----ครึ่งหลัง-----
“ตื่นได้แล้วครับคนขี้เซา”
แว่นขมวดคิ้ว เอื้อมมมือควานหานาฬิกาปลุกยี่ห้อกวินภพที่ยังคงสวมกอดเข้าจากด้านหลังไม่ยอมปล่อยทั้งที่ยังไม่ลืมตา ตบเบาๆที่ใบหน้าของอีกฝ่ายให้หยุดปลุกเขาเสียที
เดี๋ยวนะ...
พี่กล้าเนี่ยนะปลุกเขา?
เด็กหนุ่มลืมตาโพลง คว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาดูเวลาอย่างตกใจ
“เจ็ดโมงครึ่ง?!”
เขาไม่รู้ว่าอะไรน่าตกใจกว่ากัน การที่ตัวเองตื่นสาย หรือการที่ชายหนุ่มตื่นเจ็ดโมงครึ่งในเช้าวันหยุด แว่นหันกลับไปมองคนรักด้วยสายตาคาดโทษ แต่ก็โกรธอีกฝ่ายไม่ลงเมื่อถูกหอมฟอดใหญ่ที่แก้ม
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เสียงทุ้มที่แหบพร่าจากการเพิ่งตื่นนอนฟังดูเซ็กซี่เป็นพิเศษในเช้าวันนี้ แต่แว่นเลือกที่จะเก็บข้อมูลนั้นไว้กับตัวเอง
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่...กล้า”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ยกมือจับที่ลำคอเมื่อรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ออกเสียง สาเหตุก็คงไม่พ้นชายหนุ่มที่ทำให้เขาบริหารเส้นเสียงติดต่อกันเกินกว่าที่ควรที่นอนอยู่ข้างๆ แว่นรู้สึกว่าเสียงแหบๆของตนเมื่อครู่ดูเหมือนแมวป่วยมากกว่าคนที่เพิ่งผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนมาเหมือนร่างสูง แต่กวินภพกลับมองเขาด้วยสายตาเหมือนเด็กหนุ่มเพิ่งชวนอีกฝ่ายทำเรื่องสยิวกิ้วกลางวันแสกๆ
“พูดอีกซิ”
“เอ่อ...ให้พูดอะไรครับ?” แว่นถาม ขยับตัวถอยหลังอย่างหวาดระแวงเมื่อกวินภพยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“เสียงแว่น...น่ากินเป็นบ้า”
“เสียงใครเขากินได้กันล่ะครับ?!” เด็กหนุ่มคว้าหมอนมากันการจู่โจมของริมฝีปากได้รูปอย่างพอดิบพอดี “พอเลย ผมยังเจ็บอยู่เลยนะ”
ถามว่าเมื่อคืนกวินภพได้ไปกี่ยก
ก็จนของขวัญที่เหนือฟ้ากับทีมให้มาหมดนั่นแหละร่างสูงถึงได้ยอมเลิกรา
ส่วนแว่นน่ะเหรอ เหอะ สลบไปเมื่อไหร่ยังไม่มั่นใจตัวเองด้วยซ้ำ
“แปลว่าหายเจ็บแล้วก็ต่อได้สิ” ชายหนุ่มทำตาเป็นประกายเหมือนเด็กได้ของเล่น แววตาที่ต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่กี่ชาติแว่น
ก็ไม่มีทางปฎิเสธได้
“ค่อยว่ากันครับ” เด็กหนุ่มตอบอ้อมแอ้ม
“เย้!” กวินภพดึงร่างเล็กเข้ามากอด ก่อนจะรีบปล่อยมือทันทีที่ได้ยินเสียงร้องโอดโอยของอีกฝ่าย “แว่นไปอาบน้ำนะ เดี๋ยวพี่สั่งรูมเซอร์วิสมาให้กิน แล้วก็จะได้กินยาแก้ปวด เนอะ”
ร่างสูงหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองพร้อมกับดึงแผงยาแก้ปวด ยาลดไข้ เบาะรองนั่งเป่าลม และถุงน้ำร้อนแบบชาร์จไฟได้ออกมา
“เตรียมพร้อมจังนะครับ” ร่างบางเหน็บ แต่คนฟังกลับยิ้มแฉ่งเหมือนได้รับคำชมเสียอย่างนั้น
“อาบน้ำไหวมั้ย หรือให้พี่เช็ดตัว...”
“ไม่ต้องเลยครับ ขืนให้พี่ทำไม่ต้องอาบกันพอดี”
แว่นดักอย่างรู้ทัน คว้าเสื้อของร่างสูงที่ตกอยู่ใกล้กว่าเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาแล้วค่อยๆก้าวลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง แต่ขาที่อ่อนแรงจากการถูกพาดในตำแหน่งต่างๆที่ไม่ค่อยดีต่อกล้ามเนื้อทำให้ร่างบางล้มพับลงไปทันที ดีที่กวินภพไหวตัวทัน รวบเอวของเด็กหนุ่มไว้ก่อนที่จะลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
“เดี๋ยวพี่ไปส่งในห้องน้ำ นะ แค่ไปส่ง ไม่ทำอะไรแน่นอน”
แว่นเม้มปากก่อนจะพยักหน้า ยังไงเขาก็เดินไปไหนไม่ได้อยู่แล้วนี่
ร่างสูงช้อนตัวอุ้มเด็กหนุ่มขึ้นทันทีที่ได้รับการอนุญาต เดินพาอีกฝ่ายเข้าไปวางลงบนอ่างอาบน้ำแล้วหยิบฝักบัวลงมาให้ หยิบชุดแปรงสีฟัน สบู่ล้างหน้า และผ้าขนหนูมาวางไว้ขอบอ่าง
“ห้ามลุกนะครับ อาบเสร็จเรียกพี่ เดี๋ยวพี่มาอุ้มออกไป” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ...”แว่นเถียง แต่เมื่อเห็นสายตาเป็นกังวลนั้นเด็กหนุ่มก็ยอมรับปากอย่างเสียไม่ได้
มื้อเช้าผ่านไปแต่โดยดี ด้วยฤทธิ์จากยาแก้ปวดเด็กหนุ่มจึงเริ่มนั่งได้อย่างสบายใจ แต่ก็ยังเดินไปไหนมาไหนไม่ได้มาก ทำให้แว่นได้แต่นั่งมองทะเลตาละห้อยอยู่ที่ระเบียง
“อยากไปเล่นน้ำเหรอ?” กวินภพถาม รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นคนรักนั่งซึมอยู่แบบนี้
“เปล่าครับ แค่อยากไปเดินเลียบชายหาดเฉยๆ” แว่นตอบเสียงอ่อย
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันสิ” ชายหนุ่มยิ้ม
“พี่กล้าไม่หนักจริงๆเหรอครับ” แว่นถาม คนที่คะยั้นคะยอให้เขาขี่หลังเดินชมหาดส่ายหน้า กระชับแขนให้ล็อกขาของคนรักกับที่ให้ถนัดขึ้น
“ตัวเบาอย่างกับนุ่น ขุนเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น นี่เราเอาไปยัดไว้ที่ไหนหมด หืม?”
เด็กหนุ่มซุกหน้ากับหลังคออีกฝ่าย ก่อนจะงับแรงๆไปหนึ่งทีเมื่อตอบคำถามไม่ได้ กวินภพหัวเราะ ยังคงเดินเลียบไปตามชายหาดอย่างอารมณ์ดี
ทั้งสองนั่งลงพักที่ร้านริมหาดอีกร้าน กวินภพยังทำหน้าพ่อบ้านที่ดี ปรนนิบัติพักวีคนรักไม่มีขาดตกบกพร่อง ชนิดที่ว่าแว่นเริ่มสงสัยแล้วว่าตนแค่ปวดเมื่อยหรือเป็นง่อยกันแน่
“พี่กล้า หยิบโทรศัพท์ให้หน่อยครับ” ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือของคนรักออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้ แว่นรับมาสไลด์เปิด ข้อความในไลน์เด้งขึ้นมาไม่มาก มีแค่มารดาไลน์มาถามสารทุกข์สุกดิบ และไลน์ของรุ่นที่เพื่อนสั่งงานกิจกรรมโน่นนี่ไม่หยุดหย่อนเท่านั้น เด็กหนุ่มกดไล่ตอบไปเรื่อยๆ ก่อนจะเลื่อนมาเจอเจ้าของไลน์รูปไซบีเรียนฮัสกี้ทที่เขาไม่ได้คุยด้วยเสียนาน
ความรักของทางนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ?
แว่นได้แต่ภาวนาให้อีกฝ่ายสมหวังในรัก เช่นเดียวกับที่เขากำลังเป็นอยู่
“ยิ้มอะไรครับ?” กวินภพถามคนรัก คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัย
“แค่นึกถึงคนรู้จักน่ะครับ”
เด็กหนุ่มตอบปัด เปิดเฟซบุ๊คของตัวเองเพื่อไล่ดูฟีดตามประสา เขาไม่ได้เข้าโซเชียลนานมาก แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรในหน้าไทม์ไลน์ให้เห็นมากนัก
นอกเสียจากคลิปวีดีโอบางอย่างที่เพื่อนแชร์กันสนั่นหวั่นไหว เด็กหนุ่่มจะไม่สนใจเลยหากคนในคลิปไม่ให้เหนือฟ้า และติณณ์ภพ ในซุปเปอร์มาร์เก็ตใต้คอนโดของพวกเขา
ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร คลิปวีดีโอก็เล่นเอง แว่นพยายามจะปิด แต่เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆในบริเวณนั้นทำให้กวินภพชะเง้อมองอย่างสนใจ
“ดูอะไรน่ะ...!”
ภาพของเหนือฟ้าและติณณ์ภพที่จูบกันอย่างดูดดื่มในซุปเปอร์มาร์เก็ตปรากฎแก่สายตา ดูจากท่าทางแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองทำเรื่องแบบนี้แน่นอน แว่นรู้สึกถึงรังสีอำมหิตบางอย่างในตัวของคนรัก ก่อนที่กวินภพจะลุกขึ้นยืน
“พี่…พี่ต้องกลับ”
“พี่กล้า โอเคมั้ยครับ” แว่นลุกตาม กัดฟันกรอดกับความเจ็บที่แล่นผ่านสะโพก แต่รู้สึกเป็นห่วงคนรักในตอนนี้มากกว่า
“แว่น พี่ขอโทษนะ เรากลับกันเถอะ”
กวินภพเหยียบคันเร่งจนมิดเท้า แว่นเกาะพนักพิงของตัวเองไว้แน่นอย่างกลัวตายถึงแม้ถนนจะโล่งมากก็ตาม เด็กหนุ่มเอื้อมมืออีกข้างไปแตะแขนของคนรักที่จับพวงมาลัย ท่อนแขนแกร่งสั่นระริก แต่จากสีหน้าของชายหนุ่ม มันไม่ได้มาจากความเสียใจหรือโศกเศร้า
มันมาจากความโกรธที่แว่นสัมผัสได้มากกว่าตอนที่อีกฝ่ายเห็นพี่กรเป็นครั้งแรกเสียอีก
“พี่ติณณ์ ผมลงไปซื้อข้าวนะ” เหนือฟ้าตะโกนบอกคนที่ยังคงนอนซมอยู่บนเตียง ดูท่าหวัดครั้งนี้จะหนักจริง ชายหนุ่มถึงได้ตัวอ่อนไหลไปมาเป็นเยลลี่ เมื่อคืนก็ไข้ขึ้นจนเขาต้องช่วยให้เหงื่อออกไปหลายรอบ แต่อีกฝ่ายก็ดูจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ฮื่ออออ”
เสียงตอบรับดังออกมาจากในห้องนอน เหนือฟ้าอมยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะหุบยิ้มทันควัน
ตั้งสติไอ้เหนือ
มึงเผลอหลายรอบเกินไปแล้วนะ
ร่างโปร่งเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงเจ้าของห้องที่นอนซมเพราะพิษไข้ แต่กำลังใจยังดีจากการดูแลอย่างใกล้ชิดของคนรัก ติณณ์ภพนอนมองเพดานอย่างสุขใจ นึกหวังให้ตัวเองป่วยไปนานเสียด้วยซ้ำ
ปังๆๆๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังสนั่นหวั่นไหวประหนึ่งมาเฟียทวงหนี้ดังขึ้น ร่างสูงขมวดคิ้ว เหนือฟ้าลืมคีย์การ์ดไว้งั้นเหรอ
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียง ยกมือขึ้นกุมหัวที่ปวดตุบจากการลุกกระทันหัน แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตูหน้าห้อง ไม่สนใจจะส่องตาแมวด้วยไม่คิดว่าจะมีใครมาหาเขาในตอนนี้
“ฟ้าลืมอะ...”
ผลั่ก!
หมัดหนักๆถูกประเคนให้อย่างรุนแรงจนติณณ์ภพไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงล้มลงไปนอนนับดาว ยังไม่ทันจะได้หายใจหมันลุ่นๆก็ฮุกเข้ากลางหน้า ติณณ์ภพที่อ่อนแรงจากพิษไข้ทำได้เพียงยกแขนตั้งการ์ดป้องกันจุดสำคัญไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ สายตาที่พร่ามัวจากการที่แว่นกระเด็นหายไปไหนก็ไม่รู้ทำให้เขาไม่เห็นหน้าคนที่ทำร้ายตน แต่เสียงร้องของน้องแว่นทำให้เขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“พี่กล้า!!หยุดเถอะครับ!! เดี๋ยวพี่ติณณ์ก็ตายหรอก!!” แว่นพยายามดึงคนรักออกมาแต่สู้แรงไม่ไหว จังหวะนั้นเหนือฟ้าที่กลับขึ้นมาจากซื้อของเปปิดประตูเข้ามาพอดี เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้อง ร่างโปร่งรีบวิ่งเข้าไปช่วยรุ่นน้องดึงเพื่อนรักออกมาจากพี่ชาย กวินภพยังคงพยายามสลัดตัวออกจากการเกาะกุม แต่ร่างบอบบางทั้งสองกอดไว้ไม่ยอมปล่อย
“ไอ้กล้า มึงทำอะไรเนี่ย พอแล้วกล้า!”
“ผมขอพี่แค่อย่างเดียว ขอแค่อย่ายุ่งกับไอ้เหนือ ทำไมพี่ให้ผมไม่ได้?!” เสียงของกวินภพสั่นเครือ ความโมโหและผิดหวัง
ปะปนกันจนแยกแยะไม่ออก “ถ้าพี่ทำไม่ได้แล้วรับปากผมให้ผมไว้ใจทำไมวะ?!”
“กู…ไม่ได้ทำอะไรฟ้า” ชายหนุ่มเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปาก ชันตัวขึ้นนั่งบนพื้นอย่างช้าๆ ควานหาแว่นที่ตกอยู่บนพื้นขึ้น
มาสวม
“โกหก! คนอยากพี่เคยไม่ทำร้ายใครด้วยเหรอ? ผมไม่สนหรอกนะว่าใครจะโดนพี่ทำระยำอะไรไว้บ้าง แต่ไอ้เหนือมันเหมือนน้องแท้ๆของพี่เลยนะ ใจพี่ทำด้วยอะไรวะพี่ติณณ์!” ชายหนุ่มอยากจะพุ่งเข้าไปต่อยพี่ชายบังเกิดเกล้าอีกซักครั้ง แต่ถูกเหนือฟ้ากอดแขนไว้แน่น
“กูไม่เป็นไรเว้ย”
“มึงไม่ต้องโกหก”
“กูไม่เป็นไรจริงๆกล้า พี่เขาไม่ได้ทำอะไร กูต่างหากที่หลอกเขา!”
ทุกชีวิตในห้องนิ่งไปหลังจากได้ยินคำสารภาพของร่างโปร่ง กวินภพหันมาหาเพื่อนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“มึงหมายความว่ายังไง?”
“กูเห็นมึงเครียดที่พี่ติณณ์มาวุ่นวายกับแว่น กูก็เลยคบกับพี่เขาเพื่อกันไม่ให้เขาไปยุ่งกับน้อง กูไม่เป็นไรจริงๆเว้ย” เหนือฟ้าจับหน้าเพื่อนให้มองมาที่เขาอย่างร้อนรน กลัวเพื่อนรักจะสติแตกกระโจนเข้าไปหาติณณ์ภพอีก “มึงดู กูเป็นใคร กูคือเหนือฟ้านะเว้ย มึงคิดว่ากูไม่รู้สันดานเหี้ยๆของไอ้พี่ติณณ์เหรอวะ?”
“เอ่อ...” กวินภพยังคงมีสีหน้าเคลือบแคลง
“มึง กูกับมึงก็อยู่ด้วยกันตอนที่พี่ติณณ์หักอกคนอื่นคนแล้วคนเล่า มึงคิดว่ากูจะควายขนาดคนพวกนั้นเลย?” เหนือฟ้าเลิกคิ้ว กวินภพนิ่งคิดไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า “ดี มึงจำไว้ คนอย่างไอ้เหนือ อีแค่พี่ติณณ์ ทำอะไรกูไม่ได้หรอก ไม่ต้องห่วงกูขนาดน้าน”
ร่างโปร่งลากเสียงยาว ขยี้หัวเพื่อนรักจนฟูพร้อมรอยยิ้มทะลึ่งทะเล้นที่เป็นเอกลักษณ์ กวินภพนิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้าไปกอดแน่น เหนือฟ้ากอดตอบด้วยแรงทั้งหมดที่มี ซุกหน้าลงกับคอของเพื่อนรัก แว่นสังเกตว่ารอยยิ้มสดใสเมื่อครู่กระตุกราวกับจะร้องให้ได้ตลอดเวลา
“ไม่เอาแล้วนะ ห้ามทำแบบนี้อีกนะ”
“เออๆ กลับไปที่ห้องได้แล้ว ดูซิเล่นซะน้องหน้าซีดขนาดนี้ยังไม่พาไปพักผ่อนอีก” เหนือฟ้าดุ กวินภพหันกลับไปมองร่างสูงที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าลังเล แต่ก็ยอมออกไปเมื่อถูกเหนือฟ้าไล่อีกครั้ง “ไปได้แล้ว ทางนี้กูจัดการเอง”
เมื่อประตูห้องปิดลง เหนือฟ้าหันกลับมาหาคนที่ยังนั่งอยู่บนพื้น ร่างโปร่งรู้ตัวและเตรียมรับผลการกระทำของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่เขาตัดสินใจ ย่อตัวลงนั่งยองบนพื้น แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้คนที่ยังนั่งนิ่งไม่พูดอะไร
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจให้พี่รู้ความจริงด้วยวิธีนี้”
“แล้วฟ้าคิดว่าพี่รู้ความจริงแบบไหนจะไม่เจ็บเหรอ”
เสียงของชายหนุ่มไม่มีแววประชดประชัน มีเพียงความเจ็บปวดบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปน
“พี่ติณณ์ อย่าเข้าใจผมผิดนะครับ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมรับผ้าไปเช็ด ร่างโปร่งจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกอีกฝ่ายอย่างเบามือ “ที่ผมทำไปทั้งหมด ไม่ใช่เพราะผมเกลียดพี่ หรืออยากเอาคืน”
“พี่รู้...” ชายหนุ่มแค่นเสียงหึในลำคอ “ฟ้าทำไปเพื่อไอ้กล้า”
เหนือฟ้าอยากปฎิเสธ แต่ไม่มีอะไรออกมาจากริมฝีปากบาง
“เจ็บมากมั้ยครับ” ร่างโปร่งแตะที่จมูกที่ไม่รู้ว่าหักไปรึยังของชายหนุ่ม
“ไม่รู้สิ...” ติณณ์ภพตอบอย่างอ่อนเพลีย “มันเจ็บที่ใจจนไม่รู้สึกที่อื่นแล้ว”
“ไม่ตายหรอกครับ” เหนือฟ้าว่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ถึงจะเห็นใจ แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยผ่านมันมาก่อน “เดี๋ยวพี่ก็ชิน”
คนอายุน้อยกว่าลุกขึ้นจากพื้น คว้าถุงใส่ข้าวกล่องที่ยังไม่บุบสลายมาวางบนโต๊ะ
“ดูแลตัวเองนะครับพี่ติณณ์ หายไวๆนะครับ”
ร่างโปร่งเดินออกมาจากห้อง ทั้งที่ในที่สุด อีกฝ่ายก็เข้าใจความเจ็บปวดของเขาในคราวนั้น แต่เหนือฟ้ากลับไม่รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาเลยซักนิด
อาจเป็นเพราะเขาไม่เคยคิดอยากแก้แค้น
หรืออาจเป็นเพราะ...
มือเรียวยกขึ้นแตะหน้าอกของตนที่ก้อนเนื้อภายในถูกบีบอย่างรุนแรงจนหายใจไม่ออก
“ระวังแทบตาย...สุดท้ายฏ็โดนลูกหลงอยู่ดีสินะ”
เหนือฟ้ายิ้มอย่างสมเพชตัวเอง เดินเข้าไปในลิฟต์ที่วางเปล่า กดปุ่มชั้น ก่อนจะทรุดตัวลงในนั้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
--------
สารภาพว่าจงใจลง50%หลังตอนที่กลับมาไทยแล้วเพราะกลัวโดนตบถ้าคนอ่านรอนานนี่แหละ5555
กลับมาอัพสม่ำเสมอกันดีฝ่า(จะพยายาม5555)