รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้านิยายเรื่องนี้จัดทำเป็นหนังสือ

ติดตามซื้อแน่นอน
ไม่ซื้ออ่ะ  ไม่สนุกจนถึงขั้นอยากเก็บ
ไม่แน่ใจ  รอรูปเล่มก่อนละกัน
รอซื้อตอนสำเร็จเป็นรูปเล่มแล้ว

ผู้เขียน หัวข้อ: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7  (อ่าน 63106 ครั้ง)

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
«ตอบ #30 เมื่อ26-03-2017 23:28:49 »

อ่านแล้ว อยากกลับบ้านนอกจังเลยค่ะ

ออฟไลน์ คุณจัตวา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
«ตอบ #31 เมื่อ29-03-2017 18:27:22 »

ชอบอะ  รู็สึกอบอุ่น   น้องฟักน้องแฟงน่ารัก  อยากให้มีเด็กน่ารักๆแบบนี้มาอ้อนบ้างจังเลย

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
«ตอบ #32 เมื่อ07-04-2017 11:30:46 »

จะมายังน่ะ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
«ตอบ #33 เมื่อ12-04-2017 17:56:46 »

น่ารักอบอุ่นดี รอจ้ะ

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
«ตอบ #34 เมื่อ16-04-2017 03:32:01 »


รักพอเพียง : ตอนที่ 5





   “เออนี่  เดี๋ยวคุณอาบน้ำไปก่อนนะ  ผมจะไปรับเเจ้าแฝดก่อน”
   
“ฮื่อ  จะให้ผมอยู่คนเดียวหรือ? ไม่เอาอ่ะ  ผมไปรับเจ้าแฝดด้วยแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาอาบ”

   “นี่มันค่ำแล้วนะ  ถ้าคุณไม่รีบอาบเดี๋ยวก็หนาวหรอก”  รัชพลเงยหน้าขึ้นมอง  ท้องฟ้ายามค่ำเริ่มมืดครึ้ม  อีกอย่างบ้านเขาไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นเสียด้วย

   “คุณจะทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียวเนี่ยนะ?”

   “อย่าบอกนะว่าคุณกลัว?”

   “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”  โกเมนยืดอกรับชนิดทิ้งความมาดแมนไม่เหลือเค้า  รัชพลอ้าปากค้างก่อนจะตัดสินใจไปรับสองแฝดช้าอีกหน่อย

   “งั้นเดี๋ยวผมรอคุณอาบน้ำเสร็จก่อนก็ได้”

   “ผมไม่อาบน้ำในห้องน้ำได้ไหม?”

   “ห้ะ  อะไรอีกล่ะคุณ”

   “ก็เดี๋ยวคุณแอบหนีไปตอนผมอาบน้ำ”

   “จะบ้าเรอะ!”

   “ไม่รู้แหละ”  คนตัวโตทำท่าสะบัดสะบิ้ง

   สุดท้ายรัชพลเลยจัดการให้โกเมนมาอาบน้ำตรงชานหลังบ้าน  ลมเย็นช่วงหัวค่ำโชยพัดจนต้องห่อไหล่

   “มันหนาวอ่ะ”

   “น้ำในโอ่งนี่ตากแดดมาทั้งวันมันยังอุ่นอยู่  รีบๆอาบเถอะ”  รัชพลโยนผ้าขาวม้าให้อีกฝ่ายใส่อาบน้ำก่อนจะทำท่าหันหลังกลับเข้าบ้าน

   “เฮ้ย คุณ  ยืนเฝ้าด้วยซิ  เกิดมีผีโผล่มาจะทำยังไง”

   “ไม่มีผีหรอกน่า แล้วรีบๆอาบได้แล้ว!”

        “อ้ากกกก!”

        “เกิดอะไรขึ้น?”  รัชพลวิ่งกลับมายังชานหลังบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของโกเมน

        “มันหนาวอ่ะ”
 
       “……”



   รถเครื่องคันเก่าแล่นไปตามทางลาดยางสายเล็ก  นานๆทีจะมีเสาไฟให้ความสว่างสักต้น  ด้านข้างส่วนใหญ่เป็นต้นไม้สูง  อากาศเย็นยะเยือกพัดมาเป็นระลอก

   “นี่คุณ  มันจะมีผีออกมาไหมอ่ะ?”  คนขี้กลัวเริ่มอยู่ไม่สุข  มือใหญ่ที่ตอนแรกจับท้ายเบาะเปลี่ยนมากำชายเสื้อคนขับแน่น

   “บ้าเรอะ! มันจะออกมาก็ตอนคุณทักเนี่ย!”  รัชพลไม่ใช่คนขี้กลัวแต่มาอยู่กับคนกลัวผีหนำซ้ำยังมาพูดคำว่าผีกรอกหูทุกห้านาทีมันก็อดรู้สึกหวาดๆขึ้นมาไม่ได้

   “นี่  แล้วรถยนต์เมื่อคราวก่อนไปไหนเสียแล้วล่ะ?”

   “นั่นไม่ใช่รถผมหรอก  ผมยืมเขาขับไปรับคุณน่ะ  พอรับคุณเสร็จถึงต้องไปส่งคนงานให้เขาที่ไร่ไง”

   “แล้วคุณมีแต่รถเครื่องแก่ๆคันนี้เนี่ยนะ”

   “ใช่”

   “แล้วนี่จะนั่งกลับกันสี่คนหมดเหรอ?”

   “ก็ผมบอกให้คุณรออยู่ที่บ้านก็ไม่ยอมเองนี่  แล้วนี่ถ้าเกิดซ้อนสี่แล้วยางแบนกลางทางคุณมาเข็นรถเลยนะ”

   “โธ่~”

   รัชพลยกยิ้มมุมปาก  รู้สึกเอ็นดูคนขี้กลัวขึ้นมานิดหน่อย  แต่ส่วนใหญ่คือความหมั่นไส้เสียมากกว่าเขาเลยแกล้งขับให้ช้าลงอีก  แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าตอนขากลับเพราะน้ำหนักที่มากขึ้นเลยได้ขับช้าๆตามที่แกล้งเอาไว้จริงๆ

   เด็กแฝดพอถึงบ้านก็ล้างเท้าแล้ววิ่งเข้าที่นอนทันที  โกเมนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู  มันบอกเวลาสองทุ่มทั้งๆที่ท้องฟ้าข้างนอกมืดสนิทจนเขานึกว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว

   “เด็กๆจะนอนกันแล้วหรือ?”

   “ใช่  พรุ่งนี้วันจันทร์ตา-ยายของสองแสบจะมารับไปโรงเรียน”

   “โรงเรียน?  สองคนนั้นอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”

   “หกขวบ”

   “หกขวบก็ให้ไปโรงเรียนแล้วหรือ?”

   “ที่จริงก็ไม่เชิงโรงเรียนหรอก  เป็นศูนย์เด็กเล็กของโรงพยาบาลน่ะ”

   “อ้อ  แล้วนี้เด็กๆต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างนี้ทุกวันหรือ?”

   “ก็ถ้าไม่นอนแล้วจะทำอะไรล่ะ?”  รัชพลห่มผ้าให้ลูกสาวลูกชายพลางเหลียวมองร่างสูงที่ยืนพิงกรอบประตูห้อง

   “ดูทีวี ดูละครไง  เออ จะว่าไปบ้านคุณนี่เงียบๆนะ”

   “บ้านเราไม่มีโทรทัศน์หรอก”

   “หือ  อยู่กันได้ยังไงโดยไม่มีทีวีน่ะ”

   “ก็อยู่กันมาได้นี่”  รัชพลเหน็บชายมุ้งเรียบร้อยแล้วลุกขึ้นยืน  “อยากฟังเพลงฟังข่าวก็ใช้วิทยุ  ค่ำมากินข้าวเสร็จก็มานั่งคุยว่าวันนี้ไปทำอะไรมาบ้างได้เจอใครบ้าง  ฟังสองแฝดเล่าถึงวีรกรรมที่โรงเรียนแค่นี้ก็สนุกแล้ว”  รัชพลเอียงคอมองคนที่ทำคิ้วขมวด

   “แต่ผมว่ามันก็ยังเงียบเหงาเกินไปอยู่ดี”

   “มานี่ซิ”  รัชพลเดินนำร่างสูงไปยังแคร่ใต้ต้นกาสะลอง  ตะเกียงจ้าวพายุที่ใช้นำทางถูกหรี่แสงให้จางลงจนรอบด้านแทบมืดสนิท  อากาศเย็นชื้นทำให้โกเมนอดยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเป็นระยะไม่ได้  เจ้าของบ้านเหลือบมาเห็นก่อนปลดผ้าขาวม้าที่เคียนเอวส่งให้  “เอ้านี่  คลุมไหล่เสียซิ”

   “ขอบคุณ”  โกเมนรับมาถือไว้หากไม่คลี่ออกคลุม  ร่างสูงทรุดนั่งลงบนแคร่ตามอีกคน

   ผ่านไปเกือบสิบนาทีที่ไม่มีบทสนทนา  โกเมนขมวดคิ้วอ้าปากแล้วก็เงียบอยู่หลายหนจนในที่สุดก็ทนไม่ไหว

   “คุณเรียกผมออกมาจะคุยอะไรหรือ?”

   “เปล่านี่”

   “ห้ะ  แล้วเรียกผมออกมาทำไม  หนาวก็หนาว”   รัชพลหันมามองคนบ่น  เหลือบมองผ้าขาวม้าในมือใหญ่แล้วคลี่ออกคลุมไหล่

   “ผมพาคุณออกมาดูดาวต่างหาก”

   “ออกมาดูดาว?”

   “ใช่  ก็คุณถามนี่ว่าค่ำมานอกจากคุยกันแล้วพวกเราทำอะไรกันบ้าง”

   “คุณก็เลยพามาดูดาว?”  ชายหนุ่มถามย้ำ  เจ้าของบ้านพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอนหนุนแขนตัวเอง  ใบหน้าสีผึ้งในเงามืดแหงนมองท้องฟ้าด้านบน  โกเมนที่ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยนอนลงบนแคร่เคียงเจ้าของบ้าน

   คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม  ท้องฟ้าปลอดโปร่งโล่งไม่มีเมฆเลยสักนิด  เปิดโอกาสให้หมู่ดาวพากันส่องแสงแข่งความสว่างไสว  รัชพลไม่ได้ชวนอีกฝ่ายคุย  โกเมนเองก็ขมวดคิ้วมองดาวบนท้องฟ้าเงียบๆ
   ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คิ้วยุ่งเหยิงของโกเมนค่อยๆคลายออก  มือขาวยกขึ้นชี้บนท้องฟ้า  เสียงทุ้มอุทานอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นแสงสว่างวูบผ่านท้องฟ้าสีราตรี

   “นั่นดาวตกนี่!”

   “สวยใช่ไหม?”

   “สวยมาก”  โกเมนยิ้มกว้างหันมามองอีกคนที่มองอยู่ก่อนแล้ว  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มวิบไหวท่ามกลางแสงตะเกียงเบาบาง  พลันลมหายใจของเขาติดขัดขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ  ชายหนุ่มกระแอมไอแล้วหันกลับไปจ้องดวงดาว

   “เขาบอกว่าเวลาดาวตกให้อธิฐานขอพร”

   “คุณเคยอธิฐานไหม”

   “เคย  อธิฐานขออยู่สองสามครั้งมั้ง”

   “แล้วเป็นจริงหรือเปล่า?”  หลังจัดการความรู้สึกแปลกให้สงบลงโกเมนก็หันมาพูดคุยกับอีกฝ่ายต่อ

   “อืม  ไม่รู้ซิ  คงต้องรอดูอีกสักระยะ  แล้วเมื่อกี้คุณทันอธิฐานไหม?”

   “ไม่”

   “อ๊ะ  นั่นตกมาอีกดวงแล้ว รีบอธิฐานเร็ว!”  โกเมนยกมือขึ้นประกบหลับตาปี๋ตามสัญชาตญาณทันที  รัชพลหัวเราะเสียงเบา  จ้องมองใบหน้าจริงจังด้านข้างของโกเมนอย่างอารมณ์ดี

   “นี่  ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมคราวนี้คุณถึงกลับมาที่นี่อีก”  ถ้าไม่ได้กลับมาตามเรื่องขายที่อย่างที่เจ้าตัวอ้างน่ะนะ

   “ก็อย่างที่บอก  ผมหนีข่าวมา”

   “หนีข่าว?  คุณเมาแล้วขับรถชนคนตายหรือไง?”

   “เฮ้ย  คุณนี่เดาอะไรไปเรื่อย  ผมหนีข่าวคาวมาต่างหาก”

   “ไปทำลูกสาวเขาท้องเหรอ?”

   “คุณเลิกเดาไปเลยนะ  แต่ละอย่างที่พูดมามีแต่เรื่องเสียหาย โว๊ะ!”

   “อ้าว  ก็บอกว่าข่าวคาวนี่นา”

   “จะหยุดให้ผมเล่าหรือจะเดาเองไปเรื่อยๆ?”

   “เล่าเลยจ้า”  โกเมนค้อนตาแทบกลับใส่อีกฝ่าย

   “ผมกำลังจะทำให้คนคนหนึ่งเสียหาย  ผมไม่อยากให้เขามายุ่งยากและเดือดร้อนเพราะผม”

   “….เขาคงสำคัญกับคุณมาก”

   “ก็คงใช่”

   “…….”  รัชพลไม่ได้ถามต่อ  ความรู้สึกวูบโหวงในอกมันแล่นขึ้นมาให้แปลกใจ  หรือเขากำลังป่วยอีกแล้ว?

   “เป็นอะไร?”  โกเมนถามคนที่ทุบอกตัวเองเบาๆด้วยความเป็นห่วง

   “เปล่า”

   โกเมนนิ่งเงียบ  เขานึกถึงเรื่องที่เป็นสาเหตุให้เขาหลบมาอยู่จังหวัดติดตะเข็บชายแดนอย่างที่นี่  เมื่อเดือนก่อนหลังออกงานประกาศรางวัลที่ทางช่องจัดเขาก็ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย  ละครหลายเรื่องต้องการตัว  งานอีเว้นท์ติดต่อมาสายแทบไหม้    หากแต่เขาเลือกรับบางงานเพราะเกรงใจอภินันท์  ถึงเขาจะไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัดของฝ่ายนั้นแต่ก็แทบจะถือว่าเป็น เพราะอภินันท์เป็นคนหยิบยื่นโอกาสต่างๆมาให้  วันเสาร์อภินันท์เรียกให้เขาไปหาที่บริษัทเนื่องจากมีบทภาพยนต์มาเสนอ  จากนั้นก็พาเขาไปทานอาหารที่โรงแรมหลังตกลงใจว่าจะรับบทที่อีกฝ่ายคัดสรรมาแล้วอย่างดี   พวกเขาดื่มไวน์นิดหน่อยคุยกันจนเกือบเที่ยงคืน  อภินันท์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำกลับมาดื่มต่ออีกเล็กน้อยครู่เดียวก็มีทีท่าเหมือนไม่สบายจนต้องเปิดห้องบนโรงแรม  มีพนักงานสองคนพยุงอภินันท์ขึ้นไป  เขาเดินตามไปส่งที่หน้าประตูห้องเพราะเป็นห่วง  จังหวะที่หันหลังเตรียมตัวกลับเขาก็หมดสติ…

   ตื่นเช้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์ที่ถูกโยนใส่หน้าด้วยแรงโมโหของใครสักคนที่ยืนล้อมรอบเตียง  โกเมนขยี้ตา  บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง  ใบหน้าของเหล่าผู้บริหารในบริษัทของอภินันท์จ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ  บางคนยกมือปิดหน้า  โกเมนก้มลงมองร่างเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วขมวดคิ้ว  แรงยวบจากด้านข้างยิ่งทำให้เขาตกใจ

   “ทุกคนมาทำอะไรในห้องผม?”  อภินันท์ขยี้ตาเอ่ยถามคนที่ยืนข้างเตียง

   “ห้องแกเหรอตานันท์  แหกตาดูซะบ้างว่าที่นี่มันที่ไหน”  เสียงโกรธเกรี้ยวของผู้เป็นแม่ดังลั่น

   “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”  อภินันท์สะดุ้งแทบตกเตียงตอนที่หันมาเห็นว่าโกเมนอยู่บนเตียงด้วย  พวกเขาสองคนไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น  หนังสือพิมพ์ฉบับที่สองถูกโยนใส่หน้าอภินันท์  ชายหนุ่มคลี่มันออกอ่านพลันสีหน้าซีดเผือด  ส่วนโกเมนคว้าฉบับบนตักตัวเองมาคลี่ออก

   ภาพของเขากับอภินันท์ซึ่งไร้เสื้อผ้าปกปิดนอนกอดก่ายกันชนิดแทบไม่มีช่องว่างกินพื้นที่หน้าหนึ่งไปเกือบครึ่งหน้า  พร้อมข้อความว่าโกเมนได้กลับเข้ามาวงการอีกครั้งเพราะเป็นคู่ขาของอภินันท์

   “ดูก็รู้ว่านี่มันเป็นการจัดฉาก”  เขาเงยหน้าขึ้นบอกทุกคน

   “นายน่ะหุบปากไปเลยนะ”  หล่อนตะคอกใส่โกเมนก่อนหันไปทางอภินันท์  “พวกเราบอกแล้วใช่ไหมว่าการที่เธอเลือกเขามามีแต่จะสร้างปัญหา”

   “ตอนเขาสร้างชื่อเสียงและซีรี่ส์ได้รับความนิยมพวกแม่ไม่เห็นพูดกันอย่างนี้นี่! และอีกอย่างนี่มันเป็นการจัดฉากอย่างที่โกเมนว่าจริงๆ”  อภินันท์เถียงกลับ

   “แล้วยังไง  จัดฉากหรือไม่จัดฉากภาพในหนังสือพิมพ์มันก็โผล่ไปทั่วประเทศแล้ว!”

   “พวกคุณออกไปก่อน  ผมกับโกเมนขอจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจะไปคุยต่อ”  อภินันท์ไล่คนทั้งหมดออกไป  โกเมนเดาะลิ้นพลางเงยหน้ามองเพดาน

   “นี่ผมทำความเดือดร้อนให้คุณแล้วจริงๆ”

   “คุณเองก็เดือดร้อนเหมือนกันนั่นแหละ”

   “…...”

   “คุณพอรู้ไหมว่าฝีมือใคร?”

   “ก็พอเดาได้อยู่”  เสียงมือถือขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองคน  โกเมนกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวโทร.มา  “ข่าวนั้นไม่ใช่เรื่องจริง  พี่ตุ่นหาทางช่วยหน่อยนะครับ  ขอบคุณ”

   “ใครหรือ?”  อภินันท์เงยหน้าขึ้นมองเมื่อโกเมนลุกออกจากเตียงทั้งๆที่ไม่มีผ้าติดตัว  เรือนกายสูงใหญ่มีกล้ามเนื้อสวยงาม  ผิวขาวจัดยิ่งขาวเจิดจ้าเมื่อกระทบแสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามา  ผมหยกศกยุ่งเหยิงทิ้งตัวเคลียบ่ากว้าง  แผ่นหลังแกร่งได้รูปสวยงาม  สะโพกสอบรับกับเรียวขายาว

   “คนที่ทำให้ผมกลายเป็นดาราตกกระป๋องเมื่อสี่ปีก่อนไง”

   “แน่ใจหรือว่าเป็นเขา?”

   “ก็สักแปดสิบเปอร์เซ็นต์นั่นแหละ  คุณรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปคุยกับพวกผู้บริหารเถอะ”

   “ผมจะจัดงานแถลงข่าว”

   “คุณคิดว่ามันจะได้ผลหรือ?”

   “ทำไมล่ะ?”

   “เขามีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ผมตกกระป๋องนะคุณนันท์”

   “…..”

   “ปล่อยให้ทุกอย่างมันค่อยๆเงียบไปน่าจะดีที่สุด”

   “คุณกำลังเดือดร้อนนะโกเมน!”

   “…...”

   “ผมเป็นคนเบื้องหลังปล่อยทิ้งไว้มันไม่เป็นปัญหาหรอก  แต่คุณเป็นดารานะ”

   “จุดประสงค์เขาก็คงต้องการเล่นงานผมนี่แหละ”

   “เราต้องทำอะไรสักอย่าง”

   “ผม...จะหนีไปหลบข่าวสักพัก”

   “โกเมน?”

   “คุณจะหาว่าผมขี้ขลาดหรืออะไรก็ช่างเถอะ  แต่ผมว่าวิธีนี้น่าจะดีที่สุด  ยิ่งเราตอบโต้เขาก็ยิ่งชอบใจและคงหาทางมาทำให้คุณเดือดร้อนไปกับผมเพิ่มอีกแน่ๆ”

   “เรามาช่วยกันแก้ปัญหาก็ได้นี่”

   “...ผมไม่ได้รังเกียจเกย์หรือรักร่วมเพศและไม่ได้รู้สึกแย่กับการที่ต้องเป็นข่าวกับคุณด้วย”  ร่างสูงหยิบกางเกงและเสื้อมาสวมอย่างไม่รีบร้อน  “แต่อย่างที่บอกว่าเป้าหมายครั้งนี้คงเป็นผมมากว่าคุณ”

   “งั้นให้ผมช่วย”


   “คุณนันท์  ผมขอบคุณมาก  คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอตั้งแต่เข้าวงการนี้มาเลย”

   “เพื่อน?”  อภินันท์รู้สึกคล้ายตกจากที่สูง  วูบหนึ่งจึงตั้งสติได้  เขาจ้องมองโกเมนแล้วฝืนยิ้ม

   “ในบอร์ดบริหารเองก็คงมีคนจ้องเล่นงานคุณอยู่เรื่องมันถึงได้แพร่เร็วขนาดนี้”

   “ใบบริษัทน่ะหรือ?”

   “คุณปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาซะ บอกไปว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผม  ผมเคยเป็นดาราตกกระป๋องมาแล้วครั้งหนึ่งจะดับอีกสักครั้งก็คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว”

   “หมายความว่ายังไง?”

   “เอาตามนี้แหละ”

   หลังจากนั้นเขาหมกตัวอยู่ที่บ้านพี่ตุ่นไม่ยอมออกไปไหนร่วมสัปดาห์  เมื่อเห็นว่าอภินันท์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามที่เขาสั่งจึงถอนหายใจโล่งอก  แล้วสื่อก็หันมาโจมตีเขาอย่างที่คาดไว้  เขาเก็บเสื้อผ้ากระโดดขึ้นรถทัวร์มาที่นี่ด้วยความรู้สึกสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

  เขาแค่หาข้ออ้างในการกลับมาที่นี่อีกครั้ง



*********

   
เสียงนกเจื้อยแจ้วแข่งกับเสียงไก่ขัน  ต่อให้เขาอยากนอนต่ออีกสักหน่อยก็คงนอนไม่หลับ  โกเมนพลิกซ้ายพลิกขวา  เขาได้ยินเสียงเจ้าของบ้านเดินไปด้านหลังตัวบ้าน  ได้ยินเสียงตักน้ำ  จากนั้นตามด้วยเสียงเรียกสองแฝดเบาๆ  ครู่ใหญ่เสียงตึงตังจนพื้นบ้านสะเทือนก็เคลื่อนมายังห้องที่เขานอน

   “อาโกเมน  อาโกเมน  ตื่นเถอะๆ”  ฟักแฟงแข่งกันตะโกนจนลั่นบ้าน  เขาได้ยินเสียงรัชพลเอ็ดลูกๆมาจากนอกตัวบ้านว่าอย่าเสียงดัง

   “ตื่นแล้วๆ  มีอะไรหรือ?”

   “ไปเก็บไข่กัน”

   “หืม?”

   “ไข่ไง  ไข่ไก่ลูกใหญ่ๆเอามาทอดหอมๆกินกับข้าว  อร่อย”  เด็กหญิงรั้งแขนขวาเด็กชายรั้งแขนซ้ายให้คุณอาตัวใหญ่ลุกจากที่นอน  ลากแขนไปยังเล้าไก่ข้างตัวบ้าน

   “เดินเข้าไปหยิบเลยหรือ  แล้วแม่ไก่ไม่ไล่จิกเอาหรือไง”  เมื่อวานเขาเห็นรัชพลเดินเข้าไปหยิบมาเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าโดนจิกมาหรือเปล่า

   “ไม่ๆ  เราต้องรีบมาเก็บตอนเช้าๆแบบนี้เพราะแม่ไก่กำลังออกไปหากิน”

   “อ้าว  แล้วถ้ามันกลับมาไม่เจอลูกมันล่ะ  มันจะทำยังไง”

   “จริงด้วย!  แฟง  ทำยังไงดีล่ะ”

   “แต่...ถ้าเราไม่เอาไข่ไปแล้วเราจะกินอะไรล่ะ?”  เด็กหญิงเริ่มลังเลเพราะอยากกินไข่ทอดมาก  โกเมนเหงื่อตก  นี่เขาสร้างเรื่องลำบากให้เด็กเสียแล้ว  เอาไงดีวะ

   “อ่ะ  นี่เป็นไก่ไข่นี่”  โกเมนเหลือบมองแม่ไก่บางตัวที่ไม่ยอมออกจากรัง

   “ไก่ไข่คืออะไรเหรออาโกเมน”

   “ก็ไก่ที่ออกไข่ทุกวันไง”

   “ไก่ที่ออกไข่ทุกวัน?”

   “ใช่  เพราะงั้นเราก็เก็บไข่ได้ทุกวันโดยแม่ไก่ไม่รู้ไง”

   “ถ้าเราเอาไข่ไปแล้วแม่ไก่มาไม่เจอลูกล่ะ?”

   “ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวแม่ไก่ก็เบ่งออกมาอีกไง”

   “ว้าววววว”  เด็กแฝดทำตาโตแล้วหยิบไข่ในรังออกมาอีกสามสี่ลูก  โกเมนถอนหายใจโล่งอกแล้วเดินตามเด็กทั้งสองคนไป  รัชพลกวักมือเรียกลูกชายที่ออกวิ่งนำหน้า  ฟักวางไข่ลงในตะกร้าที่พ่อถืออยู่แล้วแหงนหน้ามองลูกตำลึงที่ห้อยโตงเตงละลานตา

   “พ่อ  ฟักอยากกินลูกตำลึงเชื่อม”

   “แฟงด้วย!”  เด็กหญิงยกมือสนับสนุน

   “ได้  ถ้าอย่างนั้นฟักกับแฟงเก็บลูกตำลึงลูกใหญ่ๆไปนะ  เดี๋ยวพ่อเก็บยอด  เช้านี้จะต้มจืดให้กินกัน”

   “ผมไม่ยักรู้ว่าลูกตำลึงกินได้ด้วย  เคยกินแต่ยอดมัน”  โกเมนเท้าเอวมองเด็กสองคนที่ช่วยกันเด็ดลูกตำลึงสนุกสนาน 

   “ทุกอย่างในนี้กินได้หมดแหละ  ผมปลูกไว้กินนี่นา”

   “คุณนี่เก่งจัง”

   “….มันไม่ได้เกี่ยวกับความเก่งอะไรหรอก”  รัชพลหยุดมือหันกลับมามองร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง  “นี่น่ะบ้านไหนเขาก็ปลูกกัน  คนสมัยก่อนเขาสอนๆกันมาว่าอะไรทำกินยังไง  แถวนี้ไม่มีร้านขนม  ไม่มีร้านสะดวกซื้อเหมือนอย่างในเมือง  เวลาเด็กๆอยากกินขนมพ่อแม่ก็ต้องหาอะไรอย่างนี้มาทำให้ลูกกิน”

   “ผมก็ยังจะชมว่าคุณเก่งอยู่ดีนั่นแหละ”

   “หืม?”

   “เก่ง  ที่เลี้ยงลูกมาแบบนี้ไง  ไม่มีทีวี  ไม่ร้านสะดวกซื้อ  เด็กๆก็ไม่เห็นเดือดร้อนแถมยังมีความสุขดีเสียด้วย”

   “แล้วคุณล่ะ  เมื่อคืนไม่ได้ดูโทรทัศน์แล้วนอนหลับไหม”

   “หัวถึงหมอนก็หลับเลยแหละ”  โกเมนยักไหล่  เพราะเมื่อคืนเขาได้ระบายความอึดอัดใจให้อีกฝ่ายฟังหรือเปล่าไม่รู้ถึงได้รู้สึกผ่อนคลายแล้วหลับลึกจนถึงเช้า

   “ดีแล้ว  แล้วนี่ไม่หนาวหรือไง?”  รัชพลมองเสื้อนอนผืนบางที่อีกฝ่ายออกมาก็อดเป็นห่วงไม่ได้

   “ตอนลุกออกจากที่นอนก็หนาวอยู่  แต่พอวิ่งตามเจ้าสองแสบตอนนี้กลายเป็นร้อนแล้ว”  รัชพลพยักหน้าก่อนจะหันไปเด็ดยอดตำลังต่อ  “ให้ผมช่วยไหม?”

   “อืม คุณไปเก็บผักบุ้งตรงแปลงนั้นนะ  เดี๋ยวผมจะได้ไปดูหม้อข้าวสักหน่อย”  รัชพลยื่นตะกร้าให้ร่างสูง  ในนั้นมียอดและลูกตำลึงที่เด็กๆช่วยกันเด็ด

   “เอาเยอะไหม?”

   “คุณกินแค่ไหนก็เก็บมาเท่านั้นแหละ”

   อาหารเช้าวันนี้มีต้มจืดตำลึง  ไข่ทอดและผัดผักบุ้งไฟแดง  รัชพลตักแบ่งใส่ปิ่นโตเถาเล็กแยกไว้  มีน้ำขวดเล็ก  ดอกไม้เด็ดจากหน้าบ้านและธูปเทียนเสร็จสรรพ

   “นี่จะไปวัดกันหรือ?”  คนที่ยังอยู่ในชุดนอนถาม

   “เปล่าหรอก  นี่น่ะเตรียมใส่บาตรพระ  นั่นไง  มาพอดี”  รัชพลกวักมือให้ลูกชายลูกสาวก่อนจะหันไปเรียกคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ในครัว  “มาเร็ว  มาใส่บาตรกัน”

   “…...”  โกเมนยกยิ้มมุมปาก  ในใจสงบนิ่งอย่างไม่เคยเป็น  เขาเหลือบมองเจ้าของบ้านที่จับมือลูกชายลูกสาวให้วางดอกไม้ธูปเทียนบนฝาบาตร

   “ไปเถอะ  ไปกินข้าวกัน  อ๊ะ  จริงซิ  เดี๋ยวกรวดน้ำก่อนละกันนะ  เจ้าตัวแสบไปเอาน้ำมาให้พ่อกับอาโกเมนหน่อยเร็ว”  ฟักแฟงวิ่งไปหยิบขันน้ำใบเล็กมาให้ผู้เป็นพ่อและโกเมนคนละใบ

   “ผมด้วยหรือ?”

   “อื้ม  กรวดน้ำให้ตาคุณหน่อยเถอะ  พวกเจ้ากรรมนายเวรของคุณด้วยจะได้หมดเคราะห์หมดกรรมเสียทีไง”  โกเมนทำตามอีกฝ่ายเงอะงะเพราะไม่เคยทำมาก่อน

   หลังอาหารมื้อเสร็จสิ้นรัชพลคว้าหมวกสานมาสวมพร้อมเสื้อคลุมแขนยาว  โกเมนรีบลุกขึ้นตาม  โบราณว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย  นี่เขากินข้าวบ้านนี้มาหลายมื้อจะไม่ช่วยงานเลยก็กระไรอยู่

   “คุณจะไปไหนน่ะ?”  เจ้าของบ้านหันมาถาม

   “คุณเข้าไร่ไม่ใช่หรือ  ผมจะไปช่วยไง”

   “เปล่า  ผมไปแค่หลังบ้านนี่เอง”

   “แล้วไร่คุณล่ะ?”  โกเมนชี้มั่วไปทางนอกบ้าน

   “ผมไม่มีไร่สวนอะไรหรอก  มีแค่ที่บ้านเท่าที่คุณเห็นนี่แหละ”

   “หืม?  แล้วคุณอยู่ยังไง  ผมหมายถึงจะเอาอะไรกิน เอาเงินที่ไหนใช้”  โกเมนงงหนัก  ชายหนุ่มเงยหน้ามองรอบบ้านหลังเล็ก  ถึงแม้ว่าพื้นที่โดยรอบจะกินบริเวณกว้างก็เถอะ  แต่เขาเห็นเจ้าของบ้านปลูกผักนู่นนิดนี่หน่อยแล้วมันพอขายหรือไง

   “ก็ขายผักที่ปลูกอยู่นี่ไง”

   “มันจะได้เงินสักเท่าไหร่กันเชียว?”  ชายหนุ่มเท้าเอวถาม

   “งั้นคุณมาลองนับดูไหมว่าแต่ละวันผมขายผักพวกนี้ได้เท่าไหร่?”

   “?”

   “เด็กๆ!”  รัชพลร้องเรียกสองแสบที่เพิ่งช่วยกันล้างจานเสร็จ

   “จ๋าพ่อ/จ๋าพ่อ”

   “วันนี้พวกลูกไล่เด็ดลูกตำลึงนะ  เอามาเยอะๆเลย”

   “เอาเต็มตะกร้านี้เลยไหมคะ?”

   “ให้พูนเลยจ้ะคนสวย”  รัชพลขยิบตาให้สาวน้อย

   “ไปกันเล้ย!”  สองแสบคว้าตะกร้าจากมือพ่อแล้วจูงมือกันวิ่งไปทางริมรั้วด้วยท่าทางสนุกสนาน

   “ผมต้องช่วยอะไรบ้าง?”  โกเมนชี้หน้าตัวเองพร้อมรอยยิ้มกว้าง

   “อยู่เฉยๆ แล้วดูก็พอ”

   “เอ๊ะ?”

   รัชพลใช้ให้โกเมนแบกเข่งหวายใบใหญ่คอยเดินตามเวลาที่เขาไปหยุดตรงแปลงผัก   เพียงแค่ชั่วประเดี๋ยวผักหลากหลายชนิดก็เต็มเข่งไปหมด  โกเมนคงยังคงขมวดคิ้ว  ผักพวกนี้แทบไม่ได้กลิ่นยาฆ่าแมลงเลยสักนิดแต่กลับสดและสวยมาก

   “ผักพวกนี้เราไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงแต่ใช่น้ำส้มควันไม้แทน”

   “น้ำส้มควันไม้?”

   “ใช่  เป็นน้ำมันที่กลั่นตัวจากการเผาถ่านน่ะ”  โกเมนก้มลงดมผักในเข่งหวายจึงค่อยได้กลิ่นเหมือนควันไม้ไหม้ไฟอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ  พวกแมลงถ้ากลิ่นควันไม้ก็จะไม่มาตอมแทะกินผักเพราะคิดว่ามีไฟ

   “แล้วถ้าเรากินเข้าไปจะไม่เป็นอันตรายหรือ?”

   “ไม่หรอก  พวกนี้น่ะเป็นกลิ่นเฉยๆ  เอาไว้ไล่พวกแมลง  ไม่มีพิษกับมนุษย์”  ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่อได้ฟัง  มองอีกฝ่ายใช้มีด ตัดขั้วลูกฟักทองลูกโตมาสามสี่ลูก

   หลังได้ผักเต็มเข่งรัชพลเรียกเด็กแฝดกลับเข้าบ้าน  แก้มของเด็กน้อยแดงกล่ำเรียกสายตาเอ็นดูจากโกเมน  รัชพลสอนให้ชายหนุ่มล้างผัก  แยกตามแต่ละชนิดใส่ตะกร้าไว้  ส่วนตัวเองไปล้างลูกตำลึง  ควักเอาเม็ดในออกออกแล้วแช่น้ำไว้

   “พ่อแช่สารส้มไว้  ตอนบ่ายจะกลับมาเชื่อมให้กินนะ”

   “เย้!”

   “ให้ผมไปด้วยไหม?”

   “ไม่ต้องหรอก  คุณเล่นอยู่กับเด็กๆที่บ้านเถอะ  อีกเดี๋ยวตากับยายเขาคงมารับแล้ว”  รัชพลยกตะกร้าผักใส่รถเข็นแล้วผูกที่จับกับท้ายรถเครื่องให้แน่นก่อนใช้ผ้าบางๆชุบน้ำพอชุ่มคลุมตะกร้าผักไว้  ข้างๆกันมีฟักทองลูกโตที่เพิ่งเด็ดมา

   โกเมนมองรถเครื่องที่ลากรถเข็นผักไปตามทางช้าๆ  ก่อนจะก้มลงมองสองแฝดที่กุมมือเขาคนละข้าง   ชายหนุ่มเดินกลับเข้าไปค้นกระเป๋าหาลูกอมกับช็อคโกแลตที่เตรียมมายื่นให้เด็กๆ

   “จริงซิ  หนูเล่นกันสองคนแค่นี้ไม่เหงาหรือ”

   “ไม่เหงาหรอกค่ะ  บางวันพ่อก็พาไปส่งที่บ้านตายายเล่นกับเด็กคนอื่นๆ”

   “แต่เมื่อก่อนพวกหนูชอบไปเล่นที่บ้านตาปั้น”

   “บ้านตาปั้น?”

   “ตาปั้น  พ่อบอกว่าตาปั้นเป็นตาของอาโกเมน”

   “บ้านตาปั้นอยู่ใกล้ๆนี่หรือ?”

   “ครับ  เดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว”

   “ถ้าอย่างนั้นฟัก-แฟงพาอาไปดูหน่อยได้ไหม?”

   “ได้ครับ / ได้ค่ะ”

   เด็กแฝดจูงมือเขาเดินออกนอกรั้วบ้านไปทางขวามือ  เดินไปไม่ไกลอย่างที่เด็กๆบอกก็เห็นบ้านทรงสูงหลังหนึ่ง   ขนาดไม่ใหญ่มาก  ที่นี่ก็ดูสะดวกสบายกว่าเพราะเขาเห็นเสาไฟฟ้าและจานรับสัญญาณทีวี  โกเมนขมวดคิ้วมุ่น

   หนอย  หมอนั่นไม่เห็นบอกเขาสักคำว่าบ้านตาเขาอยู่แถวนี้

   “เราเข้าไปดูได้ไหม?”

   “ไม่ได้หรอก  กุญแจอยู่กับพ่อ  ถ้าอาโกเมนอยากเข้าไปดูต้องรอพ่อกลับมาก่อน”

   ได้!  นายรัชพล  ฉันจะย้ายออกจากบ้านนายวันนี้เลย  คอยดู!
   

   


โปรดติดตามตอนต่อไป



สวัสดีค่า หายไปนานเลย แหะๆๆ ช่วงติดนิยายค่ะบวกกับต้องคอยเลี้ยงหลานค่ะ
เช่นเคยนะคะ มีตรงไหนผิดพลาดแนะนำกันได้เสมอค่ะ
   

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #35 เมื่อ16-04-2017 04:27:38 »

ตายล้ะ เหมือนถูกหลอกให้ลำบาก

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #36 เมื่อ16-04-2017 08:51:27 »

เห็นทางแล้ว แน่ใจจะไปนอนคนเดียว อิอิ

ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #37 เมื่อ16-04-2017 13:28:23 »

อิอิ 

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #38 เมื่อ16-04-2017 14:01:23 »

สนุก :mew1:

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #39 เมื่อ16-04-2017 14:56:38 »

พ่อกับแม่เราก็มีที่อยู่บ้านนอก แต่เรา กับพี่ชายไม่อยากไปอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
« ตอบ #39 เมื่อ: 16-04-2017 14:56:38 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #40 เมื่อ16-04-2017 16:49:52 »

อยู่แบบลำบากก็ไม่ได้แย่นี่โกเมน รู้จักไหม สบายใจกับสบายกายน่ะ ถ้าให้เลือกจะเลือกอะไร

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
«ตอบ #41 เมื่อ29-04-2017 21:20:08 »



รักพอเพียง : ตอนที่ 6


รัชพลมองท่าทางแปลกๆของโกเมนด้วยความไม่เข้าใจ  ตอนเขาออกจากบ้านฝ่ายนั้นยังมีท่าทียิ้มแย้มอยู่เลย ไหงพอกลับมาถึงได้ทำท่าบึ้งตึงใส่เขาเสียได้

“มีอะไรหรือเปล่า?”  ถามในขณะที่มือก็สาวลูกตำลึงขึ้นจากน้ำสารส้มใส่กะทะใบเขื่องตั้งบนเตาไฟ  เทน้ำพอท่วมแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป

“คุณไม่มีอะไรจะบอกผมหน่อยหรือ?”

“?”

“ก็อย่างเช่น  เรื่องบ้านของคุณตาผมที่อยู่ถัดไปนั่นไง”

“อ้อ  …ก็คุณไม่ได้ถาม”

“ไอ้เรื่องนี้มันต้องรอให้ถามด้วยหรือไงเล่า”

“ถ้าผมบอกแล้วคุณจะขายบ้านหลังนั้นไหม?”

“นี่เห็นผมเป็นคนยังไง!”

“คนเห็นแก่เงิน”

“นี่คุณ!”  โกเมนชักจะเดือด  นอกจากจะพูดจากวนโมโหไม่เข้าหูแล้วยังไม่ยอมมองหน้าเขาอีก

“คุณจะย้ายไปนอนบ้านนู้นก็ได้นะ”

“เออ”  โกเมนโมโห  เขาคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าแล้วเดินดุ่มออกไปด้วยแรงอารมณ์

ถึงปากจะพูดแบบนั้นหากรัชพลก็คอยแต่จะชะเง้อคอมองออกไปนอกบ้านทุกครั้งที่เผลอลืมตัว แม้ตอนนี้จะเป็นเป็นเวลาหกโมงเย็นแต่ท้องฟ้าฤดูหนาวกลับเริ่มดำมืดอย่างรวดเร็ว  แม้เขาจะคอยไปดูแลทำความสะอาดบ้านลุงปั้นเป็นประจำไม่ให้รกสกปรก แต่เพราะลุงแกเสียไปนานแล้วดังนั้นพวกไฟฟ้าหรือน้ำปะปาจึงทุกตัดเนื่องจากไม่ได้ใช้  แล้วโกเมนจะอยู่ได้อย่างไร…

“คุณๆ”

“อ้าว?”  รัชพลกะพริบตาปริบ  มองร่างสูงที่แบกกระเป๋าวิ่งพรวดเข้ามาในรั้วบ้าน

“ร้องงี้หมายความว่าไง?”

“ปะ  เปล่า”  เจ้าของบ้านพยายามกดมุมปากไม่ให้กระตุกขึ้นไปรอยยิ้ม  แสร้งกระแอมไอในลำคอแล้วมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมคุณไม่บอกผมว่าบ้านนั้นน้ำไฟโดนตัดหมดน่ะ!”

“ก็คุณไม่ได้ถาม”

“ไอ้คำนี้อีกแล้วนะ!”  โกเมนเท้าเอวโวยวาย  เขาเสยผมยุ่งหยิงขึ้นด้วยทาทางหงุดหงิด

“ก็คุณไม่ได้ถามจริงๆนี่”

“ขอเหอะไอ้คำนี้เนี่ย”  ร่างสูงถลึงตาจ้องมองอีกฝ่ายที่พยายามกลั้นขำ
รัชพลรู้ว่าโกเมนขี้กลัว  โดยเฉพาะ ผี เดาได้จากเมื่อวานตอนที่บังคับให้เขาไปยืนเฝ้าอาบน้ำตรงชานหลังบ้านตอนค่ำ

“แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน”  ทั้งๆที่รู้คำตอบแต่รัชพลก็ยังถาม  โกเมนถลึงตาใส่อีกรอบแล้วเดินเอากระเป๋าไปเก็บในห้องที่เคยนอน “อาบน้ำแล้วก็มากินข้าวล่ะ” รัชพลพูดไล่หลัง

“ไปดูบ้านคุณตามาแล้วเป็นยังไงบ้าง”

“อืม”

“อะไรคือ อืม?”  รัชพลละมือจากลูกตำลังเชื่อมที่กำลังตักใส่ถุงแก้วขึ้นมอง  ฟัก-แฟงพยายามหยิบลูกตำลึงในกะละมังมาใส่ปากแต่คนพ่อตีหลังมือไปคนละที  “พ่อตักแบ่งไว้ให้แล้ว  นี่เอาไว้ขาย อย่ามาตักกินแบบนี้”

“น่ากลัวยังกับบ้านร้าง”  ตอบพลางแย่งของหวานมาจากสองแสบใส่ปาก  รสชาติหวานกลางๆและความกรุบกรอบทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วแล้วหยิบใส่ปากลูกแล้วลูกเล่าด้วยความติดใจ

“ดูพูดเข้า”

“ก็จริงนี่  มืดก็มืด เงียบเชียบน่ากลัว แถมต้นไม้รกครึ้มไปหมด”  บ้านของตาปั้นเป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูง  มีต้นไม้น้อยใหญ่ล้อมรอบ  มองจากด้านนอกเข้าไปแทบไม่เห็นตัวบ้าน นอกจากบ้านของรัชพลแล้วระแวกนั้นแทบไม่มีบ้านเรือนอื่นอยู่เลย  กลางวันว่าเงียบพลบค่ำกลับวังเวงยิ่งกว่า  ซ้ำไม่มีไฟฟ้าแบบนั้นยิ่งน่ากลัว

โกเมนเห็นเสาไฟฟ้าก็คิดว่ามีโทรทัศน์มีเครื่องทำน้ำอุ่นแน่ๆ  เพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว  ที่ไหนได้นอกจากจะไม่มีทั้งสองอย่างแล้ว  แม้แต่น้ำปะปาก็ไม่ไหล  แล้วใครจะไปอยู่ได้เล่า!
เสียงแมลงกลางคืนเริ่มเซ็งแซ่แข่งกัน  เสียงสวบสาบยามเมื่อลมพัดทำให้สะดุ้งหวาดผวาทุกครั้ง  เขาเหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าอยู่ต่อคงไม่ได้การก็ใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้งกลับมาบ้านรัชพลทันที  แต่จะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ว่าเขาหลุดฟอร์มวิ่งหัวฟูกลับมาเพราะกลัวผี

“ผมไปตัดต้นไม้ให้เมื่อเดือนที่แล้วเอง จะรกครึ้มได้ยังไง”

“นี่คุณไปดูแลบ้านตาผมตลอดเลยหรือ?”  มิน่าเล่าในบ้านถึงฝุ่นน้อยกว่าปกติ ข้าวของไม่มีวางระเกะระกะเลยสักชิ้น  ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก  ส่วนหนึ่งอาจเพราะในตัวบ้านเองก็แทบไม่มีข้าวของอะไรเหลือไว้มากนัก

“ใช่  ของอะไรที่บริจาควัดได้ก็บริจาคหมด  เว้นเสียแต่ของที่ไม่จำเป็นกับวัดเท่านั้น”  โกเมนแทบจะกลอกตาใส่คนพูด  นี่ไม่คิดจะเหลือสมบัติของตาเอาไว้ให้เขาสักหน่อยหรือไง

“ทำไมคุณถึงต้องมาคอยทำอะไรพวกนี้ให้ตาผมด้วยล่ะ?”  ชายหนุ่มบิดกายไล่ความเมื่อยขบ  ลมเย็นพัดโชยแทรกผ่านบานหน้าต่างที่เปิดอ้าไว้เข้ามาด้านใน  โกเมนกระชับเสื้อแขนยาวเพราะยังไม่คุ้นชินกับความหนาวเย็นของที่นี่

“ลุงแกมีบุญคุญเคยช่วยเหลือผมเอาไว้เยอะ”

“เยอะขนาดไหน?”  คนถามเท้าคางมองมือหยาบกร้านที่กำลังจัดการกับลูกตำลึงเชื่อมถุงสุดท้าย

“ขนาดที่ทำให้เด็กที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเป็นผู้เป็นคนได้นี่ไง”  รัชพลยกยิ้มเมื่้อนึกถึงเรื่องราวในอดีต  “ตอนวัยรุ่นผมน่ะเคยนึกอยากไปทำงานในกรุงเทพฯด้วยนะ  นึกฝันว่าถ้าเข้ากรุงคงจะมีโอกาสหาเงินหางานดีๆ ได้ทั้งๆ ที่จบแค่ ม.หก ดีที่ลุงแกห้ามไว้  ไม่งั้น  ป่านนี้คงไปเป็นแรงงานรับจ้างก่อสร้างอยู่แถวไหนก็ไม่รู้”

“แค่นี้เหรอ?”  รัชพลเหลือบตามองคนหน้าขาว  ก่อนจะลุกไปล้างมือแล้วให้สองแฝดแปรงฟันล้างมือเข้านอน

“ลุงแกสอนทำไร่”

“สอนทำไร่?”  โกเมนหัวเราะ  “ทำไร่นี่ต้องสอนด้วยหรือ?  ไม่ใช่ว่าคนบ้านนอ…คนแถวนี้เขาทำเป็นกันทุกคนไม่ใช่หรือไง?”

“ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจะต้องทำไร่ทำสวนเสียหน่อย  บางบ้านค้าขาย  บางบ้านมีธุรกิจขนส่ง”  รัชพลไม่ถือสาคำพูดที่เกือบจะหลุดออกมาจากปากของโกเมน  ชายหนุ่มมาจากเมืองกรุง  จะมองคนต่างจังหวัดว่าบ้านนอกก็ไม่แปลกหรอก  “แล้วการทำไร่ก็ใช่ว่าทำได้ดีทุกคนเสียเมื่อไหร่”

“ตาสอนอะไรคุณบ้างล่ะ  ขุดดินหว่านเมล็ดหรือไง?”

“ตาคุณเก่งกว่านั้นเยอะ”

“…..”  โกเมนนิ่งเมื่อเห็นสายตาจริงจังของคนตรงหน้า  ถึงเขาจะไม่เคยรู้จักตาตัวเองแต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดคล้ายดูถูกท่านแบบนี้  “ผมขอโทษ”

“ไม่ใช่ผม  และถึงผมอยากจะให้คุณขอโทษตาของคุณมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร  คุณไม่เคยเจอท่านย่อมไม่รู้ว่าท่านทำอะไร สอนอะไรดีๆ ให้กับคนอื่นๆ มากมายแค่ไหน”
เป็นอีกครั้งที่โกเมนไม่กล้าพูดแทรก  เขาเดินตามเจ้าของบ้านไปหยุดยืนตรงโถงกลางบ้าน  พื้นที่ระหว่างห้องที่เขานอนและห้องของสองแฝดกับผู้เป็นพ่อ  เขายึดห้องนอนของรัชพลจนอีกฝ่ายต้องระเห็จไปนอนกับลูก  เจ้าของบ้านเงยหน้าขึ้นมองกรอบรูปบนผนังนิ่งนานก่อนจะเอ่ยถามเขา

“คุณรู้จักคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงไหม?”

“ก็เคยได้ยินในหลวงท่านสอน”  ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองกรอบรูปบนผนังตามสายตาอีกฝ่าย

“ผมไม่ได้ถามว่าเคยได้ยินไหม  แต่ผมถามว่าคุณรู้จักหรือเปล่า?”

“ก็ทำไร่อะไรพวกนั้นไม่ใช่หรือไง”

“….แล้วคุณคิดว่าการทำไร่เป็นยังไง?”  รัชพลรุกถามต่อ

“ก็…ไม่รู้ซิ”

“ทำไร่เท่ากับคนจน  คุณคิดอย่างนี้ใช่หรือเปล่า?”  โกเมนไม่ตอบ  รัชพลยกยิ้มขณะหันกลับมามองหน้าเขา  “ตาของคุณเก่งมากนะ  ท่านเข้าใจคำว่าพอเพียง  ศึกษาและทำตามคำสอนของในหลวง  พอเข้าใจก็มาสอนคนในหมู่บ้าน  สอนผมที่เร่าๆ อยากจะวิ่งเข้ากรุงเทพฯในตอนนั้น”

“ถ้าทำไร่ไม่เท่ากับจน  ทำไมตาผมถึงไม่ทิ้งมรดกเป็นเงินก้อนโตไว้ให้ผมล่ะ?”

“ตาคุณไม่รวยแต่ไม่เคยอดอยาก”

“…..”

“มานี่ซิ”  เจ้าของบ้านเรียกโกเมนให้กลับมานั่งลงตรงกลางบ้านอีกครั้งก่อนจะหยิบกระป๋องคุ้กกี้เปล่าใบเขื่องมาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม  “เมื่อเช้าคุณถามใช่ไหมว่าผมขายผักที่เก็บจะได้เงินสักกี่บาท?”

“?”  เจ้าของมือหยาบกร้านเปิดฝากระป๋องแล้วเทเงินที่อยู่ในนั้นออกมา  มีเงินใบละร้อยบ้าง ห้าสิบบ้าง  มีแม้กระทั่งเหรียญห้าบาทสิบบาท

“นี่เงินที่ขายผักบุ้งกำละสิบบาท  สิบกำก็หนึ่งร้อย  ฟักทองลูกละยี่สิบสามสิบ  สี่ลูกได้เก้าสิบบาท  กระเจี๊ยบกำละสามบาทยี่สิบกำได้หกสิบบาท  กะเพราวันนี้เก็บได้เยอะหน่อยได้สองร้อย  มะละกอยี่สิบโลโลละสิบห้าบาทได้สามร้อย  วันนี้ทั้งวันได้ทั้งหมดเจ็ดร้อยห้าสิบบาท”

“…..”
“ได้เยอะใช่ไหมล่ะ!”  รัชพลยิ้มกว้างเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส

แค่เจ็ดร้อยห้าสิบบาทเนี่ยนะ”

“เทียบกับอาหารของคุณได้แค่จานเดียวเองมั้ง”  รัชพลหัวเราะแล้วเก็บเงินใส่กระป๋องตามเดิม  หยิบสมุดมาจดว่าวันนี้ขายอะไรได้เท่าไหร่และจ่ายค่าอะไรไปบ้าง

“ใช่  เจ็ดร้อยห้าสิบได้อาหารของผมไม่ถึงมื้อด้วยซ้ำ”

“แต่อยู่ที่นี่คุณไม่ต้องจ่ายค่าอาหาร  เพราะฉะนั้นเจ็ดร้อยห้าสิบบาทนี่เหลือเฟือ”

“เอ๊ะ?”

“คุณอยากกินผักอะไรไปเก็บหลังบ้าน  อยากกินไข่ก็ไปหยิบมา  อยากกินปลาก็ไปจับในสระ  เห็นไหมไม่ต้องจ่ายสักบาท”

“…..”  โกเมนอ้าปากค้าง  คิดตามอีกฝ่ายแล้วได้แต่นิ่งอึ้ง  “จริงด้วยแหะ”

“พรุ่งนี้ผมจะเอาลูกตำลึงเชื่อมไปส่งตามร้านอาหารตามสั่ง  จับปลากับเก็บไข่ไปส่งร้าน”

“ลูกตำลึงเชื่อมถุงละกี่บาท?”  โกเมนเริ่มคำนวณ

“ผมส่งให้ร้านถุงละสิบห้าบาท”  ทั้งหมดมียี่สิบถุง

“แล้วปลาล่ะ?” 

“ปลาสักสิบตัวตัวละประมาณหนึ่งกิโล กิโลละห้าสิบบาท”

“ไข่?”

“ไข่สักสองแผงแผงละเก้าสิบบาท”

“พรุ่งนี้คุณก็จะมีรายได้เก้าร้อยแปดสิบบาท?”  โกเมนนับนิ้วรวดเร็ว

“อ้อ  วันมะรืนนี้ครบรอบเก็บดีปรีพอดีเลย  รอบไร่คงจะได้สักห้าหกโล”  รัชพลทำท่าลูบคางครุ่นคิด

“ดีปรี?”

“ใช่  เครื่องเทศน่ะ  เก็บเสร็จตากแดดให้แห้ง  ขายได้กิโลละสี่ร้อยกว่าๆ”

“ห้ากิโลก็สองพัน!”

“ถ้าผมเก็บผักขายไปอย่างนี้เรื่อยๆทุกวัน  คุณว่าผมจะอดตายไหม?”

“….”  รัชพลยกยิ้มเมื่อโกเมนไม่ตอบ

“นี่น่ะผมแค่ยกตัวอย่างให้คุณฟังเฉยๆ  ทำไร่ใช่ว่าจะเท่ากับจนเสมอไป  และคำว่าพอเพียงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ร่ำรวย  คำว่าพอเพียงคือพอประมาณ  ตนเองไม่เดือดร้อน  คนอื่นไม่เดือดร้อนและที่ทำผมอยู่คือเกษตรทฤษฎีใหม่ตามที่ในหลวงท่านทรงสอน”

“ตาผมก็ทำแบบนี้ด้วยหรือ?”

“ใช่  ตาคุณเป็นคนช่วยให้ผมเข้าใจ  แกชวนชาวบ้านมาทำเกษตรทฤษฎีใหม่  รวมตัวกันก่อตั้งสหกรณ์  แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมาทำตามที่แกบอกหรอก  ส่วนใหญ่ชาวไร่ที่นี่เขามีเงินกัน”  รัชพลเอ่ยติดตลก

“แล้วคุณคิดจะทำให้มีมากกว่านี้ไหม ตอนนี้คุณอาจจะ ‘พอมีพอกิน’ แล้วคิดจะทำให้กลายเป็น ‘มีอันจะกิน’ บ้างหรือเปล่า?”

“ฮื่อ  นี่ใคร? ผมน่ะ รัชพลศิษย์เอกตาปั้นเชียวนะ!”  เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งทำท่าคุยโว

“หืม?”

“ผมมีรายได้รายวัน  รายได้รายเดือนและรายได้รายปีแล้ว  ค่อยๆรอมันเติบโตผมก็จะเปลี่ยนเป็นคนพอมีพอกินเป็นคนมีอันจะกิน”  ดวงตาสีน้ำตาลระยิบเมื่อเจ้าของยิ้มกว้าง

“แล้วถ้าผมอยากจะเป็นชาวไร่อย่างคุณบ้างล่ะ  ผมพอจะเป็นได้ไหม?”

“ไม่เอาน่า  คุณอย่ามาล้อเล่น”

“ผมพูดจริงนะ”

“?”

“ถ้าผมรับที่ของตามาแล้วอยากจะกลายเป็นชาวไร่ชาวสวนจริง ๆคุณจะว่ายังไง?”

“คุณทำไม่ได้หรอก”  รอยยิ้มสว่างไสวเมื่อครู่หายลับไปจากใบหน้ารัชพล  เขาจ้องมองคนพูดประโยคนั้นอย่างไม่เชื่อถือ

“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าผมทำไม่ได้ล่ะ?”

“คุณเป็นดารา  คุณเจ้าสำอาง คุณ…”

“งั้นคุณก็สอนผมซิ”

“….”

“เหมือนอย่างที่ตาของผมสอนคุณ”

“มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด หรือเหมือนที่คุณเคยอ่านเจอตามหน้าหนังสือหรอกนะ”

“แต่ผมคิดว่ามันไม่ยากเกินกว่าจะทำ  คุณทำได้ผมก็ทำผมได้”

“งั้นผมถามหน่อย  ทำไมถึงอยากจะทำไร่ขึ้นมาล่ะ?  คุณคิดว่าจะรวยจากการทำไร่ได้จริงๆ หรือ?”

“ก็…”

“คุณคิดว่าวางแผน  ลงทุน  แปบๆ คุณก็เก็บเกี่ยวแล้วจะได้กำไรงั้นหรือ?  แล้วถ้าสมมุติว่าคุณลงทุนแล้วขาดทุนย่อยยับล่ะ  คุณจะทำยังไง?”

“ให้ผมลองก่อนได้ไหม”

“นี่ไม่ใช่การเล่นขายของนะคุณโกเมน  คิดให้ดีก่อนเถอะ”  โกเมนนิ่งอึ้งไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร 

“แค่ทฤษฎีคุณยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ”  รัชพลถอนหายใจ  มองคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันของโกเมนแล้วพลันใจอ่อนขึ้นมา  ร่างโปร่งลุกขึ้นไปค้นหนังสือสองสามเล่มออกมาจากชั้นแล้วยื่นส่งให้อีกฝ่าย  “พื้นที่ไร่ที่ตาปั้นยกให้คุณส่วนใหญ่มีหินค่อนข้างเยอะ  ไม่มีน้ำไหลผ่าน  ถ้าต้องใช้น้ำจะต้องต่อท่อค่อนข้างไกลเข้ามาในไร่…”

“…..”  ชายหนุ่มจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเจ้าของบ้านก่อนจะก้มลงมองหนังสือในมือ

“อ่านหนังสือสามเล่มนี้ให้จบ  อ่านให้เข้าใจ  แล้วคิด  คิดจนกว่าคุณจะหาคำตอบให้ตัวเองเจอ”

“ผมจะหาคำตอบได้ยังไงในเมื่อผมไม่มีคำถาม…”

“คำถามน่ะมีเสมอแหละ…คำตอบก็เช่นกัน  เพียงแค่คิดให้ได้”

“อืม”

“คืนนี้พอแค่นี้ก่อน  คุณไปนอนเถอะ”  รัชพลตบบ่ากว้างเบาๆแล้วหันหลังเตรียมกลับเข้าห้อง 

“อ้อ  รีบนอนล่ะ  พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”

“หืม?”

“คุณต้องมาช่วยผมเก็บผัก จับปลา  เก็บไข่”

“ผมเนี่ยนะ?”

“ตอนนี้มีผมกับคุณยืนอยู่ด้วยกันสองคนใช่ไหม?”  รัชพลกระซิบถามเสียงเบาพลางหันไปมองรอบบ้านทำเอาโกเมนสะดุ้ง  ชายหนุ่มเหลียวมองตามเจ้าของบ้านอย่างหวาดๆ

“ใช่”

“ถ้างั้นผมก็พูดกับคุณแหละ”  รัชพลเชิดหน้า  ทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่สบอารมณ์

“หา!”

“ผมบอกให้คุณรีบนอนจะได้ตื่นแต่เช้า  ยังจะมาถามกลับ  ผมก็นึกว่านอกจากคุณกับผมยังมีคนอื่นอีก”

“….”

“ผมบอกว่าคุณอยู่ที่นี่ไม่ต้องจ่ายค่าข่าวก็จริงแต่ก็ต้องทำงานตอบแทนล่ะนะ”

“………..”  โกเมนขมวดคิ้ว  ยืนนิ่งคิดตามอีกฝ่ายไม่ทัน

“คิดตามทันแล้วก็ไปนอนนะ”  รัชพลตบไหล่ร่างสูสองสามทีก่อนเดินไปห้องฝาแฝด  “ราตรีสวัสดิ์  แล้วอย่าลืมปิดไฟล่ะคุณ”

ปัง!

เสียงประตูปิดลง  โกเมนที่ยืนกลางบ้านกะพริบตาปริบก่อนนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายสั่งอะไร
ให้เขาเป็นคนปิดไฟเนี่ยนะ?

เฮ้ย!  งี้เขาก็ต้องเดินกลับห้องแบบมืดๆคนเดียวน่ะซิ!










โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
«ตอบ #42 เมื่อ29-04-2017 22:03:00 »

ทำไมรู้สึกว่าที่จริงรัชพลไม่ได้หงิมเหมือนแรกเจอ ฮา

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
«ตอบ #43 เมื่อ30-04-2017 14:56:50 »

ฮ่าๆๆ ขำโกเมนอ่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
«ตอบ #44 เมื่อ30-04-2017 19:35:51 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
«ตอบ #45 เมื่อ02-05-2017 17:10:44 »

 :L2: :pig4:

ก็ดีขึ้นแล้วนะโกเมน

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
«ตอบ #46 เมื่อ03-05-2017 00:33:03 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
«ตอบ #47 เมื่อ20-05-2017 20:49:08 »

รักพอเพียง : ตอนที่ 7



“ฮ้าว~”  ร่าวสูงยกมือขึ้นปิดปากหาวชนิดไม่เกรงใจอีกคนที่หันมามอง  ช่วยไม่ได้  เมื่อคืนกว่าจะอ่านหนังสือสามเล่มนั้นจบก็ดึกดื่นค่อนคืนแล้วหนำซ้ำยังต้องตื่นแต่ไก่โห่มาเก็บผักอีก

“คุณล้างผักเป็นแล้วใช่ไหม?”  โกเมนพยักหน้ารับทั้งๆที่ตายังเปิดแค่ครึ่งเดียว  เดินตามหลังรัชพลพร้อมเข่งผักแบบไม่ล้มใส่แปลงผักได้นี่ต้องทรงตัวเก่งแค่ไหน  “งั้นล้างผักไปล่ะ  ผมไปทำกับข้าวก่อน สายๆหลังส่งผักจะพาคุณไปดูที่อีกที”
ตอนสายหลังกลับจากตลาดรัชพลก็ขับรถเครื่องพาโกเมนไปยังไร่ที่ตาปั้นทิ้งไว้ให้ซึ่งห่างจากที่นี่ไปอีกประมาณ 6-7 กิโลเมตร  เจ้าเด็กแฝดที่ลงจากรถได้ก็กระโดดโลดเต้นกันสนุกสนานชนิดไม่กลัวร้อนเลยสักนิด  รัชพลยื่นหมวกสานให้ร่างสูงพลางหรี่ตามองพื้นที่โดยรอบ  แม้จะยังเช้าอยู่หากแดดกลับแผดแรงกล้าจนแสบผิว

“คุณใส่เถอะ  เอามาให้ผมทำไม”

“คุณนั่นแหละใส่ซะ  แดดแรงขนาดนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“แล้วคุณล่ะ?”

“ผมชินแล้ว”  รัชพลตอบพลางเดินนำ  “พื้นที่พวกนี้มีหินเป็นส่วนใหญ่  ถ้าคุณอยากทำไร่จริงแล้วคุณจะปลูกอะไรล่ะ?”  โกเมนเดินตามอีกฝ่าย  ยกหมวกที่่ัรัชพลยกให้ขึ้นสวม

“อันดับแรกก็คงต้องปลูกกล้วยก่อน”

“…ทำไมต้องกล้วย?”

“คุณครับ  ผมอ่านหนังสือที่คุณให้พร้อมกับค้นจากอินเตอร์เนตมา เขาแนะนำมาแบบนี้”  และแน่นอนว่าพอเขาเปิดโทรศัพท์ที่ปิดเอาไว้ตั้งแต่ขึ้นรถทัวร์มาที่นี่มันก็เด้งข้อความจากพี่ตุ่น  ผู้จัดการส่วนตัวนับร้อยข้อความและจากอภินันท์ด้วยส่วนหนึ่ง  โกเมนไม่ได้เปิดอ่าน  เขาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นข้อความเหล่านั้น

“เขาแนะนำมาคุณก็ทำตามเลยหรือ?”

“จะหลอกด่าว่าผมโง่ล่ะซิ”  รัชพลยักไหล่กับคำพูดของโกเมน  “ฝันไปเถอะ”  เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเชิดคางใส่  “ที่ตรงนี้ค่อนข้างแล้งก็ต้องปลูกอะไรเพื่อปรับสภาพดินก่อน”  รัชพลพยักหน้ารับ  “กล้วยเป็นพืชที่อุ้มน้ำได้ดี อาจปลูกสับหว่างกับพวกพืชตระกูลถั่ว  สักระยะหนึ่งถึงค่อยปลูกพืชที่ทนแล้ง”

“แล้วระหว่างรอปรับหน้าดินคุณจะทำยังไง  หารายได้จากไหน  หรือจะกลับไปเป็นดารา?”

“กลับไปเป็นดาราหรือ?”  โกเมนถอนหายใจ  ชายหนุ่มเหม่อมองไกลออกไปอย่างไร้จุดหมาย  เมื่อคืนใช่ว่าเขาจะเอาแต่อ่านหนังสือที่รัชพลยื่นให้  เขานอนคิดมาทั้งคืน  และหลายคืนก่อนหน้านี้แล้ว  วงการมายาที่เขาเคยคิดว่ามันเหมาะสมกับเขานั้นแท้จริงแล้วไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยมอง  เขาเคยคิดอยากจะอยู่ในวงการแสดงไปจนกว่าเขาจะเล่นละครไม่ไหว  แต่พอเขาผ่านเลวร้ายมาหลายรอบกลับทำให้เขาเห็นใบหน้าเบื้องหลังหน้ากากของคนรอบตัว  มันทำให้เขาเบื่อหน่ายและอยากหันหลังใส่ก่อนจะวิ่งหนีออกมาให้ไกล

“อาโกเมนนนน”  เด็กแฝดวิ่งกลับมามาหาเขาและรัชพลพร้อมบางอย่างในมือ “นี่ๆ แฟงเจอลูกโทงเทงด้วยล่ะ  อาโกเมนเคยกินไหม?”  เด็กหญิงแบมือยื่นมาตรงหน้าเขา  ลูกกลมๆ เล็กๆ ออกสีเหลืองกลิ้งอยู่ในนั้น

“ไม่เคยครับ  มันกินได้ด้วยหรือ?”

“ได้ครับ  มันก็จะเปรี้ยวๆ หวานๆ หน่อย”  เด็กชายแกะเปลือกลูกโทงเทงในมือตัวเองแล้วยัดใส่ปากให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนจะยื่นที่เหลือให้โกเมน  ชายหนุ่มหยิบมาเด็ดเปลือกออกแล้วใส่ปากตาม

“แหวะ  ไม่เห็นอร่อยเลย!”  ร่างสูงอ้าปากบ้วนทิ้งทันทีที่กัดมันแตก

“ฮ่าๆๆๆ อาโกเมนนี่ไม่เก่งเลย  อร่อยออก  แฟงชอบ”  เด็กหญิงหัวเราะชอบใจก่อนจะชวนฝาแฝดวิ่งออกไปหาอีก

“คุณนี่ก็ไม่ยอมห้าม!”  ขายหน้าเด็กเลยพาลมาเสียงดังใส่คนที่ยืนข้างๆ

“อ้าว  ก็นึกว่ากินเป็น”

“ผมเคยกินที่ไหนเล่า!”

“แล้วว่าไง  ที่ผมถามน่ะ  ระหว่างรอปรับสภาพดินคุณจะทำมาหากินอะไร”

“เกาะคุณกินไง”

“ฮื่อ!”   

“ไม่ต้องมาฮื่อ  ก็คุณไม่อยากให้ผมขายที่ผืนนี้คุณต้องมาสอนผมทำไร่แล้วก็ต้องทำมาหาให้ผมกินด้วย  เพราะตอนนี้ผมไม่มีเงินแล้ว”  ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองกลายสภาพเป็นปลิง
รัชพลอ้าปากค้าง  เขาได้แต่มองร่างสูงเดินห่างออกไปตาปริบๆ สุดท้ายจึงได้แต่อือออห่อหมกเพราะโดนมัดมือชกไปแล้ว  หลังเดินดูที่โกเมนบอกว่าจะขุดบ่อน้ำตรงกลางสระ  ให้ลึกพอประมาณจะได้เก็บน้ำเอาไว้ใช้  รัชพลพาเดินไปตามเส้นทางที่จะวางท่อน้ำ  แน่นอนว่าต้องบอกกล่าวเจ้าที่เดิมกันด้วย  ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมให้เขาต่อน้ำแน่ๆ

“หวัดดีพี่พล  มาไงล่ะเนี่ย”  เจ้าของที่หน้าเหี้ยมเอ่ยทัก

“หวัดดีเจ้าชา  พี่พาหลานลุงปั้นมาดูที่น่ะ”  ใบหน้าคล้ำแดด หนวดเฟิ้มชะโงกมาดูโกเมน  พอเห็นร่างสูงโปร่ง  ผิวขาวจัดกับริมฝีปากแดงๆ แล้วเบ้หน้าใส่

“คนนี้น่ะหรือหลานลุงปั้น?”

“ใช่”

“แล้วมาทำไม?”

“เขาจะมาทำไร่ที่นี่?”

“ฮื่อ  จะไหวเร้อ?  หุ่นขี้ก้างหน้าขาวผิวบางอย่างนี้  ขี้ีคร้านเจอแดดสักวันสองวันคงวิ่งกลับเข้ากรุงแทบไม่ทัน”  รัชพลกลั้นยิ้ม  เหลือบมองใบหน้าบึ้งตึงคนโดนพาดพิงแล้วอยากหัวเราะดังๆ

“เอาน่า  ให้เขาลองดูสักหน่อยจะเป็นไรไป  นี่พี่ว่าจะมาขอวางท่อน้ำผ่านไร่เอ็งหน่อยน่ะ”

“ผมน่ะได้อยู่แล้ว  แต่ไอ้พวกต้นน้ำมันจะยอมให้เรอะ”

“เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง  อย่างน้อยพวกนั้นน่าจะยังเกรงใจชื่อลุงปั้นแกอยู่บ้างแหละ”
ช่วงบ่ายรัชพลพาเด็กแฝดไปส่งบ้าน  กินข้าวกลางวันเสร็จก็พากันหลับปุ๋ยเพราะเพลียแดด  โกเมนเองที่ใบหน้าแดงก่ำก็แทบหมดแรง  อยากทิ้งตัวลงไปนอนกับเด็กๆ ใจแทบขาด

“ยอมแพ้แล้วเรอะ?”

“ใครบอก!”  ชายหนุ่มกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินคำสบประมาท  “ว่าแต่  นายชาอะไรนี่อายุน้อยกว่าคุณหรือถึงเรียกคุณว่าพี่”

“ใช่”

“ล้อเล่นน่า  หนวดเคร้าเฟิ้มขนาดนั้น  แถมหน้าตายังแก่กว่าคุณอีก”

“……”

“คุณอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”  ในที่สุดโกเมนก็เอ่ยถาม  เขาสงสัยตั้งแต่ตอนนายชาเรียกอีกฝ่ายว่าพี่แล้ว

“34”

“ห้ะ?  โกหกน่า  คุณแก่กว่าผมสิบปีเชียวเรอะ?”
         
            “ใช่”  โอ๊ยย  ไม่น่าเชื่อ!  ถึงเขาจะคิดว่าอีกฝ่ายอายุไม่น้อยกว่าเขาแน่ๆ เพราะมีลูกแฝดอายุหกขวบแล้ว  แต่...สามสิบสี่เนี่ยนะ?  หน้าอ่อนเกินไปแล้ว!  “ทำไม?  หน้าตาผมดูหนุ่มอยู่เหรอถึงต้องตกใจขนาดนั้น”  รัชพลมองท่าทางตกใจของโกเมนแล้วยกยิ้ม 

“ถ้าคุณบอกว่าอายุเท่าผมผมก็เชื่อ”

“!”

“หือ?”  โกเมนขมวดคิ้วเมื่อรัชพลหันหน้าหนี  เขาเลยแกล้งขยับเท้าเพื่อจะมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดๆ แต่ฝ่ายนั้นก็หมุนหนีไปได้อีกรอบ  …เหมือนเขาจะเห็นรัชพลหน้าแดง?


**********


“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปขุดหน่อกล้วยนะ”

“ขุดหน่อกล้วย?”

“ใช่  ก็คุณจะปลูกกล้วยไม่ใช่หรือไง”

“ก็ใช่  แต่ไม่ใช่ว่าซื้อพันธุ์มาแล้วก็จ้างคนปลูกหรอกหรือ?”

“บอกทีเถอะว่านี่ผมกำลังคุยอยู่กับคุณหนูคุณชายที่ไหนอยู่”

“ก็ผมไม่รู้นี่  อย่ามาประชดประชันจะได้ไหมเล่า”

“เอาเถอะๆ ถ้าจะปลูกกล้วยให้เต็มยี่สิบไร่คงต้องใช้วิธีผ่าหน่อเอา”

“เราขุดหน่อเล็กๆ แล้วมาปลูกเลยไม่ได้หรือ?”

“ก็ได้นะ  แต่คุณจะไปหามาจากไหนมาปลูกให้เต็มไร่?”  โกเมนยักไหล่  เขาจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า  “ไปร้านเกษตรก่อนจะค่ำเถอะ”

“ไปทำไม?”

“มีของที่ต้องใช้ตอนคุณขยายหน่อพรุ่งนี้”  รัชพลขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจพาโกเมนไปหอบหิ้วของจากร้านเกษตรในหมู่บ้าน  โชคดีที่ร้านใหญ่พอทำให้ได้ของครบตามที่ต้องการ

เช้าตรู่โกเมนช่วยเจ้าของบ้านเก็บผัก เก็บไข่ส่งตลาด  ปลุกเด็กๆ ให้มาอาบน้ำกินข้าวตามคำสั่งก่อนที่ช่วงสายๆ เขาจะต้องไปผจญกับแดดแรงกล้า

“เดี๋ยวผมขุดให้คุณดูเป็นตัวอย่างนะ”  รัชพลพับแขนเสื้อขึ้นหลังตัดต้นกล้วยเพื่อไม่ให้เกะกะตอนที่จะขุด  ใบตองถูกนำมาวางเรียงกันสวยงามไม่ให้ใบแตกจนเสียราคา  แล้วจับจอบด้วยท่าทางทะมัดทะแมง  มีเสียมอันใหญ่อีกอันวางด้านข้าง  ปากก็คอยอธิบายพร้อมมือที่เริ่มลงแรง  รัชพลขุดดินรอบต้นกล้วยต้นใหญ่ได้ที่จึงใช้เสียมแซะเอาต้นกล้วยออกมา  โกเมนพยายามทำเลียนแบบอีกฝ่ายเก้ๆ กังๆ จนคนสอนทนไม่ไหว  สุดท้ายเลยต้องจับมือขุด
รัชพลเดินไปซ้อนหลังร่างสูง  เอื้อมแขนมาจับจอบโดยที่โกเมนยังไม่ปล่อยมือ  ทาบทับฝ่ามือลงบนหลังมือขาวพลางกระชับแน่น 

“จับให้แน่นแล้วยกซิ  ออกแรงเท่ามดแบบนั้นเมื่อไหร่จะขุดเสร็จ หึ?

“เอ่อ?”

“อะไร?  เอ้า  ยกแบบนี้!”  รัชพลเอ่ยดุเมื่อเห็นว่าคนด้านหน้าไม่ยอมยกจอบขึ้น

“คือ  ผมไม่ถนัด”

“หืม?”

“ศอกผมติดตัวคุณ”

“โอ๊ะ?”  รัชพลปล่อยมือก่อนจะกระเด้งตัวออกด้วยความตกใจ  โกเมนอยากหันไปดูหน้าอีกฝ่ายแต่โดนดุเสียก่อน  “ขุดเข้าไปซิ!”
.
.

“โอ๊ย  คุณ!”

“?”

“ผมไม่ไหวแล้วนะ!”  โกเมนโยนจอบทิ้งหลังจากขุดหน่อกล้วยต้นที่ยี่สิบ  ฝ่ามือทั้งสองข้างแสบร้อนจนแทบกำด้ามจอบไม่ไหว  ใบหน้าและแขนสองข้างแดงก่ำจากการถูกแดดเผา  เหงื่ออาบเสื้อจนเปียกชุ่มแนบลำตัว  ผมหยักศกที่มัดรวบไว้บางส่วนหลุดรุ่ยยุ่งเหยิง  รัชพลเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วละมือจากจอบของตัวเอง

“เข้าบ้านเถอะ”  โกเมนแทบโห่ร้องเมื่อได้ยินประโยคนั้น  ชายหนุ่มวิ่งเข้าบ้านไปเปิดโอ่งตักน้ำขึ้นดื่มด้วยความหิวกระหายก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง

“โอ๊ย!”  จังหวะที่เท้าแขนไปด้านหลังเพื่อผ่อนคลายนั้นโกเมนสะดุ้งโหยงเจ็บแปลบตรงกลางฝ่ามือสองข้างจนต้องเบ้หน้า  ชายหนุ่มยกมือตัวเองขึ้นดูอย่างตกใจ

“อา…”  รัชพลที่เดินตามมาทีหลังเห็นมือของโกเมนแล้วยืนนิ่ง

“เนี่ย  เห็นไหม  เพราะคุณใช้งานผมหนักไงมือเลยเป็นแผลแบบนี้” 

“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน  คุณกินข้าวแล้วไปพักเถอะ”  โกเมนยิ้มกว้าง
หลังกินข้าวกลางวันเสร็จ  รัชพลหายามาทาให้แล้วพันแผลไว้ด้วยผ้าสะอาด  โกเมนถอนหายใจพลางเอนหลังลงนอนบนพื้นบ้าน  ในหัวจัดตารางว่าวันพรุ่งนี้เขาต้องมาขุดหน่อกล้วยอีกกี่ต้นถึงจะพอปลูกก่อนจะค่อยๆ ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
โกเมนสะดุ้งตื่นเมื่อสองแฝดที่กลับมาจากโรงเรียนพุ่งกระโจนเข้าใส่

“อาโกเมน  พวกเรากลับมาแล้วววว”

“กลับมาจากโรงเรียนแล้วต้องทำยังไงก่อน หืม?”

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”

“เก่งมาก  วันนี้พ่อพลเชื่อมฟักทองไว้ให้แน่ะ  ไปล้างมือแล้วค่อยมากินนะ”  เด็กแฝดวิ่งไปล้างมือแล้วนั่งรออย่างเรียบร้อยเมื่อโกเมนตักฟักทองเชื่อมไปวางให้ตรงหน้า  ชายหนุ่มเหลียวหาผู้ปกครองของสองแฝดก่อนจะเดินไปหลังบ้านเพราะได้ยินเสียงกุกกักแว่วมา

“นี่คุณ  อย่าบอกนะว่าคุณทำหมดนี่คนเดียว?”  โกเมนมองหน่อกล้วยที่ถูกผ่า  ทาน้ำยาเร่งรากถูกกลบด้วยแกลบดำในกะละมังหลายสิบใบตรงหน้ารัชพล

“ใช่”

“ทำไมคุณไม่ปลุกผม?”

“มือคุณเป็นอย่างนั้นจะทำไหวได้ยังไง  พักไปน่ะถูกแล้ว”

“โอเค  มือผมเจ็บผมควรพักแต่แบบนี้มันไม่ถูกต้อง!”

“อะไรคือไม่ถูกต้อง”

“ผมปล่อยให้คุณทำงานพวกนี้คนเดียวในขณะที่ตัวเองนอนหลับสบายใจเฉิบ  คุณคิดว่ามันถูกไหมล่ะ?”

“….”

“ผมไม่เคยทำไร่  ผมทำพวกนี้ไม่เป็น  ถ้าคุณไม่สอนแล้วเมื่อไหร่ผมจะทำเองได้  ผมไม่ได้อวดเก่งที่เจ็บตัวแล้วจะมาฝืนแค่คุณต้องให้เวลาผมหน่อย”

“ผมขอโทษนะ  ผมแค่อยากให้คุณได้ต้นกล้วยเยอะๆ เร็วๆ”

“คุณไม่ต้องขอโทษหรอก คุณไม่ผิด  ที่จริงผมควรจะขอบคุณคุณด้วยซ้ำ”

“อืม”

รัชพลขยับตัวให้ร่างสูงนั่งลงใกล้ๆ เพราะยังเหลือหน่อกล้วยที่ถูกผ่าอีกจำนวนหนึ่งแต่มือโกเมนแค่ขยับก็เจ็บไปทั้งฝ่ามือเลยได้แต่นั่งฟังอีกคนสอนวิธีเพาะเท่านั้น  เพราะความเชี่ยวชาญของคนสอนงานเลยเสร็จโดยใช้เวลาไม่นานนัก
.
.
“นี่คุณ  มือผมเจ็บอ่ะ”

“แล้ว?”

“ป้อนข้าวผมหน่อยดิ”

“ห้ะ?”  รัชพลที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงึกกึก  มองอีกคนชูฝ่ามือเยินๆ มาให้ดู

“นี่คุณ  ใจคอจะให้ผมกินข้าวเปล่าอย่างเดียวเหรอ?”  โกเมนเบ้หน้า  เขากะว่าจะแกล้งรัชพลเสียหน่อยแต่ดูท่าคงคิดผิด  อีกฝ่ายยอมป้อนข้าวเขาจริง  แต่แค่ข้าวเปล่าอ่ะนะ  ไม่กับข้าวผสมเลย..

“ก็คุณขอให้ป้อนข้าว”

“…ใจร้ายจริ๊ง!”  คนมือเจ็บนึกอยากกระชากช้อนมาตักกินเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“ฮ่ะๆๆ” 


“….”  โกเมนนิ่งอึ้ง  มองใบหน้าสีน้ำผึ้งกระจ่างตาของคนตรงหน้า  ยิ่งเมื่อเจ้าตัวหัวเราะยิ่งขับให้ดวงตาสีน้ำตาลระยิบระยับ  ใบหน้าอ่อนกว่าวัยนั้นชวนมองกว่าตอนไหนๆ เมื่อยามยิ้มแย้ม

“ไม่แกล้งแล้วก็ได้”  รัชพลกัดริมฝีปากกลั้นยิ้ม  ก่อนจะยอมตักกับข้าวมาป้อนให้  โกเมนที่ถูกเอาช้อนจ่อปากยังคงมองคนตรงหน้านิ่ง  แก้มสีน้ำผึ้งจึงร้อนรู้สึกอุ่นๆ ขึ้นมาอย่างน่าปะระหลาด  “นี่  จะกินไม่กิน?”

“อ้อ กินๆ”  ร่างสูงหลุดจากภวังค์แล้วอ้าปากงับช้อนที่รัชพลส่งมาให้

“พ่อๆ ทำไมพ่อต้องป้อนข้าวอาโกเมนด้วยล่ะ?”

“!”  คนเป็นพ่อสะดุ้งโหยง  อื้อหือ  นี่เขาลืมไปเลยว่าลูกๆ ดูอยู่

“อาโกเมนมือเจ็บไงครับ  พ่อพลเลยช่วยป้อนข้าวให้”  โกเมนเป็นฝ่ายตอบ

“แล้วทำไมมืออาโกเมนถึงเจ็บล่ะ?”  เด็กหญิงเอียงคอถามพลางจับมือใหญ่ของโกเมนมาพลิกดู

“โดนใครใช้งานก็ไม่รู้  ดูซิมืออาเจ็บไปหมด”  ได้ทีฟ้องเด็ก  น่าสงสารมาก!  รัชพลเบ้ปากใส่

“จะกินไหมข้าวน่ะ?”

“กินครับกิน!”
มื้อเย็นเป็นอาหารง่ายๆ โกเมนกลืนต้มจืดเมนูซ้ำๆ ตรงหน้าโดยไม่รู้สึกเบื่อแล้วนึกแปลกใจตัวเอง  ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่กินอะไรแบบนี้แน่ๆ  แต่พอมาอยู่ที่นี่เขากลับเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ  ผักปลูกเอง  ทั้งไก่ทั้งปลาก็เลี้ยงเองหมด  ทุกอย่างที่กินมาจากรอบบ้านหลังนี้  มาคิดดูแล้วก็รู้สึกอุ่นๆ ในอกอย่างไม่เคยเป็น

“วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?”  รัชพลเอ่ยถามลูกๆ ขณะทายาให้โกเมนหลังอาบน้ำ  ขนาดเอาถุงพลาสติกคลุมมือสองข้างไว้แล้ว ไม่รู้ว่าคนตัวโตอาบอีท่าไหนมันถึงเปียกชุ่มไปหมด

“วันนี้ครูไก่ให้เล่นเกมด้วยค่ะ”

“เปิดการ์ตูนให้ดูด้วยครับ!” 

“เมื่อไหร่บ้านเราจะมีโทรทัศน์คะพ่อ”  เด็กหญิงเอ่ยถาม  วันนี้สองแฝดได้ดูการ์ตูนที่ครูไก่เปิดให้ดูแล้วสนุกมาก  เลยอยากให้ที่บ้านมีโทรทัศน์  พวกเขาจะได้ดูการ์ตูนบ่อยๆ

“เอ่อ…”  รัชพลเหลือบสายตามองโกเมนที่มองมาอยู่ก่อนแล้วพลางนึกหาคำตอบให้ลูกๆ

“ก็บ้านเรายังไม่จำเป็นนี่ครับ”  โกเมนเป็นคนตอบสองแฝด

“ไม่จำเป็นคือยังไง?”

“พวกหนูชอบไปเล่นในไร่เก็บลูกโทงเทงไหม?”

“ชอบครับ / ชอบค่ะ”

“เวลาเก็บไข่ล่ะ?”

“เก็บไข่ก็สนุก!”

“แฟงชอบให้อาหารปลาด้วยค่ะ!”

“เห็นไหม  พวกนี้ทำพวกนี้ก็สนุกได้โดยไม่ต้องมีโทรทัศน์”

“จริงด้วย!”  สองแฝดตบมือดังแปะ

“งั้นพรุ่งนี้พ่อจะทำม้าก้านกล้วยให้คนละตัวเอาไว้ขี่ไปเก็บไข่ ขี่ไป ให้อาหารปลา  ดีไหม?”

“เย้!”
รัชพลถอนหายใจหลังพาลูกๆ เข้านอน  เขากลับมานั่งตรงห้องโถง  กางโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กแล้วเปิดสมุด 

“ทำอะไรน่ะ?”

“จดว่าวันนี้ผ่าหน่อกล้วยได้เท่าไหร่  พรุ่งนี้ผมจะติดต่อเฮียตี๋เรื่องขุดสระกลางไร่ให้นะ”

“คุณติดต่อเดี๋ยวผมคุยเอง”

“หืม?”

“คุณแค่สอนก็พอ  เวลาลงมือทำให้ผมทำเอง”

“….ก็ได้  จริงซิ  เมื่อกี้ขอบคุณนะที่ช่วยตอบพวกเด็กๆน่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก  ผมก็แค่ตอบตามที่คุณเคยสอน”

“เอ๊ะ?”

“คุณสอนให้ผมสนุกกับการดูดาวตอนกลางคืน  สนุกกับการปลูกผักเก็บหญ้าตอนกลางวัน  แค่นี้ก็ไม่มีเวลาไปดูโทรทัศน์แล้วเห็นไหม”  รัชพลยิ้มกับคำตอบของอีกฝ่าย  นึกไม่ถึงว่าโกเมนจะจำที่เขาพูดได้  “เออ  จริงซิ  พรุ่งนี้คุณไม่ต้องชงกาแฟให้ผมนะ”

“ทำไม?”

“มันไม่อร่อย”

“ห้ะ!”

“คุณน่ะเก็บเม็ดสุกมาตากแดด คั่วๆ แล้วก็บดมั่วๆ ใช่ไหมล่ะ?”  รัชพลพยักหน้ารับ  “ไม่อร่อยอย่างแรง”

“…..”  รัชพลหน้าซีด  นี่เขาคิดว่าตัวเองทำดีแล้วนะ

“เดี๋ยวผมจะทำให้คุณดื่มเองก็แล้วกัน”

“…..”

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ”

โกเมนเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว  หากเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม  เมื่อครู่ฝ่ายนั้นบอกว่าจะบดกาแฟแล้วชงให้เขาดื่มเองอย่างนั้นหรือ?  เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?

อา  ว่าแต่ทำไมอากาศคืนนี้มันร้อนจัง








โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอโทษที่มาช้านะคะ^^

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #48 เมื่อ21-05-2017 01:09:12 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JARKISREAL

  • [ ฉันเอง ]
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #49 เมื่อ21-05-2017 01:45:49 »

 :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
« ตอบ #49 เมื่อ: 21-05-2017 01:45:49 »





ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #50 เมื่อ21-05-2017 07:38:57 »

โอววว เริ่มอุ่นจนร้อนแล้วอ่ะ ติดตามค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #51 เมื่อ21-05-2017 08:59:02 »

ดีต่อหัวใจใช่มะ อิอิ

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #52 เมื่อ23-05-2017 03:58:48 »

เริ่มมีโมเมนต์เล็กน้อย อิอิ  :impress2:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #53 เมื่อ23-05-2017 11:51:40 »

โกเมนทำคุณเขินตลอดดด~~ :o8:

ออฟไลน์ คุณจัตวา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #54 เมื่อ23-05-2017 18:57:15 »

ตกลงใครเมะใครเคะกันอะ   แยกไม่ออกเลย :katai1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #55 เมื่อ23-05-2017 22:46:20 »

อ่านรวดเดียวเลยค่า โกเมนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ ดีขึ้น :katai2-1:  ตอนแรกๆ นี่ไม่ชอบนิสัยอย่างแรงเลย :katai1: ส่วนพี่พลนี่เป็นคุณพ่อที่ดีนะ สอนลูกเก่ง เด็กๆก็น่ารักค่ะ  :-[

ปล.ชอบบรรยากาศของเรื่องจัง รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #56 เมื่อ01-06-2017 17:34:10 »


รักพอเพียง ตอนที่ 8




   “โอ๊ย! จะไม่ไหวแล้วนะ!” เจ้าของร่างสูงโวยวายก่อนจะโยนจอบในมือทิ้งแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นดินอย่างหมดแรง คนที่ยืนอีกฝั่งเลิกคิ้วพลางเดินเข้ามาหา หยิบกระติกน้ำส่งให้ “ทำกันอยู่สองคนแบบนี้ชาติไหนจะเสร็จ!” โกเมนบ่นต่อ ชายหนุ่มคว้ากระติกน้ำแล้วตักขึ้นดื่มด้วยความกระหายปนโมโห น้ำใสกระฉอกเปียกชุ่มอกเสื้อเพราะแรงอารมณ์
   
“เหนื่อยหน่อยนะ” รัชพลที่ไม่รู้ว่าจะพูดปลอบอย่างไรเอ่ยออกมาสั้นๆ
   
“ไม่หน่อยละมั้ง นี่น่ะมันเหนื่อยมากกกกก โว้ย! ไม่เอาแล้ว จะกลับกรุงเทพฯ”
   
“.....” รัชพลเลิกคิ้ว จ้องมองในหน้าขาวจัดที่บัดนี้แดงก่ำและอาบย้อมไปด้วยหยาดเหงื่อ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงคว้าจอบที่โกเมนโยนทิ้งขึ้นมาแบกบนไหล่ซ้าย ส่วนไหล่ขวาแบกจอบที่เขาใช้จนถึงเมื่อครู่แล้วหันหลังเตรียมเดินออกจากไร่
   
“นั่นคุณจะไปไหน?” โกเมนเอ่ยถาม
   
“ก็คุณบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯผมเลยจะไปกลับบ้านไปยืมรถกระบะพี่ชมขับไปส่งคุณที่ขนส่ง”
   
“.....”
   
“ลงไปตอนนี้น่าจะทันรอบสองทุ่ม...”
   
“ประชด! รู้จักคำว่าประชดไหม ห๊า!” โกเมนลุกขึ้นนึกอยากวิ่งไปจับหัวคนตรงหน้าเขย่าๆให้สมองไหลออกจากหู
   
“อ้อ~” รัชพลเพียงพยักหน้ารับ เขาหันไปมองรอบไร่แล้วหันกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง “งั้นพรุ่งนี้จ้างคนงานมาช่วยสักสี่ - ห้าคนละกัน”
   
“จ้างคนงาน?”
   
“ใช่ ก็คุณบ่นเหนื่อยไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นจ้างคนงานมาช่วยคุณคงเหนื่อยน้อยลง งานก็เสร็จเร็วขึ้น”
   
“.....”
   
“ไม่เอาหรือ?” รัชพลเอียงคอถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นโกเมนทำหน้าถมึงทึง
   
“ทำไมไม่บอกแต่แรกว่ามีคนงานให้จ้างน่ะ ห๊า!” ถ้าเขาบีบคอคนตรงหน้าตายตอนนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเลย
   
“ก็คุณไม่ได้ถาม”

“....ไอ้คำนี้อีกแล้วนะ!” ร่างสูงแผดเสียงร้องดังก้องทั่วไร่อันเว้งว้าง.…


********


   โกเมนถอนหายใจ ชายหนุ่มมองคนงานที่กำลังขุดดินท่ามกลางอากาศร้อนแล้วก้มลงมองมือตัวเอง เมื่อเช้านายชาไร่ข้างๆวิ่งมาบอกว่าชาวไทยภูเขาทางต้นน้ำไม่ยอมให้วางท่อดึงน้ำมาที่ไร่ ถ้าไม่มีน้ำแล้วจะทำไร่ได้ยังไงกันเล่า!
   
“กำลังคิดว่าจะกลับกรุงเทพฯดีไหมอยู่อย่างนั้นหรือ?”
   
“เมื่อก่อนมือผมนุ่มมากเลยนะคุณรู้ไหม ยกของหนักสุดก็เห็นจะเป็นกล่องหนังสือตอนย้ายห้อง”
   
“หน่อกล้วยเบากว่ากล่องหนังสือเยอะ”
   
“....” โกเมนกลอกตาเมื่อได้ยินคำพูดของคนข้างๆ
   
“งั้นขุดสระดีไหม?”
   
“ที่ยังงี้ขุดสระแล้วจะมีน้ำมาให้หรือไง?” โกเมนขมวดคิ้ว อากาศร้อนและเรื่องยุ่งยากทำให้เขาอารมณ์เสียหนักขึ้น
   
“ก็ลองขุดดูเผื่อเจอตาน้ำข้างล่างไง”
   
“ถ้าเจอตาน้ำง่ายๆ ไร่ข้างๆ เขาคงขุดกันไปแล้วมั้ง!”
   
“…..” ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไรรัชพลเลยนิ่งเงียบ
   
“อีกอย่างเงินก็ไม่มีไม่มากพอจะมาลองผิดลองถูกได้บ่อยๆ”
   
“อ่า...เข้าใจแล้ว”  คนเสนอความคิดนิ่งไปอีกอึดใจใหญ่  ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองคนข้างๆแล้วเอ่ยต่อ “เคยได้ยินไหมว่ากำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว”
   
“...เคยได้ยินแต่กรุงโรมนะ ไอ้คำกำแพงเมืองจีนนี่เพิ่งได้ยินครั้งแรก”
   
“......”
   
“นี่พูดมั่วใช่ป้ะ?” โกเมนมองใบหน้านิ่งเฉยของรัชพลด้วยสายตาคลางแคลง
   
“จะกรุงโรมหรือกำแพงเมืองจีนก็ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวเหมือนกันนั่นแหละ”
   
“.....”
   
“กว่าจะเป็นเมืองกว่าจะเป็นกำแพงที่ใหญ่ขนาดนั้นได้ต้องลงแรงขนาดไหนกว่าจะสำเร็จ ...ผมเรียนมาน้อยไม่รู้จักหรอกไอ้กรุงโรมที่คุณว่าน่ะ รู้จักแค่กำแพงเมืองจีนนี่ก็เก่งแล้ว” ท้ายประโยคเบาลงจนแทบไม่ได้ยิน กระนั้นโกเมนก็ยังยิ้มออกมา
   
“ที่พูดมานี่คือการให้กำลังใจผมใช่ไหม?”
   
“เปล่า พูดลอยๆnไปงั้นแหละ”
   
“เหรอ?” โกเมนยกยิ้ม รอยยิ้มนั้นขยายกว้างก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ
   
“อืม”

   
วันรุ่งขึ้นโกเมนที่เตรียมตัวสวมเสื้อแขนยาวพร้อมหมวกปีกกว้างจะเข้าไร่ก็ต้องเปลี่ยนแผนเมื่อเจ้าของบ้านขับรถมอเตอร์ไซค์หายไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า เขาก็เลยเดินไปสวนหลังบ้านที่ตอนนี้ผักหลากหลายชนิดแข่งกันงอกงามจนเก็บไปขายแทบไม่ทัน ร่างสูงหยุดยืนตรงซุ้มมองยอดผักคุ้นตาที่กำลังแตกยอดอ่อนจนเต็มซุ้มไม้ไผ่ก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจ
   ชาโยเต้?
   รัชพลปลูกชาโยเต้ให้เขากินจริงๆ หรือ?
   
รอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลา ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกดีใจมากขนาดนี้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยเคยพูดลอยๆ แต่รัชพลกลับใส่ใจเสมอ ทั้งกาแฟสดทำเอง ที่ไม่ว่าจะรสชาติฝาดเฝื่อนแค่ไหนเขาก็คิดว่ามันอร่อยเมื่อมาจากความใส่ใจของคนทำ ผักที่เขาชอบกินเย็นนี้คงกลายเป็นกับข้าวในมื้อเย็นหรืออาจจะในมื้อใดมื้อหนึ่งเร็วๆนี้
   
เสียงรถยนต์จอดหน้าบ้านพร้อมเสียงสองแฝดทำให้โกเมนเดินออกไปดู รถยนต์กลางเก่ากลางใหม่คันนี้คุ้นตาเพราะเคยไปรับเขาเมื่อมาที่นี่ครั้งแรก
   
“ไปยืมรถเขามาทำไมหรือ? แล้วนี่วันนี้หายไปไหนมาตั้งแต่เช้า ผมรอเข้าไร่จนสายโด่งป่านนี้แล้วนะ” โกเมนเท้าเอวเอ่ยประโยคยืดยาวใส่เจ้าของบ้าน
   
“อาโกเมน วันนี้ไปเที่ยวกัน” เด็กชายกระโดดไปรอบตัวคนเป็นพ่ออย่างดีใจ
   
“ไปเที่ยว?”
   
“ใช่ค่ะ วันนี้พ่อจะพาไปเที่ยวน้ำตก” เด็กหญิงวิ่งไปกอดแขนร่างสูง เงยหน้าขึ้นยิ้มแฉ่ง
   
“แล้วงานในไร่ล่ะ?”
   
“เหลืออีกไม่เยอะแล้ววันนี้คงเสร็จให้คนงานทำไปเถอะ ส่วนคุณน่ะต้องพักผ่อนบ้าง” โกเมนขมวดคิ้วตั้งท่าจะเถียงหากรัชพลยกมือชี้ไปยังเด็กๆ “สองแฝดอยากพาคุณไปดูน้ำตก นอนแช่น้ำพุร้อน ดูปลาแล้วก็ไหว้พระ”
   
“แต่....”
   
“เจ้าตัวแสบนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะตื่นเต้นจะได้ไปเที่ยว”

   “.....”

   “แล้วผมก็ไปยืมรถมาแล้วด้วย”

   “.....”  นี่กะจะไม่ให้เขาปฏิเสธเลยซินะ


   ความเย็นชุ่มฉ่ำและเสียงน้ำกระทบหินแว่วให้ได้ยินตั้งแต่เลี้ยวเข้าเขตอุทยาน ต้นไม้สูงใหญ่บดบังแสงอาทิตย์ยามสายเอาไว้จนส่องแทบไม่ถึงพื้นดิน สองแฝดดูตื่นเต้นมาก พอลงจากรถได้ก็จูงมือโกเมนตรงไปยังแหล่งกำเนิดเสียงที่ได้ตั้งแต่ปากทางเข้า

   ละอองน้ำใสตกกระทบหินกระเซ็นฝอยจนมองเห็นเป็นสีขาวทำให้รอบข้างเปียกชุ่ม ชั้นหินเมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นน้ำที่ไหลตกมาจากชั้นที่ลดหลั่นกัน  บ้างก็เตี้ย  บ้างก็สูงหลายช่วง  มองด้วยสายตาคร่าวๆน้ำตกนี้สูงหลายสิบชั้นเลยทีเดียว

   รัชพลหอบเสื่อกับตะกร้าอาหารหลังรถเดินตามมา  เขาเลือกที่นั่งไม่ห่างจากน้ำตกมากนักหากก็ไม่ใกล้จนโดนน้ำกระเด็นใส่ เขามองร่างสูงของโกเมนที่ยืนนิ่งแล้วสาวเท้าไปยืนข้างๆ

   “สวยไหม?”

   “สวย  นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มาเที่ยวน้ำตกแบบนี้”

   “ไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้นะ” รัชพลยกยิ้ม

   “ผมจะขอบคุณเจ้าสองแสบที่อยากมาเที่ยวแล้วพาผมมาเป็นตัวแถมละกัน”  โกเมนยักไหล่ก่อนจะพับขากางเกงถอดรองเท้าแล้วกระโดดลงไปในแอ่งน้ำตื้นตามเด็กสองคนที่กวักมือเรียกเหย็งๆ

   “อย่าไปตรงกลางมากนักล่ะ  ตรงนั้นน้ำค่อนข้างลึก”

   โกเมนหันมาพยักหน้าแล้วกระโจนเล่นน้ำชนิดโยนอายุทิ้งไว้บนฝั่ง ร่างสูงไล่จับกับเด็ก  กระโดดตีลังกาโชว์ให้เจ้าสองแฝดปรบมือลั่น  เจ้าฟักก๋ากั่นถึงขนาดจะเลียนแบบ ร้อนให้คนต้นคิดปรามเสียงหลงเพราะกลัวเด็กชายจะเอาหัวไปกระแทกหินเสียก่อน   เล่นกันอยู่พักใหญ่ก็หอบกันมานั่งขอบเสื่อ  รัชพลยื่นแก้วน้ำมะตูมส่งให้ทั้งสาม ขนมขบเคี้ยวที่นานๆ ทีจะยอมซื้อให้เด็กๆกินเพราะรัชพลไม่ชอบขนมที่มีผงชูรสเยอะพวกนี้นักแต่พวกเด็ก ๆนั้นชอบกันเหลือเกิน เจ้าสองแฝดช่วยกันเปิดซองมันฝรั่งทอดอย่างดีใจ  หยิบใส่ปากพ่อบ้างใส่ปากอาโกเมนบ้างแล้วหัวเราะชอบใจ พอเติมของลงท้องหายหิวก็กระโดดลงน้ำต่อ  โกเมนเห็นดังนั้นก็แกะกระดุมถอดเสื้อแล้วโยนไปทางรัชพล

   “ฝากหน่อย”

   “….”  รัชพลก้มลงมองเสื้อเปียกชื้นในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายที่วิ่งลงน้ำตกตามเด็กๆไป

   ผิวใต้ร่มผ้ายังคงขาวจัดนั้นหากวันนี้กลับมีรอยตัดเป็นสีเข้มคล้ำตามรอยขอบแขนเสื้อเพราะบางวันที่ออกไปไร่โกเมนมักจะลืมสวมเสื้อแขนยาวบ่อยๆ  ถ้าเขาไม่เตรียมไว้ให้วันนั้นแขนของโกเมนแทบจะไหม้เพราะแดดเผา  ร้อนให้รัชพลต้องบังคับเอาทะนาคามาพอกหน้าพอกแขนให้โกเมนก่อนออกจากบ้านทุกวัน เกิดวันหนึ่งอยากกลับไปเป็นดาราจะได้ไม่มาโทษเขาว่าทำให้ฝ่ายนั้นผิวเสีย

   “นี่ เย็นนี้จะผัดชาโยเต้ป้ะ?” โกเมนวิ่งกลับเข้ามาอีกรอบ หยดน้ำกระเด็นทำเอารัชพลขยับถอยหลังแทบไม่ทัน

   “หืม รู้ได้ไง? แล้วใครบอกว่าจะทำ?”

   “ทำเหอะ อยากกิน” ริมฝีปากแดงสดยกยิ้ม ดวงตาคู่สวยระริกคาดหวังแต่รัชพลทำเพียงแค่เลิกคิ้วหากไม่ตอบรับ

   บ่ายคล้อยทั้งหมดก็พากับกลับบ้าน เด็กโข่งหนึ่งคนกับเด็กซนฝาแฝดถูกไล่ไปอาบน้ำล้างตัวที่ชานหลังบ้าน ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด  มาสงบลงได้หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพากันหลับปุ๋ยอยู่กลางบ้านทั้งสามหน่อ รัชพลยกยิ้ม  มองภาพที่เจ้าฟักนอนทับแขนซ้ายเจ้าแฟงนอนพาดอยู่บนแขนขวาของโกเมน ในหัวใจพลันรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด  ชายหนุ่มเจ้าของบ้านสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะออกไปเด็ดยอดชาโยเต้ตรงซุ้มไม้ไผ่

   ไม่ได้ทำเพราะว่าใครบ่นอยากกินหรอกนะ



********


   โชคดีที่รัชพลแยกหน่อกล้วยได้มากพอให้โกเมนปลูกรอบไร่ตามแนวรั้ว สี่-ห้าเดือนมานี้เล่นเอาเขามือแตกยับกันเลยทีเดียว ส่วนคนขี้บ่นนั้นก็ไม่ต่างกัน ดีหน่อยตรงที่เขาหาถุงมือมาให้ฝ่ายนั้นใส่ฝ่ามือจึงไม่แตกมากเท่าเขา รัชพลจอดรถมอเตอร์ไซค์ก่อนจะเดินมาเรียกให้โกเมนซ้อนท้ายออกไปที่ไร่

   “วันนี้เฮียตี๋ส่งไอ้ทองมาไถที่ให้แล้ว” ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีทั้งสองก็เห็นรถไถคันใหญ่ขับไปจอดด้านข้าง ครู่เดียวคนที่บังคับรถก็กระโดดลงมาพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม

   “หวัดดีพี่พล”

   “เป็นไงบ้าง?”

   “หินเยอะมากเลยพี่ นี่ต้องเปลี่ยนใบจานเลยอ่ะ”

   “เออ โทษทีว่ะเอ็ง เฮียตี๋คงไม่รับงานที่ไร่นี้อีกแน่ถ้าข้าขอ”

   “หินมันเยอะ ไม่คุ้มค่าจานที่พังอ่ะ”

   “อืมๆ นี่คุณโกเมน เจ้าของที่หลานลุงปั้นแก”

   “เฮ้ย หล่อว่ะพี่ ดาราป้ะเนี่ย หน้าคุ้นๆ”

   “สวัสดีครับ” คนโดนชมเอ่ยทักทาย

   “หวัดดีครับ เออ ได้ยินว่าพี่จะขุดสระเหรอ?” นายทองหันมาถามคนแก่กว่า

   “ใช่ ก็ไอ้ที่ตรงนี้แหละ” นายทองหันไปมองด้านหลัง

   “ที่มันมีแต่หิน ผมว่าขุดไปก็คงไม่เจอตาน้ำหรอก” โกเมนตีหน้าเครียดเมื่อได้ฟัง เพราะชาวไทยภูเขาทางต้นน้ำไม่ยอมให้เขาวางท่อ คืนก่อนเขาจึงคุยกับรัชพลว่าจะขุดสระน้ำแทน เผื่อโชคดีเจอตาน้ำจะได้สบายหน่อย ขืนทำไร่ไม่มีน้ำคงมีแต่เจ๊งกับเจ๊งเท่านั้นเอง “แต่ถ้าลองขุดบ่อบาดาลก็ไม่แน่นะพี่”

   “บ่อบาดาลหรือ?” รัชพลยกมือขึ้นแตะคางอย่างครุ่นคิดแล้วเหลือบมองโกเมนคล้ายขอความเห็น 

   “บ่อบาดาลละกัน” โกเมนพยักหน้า รัชพลหันไปคุยกับนายทองต่อเพื่อหาคนมาขุดบ่อบาดาล ร่างสูงเหม่อมองพื้นที่โดยรอบที่มีแต่ความแห้งแล้ง สีเขียวของต้นไม้มีเพียงน้อยนิดต่างจากบริเวณบ้านของรัชพลอย่างมาก อาจจะเพราะแถบนี้เป็นชาวไร่ทั้งหมดจึงต้องตัดต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูกของชาวบ้าน แต่ในความคิดของโกเมน แบบนี้มันไม่ค่อยน่าอยู่เลยสักนิด

   “จริงซิ งั้นวันนี้เข้าไปคุยเรื่องขุดบ่อเลยละกัน ตอนเย็นๆผมต้องไปรับลูกอีก”

   “… ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”

   “?”

   “ผมว่าจะซื้อรถกระบะสักคันเอาไว้ใช้ในไร่ คุณว่าไง?” รัชพลเลิกคิ้ว มองคนที่หันมาปรึกษาเขาอย่างไม่เข้าใจ เงินก็เงินอีกฝ่าย อยากซื้อก็ซื้อไปแล้วมาถามเขาทำไมกัน “ผมอยากให้คุณช่วยบริหารเงิน คุณก็รู้ว่าผมไม่มีเงินมากมายเอามาใช้จ่ายสรุ่ยสุร่าย!” เห็นสายตาอีกฝ่ายแล้วนึกหงุดหงิดโกเมนเลยกอดอกตีหน้าบึ้ง

   “อ้อ”

   “ว่าไง?”

   “ได้ ซื้อซิ แต่...”

   “แต่?”

   “แต่ต้องเป็นรถมือสองนะ”

   “รถมือสองมันจะไปทนได้ยังไง?”

   “ไหนบอกว่ามีเงินไม่เยอะไง?”

   “ก็...”

   “รถใหม่น่ะซื้อมาเดี๋ยวก็ได้เสียดายรถหรอก เอามาใช้แบบนี้  หลุมบ่อเอยหินเอย อีกอย่างประหยัดเงินเอามาลงทุนตรงนี้ดีกว่า”

   “ก็จริงของคุณ”

   “งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปดูรถละกัน มีคนจะขายพอดี”

   “เราไม่ไปดูที่เต๊นท์ขายรถหรือ?”

   “เราต้องดูหลายๆ ที่เลือกที่ดีสุด ราคาดีที่สุดซิคุณ”

   สองคนที่คุยกันสอนกันขยับห่างออกไป นายทองมองแผ่นหลังของพวกเขาก่อนจะส่ายหน้า นายหน้าหล่อเจองานหนักแน่ คิดจะมาทำไร่งั้นหรือ? เอาเถอะ มีพี่พลคอยช่วยอยู่ทั้งคนงานนี้น่าจะรอด
   .
   .

   “นี่รถหรือเศษเหล็ก?” นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังรถเก่าบุโรทั่งสีซีดตรงหน้า

   “ก็รถน่ะซิ” รัชพลดึงมือคนข้างๆลงเมื่อเห็นสายตาเจ้าของรถมองมาแบบไม่พอใจ เขายิ้มกว้างแล้วลากร่างสูง
ออกมา “แต่คงใกล้จะกลายเป็นเศษเหล็กแล้วแหละ” รัชพลกระซิบ โกเมนหัวเราะ

   “ผมนึกว่าคุณจะให้ผมซื้อรถคันนั้นเสียอีก”

   “เฮ้ย ผมไม่ให้คุณซื้อหรอกคันนั้นน่ะอันตรายแย่ เกิดอยู่ดีๆคุณขับไปแล้วล้อหลุด รถเสียหลักลงข้างทาง คุณรถคว่ำตายผมก็แย่น่ะซิ”

   “….” ไอ้ประโยคฟังแล้วชื่นใจดีอยู่หรอก แต่ไอ้ประโยคหลังนี่คืออะไร?

   สุดท้ายโกเมนก็ได้ระกระบะสีดำกลางเก่ากลางใหม่มาหนึ่งคันในราคาเจ็ดหมื่น รัชพลพาเข้าร้านเพื่อตรวจสภาพเครื่องยนต์ ซ่อมบำรุงตัวเครื่องและดูปรับสภาพภายในรถให้ดูดีขึ้น พวกเขาตกลงนัดจ่ายเงินกันอาทิตย์หน้า แต่กว่าจะได้รถจริงก็โน่นเดือนถัดไปนั่นแหละ

   ระหว่างทางที่นั่งซ้อนรถกลับบ้าน โกเมนจ้องมองหลังคอของคนตรงหน้า สำรวจผิวสีน้ำผึ้งบนแขนที่จับแฮนด์รถ รถเครื่องเก่าแก่แรงน้อยนิดที่พวกเขาพากันตะเลงๆไปไร่ทุกวัน ที่โกเมนตัดสินใจซื้อรถเพราะอีกฝ่ายนั่นแหละ

   รัชพลตื่นแต่ไก่โห่ รถน้ำผักในสวนหลังบ้าน ทำอาหาร ไปส่งเขาที่ไร่ กลับออกมาไปส่งเจ้าแฝดที่ศูนย์เด็กเล็กแล้วก็กลับมาเก็บผักในสวนหลังบ้านไปส่งตลาด ขับไปช่วยงานเขาในไร่ มาส่งเขาที่บ้านแล้วไปรับลูกที่ศูนย์เด็กเล็ก กลับมาทำอาหารและงานบ้าน วนเวียนอยู่แบบนี้ทุกวัน...ถ้าเป็นเขาคงเหนื่อยจนขาดใจตายและเพราะไม่อยากเห็นอีกฝ่ายเหนื่อยจนขาดใจตายไปจริงๆ ถึงได้ตัดสินใจซื้อรถ โกเมนไม่อยากให้รัชพลวิ่งไปกลับวันละหลายๆ รอบเพื่อรับส่งเขาบ้าง ลูกบ้าง นอกจากเหนื่อยก็เปลืองน้ำมันรถนี่แหละ เงินทั้งนั้นที่สูญไป


   “คุณ สอนผมทำกับข้าวบ้างซิ”

   “?”

   “ก็แบบว่า เผื่อวันไหนคุณไม่ว่างผมจะได้ไม่อดตายไง” โกเมนยิ้มเขินเมื่อเห็นสายตาของรัชพล

   กว่าจะทำกับข้าวได้สามสี่อย่าง ทอดไข่ไม่ให้ไหม้นั้นยังไม่ยากเท่าก่อไฟเลย! เพราะที่บ้านนี้ใช้เตาถ่าน โกเมนนึกอยากจะต่อรองใช้เตาแก๊ซแต่คิดไปคิดมา เขาจะช่วยหรือเพิ่มภาระให้เจ้าของบ้านกันแน่ สุดท้ายเลยหัดก่อไฟก่อนเป็นอันดับแรก อยู่มาสี่-ห้าเดือนแบบสุขสบายมาตลอด พอมาทำเองแบบนี้ถึงได้รู้ว่ามันไม่ง่ายสักนิด  โกเมนมองเปลวไฟที่ลามเลียเชื้อฟืนในเตาอย่างดีใจเมื่อมันเริ่มติดไปยังก้อนถ่าน ไปยังถ่านอีกก้อนและอีกก้อน

   “วันนี้ก็ผัดผักอีกแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเอ่ยถามด้วยหน้าตามู่ทู่ ส่วนเด็กชายเหลือบมองชามไข่ก็เบ้หน้าตามไปด้วยอีกคน

   “ไข่ต้มเหมือนเมื่อวานด้วย”

   “เด็กๆ อาโกเมนทำได้เท่านี้ก็เก่งมากแล้วนะ”  รัชพลยกยิ้มพลางลูบหัวลูกชายหญิงคล้ายปลอบใจ

   “แล้วทำไมพ่อพลไม่ทำเองล่ะ”

   “นั่นซิ ฟักเบื่อไข่ต้มของอาโกเมนแล้ว”  คนที่กำจังจะต้มไข่กรอกตาขึ้นฟ้านึกอยากเขกหัวเจ้าเด็กแก่แดดนี่สักที

   “ก็ตอนนี้อาโกเมนเพิ่งหัดทำกับข้าวนี่นา  ไว้อาโกเมนเก่งเมื่อไหร่ก็คงอร่อยเหมือนที่พ่อทำแน่ๆ อีกอย่างอาโกเมนหัดไว้ทำให้พวกหนูกินเวลาพ่อไม่อยู่ไง”

   “จริงเหรอ อาโกเมนใจดีจัง”  เจ้าฟักเงยหน้ามองอาโกเมนด้วยสายตาวิบวับ

   “หล่อด้วย ฮิฮิฮิ”  เด็กหญิงหัวเราะคิกคักแล้ววิ่งไปกอดขาร่างสูงอย่างเอาใจ  รัชพลเบ้ปากใส่ลูกสาวอย่างหมั่นไส้



**********

   
   

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
«ตอบ #57 เมื่อ01-06-2017 17:34:42 »

.
.
.


   “เป็นอะไรหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียวคุณ”  รัชพลยกชายผ้าขนหนูขึ้นซับน้ำหลังสระผมอาบน้ำชำระร่างกายจนออกมาก็ยังเห็นโกเมนนั่งจิ้มปากกากับเครื่องคิดเลขพร้อมกางสมุดบัญชีไม่เลิก  หลังจากตัดสินใจว่าจะขุดบ่อบาดาลรัชพลก็ให้เจ้าทองหาทีมให้  คนพวกนั้นมาสำรวจและลองเจาะหาแหล่งน้ำดูทั่วไร่  เมื่อเจอก็สามารถขุดได้รัชพลจึงจัดการลำดับต่อมาเพื่อเตรียมความพร้อม

   “วันนี้ผมคุยราคากับคนที่จะมาขุดบ่อบาดาล”

   “แล้ว?”

   “มันแพงมากเลย  เกือบแสนแน่ะคุณ  ผมลองถามนายทองเขาก็บอกว่าราคาประมาณนี้เกือบทุกเจ้า”

   “อืม….”

   “เอารถขนน้ำเข้าไปเป็นรอบๆ ดีไหมคุณ?”

   “มันไม่ยิ่งสิ้นเปลืองกว่าเดิมรึ?  น้ำเราก็ใช้ตลอดปีจะขนเข้าไปทุกวันหรือไง?”

   “แต่...”

   รัชพลถอนหายใจแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง  โกเมนมองตามหลังอีกฝ่ายแล้วก้มหน้าก้มตาจมเข้าไปในสมุดบัญชีอีกครั้ง

   “เอ้านี่”  เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งวางสมุดธนาคารลงตรงหน้าคนกลุ้ม  โกเมนหยิบมาเปิดดู  เมื่อเห็นชื่อเจ้าของสมุดธนาคารนั้นแล้วขมวดคิ้ว  เจ้าของสมุดเล่มนี้คือเขา

   “หมายความว่ายังไง?”

   “ตาคุณเก็บไว้ให้”

   “….”

   “ขอโทษที่ไม่ได้เอามาให้คุณตั้งแต่แรก”

   “….”  โกเมนยังคงนิ่งเงียบ  เขามองจำนวนเงินในหน้าสมุดนั้นแล้วนึกอึ้ง  เงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆ มันมากพอที่จะให้เขาลงทุนทำไร่ได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย  รัชพลมองใบหน้าหล่อเหลาที่อ่านความรู้สึกไม่ออกพลางถอนหายใจ

   “คุณโกรธใช่ไหม?”

   “ผมอยากจะโกรธแต่พอนึกถึงเหตุผลของคุณแล้วก็พอเข้่าใจ”

   “….”  กลายเป็นรัชพลที่นึกคำพูดไม่ออก

   “ดีแล้วที่คุณไม่เอามาให้ผมตั้งแต่แรก”

   “ผมขอโทษนะที่แอบเก็บไว้”

   “ผมต่างหากที่ต้องพูดขอบคุณ”

   “…..”

   “อีกนานไหม?”

   “หืม?”

   “อีกนานไหมกว่าคุณจะเชื่อใจผม  กว่าคุณจะเชื่อว่าผมจะไม่เอาที่ดินของตาไปขายหรือเชิดเงินก้อนนี้หนีกลับกรุงเทพฯ”

   “ก็คง...อีกไม่นานละมั้ง”  โกเมนยกยิ้มเมื่อได้ฟัง 

   “ผมมีเรื่องอยากขอคุณเรื่องหนึ่ง”

   “…..”

   “คุณช่วยเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ให้ผมหน่อยได้ไหม  ถ้าต้องใช้ก็ยกให้คุณจัดการได้เลย”

   “ทำไม?”

   “ตาผมไว้ใจคุณ  ผมเองก็เชื่อว่าคุณไว้ใจได้  ผมอยากให้คุณช่วยบริหารเงินจำนวนนี้ของตา  ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดอย่างที่ตาของผมหวังไว้”

   “ได้”  สายตานิ่งแน่มองสบกับโกเมนอย่างซื่อตรง  ชายหนุ่มยกยิ้ม

   “ขอบคุณ”

   คืนนั้นโกเมนหลับฝันดี  เขานึกขอบคุณรัชพลที่ไม่เอาสมุดธนาคารให้เขาตั้งแต่วันแรกที่มาถึง  ไม่อย่างนั้นป่านนี้เงินก้อนที่ตาทิ้งไว้ให้คงหมดไปนานแล้ว  ทั้งยังนึกชื่นชมอีกฝ่ายเหลือเกินที่มีความซื่อสัตย์กับตาของเขา  ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะหุบที่ดินหรือเงินในบัญชีไปตั้งแต่แรกแล้ว  และถ้าโดนโกงเขาก็คงไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำ

    เช้าตรู่ในอีกสองวันถัดมารัชพลพาสองแฝดและโกเมนออกจากบ้านแต่ไก่เริ่มขันเนื่องจากต้องไปซื้อท่อวางน้ำในไร่หลังจากขุดบ่อบาดาลเสร็จ โชคดีที่คราวนี้เขาเจอชั้นดินที่มีน้ำจากการขุดไม่ลึกมากนัก  รัชพลวาดผังการวางท่อน้ำรอบไร่และวางแผนให้เขาสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดกลาง และเครื่องสูบน้ำเพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดปีถ้าบริหารจัดการดีๆ

   “เดี๋ยวผมขับแล้วคุณบอกทางดีกว่า”  โกเมนเอ่ยเมื่อมองที่นั่งข้างคนขับสลับกับสองแฝด ขึ้นให้รัชพลขับแล้วเขานั่งเจ้าสองแฝดจะนั่งเบียดกันเกินไปจึงเปลี่ยนให้คนที่ตัวเล็กว่าเขาไปนั่งแทนพลางนึกเสียดายในใจว่า  รู้อย่างนี้ซื้อรถแคปเสียก็ดีจะได้มีที่ให้เด็กสองคนนั่งแบบไม่เบียดกัน

   โกเมนขับรถมาจอดหน้าปศุสัตว์ตามคำบอกของรัชพล  พวกเขาเข้ามาในเขตเมืองเพื่อซื้อของ  แต่การมาเช้ามืดขนาดนี้ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจ

   “ทำไมเราไม่มาช่วงสายๆ หลังรดน้ำแปลงผักหลังบ้านเสร็จ?”

   “ถ้ามาถึงหลังเจ็ดโมงครึ่งของก็หมดอดกินกันพอดี”

   “ของหมด? อดกิน?”

   “ใช่ค่ะ  ตอนนั้นพ่อพาฟักกับแฟงมาถึงตอนแปดโมง  อดกินเลยค่ะ”  หญิงทำหน้ามุ่ยก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมองร้านฝั่งตรงข้ามถนน  รัชพลมองตามสายตาลูกสาวแล้วจูงมือฝาแฝดคนละข้างข้ามถนน  ร่างสูงของโกเมนตามมาด้านหลัง

   ร้านกาแฟยามเช้าที่มีบรรดาชายชาวมุสลิมนั่งอยู่เกือบเต็มและบรรดาชาวพุทธอีกหลายสิบคนนั่งพูดคุยกันอย่างออกรส  ข่าวสารบ้านเมืองถูกแลกเปลี่ยน บ้างแทรกเสียงหัวเราะของบรรดาผู้หญิง มีนักท่องเที่ยวกำลังยกกล้องถ่ายรูปแผ่นแป้งขาวๆตรงหน้าพร้อมแก้วกาแฟ

   “ขอโรตีแปดแผ่น ชาสองแล้วก็โอวันตินสองครับ”  รัชพลสั่งรวดเร็วพร้อมรอยยิ้ม 

   “แฟงขอนมข้นด้วยค่ะ”  เด็กหญิงยกแขนให้คนจดเมนูยกยิ้มเอ็นดู

   “นี่นะเรียกว่าโรตีโอ่ง”  รัชพลหยิบแผ่นแป้งอุ่นจัดวางลงบนจานเล็กๆ ตรงหน้าโกเมน  กลิ่นหอมของแป้งและถ่านลอยแตะจมูก  ชายหนุ่มสูดกลิ่นก่อนจะค่อยๆ ฉีกแผ่นแป้งเหนียวนุ่มเข้าปาก 

   “จิ้มนมซิคะ”  เด็กหญิงสะกิดแขน  โกเมนพยักหน้าแล้วฉีกแผ่นโรตีใหญ่ขึ้น  จิ้มนมข้นหวานแล้วเอาเข้าปากอีกครั้ง

   “เป็นไง?”  คนพามากินเอ่ยถามลุ้นๆ

   “อร่อย  หอมกลิ่นถ่าน  ชานี่ก็หอม”  มือใหญ่ยกแก้วชาขึ้นจิบ  รัชพลยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังก่อนจะฉีกแผ่นโรตีใส่ปากตัวเองบ้าง

   “นี่น่ะเป็นร้านโรตีโอ่งเจ้าแรกในไทยเลยนะรู้ไหม  ขายดีมากด้วย บางวันยังไม่ทันถึงแปดโมงก็ขายหมดแล้ว”

   “มีนักท่องเที่ยวด้วย?”  โกเมนเหลียวมองรอบๆ พลางเอ่ยถาม

   “ใช่  เดี๋ยวนี้เขาส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวมากขึ้น มีคนต่างถิ่นมาเที่ยวเยอะ  แต่ส่วนใหญ่คือมาจากการบอกปากต่อปากน่ะ  ไว้วันไหนว่างๆ ผมจะพาคุณไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู”

   “น้ำตกทีลอซู?  น้ำตกที่สวยๆนั่นน่ะหรือ?”

   “ใช่  แต่ช่วงนี้เขาปิดน้ำตก  คงต้องรออีกหน่อย”  โกเมนยิ้มกว้างพร้อมสายตาวิบวับ  เขาได้ยินชื่อน้ำตกนี้มานานแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ไปสักที

   ทั้งหมดจัดการโรตีและเครื่องดื่มตรงหน้าหมดอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะเคลื่อนย้ายออกไปซื้อของตามรายการที่จดมา  ซื้อของใช้จำเป็นในบ้านอีกหน่อย  ช่วงสายๆ ก็กลับบ้าน  รัชพลส่งเด็กๆไว้ที่บ้านตายายแล้วเลยเข้าไร่พร้อมโกเมน

   งานขุดบ่อบาดาลรวดเร็วทันใจและสมใจทั้งโกเมนทั้งรัชพลเมื่อทีมเจาะขุดเจอน้ำจากระดับความลึกไม่มากอย่างที่คิด  รัชพลที่จ้างคนงานมาก่อวงบ่อซีเมนซ์เพื่อเก็บน้ำไว้ก่อนหน้าจัดการให้ทีมเจาะบ่อบาดาลวางท่อต่อไปยังวงบ่อนั้นทันที

   “พรุ่งนี้เรามาวางท่อน้ำหยดกัน  แล้วก็เริ่มลงต้นกล้าที่เราช่วยกันทาบกิ่งได้แล้ว”  รัชพลยิ้มกว้าง

   ระยะเวลากว่าสี่-ห้าเดือนมานี้  นอกจากการแยกหน่อกล้วยน้ำว้าแล้ว  รัชพลยังสอนให้โกเมนติดตาทาบกิ่งพืชยืนต้นหลากหลายชนิด มีติดบ้างตายบ้างคละเคล้ากันไปตามประสามือใหม่  แต่จำนวนที่เหลือรอดก็มากพอให้ชายหนุ่มนำเอามาลงปลูกในไร่ได้หลายแถว  อย่างอะโวคาโด้ก็ทาบกิ่งไว้สี่ถึงห้าสายพันธ์ุเพื่อให้มีผลผลิตตลอดปีเพราะแต่ละพันธ์ุออกผลไม่พร้อมกัน  พืชทนแล้งใช้น้ำน้อยราคาดีอย่างดีปลีก็ลงปลูกตามหลักเสารั้วให้เลื้อยไปรอบไร่นั่นก็มากโขทีเดียวเมื่อถึงคราวเก็บเกี่ยว  กองหินก้อนใหญ่ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ก็ลงแก้วมังกรเอาไว้กินเล่น  กล้วยน้ำว้ารัชพลก็สอนโกเมนให้ขุดหน่อทิ้งทุกสามเดือน  นี่เดือนหน้าก็ครบรอบพอดี  คราวนี้โกเมนก็คอยตัดกล้วยขายทุกสามเดือนแบบไม่ได้หยุดพักแน่ๆ


**********

   
   รัชพลเท้าเอวมองผลงานในไร่สลับกับแผ่นหลังกว้างของโกเมนแล้วยกยิ้ม  ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังยอดอ่อนของกล้าไม้แล้วเลยออกไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา  หลับตาลงสูดลมหายใจเข้าออกด้วยความรู้สึกอุ่นที่อวลไปทั่วทั้งอก

   โกเมนที่เคยผอมแห้งแรงน้อยเริ่มมีกล้ามเนื้อเพราะการใช้แรงงานทุกวี่วัน  ผิวขาวจัดเริ่มคล้ำแดดแม้รัชพลจะบังคับขู่เข็ญให้อีกฝ่ายใส่เสื้อแขนยาวและทาครีมแล้วก็ตามก็ยังไม่สามารถคงความขาวเนียนแบบเดิมของดาราเอาไว้ได้  และไม่คิดเลยว่าโกเมนจะทนอยู่ที่นี่มาได้นานขนาดนี้  ทนลำบากและทำสำเร็จได้ตามที่เคยพูดเอาไว้

   “คุณ!”  รัชพลป้องปากร้องเรียกให้ร่างสูงละสายตาจากคนงานที่กำลังตัดกล้วยหันมามอง 

   “มีอะไร?”  ชายหนุ่มไม่ได้เดินกลับมาหา  เขาเพียงแค่เลิกคิ้วมองว่ารัชพลที่หิ้วปิ่นโตข้าวมาส่งทำไมยังไม่เดินไปพักในร่มอีก

   “เรามาเลี้ยงไส้เดือนกันเถอะ!”

   “ห้ะ?”  โกเมนคิดว่าแดดร้อนยามเที่ยงตรงทำให้เขาหูเพี้ยน

   “เลี้ยงไส้เดือนไง  ที่มันอยู่ในดินอ้ะ”

   “….”

   “มาเลี้ยงกันเถอะ มาเลี้ยงกัน!”

   “บ้าแล้วหรือไง!”  โกเมนตะโกนกลับ  ขนบนท่อนแขนพากันลุกชันเมื่อนึกถึงเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ สีแดงดิ้นแด่วๆ อยู่ในดินจำนวนมหาศาล

   “ฮ่าๆๆๆ  นี่คุณ  ผมพูดจริงนะ  มาเลี้ยงไส้เดือนกัน!”  รัชพลยิ้มร่า  ไม่สนใจเสียงโวยวายค้านหัวชนฝาของโกเมนสักนิด  ถ้าไม่ติดว่ากลัวโกเมนกินข้าวไม่ลงเขาคงคุยเรื่องนี้ต่อในวงข้าวแน่ๆ

   เอาเถอะ  เงินโกเมนอยู่ในมือเขานี่นา  เขาจะช่วยอีกฝ่ายบริหารและเพิ่มพูนเงินในบัญชีให้เอง!












ติดตามตอนต่อไป



สวัสดีค่ะ  มาสายเลย  ขอโทษนะคะ
ตอนหน้าอาจมาช้าหน่อยนะคะ (นี่ยังไม่ช้าอีกเรอะ!!)   แงงงงงง
ไหว้รอบทิศ.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2017 17:38:17 โดย sine »

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
«ตอบ #58 เมื่อ01-06-2017 18:13:10 »

น่ารัก อบอุ่น อ่านแล้วยิ้ม มันละมุนมากไม่ต้องดราม่า ไม่ต้องหวือหวา แต่มันดีมากเลยคะ เราชอบมาก อ่านแล้วยิ้มตามเลย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
«ตอบ #59 เมื่อ01-06-2017 18:52:15 »

อ่านแล้วยิ้มตามเลยล่ะ รู้สึกถึงความหวัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด