ll ..เด็กหอ ღ.. ll ตอนพิเศษสิบปีผ่านไป [17/11/19] p.33 ◄
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ll ..เด็กหอ ღ.. ll ตอนพิเศษสิบปีผ่านไป [17/11/19] p.33 ◄  (อ่าน 474722 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

                                                                               ...


#เด็กหอหมออู้
สารบัญ (อันน้อยนิดแต่ก็ยังทำ ... )
INTRO
ก๊อกก๊อกที่ 1 [เมทของผม]
ก๊อกก๊อกที่ 2 [หมอจีนแดง!!!]
ก๊อกก๊อกที่ 3 [ พี่แป๊ะแม่งพูดไม่รู้เรื่อง]
ก๊อกก๊อกที่ 4 [แมลงสาบมหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่]
ก๊อกก๊อกที่ 5 [กุญแจมือ]
ก๊อก 5.1 ไอ้ตัวไม่น่าเบื่อของผม (พี่หญิง)
ก๊อกก๊อกที่ 6  [คณะวิศวกรรมศาสตร์]
ก๊อกก๊อกที่ 7 [พี่หมอแพ้ผักชีกับกุ้งงอน]
ก๊อกก๊อกที่ 8 [ หน้าซุกตูด]
ก๊อกก๊อกที่ 9 [ กีฬาสีวิศวะ ]
ก๊อกก๊อกที่ 10 [ พีเออีห้าตัว]
ก๊อกก๊อกที่ 11 [พี่นักบอลน้องนักเชียร์]
ก๊อกก๊อกที่ 12 [เรื่องบนเตียง]
ก๊อกก๊อกที่ 13 [เครื่องกลเดินเครื่อง]
ก๊อกก๊อกที่ 14 [วิศวะบอกรัก]
ก๊อกก๊อกที่ 15 [สีชมพูสีตุ๊ด งั้นชอบตุ๊ดก็ได้]
ก๊อกก๊อกที่ 16 [วิศวะสร้างฝาย]
ก๊อกก๊อกที่ 17 [ความสับสน]
ก๊อกก๊อกที่ 18 [เลือกแล้วว่าจีบคนนี้]
ตอนพิเศษ ครัวเด็กหอในของชาววิศวะ
ก๊อกก๊อกที่ 19 [ฝันหวานวิศวะจูบ]
ก๊อกก๊อกที่ 20 [มิตรภาพคือเต่า ... นั่นตะพาบ!!!]
ก๊อกก๊อกที่ 21 [วิศวะกับเดทแรก]


วันควายๆของคุณชายโย (1)
วันควายๆของคุณชายโย (2)
วันควายๆของคุณชายโย (3)

ก๊อกก๊อกที่ 22 [พี่ช่วยน้อง]
ก๊อกก๊อกที่ 23 [อู้...]
ก๊อกก๊อกที่ 24 [มามีอะไรกันเถอะ]
ก๊อกก๊อกที่ 25 [ครั้งแรก]




                                   
INTRO



         ผมเคยคิดว่าผมการเริ่มต้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวครับ


 
      ไม่ว่าจะย้ายโรงเรียนตอนประถม การเริ่มต้นใหม่ของชีวิตในกรุงเทพ กว่าจะรวบรวมความกล้าควบคุมลมปราณตามตำราบทที่หนึ่งให้ก้าวขาเข้าไปให้ห้องก็ล่อไปเป็นสิบนาที ให้หัวตีกันให้ยุ่งว่าเมื่อเดินไปยืนอยู่หน้าดานดำที่เป็นสีเขียวควรจะพูดอะไรก่อนดี สวัดดีก็จะดูทางการเกินไป ดีจ้าก็จะรู้หมดว่ามาจากต่างจังหวัด จะทักเป็นภาษาอังกฤษก็จำไม่ได้ว่าควรใช้กู้ดมอร์นิ่งหรืออาฟเต้อนูน สุดท้ายก็เลยพูด กู้ดไนท์ไป เรียกเสียงฮาได้หนึ่งฮา จนเป็นที่จดจำของเพื่อนทั้งห้อง

     หรือจะเป็นโตมาหน่อย เริ่มเข้ามัธยม ผมก็กลัวการย้ายห้อง การเปลี่ยนแปลงสังคมรอบๆ จากเด็กน้อยเขียนสมุดด้วยปากกาเขียนผิดแล้วก็ลบ ได้เข้ามาสู่การจับปากกาน้ำเงินเขียนกับขีดเส้นด้วยปากกาสีแดง แถมกว่าจะลบได้ก็ต้องรอลิขวิดแห้งเอาปลายแท่งไปจิ้มก็ดันเปื้อนตูดมาอีก แถมเป็นครั้งแรกที่ถูกแบ่งสายมาเป็นเด็กวิทย์-คณิตอย่างเต็มตัว เพื่อนใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเข้ากันได้ดีรึเปล่า




แต่เผลอแป๊ปเดียวเรื่องคาคุเรนเจอร์ก็ไม่น่าคุยเท่าสาวกระโปรงแดงข้างโรงเรียนซะแล้ว
 



หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยกลัวการเริ่มต้นอีกเลยครับ
อืม.. ไม่สิ

ไม่เรียกว่าไม่น่ากลัวหรอกครับแต่เปลี่ยนเป็นน่าตื่นเต้นแทนดีกว่าเพราะเราไม่สามารถรู้ว่าได้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เราจะได้เจอหลังจากเริ่มมันจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีแต่จะดีหรือไม่

เหมือนกับการเริ่มต้นครั้งใหม่ของผมครั้งนี้กับการยืนอยู่หน้าป้ายหอในของมหาวิทยาลัยกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของการเป็นนิสิตและเด็กหออย่างเต็มตัว การเริ่มต้นพจญภัยครั้งใหม่ของผม

จะเป็นอย่างที่เค้าพูดกันไหมนะ? คำว่า





“คนในไม่อยากออก คนนอกไม่อยากเข้า”









---
ใครไม่กล้าเมนต์ติดแทคทวิต  #เด็กหอหมออู้ ได้นะคะ

แอ๊ะ ฝากเนื้อฝากตัวฝากใจด้วยนะคะ


 ** สถานที่ในเรื่องเป็นสถานที่สมมุติ เราแค่ต้องการดึงความเป็นเด็กหอที่เคยอยู่มาเล่าต่อกันฟัง
     รบกวนอย่าคอมเม้นต์พาดพิงมหาลัยนะคะ รวมไปถึงกิจกรรมก็ยำๆเอา เป็นแค่เพียงเรื่องสมมุตินะคะ **
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2019 20:24:37 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
Re: .. เด็กหอ .. ll intro + 1
«ตอบ #1 เมื่อ16-02-2017 20:25:46 »

ก๊อกก๊อก 1 : เมทของผม






ฮึ่บ!
ฟุ่บบ!



แฮ่ก เหนื่อยชิบหายเลยโว้ยยยยยย
ผมล้มตัวดังแอ้กใส่กองผ้าห่มที่เพิ่งบนขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง โครตจะเหนื่อย ไหนๆมหาลัยจะบังคับปีหนึ่งให้อยู่หอในทั้งที หอก็ล่อมีซะห้าชั้นแต่ไม่มีลิฟต์ให้ นี่ขนาดของผมน้อยนะยังขนสี่ห้ารอบ มีแคมเปญสนับสนุนให้นิสิตออกกำลังกายอะไรอย่างนี้เหมือนรายการเดอะเฟสรึเปล่าวะ


“โอ๊ยยยย ปวดขาโครตๆ” ผมดิ้นไปดิ้นมาบนผ้าห่มโง่ๆลายแม่มดน้อยโดเรมี



 … ใช่ครับ โดเรมี
ไอ่ตอนซื้อก็ว่าแน่ใจแล้วนะว่าแม่ค้าบอกว่าโดเรม่อน ตอนคลี่ออกเป็นโดเรมีนี่ผมแทบจะฉีกมันทิ้งไปเป็นผ้าถูพื้น
อุส่าแอตติดได้ชื่อเป็นหนุ่มคณะวิศวะคณะชายโฉด ภาพตัดมาต้องมาห่มผ้าห่มสีชมพูมีแม่มดผู้หญิงสี่ห้าตัวยืนฉีกยิ้ม เครียดครับเครียด


น้ำตาตกกับผ้าห่มเสร็จ ผมมองไปรอบๆห้อง เตียงทั้งสามเตียงและเตียงชั้นบนยังโล่ง สงสัยเมทร่วมห้องยังไงมา นี่กูแอบเปลี่ยนเตียงได้มั้ยเนี่ย เตียงสองชั้นนี่หารครึ่งซะที่แทบไม่กะเหลือที่ให้กูนอนดิ้นกันเลยทีเดียว



ก๊อกๆ



“ไอ้อู้ กูเอง”


“ชื่อกูหรอ แปลกดี”

“สัส” ด่าพอเป็นพิธีพอมันหมุนลูกบิดดูว่าไม่ได้ล็อค มันก็เปิดเข้ามาเลย มันที่ว่านี่คือไอ้ปันครับ เพื่อนร่วมสาขาที่รุ้จักกันมาตั้งแต่วันแรกที่รายงานตัว วันแรกที่เจอมันยืนโง่ๆเป็นอนุสาวรีย์ตี๋ขายน้ำเต้าหู้อยู่คนเดียว ดีนะใส่ชุดนักเรียนมา ไม่งั้นจะคิดว่าเป็นคนที่หลงมาจากทัวร์จีนแล้ว
“อ้าว เมทมึงยังไม่มาเลยซักคนหรอ”

“มาครบแล้ว มึงเห็นมั้ย ไหว้สิ” ผมบู้ปากไปตรงเตียงว่างๆ

“ไหว้ครับ แหมตัวใสเชียวคิดว่าตัวร้ายในพาวเวอร์พัฟ ถุ้ย! ไอ่สัสอู้ กวนตีน”

“แล้วเมทมึงหล่ะ”

“ซิ่วไปสอง เหลือสองหมอกับพละ แต่ยังไม่มาซักคน” ไอ้ปันเอาเท้าเขี่ยๆลังที่วางขวางทางเดินออก ปันอยู่หอตรงข้ามครับ โดยปกติอยู่คนละหอจะไปมาหาสู่กันต้องเซ็นยุ่งยากป้องกันคนภายนอก แต่เพราะนี่เห็นหอชายมันเลยเดินเนียนๆขึ้นมาได้ไม่เป็นไร บวกด้วยหน้าตาไอ้ปันดูไปมีพิษมีภัย มองผ่านๆก็เหมือนขนขายน้ำเต้าหู้แถวหน้าหอมาเดินเล่น

“ดีว่ะได้หมอ มึงคงแทบไม่ต้องทำความสะอาดห้องเลยมั้ง” ผมจินตนาการภาพหมอขึ้นมารางๆในความคิด
อืม ..
คงประมาณผู้ชายตัวแห้งๆเล็กๆเดินถือหนังสือใส่แว่นหนาๆ ผิวขาวๆ อยู่ด้วยกันเป็นลักษณะฟาร์มแท่งเต้าหู้แว่นเดินได้
แล้วแม่งคงต้องรักสะอาดขนาดถูห้องทุกวันเช้าเย็น มาม่าไม่กินเพราะสารก่อมะเร็งเยอะ เหล้าไม่แตะเพราะเดี๋ยวตับแข็ง อย่าครับอย่าคุณอู้ผมกินเหล้าไม่เป็น อะไรแบบนี้ อ่ะ ว่าไปครับ เคยเห็นจากในการ์ตูนน้องสาว

“เออกูว่างั้น ก็ดีอ่ะ แล้วเมทมึงคณะไรบ้าง ” 

“ไม่รู้ว่ะ” จริงๆตอนจองหอเค้าก็มีให้ไปตามหาเมทอยู่นะครับ แต่ผมก็ขี้เกียจเกินกว่าจะไปหา เดี๋ยวก็ต้องมาเจอกันวันเข้าหออยู่ดี อีกอย่างถ้าเป็นหอรวมก็คงอยากจะรู้เหมือนกันว่าสาวน้อยจะชื่ออะไรกันบ้าง นี่มีช้างกันครบห้าคนไม่เห็นน่าสนใจตรงไหน


ผมนอนแปะอยู่บนเตียงกับไอ้ปันได้ซักพักก็ลุกจัดของเข้าตู้ให้เสร็จ กว่าจะเสร็จก็เริ่มจะเย็นแล้วเลยชวนมันไปหาอะไรกินที่โรงอาหารแถวหอ ป่านนี้เมทก็คงจะมากันครบได้แล้วแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย  ผมกับปันเลือกกินข้าวราดแกงง่ายๆ แล้วก็ปั่นจักรยาน(ของไอ้ปันอีกนั่นแหล่ะ...)เล่นรอบวงเวียน ฟังผ่านๆเหมือนจะดูเอ็มวี แต่จริงๆแม่งร้อนชิบหายครับเลยครับ ไอ้ที่ปั่นเร็วๆนี่ไม่ได้จะฟิตโชว์สาวๆนะครับมันร้อนตูดจะไหม้
ในวงเวียนผมเห็นๆสาวมาลดความอ้วนปั่นจักรยานกันเต็มไปหมดแต่สุดท้ายก็ไปเจอหน้าเดิมๆดูดสเลอปี้คลายร้อนอยู่หน้าเซเว่น เอวัง

ก็ปั่นสำรวจม.จนกระทั่งฟ้ามืดนาฬิกามือถือบอกว่าทุ่มนึงนั่นแหล่ะครับ ควรค่าแก่การกลับหอไปทักทายเพื่อนร่วมห้อง ผมอยู่หอสามชั้นห้าห้องห้าหนึ่งสี่ ส่วนไอ้ปันก็อยู่หอสี่ครับ เลยต้องแยกทางกันหน้าหอ

ก่อนขึ้นหอก็แอบทักทายป้ายามซะหน่อย เผื่อไปเมาแล้วเข้าหอสายจะได้ไม่ต้องเซ็น คิคิ


“นี่หนูปฏิหาริย์ใช่มั้ย ห้าหนึ่งสี่รึเปล่าลูก” ป้ายามยิ้มทัก

“ครับใช่ครับ”

“เอ้อ หลงมาหอรุ่นพี่คนเดียวเลยเนาะ”

“หอรุ่นพี่?” ข้อมูลใหม่ทำตัวคิ้วกระตุกเล็กน้อย

“ปกติปีหนึ่งเค้าอยู่หอสี่กันหมด ส่วนใหญ่หอสามเนี่ยมีแต่พวกปีอื่นๆ สงสัยปีนี้เด็กเยอะ หนูเลยหลุดมาอยู่หอนี้คนเดียว อ่าเอ่อ...แล้วนี่หนูรู้เรื่องที่ห้องหนูไม่มีเมทรึยังลูก”

“ห๊ะ! งี้ผมต้องจ่ายค่าหอทั้งหมดคนเดียวหรอครับ” ผมวิ่งเข้าไปเกาะเคาท์เตอร์ป้ายามประหนึ่งจิ้งจกกำลังจะตกจากเพดานทันที ไม่ตลกนะครับท่านผู้ชม ราคาหอปกติมันหารห้าตามจำนวน ถ้าเมทไม่อยู่ผมต้องจ่ายค่าหอค่าไฟคนเดียวล้วนๆ หลายพันอยู่นะ
ครับยิ่งผมดันโชคดีได้หอแอร์อีกด้วย

“อะ อ๋อไม่ลูกไม่ พอดีมีรุ่นพี่คณะแพทย์เค้าหาห้องอยู่พอดีเลยจะให้มาอยู่ห้องเดียวกับหนู” ป้าทำหน้าเลิ่กลั่กเล็กน้อยแต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เห็นจานส้มตำวางอยู่ป้าอาจจะแค่เผ็ดเลยพูดกระอึกกระอั่กก็เป็นไปได้


“อ๋ออออ ได้สิครับ” ชิวอยู่แล้ว ผมนี่เป็นมิตรกับประชาชน ขนาดหมาแถวบ้านยังเห่าใส่มาแล้วทุกตัว ยิ่งเป็นคณะแพทย์ด้วย ดีงามพระรามสี่ มีน้องแว่นมาคอยรักษาความสะอาด ป้ายามยิ้มพิมพ์ใจให้ผมสองที


“บุญรักษานะลูก”  เออะ .. เดี๋ยว ฟังดูแปลกไปหน่อย สงสัยเป็นคำอวยพรของที่นี่ แค่เมทย้ายเข้าต้องบุญมารักษาเลยเรอะ


แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรครับแค่รับรู้ว่ามีคนมาหารก็สบายใจเดินขึ้นหอพร้อมกับดูดนมเย็นที่ได้นมชมพูมาแทน เอาจริงนะครับปัญหาโลกแตกยิ่งกว่าเรียกน้ำปลาพริกหรือพริกน้ำปลา คือทำไมนมเย็นมันเป็นนมชมพู แล้วถ้าอยากแดกนมจืดเย็นๆผมต้องสั่งอะไร จะสั่งนมขาวเย็นๆก็ดูลามกไปอีกกลัวใจจะโดนปาด้วยเครื่องปั่น ผมว่ากระทรวงอะไรซักกระทรวงควรมีการวิจัยเรื่องนี้ได้แล้วนะครับ



ขึ้นบันไดมาจนหอบแฮ่กที่ขั้นสุดท้าย
อา ห้องยังปิดไฟอยู่แฮะ แสดงว่าแพทย์คงยังมาไม่ถึง ผมไขห้องเข้าไปทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม
เหลือบตามองไปเป็นผ้าห่มโดเรมีสีชมพูบนเตียงแล้วปวดใจอ่อนๆ วุ้ย คุณหมอเค้ามาเห็นจะเข้าใจผิดว่ากูเป็นตุ๊ดมั้ยเนี่ย




  ก๊อกๆ


เสียงเคาะห้องดังขึ้น ผมเหลือบมองนิดๆ ไอ้ปันเรอะ?


ก๊อกๆ
เอ๊ะหรือเมท

“ใครครับบบ” ผมตะโกนถามไปงั้นยังไงก็กำลังเดินไปเปิดอยู่ดี

“เมท..” เสียงตอบกลับมาเบาๆฟังแทบไม่ออกว่าพูดอะไร วู้ย สมเป็นแพทย์จริง สงสัยเซฟเสียงไว้คุยกับคนไข้ ระหว่างเดินไปเปิดก็ขอแอบจินตนาการภาพไว้ก่อนเลย จริงเมื่อไม่กี่วันก่อนแอบเห็นการ์ตูนในห้องน้องสาว ตัวเอกเป็นหมอตัวเล็กเหมือนกระต่าย ใส่แว่นขี้กลั...



แอ๊ด


“เปิดช้าชิบหายเลย”

ว...

เห้อะ ...
มืผมยังคงค้างท่ากำลังจะกำลูกบิดที่ถูกกระชากออกไปโดยเมทแพทย์
ผมมองไล่จากรองเท้าหนังมันดูท่าทางราคาน่าจะแพงที่ตัดกับกางเกงเดฟขาดรุ่งริ่งที่ดูเหมือนซื้อสามตัวร้อยตามตลาดนัด เสื้อนิสิตยับยู่ยี่จะหลุดไม่หลุดแหล่มาจากขอบกางเกง แขนเสื้อนิสิตยาวที่พับขึ้นมาถึงยันต้นแขนแถมมีซองบุหรี่ใส่ไว้ในกระเป๋าหน้าอก

ยังครับ นั่นยังไม่ได้ทำให้ผมตกใจเท่า
หน้าตาที่แม่งเหมือนพวกพรีเซนเตอร์ในทีวี คิ้วเข้มยิ่งกว่าสักคิ้วสามมิติ จมูกโด่งเป็นแท่ง ผิวที่ที่ควรจะขาวเหมือนพวกหมอทีไม่ค่อยโดนแดดดันแทนกำลังเข้าได้ดีกับกล้าม มองรวมๆแล้วไม่ค่อยใกล้เคียงคำจัดกัดความของคำว่าเรียนหมอเลยซักนิดเดียว ตาคมดุที่จ้องมองต่ำจากส่วนสูงที่น่าจะถึงร้อยเก้าสิบของมันลงมา



นี่มึงเป็นหมอจริงเรอะ !!!!!!!!!!!!!!!
ไม่สิ..
มึงยังเป็นนิสิตได้อีกหรอ !!!!!!!!!!

“นี่มึงเป็นวิศวะจริงหรอ...”

“เออะ” นั่นมันควรจะเป็นคำถามของกูรึเปล่า!! หมอบ้านมึงเรอะไม่นับหน้าตานี่มึงนักเลงชัดๆ


“เตี้ยชิบหาย..”




เอาเป็นว่าภาพตัดครับ รู้ตัวอีกทีก็เห็นมือตัวเองกระแทกอยู่ที่ปากมันแล้ว
แถมยังเห็นหมัดมันสวนกับมาอีก จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยครับนอกจากคำว่าหมัดกับส้นตีน










อึดอัดโว้ย


ผมนั่งท่ามกลางความเงียบ มองหน้าไอ้หมอหน้าหล่อตรงหน้าด้วยความหงุดหงิดขั้นสูงสุด นี่ขนาดต่อยสุดแรงที่มีทำไมมันยังดูหล่ออยู่วะแถมมีแผลข้างปากเป็นรอยเลือดอยู่จึ๋งนึงดูเผินๆก็เหมือนแค่สิวแตก ขอความยุติธรรมที ผมที่โดนมันสวนกลับมานี่สิปากแตกคิ้วเลือดไหลนี่ไม่นับรอยตีนตรงกลางพุง ยับเป็นหมาชิวาว่าตกบันไดเลย แม่งเอ๊ย

      แล้วนี่นั่งเงียบมองหน้ากันมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วครับ แล้วดูท่าจะจ้องกันไปอีกนาน หลังจากที่ฟัดกันอยู่หน้าห้องจนป้ายามต้องขึ้นมาเคลียร์จริงตอนแรกก็ไม่หยุดนะครับ จนกระทั่งป้ายื่นคำขาดว่าถ้าไม่หยุดจะไม่ให้อยู่หอนั่นแหล่ะครับ มือผมนี่หยุดโดยอัตโนมัติเลย แหม่ เงินนี่มันสำคัญต่อชีวิตจริงๆ


“ไอ้เตี้ย” ช้ะ... ผมจ้องมันเหมือนจะฆ่าทันที ใครเตี้ยมึงพูดดีๆนะไอ้หมอ
มันถอนหายใจแรงใส่ผม ยกมือขึ้นยีหัวตัวเองหนึ่งที คุ้นๆครับอย่างกะพรีเซนเตอร์แชมพู เห็นญาญ่าเค้าทำอยู่
“คือกูไม่ได้จะล้อปมด้อยนะ แต่มึงเตี้ยจริงๆ”


ผมค้อนมันแรงสุดชีวิต
เออใช่ครับใช่ เออใช่ก็ได้ครับ ไม่ต้องย้ำความจริงกูก็ได้ครับ
ผมสูง 160 ใช่ครับสูงร้อย – หก – สิบ
ถ้าคิดจะล้อผมบอกเลยมีคนเข้าคิวล้อผมล่วงหน้าไปแล้วร้อยคิวเสียใจด้วย จริงพ่อผมสูงร้อยแปดสิบเลยนะครับ พี่ชายผมก็สูงร้อยแปดสิบกันทั้งนั้น มีผมนี่ได้แม่มาล้วนๆ หยุดสูงไปตั้งแต่ม.2 ยืนกับครอบครัวแทบเป็นฮอบบิทในฝูงไททั่นก็ว่าได้ แถมนี่ยังได้หน้าแม่มาอีกเหมือนกัน ก็ไม่ได้หวานอะไรนะครับแต่ก็ไม่ได้ดูแมนคงเพราะส่วนสูงด้วย โดนล้อเป็นตุ๊ดให้ต้องมีเรื่องชกต่อยมาตลอด เคยนึกน้อยใจบ้างบางทีเหมือนกันครับ แต่พอส่องกระจก ดูไปมาก็น่ารักดีเลยไม่น้อยใจอีกเลย


“เสือก”


“เอ้าพูดดีๆนะไอ้สัส กูพี่มึงนะ”


“เป็นรุ่นพี่นี่มึงพูดจาทักทายรุ่นน้องมึงแบบนี้หรอ” ผมยืนขึ้น นี่ยืนแล้วนะแถมแอบโกงเขย่งเล็กน้อยด้วยแต่ก็ยังสูงได้เท่ามันที่นั่งอยู่บนเตียงอยู่ดี โคตรเศร้าขอเหล้าเข้มๆ ฮือออออ

“เฮ้อ กูไม่ได้อยากมีเรื่องกับมึงนะไอ้ลูกหมา งั้นก็พูดตรงๆง่ายๆมึงย้ายออกไปอยู่ห้องอื่นไป”

ห๊ะ..

ไอ้หมอมันยกมือขึ้นกอดอกมองหน้าผมเหมือนเพิ่งพูดประโยคธรรมดาเหมือนเมื่อเช้าทานข้าวอะไรออกมา แถมยักคิ้วกวนตีนใส่ด้วยอีกต่างหาก


“ทำไมกูต้องย้ายวะ?”


“เพราะกูอยากอยู่คนเดียว แล้วกูก็เป็นคนจองห้องนี้โดยให้เพื่อนช่วยจะได้นอนคนเดียว มีมึงนั่นแหล่ะสาระแนมาโผล่ได้ยังไง หาติดต่ออะไรก็ไม่ได้ ” มันชายตามองมือถือผมที่วางอยู่บนโต๊ะ มือถือโนเกียแบบปุ่มกดธรรมดา “เออ กูก็ไม่แปลกใจซักเท่าไหร่”
ฮึ้ย คว้ามาเก็บใส่กระเป๋าเลย มองเหยียดเชียวนะมึง


“มึงอยากอยู่คนเดียวแล้วมาอยู่หอในทำไมวะ” 

“ปัญหามันเยอะ ก็ไม่ได้ว่างขนาดจะมาอธิบายให้มึงฟัง กูจะพูดคำเดียวว่าย้ายออกไปซะ”

“กู ไม่ ย้าย” ผมจ้องหน้ามัน “ถ้ามึงอยากอยู่คนเดียวมากมึงก็ย้ายออกไปเอง”

“ไอ้เตี้ย กูย้ำอีกรอบนะว่ากูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึง ย้ายไปซะถ้าไม่อยากมีเรื่องวุ่นวาย”

“กูไม่ย้ายจบนะ กูก็ไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงเหมือนกัน” ผมจ้องตามันกลับยังไม่กลัว เก๋าจริงกู ยืนเต็มส่วนสูงยังได้เท่าแค่มันตอนนั่งบนเตียง ใครเปิดประตูมานี่เหมือนยาคูลขวดเล็กปะทะโค้กขวดลิตรกันเลยทีเดียว แต่ถึงตัวกูจะเล็กแต่เรื่องชกต่อยไม่แพ้ใครนะโว้ย!
ไอ้หมอจ้องหน้าผมเหมือนจะฆ่าให้ตายก่อนจะลุกพรวดพราด ก็เรียกได้ว่าบังเงาไฟมิด ผมเงยหน้ามองมันจนแทบสุดคอ แต่ก่อนจะได้อ้าปากด่ามันจะดันจนตัวผมกระแทกเข้ากับตู้เสื้อผ้าดังอั้ก


“ได้.. มึงจะไม่ย้ายใช่มั้ย” โว้ยไอ้บ้า กระซิบแม่งใกล้หู ขนลุกชิบหาย ผมจ้องหน้ามันที่ยื่นเข้ามาใกล้ด้วยความหวาดกลัว ใกล้ไปแล้วโว้ย ต่อให้มึงหล่อแค่ไหนใจกูก็ไม่สั่นหรอกไอ้สาดดดด

“ทำเหี้ยอะไรของมึง!” ผมยกมือขึ้นดันหน้ามันออก ปัดหน้ามันไปครั้งนึงมันก็เอากลับมาอยู่ดี

“กูจะถามมึงรอบสุดท้าย”

“กูก็จะตอบคำตอบเดิม! มึงจะทำไม!” ผมดิ้นสุดแรง อยากจะสวนไปอีกรอบว่าต่อให้ถามสิบคำถามเป็นรายการสายฟ้าแล่บกูก็จะตอบคำตอบเดียวเหมือนกันโว้ย!

“หึ กูจะทำให้มึงอยู่ไม่ได้แล้วก็ย้ายออกไปเอง ไอ้ เตี้ย ”
มันย้ำสองคำสุดท้ายชัดเจนเต็มหู ผมแถวยังทำหน้าทำตาล้อเลียนอีก คำก็เตี้ยสองคำก็เตี้ยใช่มั้ย ...



ผัวะ!
ข้อดีของส่วนสูง ผมจับแขนมันที่ท้าวทับกับตู้เสื้อผ้าแล้วเตะขาขึ้นฟาดเป้ามันเต็มแรงจนมันลงไปกองกับพื้นหน้าเขียว กุมซะแน่นเส้นเลือดขึ้นเลย คงเจ็บหล่ะสิมึง ฮึ  ไหนๆก็เรียนหมอมาปฐมพยาบาลตัวเองไปละกัน
ผมผิวปากเดินผ่านซากหมอที่ขดเป็นกุ้งไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่าแล้วเดินไปอาบน้ำที่อยู่นอกระเบียง กว่าจะลุกขึ้นเดินได้คงซักพัก รอกูอาบน้ำไปละกัน



จำไว้ อย่าซ่ากับพี่อู้!!!


โอ๊ย น้ำเย็นจังวะ!!!



-----------------------
 
สั้นไปหน่อย ฮือออออ
อ่า .. ไม่ใช่เรื่องแรกที่แต่งหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องแรกที่ลงให้เล้า
กว่าจะคลิกตั้งกระทู้ได้ มือสั่นเลย
น้อมรับคำติชมทุกคำนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวฝากน้องอู้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ <3




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2017 02:18:33 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก๊อกก๊อก2 :
เมทผมเป็นหมอ หมอจีนแดง!!!



“วิศวะนั่งตรงนี้ครับน้อง”


แฮ่ก โครตเหนื่อย ทำไมเปิดมากูก็เหนื่อยอีกแล้ววะ
ผมวิ่งเข้าไปที่จุดนัดพบของคณะด้วยสภาพเหนื่อยสุดชีวิต เสื้อผ้าหน้าผมยุ่งไปหมด
คิดแล้วแค้นไปถึงเมื่อวาน ไอ้หมอเหี้ย ไอ้หมอสารเลว หลังจากที่เตะน้องมันไปจนมันจุกร้องไม่ออกผมก็อาบน้ำสบายใจคิดแต่ว่ากลับห้องเข้าไปจะไปแกล้งอะไรให้มันออกไปจากหอต่อดี เตะไปเต็มแรงคงอยู่นิ่งไปซักพักเลยแหล่ะ


แต่ความคิดก็หยุดที่ลูกบิดครับ ..
แม่งล๊อค แม่งล๊อคประที่เชื่อมห้องกับระเบียง นี่ขนาดอาบไปไม่ถึงสามนาที มีฝักบัวให้ผมยังไม่ใช้เลย ถนัดเอาถังมารองน้ำแล้วเอาขันตักราด แถมนี่รีบขนาดตักราดแค่สามขันเองนะ!
ผมต้องนอนตรงระเบียงยันเช้า แถมตอนเช้ากว่าจะเข้าห้องได้ต้องงัดกระจกออกเพื่อเอื้อมมือไปเปิดอีกต่างหาก เข้ามาก็ไม่เห็นร่างไอ้หมอเถื่อนแล้วไม่งั้นได้มีมวยอีกซักยก คว้ามือถือดูเวลาก็เกือบจะเวลาที่รุ่นพี่นัดแล้วเลยต้องรีบคว้าชุดนิสิตกางเกงวิ่งลงมารวมตัวก่อนออกจากห้องเห็นโพสอิทเขียนด้วยลายมือหวัดๆแบบไม่ต้องเดาว่าเป็นลายมือของใครแปะอยู่ตรงประตู



“ชอบนอนตรงระเบียงก็ไม่บอก  :  ) “


ชอบกับแม่มึงเถอะ ! ผมสาบาน วันนี้กลับไปต้องเอาเลือดมันออกจากหัวมันให้ได้ คิดแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาเลย



“หน้าหงุดหงิดเชียววะอู้” อ่ะ ผมเหยิบหัวหนีนิดนึงเมื่อจู่ๆก็โดนนิ้วจิ้มมาตรงคิ้ว ผมขมวดคิ้วกว่าเดิม


“โหยพี่โย ตกใจหมด” นี่แหนะ ปัดนิ้วออกซะเลย นี่พี่โยครับรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม แถมยังโชคดีจับได้มาเป็นสายเทคผมอีก พอดีสายผมทั้งปีสองปีสี่ซิ่วไปกันหมด เหลือสายเทคที่ยังอยู่ในม.คือปีสามก็เลยมีพี่เทคเป็นพี่ปีสามอยู่คนเดียว แต่พูดไปครับพี่โยนี่หน้าตาเกาหลีดีกรีอดีตเดือนวิศวะ


 แต่ถึงอย่างนั้นคณะเรียกพี่เค้าว่าเดือนเดือดเพราะนอกจากจะเป็นหน้าตาให้คณะแล้วก็ยังคอยเป็นนักรบไปต่อยตีกับชาวบ้านจนแทบถูกถอดตำแหน่ง แต่แน่นอนนั่นเป็นความภูมิใจครับ สินกำอยู่คู่ความสวยงามเช่นไรวิศวะอยู่คู่กับความเดือดดาลเช่นนั้น

 ไม่ใช่แล้ว!!
แหมพูดไปครับ คนปกติไม่มีหรอกไปมีเรื่องชกต่อยเล่นๆให้เจ็บตัว เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้มาโดนหาเรื่องพี่เค้าก็ไม่ได้ชกต่อยไปทั่วหรอกครับ แต่จริงๆตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมพี่เค้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวโจกของโรงเรียนมาอยู่แล้ว แก๊งค์ที่พี่เค้าอยู่นี่เรียกได้ว่าเข้าห้องปกครองบ่อยพอๆกับเข้าเซเว่น ผมเลยไม่ค่อยจะแปลกใจมากนัก


“สมกับเป็นสายเทคกูจริงๆ หน้าช้ำเชียวไอ้หมา ไปทำอะไรมา” อูยเจ็บโว้ย จิ้มมาได้แผลข้างปาก


“อย่าจิ้มดิพี่ เจ็บนะเนี่ย”


“โอโห คิ้วเยินเชียว เปิดเทอมวันแรกมึงก็เอาเลยหรอ ไปฟัดกับหมาที่ไหนมามึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้” ยังไม่ทันได้ตอบเลยว่าไปฟัดกับหมาคณะแพทย์มา ไอ้ปันก็แย่งความสนใจไปซะก่อน หน้ามันนี่มุ่ยมาเชียว คิ้วผูกโบว์ยิ่งกว่าผมอีก


“อ้าว ไอ้ปัน มึงก็หน้ายู่มาอีกคน”

 
“แม่งเอ๊ยเฮียโยอย่าให้ปันพูดว่ะ เมทแม่งตีกันยันเช้า ปวดหัวชิบหาย” ไอ้ปันกระแทกตูดลงหลังผม  หน้ามันยับยู่เป็นเจ๊กหลงทัวร์แล้วนอนไม่พอก่อนที่ตามันก็โตขึ้นอีกสามมิลเมื่อเจอหน้าผม


“เฮ้ยยยยย!! ไอ้เชี่ยอู้ หน้ามึงไมเยินขนาดนี้วะไอ้สัส”


“กูไปฟัดกับกบมา”


“ห๊ะ กบพันธุ์ไรแม่งดุจังวะ ”


กบชอคโกแลตจากแฮรี่พอตเตอร์มั้ง ถุ้ย! นี่ซื่อหรือโง่


“เอาเรื่องมึงก่อนเมทมึงทะเลาะกันเรื่องอะไรวะปัน มึงถึงไม่ได้นอน”


“อ๋อ เมทปันเป็นรุ่นพี่แพทย์กับเด็กพละอ่ะพี่ แม่งตีกันเรื่ององศาแอร์ แม่งตีกันเรื่ององศาแอร์ หมอแม่งเป็นบ้าจะเปิดแอร์15องศะ เด็กพละเลยขึ้น เถียงกันอยู่แบบนั้น ผมนี่งงไปหมด อะไรวะ”  น่าสงสาร จะยกมือขึ้นปลอบแต่พี่ระเบียบก็เรียกระเบียบซะก่อน พี่โยเลยต้องลุกไป พวกผมก็ต้องนั่งหลังตรงดิ๊ก พี่ปีสองก็ทยอยมายืนล้อมหน้าล้อมหลัง ดึงหน้าดึงตาเล็กน้อยพอข่มขวัญสาวๆ

พี่ปีสองก็ไม่ได้ดุอะไรมากครับ แค่ย้ำเรื่องป้ายชื่อว่าให้ใส่ไปทุกที่ตราบใดที่ยังไม่ปลดระเบียบ เรื่องการแต่งกาย การไหว้รุ่นพี่ ก็ยังโอเค ตอนแรกคิดว่าจะว้ากก้มหน้าหลับตาลงไป พอพี่พูดเรื่องระเบียบเสร็จก็ปล่อยตามสบาย ไม่ได้มีปัญหา


แต่ไอ้ที่มีปัญหาหน่ะ ...


‘ อู้แต่ตูดเพา ’

ตัวหนังสือสีดำตัวเบ้อเร้อประทับอยู่บนเกียร์สีแดงแบบเด่นชัดตัดโอกาสจีบสาวไปแบบหน้าด้านๆ
 ชื่อในป้ายชื่อกูมันเหี้ยอะไรวะเนี่ย อู้แต่ตูดเพา นี่กูต้องแขวนป้ายชื่อแบบนี้บากหน้าไปให้สาวอ่านชื่อด้วยเรอะ โอ้โห อยากให้ลองคิดครับอยากให้ลองคิด สมมุติผมไปเซเว่นแล้วสาวปิ๊งจะแอบอ่านป้ายชื่อนี่จบเลย
ดีนะยังไม่แย่เท่าเพื่อนคนอื่น ยิ่งคนชื่ออู๋แม่งได้ชื่อ อู๋ตูดเมา กูนี่ดีใจเลยที่ตัวเองชื่ออู้ 
ของไอ้ปันนี่ก็ขำก๊ากเลยครับ ปันหน้าสี้ ปี้หน้าสั่นก็มา ก๊ากกกกกกกกกกกกก


“โอ๊ยยย ดูชื่อกูสิอู้” ไอ้พีกับไอ้เติ้ลเดินมาผมพร้อมโชว์ป้ายเขียนตัวเบ้อเริ่ม


“พีหาบ เติ้ลรสแอปแปด  ก๊ากกกกกกกกกก” พวกมันทำหน้าเซ็ง แต่ก็ตลกดีครับ ผมไปตามอ่านป้ายชื่อเพื่อนขำแทบทรุด รุ่นพี่หัวคลีเอทกันดีจริงๆ ผู้ชายไม่อะไรหรอกครับขำๆดี แต่ผู้หญิงนี่สิ เจนปลากะบิ๋ม    สไปร์ทอร่อยเมิม มุกปลาด๋อย สาวๆเค้าขำไม่ออกกันเลยทีเดียวบ่นพี่กันซีนไม่ให้คณะอื่นมาจีบรึเปล่าก็ว่ากันไป


“เห้ย ไอ้อู้” เหวอ ผมเซนิดๆเมื่อจู่ๆโดนพี่โยดึงเนคไทด์


“เห่ยพี่โย ตกใจหมด”


“วันนี้สายพวกไอ้โอมสายไอ้ปันมันจะเลี้ยงสาย เลยกะเลี้ยงสายเราด้วยจะชวนเพื่อนคนอื่นมาก็ได้ มึงว่างอยู่แล้วนี่พรุ่งนี้ยกคลาส” แหมพูดไปคำว่าสายเรา จริงๆแล้วสายผมก็มีแต่พี่กับผมไม่ใช่เรอะ! พูดซะดูเยอะเชียว


“ที่ไหนอ่ะพี่”


“ร้านเหล้าหลังม. แต่งตัวมาเจอกันหน้าหอสามตอนประมาณทุ่มละกัน เดี๋ยวกูเอารถมารับ จริงพวกมึงกลับกันตอนสี่ทุ่มก็ได้ถ้าอยากกลับหอในแต่ถ้าติดลมก็เปิดห้องนอน ยังไงวันของน้องพวกกูก็ตามใจปีหนึ่ง”  ร่ายยาว ยังไม่ทันตอบเลยว่าไปมั้ย แต่แฮ่ ไปสิครับ ของฟรีอะไรก็ไปหมด เป็นปีหนึ่งมันก็ดีตรงนี้นี่แหล่ะ


 ผมพยักหน้าตกลงไป จากนั้นก็หาอะไรกินค่าเวลากับเพื่อนก่อนจะขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุด นับว่าเป็นโชคดีที่ไอ้หมอเถื่อนยังไม่กลับมาไม่งั้นคงต้องมีได้เลือดกันซักยก โครตแปลกที่เมื่อวานทะเลาะกันแทบตายแต่ผมไม่ยักกะเห็นมันขนของมาซักชิ้น มาตัวเปล่าไปตัวเปล่าด้วย ไม่เห็นมันจะเปิดประตูระเบียงมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ไหนว่าหมออนามัยวะ ซกมกจะตายห่า ใครเป็นคนไข้มันนี่น่าสงสารเลย หรือผมควรทำดีเลยการประจานมันก่อนดี

ผมเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อบอลยืดๆมาตัวนึงกับกางเกงขาสามส่วนสีดำ เห็นพี่บอกให้แต่งตัวตามสบาย นี่ก็สบายแล้วนะ  เซทผมนิดหน่อยชักยาวแล้วนะเนี่ย เริ่มปรกตา

 เดี๋ยวรอมีเวลาก่อนจะไปตัดสกินเฮดออกให้หมดเลยดูสิจะมีมาทักผิดเป็นทอมอีกมั้ย เห็นตัวเล็กหน่อยล้อกูทอมตลอด รู้มั้ยทอมผู้หญิงจริงๆสูงกว่ากูอีกโว้ย .... (ฮือออออออออออออออออออออออออออ)


ว่าแล้วก็เปิดแอร์กลิ้งบนเตียงรอเวลาอีกซักแป๊ป ไอ้ปันก็มาเคาะห้องเรียกให้ลงไปพร้อมกัน


แหม่ะ วันนี้คุณปันเค้ามาสไตล์เกาหลีครับ ใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์มันสูงกว่าผมเล็กน้อย คงอยู่ที่ร้อยหกสิบต้นๆแต่ผิวขาวแล้วหน้าจีนมาก จีนแบบป้ายเมดอินไชน่าแปะอยู่ที่หน้าผาก ตาสองชั้นหลบในหลบแบบหลบจริงจังหลบแทบมิดเห็นตาดำอยู่นิดเดียว


รออยู่ซักพัก รถบีเอ็มซีรี่ส์อะไรก็ไม่รู้ของพี่โยก็แล่นมา ไม่รู้จริงๆครับว่ารุ่นอะไร ไม่ได้เล่นรถ มีความรู้มากสุดก็คือการบอกได้ว่าคันไหนคือนิสสันมาร์ชแค่นั้นครับ รุ่นอะไรไม่รู้รู้แต่ไอ้เติ้ลไอ้พีถึงกับร้องหูหากันเสียงดัง พูดราคามาก็เล่นซะผมขนลุกขนพอง แถมไอ้เติ้ลยังเคลิ้มฝันกระโดดไปกอดกระโปรงรถพี่เค้าแต่แม่งร้อนกลิ้งตกรถลงไปอีก ทุเรศทุรังตาจริงๆ

“โห ไอ้อู้ ใส่ขาสั้นเลยหรอวะ” พี่โยลดกระจกลง


“เห้ยพี่ สามส่วน ยาวแล้วนะ”


“พี่โยพูดผิดเปล่าวะ จะบอกว่าทำไมไอ้อู้ขาสั้นป่ะพี่” ผมหันไปโบกหัวไอ้ปันหนึ่งทีแรงๆ


“ไอ้อู้ใส่อะไรก็สั้นหมดแหล่ะพี่โย ตัวมันสั้นนิดเดียว” ไอ้พีหัวเราะ


“เออ คราวหน้าใส่ขายาวละกัน ยุงมันเยอะ” ผมพยักหน้าให้พี่โยแล้วเดินอ้อมไปขึ้นที่นั่งข้างคนขับ อื้อหือ เปิดแอร์ซะแรงเชียว แม่คะนิ้งแทบเกาะ ผมนั่งตัวลีบติดประตูจนกระทั่งถึงร้านหลังม.
ผมเหลือบตามองพี่รหัสสุดหล่อรวยของผม เอาจริงๆแล้วมหาลัยวิทยาเขตนี้อยู่ค่อนข้างกลางทุ่งนะครับ ส่วนใหญ่ก็จะโดยสารกันโดยจักรยานไม่ก็มอเตอร์ไซต์กันซะมากกว่า ส่วนน้อยที่จะเอารถมา ส่วนพี่โยนี่น่าจะเป็นส่วนน้อยในน้อยเพราะนอกจากจะมีรถแล้วดันเป็นรถหรู จ๊าบไปอี๊กกกกก กระแทกหลุมบ่อหลังม.ทีนี่น้ำตาไหลแทน


ขับมาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงร้านครับ ร้านเป็นร้านชิวเล็กๆเปิดเพลงป๊อปธรรมดาฟังสบายตั้งอยู่ติดผับที่เปิดเพลงดังสะท้านฟ้าด้านผนังนี่แทบสั่นดังตึ้บตึ้บ พี่โยบอกจองโต๊ะร้านนั้นไม่ทันเลยมานั่งร้านชิว ไม่ว่ากันครับ แค่เลี้ยงก็พอ เหล้ากินที่ไหนก็ได้เมาเหมืนกันหมด

“เอ้ยปีหนึ่งมาแล้ว นั่งเลยนั่งงงงง” โอโหพี่ครับ เพิ่งสองทุ่มทำไมเสียงพี่ยานขนาดนี้เนี่ย ชักเห็นตัวเองในอนาคตมารางๆแล้ว

“โหพี่แป๊ะพี่ ไปแล้วเรอะ”

“ไปไหนวะ งง”

“เออกูก็งง” เออดี งงแม่งทั้งพี่สายเทค ไอ้ปันนั่งหน้างง วุ้ย เสียเวลาคุยด้วยจริงๆสายนี้ คุยไม่รุ้เรื่องมันทั้งสาย


“มานั่งนี่มา” พี่โยจูงมือผมไปนั่งตรงที่ว่างที่เหลือ ผมก็เออๆออๆ ถึงจะงงหน่อยๆลากมานั่งทำไมตรงหลืบๆวะพี่รหัสกู มองสาวๆไม่เห็นเลยเห็นมั้ยเนี่ย
 แต่แล้วสายตาผมก็หยุดสอดส่องเมื่อแก้วเหล้ามาอยู่ในมือ สาวๆไว้ก่อนละกัน ของฟรีมาก่อนน


ผมก็กินไปได้ซักพักก็กึ่มๆแล้วครับ พี่ก็ดุกันจัง เอะอะหมดกงหมดแก้วที่นะผมหมดบ้างไม่หมดบ้างตามเกมพี่ๆทันครับ นั่งไปนี่รู้เลยว่าเอากูมามอมชัดๆ ส่วนนู่น ไอ้ปันคนซื่อสัตย์หมดแก้วจริงจังทุกรอบ สติกระเจิงไปตั้งแต่หมดแก้วที่สองลุกไปเต้นมาหน้าเวทีแล้วเซปักลงพื้นตลอดจนพี่เค้ากลัวหัวมันแตกไม่ก็เอือมระอาจับมานั่งที่โต๊ะ ก็ยังจะปีนโต๊ะเต้นไปอีก


เดี๋ยวๆปันเพื่อนรัก พี่เค้าเล่นเพลงร่มสีเทา ทำไมมึงเต้นเหมือนเปิดเพลงขอใจแลกเบอร์โทรขนาดนั้นวะนั่น

 
อ้าว แล้วนี่พี่รหัสกูจะทำหน้าไล่แขกทำไมวะนั่น ขมวดดุจนคิดว่าเป็นการ์ดในร้านแล้ว


“พี่โยเป็นไรพี่ หน้าดุเหมือนหมา”


“มึงใส่ขาสั้นมา” พูดจบก็ยกแก้วเหล้าจิบ

แล้วไงเรอะ.. กูงง
ใส่ขาสั้นแล้วเครียดทำไม


“โหยพี่ ไม่เป็นรายย ผมไม่แพ้ยุง” แหมะ แมนๆคุยกันครับพ้มมมมมมม


“เกี่ยวที่ไหน ไม่ได้เครียดเรื่องยุงเลย” หื้ม บ่นไรมุ้งมิ้ง เสียงเพลงดังกลบ พี่โยอาจจะแค่ร้องเพลงร่มสีเทาก็ได้ ช่างมัน ผมหยีตานิดหน่อย เอ้อ เริ่มเมาแล้วว่ะ ชักง่วงหน่อยๆแล้วแฮะ ดีนะนี่เมาง่วง ถ้าเมาเรื้อนนี่ก็ไม่ไหว ตัวอย่างเมาเรื้อนที่ดีน่าจะเป็นไอ้ปัน ที่ตอนนี้ลุกไปจับขาไมค์ร้องเพลงไปแล้วเรียบร้อย



เออ มันมีแต่ขาอ่ะนะ ไมค์ไม่มีหรอก ..


“ปวดฉี่ว่ะ” ผมงึมงำ


“ไปป่ะ เดี๋ยวพาไป” หื้อ ผมหันไปมองหน้าพี่โย


“โหยพี่ของผมใหญ่ก็จริงแต่ไม่หนักขนาดน้านนน เดี๋ยวมานะพี่” ผมลุกขึ้น เซเล็กน้อยเพราะเก้าอี้มันชิดกับเก้าอี้พี่โยไปหน่อย พี่โยทำท่าจะลุกพาไปแต่ผมยกมือปฏิเสธ แหม่ วิศวะนี่พี่รักน้องของจริงเว้ย จะไปเยี่ยวยังจะตามมาดูแลอีก


ผมเซแปะไปตามกำแพง ยังพอมีสติได้ว่าสัญลักษณ์ไหนเป็นชายสัญลักษณ์ไหนเป็นหญิง แต่โหหหห แถวววว จะได้เยี่ยวมั้ยวะวันนี้ อืออออ ผมกุมเป้าตัวเอง อั้นไว้นะอั้นไว้ลูกพ่อ


“เอ่อ พอดีห้องน้ำเต็ม ไปเข้าอีกร้านข้างๆก่อนได้เลยนะครับ” พี่พนักงานพูด ก่อนที่ทั้งแถวจะสลายไปร้านข้างๆ ผมก็เดินตามเค้าไปครับตามภาษาคนเพิ่งเคยมาครั้งแรก เปิดประตูร้านข้างๆเข้าไปได้ก็หูแทบแตก บีทกระแทกหูจนสั่น  สั่นแค่ไหนดูจากนมคนด้านหน้าแล้ว โอโห้ ... สั่นจริง อยากไปสั่นด้วยเลย
โอ๊ยยยย ไม่ไหวแล้ว!!



หมายถึงปวดฉี่ไม่ไหวแล้ว เยี่ยวก่อน



“ฟู่...” เฉียดตายไปนิด

 ผมกวักน้ำลูบหน้านิดหน่อยแล้วเดินออกจากห้องน้ำ เมาแล้วว่ะ บอกพี่โยกลับหอก่อนดีกว่า  ยังทันหอปิดอยู่พอดี ผมเปิดประตูออกมาก่อนจะเซเล็กน้อยเมื่อโดนคนพยายามแซงออก แต่ด้วยความที่สติอยู่ไม่ครบ กะจะหลบก้าวเท้าซ้ายันเผลอไปก้าวขาขวาแทน


“เชี่ย!..” ผมหลับตาปี๋เมื่อเหมือนจะล้มลงกระแทกพื้น




“เด็กปีหนึ่งอย่างมึงมาทำอะไรร้านเหล้าวะ” ผมลืมตาขึ้น ทั้งที่ควรจะเห็นพื้นเป็นก้อนหินแต่ดัน..


“เหี้ย !!!”


“เฮอะ หน้ามึงก็เยินอยู่แล้วยังอยากแหกกว่าเดิมรึไง”


“สัส มึงปล่อยกูเลยนะ” ผมตีแขนล่ำๆของมันที่บีบต้นแขนผมแน่นเหมือนคีม โว้ยยยย เจ็บ นี่ถ้ามือมึงจะหนักขนาดนี้จะไปรักษาคนไข้ยังไงวะ แล้วนี่มึงจะสูงไปไหนเงยหน้าจนปวดไปหมดแล้ว



“มึงเมาหรอไอ้เตี้ย หน้าเยิ้มเชียว”


“ไม่เหมือนมึงหรอกไอ้หมอซกมก ฟันไม่แปรงน้ำก็ไม่อาบ ปล่อยกูนะไอ้สัส” ผมตะโกนลั่นจนคนข้างๆหันมามงไม่หมอเถื่อนอย่างขยะแขยง เป็นไงหล่ะมึงหน้าตาก็ดี

“ กูไปอาบน้ำห้องเพื่อนเว้ย” ไอ้หมอเลิ่กลั่กมองไปรอบๆแล้วรีบแก้ตัว ฟังไม่ขึ้นหรอกฮึ ไอ้คนสกปรก 



“ไอ้สัสหมอ!!!!”


ผมสะดุ้งโหยงขนาดไม่ได้ชื่อหมอ  ก่อนจะมองไปที่ต้นเสียง
อ้าว ... พี่โย
แล้วไหนใครวะหมอ นี่กูชื่ออะไร กูชื่ออู้นี่นา แล้วกูก็ไม่ใช่หมอ


“โอ้โห ดวงซวยอะไรของกูวะ” ไอ้หมอบ่นพึมพำ


“มึงปล่อยอู้เดี๋ยวนี้!” พี่โยเดินเข้ามาแล้วจับแขนอีกข้างของผมดังหมับ เออะ อะไรวะเนี่ยกูงงไปหมดแล้ว นี่รู้จักกันเรอะ


“มึงเสือกอะไรวะโย” ไอ้หมอดึงแขนผม


“ปล่อย คน ของ กู” พี่โยย้ำทีละคำแล้วกระชากแขนผม ผมเลยเซไปซบอกพี่โยทั้งๆที่แขนอีกข้างยังโดนไอ้หมอเถื่อนกุมอยู่


“คนของมึง? ไอ้เตี้ยนี่หน่ะหรอ”


“มึงจะปล่อยดีๆมั้ย” ผมเงยหน้ามองพี่โยที่ตอนนี้ขมวดคิ้วดุสุดชีวิต แขนที่จับผมบีบแน่นจนเห็นเส้นเลือด เจ็บจะตายอยู่แล้ว ผมไม่เคยเห็นพี่โยโกรธมาก่อน ตั้งแต่เจอกันวันเฟิร์สเดทมหาลัยจนวันนี้ น่ากลัวโครตๆสมชื่อพี่เดือนเดือดจริงๆว่ะ


“โทษทีว่ะโยกูคงปล่อยไม่ได้..” ผมหันหน้าไปมองไอ้หมอที่ตอนนี้กระตุกยิ้มชั่วร้าย ความชั่วทะลุความหล่อออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ก่อนที่แขนล่ำนั่นจะกระชากผมกลับไป แขนผมก็หลุดจากพี่โยตัวเลยเข้าไปกระทบกับอกของไอ้หมอเต็มๆ
ก่อนที่จะโดนจับกอดจากด้านหลังแล้วเอามือมาจับที่หน้า



“มึงไม่เห็นหรอแผลที่ปากน้องเค้า”
...อื้อ ผมหันหน้าหนีเมื่อนิ้วโป้งปากลงมาแถวๆปาก
เจ็บนะ...


 “กูอ่ะทำเอง”
 

หือ..
อะไรวะ อู้งง ...


เอาตรงๆผมงง งงมากด้วย  งงแบบงงในงง งงว่าที่ตอนนี้งงเพราะงงจริงๆ หรืองงเพราะไม่มีสติ คิดไปคิดมาก็ยังงงอยู่ดี ตอนนี้ยังเรียงอะไรมาชนกันไม่ถูกเลย มารู้จักกันได้ยังไงวะ แต่คาดเดาแบบสติไม่เต็มก็พอจะรู้ครับว่าท่าทางจะไม่ค่อยถูกกันแน่นอน เพราะนอกจากน้ำเสียงที่ผิดปกติแล้วีกอย่างนึงที่ดูผิดปกติไม่เข้ากับสถานการณ์สุดๆก็





ก็กูนี่แหล่ะ!! มาอยู่อะไรตรงกลางวงวะ!!

“ไม่จริง”



“เหอะ กูขำ หน้าหดเป็นหมาเชียว” ผมขมวดคิ้ว หมาเหี้ยไรหน้าหด หมาหรือหำ งงได้มั้ย



“อู้ มึงรู้จักมันได้ยังไง” อ้าว ยังหาคำตอบว่าหมาอะไรหน้าหดยังไม่ทันได้ผมก็กลายมาเป็นคนต้องตอบคำถามแทนซะแล้ว





“หื้อ..” ผมพยายามถลึงตาเต็มที่ โครตจะง่วง ง่วงเหมือนจะหลับ


“แผลที่ปาก มันเป็นคนทำจริงๆหรออู้”   
อ่อแผลที่ปากหรอ ที่โดนไอ้หมอเถื่อนต่อยอ่ะนะ


“อื้อใช่” ผมพยักหน้า กะจะพูดต่อไปซะหน่อยว่าไม่ใช่แค่ปากอ่ะ คิ้ว ท้อง หลัง หมัดกับตีนมันล้วนๆไม่ใช่ใครทีไหนทำ แต่ยังไม่ทันได้พูดอยู่ดีๆจากหน้าพี่โยก็วืดมาเป็นตูดกางเกงยีนส์เฉยเลย
เห้ย ... นี่กูโดนอุ้มพาดบ่าเรอะ



“ชัดเจนพอนะ” โอ๊ะ ไอ้หมอเถื่อนหันหลังเดินทำเอาหน้าผมกระแทกก้นมันเต็มๆ ทุเรศชิบหาย แต่ก็เด้งดีเหมือนกันแฮะ ไอ้จะตะโกนด่าก็ไม่มีแรงแล้ว ไม่ไหวแล้ว หัวย้อนๆอย่างงี้ผะอืดผะอม


“อื่อ อยากอ้วก” พอพูดออกไป โลกก็วืดอีกรอบ คราวนี้โดนฟาดลงกับอะไรนิ่มๆด้วย


“มึงอย่ามาอ้วกลงบนรถกูนะไอ้เตี้ย” อื้อ อย่าตบหน้า


“อื้อ..”


“เฮ้ยนอนดีๆกูจะปรับเบาะ มีสติอยู่มั้ยวะ จะอ้วกมึงเปิดหน้าต่างนะรู้มั้ย ห้ามอ้วกในรถ” สัส บอกว่าอย่าตีหน้าไง ผมหันหน้าหนีมือที่มาตีๆอยู่แถวแก้ม มือหรืออุ้งตีนวะ หยาบชิบหาย


“อย่าตี...”


“เห้ย ไอ้ลูกหมา ”  ผมหันตัวหลบเสียง พูดมากจัง คนจะนอน รู้สึกเหมือนมีเรื่องวุ่นวายเยอะแยะเลย แต่ง่วงจัง ไว้ค่อยเคลียร์ละกันนะ



.
.
.
.






อือ...
ร้อน



อือ..
หนัก


อือ..
อึดอัด

อือ..
เหนียวตัว




“อย่าดิ้น”
แรงรัดมากขึ้นกว่าเดิมอีก ผมดิ้นอย่างขัดใจ อะไรมันมารัดนักหนา ขยับแทบไม่ได้เลย แล้วเสียงใครวะเนี่ยอยู่ซะใกล้หูเลย
ผมค่อยๆลืมตาขึ้น ก็พบสีเนื้อ ใช่สีเนื้อ สีเนื้อแบบแพนโทน

หือ...เนื้อคน

เนื้อคนชัดๆ!!
นี่กูนอนกอดใครวะเนี่ย!!!!!!!


“เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ผมผลักสุดแรงเกิดเท่าที่มีไปจนอีกหลุดมาจากอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้ เผลอผลักแรงไปหน่อยตัวผมเลยไถลตกเตียงลงมาดังแอ้ก


“โอ๊ยไอ้เตี้ย” ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้น ไล่ตามองตั้งแต่หน้าหล่อๆของมันลงผ่านซิกส์แพคเป็นก้อนตบท้ายตาดำด้วยบ๊อกเซอร์ลายสก๊อตเหี่ยวๆของมันที่เหมือนจะมีความนูนหรือไม่ก็อาจจะเป็นแค่การกระทบของแสงและเงา แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไร โดยรวมๆแล้ว




โอ้

มาย
ก๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


“มึงหยุดความคิดมึงไว้ตรงนั้นเลย”

“มึงรู้รึไงกูคิดอะไร!!!!” ฮือออออออออออ มึงไม่รู้หรอกมึงไม่รู้

“ไม่รู้แต่หน้ามึงดูโง่”

“ไอ้...” ผมได้แต่กัดฟัน พร้อมกับลูบคลำตูดตัวเองด้วย ฮึก เจ็บอ้ะ เจ็บ มีความเจ็บแปลบๆด้วยอ่ะ

“มึงร้องไห้ทำไมเนี่ย เห้ย” มันลุกมานั่งขอบเตียงแล้วเอาขาล่ำๆเต็มไปด้วยขนขามาเขี่ยผม วิธีถามคนป่วยของมึงมันเป็นแบบนี้หรอ ไอ้หมอเวรตะไล ฮือออ อยากไล่ให้ไปตายแต่น่าจะตายยากมันเป็นหมอ มันอาจจะห้ามเลือดตัวเองทัน

“มึง!! มึงปล้ำกูหรอ!!” ไอ้หมอมันทำหน้าตกใจเหมือนจะโวยวายแต่มันก็เปลี่ยนเป็นหน้าเครียดแทน  เครียดไมอ่ะเครียดไม คนเครียดมันต้องกูไม่ใช่หรอ แย่งเครียดแบบนี้หมายความว่าไง

“กูว่ากูทำเบานะ มึงจะเจ็บได้ยังไง”


โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ อยากจะร้องไห้


“มะ มึง!! ไอ้เชี่ย กูจะด่าอะไรก่อนดี มึง!! มึงทำแบบนี้ได้ยังไง แล้วมึงไม่ต้องมาพูดทำเบาเลยนะ กูเคยเห็นเค้าบอกว่ามันเหมือนเอาแครอทยัดรูจมูก ต่อให้มึงทำเบาแค่ไหน มึงเข้าใจมั้ยว่ามันแหก!! มันแหก!! มึงลองเอานิ้วโป้งยัดจมูกมึงดู แค่นิ้วโป้งรูน้อยๆก็แหกแล้ว ละ .. แล้วแครอทใหญ่กว่านิ้วโป้งอีก มึงเป็นหมอเนี่ยมึงไม่รู้จักหูรูดรึไง แม่งเอ๊ยยยยยย” โวยวายแบบที่รู้เลยมาเสียงต้องดังทะลุประตูห้องไปแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น แต่ขอกูเถอะครับ ไม่รู้จะขอบคุณดีมั้ยที่เมา จังหวะที่แครอทแทรกตัวเข้ารู้จมูกมา ไม่อยากจะคิดเลยว่าทางที่เคยแต่ออกโดนเอาเข้ามันจะแหกระดับไหน ฮือๆ คิดภาพยังไม่กล้าเลยเนี่ย

“โคตรดูถูกเลยไอ้ลูกหมา”

“กูไม่ได้ดูหมอเถื่อนอย่างมึงผิดไปหรอก!!”

“กูหมายถึงดูถูกขนาด กูไม่เล็กเป็นแครอทหรอก ของกูอ่ะน่าจะมะเขือม่วง” แล้วมันหัวเราะลั่นห้องหลังจากพูดจบทันที


มะ .. มะ ... มะเขือม่วง

โฮ ..


กูคิดภาพทำไมเนี่ย!!!!!!!!!!!



“มึงนี่แม่งตลกดีว่ะ” ไอ้หมอหัวเราะจนต้องปาดน้ำตาทิ้ง 

“กูไม่ขำ”

“เออแต่กูขำ” โอ๊ย อยากสอยหน้าแม่งซักหมัด 

“ไอ้!!”

”ฮ่ะๆ มึงนี่ขี้มโนใช้ได้ กูไม่ได้เป็นเกย์ ยินดีกับหูรูดมึงด้วยที่ไม่ได้ถูกมะเขือม่วงแหกเข้าไป” 

“ละ แล้วทำไมกูเจ็บตูด!!”

“ไม่รู้มึงหรอ ตูดกระแทกพื้นมั้ง ตกไปแรงขนาดนั้น” ผมคลำตูดตัวเองป้อยๆ ไม่รู้จะเชื่อดีมั้ย ยังอยู่ดีใช่มั้ยลูกพ่อ

“กูจะเชื่อได้ยังไง!!!”

“เรื่องของมึง กูมีเรียนไม่ว่างมาเถียงกับมึงหรอก เออ ไหนๆก็เราก็คงได้อยู่ร่วมกันไปอีกนาน...” มันลุกจากเตียงไปหยิบเสื้อยืดสีดำกับกางเกงบอลมาใส่แบบลวกๆ ต้องยอมรับเลยว่าขนาดใส่แค่กางเกงบอลยานๆกับเสื้อดำไม่มีลายมันยังดูดีได้แบบไม่น่าเชื่อ ใส่กางเกงบอลธรรมดายังทำให้ดูเหมือนโฆษณากางเกงบอลแบบพอร์นๆทำเอาผมที่ควรจะลุกไปเบ้งหน้าให้หันได้แต่มองมันใส่เสื้อผ้าแบบงงๆ



แต่ก็ไม่มีอะไรทำให้ผมงงแบบขาดสติได้เท่า เสื้อสีเทาทรงคุ้นเคยที่มันหยิบออกมาสะบัด เสื้อที่ไม่ควรอยู่ในมือของมัน เพราะเป็นเสมือนเครื่องแบบประจำคณะวิศวะ








เสื้อชอป!!!!!!!!


“กู ‘  หมอ ’  วิศวะเครื่องกลปีสาม”











---
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2017 01:58:30 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ khunpisda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดดดดดด น่าสนใจ ไม่น่าละพี่ท่านเถื๊อนเถื่อนนน :ling1: :hao3:

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เงิบ หมอเถื่อนมาก ว่าแต่มาแย่งพี่โยเต๊าะน้องทำไม

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เห็นชื่อเรื่องกะชื่อตอน "เด็กหอ//เคาะห้องครั้งที่..." นึกว่าจะมาแนวสยองขวัญพออ่านเท่านั้นแหละ :jul3: :jul3:ตลกว่ะ ฮาดี ชอบๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น่าสนใจมากเลยค่ะ ชื่อหมอแต่เรียนวิศวะ โหย ชอบ55555555

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
โอ๊ย ชอบอะ ส่วนสูงต่างกันแบบนี้สิดี 5555 นึกภาพตามแล้วขำ

ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องนึกว่า จะมาแนวหลอนซะอีก  รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถถถถถถถ โถ่เอ๊ย......เข้าใจผิดกันหมด คิดว่าหมอ แพทย์
ที่แท้“กู ‘  หมอ ’  วิศวะเครื่องกลปีสาม”
แล้วทำไมไม่ถูกกับพี่โย เดือนเดือดวิศวะล่ะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
พี่หมอเป็นพระเอกใช่มั้ยคะ 55555555555
อ่านแล้วอินสถานที่มากค่ะ ภาพลอยมา ฮือ 555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โคตรฮาาาาาา  ชื่อหมอแต่เรียนวิศวะ ให้ตายเถอะ ถึงว่าทำไมแม่งเถื่อนนนนน

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ฉิกหายละ...แค่ชื่อ...หมอ...เสร็จแน่....น้องเตี้ย

ออฟไลน์ Ploids

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลงทุนสมัครมาเพื่อเม้นต์เป็นกำลังใจ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ปล. มาบอกว่าหาเจอละจ้ะ ยูสพิมกลับหัวแค่นี้บอกยาก
ร้ากกกก สนุกแล้วววว มาต่อไวๆ ไม่คิดมากกกกก

ออฟไลน์ Spkssy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านละจินตนาการภาพได้สุดไปเลยรวมถึงการใช้ชีวิตของวิดวะ  มีความหลังมอ 555 สู้ๆเว้ยกูรออ่านอยู่ ตอนแรกคิดว่าจะกะโหลกกะลาที่ไหนได้มะพร้าวมีเนื้อน้ำหวานเลยนี่หว่า เป็นกำลังใจให้เว้ยคอยติดตามอยู่
ปล. อยากอ่านเอ็นซี :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก๊อกก๊อก 3 : [ เปิดหอ]




“ หมายความว่าไงวะอู้” ฮือ ผมได้แต่นั่งทำหน้าตกหลังจากเล่าเรื่องโดยสรุปให้ไอ้ปันฟังเป็นครั้งที่สองเสร็จ ไม่แปลกเท่าไหร่หรอกครับสำหรับไอ้ปันถ้ามันจะไม่เกท ปกติก็ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรง่ายๆอยู่แล้ว แกทไทยที่ว่าซับซ้อน ยังซับซ้อนไม่เท่าเรื่องที่ผมเล่าเลย
เมื่อเช้าหลังจากชอคจนกระทั่งมันเดินออกจากห้องไป ผมก็รีบวิ่งแจ้นลงมาหาป้าหน้าหอโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำลากขี้ฟันไปเถียงกับป้าหน้าหอ ไหนว่าหมอไง!! ไหนว่าเรียนแพทย์!! คุณหลอกดาว!!
ป้ายามงี้ตกใจรีบเอาหลักฐานมายืนยันให้ผมดู ชี้ๆให้อย่างมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ให้ข้อมูลผิด





‘นาย แพทย์ วรเวชกุล ’



แม่งชื่อจริงว่า แพทย์ !!
โอโห้ มึงติสท์กับชีวิตมากไปมั้ย หรือพ่อแม่ตั้งแก้เคล็ด ชื่อเล่นชื่อหมอ ชื่อจริงชื่อแพทย์ แต่เสือกเรียนวิศวะเครื่องกล ตกลงใครสับสน!


“เชี่ย แม่งโคตรได้ ชื่อนายแพทย์” ไอ้เติ้ล(รสแอปแปด)ที่เพิ่งดูดหมูปิ้งออกจากฟันซี่สุดท้ายเสนอหน้ามาออกความคิดเห็นให้ผมต้องค้อนกลับ ได้ห่าอะไร แดกหมูปิ้งต่อไปเลยมึง


“งี้ก็แปลว่ามึงเปรี้ยวตีนกับพี่ปีสามคณะเราไปแล้วสิวะอู้” 


“ไม่เปรี้ยวเท่าไหร่ แต่สอยหน้าพี่เค้าไปแล้วรอบนึง”


ผมหน้าบูด จริงที่เล่าบางทีกูก็ออยากได้คำประมาณ ‘ไม่ต้องห่วงเพื่อน ยังไงกูก็จะอยู่ข้างมึงเสมอ’ แต่ลืมไป สงสัยจะหมดหวังไปพร้อมกับเพลงเราและนายในค่ายลูกเสือตอนม.หกไปแล้ว


“เชี่ย แต่แม่งพี่หมอเลยนะเว้ย” ไอ้พีที่เงียบมานานเพราะมัวแต่แยกใบกะเพราออกจากข้าวผัดกะเพราพูดแทรกขึ้นมา

“ทำไมวะ พี่หมอเค้าทำไม” ไอ้เติ้ลก็ไม่ได้อยากรู้ซักเท่าไหร่แต่เสนอหน้าเข้ามากลางวงทันที


“เออกูก็ไม่รู้หรอก แค่อยากอยู่ในวงสนทนา”
ไอ้เติ้ลผู้ที่ตั้งใจจะสาระแนเต็มที่ถึงกับเบรคหน้าทิ่ม ทำเสียงจิ๊จ๊ะ แล้วแก้แค้นโดยการย้ายกองกะเพราเข้าไปคลุกกับปลาหมึกให้มันแยกใหม่คราวหน้าจะได้ไม่ต้องอยากมีส่วนร่วมกับวงสนทนาอีก


“อ้าว ไอ้อู้” หืม? ผมหันหลังไปตามเสียงเรียก อ้อพี่แป๊ะครับ สภาพนี่รู้เลยว่าเมื่อวานท่าทางจะยับเยิน

“ดีพี่” ผมยกมือไหว้

“เมื่อวานก่อเรื่องอะไรวะ ไอ้โยแม่งหัวเสียหน้าดู กูนี่หายเมาเลย” พูดถึงพี่โยนี่ก็ลืมไปเลยว่าเมื่อวานมีเหตุการณ์ปริศนาหน้าร้านขึ้น ว่าแล้วต้องหาเวลาไปถามซักหน่อย

“พี่แป๊ะพี่ พี่รู้จักพี่หมอป้ะ” เติ้ลผู้ไม่ย่อท้อต่อการพยายาม

“มึงไปต่อยกับไอ้หมอมาหรอ!? เห้ย แล้วสภาพมึงยังดีอยู่ได้ไงเนี่ยไอ้อู้!” พี่แป๊ะทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีใส่ผม

“...พี่เห็นผมด้วยหรอ”  … ผมเลยเป็นผีกลับใส่

“ชิบหายละ กูเห็นอยู่คนเดียวหรอ!! ผีไอ้อู้!!” 


อ่ะบันเทิงเข้าไป ...
กูจะรู้เรื่องมั้ยวันนี้...


“โว้ยพี่แป๊ะ! ตอบมาก่อนเลย พี่หมอนี่มันใคร!” ไอ้เติ้ลพยายามดึงที่แป๊ะกลับเข้าประเด็น ในระหว่างนี้ไอ้พีก็ยังแยกใบกะเพราไม่เสร็จ

“ไอ้หมอเป็นเดือนคณะก่อนไอ้โย” พี่แป๊ะคว้าแก้วนมขาวเย็นๆของผมไปดูดทั้งซวบลดไปครึ่งแก้ว  ตลกแดกไม่มีใครเกิน

“อ้าว แล้วทำไมโดนปลดอ่ะพี่”

“มันไปต่อยกับเดือนเสดสาด”

“เชี่ยยย โหดสัด”

“ไม่ต้องโหไปหรอก จากมุมกูไอ้เดือนเสดสาดแม่งโหดกว่าไอ้หมออีก” แถวนี้มันเถื่อนไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้จริงๆว่ะ

“แล้วพี่โยอ่ะทำไมถึงโดนปลด”

“ต่อยกับอดีตเดือนวิศวะ”

“อ้าวแล้วใครคืออดีตเดือนวิศวะอ่ะ” นี่ก็มาตรงคอนเสปไม่ได้โง่แต่หน้ามาเสมอไม่เคยผิดเพี้ยน

“มึงอย่าไปบอกใครนะว่าสายเดียวกับกูอ่ะปัน กูอายเค้า”

“แล้วตกลงใครได้เป็นเดือนวิศวะอ่ะพี่” 

“ไม่มี เปลี่ยนสองรอบก็หมดแล้วคนหล่อคณะเรา ปีนั้นเลยส่งอีมงคลขึ้นประกวดแทนสุดท้ายโดนปรับตกเพราะแอบไปจับไข่เดือนเสดสาดโดนกระทืบกลางเวที ตอนโดนกระทืบภาคกูนี่ขำขี้จะแตก ร้องเสียงเหมือนบาบูนตกต้นแตงโม” ไม่รู้จะสงสารพี่มงคลที่โดนกระทืบหรือเวทนาพี่แป๊ะดี แตงโมไม่ได้เป็นต้นไอ้ห่าพี่แป๊ะ แตงโมเป็นพืชล้มลุก ต้นสูงไม่ถึงเมตร อย่าพูดถึงตกลงมาเลย ปีนได้ก็เก่งแล้ว โอ๊ยกูปวดหัววว 

 
อ้อ ‘ อีมงคล ’ หรือพี่ ‘ มงลง ’ ที่ว่าคือพี่กระเทยร่างอ้วนประจำคณะครับ ที่หน้าที่เป็นพี่สันทนาการแต่หลักๆแล้วก็แกล้งเต้นตลกแล้วจบด้วยลวนลามชาวบ้าน ท่าเต้นของพี่แกแต่ละท่านี่เสื่อมไม่รู้จะเสื่อมยังไง ขนาดเต้นเพลงไก่ย่างยังดูเหมือนฮิปโปกระหายการผสมพันธุ์ทำเอาฮากันสนั่น ขนาดพี่บางคนดึงหน้าอยู่ยังต้องหันหลังไปขำเลย

“ว่าแต่ทำไมพี่โยถึงต่อยกับพี่หมออ่ะพี่แป๊ะ”

“อย่าให้กูเล่าเลยว่ะ “ ไอ้พี่แป๊ะทำหน้าสลดหดหู่ดูเหมือนหมาโดนทิ้งยิ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพวกที่สาระแนอย่างพวกผมเข้าไปอีก   
 
“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอวะพี่” อินสุดยิ่งกว่าอะไรก็ไอ้เติ้ลนี่แหล่ะครับ

“เปล่า กูไม่รู้”

เบรกเอี๊ยดรอบสองหน้าแทบทิ่ม คราวนี้เลิกอยากรู้พร้อมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่พี่แป๊ะทันที ไร้สาระกว่าการแยกใบกะเพราจากผัดกะเพราะก็พี่แป๊ะนี่แหล่ะวะ

“เออ ว่าแต่พวกมึงจะลงแข่งเปิดหอป่ะวะ ”

“เห็นแปะอยู่หน้าหอ มันคืออะไรวะพี่” ทั้งโต๊ะพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนผมก็อือๆออๆครับ เดินผ่านไอ้กระดาษที่แปะมาแบบไม่ได้สนใจอะไรซักเท่าไหร่

“กูจะเล่าไงดีให้ตื่นเต้นวะ”
 ...เอาเป็นเริ่มจากเล่าธรรมดาแต่เป็นเรื่องจริงก่อนมั้ยพี่แป๊ะมพี่
 “มันเป็นกิจกรรมของหอในสืบทอดกันมานานตั้งแต่สองร้อยปีที่แล้ว”

“มหาลัยเรายังไม่ถึงร้อยปีเลยนะพี่” นั่น คิดยังไม่ทันขาดคำไอ้พี่แป๊ะก็ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จออกมาอีกแล้ว

“มึงทำเป็นฟังผ่านๆไม่ได้หรอไอ้อู้ ขัดกูจัง” พี่แป๊ะทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ

“เออไอ้อู้มึงนี่! ” เห็นแก่ไอ้เติ้ลที่ทำหน้าอยากเห็นประหนึ่งชาติที่แล้วตายระหว่างทำแบบสอบถามเลยจะยอมฟังเรื่องจริงผสมเท็จของพี่แป๊ะไปแบบไม่ขัดบ้าง

“อ่ะแฮ่มๆ ว่าง่ายๆก็มันเป็นเหมือนกีฬาสีหอใน หอชายก็แบบ หอหนึ่งสีประจำหอสีเขียว หอสองสีเหลือง หอสามสีม่วง และหอสี่สีแดง แบ่งเป็นบ้านๆไป หอไหนเล่นเกมชนะก็ชนะไป ง่ายแค่นี้เอง ”

“แบ่งสีขนาดนี้พาดผ้าพันคอหน่อยกูนี่นามสกุลมัลฟอยเลยอ่ะ” พีผู้เกลียดสีเขียวอย่างใบกะเพราดันได้สีเขียวเป็นสีประจำหอเสมือนโดนกะเพราล้างแค้นเบะปากทำหน้าทำตาเหมือนคนอยากวิ่งไปฟ้องพ่อว่าโดนกะเพราแกล้ง 

“เชี่ย โคตรคูล นี่กูเหมือนอยู่หอกริฟฟินดอร์” ไม่พูดเปล่า ไอ้เติ้ลยังคว้าตะเกียบขึ้นมาวิงการ์เดียมเลวิโอซ่าให้ชาวบ้านได้ละอาใจอีกแต่ดันเผลอหลุดมือกระเด็นตกพื้นไปตรงที่แม่บ้านกำลังถูพื้นอยู่ เลยโดนสายตาอวาดาคาดาฟราเปรี้ยงเข้าให้ เฮอร์ไมโอนี่จำแลงหน้าจดเหลือสองนิ้วไปเลย สมน้ำหน้า

 “แล้วเกมมันยากมากมั้ยอ่ะพี่”

“ยากดิมึง มันเป็นเกมที่แบบกว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้จะต้องอาศัยความสามัคคี กุมมือกันให้แน่น เกมแม่งโครตยาก พวกมึงเคยดูอะเวียงเจอร์มะ แบบนั้นเลย แม่งเหมือนไปทำศึกกับโดรน ถ้าไม่สามัคคีกันไว้มึงผ่านด่านไปไม่ได้แน่นอนเหมือนดังคำโบราณเค้าบอกเอาไว้ว่า...อ่า” พี่แป๊ะชะงักไปนิดนึง ตาดำล่อกไปแล่กมา “..ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ!!”
ห่า ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย นี่จบภาษาไทยเกรดเท่าไหร่ รู้แล้วเลยว่าทำไมปีหนึ่งถึงต้องมีวิชาภาษาไทยของมหาลัย เพราะคนอย่างไอ้พี่แป๊ะนี่เอง เออ แล้วอะเวียงเจอร์คืออะไร ยี่ห้อน้ำแร่เรอะ เค้ามีแต่อเวนเจอร์!! สรุปวิชาอังกฤษที่มีนี่ก็เพราะคนอย่างมึงด้วยใช่มั้ยไอ้พี่แป๊ะ!

“เกี่ยวไรกับตำน้ำพริกวะพี่”

“บ๊ะ แม่กูชอบกิน”



... เอวัง
คุยกับพี่มันกูได้สาระไปบ้างมั้ยเนี่ย


“คุยกับพี่แป๊ะแล้วทำไมปันงงวะ”

“คุยกับใครมึงไม่งงบ้างอ่ะปัน”

“แล้วรางวัลอะพี่”

“มันมีหลายรางวัลอ่ะมึง แต่รางวัลที่ใหญ่ที่สุดคือรางวัลใหญ่” เออกูรู้แล้ว ไม่งั้นมันจะชื่อรางวัลใหญ่ได้ยังไง โอ๊ย ไอ้พี่แป๊ะ

“แล้วรางวัลใหญ่คือรางวัลใหญ่มันคืออะไรวะพี่”

“หน้าตาดูอยากรู้นะมึงอ่ะเติ้ล มันคือเกมสุดท้ายของงาน พวกมึงจะต้องร่วมมือกับเมทของพวกมึงหากล่องรางวัลที่ซ่อนไว้ที่ไหนไม่รู้ของมหาลัย ส่วนรางวัลแม่งก็อยู่ในกล่องแหล่ะ ปีกูนี่รางวัลใหญ่มอไซต์นะครับผมมม” ผมกรอกตาทันทีที่ได้ยินคำว่า ร่วมมือกับเมท ถ้ากติกามาแบบนี้ก็ตัดกูออกไปได้เลยเถอะ พูดไปแล้วมะเขือม่วงนี่ลอยมาเลย เกลียด ฮือ

“เค้าเอามอไซต์ใส่กล่องเลยหรอพี่! ”

“ไอ้ห่า กระดาษมึงกระดาษ มึงค่อยไปรับรางวัลทีหลัง ลังใหญ่ขนาดนั้นมึงคงต้องถ่วงเนสซีซ่อนแล้วหล่ะ นี่กูคิดว่ามึงโง่แต่หน้านะเนี่ย เสือกโง่ไปทั้งตัวเลยหรอ ” เนสซีคืออ่างเก็บน้ำหลังมอครับ จริงๆก็อ่างเก็บน้ำธรรมดาเนี่ยแหล่ะ แต่มันท่ออยู่ตรงกลางบ่อโด่ขึ้นมาเหมือนหัวไดโนเสาร์ เราเลยเรียกมันว่าบ่อเนสซี   

“แล้วปีนี้อะพี่”

“ปีนี้หรอ ปีหนึ่งอย่างพวกมึงเลิกหวังไปได้เลย เพราะของรางวัลปีนี้ตัวท็อปปีสามทั้งสามหออย่างไอ้หมอตัวแทนเขตสาม ไอ้โยตัวแทนเขตสี่ ไอ้เดือนเสดสาดตัวแทนเขตหนึ่งแม่งกะจะแย่งชิงกันยิ่งกว่าลิงชิงบอล!” ไอ้พี่แป๊ะพูดมาแต่ละชื่อนี่เกือบจะน่ากลัวแล้วครับ แต่เสือกยกตัวอย่างเป็นลิงชิงบอล ลดความขลังลงไปได้ครึ่งนึงเลย

“โหหห โคตรศึกเดือนชนเดือน”

“แล้วตกลงของรางวัลคืออะไรวะพี่”

“กูไม่อยากจะบอก”

“เพราะพี่ไม่รู้?”

“เอ๊ะไอ้ห่าอู้ มึงนี่ไม่ชอบขี้หน้ากูรึเปล่าเนี่ย เตะตัดขากูทุกมุก”

“ตกลงพี่รู้มั้ยหล่ะ เห็นมั่วมาตั้งแต่ต้นเรื่อง” ผมพูดจบไอ้พี่แป๊ะก็มองข้างใส่แบบใส่จริตยิ่งกว่านางร้ายช่องสาม

“อย่าดูถูกกูไปไอ้พวกหน่อไม้ กูเนี่ยรู้เรื่องทุกเรื่องไวยิ่งกว่าสามจีทรู เปลี่ยน ไอ้ห่าพูดแล้วโมโห เมื่อวานกูจะเปิดดูไลฟ์น้องสายป่านอะมิโน แม่งหมุนวนไปเถอะวนจนกูกรอกตาตามแทบเป็นตะคริว อดเม้นต์ครางชื่อพี่แป๊ะหน่อยครับเลย” อือ เนทมันคงทำถูกแล้วหล่ะ นอกจากจะพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วยังป็นพวกจิตลามกอีก ชีวิตมีอะไรสมดุลมั่งวะ แล้วถามจริงให้น้องเค้าครางน้องเค้าไม่ต้องคราง อาแป๊ะ อ๊าแป๊ะ ฟังแล้วดูตรุษจีนพิกล

  “พี่ต้องเม้นต์ 99 พี่ถึงโชคดี ปันลองมาแล้ว วันนั้นเม้นต์ 99 ปุ๊ป ป้าขายน้ำทอนตังค์เกิดมาสามบาทเลย โคตรโชค แต่ดีนะปันคืนเค้าไป”

“เค้าให้มึงมาอมเปล่าปัน”

“เห้ย กูไม่ใช่ประปุกออมสิน”

“เติ้ลไม่ได้ด่ามึงเป็นกระปุกออมสินหรอกปัน”

“เออ กูด่ามึงเป็นตู้บริจาคเงิน ป้าเค้าให้สามบาทมาสมทบทุนเด็กยากไร้ มึงนี่ไม่รู้เรื่องเลยปัน”

“หน้ากูดูเป็นคนดีขนาดนั้นเลยหรอวะ” เปล่าไม่หรอก หน้ามึงดูโง่ โดนด่าขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก กูปวดหัวแทน
   
“ตกลงรางวัลเป็นอะไรพี่แป๊ะ” ผมวกกลับเข้าประเด็น นี่นอกเรื่องจนกูจะไม่อยากรู้แล้วเนี่ย

“อ้อ เห็นเค้าพูดกันนะว่ารางวัลปีนี้คือเงินสดสองหมื่นบาท ตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟ ..แต่ที่เด็ดสุดที่พวกเดือนเดือดแม่งแย่งกันแทบตายห่าคืออย่างหลังสุด นั่นก็คือ..”

“คือ..?”

“คืออออออออ”

“คือ?”


“คืออออ... กูจำไม่ได้ มึงกลับไปอ่านป้ายประกาศกันเองแล้วกัน ไปเรียนละ บ๊าย” ไอ้พี่แป๊ะตีเนียนเก็บข้าวเก็บของแล้วลุกหนีไปเลย ในตอนนั้นเองที่ผมเพิ่งรู้ตัว






ไอ้ห่าพี่แป๊ะ!! นมขาวเย็นๆของกู!!
 


.
.
.
.





             สูบพลังโคตรๆ คุณเชื่อมั้ยครับ ในมหาลัยมันจะอยู่ซักวิชา ที่เหมือนสร้างมาเพื่อให้มึงเข้าไปนั่งเบื่อไปวันๆ เหมือนสอนจริยธรรมในชีวิต สอนให้คุณเป็นคนดี แต่อาจารย์ก็มาสายไปยี่สิบนาที วิชาอะไรแบบนี้โคตรดูดพลังงานเลยเถอะให้ตาย มีแต่คนเดียวแหล่ะครับที่เรียนวิชาแบบนี้แล้วดูดีนั่นก็คือไอ้ปัน อีกนิดนึงจะนุ่งขาวห่มขาวมาเรียนแล้วบอกเลย

“อู้!” หืม? ผมหันไปตามเสียงเรียก ก็พบฟันครบสามสิบสองซี่ฉีกยิ้มมาแต่ไกลแต่ไกลขนาดประตูหน้ากับประตูหลังก็ยังรู้ว่าพี่เค้าหล่อ

“อ้าวพี่โย”

“มีเรียนไรต่อป่ะวะ”

“ไม่มี พี่อ่ะ”

“กำลังคิดอยู่ว่ามีดีมั้ย แต่พอเจอมึงเลยไม่มีเพราะมีเรื่องต้องคุยกับมึง” อ้าว แบบนี้ก็ได้หรอ

“เรื่องอะไรอ่ะพี่”

“เรื่องไอ้หมอ มึงไปรู้จักมันได้ยังไง แล้วแผลที่ปากมึงหมายความว่าไง หมายความว่าไงที่.. ที่มันบอกว่า มันเป็นคนทำ” พี่โยถามรัวๆแล้วจ้องหน้าผมไปด้วยแบบเป็นเอาเป็นตาย

“พี่หมอเค้าเป็นเมทผม แผลที่ปากก็เค้าทำจริงๆ แม่งเสยหมัดมาอู้หลบแล้วไปกระแทกขอบเตียง” จริงไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ เดี๋ยวเค้าหาว่าโง่

“เฮ้ยโย ‘จารย์ควิซวันนี้ รีบไปเถอะ” เสียงเพื่อนพี่โยตะโกนเรียกมาจากด้านหลัง พี่โยหันไปตะโกนตอบตกลงก่อนจะหันขวับมาจับไหล่ผมไว้ สีหน้าพี่โยดูร่าเริงขึ้นมาแบบเห็นได้ชัดทั้งๆที่เพิ่งรู้ว่าจะมีควิซ ดูท่าจะเป็นคนชอบเรียนมั้งพี่รหัสผม

“แสดงว่ามึง.. ไม่ได้เป็นอะไรกับมันใช่มั้ย”

“เป็นดิพี่ เป็นเมทไง”

“ดีแล้ว ดีแล้ว..” ไอ้พี่โยถอนหายใจยิ้มๆแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวผม “มึงไม่ต้องเป็นอะไรกับมันซักอย่างเลยได้มั้ย กูห้าม เมทก็เป็นไม่ได้ ย้ายมาหอสี่ เดี๋ยวกูทำเรื่องให้”

“ไอ้โย อาจารย์จะล๊อคห้องแล้ว!!!”

“ไว้ค่อยคุยกันนะ” พี่โยยิ้มให้ผมแล้ววิ่งไปขึ้นลิฟต์กันเพื่อน ไม่วายยื่นหน้ามายิ้มให้ผมอีกรอบ
เอาหล่ะมาถึงตรงนี้ ผมก็ไม่ได้โง่หรอก เพราะผมไม่ใช่ไอ้ปัน มันชัดเจนขนาดนี้แล้วทั้งคำพูดทั้งหน้าตาที่โล่งอกขนาดนั้น ไหนจะไอ้คำเตือนห้ามเป็นแม้กระทั่งเมท มันโคตรของโครตรจะชัดเจน




ซึ่งผมไม่ได้โง่ แบบนี้อ่ะแน่นอน


พี่โยชอบไอ้พี่หมอ!!!


“อู้! มาเร็ว”  ไอ้ปันที่ยืนควบจักรยานตะโกนเรียกผมไปซ้อน ว่าจะเริ่มแผนช่วยพี่รหัส แต่เอาไว้ก่อนละกัน ไอ้ปันที่ขัดโชคจริงๆ สงสัยต้องกลับไปแชร์โพสต์ 99 บ้างละ

   ปันขี่มาส่งผมที่หน้าหอก่อนที่มันจะปั่นกลับไปหน้าหอตัวเอง พูดเหมือนไกล จริงๆอยู่ตรงข้ามกันครับ ก่อนขึ้นเลยแอบแวะตรงป้ายประกาศซะหน่อย ไอ้พี่แป๊ะแม่งมาพูดให้อยากรู้แล้วพูดไม่จบ เสือกไม่สุดที่เหมือนคนท้องผูกขี้จะต๋อมแต่ยังไม่ต๋อมครับ ซึ่งป้ายประกาศก็หาไม่ยาก แปะกลางบอร์ดด้วยสีม่วงแป๋นแหรน มองแล้วหงุดหงิด ซึ่งมุมล่างของป้ายก็เขียนตัวเบิ้มชัดเจน


‘ของรางวัลใหญ่ เงินสดสองหมื่นบาท ตั๋วเครื่องบินไปกลับทะเล และ




... ภาพลับของสามเดือนที่คุณก็รู้ว่าใคร





--------------


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์เลยนะคะ   :katai2-1: :katai2-1:
แอบตกใจตรงที่ทุกคนคิดว่าเป็นนิยายผี คือจริงๆอยากเขียนเกี่ยวกับหอ เลยตั้งชื่อว่าเด็กหอ ลืมไปเลย แง
ว่าแต่รู้ได้ไงว่าที่ไหน 5555555555555555555555555555555 สถานที่สมมุติสิโถ่ แค่มันคล้ายกัน
พี่หมอค่าตัวแพงตอนนี้เลยเสนอหน้ามาออกได้แค่ชื่อ วงวารพี่เค้านะคะ
 
สารภาพว่าเขียนชื่อพี่โยผิดเป็นพี่ยูไปเกือบครึ่งตอนค่ะ แง
แก้แล้วนะคะ ขออภัยด้วยจริงๆ ฮือออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2017 17:46:45 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ Ploids

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แวะมาเอ็นดูน้องปัน ในความเด๋อนั้น ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ขำตู้บริจาคกับอ๋าแป๊ะเป็นบ้าเป็นบอ ลงเรือแป๊ะปันละกันแบบนี้ ตลกคาเฟ่ดี
คิดถึงพี่หมอแบ้ว รีบจ่ายค่าตัวหน่อย
  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เนื้อหากับชื่อตอนไปด้วยกันมากค่ะ 5555555555
ทำไมน้องอู้ดูฮอตขนาดนี้ ใครๆก็รัก แต่ที่บอกพี่ยูชอบพี่หมอคง..ไม่น่าใช่นะลูก ไหนว่าไม่โง่ไง!!

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ สุดยอดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ตบมุกมันยิ่งกว่าโก่แก่ ฮาทุกมุก ขำ กระจายเลย  :t2: :m4: :m3:
พี่แป๊ะ นี่คุยมาก แมงโม้บินว่อน ไม่มีสาระจริงๆ
"พวกมึงเคยดูอะเวียงเจอร์มะ  ถ้าไม่สามัคคีกันไว้
มึงผ่านด่านไปไม่ได้แน่นอน
เหมือนดังคำโบราณเค้าบอกเอาไว้ว่า
...อ่า “..ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ!!” กร๊ากกกก
พี่ยู นี่โคตรอ่านง่ายเลยเนาะอู้
ห้ามอู้เป็นแม้กระทั่งเมท มันโคตรของโครตรจะชัดเจน
ซึ่งอู้ไม่ได้โง่ แบบนี้อ่ะแน่นอน
พี่ยูชอบไอ้พี่หมอ!!!
กร๊ากกกกกก
มาต่อไวๆนะ ไรท์ สนุกมากกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ขำพี่แป๊ะกับปันอะ คือแย่งซีนกระจาย คือพูดแม่งไม่รู้เรื่องเลย 5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ AerngAoei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอยยยย พี่แป๊ะ ฉันรักพี่แป๊ะ ฉันรักในความมั่วของเค้า  :hao7:

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ตอนที่ 4 





ภาพลับ?



สิ่งนึงที่ผมไม่อยากจะยอมรับคือภาพแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ


...มะเขือม่วง
 
โอ๊ยยยยยยยยยยยย เชี่ยเอ๊ยยยยยย เหมือนชาติที่แล้วโดนยิงแล้วก่อนตายเหยียบลงไปในแปลงมะเขือม่วง ถึงต้องโดนหลอกหลอนถึงชาตินี้
คิดแล้วหงุดหงิดปนเกลียดครับ อยากจีตีป้ายแรงๆแต่กลัวทำแล้วดูตุ๊ดเลยเบ้ปากใส่ป้ายประกาศให้ป้ายามยืนงง สุดท้ายก็ทำได้แค่ระบายอารมณ์ใส่บันได กระทืบแม่งแรงๆเลย หงุดหงิด


หงุดหงิดไปได้ห้าขั้นก็หยุดครับ เจ็บตีน
ต้องขึ้นอีกหลายขั้น เก็บแรงไว้ไปหอบตอนแถวๆชั้นสี่ดีกว่า เหนื่อยตอนชั้นสี่ตลอด เหมือนสมองมันรู้ครับว่าเดินมาใกล้ถึงห้องแล้ว ว่าไงดี เหมือนคนปวดขี้อ่ะครับ ตอนปวดแม่งไปมาๆบางทีย้อนเป็นตดยังอั้นได้ แต่พอใกล้ถึงประตูห้องน้ำเท่านั้นแหล่ะ ขี้เหมือนสามัคคีอยากออกมาดูโลกให้ต้องเดินหนีบจนไข่ประกอบร่างทุกทีไป

 
ฮื่อออ
ผมแปะตัวลงกับเตียงทันทีที่ถึงห้อง อ้อ ตอนนี้ผมย้ายตัวลงมานอนเตียงล่างแล้วครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เผื่อบางคนสงสัย ผมจะอธิบายห้องให้ฟังนะครับ อะแฮ่ม ห้อง 514 ของผมเป็นห้องสี่เหลี่ยมโง่ๆครับ เมื่อเปิดประตูเดินเข้ามาแล้วก็ปิดประตูเหลือบตาดำไปทางซ้ายจะเจอเตียงสองชั้นจะอยู่ติดประตู เตียงเดี่ยวตรงกลางสองเตียงติดกันและเตียงสุดท้ายซึ่งคือเตียงที่ไอ้คุณพี่หมอนอนคือเตียงคิดระเบียง ทุกเตียงจะมีโต๊ะไว้ใช้เขียนทำงาน และป้ายตีนเป็นตู้เสื้อผ้าทำจากไม้เปิดสองประตูครับเรียงอยู่สี่ตู้ ส่วนตู้สุดท้ายเรียกว่าตู้เสือกครับ ไม่ได้อยากจะเหยียด แต่มันดูเสือกที่สุดแล้ว เป็นตู้เหล็กแคบๆที่เพิ่งเสริมมาไม่ได้เข้ากันกับตู้ไม้ใหญ่ๆที่เรียงกันมาเลย รู้มาว่าตอนแรกห้องนี้มีไว้นอนสี่คนครับแล้วค่อยมาเริ่มนอนห้าคนปีผม ตู้เสือกเลยต้องแอตตัวเองเข้ามาเพื่อการณ์นั้น


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับห้องผมมันเป็นได้แค่ตู้เสือก เพราะคนนอนมีอยู่สองคน
ชื่อที่เหลือที่เพื่อนไอ้พี่หมอจองมาสละสิทธิ์ไปหมดแล้วครับไม่ได้เซ็นรายงานตัวเข้าหอ มากันสิทธิ์ชาวบ้านเล่นๆ พวกชั่ว!!

 ว่าแล้วก็ลุกไปหยิบเทปมาแปะตั้งแต่ผนังห้องเตียงกลางครับ เตียงกลางเป็นเตียงเดียวที่ชิดกัน สร้างอาณาเขตแม่งซะเลย รอเวลาก่อนจะย้ายหนีไปอยู่กับพี่โยแล้ว!


 นี่แหน่ะ แปะมันยันประตูตู้เสื้อผ้ามึงเปิดได้แค่ฝั่งซ้าย ฝั่งขวาห้ามแตะ!!


“ทำไร”
เฮือกกกกกก!
สะดุ้งสุดไรสุด

“เสือก” มันไหวไหล่แล้วถอดรองเท้าแบบสะบัดตีนไม่สนใจใคร

“มึงทำอะไรของมึงเนี่ย ติดเทป? แบ่งเขต?” ไม่ว่าเปล่า เอาตีนเหยียบๆอีกด้วย

 “ใช่ ที่ของพี่อ่ะอยู่ฝั่งนู้น นี่ฝั่งผม” อ่ะ กำลังคิดกันใช่มั้ย ว่าพี่ผมมาจากไหน ไม่ได้อยากจะดับฝันอะไรใครนะครับแต่แหม บ้านผมสอนมาดี ยังไงเค้าก็อายุมากกว่าผมตั้งสองปี



ยกเว้นมึงไอ้พี่แป๊ะ!!! นมขาวเย็นๆกู!!



“พี่? ผม? คือนอนกอดกูครั้งเดียว สุภาพขึ้นมาเลย”

“จะให้เรียกไอ้เหี้ยเหมือนเดิมก็ได้นะมึงจะเอาไง” เว้นแม่งไว้อีกคนดีมั้ย อุส่าเคารพนี่มึงจะเอายังไงไหนพูดมา

“ปากไวจังนะมึงอ่ะ เรียกกูพี่ก็ดีเพราะตอนมึงเพิ่งเกิดอ่ะกูเดินได้แล้วนะ” โห เชื่อแม่งเลย บลัฟย้อนหลังไปหลายสิบปีแบบนี้ก็ได้หรอวะ ไอ้หมอวางกระเป๋าใบเบ้อเริ่มลงบนเตียงแล้วเริ่มรื้อเสื้อผ้าข้าวของออกมา



ด้วยการโยนไปเรื่อย
ถุงเท้ามึงกินเขตแดนกูมาแล้วฟายยยยย บ้านมึงสอนให้รื้อของแบบนี้หรออออ

“เห้ยๆ ถุงเท้าเกินเขตแล้ว”

“เออกูให้ เอาไปเลย ” ถามกูซักคำเถอะ ถุงเท้าสีดำใครมันจะไปอยากได้ กูไม่ใช่ด๊อบบี้รอปลดความเป็นไทนะโว้ย

“ไม่เอาโว้ย”

“มึงนี่โวยวายน่าดูนะ แล้วเทปสีเหี้ยไรโคตรตุ๊ด” มันมองเหยียดเทปสีชมพูของผมด้วยสายตาดูแคลนแบบสุดๆ เดี๋ยวเถอะมึงราคา 75 บาทเลยนะอย่าดูถูก

“มันเหลือสีเดียว เห้ยๆ ถุงเท้าเกินมาอีกข้างแล้ว!” ผมวิ่งไปเอาไม้แขวนเสื้อมาดันถุงเท้าไอ้เหี้ยพี่มันออกจากอาณาเขต

“มึงอย่าเอาไม้แขวนเสื้อเข้าเขตกู”

“มันยังอยู่ในเทปเนี่ยเห็นมั้ย มันอยู่ตรงกลางเขตแดน อย่าโง่”

ไอ้พี่หมองอคิ้วแล้วกระเถิบเอาตีนข้างนึงจิ้มเข้ามาในเขตผม ต่อหน้าต่อเลยครับ ยังมาทำหน้าภูมิใจได้เหยียบเขตแดนกูอีก มึงไม่เด็กเลยมั้งไอ้พี่แม่ง

"เอ้า ไอ้ห่าพี่นี่ พูดไม่รู้เรื่องหรอ"

“มึงนี่ตลกว่ะ เออ มึงอยู่ก็ดีกูมีเรื่องจะบอก”

“เออ มีเหมือนกัน"

"ถ้าจะบอกว่าหล่อไม่ต้องนะ เบื่อแล้ว"

"หน้าเหมือนกรงอูฐ กูไม่ชมหรอกครับพี่"

"คนเหี้ยไรหน้าเหมือนกรงอูฐได้"

"..." มึงไง!

"เหอะ มีเรื่องอะไรก็พูดมา"

"ก็เออ ไหนๆก็ไม่ได้อยากให้อยู่แล้ว อาทิตย์หน้าน่าจะย้ายไปอยู่พี่โยนะ”
 

เปรี๊ยะ!
ไม่มีเสียงหรอกครับ แต่เดาเอาว่าถ้ามีซาวด์แบบในหนังมันคงจะมี ตอนนี้สายตาของไอ้พี่หมอแม่งจะมีเสียงแบบนั้นออกมาเลย มีงบหน่อยจะต้องบวกเอฟเฟคประกายไฟเล็กน้อย จากมือที่รื้อของเหมือนแกล้งกันกลับมาหยุดนิ่งชะงัก แอบเห็นว่าขบกรามดังแกร่กๆเลย
ชิบหายละ อะไรอีกเนี่ย


“กู ไม่ อนุ  ญาต ”

“อะไรของมึ..พี่วะ ก็นี่จะออกให้แล้วไง” 

“เออมึงออกแน่นอนแต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ มึงจะลงแข่งเปิดหอกับกู ฟังนะไอ้ลูกหมา เรื่องนี้กูจริงจังมาก กฏข้อแรกของการแข่งคือกูต้องแข่งกับเมทซึ่งเมทกูมีคนเดียวที่รายงานตัวนั่นก็คือมึง อยู่ร่วมมือกับกูให้จบ แล้วหลังจากนั้นมึงจะออกไปอยู่กินกับผัวมึงยังไงก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้” ไอ้หมอก้าวขายาวๆของมันมายืนอยู่หน้า เอาอีกแล้วครับ โลกมือแบบไม่ต้องรอปิดไป ส่วนสูงมันก็บังไฟแทบมิด เฮ้ยๆ แม่งเกินเขตแดนมาเยอะแล้วโว้ย


แต่เดี๋ยวก่อน


“ผัวพ่อมึงดิ ไอ้สัส!!”

ไม่พงไม่พี่มันแล้ว!!

“มึงเซ็นใบลงชื่อให้กูเดี๋ยวนี้ หมดเขตสมัครภายในวันนี้กูต้องรีบเอาไปยื่น” มืดกว่าเดิมเพราะไอ้มือยักษ์ยื่นเอาใบกระดาษมาแปะตรงหน้าผมพอดิบพอดีเหมือนนี่ไม่ใช่หน้าคนมั้ง กูคงเป็นบอร์ดติดป้ายประกาศมั้งหรอ ไอ้เวร ผมกระชากกระดาษในมือมันออกทันที


“กู ไม่ เซ็น !!!”

“ไอ้ลูกหมา!!” มันกระชากคอเสื้อผมครับ แม่งเจ็บคอไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจมากกว่า ไอ้ห่าขาลูกพ่อ โดนพี่เค้ากระชากทีเดียวไหงขามึงลอยแบบนั้นอ่ะ ฮืออออ เจ็บใจโว้ย

“กูไม่เซ็น!! ยังไงก็ไม่เซ็น ใครมันจะไปยอมร่วมมือกับมึงวะ ปล่อยเลย” เชี่ย ผมชอคตาค้างเมื่อโดนสันจมูกมันเฉี่ยวแก้มไปสามเซ็น

“จะเซ็นดีๆหรือ...” ประโยคแบบนี้มันโคตรจะเบสิคหนังไทยครับ หวังไปเถอะมึงจะทำไม เซ็นทั้งน้ำตาหรอ มุกเก่าไปแล้วโว้ย!!

 มันปล่อยผมลงกับพื้นแต่ไม่ถึงวิก็คว้าเอวเข้าไปแนบ อย่าถามครับว่าอะไรแนบ มะเขือม่วงเจ้าเดิมหลอกหลอนไม่เคยเปลี่ยน ท่าตอนนี้เรียกได้ว่าเสี่ยง สัญญาณเตือนดัง แขนแน่นๆของมันล๊อคซะผมขยับไม่ได้นึกน้อยใจส่วนสูงตัวเองขึ้นมาทันที ส่วนมืออีกก็ข้างก็ไม่น้อยหน้าเลื้อยไล่ลงมา


ไอ้สัสสสสสสส บีบตูดกู๊

“ไอ้เหี้ยพี่!!”

“กูพูดกับมึงดีๆนะ”

“ถ้าแถวบ้านมึงเรียกดีนี่โตมาจากรัสเซียหรอ หรือมึงนามสกุลปูตินรึไง! หยุดบีบตูดกูเดี๋ยวนี้นะ!”

“ตูดแฟ่บจังวะ อย่าโวยวายดิลีลากูอ่ะดีกว่าไอ้โยแน่นอน” ลีลาเหี้ยไร! แล้วมึงรู้ได้ไง เชี่ยแล้วไงเชี่ยแล้ว นี่กูมาอยู่ในสงครามผัวเมียทะเลาะกันรึเปล่าเนี่ย!!


“ปล่อยนะ!!”
ผมฮึดฮัด หงุดหงิดดิครับ ผัวเมียทะเลาะกันไหงมาเดือดร้อนกูวะ และในจังหวะนั้นเองผมก็เห็นสิ่งเดียวที่จะหลุดจากอ้อมกอดของมันได้ลอยเข้ามาในสายตา หึ! กูบอกแล้วว่าอย่าซ่ากับอู้!
 
งับ!!

“เชี่ยๆๆ หัวนมๆๆ” ไอ้พี่หมอผลักผมออกอย่างไว มือถูหัวนมตัวเองเหมือนมันจะลดความเจ็บลงได้ ลอยเสื้อตรงหัวนมไอ้พี่หมอมันเปียกเป็นลูบรอยฟันเลย ใช่ครับ!!

ผมกัดหัวนมมัน!!
เอ่ะ.. ทำไมฟังดูเรท ตะ แต่ ผมหมายถึงกัดอ่ะกัด งับจมเขี้ยว


“กูไม่ลงชื่อ ฝันไป..



แมลงสาบ!!!!!!


ยังด่าไอ้พี่มันไม่ทันจบ สายตาผมก็เหลือบไปเห็น ตัวสีน้ำตาลหนวดดุ๊กดิ๊กเดินโยกย้ายส่ายสะโพกมาจากมุมห้อง
บอกเลยครับแม่งเป็นตัวที่ต่อให้เพศไหนก็ต้องกรี๊ด แต่เสียใจผมอ่ะคนแมนๆคูลๆ กรี๊ดเกิ๊ดอะไรไม่มีเพราะผมหน่ะ….



โดดขึ้นเตียงชั้นสองอย่างไว!
ฮือออ กูไม่แมนแล้วก็ได้โว้ย รู้มั้ยครับ แมลงสาบนี่แม่งดายฮาร์ดสัสๆ ระเบิดนิวเคลียร์ลงยังไม่ตาย นับภาษาอะไรกับใจอู้คนตัวน้อยๆ


“มึงกลัวแมลงสาบหรอ?” พี่มึง มึงมันโครตแมน กูยอมมึงแล้ว ยืนนิ่งอยู่เคียงข้างปีเตอร์ประหนึ่งไม่มีห่าไรเกิดขึ้นได้ขนาดนี้

“พี่ไล่มันไปดิ๊ เร็วๆ เชี่ยๆๆ มันเดินแล้ว ไอ้เหี้ยพี่หมอ มึงมันเดินมาแล้ว”

“มันอยู่ในเขตมึงนะ”

“เขตเหี้ยไรช่างแม่งเถอะ พี่มึงมาช่วยจับมันก่อน เร็วๆ” มึงก็ยืนอยู่ในเขตกูไอ้เวร! ตัวใหญ่กว่าแมลงสาบตั้งเยอะ
กูยังไม่ไล่เลย

“กูจะถามมึงอีกครั้งนะอู้ มึงจะเซ็นชื่อให้กูดีๆมั้ย”

“ฮือๆ มันจะบินแล้วอ่ะ กูไม่เซ็นโว้ย กูไม่เซ็น พี่มึงไล่มันเร็วๆ มันเดินมาจะถึงขาเตียงผมแล้ว”  แม่งเวลาเฉียดตายขนาดนี้ยังมีหน้ามาถามลงชื่อเล่นเกม มึงมันไม่ใช่คนแล้วไอ้พี่หมอ!! 

ในที่สุดไอ้พี่หมอก็ก้มลงช่วยไล่แมลงสาปให้ผมครับ
โดยการ ... หยิบ! หยิบแมลงสาบขึ้นมา โอ้มายก๊อดดดดดดดดดดดด ไอ้ปีเตอร์ที่เท้าสัมผัสอากาศรีบสะบัดขาขนๆดิ้นดุ๊กดิ๊กทันที เรียกได้ว่าสยองขนลุกไปหมด ผมนี่น้ำตาคลอจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ ฮือๆ ว่าแต่ทำไมไอ้พี่หมอแม่งไล่แปลกๆวะ
ทำ ทำ.. ทำไมมึงเดินมาใกล้ๆหล่ะ ประตูระเบียงอยู่ด้านนู้น เห้ย เดี๋ยว เห้ยยยยยยย


“พ.. พี่ ไอ้เหี้ยพี่ มึงจะทำอะไร พี่ ผมไม่เล่น! พี่หมอพี่!”

“ถ้ามึงไม่เซ็น กูบอกได้เลยไอ้ตัวนี้จะไปไต่อยู่บนหน้ามึงแน่นอนไอ้ลูกหมา”

ผมพะงาบปาก จะด่าแม่งยังด่าไม่ออก ดูขาน้องสาบก็ดุ๊กดิ๊กๆพร้อมปล่อยตัวแลนด์ดิ้งลงมาบนหน้าผมเต็มประดาเพียงแค่ไอ้พี่หมอง้างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้อออก คิ้วที่บากเล็กน้อยตรงหางคิ้วกระดกขึ้นแบบกวนตีนเต็มที่ หน้าหล่อๆที่เหมือนกดสูตรเดอะซิมส์ได้มาตอนนี้ดูชั่วยิ่งกว่าชั่ว

ทำไม! มึงหลุดมาจากการ์ตูนเรื่องหมอปีศาจหรอ! มึงนามสกุลปูตินจริงๆใช่มั้ย!

 “เหี้ยพี่ ถามจริงมึงโตมาแถวเขตสงครามหรอวะ”

“เซ็น หยิบใบขึ้นมาแล้วเซ็นชื่อมึงลงไป” ฮือออ ผมมือสั่นไปหมด ขนาดจะเอื้อมไปจับปากกายังไม่มีแรงเลย ไอ้พี่หมอหรี่ตา “อย่าลีลา”

“ผมไม่มีแรงจริงๆ!”

“วุ่นวายจังวะ” มันก้มลงหยิบกระดาษพร้อมกับปากกายื่นมาให้ผม ทั้งๆที่อีกมือยังจับแมลงสาบที่กำลังดิ้นแด่วๆประหนึ่งเป็นหนูแฮมเตอร์น่ารัก ดูแล้วรู้เลยว่าบ้านเกิดมึงไม่น่าใช่กรุงเทพ อาจจะเป็นนรก ชั่ว ฮือออ น้ำตาจะไหลจับปากกาสั่นระริก นี่แม่งคือที่มาของหรือจะเซ็นทั้งน้ำตาโดยแท้จริงสินะ แล้วนี่ใบลงชื่อกฏเกิ่ดอะไรไม่มีให้อ่านหน่อยหรอ พอไอ้พี่หมอมันเห็นผมชะงักมือมันก็ยื่นเข้ามาใกล้ผมเป็นเชิงขู่ ถามว่าได้ผลมั้ย?


ไม่!!!


ไม่เซ็นไม่ได้แล้ว ไอ้เหี้ย!!


เสียงเสียดสีของปากกากับสมุดแกร่กๆคมบาดเหมือนจะปาดใจให้ขาด พอเซ็นเสร็จผมก็ปาใส่หน้าไอ้พี่หมอแม่ง มันกระดกยิ้มอย่างพอใจ เดินผ่านไปเปิดประตูห้องโยนน้องปีเตอร์ทิ้งแบบไม่ใยดีแล้วกลับเดินมาหาที่ผมที่นั่งน้ำตาคลออยู่บนเตียงชั้นสองแบบไร้เรี่ยวแรง กูอาจจะดูไร้เรี่ยวแรงแต่สาปแช่งมึงไปหมดแล้วโว้ย!!

“มึงนี่มันตลกจริงๆว่ะ”

“ตลกกับแม่พี่เถอะ”

“อ้าว แมลงสาบอีกตัว!”

“เหี้ยยยย! ไอ้เหี้ยพี่หมอ”

“ฮ่าๆ แล้วลงไหวมั้ยครับน้องอู้” ไอ้หมอชั่วมันอ้าแขนรอเหมือนจะอุ้มผมลง หน้าตาของมันดูเย้ยแบบโคตรเย้ย รอชาติหน้าเถอะ ผมมองค้อนมันยิ่งกว่าปลาฉลามหัวค้อนแล้วปีนลงมาเองด้วยความหัวร้อน อะโห คล้องจองอย่างกะแรปเอก ว่าแล้วก็เดินหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้ปลายเตียงกระแทกไหล่ไอ้พี่แม่งแรงๆ เออ จริงๆก็ไม่ถึงไหล่หรอกแต่ก็ต้นแขนแล้วหน่ะ หยวนๆว่าไหล่หน่อยละกัน แล้วเปิดประตูระเบียงไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้หัวหายร้อน
ฮึ่ย! 





.
.
.
.

   


“น้ำวิศวะมั้ยค้าบบบบบบบ มีชอป มีเกียร์ ไม่มีเมียแต่มีน้ำมาขาย ดูดได้ ดูดฟรี ดูดดีๆระหว่างผิดหลอด ฮริ้วววววววววว”
“ลาบทอดเสดสาดมั้ยครับลาบทอด ไหนใครนกมากินลาบทอด เพราะ นกพี้ลาบบบบบ ยี่สิบบาทเองคร้าบบบ”
“ทางนี้เลยค่ะ ขนมสายไหม อ่อ ไม่สาย วันนี้มาทันเชคชื่อ ชุดละเล็กยี่สิบชุดใหญ่สามสิบเลือกสีได้จ้า”
“อยากกินไอติมมาทางซุ้มแพทย์เลยค่า จามติมก็มาได้ค่า โคนละสิบบาท ”
 



วันนี้คือวันเปิดหอวันแรกครับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงเหล่าพ่อค้าแม่ขายตะโกนแข่งกันซะดัง ความคลีเอทพี่เค้านี่ยอมใจ ไม่ใช่ยอมว่ามันดีนะครับ แต่แป้กมาก มุขเดิมกับสมัยคุณยายเล่นกล้าเอามาเล่นได้ยังไง 

อ่อ ไม่มีแค่เสียงขายของครับยังมีเสียงเหล่านิสิตหญิงชายเดินจับคู่คุยกัน โดยที่มีผ้าสีประจำบ้านผูกข้อมือแต่ละคนไว้ ผู้หญิงบางคนก็คลีเอทเอาไปมัดผมเป็นโบว์ ส่วนผู้ชายก็เอามาโพกหัวบ้าง ดูแล้วเพื่อชีวิตขัดกับที่ผู้หญิงทำมาซะน่ารักเลย ส่วนนู่นไอ้พี่แป๊ะคนเสื่อมประจำคณะ มาพร้อมกับการเอาผ้าสีแดงผูกเป็นกางเกงใน ไม่มีหรอกครับรัดผมรัดมือ วิธีคนคูลคือรัดไข่ ซุปเปอร์แมนเวอร์ชั่นเหี้ยไรเนี่ย! หน้ามาซะจีน!


“เห้ย ไอ้อู้ เป็นไงกูคูลป่ะ อย่างกะหลุดมาจากอะเวียงเจอร์” ยังไม่จบจากผู้พิทักษ์น้ำแร่พี่แม่ง กูหล่ะเหนื่อย

“ทุเรศว่ะพี่”

“อ้าวๆ พูดดีๆ กูมาในฐานะมือขวาพ่อทัพหอแดงนะโว้ย บอกเลยวันนี้มึงอย่าเรียกชื่อกูแป๊ะมันธรรมดาไปไม่เหมาะกับหน้าตาอินเตอร์ระดับฮอลลีวูดของกู โปรดเรียกผมว่าโบกอม”

“อะไรอมๆนะ”

“โบก - อม ไอ้สัส โบก - อม” นั่นชื่อหรืออะไรทำไมอมๆ ฟังแล้วดูไม่ค่อยมงคล

“คนเหี้ยไรชื่อโบก – อมวะพี่”

“อ้าวๆ บ้านมึงนี่เนทเข้าถึงยังเนี่ย ปกติส่งข้อความด้วยการโบกควันที่เผาจากใบไม้หรอไอ้อู้ โบก – อม นี่ดาราดังเกาหลีเลยนะมึง น้องสาวกูดูซีรี่ส์ที่แม่งเล่นทีแทบเลียจอคอม หน้าตาแม่งก็งั้นๆ กูหล่อกว่าอีก” เออถึงจะไม่รู้จักไอ้อะไรอมๆ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่ามึงไม่น่าจะหล่อกว่าได้หรอกไอ้ห่าพี่แป๊ะ  ตาดำเล็กอย่างกับไฝยังมีหน้าไปเทียบออร่าความหล่อเค้า

“เชี่ย พี่แป๊ะ กางเกงในพี่โคตรคูลลลล” ไอ้เติ้ลที่เพิ่งซื้อเฟรนช์ฟรายราดชีสเสร็จเดินมาร่วมวงครับ
 
“ใช่มะๆๆ เอ้ยเดี๋ยว วันนี้งดแป๊ะครับน้องๆหนูๆมิตรรักแฟนเพลงทุกคน โปรดเรียกกูว่าโบก - อม”

“อะไรอมๆนะพี่”

“บ๊ะ! ไอ้ปัน บ้านมึงนี่อยู่อำเภอเดียวกับไอ้อู้ใช่มั้ย ไปยืนไกลๆกูเลย เหม็นสาปกลิ่นควัน”

“ห๊ะ ปันไม่ได้ดูดบุหรี่”

“เบื่อคุยกับมึงว่ะ คุยไม่รู้เรื่อง เสียชื่อหอแดงหมด” แหม มึงพูดรู้เรื่องมากเลยพี่

“เออ ชาวหอแดงเรามันคนคูล ไอ้ปันนี่แม่งไม่ไหวว่ะพี่ เนอะๆ” ไอ้เติ้ลไปเกาะแข้งเกาะขาพี่แป๊ะ ทำตัวเป็นพวกลูกกระจ๊อกไจแอนท์อย่างโดยดี แต่มึงเลือกเมนเทอร์ผิดไปหน่อยนะ มึงเลือกพี่แป๊ะเนี่ยนะ คิดดีแล้วถูกมะ

“เออ มันต้องอย่างนี้เติ้ลรสแอปแปด ในฐานะที่มึงพูดจาคูลๆ กูจะสถาปนามึงมาเป็นตอ ส่วนกูจะเป็นอาหรับแมนเอง”

“ตอคืออะไรวะพี่ ขนรักแร้หรอ”

“โหอู้ นี่มึงขี่อูฐมาเรียนป้ะเนี่ย ตออ่ะตอ ตัวที่แม่งถือค้อนอ่ะ มึงนี่แม่งบ้านนอกว่ะ อาหรับแมนโซเวทนามาก ยูโน้” อาหรับแมนคืออะไรของพี่มันวะ ขี่อูฐมากู้โลก อาวุธคือโรตีงี้หรอ โทนี่สตาร์คแม่งเลือกภาษาร้องไห้ไม่ถูกเลยเจอไอ้พี่แป๊ะไป

“อูฐมันอยู่ในเขตเมืองไทยได้ด้วยหรอพี่แป๊ะ”

“อ่ะ ไอ้เหี้ยนี่ก็โง่บริสุทธิ์ โอมายก้อดปัน ยูโซสติวปิ้ดอ่ะ อาหรับแมนโซเอ่อ...เวทนาอะเกน เติ้ลมีแค่มึงแล้วแหล่ะที่กูจะหวังพึ่งได้ ไอ้ตอน้องรัก” แล้วก็โผลกอดกันกลมเกลียวปล่อยให้ไอ้ปันยืนงงกับตัวเองว่าอูฐอยู่ในทะเลทรายไม่ใช่หรอทำไมถึงมาเดินในเมืองได้

“ไม่เอาพี่ผมไม่ตอได้มั้ยวะ ฟังแล้วเหม็นเขียว ขอชื่อเกาหลีดีๆซักชื่อซิ”

“ได้ๆ นี่เลย น้องกูชอบพอๆกับโบก – อม รู้สึกจะชื่ออะไรโฮๆลีๆ...” ไอ้พี่แป๊ะหยุดเกาคางตัวเอง “อ๋อๆ มะโหลี!”

“ลีมินโฮ!!!” ไอ้ห่าพี่แป๊ะ มึงมั่วจากนักแสดงเกาหลีมาเป็นดีดสีตีเป่าได้ยังไง กูนับถือใจ

"เออนั่นแหล่ะ กูออกเสียงผิดนิดหน่อย"

“เอออู้แล้วไมไม่ผูกโบว์วะ” ไอ้พีที่กำลังหาตำแหน่งผูกผ้าสีเขียวของมันถามขึ้น

“กูไม่มีว่ะ”

“อ้าว แล้วเมทมึงไม่ได้เอาให้หรอ”

“อย่าพูดถึงเมทกูเลย”

“อู้!! ไอ้ตัวเล็ก!! กูเอาโบว์มาให้” พี่โยวิ่งยิ้มมาแต่ไกล ในมือถือโบว์สีแดงสีเดียวกับกางเกงในไอ้พี่แป๊ะเป๊ะๆ พอวิ่งมาถึงตัวผมมันก็เอื้อมเอามาผูกกับข้อมือผมทันที  “ข้อมือมึงเล็กจังวะ ผูกแล้วกลัวหัก”

“เล็กแต่ต่อยเจ็บนะพี่”
ผมยักคิ้ว ก่อนจะโดนพี่โยยีหัวไปหนึ่งที


เพี๊ยะ


เปล่า ไม่ใช่เสียงตบยุง ผมได้แต่ยืนนิ่งตกใจกับเสียงเพี๊ยะเหนือหัว เห็นก็แต่มือที่เพิ่งยีหัวผมเมื่อกี้สะบัดตกไป พร้อมกับหน้าพี่โยที่เปลี่ยนอารมณ์จากอบอุ่นมากลายเป็นขมวดคิ้วเดือดมองผ่านไหล่ผมไป



 อ่อไม่ใช่.. จริงๆผ่านหัวของผมไป ไหล่มันตกระดับสายตาไปหน่อย

“รบกวนอย่าเอาโบว์สีเสล่อของมึงมาผูกคนของคนอื่นด้วย” เสียงเหี้ย(ม)ทุ้มๆเป็นเอกลักษณ์ที่จำได้ดีลอยผ่านหัวผมไป เสียงที่แม่งขู่ผมพร้อมแมลงสาปอยู่เมื่อวานจะลืมลงได้ยังไง ชั่วยันเสียง มือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของมันยื่นผ่านมาจับต้นแขนผมบิดๆกระชากๆเล็กน้อย ผ้าสีแดงก็ถูกปลดโยนทิ้งลงกับพื้นไปเยี่ยงเศษผ้าขี้ริ้ว

“ไอ้เหี้ยหมอ”

“โบว์ของมันอ่ะอันนี้” เสียงจบ โบว์สีม่วงพาสเทลก็ผ่านหน้าผมมารู้สึกตึงตรงคอให้รู้ว่าโดนแม่งจับผูกที่คอเข้าให้แล้ว

“มึง!!” พี่โยถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้พี่หมออย่างรวดเร็ว

“เห้ยไอ้สัส อย่าตีกัน ไม่งั้นหมดสิทธิ์กันหมดนี่นะมึง” ไอ้พี่แป๊ะที่นานๆทีจะทำตัวมีประโยชน์กับเค้าบ้างยกมือซ้ายดันหน้าอกไอ้พี่หมอไว้แล้วใช้มือข้างขวาดันหน้าไอ้พี่โย

“มันกวนตีนกู!”

“มึงเสือกกวนตีนกูก่อน ไอ้หมานี่มันเมทกู”

ในขณะที่บรรยากาศกำลังคุกกรุ่นได้ที่แทนที่จะมีคนมาห้าม กลับกลายเป็นเป็นหมายที่สาวน้อยมาเกาะกันเป็นกลุ่มกรี๊ดกร๊าดกับหนุ่มหล่อเดือนเดือดคนดังกันไม่ขาดสาย ทั้งเซลฟ์ฟี่อัดไอจีสตอรี่กันยกใหญ่  จริงถ้ามีแท่งไฟอีกนี่เอามาโบกพร้อมอังกอร์ ต่อยเลย ต่อยเลย ก็น่าจะเท่ดีเหมือนกัน

“พอเลยพวกมึงศึกชิงนางหรอวะ  โบก - อมปวดหัวเลย ถ้านางแม่งน่าชิงกูจะไม่ว่าซักนิด นี่เสือกหน้าเหมือนหมาชิวาว่าพิการ” อ้าวไอ้ห่าพี่แป๊ะมึง เดี๋ยวเจอตีนหมาชิวาว่าบิน พี่แป๊ะนี่ก็โง่คงมาตรฐานดูไม่ออกเลยหรอวะว่าไอ้พี่หมอมันหึงพี่โย! โวะ! ผัวเมียทะเลาะกันที่ไรมาลงที่กูตล๊อดดดด

“กูจะทำเรื่องย้ายมันมาหอกู”

“เอาสิแต่กว่าขั้นตอนจะเสร็จคงอีกเป็นเดือน มันเซ็นชื่อลงคู่กับกูไปแล้วคงต้องอยู่ด้วยกันอย่างแนบแน่นไปอีกนาน ใช่มั้ยครับน้องอู้” มือมันเลื่อนมาดึงแก้มผม ฟังดูเหมือนน่ารัก แต่ไม่ครับ เจ็บชิบหาย แก้มยืดเลย ผมปัดมือมันออกทันที จับแมลงสาปมือนี้ป้ะเนี่ย เดี๋ยวหน้างามๆสิวขึ้นจะเบ้งให้หน้ายับเลย

“เจ็บ!”

“ไอ้หมอ!!”

“โวยวายสมเป็นพี่รหัสน้องรหัสชิบหาย ภาคโลนี่มีแต่ตัวน่ารำคาญ ไอ้ลูกหมา มึงอ่ะมากับกูเลย” อ้าวเฮ้ย ไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรซักคำก็ถูกลากคอออกมาจากบริเวณเป็นที่เรียบร้อย   

“เห้ยๆ จะลากไปไหนวะพี่ ผมลูกมีพ่อมีแม่นะ”

“เออ มึงคงไม่โดนใส่ปุ๋ยแล้วงอกออกมาหรอก”

“ปล่อยดิวะพี่! ผมเจ็บ!” และคำว่าปล่อยของไอ้พี่หมอคือการเหวี่ยงผมไปตรงสนามหญ้าข้างโรงอาหาร หน้าหล่อโกงชาวบ้านบูดจนสูญเสียความหล่อไป 0.1% ไม่ได้กระทบไรมากเท่าไหร่ แม่งดันดูแบดกว่าเดิมไปอีก มือที่เส้นเลือดปูดโปนยกขึ้นปาดหน้าม้าเบาๆด้วยแรงอารมณ์เซ็งๆ

“เกมจะเริ่มอยู่แล้ว มึงอย่าหายหัวไปไหนมาไหนโดยไม่บอกกูได้มั้ยวะ”

“เอ้า แล้วให้ผมบอกพี่ยังไง”

“เอาไลน์มึงมา”

“...” ขอเหี้ยไร หยามเกียรติโนเกียรติในกระเป๋ากูมาก เหมือนมันรู้ครับ ตานี่เหยียดมาเลย

“ไม่มีไลน์อีก เออ งั้นเอาเบอร์มา”

“แบตหมด จำเบอร์ไม่ได้”

“งั้นเอาชื่อนกฮูกมึงมา เดี๋ยวกูเขียนจดหมายผูกขาไป”

“เฮ็ดวิก”

“สัส” หัวลั่นกันเลยทีเดียว ฟาดมาได้ กะโหลกแทบแยก ผมเลยหน้าขึ้นเลยต่อยพุงพี่แม่งไปหนึ่งทีแบบไม่จริงจังมากครับ

อ่อ เอาจริงคือจริงจัง แต่มันดูไม่ค่อยเจ็บเลยแถว่าต่อยเล่นๆไว้ก่อน เดี๋ยวรู้หมดว่าหมัดไม่หนักจริง

“เออหน่ะ เดี๋ยวปันมันจะเอาเครื่องไอโฟนสี่เครื่องเก่ามันมาให้ยืม รอไปก่อนละกัน” เห็นหน้าเหมือนทัวร์จีนหลงกรุ๊ป แต่คุณชายปันปันเค้าบ้านรวยนะครับ ไอโฟนนี่มีครบทุกเลขทุกรุ่น สาวกแอปเปิ้ลโดนแดกไปคำนึงทั้งมือถือโน๊ตบุ๊คนาฬิกา จริงถ้าออกกางเกงในมามันก็คงจะมีแอปเปิ้ลแปะอยู่ตรงรูตูดด้วยเหมือนกัน

‘ผักกาด เอ้ย ผักกรูด เอ้ย ประกาศ เอ้ย ถูกแล้ววววววว แฮ่! ไม่ตลก... เชี่ย กูบอกแล้วว่าไม่น่าเล่น
แฮ่มๆ นี่คือเสียงตามสายจากกองกิจการหอพักนิสิต ขณะนี้กิจกรรมเปิดหอก็กำลังจะได้เริ่มขึ้นแล้ว
นิสิตคนใดที่เล่นเกมตามซุ้มสะสมแสตมป์ได้ครบสิบดวง สามารถนำไปแลกแสตมป์หมวดสองได้ฟรี
ส่วนสำหรับนิสิตที่จะเข้าร่วมการชิงรางวัลใหญ่ ขอให้มาฟังกติกาและคำใบ้ได้ที่ลานชงโค ขอบคุณครับ’

“โหย ขี้เกียจเดินอ่ะ” ลานชงโคที่ว่านี่ตั้งอยู่ไม่ไกลครับ ถ้าเดินตอนหน้าหนาวนี่โคตรโรแมนติก แต่นี่ไม่ใช่! นี่หน้าร้อน! และอยู่แถวๆกลางทุ่งหน้า ร้อนจนจั๊กเปียก แค่เดินออกจากหอยังไม่อยากเดินเลย

“เอาจักรยานไปดิ”

“ไม่มีดิ เดี๋ยวหาไอ้ปันก่อน ซ้อนมันไป ขี้เกียจเดิน” ผมเตรียมเดินออกแต่ความคิดก็หยุดได้แต่ตรงนั้นเพราะโดนมือมารดึงขอเสื้อยืดไว้

“หยุดเลย มึงอ่ะมากับกู เดี๋ยวหายหัวไปอีก” ว่าแล้วก็โดนลากคอเสื้อแถดๆมาหน้าหอ  ไอ้พี่หมอก็เดินไปลากอะไรมาซักอย่างที่กะทางสายตาแล้วน่าจะเป็นเศษเหล็กที่ควรเข้าไปอยู่พิพิธภัณฑ์อะไหล่ย้อนยุคไม่น่าเคลื่อนไหวได้
สนิมงี้เกราะกรัง เหมือนล้อควรจะหลุดตั้งแต่ขับไปได้ไม่พ้นหน้าหอ

“นี่อะไรวะพี่”

“ตาบอดรึไง มอไซต์สิวะ รีบๆขึ้นมาซ้อนเลยไวๆ”

“มันเบรคได้แน่นะพี่”

“ได้ดิวะ”

“ล้อมันจะไม่หลุดนะ”

“อย่าดูถูกถึนทึนลูกกู”

“แล้วมันจะ...”

 “ห่า มึงอย่าลีลาได้มั้ยวะ รีบๆขึ้นมา เดี๋ยวไปไม่ทัน”

นาทีละทึกครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนกูยังได้ขึ้นรถหรูอยู่เลยทำไมวันนี้เจอได้แค่ซากอารยธรรม ผมก้าวขาขึ้นซ้อนอย่างรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตอย่างเป็นที่สุด ดีนะจำได้ว่าแม่ทำประกันชีวิตไว้ให้แล้ว ไอ้พี่หมอสตาร์ทเครื่องเตรียมพร้อมจะออกตัว แต่ก็เหลียวคอหันมาบอกผมซะก่อน

“พอกูบอกเบรค ให้ขายันพื้นพร้อมกูเข้าใจนะ”




ไอ้ห่า!! เบรคอัตโนนาตีน กูไม่ไปแม่งแล้วโว้ย!!!










-----


ฮืออออ มีคนเม้นต์ไม่กี่คนก็ยังดีใจอยู่นะ 
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2017 22:40:24 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยังคงความฮา  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อู้ ช่างใสซื่อ ซะจริงๆ
เข้าใจพี่หมอ พี่โย แบบนี้นี่เอง
ไอ้พี่หมอมันหึงพี่โย!
โวะ! ผัวเมียทะเลาะกันที่ไรมาลงที่กูตล๊อดดดด
“พอกูบอกเบรค ให้ขายันพื้นพร้อมกูเข้าใจนะ”
ไอ้ห่า!! เบรคอัตโนนาตีน กูไม่ไปแม่งแล้วโว้ย!!!
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
.....
ปล.ขอแก้คำผิดนะ
แปรงมะเขือม่วง ------  แปลง
ขบกลามดังแกร่ก  ------ กราม

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ฮือออออออออออออออออ ขอบคุณคุณ ♥►MAGNOLIA◄♥ มากนะคะ
ว่าตรวจคำผิดหลายรอบแล้ว ไม่อยากให้อ่านสะดุดแต่ก็ยังหลุดออกมา
แก้แล้วนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่เตือน
 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ เหนียนเหนียนโหย่วหยู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกดีค่ะชอบ มุกนี่ตบรับกันเฮฮาปาร์ตี้
ระหว่างพี่หมอ พี่โย กับเดือนเสดสาด ต้องมีอะไรซักอย่างแน่ๆเลยค่ะ หรือจะรุมกันจีบน้องอู้กันนะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ไม่ไหวแล้ว คือขำมาก 55555555555555 รออีกหน่อยเดี๋ยวก็มีคนมาอ่านเพิ่มขี้นนะคะ ใจเย็นๆก่อนเนอะ

ยังมีคำผิดอยู่บางคำนะคะ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
บรรยากาศครื้นเครงมาก
ตัวละครแต่ละตัวมีความกากกันทั่วหน้า อ่านแล้วรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเป็นเพื่อนตัวเอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด