ตอนที่24
“ฉิงฉิง จงชิงกลับบ้าน”น้ำเสียงทุ้มคุ้นหูที่ผมเคยเกลียดชัง แต่ในเวลานี้กลับเป็นเสียงเดียวที่ผมต้องการได้ยินมากที่สุดเอือนเอ่ยออกมาเบาๆ
“........”ฉิงฉิงและจงชิงส่ายหน้า
“พาน่านไปด้วย”นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินจงชิงพูดกับพ่อด้วยภาษาไทย มือเล็กจับชายเสื้อผมไว้แน่น รวมไปถึงฉิงฉิงก็ทำแบบเดียวกัน
“ไม่ได้”เสียงเข้มเอ่ยตอบกลับอย่างไม่มี เยื้อใย ทำเอาใจของผมเหมือนถูกเหยียบลงจนจมเท้า
“ไม่ จะพาน่านไปด้วย”จงชิงเข้ากอดขาผมแน่นแล้วร้องไห้
“ฉิงฉิง จงชิง “น้ำเสียงราบเรียบเปลี่ยนเป็นกดต่ำ ย้ำเตือนสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้ ผมได้ยินเสียงสะอื้นทั้งของฉิงฉิงและจงชิง เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างขอร้องให้กลับด้วยกัน ตาผมกลับทำได้แค่เบือนหน้าหนีภาพปาดใจตรงหน้า
ฉิงฉิงและจงชินสะอื้นหนักแต่ก็ยอมปล่อยมือจากผมแล้วเดินไปหาพ่อของตัวเอง และเดินออกไปจากบ้านทันที โดยไม่ได้กล่าวลา
อยากจะรั้งไว้ แต่ขากลับไม่ขยับ อยากขอโทษ แต่คอกลับไม่มีเสียงออกมา ได้แต่มองดูภาพทั้งสามคนเดินไปที่รั้วบ้าน
“เดี๋ยว”รวบรวมกำลังที่มี เปล่งเสียงเหนี่ยวรั้ง
“..........”ทั้งสามคนหยุดเดิน แต่มีเพียงแค่สองคนที่หันกลับมา ฉิงฉิงกับจงชิงยังคงร้องไห้อย่างหนัก
“กูขอเจอฉิงฉิงกับจงชิงบ้างได้ไหม”อย่างน้อยๆก็ขอบรรเทาความเสียงใจของทั้งผมและลูกๆของมัน
“อย่าดีกว่า เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว ก็ไม่ควรที่ใครจะเจอใครอีก”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยคำตอบแสนเจ็บปวดจบ ก็เดินออกไป พร้อมๆกับเสียงรถที่ขับออกไป จนสุดสายตา
จู่ๆน้ำตาผมก็ไหลอีกครั้ง ผมยืนมองภาพรถคันคุ้นตาที่ห่างออกไปจนลับสายตา ร้องไห้เงียบๆอย่างเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ มาตอนนี้ผมเพิ่งแน่ใจ ว่าผมตกหลุมรักมันไปแล้วจริงๆ
และรู้ตอนที่สายไป
…………………………………………………………..
“น่านมึงไม่กินอะไรหน่อยหรอว่ะ หน้ามึงซีดมากเลยนะเว้ย”ผมเพิ่งสอบวันสุดท้ายเสร็จ ก็เดินลงมาที่ใต้คณะ ในขนาดที่เพื่อนผมพากันไปซื้อของมากินอย่างมีความสุข ที่ช่วงเวลาทรมานที่สุดในชีวิตการเป็นนักศึกษาเพิ่งผ่านผมไปได้อีกเทอม
“กูไม่หิวว่ะ”ผมตอบกลับ พร้อมกับเก็บอุปกรณ์และชีทเรียนเข้ากระเป๋าเป้
สามวันแล้วหลังจากวันนั้นที่ฉิงฉิงและจงชิงมาหาผม หลังจากนั้นพี่ปอนด์รวมไปถึงแม่พี่ปอนด์ก็เข้ามาพาผมเข้าบ้าน ทั้งสองคนไม่ได้ถามอะไร แค่พยายามปล่อยให้ผมได้อยู่คนเดียว ถึงจะไม่ได้พูดอะไรแต่ในสายตาที่ทั้งคู่มองผมนั้นเหมือนกับเข้าใจทุกอย่างและพยายามปลอบประโลมผมอย่างเงียบๆ
สามวันที่ผ่านมา ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะพยายามทำอะไร ดูหนัง อ่านหนังสือ หรือแม้แต่สอบผมก็ไม่มีสมาธิ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร เป็นเหมือนคนที่มีแค่ลมหายใจ แต่ไม่มีชีวิต ทุกคืนผมมักจะนอนร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียว ปล่อยให้ทำตาไหลออกมาแบบนั้น
“มึงโอเคเปล่าเนี๊ย ทำอย่างกับคนอกหัก”ไอ้แชมป์พูดอย่างไม่จริงจัง
“คงอย่างงั้น”ผมตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ
“เฮ้ยจริงดิ อย่าเศร้าไปเลยมึง น่าตาพวกเราก็จัดว่าดี รับรองแค่ผู้หญิงสักคน ไม่นานก็จีบติดโว้ย เอางี้ วันนี้พี่น้ำกับสายรหัสกูนัดเลี้ยงที่ผับ TYT มึงมากับกูเลย”ไอ้แชมป์ตบไหล่ผมอย่างปลอบใจ
“กูไม่อยากไป”ผมตอบหลับไปทันที
“ไม่ทันแล้ว กูไลน์ไปบอกพวกพี่น้ำจองที่เพิ่มแล้ว ยังไงก็ต้องไป เดี๋ยวทุ่มหนึ่งกูมารับ”ไอ้แชมป์ว่าจบก็ลุกออกจากโต๊ะ ทิ้งให้ผมนั่งเหวออยู่คนเดียว รอพี่ปอนด์ที่สั่งให้ผมรอแกสอบเสร็จอยู่คนเดียว
“อร่อยอ่ะแก ใครซื้อมาฝากอ่ะ”เสียงหญิงสาวที่นั่งโต๊ะห่างออกไปไม่มากพูดด้วยความตื่นเต้น ในมือมีช้อนพลาสติกสีใส
“ความลับ”พลอย นั่งอยู่ที่โต๊ะ ตรงหน้ามีกล่องสีขาว ยี่ห้อคุ้นตา พร้อมกับ เยลลี่รสส้ม รูปทรงคุ้นเคย เหมือนกับที่ไอ้แก่ซื้อให้ตอนผมไม่สบาย
ใจที่เหี่ยวแห้งเหมือนกำลังถูกเหยียบซ้ำๆ ร้อนที่ขอบตาจนแทบจะกั้นทำตาไม่อยู่
พลอยมองมาที่ผมพอดีกับที่ผมมองเธอ จากใบหน้าเรียบๆตอนแรก เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหยียดที่ส่งมาที่ผม ผมหลบสายตานั้นอย่างทนไม่ได้ เมื่อรู้ความจริงว่าเพราะอะไรผมถึงถูกทิ้งง่ายๆแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเอาแต่โทษตัวเองซ้ำๆว่าเป็นเพราะผมเองที่ทำให้ต้องมาอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้ แต่คงไม่ใช่แค่ผมคนเดียว คงเป็นเพราะมันเบื่อผมแล้วถึงยอมปล่อยมือจากผมง่ายๆ
ในเมื่อไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ต้องการจะปล่อยมือและเดินออกมาจากชีวิตมัน ผมก็ควรเลิกโง่ได้แล้ว
....................................
“พี่น้ำ พี่รัม พี่เบียร์หวัดดีครับ”เวลาทุ่มกว่าๆพวกผมมาถึงผับที่สายรหัสของไอ้แชมป์นัดว่าจะมาฉลองสอบเสร็จกัน ผับนี้เป็นผับที่ค่อนข้างหรู เรียกได้ว่าถ้าไม่รวยจริงนักศึกษาอย่างพวกผมคงเข้าไปได้ แต่ที่มาได้ก็เพราะสายรหัสของไอ้แชมป์มีแต่คนมีเงินทั้งนั้น พี่น้ำเป็นลูกเจ้าของร้านทองชื่อดังที่มีสาขานับไม่ถ้วน พี่รัมก็เป็นลูกเจ้าของโรงงานผลิตรองเท้ายี่ห้อดัง ส่วนพี่เบียร์เป็นลูกนายทหารใหญ่ที่มักจะพบเห็นได้ตามทีวี คงจะมีแต่ไอ้แชมป์ที่เป็นลูกเจ้าของร้านข้าวราดแกงแถวนนทบุรีที่ดูเงินน้อยกว่าทุกคน แต่สายรหัสของมันดีมากครับ ถึงไม่ตามดูแลตลอดเหมือนพี่ปอนด์ แต่ว่าไอ้แชมป์มีปัญหาหรือต้องการอะไรพวกสายรหัสมันก็ช่วยตลอด เรียกได้ว่า มันกลายเป็นคนรวยในสาตาของคนอื่นไปเลย ไม่ว่าจะโทรศัพท์หรือเสื้อผ้ารองเท้าดีๆ พวกพี่ๆมันให้มันทั้งนั้น ผมเองก็ค่อนข้างสนิทกับพี่น้ำ เพราะพี่แกเป็นพี่รหัสของไอ้แชมป์เลยได้เจอและไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ
“หวัดดีพี่”ผมยกมือไว้พวกพี่ด้วยอีกคน
“เออ นั่งเลยๆ อยากแดกอะไรสั่ง วันนี้ปู่มึงเลี้ยง”พี่น้ำบอกไอ้แชมป์ ลืมบอกไปทั้งหมดยังเรียนอยู่รวมทั้งพี่เบียร์ด้วยเพราะหลักสูตรของพี่แกเรียน5ปี
“จัดเลยพี่”ไอ้แชมป์ก็กระตือรือร้นสุดๆ รีบสั่งเหล้ามาทันที และไม่ลืมที่จะสั่งให้ผมด้วย
“เป็นไงไอ้น่าน ได้ข่าวช่วงนี้อกหักหรือไงมึง”พี่รัม เป็นลุงรหัสของไอ้แชมป์ผมไม่ได้สนิทกับแกมากนักแต่ก็เจอบ่อยๆ
“ก็นิดหน่อยพี่”ผมยกเหล้าที่ไอ้แชมป์สั่งมาขึ้นจิบ เสียงเพลงดังระงมจนพวกผมต้องตะโกนคุยกัน
“อย่าซีเรียสๆ มึงดูกูเปลี่ยนทุกเดือน เดี๋ยวกูหาให้สักคนเอาไหม”พี่น้ำ พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี เพราะแกนั่งติดกับผม แกเลยตบไหล่สองสามทีอย่างปลอบใจ
“.....”ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่ยิ้มและพยักหน้า พร้อมมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา โต๊ะพวกเราอยู่ชั้นสองซึ่งเป็นโซนวีไอพี คนไม่แน่นเหมือนข้างล่าง แต่ก็มีคนมากพอสมควร จริงๆโซนนี้มีแต่พวกที่เป็นสมาชิกเท่านั้นที่จะขึ้นมาได้ ผมรู้สึกว่าพี่เบียร์จะมาที่นี่บ่อยเพราะเคยได้ยินไอ้แชมป์เล่าให้ฟังบ่อยๆว่าร้านนี้เด็ดแค่ไหน
แต่ร้านนี้ก็ยังมีโซนวีไอพีอีกแบบคือเป็นห้องกระจกใสๆรอบด้าน ที่จะตั้งอยู่โซนข้างหลัง ห้องนั้นจะเก็บเสียงจึงเหมาะที่จะมาคุยกันมากกว่า แต่รู้สึกถ้าจะใช้ห้องแบบนั้นต้องจ่ายเพิ่ม2000เป็นค่าห้อง แต่ที่ผมไม่นั่งกัน คงไม่ใช่เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้องหรอกครับ แต่คงเพราะ ในห้องนั้นมันเงียบ พวกผมที่ตั้งใจมาสนุกและส่องสาว เลยเลือกที่จะนั่งแบบนี้กันมากกว่า
ผมกินเหล้าไปฟังพวกพี่ๆเค้าคุยกันไป ขำไปกับมุขเห่ยของไอ้แชมป์ที่ปล่อยออกมาให้ฟังบ่อยๆ
“เฮ้ย โน้นมัน แฟนเก่พี่รหัสมึงไม่ใช่หรอว่ะ ใส่รัดซ่ะ”พี่รัมสะกิดให้ดู ผู้หญิงที่ใส่ชุดเดรสรักรูปสีแดงดำ โชว์เนินออกอวบอิ่มเกือบครึ่งเรียกสายตาทุกคนที่เดินผ่านให้จับจ้องกันเป็นตาเดียว
“อย่างเด็ดไอ้สัส ไม่โกรธกูนะ “พี่น้ำหันมาบอกผม เพราะแกคงเกรงใจเห็นว่าเป็นพี่แฟนเก่าพี่รหัสผม ผมได้ยิ้มแล้วหยักหน้า ผมมองตามไปจนสุดก็เห็นเธอเดินเข้าไปที่ห้องกระจกห้องซึ่ง ซึ่งจากด้านนอกจะมองไม่เห็นด้านใน เห็นแค่เงาล่างๆ
ผมเลยเลิกสนใจแล้วหันไปดื่นกันต่อ ผมนั่งฟังพวกสายรหัสไอ้น้ำคุยกัน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง ถึงเรื่องที่คุยจะดูจริงจังแต่พวกเขาก็ไม่ได้คุยกันจริงจังเท่าไหร่ ไม่นานพี่รัมก็พาสาวๆมานั่งที่โต๊ะสามคน ซึ่งแต่ละคนนี่เรียกเลือดกำดาวของไอ้แชมป์ได้ไม่ยากเลย ผมก็นั่งกินฟังเขาคุยกัน ตอบบ้างเวลาโดนถาม มารู้ตัวอีกทีก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ไอ้แชมป์เมาแทบจะหลับไปแล้วส่วนพี่น้ำกับพี่รัมก็กำลังได้ที่ มีพี่เบียร์กับผมนี่แหละดูสภาพโอเคสุด
“เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะพี่”ผมเลยลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เพราะดื่มไปหลายแก้วเหมือนกัน
แต่ขณะที่ผมกำลังตรงไปที่ห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุด ผมก็เห็นร่างสูงคุ้นตาเดินผ่านไป ขาของผมเดินตามไปอัตโนมัติกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเบียดผู้คนที่เดินสวนเพื่อต้องการจะเห็นหน้าใครบางคนที่ผมโหยหามาตลอด3วัน
มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เปิดประตูกระจกของห้องวีไอพีออกแล้ว
ไอ้แก่กับผู้ชายอีก3คนที่ดูแล้วคงจะเป็นเพื่อนมันกำลังนั่งอยู่ที่โซฟาที่ถูกจัดเป็นครึ่งวงกลม ข้างกายของทุกคนมีผู้หญิงสวยๆนักแทรกอยู่ แต่สายตาของผมกำลังจับจ้องคนตรงกลาง ร่างสูงที่คุ้ยตามองมาที่ผมอย่างแปลกใจ ข้างตัวมีพลอยนั่งเบียดอยู่ เธอแสดงสีหน้าตื่นตกใจอยากเห็นได้ชัดเมื่อเจอผม แต่แวบเดียวก็เปลี่ยนเป็นเอนซบไอ้แก่อย่างสนิทสนม เหมือนจะบอกให้ผมรู้ว่า ตอนนี้ที่ข้างมันไม่ใช่ของผมอีกต่อไปแล้ว ผมมองหน้าไอ้แก่ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ขอบตาร้อนพราวอยากจะพาตัวเองหนีจากภาพตรงหน้า แต่ขากับไม่ยอมขยับตามที่ใจคิด
“เฮ้ย นี่มันไอ้เด็กคนนั้นนี่หว่า”ผู้ชายคนหนึ่งท่าทางดูสำอางนิดหน่อยลุกขึ้นยืนพูดกับผม ราวกับเคยเจอกันมาก่อน
ผมมองผู้ชายคนนั้นนิ่งพยายามนึกว่าเคยเจอเขาที่ไหนกัน
“ไม่ต้องคิด น้องไม่เคยเจอพี่หรอกก็ตอนนั้นน้องกินยานอนหลับแล้วไอ้ช่างอิ่น มันให้พี่...”เขาพูดอย่างรู้ในสิ่งที่ผมกำลังคิด
“ไอ้วิน!!!”ไอ้แก่ตะโกนขึ้นแทรกก่อนที่ผู้ชายที่ชื่อวินจะพูดจบ
“อะไรว่ะ ก็มันเรื่องจริง”
“มึงหุบปากก่อนที่กูจะโทรหาหมอแพมดีกว่า”ไอ้แก่พูดเสียงเย็นจ้องมองเพื่อนมันด้วยสายตาที่บอกว่ากูทำจริงถ้าขืนมึงยังไม่ยอมหยุดพูด จนทำให้คนที่ชื่อวินยกมือสองข้างขึ้นเหมือนกับกำลังขอยอมแพ้ แล้วนั่งลงตามเดิม
“ถ้าไม่มีธุระก็ออกไป นี่พื้นที่ส่วนตัว”ไอ้แก่พูดเสียงเรียบ ไม่แม้แต่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำ
“คือกู...”ผมพยายามจะพูดแต่ก็ถูกขัดขึ้นมาก่อน
“บอกให้ออกมายังจะมายืนเซ่ออีก หน้าด้าน”พลอยพูดขึ้นพร้อมกอดแขนไอ้แก่ให้แนบไปกับเนินอกที่โผล่พ้นออกมาจากเดรสสายเดี่ยว
“.........”ไอ้แก่เงียบนิ่ง ทำราวกับเห็นด้วยกับสิ่งที่พลอยพูด ทำเอาผมรู้สึกยิ่งกว่าถูกตบหน้าแรงๆ
“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง แค่นาทีเดียว”ผมบอกพยายามตั้งสติ และรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายออกมา
“มีอะไรก็พูดมา”มันเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตายเรียบนิ่ง ผิดกับผมที่มองมันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่อก สะอื้นทั้งที่ไม่ได้ร้องไห้
ผมมองคนอื่นๆรอบๆห้องที่กำลังนั่งมองผมเหมือนเป็นตัวตลก
“กูขอคุยกับมึงแค่สองคน”ผมบอกสิ่งที่ต้องการอีกครั้ง
“คงไม่ได้ มีอะไรก็พูดมาถ้าไม่พูดก็ออกไป”มันบอกแบบไม่ใส่ใจ ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพร้อมเบนสายตาไปที่วิวนอกห้อง เหมือนผมไม่มีตัวตน
มือของผมบีบเข้าหากั้นเพื่อสกัดกั้นความเจ็บปวด อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ตอนนี้ที่ผมจะเสียน้ำตา
“ฉิงฉิงกับจงชิงเป็นไงบ้าง”มันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากพูดที่สุด แต่ผมกลับพูดออกมา
“สบายดี หมดธุระแล้วก็ออกไป”มันบอกอย่างไม่มีเยื้อใย ทำตามสิ่งที่มันเคยพูดไว้ ว่าเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน ทำเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ก็ได้....ถ้ากูรบกวนเวลามึงขนาดนั้น กูจะไป “ผมสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้
“.....”มันไม่แม้แต่จะหันมามองผมด้วยซ้ำ บางทีคงถึงเวลาที่ผมควรตัดใจสักที
“กูแค่อยากมาบอกว่า กูขอโทษ ขอโทษสำหรับสิ่งที่กูพูดวันนั้น กูแค่อยากบอกว่า กูไม่ได้ต้องการอย่างที่พูดออกไปแบบนั้นจริงๆ”ผมพยามฝืนอาการสะอื้นพูดในใส่ที่ใจคิดออกไป ถึงผมจะพูดขนาดนี้ แต่มันไม่ได้หันกลับมามองผมสักนิด
ใครกันที่เคยพูดว่าจะไม่มีทางปล่อยผมไป ใครกันที่พรำบอกว่าผมเป็นของมัน
“ลาก่อน”ผมไม่รู้ว่ามันเห็นน้ำตาของผมที่กำลังไหลอยู่ตอนนี้ไหม ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันฟังในสิ่งที่ผมพูดไหม มันคงจะสายเกินไปที่ผมจะแก้ไข ผมไม่ได้มองว่าทำหน้ายังไงเมื่อผมพูดจบ แต่ผมเลือกที่จะหันหลังเดินออกมาจากที่นั้นด้วยดี
สองขาที่ไร้เรี่ยวแรงเดินออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก้มหน้ามองพื้นปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจให้ไหลไปอย่างไม่อดกั้น ไม่สนใจเสียงเรียกของพวกน้ำที่ตะโกนมาทางผม มุ่งหน้าสู่ทางออกอย่างเร็วที่สุดที่ทำได้
“ฮือๆๆๆๆ”ผมทรุดตัวลงนั่งร้องไห้แทบจะทีที่ออกมาจากข้างในได้ ใจของผมมันเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้ มันเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบไว้อย่างแรง
ผมไม่เคยอกหัก เพราะผมไม่เคยรักใครแบบนี้มาก่อน
มันคือคนแรกที่ผมกล้ายอมรับอย่างเต็มอกว่ารักมันเข้าแล้วจริงๆ เพราะผมรักผมถึงได้รู้สึกเจ็บมากขนาดนี้
อยากจะขอเหลือเกิน ขอให้ผมลืมมันสักที ของให้ผมไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้อีกต่อไป แต่ถ้าเลือกได้ สิ่งที่อยากขอมากที่สุดก็คือ
ขอให้มาเดินตามออกมา
TBC.
มีความดราม่า
ปล.ฝากอุดหนุนนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครัช ดูราบละเอียดการสั่งจากได้ที่ เฟสบุ๊ค Nuengdiao Publishing House หรือลิ้ง ตรงนี้
https://goo.gl/hKtdQj และเเบบจองพร้อมเมื่อผมท้อง ลิ้งนี้
https://goo.gl/bGYLMFปล2. เรื่องนี้เเต่งจบส่งต้นฉบับบวกตอนพิเศษไปเเล้ว แต่จะทยอยลงในเว็บให้เรื่อยๆ และตอนนี้กำลังกลับไปแต่ง เรื่องพี่หมอนนต์กับน้องเกรวต่อ ลงเรื่องนี้จบจะลงเรื่องของพี่หมอนนต์กับน้องเกรวต่อ ส่วนน้องจีกันต์ต้องขออภัย เนื่องจากไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเขียนก่อนหน้านี้ ก็เลยเอามาเขียนใหม่ แต่จะแต่งให้ถูกใจเราเเละแต่งไว้เยอะๆก่อนถึงจะลงนะครัช