♀ บทที่ 18♀
'หมวดเรียวอยู่กับผู้กองคมกริช'
'ไปทานข้าวกับผู้กองธาม'
'กำลังโดนสารวัตรธันว์สั่งสอน'
'ทำงานอยู่ โทรศัพท์ไม่ได้'
ศรันย์โยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด อยากตะโกนออกมาดังๆ เพื่อระบายอารมณ์ สองวันแล้วที่ไม่ได้พบหน้าเรียว ทุกครั้งที่โทรศัพท์ไปก็จะได้ยินแต่เสียงตอบรับจากระบบว่าไม่สามารถติดต่อได้ ครั้นโทรศัพท์ไปหาหมวดชินวัฒน์ ฝ่ายนั้นก็มักจะให้เหตุผลว่า หมวดเรียวอยู่กับผู้กองคมกริช หรือไม่ก็ประชุม โดนสารวัตรธันว์เรียกเข้าไปคุย แต่ที่แย่ที่สุดคือเมื่อชินวัฒน์บอกว่าหมวดเรียวไปทานข้าวกับผู้กองธาม
มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ศรันย์ได้รับข้อความสั้นจากเรียว บอกว่า กำลังทำงานอยู่ โทรศัพท์ไม่ได้
คืนนี้ ศรันย์จึงตัดสินใจมาจอดรถรอที่หน้าบ้านของตำรวจจอมกวนที่เอาแต่รบกวนจิตใจเขามาถึงสองวันหนึ่งคืนเต็มๆ
♀♀♀
เรียวยิ้มเล็กน้อยเมื่อลงจากแท็กซี่และเห็นว่ามีรถบีเอ็มดับบลิวสีดำจอดอยู่หน้าบ้าน รถของศรันย์ติดฟิลม์กันแสงสีเข้มทำให้มองไม่เห็นคนที่นั่งอยู่ในรถ เขาแนบหน้าชิดกับกระจก พยายามเพ่งมองเข้าในข้างใน เห็นศรันย์ตัวเบาะนอนหลับอยู่จึงเคาะกระจกแรงๆ แต่ศรันย์กลับไม่รู้สึกตัว
"ขี้เซาจริงๆ เลย" เรียวบ่น กำลังจะเคาะกระจกอีกแต่กลับเปลี่ยนใจ เดินเข้าบ้านไปเฉยๆ ปล่อยให้ศรันย์นอนอยู่ในรถ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เรียวก็มานั่งดูรายการโทรทัศน์ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงจึงได้ยินเสียงเคาะประตู พร้อมกับเสียงคนเรียกอยู่หน้าบ้าน
"คุณหมวดนี่ใจร้ายที่สุดเลย มาถึงก็ไม่เรียกไม่ปลุกกันเลยนะ ใจคอจะปล่อยให้ผมนอนหลับอยู่ในรถทั้งคืนหรือไง" ศรันย์บ่นทันทีเมื่อเรียวเปิดประตูบ้าน
"เรียวแล้ว คุณไม่ตื่นเอง" เรียวยักไหล่
"คิดถึงจังเลย ผมมาจอดรถรอตั้งแต่หกโมงแล้วนะ หิวก็หิว ข้าวยังไม่ตกถึงท้องเลย ติดต่อคุณหมวดก็ได้ โทรไปเป็นร้อยๆ ครั้งได้แล้วมั๊ง"
"ผมต้องทำงาน นี่เพิ่งได้กลับบ้าน"
"ทำไมไม่โทรหาผมบ้างเลย"
"ก็ส่งเอสเอ็มเอสมาบอกแล้วไงว่าทำงานอยู่ โทรศัพท์ไมได้"
"มันเหมือนโทรที่ไหนเล่า แค่ได้อ่านตัวหนังสือกับได้ยินเสียงมันต่างกันนะครับคุณหมวด ปลีกตัวหาเวลาโทรหน่อยไม่ได้หรือไง ไม่รู้หรือว่าผมคิดถึงแทบไม่เป็นอันทำการทำงานอยู่แล้ว" ศรันย์ทำเสียงออดอ้อน
"ผมว่าโทรไม่โทรคุณก็ไม่ค่อยทำงานทำการอยู่แล้วล่ะ ใช่หรือเปล่า"
"พูดเข้าไป" ศรันย์ทำหน้างอ "แล้วนี่จะผมยืนอยู่หน้าประตูแบบนี้หรือครับ จะไม่เชิญเข้าบ้านหน่อยหรือ"
"คุณจะเข้ามาทำไม" เรียวแกล้งถาม
"อ้าว ก็มาถึงนี่แล้ว ไม่ได้แค่มายืนคุยหน้าบ้านเฉยๆ นะ ไม่ได้เจอตั้งสองวันสองคืน คิดว่าผมจะมาทำไมหละครับคุณหมวด"
"งั้นก็เชิญ" เรียวผายมือ ศรันย์เดินเข้ามาในบ้านแล้วยกแขนโอบกอดเจ้าของบ้าน แต่นายตำรวจยกมือขึ้นห้าม
"อย่ามาทำรุ่มร่ามนะคุณศรันย์"
"ขอกอดขอจูบให้หายคิดถึงหน่อยได้ไหมครับ ปลอบใจผมหน่อยสิ สองวันสองคืนเลยนะที่ไม่ได้เจอกัน จะโทรมาซักนิดก็ไม่มี" ศรันย์ออดอ้อน
"บอกแล้วไงว่าทำงาน ไม่อยากวอกแวก" เรียวเดินไปรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้ศรันย์
"คืนนี้ผมขอค้างนี่นะ ดึกแล้ว ขับรถกลับบ้านมันอันตราย"
"น้อยๆ หน่อย นี่แค่สี่ทุ่มเอง แล้วคุณมันก็ผีเสื้อกลางคืน กลับด้านตีสองตีสามเป็นเวลาปรกติอยู่แล้วไม่ใช่หรือ"
"ผมไม่อยากกลับ ผมอยากอยู่ใกล้ๆ คุณหมวด" ศรันย์ทำหน้าอ้อนวอน "ยิ่งรู้ว่าคุณหมวดต้องทำงานใกล้ชิดตัวติดกันอยู่กับผู้กองหน้าดุ ผมก็หวั่นใจ ไหนจะไปกินข้าวกับผู้กองธามอีกล่ะ ไหนว่าทำงาน ไม่มีเวลาแม้แต่จะโทรหาผม แต่มีเวลาไปทานข้าวกับแฟนเก่า"
"ใครบอก" เรียวหัวเราะเบาๆ "โดนแกล้งปั่นหัวยังไม่รู้อีกหรือ อย่าบอกนะว่าคุณไปเชื่อคำพูดไอ้หมวดลูกชิ้น"
"ผมก็ไม่ค่อยจะอยากเชื่อเท่าไหร่หรอก แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ตอนไหนหมวดชินพูดเล่นพูดจริงมันก็เดายากอยู่เหมือนกันนะ" ศรันย์เดินเข้ามากอดแขนเรียวเอาไว้ "คุณหมวดยืนยันกับผมหน่อยได้ไหมว่าไม่ได้ไปไหนมาไหนกับผู้กองธาม"
"ไป" เรียวพูดสั้นๆ
"อะไรนะ" ศรันย์อุทานเสียงดัง หน้าง้ำ
"ผู้กองธามก็ทำคดีนี้ด้วย"
"คนละท้องที่ไม่ใช่หรือ มายุ่งอะไรด้วย"
"ผู้กองธามอยู่ปรามปราม" เรียวตอบสั้นๆ
"ไม่เข้าใจ" ศรันย์ขมวดคิ้ว
"ปราบปรามเป็นส่วนกลาง ไปทำงานร่วมกับท้องที่ไหนก็ได้" เรียวตอบแล้วแกะมือศรันย์ออกจากแขน "นี่คุณ ไปนั่งอยู่ตรงโซฟาได้ไหม มายืนเกาะอยู่ได้ อึดอัด"
"คืนนี้ผมนอนนี่นะ" ศรันย์ตื้อ "ผมเหนื่อยและเพลียมาก ขับรถกลับไม่ไหวหรอก ถ้ากลัวก็ขึ้นห้องนอน ปิดประตูล๊อคกลอนให้แน่นหนา ผมรับรองว่าจะไม่รังแกคุณหมวดเลย"
"ผมนะหรือกลัวคุณ" เรียวเลิกคิ้ว "ลองรังแกผมสิ จะจับล๊อคคอหักแขนซะเลย"
"ผมหมายถึงลวนลาม ล่วงเกิน"
"ก็นั่นล่ะ"
"ถ้าหมวดไม่ยอมผมดีๆ ผมก็ไม่ดันทุรังหรอกนะ ผมจะรอจนกว่าคุณจะพร้อมเป็นของผมจริงๆ" ศรันย์ยืนยัน
"ใครว่าผมจะเป็นของคุณ" เรียวยักไหล่ "สมมุตินะว่าเรามีอะไรกันแล้ว มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมคุณ เป็นของคุณ ผมรักอิสระเหมือนคุณนั่นล่ะ"
"นี่คุณหมวดคิดว่าผมเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ" ศรันย์ถอนหายใจ "จริงอยู่ บุคลิกผมดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น แต่ว่า..."
"คุณก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นล่ะ ไม่ใช่แค่บุคลิกทำให้ดูเหมือนหรอก" เรียวพูดแทรก
"แต่ก่อนอาจจะใช่" ศรันย์ยอมรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้เอาใครไม่เลือกนะครับ ถ้าผมมีแฟนผมก็หยุด ให้ความสำคัญกับแฟนผมคนเดียว"
"แต่เราไมได้เป็นอะไรกัน"
"งั้นก็เป็นซะทีสิ" ศรันย์ยกมือขึ้นจับต้นแขนทั้งสองข้างของเรียว มองเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มด้วยสายตาแน่วแน่แล้วพูดขึ้นว่า "เรามาเป็นแฟนกันเถอะ"
"คนจะเป็นแฟนกันต้องรักกันไม่ใช่หรือ" เรียวเลิกคิ้วถาม
"ความจริงไม่ต้องรอถึงขนาดนั้นก็ได้หรอกนะ แค่ชอบกันมากๆ ก็ได้ แล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อย อีกหน่อยก็จะรักกัน"
"แสดงว่าคุณไม่ได้รักผม"
"ผมชอบคุณมาก รู้สึกดี รู้สึกพิเศษแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน"
"แต่ก็ยังไม่ได้รัก" เรียวแทรก
"ขอเวลาผมอีกนิด ไม่นานหรอกหมวดเรียว แต่ตอนนี้อย่ารอเลย"
"คุณจะฟันผมก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะรักหรือไมรักใช่ไหม"
"ไม่ใช่แบบน้าน" ศรันย์ลากเสียง "ผมหมายถึง...เอ่อ...ผมต้องการเวลาอีกสักนิด ผมไม่อยากจะโกหกคุณหมวดหรอกนะ ถ้าจะพูดออกมาก็ต้องรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ"
"แสดงว่าที่พูดว่าขอเป็นแฟน ก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ"
"ไม่ใช่ๆ" ศรันย์ส่ายหน้า "นี่คุณหมวด อย่ามาซักผมวกไปวนมาเหมือนซักผู้ต้องหาสิ ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดไม่เก่ง พูดแล้วเข้าใจยาก แต่ผมยืนยันว่าอยากเป็นแฟนคุณจริงๆ"
ศรันย์บีบไหล่ของเรียว มองเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มด้วยสายตาแน่วแน่ สื่อให้เห็นว่าจริงจังกับคำพูดของตัวเอง กลั้นใจ รอฟังว่าเรียวจะตอบกลับมาอย่างไร
♀♀♀
ในร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพมหานคร ชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารติดกับกระจกใสบานใหญ่ มองออกไปเห็นวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน แสงไฟระยิบระยับ บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายชนิด ชายหนุ่มร่างท้วมกำลังมีความสุขกับอาหารอร่อยตรงหน้า ต่างจากอีกคนซึ่งหนั่งหน้ามุ่ยอยู่ตรงข้าม
"นี่หมวดชิน ผมมันแย่นักหรือหมวดเรียวถึงไม่ยอมเป็นแฟนกับผม" ศรันย์โอดครวญ
"ผมว่าคุณก็โอเคนะ" ชินวัฒน์วางช้อนซ่อมลงบนจาน หยิบน้ำขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมกับเอามือลูบพุง ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
"ก็แล้วทำไมหมวดเรียวถึงไม่ตกลงปลกใจกับผมเสียที จะให้ตื้อไปถึงไหน"
"ขอถามหน่อย รถบีเอ็มรุ่นที่คุณขับกับเบ็นซ์ S500 นี่คันไหนแพงกว่ากัน"
"เบ็นซ์" ศรันย์ตอบสั้นๆ
"บ้านคุณกี่ตารางวา ราคากี่ล้าน" ชินวัฒน์ถามต่อ
"สามร้อย ห้าล้านห้า"
"อู่ซ่อมรถ คุณเป็นเจ้าของคนเดียวใช่ไหม ลงทุนไปกี่ล้าน ได้กู้เงินมาลงทุนหรือเปล่า"
"อือ" ศรันย์ทำเสียงในลำคอ พยักหน้า "กู้สิ แต่ก็เหลือแค่ไม่กี่ล้านเองนะ สิ้นปีก็เคลียร์ธนาคารหมดแล้ว เก็บเงินอีกซักปีผมก็จะขยายออกให้กว้างกว่าเดิม เหลือที่ข้างอู่อีกยี่สิบตารางวา"
"เคยเห็นบ้านผู้กองธามหรือยัง"
"ยังไม่เคย" ศรันย์ตอบ นิ่งไปชั่วอึดใจแล้วจึงพูดขึ้นว่า "อ๋อ นี่หมวดกำลังบอกว่าบ้านเขาหลังใหญ่กว่า รวยกว่าผมงั้นหรือ"
"หล่อกว่า หุ่นดีกว่า บุคลิกดีกว่า เท่กว่าด้วย" ชินวัฒน์พยักหน้า
"ขอบใจนะที่ให้กำลังใจ" ศรันย์เบ้ปาก กระแทกเสียง
"เผลอๆ ลีลาร่อนเอวอาจจจะดีกว่าอีกต่างหาก" ชินวัฒน์หัวเราะ ทำหน้าทะเล้น
"ดีกว่าได้ยังไง ยังไม่เคยลอง บอกไม่ได้หรอก"
"ถ้างั้นลองหน่อยสิ"
"บ้านน่าหมวดชิน กับคุณนะหรือ" ศรันย์โวย ทำหน้าตาขยะแขยง "กินหมวดไม่ลงหรอก เนื้อติดมันขนาดนี้"
"น้อยๆ หน่อย" ชินวัฒน์ค้อนขวับ "ผมหมายถึงลองกับหมวดเรียวต่างหาก"
"ลองได้ยังไง หมวดเรียวหวงเนื้อหวงตัวจะตาย"
"หวงเนื้อหวงตัวกับคุณ แต่เอ๊ะ ทำไมกับคนอื่นไม่เคยห่วง" ชินวัฒน์เอียงหน้า แกล้งทำท่าคิดสัย
"พอเลย ไม่ต้องมาแกล้งพูดให้ผมคิดมากเลย" ศรันย์โบกมือ
"ผมว่าคุณมอมเหล้าหมวดเรียวซะเลยสิ" ชินวัฒน์แนะนำ
"แนะนำแต่ละอย่าง ไม่มีสร้างสรรค์เล๊ย" ศรันย์โคลงศีรษะ "ผมจะโดนข้อหาข่มขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจนะสิ"
"เวลาคนเรามันเสียตัวให้กันแล้วเนี่ย จะคุยอะไรมันก็คุยกันง่ายนะคุณศรันย์"
"ถ้าหมวดเรียวฆ่าผมล่ะ คุณจะว่ายังไง"
"ถ้าเขารักคุณ เขาจะฆ่าคุณทำไม" ชินวัฒน์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "จะได้รู้กันไปเลยยังไงล่ะ คุณจะมามัวแต่นั่งบ่นอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่จะได้กินของดี"
"ผมไม่ได้แค่คิดจะกินหมวดเรียวนะ ผมจริงจังมากกว่านั้น"
"แต่คุณก็อยากจะกินก่อนอยู่ดีใช่ไหมล่ะ จะบอกความลับอะไรให้ หมวดเรียวแพ้เตกิล่า ช๊อตเดียวเท่านั้นล่ะ น๊อคสนิท"
"ผมไม่สิ้นคิด ทำอะไรงี่เง่าแบบที่หมวดแนะนำหรอก" ศรันย์เบ้ปาก หยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม นั่งมองชินวัฒน์ลงมือจัดการกับอาหารที่เหลือ ในหัวนึกถึงแต่ภาพของเรียว ความปรารถนาในใจรู้สึกรุมเร้ามากขึ้นทุกที ไม่เคยนึกเลยว่ามันจะมีอิทธิพลต่อตัวเขาถึงขนาดนี้
♀♀♀
คนพูดกันว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ศรันย์ชักจะเชื่อแล้วว่าจริง หลังจากส่งข้อความสั้นออดอ้อนกว่าสิบข้อความ หมวดเรียวก็ยอมมาทานข้าวที่บ้านของเขา
"แล้วเมื่อไหร่จะสืบเรื่องบ่อนการพนันนี่เสร็จเสียที ทำงานทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ไม่ไหวเลยนะคุณหมวด กว่าเราจะได้เจอกัน" ศรันย์บ่น
"งานสืบสวนของตำรวจนะคุณ ไม่ใช่งานนอนกลางวันเฝ้าอู่ซ่อมรถ" เรียวตอบ
"ขอให้พลาดหน่อยเถอะ หัวหน้าคุณหมวดจะได้ลงโทษให้นั่งทำงานเสมียนเอกสารประจำโรงพัก"
"ปากเสีย" เรียวทำหน้าดุ "แล้วนี่เมื่อไหร่จะได้กินข้าวเสียที หิวแล้วนะ ชวนมากินข้าวที่บ้านยังไงเนี่ย อะไรก็ไม่พร้อม"
"รอเดี๋ยว อีกไม่ถึงห้านาทีอาหารก็จะมาส่งแล้ว"
"อะไรกัน ชวนมากินข้าวที่บ้าน คุณสั่งอาหารมาส่งยังงั้นหรือ ไหนว่าชอบทำอะไรโรแมนติก โธ่เอ๊ย" เรียวโวยวาย
"ผมทำกับข้าวเป็นที่ไหนล่ะ"
"แล้วทำไมไม่บอก ผมทำเป็น หุงข้าวหม้อเดียวไม่เห็นจะยากตรงไหน ไข่เจียวสามฟอง หมูทอดกระเทียม แค่นี้ก็อร่อยแล้ว จะเสียเงินเสียเวลาสั่งอาหารให้มาส่งทำไม" เรียวบ่น ลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็น แต่เมื่อเห็นในตู้เย็นมีอะไรงบ้างก็บ่นต่อ "อะไรกัน ตู้เย็นเบ้อเริ่ม มีแต่เหล้าเบียร์กับน้ำอัดลม อาหารไม่มีเลย"
"ครั้งที่แล้วคุณอยากดื่มเบียร์แต่ผมไม่มี ก็เลยซื้อมาไว้" ศรันย์พูดเสียงอ่อน
"ซื้อไว้เสียเยอะ ยังกับว่าจะได้มากินบ่อยๆ"
"ผมอยากให้มาบ่อยๆ"
"มาดื่มเบียร์กับน้ำอัดลมที่บ้านคุณนี่นะ"
"ไม่ใช่แค่นี้นะ วันนี้มีเตกิล่า" ศรันย์ยิ้มกว้าง ชี้นิ้วไปที่บาร์เหล้า
"จะมอมเหล้าผมหรือ นี่หมวดชินคงบอกละสิว่าผมไม่ถูกกับเตกิล่า กะว่าพอผมเมาน๊อคไปแล้ว คุณก็จะฟันผมละสิท่า"
"ใครบอก" ศรันย์โบกมือปฏิเสธ "ถ้าผมอยากได้คุณหมวด มันก็ต้องเกิดขึ้นจากการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ผมไม่ฉวยโอกาสตอนเมาหรอก"
"แล้วคุณทนไหวหรือ คบกันโดยไม่มีเซ็กส์" เรียวถาม
"คุณหมวดก็อย่าให้ผมรอนานนักก็แล้วกัน ไม่งั้นไม่รับประกันความปลอดภัย" ศรันย์พูดเสียงต่ำ ยักคิ้ว ทำตาเจ้าชู้
"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องรอ กินข้าวเสร็จแล้วเราก็มีอะไรกันเลยก็ได้ ในอ่างจากุซซี่เหมือนเดิมนั่นล่ะ" เรียวหันไปมองนอกบ้าน "คุณไปเตรียมถุงยางกับหล่อลื่นให้พร้อม กินข้าวเสร็จพักซักสิบห้านาทีแล้วเริ่มเลย"
"หมวดเรียว" ศรันย์ครางเสียงเบา ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
"จะได้จบๆ กันไปเสียที" เรียวพูดต่อ
"อ้าว ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคุณหมวด ผมไม่ได้คิดแค่จะมีอะไรกันแบบน้ำแตกแล้วแยกทางนะครับ"
"ก็นึกว่าคุณแค่อยากได้แบบนั้น" เรียวยักไหล่
"ก็ด้วย แต่ว่า..."
"ถ้างั้นก็รอจนกว่าเราสองคนจะรักกัน" เรียวสรุป
"แล้วเมื่อไหร่ล่ะ" ศรันย์ขมวดคิ้ว
"ก็คุณพร้อมเมื่อไหร่แล้วค่อยมาบอกผมก็แล้วกัน ระหว่างนี้ก็รอไปก่อน" เรียวหัวเราะเบาๆ เดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปข้างนอกพลางบ่นว่าเมื่อไหร่อาหารจะมาส่งเสียที ขณะนั้นเอง เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น ศรันย์บอกว่าพนักงานส่งอาหารคงมาถึงแล้วจึงเดินไปเปิดประตูออกไปรับอาหาร
เรียวเดินตามไปยืนพิงกรอบประตู ทอดสายตามองศรันย์อย่างครุ่นคิด
ผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตเขาแบบไม่คาดคิด เริ่มสร้างความสัมพันธ์กับเขาทีละน้อย ความรู้สึกดีๆ เริ่มก่อตัวขึ้น ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็ค่อยๆ แทรกเข้ามาอยู่ในจิตใจเขาจนไม่อาจต้านทานได้
►จบบทที่ 18◄
ขอบคุณผู้อ่านที่ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน กดไลค์ และช่วยดันนะครับ ขอให้มีความสุขทุกคนนะครับ