➤➤ใจเย็นกับเป็นไท ◑แจ้งข่าวตีพิมพ์หน้า 19 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➤➤ใจเย็นกับเป็นไท ◑แจ้งข่าวตีพิมพ์หน้า 19 ค่ะ  (อ่าน 144377 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สู้ๆนะใจเย็น สงสารทั้งคู่เลย เป็นไทก็เจอหนัก

ออฟไลน์ mamemoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มันจึงเป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า เป็นความรักที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน~~~
ทำไมมันถึงทั้งว่างโหวง ทั้งเจ็บปวด ทั้งอบอุ่นปนๆไปด้วยกันในทุกตอนได้แบบนี้~~~~~~
ตอนแรกเราดีใจมากที่คุณเกษฟ้องหย่าสักที แต่พอมาอ่านตอนนี้แล้วสงสารเด็กๆมากเลยค่ะ แต่คุณเกษทำดีแล้วค่ะ ทำต่อไปปปปป
ไม่ใช่แค่คนในเรื่องนะคะที่คิดว่าใจเย็นต้องไปอยู่กับคุณแม่แน่ๆ คนอ่านคนนี้ก็คิดค่ะ เพราะเราเห็นแต่ใจเย็นกับคุณแม่มาตลอด พอมาเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกว่าโดนหักหลัง ใจเย็นมีความรู้สึกนึกคิดในเรื่องแบบนี้มากกว่าที่เราคิดจริงๆค่ะ ฮา
เริ่มเข้าใจได้แบบนี้ก็ดีแล้วเนอะ จะได้เข้าใจพี่ขนมต้มด้วย แล้วในเมื่อยังลังเลและเลือกไม่ได้ว่าจะไปอยู่กับใครแบบนี้แล้ว แนะนำให้ใจเย็นไปอยู่กับเป็นไทเลยค่ะ มีแต่ได้กับได้!!!!!! (เหยย ได้อะไรอ่ะ?) รอเขาได้กันอยู่ทุกตอนเลยนะคะ  :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
บีบรัดหัวใจแท้ อย่าลากนานเด้ออ

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น่าสงสารใจเย็น

ออฟไลน์ Rungsai

  • ใครบอกว่ารุ้งมีเจ็ดสี :D
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เหมือนใจเย็นจะเริ่มมีความรู้สึกขึ้นเเฮะ
จะเริ่มมีหัวใจกับคนอื่นเขาเร็ว ๆ นี้มั้ยน้อ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อแม่ทะเลาะกัน
ลูกๆ ใช่ไม่รู้เรื่องอะไร
แต่ที่แน่ๆ ทุกข์กันทั้งนั้น

การปกป้องลูก โดยคิดแต่ไม่อยากให้ลูกเจ็บปวด
แต่การไม่บอกความจริงกับลูก ก็ทำให้ลูกไม่เชื่อใจ ทำไมต้องโกหก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ความจริงมันแหลมคมและทำให้แสบร้อนได้เสมอ

เด็ก 3 คนนี้โตมาในช่องว่างระหว่างหวังดี (ไม่อยากให้รับรู้ว่าครอบครัวบิดเบี้ยวและอยากให้มีสถานะการเงินมั่งคงจนอยู่ได้อย่างดีกับพ่อที่รวย) กับความเห็นแก่ตัว (แม่กลัวจะเสียหน้า เสียสถานะทางสังคม และความมั่นคงทางการเงิน)

จึงมีคุณเกษที่หน้าชื่นอกตรม มีแม่ของพิชย์ที่หวังให้ลูกชายสนิทกับพ่อและพี่ชาย รวมทั้งโดดเด่นพอจะแทนที่พี่ชายได้ และมีแม่ของพริมาที่ผลักดันให้ลูกสาวเลือกสนิทกับพี่ชายคนที่น่าจะให้ผลประโยชน์ได้

และมีเด็กสามคนที่ถูกคนที่ไว้วางใจมากที่สุดโกหก

ผลพวงมาจากผู้ชายเห็นแก่ตัว มักมากในกามคนหนึ่ง

อันที่จริง ทางที่ดีคือการสื่อสารให้เด็กได้รับรู้ตามความจริงว่า พ่อกับแม่แยกทางกัน แต่ยังอยู่ด้วยกัน (หรืออาจตะไม่ก็ได้) เพื่อทำหน้าที่ของพ่อกับแม่ พ่อกับแม่อาจจะหมดรักกัน แต่ทั้งพ่อและแม่รักลูก ความรักที่มีให้ไม่เปลี่ยนไปแม้พ่อกับแม่จะไม่รักกันก็ตาม

แต่ก็นะ เมื่อรวมกับความหวังดี (แบบผิด ๆ) และความเห็นแก่ตัว (ก็ไม่ใช่ทุกคนจะมีจิตใจและสถานะการเงินที่เข้มแข็งมากพอจะเดินออกมาจากความซับซ้อนนี้ได้) ดังที่กล่าวข้างต้น แม่ ๆ ทั้งหลาย (และคนอีกมากมายในชีวิตจริง) เลยจำยอมอยู่ในบ้านและครอบครัวที่บิดเบี้ยวหลังนี้

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
สงสารทุกคน​เลย ฮือออ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ใจเย็นฉลาดจนเบี้ยวไปหมดเลยค่ะ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

28 – ทะเล


สุดท้ายแล้วเป็นไทก็ไม่ได้ทำร้ายตัวเอง เขาคิดว่าอาจเพราะโตพอแล้วจึงกอดเก็บความเจ็บปวดภายในใจเอาไว้ได้ เขาคิดว่าผิวของเนื้อแขนนั้นหนาทื่อพอจะใช้โอบกอดหนามแหลมโดยไม่ถูกทิ่มแทง เป็นไทคิด คิด คิด และเชื่อเช่นนั้น และคิดว่าถ้าเชื่อมากพอก็จะเป็นความจริง แต่เขาไม่ได้คิดเลยว่ามันจะย้อนกลับมาทำร้ายคนรอบตัวเขาเอง

แตกต่างกับใจเย็น ปรายสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขา การที่ปรายย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน – หรือพูดให้ถูกว่าย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโด – จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่แปลกคือปรายไม่หือไม่อือยิ่งกว่าที่เคย คล้ายมาขยับขยายห้องให้เพิ่มความเงียบ บ่อยครั้งที่เป็นไทเปิดเพลงเสียงดังกลบทับเงียบงันนั้น แต่ก็ไม่อาจกลบความอึดอัดใจที่มีต่อปรายได้เลยสักนิด

เป็นไทคิดว่าเพราะความเกลียดที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้เขาไม่ชอบขี้หน้าน้องตนเอง แต่ความจริงคือเงียบงันของปรายนั้นไม่ได้ละลายตัวตนของปรายให้หายไป แต่เป็นตัวตนของเขาเองต่างหากที่ถูกเจือจาง บ่อยครั้งจึงกลายเป็นว่าหาเรื่องทะเลาะเพื่อจะได้ยินคำโต้เถียง แต่ก็บ่อยครั้งที่ปรายเพียงเงียบ กระทั่งครั้งที่เขาปากระป๋องเบียร์ใส่ หยามเหยียดถากถางต่อหน้าเพื่อนตนเอง ปรายก็ทำเพียงแค่หนีหน้า ไม่ต่อล้อต่อเถียง จนเขาแทบอยากจะตามไปกรีดตะโกนใส่หน้าว่าพูดกับเขาสิ – ทะเลาะกับเขา – มองเขา – เขามีตัวตน – อย่าทำกับเขาแบบนี้

แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เดินกลับไปเก็บกระป๋องเบียร์ขึ้นมา บี้ให้บุบแบนเหมือนที่เขาไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดดีๆ ออกไปได้อย่างไร

เป็นไทเริ่มไม่รู้ถึงวิธีที่จะสื่อสารความรู้สึกของตนเองมากขึ้นทุกที เขารู้สึกเหมือนตนเองจมดิ่งลงไปในทะเลถ้อยคำ ไม่รู้วิธีแหวกว่ายโผล่พ้นเหนือผิวน้ำ แม้แต่กับใจเย็นก็ไม่อาจฉุดดึงเขาขึ้นไปได้ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเห็นอยู่ตรงหน้าแต่ไม่กล้ายื่นมือไปคว้า เขารู้สึกแย่ แย่ แย่ ย้ำซ้ำ แต่เขาก็ไม่ได้หนีไปไหน ทำได้แค่จมอยู่ที่เดิม และคอยผลักดันใจเย็นเอาไว้ไม่ให้ต้องจมลงมาด้วยกัน

เป็นไทยังคงเจอกับใจเย็นเท่าที่อีกฝ่ายจะมาหา ขณะที่เขาเองถ้าไม่นับที่ต้องไปสอนพิเศษก็ไม่เคยไปหาใจเย็นเองเลยสักครั้ง แม้แต่ตอนที่ได้รู้ว่าแม่ไม่เชื่อเขาจนทำให้ถูกโกงเงิน ตอนที่เขารู้สึกแย่ที่สุดและต้องการใครสักคน เป็นไทก็ทำได้แค่เก็บตัวอยู่เงียบๆ คนเดียว และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยเฉพาะต่อหน้าใจเย็น

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาไม่กล้าปล่อยตัวเองให้ร่วงหล่นเพราะกลัวจะไม่มีใครรับไว้ แต่ขณะเดียวกันเขาก็พยายามหยัดยืนอยู่เบื้องล่าง ไม่ได้คอยรอรับ แต่เป็นการประคับประคองอีกฝ่ายเอาไว้ เป็นไทไม่รู้ว่าทำไมเป็นแบบนี้ กระทั่งในวันที่ฝนตกกระหน่ำและใจเย็นชวนมาหลบฝนที่คอนโด เป็นไทถึงได้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นแทรกอยู่ในรายละเอียดของตัวตนใจเย็น แทรกอยู่ในกลิ่นดอกไม้ที่ล่องลอยในรู้สึก แทรกอยู่ในคาโมมายล์ ชาคาโมมายล์ที่ถูกชงและหยิบยื่นมาวางให้ตรงหน้า

“ชาเหรอ” เขาถาม ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่ารู้สึกดีกับชาร้อนๆ ท่ามกลางอากาศเย็นของฝนตก

“ก็เป็นไทไม่ชอบกาแฟ”

พลันคำตอบทำให้เขารู้สึกร้อนรานอยู่กลางอก

เป็นไทอยากจะบ่นออกไปว่าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยบอก อยากบ่นออกไปว่าคิดเองเออเองอีกแล้ว แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ ตอนนั้นเขาทำได้แค่ยกขึ้นจิบ สัมผัสถึงกลิ่นและรสอันนวลเนียนเหมือนล่องลอยออกจากความรู้สึกที่รู้สึกตลอดมา

ท่ามกลางวันเหล่านั้น ท่ามกลางกลิ่นของดอกไม้ที่ไม่มีในคอนโดของใจเย็นเลยสักช่อ เป็นไทรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของใจเย็น เรื่องเรียนที่บ่นว่าเทอมแรกน่าเบื่อเพราะยังไม่ค่อยเจาะลึกเรื่องสัตว์ เรื่องเพื่อนที่ดูจะหายากกว่าวัยมัธยม เรื่องห้องเชียร์น่าเบื่อที่ตัวเองก็ไม่ได้เข้า เรื่องที่ทั้งพูดและไม่ได้พูด เรื่องที่ใจเย็นไม่คิดจะไปที่ศาลเลยสักครั้งระหว่างที่การฟ้องหย่ายังคงดำเนิน เรื่องที่ผิดหวังและรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เรื่องที่ถูกเอาใจแต่ไม่รู้สึกว่าถูกรัก

สิ่งที่ไม่ได้พูดนั้นแทรกในรายละเอียดรอบตัว หรืออาจเป็นคำพูดทางอ้อมอย่างเช่นว่าไม่ต้องการ แม้แต่กับห้องเพนท์เฮาส์ที่ใจเย็นชวนเขามาบ่อยๆ

มันเป็นคอนโดที่มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ และพื้นที่ใช้สอยประมาณหนึ่งครอบครัวใหญ่อยู่ได้สบาย เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องส่วนใหญ่เป็นสีโทนน้ำตาล หรือวัสดุจากไม้ สว่างด้วยสีครีมในบางชิ้น ซึ่งที่นั่งประจำของใจเย็นเป็นโซฟาหุ้มเบาะหนังหน้าโต๊ะกาแฟ จากโซฟามองไปข้างหน้าคือกำแพงกระจกที่กรุถึงเพดานที่สูงสามเมตร ทั้งหมดนี้เป็นไทเห็นครั้งแรกแล้วก็บ่นหมั่นไส้ตามนิสัย

“พ่อแค่เอาใจ เหมือนที่บอกว่าจะยกหุ้นช่องทีวีให้ผมน่ะแหละ”

“ฟังยังไงกูก็หมั่นไส้มึงอยู่ดี”

กระนั้น ในความน่าหมั่นไส้ เป็นไทก็สัมผัสได้ว่ามีความหม่นหมองเคลือบคลุมอยู่ เวลาที่เขาได้มาอยู่ที่ห้องนี้ท่ามกลางฝนของเดือนตุลาคม กำแพงกระจกสามเมตรนั่นจึงเหมือนเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาที่อาบครองโลกทั้งใบ

“ระยะหลังเป็นไทดูมีอะไรในใจแต่ไม่ยอมบอกผมเลย”

และก็ยิ่งย้ำว่าเขากำลังจมอยู่ใต้ผืนน้ำ เป็นผืนน้ำของถ้อยคำเมื่อถูกใจเย็นเอ่ยถามแบบนั้น ถูกจับได้ผ่านแววตาที่เขาทั้งชอบและชังในเวลาเดียวกัน

เป็นไทยังคงไม่รู้จะตอบอย่างไร ไม่รู้จะเรียบเรียงหรือกลั่นกรองมันออกมาได้อย่างไร เขาไม่รู้แม้แต่วิธีจะเริ่มเรื่อง และไม่รู้ทำไมมันถึงได้ยากเย็นนัก สุดท้ายก็ได้แต่บ่ายเบี่ยง หาเรื่องคุยอื่น บ่นเรื่องเรียนของตัวเอง เรื่องเกม เรื่องหนัง เรื่องอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองตะเกียกตะกายขึ้นไปพ้นผืนน้ำได้ แต่สุดท้ายก็ได้รู้ว่ายังคงจมอยู่เช่นนั้น เมื่อพบว่าสื่อสารความรู้สึกตัวเองออกไปไม่ได้เลยสักอย่าง

ซ้ำร้าย คนที่ดึงเขาให้ยิ่งจมลึกลงไปอีกกลับเป็นแม่ของเขาเอง

ไม่ใช่แค่เป็นไทที่ปราณีเอ่ยปากขอหยิบยืมเงินก่อนที่จะถูกโกง หล่อนแค่ไม่พูดให้เขาฟังว่าเงินนั้นไม่พอจึงไปขอหยิบยืนจากคนอื่นมาอีกก้อน ให้เป็นไทได้รู้ในภายหลัง และได้รู้พร้อมรู้สึกเจ็บแสบที่สุดว่าแม่แก้ไขมันได้ – ไม่ใช่ด้วยตนเอง แต่ด้วยเงินจากพ่อของเขา

พ่อที่เขาเกลียดกลัวยิ่งกว่าอะไรดี

วินาทีที่ได้รู้ สายฟ้าจากเบื้องบนฟาดผ่าลงมาพร้อมโมโหโกรธาจากตัวเขา สายฝนถั่งเทลงมาพร้อมความรู้สึกนับล้าน เป็นไม่กี่ครั้งที่เป็นไทหลุดออกจากทะเลคำพูด เขาพาถ้อยคำโผล่ขึ้นเหนือน้ำ และอยากตะโกนย้ำชัดทุกคำให้ประทับลงโสตประสาทและจิตใจของผู้เป็นแม่ แต่แล้วก็ได้แค่สั่นเครือ ก่อนจางหายพร้อมประโยคในใจ

ทำไมทำกับเขาแบบนี้ ทำไม ทำไม

ทั้งที่คิดว่าทนได้แล้ว ทั้งที่คิดว่าชีวิตเขาไม่ได้แย่เท่าไหร่ ทั้งที่กล่อมเกลาตัวเองตลอดเวลาว่าชีวิตเขายังมีทางไป ยังมีลู่ทางให้หนีพ้น แต่แล้วความจริงก็ย้อนกลับมาทำร้ายเขา บอกกับเขาว่าต่อให้กายหนีไปได้ พาตัวเองไปมีอนาคตที่ดีกว่านี้ได้ แต่จิตใจของเขากลับยังติดอยู่ที่เดิม และยิ่งดิ้นพล่านเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งถูกบีบรัดและดึงรั้งให้จมลงไป ทุกที ทุกที

เป็นไทไม่แน่ใจว่าตัวเองร้องไห้หรือเปล่า เขารู้แค่ว่าท้องฟ้านั้นร้องไห้ คร่ำครวญ ยังความเดือดร้อนให้มนุษย์ที่ย่ำย่างลงบนพื้นถนน เขาเปียกปอนไปทั้งร่าง พาตัวเองโซซัดโซเซไปตามทางเหมือนแมวจรจัดพลัดหลง ฝนยังคงกระหน่ำความใจร้าย ย้ำชัดรู้สึกที่เหมือนไม่มีที่ไป แต่ปลายทางที่คนเรามักคิดในเวลาแบบนี้ไม่ใช่สถานที่ หากเป็นใครสักคน

ทั้งที่เป็นไทอยากจะนึกถึงเพื่อน อยากจะบอกตัวเองว่าคนคนแรกที่เขานึกถึงไม่ใช่ใจเย็น แต่ในหัวเขากลับมีแค่ชื่อเดียววนเวียนอยู่เช่นนั้น ใจเย็น ใจเย็น ชื่อที่นับครั้งได้ที่เขาจะเอ่ยเรียก แต่กลับคร่ำครวญในความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนถูกกลั่นแกล้งให้โหยหาและถูกดึงดูดให้หลงทางจนท้ายที่สุดแล้ว เขาที่ไม่เคยไปหาใจเย็นก่อนเลยสักครั้ง ก็พาตัวเองไปหา ไปยืนอยู่ตรงหน้าของใจเย็น ทว่าก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ

เป็นไทเป็นอะไร – เกิดอะไรขึ้น – โอเคหรือเปล่า – ใจเย็นถามซ้ำไปซ้ำมา แววตาที่เขาทั้งชอบและชังในบางครั้งนั้นดูตระหนกกว่าที่คาดคิด อย่างที่ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เห็น แต่เป็นไทก็ไร้คำตอบ ได้แค่หวังว่าใบหน้าของเขาตอนนี้จะไม่เหมือนคนเพิ่งร้องไห้หรือกำลังร้องไห้

สุดท้ายใจเย็นก็ถอดใจกับการเอ่ยถาม เสียงที่เปล่งออกมาจึงเป็นการเอ่ยปากให้ขึ้นไปอาบน้ำล้างตัวที่ห้อง ระหว่างทางนั้นเงียบงัน จนกระทั่งมาถึง กระทั่งผ้าขนหนูถูกวางลงบนหัวของเขา ใจเย็นถึงเอ่ยถามย้ำอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะเป็นไทไร้คำตอบ ไร้คำตอบแม้แต่อิริยาบถทางกาย คำตอบเดียวที่มีคือความเจ็บปวดรวดร้าวภายใน ใจเย็นจึงไม่ได้ถามอะไรอีก

มีเพียงมือที่เอื้อมขึ้นมา มือที่เย็นไม่ต่างจากอุณหภูมิของอากาศในตอนนี้แนบเข้ามาที่แก้มของเป็นไท แววตาจับจ้อง หม่นเศร้า ไม่เหลืออะไรให้เขาชังอีกต่อไปในเวลานี้

“เป็นไทมาอยู่กับผมไหม”

และคำพูดนั้นเสียงดังฟังชัด ชัดกว่าเสียงคำรามลั่นของท้องฟ้าในวินาทีต่อมา

“จริงๆ จะพูดว่ามาอยู่ด้วยก็ไม่ถูก ผมยังไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วจะได้อยู่ที่คอนโดนี้ไหม หรือว่าต้องไปอยู่กับแม่ แต่...ที่รู้ๆ ผมไม่อยากอยู่กับใครสักคน”

ใจเย็นยังคงพูด อาจเรียกได้ว่าพร่ำพูด อีกแล้วที่เห็นท่าทีที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น น้ำเสียงนั้นดูร้อนลน ไม่มั่นใจ ไม่ใช่ใจเย็นแบบที่เคยเป็น ถ้อยความที่พูดออกมาก็เหมือนกัน เป็นไทไม่คิดเลยว่าจะได้ยินมัน

และก็ไม่คิดเลยว่ามันจะเจ็บปวดกว่าที่แม่ทำกับเขา

ทั้งที่เขาไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมาเลยสักคำ ทั้งที่เขาพยายามเผชิญหน้าและประคับประคองความสัมพันธ์พิลึกพิลั่นและงี่เง่านี้ให้คงไว้ ทั้งที่เขากล้ำกลืนจะเป็นจะตายกับการจมอยู่ในทะเลถ้อยคำ ทั้งที่เขาจมลงไปทุกที ทุกที แต่คนตรงหน้าเขาตอนนี้...

“เป็นไทอยู่กับผมได้ไหม—”

“รู้ตัวไหมวะว่าพูดอะไรอยู่!” พร้อมกับคำนั้น เป็นไทกระชากคอเสื้อของใจเย็นด้วยอารมณ์ที่หลุดจากการควบคุม ท้องฟ้าที่คร่ำครวญคำรามคล้ายต้องการแข่งกับเสียงตวาดลั่น “ทำไมขี้ขลาดแบบนี้วะ มึงเอาแต่ใจ มึงหนีทุกอย่างที่ไม่ตรงตามความต้องการ มึงโกรธแม่ มึงรู้สึกเหมือนแม่หักหลัง มึงก็เลยหนีทุกอย่าง ไม่ยอมอยู่ข้างๆ แม่ของมึง เผชิญหน้าก็ไม่ทำ แล้วตลอดมามึงสัมผัสไม่ได้เลยหรือไงว่าแม่มึงน่ะยังไงก็เจ็บปวด”

เป็นไทพูด พูด พูดเท่าที่ทะเลถ้อยคำจะอนุญาต กระนั้นแววตาของใจเย็นที่เขาอุตส่าห์สื่อสารความรู้สึกออกไปก็กลับไม่อาจอ่านสิ่งที่ซ่อนในใจได้เลย

“แล้วมึงยังมาพูดแบบนี้กับกูอีก...มึงพูดว่าอยากอยู่กับกูทั้งที่มึงยังไม่เข้าใจอะไรเลย มึงไม่รู้เลยเหรอว่าไม่มีใครยอมให้คนที่ตัวเองรักมีคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกอะไร มึง...มึงสัมผัสไม่ได้เลยหรือไงว่ามันผิดปกติ ความเชื่อความเข้าใจของมึงน่ะมันผิดปกติ มันทำร้ายคนอื่น ทำร้ายกูด้วย มึงจะไม่รู้เลยเหรอวะ!”

แต่พลันผรุสวาทลั่นคำสุดท้ายก็ถูกตัดกลัดกลืนไปพร้อมกับที่ร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกเข้ากำแพงในเมื่อมือที่กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้ยังคงไม่ยอมปล่อย เมื่อตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเป็นไทก็ตั้งใจจะใช้แรงเอาชนะ ตั้งใจจะทำร้ายให้เจ็บ เจ็บเท่าที่เขาเจ็บ เท่าที่เขาโกรธ โกรธที่ต้องเสียใจไปกับทุกอย่างบนโลกใบนี้

“ผมรู้”

แต่แล้ว...ทุกอย่างกลับหยุดชะงักลงด้วยคำสั้นๆ

“แต่ตอนเด็ก...ผมก็อยากเชื่อในความรักแบบที่แม่บอก”

แววตาของใจเย็นที่ดูจับจ้องทะลุทะลวงสิ่งข้างในใจเขาได้ตลอด ตอนนี้กลับเหมือนอยู่ท่ามกลางสายฝนน้ำหม่นเศร้า

“เพราะถ้าผมไม่เชื่อแบบนั้น ผมก็จะไม่เหลืออะไร”

และน้ำตาของท้องฟ้าก็แผ่ขยายขจัดขจายบนพื้นดิน เอ่อล้นจนท่วมทนมาถึงจิตใจของคนรับฟัง ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรทำให้เจ็บได้กว่านี้อีกแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมมันยังกรีดลึกลงมาถึงข้างใน ยิ่งมองสีหน้าของใจเย็นตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนหัวใจค่อยๆ สลายลงทีละน้อย

“ผมเชื่อ...เชื่อจนกลายเป็นคนที่ไม่เข้าใจคนอื่นเลย และก็ยังคงไม่เข้าใจด้วย”

ทั้งแหลกสลาย และบิดเบี้ยว

“แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมไม่เหลืออะไรอยู่ดี”

ถึงประโยคนี้ เป็นไทก็รู้สึกว่าหัวใจนั้นไม่ได้อยู่ในตัวตนของเขาเอง มันสูญหายไปแล้ว เหลือไว้แต่ความเจ็บปวด ทั้งยังเป็นความเจ็บปวดของใจเย็นที่เขารับเข้ามา และเพราะไม่มีหัวใจเขาจึงไม่รู้วิธีจะเยียวยา ได้แต่ปล่อยตัวเองให้จมลงในทะเลคำพูดอีกครั้ง ดำดิ่ง ลึกลงไป สิ่งที่ทำได้เป็นเพียงการดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด คนที่เขาไม่อยากให้ร่วงหล่นเลยแม้แต่น้อย และยังประคับประคองเอาไว้ด้วยหวังจะผลักดันขึ้นไป แต่เมื่อมองไปตรงหน้า ยังกำแพงกระจกที่หม่นมัวด้วยหยาดน้ำและราตรีกาล เป็นไทก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนกำลังถูกโอบล้อมด้วยทะเล ไร้ผิวน้ำ ไร้หนทางหนีรอด

ทั้งที่อยากพูดออกไปว่ายังเหลือเขาอีกคน ยังเหลือเขา แต่เป็นไทกลับพูดไม่ออก ได้แต่กอดคนตรงหน้าเอาไว้

และจมลงไปด้วยกันให้ถึงห้วงที่ลึกที่สุดของทะเลน้ำตา








***************************************************************************
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ฝากแท็ก #ใจเย็นกับเป็นไท ด้วยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2017 22:06:26 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
จมดิ่งเหลือเกิน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เรารู้สึกเหมือนโดนค้อนทุบหัวใจเลยค่ะ

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ทำไมเราถึงต้องพยายามเข้าใจคนอื่นนะ บางทีเพราะเราเองยังอยากให้คนอื่นมาเข้าใจเราเลย มันไม่ได้ง่ายเลยที่จะเข้าใจและรับรู้ถึงความทุกข์ของคนสักคน ใจเย็นคงอยากให้เป็นไทเข้าใจมากที่สุดในเวลานี้ จริงๆคงเป็นทั้งสองคนเนี่ยแหละที่ต้องการใครสักคนที่เข้าใจ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
วัยรุ่นสองคน ถูกพ่อแม่ตัวเองทำร้าย จนจมอยู่ในทะลน้ำตา
หมดความเชื่อใจในพ่อแม่ตัวเอง
ทั้งคู่จะพากันลอยตัวขึ้นจากทะเลยังไง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ vwm666

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยย ใจเย็นน่าสงสารอ่ะ หน่วงแต่ดีเหลือเกินตอนนี้

เป็นกำลังใจให้คนแต่งเน้อ  :sad11:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หนักอึ้งจนบอกไม่ถูกเลยว่าเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อไป แล้วแม่ของทั้งคู่จะรู้สึกไหม
ว่าได้ทำให้ลูกของตัวเองต้องปวดร้าวและแหลกสลายไปแค่ไหนแล้ว

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอย จะรอดบ่เน้อ ฮึบบบ

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
รู้สึกเหมือนคนอ่านก็จะดำดิ่งลงไปในทะเลเหมือนกัน
มันเหมือนเจ็บแล้วเจ็บอีก
คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรให้เจ็บมากกว่านี้ แต่มันก็ดันมีอีก

แต่ชอบการบรรยายของไรต์มากเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราเข้าใจนะ มันสะอิดสะเอียนนะกับการอ้างว่าทำเพื่อเราเพราะรักเรา แต่จริงๆแค่กลัวที่จะต้องอายกับสังคม กลัวที่จะควบคุมให้เราเดินในทางที่ต้องการไม่ได้

ออฟไลน์ mam79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ฮืออออ เศร้า แต่ยังไงก็สงสารเป็นไทที่สุดแล้ว หาหนุ่มใหม่ให้เอาม้ายยยย

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
โอยยยย อึดอัด​แทนใจเย็น​ แต่​ิเสียใจ​แทน​เป็น​ไท

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2
29 – ครั้งสุดท้าย


ใจเย็นจำไม่ได้ว่าตัวเองร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แม้กับตอนที่ทันใจตายเขาก็จำไม่ได้แน่ชัดว่าตัวเองร้องไห้ ใจเย็นรู้แค่ว่าโลกที่เห็นและเป็นอยู่นั้นบิดเบี้ยว ทุกครั้งที่มีอะไรกระทบใจ เขาจะรู้สึกว่าโลกบิดเบี้ยวไปทุกที ทุกที และครั้งล่าสุดก็เพราะคุณเกษรา – แม่ของเขาเอง

หล่อนหักล้างทุกความเชื่อที่บอกกรอกหูเขามาตลอดชีวิต ที่ว่าครอบครัวเรารักกันดี เราตกลงกันได้ด้วยดี ความรักเป็นสิ่งที่ดี และอย่างไรก็ดี แตกต่างจากบ้านอื่นแล้วจะไม่ใช่ความรักหรือ?

ทุกถ้อย ทุกคำถามถูกหักล้าง ชำระสะสางจนสะอาดพอที่จะเห็นถึงเบื้องหลังของความเชื่อ เห็นถึงสิ่งที่เขาซ่อนไว้และตั้งใจหนีมาตั้งแต่เด็ก หนีตั้งแต่เรื่องที่ว่าแม่ของเขาโกหก หนีว่ามนุษย์ควรรักเดียวใจเดียว หนีว่าครอบครัวเขาไม่ปกติ หนีว่าทุกคนนั้นล้วนเห็นแก่ตัว หนีว่าเขารู้อยู่แล้ว รู้อยู่แล้วซึ่งทุกอย่าง

กระนั้นใจเย็นก็ยังหนีความจริง ความจริงที่เป็นเหมือนพายุซึ่งเคยพรากเอาดวงชีวิตของทันใจไป พรากไปซึ่งความหมายที่เคยมีต่อสิ่งต่างๆ เขาไม่ใคร่ครวญยอมรับว่าตัวเองกำลังเสียใจ ไม่กระทั่งสำรวจตรวจค้นลงในจิตใจตนเอง หรือถ้าจะมองลึกลงไป เขาก็จะเห็นแต่ความว่างเปล่าเพราะไม่เคยใส่ใจจะเติมความรู้สึกแท้จริงใดลงไปเลย

และใจเย็นก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการถูกสวมกอดเอาไว้จะกลายเป็นการรินรดความรู้สึกจนเปี่ยมล้น เขารู้ในวินาทีนั้นเองว่าตนเองแหลกสลายหักพังแค่ไหน เพราะตัวตนที่แตกกระจายอยู่บนพื้นนั้นค่อยๆ ถูกหยิบขึ้นมาทีละชิ้น ทีละชิ้นอย่างเบามือ ก่อนโอบอุ้มเอาไว้ กอดเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของคนตรงหน้า

ทั้งที่เนื้อตัวของเป็นไทเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน แต่ใจเย็นกลับรู้สึกว่ามันอบอุ่น อาจจะอุ่นเหมือนน้ำตาที่เขาจำไม่ได้แล้วว่ารสสัมผัสมันเป็นอย่างไร พอๆ กับที่จำไม่ได้ว่ารับอ้อมกอดแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อ้อมกอดที่ทั้งนานเหมือนชั่วนิรันดร์ และสั้นเหมือนชั่วพริบตา

ดังนั้นเมื่อคลายห่างออกไป ใจเย็นจึงดึงเป็นไทกลับมากอดอีกครั้ง ครั้งนี้เขาตั้งใจโอบอุ้มแหลกสลายของอีกฝ่ายไว้ดังที่ตนเคยได้รับ ตั้งใจจะประกอบชิ้นส่วนแต่ละชิ้นให้เชื่อมต่อเนียนสนิทราวกับไม่เคยแตกร้าว แต่ทั้งที่ตั้งใจแบบนั้น เป็นไทก็ปฏิเสธเขามาก่อนด้วยคำไม่กี่คำ

ช่างมันเถอะ

ไม่มีอะไร

อีกแล้ว – ทันใดใจเย็นคิดคำนี้พร้อมกับเสียงฟ้าร้องครืนคล้ายไม่พอใจ อีกแล้วที่เป็นไทบอกกับเขาแบบนี้ไม่ต่างจากช่วงเวลาที่ผ่านมา ต่อให้ใจเย็นจะหนีความจริงแค่ไหนเขาก็รู้สึกได้ว่าเป็นไทกำลังโกหก โกหกจนเขานึกอยากโกรธ อยากจะดึงดันคั้นเค้นให้เจ้าตัวบอกความจริง อยากจะรู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย แต่พลันชิ้นส่วนแตกสลายของตนเองที่เคยถูกโอบอุ้มก็ร่วงกราวลงมาอีกครั้ง

ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะเขาเอาแต่หนีไม่ใช่หรือ?

หนีกระทั่งว่าเขายังไม่เข้าใจอะไรเลยในความรัก แต่ก็ตะบี้ตะบันอยากจะไขว่คว้าเอามาไว้ในครอบครองก็เพียงเพราะตัวเองไม่อยากรู้สึกเจ็บปวด เขาหนี หนีจนรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนเองกลายเป็นคนที่น่าสมเพชเวทนา

เขาหนีกระทั่งเรื่องที่ว่าเป็นไทไม่อยากบอกอะไรกับเขาอีกแล้ว

เพราะฉะนั้น ตอนที่ยอมเผชิญหน้าความจริงเขาก็ทำได้แค่มองเป็นไทเดินจากไป แม้รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังปวดร้าวเขาก็ต้องทำแบบนั้น ตราบเท่าที่มันเป็นแบบที่เป็นไทต้องการ ตราบเท่าที่เขายังคงไม่เข้าใจอะไรในตัวเองเลยสักอย่าง และตราบเท่าที่เขายังคงหนีอยู่แบบนั้น

แต่สิ่งเดียว – สิ่งเดียวที่เขาหนีไม่ได้เลยก็คือความรู้สึก

อย่าไป

อย่าไปจากเขาแบบนั้นเลย

อย่าไปทั้งการเดินจากไปแบบนั้น และอย่าไปจากความสัมพันธ์ อย่าห่างไปกว่านี้เลย

ตอนนั้นเองที่ฝนหยุดตก ทั้งที่เขาอยู่ในรถแต่หยาดน้ำสองสามหยดกลับหล่นลงตัก มันเหมือนน้ำตามากพอที่จะทำให้เขาคิดสงสัยอีกครั้งว่าตนเองร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่ก็เช่นเคย ไม่มีคำตอบ

ตั้งแต่วันนั้นใจเย็นจึงพยายามเผชิญหน้ากับความจริง ความจริงที่เป็นเหมือนพายุซึ่งพยายามเอาชนะมันกี่ครั้งก็ยังเหวี่ยงวนเขาให้ติดอยู่ที่เดิม คล้ายก้าวต่อไปข้างหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ เขาไม่มีที่ให้ไปเลยสักที่ แม้กับบ้านที่เคยรู้สึกว่าปลอดภัย แต่บัดนี้บรรดาดอกไม้ในบ้านดูเหี่ยวเฉาลงทุกที ทุกที รอวันโรยกลีบให้พร่างพรมเต็มพื้นสวน ไม่ต่างจากคุณเกษราที่ค่อยๆ เผยความเศร้าออกมาทีละน้อย เหมือนว่าพอเฉลยความจริงกับเขาแล้วก็ปลดแอกทุกพันธนาการความลับ โดยไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าความเศร้าเหล่านั้นกลับยิ่งทิ่มแทงลึกลงกลางใจของใจเย็น

หรือไม่ ก็เป็นกลางหลังที่เขาไม่เคยระวัง

แม้แต่กับคุณพิทักษ์พ่อของเขาเอง ใจเย็นรู้สึกว่าตัวตนของพ่อแทรกซึมอยู่ทุกวัตถุที่มอบให้เขา ทุกเงินตรา ทุกความสุขสบาย ทุกสิ่งปลูกสร้างที่โอ่โถง ทุกถนนหนทางในอนาคตที่ปูรอไว้ให้ แต่ใจเย็นกลับสัมผัสไม่ได้ถึงความรักที่แท้จริง ที่สัมผัสได้ดูจะมีแต่การที่เลี้ยงเขาให้เติบโตมาด้วยวัตถุและการสอนให้อยู่กับวัตถุเหล่านั้น ทั้งที่ใจเย็นอยากอยู่กับชีวิต ชีวิตที่หล่อเลี้ยงด้วยความรัก และความสัตย์จริงของใจ

ทว่า ต่อให้พายุของความจริงจะทั้งผลักไส ทั้งฉุดรั้ง ให้เขาทรมานเล่น ระบบคิดของใจเย็นต่อเรื่องความรักก็ไม่ได้แปรเปลี่ยน เพราะเขาเชื่อไปแล้ว และเชื่อมานานว่าการรักใครหลายคนไม่ใช่เรื่องผิด ที่ผิดคงมีแต่การสร้างข้อตกลงบ้าๆ ขึ้นมาผูกมัดให้รักเดียวใจเดียวเองทั้งที่รู้ว่าทำไม่ได้ ที่สำคัญการไม่เชื่อใจในข้อตกลงนั้นก็ดูงี่เง่า – ใจเย็นเห็นคู่รักที่หวาดระแวงว่าอีกฝ่ายจะนอกใจเป็นเรื่องงี่เง่าไร้สาระทุกครั้งไป

และเพราะเป็นแบบนี้ เพราะความคิดเขายังตลบหลังความรักในรูปแบบที่แม่เพิ่งเปิดเผย เพราะเขายังไม่เข้าใจความเจ็บปวดของผู้อื่น เพราะยังจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ใจเย็นจึงยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองยังไม่ได้ไปไหน ยังเอาชนะพายุของความจริงไม่ได้ ยังไม่อาจเผชิญหน้ากับอะไรเลยสักอย่าง สุดท้ายแล้วเขาก็หนีอีกครั้ง

ครั้งนี้เขาหนีไปหาเป็นไท

สักพักแล้วนับตั้งแต่ที่เป็นไทมาหาเขาและก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก พูดคุยอย่างมากก็ทางโทรศัพท์ ทั้งที่อยากเจอ อยากพบ ไม่ต้องพูดคุยก็ได้แค่อยากเห็นหน้า แต่เขากลับไม่กล้าไปหา ที่ได้มาเจออย่างในตอนนี้ก็เพราะเขาตัดสินใจก้าวถอยหลัง ถอยจนแทบจะตกหน้าผาเพื่อหนีความจริงทั้งหมดและมาเจอหน้าคนแค่คนเดียว

ที่นั่งตรงลานหน้าคณะ เป็นไทยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ทั้งในทรงจำและตรงหน้าเขา มันเป็นเดือนมกราคมที่อากาศดีแต่ไม่รู้ทำไมเขานึกถึงวันที่อากาศร้อนอ้าว วันแรกที่ได้เจอกับเป็นไท สายตามักไปวางอยู่ที่ปุ่มกระดูกตรงข้อมือข้างที่ถือแก้วน้ำเย็นฉ่ำ แต่ตอนนี้เขามองเรือนผมคนตรงหน้า ผมยาวกว่าที่เคยเห็นผ่านมาๆ ใจเย็นรู้สึกอยากสัมผัส อยากลูบเหมือนที่เคยทำ ทั้งลูบเล่น ทั้งปลอบโยน หากตอนนี้เขาก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ

และไม่รู้คิดถูกหรือผิด ใจเย็นตัดสินใจคุ้ยถามถึงเรื่องที่เป็นไทไม่ยอมบอก ถามอย่างหนีความจริงที่สุดว่าเป็นไทไม่คิดจะบอกอะไรเขาอีกแล้ว

“ไม่ใช่บอกมึงไม่ได้ มันแค่พูดไม่ออก”

และกลับพบว่าเขามีเรื่องให้ต้องหนีอีกเรื่อง

“บางทีการไม่พูดออกไปมันก็ง่ายกว่าด้วย”

ใจเย็นรู้สึกเหมือนถูกย้ำว่าเขากลายเป็นคนน่าสมเพช เป็นคนที่หนีความจริงจนไม่เหลือค่า ทั้งที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเป็นไทคงบอกเขา ไม่ว่ายากต่อการพูดแค่ไหนก็จะบอกออกมา อาจไม่ใช่ถ้อยคำโดยตรงแต่อย่างน้อยก็การแสดงออก ผ่านท่าทางหรือแววตาให้เขาจับรู้สึกได้ ใจเย็นยิ่งหวนนึกก็ยิ่งปวดแปลบข้างในอก เขาไม่รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร ไม่รู้แล้วว่าผิดพลาดที่ตรงไหนบ้าง แต่ทั้งที่เป็นไทพูดแบบนั้น พูดสิ่งที่ไม่ปกติในสัมพันธ์เช่นนั้น เจ้าตัวกลับยังทำเหมือนทุกอย่างปกติดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ว่าแต่มึงเหอะ เป็นไงบ้าง”

ทั้งยังเอ่ยถามถึงตัวเขาแม้จะไม่ได้บอกเรื่องของตัวเอง ซึ่งเป็นตอนนั้นที่ใจเย็นเองก็รู้สึกว่าพูดไม่ออก ไม่ใช่เพราะมันง่ายกว่าที่จะไม่พูด แต่มันเป็นเพราะเขารู้สึกเจ็บจนไม่กล้าพูดเรื่องของตัวเอง

“ผมขอโทษ”

“...ขอโทษอะไรวะ”

ใจเย็นไม่ได้ตอบอะไรอีก แต่ในใจยังคงพร่ำคำว่าขอโทษ ขอโทษ ซ้ำอยู่อย่างนั้น

ขอโทษที่รักไม่เป็น

ทั้งที่เขาไม่ได้คบใครอื่นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่ารักไม่เป็น

กลับมาจากวันนั้น ใจเย็นไม่รู้แล้วว่าเขาควรเดินไปทางไหนต่อ เขาสับสนร้อนรนเหมือนพยายามวิ่งหนีจากพายุของความจริง แต่แล้วก็พบกับทางตัน เขาหนีไปอีกครั้ง และก็พบกับทางตันอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนที่สุดแล้วใจเย็นก็เลือกทางที่เป็นไทอยากให้ไป ทางที่ก้าวไปข้างหน้า เผชิญกับพายุ ไม่หนี ไม่ขี้ขลาด แม้มันจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม

ใจเย็นตัดสินใจกลับไปอยู่เคียงข้างแม่แม้จะยังไม่เข้าใจสิ่งที่แม่ทำมาตลอดชีวิตของเขา ขับรถพาแม่ไปยังศาลในคดีความฟ้องหย่าที่ยังยืดเยื้อยาวนาน เข้าไปนั่งฟังการพิจารณาคดีอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำ พาตัวเองไปตกอยู่ในบรรยากาศอันน่าอึดอัด ครั่นคร้ามในวาจา ทั้งที่หลายต่อหลายอย่างเป็นเพียงคำพูดเอาดีเข้าตัว ไม่ว่าใครหรือแม้แต่แม่ของเขาก็จะพูดถึงแต่สิ่งดีงามของตัวเอง และโจมตีบกพร่องของอีกฝ่าย ทั้งสิ่งที่เขาเคยรู้และไม่รู้ ให้พรั่นพรึงในเรื่องราวตลอดชีวิตที่ผ่านมาเพราะไม่อาจบอกได้เลยว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดปลอม

หลังสิ้นสุดการสืบพยานในวันนั้น ใจเย็นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหนีอีกครั้งทั้งที่ไม่ตั้งใจจะหนีอีกแล้ว ทุกสับสนวนวิ่งสวนทางกันอยู่ภายในร่างเขา ปะทะปะทุเหมือนคลั่งแค้นของพายุ ใจเย็นอยากสำรอกสิ่งที่อยู่ในร่าง สำรอกออกมาให้หมด กระนั้นเมื่อไปยืนอยู่ในห้องน้ำ กลับไม่มีอะไรตีขึ้นมาสักอย่างในหลอดทางเดินอาหาร ใจเย็นรู้เพียงว่าเขาอึดอัด ไร้หนทางระบายออก ไม่มีที่ไป ไม่มีใครเลย

ทว่าเมื่อถึงถ้อยสุดท้ายเขาก็คิดได้ไม่เต็มคิด ที่ว่าไม่มีใครนั้นเขาก็ยังนึกถึงคนที่ห่างสัมพันธ์จากเขาไปทุกที เขานึกถึงเป็นไท เป็นไทที่มีชีวิตอยู่แม้กระทั่งในความรู้สึกของเขา เคลื่อนไหวในฉากหลังอันว่างเปล่าที่เขามักจะจับวางพื้นที่อันเป็นครอบครองของตนเองเข้าไป เป็นไทคนที่มักจะหมุนควงปากกาเล่นเวลาคิดอะไรสักอย่าง เป็นไทคนที่คลี่ยิ้มเวลาคิดเรื่องยากๆ ออก เป็นไทคนที่ดูขี้หงุดหงิดแต่ก็หายเร็ว เป็นไทคนที่ทำให้เขาค่อยๆ เป็นตัวเองอย่างเต็มตัว คนคนนั้น คนที่อยากจะรับฟังเขา และเขาเองก็อยากจะรับฟังอีกฝ่ายในทุกเรื่องราว

คนที่ไม่มีอะไรแทนที่ได้อีกแล้ว

พลันรู้สึกปวดร้าวเหมือนถูกพายุซัดกระหน่ำหักพังหัวใจให้ย่อยยับ และคำถามที่ว่าตนเองร้องไห้ครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ก็แล่นผาดเข้ากลางคิดเหมือนเล่นตลก แต่ที่ตลกกว่านั้นคือเขาได้คำตอบแล้ว

ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาร้องไห้ก็คือตอนนี้ ตอนที่คิดถึงเป็นไท คิดถึงจนทรมาน และร้าวราน







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2017 19:16:04 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ chubbymeuk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ mam79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ฮือออออ อยากให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันอ่ะ สงสารทั้งคู่แต่สงสารเป็นไทมากกว่า ใจเย็นเข้าใจความรักแล้วรักเดียวใจเดียวได้แล้ววววววว รอต่อค่าาาา

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โอย
ปวดไปทั้งใจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด