีต่อไปเนาะ  :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ปล 3. นิยายเรื่่องใหม่ก็จ่อคิวที่จะลงเร็วๆนี้อีกหลายเรื่องตอนนี้ก็ลงไปแล้วกับเรื่อง Bon Appétit (รสแห่งรัก) ฝากติดตามด้วยนะครับ  :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด