My wife is bigboss by Katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My wife is bigboss by Katesnk  (อ่าน 227628 ครั้ง)

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
มาแล้วค่า


บทที่ 47

-----------------------------

“จะปล่อยให้เจ้านาย ยืนเด๋อด๋าไม่มีใครต้องการไปอีกนานเท่าไหนหือ เคน”

เสียงของพี่นนนี่นั่นเอง แกมายืนข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้แก รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ยอมช่วยเคลวิน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร พี่นนนี่ก็ยกมือขึ้น แล้วตะโกนบอกพิธีกรเสียงดัง

“เคนอาสาค่ะ”

มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเคลวินทันที เขาทำท่าเหมือนโล่งอกที่ผมอาสาจะไปเล่นคู่กับเขา พิธีกรกวักมือเรียกให้ผมออกไป ซึ่งผมก็จำต้องเดินไปยืนอยู่ข้างๆเคลวินทันที ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่มองมายังผม

“ทำไมปล่อยให้ผมรอนาน รังเกียจที่จะเล่นคู่กับผมเหรอ”

เคลวินพูดลอดไรฟัน ให้ได้ยินกันแค่สองคนระหว่างผมกับเขา ท่าทางเขาน้อยใจไม่ใช่เล่น ผมถอนหายใจ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ใช่ว่าผมจะไม่สงสารเขา แต่ผมไม่อยากให้เราสองคนมีปัญหา ถูกมองในแง่มุมไม่ดี

“เคนใจร้าย”

เมื่อเห็นผมไม่ยอมตอบอะไร เขาก็ต่อว่ามาอีก จากนั้นก็เงียบไป คงกำลังงอนผมอยู่ ผมลอบมองเคลวิน ก็เห็นเขาทำหน้านิ่งๆ ตามองไปที่พิธีกร แต่ปากที่เม้มเป็นเส้นตรงของเขา ทำให้ผมรู้ว่าเคลวินกำลังอยู่ในอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ

ผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าผมไม่ได้รังเกียจเขาเลยแม้เพียงนิด แต่ต่อหน้าคนมากมายอย่างนี้ ผมจึงทำได้แค่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่อยากให้งานเข้าเราทั้งสอง

ผู้ช่วยไกด์เอาเชือกมาผูกขาของผมกับเคลวินไว้ด้วยกัน ในขณะที่พิธีกรบรรยายกติกา

แต่ละทีมจะต้องเดินจากจุดเริ่มต้น ไปจนถึงที่หมายซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ทีมไหนไปถึงก่อน ทีมนั้นชนะ จะได้รางวัล โดยจะมอบให้กับพนักงานที่กล้ามาเล่นเกมคู่กับผู้บริหาร ซึ่งจะเป็นบัตรกำนัลสำหรับที่พักในรีสอร์ทที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง

“เมื่อเข้าใจกติกาแล้ว ขอให้ทุกคนประจำที่ และรอสัญญาณจากผมนะครับ”

พิธีกรประกาศให้เตรียมตัว ผมยืนอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ลังเลใจว่าจะพูดคุยกับเคลวินดีหรือไม่ ว่าเราจะเดินกันอย่างไรดี

ผมกลัวว่าเราสองคนจะก้าวพลาด เพราะใจไม่ตรงกัน เขาอยากก้าวขาซ้ายก่อน ส่วนผมอยากก้าวขาขวา เราสองคนคงได้ล้มคว่ำ คะมำหงายแน่

หันไปมองคู่ของคนอื่นๆ ก็เห็นเขาคุยปรึกษากันว่าจะเดินอย่างไร บางคู่มีการจับมือกันเพื่อจูงกันไป คู่ของคุณชาตรีกับมอด มีการโอบไหล่กัน

ผมเห็นมอดยกมือไหว้คุณชาตรี จากนั้นก็เอามือพาดไปที่ไหล่ของเขา ซึ่งคุณชาตรีก็ไม่ว่าอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางมีความสุข เหมือนไม่ได้กำลังแข่งกีฬา แต่มาออกเดทยังไงยังงั้น

ขณะที่ผมกำลังมองดูคู่อื่นว่าเขาเตรียมตัวกันอย่างไร อยู่ดีๆ ก็มีแขนข้างหนึ่งสอดมาด้านหลังและโอบเอวผมเอาไว้

แขนของเคลวินที่โอบกระชับและดันตัวผมจนใกล้ชิดกับเขา ผมเงยหน้าขึ้นมองเคลวิน ก็เห็นใบหน้าเรียบเฉย และตาที่มองไปข้างหน้า หากแต่มีมุมปากยกสูงเหมือนยิ้ม

“ระวัง .....1...2....3.....ไป.....”

เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมก็ออกเดินจากจุดสตาร์ท รวมทั้งคู่ของผมกับเคลวินด้วย

เขากระซิบเบาๆกับผมว่า “ซ้าย” ผมเข้าใจได้ในทันทีว่าหมายถึงให้ผมยกขาซ้ายเดินก่อน ผมเดินตามที่เขาบอก

“ขวา ซ้าย ขวา...”

เคลวินพูดอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะผมกับเขา เริ่มเข้าขากันมากขึ้นแล้ว เราสองคนเดินไปอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ

ไม่เหมือนคู่ข้างหน้าเราสองคนที่จ้ำพรวดๆ ผมหันไปมองเคลวิน แล้วถามเขาว่าเราไม่รีบอย่างคนอื่นหรืออย่างไร เดี๋ยวก็แพ้ เขายิ้มให้ผม แล้วตอบกลับมา

“อย่าสนเรื่องการแพ้ชนะ ตอนนี้ แค่สนว่า เราเดินได้ถูกจังหวะเป็นพอ ไม่อย่างนั้นจะเหมือนคู่โน้น”

เขาบุ้ยใบ้ให้ดูคู่ที่เดินก่อนหน้าเรา ซึ่งจ้ำพรวดๆไปข้างหน้า ตอนนี้ ทั้งคู่เกิดสะดุดกันเอง ล้มคว่ำไถลไปกับพื้น บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ และต้องออกจากการแข่งขัน

ผมเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เคลวินพูด บางทีการแพ้ชนะ ก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก อยู่ที่จังหวะก้าวที่มั่นคงของเรามากกว่า รีบร้อนไปก็อาจจะเสียผลก็ได้

เราสองคนต่างค่อยๆเดินโดยรักษาระดับความเร็วเอาไว้ ไม่รีบร้อนจ้ำเดิน และไม่เชื่องช้าเป็นเต่าคลาน ตำแหน่งของเราไม่ถึงกับเป็นที่โหล่ ยังมีอีกคู่หนึ่งที่รั้งท้าย

ผมเหลียวไปดูก็เห็นเขายังห่างกับเราสองคนมาก ดูท่าทางเขาไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่นัก ต่างคนต่างเดินไม่ประสานกัน คนเป็นหัวหน้าก็พยายามก้าวนำ ในขณะที่คนเป็นลูกน้องก็ถูกรั้งให้เดินตาม มันเลยดูทุลักทุเล

ผมละสายตาจากคู่นั้น แล้วหันมามองคู่ที่นำหน้าเราอยู่ คุณชาตรี กับ มอด เดินนำอยู่สองช่วงตัว มือของมอดโอบไหล่ของคุณชาตรีเอาไว้ แล้วเดินพรวดๆ ลากผู้จัดการสูงวัยให้เดินตามเหมือนจะปลิว

หากคุณชาตรีไม่เอาแขนประคองไว้ที่สะโพกของมอด คงได้มีการล้มกลิ้งโค่โร่แน่

ไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวที่มองคู่ของมอดและคุณชาตรี จากหางตา ผมเห็นว่าเคลวินก็กำลังมองสองคนนั้นเหมือนกัน มีรอยยิ้มน้อยๆระบายในหน้า ท่าทางเหมือนคนกำลังขำอะไรบางอย่าง

ผมไม่แปลกใจเลยถ้าหากว่าเขากำลังนึกหัวเราะลูกน้องของตัวเอง เพราะขนาดผมเห็น ผมยังอดรู้สึกว่ามันช่างเป็นเรื่องที่ชวนหัวจริงๆ
ที่ผู้จัดการจอมเฮี๊ยบ ที่ไว้เนื้อไว้ตัว จะมาเดินโอบประคองกับพนักงานระดับล่างอย่างยามเฝ้าบริษัท ซึ่งใครๆก็มองว่าต่ำชั้น และไม่คิดจะเสวนาด้วย โลกนี้มักมีอะไรแปลกๆที่เราไม่คาดคิดอยู่เสมอ

มือของเคลวินโอบรอบเอวผมกระชับขึ้นไปอีก จนผมอดไม่ได้ ต้องเหลือบตามองเขา นึกสงสัยว่าการที่เคลวินเดินช้า ไม่รีบร้อนนี่เป็นแผนของเขาหรือเปล่า

เขาอาจจะไม่สนรางวัล การแพ้ชนะ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา แต่สิ่งที่เคลวินต้องการอาจจะเป็นอะไรบางอย่างที่ผมคาดไม่ถึงก็ได้

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ต่อ ๆๆๆ

“เคลวิน ขืนเดินแบบนี้ แพ้แน่นอนนะครับ”

ถามออกไปอย่างสงสัย แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็ตาม มีเสียงหัวเราะหึๆดังมาให้ได้ยิน จากนั้นเคลวินก็ถามผมกลับเบาๆ

“เคนรีบหรือครับ”

พูดจบเขาก็อมยิ้มในหน้า ผมรู้สึกหมั่นไส้ประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก นี่วางแผนจะเดินช้าๆล่ะสิ

“เดินด้วยกันแบบนี้ ดีออก ผมชอบนะ”

เขาพูดโดยไม่มองหน้า ทำเหมือนกับพูดคุยกับผมธรรมดา ชนิดที่ใครมองมา ก็ไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไร แต่คนอยู่ใกล้อย่างผม รับรู้ได้ถึงน้ำเสียงหวานยั่วเย้าของเขา

“คนมองนะเคลวิน เดี๋ยวโดนนินทาแน่”

สิ่งที่ผมพูดไม่ได้เกินจริงเลย จากการลอบสังเกตคนที่อยู่รอบข้างที่ยืนดูเราอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะห่างกันมาก แต่ผมก็เห็นได้เห็นสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา

มีทั้งคนที่มองอย่างสงสัย มองมาด้วยความหมั่นไส้ ครึ่งหนึ่งเป็นสายตาที่มองมาด้วยความไม่เป็นมิตร นอกนั้นก็มองแบบว่างเปล่า มีสายตาที่มองมาด้วยความอิจฉาประปราย

“ช่างปะไร เคนไม่ต้องสนใจหรอกครับ ใครจะว่าไงก็ช่าง ผมไม่สน”

“เคลวิน อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ คุณเป็นประธานบริษัทนะครับ เขาจะเอาคุณไปว่าร้ายให้เสียหาย เดี๋ยวคนจะหมดความนับถือเคลวินนะ”
บอกเขาด้วยความเป็นห่วง ทว่าดูท่าทางเคลวินไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนสักเท่าไหร่ กลับตอบผมด้วยคำพูดชวนคิด

“คนเราถ้าเขาอยากจะนินทาคนอื่น เขาก็ไม่สนหรอกครับว่าคนๆนั้นจะเป็นอะไร ต่อให้ผมไม่ใช่ประธานบริษัท ถ้าเขาไม่ชอบผม เขาก็นินทาได้ทั้งนั้นแหละ”

มือที่โอบกระชับเอวของผมรั้งแน่นเข้ามาอีก เหมือนจะบอกผมกลายๆว่าเขาพร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่ง เคียงข้างไปกับผม

“อย่าคิดมากเลยนะครับ เรากำลังเล่นแข่งกีฬาอยู่นะเคน แข่งกับตัวเราเอง ไม่ได้แข่งกับคนอื่น จะแพ้ชนะ เพราะตัวเราเอง ไม่ใช่จากแรงเชียร์ของคนอื่นเช่นกัน”

มีรอยยิ้มบางให้กำลังใจผุดขึ้นที่ริมฝีปากของเคลวินเมื่อเขาพูดจบ ผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เลยพูดแย้งเขา แล้วเดินเคียงข้างไปกับเคลวินอย่างช้าๆ ทว่ามั่นคง
เราสองคนถึงเส้นชัย รองบ๊วย คู่ที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ก็คือคุณชาตรี และมอด ที่พอถึงเส้นชัย ก็กระโดดกอดกันตัวลอยแล้วก็ผละออกจากกันอย่างรวดเร็วเช่นกัน

คงเป็นตอนที่ท่านผู้จัดการจอมโหด นึกขึ้นได้ว่าเผลอตัวทำกริยาอาการที่ไม่เคยทำมาก่อนออกไป ผมเห็นพนักงานหลายคนมองไปที่คุณชาตรี แล้วก็สะกิดให้กันดูพลางแอบหัวเราะเยาะหยัน

ผมรู้สึกไม่ชอบคนเหล่านั้นเลย และรู้สึกสงสารคุณชาตรีขึ้นมาจับใจ แม้เขาจะเคยร้ายใส่ผม แต่พอเห็นเขาโดนนินทาว่าร้าย ผมก็อดที่จะเห็นใจเขาไม่ได้

“เก่งจังเลยคุณชาตรี มอดก็ด้วย”

เคลวินกล่าวอย่างชื่นชม ขณะมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศ ดูท่าทางเขาจะรู้จักคุ้นเคยกับมอดไม่น้อย คงเป็นเพราะมอดทำงานเฝ้ายามในชั้นที่เคลวินทำงานอยู่มาสองปีแล้วกระมัง

และมอดก็เป็นคนที่คุณชาตรีพามาสมัครงานกับเคลวินด้วย พวกเขาถึงได้รู้จักและสนิทกัน

“ขอบคุณครับนายฝรั่ง”

มอดกล่าวอย่างนอบน้อม ท่าทางที่มอดแสดงออกต่อเคลวิน บ่งบอกถึงความจงรักภักดี ซึ่งหาได้ยากในแววตาของพนักงานบริษัทคนอื่นๆ

“ถ้าจะไปเที่ยว ก็บอกแล้วกันนะ ว่าจะไปวันไหน”

ท่านประธานกล่าวกับพนักงานด้วยท่าทีที่มีเมตตา ผมมองเคลวินอย่างชื่นชม ภาพความอ่อนโยนของเคลวินที่มีต่อลูกน้อง เป็นภาพที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก

ผมมักจะชินกับภาพประธานบริษัทที่เข้มงวดดุดันมากกว่า พอเจอแบบนี้ ก็เลยรู้สึกแปลกๆ ทว่ามันก็เป็นไปในทางที่ดี

ผมรู้สึกชอบเคลวินที่ใจดี พอๆกับเคลวินที่เฉียบขาด และดุดัน เขาเป็นคนหลายบุคลิก และเขาก็สามารถนำมันมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆได้อย่างกลมกลืนจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน

หลังจากมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทแล้ว ทางคณะกรรมการจัดงานก็ได้แจ้งตารางกิจกรรมคร่าวๆ ให้พนักงานทุกคนได้รับทราบ ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เพื่อให้พนักงานได้เตรียมตัว

เย็นนี้ จะมีงานปาร์ตี้ นอกจากจะมีอาหารค่ำไว้เลี้ยงพนักงานแล้ว ก็จะมีกิจกรรมหลากหลายบนเวที เริ่มจากการมีทอล์คโชว์จากนักพูดฝีปากกล้า ในหัวข้อ Service Mind เพื่อให้พนักงานได้ตระหนักถึงคุณค่าของการให้บริการ ซึ่งจะพูด 1 ชั่วโมงก่อน จะเริ่มทานอาหารเย็น

และจะมีการแสดงของพนักงานในแต่ละสี ที่แบ่งกันเรียบร้อยแล้ว ใครอยู่สีไหน ก็จะต้องรวมกลุ่มประชุมกัน เพื่อหาการแสดงมาเล่นบนเวที มีรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศ 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นรางวัลที่ล่อใจพอสมควร สลับกับการแสดงของนักร้อง ที่จ้างมาให้ขับกล่อมพนักงาน

นอกจากนี้ยังมีการประกวดการแต่งกาย ในคอนเซปต์ หาดทราย สายลม และผองเรา ตามชื่องานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ด้วย ใครแต่งตัวได้เข้าบรรยากาศที่สุดจะได้รับรางวัลจากมือของท่านประธาน

ผมไม่ต้องไปร่วมประชุมกับสีของตัวเอง เพราะต้องมีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย ที่จริงผมก็อยากไปร่วมงานกับพวกเขา เพื่อสร้างความสนิทสนม ไม่อยากแยกตัวมาคนเดียว

อยากใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักคนอื่นๆบ้าง ทว่า ถึงผมจะไม่ถูกเคลวินดึงตัวมาช่วยงานเขา ผมก็ถูกพนักงานด้วยกันกันออกมาจากกลุ่มอยู่ดี

หัวหน้าสีของผม แสดงท่าใจดี อนุญาตให้ผมไม่ต้องไปร่วมจัดกิจกรรมกับพวกเขา โดยบอกว่า ผมควรจะไปดูแลเจ้านายซึ่งเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่ง

ทว่าแม้ปากเขาจะพูดออกมาอย่างหนึ่ง แต่ใจของเขาต้องการบอกอีกอย่างหนึ่งแน่นอน ผมเดาว่า เขาคงอยากบอกประมาณว่า ผมไม่ได้รับการต้อนรับให้เข้ากลุ่ม เพราะผมไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขา

พวกเขาไม่ต้องการคบกับผม เขาไม่ได้บอกออกมาชัดเจนเป็นคำพูด แต่จากสีหน้าแววตาที่แสดงออก ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ และมันก็ทำให้ผมรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

------------------------------

TBC

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เคลวินเต๊ะอั๋งเคน  :z1: แล้วเมื่อไหร่เคลวินจะได้รางวัลที่ชนะเคนเนี่ย รออยู่

ออฟไลน์ Ottomechan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อิอิ



อย่างนี้เคลวินก็ชนะนะอ่ะจิ




 :-[ :impress2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

sun

  • บุคคลทั่วไป
รอดูรางวัลผู้ชนะ  อิอิ    :o8:


ว่าแต่ คุน ชาตรี กับ นายมอดมันยังไงๆ เนอะ

หรือจะมีลุ้น อีกคู่ โฮ่ะๆ    :z1:

SheRbEt

  • บุคคลทั่วไป

สงสารเคน  :เฮ้อ:  ต้องมาเจอคนแบบนี้

เอ๋ หรือจะสงสารเพราะคืนนี้ท่าทางจะต้องรับศึกหนักดี  :impress2:



ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พวกปากอย่างใจอย่าง แถมชอบนินทาคนอื่นนี่ น่าเบื่อเจรงๆๆ  :m16:

สนใจสามีภรรยาคู่นี้ดีกว่า สงสัยได้มีการทวงรางวัลกันน่าดู  :m25:

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 :เฮ้อ: สงสารเคนจัง จังเลยนะ
อ้ะ แต่เนียนไปไหมอ่ะพี่ม้นท์
มาจบตอนนี้อ่ะ เค้ารอรางวัล
ของเคลวินอยู่น้า  :oo1:  :sad4:

ออฟไลน์ yr_meteor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0


น่าสงสารเคนอ่า....  :sad11:

เคนไม่ต้องไปเล่นเกมอยู่กับเคลวิ่นอ่าดีแล้ว

อะไรจะได้ง่าย ๆ ขึ้น เอิ๊กกก ก!  :laugh:

 :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
เคลวิน อีกนิดเดียว ก็ชนะแล้ว

รู้สึว่าเคนจะเอนเอียงมาทางเคลวินบ้างแล้วนะ

งานนี้เคลวินชนะใส :-[

February

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: ยังน่ารักมิเปลี่ยนแปลง..

เซ็งช่วยเคนอีกแรง... :เฮ้อ:


..แต่มิเป็นไรเดี๋ยวภรรยาผู้แสนดี..คงคอยให้กำลังใจ..อิอิ


......คืนนี้แล้ว.....คืนนี้..อิอิอิ.. :impress2:

k_aluvis

  • บุคคลทั่วไป
คิคิ

รอลุ้นรางวัลของเคลวิน :o8:

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
 :z1: ตอนหน้าเข้านอนNC NCเราจะเอาNC อิอิ

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
:z1: ตอนหน้าเข้านอนNC NCเราจะเอาNC อิอิ


ยังค่ะยัง  รอก่อนยังไม่มืดเลย


บทที่ 48

-----------------------------------

พวกเขาไม่ต้องการคบกับผม เขาไม่ได้บอกออกมาชัดเจนเป็นคำพูด แต่จากสีหน้าแววตาที่แสดงออก ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ และมันก็ทำให้ผมรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อไม่มีอะไรทำ ผมก็เดินเงื่องหงอยกลับมาที่พัก เคลวินไม่ได้อยู่ในห้อง เขาไปเตรียมตัวสำหรับงานตอนเย็นนี้ พี่นนนี่บอกว่าจะมีการแสดงเซอร์ไพรส์จากผู้บริหาร ซึ่งเก็บเงียบไม่ให้ใครรู้ว่าแสดงอะไร

แม้แต่พี่นนนี่ ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปดูในห้องที่เขาเตรียมไว้ให้ผู้บริหารได้ซ้อมกัน ดูเหมือนผู้บริหารแต่ละคนตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ไม่ยอมแพ้พนักงานที่เตรียมการแสดงมาประกวดประชันกัน

ผมเดินไปเดินมาในห้องโถง ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องพักของผมกับห้องพักของเคลวิน มันเป็นโถงแคบๆไม่กว้างมากนัก ผมเดินกลับไปกลับมาจากประตูห้องเขาถึงประตูห้องผมหลายรอบในระยะเวลาไม่อันสั้น

ทว่าผมกลับรู้สึกว่ามันนาน แถมห้องก็ดูกว้างเหลือเกิน คงเป็นเพราะคนที่ทำให้เวลาในชีวิตของผมผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเป็นคนที่ทำให้ห้องไหนๆ ที่เราอยู่ด้วยกัน คับแคบไปถนัดใจ ไม่ได้อยู่ด้วย ณ ที่นี้ ทุกอย่างมันเลยดูโล่งๆ โหวงๆ ไปหมด

เมื่อไม่มีอะไรให้ทำ ผมก็เลยรู้สึกเคว้งคว้าง ผมไม่ต้องไปซ้อมการแสดงเหมือนคนอื่นๆ เพราะเขาตัดผมออกกลุ่ม กีดกันไม่ให้เข้าร่วมด้วยท่าทีสุภาพ ในขณะที่เคลวินก็แยกไปซ้อมกับผู้บริหารตามลำพัง ผมเลยมีเวลาว่างมากมาย โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไร

อีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาปาร์ตี้ จะแอบงีบหลับตอนนี้ แล้วค่อยตื่นมาแต่งตัวไปงาน ผมก็ยังไม่ง่วง ช่วงหลังๆนี้ ผมนอนดึกบ่อย จนชินแล้ว จะให้มาหลับกลางวัน ผมก็ทำไม่ได้

ในเมื่อผมกลายเป็นคนว่าง ไม่มีอะไรทำอยู่คนเดียว ผมเลยหาเรื่องแก้เซ็งให้กับตัวเอง โดยการไปเล่นที่ชายหาดซึ่งยามนี้ ร้างผู้คน เพราะนี่เป็นหาดส่วนตัว บริษัทได้เหมาโรงแรมไว้ทั้งหมด จึงไม่มีแขกอื่นใดพัก

ตอนนี้ก็ไม่มีคนลงมาที่หาด เพราะทุกคนวุ่นวายอยู่กับการเตรียมการแสดง คนที่ไม่มีหน้าที่อะไร ก็พักผ่อนเอาแรง มีแต่ผมที่มาเดินท่อมๆ อยู่คนเดียวอย่างเหงาหงอย

ผมเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ตามชายหาด ถลกขากางเกงยีนส์ที่สวมมา จนถึงหัวเข่า ถอดรองเท้า แล้วเดินย่ำไปบนทรายที่เปียกจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง บ่ายคล้อยมากแล้ว แต่แสงแดดยังแรงอยู่ พอให้ร้อนกาย ทว่าน้ำทะเลเย็นๆ ที่ผมเดินลุยไป ก็ช่วยทำให้คลายร้อนได้บ้าง

เดินจนเหนื่อย ผมก็เลยหลบมาพักที่ใต้หินก้อนใหญ่ ตรงสุดอาณาเขตของรีสอร์ทที่พัก ซึ่งจะเป็นกลุ่มโขดหิน ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ แต่เป็นที่นั่งพักผ่อนมากกว่า

ผมเลือกนั่งหันหน้าไปทางทะเล ตามองยังผืนน้ำสีครามที่ระยิบระยับไปด้วยประกายเจิดจ้า ของแดดที่ตกกระทบผิวน้ำ ทำให้ตาพร่า ไกลออกไป เป็นภูเขาลูกย่อมๆ ที่โผล่ขึ้นมากลางทะเล และมีเรือนักท่องเที่ยวหลายรำ แล่นอยู่ลิบๆ

ขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการชมธรรมชาติอยู่นั้น หูของผมก็แว่วยินเสียงหนึ่งที่ทำลายความเงียบขึ้นมา

เสียงของคนที่พูดคุยหัวเราะต่อกระซิกกัน ….

เสียงของผู้ชายกับผู้ชาย....

เสียงของคุณชาตรี และ....

มอด.....

เสียงนั้นดังขึ้นหลังโขดหินที่ผมนั่งพิงอยู่นั้นเอง.....

---------------------









นาฬิกาข้อมือที่ผมมองดูอยู่ขณะนี้ บอกเวลา 17.30 น. อีกประมาณครึ่งชั่วโมง ฝ่ายกิจกรรมพนักงานก็จะเปิดให้คนเข้าไปในห้องที่จัดงานเลี้ยง

ซึ่งจะมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่นอีกครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการเปิดงานปาร์ตี้ “หาดทราย สายลม และผองเรา” อย่างเป็นทางการ

ผมและทีมผู้บริหาร ติดแหงกอยู่ในห้องซ้อมการแสดงเกือบสองชั่วโมงแล้ว คืนนี้ เราจะมีการแสดงเพื่อเป็นการเซอร์ไพรส์ให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นแนวคิดของผมเองที่ต้องการลดช่องว่างระหว่างเจ้านายกับลูกน้องให้ลดน้อยลง

ผมอยากได้บรรยากาศการทำงานที่อบอุ่นแบบครอบครัว ที่พนักงานทุกคนต่างมีความรัก และความรู้สึกดีๆให้แก่กัน ซึ่งจะส่งผลให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น

และแน่นอนว่า ถึงแม้ผมจะอยากได้ความเป็นกันเอง และการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันในการทำงาน แต่ที่จะต้องไม่ลืมก็คือ การทำงานอย่างมุ่งมั่น ขยัน และอดทน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องผองเพื่อนของตัวมากกว่า

ประโยชน์ของบริษัท พนักงานจึงต้องมีพฤติกรรมการทำงานทั้งสองด้าน ถึงจะเป็นพนักงานที่ดีได้

และแล้วเสียงนกหวีดก็เป่าปรี๊ดหมดเวลา หลังจากซ่อมแบบเอาจริงเอาจังเกือบสองชั่วโมง ผู้ฝึกซ้อมการแสดงของผู้บริหารก็ปล่อยให้พวกเรากลับไปยังที่พักได้ เพื่อให้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะกลับมาแต่งตัวเตรียมแสดงเปิดงาน

เมื่อได้เวลาส่วนตัวกลับคืนมา ผมก็เดินจ้ำอ้าวๆกลับไปยังที่พักทันที ไม่เสียเวลาคุยกับใคร ฝ่ายบริหารคนอื่นๆ ต่างก็รีบกลับไปยังที่พักของตัวเองเช่นกัน เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่มาก ก็จะเริ่มงานแล้ว

ใจผมจดจ่ออยู่ที่บ้านพัก คิดถึงสุดที่รักใจจะขาด ป่านนี้เคน จะเป็นไงหนอ เขาจะได้ร่วมฝึกซ้อมการแสดง ในค่ำคืนนี้หรือเปล่า

ผมอยากรู้ว่าเคนจะแสดงอะไร ละคร เต้น ร้องเพลง หรือทอล์คโชว์ เวลาที่เขาอยู่บนเวที คงจะน่ารักดี คิดแล้วผมก็แทบจะอดใจรอดูไม่ไหว

ไม่เกิน 10 นาที ผมก็เดินถึงที่พัก เคนไม่อยู่ในห้อง สงสัยไปซ้อมยังไม่กลับมา ผมเลยเข้าไปอาบน้ำอาบท่าก่อนระหว่างที่รอสามีสุดที่รักของผม

ขณะที่ผมกำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง ผมก็ได้ยินเสียงประตูเปิด เคนคงกลับมาแล้ว สงสัยคงจะเหนื่อย ผมหันซ้ายหันขวาเจอตู้เย็นที่ตั้งอยู่ในซอกใต้โต๊ะแต่งตัว

ผมจึงเดินไปเปิดประตูตู้ หยิบขวดน้ำเย็นขึ้นมา และรินใส่แก้ว แล้วเดินออกจากห้องไปหาเขา

เคนนั่งทอดตัวอยู่ที่โซฟากลางห้องโถงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างห้องเขาและห้องผม หลังพิงพนัก เหยียดขาวางบนพื้น

ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และเขาคงจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จนกระทั่งไม่สังเกตเห็นว่าผมเดินมานั่งข้างๆเขา และนั่งมองหน้าคนที่กำลังเหม่อ

“เหนื่อยไหมครับ”

หลังจากที่เคนไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวว่ามีผมอยู่ในบ้านด้วย ผมก็อดรนทนไม่ไหว เอื้อมมือไปแตะมือของเคน และเอ่ยปากถาม

“เอ้อ...อะไรนะครับ”

นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด เคนต้องกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ เห็นสีหน้าของเขาแล้ว ผมก็รู้สึกกังวลใจ มันเหมือนคนที่เหนื่อยหน่าย และไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง เคนมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจอะไรอยู่หรือเปล่านะ

“เคนเป็นอะไรครับ ท่าทางเหม่อลอย มีเรื่องอะไรกลุ้มใจเหรอ บอกผมได้ไหมครับ”

ถามออกไปด้วยความห่วงใย มือก็บีบนวดแขนให้เคนไปด้วย อยากให้เขาคลายความกังวลใจ อยากให้เขาแชร์เรื่องทุกอย่างให้ผมได้รับรู้บ้าง อยากร่วมรับรู้ทุกข์สุขไปกับเขา

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

เคนปฏิเสธ แล้วเอามือมาบีบมือผม ทว่าสีหน้าของเขากลับไม่สู้ดีนัก ผมรู้ว่าเคนต้องโกหกผมแน่ๆ แต่ไม่รู้ไม่อยากเล่าเรื่องที่เขาไม่สบายใจให้ฟัง

ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าเคนมีนิสัยไม่ขี้บ่น ไม่โวยวาย ไม่ชอบเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟัง ผมก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ที่เขาไม่ยอมแบ่งปันความทุกข์ใจให้ผมได้รู้บ้าง

ผมเป็นภรรยาของเคนนะ ผมก็อยากรู้บ้างสิ ว่าสามีของผมกำลังมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเขาเครียดอยู่ขณะนี้

“เคนโกหก เคนไม่ไว้ใจผมใช่ไหมครับ”

ต่อว่าเขาเสียงกระเง้ากระงอด รู้สึกงอนจริงๆ ที่เขาไม่บอกให้ผมรู้

---------------------------



ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
“เคนโกหก เคนไม่ไว้ใจผมใช่ไหมครับ”

ต่อว่าเขาเสียงกระเง้ากระงอด รู้สึกงอนจริงๆ ที่เขาไม่บอกให้ผมรู้

“ไม่มีอะไรจริงๆครับ อย่างอนสิ”

เสียงของเคนขณะพูดปลอบ มันฟังดูนุ่มนวลจริงๆ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่บอกว่า “อย่างอนสิ” มันไม่ได้เป็นการตำหนิ

หรือประชดประชัน แต่เหมือนว่าเขาจะแคร์ความรู้สึกของผม มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังงอนอยู่ดี

ผมอยากรู้เรื่องของเคนมากกว่านี้ และไม่อยากให้เขาปิดบังผมเลย

“แล้วเคนคิดอะไรอยู่หรือครับ”

คราวนี้ผมเปลี่ยนท่านั่ง หันมาเผชิญหน้าและจ้องเขาอย่างจริงๆจังๆ มือของผมกุมมือของเคนเอาไว้

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ”

เคนปฏิเสธอีก แล้วก็ยิ้มให้ผม แต่มันดูเหมือนฝืนๆยังไงชอบกล ท่าทางเคนจะไม่ยอมบอกให้ผมรู้จริงๆ เซ้าซี้ไปก็คงไม่เกิด

ประโยชน์

เคนปากแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขนาดความรู้สึกที่มีต่อผม เคนก็ไม่เคยบอกออกมา แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องที่เขาเป็น

กังวลอยู่ขณะนี้ เคนไม่มีทางพูดให้ผมฟังแน่นอน

แม้จะคับข้องใจ แต่ผมก็ต้องอดใจเอาไว้ ไม่เค้นให้เขาตอบ ด้วยกลัวว่าเคนจะหงุดหงิด รำคาญผม

“ถ้างั้นผมไม่ถามเรื่องนั้นก็ได้ ถ้าเคนไม่สะดวกใจจะเล่าให้ผมฟัง ก็ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่ไปซ้อมเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมครับ”

เปลี่ยนเรื่องพูด เคนจะได้สบายใจ

“ไม่ได้ไปซ้อมครับ ตัวแสดงเต็มหมดแล้ว”

เคนตอบผม น้ำเสียงของเขาดูเนือยๆ ท่าทางห่อเหี่ยว ฟังสิ่งที่เคนพูด ผมก็อดสงสัยไม่ได้

ในการจัดงานแสดงคืนนี้ กำหนดให้พนักงานแต่ละฝ่ายไปคิดการแสดง และต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อความสมัครสมาน

สามัคคีในทีม จะไม่มีใครเอาเปรียบใคร ทุกคนต้องมีส่วนในการแสดงทั้งหมด

หากไม่ได้ขึ้นไปแสดงบนเวที ก็จะต้องทำงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้มาให้ ช่วยนัก

แสดงแต่งตัว และช่วยเตรียมงาน

แต่ดูจากการที่เคนนั่งห่อเหี่ยวไม่ร่าเริงแบบนี้ มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เคนอาจจะถูกกันไม่ให้เข้าร่วมแสดงในครั้งนี้ด้วย

ทำไมผมจะไม่รู้ว่า การที่ผมให้โอกาสกับเคน ให้เขามาทำงานใกล้ชิดกับผม สร้างความกังขาให้พนักงานบางคนได้มาก

ขนาดไหน พวกเขาไม่พอใจที่เคนมาทำงานกับผม

ทั้งที่เคนก็เป็นเพียงแค่ลูกจ้างชั่วคราว แต่กลับได้ตำแหน่งดีๆข้ามหัวคนที่ทำงานมานานหลายคน พวกเขาคิดว่าเคนไม่มี

ความสามารถเพียงพอ

คนใจแคบบางคนดูถูกเคนว่าได้ดีเพราะมีเส้นมีสาย และประจบสอพลอเอาใจผม และก็คงมีบ้างที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเคน

เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากให้เคนได้ดีเกินหน้าเกินตาพวกเขานั่นเอง

ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่ผมคิด ผมก็รู้สึกเสียใจ เสียใจที่ทำให้เคนต้องเดือดร้อน เสียใจที่สิ่งที่ผมทำเพื่อพนักงาน และเพื่อ

บริษัทกำลังจะสูญเปล่า การที่ผมจัดให้มีงานปิกนิกพนักงานขึ้น

เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อที่ต้องการให้สวัสดิการกับพนักงาน ให้ได้รับความสุขกันถ้วนหน้า หลังจากตรากตรำทำ

งานกันมาอย่างหนัก เป็นรางวัลหนึ่งของพวกเขา

และผมได้เพิ่มเป้าหมายใหม่ลงไปในการจัดงาน นอกเหนือจากความสนุกสนาน นั่นก็คือความรู้รักสามัคคี ให้พวกเขาได้

รู้จักกัน ใครที่รู้จักแต่คนในฝ่ายหรือแผนกของตัวเอง ก็จะได้พบปะรู้จักกับเพื่อนต่างฝ่ายด้วย

ผมไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะรักใคร่กลมเกลียวกันในเวลาแค่วันสองวันที่มาปิกนิกกันที่นี่ แต่อย่างน้อย เมื่อไปเจอหน้ากัน

ที่บริษัท ก็จะได้ทักทายพูดคุยกันอย่างคุ้นเคย

การติดต่องานระหว่างฝ่าย ก็จะสามารถทำได้ราบรื่น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะต่างฝ่ายต่างรู้จักกันนั่นเอง

“แล้ว เขาให้เคนทำอะไรบ้างครับ เคนช่วยพวกเขาเตรียมการแสดงหรือเปล่า”

ถามไปอย่างนั้น เพื่อคอนเฟิร์มสิ่งที่ตัวเองคิด การได้เห็นเคนนั่งนิ่งเงียบ ไม่พูด ก็ทำให้ผมรู้ว่าจริงอย่างที่ผมคาดไว้

เคนไม่ใช่คนช่างฟ้อง ไม่ทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูดของตัวเอง เรื่องที่หวังว่าจะได้ยินเคนพูดถึงคนอื่นในทางที่เสียหายจึงไม่มี

แต่แค่นี้ ผมก็เดาออกแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องแสดงร่วมกับพวกเขาก็ได้ เพราะเคนมีหน้าที่ที่ต้องดูแลผม ทุกคนคงไม่ว่าอะไร หากว่าเคนไม่ได้มี

ส่วนร่วมในการแสดงคืนนี้”

ผมปลอบใจเคน ไม่อยากให้เขาคิดมาก ว่าถูกกันออกนอกกลุ่ม ในใจก็วางแผนการอะไรบางอย่างไว้ ผมจะต้องจัดการเอา

คืนพนักงานที่มีใจคอคับแคบของผม

สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำ ไม่ใช่เพราะว่าผมเคียดแค้นที่คนพวกนั้นทำกับคนที่ผมรัก แต่ผมต้องการสั่งสอนคนพวกนั้น ไม่ให้

ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างมีอคติ

ในเมื่ออยู่ร่วมกัน ทำงานบริษัทเดียวกัน ก็ควรจะรักและเข้าอกเข้าใจกัน ไม่ใช่มัวแต่แก่งแย่งชิงดี คิดเล็กคิดน้อย อิจฉาริษยา

คนอื่น

หากปล่อยให้มีคนประเภทนี้อยู่ในบริษัทมากๆ นอกจากจะไม่ช่วยทำให้บริษัทเติบโตแล้ว อาจจะต้องถอยหลัง เพราะ

พนักงานขัดขากันเอง

“ครับ...”

เขาตอบสั้นๆ ผมรู้ว่าเคนรู้สึกแย่แค่ไหน ที่โดนเพื่อนร่วมงานปฏิบัติต่อเขาแบบนี้ การโดนคนอื่นปฏิเสธคงจะทำให้เคนเสีย

กำลังใจไม่น้อย

มือของผมเอื้อมไปบีบที่มือของเคน ปรารถนาที่จะส่งผ่านความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจไปให้เขา ผมเชื่อมั่นในสามีของผม เคน

เป็นคนดี และความดีของเขาต้องชนะใจคนทั่วไป เช่นเดียวกับที่เคยชนะใจผมมาแล้ว

“แล้วเคนไปอยู่ที่ไหนมาครับ ช่วงที่คนอื่นๆเขาซ้อมกัน”

ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด แต่ผมถามเขาด้วยความเป็นห่วง คิดว่าเคนคงจะเซ็งไม่น้อยที่ถูกกีดกัน แล้วอาจจะไปหาอะไรทำให้มัน

สบายใจ ผมแค่อยากรู้ว่าตอนที่เคนรู้สึกแย่ เขามีวิธีในการบำบัดความเครียดของตัวเองอย่างไร

“ไปนั่งเล่นที่ชายหาดครับ”

เคนตอบเสียงนุ่ม ไม่มีท่าทีว่ารำคาญที่ผมถาม คงรู้ว่าผมเป็นห่วงเขาจริงๆ ไม่ได้ต้องการจุกจิกกวนใจ

“นั่งคนเดียวตั้งเกือบสองชั่วโมงเลยเหรอครับ โถ น่าสงสารจัง”

ผมยื่นมือไปลูบแก้มของเขา รู้สึกเห็นใจเคนอย่างมาก เขาคงจะเคว้งคว้าง ไม่มีอะไรทำ เลยไปนั่งปล่อยอารมณ์เล่นแถวชาย

หาด ผมอยากจะอยู่ด้วยตอนที่เขาทุกข์ใจจริงๆ

“แล้วทำไมถึงไม่กลับมานอนพักที่บ้านล่ะครับ”

“ก็...มันไม่ง่วงนี่ครับ ..อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีอะไรทำ ...เคลวินก็ไม่อยู่ด้วย”

เคนตอบคำถามของผมอย่างซื่อๆ เขาคงไม่ได้คิดอะไร แต่ผมสิ คิดไปไกลแล้ว ตีความตามคำพูดของเขามันแปลว่า เขาอยาก

ให้ผมอยู่ด้วย

และถ้าเราอยู่ด้วยกัน เราก็จะมีอะไรทำใช่ไหม และอะไรที่ว่านั่น มันทำให้ผมเกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จนบางสิ่งบางอย่าง

ในกายผมมันตื่นตัวจากภาพวาดที่อยู่ในสมองผม

“ถ้างั้น ตอนนี้ ผมอยู่ที่นี่แล้ว เราก็หาอะไรทำกันดีไหมครับ เคนจะได้ลืมเรื่องกังวลใจต่างๆได้”

ทำเสียงอ้อน และส่งสายตาหวานให้เคน เขากระพริบตาปริบๆ ขณะมองผม จากนั้นปากของเขาก็เหยียดออกเป็นรอยยิ้ม

ก่อนจะตามด้วยเสียงหัวเราะในเวลาต่อมา

“เคลวิน หื่นจริงๆเลยนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย”

“ผมรู้ครับ ว่าเคนหมายถึงอย่างอื่น แต่ช่างมันเถอะ ไหนๆ เราก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ เราจะไม่ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ ทำอะไรให้มัน

คุ้มค่าหน่อยเหรอ

อุตส่าห์มาเที่ยวในสถานที่สวยๆอย่างนี้ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศในการมอบความรักให้แก่กันดีไหมครับ”

อ้อนเขาต่อเนื่อง มือข้างหนึ่งของผมก็วางแปะลงที่หน้าขาของเคน พลางลูบไล้ไปมาเพื่อปลุกอารมณ์ของเขา

------------------------
TBC

ปล.  พี่เคทคะ  คนอ่านอยากเห็น NC แล้วอ่ะ


ออฟไลน์ Ottomechan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ืNC NC NC


อยากอ่าน nc



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :impress2:








ทำไมคนอื่นหื่นอย่างนี้เนี่ย


อายๆ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
กรี๊ดดดดดดดดด ตอนหน้าห้ามพลาดใช่มั้ยค่ะ  :m25:

TonG_x_Zhi

  • บุคคลทั่วไป
ถูกต้อง  อยากอ่านNC แว้ววว

แต่ดูท่าทางแล้ว ไม่แน่ว่าเคนจะปฏิเสธเคลวินป่ะเนี่ย

ดังนั้นเคนจงอย่าปฏิเสธน๊า :oni3:

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 :call: NC คร้าบ Pleaseeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeee...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

sun

  • บุคคลทั่วไป
งานนี้ หนุ่มเคน ท่าจะปฎิเสธ ยากซะแล่ะ

เอาน่า ทำอะไร ฆ่าเวลา ก่อนงานเริ่ม อิอิ

เรียกเหงื่อ ซักหน่อย ก้อดีนะเคอะ พี่เคทขรา อากาศ ยิ่งหนาวๆอยู่ อิอิ   :z1:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3

k_aluvis

  • บุคคลทั่วไป

February

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: NC เป็นไงเหรอ... :-[ :-[ :-[


....อยากรู้จังเลย..พี่เคทขอสัก 5 หน้า A4 ได้ไหม...


เดี๋ยวจะเข้าใจคลาดเคลื่อน..อิอิ.....  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

SheRbEt

  • บุคคลทั่วไป

พี่เคท

เอ่อ...ขออย่างที่รีบนๆเขาขอกัน  :-[


ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ไม่น่าพลั้งปากไปเลย นายเคน สุดท้ายก็เข้าทาง...  :jul3:

รีบทวงมาด่วนหนูมิ้น  เอา +1 ให้ก่อนก็ได้  :z1:

ltahset

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3

February

  • บุคคลทั่วไป
มารอ.....


ไม่มา......................... :o12: :o12: :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด