►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23  (อ่าน 127266 ครั้ง)

ออฟไลน์ prangasia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยอยากรู้อ่ะ ว่าพระเอกเราเศร้าเรื่องอะไร  ก้อนดินจะเป็นไรเปล่า?

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
บทที่ 15 ความแตก

ผมวิ่งออกกำลังกายอยู่ริมน้ำหน้าบ้าน มีก้อนหินวิ่งตามหลังมาติดๆ อย่างกับลูกเจี๊ยบวิ่งตามแม่ไก่ อากาศยามเช้าเย็นสบายทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใส สมองปลอดโปร่งมาก

หลังจากที่กลับมาจากฝึกวันแรก เช้าวันถัดมาผมก็ลุกไปวิ่งออกกำลังกายเพื่อให้ปอดแข็งแรงขึ้น เวลาฝึกจะได้ไม่เหนื่อยง่าย วันแรกๆ นี่หอบเหมือนหมา แต่หลังๆ มาพอเริ่มชินก็เริ่มวิ่งได้สบายๆ พอเริ่มชินอีกก็เพิ่มระยะทางในการวิ่งให้มากขึ้น เพื่อให้ถึก เอ๊ย! อึดมากกว่าเดิม นอกจากนี้บางวันก็จะบริหารกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่นและแข็งแรงพร้อมต่อการฝึกมากขึ้นด้วย

แรกๆ ผมลุกออกมาวิ่งคนเดียว แต่ก้อนหินตื่นขึ้นมาทีไรก็รีบวิ่งมาหาแล้วตกบันไดทุกที ทีหลังเลยต้องอุ้มมันออกมาด้วย แล้วให้มันนอนรอตรงศาลาริมน้ำ พอมันตื่นก็วิ่งมาหา แล้วยืนเอียงคอมองเหมือนสงสัยว่าผมกำลังทำอะไร ก่อนจะวิ่งตามหลังต้อยๆ หลังๆ มาคงจะเริ่มชินเหมือนกัน พอผมตื่น มันก็ตื่นด้วย แล้วก็ลงมาวิ่งพร้อมกันเลย

พอวิ่งจนครบรอบแล้ว ผมก็แกล้งเร่งฝีเท้าขึ้นให้ก้อนหินวิ่งเร็วขึ้นตาม ก่อนจะหยุดกะทันหันจนมันวิ่งมาชนขา แล้วล้มหงายลงกับพื้น

“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหันกลับมาแล้วนั่งลงหัวเราะขำมันที่ลุกขึ้นมานั่งแล้วร้องประท้อง

“ก๊าส” ร้องเสร็จก็ลุกขึ้นกระโดดพุ่งมาชนจนผมแทบจุก หงายหลังล้มลงนอนบ้าง

โอย! มึงจะฆ่ากูเหรอหิน!

“ก๊าสสส” มันขึ้นมาอยู่นั่งอยู่บนตัวผมทั้งตัว หางกระดิกไปมาเหมือนชอบใจ ผมเลยเอื้อมมือไปจับมันลงมากอดแล้วฟัดกลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นหญ้า แล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน พอเหนื่อยกันทั้งคู่ก็นอนหงายปล่อยให้มันนอนซบอยู่บนตัวต่อไป
 
เอ... รู้สึกว่าก้อนหินมันหนักขึ้นแฮะ

“หิน... มึงอ้วนขึ้นรึเปล่าเนี่ย”

“ก๊าส” มันกระดิกหางแล้วเงยหน้าขึ้นจากตัวผม ผมจับเข้าที่ซอกแขนมันแล้วยกขึ้นดู

“หนักขึ้นจริงๆ ด้วย” ผมจับมันวางให้มันยืนข้างๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิแล้วพิจารณาตัวมัน

“หือ... ดูจะสูงขึ้นด้วย โตขึ้นรึเปล่าเนี่ย” ผมตาวาวอย่างยินดี

“ก๊าสสส” น้ำเสียงเหมือนจะอวดๆ น่ามันเขี้ยวจนอยากจะฟัดอีกที

“ดูแต่ตาเปล่ามันดูไม่ออกอ่ะ... เอายังไงดีหว่า”

“เออ.... วัดส่วนสูงไว้ดีกว่า มานี่มา”

ผมจับมันขึ้นอุ้ม แล้วเดินกลับไปที่บ้าน หยิบตลับหมึกกับพู่กันเล็กๆ มาหนึ่งอัน เดินกลับลงมาที่หน้าบ้าน แล้วจับก้อนหินวางให้ชิดติดกับเสา ก่อนจะเอาพู่กันแต้มสีขีดเป็นเส้นบนหัว เพื่อวัดส่วนสูงให้มัน ผมมองผลงานอย่างพอใจ

“โอเค... เดือนหน้าค่อยมาดูกันว่ามึงสูงขึ้นจริงๆ รึเปล่า”

“ก๊าส” มันร้องแล้วหันไปมองขีดบนเสาอย่างสนใจ

“ทำอะไรกันอยู่”

ไซเลอร์ที่อยู่ในสภาพตัวเปียกเหงื่อชุ่มไปตัวถามขึ้น สงสัยเพิ่งจะกลับจากฝึก พี่แกขยันมากครับ ถ้าวันไหนไม่มีภารกิจ ทุกเช้าจะตื่นไปฝึกกับหน่วยพิเศษก่อนหนึ่งรอบ ก่อนจะกลับมาอาบน้ำ กินข้าว แล้วก็ออกไปฝึกพร้อมกับผมอีกรอบ

แต่ถ้าวันไหนมีภารกิจ ก็จะให้ผมไปกับท่านอลาสกัน ท่านไซรีนหรือไม่ก็พี่ไซรอส ถ้าคนในบ้านไม่ว่างก็จะให้เพื่อนๆ คนอื่นมารับผมไปที่โรงฝึกแทน ทำอย่างกับผมเป็นเด็กอนุบาล ต้องมีคนไปรับไปส่ง โธ่! วันไหนที่เป็นวันพักของผม ผมก็จะอยู่บ้าน เข้าไปช่วยงานในครัวบ้าง ช่วยทำสวนบ้าง จนโดนท่านไซรีนบ่นประจำ ก็มันน่าเบื่อนี่ครับ บางทีไซเลอร์กับเพื่อนๆ ไปทำภารกิจหลายวันก็ยิ่งรู้สึกว่าบ้านมันเงียบๆ เหงาๆ พิกล เลยหาอะไรทำแก้เบื่อบ้าง

“วัดส่วนสูงให้ก้อนหินครับ เหมือนมันจะสูงขึ้นแต่ข้าไม่แน่ใจ เอ่อ... ลืมขออนุญาต ข้าขีดหมึกตรงเสาเลอะไปแล้ว แหะๆ”

“ที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้านของเจ้า อยากจะทำอะไรก็ทำได้เลยไม่ต้องขออนุญาตหรอก”

“ขอบคุณครับ” ผมได้แต่บอกขอบคุณเบาๆ แล้วหลบสายตาอ่อนโยนคู่นั้นมามองก้อนหินแทน

หลังจากวันนั้นมาพี่แกก็ดูเป็นปกติดี ไม่มีอาการแปลกๆ อะไรให้เห็นอีก สงสัยวันนั้นจะเมาฝนจริงๆ

“วิ่งเสร็จหรือยัง ไปอาบน้ำแล้วไปทานอาหารกัน เห็นท่านแม่บอกว่าทำของโปรดของเจ้าด้วย” ไซเลอร์ก้มลงจับหัวก้อนหินโยก

“หิวรึยังหือตัวยุ่ง”

“ก๊าส” มันขยับตัวหลบมือของไซเลอร์ แล้วแกล้งอ้าปากงับมือเล่น ไม่โดนหรอกครับ แค่งับๆ ลม รู้สึกเหมือนจะเป็นวิธีเล่นของทั้งคู่ เพราะเล่นกันแบบนี้ประจำ เห็นแล้วอดจะอมยิ้มไม่ได้ทุกที



หลังจากส่งก้อนหินเข้าโรงฝึกมังกรเรียบร้อยแล้ว ผมกับไซเลอร์ก็มาที่โรงฝึกตามปกติ แต่ละวันผมต้องฝึกทั้งดาบทั้งการต่อสู้มือเปล่าอย่างหนักตั้งแต่เช้าจนพระอาทิตย์ตกดิน แต่การวิ่งออกกำลังกายช่วยได้มาก เพราะมันทำให้ปอดขยาย ไม่เหนื่อยง่ายเหมือนแต่ก่อน

ปกติผมจะฝึกกับไซเลอร์เป็นหลัก ถ้าไซเลอร์ไม่ว่างคนในแก๊งที่เหลือก็จะสลับกันมาฝึกให้ (ที่จริงชอบมาหาเรื่องแกล้งผมมากกว่าครับ ไซเลอร์ไม่อยู่ทีไรโดนแกล้งตลอด ฮึ่ย!) แต่จะเจอชเนาเซอร์บ่อยกว่าคนอื่น สงสัยจะว่างงานจัด พรีซากับมาสทิฟฟ์นี่ชอบมาพร้อมกัน ส่วนร็อตนานๆ จะเจอทีเพราะชอบไปฝึกมังกรมากกว่า วันไหนว่างพร้อมกันก็จะมากันยกแก๊ง แต่ถ้าวันไหนมีภารกิจทั้งแก๊ง ผมก็จะไปฝึกกับคนอื่นๆ แทน ตอนนี้รู้จักกันเกือบทุกคนแล้วครับ แต่ละคนใจดีมาก แต่ตอนฝึกนี่โหดสัสกันทุกคน เอาจริงเอาจังเหมือนจะฆ่าให้ตายกันไปข้าง ฝีมือผมเลยก้าวหน้าขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย


 “ดิน”

พอผละตัวออกจากการปะทะฝีดาบกับไซเลอร์ ยังไม่ทันได้หายเหนื่อยผมก็ได้ยินเสียงคุ้นหูเรียก พอหันไปดูก็เห็นร็อตทำหน้าเคร่งเครียดยืนอุ้มก้อนหินที่มีผ้าพันแขนมันไว้อยู่

“หิน!” ผมร้องอย่างตกใจแล้วรีบวิ่งไปหา

“เกิดอะไรขึ้น มันบาดเจ็บเหรอครับ เป็นอะไรมากรึเปล่า เจ็บมากไหมหิน” ผมถามอย่างร้อนรนยื่นมือไปจับผ้าที่พันแขนมันทำท่าจะดึงออกดูแผล

“ก๊าส” ก้อนหินตะปบผ้าที่พันแขนเอาไว้

 “อย่า! ดิน สีมันลอก” ผมชะงักกึก ตัวแข็งทื่อ เข้าใจความหมายในทันที ผมเงยขึ้นมองร็อตที่จ้องมาอย่างจริงจัง หัวใจเต้นระทึกจนเหมือนจะทะลุออกมานอกอก

“พอจะอธิบายให้ข้าฟังได้ไหม?” ผมเม้มปากแน่น รับก้อนหินมาอุ้มไว้ มันหันมากอด เอาหัวถูตัวผมแล้วเงยขึ้นมองหน้าเหมือนจะปลอบใจ ผมถอนหายใจ หันไปมองไซเลอร์ที่มองปฏิกิริยาของเราอย่างแปลกใจ

“ไปหาท่านมอลทีสกันเถอะครับ”




“ใครเห็นบ้าง” ท่านมอลทีสถามขึ้นหลังจากพาเรามาที่ห้องทำงานห้องหนึ่งในคฤหาสต์ของท่าน ร็อตเปิดผ้าที่พันแขนก้อนหินไว้ออก เผยให้เห็นเกล็ดสีเขียวบริเวณข้อมือของมันขนาดพอๆ กับเหรียญๆ หนึ่ง ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็คงมองไม่เห็น

“ข้าไม่แน่ใจ ตอนที่เรากำลังฝึกอยู่ ท่านคานาริโอและคณะทูตพาแขกที่มาประชุมร่วมกันจากอาณาจักรรุคและอาณาจักรบาอัลมาดูการฝึก ข้ากับครูฝึกบางคนได้รับคำสั่งให้พาแขกไปเดินดูในจุดที่สนใจและคอยตอบคำถาม พอแขกกลับไปแล้ว ข้าก็กลับไปหาก้อนหินที่เดิมที่ปล่อยให้มันฝึกอยู่กับเพื่อนๆ พอไปถึงก็เห็นมังกรตัวอื่นๆ ยืนล้อมมันไว้ จะแหวกเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะไอ้พวกตัวเล็กที่ไม่เคยดื้อมาก่อนมันไม่ยอม จนก้อนหินร้องขึ้นมาแล้วเดินออกมาเองนั่นแหละมันถึงได้ยอมแหวกทางให้ แต่พอเห็นก้อนหินซ่อนแขนไว้ข้างหลัง ข้าตกใจกลัวมันได้รับบาดเจ็บก็เลยจับแขนมันมาดู ก็เป็นอย่างที่เห็น เลยรีบเอาผ้ามาพันแขนมันไว้แล้วพาไปหาก้อนดินนี่แหละครับ”  ตั้งแต่เจอกันมานี่น่าจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่ได้ยินจากปากร็อตเลย

 “คณะทูตอย่างงั้นเหรอ” ท่านมอลทีสทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่จะหันมามองก้อนหินที่นั่งอยู่บนตักผมนิ่งๆ แล้วเงยหน้ามามองผมที่มีสีหน้ากังวล

“มาถึงตอนนี้แล้วก็คงต้องให้รู้กันแล้วละ จะได้ช่วยคุ้มกันก้อนหินกับก้อนดินให้มากขึ้น เพราะไม่แน่ใจว่ามีใครเห็นบ้าง ถ้าเป็นคนดีก็แล้วไป แต่ถ้าคนที่มีเจตนาร้ายจะได้ป้องกันได้ทัน เดี๋ยวข้าจะปรึกษาคิงและควีนก่อนว่าควรจะบอกใครบ้าง จะได้ช่วยกันวางแผนว่าจะเอายังไงต่อไป” ท่านมอลทีสหันไปมองร็อตกับไซเลอร์ที่มองตอบท่านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“รู้ใช่ไหมว่าก้อนหินเป็นอะไร”

“ทราบครับ จำได้ว่ามีสอนในวิชาประวัติศาสตร์พื้นฐานของเคลเบรอส” ไซเลอร์ตอบ

“แต่ไม่คิดว่าจะเจอตัวจริง” ร็อตต่อและมองก้อนหินนิ่งๆ

“เจ้าเล่าให้ร็อตกับไซเลอร์ฟังไปก่อนก็ได้ เพื่อนอีกสามคนของเจ้าก็บอกได้ ข้าอนุญาต ข้าไว้ใจในตัวลูกศิษย์ของข้า” ท่านมอลทีสหันมาบอกผม ไซเลอร์เคยเล่าให้ฟังว่าท่านมอลทีสเป็นอาจารย์ของพวกเขาด้วย

“ครับ” ผมรับคำ

แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็ได้ยินเสียงเคาะประตู แล้วก็ได้ยินเสียงพี่ไซรอสดังมาจากด้านนอก

“ขออนุญาตครับท่านมอลทีส ข้ามีเรื่องด่วนมารายงาน”

“เข้ามาได้”

พี่ไซรอสเดินอย่างเร่งรีบเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พอเห็นพวกเราก็ชะงัก ก่อนจะทำความเคารพท่านมอลทีสแล้วเอ่ยต่อ

“คิงให้มาเชิญท่านมอลทีสไปพบด่วนครับ”

“อืม เฮ้อ! เริ่มแล้วสินะ” ท่านมอลทีสตอบรับ คำหลังพึมพำเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

“พวกเจ้ากลับไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะเรียกมาคุยอีกที ไปกันเถอะไซรอส”

“ครับ” พวกเรารับคำพร้อมกัน ก่อนจะคำนับท่านมอลทีสที่รีบเร่งเดินจากไป




ผมนั่งหูลู่หางตกอยู่ที่โต๊ะรับแขกในเรือนวสุธา ต่อหน้าแก๊ง F5 ที่นั่งหน้าสลอนฟังเรื่องที่ผมเล่าอย่างตั้งใจกันพร้อมหน้าพร้อมตา พอเล่าเรื่องทั้งหมดจบ ผมก็หันไปสบตาคนที่อยู่ด้วยกันแทบทุกวันด้วยความรู้สึกผิด ถึงจะมีความจำเป็น แต่ก็อดจะรู้สึกผิดไม่ได้ กลัวจะหาว่าไม่ไว้ใจ กลัวจะถูกโกรธ กลัวจะไม่เข้าใจเลยเอ่ยขอโทษเสียงละห้อย

“ขอโทษนะไซเลอร์ที่ข้าปิดบังมาตลอด” ไซเลอร์หันมายิ้มให้อย่างที่เคยจนผมใจชื้นขึ้น

“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเจ้าใจ แค่เจ้ายังอยู่ตรงนี้ ข้าก็พอใจแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเลย”

“อะแฮ่ม แค่กๆๆ” อยากจะกลอกตามองบนจริงๆ ยังไม่วายจะแซวกันอีก แต่รู้สึกว่ามีความผิดติดตัวอยู่เลยไม่กล้าออกอาการอะไรนอกจากทำหน้าหงอยๆ แล้วขอโทษอย่างจริงจัง

“ขอโทษนะครับ” ผมหันไปสบตาทุกคนอย่างรู้สึกผิด โดยเฉพาะร็อตที่เป็นคนคอยดูแลก้อนหินให้

“ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็เข้าใจเหมือนกัน ที่จริงก็สงสัยมาตั้งแต่ต้นแล้วละ เพราะจากที่สังเกต ลักษณะของก้อนหินไม่เหมือนมังกรดำที่เคยเลี้ยงมา ปกติมังกรดำจะโตเร็วกว่ามังกรขาว แต่นี่มันแทบจะไม่โตขึ้นเลย หางก็ไม่เหมือนมังกรทั่วไป ต่อให้ฝึกหนักล้มลุกคลุกคลานแค่ไหนก็ไม่เคยเป็นแผล ทั้งฉลาด ทั้งแสนรู้มากกว่ามังกรรุ่นเดียวกัน ถึงจะเก่งแต่ก็ไม่เคยรังแกตัวอื่นๆ แถมยังคอยปกป้องตัวที่อ่อนแอกว่าด้วย” ร็อตตอบในขณะที่คนอื่นๆ ก็พยักหน้ายิ้มๆ ไม่ได้มีแววโกรธเคืองอะไร ทำให้ผมยิ้มออกมาได้

ฟังแล้วก็อดจะภูมิใจในตัวมันไม่ได้ ตั้งแต่ร็อตบอกว่ามันแข็งแรงและเก่งขึ้น ผมก็สอนไม่ให้มันรังแกสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่า ว่าแล้วก็ชักอยากจะไปดูว่าเขาฝึกมังกรกันยังไงถึงขนาดต้องลุ้มลุกคลุกคลาน แต่อย่าดีกว่า ถ้าเกิดไปดูแล้วเห็นมันล้มผมคงทนไม่ไหวไม่ยอมให้มันไปฝึกต่อแน่ ปล่อยให้มันได้ฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นจะได้ปกป้องตัวเองได้จะดีกว่า

“แต่ข้าสงสัย ลุงเซเรสบอกว่าสิ่งที่จะทำให้สีจากเปลือกไม้นี่หลุดออกได้คือน้ำมันที่สกัดจากดอกสโนว์
ฟ็อกซ์อย่างเดียวเท่านั้น ในโรงฝึกมันต้องใช้ด้วยเหรอครับ” ผมหันไปถามร็อตด้วยความสงสัย

“ไม่มีนะ” ร็อตนึกสักพักก่อนจะตอบ

“แล้วมันมาได้ยังไง แล้วไปโดนแขนก้อนหินได้ยังไง” ผมจับก้อนหินขึ้นมาตรงหน้าแล้วจ้องตามัน

“เล่ามาซิหิน พูด!”

“ก๊าสสส” มันยื่นแขนข้างที่สีลอกมาให้ แล้วคิดว่ากูจะเข้าใจไหม ว้อยยยย! ตอนนี้อยากได้วุ้นแปลภาษาจริงๆ ให้ตายสิ!

“น้ำมันจากดอกสโนว์ฟ็อกซ์เหรอ” พรีซาทำหน้าครุ่นคิด

“ที่จริงพ่อค้าน้ำหอมนิยมเอามาเป็นส่วนผสมของน้ำหอม เพราะจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นติดทนนาน แต่เพราะมันออกดอกเฉพาะช่วงหน้าหนาวบนหิมะที่ภูเขาไฟไวเวิร์นปีละครั้งเท่านั้น จึงเป็นของหายากและราคาแพง มีแต่พวกชนชั้นสูงเท่านั้นแหละที่จะมีกำลังซื้อมาใช้ได้” ผมหันไปมองพรีซาอย่างสงสัยว่าทำไมถึงได้รู้เรื่องน้ำหอมดีจัง ที่บ้านเป็นเอเย่นต์ค้าน้ำหอมเหรอ?

“ท่านแม่กับพี่สาวข้าชอบใช้ แถมยังคลั่งไคล้น้ำหอมมากด้วย มีทุกกลิ่น ไปซื้อทีไรชอบลากข้าไปด้วยทุกที” พรีซาอธิบายต่อ เมื่อเห็นสีหน้าของผม

ผมก้มหน้าลงไปดมแขนที่ก้อนหินยื่นมาให้

“มีกลิ่นหอมจริงๆ ด้วยครับ”

“ก๊าส” อ้อ... เข้าใจละ ที่ยื่นมาให้นี่คงตั้งใจจะให้ดมสินะ ผมลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู พรีซาขยับมาจับแขนมันขึ้นดมบ้าง

“กลิ่นดอกไอริส” พรีซาบอกด้วยสีหน้ามั่นใจ

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องสืบต่อว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นของใคร ข้าได้ยินจากท่านพ่อว่าอีกไม่กี่วันการประชุมก็น่าจะสิ้นสุด แขกจากทั้งสองอาณาจักรก็คงจะเดินทางกลับเลย ถ้าเป็นคนของอาณาจักรอื่นเราจะตามสืบต่อลำบาก” มาสทิฟฟ์ว่า

“แยกย้ายกันสืบดีไหม เผื่อจะได้เรื่องเร็วขึ้น” ไซเลอร์เสนอขึ้นมา

“ตกลง” ดูเหมือนว่าทุกคนจะเห็นด้วยเลยรับคำอย่างพร้อมเพรียง

“ว่าแต่นอกจากพวกเราแล้วมีใครรู้เรื่องก้อนหินอีกบ้าง” พรีซาถามขึ้น

“จากที่ฟังท่านมอลทีสพูด ก็น่าจะมีแค่คิงกับควีนที่รู้เรื่องนี้ คนอื่นๆ นอกเหนือจากนี้น่าจะยังไม่มีใครรู้หรอก” ไซเลอร์ตอบ

“เห็นท่านมอลทีสบอกว่าจะปรึกษากับคิงและควีนก่อนว่าควรจะให้ใครรู้เรื่องนี้บ้าง จะได้วางแผนคุ้มครองก้อนหินกับก้อนดินให้ดีกว่านี้” ร็อตต่อให้

“งั้นตอนนี้เราคงต้องทำหน้าที่คุ้มกันทั้งคู่ไปก่อน ต้องไม่ปล่อยให้ก้อนหินกับก้อนดินอยู่ตามลำพัง ควรจะมีเราคนใดคนหนึ่งอยู่ด้วยตลอด ตกลงตามนี้นะ” มาสทิฟฟ์เสริม

“ได้” เสียงรับคำอย่างพร้อมเพรียงกันของแก๊ง F5 ทำให้ผมทั้งรู้สึกซาบซึ้งและอุ่นใจ

“ขอบคุณมากนะครับทุกคน” ผมรู้สึกว่าโชคดีจริงๆ ที่หลงมาที่นี่ เพราะคนที่นี่ดีกับผมมาก ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้อง ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ผมก็ได้รับการดูแลอย่างดีมาโดยตลอด ทำให้ผมอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข และเริ่มรู้สึกว่าถ้าต้องอยู่ที่นี่ต่อไปก็คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะน้องดิน เดี๋ยวข้าจะปกป้องเจ้าเอง” ชเนาเซอร์อ้าแขนทำท่าจะขยับเข้ามากอด แต่ไซเลอร์ดึงคอเสื้อเอาไว้ก่อน

“ให้มันน้อยๆ หน่อย”

“หึๆ / ฮ่าๆๆๆๆ” คนที่เหลือหัวเราะออกมาพร้อมกัน ผมหันไปสบตากับไซเลอร์ที่ยังคงส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งแล้วยิ้มตอบด้วยความรู้สึกขอบคุณ

ขอบคุณจริงๆ ที่เข้าใจและคอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ

“อะแฮ่ม แค่กๆๆๆ” แต่จะไม่ดีก็ตรงเนี๊ยะ! แซวกันจริงโว๊ยยยย!


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

พ่อลูกเค้าเล่นกันน่ารักเนอะ 55555  :laugh:
ตอนนี้เขียนแล้วแก้ไปหลายตลบมากค่ะ ได้สั้นๆ แค่นี้เอง ฮือออออออ  :hao5:
ขอบคุณที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจค่า  :กอด1:
เจอกันตอนต่อไปนะคะ  :katai5:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

#suikajang อีกหน่อยจะได้เผือกสมใจค่ะ รอไปก่อย มีเรื่องให้เผือกเยอะแยะเลย  :laugh:
#duck-ya ดินของหินค่ะ หินไม่ให้ใคร 555555
#ommanymontra  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
#ซีเนียร์  :L1: :L1: :pig4: :L1: :L1:
#B52 หลงจนไม่กล้าเทน้องหินเลยค่ะ ฮืออออออ
#mild-dy ขอบคุณเช่นกันค่า  :pig4: :กอด1: :pig4:
#แฟนตาเซีย  :katai5: :katai5: :katai5: คลานแข่งกันค่ะ 555555 บ้าไปแล้วววว
#MayA@TK เป็นคนที่เรอทัก วรั๊ยยยยย
#♥►MAGNOLIA◄♥ แวะมาให้กำลังใจดินบ่อยๆ นะคะ คนเขียนจะได้เข้มแข็งด้วย  :impress2:
#•♀NoM!_KunG♀• ตอนนี้ยังเด็กค่ะ หวงแม่อย่างเดียว 555555
#alternative พี่แกเป็นคนชัดเจนค่ะ หนักแน่น มั่นคง ออกตัวแรงมากกกก
#DeShiWa มันมีที่มาค่ะ รอภาคพี่ไซนะคะ หุๆ
#angel_Z4 55555 พี่ไซคงจะหลอนแทนดีใจนะคะ แค่นึกถึงก็ขนลุก แงงงงง
#poppycake ช่วงเปิดเทอมพอดีค่ะ ได้ฟีลมาก เห็นแม่ๆ แต่ละคนหัวปั่นแล้วปวดหัวแทนเลยค่ะ
#พิศตะวัน  :L2: :L1: :L2:
#kratair ขอบคุณมากค่า ฝากน้องดินกับน้องหินด้วยนะคะ  :L2:
#KARMI 55555 ใช่ค่ะ พี่ไซมันร้ายยยย กัดมันเลยยยยย
#Ryu7801 นี่แค่กับไซเลอร์นะคะ กับคนอื่นละก็ หึๆๆๆๆ
#prangasia มันมีเหตุให้เศร้าค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

รักทุกโคนนนนนนนนนนนน

 
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขอไปร้องเพลงกล่อมก้อนหินนอนก่อนนะคะ ฝันดีค่า
:katai5:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
บังเอิญหรือมีคนตั้งใจทาน้ำหอมใส่หิน :katai1: :katai1: :katai1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แปะไว้เดียวมาอ่านนะค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ต้องมีคนสังเกตก้อนหิน
แล้วเลยทดลองสีผิวของก้อนหิน
คือคนที่ใช้น้ำหอมกลิ่นไอริส สินะ
แล้วคราวนี้ก้อนหินจะถูกพาไปจากดินมั้ยนะ
แต่จริงๆไม่มีสิทธิ์ เพราะดินเจอก้อนหินก่อน
และเจอนอกอาณาเขตเคลเบอรอสด้วย
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
จากชื่อตอนก็คิดว่าเป็นความลับเรื่องนี้ละนะ
ก้อนหินยังคงน่าร้ากกกก

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หูยย เดี๋ยวนี้พัฒนา มีแกล้งงับเล่นๆด้วย ฉายแววครอบครัวสุขสันต์
แต่แววมาม่าเริ่มมา ฮือออออ ทำไมยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกแต่ละตอนสั้นจัง
อ่านได้หน่อยนึงจบตอน สนุกเกินไปสินะ

สู้ๆนะค้าบบ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ความแตกซะละ ต้องรีบฝึกนะ

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
น่ารักเสมอต้นเสมอปลายตลอด ก้อนหินของพี่~~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โชคดีของดินและหินที่ได้มาอยู่กับแก๊งขนปุย

ชอบชเนาเซอร์ อยากได้มาเลี้ยงคู่กับหิน อิอิ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ไม่ใช่ว่าสาวๆ หรือคนที่อยากจะมากิ๊กกั๊กกะพ่อไซหรอกเน๊าะ <<< มโนไปไกลแระ กลับมาๆ
ยังไงน้องหินก็ยังคงความน่ารักไว้เสมอ แม่ดินสอนไรไว้ทำได้หมด ฉลาด แข็งแกร่ง   :katai2-1:
สรุปแล้วเรื่องนี้น้องหินเป็นตัวเอก ที่เหลือเป็นตัวปลากรอบ  :katai3: 
เพราะอีกไม่นานต้องมาคนมา ลัก รบ กันแย่งน้องหินแน่ๆ  :ling1: F5 สู้ๆ ดูแลดวงใจของแม่หินกะพ่อไซให้ดีๆ น้อ  :L2:
 :pig4:   :L1:  :pig4:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ตอนแรกก็อยากให้คนอื่น

รู้ว่าก้อนหินไม่ใช่มังกรธรรมดา...

แต่ไม่คิดว่าจะมีอันตรายขนาดนี้

ก้อนหินรีบๆโตนะจ้า...

จะได้เก่งๆ


ออฟไลน์ ปักษธร

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอก้อนหินไม่ได้เราขอไซเลอร์แทนได้เปล่าอะ  :impress2: :-[

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
ก้อนหินสู้ๆ น้องดินสู้ตาย ไซเลอร์ไว้ลาย สู้ตายสู้ๆ หุหุ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :katai2-1:  ก้อนดิน ก้อนหิน สู้ๆ ก้าสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส   อิอิ   :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :L1: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
สีถลอกซะอย่างนั้นเลยก้อนหิน!!!
แค่ปกติ ใครจะเอาน้ำหอมแพงๆมาฉีดให้มังกร...ดูมีเงื่อนงำ =______=


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โอยยยย ชอบก้อนหินจริงๆนะเนี้ยย
ชอบมากๆเลย อยากได้ค่าาาา

อะไรก็ได้ อย่าให้ใครขโมยหินนะ ชั้นขโมยได้คนเดียวว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ kratair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ prangasia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากฟัด หิน อ่ะ น่าร้ากกกก :mew1:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
บทที่ 16 พิษรัก

ผมเดินตามหลังพี่ไซรอสมาด้วยอาการขาสั่น มือสั่น เอาจริงๆ สั่นแม่งทั้งตัวและหัวใจยันอวัยวะภายในเลยเถอะ รู้สึกได้เลยว่ามือไม้เย็นเฉียบ หัวใจเต้นรัวจนกลัวจะวายตายห่าไปซะก่อน

สาเหตุที่ทำให้ผมออกอาการตื่นเต้นได้ขนาดนี้เกิดจากเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อน หลังจากที่เล่าเรื่องทุกอย่างให้แก๊ง F5 ฟังและเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่พูดคุยปรึกษากันอยู่ จู่ๆ ทุกคนก็หยุดพูดพร้อมกันแล้วทำเหมือนตั้งใจฟังอะไรสักอย่าง พอเห็นผมทำหน้าเหมือนหมางง ไซเลอร์ก็บอกว่าได้ยินฝีเท้าคนเดินตรงมาที่บ้าน เลยพากันเดินออกไปยืนรอที่ชานหน้าบ้าน ก็เห็นพี่ไซรอสเดินตรงมาหาแต่ไกล หูย... หูดีชะมัด ไกลขนาดนั้นยังได้ยินฝีเท้าอีก

พอมาถึงก็เห็นว่าพี่ไซรอสมีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าตอนที่เจอกันที่คฤหาสน์ท่านมอลทีสซะอีก แต่ครั้งนี้ยังมีสีหน้ากังวลและลำบากใจเพิ่มมาด้วย เมื่อเดินมาถึงบันไดหน้าบ้านก็เงยขึ้นมาพูดแบบเข้าประเด็นทันที

“ดิน คิงกับท่านมอลทีสให้ข้ามาเชิญเจ้าไปพบ”

“ห๊ะ!!!” ผมฟังผิดไป ใช่ไหม???

ผมมองหน้าพี่ไซรอสงงๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า ถึงได้ยินว่าคิงเชิญให้ไปพบ แต่พอหันไปมองคนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าได้ยินเหมือนกันไหม แค่เห็นทุกสายตาที่จ้องมาก็ได้คำตอบว่าฟังไม่ผิด เลยหันไปมองพี่ไซรอสเพื่อขอคำยืนยัน พี่ไซรอสก็ยืนยันอย่างชัดเจน

“ฟังไม่ผิดหรอก คิงของเคลเบรอสขอร้องให้เจ้าช่วยไปพบหน่อย” พี่ไซรอสชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“ที่จริงพระองค์จะมาหาเจ้าเองเลยด้วยซ้ำ แต่ท่านมอลทีสบอกให้ทรงรอแล้วให้ข้ามารับเจ้าไปหาที่นั่นเลยจะดีกว่า”

“แล้วคิงต้องการจะพบผมเรื่องอะไรครับ” ผมถามอย่างงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก รู้สึกกังวลจนเผลอกอดก้อนหินเอาไว้แน่น

“ท่านมอลทีสฝากบอกว่า ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลหรอก แต่บอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ เมื่อเจ้าไปพบแล้วเจ้าจะเข้าใจเอง”

ผมหันไปมองไซเลอร์ที่มองมาอย่างห่วงใย ไม่รู้ว่าเผลอทำหน้ายังไงไป ไซเลอร์จึงตบบ่าเหมือนจะปลอบใจ ก่อนจะหันไปถามพี่ไซรอส

“ข้าขอไปด้วยได้ไหม”

“ท่านมอลทีสบอกว่าได้ แต่ต้องรออยู่ข้างนอก” พี่ไซรอสหันไปตอบไซเลอร์ก่อนจะหันมาพูดกับผมต่อ

“คิงบอกว่าไม่ได้บังคับนะก้อนดิน เจ้าจะไปหรือไม่ไปก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเจ้า แต่ทรงขอร้องมา ข้าก็อยากจะขอร้องเจ้าเหมือนกัน ไปพบพระองค์หน่อยได้ไหม”

ผมใจอ่อนยวบตั้งแต่ได้ยินคำว่าขอร้องแล้ว ทั้งๆ ที่ทรงเป็นถึงคิงของอาณาจักร และผมก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่หลงมิติเข้ามาอาศัยในอาณาจักรเท่านั้น พระองค์จะสั่งหรือบังคับให้ผมไปพบเลยก็ได้ แต่ยังทรงให้เกียรติเชิญและยังขอร้องมาอีก ถ้าไม่ไปก็คงเสียมารยาทและใจดำเต็มทน

“ครับ ข้าจะไปพบคิงกับพี่” อีกอย่างในเมื่อท่านมอลทีสรับรอง ผมก็มั่นใจว่าคงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลหรอก... มั้ง



ถึงจะบอกว่าไม่มีอะไร...

แต่มันห้ามความตื่นเต้นไม่ด้ายยยยย

ใครมีโอกาสได้พบคิงครั้งแรกแล้วไม่ตื่นเต้น ผมให้เตะชเนาเซอร์เลยเอ้า!

ระหว่างเดินทางผมได้แต่กอดก้อนหินแน่นจนมันร้องแอ่กและเอาหัวโขกประท้วงมาหลายรอบ แต่ก็ยังไม่หายสั่นซะที โอ๊ย! ตื่นเต้นโว๊ย!

พอถึงหน้าตำหนักพี่ไซรอสก็บอกให้คนอื่นๆ รอที่นี่ แล้วให้ฝากก้อนหินไว้กับไซเลอร์ก่อน ผมก้มมองก้อนหินที่หันมากอดเอาหัวถูแรงๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองแล้วร้องเหมือนจะให้กำลังใจ ก็ยิ้มออกแล้วกอดมันกลับแน่นๆ อีกที เหลือบมองแขนที่ทาสีปิดรอยที่ลอกไว้ก่อนจะออกมา สีดูแห้งสนิทดีและกลมกลืนเหมือนสีผิวเดิมก็วางใจ เลยส่งให้ไซเลอร์ ไซเลอร์รับไปอุ้มไว้มันก็ยอมอยู่นิ่งๆ แต่โดยดี 

หลังจากแยกกับไซเลอร์ที่ทำหน้าเหมือนจะส่งผมไปออกรบ (ตามที่ชเนาเซอร์ว่า) จนโดนเพื่อนๆ ที่ขอตามมาด้วยส่งสายตาล้อกันแล้ว ผมก็เดินตามพี่ไซรอสเข้ามาในตำหนักของคิงและควีน หัวใจไม่รักดีก็เริ่มเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ขนาดอากาศเย็นสบาย เหงื่อยังแตกพลั่กๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้มีอาการมากขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ยังมีก้อนหินกับไซเลอร์อยู่ใกล้ๆ เลยรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก บางครั้งยังเผลอคิดว่า ถ้ามีก้อนหินกับไซเลอร์อยู่ข้างๆ ต่อให้เจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ไม่น่ากลัวสักนิด พอนึกถึงคนในความคิดก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้

ผมพยายามระงับความตื่นเต้นด้วยการหายใจเข้าลึกๆ แต่พอพี่ไซรอสพาเดินมุ่งตรงไปที่ประตูบานหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นจุดหมายหัวใจก็ยิ่งเต้นกระหน่ำขึ้นมากกว่าเดิมอีก โอ๊ย! หัวใจ มึงช่วยเต้นช้าๆ ลงหน่อยได้ไหม กูจะตายห่าก่อนจะได้พบคิงเนี่ย!

“ท่านไซรอสมาถึงแล้วครับ” พอเดินเข้าไปใกล้ประตูปุ๊บ คนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูก็ตะโกนรายงานทันที

“ให้เข้ามาได้” เสียงทุ้มหนักแน่นดังออกมาจากข้างใน ทำให้ใจผมเต้นเร็วมากกว่าเดิม พี่ไซรอสหันมาตบบ่าเหมือนจะปลอบใจ

“ไม่ต้องกลัวนะดิน คิงใจดีเหมือนท่านพ่อนั่นแหละ” ผมผงกหัวเป็นเชิงบอกพี่ไซรอสว่าพร้อมแล้ว พี่ไซรอสแตะประตูเบาๆ ประตูก็เปิดออก ผมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติอีกที ก่อนจะเดินตามพี่ไซรอสเข้าไป

พี่ไซรอสบอกว่าห้องนี้เป็นห้องบรรทมของคิงและควีน ด้านในเป็นห้องกว้างๆ และโล่งมาก ทั้งห้องทาผนังด้วยสีเทา มีตู้หนังสือแบบบิวท์อินติดตรงผนังทั้งสองฝั่ง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายโทนสีขรึมๆ อย่างเทา น้ำตาลและน้ำเงิน  มีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่สองชุด บนโต๊ะมีหนังสือกับเอกสารกองอยู่เต็มพื้นที่ บนผนังที่ว่างติดแผนที่ขนาดใหญ่ไว้ เหมือนเป็นห้องสมุดมากกว่าห้องนอน พี่ไซรอสพาเดินไปถึงประตูอีกบาน ยังไม่ทันได้เคาะก็ยินเสียงเดิมกับเมื่อครู่ดังออกมาพร้อมกับประตูที่เปิดออกเอง

“เข้ามาได้เลย” พอได้รับคำอนุญาตผมก็เดินตามพี่ไซรอสไป

ผมมองตรงไปที่กลางห้องพบผู้ชายคนหนึ่งยืนรออยู่ใกล้ๆ ท่านมอลทีสตรงหน้าฉากไม้ฉลุลายแบบบานพับคาดว่าน่าจะใช้เป็นฉากกั้นเตียงไว้ง่ายๆ ดูจากรัศมีอำนาจที่เปล่งออกมาจากตัวก็เดาได้ไม่ยากว่าคนตรงหน้าน่าจะเป็นคิงแห่งเคลเบรอส

“ไซรอสถวายพระพรฝ่าบาท” พี่ไซรอสพูดพร้อมทิ้งตัวลงไปคุกเข้าข้างหนึ่ง ก้มหัวลงต่ำแสดงความเคารพ ผมรีบทิ้งตัวลงตามที่ทุกคนเทรนด์มา แต่คงเผลอทิ้งตัวแรงไปหน่อยเข่าเลยกระแทกดังปึก! อูย... อย่างกับโดนไฟช็อต เจ็บเข่าสัดๆ

“รีบลุกขึ้นเถอะ”

เราสองคนรีบลุกขึ้น ผมน้ำตาคลอเบ้า เพราะยังเจ็บเข่าอยู่

“ก้อนดินใช่ไหม”

“เอ่อ... ครับ เอ๊ย! พะยะค่ะ” อันนี้ไม่มีใครเทรนด์มาเพราะรีบ ต้องพูดยังไงวะ!

“ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์ให้ยุ่งยากหรอก ที่นี่อยู่กันสบายๆ ใช้คำพูดแบบที่เจ้าใช้พูดกับท่านมอลทีสหรืออลาสกันก็ได้” ดูท่าพระองค์จะรู้การเคลื่อนไหวของผมเป็นอย่างดี น่าจะมีคนคอยรายงานอยู่

“ครับ” ผมรับคำ น้ำเสียงที่มีแววปราณีของคิง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

“ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขออนุญาตไปช่วยท่านพ่อก่อนนะฝ่าบาท กระหม่อมทูลลา”

ผมเหลือบมองพี่ไซรอส รู้สึกเหมือนถูกพ่อเอามาทิ้งไว้ที่โรงเรียนอนุบาลวันแรก พี่ไซรอสยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเหมือนจะปลอบใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงเพื่อแสดงความเคารพอีกรอบ แล้วเดินออกไป ปล่อยให้ผมก้มหน้ามองพรมเพื่อระงับความตื่นเต้น

“ไหนเงยหน้าขึ้นซิ ไม่ต้องมองมากหรอกพื้นน่ะ มันสะอาดดี มองหน้าข้าดีกว่า น่าดูกว่าพื้นเยอะ”

“...”

“อะแฮ่ม เข้าเรื่องได้แล้วมั้งฝ่าบาท” ท่านมอลทีสที่ยืนฟังเงียบๆ ขัดขึ้น

ผมเงยหน้าขึ้นมองท่านมอลทีส ก่อนจะเผลอหันไปมองคิงที่น่าดูกว่าพื้นอย่างที่ทรงบอกจริงๆ ทรงมีรูปร่างสูงใหญ่ตามมาตรฐานของผู้ชายในอาณาจักร คือสูงอย่างกับยักษ์กับมาร (ไม่รู้จะสูงกันไปไหน) สูงมากกว่าพี่ไซรอสซะอีก ผมสีดำสนิทตัดสั้นเข้ารูปกับศีรษะ ดวงตาคมกริบมีอำนาจสีเดียวกันกับเส้นผม ผิวเข้มคมคร้ามเหมือนคนชอบอยู่กลางแจ้ง ร่างหนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังบ่อยๆ (ขอบรรยายแบบไม่ใช้ราชาศัพท์แล้วกันครับไม่งั้นจะยิ่งงงมากกว่าจะเข้าใจ เพราะผมไม่ค่อยถนัดและนึกศัพท์ไม่ค่อยจะออก)

ไซเลอร์เล่าให้ฟังระหว่างทางว่าคิง ‘เกรทเดน’ เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับท่านอลาสกัน รวมถึงพ่อแม่ของสมาชิกแก๊งคนอื่นๆ ด้วย อาจจะเป็นเพราะอายุขัยที่มากกว่าคนโลกโน้น หรืออาจจะเป็นเพราะการใช้ชีวิตที่ง่ายๆ สบายๆ จึงทำให้ท่านๆ ทั้งหลายยังคงดูดี แม้จะมีลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วก็ตาม ถ้าโกหกว่าเป็นพี่ชายพี่สาวผมก็เชื่ออ่ะคิดดู

“ข้าแค่ไม่อยากให้ก้อนดินเครียด เจ้าก็เห็น เดินตัวเกร็งมาเชียว” เชื่อแล้วว่าทรงใจดี แต่ให้ตายสิ! คนอาณาจักรนี้ทำไมขี้แซวเหมือนกันทุกคน

ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ ใครไม่เกร็งก็เก่งเกินไปแล้วครับ ผมมองคิงที่ยังคงแซวขำๆ แต่ดวงตามีแววหม่นๆ ขัดกับท่าทาง เป็นเพราะอะไรกัน ผมหันไปมองท่านมอลทีส เหมือนท่านจะรู้ว่าผมคิดอะไร

“สงสัยใช่ไหมว่าคิงกับข้าเชิญเจ้ามาทำไม” เห็นแววตาเคร่งเครียดของท่านมอลทีสแล้ว ผมก็เริ่มจะรู้สึกเครียดตาม

“ข้ามีเรื่องจะรบกวนให้เจ้าช่วยหน่อย ตามข้ามาสิ” คิงพูดแล้วก็เดินนำเข้าไปในฉากกั้น ท่านมอลทีสพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ผมเดินตามไป แล้วท่านก็เดินตามหลังมา

พอเดินผ่านฉากกั้นเข้าไปก็พบว่ามีคนนอนอยู่บนเตียงที่ปูด้วยผ้าปูและปลอกหมอนสีกรมท่าเรียบๆ แปลกแฮะ เมื่อกี๊เราคุยกันเสียงดังอยู่นะ ทำไมไม่รู้สึกตัว เอ... หรือว่าป่วย?

คิงเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง จับมือคนที่นอนอยู่บนเตียงไว้ สายตามองคนที่นอนนิ่งด้วยความอ่อนโยนและห่วงใย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกผม

“นี่คูวาสซ์ ควีนของข้าเอง”

ห๊ะ!!! ผมเกือบจะหลุดอุทานออกมา ยังดีที่ยั้งไว้ทัน มองคนที่นอนบนเตียงอย่างไม่เชื่อสายตา เพิ่งจะรู้ว่าควีนเป็นผู้ชาย!!!! เอาจริงๆ ตั้งแต่มาถึงก็ไม่ได้สนใจเรื่องคิงกับควีนเลย เพราะถือว่าเป็นเรื่องไกลตัว ใครจะคิดว่าจะมีโอกาสได้พบอย่างใกล้ชิดแบบนี้ล่ะ

“แล้ว?” ผมเผลอหลุดถามไปอย่างงงๆ

“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเช้าพอข้าตื่นขึ้นมา ข้าก็ปลุกคูวาสซ์ตามปกติ แต่ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น ยังหายใจ แค่ไม่ตื่น” ผมหันไปมองท่านมอลทีส

“คนของสำนักแพทย์มาตรวจดูแล้ว บอกว่าไม่เคยเจอใครที่มีอาการแบบนี้มาก่อนเลย ร่างกายไม่มีอาการอะไรผิดปกติทั้งภายนอกภายใน เพียงแค่หลับไป” ท่านมอลทีสถอนหายใจ

“เราสงสัยว่าควีนอาจจะถูก ‘พิษรัก’”

“...”

“แต่มันเป็นพิษในตำนาน เคยได้ฟังเรื่องเล่าว่าเคยมีคนทำขึ้นเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว แม้แต่วิธีทำยังไม่มีใครรู้หรือเคยได้ยินมาก่อนเลย แต่อาการของควีนมันเป็นอาการที่สอดคล้องกับอาการของคนที่โดนพิษรักตามตำนาน ตอนนี้คิงทรงให้แพทย์หลวงไปประชุมกันและหาข้อมูลที่มีอยู่ให้มากที่สุด เผื่อจะรู้วิธีการรักษา ส่วนเบตัน อลาสกัน และไวเลอร์ก็ให้หาคนช่วยสืบทั้งในและนอกอาณาจักร”

“ข้าเรียกเจ้ามาก็เพื่ออยากให้เจ้าช่วยดูว่าที่เราสงสัยนั้นมันจริงไหม เพราะเจ้าได้เรียนเรื่องสมุนไพรกับท่านเซเรสมา เผื่อเจ้าจะบอกได้ว่าควีนเป็นอะไรกันแน่”

“กระหม่อมขออนุญาตตรวจดูหน่อยได้ไหมครับ” คำแทนตัวลอกจากที่ได้ยินพี่ไซรอสพูด เห็นคิงกับท่านมอลทีสไม่ท้วงอะไรแสดงว่าน่าจะใช้ได้... มั้ง

“ตามสบาย” พอได้รับคำอนุญาตจากคิง ผมก็ก้าวไปยืนข้างเตียง โน้มตัวลงไปจับชีพจรที่ข้อมือ

“นั่งลงข้างเตียงเถอะ จะได้สะดวก”

“ขอบพระทัย”

รับคำเสร็จผมก็นั่งลง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดอะไรมาก อาการของควีนสำคัญกว่าเรื่องอื่น ผมจับข้อมือของควีนขึ้นมาแล้วจับชีพจรก็เต้นสม่ำเสมอดี ก่อนจะกวาดสายตาสำรวจร่างกายภายนอกไปด้วย ดูแล้วควีนน่าจะสูงไม่น้อย ผมสีเงินตัดสั้นแนบศีรษะทรงเดียวกันกับคิง ผิวขาวจัดแต่คงโดนแดดบ่อย เพราะส่วนที่โผล่พ้นเสื้อผ้ามามีสีเข้มกว่าชัดเจน จมูกโด่งเป็นสันสวย ใบหน้าดูมีเลือดฝาด ริมฝีปากสีแดงสดแต้มรอยยิ้มเหมือนคนหลับฝันดี

“เอ่อ...” ผมมองคิงอย่างเกรงใจ

“มีอะไรพูดมาเลย ไม่ต้องเกรงใจ”

“กระหม่อมขอให้ทรงถอดเสื้อให้ดูหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ” พูดจบก็ทรงลุกขึ้นปลดกระดุมถอดเสื้อแล้วเปิดออก

อื้อหือ... อย่างที่คิดไว้ ขาวมากจริงๆ เดี๋ยวๆ ดิน สติ! มึงกลับมาก่อน

“ฝ่าบาท เอ่อ... ชะ... ช่วย อ่า ก้มลงไปจะ...จูบควีน นะ... นานๆ หน่อยได้ไหมครับ” ผมบอกด้วยเสียงตะกุกตะกัก ถ้าส่องกระจกคงเห็นว่าหน้าแดงก่ำ ถึงจะฟังดูแปลกๆ แต่คิงก็ให้ความร่วมมืออย่างดีด้วยการลุกขึ้นแล้วขยับไปโน้มตัวลงจูบริมฝีปากควีนเนิ่นนาน ผมจ้องอย่างอึ้งๆ รู้สึกเลยว่าหน้าร้อนผ่าว โอ๊ย! แล้วกูจะเขินแทนทำไม ทำงานสิมึง ทำงานเซ่!

ผมรีบตั้งสติแล้วละสายตาจากภาพหวานๆ ชวนเขินตรงหน้า ไปสนใจสิ่งที่ต้องการมากกว่า ผมจ้องตรงบริเวณตำแหน่งหัวใจของควีน ก็สังเกตเห็นว่าเริ่มมีแสงสีทองเรืองรองจากจุดเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆ ขยายออกจนกลายเป็นรูปหัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะ
ผมกับท่านมอลทีสมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง และเมื่อคิงเหลือบมาเห็นก็ตกใจจนเผลอผละออกจากริมฝีปากของควีน ภาพที่เห็นเมื่อสักครู่ก็หายไปทันที

ชัดเจนมาก...

ผมหันไปมองหน้าคิงและท่านมอลทีส แล้วบอกออกไปอย่างมั่นใจ

“เป็นอย่างที่สงสัย ควีนทรงโดน ‘พิษรัก’ จริงๆ ครับ” พอฟังจบคิงก็หน้าซีดเผือด ทรุดตัวลงนั่งเหมือนคนหมดแรง จนผมงงว่าทรงเป็นอะไร เลยหันไปหาคำตอบจากท่านมอลทีส

“ตามที่ได้ฟังมา พิษรักมันยังไม่มียาถอนพิษ ไม่มีใครสามารถรักษาได้”

“...”

“เอ่อ... ถึงวิธีทำยาถอนพิษมันจะยุ่งยากและส่วนผสมมันจะหายากมาก แต่มันก็มีวิธีทำอยู่นะครับ”

“อะไรนะ!!!” ประสานเสียงกันมาเลย คิงก้าวพรวดๆ อ้อมเตียงมาถึงก็คว้าตัวผมลุกขึ้นแล้วจับบ่าผมเขย่าด้วยความยินดี

“เจ้าว่าอะไรนะ มันมียาแก้พิษจริงๆ ใช่ไหม คูวาสซ์มีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีกใช่ไหม”

โอ๊ย! ผมคนครับไม่ใช่ยา ไม่ต้องเขย่าให้เข้ากันก็ได้ เดี๋ยวสมองผมเสื่อมไปใครจะรับผิดชอบ!

“คิง” ท่านมอลทีสพยายามเรียกสติ เมื่อเห็นคิงยังคงเขย่าผมไม่หยุด

“คิง หยุดก่อน” ท่านมอลทีสเพิ่มเลเวลขึ้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“เกรทเดน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” นอกจากเพิ่มเสียงจนแทบจะเป็นตะโกนแล้ว ยังมีฝ่ามือพิฆาตช่วยตบหลังเรียกสติคิงดังตุบ! คาดว่าคิงคงจุกเลยหยุดเขย่าในทันที

ไซเลอร์เคยเล่าให้ฟังว่าท่านมอลทีสเคยเป็นอาจารย์มาตั้งแต่รุ่นของพ่อๆ ด้วย คิงและควีนเคารพและสนิทกับท่านมอลทีสมาก ตอนนี้เชื่อแล้วว่าสนิทกันจริงๆ ไม่งั้นคงไม่กล้าเรียกชื่อเฉยๆ และตบหลังแรงๆ แบบนี้หรอก

พอคิงปล่อยมือ ผมก็เผลอถอยก้าวถอยหลังไปหน่อย กลัวโดนจับเขย่าอีกรอบ ไม่เจ็บหรอก แต่มึนหัวพิลึก

“ขอโทษที ข้าดีใจไปหน่อย” ไม่หน่อยแล้วมั้งครับ

“นั่งลงก่อน” ท่านมอลทีสใช้สายตาเหมือนครูมองเด็กซนๆ คนหนึ่ง แล้วสั่งให้คิงกลับไปนั่งที่ คิงก็ทำตามแต่โดยดี ดูน่ารักจนผมอดจะอมยิ้มไม่ได้ ผมขยับไปยกเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ มาให้ท่านมอลทีสกับตัวเอง พอนั่งลงเรียบร้อยก็เริ่มพูด

“จากที่กระหม่อมเรียนสมุนไพรกับลุงเซเรสมา ลุงก็สอนเรื่องพิษตัวนี้มาด้วย ทั้งส่วนประกอบที่ใช้ทำ อาการของคนถูกพิษ และวิธีการถอนพิษ ส่วนประกอบและวิธีในการปรุงยาพิษชนิดนี้ยุ่งยากมาก ต้องใช้เวทย์ในการกำกับด้วย เนื่องจากส่วนประกอบแต่ละอย่างไม่ได้หาได้ภายในปีเดียว บางอย่างต้องรอเวลาหลายปีถึงจะนำมาใช้ได้ แสดงว่าคนที่วางยาวางแผนมานานแล้ว นอกจากนี้พิษชนิดนี้จะมีผลกับคนที่ตกอยู่ในห้วงรักเท่านั้น คนที่ไม่มีความรักกินเข้าไปจะไม่มีผลอะไรเลย”

ตอนที่เรียนถึงพิษรักนี่ ผมยังบ่นกับลุงเซเรสเลยว่าคนคิดแม่งโคตรครีเอทและโคตรขี้อิจฉา น่าจะเป็นโรคจิตด้วยถึงเห็นคนรักกันมีความสุขไม่ได้ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเป็นแม่มดจากเรื่องสโนไวท์กลับชาติมาเกิดรึไง

“ส่วนอาการก็เป็นอย่างที่เห็น คนที่โดนพิษไปจะยังไม่ตาย แต่จะนอนหลับใหลไม่ได้สติ ถ้าได้รับจูบจากคนที่รักจะมองเห็นพิษที่เป็นแสงเรืองรองโอบล้อมหัวใจไว้อย่างเมื่อครู่ ถ้าถอนพิษไม่ได้ก็จะหลับไปตลอดจนสิ้นอายุขัย หรือไม่ ถ้าร่างไม่ได้รับการดูแลกล้ามเนื้อก็จะลีบและแห้งตายไปเอง เพราะขาดสารอาหาร อีกอย่างคือคนที่โดนพิษจะดูงดงามขึ้นมาก โดยเฉพาะต่อสายตาของพวกที่จิตใจต่ำ เมื่อมองเห็นจะรู้สึกเหมือนต้องมนต์” ต่อจากนั้นคงไม่ต้องเดา ถ้าคนรักอ่อนแอ ก็คงจะทำให้โดนรังแกได้ไม่ยาก คงรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเลยทีเดียว ยืนยันอีกที คนคิดยาพิษนี่แม่งโรคจิตแน่ๆ
 
แถมพีคสุดก็ตรงวิธีการถอนพิษนี่แหละ เวลาปรุงยาถอนพิษซึ่งโคตรจะยุ่งยากยิ่งกว่าตอนปรุงยาพิษเสร็จแล้ว ก็ต้องมีจอมเวทย์ท่องมนต์ถอนพิษออกจากหัวใจ ส่วนคนรักก็ต้องใช้เลือดเป็นกระสายยา ก่อนจะใช้ปากป้อนยา แต่ถ้าเกิดคนรักหมดรักไม่เหลือเยื่อใยต่อกันแล้ว ยาถอนพิษที่พยายามปรุงมาก็จะไม่มีผลอะไรเลย

สรุปคือ ทั้งคู่ต้องรักกันมาก คนที่อยู่ต้องมีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคงมากพอ เพราะด้วยตัวยาที่ใช้มันหายาก ต้องใช้เวลาในการหานาน ในระหว่างนั้น ถ้าเจอคนใหม่แล้วเผลอใจให้ไป คนที่โดนพิษก็ซวยไป นึกแล้วสยอง แม่งจิตใจทำด้วยอะไรวะ ต้องแค้นกันเบอร์ไหนถึงได้มีความพยายามขนาดนี้

“ข้ามั่นใจว่าข้ามั่นคงพอ ทั้งชีวิตและหัวใจข้ายกให้คูวาสซ์แค่เพียงผู้เดียวเท่านั้น” ทั้งคำพูดและแววตาที่หนักแน่น ทำให้ผมมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหากับการถอนพิษแน่ เลยถามเรื่องที่ติดใจแทน

(มีต่อ)

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา

“ทรงคิดว่าใครเป็นคนวางยาพิษครับ มีใครน่าสงสัยบ้างไหม” คิงทำท่านึกก่อนจะถอนหายใจเฮือก

“ข้านึกไม่ออกจริงๆ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนทำร้ายคูวาสซ์ เพราะเราไม่มีปัญหากับใครเลย”

“ทรงมีคนที่ไม่ถูกกัน หรือศัตรูที่มีความแค้นต่อพระองค์บ้างไหม” เพราะถ้ามีความพยายามขนาดนี้ก็น่าจะมีเรื่องที่แค้นกันมากเลยล่ะ คิงทำท่านึกแล้วส่ายหัว ผมได้แต่ถอนหายใจ

“ปกติ ยาพิษจะออกฤทธิ์หลังจากกินเข้าไปอย่างเร็วที่สุดประมาณสามชั่วโมง เดาว่าควีนอาจจะโดนพิษก่อนที่จะเข้านอน เมื่อคืนนี้ควีนไปที่ไหนมาบ้างครับ” พอจบคำถามของผม คิงกับท่านมอลทีสก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

“เมื่อวานเย็นมีงานเลี้ยงส่งแขกที่มาประชุมจากทั้งสองอาณาจักร เพราะปีนี้ตกลงกันได้เร็ว การประชุมจึงสิ้นสุดลงก่อนกำหนด ข้าเลยให้จัดงานเลี้ยงส่งก่อน เพราะแขกบางคนอยากจะแวะท่องเที่ยวก่อนกลับอาณาจักร ในขณะที่บางคนอยากจะรีบกลับอาณาจักรเลย” งานยากล่ะสิ แค่คนของอาณาจักรเดียวกันก็เยอะพออยู่แล้ว ยังจะมีคนจากอาณาจักรอื่นอีก

“เป็นไปได้ไหมครับ ว่ามีคนที่อยากแย่งตำแหน่งของคิงแล้ววางยาพิษทั้งสองพระองค์แต่โดนควีนพระองค์เดียว”

คิงกับท่านมอลทีสหันไปสบตากันก่อนจะระเบิดหัวเราะลั่นออกมาทั้งคู่

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”

ผมทำหน้าเลิกลัก เฮ้ย! นี่ผมซีเรียสนะ คำถามออกจะจริงจัง ขำกันทำไม เอ๊ะ! รึว่าผมพูดอะไรผิดไปวะ?

กว่าจะสงบสติอารมณ์กันได้ก็ปล่อยให้ผมนั่งเอ๋ออยู่ตั้งนาน ก่อนที่ท่านมอลทีสจะเป็นคนพูดก่อน เพราะคิงยังคงกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่นอยู่เลย

“เป็นไปไม่ได้แน่นอน” ผมเดาว่ามันน่าจะเป็นคำตอบของคำถามผมเมื่อครู่
 
“ทำไมล่ะครับ” ผมถามด้วยความสงสัยจริงจัง ท่านมอลทีสแค่ยิ้มให้แล้วบอก

“เจ้าลองไปถามไซเลอร์กับเพื่อนๆ ดู เจ้าพวกนั้นเป็นตัวเก็งคิงรุ่นต่อไปเลยนะ”

“ห๊ะ! ทั้งห้าคนเลยเหรอครับ”

“ใช่ แล้วเจ้าก็จะรู้คำตอบเองว่าทำไม” โอเค... ออกไปต้องลองถามดู อยากรู้ว่าทำไมท่านมอลทีสถึงได้มั่นใจขนาดนั้น

“แล้วส่วนประกอบของยาถอนพิษมันมีอะไรบ้าง ข้าจะได้ให้คนไปหามาให้” คิงถามขึ้น หลังจากหยุดหัวเราะได้แล้ว

ผมไล่ส่วนประกอบให้ฟัง คิงและท่านมอลทีสรับฟังอย่างตั้งใจ หลังจากผมร่ายจบ ท่านมอลทีสซึ่งพอมีความรู้เรื่องยาก็บอก

“ตัวยาส่วนใหญ่อยู่ในสำนักแพทย์”

“เจ้าจะให้เอามาให้ที่นี่หรือจะไปดูเอง” คิงตรัสถาม

 “กระหม่อมขอไปดูเองดีกว่า ที่นั่นน่าจะมีอุปกรณ์ในการปรุงยาด้วย คงจะสะดวกกว่าที่นี่” คิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปเอง” ท่านมอลทีสอาสา

“ขาดเหลืออะไรก็บอกมาได้ เดี๋ยวข้าจะรีบจัดการให้คนไปหามาให้ ส่วนตัวยาที่อยู่ในอาณาจักรอื่น ข้าจะส่งหนังสือแจ้งคิง แล้วจะให้คนไปเอามาก็แล้วกัน”

“ไม่ได้ครับ”

“ทำไม” คิงและท่านมอลทีสถามขึ้นพร้อมกัน

“มีตัวยาสองตัวที่เป็นตัวยาสำคัญมาก กระหม่อมจำเป็นต้องไปเอาด้วยตัวเอง คือเห็ดเรืองแสงในคุกใต้ดินของอาณาจักรบาอัล ต้องไปเก็บตอนคืนวันเพ็ญที่มันกำลังเรืองแสงอยู่ แล้วต้องรีบสกัดเอาตัวยาตอนนั้นเลย ไม่เช่นนั้นเห็ดจะเน่า อีกอย่างวิธีการสกัดมันค่อนข้างละเอียดอ่อน บอกตามตรงว่ากระหม่อมไม่มั่นใจถ้าจะให้คนอื่นไปเอาแทน

อีกตัวคือไข่หงส์ฟินซ์ที่ไม่มีตัวอ่อนจากถ้ำในป่าคาล์มซึ่งอยู่ในเขตของอาณาจักรรุค เมื่อหาเจอแล้วต้องรีบสกัดตั้งแต่อยู่ในถ้ำ ถ้าเอาออกมาไข่จะเปลี่ยนสี แล้วตัวยาจะเสื่อมฤทธิ์”

เห็นไหมว่าตัวยาแต่ละตัวหาโคตรยาก นี่ถ้าคนธรรมดาโดนพิษ บอกเลยว่าคงท้อตั้งแต่หาวิธีแก้แล้ว พอรู้วิธีถ้าไม่เก่งจริงก็คงตายห่าตั้งแต่หาตัวยาแล้ว ในคุกใต้ดินนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ในป่าคาล์มนี่สิ เท่าที่ฟังลุงเซเรสเล่ามามันเต็มไปด้วยอันตรายเพราะมีแต่สัตว์ป่าดุร้ายทั้งนั้น

“กระหม่อมขอให้พระองค์ทรงทำหนังสือขออนุญาตให้ก็พอ แล้วขอให้ทรงอนุญาตให้ไซเลอร์กับเพื่อนๆ ไปกับกระหม่อมด้วยได้ไหมครับ”

“ทีมเฮดีสน่ะเหรอ? ได้สิ เด็กกลุ่มนั้นฝีมือดีทุกคน จะได้ให้ไปคุ้มครองเจ้าตอนเข้าไปในป่าคาล์มด้วย ต้องการคนอื่นอีกไหม”

“ทีมเฮดีส?” พอเห็นผมทำหน้างง คิงก็ทรงยิ้มขำ

“ก็ทีมไซเลอร์ของเจ้ากับเพื่อนๆ นั่นแหละ หึๆ” ฟังแล้วรู้สึกหน้าร้อนวูบๆ พิกล คิงคงไม่ได้แซวผมอยู่ใช่ไหม ของผมอะไรกันเล่า โว๊ะ!

“ห้าคนนั้นก็น่าจะพอครับ” ผมรีบตัดบทให้พ้นตัวก่อนจะพูดต่อ

“ส่วนไข่มุกดำจากทะเลไมรอส ทรงให้คนอื่นไปงมมาได้ ตัวนี้ไม่ยุ่งยาก เอ่อ... มากนัก แค่เวลางมได้แล้ว เอาแช่น้ำทะเลมาด้วยก็พอ”

“ได้ เดี๋ยวข้าจะจัดการให้”

“แล้วเจ้าจะเดินทางเมื่อไหร่” ท่านมอลทีสถามขึ้นบ้าง

“ขอเช็ค เอ่อ... ตรวจสอบตัวยาในสำนักแพทย์ให้แน่ใจก่อนครับ แล้วจะรีบออกเดินทางทันที”

“อืม ขาดเหลืออะไรก็บอกแล้วกัน”

“ครับ”

“เอ่อ... ท่านมอลทีส” ผมเหลือบมองคิงอย่างไม่แน่ใจว่าจะคุยตอนนี้ดีไหม

“มีอะไรก็พูดมาเลย คิงทรงทราบเรื่องของเจ้ากับก้อนหินอยู่แล้ว” ท่านมอลทีสพูดขึ้นเหมือนรู้ว่าผมจะพูดเรื่องอะไร

 “เรื่องสีที่แขนของก้อนหินลอกน่ะครับ พวกเราเพิ่งคุยกันก่อนจะมาที่นี่ ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพราะโดนน้ำหอมที่มีส่วนผสมของดอกสโนว์ฟ็อกซ์ครับ เพราะยังมีกลิ่นติดที่แขนของก้อนหินอยู่ พรีซาบอกว่ามันเป็นกลิ่นดอกไอริส ท่านมอลทีสทราบไหมว่าใครใช้น้ำหอมกลิ่นนี้บ้าง” ท่านมอลทีสหันไปสบตากับคิง ก่อนที่ท่านมอลทีสจะหยิบขวดแก้วใสๆ เล็กๆ เปิดจุกออกแล้วส่งให้ผม

“กลิ่นนี้ใช่ไหม” พอรับมาดมแล้วผมก็เบิ่งตาขึ้น

“ใช่ครับ กลิ่นนี้เลย ท่านมอลทีสใช้ด้วยเหรอครับ” ท่านมอลทีสถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขณะที่คิงทรงทำหน้าแปลกๆ

“ภรรยาท่านทูตคานาริโอซื้อมอบให้เป็นของขวัญกับแขกที่มาประชุมและผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน” ภรรยาท่านทูตคานาริโอก็แม่ของพรีซาน่ะสิ

“ขนาดข้ายังได้มาเลย” คิงหยิบน้ำหอมออกมาให้ดูด้วย

“...”

ชิบหายละ อย่างนี้มิต้องไล่สืบกันทุกคนเลยเรอะ โอ๊ย! ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้

“เอาเถอะ เรื่องนี้ก็ค่อยๆ สืบไป เดี๋ยวข้าจะให้ทีมอื่นช่วยสืบให้อีกแรง”

“ครับ ถ้าอย่างนั้น รบกวนท่านมอลทีสพาผมไปที่สำนักแพทย์หน่อยได้ไหมครับ จะได้ไปดูตัวยาเลย”

“ได้สิ”

“ถ้าอย่างนั้น กระหม่อมทูลลาก่อนนะฝ่าบาท” พูดจบก็ทิ้งตัวลงคุกเข่าเป็นการลาตามที่ได้รับการเทรนด์มา แต่ครั้งนี้ลงดีหน่อย ไม่ต้องเจ็บเข่าเหมือนครั้งแรก

ก่อนเดินออกมา ผมหันกลับไปมองคิงที่ยังคงนั่งกุมมือควีนแล้วมองด้วยสายตาที่อ่อนโยน หม่นหมอง และเจ็บปวด ก็ได้แต่บอกกับตัวเองในใจ ว่าจะต้องพยายามทำให้สำเร็จให้ได้!


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ตอนนี้ออกจะมีสาระหน่อยๆ (หราาาาาา) 55555
กำลังจะหาที่หนีเที่ยวค่ะ หุๆ อยู่ที่เดิมมันน่าเบื่อ ถถถ (ถามคนอื่นรึยังว่าอยากไปกะแกไหม)
 :katai4:
ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาเม้นท์ มาให้กำลังใจนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:
ยังรักทุกคนเหมือนเดิมมมมมมม แต่รักก้อนหินมากกว่านิดหน่อย อย่าขอเรา เราหวง 55555555  :laugh:
รักนะคะคนดีของฉัน
รวบกอดดดดด  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

#MayA@TK บังเอิญรักเธอ เดี๋ยวๆๆๆๆ  :L1:
#เป็ดอนุบาล ขอบคุณค่า  :L2:
#♥►MAGNOLIA◄♥ ก้อนดินคงไม่ยอมให้พรากจากอกแน่ค่ะ หวงซะขนาดนั้น ส่วนคนทำน้านนนน โปรดติดตามตอนต่อไป แหะๆ  :L1:
#sirin_chadada ก้อนหินคือตัวเอกของเรื่องนี้ค่ะ ที่เหลือคือตัวประกอบ 55555
#พิศตะวัน  :L2: :L1: :L2:
#duck-ya ขอบคุณค่า สั้นจริงๆ ค่ะ ยอมรับ พยายามแล้วได้แค่เน้ 555555 (บ้าไปแล้ว)
#•♀NoM!_KunG♀• คงต้องทิ้งการฝึกเพื่อหนีเที่ยวอีกแล้วค่ะ ถถถ
#pandorads รักก้อนหินที่สุดในเรื่องแล้วค่ะ งื้อออออ
#maekkun  :L2: :pig4: :L2: แถมค่ะ
#แฟนตาเซีย  :L2: :pig4: :L2: แถมให้เหมือนกัน
#alternative ชเนาเซอร์เป็นคนที่น่าหมั่นไส้มากค่ะ 55555
#suikajang ใช่เลยค่ะ ก้อนหินเป็นตัวเอก ที่เหลือเป็นแค่ตัวประกอบเฉยๆ กร๊ากกกก ที่ยังอยากเขียนเรื่องนี้ต่อ เพราะก้อนหินตัวเดียวเลย ถถถ  :hao7:
#DeShiWa รอเวลาที่จะโต แต่มีเหตุผลที่ไม่โตค่ะ งงไหม ถถถ เอาเป็นว่าโปรดติดตามตอนต่อไปค่า
#Gamemy คิดว่าก้อนดินจะยอมให้ไหมคะ ถึงพี่ไซก็เถอะ จะยอมให้ใครพรากไปจากอกดินเร้ออออ
#คนริมคลอง ขอบคุณค่า สู้ทั้งหิน ทั้งดิน ทั้งไซ และคนเขียน กระดึบต่อไป  :katai5:
#ommanymontra สู้ตายค่า ก๊าสสสสสส ใครแตะดินมาเจอหินก่อนเถอะ
#poppycake มีเงื่อนมากกว่าเดิมอีกค่ะ (ใครผูกกกกก) งื้ออออ
#Billie  :L2: :pig4: :L2: แถมค่ะ
#papapajimin 55555 ไหงงั้นล่ะ
#mild-dy  :L2: :pig4: :L2:
#kratair คนเม้นท์ก็น่าร๊ากกกกกก งื้ออออ
#prangasia อนุญาตให้ฟัดดดดด แต่ไม่อนุญาตให้ขโมยเหมือน คห.บนค่ะ 55555

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
กระดึบต่อไป ฮึบๆๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าตกใจ คิง ต้องการพบก้อนดิน
คิดว่าคิง ต้องการก้อนหินซะอีก
แล้วกลายเป็นว่าต้องให้รักษาควีน
ที่แปลกคือควีนเป็นผู้ชาย   o22:

ก้อนดินสามารถรักษาโรคพิษรักได้  :katai2-1:
ตัวยาที่ขาดต้องไปหา คิดว่าน่าจะยุ่งที่ตัวยานี่แหละ

ที่น่าสงสัย ใครวางยาควีน เพื่ออะไร  :katai1:
เกี่ยวข้องกับน้ำหอมกลิ่นไอริส เกี่ยวข้องกับก้อนหินหรือเปล่า  :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หูยยย ดินเอ้ยย
ความสามารถมาเต็มมากค่ะตอนนี้
 :katai2-1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รายละเอียดเรื่องพิษรักนี่คิดนานไหมคะ ตอนก้อนดินค่อนแคะนี่ทำเอาเราขำ

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด