Which one? รัก||หลอก||เด็ก แจ้งข่าวตีพิมพ์ คห. 697 [28/06/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Which one? รัก||หลอก||เด็ก แจ้งข่าวตีพิมพ์ คห. 697 [28/06/19]  (อ่าน 309517 ครั้ง)

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โฮะๆ........คุณแม่ตั้งใจแกล้งลูกแฝด แกล้งลูกเขยแน่เยย  o18 o18 o18

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
คุณแม่ขวัญตาสุดยอดที่สุดแล้ว 5555 ทำเอาทั้ง 2 คู่เรียบร้อยขึ้นมาเลย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
สุดยอดคุณแม่จริงๆ  ตั้งใจขึ้นมาขัดแน่ๆ  :hao7:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
น้องเวย์โดนตลอดอะ มาขัดจังหวะจนโดนทีมมองแรงใส่(?)
ส่วนคุณแม่ก็ขัดทุกคู่เลยค่ะ คุณแม่น่ารักนะ รู้ทันลูกหมดเลย 555555
ทีมกับคุณวีน่ารักกกกก

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณแม่จงใจสินะคะ หึหึ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
“จงใจใช่มั้ยครับ?”




มือที่กำลังซอยผักชีอยู่อย่างคล่องแคล่วชะงัก ขวัญตาหันกลับมาเห็นชายหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่ในชุดที่ยืมมาจากสามีของเธอยืนกอดอกพิงประตูทางเข้้าห้องครัว หญิงสาวยิ้ม รอยยิ้มใสซื่อไม่มีพิษภัยที่เหมือนกับลูกชายคนเล็กราวกับหลุดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน




บอกตามตรง หลังจากที่ค้นพบความจริงเรื่องที่ว่าพ่อกับแม่ของทีมเป็นใคร เขาก็ไม่แปลกใจกับพฤติกรรมร้ายเงียบของคน
รักสักนิด




“ตื่นเช้าจังเลยนะจ๊ะวี นี่น้องทีมยังไม่ตื่นเหรอ?”




“ยังนอนอยู่ครับ แล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องด้วย ผมรู้นะว่าเมื่อคืนพี่จงใจ”




ร่างสูงเอ่ยด้วยสายตาคาดโทษ แต่คนถูกจับได้ไม่ได้สะทกสะท้านกับความผิดของตนเลย




“แหม ถึงวีจะเป็นคนดี ทำให้น้องทีมมีความสุข ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่จะยอมยกลูกให้ง่ายๆโดยไม่ไม่บทลงโทษอะไรนี่จ๊ะ เดี๋ยวเสียนิสัยกันพอดี”




หญิงสาวร่างเล็กในชุดผ้ากันเปื้อนหันกลับไปทำอาหารเช้าให้คนในครอบครัวต่อพร้อมฮัมเพลงอย่างสบายใจ





“แล้ว...หายกันรึยังครับ?” วีรภัทรถาม




“เห็นว่าน้องทีมชอบวีมากหรอกนะ พี่แกล้งแค่นี้ก็ได้” คนเป็นแม่ตอบเสียงใส ขยับไปสับเนื้อหมูต่ออย่างสบายอารมณ์ วีรภัทรส่ายหน้าอย่างปลงตกก่อนจะเดินกัลบไปที่ห้องนอนของเขาซึ่งคนรักยังคงหลับอยู่บนเตียง นาฬิกาในตอนนี้บอกเวลาตีห้ากว่า เขาจึงตัดสินใจล้มตัวลงนอนข้างคนรักต่อ ร่างสูงดึงคนข้างๆเข้ามาในอ้อมกอดอย่างระมัดระวังไม่ให้อีกฝ่ายตื่น จุมพิตเบาๆที่ขมับของร่างโปร่ง




จากที่เขารู้จักขวัญตามานาน หากทีมร้ายกับคนที่ทำไม่ดีกับเขาได้เพียงครึ่งหนึ่งของมารดา วีรภัทรก็รู้แล้วว่าไม่มีอะไรที่เขาต้องเป็นห่วงอีกฝ่าย








“โห แม่ครับ ทำเยอะขนาดนี้เลี้ยงคนได้ทั้งซอยเลยนะเนี่ย”




เทสต์ตาโตกับความอลังกาลของอาหารบนโต๊ะ นอกจากจะมีข้าวต้มหมูสับตำหรับอาหารเช้าไทยแล้วยังมีขนมปังปิ้งทาเนยทาแยม ไส้กรอก แฮม เบคอน และน้ำส้มคั้นเหยือกโต ยังไม่รวมน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ตัวโตน่าทานที่วางคู่กัน เรียกได้ว่ามี
ครบทุกความต้องการของคนอยากอาหารเช้าจริงๆ




“ก็แหม แม่ไม่ได้มีโอกาสทำกับข้าวให้ลูกๆกินบ่อยๆนี่ ขนาดเวลาที่กลับมาไทยนานๆทีมยังแย่งหน้าที่แม่เลย”




มารดาของเขาตอบทีเล่นทีจริง



“ก็ทีมไม่อยากให้แม่เหนื่อยนี่ครับ” ลูกคนเล็กแย้งขึ้นเสียงอ่อย




“น่ารักจริงๆลูกรักของแม่”




ขวัญตายิ้มให้ลูกชายคนเล็กอย่างเอ็นดู มื้ออาหารดำเนินต่อไปด้วยความเงียบโดยมีเพียงเสียงเวย์ที่ยัดทุกสิ่งทุกอย่างที่คว้าได้เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อยราวกับอดอยากมาหลายปี




“พี่ธัช ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ย”




วีรภัทรเอ่ยทำลายความเงียบ เจ้าของบ้านเลิกคิ้ว ก่อนจะพยักหน้า





“ทั้งที่ทีมชอบทำอาหารขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ให้เรียนคณะที่เกี่ยวกับการทำอาหารโดยตรงเลยล่ะครับ”
ทีมเม้มริมฝีปาก เขาไม่คิดเลยว่าบทสนทนาที่จบไปสามปีแล้วจะกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง ธัชธรรมกับขวัญตามองหน้ากัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น




“จริงๆก็ถามน้องทีมตั้งแต่แรกแล้วแหละว่าอยากเรียนมั้ย ที่จริงจะส่งไปเรียนเชฟที่ต่างประเทศด้วยซ้ำ แต่พอรู้ว่าถ้าไปแล้วจะไม่ได้อยู่กับเทสต์ น้องทีมก็ไม่ยอมท่าเดียว”




“ทั้งที่น้องทีมไม่ชอบเรื่องการบริหรซักนิดแท้ๆ” ขวัญตาทอดถอนใจ





“ทีมก็เรียนได้นี่ครับ”




คนที่เป็นหัวข้อสนทนาแย้งเสียงอ่อย





“เรียนได้กับอยากเรียนมันไม่เหมือนกันนะน้องทีม แม่ไม่อยากให้ทีมฝืนใจทำอะไรที่ไม่ชอบเลย”




ขวัญตาพูดอย่างเป็นห่วง แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายคนเล็กของเธอมักจะเป็นฝ่ายเดินตามพี่ชายต้อยๆเสมอ เธอไม่อยากให้ลูกชายใช้ชีวิตในโลกที่ต้องพึ่งพาเทสต์อยู่ตลอดเวลา




“ทีมโอเคครับ ทำอาหารเรียนเมื่อไหร่ก็ได้”




ทีมตอบอย่างที่ตัวเองตอบมาหลายครั้งตลอดสามปี แต่ครั้งนี้น้ำเสียงของร่างโปร่งดูมีความเคลือบแคลงในความคิดของตัวเองมากกว่าเดิม วีรภัทรที่สังเกตเห็นความหวั่นไหวนั้นวางมือบนต้นขาของคนรักอย่างให้กำลังใจ





“นั่นสินะ ทำอยากที่เธออยากทำเถอะ”




“เอ้อ วี กูถามบ้างดิ”




ธัชธรรมเอ่ยขึ้นหลังจากดื่มกาแฟอึกใหญ่ วีรภัทรหันกลับมาหาชายหนุ่มรุ่นพี่





“อะไรเหรอครับพี่?”




“มึงมีแผนจะแต่งกับน้องทีมมั้ย?”




แค่กๆๆ




ทีมทุบอกตัวเองเมื่อเศษขนมปังไหลเข้าคอจากความตกใจเมื่อครู่ วีรภัทรช่วยลูบหลังให้คนรักหายใจสะดวก หยิบแก้วน้ำส้มส่งให้คนอายุน้อยกว่าดื่มแล้วหันไปตอบบิดาของคนรัก




“มีครับ”



พรวด!!




ทีมพ่นน้ำใส่หน้าของเวย์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ นี่เขากำลังฝันอยู่ใช่มั้ย




“เออดี อย่าคิดนะว่าเป็นลูกชาย ไม่ต้องจดทะเบียนแล้วมึงไม่ต้องเสียค่าสินสอดทองหมั้น ไม่ต้องเสียค่าจัดงานอะไรน่ะ”
ธัชธรรมเอ่ยเสียงดุเยี่ยงว่าที่พ่อตาที่หวงลูกสาวอย่างเต็มเปี่ยม วีรภัทรเอื้อมมือมากุมมือของคนรักที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง




“ผมไม่เคยคิดแบบนั้นอยู่แล้วครับ”




“เดี๋ยวสิครับคุณวี ทำไมคิดอะไรไปไกลขนาดนั้นแล้วล่ะครับ”




ทีมปรามทั้งคนรักและบิดาของตน เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจำเป็นจะต้องมีงานแต่งงาน ในเมื่อเขากับคุณวีก็รักกันดี ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำอะไรแบบนั้นเสียหน่อย




“ไม่ต้องห่วง ป๊าไม่ให้น้องทีมแต่งจนกว่าจะเรียนจบอยู่แล้วลูก” ธัชธรรมว่า “แต่เรื่องสินสอดทองหมั้น เรื่องงานอะไรพวกนี้ คุยกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆจะได้เตรียมตัวกันทัน”




“พี่ธัชเรียกเท่าไหร่ว่ามาเลยครับ”วีรภัทรยิ้ม




“หุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัท อย่าตุกติกล่ะ กูรู้ว่าบริษัทมึงยังไม่เข้าตลาดหุ้น แล้วตอนนี้มึงก็ถืออยู่หกสิบห้าเปอร์เซ็นต์”ธัชธรรมดักคออย่างรู้ทัน





“ป๊าครับ! จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ หุ้นเยอะขนาดนั้นผมถอนคุณวีออกจากตำแหน่งยังได้เลยนะครับ” ทีมโวยวาย ทำไมป๊าของเขาถึงได้ขออะไรไร้สาระแบบนี้ ไหนจะเวย์ที่เป็นทายาทอันชอบธรรมอีก ที่ป๊าจะเอาให้คุณวีหมดตัวเลยรึไง





“คงไม่ได้หรอกครับ...” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ




เห็นมั้ย นานๆจะเห็นคุณวีมีสติไม่บ้าจี้ยกทุกอย่างให้เขาซักที




“เพราะผมเซ็นต์ยกหุ้นให้ทีมไปสี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้ว”



ว้อท?



“อะไรนะครับคุณวี?”



ทีมหันกลับมาหาคนรักอย่างตกใจ วีรภัทรก้มลงหยิบกระเป๋าของตนขึ้นมาเปิดเอาซองเอกสารสีน้ำตาล




“ร่างสัญญาไว้แล้ว ว่าจะให้เป็นของขวัญครบรอบน่ะ แต่เกิดเรื่องซะก่อนเลยยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย”




“ของแบบนั้นผมจะเขาไปทำอะไรล่ะครับคุณวี?!”




ทีมถามเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ นี่คบกันยังไม่ถึงปียังให้เขาขนาดนี้ วันครบรอบหนึ่งปีเขาไม่ได้ที่ดินบนดาวอังคารเป็นของขวัญเลยเหรอ?




“กูแค่ว่าจะอำขำๆ เล่นซะกูไปไม่เป็นเลย”ธัชธรรมบ่นอุบ “เคลียร์กันเอาเองแล้วกัน”




“อ้าว...”




ทีมหันขวับกลับไปหาบิดาของตน อะไรคือการเปิดประเด็นแล้วปล่อยให้เขาตีกันแบบนี้




“ป๊า แล้วป๊าไม่ห่วงผมบ้างเหรอ?”




เทสต์ที่นั่งเงียบอยู่นนถามขึ้นอย่างสงสัย ธัชธรรมและขวัญตามองหน้ากัน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา




“ฮ่าๆๆๆๆ โถไอ้เทสต์เอ๊ย ป๊าไม่แถมบ้านพร้อมที่ดินให้น้องเวย์เขาก็บุญเท่าไหร่แล้ว”




“พูดมาขนาดนี้แถมมาก็ได้นะป๊า”




เทสต์บ่นอุบ กอดอกทำหน้ามุ่ยอย่างงอนๆที่พ่อกับแม่ไม่หวงตัวเองบ้าง





“ไม่ต้องมาทำหน้างอน ไม่น่ารักเหมือนน้องทีมแล้วยงไม่เจียมอีก”




ธัชธรรมเขกกระโหลกลูกชายคนโตอย่างหมั่นไส้ มื้ออาหารในเช้านี้ดำเนินต่อไปด้วยเสียงหัวเราะ และความโล่งใจของสองแฝดที่คนรักสามารถเข้ากับบิดามารดาของพวกตนได้เป็นอย่างดี










หลังจากกล่าวลาทั้งบิดาและมารดาของตนแล้ว พวกเขาก็กลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน เนื่องจากวันนี้เทสต์กับเวย์ยังไม่มีสอบ ทั้งสองจึงตัดสินใจอ่านหนังสืออยู่บ้าน แต่ทีมยังมีรายงานตัวเองยังไม่ได้ส่งอยู่จึงเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา




“จะเข้ามหาลัยเหรอ?”




วีรภัทรถามเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทีมพยักหน้า ย่อตัวลงเช็คของในกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนพื้นแล้วยกขึ้นสะพาย




“ไปนะครับ”




“เดี๋ยวฉันไปส่ง ยังไงก็จะเข้าบริษัทอยู่แล้ว”




วีรภัทรอาสา ทีมเกือบลืมไปแล้วว่าร่างสูงลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว ทำให้สามารถไปรับไปส่งเขาได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องหลบๆซ่อนจอดรับเขาตามมุมตึกหรือนัดเขาไปที่ลานจอดรถอาจารย์ที่ไม่มีคนอีกต่อไป




“ขอบคุณนะครับ”




ทีมยิ้ม ทั้งที่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเดือดร้อนตอนที่พวกเขาคบกันอย่างลับๆในมหาวิทยาลัย แต่พอรู้สึกว่าไม่ต้องระแวงอะไรอีกแล้วต่อจากนี้ มันทำให้ร่างโปร่งรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกไปจากอก สามารถหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง




พวกเขามาถึงมหาวิทยาลัยภายใเวลาไม่กี่นาที วีรภัทรจอดรถเทียบฟุตบาทหน้าประตูรั้วมหาวิทยาลัยทีอยู่ติดกับคณะที่เขา
จะต้องไปส่งรายงาน ตอนนี้เป็นช่วงสายของวันทำให้มีรถพยายามเลี้ยวเข้ามหาวิทยาลัยและนักศึกษที่เพิ่งลงจากรถโดยการเดินผ่านไปมาพอสมควร





“ถ้าอย่างนั้นผมลงตรงนี้นะครับ คนวีจะได้ไม่ต้องเข้าไปวนรถในมอ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”




ทีมหันมาพูดกับคนรักแล้วยกมือไหว้อีกฝ่าย วีรภัทรพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ร่างโปร่งเปิดประตูลงมาจากรถเมื่อเขาได้ยินเสียงดับเครื่องยนต์และประตูรถปิด ทีมหันกลับไปหาคนรัก คิดว่าตนคงจะลืมอะไรไว้ แต่สิ่งที่ได้รับคือริมฝีปากร้อนที่ประกบลงมาอย่างกระทันหัน ทีมที่ยังไม่ทันได้ตั้งสติจูบตอบอย่างลืมตัว มือเรียวกำแขนเสื้อแขนยาวของคนรักที่เขาเป็นคนรีดเองกับมือจนเกิดรอยยับ ทีมดันแผงอกแกร่งออกจากตัวเบาๆเมื่อเริ่มรู้สึกถึงเสียงฮือฮาของคนรอบข้าง แต่วีรภัทรกลับไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ จนกระทั่งทีมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองขาดอากาศหายใจนั่นแหละร่างสูงถึงได้ใจอ่อนยอมปล่อยเขาเป็นอิสระ




“ทะ…ทำ…อะไรครับเนี่ย...”




ร่างโปร่งในชุดนักศึกษาหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด วีรภัทรใช้นิ้วโป้งเช็ดที่มุมปากซึ่งเคลือบด้วยของเหลวสีใสอย่างอ่อนโยน เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้มีความอายกับสิ่งที่ตนทำลงไปสักนิด




“ก็แสดงความเป็นเจ้าของไง เกิดเจ้าพวกเด็กเหลือขอมาทำยุ่มย่ามกับเธอตอนที่ฉันไม่อยู่ขึ้นมาจะทำยังไง”




“ตะ…แต่นี่มันมหาลัยนะครับ”





ร่างโปร่งค้อนอีกฝ่ายอย่างงอนๆ วีรภัทรที่รู้อยู่แล้วว่าคนรักจะพูดแบบนี้ชี้ไปที่ประตูรั้วพร้อมรอยยิ้มมุมปาก





“ยังไม่เข้าเขตมหาลัยซักหน่อย”




“คุณวี!”




“ไปละนะ เดี๋ยวประชุมสาย”




เมื่อเห็นคนรักยังคงโกรธอยู่ ร่างสูงจึงรีบชิ่ง ยังไม่ลืมที่จะหอมแก้มเนียนใสฟอดนึงเร็วๆตอนที่ร่างโปร่งเผลอ ก่อนจะกลับเข้าไปในรถสปอร์ตคันหรูของตนแล้วขับหนีไป




“…”




ทีมยกมือขึ้นแตะแก้มของตัวเองเบาๆพร้อมรอยยิ้มเอียงอาย ร่างโปร่งหันกลับไปยังทางเข้ามหาวิทยาลัย เดินยิ้มไปตลอดทางโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองมาท่ี่ตัวเอง







------------

ตอนหน้าตอนจบล้าวๆๆๆๆๆ

จริงๆกะแค่จะให้เป็นเรื่องสั้นside storyของน้องแว่น
ไม่คิดว่าจะมาถึงตอนนี้55555
ขอบคุณที่ติดตาม อย่าลืมตามตอนพิเศษ คู่คุณเชฟ แล้วก็เรื่องอื่นๆด้วยเน้อ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมรู้สึกว่าชื่อตอนนี่เหมือนจะว่ากระทบทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ ฮา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สงสารเวย์เจอแม่เลี้ยงใจร้ายเหวี่ยงใส่บ่อยๆ จนกลัวตัวสั่นงันงก55555

ป๋าสายเปย์มากโอนหุ้นให้ตั้ง 40% หลงเมียเด็กสุดๆ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
บางทีก็สงสารน้องเทส :laugh:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ทีมร้ายได้แม่จริงด้วย 5555

คุณวีประกาศความเป็นเจ้าของอย่างโจ้งแจ้งมากอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
คนรับเคราะห์ในหลายๆตอนมักเป็นเวย์ สงสารน้องงงง 55555
คุณวีใจป้ำมาก! ป๋าสุดๆ น้องทีมตกใจนะ!
พี่เทสต์ก็น่ารักนะ ถึงพ่อไม่หวงก็อน่างอนสิ 55555

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ป๋าวีสายเปย์มากค่าาา เปย์จริง เปย์แรงสุดๆ

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
สนุกมากเลยค่ะ คุณวีนี่ป๋าจริงๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Epilogue: เด็กดีเรียนจบแล้วนะครับ





หลังจากลำบากตรากตรำ ผ่านเรื่องดีๆและเรื่องร้ายๆมาตลอดสี่ปี ในที่สุด วันที่ผู้ปกครองของเด็กมหาวิทยาลัยทุกคนรอคอยก็มาถึง




“หิวข้าว”




นั่นเป็นคำแรกที่เทสต์พูดออกมาหลังจากที่พวกเขาถ่ายรูปกับเพื่อนๆเสร็จ เดินผ่านตรงไหนพวกเขาก็โดนดึงไปถ่ายรูปด้วยจนกว่าหลุดมาหาพ่อกับแม่ได้เล่นเอาเหงื่อตก แต่เมื่อคิดว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นหลายๆคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสี่ปี ก็ถือว่าคุ้มในความคิดของทีม




“แม่ซื้อข้าวปั้นมาให้ ทานรองท้องไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวถ่ายรูปที่ซุ้มเสร็จ”




มารดาของเขาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ลูกชายคนโต ส่วนเวย์ที่รับตำแหน่งช่างภาพจำเป็นก็รีบบึ่งออกมาจากห้องเรียนทันทีที่เลิก ร่างสูงยังอยู่ในเสื้อช้อปสีน้ำเงินเข้ม ที่คอห้อยเกียร์สีทองสลักหมายเลขรุ่นและรหัสของเด็กหนุ่มไว้ ทีมไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเอาเกียร์ออกมาห้อย แต่เมื่อเทสต์ไม่ได้ทักอะไรเขาจึงสรุปว่าเวย์คงเคยใส่แต่เขาไม่ได้ใส่ใจจะจำเท่านั้น




“ยินดีด้วยนะทีม”




เสียงทุ้มของคนรักที่โทรมาบอกว่าจะมาสายดังขึ้นจากด้านหลัง ทีมหันกลับไปหาร่างสูงที่ยังอยู่ในชุดสูททำงานสีดำสนิทพร้อมรอยยิ้มกว้าง โผเข้ากอดวีรภัทรที่กอดเขาตอบแน่นพร้อมรอยยิ้มกว้าง




“นึกว่าคุณวีจะมาไม่ทันแล้วนะครับเนี่ย”




“วันรับปริญญาของเธอทั้งที ฉันจะไม่มาได้ยังไง แค่ต้องรอมาพร้อมของขวัญแค่นั้นแหละ”




“ของขวัญเหรอครับ?”




ทีมเอียงคอมองเลยผ่านร่างสูงไป แต่ก็ไม่เห็นอะไรที่ดูคล้ายห่อของขวัญเลยสักนิด




“แฮ่!”




จู่ๆเสียงร้องก็ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับมือใหญ่ที่ตะครุบลงบนไหล่ทั้งสองข้าง ทีมสะดุ้งโหยง หันกลับไปหาร่างสูงของเชฟใหญ่ที่ฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจที่แกล้งร่างโปร่งสำเร็จ




“พี่ใหญ่!พี่นัท!”





ทีมร้องขึ้นอย่างดีใจ หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดที่เขาก่อไว้จบลงทีมก็โทรไปหาเชฟใหญ่เพื่อสารภาพความจริงเพราะไม่อยากให้เชฟที่เขาชื่นชอบเข้าใจผิดอยู่คนเดียว แต่กลับได้ความว่าคนที่ทำให้แผนของเขาพังครืนลงมาก็คือชายหนุ่มเอง เล่นเอาเขาไปไม่เป็นเลยทีเดียว




ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเชฟใหญ่กับเชฟณัฐย้ายไปคุมครัวที่ภัตรคารในโรงแรมธาราสาขาออสเตรเลีย ถึงแม้เขาจะยังติดต่อกับอีกฝ่ายเป็นระยะ แต่ทีมไม่คิดเลยว่าทั้งสองคนจะกลับมาร่วมงานรับปริญญาของเขาถึงที่นี่




“ยินดีด้วยนะที่เรียนจบแล้ว เกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยนี่ ไม่เบาเลยนะเรา”




เชฟใหญ่ชม ทีมยิ้มรับหน้าบาน จริงๆแล้วในกลุ่มเขาคนที่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมีเขา กวินภพ และเหนือฟ้า แต่ว่าคนสุดท้ายเลือกที่จะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปีที่แล้วหลังจากเลิกกับพี่ชายของกวินภพ ทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่ครบแก๊งเหมือนคนอื่นๆ ส่วนกวินภพ พอแฟนโผล่มาเซอร์ไพร์สก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย




เทสต์ก็ไม่ได้เกรดขี้ริ้วขี้เหร่อะไร พี่ชายของเขาได้เกียรตินิยมอันดับสองมาอย่างชิวๆตามประสาคนเรียนเก่งแต่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือกับเขาเท่าไหร่




“อ่ะ นี่ พี่ให้ ยินดีด้วยนะ”




เชฟนัทหยิบเอาซองจดหมายสีขาวออกมาจากกระเป๋า ทีมรับซองจดหมายนั้นมาอย่างประหลาดใจ ร่างโปร่งแกะซองออกแล้วหยิบกระดาษเอกสารภายในออกมาคลี่อ่าน ทีมเบิกตากว้างเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดังที่เขาได้แต่ฝันถึง




“ที่นั่นเขาขอให้พวกเราไปสอนคอร์สเก้าเดือนแทนเชฟที่ลาออกกระทันหัน” เชฟใหญ่อธิบาย “พี่เห็นว่าไหนๆทีมก็เพิ่งเรียนจบ ถ้าอยากจะสะสมประสบการณ์จะมากับพวกพี่ก็ได้นะ”




“แต่..แต่ที่นี่ต้องมีจดหมายแนะนำ ต้องเป็นหัวกะทิจริงๆไม่ใช่เหรอครับ”ทีมถามเสียงสั่น ดวงตาสีน้ำตาลวาววับราวกับเห็นสมบัติล้ำค่าอยู่ตรงหน้า





“แล้วทีมไม่ใช่รึไงล่ะ?” เชฟใหญ่ถามย้อนด้วยรอยยิ้มประจำตัว ทีมยิ้มเขิน ก่อนจะได้ยินเสียงกระแอมกระไอมาจากคนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ




“เคยอยู่ๆก็ตกงานมั้ย?”




“โธ่ ท่านประธานครับ แฟนผมยืนแยกเขี้ยวอยู่ตรงนี้ทั้งคนผมไม่กล้าหรอกครับ” วีรภัทรยิ้มเจื่อน




“แปลว่าถ้าผมไม่อยู่ตรงนี้พี่ก็กล้าใช่มั้ย มานี่!”




ทีมได้แต่ยิ้มอ่อนมองคู่รักทั้งสองวิ่งไล่กันไปมาเหมือนเด็กๆ ก่อนจะเบนความสนใจกลับมาที่กระดาษในมือของตน




“ว่าไง...สนใจมั้ย”




วีรภัทรถาม คนในครอบครัวของเขาก็ล้อมวงรอการตัดสินใจของเขาอย่างสนใจเช่นกัน



“ผม…”




ทีมชั่งใจอย่างหนัก เขารู้แล้วว่าเทสต์จะเรียนต่อโทที่นี่ตลอดระยะเวลาสองปีนี้ แต่ทีมรู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถฝืนเรียนในสิ่งที่เขาไม่ชอบไปได้มากกว่านี้ ถึงจะอย่างนั้นเขาก็คิดเสมอว่าเขาคงจะไม่ได้ไปไหนไกลจากพี่ชาย




“ไม่ต้องเอากูมาเป็นข้ออ้างแล้วนะ มึงหมดโควต้าแล้ว”




เทสต์เอ่ยดักคอ ราวกับล่วงรู้ความคิดในหัวของน้องชายฝาแฝด ทีมรู้ตัวว่าบางครั้งเขาก็ใช้เทสต์เป็นข้ออ้างในการปิดกั้นตัวเองจากความเปลี่ยนแปลง แต่ช่วงปีกว่าๆที่่ผ่านมานี้ เขารู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นมากแล้ว




“คุณวี...แล้วถ้าผมไป...”




“ถ้าเธออยากให้ฉันตามไปด้วยฉันก็ตามไป”





วีรภัทรตอบโดยไม่ต้องคิด บางทีทีมก็รู้สึกกลัวใจอีกฝ่ายเหลือเกินว่าจะทำให้บริษัทล้มละลายเพราะเอาแต่ตามใจเขา ร่างสูงที่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนรักหัวเราะในลำคอ




“แค่ย้ายที่ทำงานไปสาขาที่ออสเตรเลียเก้าเดือน บริษัทฉันไม่ล่มหรอก ดีซะอีกถือว่าไปดูงานดูความเรียบร้อยที่นั่น”




“ผมไม่อยากให้คุณต้องเปลี่ยนแผนชีวิตเพื่อผมแบบนี้เลยครับ”




ทีมเอ่ยอย่างเกรงใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากอยู่กับวีรภัทร แต่เขากลัวว่าหากอีกฝ่ายทำอย่างนี้จนเคยตัว เขาจะกลายเป็นศูนย์กลางของชีวิตชายหนุ่มมากกว่าที่กำลังเป็นอยู่




“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเยี่ยมเรื่อยๆเวลาที่ว่าง แค่เก้าเดือนถือซะว่าไปเรียนแลกเปลี่ยน หาประสบการณ์ใหม่ๆ ดีมั้ย?”




ร่างสูงยิ้ม ทีมก้มมองกระดาษในมืออีกครั้งด้วยแววตาของคนที่ตัดสินใจได้แล้ว




เขาจะลองดูซักครั้ง...





อย่างน้อยที่สุด เขาจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังที่บอกลาโอกาสอันแสนวิเศษนี้ไป




“ถ่ายรูปรวมกันดีกว่าเนอะ น้องเวย์ก็เข้ามาด้วยนะ เดี๋ยวให้คนแถวนี้ช่วยถ่าย”




ขวัญตาเอ่ยขึ้น ทีมมองหาเพื่อนที่ไม่ได้วุ่นอยู่กับการถ่ายรูปหมู่กับครอบครัว จนกระทั้งไปสะดุดกับกวินภพที่เดินมากับครอบครัวและคนรักที่ตอนนี้อยู่ปีสองแล้ว




“กล้า ถ่ายรูปให้กูหน่อย”




เทสต์เรียกเพื่อน ถึงแม้จะรู้ว่าเพื่อนของเขาถ่ายรูปได้ห่วยกว่าเด็กหนึ่งขวบที่บังเอิญเหยียบชัตเตอร์ แต่เขาเชื่อว่าพลังอำนาจของความคมชัดกล้องจะสร้างปาฎิหาริย์หักล้างให้รูปของพวกเขาออกมามาพอดูได้




“ให้ไอ้กล้าถ่ายวันนี้คงไม่ได้รูปหรอก มา เดี๋ยวพี่ถ่ายให้”




ติณณ์ภพในชุดกาวน์ตัวยาวเอ่ยขึ้น สภาพของร่างสูงในตอนนี้ดูอิดโรยจนน่าสงสาร และเทสต์ค่อนข้างมั่นใจว่ามันเกี่ยวกับการที่เหนือฟ้าย้ายไปเรียนที่ญี่ปุ่นมากกว่าการเรียนที่หนักขึ้น




“ขอบคุณมากครับ”





ร่างโปร่งเดินกลับไปประจำที่ ข้างน้องชายที่ซุ้ม ตามมาด้วยเวย์ที่ถอดสายคล้องกล้องแล้วยื่นให้นักศึกษาแพทย์ร่างสูง
วีรภัทรก้าวมายืนข้างคนรัก เช่นเดียวกับบิดาและมารดาของสองแฝดและเชฟหนุ่มทั้งสองที่วิ่งไล่กันจนเหนื่อยแล้ว




“1…2….3”





ทีมยิ้มกว้าง รู้สึกเหมือนแค่เมื่อวานที่วีรภัทรช่วยเขาไว้ในผับ




ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมายืนอยู่ตรงนี้ อยู่กับทุกคนที่เขารัก ในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขาวันหนึ่ง





ตอนนี้...เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก




“เสร็จแล้วพี่เทสต์อยากไปกินอะไรเหรอครับ?”





เวย์ถามคนรัก พวกเขาเดินมาซื้อน้ำให้กับทุกคนในบ้านที่ยังคงวุ่นวายกับการถ่ายรูป ขนาดพี่ทีมที่มักจากเขินกล้องอยู่บ่อยๆยังสนุกสนานกับการเก็บภาพความทรงจำกับทุกคนในวันนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด




“แม่บอกว่าอาวีจะพาไปเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมเขาป่ะ?”




เทสต์จ่ายเงินในกับลุงร้านขายน้ำ ปล่อยหน้าที่แบกหามให้เป็นของเด็กบ้าพลังที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากได้ข้าวปั้นช่วยรองท้อง เขาก็รู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองดีขึ้นหลายสิบเท่า




หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างวีรภัทรกับเทสต์ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จากที่กัดกันไปมาจนเขากับทีมขี้เกียจห้ามทัพกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของกันและกัน และพัฒนามาอยู่ในสถานะคนรู้จักที่ทำดีต่อกันได้เป็นระยะ




ทีมเคยขอให้เทสต์เรียกวีรภัทรว่าคุณวีอย่างที่ตัวเองเรียก แต่หลังจากการทดลองครั้งแรก พวกเขาก็ค้นพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัวว่าพวกเขาไม่สามารถแยกเสียงของสองฝาแฝดออกจากกันได้




หลังจากนั้นวีรภัทรก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เทสต์เรียกเขาแบบนั้น ส่วนเทสต์ที่ขนพองสยองเกล้าจากคำเรียกนั้นก็ยอมทำตามแต่โดยดี




สุดท้ายจึงมาจบที่ ‘อาวี’ซึ่งดูจะเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุด




“ดีจังเลยน้าไอ้ทีมเนี่ย แฟนแม่งโคตรป๋า แค่งานรับปริญญาก็ปิดห้องจัดเลี้ยงที่โรงแรมฉลอง” เทสต์เหลือบตามองคนรัก




“แล้วทีเราไม่เห็นได้อะไรเลยน้ออออ”




เวย์ยิ้ม เขารู้ว่าเทสต์พยายามสอดส่องหาของขวัญของตัวเองมาตั้งแต่ตอนที่เขามาถึง แต่เมื่อเห็นเวย์ไม่มีตุ๊กตา ดอกไม้ หรือลูกโป่งแสดงความยินดีเหมือนคนอื่นๆร่างโปร่งก็ไม่ได้มีสีหน้าผิดหวัง ยิ่งจับตาดูเขาทุกฝีก้าวว่าของขวัญของเขาอยู่ที่ไหน





เขาถึงได้ซ่อนมันไว้ในที่ที่โจ่งแจ้งที่สุด เราะเขารู้ว่าพี่เทสต์ที่แสนจะความรู้สึกช้าไม่มีทางมองเห็นของขวัญของเขา




“หลับตาสิครับ”




ร่างสูงบอก วางถุงใส่ขวดน้ำเย็นหลายขวดลงบนม้านั่งข้างๆร้านขายน้ำ ก่อนจะก้มลงเพื่อที่จะได้แกะสายสร้อยคล้องเกียร์ได้สะดวก




“นี่ครับ...หือ?”




เวย์เงยหน้าขึ้นเมื่อเกียร์ของเขาถูกปลดออกจากคอ คนตรงหน้าหลับตาพริ้มตามคำขอของเขา ริมฝีปากเรียวยื่นทำปากจู๋เหมือนจะรอให้เขาจุ๊บ เทสต์ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นว่าคนรักไม่ได้ยื่นหน้าเข้ามาอย่างที่คิด ดวงหน้าเนียนขึ้นสีแดงก่ำก่อนที่ร่างโปร่งจะชักที่หน้าหงุดหงิดกลบเกลื่อนความอาย




“กะ…กลับกันได้แล้ว คนอื่นหิวน้ำแย่แล้ว”




“เดี๋ยวสิครับ..”



เวย์คว้าเอวของคนรักไว้ เสียงหัวเราะในลำคอของร่างสูงยิ่งทำให้เทสต์หงุดหงิดขึ้นไปอีก




“อะไรเล่า?!”




“รับของขวัญผมไว้หน่อยเถอะนะครับ น้า~ กว่าผมจะได้มาต้องโดนว้ากจนหูอื้อเลยนะครับ”





ร่างสูงชูสร้อยของตัวเองขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่เขารู้ว่าเอาชนะใจคนขี้ใจอ่อนอย่างคนรักของเขาได้ทุกครั้งไป




“…เห็นว่าเป็นของหายากหรอกนะ จะรับไว้ก็ได้”




เทสต์สะบัดหน้าหนี แต่รอยยิ้มดีใจบนริมฝีปากเรียวไม่สามารถซ่อนจากสายตาคมของร่างสูงไว้ เวย์คล้องสร้อยให้อีกฝ่ายจากด้านหลัง ติดตะขอสร้อยให้คนรักที่ก้มมองเกียร์สลักรหัสและหมายเลขรุ่นของเขาไว้พร้อมรอยยิ้มกว้าง




“ขอบคุณนะครับพี่เทสต์ ที่ยอมรับของขวัญของผมไว้”




เวย์ดึงร่างโปร่งในชุดครุยตัวหนาเข้ามาในอ้อมกอดจากด้านหลัง ซุกหน้าลงกับซอกคอของคนรักอย่างมีความสุข



“ปล่อยเลย นี่ในมหาวิทยาลัยนะ ทำอะไรเนี่ย”




คนที่ยังทำปากจู๋ให้เขาอยู่แหมบๆโวยวายหน้าแดงก่ำ เวย์เพียงแต่หัวเราะ แต่ไม่ยอมปล่อยร่างในอ้อมกอดไปง่ายๆ




“ชอบมั้ยครับ?”




“ยังจะต้องถามอีกเหรอ? ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าชอบ” คนในอ้อมกอดโวยวาย ร่างสูงยิ้มกับคำหวานแสนซื่อของชายหนุ่มอายุมากกว่า




“ผมหมายถึงเกียร์”




“เอ๊ะ...อะ...ไอ้เด็กบ้า!”




 เวย์วิ่งหลบฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนรักด้วยรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้า ท่ามกลางรอยยิ้มและความสนใจของคนที่พบเห็น กว่าที่เทสต์จะหายโกรธและยอมให้เวย์แบกน้ำไปให้คนที่รออยู่ได้น้ำทุกขวดก็หายเย็นไปหมดแล้ว
 






(จบบริบูรณ์)



-----------
จบล้าวววววววววว :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
แต่ว่าจะยังไม่ย้ายไปห้องจบ เพราะยังมีของคู่รองคุณเชฟทั้งสองอีกฮะ น่าจะเป็นเรื่องสั้น...ละมั้ง?5555
ขอบคุณมากๆที่ติดตามกันมา ฝากคุณนัทกับเชฟใหญ่ไว้ในใจทุกคนด้วยนะฮะ

จุ๊บๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จบแล้วจริงอ่ะ แล้วเรื่องแม่ของเวย์และไหนจะรุ่นพี่นายแบบคนนั้นด้วยอ่ะ จะมีตอนอธิบายไหมอ่ะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       จบแล้วววววววว ใจหายเลยค่ะตามอ่านมาตั้งนาน :mew2: :mew2: :mew2:
รออ่านตอนพิเศษนะค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จบแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

คุณวี ทีม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เวย์ เทสท ์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขกับคนอ่าน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จบแล้วหรอออออออออ ขอจอนพิเศษอีกนิดน้าาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด