รักพอเพียง ตอนที่ 13
เสียงเพลงลูกทุ่งจากวิทยุดังเบาๆ ท่ามกลางแดดเปรี้ยงยามเที่ยงวัน รัชพลเหลือบมองร่างสูงของโกเมนขยับยึกยือตามจังหวะดนตรีแล้วขมวดคิ้ว อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเต้นอะไรแบบนี้มาก่อน สงสัยวันนี้จะอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ
“ฟังรู้เรื่องหรือไง?” ภาษาในเพลงเป็นภาษาอีสานจังหวะสนุกสนาน รัชพลเห็นเด็กสาวในหมู่บ้านชอบร้องเวลามีงาน
“ไม่รู้เรื่องหรอกแต่สนุกดี” ตอบพลางยักย้ายส่ายเอวกับเพลง ‘ผู้สาวขาเลาะ’ ต่อ
เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหลังกางเกงดังขึ้น โกเมนละมือจากแตงกวาพลางถอดถุงมือกดรับ ทักทายอีกฝั่งพร้อมเสียงหัวเราะ
“ว่าไงครับพี่ตุ่น? อ้อ ได้ครับ” หลังจากคุยต่ออีกไม่กี่ประโยคชายหนุ่มก็วางสาย รัชพลอ้าปากอยากเอ่ยถามแต่สุดท้ายก็เงียบเสียงลง เขาจะถามโกเมนเรื่องอะไร? พี่ตุ่นโทร.มาหาทำไม? โกเมนจะกลับไปทำงานในวงการอีกไหม? คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัว ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็สลัดไม่หลุดเสียที ตั้งแต่กลับมาจากรุงเทพฯ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนโน้นโกเมนก็ไม่ได้พูดถึงงานพวกนั้นอีก แต่กลับมีสายมาจากพี่ตุ่น ผู้จัดการของโกเมนทุกสอง-สามวัน
“ช่วงบ่ายผมจะย้ายเตาเผาถ่านของลุงปั้นเข้าไปไว้ในไร่นะ” รัชพลหยุดความรู้สึกกังวลในใจทิ้งเอ่ยกับโกเมนที่ฮัมเพลงเก็บแตงต่อ
เตาเผาถ่านของลุงปั้นนั้นตั้งอยู่หลังบ้านของลุงปั้นเอง คราวเมื่อลุงปั้นยังมีชีวิตอยู่ลุงปั้นแกเผาถ่านใช้เอง น้ำส้มควันไม้แกก็เก็บมาใช้ในสวน เหลือพอแบ่งปันเพื่อนบ้านไม่มากนัก และถึงแกจะเป็นแกนนำในเรื่องของการเกษตรก็ใช่ว่ามีคนเห็นดีกับแกไปหมดทุกคน ยังมีพวกอิจฉาและไม่ชอบหน้าลุงปั้นอยู่กลุ่มหนึ่ง หลังสร้างเตาเผาถ่านได้ไม่กี่เดือนลุงปั้นก็โดนคนกลุ่มนั้นฟ้องกับทาง อบต. ว่าเตาเผาถ่านของแกสร้างมลพิษให้บ้านใกล้เรือนเคียง ฝุ่นละอองจากการเผาทำให้ชาวบ้านแถวนั้นได้รับผลกระทบ เป็นภูมิแพ้บ้างละ ละอองควันตกใส่พืชผักคนแถวนั้นบ้างละ สุดท้ายลุงปั้นแกเลยหยุดเผาถ่าน ตอนนี้รัชพลเสียดายหากจะปล่อยทิ้งไว้ อีกอย่างน้ำส้มควันไม้ที่เก็บหอมรอมริบมาก็ใกล้จะหมดแล้ว หากไม่เผาคงไม่มีใช้
“เดี๋ยวผมเอาปลาไปส่งตลาดแล้วค่อยกลับมาช่วยกันนะ” โกเมนไม่ได้คัดค้านกับการเผาถ่านเนื่องจากเป็นงานที่ไม่ได้กินแรงมากนัก นอกจากไส้เดือนในโรงเพาะตอนนี้โกเมนเหมารับผิดชอบงานในไร่และในสวนหลังบ้านเองทั้งหมด เขาไม่อยากให้รัชพลเหนื่อยเกินไป ลำพังแค่ดูแลสองแฝดก็ยุ่งทุกวันอยู่แล้ว อ้อ เหตุผลหลักอีกข้อคือ...เขาอยากให้รัชพลคอยดูแลเขามากกว่าไปเก็บผักในสวน...
อาทิตย์ต่อมาช่วงสายมีพัสดุมาส่ง รัชพลที่กำลังง่วนทำฟักเชื่อมให้ตามที่โกเมนเรียกร้องเป็นคนรับไว้ หน้ากล่องจ่าชื่อของโกเมนทำเอารัชพลแปลกใจ บนกล่องเป็นชื่อโกเมนแต่ส่งมาบ้านเขาทำไมจึงไม่ส่งไปบ้านลุงปั้น มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่บ้านเขาด้วยงั้นหรือ? ภาพผู้จัดการร่างท้วมผุดเข้ามาในหัว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ในอกปลาบแปลบว่างโหวงขึ้นมา
“พัสดุของผม? สงสัยพี่ตุ่นส่งมา” โกเมนรับกล่องไปแกะเปิดอย่างรวดเร็ว ในนั้นนอกจากพวกครีมบำรุงก็มีหนังสือสอง-สามเล่ม ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯ โกเมนก็หันมาดูแลผิวพรรณมากขึ้น เส้นผมหยักศกที่ปล่อยยาวถูกตัดสั้นเข้าทรง หนวดเคราก็แทบไม่ปล่อยให้ขึ้นบนใบหน้า
“หนังสือพวกนี้?” หนังสือสอง-สามเล่มนั้นเป็นปักษ์เดียวกัน บนหน้าปกเป็นรูปโกเมนที่ไปถ่ายแบบคราวนั้น
“คุณโจชัวส่งมาให้น่ะ หนังสือจะวางแผงอีกสองเดือนนู้นแน่ะ” โกเมนก้มลงดูครีมในมือจึงไม่เห็นใบหน้าซีดเผือดของคนถาม
“...เรื่องงานน่ะ”
“หืม?”
“คุณอยากกลับไปหรือเปล่า?”
“กลับไปไหน?” โกเมนวางกระปุกครีมในมือลง เขาเงยหน้ามองรัชพล เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของฝ่ายนั้นแล้วขมวดคิ้ว ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นย้ายตัวเองไปนั่งลงชิดกับอีกฝ่าย รัชพลสะดุ้งขยับกายหนีหากโกเมนขยับตามติดจนแขนสัมผัสกัน
“ก็ ก็ กลับไปทำงานในวงการบันเทิง”
“พี่พล พี่ชอบภาพที่ผมไปถ่ายแบบป้ะ?” โกเมนไม่ตอบหากเป็นฝ่ายถามกลับ
“…ชอบ” เสียงนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน โกเมนก้มลงเอาหูยื่นใกล้ริมฝีปากรัชพล
“ว่าไงนะ?”
“ชอบ” แก้มรัชพลขึ้นสี โกเมนแค่ถามถึงภาพแล้วทำไมเขาต้องใจเต้นด้วยเล่า
“ไว้ผมถ่ายให้พี่ดูบ่อยๆ ดีไหม?”
“…….”
“หรือพี่ไม่อยากให้ผมถ่าย?” รัชพลส่ายหัว ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้โกเมนถ่ายแบบ กลับกัน เขาชอบเวลาที่โกเมนอยู่หน้ากล้อง เสน่ห์ของโกเมนจะถูกดึงออกมาจนคนมองใจเต้น ยามที่โกเมนอยู่หน้ากล้องจะเปลี่ยนเป็นคนละคนกับหนุ่มชาวไร่ตอนนี้ โกเมนในภาพถ่ายทำให้เขาใจเต้นแรง เหมือนเมื่อครั้งแรกที่เขาเคยเห็น…
“พี่ชอบเวลาผมอยู่หน้ากล้องแต่ก็ไม่อยากให้ผมกลับเข้าวงการบันเทิง ใช่ไหม?” โกเมนยิ้มตาพราว รัชพลเงยหน้ามองคนถามอย่างตกตะลึง นี่โกเมนดูออกหมดเลยหรือว่าเขาคิดอะไรอยู่
“มันไม่ได้อยู่ที่ผมชอบหรือไม่ชอบ แต่มันอยู่ที่คุณว่าจะกลับหรือไม่กลับไปมากกว่า อีกอย่าง...”
“อีกอย่างอะไร?”
“......” อีกอย่าง ตอนนี้ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าคุณออกจากวงการเพราะอะไร หากคุณกลับไปคราวนี้
คงจะโด่งดังและเฉิดฉายยิ่งกว่าเดิม ต้องฉวยโอกาสตอนนี้เท่านั้น
“เอาเถอะๆ ผมจะบอกอะไรให้นะ”
“?”
“ผมชอบวงการบันเทิงมากก็จริง”
“....”
“แต่ผมชอบที่นี่มากกว่า”
“เอ๊ะ?”
“อย่าทำหน้าตาน่าจูบได้ไหมเล่า!” โกเมนขบฟันแน่น ดวงตาสีน้ำตาลซื่อๆ ของคนตรงหน้าทำให้หัวใจเขาเต้นรัวแรง คิ้วเรียวเลิกขึ้นคล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดยิ่งทำให้อยากคว้าตัวมาฟัดแรงๆ ให้หายหมั่นเขี้ยว
รัชพลชักจะทำให้เขาใจเต้นแรงขึ้นทุกวัน!
“นะ น่าจูบ?”
“ฮึ่ย~” โกเมนยีหัวท่าทางงุ่นง่านเดินออกไปทางหน้าบ้านทิ้งให้รัชพลมองตามหลังตาปริบ และโกเมนไม่ทันเห็นว่า ‘คนทำหน้าตาน่าจูบ’ นั้นหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหน
ถ้าเขาคิดเข้าข้างตัวเองจะได้ไหม ...ว่าโกเมนอยากจูบเขา
โอ๊ย ทำยังไงดี หัวใจจะวายอยู่แล้ว!
**********
“พี่พล อาทิตย์หน้าพี่ตุ่นจะเที่ยวที่นี่ ได้ไหม?” โกเมนบอกเล่า ครู่หนึ่งก็เอียงคอเปลี่ยนเป็นถามความคิดเห็น
“คุณตุ่น? คนเดียวหรือ?”
“คุณนันท์ด้วย”
“....”
“ได้ไหม? พวกเขามาได้ไหม พี่พลสะดวกหรือเปล่า” โกเมนเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วก็รีบเอ่ยต่อ “ให้
พวกเขานอนโรงแรมในเมืองแล้วค่อยขึ้นมาเที่ยวแถวบ้านเรา” คำว่า ‘บ้านเรา’ ทำให้รัชพลเกือบยกยิ้ม หากพอคิดถึงชื่อของอภินันท์ที่หลุดมาจากปากโกเมนก็ยิ้มไม่ออก
“ให้พวกเขามานอนที่นี่ก็ได้นี่นา”
“แต่บ้านเราแคบจะตาย” โกเมนเลิกคิ้ว
“นอนที่บ้านลุงปั้นไง หลังนั้นมีห้องนอนตั้งหลายห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่นกับทีวีด้วย เดี๋ยววันนี้ไปทำความสะอาดเตรียมไว้”
“โอ๊ะ จริงด้วยแฮะ” โกเมนดีดนิ้วเปาะเห็นด้วยกับรัชพล วันพรุ่งนี้ค่อยไปเตรียมพวกอาหารเอาไว้ต้อนรับแล้วกัน
ปลายสัปดาห์ต่อมาผู้จัดการร่างท้วมและอภินันท์ก็มาถึง โชคดีที่คนขับรถตู้พอจะรู้เส้นทางอยู่บ้างจึงมาถึงไม่สายจนเกินไปนัก ร่างสูงของอภินันท์อยู่ในชุดลำลองกางเกงขาสั้นสีขาวสะอาดตา พี่ตุ่นที่เตรียมร่มมาเพราะกลัวร้อนถึงกับรีบหุบร่มไม่ทัน เพราะถึงจะมีแดดอย่างไรแต่ก็ไม่ร้อนอย่างในกรุงเทพฯ นั่นเอง
“ผมเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะครับ แบ่งห้องกันได้ตามสะดวกเลย” รัชพลช่วยพี่ตุ่นยกกระเป๋าขึ้นบ้านพลางอธิบาย
“นี่บ้านคุณพลหรือคะ?”
“บ้านลุงปั้น เอ่อ บ้านคุณตาของโกเมนเขาน่ะครับ”
“ดูร่มรื่นดีนะครับ” อภินันท์ยกยิ้ม ชายหนุ่มเหลียวมองรอบตัวบ้านซึ่งล้อมรอบไปด้วยหมู่แมกไม้และต้นไผ่ให้ร่มเงา โรงเรือนเล็กด้านข้างตั้งอยู่ติดต้นจำปาดะดูปลอดโปร่ง “นั่นโรงเรือนอะไรหรือครับ?”
“อ้อ ไส้เดือนน่ะครับ”
“ไส้เดือน!” พี่ตุ่นร้องเสียงดังลั่น เบิกตาจ้องมองโรงเรือนหลังเล็กแล้วตั้งมั่นในใจว่าจะไม่เข้าไปใกล้ที่นั่นเด็ดขาด
“ครับ นี่อีกวันสองวันก็ได้เวลาเก็บมาตากแดดพอดี”
“ตากแดด? พวกไส้เดือนนี่เอามาทำอะไรหรือครับ” อภินันท์ลูบคางเอ่ยถามอย่างสนใจ ตั้งแต่รถเคลื่อนเข้ามาจอดเขาสังเกตว่ารอบบ้านมีแต่ต้นไม้ที่ให้ผลผลิตแทบทั้งนั้น
“พวกไส้เดือนตากแห้งพวกนี้ส่งขายเมืองจีนครับ คนจีนเขาเอาไปผสมพวกยา ดินที่ใช้เลี้ยงไส้เดือนสามารถเอาไปปลูกผักได้ ดินพวกนี้มีสารอาหารสูงมาก ขายได้ราคาดี หรือขี้ไส้เดือนก็เอาไปทำน้ำหมักครับ เอาไว้รดผัก ใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ดี”
“ไม่มีส่วนไหนทิ้งเลยซินะ สุดยอดมากกกก” อภินันท์ฟังที่รัชพลพูดแล้วถึงกับตาโตลากเสียงยาวอย่างนึกทึ่ง รัชพลยกยิ้ม เวลาที่ได้อธิบายเรื่องราวเหล่านี้ให้คนอื่นฟังแล้วพวกเขาเข้าใจ ชื่นชม มันทำให้เขารู้สึกดีใจมาก ทรัพย์ในดินมีค่ามหาศาล เขาอยากให้ทุกคนรักผืนดินให้มาก เห็นคุณค่าและดูแลมันให้ดี เขาจำที่ลุงปั้นสอนได้ ลุงปั้นแกยกตัวอย่างที่ในหลวงท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาดินในเหล่าเกษตรกร ดินดี น้ำดี ป่ามี ทุกชีวิตก็จะดีและอยู่รอด
“แล้วโกเมนไปไหนเสียล่ะ?” พี่ตุ่นที่ฟังรัชพลพูดเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเอ่ยถาม
“ไปรับฝาแฝดที่บ้านตา-ยายครับ โน่น พูดถึงก็มาพอดี”
โกเมนเดินยิ้มร่ามาแต่ไกล เขาหิ้วถุงเนื้อหมูติดมือมาด้วย ส่วนฟักแฟงก็ช่วยกันถือขนมหวานจำพวกสาเกเชื่อม กับอะโวคาโด้น้ำกะทิตามหลังมา
“ผมคิดว่าจะมาถึงแต่เช้ามืดเสียอีก เตรียมปาท่องโก๋กับกาแฟไว้ให้ จนตอนนี้ลงไปอยู่ในท้องเจ้าฝาแฝดหมดแล้ว”
“พอดีหลงทางตอนจะเลี้ยวเข้าทางแยกในเมืองน่ะครับ เลยมาช้า” อภินันท์รับหม้อขนมมาจากเด็กๆ ส่วนรัชพลรับถุงเนื้อหมูมาจากโกเมนเดินเข้าครัว
“หิวกันหรือยังครับเนี่ย กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยเที่ยวนะครับ”
“ตอนนี้ฉันหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้วย่ะ!” พี่ตุ่นแหวใส่
“เอ๋? ช้างกินได้ด้วยหรือครับ?” เด็กชายเอียงคอถามพลางมองร่างท้วมของพี่ตุ่น ก่อนจะก้าวไปหลบอยู่หลังพี่สาว ถ้าคุณอาคนนี้กินช้างได้ เขาต้องน่ากลัวมากแน่ๆ!
“ต๊าย! อาพูดเปรียบเปรยเฉยๆ ค่ะ!” ทุกคนหัวเราะครืนอย่างสนุกสนาน
อาหารยกขึ้นตั้งโต๊ะด้วยฝีมือรัชพล แกงอ่อมหมูเนื้อนุ่มยุ่ย ตำขนุนที่ไปเก็บจากหลังบ้านมาเมื่อวาน น้ำพริกอ่องกับผักสดกรุบกรอบ ปลานิลทอดตัวใหญ่กับไข่เจียวหอมฟุ้ง ข้าวสวยร้อนๆ หอมชวนให้ท้องร้อง
“คุณพลทำเองหมดนี่เลยหรือครับ?” อภินันท์ตาโต มองอาหารเรียงรายตรงหน้าอย่างนึกทึ่ง
“ใช่แล้ว ฝีมือพี่พลหมดนี่เลยครับ คุณนันท์รู้ไหม หมดโต๊ะนี่จ่ายเงินซื้อแค่เนื้อหมูกับข้าวสารเท่านั้นเอง”
“หืม?”
“ผัก ปลา ไข่ พวกเราเก็บมาจากหลังบ้านค่ะ” เด็กหญิงเงยหน้าบอก โกเมนลูบผมของแฟงแล้วยิ้ม
“ใช่ครับ ดังนั้นมั่นใจได้ว่าผักพวกนี้ปลอดสารพิษแน่นอน อีกทั้งยังสดใหม่ หวานอร่อยมากด้วย” โกเมนยิ้มกว้างเชิญชวน พี่ตุ่นไม่รอให้โกเมนเอ่ยจบก็ตักน้ำพริกอ่องใส่จาน หยิบผักสดขึ้นกัดคำใหญ่
“กรอบมากกกกกก” ผู้จัดการร่างท้วมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
“อันนี้เรียกว่าอะไรหรือครับ?” อภินันท์มองถ้วยแกงตรงหน้า
“แกงอ่อมครับ ผมทำไว้ตั้งแต่เช้ามืด เคี่ยวทิ้งไว้เนื้อจะได้นุ่มๆ ไม่รู้ว่ากินเผ็ดกันได้หรือเปล่าผมเลยทำรสกลางๆ ไว้” รัชพลอธิบาย เป็นพี่ตุ่นอีกครั้งที่ตักแกงอ่อมตัดหน้าไปใส่จานข้าวตัวเอง โกเมนหัวเราะ สุดท้ายเขาเลยตัดสินใจยกช้อนตักกับข้าวใส่จานข้าวอภินันท์ เพราะขืนชักช้า น่ากลัวว่าพี่ตุ่นคงจะกินจนหมดเสียก่อน
“แม้แต่ไข่เจียวยังอร่อย!” พี่ตุ่นลูบท้องป่องๆ ของตัวเองอย่างมีความสุขหลังทุกจานบนโต๊ะว่างเปล่า แม้แต่น้ำแกงยังไม่มีเหลือ หากฟักกับแฟงกลับเบ้หน้าจะร้องไห้ ก็พวกเขาโดนคุณอาคนนี้แย่งไข่เจียวกับน้ำพริกอ่องไปหมดเลยนี่นา!
“พวกเราได้กินนิดเดียวเอง!” เด็กๆ เริ่มงอแง
“ก็ใครใช้พ่อพลของพวกหนูทำกับข้าวอร่อยล่ะ ฮี่ๆๆๆ” พี่ตุ่นหัวเราะร่า เริ่มรู้สึกสนิทสนมกับฝาแฝดมากขึ้นหลังศึกแย่งชิงไข่เจียว
“พ่อพล~~”
“เอาละๆ เดี๋ยวตอนเย็นพ่อจะทอดให้ใหม่นะ คราวนี้เอาไข่หลายๆ ฟองเลย”
“เย้~ งั้นแฟงกับฟักไปเก็บไข่รอนะคะ” เด็กหญิงกระโดดลงจากเก้าอี้คว้าแขนน้องชาย
“ตอนเย็นค่อยไปเก็บนะเด็กๆ เดี๋ยวพวกเราจะพาคุณอานันท์กับอาตุ่นไปเที่ยวกันก่อน” โกเมนร้องเรียกฝาแฝดไว้
“คุณพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวนะ เดี๋ยวผมอยู่เตรียมอาหารเย็นที่บ้านดีกว่า” รัชพลจัดขนมใส่ตะกร้าเตรียมไว้ให้ฝาแฝด เตรียมน้ำกระเจี๊ยบใส่ขวดแช่กระติกน้ำแข็งไว้ให้อภินันท์กับพี่ตุ่นและคนขับรถอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ พี่พลไม่ไปด้วยกันหรือ?”
“คุณไปเถอะ บ่ายๆ แบบนี้ไปแถวน้ำตกแล้วเลยไปบ่อน้ำพุร้อนก็ได้นะ”
“แต่...” โกเมนลังเล ทำไมรัชพลถึงไม่ไปด้วยกันเล่า
“ไปกันเถอะ มัวยุดยื้อประเดี๋ยวก็ไม่ต้องไปไหนกันพอดี” พี่ตุ่นสะกิดโกเมน เขาอยากกินกับข้าวอร่อยๆ ฝีมือรัชพลอีก ไม่รู้ว่าเย็นนี้อีกฝ่ายจะทำอะไรให้กิน ดูเถอะ เพิ่งอิ่มแท้ๆ เขาก็ไพล่นึกถึงอาเย็นเสียแล้ว ฝีมือรัชพลยอดเยี่ยมจริงๆ
สุดท้ายโกเมนจึงพาฝาแฝดกับอภินันท์และพี่ตุ่นไปเที่ยวน้ำตก จากนั้นเลยไปแช่เท้าที่บ่อน้ำพุร้อน อภินันท์และคนขับรถถูกใจที่นี่มากเป็นพิเศษเพราะได้คลายความปวดเมื่อย น่าเสียดายที่วันนี้พวกเขาขนเสื้อผ้าลงจากรถไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นจะนอนแช่น้ำพุร้อนคลายเส้นทั้งตัวเสียเลย
“เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะพาไปไหว้หลวงพ่อทันใจ แล้วบ่ายๆ เรามาแช่น้ำพุกันอีกรอบก็ได้”
“หลวงพ่อทันใจ?” พี่ตุ่นหูผึ่งขึ้นมาทันที
“ครับ”
“ได้ยินว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ จริงหรือเปล่าโกเมน?”
“ไม่รู้ซิครับ ผมไม่เคยลองขออะไรท่านเลยสักที” ชายหนุ่มหัวเราะ อภินันท์มองใบหน้าหล่อเหลาของโกเมนแล้วถอนหายใจ
“คุณโกเมนว่า ถ้าผมลองขอหลวงพ่อท่านดูท่านจะให้ไหมครับ?”
“คุณนันท์จะขอเรื่องอะไรหรือครับ?” โกเมนยิ้มกว้าง หันไปทางคนถาม พี่ตุ่นที่เหมือนจะรู้อะไรๆ รีบลากแขนฝาแฝดให้เขยิบห่างออกไป
“ถ้าผมขอเรื่องความรัก...”
“ผมว่าคุณนันท์ขอเรื่องงานดีกว่านะครับ”
“ทำไม?” อภินันท์มองริมฝีปากสีแดงเข้มของคนตรงหน้า ปลายจมูกโด่งสวยได้รูป คิ้วเรียวยาว และดวงตาสีดำขลับที่หรุบลงคู่นั้น หลายเดือนมานี้ถ้าถามว่าเขาทำใจได้หรือยังกับเรื่องของโกเมน เขาจะตอบว่า ยัง แต่ความเจ็บมันทุเลาลงไปจนแทบไม่รู้สึกแล้ว ไม่ใช่ว่าเลิกรัก หากแต่เขาเข้าใจและรู้ดีอยู่แล้วต่างหาก...
รู้ว่า ถ้าอยากให้โกเมนยังคุยกับเขาอยู่ ต้องเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
“เพราะว่าเรื่องของหัวใจ ไม่ว่าเราจะขอพรจากที่ไหนก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าตัวของเราเองหรอกครับ”
“....”
“เราไม่สามารถขอพรให้ใครมารักเราได้ นอกจากเราจะทำให้เขารักด้วยตัวเราเอง” โกเมนเงยขึ้นสบตากับอภินันท์ตรงๆ ความปรารถนาดีและความรู้สึกซื่อตรงยังคงฉายชัดไม่เจือจาง อภินันท์ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้า
“ใช่แล้วล่ะ ถึงว่าซิ”
“ถึงว่าอะไรครับ?” โกเมนยิ้มตาม
“ถึงว่าทำไมหัวใจคุณถึงอยู่ที่เขา”
“เพราะเขาทำให้ผม...อ่า...นั่นแหละครับ!” โกเมนขัดเขิน ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ อภินันท์หัวเราะกับท่าทางนั้น เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเห็นโกเมนเขินจนตัวจะแตกแบบนี้
ดีแล้ว ดีแล้วจริงๆ ที่คนคนนั้นเป็นรัชพล
“วันนี้ก็ไม่ไปด้วยกันงั้นหรือ?” โกเมนลุกขึ้นยืน อภินันท์เงยหน้าจากชามข้าวต้มขึ้นมองดูรัชพลที่วางปาท่องโก๋กับข้าวเหนียวปิ้งไส้ต่างๆ ลงบนโต๊ะ
“วันนี้ต้องไปส่งผัก ถ้าไม่รีบเก็บเดี๋ยวก็แก่เกินไปขายไม่ได้อีก” รัชพลขมวดคิ้ว
“แต่...”
“คุณพาเพื่อนไปเที่ยวน่ะถูกแล้ว ตอนบ่ายไปแช่น้ำพุร้อนอย่างที่คุณนันท์กับพี่ตุ่นอยาก แล้วตอนเย็นๆ ผมจะพาเดินรอบสวนหลังบ้าน แบบนี้ดีไหมครับ?” ท้ายประโยครัชพลหันไปถามอภินันท์ ชายหนุ่มเลิกคิ้ว เหลือบมองใบหน้าบูดบึ้งของโกเมนแล้วนึกอยากหัวเราะ
“ผมยังไงก็ได้ครับ ตั้งใจมาพักผ่อนอยู่แล้ว ไม่ซีเรียสอะไร” อภินันท์ตักข้าวต้มใส่ปากเรื่อยๆ อย่างมีความสุข โกเมนที่คิ้วขมวดฮึดฮัดไม่พอใจแบบนี้ก็น่าดูไปอีกแบบ
“ตามนี้นะ” รัชพลหันมาย้ำกับเด็กโข่งที่เริ่มทำตัวงอแง พาเพื่อนไปเที่ยวทำไมต้องให้เขาตามไปทุกที่ด้วยเล่า เขาน่ะ เป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว จะไปเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้ นี่เพื่อนของโกเมนอุตส่าห์มาหาทั้งที โกเมนก็ต้องดูแลคอยต้อนรับซิ อีกอย่าง...
อีกอย่างอภินันท์ก็คงไม่อยากให้เขาไปด้วยกันหรอก
“กาแฟนี่ก็ปลูกเองที่ไร่หรือครับ?” อภินันท์เอ่ยถาม หวังเปลี่ยนบรรยากาศให้ดีขึ้น อันที่จริง มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก แต่เขากลัวว่าถ้าโกเมนงอแงมากๆ ฝาแฝดจะเข้ามาช่วยอ้อนรัชพลอีกสองแรงน่ะซิ ขืนโดนฝาแฝดอ้อนประเดี๋ยวรัชพลก็ใจอ่อนอีก เขาแค่อยากอยู่ด้วยกันกับโกเมนโดยที่สายตาของอีกฝ่ายมองมาที่เขาบ้าง แม้จะเป็นสายตาแบบเพื่อนธรรมดาก็เถอะ อย่างน้อยก็ไม่แปลบในใจเท่าตอนที่โกเมนเอาแต่จ้องรัชพลหรอก
“ใช่ครับ แต่โกเมนเขาเป็นคนกะเทาะเปลือกตาก คั่วแล้วก็บดเอง ผมรู้แต่วิธีปลูก ไม่รู้วิธีทำให้อร่อยหรอกครับ” รัชพลยิ้ม
“รสชาติดีมากเลยครับ หอมน้ำผึ้งด้วย”
“น้ำผึ้งป่าซื้อเอาจากชาวบ้านคนอื่นๆ เอามาขายน่ะครับ”
“คุณพลโชคดีจังนะครับที่ได้ดื่มกาแฟที่โกเมนชงให้ทุกเช้า”
“.....” รัชพลหรุบสายตาลงเมื่อได้ยินประโยคนั้น อยากดีใจแต่ก็ดีใจไม่ออกยังไงไม่รู้
“คนโชคดีน่ะผมต่างหาก พี่พลคนเก่งปลูกอะไรก็เจริญงอกงามไปทุกอย่าง คุณนันท์กับพี่ตุ่นถึงได้ดื่มกาแฟที่ผมชงนี่ไง” โกเมนเชิดหน้า เห็นท่าทางหงอยๆ ของรัชพลแล้วอดหมั่นไส้อภินันท์ขึ้นมาไม่ได้ อย่ามาแกล้งพี่พลของเขานะ เขาแกล้งได้คนเดียวเท่านั้น!
“จ้าๆ พี่พลของนายน่ะเก่งที่สุด” พี่ตุ่นอดหมั่นไส้บ้างไม่ได้
“งั้นก็ไปกันได้แล้วครับ จะสายแล้ว อ้อ ไหว้พระเสร็จลองกินขนมจีนที่วัดดูนะครับ อร่อยมาก ถ้ากินไม่เป็นให้โกเมนสอนนะครับ” รัชพลสรุปเสร็จแล้วดันไหล่กว้างของโกเมนให้ลุกออกไป ส่วนฝาแฝดที่ได้เที่ยวสองวันติดก็ดีใจไม่หยุด วิ่งไปกอดขาผู้เป็นพ่อ เขย่าๆ ให้รัชพลโน้มตัวลงแล้วแบ่งกันหอมแก้มซ้ายขวา
“ผมด้วยๆ” โกเมนเริ่มทำตัวงอแง ยื่นแขนเข้าหารัชพลทำท่าจะหอมแก้มตามฝาแฝด
“ฮื่อ!” รัชพลยันใบหน้าหล่อๆ ให้ออกห่างพลางถลึงตาใส่ “อย่าเล่นเป็นเด็กๆ!” รัชพลเหลือบมองอภินันท์กับพี่ตุ่น สองคนนั้นแกล้งทำทีเป็นมองเพดานบ้าง มองฝาผนังบ้าง มีแต่ลุงคนขับรถนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่องราว จ้องพวกเขาเขม็ง
“ทำไมพ่อไม่ให้อาโกเมนหอมแก้มบ้างล่ะคะ?”
ยัยแฝด!!
“....” รัชพลถึงกับพูดไม่ออก ไม่คิดว่าคนที่โจมตีจะกลายเป็นลูกสาวตัวเอง
“ใช่ๆ พ่อพลลำเอียงเนอะ ให้ฝาแฝดหอมแต่ไม่ให้อาโกเมนหอมบ้าง” ร่างสูงได้ทียิ้มแฉ่ง พยักเพยิดกับเด็กหญิงเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“อาโกเมนเป็นผู้ชาย จะมาหอมแก้มพ่อได้ยังไง” รัชพลดุลูกสาวเสียงเบา เนื่องจากไม่อยากให้ผู้ใหญ่อีกสามคนได้ยิน
“ฟักก็เป็นผู้ชายยังหอมได้เลย” เด็กชายเอียงคอถามบ้าง
“ใช่ๆ” โกเมนพยักถี่ๆ
“พอเลย! ทั้งสามคนนั่นแหละ ไปกันได้แล้ว!” รัชพลรุนหลังเด็กโข่งกับเด็กเล็กให้ลงจากบ้านด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขาไม่กล้าเงยหน้ามองอภินันท์ พี่ตุ่นกับลุงคนขับรถแล้ว!
อภินันท์ยกยิ้มกับท่าทางนั้นก่อนจะเดินลงจากบ้านเป็นคนสุดท้าย เขาถอนหายใจมองแผ่นหลังกว้างของโกเมน ก่อนจะขึ้นรถเขาเหลือบมองคนบนบ้านอีกครั้ง ดีแล้วที่เป็นคนนี้...