ทฤษฎีจีบเธอ ∞ THE END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทฤษฎีจีบเธอ ∞ THE END  (อ่าน 2132955 ครั้ง)

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :really2: เข้ามารอเติร์ดกับค่าย

ออฟไลน์ มุมิมิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอค่ะรออออ

ออฟไลน์ zenesty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จิตติ~~~~นี่รอจนอิเติร์ดตัวจะเปื่อยไปกับน้ำแล้วนะมาอัพเร็วเร้ววววววว :call: :call: :call:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ว้ายยย เราชอบแนวแอบรัก รอออออ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
รอค่าาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มารอ

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องใหม่ๆ :katai2-1:

รอตอนต่อไปนะค้าาาาา :กอด1:

ออฟไลน์ SaypaiSayma

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sahatsawat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai5: ยังเฝ้ารอคอยยยยยยยยยย อย่างโหยหาาาา  รอด้ายยยย

ออฟไลน์ mpp

  • malynn
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ได้ข่าวว่าไอ้ค่ายนี่มันเจ้าชู้ประตูเหล็ก สาวๆ บ่นเกลียดขี้หน้ามันกันให้ลึ่ม
วันนี้เลยแวะมาทักทายไอ้ค่ายซะหน่อย หึ คิดว่าแน่ไง๋ ?
ชะหน็อย อย่าให้น้องเติร์ดมีแควนนะ จะหัวเราะเอ็งให้ฟันหักเลยไอ้ค่ายหวย กร๊อบ /เสียงหักนิ้ว

ไม่มีไร ไม่ได้แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน แต่ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ไง จบปร๊ะ

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18

ตอนที่ 1
Love Actually



ผมกับไอ้ค่ายเป็นเพื่อนกันมานาน นับแล้วตอนนี้ก็สองปี สี่เดือน กับอีกสิบหกวัน มันช่างเป็นเวลาที่ยาวนาน...นานจนเพื่อนที่เคยแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งได้เสียกันจนเตียงหักไปหลายหลัง ส่วนตัวเองนั้น...ยังไม่เฉียดกลายคำว่า ‘แฟน’ สำหรับมันเลยสักนิด

คิดแล้วก็เศร้า เดินน้ำตาตกกลับเข้ามาในห้อง หยิบเอาขวดน้ำจากในตู้เย็นมาสาดย้อมใจไปก่อน เทไปได้สองขวดน้ำก็หมด หากแต่ความเสียใจยังคงตกค้างไม่หายไปไหน ผมเลยรีบหาทางออกให้กับตัวเองด้วยการคว้าโทรศัพท์บ้านที่ิอยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมาต่อสายหาใครคนหนึ่ง

“พี่...น้ำไม่ไหลมาซ่อมหน่อย”

“…”

“กำลังเศร้าอยู่ครับ อยากสาดน้ำย้อมใจ”

“…”

“พี่รีบพาช่างมาเร็วๆ เลยนะครับเดี๋ยวผมจะรีพีทเพลงรอ” พูดจบก็รีบตัดบทด้วยการวางสายก่อนทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก ชื้นไปหมดแล้วเตียงกู...

วันนี้ไอ้ค่ายกำลังเดินหน้าจีบใครคนใหม่อยู่ ถามว่าเจ็บมั้ย จะตอบว่าไม่เจ็บมันก็คงโกหกกันเกินไป แต่ระยะเวลาสองปีไม่ได้ทำให้ผมเข็ดหลาบกับแอบการรักข้างเดียวเลยสักนิด ก็เคยบอกกับตัวเองเป็นสิบๆ ครั้งเหมือนกันว่าพอละ เลิกชอบ หนีไปอเมริกาเหมือนในละครดีกว่า แต่ในความเป็นจริงกูก็ยังเรียนไม่จบ

ลองหายไปจากชีวิตอีกฝ่ายดูเผื่อมันจะคิดถึง แต่อีกวันแม่งก็เสือกเจอกันในคลาสตอนแปดโมงเช้าแบบมึนๆ

ถ้าย้ายคณะ แล้วกูจะไปเรียนเหี้ยอะไร

อยากไปหาคนชอบใหม่เผื่อจะได้ลืมๆ ไปบ้างก็ไปไม่รอดเหมือนอย่างเคย

วันไหนอยากหากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน ผมกลับพบว่ากิจกรรมนั้นมักมีไอ้ค่ายเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเสมอ เช่นไปดูหนัง มันก็มักโผล่ไปด้วย กินข้าว เราก็มีร้านประจำร้านเดียวกัน ยิ่งแอลกอฮอล์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง พี่ค่ายโต๊ะสิบแปด ส่วนพี่เติร์ดแน่นอน...

โต๊ะสิบแปดเหมือนกัน รำคาญไอ้สัด!

สรุปแล้วก็อยู่นี่แหละ อยู่ดูหนามตำใจตัวเองไปเรื่อยๆ

เบื่อคำว่าเพื่อนสนิทแต่ทำอะไรไม่ได้ เหมือนมันเป็นคำที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ชายมาก และถ้าเป็นไอ้ค่ายด้วยแล้ว ผมบอกเลยว่ามันบูชาคำนี้เอาไว้เหนือหัว ใครก็ห้ามเปลี่ยนสถานะมัน ไม่ว่าจะจากเพื่อนเป็นคนรัก หรือแม้แต่เพื่อนกลายเป็นศัตรูก็ตาม

ผมกับมันเรียนนิเทศฯ เราคบกันหมดไม่ว่าจะเป็นเพศไหนเพราะต้องทำงานร่วมกัน ยิ่งปีท้ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง งานกลุ่ม โปรเจ็กต์กลุ่มดาหน้าเข้ามาให้ทำจนล้นมือ

ติ๊ง! โทรศัพท์มือถือที่ถูกปาลงบนเตียงดังขึ้น ผมหันขวับไปมองชั่วครู่พร้อมกับบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าห้ามกดเข้าไปดูเด็ดขาด ที่ทำได้คือรอช่างมาซ่อมท่อกับเปิดเพลงเดิมๆ วนไปเพื่อบิ๊วอารมณ์เท่านั้น

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

ร้องเพลง กูต้องร้องเพลง ต้องไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นในนั้น


“เก็บอารมณ์ เก็บเอาเรื่องราวนั้นทิ้งไป
เก็บเอาแรงที่จะใช้รักใครไว้กับตัวเอง
ดีกว่าเอาไปเสียน้ำตา…”



หนึ่งนาทีผ่านไป...ช่างยังไม่มา


“เก็บเอาใจ เก็บเอารักที่ให้เขาไป
เก็บเอาความตั้งใจ
และฝันที่เคยวาดไว้กับเขา   
เก็บคืนมาอย่าเปลืองหัวใจ”



ห้านาทีผ่านไป...กูฟังเพลงเดิมไปสองรอบ…


“ฝืนใจเอาหน่อย ถึงยังรักแต่เขาไม่รัก
เราคงต้องปล่อย ปล่อยให้เขาไปดีกว่า

แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี
แล้วใจของเธอจะเปลี่ยนไป
แล้ววันหนึ่งเขาจะหายไป
แม้วันนี้จะยังรู้สึก แม้จะยังคิดถึงเขาอยู่ทุกลมหายใจ…”



ตอนนี้สิบนาทีละ กูทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยย ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการหยิบมือถือบนเตียงขึ้นมาแล้วกดปุ่มโฮมตามสเต็ป เสือกแม่งให้ตายกันไปเลย

แน่นอน คนที่อยู่ในแจ้งเตือนเมื่อสิบนาทีก่อนยังคงเป็นเพื่อนสนิทของผม เพราะกรุ๊ปไลน์ ‘ชายฉะกัน’ กำลังสนุกกับการคุยประเด็นของไอ้ค่ายกันอย่างเมามันแม้จะมีสมาชิกอยู่เพียงสี่คนก็ตาม
   

BoneChone
มึงโสดทีไรนี่แอดสาวระนาวเลยนะเชี่ยค่าย

Tatt’oo
เรียกได้ว่านั่งไล่แอดแบบเป็นจริงเป็นจังจะดีกว่าไอ้สัด

BoneChone
ประกาศเพื่อนโสดโปรดรับแอด


แล้วดูไอ้ตัวดีมันตอบ เคยปฏิเสธอะไรกับเขาซะที่ไหน


K.Khunpol
อะไร กูไม่ได้แอด เค้ามาเอง

Tatt’oo
กูว่าเดี๋ยวมึงก็ไม่โสดอีก ไอ้เติร์ดมึงหัดปรามที่รักมึงบ้าง


ซึ่งประโยคที่ผมตอบได้ก็มีแค่...


เติร์ดที่แปลว่าสาม
เกี่ยวไรกับกูวะสัด


มันจะรักกับใครไม่เห็นเกี่ยวกับกูเลย ผมไม่ใช่แฟนมันซะหน่อยแม้ในใจจะแอบหวังมานานแล้วก็ตาม แถมยังเคยฝันอีกว่าวันหนึ่งมันอาจแชทมาบอกชอบผมในกรุ๊ปไลน์ ฝันมานานตั้งสองปีจนตอนนี้ไอ้ค่ายเปลี่ยนเมียไปเป็นสิบ กว่าจะตกมาถึงกูได้คงเหลือแต่กระดูก


K.Khunpol
เกี่ยวดิ
มึงคือเพื่อนที่อยู่กับกูเสมอตอนที่ไม่เหลือใครนะ

เติร์ดที่แปลว่าสาม
มึงไม่ต้องมาพูดดีไอ้เหี้ย
มีช่วงที่มึงไม่เหลือใครด้วยเหรอ กูจำไม่ได้


Tatt’oo
555555555555555555555



บทสนทนาถูกตัดไปหลังจากเลขห้านับไม่ถ้วนถูกพิมพ์กลับมา ผมไม่ลืมหรอกว่าวันนี้มันหนีไปคุยกับใครบ้าง เพราะงั้นถึงต้องถอยกลับมารักษาแผลใจก่อน แม้มันจะเกิดขึ้นปีละหลายครั้งก็ตาม

Rrrrrr...!

สิ้นเสียงเตือนจากไลน์ไม่เท่าไหร่ผมก็ต้องขมวดคิ้วกับเสียงเรียกเข้าจากมือถือแทน ซึ่งเจ้าของเบอร์ก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นไอ้เพื่อนรักหน้าหม้อที่ผมกำลังนึกด่าในใจเมื่อครู่นี่เอง

แปลกดี ผมไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้ปฏิเสธสายของมันได้เลยสักครั้ง ไม่รู้ไอ้ค่ายมันทำเสน่ห์เอาไว้หรือเปล่า แต่ทั้งน้ำเสียง ทั้งคำพูด ทั้งเสียงหัวเราะที่ได้ยินแม่งก็ทำให้คนฟังหลงไปตามๆ กัน ไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรอก กูก็คือหนึ่งในนั้น!

“มีไร” ทันทีที่รับสายเสร็จ ก็กรอกเสียงลงไปห้วนๆ ทันที จะทำตัวอ่อนโยนกับมันไม่ได้ เดี๋ยวแม่งก็ได้ใจอีก

[ว่างป่ะ อยากชวนออกมาข้างนอก]

“อะไรของมึง ไหนบอกจะไปสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับน้องมิลค์บัญชีไง”

[ก็เออไง แต่เหมือนกูจะเจอเรื่องทะแม่งๆ ว่ะ] เสียงทุ้มตอบกลับอย่างเร็วรี่

“ทะแม่งตรงไหน”

[ยังไม่ชัวร์ ตอนนี้กูนัดเจอกับน้องแล้ว เลยอยากให้มึงแวะมาหาหน่อย]

“นัดเจอน้องแล้วจะเรียกกูไปเป็นก้างขวางคอทำไม แค่นี้นะ ที่ห้องน้ำไม่ไหล” จากนั้นผมก็รีบวางสาย ไม่เปิดโอกาสให้มันได้พูดอะไรออกมาอีก แค่นี้ก็เจ็บสัดๆ อยู่แล้ว มีคนปกติที่ไหนบ้างที่จะมานั่งดูคนที่ตัวเองชอบจีบคนอื่นอย่างหน้าชื่อตาบาน มึงไปหาในเอ็มวีเพลงไทยเถอะไอ้สัด

รักแท้ไม่ใช่การครอบครอง ไม่ใช่พ่อง!

ถ้าไม่รักแล้วมีความรู้สึกว่าไม่ได้อยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขามันไม่เรียกว่ารักหรอก มันก็แค่คำพูดของคนที่รักไม่พอแล้วพูดว่าตัวเองเป็นคนดีเท่านั้น หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือมึงโกหกตัวเองเหมือนที่ผมมักทำ

ตบบ่าปลอบใจ พร่ำแต่พูดไม่เป็นไรทุกครั้งตอนที่ไอ้ค่ายเลิกกับคนเก่า แล้วได้แต่ยิ้มปั้นหน้าน้ำตาตกในตอนมันเปิดตัวแฟนใหม่ในอีกไม่กี่วันต่อมา ทุกอย่างในชีวิตผมวนลูปแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ถามว่าอยากหาใหม่มั้ยมันก็มีความคิดนี้ผุดขึ้นมาบ่อยเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็ไปไม่รอดเพราะความซื่อตรงของตัวเอง

ถ้าเป็นคนลืมอะไรง่ายๆ เหมือนไอ้ค่าย ตอนนี้ผมคงมีความสุขไปแล้ว ไม่ต้องจมปรักกับคนๆ เดียวมาถึงสองปีหรอก

คิดแล้วก็ได้แต่นอนซึม รอให้ช่างมาซ้อมท่อและร้องเพลงต่อไป

“เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วแม้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉันเลย...”

พูดแล้วก็เปลี่ยนไปเปิดเพลงใหม่ เอาให้ชอกช้ำระกำใจแล้วพรุ่งนี้ผมจะกลับไปเป็นไอ้เติร์ดคนเดิมที่ยอมรับทุกอย่างได้และทำตัวเท่ๆ ของกูต่อไป














เช้าวันรุ่งขึ้นผมมาเรียนตามปกติ เด็กนิเทศฯ ชอบมีที่สิงสถิตอยู่ไม่กี่ที่ หนึ่งโรงอาหารนิเทศฯ และสองใต้ต้นไม้หน้าลานกิจกรรมที่จะมีโต๊ะไม้เรียงรายเต็มไปหมด ทุกคนคือเจ้าที่!

พวกผมจะมีโต๊ะประจำอยู่ เช้ามาก็ต้องมานั่งที่นี่ กินข้าวก็กินที่นี่ ทำทุกอย่างเสมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัว อย่างที่บอกว่ากลุ่มผมมีกันอยู่สี่คน คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแต่กว่าจะเหวี่ยงคนมาครบได้ขนาดนี้ก็ใช้เวลาเกือบหมดเทอมถึงจะลงตัว

เมื่อก่อนผมไม่ได้อยู่แก๊งนี้หรอก แต่คนที่นิสัยเหมือนกันมักจะอยู่ด้วยกันได้ เพราะงั้นหลังจากอยู่กับแก๊งเก่าไม่รอดผมเลยต้องวิ่งมาซบอกกลุ่มใหม่ ซึ่งก็คือไอ้พวกนี้แหละ

หลายคนชอบเรียกเราว่า ‘แก๊งโหด’

หน้าตาเราไม่ได้โหด แต่นิสัยเฉพาะบางอย่างของแต่ละคนต่างหากที่โหดจนเป็นที่กล่าวขาน รุ่นพี่และรุ่นน้องในมหา’ลัยส่วนใหญ่ที่ไม่สนิทด้วยแทบไม่เรียกชื่อพวกเราเลยด้วยซ้ำ แต่จะใช้คำว่าโหดแทนชื่อทั้งสี่คนแทน สรุปแล้วผมสี่คนแม่งชื่อโหดหมด สัด!

แต่ถ้ามองดีๆ เรียกไอ้โหดก็ดีกว่าเรียกไอ้เหี้ยไปหลายขุม เวลามีข่าวลือหนาหูเรื่องไอ้โหดทีไรก็จำต้องมาวิเคราะห์แล้วแหละว่าหมายถึงใครคนไหน เพราะแต่ละคนก็รวมพวกคนดีที่สังคมหวาดกลัวทั้งนั้น

“ไอ้สัด มึงมาสาย” เสียงที่เอ่ยขึ้นเป็นเชิงล้อเลียนนี้เป็นของ ‘ไอ้ทู’ สมาชิกคลาส VIP ของความโหด

เจ้าของทรงผมสุดเซอร์ที่ยาวจนต้องมัดเป็นมวยไว้ด้านหลัง วันนี้มันสวมชุดนิสิตแขนสั้นมาแถมยังไม่ชอบผูกไทด์เหมือนเดิม เอาจริงในกลุ่มเราแทบไม่รู้จักการผูกไทด์ด้วยซ้ำหลังจากขึ้นปีสอง

ไอ้ทูเป็นคนมีความสามารถ โดยเฉพาะเรื่องถ่ายภาพต้องยกให้มันเป็นอันดับหนึ่งของรุ่น ความโหดที่ทุกคนกล่าวขานไม่ได้อยู่ที่ความเก่งของแม่งหรอก หากแต่อยู่ที่รสนิยมในการถ่ายภาพมากกว่า เพราะคุณทูเขาถ่ายแต่แนวเซ็กซี่ เน้นผู้หญิงทรงตู้มสะบึ้มฮึ่มเท่านั้น ภาพธรรมชาติ วิว ต้นไม้ห่าอะไรอย่าถามมัน ไอ้นี้รู้อย่างเดียวคือการหามุมหน้าและมุมนม

นิสัยส่วนตัวคือกินจุ ขี้เรื้อน แต่สาวก็ติดมันตรึมเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นหนุ่มเซอร์มีเสน่ห์หาตัวจับยาก แถมในแกลอรี่ผลงานภาพถ่ายของมันยังเต็มไปด้วยนางแบบสวยๆ ซึ่งส่วนใหญ่นั้น...เคยเป็นแฟนของมันมาก่อน

“โทษทีว่ะมึง เมื่อคืนกว่าช่างจะซ่อมท่อน้ำได้ก็เอาซะดึก” ผมพูดพลางนั่งลงตรงเก้าอี้ ก่อนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังก้มหน้าแดกข้าวอยู่นั้นจะเงยขึ้นมาถามบ้าง

   “ซ้อมท่อหรือซ่อมแอร์ในตำนาน”

   “ไอ้โบน ไอ้เหี้ย”

   “ฮ่าๆๆ ผมไม่เล็กนะครับคุณเติร์ด”

   ไอ้ปากหมานี่ชื่อ ‘โบน’ หนึ่งในสมาชิกยุคแรกที่ก่อตั้งแก๊งโหดขึ้นมา จริงๆ มันสนิทกับไอ้ค่ายมากกว่าผมอีก เพราะเป็นคนไปไหนไปกันได้ทุกที่ ถ้าเขาบอกให้ไปนรกมันก็จะไป

   ไอ้โบนเป็นผู้ชายผิวแทนที่ตัดสกินเฮดคนเดียวในกลุ่ม ด้วยลุคแบดบอยประกอบกับนิสัยยียวนกวนตีนทำให้ใครหลายๆ คนตกหลุมพรางมานักต่อนัก

การหลีสาวคืองานอดิเรกของมัน แต่แปลกเหมือนกันที่มันไม่เคยลงมือจีบใครสักคน ไม่ใช่เพราะกำลังรอคอยรักแท้หรอก หากแต่ผู้หญิงไม่เปิดโอกาสให้มันได้จีบเพราะมักเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเองเสียมากกว่า

“แล้วนี่คุณชายขุนพลไม่มาอีกเหรอ”

“ไม่รู้มัน สงสัยติดสาวอยู่เลยนอนตื่นสาย”

“ติดสาวหรือติดสัด” ไอ้ทูเสริมทันที

“คงพอๆ กับมึงนั่นแหละ ปล่อยๆ มันไปเหอะ” ปลงละ ไม่อยากเอาใจเข้าไปยุ่ง...

“พูดถึงกูอยู่เหรอ”

ตายยากตายเย็นฉิบหายเลยเว้ย เจ้าของเสียงทุ้มที่กำลังเดินตรงดิ่งมาที่โต๊ะทำให้ผมกับเพื่อนอีกสองคนต้องหันไปมอง วันนี้ไอ้ค่ายสวมชุดนิสิตแขนยาวที่พับแขนเสื้อไปครึ่งหนึ่งกับกางเกงยีนลูกรักตัวละหลายหมื่นของมัน แม่งเคยบอกกับผมเว้ยว่าใส่แล้วเป้าจะมีเสน่ห์ และทุกวันนี้เป้ามหาประลัยของมันก็โคตรมีเสน่ห์ต่อทุกเพศจริงๆ

สำหรับไอ้ค่าย ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวของมัน ฝันเปียกครั้งแรกในชีวิต แฟนคนแรก อกหักครั้งแรก และสารพัดที่เป็นเรื่องส่วนตัวผมก็เสือกจนรู้หมด มันเป็นเจ้าของรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเนื่องจากมีเสี้ยวจีนอยู่ แต่ทรงผมและการแต่งตัวของมันบอกเลยว่าห่างไกลจากคำว่าตี๋เยอะ

ไอ้นี่ก็สายโหดของกลุ่มเหมือนกันในเรื่องของความหน้าหม้อ เจ้าชู้ ดีที่หล่อและมีตังค์เยอะ ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็กต์แต่บอกเลยว่ามันโง่ครับ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ควรโง่

“มึงมาก็ดีละไอ้ค่าย ไหนมาให้เพื่อนสัมภาษณ์หน่อยเร๊ว” เมื่อมากันครบองค์ บทสนทนาถามตอบเรื่องสาวๆ ก็ถูกจุดประเด็นขึ้นอย่างรวดเร็ว

“สัมภาษณ์เหี้ยอะไรล่ะ”

“เมื่อคืนได้จึ๊กๆ กันยัง” ไอ้โบนถาม ใจผมก็เหมือนถูกมีดคมๆ ปักลงกลางใจ

“ไม่ได้ว่ะ”

“ห่า ไอ้คนไม่มีน้ำยา”

“จับได้ซะก่อน น้องแม่งคุยกับคนอื่นอยู่เว้ย มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบเป็นตัวสำรองของใคร” ใช่! ทุกคนรู้ดี ไอ้ค่ายค่อนข้างมีความมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองพอสมควร ทุกครั้งที่มันเดินเข้าหาใครก็แทบไม่เคยถูกปฏิเสธ แล้วยิ่งถ้ามารู้ว่าคนที่คุยอยู่กำลังจัดมันเข้าไปอยู่ในโหมดคุยเผื่อเลือกล่ะก็...

อย่าหวังเลยว่าจะได้คุยกับมันอีก

“แล้วทำไง”

“เทสิถามได้ เจ็บใจฉิบหาย บอกรุ่นพี่คนนั้นเขาก็ดี เออ...ดีสินั่นเดือนมอ” มันสบถเสียงเครียด นานมาแล้วที่ผมไม่เห็นท่าทางแบบนี้

“เดือนมอแล้วไง เดือนมอกากๆ ก็เยอะ” ผมปลอบใจเพื่อนรักด้วยการพูดให้กำลังใจ แม้ลึกๆ จะแอบรู้สึกดีที่เจ้าตัวไม่ได้สานต่อความสัมพันธ์กับน้องเขา

“ไม่เหมือนมึงเนอะ ไม่เป็นเหี้ยอะไรก็ยังกาก”

“สัด” กูล่ะเกลียดไอ้ทูฉิบหาย มีห่าอะไรก็แซะกูหมด

ผมเป็นสมาชิกคนที่สี่ของแก๊งโหด ตอนแรกก็สงสัยว่ากูโหดตรงไหน แต่พอไปถามน้องรหัสหรือเพื่อนรหัสดูทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมโหดในเรื่องชอบทำร้ายจิตใจคนอื่น

เอาตามจริงตั้งแต่เข้ามาเรียนปีหนึ่ง มีคนเข้ามาในชีวิตผมค่อนข้างมาก และทุกคนก็หวังประโยชน์ว่าจะได้พัฒนาความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายผมก็มักตัดเขาออกจากชีวิตด้วยการปฏิเสธตรงๆ ทุกคนเลยชอบด่าว่าผมมันเหี้ยที่ทำให้เขาเสียใจ

ก็ถ้าไม่ติดว่ากูชอบไอ้ค่าย กูมีเมียไปเป็นร้อยละไอ้เหี้ย!

เวลารักหรือชอบใครผมจะไม่แสดงอาการ ไม่บอก ไม่พูดอะไรทั้งนั้น บางครั้งเหมือนจะเป็นพวกปากแข็งแต่เมื่อดูสถานการณ์แล้วประเมินว่าคนคนนั้นไม่มีทางชอบเราผมจะไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงด้วยการบอกชอบ เหมือนที่ผมกำลังทำอยู่กับไอ้ค่ายทุกวันนี้

เพราะถ้าบอกชอบมันในวันที่มันยังไม่หยุดตัวเอง และก็ไม่แน่ใจว่าจะพร้อมเปิดรับเราหรือเปล่า สุดท้ายผมอาจจะเสียมันไป

   “วันนี้โดดมั้ย...” ไอ้ค่ายพูดออกมาสั้นๆ เราสามคนที่เหลือเลยมองหน้ากันลอกแลก

   “ก็ดีนะ กูไม่อยากเรียนของสมพงษ์พอดี”

   “กูก็ด้วย”

   “เอาก็เอาวะ”

   เราสี่คนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก และความคิดหลายอย่างก็ตรงกันอย่างน่าใจหาย เวลาใครขอโดดเราก็พากันยกไปทั้งก๊วน ไม่เคยมีคนใดคนหนึ่งห้ามหรือทักท้วงอะไร เจริญมันเข้าไปสิมึง

   ดังนั้นหลังจากเรียนในคาบเช้าเสร็จพวกผมก็โดดกันมาเดินเล่นห้างให้สบายอารมณ์ นั่งแดกข้าว หลีสาว แชร์เฟซบุ๊ก แอดไลน์ผู้หญิงกันอย่างมีความสุข ใกล้ค่ำหน่อยทุกคนก็แยกย้ายเพราะมีนัดส่วนตัว คงเหลือผมกับไอ้ค่ายเท่านั้นที่นั่งมองหน้ากันอยู่สองคน

   “ไอ้เติร์ด”

   “ไร”

   “ไปตัดผมกัน กูอยากเปลี่ยนลุค” ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไร แต่ผมคิดว่าสาเหตุอาจมาจากการที่มันรู้สึกเสียเซลฟ์กับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผมก็ไม่สามารถขัดมันได้นอกจากพยักหน้าแล้วเดินตามมันเข้าไปที่ร้านทำผม

   เดิมทีไอ้ค่ายผมค่อนข้างยาวเพราะมันกะเลี้ยงไว้แข่งกับไอ้ทูด้วยภารกิจพิชิตส้นตีนอะไรของมันก็ได้รู้ แต่วันนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อมันได้ย้ายก้นตัวเองไปนั่งบนเขียง

   ใช้เวลานั่งๆ นอนๆ อยู่ที่ร้านเป็นชั่วโมงสุดท้ายไอ้ค่ายคนเก่าก็ได้ตายไปทันทีที่เจ้าตัวลุกออกจากเก้าอี้ หลังจากพนักงานทำการสระไดร์ทุกอย่างให้เสร็จสรรพ

   “เป็นไง” มันถามพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้

   “ดูสารเลวกว่าเดิมร้อยเท่า” ผมจ้องหน้ามันอยู่อย่างนั้น จ้องจนแทบจะแดกหัวอีกฝ่ายอยู่รอมร่อ อาจเพราะไม่ชินหรือการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันเร็วเกินไป โลกของผมถึงได้โคลงเคลงไปมาไม่หยุด

   ไม่มีแล้วนายขุนพลที่ตั้งใจเลี้ยงผมยาวๆ เพราะต้องการจะคีปลุคเซอร์ เหลือเพียงไอ้ค่ายผู้ชายหน้าเลวๆ คนหนึ่งเท่านั้น

   ไม่รู้มันพูดกับที่ร้านว่ายังไง แต่อันเดอร์คัตสูงแถมยังทำ straight line ตรงบริเวณที่ไถผมออกยิ่งสร้างลุคแบดบอยของมันได้เป็นอย่างดี จิวหูสีดำที่เจาะขึ้นไปสามรูติดสร้างเสน่ห์ให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก ทำเอาคนในร้านหันมาชื่นชมมันไม่ขาดปาก

   น้องดีอย่างงั้น งานดีอย่างนี้ เออ! ยอมรับก็ได้




อ่านต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18
“ไปดูหนังกัน”

   “ฮะ” มันเอ่ยชวนผมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

   “ไปดูหนัง พอดีวันนี้ตัดผมแล้วอารมณ์ดี” แล้วพรุ่งนี้มึงก็จะไปหลีหญิงใหม่ กูรู้หรอก แต่ด้วยความที่ผมคือไอ้เติร์ด ไอ้เติร์ดที่ชอบไอ้ค่ายอยู่ข้างเดียวก็คงไม่กล้าปฏิเสธ

   “ไปดิ”

   “วันนี้มีเรื่องอะไรเข้าฉายบ้างวะ”

   “ไม่แน่ใจ ไปดูโปรแกรมก่อนแล้วกัน”

   สุดท้ายเราก็มานั่งในโรงหนังเรียบร้อย ที่นั่ง E9 กับ E10 มักเป็นมุมประจำในวันที่พื้นที่ในโรงหนังเหลือเยอะเหมือนกับวันนี้เพราะเป็นรอบสุดท้ายของวัน เราทั้งคู่ตัดสินใจเลือกหนังรอมคอมจากอังกฤษเรื่องหนึ่งด้วยเหตุผลที่เกิดจากความเบื่อหน่ายหนังแนวอื่น

   กิจกรรมที่เรามักทำในโรงภาพยนตร์ก็คือดู...ดูกันอย่างเงียบๆ รอจนเอนด์เครดิตขึ้นเราก็จะนั่งอ่านชื่อของทีมผู้สร้าง แล้วมาถกเถียงกันในวันต่อมาว่าหนังดีหรือไม่ดี ไอ้ค่ายบันทึกทุกอย่างไว้ด้วยสมุดจดของมันหลังจากดูจบ ส่วนผมบันทึกทุกอย่างด้วยวิดีโอแล้วอัพโหลดลงยูทูบ

   แม้ช่อง ‘มูฟวี่ซี้เว่อร์’ จะมีคนดูเพียงน้อยนิดก็ตาม

   “ป๊อปคอร์นของมึง” มือหนายื่นกล่องกระดาษมาให้ ขณะจอด้านหน้ายังอยู่ในช่วงโฆษณา

   “ถือไป กูขี้เกียจ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนมันจะถามอีก

   “จะเอาชีสหรือหวาน”

   “ชีส” พูดแค่นั้นป๊อปคอร์นรสชีสจำนวนมากในฝ่ามือของไอ้ค่ายก็ประกบปากผมเข้าให้ เรามักทำแบบนี้ประจำ มันป้อนป๊อปคอร์น ผมป้อนน้ำให้ เหมือนคู่รักแต่เหตุผลไม่ใช่คู่รัก

   ซื้อมาทีไรก็แดกไม่หมด เปลือง!

   จบมั้ย ถ้ามันบอกว่าจบกูก็จบ หลังๆ ยัดใส่ปากกันจนติดคอแต่ก็แดกหมดทุกที

   “หนังเริ่มละ ภาพเหมือนหนังหว่องเลยว่ะ”

   “เออ”

   แล้วทุกเสียงก็เงียบลงถนัดตา เราทั้งคู่นั่งดูกันเงียบๆ แม้ทั้งโรงจะไม่มีคนเลยก็ตาม มีหันมาคุยกับบางเล็กน้อยแต่ก็กลับมาสนใจกับตัวหนังต่อ

   หนังเล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบชอบเพื่อนสนิทของตัวเองแต่ไม่กล้าบอก สัด! ตรงกับชีวิตกูฉิบหาย ดูไปก็อินไป ตรงข้ามกับไอ้ค่ายที่ดูจะไม่สบอารมณ์กับตรรกะของตัวละครเท่าไหร่

“เบื่อนางเอกว่ะ”

“เป็นอะไรของมึง” ผมถาม

“แม่งปากแข็งฉิบหาย”

“...”

“ชอบก็บอกว่าชอบสิวะ จะเก็บไว้ทำซากอะไร” ผมหันขวับไปมองคนข้างๆ ทันที

“มึงคิดอย่างนั้นเหรอ”

“เออดิ ถ้าไม่บอกแล้วไอ้พระเอกมันจะรู้มั้ย ถ้าไม่บอกจะมีโอกาสสมหวังเหรอ ประสาทว่ะ”

“แต่เขาอาจจะไม่อยากเสียอีกฝ่ายไปไงมึง สองคนนี้เป็นเพื่อนกันนะเว้ย” พูดไปก็เหมือนชีวิตตัวเองสัดๆ ไอ้ผู้กำกับนี่มานั่งอยู่ตรงกลางใจกูแน่ๆ พูดไปก็แทบสะอื้น

“ก็ต้องลองเสี่ยงดู ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”

“เหรอวะ” แม้ไอ้ค่ายจะเคยบอกกับผมว่าไม่ชอบเพื่อนหรือคนในคณะเดียวกัน แต่กูก็อยากเสี่ยงดูสักตั้ง แม้จะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสมหวังในรักครั้งนี้หรือเปล่า

โอเค...ถ้ามึงพูดแบบนี้ ถ้ามึงบอกกับกูว่าควรพยายาม

กูจะบอกชอบมึง













ผมคิดจนหัวแทบแตกว่าจะหาวิธีบอกชอบไอ้ค่ายมันยังไงให้ดูจริงใจและมันไม่โกรธ วิธีการที่พอจะหาได้ก็มาจากแผ่นหนังที่ผมมักซื้อมาเก็บไว้ในห้องเนี่ยแหละ นี่ก็นั่งดูจนตาแฉะมาได้สามวันแล้วจนกระทั่งเจอหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า Love actually ผมเลยหยิบมันมาปัดฝุ่นและนั่งดูอีกครั้ง

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักแฟนของเพื่อนสนิทตัวเอง ทำให้ไม่สมหวังในความรัก ดูเหมือนจะเป็นหนังเศร้าๆ แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นความเศร้าที่สวยงาม

ผมหยิบเอาความทรงจำทุกอย่างที่เคยทำกับไอ้ค่ายขึ้นมา ภาพถ่ายทุกช่วงเวลาในอัลบั้มที่เอาไปอัด ตั๋วหนังทุกใบที่แปะอยู่ในสมุดอาร์ตเล่มหนา พร้อมกับความรู้สึกที่ได้ดูหนังเรื่องนั้น ไฟล์ฟุตเทจที่เก็บเอาไว้ในแล็ปท็อปเมื่อสมัยทำหนังสั้นกากๆ ด้วยกันตอนปีหนึ่ง

ทุกอย่างที่เป็นมัน ผมเก็บเอาไว้หมด

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห้องทำให้ผมสะดุ้ง รีบตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงลนลานเล็กน้อย

“ใครคร้าบบบบบบ”

“กูเอง” คนด้านนอกตอบเสียงเรียบ

“ไอ้ทูเหรอ”

“เออ เปิดประตูที” พอรู้ว่าเพื่อนรักมาเยือนถึงห้องผมก็รีบใช้ตีนเขี่ยๆ ความทรงจำทุกอย่างเกี่ยวกับไอ้ค่ายไว้ใต้โซฟาพร้อมกับโยนอัลบั้มรูปซ่อนไว้ใต้ผ้าห่มผืนบางด้วย พอเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วถึงได้เดินไปเปิดประตูตามลำดับ

“ช้าจังวะไอ้เหี้ย” มันทำหน้าหงุดหงิดพลางเดินเข้ามานั่งตรงพื้น ใช้หลังพิงโซฟาจ้องมองดูหนังตรงหน้าไม่กะพริบ

“มาทำไมดึกดื่นวะ”

“ห้องมึงอยู่บนหัวกูมั้ย ทำไมกูจะขึ้นมาหาไม่ได้”

“เวรเถอะ” มึงจะขึ้นมาตอนไหนก็ได้ครับ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้!!

แก๊งโหดสามคนเช่าอยู่คอนโดเดียวกันหมดแต่คนละชั้น ยกเว้นไอ้ค่ายที่แม่มันซื้อคอนโดให้ไปอยู่เดี่ยวๆ แถมไกลโพ้น เวลาว่างไอ้สองตัวมักจะชอบเดินมาเคาะประตูห้องผมเสมอ จุดประสงค์ก็มีหลายอย่าง คุยเรื่องสาว ลอกการบ้าน ทำรายงาน ชวนดูหนัง หาแดกของฟรี รวมถึงใช้ส้วม

แต่วันนี้ไม่รู้ว่าไอ้ทูมันมีจุดประสงค์อะไร

“มีอะไรว่ามา อย่าอ้อมค้อม”

“ยืมคอมหน่อย ของกูเจ๊งไปแล้ว”

“สัด” เห็นบ่นมาหลายวันว่ามีปัญหาก็ไม่ยอมซ่อมสักที ดันทุรังใช้จนเกิดเรื่องเลยมั้ยล่ะ

เด็กนิเทศฯ กับคอมก็เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้ เพราะงานส่วนใหญ่เราก็ต้องพึ่งพามัน ไอ้ทูมึงมีคอมตัวนึงกับแลปท็อปลูกรักอีกเครื่อง แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนน้องแมคบุ๊กลูกรักได้เดินไปเซย์ฮัลโหลช่างที่ไอสตูดิโอเรียบร้อย มันเลยจำต้องบากหน้ามาหาผม

“เร็วดิมึง สาวๆ จะเอารูปแล้วกูต้องรีบแต่ง”

“กับการเรียนมึงทุ่มเทขนาดนี้มั้ย”

“เรียนก็แค่ได้เกรด รักมันได้หัวใจมึงว่าอย่างไหนน่าลงทุนกว่ากัน” อ้วกแป๊บ กูไม่เห็นมึงจะรักใครจริงจังสักคน มีแต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

“เอาแล็ปท็อปกูไปแล้วกัน”

“เออ” ไอ้ทูแบมือรอรับอย่างจดจ่อ แต่พอหยิบขึ้นมาผมก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังเปิดดูวิดีโอฟุตเทจที่บันทึกเรื่องราวของไอ้ค่ายเอาไว้อยู่

ฉิบหายละ!

“มึงทำอะไรเชี่ยเติร์ด เปิดดูวิดีโอเก่าๆ เหรอ”

“เออ” ผมรีบปิดหน้าจอทันทีก่อนจะยื่นให้มัน ไอ้ทูก็รับมาแบบไม่สงสัยอะไรนอกจากนั่งพิงโซฟาอยู่ที่เดิมเพื่อดูหนัง

“ไม่รีบไปแต่งรูปให้สาววะ”

“กำลังคิดอยู่ ทำไมมึงชอบดูหนังรักจังวะ แอบชอบใครป่ะเนี่ย” ผมสะดุ้งเฮือก รีบปฏิเสธเสียงลนลาน

“ไม่ๆ กูไม่ได้ชอบใครเลย กูก็มีอารมณ์อยากดูอะไรอย่างนี้บ้างสิวะ ไม่เคยอ่ะ...โมเมนต์แอบชอบอะไรแบบนี้”

“เออเข้าใจ ร้อนตัวทำไมเนี่ย” ว่าแล้วก็ยกแขนวางไว้ตรงโซฟาอย่างสบายอารมณ์ ขณะตาคู่นั้นยังจับต้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์อยู่

“มึงวางอะไรไว้แถวนี้วะ” พูดเพียงเท่านั้น มือหนาก็จับผ้าห่มผืนบางทิ้งลงพื้น ก่อนจะคว้าเอาอัลบั้มรูปที่ผมอัดขึ้นมาดูอย่างสงสัย

โอ๊ยยยยยยยยยยยไอ้ทู ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย

“มึงอย่า!” พูดไปแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เมื่ออีกฝ่ายคว้าอัลบั้มนั้นไปพลิกดูเรียบร้อย นอกเหนือจากนั้นมันยังมองซอกแซกไปทั่ว ก่อนก็ยิ้มกริ่มหยิบเอาสมุดอาร์ตที่สอดอยู่ใต้โซฟาออกมาด้วย

“อะไรของมึงวะเชี่ยเติร์ด”

“...” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นอกจากยืนหลังชื้นเหงื่ออยู่จุดเดิม

“มึง...ชอบไอ้ค่ายเหรอ”

“คะ...ใครบอกวะ กู...กูไม่ได้ชอบมันเว้ย”

“แล้วนี่ควายตัวไหนมันเขียน ดูก็รู้ว่ามันเป็นตัวหนังสือของมึง”

ผมทรุดตัวนั่งยองๆ มองไปที่หน้าไอ้ทูอย่างขอร้อง

“อย่าบอกมันนะ”

“มึงก็รู้ว่าไอ้ค่ายมันมีกฎไม่ชอบเพื่อน แต่มึงก็ยัง...”

“ก็นั่นไง กูถึงปิดไว้ตลอด ตอนนี้มึงรู้ความจริงแล้วก็ช่วยกูปิดเถอะ” พูดไปก็เหมือนจะร้องไห้ มีหลายครั้งที่ผมอยากมีความกล้าที่จะบอกชอบมัน แต่ก็มีอีกหลายครั้งเช่นกันที่ผมไม่กล้าแม้แต่อ้าปากพูดกับมัน

“นานเท่าไหร่แล้ววะ” ไอ้ทูทำหน้าจริงจัง ไม่มีเสี้ยวของความขี้เล่นเหมือนทุกที บอกตามตรงว่ามันคงอึ้งไม่น้อย อยู่มาวันหนึ่งต้องมารับรู้เรื่องไม่เหมาะไม่ควรในกลุ่มเพื่อน

“ก็ไม่นานหรอก”

“กูถามว่านานเท่าไหร่ไอ้สัด ช่วยตอบให้ตรงคำถามกูด้วยไอ้เติร์ด”

“สองปีกว่าแล้ว”

“ฮะ!”

“ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอมัน”

“แล้วมึงก็เก็บไว้ทั้งที่ไม่แสดงออกเนี่ยนะ ถ้าวันนี้กูไม่มาเห็นกูก็คงไม่รู้ เชี่ยเก็บโคตรเก่ง ถึกสัด”

“นี่มึงจะชมหรือจะด่ากูเนี่ย”

“ไอ้เติร์ดอันนี้กูจริงจังนะ มึงรู้ใช่มั้ยว่าไอ้ค่ายชอบผู้หญิง”

“อืม...” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ เหตุผลนี้อีกข้อที่ทำให้ความรักของผมกับไอ้ค่ายไม่มีทางลงเอยกัน คิดแล้วก็เจ็บเหี้ยๆ

“แล้วมึงเคยคิดมั้ยว่าจะปิดมันไปตลอดรอดฝั่ง”

“เดี๋ยวก็จบแล้วป่ะวะ สองปีกูยังเก็บมาได้เลย”

“มึงก็รู้ว่าวงการมันแคบ เราสี่คนยังไม่มีใครตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อ คำสัญญาของแก๊งโหดคือเป็นเพื่อนกันไปจนวันตายนะเว้ย ไม่ใช่เพื่อนกันแค่ตอนเรียนมหา’ลัย”

“...” ซึมไปเลยกู เหมือนมีพ่อมานั่งสอนอยู่ในห้อง

“เอางี้ เดี๋ยวกูช่วย”

“ฮะ!!”

“การชอบใครแล้วบอกไม่ได้นี่มันทรมานว่ะ กูถึงตัดสินใจบอกชอบผู้หญิงที่กูเลือกไง”

“แต่มึงบอกชอบทุกคนที่เป็นนางแบบของมึงไอ้เหี้ย”

“เอาน่า มึงเชื่อโหดอย่างกู แล้วโหดอย่างมึงจะสมหวังเอง”

“มึงมาช่วยกูทำไมวะ มึงยอมรับได้เหรอที่กูเป็นแบบนี้”

“ยอมรับได้ดิ เพราะมึงเป็นเพื่อนกูไง”

“แล้วไอ้ค่ายล่ะ”

“ไอ้ค่ายก็เพื่อนกู มันไม่เคยรักใครจริง กูก็แค่อยากรู้ว่าถ้ามันรักใครจริงจังขึ้นมา คนคนนั้นจะเป็นมึงได้มั้ย”

“แล้วจะช่วยกูยังไง ตอนนี้กูไม่กล้าแม้แต่จะแสดงออกว่าชอบมัน”

“บอกไปเลยกล้าๆ หน่อยเพื่อน” ไอ้ทูตบบ่าให้กำลังใจ

“บอกแบบไหนวะ”

“ก็แบบนี้ไง...”

เราทั้งคู่หันไปมองยังจอโทรทัศน์ซึ่งยังฉายหนัง Love actually อยู่ หรือวิธีนี้อาจเป็นการบอกรักที่แม้ไม่ต้องพูดอะไรแต่ก็แสดงความรู้สึกได้ทั้งหมดกัน
















ก๊อกๆๆ

ผมสูดลมหายใจเข้าปอดขณะยืนอยู่หน้าห้องของไอ้ค่าย ไอ้ทูตัดสินใจต่อสายหามันเมื่อสิบห้านาทีก่อนถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวยังคงอยู่ในห้อง

ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ปกติเวลาเคาะห้องแล้วรออีกฝ่ายมาเปิดไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวขนาดนี้ จนกระทั่งวันที่ตัดสินใจว่าจะบอกชอบมัน แถมยังลุยเดี่ยวมาเองอีกต่างหากเพราะถูกไอ้ทูทิ้งไว้กลางทาง

เอาวะ ตายเป็นตาย

แกร๊ก!

“อ้าว! ไอ้เติร์ด มึงมาทำไมเนี่ย” ใบหน้าหล่อเหลามองมาอย่างสงสัย

แต่ผมไม่พูดอะไรทั้งนั้น นอกจากยิ้มแล้วถือแผ่นบอร์ดสีขาวหลายใบเอาไว้ในมือ และค่อยๆ เปิดมันออกทีละแผ่นด้วยมือสั่นเทา เมื่อคืนไอ้ทูมันนอนเขียนให้ ยอมสละความนิยมที่ต้องรีบส่งรูปให้สาวของมันมาช่วยผม

แผ่นที่หนึ่งมีข้อความเขียนว่า...


‘หวัดดี’


ผมเลื่อนแผ่นบอร์ดวางไว้กับพื้น ก่อนข้อความแผ่นที่สอง สาม และต่อๆ มาจะปรากฏ


‘วันนี้เป็นเหมือนวันธรรมดา แต่กูมีสิ่งที่ไม่ธรรมดาจะบอกมึง’

‘มึงเป็นเหมือนสิ่งพิเศษ’

‘ไม่ได้พิเศษแบบนี้นะ’



ป้ายต่อมาปรากฏรูปยอดมนุษย์หลายตัว เช่น แบทแมน ซูปเปอร์แมน หรือแม้แต่กัปตันอเมริกา


‘แต่มึงพิเศษกว่านั้น’

‘วันนี้กูเลยอยากจะบอกกับมึงถึงสิ่งพิเศษสำหรับกู’



บอร์ดสามแผ่นสุดท้ายที่อยู่ในมือบอกความรู้สึกทุกอย่างที่ผมมีต่อไอ้ค่ายหมดแล้ว


‘กู’



‘ชอบ’



‘มึง’



หลังจากเปิดผ่านป้ายทุกแผ่นหมด ผมทำได้แค่ยืนนิ่งแล้วส่งยิ้มให้มัน ดูเหมือนคนตัวสูงกว่าตรงหน้าจะอึ้งอยู่หน่อยๆ ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงบางเบาออกมา


“ไอ้เติร์ดมึง...”

“มึงรับรู้ถึงความรู้สึกกูแล้วใช่มั้ยไอ้ค่ายกู...”

“…”

“โคตรเจ๋งเลยไอ้สัด! กูขอยืมมุกนี้ไปจีบสาวนะ ก็คิดอยู่นานว่าจะจีบด้วยวิธีแหวกแนวแบบไหนดี”

“เอ่อ...”

“มึงรู้จากไอ้โบนใช้มั้ยว่ากูกำลังหาวิธีจีบสาวอยู่ ขอบใจมากเพื่อนเติร์ด มึงทำให้กูนึกถึง love actually เลยว่ะ”


มึงก็ทำให้กูนึกถึงความพังพินาศเหมือนกัน


“รักมึงนะเว้ย”


แต่กูโคตรเกลียดมึงเลยสัด


แต่สิ่งที่ตอบได้กลับมีแค่...

“ไม่เป็นไร” และถูกมันดึงเข้าไปกอดอย่างรักใคร่

โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้เวร! ผมเชื่อแล้วครับว่าคนโง่อย่างมันบอกอะไรไปมันก็คงโง่อยู่อย่างนั้น กูล่ะอยากเดินเข้าไปในส้วมแล้วเอาหัวมุดคอห่านตาย ไอ้ค่าย ไอ้ส้นตีน นี่กูชอบมึงได้ยังไงวะถามจริง!!

เพลีย...





กลับมาแล้วนะ อยากบอกว่าคิดถึงมาก
ตอนนี้อิงฉากบอกรักจากหนัง love actually ค่ะ หนังในตำนานของใครหลายคน



ส่วนพระเอกของเรื่องนี้ที่สงสัยกันคือพี่ค่ายเองค่ะ
พระเอกเรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องไหนเพราะโง่บรรลัยเลย ยังไงก็ฝากเอาใจช่วยเติร์ดด้วยนะคะ
แนวนี้ไม่ดราม่าค่ะ จิตติอยากเขียนความรักของคนแอบรักในแนวคอมมิดี้บ้างเท่านั้น
ก่อนไปแปะรูปทรงผมของนิวค่ายซะหน่อย (แบดบอยตามรูปเลย)





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2017 01:18:13 โดย Jittirain12 »

ออฟไลน์ janeta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-2
กรี๊ดกร๊าด มาแล้วววววว
โถ่เติร์ด เจ็บมากไหมลูก  :hao5:
ค่ายนี่ก็นะ....
เปลี่ยนทูให้เป็นพระเอกแทนได้ไหมคะ 555555

ออฟไลน์ sahatsawat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดด :katai2-1: ในที่สุดก็มาแล้วววววววว :impress2: ดีจายยยยยยยย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ค่ายมันโง่จริงจัง

น้องเติร์ดของพี่สติหักพังหมดเจอโหมดค่ายคนโง่เข้าไป

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้ยยยยยยอิค่ายยย เกลียดดดดดดนี่โง่จริงๆหรือตีมึนห่ะ!!! เห็นชื่อเรื่องตอนแรกก็คิดว่าพระเอกจีบแต่พอมาอย่างนี้แล้วนายเอกจีบแน่ๆเลย สงเติร์ดหนักมากเติร์ดควรไปหาผู้ใหม่

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ค่าย แกจะโง่ขนาดนี้ไม่ได้!!
คงต้องหามุขใหม่แล้วเติร์ด 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทฤษฎีจีบเธอ ∞ ตอนที่ 1 *หน้า5 [09/04/60]
« ตอบ #139 เมื่อ: 09-04-2017 23:25:03 »





ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ค่ายเติร์ดนี่เอง อะเติร์ดมีทูมาเป็นกำลังเสริมแล้ว จะช่วยให้สมหวังใช่ไหม แต่แค่ภารกิจแรกก็ล่มแล้ว  เอาใจช่วยเติร์ด

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
นี่แกล้งโง่หรือโง่จากใจจริง :ruready

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ค่าย...... :เฮ้อ:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ fida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โอ้ยยย

รู้สึกเหนื่อยแทนเติร์ดเลยอ่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ hunhan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โง่จริงๆแหละ555 จู่ๆใครจะมาแกล้งบอกชอบแบบนี้วะ
 แถมยังจะเอาวิธีเค้าไปจีบคนอื่นอีก แหม พ่อคุณ เดี๋ยว :z3:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยยค่ายโง่จริงโง่จัง อยากบ้าตายแทนเติร์ดเลย

ออฟไลน์ __mxsae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โธ่ค่ายเอ้ยยยยย สงสารเติร์ดเลย

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
หา(ว่าที่)ผัวใหม่เถอะเติร์ด อะไรจะโง่ขนาดนั้นวะค่าย!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด