Which one? รัก||หลอก||เด็ก แจ้งข่าวตีพิมพ์ คห. 697 [28/06/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Which one? รัก||หลอก||เด็ก แจ้งข่าวตีพิมพ์ คห. 697 [28/06/19]  (อ่าน 309323 ครั้ง)

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
โดนัทน่ากินล่ะสิ  อิอิ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
        เชฟใหญ่ก็อ้อยไปเรื่อยน้องน้อยใจเลยค่ะอิอิ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โถ... อะไรจะเกรี้ยวกราดขนาดนั้นจ๊ะโดนัท

ออฟไลน์ kobyp_lu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่ใหญ่ทำน้องงอนแล้้วเนี่ย  555555555

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
นัทยิ่งงอนหนักเข้าให้แล้วไง พี่ใหญ่จะมาง้อถูกไหมเนี่ย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
แต่อย่างที่โบราณท่านว่าไว้ เกลียดอย่างไหน ย่อมได้อย่างนั้น



เสียงฮือฮาของเพื่อนในคณะเขาดังขึ้นเมื่อพวกเขาเดินลงมาจากตึกเรียน ณัฐภาสไม่รู้ว่าทุกคนกำลังตื่นเต้นอะไร แต่ด้วยความที่ธรรมชาติเป็นคนไม่สนใจอะไรอยู่แล้วจึงไม่สนใจจะชะเง้อผ่านฝูงชนที่ออกันอยู่ข้างหน้า





“นั่นไงคะนัท!”




เสียงแหลมของยัยผู้หญิงที่ตอนนี้เขาจะได้อย่างขึ้นใจแล้วว่าชื่อคุ้กกี้ดังแหวกอากาศราวกับเสียงหวีดสยองของเปรตที่ต้องการขอส่วนบุญ ณัฐภาสเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนที่ไม่อยากเจอที่สุดในชุดแจ็กเก็ตหนังสือดำสนิทกับกางเกงยีนส์ฟอกและแว่นตาดำฉาบปรอทราคาแพงเอนพิงช็อปเปอร์คันโตกำลังโบกมือให้เขา





อะไรเนี่ย?




“นัท พี่ใหญ่อุตส่าห์หานะแก รีบมาสิ”แม่นางคุ้กกี้เจ้าเก่าที่นอกจากจะย้อมผมสีทองสว่างและทาปากสีแดงสดประหนึ่งปอบเพิ่งกินคนเสร็จแล้วยังแต่งตัวผิดกระเปรียบตั้งแต่หัวจรดเท้าเร่งเขาด้วยท่าทีสนิทสนมทั้งที่พวกเขาไม่เคยพูดกันสักคำ




“เรารู้จักกัน?”





ร่างโปร่งถามเสียงเย็น ก่อนจะเดินผ่านร่างเล็กที่อ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเพิ่งจะโดนผู้ชายพูดแบบนั้นด้วยต่อหน้าเพื่อนที่ยืนมองอยู่รอบๆ ณัฐภาสเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผู้ชายที่ยังคงยิ้มให้เขาอย่างอารมณ์ดี ผิดกับเด็กหนุ่มที่มีสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด




“มีธุระอะไรครับ?”




“ไปหาอะไรกินกันมั้ย?”




ร่างสูงถามพร้อมรอยยิ้ม




เหอะ คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง




ณัฐภาสรู้ดีว่าคำตอบคือใช่ แต่เขาก็ยืนกรานที่จะทำเป็นไม่รับรู้ถึงหัวใจที่เพิ่งเต้นผิดจังหวะไปกับคำถามนั้น





“ทำไมครับ? หากินเองไม่เป็นเหรอ?” ร่างโปร่งเลิกคิ้ว นับว่าเขายังมีความเคารพอีกฝ่ายอยู่บ้าง หากไม่อย่างนั้น คำว่าครับคงจะปลิวหายไปนานแล้ว




“คนน่ารักนี่ใจร้ายแบบนี้ทุกคนรึเปล่า”




ร่างสูงหยอกคำหวานอีกครั้ง ณัฐภาสที่ไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาคนอื่นนานกว่านี้หันหลังเพื่อที่จะเดินกลับไปอีกทาง แต่กลับถูกมือใหญ่รั้งไว้เสียก่อน





“เดี๋ยวสินัท คุยกันก่อนได้มั้ย”




“ผมว่าผมไม่ได้รู้จักคุณดีถึงขั้นจะต้องฟังอะไรจากคุณ ปล่อย!”




ร่างโปร่งอยากจะออกไปจากสายตาของคนอื่นให้เร็วที่สุด




“นัท….”



“เอ๊ะ! รึจะเอา?!”




เด็กหนุ่มที่มีความอดทนสั้นยิ่งกว่าไม้จิ้มฟันหันกลับมาหาร่างสูงที่ดึงเขาไว้ เงื้อมืออีกข้างขึ้นเตรียมพร้อมหาเรื่องอีกฝ่ายเต็มที่หากชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยเขาไป แต่แทนที่จะกลัว ชายหนุ่มกลับกระชากร่างของเขาเข้ามาจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวเซทับลงบนอกแกร่งที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆจนร่างโปร่งมั่นใจว่ามีเพียงเขาที่ได้ยิน




“ก็อยากเอาอยู่นะ แต่ไปกินข้าวกันก่อนดีมั้ย?”




หมัดลุ่นๆถูกประเคนใส่หน้าของเชฟหนุ่มแทนคำตอบจนหน้าหัน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างตกใจของคนที่มุงดู ณัฐภาสสะบัดมืออีกข้างออกจากการเกาะกุม แล้วหันหลังเดินหนีออกจากที่ตรงนั้นไปให้เร็วที่สุด ทั้งอับอายจากสิ่งที่ร่างสูงพูดกับเขา และเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แต่ส่วนหนึ่งของจิตใจของเขาคิดว่าอีกฝ่ายสมควรได้รับหมัดนั้นแล้ว




ใช่...เขาไม่ผิดซักหน่อย




ส่วนคนที่โดนหมัดลุ่นๆกระแทกจนเห็นดาวโดยไม่ทันตั้งตัวร้องซี้ดออกมาเบาๆ รู้สึกถึงรสชาติเค็มๆของเลือดในปาก เหล่าเด็กสาวที่ยืนมุงรีบกรูเข้ามาดูแลหวังเอาใจชายหนุ่ม แต่แม่นางคุกกี้ที่ว่องไวที่สุดรีบคว้าปากเช็ดหน้ามาเตรียมจู่โจมร่างสูงทันที




“ขอบคุณนะครับคุ้กกี้”




เชฟใหญ่ยิ้มขอบคุณพร้อมกับดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากมือของเด็กสาวก่อนที่อีกฝ่ายจะได้เอามาเช็ดให้เขา ถึงแม้ร่างสูงจะเป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่าย และมักจะรักษาน้ำใจคนอื่นอยู่เสมอ แต่เขาก็มีขอบเขตอยู่บ้างกับคนที่เขาอยู่สึกรำคาญอย่างผู้หญิงคนนี้




แต่สำหรับร่างโปร่งที่ต่อยเขาแล้วหมุนตัวเดินหนีไปคนนั้น บอกได้คำเดียว....แซ่บมาก




ความเผ็ดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา อยากปราบพยศให้ร่างนั้นกลายเป็นลูกแมวในกำมือที่เชื่องกับเขาเพียงคนเดียว










“เชฟ ขอคุยด้วยหน่อย”




เสียงทุ้มของคุณวีรภัทร เจ้าของโรงแรมที่เขาเป็นหัวหน้าเชฟอยู่ดังขึ้นจากทางเข้าห้องครัว ร่างสูงในชุดหัวหน้าเชฟสีขาวเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง แต่ก็บอกให้ลูกมือทำงานต่อไปแล้วเดินไปหาเจ้านายที่ยืนกอดอกรออยู่ วีรภัทรกวักมือให้อีกฝ่ายเดินตามมาที่ทางเดินด้านนอกซึ่งตอนนี้ไม่มีคนเดินผ่าน





“มีอะไรรึเปล่าครับ?”




เชฟใหญ่ถามอย่างเป็นกังวล มีลูกค้าคอมเพลนท์เรื่องอาหารอะไรรึเปล่า? ถึงแม้หัวหน้าเชฟจะไม่ใช่คนปรุงอาหารส่วนใหญ่ แต่มันก็เป็นความรับผิดชอบของเขาหากจานที่ส่งออกไปมีปัญหา




“ไม่ใช่เรื่องงานหรอก วางใจเถอะ”




ประธานหนุ่มที่เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมหลายสิบแห่งในเครือทั้งไทยและต่างประเทศทั้งที่ตอนนี้อายุเพียงสามสิบสามถอนหายใจ




“…”คนฟังไม่รู้ว่าควรจะโล่งใจดีหรือไม่ ได้แต่ยืนเงียบรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ




“ปากไปโดนอะไรมา”




วีรภัทรถามถึงมุมปากที่ยังมีร่องรอยแห่งความรัก(?)ของณัฐภาสหลงเหลืออยู่ เชฟใหญ่ยิ้มแห้ง




“เอ่อ...ผม....”




“ก่อนจะพูดอะไร จำได้ใช่มั้ยว่าฉันก็เพิ่งกลับมาจากมหาลัยเหมือนกัน”




จริงสิ เขาลืมไปได้ยังไงกันนะว่าวีรภัทรมีอาชีพเสริมเป็นอาจารย์ของภาควิชาภาษาอังกฤษที่เด็กปีหนึ่งทุกคนจะต้องเข้าเรียน ซึ่งนั้นรวมถึงณัฐภาสด้วย ดีไม่ดีวิชาที่เด็กหนุ่มเพิ่งเลิกเรียนจะเป็นวิชาของชายหนุ่มด้วยซ้ำ




“แหะๆ ขอโทษครับ”



ร่างสูงยิ้มเจื่อนอย่างไม่รู้จะพูดอะไร



“เด็กนั่นอายุแค่เท่าไหร่?สิบเจ็ด?”



“จะสิบแปดแล้วครับ”ร่างสูงรีบแย้งขึ้น ก่อนจะหุบปากฉับเมื่อเห็นว่าสายตาของเจ้านายไม่ได้ต้องการคำตอบจากเขา




“แล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนซัดมาแบบนี้? อย่าบอกนะว่าไปฉุดเขา...”




“ฮะ? มะ…ไม่ใช่ครับ”ร่างสูงรีบส่ายหน้าพรืด “ผมก็แค่...อยากทำความรู้จัก”




“ก็ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกัน”วีรภัทรถอนหายใจ “ถ้าเผลอจริงจังขึ้นมาระวังจะเจ็บฟรี”




“ผมไม่เคยคิดว่าจะทำเรื่องแบบนี้เล่นๆหรอกครับ” คนฟังขมวดคิ้วกับคำเตือนของเจ้านาย เขารู้ว่าวีรภัทรไม่ได้คบกับใครจริงจังมาตั้งแต่น้องเวย์เกิด แต่เขาไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกแบบนี้กับการคบกับใครซักคน




“หึ…เด็กอายุแค่นั้นไม่เข้าใจหรอกว่าคบแบบจริงจังคืออะไร”ร่่างสูงในชุดสูทส่ายหน้า “ถือว่าฉันเตือนแล้วละกัน”




เขารู้ว่าวีรภัทรเป็นห่วงเขาในฐานะคนที่รู้จักกันมานาน แต่เชฟใหญ่ก็ยังคิดว่าสภาพจิตใจของวีรภัทรในตอนนี้น่าเป็นห่วงกว่าเขาเสียอีก




หวังว่าซักวันชายหนุ่มจะเจอคนที่พร้อมจะเยียวยาบาดแผลในจิตใจ แล้วเริ่มต้นใหม่กับความรักจริงๆเสียที




“แล้วถ้าวันนึง...คุณเกิดตกหลุมรักเด็กอายุแค่นั้นขึ้นมา...อย่างพวกนักศึกษาในคลาส... คุณจะทำยังไงครับ?”เชฟใหญ่อดถามขึ้นมาไม่ได้ ถึงแม้ภาพที่ชายหนุ่มกร้านโลกที่ต้องฝ่าฝันทุกสิ่งทุกอย่างด้วยลำแข้งของตัวเองพร้อมกับกระเตงลูกน้อยไปด้วยทุกก้าวของเส้นทางจะมาตกหลุมรักเด็กมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ได้ออกมาเผชิญโลกภายนอกจะเป็นอะไรที่เขาไม่คิดว่าจะมีวันเกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มก็คิดว่าคงจะเป็นภาพที่น่าสนใจพอตัวเลยทีเดียว





“หึ…”ร่างสูงขยับยิ้มมุมปาก “ฉันไม่โง่ขนาดนั้นหรอก”





“ป๊ะป๋า~”





บทสนทนาของคนทั้งคู่ถูกขัดโดยร่างเล็กของเด็กชายวัยสิบเอ็ดปีในชุดนักเรียนที่วิ่งตื๋อนำพนักงานต้อนรับที่ช่วยพาเขาจากรถตู้โรงเรียนขึ้นมาที่นี่แล้วกระโดดกอดเอวของคนเป็นพ่อจนเซวูบ วีรภัทรหัวเราะออกมาเบาๆถึงแม้จะรู้สึกจุกอยู่มาก




“เดี๋ยวพ่อไปประชุมแล้ว เวย์หาอะไรกินเสณ้จแล้วขึ้นไปทำการบ้านรอที่ห้องทำงานพ่อนะ ให้พี่เขาไปส่งด้วย ห้ามไปไหนมาไหนเองคนเดียวนะครับ”




“คร้าบผม”




น้องเวย์ตอบรับเสียงร่าเริง ด้วยโครงหน้าที่ฉายแววหล่อเหลาตั้งแต่เล็กและบุคลิกร่าเริงแจ่มใสและนอบน้อมถ่อมตนทำให้
พนักงานทุกคนเอ็นดูบุตรชายคนเดียวของท่านประธานเป็นอย่างมาก รวมถึงหัวหน้าเชฟรูปหล่อที่รักเด็กน้อยไม่ต่างจากน้องชายแท้ๆ




“น้องเวย์อยากกินอะไรครับ?”ร่างสูงย่อตัวลงคุยกับเด็กชาย




“ข้าวมันไก่ฮะ”





เด็กชายตอบอย่างร่าเริงโดยไม่ต้องคิด เชฟใหญ่เข้ามาทำงานให้กับวีรภัทรได้สองปีกว่าแล้ว และทำอาหารให่้กับเด็กชายหลังจากกลับมาจากโรงเรียนแทบทุกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจความหลงไหลของเด็กน้อยที่มีต่ออาหารจานนี้เลยจริงๆ





“ครับๆ ของหวานเอาข้าวเหนียวมะม่วงเหมือนเดิมเนอะ”





ถึงแม้จะมีบางครั้งที่เขาสามารถโน้มน้าวใจเด็กชายให้กินอาหารอย่างอื่นได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ร่างสูงก็มักจะใจอ่อนกับดวงตาสีรัตติกาลที่มองเขาเหมือนลูกหมาอยากได้กระดูกนั่น





อีกสิ่งหนึ่งที่ประหลาดมากของน้องเวย์กับลูกคุณหนูทั่วไปที่เขาเห็นมาในภัตรคารของโรงแรมแห่งนี้บ่อยๆคือการที่เด็กชายเกลียดการนั่งโต๊ะหรูๆด้านนอกมาก น้องเวย์เลือกที่จะนั่งอยู่ภายในครัวที่มีเสียงโช้งเช้งและควาามร้อนกับกลิ่นอาหารอยู่ตลอดเวลามากกว่า เวลาทำการบ้านส่วนใหญ่ของเด็กชายก็อยู่ที่นี่เพราะอย่างน้อยหากไม่รู้เรื่องน้องเวย์ก็อยากจะถามพวกเขามากกว่าจะรบกวนพ่อของตัวเอง





“พี่ใหญ่ๆ ปากพี่ใหญ่เป็นอะไรฮะ”หลังจากที่นั่งลงบนเก้าอี้ที่มุมประจำซึ่งเชฟใหญ่ใช้เพื่อบันทึกสูตรอาหารที่คิดได้ เด็กชายวัยสิบเอ็ดก็ชี้มาที่มุมปากของเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น




“เอ่อ....”




“โดนกบตีปากมาเหรอฮะ?”เด็กชายถามต่อโดยไม่รอคำตอบจากคนที่อ้ำอึ้ง




“หือ?”ร่างสูงประหลาดใจที่อีกฝ่ายรู้จักสำนวนนี้ด้วย





“พี่อุ่นบอกว่าถ้าผมกับซันเล่นเสียงดังกวนป้าเกศนอน จะเอากบมาตีปาก”




ร่างเล็กตัวสั่นเมื่อนึกถึงพี่ชายคนรองของบ้านทรัพย์ดำรงที่เขายังไม่เข้าใจจนถึงตอนนี้ว่าทำไมต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง พี่น้ำอุ่นเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เวย์ไม่กล้าเล่นด้วย เพราะภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลานั้นมักจะมีคนที่น่ากลัวซ่อนอยู่ภายในรอเวลาปรากฏตัวตอนที่พวกเขาดื้อ




“ถ้าอย่างนั้นเวย์ก็ต้องเป็นเด็กดีเนอะ จะได้ไม่โดนกบตีปาก”





เชฟใหญ่ยีผมเจ้าตัวเล็กพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู




“แล้วตกลงพี่ใหญ่เป็นเด็กไม่ดีเหรอฮะ”




น้องเวย์ที่เปิดกระเป๋าหยิบการบ้านออกมาทำเงยหน้าถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆอีกครั้ง




“อ่า…ก็ประมาณนั้นแหละนะ”ร่างสูงยอมรับเสียงอ่อน ขนาดเด็กตรงหน้ายังรู้เลยว่าเขาเป็นคนผิด แล้วแบบนี้เขาจะยังมีหวัง
ได้กลับไปเจอโดนัทอีกมั้ยเนี่ย





“แล้วพี่ใหญ่ขอโทษรึยังฮะ?”




“เอ่อ...”




“ไม่ได้นะฮะ ป๊ะป๋าบอกว่าทำผิดแล้วก็ต้องขอโทษ”น้องเวย์โวยวาย “ไม่อย่างนั้นจะโดนโป้งไปเป็นพันๆปีเลยนะฮะ”




“เหรอครับ? เป็นพันๆปีเลยเหรอ?”




คุณหัวหน้าเชฟแสร้งทำเสียงตกใจ แต่ในใจก็แอบใจแป้วว่าจะโดนโกรธอย่างที่เด็กน้อยว่าจริงๆ




“อื้อ พี่ใหญ่ต้องรีบขอโทษนะฮะ”




“ครับ พี่จะรีบขอโทษเลย”




ร่างสูงตอบ น้องเวย์ที่ได้รับคำมั่นสัญญากลับไปสนใจการบ้านของตัวเองต่อ ส่วนเชฟใหญ่ก็ได้แต่ทอดถอนใจว่าจะทำ
อย่างไรคนน่ารักถึงจะยอมให้เขาเข้าใกล้โดยไม่ต้องเลือดตกยางออก





-----------

โธ่พี่ใหญ่ ต้องให้เด็กสอน5555

วีคหน้าจำศีลฮะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
พี่ใหญ่จีบคนแบบปกติไม่เป็นใช่มั้ยเนี่ย ถึงขั้นให้เด็กน้อยสอนเลย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ที่เห็นว่าแพรวพราวนั่นแค่เฟรนด์ลี่หรอกเรอะ พอจีบจริงนี่ไปไม่เป็นเลยใช่ไหมเชฟ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อ่านจนจบเลยค่ะ แบบรัวๆเลยทีเดียว

ทีมเป็นน้องน้อย ที่บ้านเลยดูแลมากหน่อย แต่ที่ไหนได้ คุณวีมาขุดความร้ายให้ทีมซะงั้น 5555
ทีมมีความเป็นแม่บ้าน อ่อนหวาน อ้อน อ่อย มีครบ จัดเต็มทุกเม็ด แถมใครมาขัดตอนเป็นได้มีเจอ
แต่คุณแม่รอดไปค่ะ เพราะเป็นคุณแม่ แต่คุณวีมาแทนค่ะ 5555

คุณวีคือหลงหนักมาก รักหนักมากด้วย พ่อบุญทุ่มจริงๆ ทุ่มให้ตั้ง 40%
เอาใจทีมน่าดู คือรักมากก็อยากดูแลมาก และเอ็นดูมากอะเนาะ

เทสต์ก็สยบได้เพราะเวย์เลยนะ รู้จักรักเป็น เอาใจเป็น ดูแลเป็น
เวย์ก็ยังมีความเด็ก แต่ก็แอบโตเป็นบางมุม ทะเล้น เข้ากันดี

ใหญ่คือแบบผู้ชายตัวจริงน่ะ ทะเล้น หลอกล่อ แต่อบอุ่น
นัทก็หลงลมไปเหอะ คนมันปลื้มอยู่แล้วอะนะ

น่ารักดีค่ะ ได้เห็นเทสต์ทีมหลายมุม ความหวงน้องของเทสต์ที่มามีตอนมีคุณวี
ความกล้าของทีมที่มีตอมมีคุณวี คุณวีนี่ดีนะ คนจุดประกายหลายอย่าง 5555

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ รอติดตามเรื่องต่อๆไปค่ะ และรอตอนพิเศษต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารัก ไปอีกแบบ

ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โถ่น้องเวย์ สายแบ๊วตอนเด็ก ไม่น่าจับกดพี่ไทด์ได้เลย 555555 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
งุยย น่ารัก พี่ใหญ่

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Step 3: ใส่กลิ่นวนิลาไปอีกสามช้อนชา



เขาว่ากันว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก





ถึงแม้เชฟใหญ่จะไม่มีประสบการณ์เรื่องตามจีบตามป้อผู้หญิงมากอย่างที่คนอื่นเข้าใจ แต่ร่างสูงรู้ดีว่าเขามีหน้าตาและเสน่ห์ปลายจวักเป็นอาวุธ เช้านี้เขาจึงมาดักรอณัฐภาสที่หน้าโรงอาหารกลางซึ่งเขาแอบได้ยินตอนที่ณัฐภาสคุยกับญาวิกาว่าเป็นสถานที่ประจำของทั้งสอง ในมือมีกล่องเก็บอุณหภูมิที่บรรจุเมนูพิเศษที่เขาตั้งใจทำมาให้อีกฝ่าย




แต่ในทะเลผู้คนที่ทุกคนใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกัน ใหญ่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังงมเข็มอยู่ในมหาสมุทร




“นาฬิกาปลุกน่ะมีไว้ประดับโต๊ะรึไงยะ? เห็นมั้ยเนี่ยคนเยอะแยะ จะกินข้าวทันได้ยังไง”




เสียงแหลมเล็กดังฟังชัดเป็นเอกลักษณ์ช่วยเขาไว้ได้ทันเวลา ใหญ่นึกขอบคุณญาวิกากับเสียงของเธออยู่ในใจ ทางต้นเสียง นักศึกษาสามคนกำลังเดินตรงมาทางเขาเพื่อเข้าไปในโรงอาหาร ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าไปทักอีกฝ่ายอย่างไรอยู่นั้น เด็กหนุ่มที่เขาไม่เคยเห็นหน้าซึ่งเดินอยู่ข้างณัฐภาสก็หันมาเห็นเขาเสียก่อน




"ทำมาเป็นพูด ทีพวกกูรอมึงแต่งตัวไปเรียนทุกวันไม่เห็นพวกกูบ่นอะไร...อะไรวะหมอก สะกิดอยู่ได้"




คนที่เขาตั้งใจมาหาหันมาหาเรื่องเด็กหนุ่มข้างๆข้อหาขัดการกัดกันของตนกับญาวิกา เด็กคนนั้นชี้มาที่เขาไม่พูดไม่จา ณัฐภาสมองตามมือของเพื่อน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่อีกฝ่ายชี้เป็นใคร





"อ้าว นั่นเชฟใหญ่นี่ สวัสดีค่าเช...อ้าว นัท ไปไหนอ่ะ?"




ขายาวก้าวตามร่างในชุดนักศึกษาที่หมุนตัวเดินหนีไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ณัฐภาสจ้ำอ้าวกลับไปทางที่พวกเขาเดินมา ร่างโปร่งวิ่งไปถึงหลังตึกที่ไม่มีคนผ่านเมื่อคนที่ตามมาวิ่งตามเขาทันแล้วคว้าแขนเรียวไว้





"ดีใจที่เจอพี่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ?"




ร่างสูงยังมีอารมณ์หยอกล้อ แขนข้างที่เป็นอิสระของณัฐภาสเหวี่ยงเข้าหาเขาทันทีแทนคำตอบ แต่คราวนี้ชายหนุ่มขยับหลบได้ทันเวลา





"เดี๋ยวสินัท ฟังพี่ก่อน"





"ผมไม่อยากพูดกับคุณ"




"พี่แค่อยากขอโทษ"





เชฟใหญ่เอ่ยเสียงอ่อน ได้ผลเมื่อคนฟังยอมลดกำปั้นลงเล็กน้อยถึงแม้จะไม่ทั้งหมด ณัฐภาสจ้องเขาด้วยสีหน้าที่ตีความได้ว่า




'มีอะไรก็ว่ามา'




"พี่ไม่ควรพูดจาแบบนั้น พี่ก็แค่...อยากรู้จักนัทมากกว่านี้"




ร่างสูงยกมือลูบคอตัวเองอย่างเก้อเขิน มืออีกข้างยื่นกล่องข้าวที่ตนทำมาให้เด็กหนุ่ม ณัฐภาสรับมาด้วยสีหน้างุนงง





"แหะๆ คงเละไปแล้วแหละ แต่น่าจะยังอร่อยอยู่นะ"




"...เอามาให้ผมทำไม?"





ณัฐภาสถามอย่างไม่เข้าใจ





"เอามาง้อนัทไง" เชฟใหญ่ยิ้ม "เผื่อว่านัทจะใจอ่อนยอมไปทานข้าวกับพี่ซักมื้อ"




"เห็นเป็นหมารึไงเอาของกินมาล่อ"





ถึงจะบ่นไปแบบนั้นแต่ก็ยังแกะกล่องข้าวดูอย่างอยากรู้อยากเห็น ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นทะเลพริกไทยดำกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ ทั้งที่เป็นอาหารง่ายๆแต่กลับมีกลิ่นเครื่องเทศอบอวลน่ารับประทาน สมกับที่คนทำเป็นเชฟคนเก่งของยุค





"กินก็ได้ กลัวเสียของหรอกนะ"





เด็กหนุ่มแก้ตัวล่วงหน้า เดินอุ้มกล่องข้าวกลับไปหาเพื่อนของตัวเองโดยไม่พูดอะไรกับคนที่ทำมาให้ เชฟใหญ่ยิ้มอย่างเอ็นดู ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในโหมดหน้ามืดตามัวหรืออะไรแต่เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าทำอะไรก็น่ารักไปหมด




โอย..ถ้าได้มากอดไว้จะฟินแค่ไหนนะ











“อะไรคือทำหน้าอย่างกับได้สามีคะคุณนัท ไหนแกบอกว่าไม่ชอบเขา”





ญาวิกาแซวคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวหลังทานอาหารในกล่องข้าวสื่อรักจนเกลี้ยงอย่างหมั่นไส้ ทีสาวน้อยบอบบางอย่างเพียงยังต้องทนผ่าทะเลคนไปต่อแถวร้านอาหาร โลกนี้มันไม่ยุติธรรม




“กูเรียนคหกรรม กูก็ต้องรู้คุณค่าของอาหารป่ะ เกลียดคนก็ส่วนเกลียด อาหารไม่ได้ทำอะไรผิดเว้ย ใช่มั้ยไอ้หมอก”




ณัฐภาสแถ หันไปเรียกกำลังเสริมจากเพื่อนที่นั่งทำแบบฝึกหัดอยู่ข้างๆ




“เอ่อ...น่าจะใช่นะ”




มธุวันยิ้มเจื่อนเพราะมัวแต่ทำงานจนไม่ได้ฟังบทสนทนาของเพื่อนทั้งสอง




“อย่ามา คนอคติสูงเทียมฟ้าอย่างแกน่ะนะจะคิดอะไรฉลาดๆแบบนี้เป็น ใช่มั้ยหมอก” ญาวิกาหันไปขอความเห็นเพื่อนบ้าง





“เอ่อ..ก็คงอย่างนั้นแหละ” มธุวันตอบอย่างไม่อยากให้เพื่อนเสียความรู้สึก ไม่ทันฟังคำพูดของญาวิกาอีกแล้ว




“หมอก! ตกลงมึงอยู่ข้างใคร?”





“นี่! อย่าดุหมอกนะ!”




มธุวันได้แต่ลอบถอนหายใจ ก่อนจะก้มลงทำแบบฝึกหัดต่อ ปล่อยให้ทั้งสองคนตีกันต่อไป










ณัฐภาสไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกโล่งอกหรือผิดหวังที่ไม่เห็นร่างสูงใหญ่ของคนที่เอากล่องข้าวมาให้เขายืนอยู่หน้าตึกเรียนอย่างคราวที่แล้ว แต่บอกตามตรงหลังจากเหตุการณ์ในครั้งแรกเขาก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้ามายืนรอเขาแบบนั้นอีก





“มองหาใครอยู่เหรอครับ? อุ่ก!”





เสียงทุ้มที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากด้านหลังทำให้คนตกใจง่ายเผลอถองศอกใส่หน้าท้องแข็งอย่างแรง




“เฮ้ย!”




ณัฐภาสร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองประทุษร้ายไปคือคนที่กำลังมองหาเมื่อครู่ เชฟใหญ่ตัวงอกุมท้องอย่างเจ็บปวด แต่ยังคงยิ้มให้เขาแห้งๆ




“ขอโทษที...ตกใจเหรอ?”




“ให้ตายเถอะ โผล่มาแบบคนธรรมดาซักครั้งไม่ได้รึไงครับ?”





ร่างโปร่งโวยวายกลบเกลื่อนความรู้สึกผิด สอดแขนเข้ามาช่วยพยุงอีกฝ่ายไปนั่งตรงม้านั่งที่อยู่ไม่ไกล





“แบบนั้นเดี๋ยวนัทไม่ประทับใจไง”




ชายหนุ่มอ้าง ยังคงจุกจากการโดนถองเข้าเต็มๆลิ้นปี่ ณัฐภาสกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย กลบเกลื่อนความรู้สึกหน้าร้อนๆที่เขากำลังเป็นอยู่ในตอนนี้




“แล้วมาทำไม?”




“เขาบอกว่าถ้าโผล่มาให้คนที่เราชอบเห็นบ่อยๆ เวลาเราหายไปเขาจะคิดถึงเรา”




“เลิกพูดจาแบบนั้นซักทีได้มั้ยครับ”




ณัฐภาสเบือนหน้าหนี เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ทำไมคนคนนี้ถึงได้หน้าม่อไม่เกรงใจใครแบบนี้นะ




“เป็นไง ข้าวกล่องพี่อร่อยมั้ย?”





เชฟใหญ่ถามขึ้นเมื่อเริ่มหายจากอาการจุก ถึงแม้ณัฐภาสจะไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ใจ แต่การจะบอกว่าอาหารของเชฟระดับห้าดาวไม่อร่อยก็เหมือนกับการบอกว่าสุนัขไม่ได้มีสี่ขา หรือพระอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นทางทิศตะวันออก ร่างโปร่งพยักหน้าส่งๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มกว้างอย่างพอใจได้แล้ว




คนบ้าอะไรทำตัวปัญญาอ่อนยังหล่อวะ?




ณัฐภาสคิดอย่างไม่สบอารมณ์




“นัท พี่มีข้อเสนออยากจะให้นัทลองพิจารณาดู”




จู่ๆร่างสูงก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คนฟังหรี่ตาลงอย่างจับผิด ไม่รู้ว่ารอบนี้อีกฝ่ายจะมาไม้ไหนกันแน่ เชฟใหญ่ยิ้มกับท่าทีหวาดระแวงของอีกฝ่าย










“ตกลงข้อเสนอที่ว่านี่คืออะไรครับ?”





ณัฐภาสเอ่ยขึ้นอย่างเริ่มหมดความอดทน จู่ๆร่างสูงก็พาเขากลับมาที่ห้องที่ใช้เรียนคลาสทำอาหารที่ไม่มีใครอยู่ บอกให้เขา
นั่งรอแล้วไปวุ่นวายทำอะไรอยู่ที่โต๊ะทำอาหารอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน จนตอนนี้เขาชักรู้สึกหิวนิดๆแล้ว




“เอ้า ลองชิมดู”




หัวหน้าเชฟหนุ่มวางขนมหวานหน้าตาน่ารับประทานลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา ณัฐภาสเงยหน้ามองร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมตักขนมสีขาวๆที่เขาไม่มั่นใจว่าคืออะไรเข้าปากแต่โดยดี




“….”




ณัฐภาสพยายามที่จะไม่เสียมารยาท เขาพยายามแล้วจริงๆ




แต่สุดท้ายรสชาติอบอวลอยู่ในปากก็ทำให้เขาต้องรีบคายทิ้งอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ร่างสูงที่รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้หยิบถังขยะใบเล็กมาให้ร่างโปร่งคายทิ้งและส่งขวดน้ำที่เปิดฝาแล้วให้อีกฝ่ายรับไปดื่ม




“นั่น...อะไร...”





เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงขาดห้วง ร่างสูงยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยสีหน้าประหม่า




“พี่ไม่เคยเรียนทำอาหาร”เชฟใหญ่เริ่มเล่า “พี่อาศัยครูพักลักจำเทคนิคการทำอาหารต่างๆจากครัวร้านอาหารหลายที่ที่พี่ทำงานอยู่ อาหารคาวน่ะมันง่าย แค่เรารู้ว่ารสชาติไหนเข้ากับอะไร แต่ขนมหวานที่ต้องใช้ความรู้ทั้งเรื่องอัตราส่วนของส่วนผสม ความร้อน การกะเวลา พี่ฝึกแค่ไหนของที่พี่ทำออกมาก็กินไม่ได้ทุกครั้ง”




“แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงไม่ไปเรียนล่ะครับ”




ณัฐภาสถาม เชฟใหญ่ยิ้มขื่น





“เพราะทุกคนคิดเอาเองน่ะสิว่าคนที่เป็นเชฟแล้วจะมาเรียนทำขนมพื้นฐานทำไม พอพี่ได้เป็นหัวหน้าเชฟที่โรงแรมธารา พี่ก็ไม่อยากจะให้ลูกค้าสงสัยในชื่อเสียงของภัตราคาร หัวหน้าเชฟยังต้องไปเรียนอบขนมอยู่...ฟังดูไม่น่าเชื่อถือเลยว่ามั้ย?”





“ไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้นเลยครับ เชฟที่เรียนทำขนมต่อก็เยอะแยะ”




ณัฐภาสเถียง ทั้งที่รู้ว่าบางครั้งในหลายๆเรื่อง ภาพลักษณ์ก็มาก่อนฝีมือของคน และจะมีคนบางกลุ่มที่ขุดเรื่องแบบนี้มาเม้าท์
ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องน่าอายสักนิด




“พี่เลยอยากขอให้นัทช่วยสอนไง”เชฟใหญ่ว่า “อย่างน้อยถ้านัทมาสอนพี่ตัวต่อตัว ก็ไม่มีรู้ จริงมั้ย?”




“แปลว่าที่สร้างเรื่องแกล้งจีบผมซะใหญ่โต นั่นก็แค่ต้องการปิดเรื่องที่อยากเรียนทำขนม?”




ร่างโปร่งตอกกลับอย่างไม่พอใจ แต่ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆในอก แต่อย่างน้อยเรื่องราวทั้งหมดก็ดูมีเหตุผลขึ้น




“เปล่า ที่จีบน่ะจีบจริง” รอยยิ้มขี้เล่นกลับมาบนใบหน้าคมอีกครั้ง “แต่ถ้านัทยังไม่อยากเปิดใจให้พี่ ตอนนี้ได้อยู่ใกล้ๆแค่นี้ก็ยังดี”




“แล้วผมจะได้อะไร”ณัฐภาสเลิกคิ้ว





“พี่จะสอนเมนูลับของพี่หนึ่งเมนูแลกกับขนมหนึ่งอย่าง ดีมั้ย?”





เชฟใหญ่ยิ้ม รู้ดีว่าไม่ว่าใครก็ไม่มีทางปฎิเสธข้อเสนอสุดล่อตาล่อใจนี้ ณัฐภาสถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อก เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมถึงขนาดนี้เพียงเพื่อได้อยู่ใกล้กับเขา





ไอ้แก้มบ้า!อย่าแดงนะเฟ้ย!





“ถ้าคุณสอนให้ผม ก็ไม่เรียกเมนูลับน่ะสิ”




ร่างโปร่งเถียงเสียงดังกลบเกลื่อนความอาย นิสัยติดตัวที่ใหญ่เริ่มรู้สึกเอ็นดูขึ้นเรื่อยๆอย่างช่วยไม่ได้





“เรียกสิ”





ชายหนุ่มขยับเข้ามาหาคนที่นั่งอยู่ในระยะประชิด กระซิบด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ปื้นแดงบนแก้มของณัฐภาสลามไปถึงใบหูอย่างรวดเร็ว





“ก็เรียกว่าความลับของเราสองคนไง”





“เสี่ยว”





ณัฐภาสดันหน้าที่เข้ามาใกล้เกินความสบายใจออกห่าง แต่เขาต้องยอมรับว่าข้อเสนอนั้นน่าสนใจพอสมควร





“ว่าไงครับ?”





ร่างโปร่งถอนหายใจ รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าตนจะเสียใจกับการตัดสินใจนี้ในภายหลัง









“เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย?”




วันนี้ทั้งณัฐภาสและมธุวันมีเรียนเช้า พวกเขาจึงรีบลงมาจากหอเพื่อป้องกันการจราจรที่มักจะติดขัดในยามเช้าและเย็นเสมอ ณัฐภาสกำลังจะกระโดดคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจเมื่อร่างโปร่งสังเกตเห็นว่าล้อของรถเขาถูกกรีดทั้งสองล้อจนแบนติดดิน




“คงเป็นพวกก่อกวนที่เขาพูดถึงกันแน่ๆ”




มธุวันว่า มองซ้ายขวาราวกับกลัวว่าตนจะโดนจู่โจม ณัฐภาสยีหัวตัวเองอย่างอารมณ์เสีย แล้วแบบนี้เขาจะทำยังไงล่ะเนี่ย?





“นัท เป็นอะไร รถเสียเหรอ?”






เสียงของคนที่มักจะโผล่มาให้ณัฐภาสรำคาญใจทุกเช้าดังขึ้น เชฟใหญ่ก้มลงสำรวจความเสียหายของล้อแล้วส่ายหน้า





“ปะไม่อยู่หรอกแบบนี้ ต้องเปลี่ยนล้อใหม่”




“ว้อย!!อะไรกันนักกันหนา! ขนาดนนี้ยังจับคนทำไม่ได้ ต้องให้กูจับเองเลยมั้ย”




ณัฐภาสโวยวายอย่างหงุดหงิด




“พี่รู้จักร้านแถวนี้ ร้านเพื่อนพี่เอง ราคาไม่แพง เดี๋ยวพี่ให้เขามายกไปให้” เชฟใหญ่เสนอด้วยความหวังดี “เดี๋ยวช่วงนี้พี่ไปส่งพวกเราก่อนละกัน”




“ไม่ต้อง ผมไปเองได้”ร่างโปร่งแย้งทันที





“น่่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะเปลืองเงินขึ้นวินทำไม”คนหวังดีหว่านล้อม





“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นณัฐไปกับเชฟใหญ่ก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวสาย เราเรียนเก้าโมงอ่ะ เดี๋ยวหาข้าวกินใต้หอก่อนค่อยออก”




มธุวันที่ไม่อยากจะเป็นก้างขวางคอเพื่อนกับคนที่ดูเจตนาออกอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไรหาข้ออ้างแล้วรีบเดินกลับไปที่หอของตนโดยไม่ฟังคำเรียกของเพื่อน ณัฐภาสถอนหายใจ ก่อนจะหันกลับมาที่เชฟใหญ่ที่ยังคงยิ้มหน้าระรื่น ดวงตาสีน้ำตาล
หรี่ลงอย่างจับผิด




“นี่คุณคงไม่ได้จงใจกรีดยางเพื่อให้ผมไปกับคุณหรอกนะ”




“โห น้องนัทครับ พี่ไม่ได้จนตรอกขนาดนั้นซะหน่อย”




คนถูกกล่าวหารีบแก้ตัว ถึงแม้ณัฐภาสจะมีสีหน้าไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่ได้ซักอะไรต่อ




“จะไปส่งผมไม่ใช่เหรอครับ สตาร์ทรถสิ”





ร่างโปร่งก้าวไปยืนรอข้างๆรถชอปเปอร์คันใหญ่คู่ใจเชฟหนุ่มร่างสูง ใหญ่แอบประหลาดใจที่เห็นอีกฝ่ายยอมง่ายๆ แต่เมื่อเห็ฯแววตาของณัฐภาสขณะมองเจ้าเพื่อนยากของตนก็พอจะเข้าใจ




อยากขี่ก็ไม่บอก





“ณัฐชอบขี่เหรอครับ?”ร่างสูงถามยิ้มๆ




“ไม่รู้หรอกครับ ผมไม่เคยขี่”





ร่างโปร่งไหวไหล่ ทั้งที่ดวงตายังคงจ้องเจ้ารถมอเตอร์ไซค์คันโตไม่วางตา ไม่ได้เอะใจเลยว่าคำถามนั้นสองแง่สามง่ามเพียงไร




“พี่สอนให้ได้นะ...” ชายหนุ่มขยับเข้าใกล้เหยื่อที่ยังไม่รู้ตัว “...ถ้าเป็นนัทพี่ยอมให้ขี่จนเหนื่อยเลย”




“ไม่อ่ะ ผมขี้เกียจ”





ร่างโปร่งตอบง่ายๆ ตวัดขาขึ้นคร่อมด้านหลังของรถจักรยานยนต์คันใหญ่นั้นเมื่อเห็นว่าเจ้าของรถไม่ยอมขึ้นมาเสียที




“จะไปส่งไม่ใช่เหรอครับ? เร็วสิ”




“ครับๆ ไม่ให้สายแน่นอนครับ”




เชฟใหญ่ยิ้ม ไม่รู้จะสงสารตัวเองที่หลงมาชอบเด็กน้อยไร้เล่ห์เหลี่ยมตรงหน้านี่ดีหรือไม่


-------------

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
นัทดูตามทันในบางเรื่อง แต่บางเรื่องก็ตามไม่ทัน

ตามอ่านทุกเรื่องเลย รอตอนต่อไปของแต่ละเรื่องมาก

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ชอบบบบบบบ น่าร้ากกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องนัทเล่นองค์แต่พองาม อิอิ
รอดูเขาหวานกันค่ะ ขนมคงจะหวานมากแน่ๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ขี่ ไม่ให้เหนื่อยเลย ..

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
แหมะ ตามติดชีวิตเธอมากนะ แถมชวนกันไปทำขนมอีก

ณัฐทำเป็นเข้มนะ แต่ใจจริงอะละลายไปแล้วจ้า 5555
เชฟทำคะแนนรัวๆ นะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ณัฐ ไม่ทันเลห์เหลี่ยม สองแง่สองง่ามของเชฟใหญ่แล้วล่ะ  o18
“...ถ้าเป็นนัทพี่ยอมให้ขี่จนเหนื่อยเลย”

เชฟใหญ่ ณัฐ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

Step 4: เหยาะผงฟูลงไปหนึ่งส่วนสี่ช้อนชา




ข่าวเรื่องที่ณัฐภาสซ้อนท้ายเชฟหนุ่มรูปหล่อขวัญใจเด็กคหกรรมแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง ร่างโปร่งพยายามจะไม่สนใจกับข่าวลือประหลาดที่ถูกปั้นแต่งตามมา




“นัทๆ ตกลงแกเป็นแฟนกับเชฟเขาจริงๆเหรอ”




ขนาดเพื่อนที่รู้จักเขาพอที่จะรู้ว่าข่าวนี้ไม่น่าจะมีมูลความจริงยังอดถามไม่ได้ ณัฐภาสอยากจะเอาหัวโหม่งโต๊ะตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ




“จะใช่ได้ไงล่ะยะ พี่ใหญ่เขาออกจะสมบูรณ์แบบ จะมาสนใจเด็กกะโปโลแบบแกได้ไง เนอะ”




แม่สาวคุ้กกี้ยังคงทำตัวสนิทสนมกับเขาประหนึ่งว่าณัฐภาสจะสนใจเป็นเพื่อนกับเธอ ร่างโปร่งรู้ดีว่าสาเหตุเดียวที่ผู้หญิงคนนี้มีตีซี้กับเขาเป็นเพราะอีกฝ่ายอยากให้เชฟใหญ่สนใจ




“ถามจริงเหอะ เราไปเป็นเพื่อนกันตอนไหน? อย่าพูดเหมือนเรารู้จักกันจะได้มั้ย?”




เขาไม่ได้อยากจะหยาบคาย แต่เขาแค่ไม่ชอบคนตีสองหน้าที่ทำตัวเหมือนตัวเองดีเลิศนักหนาอย่างยัยนี้ก็เท่านั้น




“….”




เด็กสาวดูหน้าชาไปจากคำพูดเมื่อครู่ของเขา คงไม่คิดว่าจะถูกย้อนซึ่งๆหน้าแบบนี้อีกครั้ง ณัฐภาสถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้น คว้าเป้คู่ใจขึ้นสะพาย



“กูไม่ได้เป็นอะไรกับเขาทั้งนั้นแหละ เลิกลือกันมั่วๆได้แล้ว กูรำคาญ”





แต่คำพูดของเขาหมดน้ำหนักลงทันทีที่ร่างโปร่งก้าวออกมาจากคณะแล้วเห็นคนที่ทำให้เขาตกเป็นขี้ปากของคนทั้งคณะยืนกอดอกพิงชอปเปอร์คู่ใจของตัวเองอยู่ เชฟใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีดำที่แนบชิดเน้นแผงอกแกร่ง กลามท้องเป็นลอน และกล้ามเนื้อต้นแขนที่ทำเอาคนมองอยากตะเกียกตะกายปีนป่ายขึ้นไปเกาะกล้ามของอีกฝ่ายแล้วโหนไปมา




“นัท พร้อมรึยัง?”




“คุณมาที่นี่ทำไม?”




ร่างโปร่งถามอย่างไม่สบอารมณ์



“พี่มารับนัทไง” ชายหนุ่มขยิบตา เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เบานัก “ลืมแล้วเหรอครับว่าวันนี้เรามีนัดกัน”




เหล่าเด็กคหกรรมที่เดินผ่านไปมาหูผึ่ง หันขวับมามองพวกเขาทั้งสองอย่างสนอกสนใจ




“ผมบอกแล้วไงว่าผมไปเองได้ แค่ส่งสถานที่่มาก็พอ”




“จะไปเองทำไมให้เปลืองค่ารถล่ะครับ พี่เนี่ย ทั้งฟรีทั้งเต็มใจ บริการคุณภาพ รับรองอยู่กับพี่นัทไป‘ถึง’แน่นอน”




ถึง...ถึงอะไร?!




คนฟังซุบซิบกันยกใหญ่กับคำพูดของแง่สามง่ามของร่างสูง แต่ณัฐภาสกลับไม่แม้แต่จะกระพริบตา




“เอาเถอะ ถือว่าฟรีหรอกนะครับ”




ครั้งนี้ร่างโปร่งยอมกระโดดขึ้นบนรถมอเตอร์ไซค์คันยักษ์อย่างง่ายดาย แถมยังกระดิกนิ้วเรียกชายหนุ่มให้ขึ้นมาอีก หากเชฟใหญ่กล้าเข้าข้างตัวเอง เขาคงนึกว่าอีกฝ่ายกำลังให้ท่าเขาอยู่




“เกาะแน่นๆนะ”




ร่างสูงเตือน ตอนเช้าเขาขี่อยู่แค่ในมหาวิทยาลัยจึงไม่ได้บอกให้อีกฝ่ายหาที่ยึดไว้ แต่หากออกถนนใหญ่แล้วต้องเร่งความเร็ว เขาไม่อยากเสีี่ยงให้คนที่นั่งซ้อนอยู่บาดเจ็บ



หมับ!




เชฟหนุ่มที่ถูกสวมกอดเข้าจากด้านหลังแน่นสะดุ้ง ทีแรกเขานึกว่าอีกฝ่ายจะจับข้างตัวรถหรือชายเสื้อของเขาไว้เสียอีก



“รออะไรล่ะครับ ไปสิ”




ณัฐภาสว่า ซบหน้ากับแผ่นหลังกว้างที่แข็งเกร็งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ลมปะทะใบหน้า




ให้ตายเถอะ ขนาดไม่รู้เรื่องยังอ่อยขนาดนี้ อย่าให้เขาได้เป็นเจ้าของขึ้นมาจริงๆนะ จะฟัดให้ลุกไม่ขึ้นเลย









“พี่ใหญ่ เบาๆมือหน่อยครับ ใส่ไข่ขาวเยอะไปแล้ว นี่! ผมบอกว่าหนึ่งในสาม....”




การเป็นอาจารย์จำเป็นให้กับเชฟมืออาชีพชื่อดังยากกว่าที่ณัฐภาสคิดไว้




โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายเล่นไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการทำขนม แถมยังมือหนักจนทำอะไรละเอียดอ่อนกับชาวบ้านเขาไม่ค่อยจะได้ แต่ณัฐภาสก็ยังอดทน อาจเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายดูพยายามจริงๆจนเขาโกรธไม่ลงก็เป็นได้




ณัฐภาสไม่ได้สังเกตเลยว่าตัวเองเปลี่ยนคำเรียกอีกฝ่ายท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของการสอน ซึ่งนักเรียนเฉพาะกิจก็ไม่ได้ทักด้วยกลัวคนอายุน้อยกว่าจะไม่ยอมเรียกเขาแบบนั้นอีก




ขนมในวันแรกล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง




แต่่อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น เพราะเมนูแรกที่เชฟใหญ่สอนให้เขาทำประสบความสำเร็จด้วยดี ถึงแม้วันนี้จะเป็นแค่เมนูพื้นฐานอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าก็ตาม ณัฐภาสปาดเหงื่อยิ้มอย่างภูมิใจในผลงานของตน รอยยิ้มมีความสุขอย่างบริสุทธิ์สดใสไม่มีอะไรเจือปนนั้นทำให้ใหญ่อดยิ้มตามไม่ได้




“นัท คบกับพี่ได้มั้ย”



จู่ๆคำนั้นก็หลุดออกจากปากโดยไม่ทันคิด พรากเอารอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่ายออกไปแทบจะในทันที




“เล่นบ้าอะไรของพี่เนี่ย? ผมไม่ขำด้วยนะ”




“พี่ไม่ได้เล่น นี่นัทดูไม่ออกเหรอว่าพี่ชอบนัทน่ะ”




ร่างสูงถามอย่างไม่เข้าใจ คนเราจะซื่อแค่ไหนก็ควรมีขอบเขตบ้าง




“….”





แต่เมื่อเห็นสีหน้าว่างเปล่าของคนตรงหน้า เชฟใหญ่พอจะรู้แล้วว่ามีคนที่ซื่อได้บริสุทธิ์อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ




“นัท ตั้งแต่วินาทีแรกที่พี่เห็นนัท พี่ก็คิดว่านัท...โคตรน่ากินเลย”




“หะ?” คนฟังหน้าเหวอ เขาควรจะรู้สึกอย่างไรกับประโยคเมื่อครู่




“แต่ยิ่งได้เห็นตัวตน เห็นนิสัยของนัท พี่ยิ่งอยากรู้จักนัท” ร่างสูงเอ่ยทุกสิ่งออกมาจากใจ เพาะเขารู้ว่าคำพูดที่ปั้นแต่งให้สวย
หรูไปอีกฝ่ายก็คงคิดว่าเขากำลังแซวตัวเองเล่นอีก “ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน แต่พี่รู้ว่าคนที่ใช่ แค่มองเราก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่ใช่”




“ผม..ผมไม่ใช่คนแบบนั้น...”




ร่างโปร่งที่เงียบนิ่งผิดวิสัยเอ่ยขึ้นในที่สุด




“แบบไหนครับ?” เชฟใหญ่ถามอย่างไม่เข้าใจ



“ผมไม่ใช่คนที่คบใครเพราะชอบหน้า เบื่อกันแล้วก็เลิก” ณัฐภาสกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ แต่ดวงตาสีน้ำตาลเจอไปด้วยความหวั่นไหวจากคำพูดของคนที่เขาชื่นชมบูชามาตลอดหลายปี “เวลาผมคบกับใคร ผมทุ่มทั้งหมด...”





เชฟใหญ่ยิ้มน้อยๆกับคำพูดของคนตรงหน้า





“ถ้าเป็นนัท พี่ก็ทุ่มหมดตัวเหมือนกันครับ”




“….”แววตาลังเลของคนตรงหน้าทำให้เขารู้ว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว




“คบกับพี่ได้คอร์สเรียนทำอาหารฟรีตลอดชีวิตเลยนะ”




“…”




“พี่รู้จักเชฟดีๆ เจ้าของโรงแรมดังๆเพียบเลยนะ”




“….”




“ติวข้อสอบให้ก็ได้”



“….”



“เรื่องบนเตียงไม่ต้องพูดถึง...”




“พอแล้วครับ!” เด็กหนุ่มขัดประโยคสุดท้ายที่กำลังออกมาจากปากร่างสูงพอดี รู้สึกเหมือนจะเป็นลมกับข้อเสนอที่ประดังประเดเข้ามา“นี่ขอผมเป็นแฟนหรือจะขายตรง ทำไมของแถมมันเยอะขนาดนี้”




“ตอบตกลงตอนนี้พี่เพิ่มบริการรับส่งทุกที่ฟรีตลอดชีวิตด้วยนะ”




ชายหนุ่มขยิบตาอย่างขี้เล่น ทำเอาใบหน้าเรียวร้อนฉ่าอย่างไม่ทันตั้งตัว ณัฐภาสกระแอมกระไอเล็กน้อย ก่อนจะตอบอ้อมแอ้ม



“ก็…ของแถมเยอะขนาดนี้ก็ต้องเอาป่ะ”



“เยส!”




ก่อนจะรู้ตัวร่างของเขาก็ถูกดึงเขาไปในอ้อมกอดของคนตัวใหญ่แน่น เรียกได้ว่าแทบจะต้องเอาชะแลงงัดตัวเองออกมาเพื่อ
หาอากาศหายใจ




“พอเลย แค่ตกลงลองคบด้วยไม่ได้หมายความว่าจะแตะเนื้อต้องตัวผมได้ตามใจชอบนะ”




เด้กหนุ่มทำเสียงดังกลบเกลื่อน แต่จากรอยยิ้มบนใบหน้าคม ดูเหมือนเขาจะหลอกใครไม่ได้เสียแล้ว



“ครับๆ แค่นัทโอเคพี่ก็ดีใจแล้ว”




“แล้ว...พี่ใหญ่ยังจะเรียนทำขนมอยู่อีกมั้ยครับ?”




เขาคงเสียดายแย่หากพลาดโอกาสเรียนรู้สูตรอาหารจากเชฟมือฉมังคนนี้ตามข้อแลกเปลี่ยน




“เรียนสิ” ชายหนุ่มยิ้ม “ได้เจอนัททุกวัน พี่ไม่ยอมเลิกเรียนง่ายๆหรอก”




“เสี่ยวแบบนี้กับแฟนทุกคนรึเปล่าเหอะ” ร่างโปร่งดักคออย่างรู้ทัน แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านกับข้อกล่าวหา




“อันนี้ไม่รู้นะ พอดีคนก่อนๆไม่มีใครที่พี่ขอคบเองซักคน”




ณัฐภาสหลบสายตาที่เหมือนกับจะสำรวจไปถึงก้นบึ้งของจิตใจของเขาอย่างประหม่า แต่ก็ยังไม่วายตอบกลับไปเสียงแข็ง




“อย่าให้รู้แล้วกันว่าไปพูดกับใครแบบนี้อีก ไม่งั้นผมจับตอนแน่”




“ครับผม!”




เชฟใหญ่แสร้งตะเบ๊ะรับคำสั่ง ณัฐภาสกลอกตามองบนอย่างเพลียจิต นี่เขาคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ตกลงไปแบบนั้น



--------------------

จะพยายามเอาคู่นี้ให้จบ แล้วแฝดจะกลับมาน้าาาา :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารัก น่ากิน ..

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด