ตอนพิเศษทำสุกี้
[/b]
สวัสดีครับโพ้มมมมม ขอเสียงหน่อยยยยยยย
เปิดมาก็จะดูหล่อๆ เพราะผมไม่ใช่ใคร ผมคือเติ้ลรสแอปแปด หอมหวานแอปเปิ้ลใครๆก็ยากจะลิ้มลอง สาวคณะใดได้สบตาเป็นต้องสะดุด
หล่อโลกมืดเลยว่างั้น?
เพราะแสงสะท้อนหัวล้านเข้าตา!!
พ่าม!!
ไม่ใช่...
ไหนๆก็เปิดมาหล่อก็ขอหล่อแบบสติดีกันหน่อยครับ ตอนนี้ผมก็กำลังมาเดินตลาดครับเราจะมาเปิดความลับชาวหอในให้ทุกคนรู้กัน อยากรู้ใช่ไหมหล่ะครับ
ช่ายยยยยย
ครับ อย่างที่ทุกคนรู้นะครับว่าชาวหอเราเนี่ย จะทำอะไรกินก็ลำบาก ไอ้จะเดินไปเซเว่นลงบันไดก็ขี้เกียจ ท้อแท้มากแค่ไหนใครจะรู้ เวลาตอนกลางคืนชาวมหาลัยในเมืองอัพปิ้งชาบูเชคอินทองหล่ออาร์ซีเอ นี่ชาวบ้านนาได้แต่เปิดรูปชาบูในมือถือแล้วเลียจอ หนักสุดคือเคอร์ฟิวหอแล้วเดินไปหาอะไรกินไม่ได้ โลกชาวหอในมันก็จะโหยประมาณนี้แหล่ะครับ ฮึกๆ ขออนุญาตยกชายเสื้อมาปาดน้ำตา
“ไอ้เติ้ล มึงหยิบผักไปยัง ลีลาชิบหาย” ไอ้นี่ก็เหมือนชาติที่แล้วตายตอนเตะบอล ขัดกูจัง ขัดมันทุกลูก กูกำลังทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จอยู่ไม่เห็นหรอ!!
“ทำไมมึงอยากกินชอคโกแลตหรอวะ”
“แลตห่าอะไร”
“คิดจะผัก คิดถึงคิดแคททททททท”
“...”
“...”
“...”
“เงียบ สงสัยไม่คิด”
โวะ อยากตลกแต่เพื่อนไม่เห็นด้วย เลยจำใจต้องมานั่งคัดผักต่อ เห็นกูเป็นหมวกคัดสรรบ้านหรอถึงต้องมานั่งคัดผัก หรือหน้ากูเหมือนหนอน คือกูต้องรู้ป่ะว่าผักไหนอร่อย พอต้มมันก็เปื่อยหมดมะ จะลองเสียสละแดกให้ก็เกรงใจหน้าป้าคนขาย อีกนิดคงเอาที่ไล่แมลงวันฟาดหน้ากูแล้วเนี่ย
อ่ะๆ ไหนก็เกลิ่นขนาดนี้ ก็พอจะรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าเราจะทำอะไรกัน เราจะทำสิ่งที่เด็กหอเลเวลคนรวยเท่านั้นที่ทำให้ นั่นก็คือ!!
ซื้อมหาลัย!!
ไม่ใช่!!
อันนั้นรวยไปครับ เราจะทำสิ่งที่คนธรรมดาทำก็พอ นั่นก็คือ!!
สุกี้!!!
คือเด็กหอในเนี่ยมันก็จะมีการแบ่งวรรณะกันหน่อยครับ ต่ำสุดอย่างระบบจัณฑาลก็จะน่าสงสารหน่อย เป็นระบบตามมีตามเกิด คือสมมุตมึงมีมาม่าแต่ไม่มีพลังวิเศษแบบคาถานินจานารูโตะหรือมึงไม่สามารถร่ายเวทอินเซนดิโอ มึงก็อาจจะต้องนั่งญาณจนกว่ามาม่าจะสุกเองซึ่งนั่นหมายความว่าจงหิวและหลับไปซะแล้วค่อยไปมโนภาพฝันว่าได้แดกอีกที
หรูขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นระบบคนขยัน ที่จะเดินลงไปกดน้ำร้อนตรงประตูหอชั้นหนึ่งพอขึ้นมาถึงชั้นห้ามาม่าก็อืด และหรูขึ้นมาอีกคือมีกาต้มน้ำเป็นของตัวเอง นี่จริงๆ ตอนผมเจอผมก็ว้าวแล้วนะครับ มันลงทุนอะไรเบอร์นี้ ได้ข่าวว่าสาวๆวิศวะนี่ต้มใส่ถุงอังหน้าท้องตอนเป็นประจำเดือนกันใหญ่ ส่วนเราชายไทยก็ครับต้มมาม่า ชงกาแฟยามสอบซึ่งส่วนใหญ่กาพวกนี้จะมีสถานะเป็นของสาธารณะครับ ขนย้ายง่าย ยืมแล้วยืมอีก
แต่ครับแต่ มันก็จะมีแบบเยี่ยงวรณะพราหมณ์คือไฮโซสุดนั่นก็คือมี หม้อสุกี้!! คือมันยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวครับ ถึงจะต้องแอบลักลอบกันหน่อย ทำอาหารก็ต้องมีความลับเยี่ยงค้ายา เดี๋ยวป้าหอจับได้จะโดนบ่นประมาณสามนาทีว่ามันกินไฟ
ไฟกินไม่ได้แต่สุกี้กินได้นะครับป้า!!!
“โหลอู้ วันนี้มึงมาห้องเติ้ลป่ะ ว่าจะทำสุกี้กันอ่ะ” ไอ้ปันที่กำลังทำตัวฉลาดเลือกเนื้อสัตว์แนบหูคุยกับโทรศัพท์ครับ คือมันดูทำตัวฉลาดเพราะเมื่อวานยังสับสนไก่กับเป็ดอยู่เลย นับภาษาอะไรกับเลือกเนื้อสัตว์ที่อยู่ในสีแพนโทนส้มเหมือนกัน ไม่มีท้าง! ใครไหนจะหล่อและฉลาดได้เท่าหนูเติ้ล!!
“ไอ้เติ้ล มึงเลือกผักเสร็จรึยัง!!!”
โว้ย!!!
วุ่นวายจริ๊ง!!
คิดจะผักคิดถึงคิทแคท!!
ออกจากตลาดเสร็จเราก็มุ่งหน้ากลับหอในบ้านเราครับ โดยรถที่สนับสนุนโดยคุณโยชิเจ้าเก่าเจ้าเดิม เสียเวลาเล็กน้อยเพราะมัวแต่เสียเวลาอธิบายเพศผักชีให้ไอ้ปันฟัง คือผมเล่นมุกผักชีเป็นเพศเมียครับ ไอ้ปันมันเลยสงสัยว่าแล้วทำไมไม่มีผักฮี กูนี่ไปไม่เป็นเลย ไม่รู้จะงงที่มันสงสัยเรื่องเพศผักหรือชื่อที่ฟังดูแปลกๆอาจจะไม่ผ่านเซ็นเซอร์ของผักดี ถามกูกูจะตอบได้ไหม หน้ากูเหมือนผู้ถนัดทางผักชีหรอ หรือมองๆไปแล้วหน้ากูคล้ายๆใบผักอ่ะ งง
“มึง เดี๋ยวอู้มากินด้วยนะ” ไอ้ปันชะโงกหน้ามาจากเบาะหน้า ผมก็พยักหน้าไป ว่าแต่เอาพี่หมอมาด้วยมะ ช่วงนี้ตัวติดกันเหลือเกิน อยากจะลองแซว แต่เห็นหน้าพี่หมอเหมือนพวกฆ่าหมีด้วยมือเปล่า กลัวใจจะฆ่าเติ้ลด้วยตีนเปล่าแทน ฮือๆ หนูเติ้ลเป็นคนบอบบางนะรู้ยัง
พูดงี้แล้วแบบอยากจะเมาท์มอยอ่ะ เอาจริงผมก็ดูออกแหล่ะว่าพี่หมอเหมือนจะเต๊าะเพื่อนผม คือไม่เหมือนจะ คือพี่มันเต๊าะเลยแหล่ะ โถ้ๆๆ อยากจะทำเสียงโถเยี่ยงแม่ค้าขายผักที่ตลาด โถแบบจริตกิ๊กสุวัจนี คือมันชัดมากครับ ประกบไม่ห่าง เข้าระยะประชิดหน่อยต้องแสดงความเป็นเจ้าของโดยการกอดคอแล้วทำหน้าหมาหวงลูก ขู่ฟ่อๆใส่ทุกคนรอบข้าง ไอ้เพื่อนผมก็ไม่ได้ดูขัดขืนอะไรทั้งๆที่ตอนแรกบ่นแทบทุกวัน ซักพักเหมือนมันชินก็พิงพี่ปล่อยให้พี่ดึงหูดึงหางแต่โดยดี เพื่อนไม่ได้อึดอัดใจเราก็ไม่รู้จะไปอึดอัดใจแทนทำไมครับ มีแต่มันนั่นแหล่ะจะชอบมโนไปเรื่อยว่าเพื่อนไม่ชอบ เพื่อนตีตัวห่าง สายมโนที่แท้จริง
เพื่อนนะครับ มิตรภาพเพื่อน
ต่อให้วันพรุ่งนี้มันลุกขึ้นมาใส่กระโปรงยาวสิบสี่สั้นเสมอตูดไปเรียนพวกผมก็อยู่ข้างมันอยู่ดี เพราะนี่คือสิ่งที่เพื่อนเป็น คนเรามันสบายใจจะอยู่ที่ไหนมันก็อยู่ตรงนั้นครับ แล้วถ้ามันสบายใจจะอยู่กับพี่เขาเราเป็นเพื่อนก็มีหน้าที่แค่อยู่ข้างๆเคารพการตัดสินใจมันครับ
แต่ทำเพื่อนกูร้องไห้นี่ก็อีกเรื่องนะครับพี่หมอ
โห ประโยคเมื่อกี้นี่หล่อเลยวะ พูดไปครับ เห็นกล้ามพี่มันกูก็พนมมือล้อเล่นค้าบแล้ว ใครจะกล้าแหยมกับพี่เดือนเดือนคนดังมหาลัย อย่าหาว่านินทารุ่นพี่เลย แต่ไอ้พี่หมอนี่แม่งกลัวเมียชัดๆเลยเถอะ อ่ะโถ่ๆๆๆ มาทำเป็นเข้ม กูไม่เห็นขัดใจอู้ซักเรื่อง ว้ายๆ กลัวเมียนี่นา นินทาในใจได้ พี่มันไม่รู้ คริ
“เติ้ล ทำไมหน้ามึงชั่ววะ”
“งี้แหล่ะปัน ที่มาของทำไมตัวร้ายมักหล่อ”
หึ อยากจะหัวเราะแบบตัวร้ายใส่ ตัวประกอบอย่างมึงนั่งเป็นเครื่องปรับอากาศบนรถเงียบๆไปเถอะไอ้ปัน แล้วผมก็นั่งไถไลน์กับสาวคณะมนุษย์ตลอดระหว่างทางกลับบ้าน คนมันฮอตครับทำไงได้ เนี่ย ไม่อยากจะอวดว่า สาวๆทักมาเต็มเลยว่าพอมีเวลาว่างซักสองสามชั่วโมงไหม ไอ้แบบนี้จะชวนกูเดทแน่ๆ
ใช่สิ ต้องใช้แน่ๆ !!
เติ้ลรู้เติ้ลเรียนมา!!
พอมาถึงหอเราก็ต้องเล่นละครกันต่อครับ ทำเป็นถุงที่ถือขึ้นนั่นหาใช่อาหารสดไม่ ทำหน้าทำไม่รู้เรื่อง ส่วนที่พิรุธหนักคือไอ้ปัน ไอ้บ้านี่เหมือนแม่งรู้ว่าทำผิดแล้วรู้สึกผิดอ่ะ ล่กใหญ่เลย ตาดำแม่งจะมาเจอกันตรงกลางแล้ว โอ๊ย กูสงสารตัวเอง ห้องผมอยู่ชั้นสี่ ก็เดินกันจนแข็ง
ขาแข็ง?
ใช่!!
อะไรจะแข็งวะ ตะไคร้หรอ แหม ... ชงเอง ตบเอง แหมเอง กูเองนี่แหล่ะ เปิดประตูห้องไปไอ้อู้ก็นอนอยู่บนเตียงรออยู่แล้ว ดีครับได้ลูกมืเพิ่มเราก็เริ่มประกอบอาหารครับ ตื่นเต้นเล็กน้อย ปกติจะสาระแนไปกินห้องชาวบ้าน ครั้งนี้ยืมเตาพี่โยมาทำ เริ่มเลยครับ ลำดับแรกเลยคือเราหันไปบอกไอ้พีว่ามึงเปิดกูเกิ้ลซิมาทำอย่างไร รวมตัวผู้ชายไม่แตะครัว เริ่มกันแบบมั่วๆครับ
“เค้าบอกให้ใส่น้ำลงไป”
“ใส่เท่าไหร่วะ” ไอ้ปันชะงักขวดน้ำ
“ใส่ๆไปเถอะมึง เอาที่ต้มได้” พรวดเดียวหมดขวดลิตรเลยต้องวิดออก เริ่มต้นก็พังเลย
“ใส่ซีอิ๊วสองช้อนชา”
“เห้ย เราไม่แดกชาจะหามาจากไหน”
“...” ชาโออิชิก็ได้มั้งปันเพื่อน ถุ้ย! นี่ก็เอ๋อไม่เคยหลุดคาแรกเตอร์
“ใส่ไปเถอะมึง เหยาะไป เหยาะๆหน่อย”
พรวด!!
อ่ะชิบหาย ซอสหก เป็นซุปน้ำดำเลยมึง น้ำสุกี้หรือน้ำท่อ...
“อะ เอาหน่า ถือซะว่าเป็นสุกี้ญี่ปุ่น” งี้ก็ได้หรอวะไอ้ปัน ...
“อ่ะมึงแก้รสชาติด้วยคนอร์” ไอ้อู้แก้สถานะการณ์ด้วยการโยนก้อนผงชูรสลงไปดังต๋อม รอมันเดือดปุดๆก็ค่อยตักชิมครับ
อื้อหือ...
เค็มจนไตต้องร้องขอชีวิต
ซีอิ๊วที่ว่าเค็มบวกคนอร์ไปอีก มึงไปเอาน้ำทะเลเดธซีมาต้มยังง่ายกว่า ไอ้นี่ก็รู้เลยนะว่าไม่เคยเข้าครัวกับแม่ จบปัญหาทุกอย่างด้วยคนอร์
“กูว่ามันไม่ใช่แล้วหล่ะ” ไอ้อู้รีบส่ายหัว หรอมึง กูว่าไม่ใช่ตั้งแต่ซอสหกจนดำมึงก็ยังโยนคนอร์เข้าไปแล้ว!!!
“สัด เค็มขนาดนี้ อยากลองเข้าโรงพยาบาลกันหรอมึง”
“เอาใหม่ๆ” ไอ้พียกหม้อเดินไปเทลงส้วมแล้วกลับมาเริ่มเทน้ำใหม่ครับ เทน้ำ เหยาะซีอิ๊วแบบไม่หก ใส่คนอร์ครึ่งก้อน ดมกลิ่นแล้วมโนไปว่ามันโอเคก็โปะผักลงไป ตอนนั้นเองที่ไอ้พีหันมามองหน้าผม
“ไอ้สัดเติ้ล มึงเลือกตะไคร้มาทำไมเนี่ย”
“เอ้า ก็มึงบอกให้กูเลือกผัก”
“ผักสุกี้!!”
“แปลว่าหมูหรอ”
“นั่นสุกร!!!”
“พ่าม!!”
เข้าขากันดีไม่มีใครเกิน ภาพตัดไปที่ไอ้ปันนั่งหน้าเครียดครับ ทำหน้าเครียดแบบนี้ รอซักสามวิครับ
1..
2..
3..
“ที่ใช่จังหวัดป่ะวะ!”
“อะไรวะปัน!!” ช่วยมันตื่นเต้นหน่อยครับ เพื่อนอุตส่าห์หน้าเครียดคิดมุก
“สุราช!!!”
“...”
โห...
ไม่คล้องเหี้ยอะไรเลย
“ห้า”
“ห้า”
“บวก”
อ่ะ เอาไปห้าห้าบวก แค่นี้เพื่อนปันก็ยิ้มดีใจแล้วครับ มักน้อย อยากจะเปิดเพจร่วมเป็นหนึ่งในกำลังใจให้ปันปันได้เล่นมุกตลกมีคนขำ ช่วยไปไลค์แอนด์แชร์กันหน่อยนะครับ ต่อความฝันให้นายหน้าจืดได้มีที่ยืนต่อไปในโลกที่โหดร้ายใบนี้ เอวัง
“เติ้ลๆ มึงหยิบหมูบูชามาซิ”
“ชาบู!”
จากนั้นเราก็เอ็นจอยอีตติ้งครับ หนึ่งในความสุขของเราชาวหอคือการล้อมวงกินสุกี้ กระดกแป๊ปซี่แล้วแข่งกันว่าใครเรอดังที่สุด เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ไอ้ปันที่ดูดวุ้นเส้นแล้วโดนเสี้ยนตะเกียบทิ่มปากก็ได้ไปอีกหนึ่งฮา ดูท่าทางจะมาสายตลกเจ็บตัว กินกันไปซักพัก ผมก็มองควันที่ลอยขึ้นไปด้านบน เออ ควันเยอะเหมือนกันแฮะ อาจจะเพราะมานั่งกินกันตรงกลางห้องด้วย ว่าแต่ ควันมันลอยไปตรงที่จับไฟไหม้ คงไม่เป็นไรหรอกม-
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!
“เห้ย สัญญาณไฟไหม้!!!!!” ชิบหายแล้ว สุกี้ทำพิษ!!!!
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะแดกสุกี้ต้องทำริมห้องไม่ก็ระเบียง!!
อ้าวๆ ไอ้ปัน มึงจะคว้าผ้าห่มวิ่งลงหนีไฟไปทำไม มึงกลับมา!!
-------------
มาแบบสั้นจุ๊ดแบบเจ็ดหน้าเวิร์ด เอามาคั่นเวลาให้หายคิดถึง 5555555555
ก็จะหายไปหน่อยค่ะ ช่วงนี้ไฟนอล แต่ก็ไม่อยากหายไปนานเพราะคิดถึงน้องอู้
ฮึกกกกกกกกก มาแบบชีวิตเด็กหอที่แท้จริง ลักลอบต้มสุกี้ ชีวิตที่ไฮโซของเด็กหอใน ณ ตอนนั้น
พี่หมอ :ไม่ให้คิดถึงโว้ยยยยยยยยยยยยยย