Special case:[One year later] Korsakoff Syndrome
“อ๊ะ…อ๊ะ....อ๊า....”
ภายในห้องสวีทสุดหรูของโรงแรมระดับห้าดาวราคาแพงหูฉี่ใจกลางกรุงโตเกียวในสภาพอากาศติดลบสององศา ร่างเปลือยเปล่าชื้นเหงื่อสองร่างบนเตียงขนาดคิงไซส์กำลังสนุกสนานกับกิจกรรมยามว่างตามประสาคนรักที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เหนือฟ้าซุกหน้าลงกับหมอน ยกสะโพกมนลอยขึ้นให้ร่างสูงปรนเปรอความรู้สึกสุขสมให้อย่างไม่หยุดหย่อน ติณณ์ภพไล่ประทับร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของลงมาตามแนวกระดูกสันหลังของแผ่นหลังนวลเนียน สอดมือใหญ่ลงประคองหน้าท้องคนรักที่ลอยอยู่เหนือเตียงอย่างใส่ใจเพราะกลัวว่าหากเขาทำรุนแรงไปจะทำให้ร่างข้างใต้บาดเจ็บได้
“อ๊า..พี่ติณณ์..พี่ติณณ์...แรง..อื้อ!!” เสียงครางชื่อเขาดังเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากที่บวมเจ่อจากการถูกบดขยี้ไม่หยุดหย่อน ติณณ์ภพโน้มตัวไปข้างหน้า ผ่อนแรงลงเพื่อให้คนรักพูดได้สะดวก
“อา..แรงไป...อือ..เหรอครับฟ้า...” ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทั้งที่กัดฟันกรอดเพื่อระงับความต้องการที่ท่วมท้นของตัวเองไว้ ทว่าร่างโปร่งที่บิดเร่าอยู่ใต่ร่างเขากลับส่ายหน้าพรืด
“อ๊ะ..แรงอีก...ลึกๆ..อ๊า..ฟ้าชอบ...”
“จัดให้ครับ..” ติณณ์ภพแสยะยิ้ม ฝังเขี้ยวลงบนหัวไหล่มนก่อนจะเร่งความเร็วจนร่างข้างใต้แทบจะตามเกมไม่ทัน แต่เหนือฟ้าเป็นคนเรียนรู้เร็ว ทำให้ไม่ยอมเสียเปรียบอยู่นานนัก ร่อนสะโพกสวนคนรักอย่างไม่ยอมแพ้ทั้งที่ใบหน้าที่วูกอยู่กับหมอนแดงก่ำจนถึงใบหู เป็นภาพที่น่าเอ็นดูแบบติดเรทในสายตาของติณณ์ภพจริงๆ
“ฟ้า..อึ่ก..พี่...พี่จะไปแล้ว...”ร่างสูงกัดฟัน รับรู้ได้ถึงปลายทางที่ใกล้เข้ามา
Rrrrr
“เดี๋ยว..พี่ติณณ์..” เสียงหวานที่ครวญครางชื่อเขามาตลอดทั้งคืนห้าม ทว่าสะโพกสอบยังคงควบคุมจังหวะความเร็วไว้เท่าเดิมด้วยคิดว่าเป็นเพียงการเล่นตัวของคนรัก “อ๊ะ..พะ..พี่ติณณ์หยุด!!”
เจ้าของชื่อหยุดการกระทำของตนอย่างตกใจ สำรวจร่างกายของคนรักที่ยันตัวขึ้นจากหมอนอย่างยากลำบากแต่ก็ไม่พบบาดแผลที่จะทำให้เหงนือฟ้าเบรกเขาแบบหัวทิ่มหัวตำแบบนี้ ช่องทางที่ยังคงตอดรัดเขาเป็นจังหวะจนร่างสูงปวดตุบทำให้ติณณ์ภพต้องควบคุมตัวเองอย่างมากไม่ให้ขยับสะโพกต่อ
“ฟ้าเป็นอะไรครับ?”
“โทรศัพท์” ร่างโปร่งตอบเสียงหอบเหนื่อย นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มทั้งที่ร่างของพวกเขายังเชื่อมติดกันอยู่อย่างนั้น เอนตัวพิงแผ่นอกเปลือยเปล่าของคนรักที่มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“ฟ้าครับ โทรศัพท์ค่อยรับก็ได้ นี่ตีสี่ญี่ปุ่น ตีสองเมืองไทย คนปกติที่ไหนจะโทรมาตอนนี้”
“เสียงเรียกเข้าไอ้กล้า” ร่างโปร่งคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ ไขข้อข้องใจของร่างสูงทันทีว่าใครกันที่สำคัญจนคนรักของเขาดับแสงที่ปลายอุโมงค์ได้อย่างเลือดเย็นโดยไม่กระพริบตา
เขาอุตส่าห์แอบหนีมาญี่ปุ่นคนเดียว ยังจะสร้างเรื่องจากที่โน่นได้อีกนะไอ้น้องบ้า!
“ฮัลโหล มีอะไร..อ้าวน้องแว่น?” เหนือฟ้าเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับเสียงของคนที่อยู่ปลายสาย “ช้าๆลงหน่อย ใครเป็นอะไร ทำไมเสียงเหมือนจะร้องไห้แบบนั้น พี่ติณณ์?อือๆ พี่ติณณ์อยู่กับพี่”
“เปิดลำโพงให้พี่ฟังด้วย” ติณณ์ภพระซิบข้างหูอีกฝั่งของคนรักอย่างเป็นห่วง เหนือฟ้ากดปุ่มเปิดลำโพง เสียงสั่นๆของเด็กหนุ่มที่มักจะเยือกเย็นอยู่เสมอดังลอดออกมา
“พี่กล้าเขาเป็นอะไรไม่รู้ อาเจียนในห้องน้ำมาหลายรอบแล้ว ตัวร้อนจี๋เลย เพลียเหมือนคนไม่มีแรง ผมบอกให้กินยาก็ไม่ยอม ให้ไปหาหมอก็ไม่ยอม แถมยังล็อกผมไว้นอกห้องน้ำ กลับออกมาไข้ก็ยิ่งสูง ผมกลัวพี่กล้าช็อก พี่เหนือช่วยกล่อมพี่กล้าหน่อยได้มั้ยครับ แล้วถามพี่ติณณ์ให้หน่อยว่าผมควรทำยังไง”
“ก็ ถ้ามีไข้สูง....”เหนือฟ้ายังมือห้ามคนรักที่กำลังจะสอนวิธีดูแลผู้ป่วยเบื้องต้นให้รุ่นน้อง ถามปลายสายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“แว่น วันนี้แว่นจะพามันไปดูหนังใช่มั้ย?”
“เอ๊ะ? เอ่อ..ใช่ครับ พี่เหนือรู้ได้ไง?”เด็กหนุ่มรุ่นน้องถามกลับงงๆ
“แล้วไอ้หนังที่ว่าเนี่ย มีผีอยู่มั้ย?”เหนือฟ้าถามต่อ
“ก็มีนะครับ แต่เป็นหนังตลก พี่เหนือถามทำไม...พี่เหนือ! พี่กล้าอ้วกเสียงดังมากเลย ทำไงดีครับ” ร่างบางถามอย่างร้อนใจเมื่อได้ยินเสียงของคนรักจากในห้องน้ำ
“เฮ้อ...รอบบนี้พี่จัดการให้ละกัน แต่ถ้ามีอีก แว่นเอาไดร์เป่าผมออกมาจากห้องน้ำนะ แล้วบอกมันว่าเปลี่ยนแผนไปดูหนังการ์ตูนแทน รับรองหายเป็นปลิดทิ้ง”
“เอ๊ะ..แต่ว่า... อ๊ะ พี่กล้าออกมาแล้วครับ”
“ให้พี่คุยด้วยหน่อยซิ” ระหว่างที่พูดอยู่นั้น สะโพกมนก็เริ่มขยับ ติณณ์ภพอุทานเบาๆอย่างตกใจ รีบตะครุบปากตัวไว้ แต่คนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่กลับดึงมือของเขาออกพร้อมรอยยิ้ม
“ฮัล..โหล?”เสียงอ่อนแรงของน้อยชายังลอดออกมาจากปลายสาย
“เลิกตอแหลเถอะไอ้กล้า น้องมันเรียนหมอนะเว้ย มึงคิดว่าจะเล่นมุขนี้ได้ซักกี่น้ำวะ..อ๊ะ..อย่าซนสิครับพี่ติณณ์”
เจ้าของชื่อที่โดนดุเสียงหวานเชื่อมทำหน้าเหลอหลา เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ มีแต่เหนือฟ้านั่นแหละบดเบียดสะโพกลงมาจนติณณ์น้อยที่โดนเทพร้อมสู้ศึกต่อแล้วเนี่ย
“เฮ้ย...นี่มึงทำอะไรอยู่วะเหนือ?” กวินภพถามด้วยน้ำเสียงตกใจ ถึงแม้เขาจะรับรู้แล้วว่าพี่ชายกับเพื่อนสนิทกำลังคบหาดูใจกัน แต่ร่างสูงไม่เคยคิดไปถึงเลยประตูห้องนอนของคนทั้งคู่ แค่คิดกวินภพก็รู้สึกขนลุกซู่แล้ว
“อือ…พี่ติณณ์ คุุยโทรศัพท์อยู่ อย่าเพิ่งขยับสิครับ”ร่างโปร่งหันมาดุเขาเสียงกระเส่า แถมยังเลียริมฝีปากอย่างยั่วยวน แต่ก็เหมือนเดิม เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยว้อยครับ!
“ฟ้า..อือ..” ร่างโปร่งขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ ถึงแม้ติณณ์ภพจะพยายามไม่สวนสะโพกกลับ แต่เขาก็มันใจว่าเสียงของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต้องถูกส่งผ่านไปไม่มากก็น้อย
“เชี่ยเหนือ! เล่นไรเนี่ย!”
คนฟังโวยวายอย่างหลุดมาด ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังเป็นคนป่วยอยู่ตอนนี้
“อ๊ะ..อ๊า.. ไหนบอกป่วย..อือ...ป่วยพี่มึงสิ” เหนือฟ้าเริ่มเร่งจังหวะ ทั้งที่ยังคุยกับปลายสายอยู่
โดนด่าก็โดนด่า เสียวก็เสียว ฟ้าจะทรมานพี่ไปถึงไหนครับ
ฮือ..คนหล่ออยากร้องไห้
“กู…กูป่วยจริง” กวินภพยังดื้อแพ่ง
“กล้า..กูนับหนึ่งถึง..อ๊ะ..ถึงสาม..อื้อ...ถ้ามึงยังไม่หายป่วย กูจะเปิดวีดีโอคอล” เหนือฟ้าขู่ แต่คนที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือหน้าเริ่มมืด ใกล้ขาดสติเต็มทนแล้ว หากเหนือฟ้ายังทำแบบนี้ต่อเขาต้องขาดสติแล้วทำตามใจชอบโดยไม่สนความต้องการของคนรักแน่ “แล้วถ้ามึงวางสาย กูจะ..อื้อ..ส่งคลิปไปให้น้องแว่นเปิดให้มึงดู”
“เฮ้ย ไอ้เชี่ยเหนือ!”
“หนึ่ง..อ๊ะ.พี่ติณณ์..แรงๆ...”
“เหนือ ไม่อ๊าวววว”
“สอง..พี่ติณณ์...อ๊า..อ๊ะ....ลึกอีกครับ...”
“ไอ้เหนือ!”
“สาม..อ๊า..จะ..จะไปแล้ว...”
“แว่น!!พี่ขอโทษครับ พี่แค่ไม่อยากไปดูหนังผีอ่า...”
เสียงที่ออกห่างจากโทรศัพท์บ่งบอกให้รู้ว่าปลายสายหันไปสารภาพความจริงกับคนรักเรียบร้อยแล้ว เหนือฟ้ากดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนตู้ข้างเตียง หันมาสนใจคนรักที่หน้าดำหน้าแดงด้วยความอดทน
“ฟ้า…พี่..พี่ไม่ไหวแล้ว”
“เอาสิครับ...แบบที่พี่ติณณ์ต้องการเลย...” เหนือฟ้าแตะใบหน้าของคนรักอย่างอ่อนโยน “ผมเป็นของพี่นี่นา”
และนั่นทำให้ร่างสูงขาดสติโดยสมบูรณ์ ติณณ์ภพส่งเสียงคล้ายเสียงคำรามในลำคอ เร่งจังหวะการขยับสะโพกจนร่างที่นั่งอยู่บนตักครางไม่เป็นภาษา เหนือฟ้าพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะตามคนรักให้ทัน มือเรียวเกาะอ้อแขนที่โอบรัดรอบเอวของเขาไว้แน่นราวกับคนใกล้จมน้ำที่เจอห่วงยาง ติณณ์ภพ กัดฟันกรอด ในหัวขาวโพลนไปชั่วขณะ ก่อนที่ร่างทั้งสองจะทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง เหนือฟ้าพลิกกายกลับมาหาคนรัก ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอุ่นโดยไม่สนใจความเหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อที่โทรมกาย
“พี่ติณณ์...”
“ครับ...”เจ้าของชื่อขานรับเสียงหอบจากกิจกรรมเมื่อครู่
“ต่อไปนี้ พี่ติณณ์จะเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้ผมตื่นตอนตีสองโดยไม่มีเรื่องฉุกเฉิน ตกลงมั้ยครับ?”เหนือฟ้ากระซิบ ทั้งที่เป็นประโยคที่ไม่ได้หวานซึ้ง แต่มันกลับทำให้ร่างสูงที่ชอบเต๊ะท่าทำมาดเท่ตลอดเวลาหน้าแดงก่ำ
“แล้วกล้า...?”
“ไอ้กล้ามันมีคนที่ผมวางใจดูแลมันแล้ว” มือเรียววางลงบนหน้าอกของคนรัก สัมผัสจังหวะหัวใจที่เต้นอย่างสม่ำเสมอ “ตอนนี้ผมอยากดูแลคนพี่มากกว่า”
“พี่จะไม่ทำให้ฟ้าเสียใจอีก พี่สัญญา” ติณณ์ภพวางมือทับลงบนหลังมือของคนรัก
“อย่าสัญญาอะไรที่พี่ทำไม่ได้สิครับ” เหนือฟ้าเอ่ยเสียงแผ่ว แม้จะไม่ได้ติดใจ แต่ก็ไม่อยากให้คนรักสัญญาพร่ำเพรื่อ
“เพราะพี่ทำได้ พี่ถึงสัญญา”ร่างสูงกล่าวอย่างหนักแน่น ร่างโปร่งซุกใบหน้าลงบนแผ่นอกกว้างซ่อนรอยยิ้มขัดเขิน
“ขอบคุณนะครับพี่ติณณ์”
“รักนะครับฟ้า”ติณณ์ภพกระซิบ อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ซึ่งติณณ์ภพก็ไม่ได้หวังจะได้ยินอะไรอยู่แล้วจึงไม่ได้รู้สึกผิดหวังมากนัก
“รอผมหน่อยนะครับ...”
ติณณ์ภพหูผึ่ง ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ร่างโปร่งพึมพำออกมาใช่สิ่งที่ตนได้ยินหรือไม่ แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะเป็นกำลังใจให้เขาต่อสู้เพื่อได้หัวใจของอีกฝ่ายกลับคืนมา ร่างสูงจุมพิตลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของคนรักที่หลับไปแล้ว
“ทั้งชีวิต พี่ก็รอได้ครับ”
“แว่น...”
“…”
“อย่าโกรธพี่เลยนะครับคนดี”
“มันน่าโกรธมั้ยล่ะครับพี่กล้า?!” ร่างเล็กหันขวับมาหาคนรักตัวโตที่หงอไปทันทีที่โดนขึ้นเสียงใส่ “ไม่รู้พี่เหนือจะคิดว่าผมเป็นคนยังไง โทรไปกวนตอนตีสองแค่เพราะคุมแฟนไม่อยู่ พี่กล้าคิดว่ามันน่าอายมั้ยครับ?!”
กวินภพตัวลีบเล็กลงไปอีก แว่นส่งเสียงฮึดฮัด กอดอกทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างอารมณ์เสีย ร่างสูงรีบนั่งลงข้างๆหวังเอาใจ แต่เด็กหนุ่มกลับขยับหนีไม่พูดไม่จา พอกวินภพขยับตามเด็กหนุ่มก็ขยับหนีอีก ร่างสูงเริ่มคิดหนัก ไม่รู้ว่าจะง้ออีกฝ่ายอย่างไร
“แว่น...พี่ต้องทำยังไงแว่นถึงจะหายโกรธ”
“ผมไม่ได้โกรธ” คนที่ยังคงหันหน้าหนีตอบเสียงเรียบ
“แว่นครับ...”ชายหนุ่มเรียกเสียงอ่อย ดูยังไงก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธเขาอยู่
“ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมผิดหวัง...”เด็กหนุ่มก้มหน้า “ที่พี่ไม่คิดแม้แต่จะพูดกับผมตรงๆ ต้องปล่อยให้ผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากพี่เหนือ”
“พี่ขอโทษครับ...”ร่างสูงโถมตัวเข้ากอดคนรักแน่น ไม่ยอมเปิดช่องว่างให้เด็กหนุ่มดิ้นหนี “ก็พี่ไม่อยากให้แว่นเห็นว่าพี่ป๊อดอ่ะ”
“เรื่องนั้นมันความรู้สามัญอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ” เด็กหนุ่มสวน ทั้งที่แว่นเป็นคนพูดจาตรงๆทิ่มแทงหัวใจอยู่แล้ว แต่คราวนี้
ชายหนุ่มรู้สึกว่าดาเมจมันรุนแรงกว่ารอบอื่นๆ
“ยกโทษให้พี่นะ” แต่หน้าหนาประหนึ่งปูนซีเทนต์ฉาบตึกอย่างเขาหรือจะสน ชายหนุ่มได้ทีซุกไซร้ออดอ้อนเด็กหนุ่มในอ้อมกอด “พี่จะพยายามปรับปรุงตัวให้ดีกว่านี้...”
“ป๊อดก็ป๊อดสิครับ”แว่นลูบศีรษะของคนอายุมากกว่าที่ซุกอยูที่หน้าท้องของตน “ป๊อดแบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว”
“อ้าว...”ร่างสูงเงยหน้ามองคนรักอย่างงุนงง ท่าทางเหมือนเจ้าตูบขี้สงสัยยิ่งทำให้เขารู้สึกเอ็นดูมากขึ้นไปอีก
“แต่มีอะไรก็บอกกันดีๆนะครับ ผมไม่อยากรู้เรื่องของพี่จากคนอื่นแบบนี้อีก”ร่างเล็กเริ่มใจอ่อน คนอ้อนพยักหน้าหงึกหงัก หูหางกระดิกอย่างดีใจที่คนรักให้อภัย
“อื้อ ต่อไปจะไม่ทำแล้ว”
“งั้นวันนี้เราไปดูหนังการ์ตูนที่เพิ่งเข้าแทนดีมั้ยครับ?” แว่นเสนอ
“จะดีเหรอ? แว่นไม่ได้อยากดูเรื่องนั้นเหรอ?” ร่างสูงถาม
“ไม่เป็นไรครับ จริงๆผมไม่ค่อยชอบดูหนังหรอก” เด็กหนุ่มสารภาพ “ผมแค่อยากไปเที่ยวกับพี่...แค่นั้นแหละครับ”
แฟนใครทำไมน่าฟัดขนาดนี้วะ?
“งั้น...ทำอย่างอื่นกันมั้ย?”กวินภพเสนอ
“ไม่ไหวหรอกครับพี่กล้า ผมยังปวดสะโพกกับขาอยู่เลย” ชายหนุ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนฉ่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแว่นสามารถพูดอะไรแบบนั้นได้ด้วยสีหน้านิ่งสนิท
“มะ…ไม่ใช่ คือ ไปสวนสนุกอะไรแบบนี้มั้ย?”
“ก็ที่ถีบเรือเป็ดที่สวนสนุกครั้งที่แล้วไงครับ ยังเจ็บสะโพกกับขาอยู่เลย”เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “พี่กล้าคิดว่าผมพูดถึงอะไรครับ?”
“….”สรุปเขาหื่นเองสินะ
“ไปดูหนังนั่นแหละครับ จริงๆผมไปดูหนังการ์ตูนกับน้องชายบ่อยๆ ไม่ได้ถึงขั้นไม่ชอบอะไรขนาดนั้นหรอก” เด็กหนุ่มยืนกราน “อีกอย่าง...ผมก็มีอะไรที่อยากทำในโรงหนังกับพี่กล้าอยู่”
หัวสมองอันบรรเจิดของกวินภพพุ่งไปที่จินตภาพสิบแปดบวกที่เคยเห็นแค่ไหนหนังอย่างว่า ถึงแม้จะรู้ว่ามันผิดกฎของโรงหนัง แต่่ร่างสูงก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ยิ่งคนรักเป็นฝ่ายออกปากเองแบบนี้ด้วยแล้ว
“ไปสิ! ไปกันเลย!”
“เดี๋ยวสิครับพี่กล้า ผมยังไม่ได้เก็บผ้าเลย...” ทว่าคนตัวโตหาได้สนใจเสียงทักท้วงของคนรัก ดึงร่างเล็กปลิวหวือออกจากห้องไปทันที
“พี่กล้า เป็นอะไรครับ ไม่สนุกเหรอ?” แว่นหันไปถามคนรักที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ข้างๆพร้อมกับโยนป็อบคอร์นเข้าปาก กวินภพส่ายหน้าด้วยสีหน้ากล้ำกลืนฝืนทน
ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าสิ่งที่แว่นอยากทำกับเข้าในโรงหนังคือการใช้คูปองส่วนลดซื้อที่นั่งโซฟาด้านบนสุด กับซื้อป็อบคอร์นถังขนาดสี่คนกินโดยที่คนขายไม่มองด้วยสีหน้าประหลาดใจเพราะกวินภพตัวใหญ่มาก
กรรมตามสนองสินะ...
ชายหนุ่มได้แต่ยอมรับชะตากรรม นั่งดูหนังการ์ตูนของตัวเองไปขณะที่คนรักโยนป็อบคอร์นเข้าปากเรื่อยๆอย่างเอร็ดอร่อย
THE END
------
มาคั่นมาม่าด้วยความสใจฟรุ้งฟริ้งกันดีกว่า อิอิ
![:hao7:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/hao7.gif)