Which one? รัก||หลอก||เด็ก แจ้งข่าวตีพิมพ์ คห. 697 [28/06/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Which one? รัก||หลอก||เด็ก แจ้งข่าวตีพิมพ์ คห. 697 [28/06/19]  (อ่าน 309441 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
แจ้งงดอัพนะคะ

เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงไว้ทุกข์ ไรท์ขออณุญาตหยุดอัพนิยายจากวันนี้ไปจนถึงวันที่27นะคะ

จะกลับมาอัพตามปกติวันที่28 ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
ตอนพิเศษ: เซอร์ไพรส!!

เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย




ทีมอยู่ที่นี่มาเก้าเดือนแล้ว หลังจากเริ่มคลาสเรียนในคอร์สสอนทำอาหารระยะเก้าเดือนที่เขาได้รับเป็นของขวัญวันรับปริญญา ทีมรู้สึกเหมือนชีวิตของเขาได้รับการเติมเต็มในที่สุด เขามีความสุขกับการเรียนรู้เทคนิคและคิดค้นเมนูใหม่ๆ การที่เชฟใหญ่และเชฟนัทเป็นหนึ่งในอาจารย์ของสถาบันสอนทำอาหารแห่งนี้ทำให้การปรับตัวของเขาง่ายขึ้น
ร่างโปร่งยังไม่มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวไหนมากนัก เขารู้สึกว่ารอบๆหอพักที่เขาอยู่ก็มีทั้งสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และห้างสรรพสินค้า ไม่จำเป็นต้องดั้นด้นไปไหนไกล




แค่ได้ออกมาเดินเล่นเลียบฟุตบาทที่สามารถมองเห็นชายหาดที่เงียบสงบในยามเย็นได้ไกลๆแบบนี้เขาก็รู้สึกสบายใจและมีความสุขกับช่วงเวลาอันแสนสงบนี้แล้ว




จะดีกว่านี้ ถ้าคุณวีอยู่ตรงนี้กับเขา



เวลาที่วีรภัทรมาหาเขา พวกเขามักจะไปค้างที่โรงแรมธาราเพราะทางหอพักไม่ให้ร่างสูงค้างกับเขา ร่างสูงมาหาเขาเดือนละครั้ง ครั้งละประมาณหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับคนอย่างวีรภัทร ยิ่งช่วงหลังๆชายหนุ่มยิ่งมาหาเขาน้อยลง ถึงแม้จะเข้าใจว่าเป็นช่วงปิดงบ แต่ทีมก็อดน้อยใจนิดๆไม่ได้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะติดต่อมาทุกวันก็ตาม




Rrrr




…อย่างเช่นในตอนนี้




“คุณวี! สวัสดีครับ”




ทีมรีบกดรับวีดีโอคอลของวีรภัทรทันที ร่างสูงอยู่ในชุดทำงาน ดูเหมือนจะเพิ่งได้ออกมาจากห้องประชุม




“ทำไมไม่ใส่ผ้าพันคออีกแล้ว”




วีรภัทรเอ่ยทักขึ้นเป็นอย่างแรก อากาศในฤดูหนาวของเมลเบิร์นทั้งเย็นและชื้น ถึงแม้ทีมจะใส่เสื้อโค้ทตัวหนาและถุงมือกับหมวกเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวเอง แต่ร่างโปร่งกลับไม่ชอบใส่ผ้าพันคอด้วยเหตุผลที่ว่าตนรู้สึกอึดอัด




“ผมไม่ชอบนี่ครับ”




ทีมแก้ตัวเสียงอ่อย นั่งลงบนม้านั่งเพื่อไม่ให้หน้าจอสั่นเวลาคุยกับคนรัก
“ถ้าฉันเห็นเธอทำแบบนี้อีก ครั้งต่อไปที่เจอกันฉันจะเอาปลอกคอน่ารักๆมาให้เธอใส่แค่อย่างเดียว ไม่ใส่เสื้อผ้าอื่นซักชิ้น
เป็นบทลงโทษ ดีมั้ย?”ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มทั้งที่ทีมไม่เข้าใจว่ามันควรจะทำให้เขากลัวตรงไหน





“ครับๆ ต่อไปจะใส่แล้วครับ”ร่างโปร่งยิ้ม




“พรุ่งนี้จะรับใบประกาศแล้วใช่มั้ย ขอโทษนะที่ไปไม่ได้”ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด




“ไม่เป็นไรครับคุณวี เดี๋ยวเราก็เจอกันแล้วนี่ครับ”




แม้จะเสียดายนิดๆ แต่ทีมก็ปลอบใจคนรักที่ติดประชุมด้วยรอยยิ้ม เก้าเดือนที่ผ่านมา ร่างโปร่งสอบผ่านทุกคลาสด้วยคะแนน
สูงที่สุดที่โรงเรียนเคยมี แถมยังได้รับการติดต่อของซื้อสูตรขนมที่เขาคิดเองจากภัตรคารหลายที่ในละแวกนี้ สำนักข่าวท้องถิ่นยังเคยมาสัมภาษณ์เขาด้วยซ้ำกับความสำเร็จของม้ามืดที่ไม่มีใครรู้จัก เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถมีความสุขกับอะไรบางอย่างได้มากมายขนาดนี้ หลายครั้งเขาถึงกับหวังว่าเวลาจะหยุดเดิน เพื่อให้เขาได้อยู่ที่นี่ต่อไปนานๆด้วยซ้ำ
แต่ในบางครั้งที่เขาได้เห็นหน้าผู้ชายที่เป็นสาเหตุของทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเป็นในวันนี้ ทีมกลับรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดเขาจะได้กลับบ้าน กลับไปหาคนที่เขารัก ครอบครัว เพื่อน และประเทศที่เขารู้จักมาตั้งแต่เกิด





“วันนี้อย่าเดินเล่นเพลินนักล่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”




วีรภัทรกำชับคนรักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวางสายไป ทีมอมยิ้มกับหน้าจอที่ดับไปแล้ว ก่อนจะลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วเดินเอื่อยไปตามทางเดินอีกครั้ง









กว่าจะกลับมาถึงก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว เชฟมือสมัครเล่นรู้สึกโชคดีที่คนรักของเขาไม่โทรมาเช็คว่าเขาถึงหอรึยัง ร่างโปร่งตอกบัตรกลับเข้ามาในหอ รู้สึกดีกับอุณหภูมิอบอุ่นทันทีที่ก้าวเข้ามา ทีมกล่าวทักทายลุงที่ดูแลหออย่างสนิทสนม




“Mr.Team, I think you have guests waiting for you in your room. They’re with Chef Yai. (คุณทีมครับ ผมว่าคุณมีแขกรออยู่ที่ห้องนะ เห็นพวกเขามากับเชฟใหญ่)”




ลุงทอม พนักงานดูแลหอพักแจ้ง ร่างโปร่งขมวดคิ้ว เขาไม่มีรูมเมทเลยเอากุญแจอีกอันให้พี่ใหญ่กับพี่นัทไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่ถ้าพี่ใหญ่กับพี่นัทจะมาก็น่าจะโทรบอกเขาก่อนสิ





นอกเสียจากกว่า...





ริมฝีปากเรียวขยับยิ้มกว้างเมื่อคิดว่าคนที่ตั้งใจจะแอบมาเซอร์ไพร์สเขาเป็นใคร





“เซอร์ไพร์ส!!!”




เสียงประทัดกระดาษดังขึ้นทันทีที่ทีมเปิดประตูเข้ามาในห้อง เชฟใหญ่ เชฟนัท พี่ชายของเขา และเวย์ตะโกนลั่นแข่งกับเสียงประทัด ถึงแม้ทีมจะรู้สึกดีใจที่ได้เห็นพี่ชายและเวย์อีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนเพราะทั้งสองติดเรียนอยู่
ตลอด แต่เขาก็อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ที่ไม่เห็นคนรักของตัวเองอยู่ในสายตา





“เป็นอะไร พี่มาแทนที่จะดีใจหน้าบูดเป็นตูดเลยนะมึง” เทสต์แจกมะเหงกน้องชายฝาแฝดด้วยความคิดถึง(?) ทีมยิ้มแห้งอย่างสำนึกผิด




“วันนี้พวกพี่ทำอาหารมื้อใหญ่ไว้ที่บ้านรอเลี้ยงฉลองให้เราโดยเฉพาะเลยนะ รับรอง กินแล้วจะลืมท่านประธานไปเลย”เชฟใหญ่อวดสรรพคุณ ทีมยิ้ม ถึงแม้จะรู้ว่าสิ่งที่พี่ใหญ่พูดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็ตาม





พวกเขาทั้งหมดขึ้นรถที่เชฟใหญ่เช่าไว้เพื่อให้ไปไหนมาไหนกับคนรักได้สะดวกไปที่บ้านพักของพวกเขาซึ่งทางสถาบันจัด
เตรียมไว้ให้ เป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็กบรรยากาศดีที่ถึงแม้จะมีพื้นที่ใช้สอยส่วนอื่นน้อย แต่ก็แลกมาด้วยครัวขนาดใหญ่ที่มีอุปรณ์ทำอาหารครบครัน




“โห อาหารเยอะขนาดนี้กินไม่หมดก็เสียดายแย่เลยสิครับ”




 ทีมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นปริมาณอาหารต่างๆที่เชฟมือาชีพทั้งสองเตรียมไว้ ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน




“ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ทีม มีผมอยู่ซะอย่าง” เวย์ยิ้ม




“ใช่ มีเวย์อยู่มึงไม่ต้องกลัวไม่หมดหรอก กลัวกินไม่ทันมันดีกว่า”




เทสต์เสริม ทั้งห้าเริ่มต้นงานเลี้ยงฉลองวันปิดคอร์สเรียนของทีมด้วยบรรยากาศสนุกสนานเฮฮา ถึงแม้เจ้าของงานจะรู้สึกโหวงๆในใจตลอดเวลาตอนที่เห็นเทสต์ดุเวย์ที่กินเลอะเทอะ หรือตอนที่เชฟนัทกับเชฟใหญ่เถียงกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สุดท้ายร่างสูงเป็นฝ่ายยอมลงให้คนรักเหมือนทุกที




มันทำให้ความเหงาที่เริ่มกัดกินหัวใจทีละนิดทุกครั้งที่ไม่ได้เห็นหน้าคนรักทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดขึ้นไปอีก




“ผมไปห้องน้ำนะครับ”




ร่างโปร่งเอ่ยขอตัว ทีมปิดล็อกประตูห้องน้ำก่อนจะเอนตัวพิงขอบประตู ดึงโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดโทรหาคนที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อตอนเย็น




ตื๊ด...ตื้ด.....




หลังจากรออยู่ซักพัก ในที่สุดคนที่เขาอยากได้ยินเสียงก็รับสาย แต่สิ่งที่วีรภัทรพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเร่งรีบมีเพียง




“ขอโทษนะทีม ตอนนี้ฉันคุยไม่ได้ เดี๋ยวโทรกลับนะ”





ก่อนจะวางสายไป





ทีมบอกตัวเองว่าเขาจะไม่กลายเป็นคนประเภทนั้นที่ระยะทางทำให้หวาดระแวงความซื่อสัตย์ของคนรัก แต่พักนี้บทสนทนาของพวกเขาสั้นลงมากเหลือเกิน ทั้งที่คิดว่าอยู่ห่างกันจะทำให้มีเรื่องพูดคุยกันมากมาย แต่เวลาคุยกันมีเพียงเขาที่เล่าแทบทุกวินาทีที่เกิดขึ้นของวันให้วีรภัทรฟังอย่างตื่นเต้น ส่วนร่างสูง ถึงแม้จะดูมีความสุขที่ได้เห็นเขา แต่พักหลังมานี้หากทีมเป็นคนโทรไปเอง ก็มักจะโดนอีกฝ่ายตัดบทแบบนี้เสมอ





เขาบอกตัวเองว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะมาร้องไห้กับอะไรแบบนี้ไม่ได้




“ฮึก….”




แต่สุดท้าย น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อล้นออกมาอยู่ดี






คืนนั้น ทีมออกมาจากห้องน้ำด้วยดวงตาที่บวมแดง





หากคนรอบตัวสังเกตเห็น ก็ไม่มีใครพูดอะไร ซึ่งร่างโปร่งรู้สึกขอบคุณทุกอยู่ลึกๆกับการให้เกียรตินั้น




หลังจากตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวอย่างสดชื่นพร้อมรับวันใหม่ อารมณ์ของร่างโปร่งก็ดีขึ้นเป็นกอง อย่างน้อยก็ดีพอที่จะตื่นเต้นไปกับเพื่อนๆที่เรียนจบคอร์สผลิตเชฟมหาโหดที่ยิ่งกว่าแข่งขันเรียลลิตี้โชว์ อย่างน้อยถึงวันนี้คุณวีจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับเขา ทีมก็ยังมีคนที่เขารักคอยปรบมือให้ตอนที่ร่างโปร่งเดินขึ้นไปรับประกาศณียบัตร




“And before we finished, there is someone here who would like to say something. (และก่อนที่เราจะเสร็จพิธี มีใครบางคนที่อยากจะพูดอะไรซักหน่อย)”





เจ้าของสถาบันเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหลังจากที่ทีมกลับมานั่งกับเพื่อนๆที่ได้รับไปประกาศครบแล้ว พวกเขาหันซ้ายหันขวามองหน้ากันอย่างประหลาดใจ เพราะตามตารางไม่มีงานอะไรต่อจากนี้แล้ว





เสียงเพลงคลาสสิคแว่วหวานค่อยๆบรรเลงขึ้นจากทุกทิศทางในหอประชุม ทีมอมยิ้มเล็กน้อยอย่างเศร้าๆเมื่อจำได้ว่ามันเป็นเพลงที่วีรภัทรของเขาเต้นรำในวันครบรอบสองเดือนของพวกเขาที่สิงคโปร์





คิดถึงคุณวีจัง...




“Look!(ดูนั่น!!)”




เสียงของเพื่อนๆที่ร้องอย่างตื่นเต้นทำให้ความสนใจของทีมกลับไปอยู่บนเวทีอีกครั้ง ม่านกำมะหยี่สีแดงหลังเวทีถูกแหวกออกเล็กน้อยให้รถเข็นอาหารแบบที่พวกเขาเห็นตามโรงแรมเวลาสั่งรูมเซอร์วิสถูกเข็นออกมา บนนั้นมีจานหลายขนาดหลายลวดลายเรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบอยู่ ที่ตัวรถเข็นมีดอกกุหลาบสีแดงถูกแปะเป็นคำว่า Will




หรือว่า...จะมีแจกรางวัลอะไรรึเปล่า?




ทีมเริ่มรู้สึกตื่นเต้นตามเพื่อนๆที่ซุบซิบกันอย่างดีใจ ถึงแม้ร่างโปร่งจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะขนจานพวกนั้นกลับไทยอย่างไร
รถเข็นคันที่สองถูกเข็นเข้ามาโดยที่บนรถเข็นมีเครื่องเงินมากมาย ช้อน ส้ม มีด หลากหลายขนาดและวัตถุประสงค์ให้คนเห็นตาวาวด้วยความอยากได้ บนรถคันนั้นมีคำว่า You แปะอยู่ดอกตัวอักษรที่เรียงจากดอกกุหลาบแดงเช่นกัน





หัวใจของทีมเต้นแรงขึ้นเมื่อจิตใต้สำนึกของเขาเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ รถเข็นอีกสองคันที่บรรจุหม้อกระทะ และตะหลิวกับทัพพีรวมถึงอุปกรณ์ครัวอื่นๆถูกเข็นออกมาพร้อมกับสองคำสุดท้ายของประโยค




Marry…Me…





ร่างสูงที่เดินออกมาจากด้านหลังม่านเป็นคนสุดท้ายอยู่ในชุดสูททางการที่ทีมเป็นคนเลือกให้ทั้งสีและเนื้อผ้า วีรภัทรเดินตรงมาหาเขา ทีมลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัว ในหัวมีเพียงความคิดที่อยากเข้าไปกอดคนรักไว้ให้แน่นให้หายคิดถึง





วีรภัทรทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งก่อนที่ทีมจะได้ทำอย่างที่คิด ในมือของร่างสูงไม่มีกล่องแหวน ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นทั้งสิ้น แต่ทีมไม่ได้ใส่ใจอะไรนอกจากการได้เห็นคนรักของเขามายืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง




“ว่าไง?”




ชายหนุ่มจับมือของเขาไว้ เงยหน้าขึ้นสบตากับคนรักด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม




“เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษแท้ๆ ประโยคคำถามอะไรไม่มีเครื่องหมายคำถามครับ”




ร่างโปร่งบ่ายเบี่ยงด้วยความเขิน ทั้งที่ในใจตอบตกลงไปตั้งแต่เห็นร่างสูงเดินออกมาแล้ว




“ใครว่าฉันลืม?”




วีรภัทรขยับยิ้ม ราวกับรู้เรื่อง ลูกสุนัขพันธุ์เกรท ไพริเนสวิ่งตุ๊ปั๊ดตุ๊เป๋ออกมาจากหลังม่านตรงมาที่คนทั้งคู่ เจ้าหมาน้อยที่ถึงแม้จะเป็นแค่ลูกสุนัขอายุไม่กี่สัปดาห์แต่ก็มีขนาดพอๆกับสุนัขพันธุ์เล็กที่โตเต็มวัยสะดุดล้มกลิ้งบนพื้น เรียกเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูจากคนที่ดูอยู่ ก่อนจะตั้งหลักได้อีกครั้งแล้วมองซ้ายมองขวาราวกับจำไม่ได้ว่าเมื่อกี๊ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่





วีรภัทรตบมือเรียก เจ้าหมาน้อยผงกหัวขึ้นตามเสียงนั้นแล้ววิ่งมาหาพวกเขาต่อ ทีมสังเกตว่าปลอกคอของเจ้าหมาน้อยเป็นลายเครื่องหมายคำถาม และสิ่งที่ห้อยอยู่กับปลอกคอของมันคือแหวนทองคำขาวบริสุทธิ์ที่สลักลายเถาวัลย์ไขว้กันไปมาอย่างปราณีตบรรจง ลูกสุนัขแสนร่าเริงนั่งปุลงที่แทบเท้าของคนทั้งคู่ กระดิกหางแลบลิ้นมองคนทั้งสองซ้ายทีขวาทีราวกับจะถามว่า




‘ใครจะเล่นกับป๋ม ใครจะเล่นกับป๋ม เล่นๆๆๆ’



วีรภัทรอุ้มเจ้าหมาน้อยขึ้น ชูมันขึ้นเหนือศีรษะตัวเองราวกับเจ้าสิ่งมีชีวิตขนปุบสีขาวที่มีดวงตากลมบ็อกสดใสนั้นเป็นเพียงกล่องแหวนกำมะหยี่เล็กๆ





“ว่าไง...ยอมแพ้รึยัง?”




“คุณวี...ใจร้ายที่สุด แบบนี้ผมจะปฏิเสธได้ยังไงครับ”





คนถูกถามหัวเราะทั้งน้ำตา ก้มลงอุ้มเจ้าหมาน้อยจากมือของคนรัก เจ้าก้อนฟูฟ่องกระดิกหางแล้วเลียแผล็บที่หลังมือของเขาอย่างอารมณ์ดี




“ก็ไม่ได้จะให้ปฏิเสธอยู่แล้วน่ะนะ”




วีรภัทรไหวไหล่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาที่ยังคงอาบอยู่บนแก้มเนียนใสของคนรักอย่างทะนุถนอม




“ตกลงว่าไงครับที่รัก?”




“ยอมแพ้แล้วครับ”




“He said yes!!!!”




เสียงของเวย์ตะโกนขึ้นอย่างดีใจ เพื่อนๆรวมถึงอาจารย์ที่ร่วมเป็นสักขีพยานกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ เข้ามาล้อมคู่รักทั้งสองคนไว้พร้อมส่งเสียงเชียร์ดังลั่น ทีมลูบศีรษะเจ้าหมาน้อยอย่างอ่อนโยนขณะที่วีรภัทรก้มลงแกะปลอกคอเพื่อเอาแหวนออกมา แล้วแบมือเพื่อขอมือของคนที่เขาอยากใช้ชีวิตร่วมกันทั้งชีวิต...




ปุ!




อุ้งเท้าปุกปุยวางแปะลงบนฝ่ามือใหญ่ เจ้าหมาน้อยแลบลิ้นกระดิกหางอย่างมือความสุข เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่มองได้
เป็นอย่างดี




"อันนี้ของฉัน"




ทีมก้มลงบอกเจ้าหมา ยื่นมือให้คนรักแทนอุ้งเท้านั้นทั้งที่ยังหัวเราะคิกอยู่ วีรภัทรสวมแหวนให้คนรัก ก่อนจะก้มลงจุมพิตหลังมือของร่างโปร่ง




ทีมยิ้มกว้าง เขาไม่รู้ว่าคนหนึ่งคนจะมีความสุขได้มากกว่านี้อีกหรือไม่











พวกเขากลับมาที่ห้องของโรงแรมธาราซึ่งเป็นห้องของวีรภัทร ทีมเพิ่งเห็นข้อดีของการสร้างห้องไว้สำหรับตัวเองในทุกโรงแรมของร่างสูง วีรภัทรไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร และในครั้งนี้ก็ช่วยให้เขาลักลอบ(?)พาเจ้าหมาน้อยขึ้นมาบนห้องได้โดยไม่รบกวนแขก




"บ็อก.."




เจ้าหมาสีขาวตัวปุกปุยวิ่งสำรวจไปทั่วห้องทันทีที่ทีมปล่อยลงจากอ้อมกอด ร่างโปร่งเดินไปล้างมือให้สะอาดหลังจากเล่นกับเจ้าหมาน้อยมาตลอดทาง แล้วทรุดตัวลงเอนตัวบนโซฟาอย่างอ่อนเพลีย ยกมือขึ้นเพื่อชื่นชมแหวนทองคำขาวบนนิ้วของตัวเองอย่างมีความสุข



"ชอบมั้ยครับที่รัก"




วีรภัทรโอบแขนยาวทั้งสองข้างรอบคอของเขาจากด้านหลัง วางคางลงบนไหล่ของร่างโปร่งแล้วคลอเคลียอยู่ข้างๆเขาไม่ห่าง ไรหนวดที่เริ่มขึ้นเล็กน้อยเสียดสีลำคอขาวจนทีมหลุดหัวเราะจากความจั๊กจี้ ก่อนที่เสียงหัวเราะจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานหูเมื่อริมฝีปากได้รูปเริ่มสร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ประปราย




"อ๊ะ...คนวี หยะ...หยุดก่อนครับ"




ทีมใช้มือปิดปากร่างสูงไว้ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อลิ้นร้อนเลียแผล็บที่มือของเขาอย่างหยอกเย้า แต่ทีมยังคงไม่ยอมปล่อยมือจาก
ปากอีกฝ่ายง่ายๆด้วยกลัวจะถูกโจมตีอีกครั้ง




ร่างสูงเลิกคิ้ว รอฟังคำตอบจากอีกฝ่าย






"ชอบครับ" ทีมยิ้มกว้าง ก่อนจะปล่อยมือ "แล้ว...หมาตัวนั้นนี่หมาใครเหรอครับ?"




"ของเธอไง"




ร่างสูงตอบเรียบๆเหมือนนั่นเป็นสิ่งที่ร่างโปร่งควรรู้อยู่แล้ว




"ฮะ? ของผม? แล้วเราจะเลี้ยงมันที่ไหนล่ะครับ เทสต์แพ้ขนหมา เดี๋ยวก็จามไม่หยุดหรอก"




ทีมเอ่ยขึ้นทันที ถึงเขาจะรักสุนัขแค่ไหนแต่เขาก็ไม่อยากทำให้พี่ชายของเขาไม่สบายหรอกนะ




"ที่บ้านใหม่ของเราไง" ชายหนุ่มยิ้ม "นี่เธอคงไม่คิดว่าฉันจะซื้อเครื่องครัวใหม่ยกเซ็ททั้งที่ไม่มีที่เก็บหรอกนะ?"
บ้านใหม่?




คนฟังมีสีหน้าไม่เข้าใจ นี่คุณวีพูดถึงเรื่องอะไรกัน?



"ทีม..."




คนอายุมากกว่าถอนหายใจ วีรภัทรเดินอ้อมมานั่งลงข้างร่างโปร่งบนโซฟา ดึงมือเรียวที่สวมแหวนทองคำขาวที่เขาเลือกเองกับมือมากุมไว้




"เธอไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือกับฉันเหรอ?"



"อยากสิครับ..."




เรื่องนั้นทีมมั่นใจ แต่เขาก็ไม่อยากที่จะต้องไปจากพี่ชายตอนนี้ วีรภัทรถอนหายใจ ยกมือทั้งสองข้างของคนรักขึ้นมาจุมพิตหลังมืออย่างรักใคร่




"เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงซื้อบ้านที่อยู่ถัดไปแค่ซอยเดียว แค่ชะเง้อหน่อยก็เห็นหน้ากันแล้ว"




วีรภัทรยิ้ม เขารู้ดีว่าคนรักของตัวเองยังไม่พร้อมจะแยกจากพี่ชาย และร่างสูงก็ยังไม่อยากทิ้งขว้างลูกชายวัยสิบเก้าปีไปไกลสายตานัก การซื้อบ้านที่อยู่ซอยด้านหลังบ้านของเขาแล้วทุบทิ้งเพื่อสร้างเรือนหอใหม่จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย สำหรับบ้านหลังนี้ วีรภัทรออกแบบทุกสิ่งทุกอย่างเองกับมือ โดยอาศัยข้อมูลจากการตะล่อมถามคนรักถึงบ้านในฝันเป็นกุญแจสำคัญ




"ขอบคุณนะครับคุณวีที่เข้าใจ"




ทีมโน้มตัวไปจุมพิตร่างสูงเบาๆที่ริมฝีปาก แต่คนอายุมากกว่าไม่ยอมหยุดแค่นั้น วีรภัทรบดคลึงริมฝีปากของร่างโปร่งอย่างเชื่องช้าแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก ทีมหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะยอมเผยอริมฝีปากให้ลิ้นร้อนสอดเข้ามาสำรวจภายใน แต่ก่อนจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น ร่างปุกปุยสีขาวก็กระโดดขึ้นมาทับบนหน้าตักของทีมอย่างแรงจนคนทั้งสองผละจากกันอย่างตกใจ




"ฮะๆ ว่าไงเจ้าตัวเล็ก ชื่ออะไรล่ะเรา?"




ทีมเกาศีรษะให้เจ้าหมาน้อยที่ยึดเอาตักของเขาเป็นเบาะนอนสบายใจเฉิบ




"ยังไม่มี" วีรภัทรเอ่ยเสียงห้วน สีหน้าของชายหนุ่มดูไม่ค่อยสบอารมณ์ที่โดนขัดจังหวะ แต่จะพาลไปลงที่หมาก็อาจจะโดนคนรักหมางอนได้




"งั้นชื่ออะไรดีล่ะเรา?"




ทีมเข้าโหมดนั่งทางในคุยกับหมาไปเรียบร้อยแล้ว ลูบขนสีขาวครีมของเจ้าขนปุยด้วยรอยยิ้มมีความสุข สิ่งมีชีวิตบนตักเขาเงยหน้ามองทีมตาแป๋ว ราวกับจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ




"อืม...ตัวขาวๆแบบนี้ ชื่อโมจิดีมั้ย?"




ทีมนึกถึงขนมแป้งขาวนุ่มนิ่มใส่ไส้ที่เขาชอบทาน เจ้าหมาน้อยเห่าโฮ่งตอบรับ ก่อนจะกระโดดแผล็วจากตักทีมไปหาวีรภัทร เลียแผล็บเข้าที่หลังมือของคนที่ยังอารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะไม่หาย ร่างสูงได้จังหวะอุ้มเจ้าตัวแสบขึ้นแล้วเดินไปยังคอกกั้นขนาดใหญ่ที่เตรียมไว้เป็นที่นอนของโมจิ




"คุณวี ไม่เอาครับ สงสารน้อง เดี๋ยวน้องไม่มีที่วิ่งเล่น"



คนรักหมารีบประท้วงทั้งที่คอกกั้นนั้นมีขนาดใหญ่พอที่เจ้าหมาน้อยจะวิ่งเล่นได้โดยไม่อึดอัด วีรภัทรถอนหายใจ เริ่มคิดแล้วว่าตัวเองตัดสินใจผิดรึเปล่าที่เอาหมามาเลี้ยง




"เอางั้นก็ได้"




ร่างสูงวางเจ้าหมาน้อยลงบนพื้น ก่อนจะช้อนเอาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมกอดแทน




"ทำอะไรน่ะครับคุณวี เดี๋ยวก็หลังหักหรอก"




คนโดนอุ้มโวยวายอย่างเป็นห่วง ตัวเขาก็ไม่ใช่เล็กๆ เกิดอีกฝ่ายกระดูกหักขึ้นมาเขาจะทำยังไง




"หืม? ปกติเวลาอุ้มบนเตียงไม่เห็นจะบ่นเลยนี่"




วีรภัทรหยอก อุ้มร่างของคู่หมั้นหมาดๆเข้าไปในห้องนอนแล้วใช้หลังดันไม่ให้เจ้าหมาขนปุยเข้ามาทำลายบรรยากาศได้




"ก็นั่นมัน..."




ทีมหน้าแดง ปล่อยให้ร่างสูงอุ้มเขามาวางลงบนเตียงด้วยรู้สึกว่าพูดอะไรไปก็น่าจะโดนแกล้งอยู่ดี




"มาต่อกันดีกว่า คิดถึงป๋ามั้ยครับ"





วีรภัทรกระพริบถามเสียงพร่า เรียกเลือดฝาดให้วิ่งขึ้นมาบนแก้มของคนอายุน้อยกว่าได้เป็นอย่างดี





"มาถึงขนาดนี้ยังต้องถามอีกเหรอครับ?"




ทีมยกมือขึ้นโอบรอบคอของร่างสูง รั้งให้ใบหน้าคมโน้มลงมาประทับริมฝีปากอย่างนิ่มนวล ก่อนที่ความรู้สึกโหยหาร่างของคนรักจะแปรเปลี่ยนให้จุมพิตนั้นดุดันและเร่าร้อน




ภายนอกห้อง เจ้าโมจิที่เพิ่งได้ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าคนใหม่ได้แต่ตะกุยประตูและเห่าเรียกผู้ปครองของตน ทว่ามีเพียงเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงและเสียงครางหวานแว่วออกมาจากห้องเป็นระยะ ไม่มีใครออกมาเล่นกับโมจิซักคน





สุดท้ายเจ้าหมาน้อยจึงยอมแพ้ ปล่อยพ่อกับแม่เล่นกันสองคน แล้วเดินเข้าไปในคอกที่เปิดอ้าไว้ ก่อนจะกระโจนขึ้นบนเบาะนุ่มๆที่ป๊ะป๋าเตรียมไว้ให้แล้วขยับหมุนไปมาหาที่ทางเตรียมพักผ่อน วันนี้โดนจับอาบน้ำแต่งหล่อทั้งวันจนไม่ได้นอนเลย ของีบซักหน่อยดีกว่า





-------

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
ตอนพิเศษ: เด็กดีของคุณคนเดียว




"หล่อที่สุดเลยน้องทีมของแม่"




คุณขวัญตากอดลูกชายคนเล็กในชุดราชปะแตนสีขาวแน่น หลังจากรอมาจนเกือบปีก็ได้ฤกษ์งามยามดีที่วีรภัทรจะจูงมือคนรักเข้าประตูวิวาห์เสียที แต่ฟังจากเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งของอดีตอาจารย์หนุ่ม ทีมคิดว่าคนรักของเขาดูจะอารมณ์เสียมากกว่าที่ต้องห่างจากเขาถึงหนึ่งคืนเต็มๆตามประเพณี ร่างโปร่งอมยิ้มเมื่อนึกถึงคนรักที่โทรศัพท์มาหาทุกชั่วโมงแค่เพราะอยากได้ยินเสียงเขา




"น้องทีมตื่นเต้นมั้ยลูก"





น้ำเสียงของมารดาตื่นเต้นพอๆกับที่เขารู้สึกอยู่ภายใน ถึงแม้จะรู้สึกตื่นเต้นมีความสุขและวิตกกังวลปะปนกันไปจนรู้สึกคลื่นไส้เล็กๆ แต่ทีมก็ยังคงยิ้มให้มารดาตามประสาลูกน้อยที่ไม่เคยกระโตกกระตากโวยวาย





"คันๆๆ แม่ ผมไม่ใส่กางเกงนี้ไม่ได้เหรอครับ"





ผิดกับแฝดคนโตที่เสียงโวยวายดังมาตั้งแต่บ้านใหญ่มาจนถึงเรือนเล็ก บ้านสมัยเด็กของวีรภัทรถูกเลือกเป็นสถานที่จัดงานมงคลในช่วงเช้าซึ่งมีเพียงญาติและเพื่อนที่สนิทกันมาในงานเท่านั้น




"ไม่ได้จ้ะ อย่าดื้อสิเทสต์ วันนี้วันพิเศษของน้องทีมเขานะ"




ขวัญตาดุลูกชาย เทสต์ฮึดฮัดเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรต่อ ทีมหันไปมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง ใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในเงาประดับด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุดที่เขาเคยเห็น ขวัญตาวางมือลงบนไหล่ของลูกชาย ยิ้มอย่างใจหายที่ลูกชายตัวน้อยของเธอในวันวาน กำลังจะออกจากอ้อมอกเธอไปสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง




"วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนะที่น้องทีมจะเป็นคู่หมั้นของวีเขา ต่อจากนี้ไปสองคนจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะจ๊ะ น้องทีมต้องรักและให้เกียรติวีเหมือนที่เขารักและให้เกียรติหนูนะลูก"




"ครับแม่"




เดิมทีทีมแค่รู้สึกว่าการแต่งงานเป็นเพียงการประกาศให้คนที่พวกเขารู้จักรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ยิ่งใกล้พิธีเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกราวกับว่าชีวิตของเขาจะถูกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล




"พี่ทีมครับ ลงไปรอข้างล่างได้เลยครับ ขบวนขันหมากกำลังจะออกมาแล้ว"




เวย์เปิดประตูเข้ามาตามทุกคนลงไปด้านล่าง ทีมสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกเมือนจะเป็นลมขึ้นมาเสียอย่างนั้น ร่างโปร่งเดินตามมารดา พี่ชาย และลูกเลี้ยงของคนลงไป โดยมีเพื่อนๆของพวกเขายืนรออยู่ด้านล่างพร้อมเข็มขัดเงิน เข็มขัดนาก และเข็มขัดทอง เรียกได้ว่ามารอรีดเงินจากว่าที่สามีของเขาเต็มที่




"เดี๋ยวคนที่เป็นประตูไปรอสนามหน้าบ้านได้เลยนะครับ"




เวย์ที่รับหน้าที่ช่วยแม่ของสองแฝดดูคิวงานในช่วงเช้า แว่นกับกวินภพ ติณณ์ภพและเหนือฟ้า กับเทสต์และเวย์เดินไปประจำที่รอรับเงิน ส่วนทีมก็นั่งรอคนรักที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหนึ่งคืนอยู่ในบ้านด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ




"โหพ่อครับ แค่นี้ไม่พอหรอก รักพี่ทีมแค่แบงค์เทาๆไม่กี่แบงค์เองเหรอ รักเท่าไหร่ใส่มาเท่านั้น เร็วๆๆๆ"




เสียงโห่ดังอย่างรื่นเริงพร้อมเสียงกลองยาวดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทีมยิ้มน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงว่าที่สามีของตนกำลังโดนรีดไถเงินราวกับเจอแก๊งขู่กรรโชกทรัพย์ กว่าคุณวีของเขาจะผ่านประตูมาได้เล่นเอาแทบจะถอดเสื้อผ้าพับให้เด็กๆหน้าบ้านเลยทีเดียว




วีรภัทรอยู่ในชุดราชปะแตนสีครีม ใบหน้าหล่อเหลาเป็นทุนเดิมดูอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิมจากการดูแลตัวเองเป็นประจำและทรงผมที่คงโดนลูกชายเกณฑ์กองถ่ายแฟชั่นมาช่วยเซ็ท แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของทีมเต้นผิดจังหวะราวกับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยพบกัน คือดวงตาสีรัติกาลที่วาววับทันทีที่เห็นเขาทั้งที่พวกเขาคบกันมาสามปีแล้ว




เพราะแบบนี้ทีมถึงได้รู้ว่าเขาเลือกใช้ชีวิตที่เลือกทั้งหมดกับคนถูกคนแล้ว












หลังจากพิธีแห่ขันหมากจบลง พวกเขาก็ขึ้นไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสำหรับงานเลี้ยงในตอนเย็น ทีมอยู่ในสูทสีขาวสะอาด ส่วนคนรักของเขาอยู่ในชุดสูทสีดำเนื้อดีที่ทีมเป็นคนเลือกให้กับมือ ทุกคนย้ายสถานที่มายังโรงแรมธาราที่บัดนี้ตกแต่งประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบแดงและขาว รูปถ่ายพรีเวดดิ้งของพวกเขาเรียงรายตั้งแต่หน้าทางเข้าล็อบบี้ไม่ใช่แค่ทางเข้าห้องจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดที่โรงแรมมี





ทีมทักทายบรรดาแขกเหรื่อที่มีทั้งเพื่อนสมัยเด็ก เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมงานและคู้ค้าทางธุรกิจของวีรภัทร ยังไม่รวมถึงนักข่าวบางสำนักที่พวกเขาตัดสินใจเชิญเพื่อป้องกันความวุ่นวายของสำนักข่าวหลายสำนักที่จะแห่มาออกันโดยไม่ได้รับเชิญ




"เป็นไง สุดท้ายก็โดนเด็กล่ามโซ่"





ธีรเชษฐ์ที่เดินเข้างานมาเป็นคนแรกเอ่ยขึ้น เมื่อเช้าทีมเห็นว่าชายหนุ่มก็อยู่ในขบวนขันหมากกับน้องมีนา คนรักของตัวเอง ซึ่งไม่รู้ว่าวีรภัทรนึกเล่นพิเรนทร์อะไรถึงได้ให้เพื่อนสนิทที่อายุมากกว่าเพียงสองปีเป็นเฒ่าและให้น้องมีนทำหน้าที่เป็นเด็กนำขันหมาก ราวกับว่าจะตอกย้ำช่องว่างระหว่างวัยของคนทั้งคู่ ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะยังคงดูเหมือนหยุดเวลาไว้ที่สามสิบห้าเช่นเดียวกับว่าที่เจ้าบ่าวของเขาก็ตาม คิดว่าระหว่างพิธีเช้ากับเย็น ชายหนุ่มคงพาน้องมีนกลับไปเปลี่ยนชุดให้เหมาะสมกับงานเลี้ยงตอนเย็นแล้วค่อยกลับมา




"ทำไมมึงถึงพูดอะไรไม่เคยดูตัวเองเลยวะ?"





วีรภัทรยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมธีเชษฐ์ที่อายุมากกว่าเขา แถมยังคบกับเด็กที่อายุน้อยกว่าคนรักของเขา ยังคงทำเหมือนเขา
เป็นโคแก่อยู่คนเดียว




"ทำตัวดีๆหน่อยครับ"




แต่คนที่เอ่ยปรามชายหนุ่มเสียงเย็นกลับเป็นมธุวัน เลขาของธีรเชษฐ์ที่เดินเข้ามาในงานกับเมฆา ลูกชายคนโตของร่างสูง ทีมเคยเจอกับอีกฝ่ายไม่กี่ครั้งเวลาที่ธีรเชษฐ์พาร่างโปร่งมาทานอาหารกับลูกค้าที่โรงแรมธารา เขามักจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีรังสีที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกหวาดกลัว แต่วีรภัทรเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยมธุวันยังเป็นนักศึกษา อีกฝ่ายเป็นเด็กเรียบร้อยที่ตั้งใจเรียนและยิ้มแย้มอยู่เสมอ




นึกภาพไม่ออกเลยแฮะ




"ยินดีด้วยครับอาวี คุณธัชนันท์"




เมฆาเอ่ยเสียงเรียบ ความเยือกเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่มเมื่ออยู่ข้างๆมธุวันแทบจะเปลี่ยนบรรยากาศรอยตัวเขาให้เป็นขั้วโลกเหนือ แต่ทีมพอจะรับรู้ได้ถึงความจริงใจที่แฝงอยู่ภายใน วีรภัทรยิ้มรับคำยินดีนั้น




"ขอบใจนะ แล้วเจ้าอุ่นกับเจ้าซันไม่คิดจะมายินดีกับอาหน่อยเหรอ?"





"อะไรกันครับ ผมอุตส่าห์แบกของขวัญมากล่องเบ้อเริ่ม ก็ต้องช้าหน้อยสิ"





เสียงนุ่มดังขึ้นจากด้านหลังของเมฆา น้ำอุ่น ลูกชายคนรองของธีรเชษฐ์เดินเข้ามาในงานพร้อมกับแทนไทย คนรักของตัวเองซึ่งเป็นคนแบกกล่องของขวัญใบโตที่แท้จริง ส่วนซัน ลูกชายคนเล็กที่เป็นเพื่อนของเวย์ก็เดินเข้ามาในงานามมาติดๆพร้อมกับคนรักที่เขาไม่รู้จักชื่อ





"ครอบครัวมึงนี่ก็ใหญ่กินพื้นที่งานกูจริงๆ"




วีรภัทรบ่นอุบ ก่อนจะโดนคนรักที่ยืนอยู่ข้างๆตีเบาๆข้อหาเสียมารยาทกับแขก




"กูว่าดีกว่าครอบครัวไอ้ครามมั้ย แม่งยกมาอย่างกับจะเปิดสงคราม"




ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า ก่อนจะสะดุ้งเมื่อโดนสายตาอำมหิตของเลขาร่างโปร่งจ้อง




"ก็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้นแหละครับคุณเพื่อนสะใภ้"





ทีมหันไปตามเสียง ฝรั่งหัวทองคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับคุณหมอคเชนทร์ในชุดสูท แต่ที่ทำให้ทีมต้องเบิกตากว้างคือกลุ่มชายในชุดสูทสีดำที่เดินตามมาเป็นพรวน




นี่คุณวีคบคนประเภทไหนบ้างเนี่ย?!














กว่าจะทักทายแขกจนครบทีมรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเสียให้ได้




"ไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวเรากลับก่อนก็ได้นะ ไม่มีใครรู้หรอก"





วีรภัทรกระซิบข้างหูเสียงหยอกเย้าขณะที่พวกเขาเดินทักทายแขกตามโต๊ะ แขนแกร่งโอบรอบเอวเขาไว้เพื่อกันร่างโปร่งเป็นลมล้มตึงลงไปจริงๆ




"ไม่ไหวครับ คืนนี้ไม่ต้องทำอะไรละกันเนอะ ผมเหนื่อย"




ทีมแกล้งตอบ ได้รับสายตาคาดโทษของคนรักเป็นรางวัลก่อนที่พวกเขาจะเดินกันต่อไป ถึงแม้จะหิวจนไส้แทบขาด แต่โต๊ะของแขกเหรื่อก็ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ดีที่เชฟนัทที่นั่งอยู่สังเกตเห็นถึงได้ยัดหมูตุ๋นเข้าปากเขาก่อนที่ใครจะได้พูดอะไร




"เอ้าๆ หิวขนาดนั้นเลยเหรอ"



วีรภัทรหัวเราะเมื่อเห็นคนรักเคี้ยวตุ้ยๆอย่างผิดวิสัย ขโมยเฟรนซ์ฟรายจากโต๊ะของเชฟทั้งสองและเพื่อนของทีมใส่จานเล็กเดินป้อนคนรักไปทั่วงาน ทำเอาบรรแขกเหรื่ออิจฉาตาร้อนไปตามๆกัน




"คุณวีไม่หิวเหรอครับ"




ทีมถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเล่นขโมยของตามโต๊ะของธีรเชษฐ์ โต๊ะของเวย์ และโต๊ะของหมอคเชนทร์ป้อนเขาจนเริ่มอิ่มแต่ตัว
เองกลับไม่แตะอะไร วีรภัทรส่ายหน้า




"แค่เธออิ่มก็พอแล้วล่ะ"




"ฮิ้ววววว"



แขกเหรื่อในงานพากันโห่แซว ทำเอาคนขี้อายหน้าแดงแทบมุดโต๊ะหนี




"ขอเชิญเจ้าบ่าวทั้งสองขึ้นมาบนเวทีหน่อยคร้าบ~"



พวกเขาทั้งคู่ขึ้นไปบนเวทีตามคำเชิญของพิธีกร ทีมหยีตาเมื่อแสงของสปอตไลท์ส่องตรงลงมาแยงตาของเขา แต่วีรภัทรช่วยก้าวเข้ามาบังแสงจากทางเฉียงแล้วเบี่ยงตัวเขาไปข้างๆเพื่อไม่ให้โดนแสงโดยตรง




การกระทำเล็กๆที่เติมเต็มหัวใจเขาด้วยรอยยิ้ม ทีมจับมือที่แนบอยู่ข้างลำตัวของคนรัก การกระทำที่ไม่ถูกจับไว้ด้วยกล้อง
แต่รับรู้ได้ด้วยสัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กันและกัน




ทีมตระหนักได้ในตอนนี้ว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ได้รักคนที่เขารู้สึกเหมือนวันแรกที่พบกันทุกครั้งที่ลืมตาตื่น ได้รักคนที่มองเขาราวกับว่าเขาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต และให้เกียรติเขาอย่างเท่าเทียมโดยไม่คำนึงถึงอายุที่มากกว่า





รัก






เขาไม่รู้ว่ามีกี่คำที่สามารถแทนคำคำนี้ได้ แต่พอเป็นเรื่องของคนตรงหน้า ในหัวของเขามีเพียงคำคำนี้ซ้ำไปซ้ำมา และจะมีเพียงคำคำนี้ตลอดไป






ทุกเหตุการณ์ในคืนนั้นรู้สึกเหมือนแสงที่วิ่งผ่านตาเขาไปอย่างรวดเร็ว เขาจำได้แค่คำถามธรรมดาของคู่รักทั่วไปที่พวกเขาต้องเตี๊ยมคำตอบไว้ไม่ให้คนสูงอายุในงานหัวใจวายเสียก่อน ตั้งแต่เจอกันที่ไหน เจอกันอย่างไร ทั้งที่แสงไฟจากสปิร์ตไลท์ทำให้เขามองไม่เห็น แต่ทีมรู้สึกได้ถึงรอยยิ้มขบขันของพี่ชายฝาแฝดที่ส่งตรงมาที่เขา รวมถึงความรู้สึกยินดีด้วยอย่างใจจริงที่ร่างโปร่งสัมผัสได้จากบนเวที





“เอ้าน้องทีม หอมแก้มเจ้าบ่าวโชว์หน่อยคร้าบ~”




 พิธีกรหนุ่มขอโดยมีบรรดาแขกเหรื่อในงานช่วยเชียร์ ทีมยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะหันไปเตรียมประทับริมฝีปากลงบนแก้มสากตามคำขอ แต่คนรักของเขากลับหันกลับมาฉวยเอาริมฝีปากนุ่มไปครอบครองโดยไม่ขออนุญาต เรียกเสียงโห่แซวจากแขกด้านล่างได้เป็นอย่างดี





ในที่สุดก็มาถึงช่วงตัดเค้ก ร่างโปร่งแทบจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่คืนนี้ใกล้ดำเนินมาถึงจุดจบเสียที ร่างโปร่งจับมือของวีรภัทรไว้แน่นขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เค้กขนาดยักษ์ที่เขาทำเองกับมือด้วยความช่วยเหลือของเชฟณัฐภาสและลูกมือในครัวของโรงแรมธารา พิธีการยืนดาบยาวที่ใช้ตัดเค้กให้กับวีรภัทรที่ยื่นให้ทีมจับด้วย ร่างโปร่งไม่มีความลังเล จับลงที่ด้ามจับด้านใต้ของมือที่กำอยู่ก่อน คนอายุมากกว่าเลิกคิ้ว




“จะไม่ดื้อหน่อยเหรอ?”




“ผมเป็นเด็กดีของทุกคนมามากพอแล้วครับ” ทีมเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับคนรัก “ต่อไปนี้ ผมจะเป็นเด็กดีของคุณวีแค่คนเดียวไงครับ”




“ฮิ้ว~”




คำตอบนั้นเล่นเอาหน้าแดงกันทั้งคนพูดและทุกคนที่ได้ยิน ทีมหยิบเค้กชิ้นเล็กที่ตัดออกมาป้อนให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ วีรภัทรอ้าปากรับเค้กพร้อมกับนิ้วเรียวที่ติดมาด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ




“อร่อยเหมือนคนทำเลย”




“เก็บไว้เล่นในห้องหอบ้างมั้ยครับคุณวี”




 พิธีกรหนุ่มแซว วีรภัทรไหวไหล่ยิ้มๆ ก่อนจะป้อนเค้กให้กับคนรักบ้าง ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูคนที่เคี้ยวตุ้ยๆอย่างว่าง่ายนั้นให้เขาได้ยินแค่คนเดียว




“ยังเอาอะไรเข้าปากง่ายๆเหมือนเดิมเลยนะ…น่ารักจริงๆ”




ทีมก้มหน้างุดอย่างเขินอายกับคำพูดนั้น ต่อให้พิธีกรพยายามเค้นเอาคำตอบแค่ไหนร่างโปร่งในชุดสูทสีขาวก็ไม่ยอมปริปากว่าคนรักพูดอะไรกับตน





“แม่ส่งถึงแค่นั้นนะลูกนะ วี พี่ฝากดูแลน้องทีมด้วยนะ”




ขวัญตายิ้มให้ลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เด็กน้อยของเธอจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองอย่างเป็นทางการ ธัชธรรมที่ยืนอยู่ข้างๆมีสีหน้าเหมือนกำลังกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายอย่างสุดความสามารถ




“น้องทีมของป๊า…”




“ป๊าอย่าร้องสิครับ ทีมจะร้องตามแล้วนะ”




ทีมที่เห็นบิดาของตัวเองกำลังจะปล่อยโฮเริ่มตาแดงๆตาม จนเทสต์ที่ยืนอยู่ข้างๆต้องช่วยแม่ดึงพ่อของตัวเองออกไปจากห้องหอที่บ้านของพวกเขาทั้งคู่




“หลังกลับมาจากปารีสรีบไปรับโมจิจากบ้านไอ้กล้าเลยนะครับ ผมคิดถึง”





ทีมหันไปบอกคนรักทันทีที่ความเงียบเหงาเริ่มปกคลุมบ้านหลังใหญ่ วีรภัทรพยักหน้ารับรู้ มองคนรักที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อนผิดวิสัยคนรักความสะอาด อันที่จริงเขาคิดว่าหากทีมไม่ได้กลัวเตียงสกปรก ร่าางโปร่งคงจะโดดลงบนเตียงแล้วหลับไปเลยด้วยซ้ำ




“ไหวมั้ยครับคนเก่ง?”




ร่างสูงคุกเท่าลงบนพื้นแทบเท้าของคนรัก บรรจงถอดถุงเท้าออกจากเท้าของคนอายุน้อยกว่าอย่างที่ทีมมักจะทำให้เขาเวลาที่ชายหนุ่มกลับมาจากทำงานดึกดื่นจนไม่มีแรงทำอะไร ทีมครางเบาๆในลำคอประท้วงการกระทำของสามีหมาดๆของตน แต่ไม่มีแรงมากพอจะหยุดการกระทำของคนรัก



“คุณวี..คืนนี้ไม่ทำนะครับ...ผมไม่ไหวจริงๆ....”





“หึๆ เธอคิดว่าฉันจะใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอเด็กน้อย”




วีรภัทรหัวเราะในลำคอ ถอดชุดสูทสีขาวของคนรักออกที่ละชั้นด้วยความช่วยเหลือของคนที่เหมือนจะหลับได้ตลอดเวลา ก่อนจะอุ้มร่างเปลือยเปล่าของคนรักที่เหนื่อยเกินกว่าจะเขินอายเข้าไปในห้องน้ำ้พื่อช่วยชำระร่างกายให้ร่างโปร่ง








“เป็นอะไรครับ นอนไม่หลับเหรอ?”



วีรภัทรถามคนรักในชุดนอนที่พลิกไปพลิกมาอยู่ข้างกาย




“ครับ...พออาบน้ำแล้วเลยหายง่วงเลย”




ทีมซุกกายเข้าใกล้คนรัก ถึงแม้จะยังคงไม่มีแรงสำหรับกิจกรรมยามค่ำคืนที่วีรภัทรโปรดปรานหนักหนา แต่ก็ยังรู้สึกไม่อยากนอนหลับไปดื้อๆในคืนสำคัญที่สุดคืนหนึ่งในชีวิต




“ถ้าอย่างนั้น...อยากแกะของขวัญมั้ย?”





ร่างสูงชี้ไปที่กล่องของขวัญน้อยใหญ่ซึ่งกองพะเนินเทินทึกบนพื้นห้อง ทีมพยักหน้า ก่อนจะเคลื่อนตัวลงจากเตียงไปนั่งบนพื้นข้างกองของขวัญโดยมีคนรักตามมาช่วย ของขวัญส่วนใหญ่เป็นพวกของวางโชว์ที่เขาไม่น่าจะได้ใช้อะไร




“นี่ของคุณหมอคเชนทร์นี่ครับ”




ร่างโปร่งเปิดกล่องของขวัญขนาดเล็ก ภายในมีกล่องยากล่องหนึ่งที่เขาไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไร วีรภัทรชะโงกหน้ามาดู ก่อนจะดึงเจ้ากล่องนั้นจากมือของคนรักโยนใส่ถังขยะอย่างไม่ใยดี



“อ๊ะ! ทำไมถึงทิ้งไปล่ะครับคุณวี เสียดายออก”




ร่างโปร่งว่า ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม





“ฉันไม่ต้องใช้ของแบบนั้นหรอก” ธีรเชษฐ์ตอบ “แค่นี้เธอก็สลบทุกคืนอยู่แล้วนี่”




 ทีมหุบปากฉับเมื่อรู้ว่ายากล่องนั้นมีไว้ทำอะไร หยิบกล่องของขวัญขนาดกลางกล่องต่อไปขึ้นมา




‘I’m returning the favor. Chase’




“ของคุณเชษฐ์น่ะครับ”




ร่างโปร่งยื่นการ์ดให้คนรักแม้ไม่เข้าใจสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น ก่อนจะหันไปสนใจกล่องของขวัญบนตัก ดวงตาของร่างโปร่งเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าของข้างในคือที่คาดผมหูแมวสีขาวกับหางแมวที่ยึดติดอยู่กับวัตถุต้องสงสัยขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานเล็กน้อยที่มาพร้อมรีโมตควบคุมและคู่มือการใช้ละเอียดยิบ ซึ่งแทบจะเลียนแบบหูกระต่ายกับหางกลมปุกปุยที่วีรภัทรเคยซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ธีรเชษฐ์เมื่อสองสามปีก่อน





“หึ…น่าสนใจเหมือนกันนะ”





“หยุดเลยครับ ทำไมเพื่อนคุณวีถึงมีแต่คนแบบนี้ครับเนี่ย”





ร่างโปร่งบ่นอุบ รีบปิดฝากล่องกลับไปทันที วีรภัทรหัวเราะ เสียงทุ้มต่ำในลำคอยังคงมีเสน่ห์ทำให้ทีมรู้สึกเขินอายได้ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่





“นอนได้แล้วครับที่รัก พรุ่งนี้จะได้ไม่เหนื่อย”



พรุ่งนี้พวกเขาเผื่อเวลาไว้แพ็คของแล้วจัดเตรียมตรวจสอบเอกสารต่างๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไปฮันนีมูนที่ปารีสเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในวันถัดไป ซึ่งจากความเหนื่อยล้าในตอนนี้ ทีมบอกได้เลยว่าพวกเขาคิดถูก





“คุณวี ขอโทษนะครับที่คืนนี้ผม...เหนื่อยมากจริงๆ” ทีมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดอีกครั้ง “ทั้งที่มันควรจะเป็นคืนที่น่าจดจำที่สุดแท้ๆ”




“ไม่เป็นไรหรอก...” วีรภัทรยิ้ม ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนของคนรักอย่างแผ่วเบา “เรายังมีเวลาสร้างความทรงจำกันอีกทั้งชีวิต”




ทีมอมยิ้มอย่างเขินอายกับคำพูดนั้น เขานึกขอบคุณโชคชะตาหรืออะไรก็ตามที่พาให้เขามาเจอกับวีรภัทร เขาดีใจที่ในวันนี้ เขามีคนที่รัก และอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาไปจนถึงลมหายใจสุดท้ายอยู่ข้างๆ





“คุณวี รักนะครับ”




“รู้ใช่มั้ย พูดคำนั้นออกมาแล้วหนีฉันไปไม่ได้ง่ายๆแล้วนะ”




ชายหนุ่มตอบด้วยประโยคเดียวกับครั้งแรกที่เขาบอกรักอีกฝ่ายในภัตรคารหรูที่สิงค์โปร์ ทีมยิ้มบาง




“ไม่ได้คิดจะหนีตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะครับ”





วีรภัทรยิ้มให้เขา แววตาอ่อนโยนของอีกฝ่ายบ่งบอกชัดว่ากำลังมีความสุขกับช่วงเวลานี้มาแค่ไหน




“ฉันก็รักเธอ”




คืนนั้น...ทีมไม่ได้ฝัน




เพราะสิ่งที่เขาเฝ้าฝันถึงทั้งหมด...อยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของคนรักที่กอดเขาไว้แน่นตลอดทั้งคืน







THE END



---------

หลังจากนี้ขออนุญาตลาเพิ่มอีกหนึ่งสัปดาห์กว่าๆนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
อันนี้เป็นตอนพิเศษเชฟใหญ่ตอนสุดท้ายนะคะ


-------


Step 7: เอาใส่เข้าเตาอบเจ็ดสิบนาที





“นัท…”





“…”




“นัทครับ...”




“….”




“คนเก่งของพี่...”





“ไม่ต้องมายุ่งกับผมเลย! แค่ก...”




เจ้าลูกกวางน้อยเนื้อนุ่มของเขาโวยลั่น สีหน้าที่เหมือนกับจะงับมือเขาได้ทุกเมื่อหากชายหนุ่มกล้าแตะต้องตัวเองไม่ได้ทำให้เชฟใหญ่กลัวสักนิด โดยเฉพาะเมื่อร่างโปร่งตัวร้อนเป็นไฟแบบนี้




“ถ้าไม่ทานยาจะไม่หายป่วยนะครับ”




“ไม่ต้องมาพูดเลย! เพราะใครล่ะครับผมถึงเป็นแบบนี้น่ะ!”




ณัฐภาสเอ่ยเสียงเขียว ก่อนจะไอค่อกแค่กออกมาอีกรอบ คนผิดยิ้มอย่างไม่สำนึก ลูบศีรษะของเจ้าลูกกวางจอมพยศอย่างเอ็นดู




“งั้นไว้คราวหน้าเรามาทำกันจนพี่ป่วยเลยดีมั้ย?”




การยอมถูกเอาคืนที่ดูไม่เหมือนการเสียเปรียบเท่าไหร่ของร่างสูงทำเอาคนป่วยแยกเขี้ยวใส่แต่อ่อนเพลียเกินกว่าจะทำอะไร เด็กหนุ่มเอนซบอกแกร่งของคนรักอย่างหมดแรง




“จะมีคราวหน้า...ใช่มั้ยครับ?”




“หืม? ต้องมีสิครับ ถามอะไรแบบนั้นล่ะ?” เชฟใหญ่ถามกลับอย่างงุนงง




“ได้ผมแล้วห้ามทิ้งนะ...”




คนป่วยงึมงำ ซุกหน้ากับหน้าท้องของคนรักกลบเกลื่อนความอาย ร่างสูงหัวเราะ นึกอยากจับคนคิดมากมากอดฟัดอีกสักรอบให้รู้ว่าเขาไม่มีความคิดนั้นอยู่ในหัว




“ไม่ทิ้งอยู่แล้วครับ แฟนทั้งคน”




คนรักนิ่งไปครู่ใหญ่ ถึงแม้จะยังซุกหน้าอยู่กับหน้าท้องของเขาแต่ใบหูแดงก่ำนั้นบ่งบอกให้ใหญ่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินที่เขาพูดอย่างชัดเจน




“ถะ…ถ้าอย่างนั้น..ได้มั้ย..”




เสียงงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์ของคนป่วยยทำให้ร่างสูงต้องก้มลงไปหา




“อะไรนะครับนัท?”




“ถ้าอย่างนั้น....อย่าใจดีกับคนอื่นมากได้มั้ยครับ?”




ร่างโปร่งเอ่ยเสียงเบาหวิว แต่คราวนี้คนฟังได้รับสารอย่างครบถ้วนชัดเจน ใหญ่ขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้จะทำให้คนที่ดูไม่สนใจอะไรอย่างณัฐภาสคิดมาก




“ไม่ชอบเหรอครับ?”




“อือ…”




คนปากแข็งตอบโดยไม่เงยหน้ามองเขา ถ้าหากไม่เป็นเพราะความอ่อนแอจากพิษไข้ ใหญ่ที่ความรู้สึกช้าเรื่องพวกนี้อาจจะคิดว่าเด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ




“ถ้านัทไม่ชอบ พี่ไม่ทำก็ได้ครับ”



ถึงแม้เขาจะเป็นคนอัธยาศัยดีและมักจะสนิทสนมกับลูกน้องและคนอื่นๆที่เข้ามาพูดคุยด้วย แต่ถ้ามันทำให้คนรักของเขาไม่สบายใจ เห็นทีจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองบ้างเสียแล้ว




“ผมรู้นะครับว่าพี่ใหญ่ทำไม่ได้...” ณัฐภาสเอ่ยขึ้นเสียงงัวเงีย “...แต่ก็ขอบคุณนะครับที่จะพยายาม”





เด็กหนุ่มหลับไปเสียอย่างนั้น ดูท่าจะยังอ่อนเพลียจากกิจกรรมเข้าจังหวะเมื่อคืนอยู่ไม่น้อยทีเดียว ใหญ่จัดท่าทางให้ร่าง
โปร่งได้นอนพักสบายๆ ก้มลงจุมพิตหน้าผากใสเบาๆอย่างรักใคร่ เขาอาจจะเพิ่งคบกับอีกฝ่ายได้เพียงไม่กี่เดือน แต่สำหรับใหญ่ เขารู้ได้ไม่ยากเลยว่าคนที่นอนอยู่ข้างเขาในตอนนี้คือคนที่เขาอยากจะจับมือเดินไปข้างหน้าต่อไปเรื่อยๆ





“รักนะครับ โดนัทของพี่”









เชฟใหญ่ยังคงมีปฎิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้องทุกคนในที่ทำงาน แต่การแตะเนื้อต้องตัวคนอื่นของร่างสูงลดลงจนสังเกตได้ณัฐภาสลอบมองคนรักที่อธิบายงานให้กับเด็กฝึกงานสาว พร้อมรอยยิ้ม ถึงแม้จะยังหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ร่างโปร่งก็ต้องยอมรับ
ว่าการที่อีกฝ่ายยอมทำตามที่เขาพูดทั้งที่ขนาดเขาเองยังรู้ว่ามันเป็นเพียงความกังวลไร้สาระทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีขึ้นมากก็ตาม




“นัท จะนวดแป้งหรือจะส่องเจ้าใหญ่ เลือกเอาสักอย่าง”



เชฟกุณฑ์เตือนเด็กหนุ่มที่สมาธิหลุดอีกแล้ว ณัฐภาสรีบก้มหน้าขอโทษขอโพย ช่วยหัวหน้าเชฟขนมหวานนวดแป้งขนาดปังต่ออย่างขะมักเขม้น




“โธ่พี่กุณฑ์ อย่าใช้งานแฟนผมหนักมากสิครับ”



ร่างสูงของคนที่ทำให้ณัฐภาสโดนดุโผล่มายืนข้างเขาตั้งแต่ตอนไหนไม่อาจทราบ ถึงแม้เชฟกุณฑ์กับเชฟใหญ่จะมีตำแหน่งในครัวเท่ากัน แต่ใหญ่ก็ยังเคารพคนอายุมากกว่าเกือบสิบปีเป็นรุ่นพี่คนหนึ่ง เชฟกุณฑ์เลิกคิ้ว หันไปหาณัฐภาสที่นวดแป้งก้อนยักษ์ที่กินพื้นที่เกือบครึ่งเคาท์เตอร์




“นัท ฉันใช้งานเธอหนักมั้ย?”




“ไม่ครับเชฟ!”ร่างโปร่งที่เหงื่อโทรมกายตอบอย่างแข็งขัน



“ตามใจนะครับ...” หัวหน้าเชฟของคาวลากเสียง “...แต่ถ้าผมโทรไปขอเปลี่ยนเด็กส่งปลาพี่กุณฑ์ก็ไม่ว่าอะไรใช่ม้า?”




เขาเห็นนะว่าเชฟขนมหวานชอบออกไปพักสูบบุหรี่เวลาที่เด็กส่งปลาหน้าตาดีกล้ามเน้นๆก้นแน่นๆจากบริษัทที่รับผิดชอบวัตถุดิบทางทะเลของโรงแรมที่ทำให้เด็กในครัวของเขาชอบแย่งกันออกไปรับของมาส่งทุกวันอังคาร




“…กิ๊ฟ ว่างอยู่ไม่ใช่รึไง มาช่วยนัทนวดแป้งสิ!”




“สำหรับการเลือกวัตถุดิบ....”




ณัฐภาสเท้าคางมองวิทยากรรับเชิญบนเวทีซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกเพลียจนจดเลคเชอร์ผิดๆถูกๆแบบนี้อย่างกึ่งหลับกึ่งตื่น หลังจากครั้งแรกที่เขา(เหมือนจะ)สมยอม อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อยให้เขาให้ล้มตัวนอนเวลากลับถึงห้องซักวันด้วยเหตุผลที่ว่าหากไม่‘ยืดหยุ่น’ร่างกายทุกวัน อาจจะทำให้ร่างโปร่งรู้สึกเจ็บได้




“น้องผู้ชายที่ใส่แว่นสีเขียว รบกวนปลุกแฟนผมหน่อยได้มั้ยครับ”




ณัฐภาสที่เฝ้าพระอินทร์ไปครึ่งทางแล้วสะดุ้งเมื่อจู่ๆต้นแขนก็ถูกเขย่า ดวงตาสีน้ำตาลลืมขึ้นพบกับดวงตานับร้อยคู่ที่หันมามองเขาเป็นตาเดียว




“แฟนครับ ตั้งใจเรียนด้วยครับ”




เชฟใหญ่ประกาศออกไมค์ เรียกเสียงหัวเราะจากเด็กในห้องได้เป็นอย่างดี ณัฐภาสถลึงตาจ้องคนรักอย่างคาดโทษ ขยับนั่งตัวตรงแล้วหันไปมองจอโปรเจ็คเตอร์ต่อ พยายามไม่สนใจสายตาใคร่รู้ของทุกคนและแววตาขบขันของวิทยากรรับเชิญหนุ่มที่มองมา





“…ถ้าไม่มีคำถามก็เลิกคลาสได้ครับ”




ร่างโปร่งลุกขึ้นเก็บของเข้ากระเป๋าเช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆในคณะ ระหว่างกำลังก้มๆเงยๆอยู่นั้น เงาร่างสูงใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้เขา ณัฐภาสรู้ได้ทันทีจากความคุ้นเคยโดยไม่ต้องเงยหน้ามองว่าคนที่ยืนค้ำหัวตนอยู่นั้นเป็นใคร




“แป๊บนึงครับ”




“มา พี่ช่วยถือ”




ชายหนุ่มอาสา คว้าเป้ของคนรักไปถือโดยไม่รอให้อีกฝ่ายปฎิเสธ ณัฐภาสก้มมองมือที่ว่างเปล่าของตัวเองราวกับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมัน ก่อนที่มือเรียวนั้นจะถูกมือใหญ่คว้าไปกุมไว้แล้วดึงให้ออกเดินไปด้วยกัน





“ว้าย ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ”



“กรี๊ดด น่ารักอ่ะแก”





ณัฐภาสก้มหน้างุดขณะที่เพื่อนๆในคณะรุมถ่ายรูปพวกเขาราวกับเป็นดาราดัง ถึงแม้จะไม่ได้ชอบ แต่เขาก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไรเท่าที่ตัวเองคิด




“พี่ใหญ่ๆ ถ่ายรูปกันค่ะ”




แม่นางคุกกี้ที่ยังคงอ่านไม่ออกว่าไม่มีใครต้อนรับคว้าแขนข้างที่ว่างของเชฟใหญ่มากอดไว้อย่างสนิทสนม นอกจากนั้นยังชูสองนิ้วยิ้มให้กล้องของเพื่อนๆที่เริ่มหยุดถ่ายอย่างหัวเสียที่โดนขัดความฟิน





“ขอโทษนะครับ...”แต่แทนที่จะปล่อยเลยตามเลยตามประสาคนขี้เกรงใจ ชายหนุ่มกลับแกะมือเล็กที่มาวอแวกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้จักจบจักสิ้น “ผมไม่ชอบให้คนลามปาม โดยเฉพาะเด็กที่ผมไม่รู้จัก”




“เอ๊ะ?”





 เด็กสาวดูช็อคไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น อาจเป็นเพราะดวงหน้าน่ารักทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่ที่เธองอแงใส่มักจะปัดความ
รำคาญไปด้วยไม่อยากทำร้ายจิตใจร่างเล็ก




“...รีบไปเถอะครับ คนมองใหญ่แล้ว”




ณัฐภาสที่รู้สึกอ่อนเพลียเกินกว่าจะเป็นเป้าสายตาของใครเอ่ยขึ้น ดึงให้คนรักเดินตามออกมาจากห้องเรียน ถึงแม้จะต้องหยุดแจกลายเซ็นบนหนังสือไปตลอดทาง แต่คราวนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ชายหนุ่มร่างสูงที่ยังคงยิ้มอย่างเป็นมิตรเท่าไหร่นัก ซึ่งณัฐภาสไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยินดีหรือไม่กับชัยชนะของตัวเอง





“พี่ใหญ่...”



“ครับ?”





เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นจากเมนูอาหารในมือ พวกเขาอยู่ในภัตราคารหรูอีกฟากของเมืองซึ่งใหญ่ใช้เส้นสายของตนที่รู้จักกับเจ้าของร้านในการจองสำหรับเดทในครั้งนี้ ถึงแม้บรรยากาศจะดูผ่อนคลายเพียงใด แต่ในใจของณัฐภาสยังคงฟุ้งซ่านกับเรื่องที่อยู่ในหัวมาตลอดทั้งเย็น




“ผม…เป็นของผมแบบนี้ พี่รับได้จริงๆเหรอ?”



“หืม? นัทหมายความว่ายังไงครับ?”เชฟใหญ่เลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ




“ผมงี่เง่า เอาแต่ใจ ขี้หึง ขี้โวยวาย แต่ผมก็เป็นของผมแบบนี้อ่ะ พี่ใหญ่ทนไหวจริงๆเหรอครับ”




คนที่ดูเป็นที่รักของทุกคนที่พบเห็น เข้ากับคนง่าย คารมคมคายรู้วิธีพูดจากับคนอื่นจะทนอยู่กับคนแบบเขาได้จริงๆเหรอ?




“คนเราไม่มีใครเพอร์เฟคหรอกนะครับนัท”





ชายหนุ่มวางเมนูลง เอื้อมมือไปกุมมือเรียวของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามไว้หลวมๆ นิ้วหัวแม่มือนวดวนบนหลังมือนุ่มเบาๆ




 “นัทเป็นคนตรงไปตรงมา ตั้งใจเรียน ขยันเอาการเอางาน...แถมยังเอา...”




ชายหนุ่มขยับยิ้มเมื่อมือเรียวอีกข้างรีบปิดปากเขาไว้ทันที ดูท่าเด็กน้อยของเขาจะเรียนรู้อะไรกับคนอื่นเขาบ้างแล้ว ร่างสูงแกะมือเรียวออกจากใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน




“….พี่จะบอกว่า’เอาใจเขามาใส่ใจเรา’ คิดอะไรอยู่ครับ?หืม?”




“บอกว่ารับได้เองนะครับ ผมไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองหรอกนะ” ณัฐภาสเอ่ยย้ำ คนฟังยิ้มขำ





“พี่ก็ไม่ใช่คนดีอะไร พี่เป็นพวกขี้เกียจทำงานบ้าน ชอบเชียร์บอลเสียงดัง ดีกับคนอื่นไปทั่วจนนัทรู้สึกไม่ดี  พี่ก็เป็นแบบนี้ของพี่ นัทยังรับได้เลย จริงมั้ย?”




“….”





ร่างโปร่งพยักหน้า คนที่มักจะโวยวายอยู่ตลอด เวลาจนคำพูดแล้วดูน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก




“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ขอซักสามรอบ....”




“พี่ใหญ่! ขอโมเม้นท์ให้ผมซึ้งซักวินาทีไม่ได้รึไงครับ?!”คนหมดมู้ดโวยวาย




“แหน่ะ ยอมรับแล้วสิว่าซึ้งอยู่...”



ร่างสูงเย้า คนโดนแกล้งเบือนหน้าหนีงอนๆ แต่ชายหนุ่มยังไม่ยอมหยุดลูกตื๊อ



“แล้วตกลง...ได้มั้ยครับ?”




“เห็นว่าวันนี้ทำตัวดีหรอกนะ...” เด็กหนุ่มพึมพำ “...อย่าได้ใจไปนะครับ”



“แน่นอนครับ”




ร่างสูงยิ้มรับคำอย่างง่ายดาย แต่เขารู้ดีว่าจากการตอบรับของอีกฝ่ายในระยะเวลาที่ผ่านมา การที่ณัฐภาสจะโอนอ่อนตามสัมผัสเขาจนยอมให้มากกว่าคืนละครั้งอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้อีกเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความพยายาม




เรายังมีเวลาเกลี้ยกล่อมกันอีกนานครับ...ลูกกวางน้อยของพี่




THE END


--------------------
ขออนุญาตลาต่อหนึ่งอาทิตย์กว่าๆนะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
งานแต่งน้องทีมนี่มากันครบทุกคู่เลย ดีงามสุดๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ Kitsune_Mizu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หวานทุกคู่เลยค่ะชอบมากเลย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ Apinnoolek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานมากกกก :mew3:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักจุงงง  :hao7: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หวานมากจริงๆนะค่ะหวานทั้งเรื่องหลักและคู่พิเศษเลยค่ะ
อยากอ่านนิยายแนวมีหมามีแมวหรือสัตว์ร่วมซีนอีกจังค่ะเราว่านักเขียนบรรยายความรู้สึกของสัตว์แล้วน่ารักดีนะค่ะ
ถ้ามีแนวนี้เราคงดีใจมากกกกเลยค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารักทุกคู่เลย ..

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
น่ารักมากเลย แต่คู่เทสต์กับเวย์ดูยังไม่ค่อยได้สรุปออกมานะเนี่ย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ M.J.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักมากเลยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมากเลยครับ

ออฟไลน์ whoami

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อร้ากกกกกกกกก เบาหวานขึ้นตา มีความอิจอ่ะ ตาร้อนหมดแล้ว ทำไมแต่ละคู่หวานละมุนอย่างนี้คะ  :-[ :-[ :-[

สนุกมากค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ :pig4: :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น่ารักมาก surprise ได้เด็ดมาก กลางคนแบบอลังไปอีก ทีมก็หายหงอยได้เลยนะ
คุณวีอบอุ่น ดูแลดี มีวิธีให้ทีมยอมตลอด

ตลกนัท กับเชฟ ชอบเล่นใหญ่ 55555

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับตอนพิเศษ น่ารักมากเลยค่ะ
ชีวิตครอบครัวเริ่มต้นอย่างจริงจังแล้ว ทีมจะได้ไม่นอยด์นะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
2วันในการอ่าน สนุกมากเลยค่ะ ทุกพาร์ทเลย
เก่งมากกกกกก ชอยคู่เวย์เทสต์มาก ง้องแง้งๆ ฮิๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เคลือบน้ำตาล-น้ำอ้อยกันทุกคู่เลย  :mew1:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
สนุก น่ารักมากทุกคู่เลยค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มตลอด
 
ขอบคุณสำหรับนิยาย :pig4:
บวกๆจ้า ^^

ออฟไลน์ pummy09

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
สนุกมากเลยค่ะ อ่านไปอ่านมา กลายเป็นทีมดูจะร้ายกว่าเทสต์ซะงั้น ฮ่าาา

แต่รู้สึกเมะแต่ละคนนี่ หื่นนะคะ ฮ่าาาา

ขอบคุณมากนะคะ

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกมากเลยค่ะ
น่ารักทุกคู่
ทีมนี่มีความเป็นแม่มาก 5555+ แถมแอบร้ายด้วย
เอาสะเวย์กลัวจนตัวสั่น 55555

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกมากเลยค่ะ น่ารักทุกคู่เลย
เราตามมาจากน้องแว่น.  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ AgotoZ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด