หายไวๆ นะคะ รักษาสุขภาพด้วย
..ยังไงก็รอได้คะ..
มิ้นขอบอก คือตอนนี้พี่เคทหายดีแล้วค่ะ ป่วยตอนไปอมก๋อย แถมแต่งตอนเพิ่มมาให้แล้วด้วย
ขอบคุณแทนพี่เคทนะคะที่เป็นห่วง
บทที่ 43
-----------------------
หาดทรายหน้าโรงแรม ถูกเตรียมเป็นสถานที่สำหรับการแข่งขันกีฬาชายหาด มีการตั้งเต็นท์หลังใหญ่ กันแดด สำหรับให้ผู้บริหารและพนักงานได้นั่งชมการแข่งขัน มีถังใส่น้ำแข็ง และขวดน้ำดื่ม ประเภทน้ำเปล่า และน้ำอัดลมเอาไว้แจกจ่าย และของขบเคี้ยวไว้บริการ
การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองลักษณะ คือพนักงานแข่งขันกันเอง โดยจะแบ่งออกเป็นห้าสี คือ สีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีเหลือง และสีแดง โดยแบ่งคนแต่ละแผนกออกเป็นจำนวนที่เท่ากัน กับการแข่งขันลักษณะที่สองคือ พนักงานกับระดับบริหารแข่งขันกัน
รางวัลที่ได้ จัดสรรมาจากงบประมาณส่วนหนึ่งของบริษัท ซึ่งจัดไว้สำหรับกิจกรรมพนักงาน เป็นรางวัลไม่ใหญ่โตนัก ส่วนมากก็จะเป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า พวกพัดลม หม้อหุงข้าว และเตารีด ซึ่งไม่ใช่ได้คนเดียว แต่จะได้ทั้งทีมเลยหากชนะได้ที่หนึ่งขึ้นมา ยังมีรางวัลเล็กๆลดหลั่นกันไป เป็นขนมนมเนย และของที่ระลึกที่มีตราสัญลักษณ์ของบริษัท
เมื่อได้เวลาเริ่มการแข่งขัน ไกด์ทัวร์ก็ขึ้นมาทำหน้าที่พิธีกร โดยเชิญประธานบริษัทขึ้นมากล่าวถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
เคลวินซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตปกฮาวายลวดลายท้องทะเลสีฟ้าคราม และกางเกงลำลองขาสั้นสีขาว เดินขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้า และรับไมค์จากไกด์ซึ่งทำหน้าที่จัดกิจกรรมครั้งนี้
เขาทักทายพนักงานทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กล่าวชมเชยความเพียรพยายามของพนักงานทุกคนที่ทุ่มเท แรงใจแรงกาย ทำงานให้บริษัท จนบริษัทเติบโตก้าวหน้าขึ้น และเพื่อเป็นการขอบคุณพนักงานทุกคน ทางบริษัทจึงได้จัดให้มีกิจกรรมมอบความสุขให้กับทุกคนในฐานะครอบครัวเดียวกัน โดยพามาท่องเที่ยว และพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งนี้ โดยการมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนทำตัวตามสบาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน ถอดวางทิ้งไว้ที่บริษัท และขอให้ปฏิบัติตัวแบบพี่ๆน้องๆเมื่ออยู่ที่นี่ สนุกกันให้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจเขา เพราะเขาเอง ก็ถอดหัวโขนของประธานบริษัทไว้ที่ทำงานแล้ว
สิ่งที่เคลวินพูด สร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานทุกคนไม่ใช่น้อย เมื่อเขาพูดจบก็มีเสียงปรบมือแสดงความชอบใจจากทุกๆคน เคลวินมีทำท่าถอดหัวโขนออกจากหัวตัวเองด้วย
ผมได้ยินพนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งข้างๆผม กล่าวชื่นชมเคลวินกันยกใหญ่ ทำนองว่า หล่อ ใจดี แถมนิสัยดีด้วย มีการถามไถ่ว่าเคลวินมีแฟนหรือยัง จากนั้นพวกเธอก็พากันกระซิบกระซาบ พูดคุยถึงประธาน และคนรักที่พวกเขาไม่เคยเห็นกัน บ้างก็ว่าเคลวินคงมีคนที่ชอบพออยู่แล้ว บ้างก็ว่าเคลวินยังโสด เพราะไม่เห็นข่าวว่าคบใครเป็นตัวเป็นตน ต่างก็คาดเดากันไป ผมซึ่งนั่งฟังอยู่ ได้แต่อมยิ้มด้วยความขำ มีเพียงผมกับเขาเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ เคลวินคบใครอยู่
พอประธานพูดจบ เสียงเพลงเชียร์ก็ดังขึ้น พร้อมด้วยทีมเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งก็คือพนักงานสาวๆของบริษัทก็ออกมาบูม พร้อมๆกันทุกสี เป็นสัญญาณเริ่มเปิดการแข่งขัน
ประเดิมการแข่งขันแรกเป็นการแข่งกันเองระหว่างพนักงาน เป็นกีฬาง่ายๆสนุกๆ ใช้เวลาไม่นานมากนัก เช่น วิ่งเปี้ยว ชักเย่อ เก้าอี้ดนตรี และเกมกินวิบาก ผมไม่ได้ร่วมลงแข่งในรายการเหล่านี้ เพราะถูกจัดให้ลงในเกมที่ต้องแข่งกับฝ่ายบริหารของบริษัท
ซึ่งพวกพนักงานไม่ค่อยมีใครอาสาสมัครลงแข่ง เนื่องจากเกิดความเกรงกลัวว่าจะไปทำอะไรไม่ถูกใจ และจะมีผลต่องาน
เดิมทีผมไม่อยู่ในรายชื่อของคนที่จะแข่ง แต่ในเมื่อไม่มีใครกล้าเล่นกับผู้บริหาร ผมซึ่งทำงานรับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย ก็เลยถูกเลือกให้ลงแทบจะทุกรายการ จะบอกปัดก็ไม่ได้ ก็เลยจำใจต้องลงเล่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
มอดเองก็มีโอกาสได้ลงแข่งกับเขาด้วย ในการแข่งระหว่างพนักงานกับพนักงาน เขาลงแข่งกีฬาที่ต้องอาศัยแรงกาย อย่างเช่นชักเย่อเป็นต้น
ผมยืนเชียร์มอด เป็นกำลังใจให้เขา ดูเหมือนมอดจะเป็นคนเดียวตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ ที่ชวนผมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยอยากจะพูดคุยยุ่งเกี่ยวกับผม ยิ่งผมได้ทำงานใกล้ชิดท่านประธานบริษัท ก็ดูเหมือนว่าผมจะได้ถูกใครหลายต่อหลายคนเขม่น
ผมไม่ค่อยถือเรื่องชั้นวรรณะสักเท่าไหร่ ไม่ได้คิดรังเกียจว่ามอดเป็นเพียงแค่ยามเท่านั้น แต่เขามีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าเทียมกับคนอื่น
เขาเป็นพนักงานเหมือนๆกันกับผม และในเมื่อเขากล้ามาพูดคุยกับผม ในขณะที่คนอื่นเมินหน้าหนี แล้วอย่างนี้ ผมจะปฏิเสธไมตรีเขาได้ไง
“มอดเล่นกีฬาเก่งจังเนอะ”
ขณะที่ผมกำลังยืนดูมอดแข่งชักเย่อเพลินๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างตัว คุณชาตรี ผู้จัดการฝ่ายที่ผมเคยไปทำงานด้วยในระยะหนึ่ง เดินมายืนข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
วันนี้เขาแต่งตัวแปลกตาออกไปจากที่เคยเห็น ใส่เสื้อกล้าม และมีเสื้อฮาวายสีสันฉูดฉาดคลุมทับอีกที นุ่งกางเกงขาสั้นแค่เข่าสีแดงสด
ที่คอมีพวงมาลัยดอกกล้วยไม้คล้องอยู่ ที่ข้อมือก็มี ตาของเขามองไปที่การแข่งขัน ผมมองเขาแล้วก็มองตามสายตาของเขา ก็พบว่ามันโฟกัสอยู่ที่มอดเพียงคนเดียว อะไรบางอย่างบอกให้ผมรู้ว่า มันมีบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ผมยังนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร
“แข็งแรงดีเนอะ”
เขาพูดกับผมอีก ผมหันไปมองหน้าเขาแล้วก็หันกลับไปมองที่มอดอีกครั้ง รู้สึกแปลกๆ
---------------------------