21st Diagnosis: (2nd Rx): Aspirin
คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะราบรื่นหลังจากนั้นใช่มั้ย?
ถึงแม้การรักษากับจิตแพทย์จะส่งผลดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากบทสนทนาที่เขามีกับกรวิชญ์ แต่ในความเป็นจริง ทั้งคู่ยังคงติดปัญหาอันยิ่งใหญ่ที่ยังไม่มีใครก้าวข้ามผ่านได้
เขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
“ก็เลยมาปรึกษาพี่?” น้ำอุ่นเลิกคิ้ว เป่าควันหอมกรุ่นออกจากถ้วยกาแฟร้อนของคาเฟ่เล็กๆในโรงพยาบาล
“เอ่อ...ครับ”
แว่นเกาแก้มอย่างอายๆ หลังจากที่เขาเป็นว่าการพาแทนไทยไปขอคำแนะนำจากติณณ์ภพดูจะได้ผลดีกับคู่ของเพื่อนรัก เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจขอนัดเจอปู่รหัสของตัวเองหลังจากมั่นใจว่าหนังหน้าของตัวเองผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอที่จะทนรับแววตารู้ทันของอีกฝ่ายได้
“อืม…ใช่ว่าพี่จะไม่เข้าใจนะ” น้ำอุ่นยกกาแฟขึ้นดื่มอึกหนึ่ง “แต่ที่พี่ไม่เก็ท คือคนนี้เนี่ย ตามเพื่อนมาทำไม”
ดวงตาเรียวเหลือบมองคนรักที่นั่งคนกาแฟอยู่ข้างกาย แทนไทยเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกว่าถูกพูดถึง ก่อนยิ้มแฉ่งให้น้ำอุ่น
“ก็ผมคิดถึงพี่อุ่นนี่นา ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
เด็กหนุ่มร่างสูงเลื้อยจากที่นั่งคลอเคลียคนรักอย่างไม่แคร์สายตาประชาชี น้ำอุ่นยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนริมฝีปากขณะยันใบหน้าของเด็กหนุ่มรุ่นน้องไว้
“อะไรกัน เพิ่งเจอกันเมื่อวานไม่ใช่รึไง”
“นั่นมันตั้งยี่สิบเอ็ดชั่วโมง สิบสี่นาที ห้าสิบสามวินาทีแล้วนะครับ ผมจะเฉาตายอยู่แล้ว ฮือออออ”
“ไอ้แทน ทำอะไรก็สงสารกูนิดนึง” แว่นยืดตัวข้ามโต๊ะเพื่อตบกบาลเพื่อนรักโดยเฉพาะ
“โอ๊ย! มึงนั่นแหละ พี่อุ่นว่างแค่นี้ยังมาช่วงชิงเวลาอันมีค่าของกู” แทนไทยโวยวาย
“ถ้ายังเถียงกันไม่เลิกพี่จะกลับแล้วนะ” น้ำอุ่นยิ้มอ่อน หยุดการทะเลาะของเพื่อนรักทั้งสองกลางอากาศ แทนไทยส่งสายตาคาดโทษให้เพื่อนรักที่เลิกคิ้วอย่างท้าทาย แต่ก็ยอมหุบปากฉับแต่โดยดี
“แล้ว อยากถามอะไรพี่ล่ะ?”
“คือ…ผมต้องเริ่มยังไงเหรอครับ?” แว่นเกาศีรษะ
น้ำอุ่นมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหันไปหาคนรักที่นั่งงอนแก้มป่องพองลมเป็นปลาปักเป้าจากการโดนดุเมื่อครู่
“ปกติพี่ทำยังไงเหรอ?”
“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มมีสีหน้าตื่นๆ หันมองเพื่อนรักสลับกับคนรักอย่างไม่รู้ว่าควรตอบคำถามดีมั้ย
“เรื่องนี้แทนน่าจะรู้ดีว่าพี่นะ” น้ำอุ่นว่า ขโมยกาแฟของคนรักมาดื่ม ปล่อยให้เพื่อนรักทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่รู้จะพูดอะไร
แทนไทยพยายามคิด แต่สิ่งที่พวกเขาทั้งสองทำดูจะรุนแรงเกินกว่าจิตใจอันบอบบางของแว่นจะรับไว้
อีกอย่าง เขายังอยากให้แว่นมองพี่อุ่นด้วยสายตาเคารพนับถือเหมือนเดิมอยู่
“ก็…ทำใจให้สบายมั้ยอ่ะ คือกูไม่รู้ กูอาศัยฟีลลิ่งล้วนๆ”
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้นมึงคิดว่ากูจะปากหน้ามาหาพี่อุ่นมั้ย” แว่นถามเสียงห้วน
“พี่ว่านะ” น้ำอุ่นเอ่ยขึ้น “ที่แทนพูดก็ไม่ผิด อย่าไปคิดอะไรมาก ร่างกายของเราถูกสร้างมาให้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำยังไงเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ถ้าอะไรที่แว่นรู้สึกว่ามันผิดปกติ ก็บอกให้เขาหยุด พี่ว่าน้องต้นกล้าเป็นคนดี เรื่องแบบนี้ถ้าเชื่อใจกันก็น่าจะไม่มีปัญหานะ”
“แต่มึงต้องพูดให้หนักแน่นนะ” แทนไทยรีบบอกเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง “บอกว่าไม่คือไม่ หรือไม่ก็สร้างเซฟเวิร์ดไปเลย กำหนดไว้ว่าถ้ามึงพูดคำนี้คือหยุด”
“มันมีด้วยเหรอวะ ที่บอกว่าไม่แล้วไม่ได้แปลว่าไม่เนี่ย?” เด็กหนุ่มมีสีหน้างุนงง
“ก็…” แทนไทยเหล่ตามองคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ น้ำอุ่นยังคงทำหน้าเหมือนสิ่งที่คนรักพูดไม่ได้เกี่ยวอะไร
กับตน แต่มือเรียวที่ฟาดป้าบเข้ากลางหลังจนเด็กหนุ่มร่างสูงสะดุ้งทำให้แว่นรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรอย่างที่คิด
“ใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้ว พี่ไปก่อนนะ โชคดีนะแว่น”
“มึงอ่ะ ทำพี่อุ่นหนีไปเลยเห็นมั้ย” แว่นด่าเพื่อนสนิท แทนไทยเพียงแต่ยิ้ม ทั้งสองเดินออกจากคาเฟ่ไปทางจุดจอดรถของโรงพยาบาลเพื่อขึ้นรถเวียนกลับไปยังอาคารเรียนรวม โชคดีที่ตอนนี้หลายคณะยังไม่กลับมาเรียนหลังจากกลางภาคทำให้ถนนหนทางรวมทั้งรถสาธารณะมีที่ว่างอยู่ตลอดเวลา
“ผมต้องบอกคุณกี่ครั้งถึงจะพอ เลิกตามรังควานผมซะที” เสียงหวานที่ดังขึ้นจากซอกหลืบหนึ่งของทางเดินโรงพยาบาลที่ไม่มีคนผ่านทำให้ทั้งสองหยุดชะงัก เสียงของคนพูดไม่ได้ดังอะไรมาก หากเป็นคนเดินผ่านไปมาคนอื่นอาจจะไม่ได้สนใจ แต่สำหรับทั้งสองที่เพิ่งพูดคุยกับเจ้าของเสียงมารู้ดีว่าเขาเป็นใคร
แว่นกวักมือเรียกเพื่อนตัวสูง ย่อตัวลงใช้ถังขยะบดบังร่างของตัวเองไว้ แทนไทยมีสีหน้าลังเล แต่เมื่อถูกกวักมือเรียกซ้ำๆชายหนุ่มจึงยอมลงไปนั่งข้างเพื่อนสนิทแล้วโผล่ศีรษะออกมาดูสถานการณ์
น้ำอุ่นในชุดกาวน์ยืนหันหลังให้กับพวกเขา แต่สีหน้าหวาดกลัวของมีนในชุดนักศึกษาที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายบ่งบอกว่าชายหนุ่มไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“คุณธารครับ ผมขอร้อง อย่างน้อยวันเกิดคุณเชษฐ์...”
“ถ้าผู้ชายคนนั้นประสบอุบัติเหตุ เป็นโรคร้ายแรง หรืออะไรก็ตาม อะไรที่ผมช่วยยื้อชีวิตเขาได้ ผมยินดีจะช่วย อย่างน้อยที่สุดก็ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์คนนึง แต่นอกจากนั้น ก็ทางใครทางมัน” เสียงหวานขัดอย่างเย็นชา แว่นไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ออกจากปากของปู่รหัส แค่ฟังขนอ่อนหลังคอเขาก็ลุกพรึ่บพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แทนไทยที่ขมวดคิ้วมุ่นทำท่าจะลุกออกไป แต่แว่นคว้าตัวเพื่อนสนิทไว้ทันเวลา
“ได้โปรดเถอะครับคุณธาร ถ้ามันเป็นเพราะผม ผมจะไม่ยุ่งกับคุณเชษฐ์อีก” ถึงแม้น้ำเสียงจะสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ แต่ร่างเล็กก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“อย่าสำคัญผิด มีนา” เสียงเย็นของน้ำอุ่นเจือแววขบขัน ราวกับอีกฝ่ายกำลังเล่าตลกร้ายบางอย่างให้เขาฟัง “ผมไม่เคยเกลียดคุณ ถามว่าในฐานะเพื่อนร่วมโลก ผมรังเกียจสิ่งที่คุณกำลังทำมั้ย? ก็มีบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่กงการอะไรของผม”
ร่างโปร่งก้าวเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่ยืนตัวสั่น เชยคางมนให้เงยขึ้นสบตาเขา มีนสะดุ้ง แต่ไม่ยอมขยับไปไหน
“คนที่ผมเกลียด คือผู้ชายคนนั้น ความเกลียดของผมมันหยั่งรากลึกมานานกว่าที่คุณจะก้าวเขามาในชีวิตเขาเสียอีก”
น้ำอุ่นปล่อยมือจากใบหน้าของอีกฝ่าย
“ถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งวุ่นวาย พยายามให้ผมไปเจอกับเขาอีก ทั้งซัน ทั้งแว่น ทั้งแทนไทย จะได้รู้ ว่าเพื่อนที่แสนเรียบร้อยของตัวเองทำอาชีพเสริมอะไรในเวลาว่าง” ชายหนุ่มกอดอก “ถูกเชิญออกด้วยข้อหาค้าประเวณี ศพคงไม่สวยเท่าไหร่ คุณว่าไหม”
มีนก้มหน้านิ่ง ไหล่บางสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่
“อย่ามายุ่งกับผม ถ้ายังอยากมีชีวิตที่สงบสุข จำไว้”
เพื่อนรักทั้งสองกลิ้งตัวหลบเข้าไปในสนามหญ้าข้างทางแทบไม่ทันเมื่อร่างโปร่งสะบัดชายเสื้อหมุนตัวเดินกลับออกมา เมื่อเห็นทั้งน้ำอุ่นและมีนาเดินออกจากตรงนั้นไปแล้ว แว่นจึงได้ดึงแทนไทยออกมาจากพงหญ้า ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ถูกจับได้
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?” แทนไทยพึมพำอย่างสับสน ไม่รู้จะโกรธกับท่าทางของคนรัก หรือตกใจกับข้อมูลที่ได้รับ แล้วคุณชื่อเชษฐ์เป็นใคร ทำไมถึงได้มีอิทธิพลกับชีวิตของทั้งสองคนนี้นัก
“ไอ้แทน กูรู้ว่าถ้ามองจากเมื่อกี้พี่อุ่นดูไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่กูอยากให้มึงคิดถึงมุมมองของพี่เขาด้วย” แว่นเอ่ยดักทาง แต่คนที่ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ได้หันมามองเพื่อนอย่างงุนงง
เด็กหนุ่มถอนหายใจ
“กูมีเรื่องของมีน กับผู้ชายที่ชื่อเชษฐ์จะเล่าให้มึงฟัง”
แทนไทยยกมือขึ้น เตรียมจะเคาะประตูห้องพักที่เขามาบ่อยเสียจนแทบจะกลายเป็นรูมเมทของเจ้าของห้อง แต่หดมือลงอย่างลำบากใจ สิ่งที่เขาได้รับรู้ในวันนี้มันมากเกินกว่าที่ร่างสูงจะประมวลผลไหว
มีนกับพ่อของพี่อุ่น..
เขาไม่ใช่คนที่ชอบจี้ให้คนอื่นพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา แต่ในกรณีนี้ ความเกลียดชังที่อีกฝ่ายมีต่อบิดาส่งผลกระทบต่อตัวของน้ำอุ่นโดยตรง เข้าอยากมีส่วนช่วยเหลืออีกฝ่ายในมุมนั้นของชีวิต
อยากให้ร่างโปร่งรู้ว่าสามารถไว้ใจเขาได้ในทุกๆเรื่อง
“อ้าว แทน จะมาทำไมไม่บอก เข้ามาก่อนสิ”
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยคนรักของเขาในชุดเสื้อยืดตัวหลวมเพียงตัวเดียว น้ำอุ่นมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็เปิดประตูออกกว้างให้คนรักเข้ามาในห้อง ร่างสูงก้าวเข้ามาตามคำเชิญ ถึงแม้จะมาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้แทนไทยกลับประหม่าจนเลือกที่จะนั่งบนเก้าอี้เขียนหนังสือแทนที่จะรวบตัวเจ้าของห้องลงไปบนเตียงด้วยกัน
น้ำอุ่นเลิกคิ้ว ตวัดขาคร่อมบนตักของลูกครึ่งหนุ่ม แขนเรียวดอบคล้องรอบคอคนรักทำให้เสือ้ยือดที่ปกคลุมแค่หมิ่นเหม่อยู่แล้วเลิกสูงจนแทบไม่มีอะไรปิดต้นขาขาว
เด็กหนุ่มแทบจะตะปบต้นขาขาวเนียนแล้วตวัดให้เกี่ยวรอบเอวเขาตามสัญชาตญาณ
ตั้งสติสิวะไอ้แทน!
“พี่อุ่น...”
“เป็นอะไรน่ะเรา ท่าทางเครียดๆ เรียนหนักเหรอ?” ร่างโปร่งเอียงคอถาม “เดี๋ยวพี่ช่วยนะ”
“พี่อุ่นครับ เดี๋ยว..” ริมฝีปากบางซุกไซร้ซอกคอของคนรักอย่างชำนาญ ถึงแม้น้ำอุ่นจะไม่มีประสบการณ์ แต่ชายหนุ่มก็ถือว่าเป็นคนที่เรียนรู้เร็วคนหนึ่ง “อืม..พี่...เดี๋ยวครับ”
“เครียดเหรอ กล้ามเนื้อตึงเชียว” น้ำอุ่นขบเม้มเบาๆที่ต้นคอคนรัก กระซิบด้วยน้ำเสียงหวานหยด “ตรงนี้ก็ตึง”
สะโพกกลมกลึงบดเบียดกล้ามเนื้อที่เครียดที่สุดในร่างกายของคนรัก แทนไทยถึงกับกัดริมฝีปาก อยากลงโทษจอมซนบนตักใจจะขาด แต่กลัวว่าหลังจากนั้นจะไม่มีโอกาสได้คุยกัน
“พี่อุ่น พอก่อนครับ” คนอายุน้อยกว่าดันร่างของคนรักลงจากตักด้วยแรงไม่เบานัก แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้ดวงตาสีอัลมอนด์ไหววูบ น้ำอุ่นก้าวถอยหลังกลับไปนั่งบนเตียง พยายามควบคุมเสียงให้ฟังดูเป็นปกติ
“แทน…พี่ทำอะไรผิดรึเปล่า?”
“พี่อุ่น มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คือผมอยากมาคุยเรื่องสำคัญจริงๆ” แทนไทยคุกเข่าลงบนพื้นข้างเตียง กุมมือคนที่มีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ทั้งที่ริมฝีปากยังมีรอยยิ้มจางๆประดับอยู่
“…?” ร่างโปร่งนั่งนิ่ง รอฟังธุระที่คนรักว่า
“วันนี้ผมได้ยินที่พี่คุยกับมีน...เรื่องคุณพ่อของพี่...”
เพียงแค่ประโยคนั้นหลุดออกจากปาก สีหน้าของร่างโปร่งก็ปิดกั้นตัวเองลงราวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ชัตดาวน์ น้ำอุ่นผุดลุกขึ้นจากเตียง พยายามดึงมือเรียวออกจากการเกาะกุมของร่างสูง แต่แทนไทยดึงไว้ไม่ยอมปล่อย
“แทน ปล่อยพี่...”
“พี่อุ่น ผมไม่อยากให้พี่ทำแบบนี้..”
“พี่บอกให้ปล่อย”
“พี่อุ่น...”
“ถ้าแทนไม่ปล่อย เราเลิกกัน” เสียงหวานเย็นเยียบ เหมือนน้ำเสียงที่น้ำอุ่นใช้ตอนที่คุยกับมีนา แต่ถึงแทนไทยจะดูเป็นคนง่ายๆสบายๆกับทุกเรื่อง เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่จะยอมถอยง่ายๆเพียงเพราะคำขู่
“เอาสิครับ ถ้าความรักของผมมันมีความหมายน้อยขนาดนั้นสำหรับพี่” เด็กหนุ่มไม่ยอมปล่อยมือของคนรัก มิหนำซ้ำยังกุมกระชับแน่นยิ่งกว่าเดิม “แต่อย่างน้อยก็ให้ผมได้ช่วยพี่ซักนิดก็ยังดี”
“ทำไมกัน ทำไมทุกๆคนต้องพยายามลากพี่กลับไปหาผู้ชายคนนั้น” น้ำอุ่นทรุดกลับลงไปบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง “ทำไมถึงไม่ปล่อยให้พี่อยู่ในส่วนของพี่”
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมก็ไม่ได้จะอะไรหรอกครับ” แทนไทยถอนหายใจ ทรุดตัวลงบนเตียงแล้วดึงร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมกอด “แต่นี่แค่พูดถึง สีหน้าพี่ก็มีแค่ความโกรธ ความโมโห ความเกลียดชัง แบบนี้น่ะเหรอครับที่เรียกว่าอยู่ส่วนใครส่วนมัน”
“แทนไม่เข้าใจ...”
“ก็ทำให้ผมเข้าใจสิครับ” เด็กหนุ่มเชยคางมนขึ้น จ้องลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาล “ให้ผมอยู่เคียงข้างพี่ ไม่ว่าจะเรื่องดี หรือเรื่องร้าย”
น้ำอุ่นมีสีหน้าลังเล แต่เมื่อเห็นแววตาแน่วแน่ของคนรัก ร่างโปร่งจึงยอมเปิดปากเล่าอย่างไม่เต็มใจ
-----------(ครึ่งแรก)-------
คาดว่าลงตอนนี้เสร็จอาจจะวาร์ปจนถึงสิ้นเดือน เนื่องจากอาจจะต้องไปในที่ที่ไม่มีเน็ต แต่ถ้ามีจะพยายามมาอัพเน้ออออออ
น้องแว่นน่าจะเหลืออีกห้าหกตอน ไม่รวมตอนพิเศษและอดีตติณณ์เหนือ...
ว่าแล้วก็คอนเฟิร์มซะหน่อย
มีอดีตติณณ์เหนือเป็นตอนพิเศษ ถ้ามันยาวมากอาจจะต้องเป็นเรื่องสั้น แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นตอนพิเศษ ไม่แยกเรื่อง55555และเนื่องจากแว่น ใกล้จบ(บอกว่าใกล้แต่ก็หลายตอนแหละมั้ง5555) เจ้าเปิดเรื่องใหม่ทิ้งไว้ก่อนจะวาร์ปถึงสิ้นเดือน ชื่อเรื่อง
Your Stranger รัก||ไม่||ลืม
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59401.0เผื่อใครจะอยากรู้สาเหตุที่พี่อุ่นเกลียดคุณพ่อเข้าใส้ก่อนครึ่งหลังจะมา อิอิ