กันย์ talk
ผมว่าผมเอาแต่ใจแล้วนะ แต่แม่อ่ะ เอาแต่ใจกว่าผมซะอีก!! ไม่อยากจะเมาส์แต่พอแม่มาหาผมเมื่อคืนผมก็มองเห็นหายนะอยู่รำไรแล้ว โชคดีที่แม่ไม่บังคับให้ผมเลิกกับเจ้านายแต่ก็ไม่รู้ว่าแม่จะจัดการกับพวกเรายังไงต่อ
“อ๊ะ คิดออกแล้ว”
แม่กล่าวด้วยแววตาพราวระยับ จากประสบการณ์ตลอดยี่สิบปีของผมที่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้มาผมบอกได้คำเดียวว่ามันต้องไม่ใช่ความคิดที่คนดีๆเขาคิดกันแน่ๆ ผมย้ายก้นมานั่งข้างนายอีกครั้งก่อนเกี่ยวแขนแกร่งมาเกาะเป็นลูกลิงโหนต้นไม้ นายแอบยิ้มขำ สงสัยกำลังคิดว่าผมเป็นปลิงรึไงนั่งข้างใครต้องเกาะแขนคนนั้น
“กันย์พกบัตรเครดิตมารึเปล่าคะ”
“ครับ?”
“เดบิตล่ะ”
“พกมาทุกบัตรเลย เอ่อ แม่มีอะไรเหรอ...”
“ยึดค่ะ ส่งมาให้แม่เร็ว กุญแจห้องนี้ด้วยค่ะ”
“ฮะ!?”
“นับตั้งแต่วันนี้จนกว่ากันย์จะเรียนจบแม่จะให้เงินกันย์แค่เดือนละสามพัน”
“ดะ เดี๋ยว ยึดกุญแจห้องไปงี้แล้วกันย์จะไปอยู่ไหนอ่ะแม่!!”
“อยู่กับเจ้านายไงคะ”
“ไชโย!! เอ๊ยยย เดี๋ยวๆๆๆๆ มันไม่ถูกมั้ยแม่ มีอย่างที่ไหนให้ลูกตัวเองไปอยู่กินกับแฟนเฉยเลย ที่สำคัญตัดเงินค่าขนมผมทำไมอ่ะ อ้อ จะพิสูจน์ใช่ป่ะว่าถ้าผมไม่มีจะกินแล้วนายจะทนผมได้กี่น้ำ โง๊ยยยยยยยยยยยย นายยยย ช่วยด้วย...”นายมองหน้าผมเหรอหรา อารมณ์แบบจะให้กูช่วยมึงยังไง๊
“ตกลงไหมคะเจ้านาย”
“ได้อยู่กับกันย์มันดีสำหรับผมด้วยซ้ำ แต่มันจะดีกับกันย์เหรอครับ?”
“น้าห้ามยังไงก็แอบไปมีอะไรกันอยู่ดีจริงไหมคะ สู้ให้ใช้ชีวิตร่วมกันไปเลย รอดไม่รอดให้มันรู้ไป ปีเดียวก็เรียนจบแล้วถ้าน้ามองแล้วว่าโอเคเดี๋ยวจะช่วยพูดกับสามีให้”
“แล้วชื่อเสียงตระกูลอ่ะแม่”
“แม่เอาอยู่ ไม่ต้องห่วง”
“จริงดิ”ผมกระพริบตาปริบๆ เลือกไม่ถูกระหว่างดีใจกับตกใจ ผมคิดไม่ตกว่าควรออกตัวปฏิเสธข้อเสนอนี้ของแม่ดีไหม เอาจริงๆผมก็ไม่อยากโดนชาวบ้านมองว่าเป็นเด็กใจแตกอ่านะ แถมยังมีเจ้าเมษเพื่อนรักที่ไม่รู้จะปากโป้งเอาเรื่องผมหอบข้าวของมาอยู่กินกับผู้ชายไปโพนทะนากับคุณหญิงคุณนายตระกูลอื่นอีก
“มีทางอื่นไหมครับ”คนที่ถามขึ้นมาก่อนคือเจ้านาย สีหน้าของนายฉายวายลังเลอย่างเห็นได้ชัด
“มีค่ะ”โอ้โห ผมว่าอิทางเลือกอื่นของแม่นี่แหละคือทางเลือกจริงๆที่แม่ตั้งใจเสนอพวกเราจริงๆ
“จากวันนี้จนกว่าจะเรียนจบห้ามทั้งสองคนเจอหน้ากันอีก ถ้าแอบเจอกันลับหลังแม่จะตัดกันย์ออกจากกองมรดก เลือกเอาระหว่างผู้ชายกับแม่!”
“หะ!!”พวกเราอ้าปากเหวอ
“อะไรอ่ะแม่ ไหนบอกว่าจะไม่บังคับให้เลิกกันไง!!”ผมแหกปากโวยวาย
“ใจเย็นค่ะกันย์ แม่ยังไม่ทันบอกให้เลิกกันสักคำ”คุณแม่ที่เคารพยกถ้วยน้ำขึ้นจิบ ผมเตรียมอ้าปากเถียงทว่านายกลับเขย่ามือผมเบาๆเป็นการปรามให้ผมฟังที่แม่พูดให้จบก่อน”แค่บอกว่าให้ห่างกันสักพัก อีก1ปีก่อนจะเรียนจบแม่จะตัดสินพฤติกรรมของเจ้านายเอง ระหว่างที่ไม่เจอกันเขามีคนอื่นไหม ทำตัวเหลวไหลรึป่าว? เรียนจบแล้วได้งานที่ไหน มีอนาคตพอจะดูแลลูกคนเดียวของแม่รึยัง แถมยังกันไม่ให้ลูกแม่ได้เสียกับผู้ชายจากไหนก็ไม่รู้อีก แม่คิดว่าข้อเสนอของแม่ดีที่สุดแล้ว”
“ทีตอนแรกยังจะให้มาอยู่ด้วยกันเลย...”ผมบ่นงืมงำในลำคอ รู้แหละว่าเมื่อกี้แม่แค่อยากลองใจพวกเราไม่ได้อยากห้อยู่กินกันจริงๆหรอก โฮยยยย มีแม่เป็นคนช่างคิดช่างวางแผนนี่ลำบากแท้น้อ ผมเอนตัวซบบ่ากว้างของเจ้านายอย่างหมดแรงพร้อมเอาหัวถูไถไปมาภาวนาให้เจ้านายปฏิเสธข้อเสนอนี้ไปซะ
“นาย...ไม่เอาแบบนี้ ไม่เอานะ...”อยากอยู่ด้วยกัน ตั้งหนึ่งปีเชียวนะ ผมไม่ขาดใจตายเลยเหรอ
“แต่ถ้าผ่านปีหน้าไปได้พวกเราก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ”คำพูดของนายทำผมเถียงไม่ออก ผมรู้จักแม่ดีกว่าใคร ลองผมกับเจ้านายปฏิเสธข้อเสนอของแม่ดูสิ ได้ตัดลูกตัดแม่กันจริงๆแน่
“ข้อเสนอของแม่ก็ไม่ได้แย่...แต่ว่า...”ผมยังไม่อยากยอมรับ
ถ้าหากพูดคำว่าตกลงออกไปก็ต้องจากกันเลยนะ
“ระหว่างนั้นผมยังโทรหาหรือคุยแชทกับกันย์ได้ไหมครับ”เจ้านายจี้จุดที่เป็นช่องโหว่งของข้อเสนออีกครั้ง จริงด้วย แม่ห้ามแค่ไม่ให้เจอกันแต่ไม่ได้ห้ามคุยกันนี่!! ผมรีบนั่งหลังตรงด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ส่งสายตาใสแจ๋วออดอ้อนคนเป็นแม่อย่างเอาเป็นเอาตาย แม่สบตากับนายก่อนชายตามองผมแว๊บหนึ่งพร้อมถอนหายใจออกมา
“หึ หัวไวเหมือนกันหนิ เอาเถอะ ถือว่าแม่สร้างกฎพลาดเองจะยอมให้ติดต่อกันสักหน่อยก็ได้”
“เย้!!”ดีใจสิครับรออะไร
“แปลว่ากันย์ก็ยอมตกลงแล้วใช่ไหมคะ”
“แหงะ”ผมหุบปากเก็บมือนั่งจ๋องเหมือนเดิม ให้ตายเถอะ!! เสียรู้ซะได้ ดีใจเหมือนยอมรับข้อเสนอไปแล้ว
“นาย...”ผมหันกลับไปเอาหัวไถกับไหล่แฟนอีกครั้ง
“อย่างอแงสิกันย์ บอกเองนะว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไร นายก็คิดว่าดี เพราะตั้งแต่โพสต์รูปคู่ที่ทะเลก็มีแต่คนสอดรู้เต็มไปหมดนายเองก็กังวลเรื่องนี้อยู่”
“แต่ถ้าเราเลิกกันตอนนี้กันย์ก็โดนเอฟซีนายเย้ยเอาดิ เสียฟอร์มหมด ToT”
“เห้ๆ ที่ไม่ยอมๆอยู่เนี่ยเพราะกลัวโดนหัวเราะเยาะที่ห่างเจ้านายแค่นั้นเหรอ ไอ้เรารึอุตส่าห์ดีใจนึกว่าอาลัยอาวรณ์กัน”
“ฮืออออออ อาลัยอาวรณ์ดิ สุดๆเลยเนี่ย หนีตามกันได้ทำไปละ”
“น้อยๆหน่อยค่ะ อย่าลืมว่าแม่นั่งอย่ตรงนี้ทั้งคน”คุณแม่ที่ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้อยู่หมัดกระแอมไอเตือนสติผมไม่ให้แรดเกินงาม”กันจะทิ้งแม่ได้ลงคอเหรอคะ ระวังจะเสียใจทีหลัง”
“แม่ไม่รู้อะไร กว่าจะได้นายมาไม่ใช่ง่ายๆ ไม่เคยได้ยินคำว่าเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครเหรอ”
เพี๊ยะ
“โอ๊ยยย เจ็บ แม่ตีผมไมอ่ะ”
“ยังมีหน้ามาถามอีก ตีไล่แรดไงคะ ให้ตายเถอะ ลูกชายแม่เป็นไปซะขนาดนี้ได้ยังไงไม่อยากจะเชื่อเลย ดีนะที่แม่มาเจอก่อน”
.
.
.
ตอนนี้ผมกำลังจัดนั่งจ๋องเขี่ยฝุ่นอยู่บนพื้นห้องของนาย อยากจะร้องไห้เป็นภาษาฮินดี สุดท้ายเจ้าตายก็ตกลงข้อเสนอของแม่โดยที่ผมปฏิเสธอะไรไม่ได้
“กันย์ ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงดีๆสิ”นายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมานั่งยองๆข้างกัน พยามฉุดแขนให้ผมลุกขึ้นยืนแต่ผมฝืนแรงอีกฝ่ายไว้
“เช๊อะ”ผมสะบัดหน้าหนีไปอีกทางด้วยความงอน
“ไม่เอาแบบนี้สิครับคนดี อย่างอนนายเลยนะ แค่ปีเดียวเอง นะๆ เดี๋ยวโทรหาทุกวันเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนเลยอ่ะ สัญญา”ผมมองนิ้วก้อยที่ยื่นมาตรงหน้าด้วยความรู้สึกโหวงๆ สุดท้ายผมก็ยอมยื่นนิ้วตัวเองไปเกี่ยวก้อยเขา
ก็ผมไม่มีเวลาให้เล่นตัวแล้วนี่นะ
นายขอคุณแม่ว่าอยากอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด แค่คืนเดียวก็ได้ สุดท้ายคุณแม่ก็อนุญาตให้ผมมาค้างห้องของนาย
เป็นคืนสุดท้าย...
“ฮึก...”ผมเริ่มเบะปาก
“นาย โฮ...”ก่อนน้ำตาโง่ๆจะไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก มือหนาพยามเช็ดน้ำตาให้แต่มันคงมากเกินไปสุดท้ายเจ้านายเลยเลือกลากผมเข้าไปในอ้อมแขน ผมซุกหน้าลงกับไหล่ของเจ้านายปล่อยให้เขาลูบหัวผมเบาๆอยู่หลายอึดใจ
“ไม่ต้องร้องนะ สัญญาว่าจะไม่มีคนอื่น จะรักกันย์คนเดียวเสมอเพราะงั้นไม่มีอะไรต้องกลัวนะคนดี อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”เสียงทุ้มพร่ำปลอบผมว่าไม่เป็นไรซ้ำไปซ้ำมา
“ก็มันเจ็บใจนี่!! พวกเราเพิ่งรู้ว่าใจตรงกันเมื่อวานก่อนเองนะ ไม่ถึงสองวันอ่ะ!! โดนจับแยกกันซะละ ไอ้เมษ!! ไอ้บ้า!! ไปตายซะเถอะ แงงงงงงงงงงง อย่าให้เจอนะจะข่วนให้หน้าแหกเลย”