ร้าย...จนรัก chapter 5
ผมตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหิวน้ำ ลำคอแห้งผากจนไม่มีเสียง แต่แค่ขยับตัวผมก็ปวดร้าวไปทั้งตัว แต่ยังดีที่อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ถูกหมัด
ผมเอื้อมตัวลงฝืนความเจ็บร้าวของร่างกายเปิดตู้เย็นเล็กที่ข้างหัวเตียงหยิบขวดน้ำขึ้นนอนกินเพราะลุกไม่ไหว
กินไปเกือบครึ่งขวดจู่ๆขวดน้ำก็ถูกแย่งไปจากคนร่วมเตียงที่ไม่คาดฝัน
ไอ้แก่โรคจิต
มันกำลังนั่งพิงหัวเตียงยกน้ำที่แย่งไปจากผมขึ้นกระดกโดยไม่สนใจสายตาเครียดแค้นที่กำลังมองมันอยู่
“เอามา น้ำกู”ผมเกลียดมัน เกลียดจนไม่อยากให้มันมากินน้ำที่ผมเป็นที่เอามา ผมพยายามเอื้อมมือไปดึงแย่งขวดน้ำมาแต่มันกลับเบี่ยงหลบแถมยังเอามืออีกข้างมากดต้นคอผมลงกับเตียง ผมได้แต่ดิ้นเพราะหน้าผมลงที่หมอนพอดีและผมหายไม่ออก กว่ามันจะปล่อยผมให้เป็นอิสระก็กินเวลาเป็นนาที แทบจะขาดใจตาย
“ของทุกอย่างในห้องนี้เป็นของกู “ผมสำลักทันทีที่มันปล่อยผมให้หายใจอีกครั้ง แต่ก็ยังส่งสายตายอาฆาตมาทางผม
“ไอ้เหี้ย!”ผมโมโหเลยด่ามันกลับ พอด่ามันก็ทำท่าจะพุ่งเข้ามาประทุษร้ายผมอีกครั้ง ด้วยความที่ร่างกายโดนทำร้ายมานานจนเริ่มจดจำ ทำให้ผม ต้องรีบถอยหดตัวหลบทันที ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วรัศมีนี้ถึงหลบผมก็โดนมันตบได้อยู่ดี
“หึ”มันแคนหัวเราะสงสายตาสมเพชมาทางผม ก่อนจะลุกออกจากเตียงทั้งๆที่ร่างกายยังเปลือยเปล่า เดินโทงๆไปเข้าห้องน้ำ
ผมเจ็บใจนอนทุบหมออยู่บนเตียงหลายที ทั้งที่ผมก็ผู้ชายเหมือนมัน หนุ่มก็หนุ่มกว่าแต่ผมกลับสู้แรงมันไม่ได้เลย ไอ้แก่เหี้ย ไอ้แกโรคจิต!
ผมหลับไปตอนไหนอีกไม่รู้ มาตื่นตอนที่ไอ้แก่นั้นมันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ วันนี้มันใส่เสื้อผ้าแปลกตา เสื้อคอกลมผ้ายืดเนื้อดีสีเข้มกับกางเกงผ้าร่มขายาวยี่ห้อกีฬาแบนดัง ผมเปียกชื่นไม่เป็นทรง ทำให้มันหลุดมาดนักธุรกิจคนดังไปเลย เกลียด
เกลียดที่แค่ใส่เสื้อผ้าง่ายๆมันก็ยังดูดี!
มันเดินออกจากห้องนอนไปไม่ได้สนใจผมที่กำลังแกล้งหลับ พอประตูปิดลงผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
นั่งสาปแช่งมันไปเกือบ10นาทีผมก็พาตัวเองอาบน้ำ น้ำอสุจิที่ยังคงเหลือค้างในตัวผมทำให้ผมปวดท้องแปลกๆ เลยรีบเข้าไปจัดการตัวเอง เสร็จแล้วก็หอบหนังสือกับโน้ตบุกออกมา วันจันทร์ผมมีสอบกับน้ำเสนองาน ผมเลยต้องรีบทำงานให้เสร็จแล้วก็ต้องอ่านหนังสือด้วย
“ทำอาหาร กูหิว”ผมตกใจเกือบทำโน้ตบุ๊กหลุดมือ ดีที่ไม่หล่นจริงๆ ไม่งั้นผมคงมีงานยาวแน่
ผมหอบเอาข้างของเข้าไปในห้องนอนเหมือนเดิม โยนๆไปที่เตียงนั้นแหละ ว่าจะทำเป็นไม่สนใจที่มันพูด แต่ก็ได้ยินเสียงบอกว่าถ้าผมไม่ออกมาเดี๋ยวนี้ ผมจะไม่ได้ออกจากห้องนี้เลยทั้งอาทิตย์ ผมเลยเดินออกมาอย่างไม่พอใจ
“รีบทำอาหารเช้า ไม่อร่อยอาทิตย์นี้ก็ไม่ต้องได้ออกไปไหน”มันกำลังนั่งไขว้ห้างในมือมีแท็บเล็ตเครื่องหรูที่มันกำลังกดจิ้มๆอยู่ ปากพูดแต่ตาไม่ได้มองผมสักนิด
ครัวคอนโดนี้ค่อนข้างกว้ากว่าทั่วๆไปที่ผมเคยไปตามห้องเพื่อนมันมีครัวแบบปิดอยู่ถัดจากห้องนั่งเล่นข้างในทำเป็นเค้าเตอร์ยาวติดผนัง มีเตาแบบแม่เหล็ก4อัน มีทั้งเครื่องดูดควัน เตาอบที่มีระบบไมโครเวฟในเครื่องเดียวและมีเครื่องล้างจานด้วย ตูเย็นขนาด4ประตั้งอยู่อีกฝั่งตรงขามกับเตาแม่เหล็ก ถัดจากตู้เย็นก็เป็นเครื่องสักผ้าที่ด้านบนเป็นซิ้งล้างจาน แม่บ้านจะไม่เข้ามาวันเสาร์อาทิตย์เพราะผมอยู่ห้อง ปกติผมก็ทำอาหารเอง ผมชอบการทำอาหาร เพราะมันเหมือนได้ทำงานศิลปะ ลองสร้างรสชาติใหม่ๆที่ตัวเราสัมผัสได้ มันสนุก
แต่ไม่ใช่วันนี้
ผมอยากทำอาหารให้คนที่ผมอยากให้กินเท่านั้น กับคนที่เกลียดอยากจะทำยาพิษให้มันมากกว่า
ในขนาดที่ผมกำลังลังเลว่าจะแก้แค้นมันยังไงดี ก็ต้องหยุดความคิดเมื่อมันย้ำอีกครั้งว่าถ้าอาหารที่ผมทำแล้วมันกินไม่ได้ ผมจะไม่ได้ออกจากนี้ไปไหนเลยทั้งเดือน สุดท้ายก็จำใจทำอาหารปกติให้มัน ผมหิวมากและไม่ชอบกินขนมปังตอนเช้า เลยทำพวกผัดพริกแกหมู แกจืด กับไข่เจียว ทำอะไรง่ายๆ เพราะผมไม่ต้องการให้มันได้กินอาหารที่ดีเด่ พิเศษอะไร แค่ให้แม่งกินๆจะได้จบๆ
“งั้นๆ”ผมถูกมันบังคับให้นั่งกินข้าวด้วย เมื่อมันกินคำแรกมันก็พูดขึ้นมา ผมแทบจะปาช้อนใส่หน้ามัน ถึงผมจะไม่ได้ตั้งใจทำ แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าว่าอาหารของผมไม่อร่อย
ไม่เอาตีนให้กินก็ดีเท่าๆหร่แล้ว อยากจะพูดออกไปแบบนี้จริงๆ
“ไม่ต้องกิน”ผมพูดแดกดัน แต่ผมกลับหยักไหล่แบบไม่แคร์ หลังจากนั้นมืออาหารก็ดำเนินไปโดยไม่มีการสนทนา จะมีก็แต่ตอนที่มันบอกให้ผมไปตักข้าวมาให้อีกนั้นแหละ กิน2จานใหญ่ขนาดนี้เสือกบอกงั้นๆ กวนตีนจริงๆ
หลังจากมื้ออาหารชวนปวดประสาทจบลง ผมเลยกะจะเข้าไปในห้องเพื่อมาทำงาน แต่ไอ้แก่มันก็บังคับให้ผมเอาออกมาทำที่ห้องนั่งเล่น ผมก็ทำได้แค่เดินกระแทกเท้าปึงปังอย่างไม่พอใจ ทำไมผมจะต้องมาค่อยทำตามคำสั่งมันด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องหอบงานมาทำอยู่ดี ผมนั่งอยู่ที่พื้นพรมนุ่มนิ่มตรงข้ามกับไอ้แก่ที่นั่งอยู่บนโซฟา ทีแรกจะกวนประสาทนั่งบังทีวี แต่พอผมมานั่งมันก็กลับไปนอนเหยียดยาวกับโซฟากดเท็บแล็ตต่อ โดยไม่สนใจทีวี
ถึงจะหงุดหงิดมัน แต่งานตรงหน้าสำคัญกว่า ผมชอบหลับในเวลาเรียน เวลามีเรียนตอนเช้า โดนอาจารย์เพ่งเล็งอยู่บ่อยครั้ง งานที่ทำเลยต้องดีให้มากกว่าคนอื่น ไม่นานผมก็จมอยู่กับงานตรงหน้าไม่ได้สนใจไอ้แก่นั้น
เครื่องปรับอาการเย็นๆ บวกกับร่างกายที่ขาดการพักผ่อน ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน ตื่นมาไอ้แก่นั้นก็ไม่อยู่แล้ว
แต่ใครจะสน
ผมก้มดูงานตัวเองต่อ เอกสารที่ผมเตรียมมามีรอยไฮไลท์แทบจะทุกแผ่น มันเป็นส่วนสำคัญของงานชิ้นนี้ พอลองอ่านแต่ช่วงที่ไฮไลท์ดูก็รู้สึกว่าดีกว่าที่ผมพิมพ์ไปก่อนหน้านี้อีก เพราะมีประเด็นสำคัญๆครบแถมยังอ่านแล้วเข้าใจและกระชับ
ใครทำ
ผมได้แต่คิดว่าก่อนผมหลับผมทำอะไรอยู่
มีแวบหนึ่งที่ผมคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผมนั่งทำงานใต้คณะ ที่มันมาบอกให้ผมพิมพ์คำให้ถูกต้อง หรือจะเป็นมัน
ไม่มีทาง
คนอย่างมันไม่มีทางทำอะไรให้ผมนอกจากมอบความอัปยศให้หรอก!
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ในใจผมลึกๆก็เชื่อไปแล้วว่ามันเป็นคนทำ
ผมทำงานเสร็จตอน1ทุ่มพอดี ซึ่งเร็วกว่าที่คิด กำลังจะเข้าครัวทำอะไรกินลูกน้องไอ้แก่ก็เข้ามาในห้อง พร้อมถุงกระดาษ4-5ถุง โลโก้เสื้อผ้าแบนร์ดัง บอกให้ผมไปเปลี่ยนเจ้านายมันรออยู่ พอผมถามว่าผมต้องไปไหนมันก็ทำตัวเป็นสากกะเบือ ไม่หือไม่อือ ไม่มีปากมีเสียงกวนอารมณ์สุดๆ
สุดท้ายผมก็ถูกพามาที่โรงชื่อดังกลางกรุงเทพ ผมถูกไอ้สองคนเดินนำไปที่ลิฟต์ทันที โดยมีพนักงานโรงแรมกูรีกูจรรีบเข้ามาเดินนำก่อนจะกดลิฟไปชั้นบนสุดให้
ในลิฟมีไอ้ยักษ์2คนและพนังงานสาวแสนสวย1คน บรรยากาศอย่างกับในหนังAV พี่พนักงานเขาก็กล้าขึ้นมากับพวกผมเนอะ
ยืนในลิฟเกือบ3นาที ก็มาถึงชั้นบนสุด ดาดฟ้า พอประตูลิฟต์เปิดออกผมก็อดอึ่งไม่ได้ สวยมาก มันคือบาร์ที่ถูกตกแต่สไตร์โมเดินร์ผสมกับการจัดสวนแบบญี่ปุ่น มีโต๊ะนั่งประมาณ20โต๊ะเห็นจะได้ ในสุดเป็นสะว่ายน้ำที่ทอดตัวยาวสุดขอบตึก มองแค่ทางเข้ายังรู้สึกสวยสุดๆ เก้าอี้แปลกตาแต่ดูมีระดับ มีเวทีขนาดเล็กที่กำลังมีนักดนตรีกับนักร้อง ร้องเพลงภาษาอังกฤษคลอเบาๆ มีแขกไม่กี่โต๊ะ บรรยากาศเลยดูน่านั่ง กลางโต๊ะมีตะเกียงแก้วที่มีเทียนหอนกลิ่นธรรมชาติอ่อนๆโชยออกมา ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา ไม่อยากคิดค่าสมาชิกรายปี จะแพงขนาดไหน
ผมถูกพาเดินไปด้านในสุดติด พื้นไม้ยกระดับขึ้นสูงกว่าโต๊ะอื่นๆ เห็นไอ้แก่นั่งอยู่ที่โซฟาทรงครึ่งวงกลมด้านหลังเป็นพุ่มไม้ไผ่ญี่ปุ่นไม่สูงมากหนักดูเป็นส่วนตัวขึ้น มีโมไฟเล็กประดับอยู่อย่างสวยงาม ตัวโต๊ะหันหน้าเข้าทางเวที แต่ก็สามารถชมวิวทั่วกรุงเทพได้ด้วย โซนนี่แค่เห็นก็รู้เลยว่าโคตรวีไอพี
มันตบที่นั่งข้างๆตัวเป็นเชิงบอกให้ผมนั่งตรงนั้น แต่ผมเลือกที่จะนั่งปลายๆโซฟา แต่สุดท้ายก็ถูกมันลากมานั่งตัวติดกันอย่างกับแฝดสยามอยู่ดี แถมยังเอาแขนโอบสะโพกผมไม่ให้ขยับหนีอีกผมพยายามแกะมือมันออกแต่มันก็ชักสีหน้าใส่ จนสุดท้ายผมก็ต้องยอมนั่งกับมัน เมื่อคืนเจอขนาดนั้นเหมือนความรู้สึกของร่างกายจะหวาดกลัวมัน แต่ที่ไม่ใช่ใจ
ผมไม่กลัวมัน
ผมนั่งได้ไม่นานก็มีพนังงานในชุดทักซีโด้สีดำ เหมือนอย่างพวกพ่อบ้านในการ์ตูนแต่โชคดีที่อย่างน้อยเสื้อคลุมก็ไม่มีหางแหลมสองแชก
“อยากกินอะไรก็สั่ง”ไอ้แก่ที่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากสะโพกผมบอกเสียงเรียบ ตาจ้องไปทีเวทีด้านล่างมืออีกข้างก็ถือแก้วไวน์เกล่วงไปมา
พนักงานยืนรออย่างนอบน้อม คิดถึงตอนตัวเองทำงานเบื่อลูกค้าที่ลีลามาก เลยไม่อยากจะเถียงอะไรเปิดเมนูดู ภาษาอังกฤษล้วนๆ ถึงจะอ่านออกก็เถอะ แต่นี่มันตั้งอยู่ในไทยนะ กะรับแต่ผมไฮโซหัวนอกเลยหรือไง
ผมนึกได้ว่าจะแค้นไอ้แก่โรคจิตยังไง ก็เลยจิ้มๆเมนูรัวๆเป็น20อย่าง
“กินไม่หมด กูนับจานทีเหลือบวกเพิ่มจานละรอบแน่”มันพูดดักเมื่อผมยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ผมเกลียดเวลาที่มันทำตัวประเจิดประเจ่อแบบนี้กลางที่สาธารณะ มันทำเหมือนผมเป็นพวกเด็กขาย ไม่เกลียดอะไรแบบนี้มากๆ เลยหมดอารมณ์
“กูไม่กินแล้ว!”ผมบอกอย่างไม่พอใจ เอนตัวไปนั่งหลังติดโซฟา หันหน้าไปทางอื่นที่ไม่ต้องเห็นหน้ามัน
“เอาเมนูแนะนำของวันนี้มา”ได้ยินเสียงไอ้แก่สั่งเรียบ พนักงานตอบรับแล้วเดินไปไม่นานเครื่องดื่มก็มาเสริฟทั้งๆที่ผมยังไม่ได้สั่ง ไม่ใช่ไวน์คอกเทลหรืออะไรหรูแต่เป็นเบียร์ที่อยู่ในแก้วทรงแปลกตาที่แค่มองก็รู้ว่าถ้าเมาแล้วเผลอทำแตกค่าแก้วอาจทำกระเป๋าฉีก
“อย่าให้อารมณ์เสีย”มันกระซิบที่ข้างหูเมื่อผมยังทำเป็นไม่สนใจของตรงหน้า มือที่โอบเอวผมไว้ออกแรงบีบจนเริ่มเจ็บ
ผมหันหน้าไปมองมันด้วยสายตาเกลียดชั่งอน่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฆ่าตกรรมกลางร้านอาหาร ที่สั่งก็มาเสริฟร์ อาหารจานใหญ่กับจานเล็กสองจานถูกยกมาวางกลางโต๊ะ มันคือกุ้งบลูล็อบเตอร์ที่ผ้าครึ่งมาแล้ว เนื้อสีสวยแน่ฟูจนชวนให้กลืนน้ำลาย มีน้ำสลัดซีฟูดส์สีสันสวยงามราดมา ส่วนจากเล็กเหมือนจะเป็นเนื้อปลาอะไรสักอย่างมีไข่ปลาคาเวียโรยด้านบน น่าตาหน้ากิน แต่ดูน้อยเกินไป อีกจานก็มีบริมาณพอกันแต่เป็นเนื้อที่อะไรสักอย่างและมีผักสลัดสดๆกับครีมซอสอยู่ด้านข้าง แค่เห็นก็น้ำลายไหล แต่ด้วยทิฐิ ผมยังเก็กไม่กินอยู่ดี
“เหลือเท่าไหร่เพิ่มรอบตามจำนวนราคาจานนั้น”ผมหันไปทะลึ่งตาใส่ทันที อาหารพวกนี้จากล่ะไม่ต่ำกว่า5000 มันจะทำรอบยังไงไหว ถึงจะรู้ว่ามันไม่สามารถทำได้ตามที่มันพูดแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะไม่ทำตามความสามารถของมัน ซึ่งมันก็ไม่โอเคอยู่ดี
ผมลงมือทานอาหารอย่างหิวโหย วันนี้ทั้งวันกินมื้อเดียวเอง และอาหารก็อร่อยสุดๆ ยิ่งกุ้งบลูล็อบเตอร์ยิ่งหาคำบรรยายไม่ถูก คือมันหวานช่ำ น้ำสลัดแบบซีฟูดส์ก็จัดจานแต่ไม่มีกลิ่นฉุนของพริกหรือกระเทียมเลย อยากจะเห็นหน้าคนทำจริง ไม่นานผมก็กินทั้ง3จากหมด แต่ยังไม่ค่อยอิ่มเท่าที่ควร เพราะมันมีแค่โปรตีน ไม่มีคาโบไฮเดตเลย ทำให้ไม่อยู่ท้อง ผมเมียงมองพนักงานอยากจะกินกุ้งอีกถึงจะพอเดาราคาได้ว่า5หลักแต่ก็ยังอยากกิน ยังไงก็ไม่ใช่เงินผมนี่ นี่ก็ถือเป็นค่าอาหารที่ผมทำเมื่อเช้าแล้วกัน แต่พอมากินอาหารพวกนี้ผมก็รู้เลยว่าคำว่างั้นๆของมันเนี่ย ยังดีเกินไปสำหรับอาหารที่ผมทำเมื่อเช้า
ไม่อยากคิดว่าถ้าได้กินของแบบนี้ทุกวันผมจะสุขแค่ไหน นี่ซินะวิถีชีวิตคนรวย มันหน้าอิจฉาจริงๆ
TBC.
ขอบคุณสำหรับคอมเม้น

จริงๆไม่ได้บังคับว่าจะตอนเม้นทุกตอน แต่แค่อยากให้เม้นบ้าง
เพราะมันทำให้รู้ว่านิยายเป็นไง สนุกหรือไม่สนุก ทำให้รู้ว่ายังมีคนอ่านอยู่
เพราะว่าเราเเต่งนิยายเราก็แต่เพื่อให้คนอ่าน พอไม่มีคนอ่านเราก็ไม่รู้จะเเต่งไปทำใม
เเละเป็นเหมือนช่องทางเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วย เพื่อให้คนเขียนเอาไปปรับปรุงเเละพยายามทำให้ดีขึ้น
มันจริงที่ว่า หนึ่งคอมเม้นคือหนึ่งกำลังใจ
พอรู้ว่ามีคนชอบงานที่เราเขียนมันก็ทำให้เราอยากแต่งต่ออยากลงบ่อยๆ
แต่ก็ไม่อยากพูดเหมือนบังคับ แต่ยังไงถึงจะนานๆทีก็อยากให้เม้นบ้างเพราะกำลังใจสำคัญกับนักเขียนทุกคน