ตัวร้าย
25
“อากาศดี”
พวกผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่พากันปั่นจักรยานมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ท้ายไร่ ผมปั่นให้มาร์คมันซ้อนเพราะตามันไม่ยอมเปิดเช่นเดียวกับเปา เชนและมาร์ค สงสารสุดก็เชนนี่แหละที่มันเป่ายิงฉุบแพ้เลยต้องเป็นคนปั่นมาเองคนเดียวพวกผมนี่ลุ้นกันแทบตายว่ามันจะปั่นลงข้างทางหรือป่าว
“สวยจัง”
“มาถ่ายรูปกัน ๆ”
สาว ๆ กวักมือเรียกรวมให้ไปถ่ายรูปตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นโผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว อากาศเย็น ๆ แต่ไม่ถึงกับหนาว พวกเราถ่ายรูปเล่นกันจนพอใจจึงพากันปั่นจักรยานกลับบ้านเพื่อไปเตรียมใส่บาตรพระในตอนเช้า ซึ่งขากลับผมนั่งซ้อนบีสท์สบาย ๆ เพราะพวกที่เหลือตื่นกันเต็มตาแล้ว
ใส่บาตรเสร็จกินข้าวเช้าก็มานั่งรวมกันที่บ้านเล็กของผม โปรแกรมวันนี้สาว ๆ ขอไปร้านกาแฟต้นไม้ที่กำลังโด่งดังเพราะทำการจองมาตั้งแต่ก่อนมาถึงเชียงใหม่แล้ว เห็นว่าจำกัดจำนวนคนในแต่ละวันด้วย ส่วนสถานีต่อไปยังไม่ได้คิดเราจึงตกลงกันว่าค่อยไปคิดที่โน่นทีเดียวแล้วกัน
“อยากไปไหนหรือเปล่า”
แฟนคนดีของผมเอ่ยถาม ผมหัวเราะใส่เขาแล้วเอนตัวพิงไหล่ของเขา
“จะอยากไปไหน กูไปมาทุกที่แล้ว”
“เออเนอะลืมไป”
ผมจับมือบีสท์มาคลึงเล่น ตอนนี้เราใกล้ถึงจุดหมายกันแล้ว บีสท์อมยิ้มแล้วดึงมือผมขึ้นไปจูบเบา ๆ
“พลาดเองแหละกู ไม่น่ามานั่งเป็นเหาฉลามอยู่ตรงนี้เลย”
สกายพูดขึ้นจากด้านข้างของบีสท์ แฟนผมหัวเราะหึหึแล้วหันไปยักคิ้วกวนใส่เพื่อนตัวเอง สกายกลอกตาบนบ่นพึมพำอะไรสักอย่างแล้วหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบสะบัดตัวงอน ๆ ไปอีกทางที่มีมาร์คนอนพิงหน้าต่างอยู่
“ไปแม่กำปองกันไหมล่ะ ใกล้ ๆ”
เปาเอี้ยวตัวมาถามจากเบาะด้านหน้าข้างคนขับ พวกสาว ๆ พยักหน้าโอเคส่วนพวกผมก็โอเคอยู่แล้วจะไปไหนก็ไปได้หมดแค่ไม่พากันไปตายก็โอเค
“เค แล้วที่ร้านกาแฟต้นไม้มีไรเล่นมั่ง”
เปาถามสาว ๆ
“มีเยอะนะเว้ยเห็นแบบนั้น มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีเดินป่า โหนสลิง อ้อ ๆ มีนวดด้วย”
“เออ ๆ ดี ๆ เค้าจะไปเดินป่า”
“ไปตามหาเพื่อนรึไงไอ้เชน”
“อุ้ย กระต่ายที่กรุงเทพก็มีแตง”
แตงกวากลอกตาแล้วกระชากหัวเพื่อนไปทีด้วยความหมั่นไส้
“กูหมายถึงแรด!”
“ทำไมร้าย เค้าเป็นคนใส ๆ นะ”
“ไสยศาสตร์สิมึงน่ะ”
“ไสหัวไปด้วย”
เจนเสริม คนถูกเพื่อนรุมว่าเบะปากทำท่าน่าสงสารได้น่าถีบที่สุด ยูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เชนยังอดไม่ได้ที่จะตบหัวมันเลย
“มึงก็ไม่เข้าข้างกูหรือชายยู กูเสียใจ กระซิก”
“ตอแหลเป็นไอ้มาร์คเลยมึง”
แพรวร้องบอกมาจากทางด้านหลัง คนถูกหางเลขโวยวายเสียงดัง
“อะไรอ้ะ อุตส่าห์นั่งอยู่เงียบ ๆ แล้วนะเนี่ย โห่”
“นี่ไง แรดเงียบ”
“ไอ้สัดกาย!!!!”
และก็เกิดสงครามขนาดย่อม ๆ ภายในรถขึ้น พวกเขาไม่ได้ตีกันนะเพียงแค่ใช้สงครามน้ำลายกันเท่านั้นบีสท์เองยังร่วมวงไปกับพวกเพื่อนด้วยเลย อีกประมาณยี่สิบนาทีถัดมาพวกเราก็มาถึงที่หมาย สาว ๆ รีบเดินนำกันไปเป็นพวกแรก ผมกับบีสท์เลือกไปนวดเช่นเดียวกับเมเปิ้ลและนาฟ สกายเปาแพรวแจมไปเล่นโหนสลิงก่อนแล้วจะตามพวกที่เหลือไปเดินป่า
ร้านนี้สวยสมคำร่ำลือจริง ๆ ผมสี่คนหลังจากนวดเสร็จก็มานั่งชิวที่ร้านกาแฟรอพวกที่เหลือกลับมากินข้าวกลางวันด้วยกัน สองสาวเมนาฟขอแยกตัวไปถ่ายรูปเล่นตอนนี้จึงเหลือแค่ผมกับบีสท์นั่งกันอยู่สองคน
“สนุกไหม”
“สนุกดี ไม่คิดว่ามาเที่ยวกันเยอะ ๆ จะสนุกขนาดนี้”
ผมบอกบีสท์พลางดูดกาแฟชมธรรมชาติไปด้วย คนตรงข้ามยิ้มกว้าง
“กูดีใจนะ ดีใจที่ครอบครัวมึงยอมรับกู ดีใจที่ได้เป็นคนอยู่ข้าง ๆ มึง”
“กูโคตรโชคดีเลยที่ได้เจอมึง ขอบคุณล้านครั้งก็ไม่พอ”
บีสท์หัวเราะเบา ๆ แล้วมองไปยังป่าเขาเขียวชอุ่ม
“กลับไปแล้วไปบ้านกูมั่งนะ”
ผมชะงักมือที่คนกาแฟเงยหน้าเลิกคิ้วมองบีสท์ที่หันกลับมาสบตาผม ใบหน้าหล่อยิ้มเต็มแก้ม
“เอาจริงดิ”
เขาพยักหน้า
“ทำไมกลัวหรือไง”
ผมพยักหน้า ขบริมฝีปากครุ่นคิด
“กูชักจะเข้าใจความรู้สึกมึงแล้ว”
บีสท์หัวเราะขำเอื้อมมือมาจิ้มหน้าผากผม
“จะกลัวทำไม
บ้านกูเขารู้กันหมดแล้วว่ามึงเป็นแฟนกู”
“ห๊ะ!!!!”
ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าทำหน้าตาประหลาดอะไรออกไปหรือเปล่าบีสท์ถึงกุมท้องหัวเราะงอหายเสียขนาดนั้น แต่เฮ้ยไม่ขำนะเว้ยเครียดเลยเนี่ย บ้านมันรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“บีสท์หยุดขำก่อนดิคุยกันก่อน”
ผมลุกขึ้นเลื่อนกายไปนั่งข้างเขา เขย่าแขนบีสท์รัว ๆ
“คุยเรื่องอะไรล่ะ ฮะ ๆ”
“เรื่องที่บ้านมึงไง เขารู้เรื่องของเราตั้งแต่เมื่อไหร่”
“อ๋อ ตั้งแต่กูเริ่มจีบมึงเลย”
“ห๊ะ!”
บีสท์หยุดหัวเราะแล้วแต่คนตัวใหญ่เปลี่ยนมาอมยิ้มขำผมแทนและเหมือนเดิมคือเขาจิ้มหน้าผากผมอีกแล้ว
“สองห๊ะแล้วนะ”
“ก็กูตกใจนี่”
เขาขยี้หัวผมเบา ๆ แล้วเลื่อนมือมากุมมือผมไว้
“กูสนิทกับพ่อแม่น่ะ มีอะไรก็บอกเขาหมด ตอนแรกที่บอกเขาก็อึ้ง ๆ นะเพราะเขาไม่คิดว่ากูจะชอบผู้ชายแต่พอกูเอารูปมึงให้ดูปุ๊บ พ่อกับแม่ก็ร้องอ๋อแล้วก็บอกว่า เออเป็นเขาเขาก็จีบ
มึงน่ารัก”
“พะ...พวกท่านไม่ว่าอะไรมึงใช่ไหม”
บีสท์ยิ้มส่ายหน้า บีบมือผมเล่น
“ไม่เลย กูบอกแล้วว่าบ้านกูสอนให้ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองเพราะฉะนั้นการที่กูตัดสินใจบอกเขาเรื่องของเราแน่นอนกูต้องคิดมาดีแล้วถึงบอกและโชคดีที่เขาเข้าใจ”
ผมพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก เอนตัวพิงไหล่หนาที่แสนอบอุ่น ทำไมคน ๆ นี้ถึงทำอะไรเพื่อผมได้มากขนาดนี้นะ ผมจะตอบแทนความรักของเขาอย่างไรดีให้สมกับที่ได้รับมา
“
แต่ปัญหามันอยู่ตรงแบทนี่สิ”
ผมลมหายใจกระตุกเมื่อบีสท์พูดถึงพี่ชายหน้าดุของเขา ผมไม่เคยเจอตัวจริงเพราะพี่แบทเรียนโทอยู่ต่างประเทศเคยเห็นแต่รูปที่บีสท์เปิดให้ดูจากในมือถือ บีสท์ว่าหน้าดุแล้วพี่ชายของเขาดุเป็นสองเท่าและที่ทำให้ผมกลัวเข้าไปใหญ่ก็จากคำบอกเล่าของเพื่อน ๆ บีสท์นั่นแหละ แล้วนี่เขารับเรื่องของผมไม่ได้...ผมจะทำอย่างไรดี
“พี่เขารับเรื่องของเราไม่ได้ใช่ไหม เราจะทำไงดีอ่ะบีสท์ เขากลับมาแล้วค่อย ๆ ไปอธิบายให้เขาฟังได้หรือเปล่า เขาจะต่อยกูป่ะวะ เขาจะ...”
“ซันพอก่อนซัน ฟังกูก่อน”
บีสท์ยกมือเบรกผมที่กำลังแร็ฟใส่เขา ผมชะงักคำพูดแล้วเปลี่ยนมาโกยอากาศเข้าสู่ปอดแทน บีสท์อมยิ้มยกมือลูบหัวผมเบา ๆ
“ที่กูบอกว่าแบทคือปัญหาไม่ใช่เพราะมันไม่ชอบมึงหรือรับเรื่องของเราไม่ได้หรอกนะ”
“อ้าว แล้วมันคืออะไรล่ะ”
พอมาถึงตรงนี้บีสท์จิ๊ปากยกมืออีกข้างเสยผมเหมือนคนหงุดหงิด ผมเอียงคอเลิกคิ้วมองเขาด้วยความงงงวย
“
เพราะมันบอกว่ามึงโคตรสเปคมันเลยน่ะสิ! ไอ้พี่ห่า”
ผมหัวเราะพรืด บีสท์ดูอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ นะ ดูหงุดหงิดพี่ชายแบบจริงจังเลย เขาเสตาหลบสายตาล้อเลียนของผม ผมขยับเข้าไปใกล้เขายื่นหน้าเข้าไปหา
“กลัวอะไรเล่า
กูรักมึงคนเดียวสิบพี่แบทร้อยพี่แบทก็ไม่ทำกูสะเทือนหรอกน่า”
“ปากหวานจังวะ”
เขาอมยิ้มหันมามองผม
“เคยชิม?”
“ประจำ”
“อายมั่งเหอะ”
“หึหึหึ”
“
บีสท์ บีสท์จริง ๆ ด้วย!”
ผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกบีสท์และยิ้มกว้างเดินเข้ามาหา ผมเลิกคิ้วแปลกใจเพราะทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนี้บีสท์กระตุกเกร็งและเงียบนิ่งไป ใบหน้าที่เจือรอยยิ้มเรียบเฉย สายตานิ่งงันจนน่ากลัว เธอคนนั้นยิ้มกว้างกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางพวกเรา บีสท์เม้มปากบีบมือชื้นเหงื่อของตัวเองกับมือผมแน่น ผมขมวดคิ้วมองเขาด้วยความเป็นห่วง ดูเหมือนว่าทุกย่างก้าวที่ใกล้เข้ามาบรรยากาศรอบตัวบีสท์ก็กดดันขึ้นเช่นกัน แต่ก่อนที่เธอจะเดินมาถึงโต๊ะเราทั้งสองคน
“
อีมีน!!!”
เพี๊ยะ !!!!
“กรี๊ด อีนาฟมึงตบกูทำไม”
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจผุดลุกขึ้นจะไปช่วยแยกผู้หญิงทั้งสองแต่บีสท์บีบมือผมไว้แน่น เมเปิ้ลวิ่งเข้ามาสมทบกับนาฟแต่ดูท่าทางไม่น่ามาช่วยแยก เหมือนจะมาช่วยตบอีกคนพนักงานในร้านรีบเข้ามาแยกนาฟออกจากผู้หญิงคนนั้น นาฟสะบัดตัวออกแล้วชี้หน้าผู้หญิงคนนั้นที่จ้องนาฟเหมือนจะฆ่าให้ตาย
“กูตบมึงแค่นี้ยังน้อยไปมึงคิดจะทำอะไร!”
“กูมาหาบีสท์!!”
“กูไม่ให้เจอ! ไม่ให้คุย!!”
นาฟตะคอกเสียงดังจบคนรอบข้างหันมามอง จริง ๆ เขาก็มองตั้งแต่เธอวิ่งมาตบผู้หญิงที่ชื่อมีนแล้ว
“เสือกอะไร กูจะคุยกับบีสท์ไม่ใช่มึง”
ฝ่ายนั้นเองก็เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ผมหันไปมองแฟนตัวเองบีสท์นิ่งเงียบจนผมรู้สึกเป็นห่วงไหนจะมือของเขาที่บีบมือผมแน่นไม่ยอมปล่อยอีก ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมนาฟและเมเปิ้ลต้องแสดงท่าทางรังเกียจเธอขนาดนั้น
“ดูหน้ามัน เห็นป่ะมันอยากคุยกับมึงมากสิอีกระหรี่!”
“อีนาฟอีเหี้ย!!!”
เธอถลาเข้ามาจะตบนาฟแต่พนักงานคว้าเอวเธอไว้เช่นเดียวกับนาฟ ผมเห็นท่าทางไม่ดีจึงใช้มืออีกข้างที่ว่างประคองแก้มบีสท์ให้หันมาทางตัวเอง
“ออกไปข้างนอกกันนะ”
บีสท์ไม่ตอบแต่พยักหน้ามาแทนผมจึงรีบลุกขึ้นแล้วดึงมือบีสท์เดินมาหาเพื่อนของเขาทั้งสองคน
“เม นาฟ เราไปข้างนอกกันเถอะ เกรงใจคนอื่นเขา ขอโทษด้วยนะครับแต่ช่วยรั้งเธอคนนั้นไว้ที”
ท้ายประโยคผมบอกกับพนักงานในร้านที่ยิ้มแห้งส่งมาให้แต่ก็พยักหน้าทำตาม มือหนึ่งลากบีสท์อีกมือก็ต้องลากนาฟออกมาเพราะเธอดูจะไม่ยอม เมเปิ้ลที่มีสติกว่านาฟช่วยผมรั้งแขนอีกข้างของเธอออกมา ตามมาด้วยเสียงของผู้หญิงคนนั้นร้องเรียกบีสท์ไม่ขาด เดินออกมาหน้าร้านพวกที่เหลือก็เดินหัวเราะกลับกันมาพอดีแต่พอเห็นท่าทางไม่ปกติของทางฝั่งผมพวกเขาก็รีบเดินเข้ามาหา
“เป็นอะไรกัน บีสท์เป็นอะไร”
สกายขมวดคิ้วเครียดถามก่อนจะเดินไปหาบีสท์ พอบีสท์เห็นเพื่อน ๆ ของเขาทุกคนร่างกายของเขาก็สั่นคล้ายคนจะร้องไห้
“มีน...เจอมีน”
“ห๊ะ!!!!!///เหี้ย!!!”
พวกเพื่อนที่เหลือร้องออกมาด้วยความตกใจแต่ก็ต้องรีบช่วยกันรั้งนาฟไว้เมื่อคนที่บีสท์พูดชื่อวิ่งตามออกมา ยูกับเชนดันบีสท์กับผมมาทางด้านหลังและพวกเขายืนบังอยู่ สกายมาร์คและเปาช่วยกันรั้งนาฟกับเจนไม่ให้พุ่งเข้าตบคนที่เดินมา
“บีสท์มีนขอคุยกับบีสท์หน่อยได้ไหม”
“มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยอีจัญไร!”
เจนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล ผมตกใจเพราะเธอไม่เคยโมโหขนาดนี้ ไม่สิ...ตอนนี้ทุกคนยกเว้นบีสท์ดูโมโหกันหมดเลย
“กูจะคุยกับบีสท์! พวกมึงอย่าเสือก! ยูช่วยเราหน่อยเราอยากคุยกับบีสท์”
“ตอแหล! พวกกูไม่ให้คุยมาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยอีสัด ทำไมช่วงนี้ประตูนรกเปิดรึไงถึงตะกายขึ้นมาได้”
“อีแพรว!”
“ทำไมเรียกชื่อกูทำไม ชื่อกูเหมือนแม่มึงไง๊!!!”
“อีเหี้ย!!! “
“มึงสิเหี้ย! ทั้งเหี้ยทั้งเลวทั้งดอกทองตอแหล กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามึงอีต่ำตม สารเลวหาที่สิ้นสุดไม่ได้! ยังจะมีหน้ามาอยากคุยกับบีสท์อีกหรือไง มึงทำพวกเราไว้ขนาดนี้ยังจะมีหน้ามาให้พวกกูเห็นอีกหรือไง!!!”
“กูบอกแล้วว่าเรื่องนั้นกูไม่ได้ตั้งใจ!”
“ไม่ได้ตั้งใจเหี้ยอะไร มึงตั้งใจร่านแต่ไม่ได้ตั้งใจ
ทำเพื่อนกูตายงั้นสิ!”
แพรวตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด หน้าเธอแดงตัวเธอแดงด้วยความโมโห ผมตกใจที่ได้ยินแบบนั้นหันไปมองบีสท์ที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ ตอนนี้ผมเหมือนคนนอกที่ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรกัน แต่อาการของบีสท์ก็ทำให้ผมนิ่งเฉยไม่ได้ ผมสะกิดยูที่อยู่ด้านหน้าเขาหันกลับมาหาเลิกคิ้วถาม
“กูพาบีสท์ออกไปก่อนได้ไหม”
“อืม ขอโทษนะที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ช่วยดูแลมันที”
ผมพยักหน้าให้เขาก่อนจะกดโทรศัพท์หาคนขับรถ เมื่อทราบว่าจอดรถไว้ที่ไหนผมก็หันกลับมาหาบีสท์ ใช้มือข้างที่ว่างแตะแก้มเขาเบา บีสท์เงยหน้ามองผมด้วยแววตาสั่นไหว
“ไปรอที่รถกันนะ”
“อือ”
ในจังหวะที่ผมพาบีสท์ออกมาผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งถลาเข้ามาหาบีสท์แต่ถูกมาร์คผลักล้มกระเด็นไป บีสท์ชะงักมองเธอครู่หนึ่งแล้วหันหน้าหนี เธอร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“บีสท์...ฟังมีนก่อน บีสท์
มีนรักบีสท์นะ”
ผมหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินเมื่อคำพูดของเธอจบลงเป็นบีสท์เองที่รั้งให้ผมเดินต่อ เขาเม้มปากกุมมือผมไว้แน่น
“เดี๋ยวกูจะเล่าให้ฟัง เรื่องทั้งหมด และเธอไม่มีสิทธิ์พูดจาน่ารังเกียจแบบนี้ออกมา ไปให้พ้นหน้าฉันซะ”
เขาปรายตามองผู้หญิงคนนั้นด้วยความเย็นชาเป็นที่สุด เธอร้องไห้โฮพยายามจะเดินมาหาบีสท์อีกครั้งแต่พวกเพื่อนเขาเดินมาขวางไว้ ยูพยักหน้าให้ผมรีบพาบีสท์ไปจากตรงนี้ ผมกับบีสท์จึงเดินออกมาโดยไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกันต่อ
We are never ever ever ever getting back together
We are never ever ever ever getting back together
You go talk to your friends talk
And my friends talk to me
But we are never ever ever ever getting back together
We Are Never Ever Getting Back Together - Taylor Swift
tbc
talk. อ่าว ใครก็ได้มาเก็บนังชะนีมีนไปที เขากำลังหวานกำลังสนุกกันอยู่ดี ๆ มาทำไม (ไปร่วมวงตบกับนาฟ) ตอนหน้าเรามาฟังอดีตของบีสท์กันนะทุกคน ไม่ดราม่า เรียกนังนี่ว่าตัวร้ายคนที่สองแล้วกัน ไม่ต้องห่วงตามชื่อเรื่อง เดี๋ยวมีมาอีกเรื่อย ๆ ฮ่าาาา หายไปหลายวันเพราะมัวแต่เข็นพี่พีทออกมา เดี๋ยวอีกไม่นานซันก็ต้องเจอแบบนั้น งานหนักเราเลย ให้พวกนางถือพรหมจรรย์กันดีมั้ยไม่ลำบากเราดี ก๊ากกก แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ อนุญาตให้ไปร่วมวงกับนาฟได้หรือจะด่าแบบเอ็กซ์ตรีมแบบแพรวก็ได้นะ
ฝาก #นิยายตัวร้ายด้วยจ้า
อ้อในเมื่อพี่พีทอีกตอนจะจบแล้ว สกายของเราก็เตรียมได้มีเรื่องของตัวเองกับเขาบ้างงง เหมือนจะมีคนรออ่านความคูลของคุณเท่าฟ้าเขาอยู่ด้วย อดทนรออีกนิดนะคะเดี๋ยวได้เจอกันแน่ ๆ จ้า