Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09  (อ่าน 16269 ครั้ง)

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ถึงตอนนี้ทำไมอยากเชียรโฟร์

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เชียร์โฟร์นะ แต่พอคนแต่งบอกนางมีคู่ก็โอเคค่ะ  :katai5:

โฟร์เป็นแฟนซอนิจ๊ะ^^
อ้าวๆ.......แล้วพี่่ธันล่ะ
คนหนึ่งมือเย็น คนหนึ่งมืออุ่น 3P ไปเล้ย
สร้อยพี่ธันจริงๆด้วย
โฟร์ ชัดเจนมากๆ กล้าพูดบนเวทีประกวดดาว เดือน
ว่าชอบซอ ซะด้วย
สนุกมากกกกก เดาทาง มะ ออก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เอ กับพี่พลอยอีก
พี่ชิน กับเอ อีก สงสารพี่ชินนะ จองเอ มาตั้งนาน
แล้วพี่ฉิ่ง จะมีคู่มั้ยเนี่ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
........
ปล. ขอแก้คำผิดนะ
กามยังปวดๆอยู่เลย ------  กราม
จะอวก ------ อ้วก
สาระภาพ ------ สารภาพ
วรรณทอง ------ วันทอง
เล้าลือ ------ เร้าหรือ
พะลุงพะลัง ------ พะรุงพะรัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 18:27:10 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1

ตอนที่13 โกหกสีขาว





เดือนหนึ่งเต็มๆแล้วสินะที่ผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตน มันยังไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ เตียงนอนเหมือนแคบลงไปเยอะ ชุดนอนตัวโปรดก็มีคนมาแย่งใส่ ผ้าห่มก็มีคนมาแย่งห่มทุกอย่างเหมือนถูกหารสอง แต่ก็ไม่ได้มานอนทุกวันหรอกนะครับ เพราะแฟนต้องช่วยงานที่โรงแรมไปๆมาๆ พอมีแฟนนะผมก็เหมือนหมาหัวเน่าของบ้านเลย มันเอาใจเก่งมากครับ เอาใจจนอาม่าลืมทศพลคนนี้ไปซะแล้วน้อยใจจริงๆ



ครอบครัวไม่ได้สนับสนุนให้มีแฟนเป็นผู้ชายหรอกนะครับ  ทุกคนขอแค่คนที่เข้าใจและดูแลผมได้ โชคดีที่ผู้ชายคนนั้นชื่อโฟร์ คนที่เป็นเพื่อนสนิทและยอมเสียสละคบกับคนป่วยประหลาดอย่างผม พวกเขาถึงไม่ว่าอะไรตอนที่เราคบกัน 



เราสองคนมีเวลาดูหนังฟังเพลง กินข้าวด้วยกันมารับมาส่ง ใช้ชีวิตร่วมกันเยอะขึ้นเหมือนย้อนกลับไปเมื่อตอนมัธยม ขอเม้าท์แฟนหน่อยล่ะกัน มันอยากจับมือผม มันกล้าจับ มันอยากกอด มันก็กล้ากอด แต่มันยังไม่กล้าจูบผมเลยสักครั้ง เชื่อไหมละครับ




นอกจากจะเป็นหนึ่งเดือนที่มีแฟนแล้วยังเป็นอีกหนึ่งเดือนที่ผมไม่เจอหน้าพี่ธันเลย ยิ่งกว่าหักดิบหายออกมาจากวงจรชีวิตพี่เขาดื้อๆ เลิกขายประกันเลิกวอแวเลิกตื้อ Twinsก็ไม่ไปเที่ยว สภาพจิตใจเกือบหายเป็นปกติ มีบ้างที่แอบคิดถึงรอยจูบ แต่พอเจอหน้าแฟนความคิดนั้นสลายไป



แล้วพี่ธันละทำอะไรอยู่ อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าให้เดาคงไม่ต่างจากที่ผมเคยเจอมา ทำงานหนัก เที่ยวหนัก ใช้ชีวิตคุ้มค่าอย่างเคย เมียก็สามารถสั่งได้เหมือนอาหารตามสั่ง อยากอยู่กับใครขอแค่บอก  บรรดาเมียทั้งหมดพร้อมที่จะรับใช้และปรนนิบัติเป็นอย่างดี เผลอๆป่านนี้คงหาเมียใหม่มาแทนที่ไอ้บลูเป็นที่เรียบร้อยแล้วมั้ง


 
ครั้นจะถามไถ่จากไอ้ฉิ่งพี่ในไส้ของผมอย่าได้หวังพี่ชายผมก็ไม่เคยเล่าเรื่องเจ้านายให้ฝังเลยสักครั้ง มันพูดเพียงแค่ว่าเรื่องที่ทำงานไม่ใช่เรื่องที่บ้าน ไอ้นี้นินทาคนอื่นไม่เป็นเสียด้วย แต่ถ้าถามว่าพี่ธันเลิกไลน์หาผมแล้วหรือยัง ยังนะครับไลน์มาเป็นพันๆข้อความ เดี๋ยวผมจะเปิดให้ดูจะหาว่าผมใส่ร้าย




December09:ตอบหน่อยสิมึง
December09:จะหนีกูให้ได้ใช่ป่ะ
December09:ไอ้ฉิ่งทำงานไม่ทันกูจะหักเงินพี่มึง
December09:กูไปกินข้าวก่อนพลอยรอ
December09:ไปกินเค้กเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม
December09:ไม่ตอบไม่เป็นไรขอแค่อ่านก็พอ





ส่วนสภาพเพื่อนสนิทยังทรงตัวไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง มันขนเสื้อผ้ามาสิงสถิตที่บ้านผมเป็นอาทิตย์ ข้ออ้างคือหาเพื่อนเชียร์บอล เชียร์บอลบ้าอะไรครับเพื่อน  มึงนั่งปรับทุกข์กับแก้วเหล้าทุกคืนเลย



 ครืด~~ ครืด~~~ครืด~~~~



“เอโทรศัพท์มึงอ่ะ” ผมเขย่าตัวไอ้เอให้รับสายที่สั้นอยู่หลายรอบ

มันกลับดึงผ้าห่มคลุมหัวมิดไม่สนใจ “อืม เดี๋ยวค่อยรับ” เสียงงัวเงียรอดออกจากผ้า

“พี่กัสโทรมา รับสายเหอะธุระด่วนป่าวมึง”

ไอ้เอโผล่หน้าออกจากผ้าห่มอย่างเซ็ง “เออๆ หยิบมา”

ผมยัดโทรศัพท์ให้เพื่อนที่ยังหลับตาปี๋ “มีไรกัส” น้ำเสียงเซ็งเหลือเกินนะเพื่อน



เสียงสูงต่ำของพี่กัสกระแทกใส่ รอดจากโทรศัพท์สลับกับอารมณ์ของคนปลายสายจับใจความสำคัญไม่ได้ แต่ดูท่าเกิดเรื่องชัวร์ๆ มันคงเป็นเรื่องที่สำคัญมากไอ้เอฟังแล้วถึงกับปล่อยโทรศัพท์หลุดมือตาแข็งเบิกกว้างไม่กระพริบ พี่กัสเงียบเสียงไปได้ยินแต่ ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด  ไอ้เอนอนแน่นิ่ง ญาติฝ่ายไหนเสียวะเอมึงถึงช็อกขนาดนี้



“มีใครเป็นไรมั้ยเอ”

“เป็น กูกำลังจะเป็นพ่อ” ตอบเสียงสั่นๆ ตากระพริบปิบๆ

“อะไรนะ มึงพูดใหม่อีกรอบดิ” มือผมฉุดตัวมันให้ลุกขึ้นนั่ง

“พี่พลอยท้อง”

“จริงป่ะเนี่ย ดีใจด้วยมึง”

ไอ้เอก้มหน้าซบเข่า “แต่พี่พลอยจะเอาเด็กออก”

“ทำแบบนี้ได้ไง มึงอาบน้ำเลยกูพาไปหาพี่พลอยเอง เป็นไงเป็นกัน”




เพื่อนหน้าเครียดมาตลอดทางตาแดงก่ำตั้งแต่ออกจากบ้านมือสองข้างกำหมัดแน่นอย่างกระวนกระวายเครียดหนักจนสั่น คิดแล้วก็อดใจเสียไม่ได้ทำไมพี่พลอยผู้หญิงหน้าสวยๆที่ผมเคยชื่นชมถึงใจร้ายได้ลงคอลูกทั้งคนจะทำร้ายได้ไง



ผมโชว์นามบัตรตามเคย เร่งฝีเท้าตรงรี่ขึ้นลิฟท์มา เลขาสาวนั่งยิ้มแฉ่งคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องเจ้านายแต่ต้องวางสายเมื่อเห็นผมกับเพื่อนเดินฉับๆขาแทบพันกัน




“เอ มาได้ไง” เลขาสาวหน้าเลิ่กลั่ก

ปึ๊ก! ไอ้เอวางมือที่โต๊ะทำงานเท้าแขนคุย

“พี่ทำแบบนี้ได้ไงพี่พลอย” น้ำใสๆหยดแหมะๆลงที่โต๊ะ เลขาคนสวยสะดุ้ง ด้วยความตกอก ตกใจ

“เฮ่ย! เอ ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น”

ไอ้เอเริ่มพูดไม่เป็นภาษา

“พี่หื้อ พี่หื้อ พี่หื้อ อึก อึก” สะอึกสะอื้นเสียงดังยิ่งกว่าที่ปรานบุรีเมื่อเดือนก่อน

“เข้ามาคุยให้ห้อง” พี่พลอยลุกขึ้นเคาะประตูขออนุญาตเจ้านาย

ก๊อก!ก๊อก!

“ธันขอยืมห้องหน่อยนะ” พี่ธันพยักหน้ายิ้มมุมปาก ไอ้ซอเดินไปนั่งลงที่โซฟาเมื่อเจอโจทย์อย่างพี่ธันทำหน้าเข้มใส่

“เอเป็นอะไร” พี่พลอยถามอีกครั้ง

“พี่พลอยท้องใช่มั้ยครับ” พี่พลอยดูแปลกใจนิดหน่อย

“ใช่”

“ผมไม่ให้พี่เอาลูกผมออก ยังไงก็ไม่ยอม” พลางยกแขนบาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

“ไว้คุยกันวันหลังวันนี้พี่ต้องประชุมกับธัน” ผมมองแม่ของลูกตาเขม็งที่พยามยามบ่ายเบี่ยงหนี รีบคว้าหมับที่แขนพี่พลอยก่อนที่จะเดินหนีไป

“ผมไม่ให้พี่ไปไหนทั้งแหละ พี่ต้องอยู่ประชุมกับผมให้รู้เรื่อง”

“จะรีบไปไหนพลอยอีกตั้งสองชั่วโมง ประชุมกับเอก่อนก็ได้กูไม่ว่าหรอก” พี่พลอยมองค้อนพี่ธันด้วยหางตาแล้วนั่งลงอีกครั้ง

“ถ้าพี่เอาลูกผมออก ผมจะแจ้งตำรวจจับพี่ ฟ้องมูลนิธิปวีณา แล้วก็จะฟ้องลุงตู่ให้เรียกพี่ไปปรับทัศคติซ่ะใหม่ แม่ใจร้ายลูกนะพี่พลอย อย่าทำเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ๋าฮ่าฮ่าฮ้า” พี่ธันถึงกลับหัวเราะลั่น

พี่พลอยแอบยิ้มมุมปาก “เอแน่ใจได้ไงว่าลูกเอ”

“อย่าเฉไฉพลอยใช่ก็คือใช่” เจ้านายพี่พลอยสร้าง
กำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้ผม

“ถึงผมจะเด็กกว่าแต่ผมก็พอรู้อะไรคืออะไร พี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ลูกผม ถ้าพี่ไม่เอา ผมขอ ผมเลี้ยงเองได้ พี่มันยักษ์ใจร้าย” ขอเป็นลูกหมาเลยเอเอ๊ย

“ใครบอกเอ พี่จะเอาเด็กออก”

“ไอ้กัส”

“พี่ไม่ได้จะเอาออก พี่แค่จะเป็นซิงเกิ้ลมัม”

“ไม่ได้!ผมยังไม่ตายพี่เป็นซิงเกิ้ลมัมได้ไง ไม่ใช่ลูกพี่คนเดียวซ่ะหน่อย ผมมีเงินเก็บมีเงินเลี้ยงลูก ถ้าลูกเข้าอนุบาลผมก็เรียนจบมีงานทำ ผมไม่ยอมให้พี่เลี้ยงลูกคนเดียวหรอกนะ พี่ใจดำเกินไปแล้วพี่พลอย”

“รับผิดชอบแต่ลูกหรอเอ” พี่ธันสอดแทรกขึ้นมา

“ธันมึงหยุดพูด” พี่พลอยมองแรงพี่ธันอีกรอบ

“พี่พลอยแต่งงานกับผมนะ”

“ห๊ะ!?” พี่พลอยอึ้งและหน้าเหวอ เพราะคนที่ขอแต่งงานคือผม ผมคือน้องชายของเพื่อนสนิท
 
“ผมพูดจริง พ่อแม่มีหลาน เขาคงไม่กล้าฆ่าผมหรอกหน่า”

“เอคือพี่ พี่..” พี่พลอยกระอักกระอ่วนที่จะตอบ

“ถึงอะไรๆจะไม่ได้เกิดจากความรักต่อจากนี้ไปมันคือความรับผิดชอบระหว่างผมกับพี่ พี่พลอยอย่างรังเกียจเด็กอย่างผมเลยนะ ขอโอกาสให้ผมได้เป็นพ่อของลูกอย่างภาคภูมิใจเหอะพี่ ผมสัญญาผมจะดูแลพี่กับลูกอย่างดี พี่เลิกใจร้ายกับผมได้แล้ว” พี่พลอยเงียบขมวดคิ้วชนกัน

“แต่งก็แต่ง มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนินะ” แม่ของลูกก้มหน้าลงมองที่ท้อง ผมลุกจากโซฟานั่งลงที่พื้นใกล้พี่พลอยยื่นมือไปแตะ

“สวัสดีครับลูก”

พี่พลอยมองเด็กอายุ19ที่นั่งอยู่ตรงหน้าแววตาเหมือนมองน้องคนหนึ่ง

“ขอบใจนะคุณพ่อ”

ปากผมเริ่มขยับยิ้มหน้าที่เปียกกลับมาสดใสขึ้นทันตา พ่อ ผมกำลังจะเป็นพ่อความรู้สึกที่มันอัดแน่นในอกจ่อที่คอหอย และยากที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ ผมกำลังจะเป็นพ่อเอ
 
“ผมกอดได้ไหมพี่พลอย” เป็นคำถามที่เสียงเบามากจากลำคอ พี่พลอยพยักหน้า ผมถลาเข้ากอดเต็มอ้อมแขนด้วยความสุข พี่พลอยกอดผมเบาๆ  ไอ้ซอนั่งยิ้มแก้มเป่ง พี่ธันย้ายตัวเองจากโต๊ะทำงานมานั่งลงที่โซฟาอีกคน

“พลอยแคนเซิลประชุมนะวันนี้ มึงต้องพัก”

พี่พลอยผละตัวออก “ไม่ไปไร กูประชุมได้เสียงานหมด”

“กูเป็นเจ้านาย มึงเป็นเลขาเผื่อต้องไปเจอพ่อแม่เอ กูให้ลางานอาทิตย์หนึ่ง” ขอบคุณครับพี่ธันที่ช่วยผม

“จริงด้วยพี่พลอยไปหาพ่อแม่กัน”

“วันนี้เลยหรอเอ พี่ว่า..”

“วันนี้แหละพ่อแม่อยู่บ้าน ไอ้กัสก็อยู่ทุกคนต้องดีใจแน่”

พี่พลอยสบตากับเพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือยันตัวเองให้ลุกขึ้น

“พี่จะติดคุกมั้ยเนี่ยเอ” ตัวผมกระเด้งลุกขึ้นตามพี่พลอยมาติดๆ

“ซอกูกลับก่อนนะ”

“กูกลับด้วย”

“เดี๋ยว! อยู่ประชุมกับกูก่อน” พี่ธันยืนขวางหน้า ไอ้เอเดินพ้นประตู เหลือแค่ผมกับพี่ธัน ความเงียบคืบคานเข้ามา ตึก ตึก ตึก อย่าเต้นดังนักดิหว่า เขาจะได้ยิน

“พี่ธันขอทาง”

“คุยกันก่อน กูมีเรื่องคุยกับมึง ได้คำตอบแล้วค่อยกลับ” พี่ธันวางมือที่ไหล่กดตัวผมให้นั่งลงที่เดิม

“พี่จะคุยเรื่องอะไร” วาระการประชุมของผมกับเจ้านายเริ่มขึ้น

“มึงกับไอ้เด็กเหี้ยนั้นเป็นแฟนกันจริงหรอ”

“..!?..พี่หมายถึงไอ้โฟร์”

“มันนั้นแหละ”

“ใช่ เราเป็นแฟนกัน เป็นตั้งแต่กลับมาจากปรานวันนั้น”

“ประชด?”

“ผมจะประชดพี่ทำไม”

“มึงรักมันหรอ” พี่ธันยื่นหน้าเข้าใกล้ ผมก็พยายามเอนตัวออกเพราะมันใกล้มาก

“รักสิไม่รักผมจะเป็นแฟนกับมันได้ไงล่ะ” ตาเล็กๆของผมไม่กล้ามองประจัญหน้าเอาแต่หนีพี่เขาท่าเดียว

“ตอบใหม่อีกครั้ง รักมันหรอ” พี่ธันเอามือมากุมแก้มผมไว้แล้วค่อยๆดึงตัวผมให้กลับมานั่งตัวตรง ลมหายใจเริ่มรวนระบบการเคลื่อนไหวเริ่มติดขัด เวลาอยู่ใกล้แล้วเป็นแบบนี้ทุกทีเลยแพ้ริมฝีปากพี่ธันจังครับ แต่ก็ยังไม่ชอบมือเย็นคู่นี้อยู่ดี

“ใช่!ผมรักโฟร์”

“โกหกตัวเอง” ผมไม่ได้โกหกตัวเอง แต่ผมกำลังโกหกความรู้สึกที่มีกับพี่อีกคนต่างหาก

“พี่จะถามผมทำไม ต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้ว พี่มีคนของพี่ ผมมีคนของผม อย่าทำอะไรให้มันแย่กว่าที่เป็นตอนนี้เลยพี่ธัน เนสกับเบลล่ะนึกถึงมันสองคนบ้างรึเปล่า”

“พี่ไม่สนซอจะรักใคร แต่พี่อยากรู้ซอรักพี่มั้ย”  ตึก ตึ่ก ตึ้ก

“พี่ธัน ผมไม่ตอบข้อนี้”  ตึ่ก ตึ้ก ตึ๊ก ตึ๋ก

“ไม่เป็นไร พี่พอเดาได้”

“อะไรของพี่เนี่ย อย่าคิดเองเออเองดิ”

“งั้นให้ตอบอีกครั้ง ซอรักพี่มั้ย” อย่าเอาหน้ามาใกล้มากพี่ธัน 

“ไม่รัก” ทำไมใจสั่นมือสั่นแก้มก็ร้อนผ่าวๆดวงอาทิตย์ประเทศไทยอยู่ใกล้เกินไปละนะ
 
“โอเค ไปกินข้าวกันพี่หิวแล้ว”

“ถึกทักเองหมดเลย ถามผมก่อนดิ” ผมโวยวายเสียงอ่อยใส่รองประธานบริษัทที่ยืนตรงหน้า

“ร้านอยู่ตรงข้ามเดินนิดเดียวก็ถึงจะโวยวายทำไม เด็กนิสัยเสีย” นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากผมหงายเงิบ

“ผมไม่ได้หมายถึงใกล้ไกล แต่ผมยังไม่ได้บอกเลย ผมจะไปกินข้าวกับพี่” เด็กซอต่อปากต่อคำกับผมไม่เลิก ยังคงสดใสพูดเยอะเหมือนเคย เสียงแจ้วๆนี่ไม่ได้ยินนานเหมือนกันนะ

“หรือจะหลับรอก็ได้นะ กินอิ่มแล้วจะมาปลุก” รีบเอามืออุบปากไว้เพราะคำขู่ที่รู้กันอยู่ว่าจะโดนอะไร แล้วเด็กตาเล็กลุกขึ้นหน้ามุ่ย

“เผด็จการ ฮิตเลอร์ ปูติน ศาลเตี้ย” เสียงบ่นพึมพำ

“อึ๊ย.. เดี๋ยวผมรับสายก่อน” เด็กซอก้มดูที่หน้าจอสลับกับเงยมองหน้าผม แล้วกดรับสาย

“มีอะไรป่าวโฟร์” มิน่าละทำท่าทางลังเลก่อนรับที่แท้ก็แฟนโทรมา

“กูพาไอ้เอมาทำธุระนิดหน่อย” “เลิกเรียนรึยัง” “อยู่แถวบางเขนนี่แหละ” “เจอกันตอนเย็นนะ” ยัดมือถือเก็บเรียบร้อยก็ทำหน้ามึนอย่างนิ่งๆ

“ที่นี่อนุสาวรีย์ชัย ไม่ใช่บางเขน เด็กขี้โกหก”

“โกหกสีขาวอ่ะพี่ธัน ผมไม่อยากให้มันคิดมากแล้วยิ่งอยู่กับพี่ด้วย มันโกรธแน่”

“จะโกหกสีอะไรก็คือโกหก ทีหลังก็บอกมันไปตรงๆเลย มันจะได้รู้ซออยู่กับพี่”

“พี่ไม่เข้าใจผมหรอก เพราะยังไงผมก็ห่วงความรู้สึกมัน”

“แล้วพี่ล่ะ”

“พี่ธัน”

“ล้อเล่นๆ ไปกินข้าวได้ล่ะ”





เถียงกับคนตัวโย่งเสร็จก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งของที่ทำงาน เป็นร้านสเต็กเล็กๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เสียงดนตรีเปิดคลอ พี่ธันให้ผมเลือกที่นั่ง ดังนั้นผมก็นั่งโต๊ะในสุดของร้าน ผมสั่งสปาร์เก็ตตี้ผัดขี้เมาขนมปังกระเทียมกับโค้ก ของพี่ธันเป็น พ๊อกช็อปสลัดกับกาแฟเย็น




“เชิญค่ะ” พนักงานกล่าวต้อนรับแขกใหม่ที่เพิ่งเดินเข้าร้าน ผมยังก้มหลบพี่ธันไม่สนใจคนเข้าออกในร้าน

“มึงมานี่ได้ไงซอ” เสียงคุ้นมากเงยหน้ามอง

“อ่าวฉิ่ง” พี่ชายผมยืนกับเพื่อนอีกคน
 
“นั่งด้วยกันเลย ฉิ่ง เติ้ล”  พี่ธันชวนทั้งสอง พี่ชายนั่งข้างผม เพื่อนอีกคนนั่งกับพี่ธัน

“คุณธันขอนุญาตินั่งร่วมโต๊ะนะครับ”

“เติ้ลอย่ากวนตีน” เจ้านายด่าลูกน้องอย่างคุ้นเคยสนิทสนม

“เติ้ล นี่ไอ้ซอน้องเรา”

“สวัสดีครับพี่เติ้ล” ไอ้ฉิ่งหยุดเว้นวรรคสูดลมหายใจ

“ส่วนนี่เติ้ล แฟนกู” ผมหันขวับคอแทบหักด้วยความตกใจ มองหน้าพี่เติ้ลอย่างไม่ละสายตา เป็นพี่น้องกันมานานเพิ่งรู้ว่ามันชอบผู้ชาย

“ไอ้ซอมึงจะค้างอีกนานมั้ย” มันตีหลังผมปั้กๆ

“ไม่เคยรู้เลยฉิ่ง มึงมีแฟนตอนไหน แถมยังเป็น..” พี่เติ้ลส่งรอยยิ้มหวานกลับให้ผม

“พี่กับฉิ่งเป็นแฟนกันตอนมหาลัย พอทำงานก็ทำที่เดียวกัน ไม่เคยไปหาที่บ้านเพราะพี่ไม่กล้า ขอโทษซอด้วยที่ทำให้ตกใจ”

“เออก็ตามที่เติ้ลบอก กูชวนไปบ้านนะไม่ใช่ไม่ชวน แต่ไม่ยอมไปสักทีไม่รู้กลัวอะไรป๊าม๊าใจดีจะตาย”

“เรายังไม่พร้อม” พี่เติ้ลนั่งม้วนข้างพี่ธัน

“เอาๆ รู้จักกันแล้วนะ สั่งสักที” เจ้านายเสียงดังขึ้น

“แล้วน้องผมมากินข้าวกับพี่ได้ไงพี่ธัน” ไอ้ฉิ่งเปิดประเด็นใหม่ เปลี่ยนใจเอาใส่กล่องกลับไปกินบ้านแทนได้ไหม จะถามทำไมนะเฮีย

“กูพาไอ้เอมาหาพี่พลอยแต่มันหนีกลับก่อนเลยเหลือแค่กูกับพี่ธันสองคน จริงๆมากันสี่คนนะมึง”

“แก้ตัวเป็นดาราเลยสัส กูถามพี่ธันไม่ได้ถามมึง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กเอ่ยเด็ก” แทนที่จะช่วยผมพี่ธันดันหัวเราะใส่ ใครขู่จนต้องมาด้วยแบบนี้ล่ะ

"อย่าบอกโฟร์นะฉิ่ง มันไม่มีอะไรจริงๆ" พี่ธันมองผมตาแข็งตอนที่ผมพูดกับพี่ชาย

"กูพี่มึงนะซอ"






ท้องอิ่มก็เดินมาที่ลานจอดรถเพื่อรีบกลับบ้านรอฟังข่าวของไอ้เอที่กำลังไปได้สวยกับพี่พลอย อีกอย่างป่านนี้แฟนผมน่าจะไปรอที่บ้านแล้ว



“ใช้รถมันด้วยหรอ” แน่นอนว่าพอร์ชสีขาวป้ายทะเบียนเลข4ตัวเดียวบอกถึงเจ้าของได้เป็นอย่างดี

"แปลกตรงไหนพี่ แฟนกัน"

พี่ธันมองผมเจ้าเล่ห์เดินประชิดตัวดันผมให้ถอยหลังชนกับรถแขนสองข้างเท้ารถขังผมไว้

“อยากกลับบ้านไปหามันรึอยากนอนอยู่ที่นี่” ตึกตึก  ตึกตึก

“เห้ย!พี่ธันเลิกแกล้งผมได้แล้ว”

มืออุบปากไว้แต่ตัวยังอยู่ในวงแขนหนีไงดีวะ เร็วๆคิดๆหน้าพี่ธันเลื่อนเข้าใกล้แล้ว ใกล้แล้ว ใกล้มากด้วย อ่า…ไม่ทันละซอ ริมฝีปากนิ่มจูบลงที่เหม่งเรียบร้อย เสียงหัวใจหยุดเต้น แพ้พี่ธันอีกละ

“เด็กประหลาด ถ้าหลับที่นี่ก็แย่สิ พี่จะอุ้มไปนอนไหน จริงมั้ย” 

มือขยี้หัวจนฟูฟ่อง ตึก ตึก ตึก เต้นแล้ว ใจผมกลับมาเต้นแล้ว



ยิ่งหนียิ่งเจอ ยิ่งห้ามยิ่งสั่น ยิ่งใกล้ยิ่งกลัว












999999999999999999999999999999








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2017 14:03:54 โดย 19919 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอ พี่พลอย ตกลงกันได้แล้ว เยี่ยม  :katai2-1:
เอ เป็นสามี มีลูกเลย
พี่พลอยสุดเซ็กซี่ ทำท่าชอบหญ้าอ่อน
ไม่น่าเชื่อได้หญ้าอ่อนจริงๆ
พี่ธัน กลับมาทำให้ซอ ใจเต้นใหม่  :ling1:
พี่ฉิ่ง ม้ามืด มีแฟนตั้งแต่ยังเรียน ปิดที่บ้านได้สนิทมาก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล.  ขอแก้คำผิดนะ
ผะเด็ดการ ------ เผด็จการ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2017 04:40:09 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ ครับ
ขอบทให้โฟร์อีกนิด ตอนนี้น้ำหนักยังเทไปที่พี่ธันมากกว่าหน่อย จะได้ลุ้นได้สูสีหน่อย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่ธันชอบหยอกอ่ะ แต่ไม่มีความชัดเจนให้ จะช้อนซอไปไว้ในฮาเร็มอีกคนหรือไง

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ไม่อยากให้พี่ธันเป็นพระเอกเลยอะ  เจ้าชู้ตัวพ่อ   ขี้อ่อย  ซออย่าหวั่นไหวเลยนะ  คนแบบนี้จะเลิกเจ้าชู้ได้เหรอ 
ซอคู่กับโฟร์ดีแล้ว  สงสารโฟร์  เฮ้อ  :z3:

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ ครับ
ขอบทให้โฟร์อีกนิด ตอนนี้น้ำหนักยังเทไปที่พี่ธันมากกว่าหน่อย จะได้ลุ้นได้สูสีหน่อย
ขอบคุณมากค่ะ
หวานๆของโฟร์มีนะ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 14 หวานกว่าแฟนผมก็มีแค่น้ำตาลแหละครับ




หลังจากที่กินข้าวกับพี่ธันจนอิ่มแปร้ผมต้องทนนั่งติดแหงกในรถหลายชั่วโมงกว่าจะฝ่ารถติดกลับมาถึงบ้านได้ ทำเอาสเต็กที่เพิ่งกินมาย่อยพอดี ว่าแต่เย็นนี้คนในบ้านมีความสุขเรื่องอะไรกันถึงได้ยินเสียงหัวเราะลั่นดังกลบเสียงรถที่เพิ่งวิ่งเข้ามาจอด หรือเจ้ขิมถูกล็อตลี่นะ แต่ไม่น่าใช่เพราะนี่ยังไม่สินเดือน



ทว่าขณะที่ผมกำลังจะถอดรองเท้าและเดินเข้าบ้าน บทสนทนาบางอย่างที่กำลังพาดพิงถึงผมจนน้ำตาตกใน คำพูดนั้นแสดงให้เห็นว่าคนที่พูดรักผมมากแค่ไหน และผมควรทำอะไรเพื่อเขาบ้างกับปัญหาที่มันคาราคาซังในใจผมอยู่ตอนนี้





“ขอบใจมากโฟร์ จริงๆไม่ต้องซื้อก็ได้ เจ้พอมีลูกค้าเก่าๆอยู่บ้าง”

“ไม่เป็นไรเจ้ขิม ผมซื้อให้พ่อกับแม่ แต่เจ้ขิมอย่าบอกไอ้ซอนะครับ ผมไม่อยากให้มันรู้”

“อ่าว ทำไมล่ะโฟร์ ก็แกซื้อนิหน่า”

“ผมกลัวมันโกรธ มันไม่ชอบเจ้ก็รู้ แต่เจ้อย่าลืมบัตรลิเวอร์พลูนะครับ เอาให้มันด้วย”

“โอเคๆ ไม่บอกก็ไม่บอก เดี๋ยวเจ้ได้โบนัสจะโอนค่าตั๋วให้มันละกัน อย่ากลัวไอ้ซอมากนักนะโฟร์ ไม่ต้องยอมมันทุกอย่างก็ได้”

“ไม่กลัวได้ไงเจ้ขิม น้องเรามันแปลก เหมือนคนอื่นที่ไหนละ เอ๊ะอ่ะหลับ เอ๊ะอ่ะหลับ ฮ่าๆๆ”

“จริงๆผมไม่ได้กลัวนะเฮีย แค่ยอมเฉยๆ เถียงมันแล้วได้อะไร”

“นั้นแหละเขาเรียกกลัว ไอ้โฟร์เอ๊ย”

“แซวน้องอีกหละสองคนนี้ อาทิตย์หน้าม๊าจะพาหมอมารักษาน้อง เดี๋ยวก็หาย จริงไหมโฟร์”

“ม๊าครับ ม๊าไม่รักษาซอได้ไหม”

“ทำไมละโฟร์ ไม่อยากให้ซอหายหรอลูก”

“ผมก็อยากให้มันหายนะม๊า  แต่เวลาที่เห็นมันเจ็บผมก็ทนดูไม่ได้ ม๊าไม่ต้องรักษามันแล้วนะครับ โฟร์จะดูแลมันเอง”

“มึงแน่มาก โฟร์ ฮ่าๆๆๆ”

“ตามใจๆ ม๊าก็ทนเห็นไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็อยากให้ซอหายเป็นปกติเท่านั้นแหละลูก ขอบใจโฟร์นะที่ไม่เคยทิ้งซอของม๊า”

“ม๊าไม่ต้องห่วงครับ”







บทสนทนาระหว่างคนในครัวที่เล็ดรอดออกมาจากห้องนั่งเล่น ทำให้คนที่ยืนหลังประตูอย่างผมได้ยินชัดเจน มันยิ่งดีผมยิ่งรู้สึกผิด เพราะผมไม่เคยทำอะไรเพื่อมันเลยสักอย่าง ผมยืนน้ำตาซึมก้มหน้าเข้ากับประตูไม้แกะสลักแผ่นใหญ่ ทุบกำปั้น ปั้ก! ปั้ก!  ผมควรทำยังไงดี ผมจะเคลียพี่ธันออกจากใจได้อย่างไร ก่อนที่ผมจะเสียคนที่ดีที่สุดไป แต่ก่อนอื่นผมควรเช็ดน้ำตาและเปลี่ยนสีหน้าเดินเข้าบ้านแล้วยิ้มให้กับทุกคนเป็นอันดับแรก




“ป๊าม๊าหวัดดีครับ”

“เอ้า! มาตอนไหนเจ้ไม่ได้ยินเสียงรถเลย” ทุกคนมองหน้าผม เป็นสายตาเดียวกัน

“เมื่อกี้อ่ะเจ้ หัวเราะดังไปถึงหน้าบ้านคงได้ยินเสียงหรอก กินข้าวยังครับ”

“กินแล้วลูก โฟร์เอาอาหารมาจากโรงแรมม๊าเลยไม่ต้องออกแรงทำกับข้าวเลยวันนี้ ซอละกินอะไรมารึยัง เดี๋ยวม๊าตั้งโต๊ะให้มั้ย” ม๊าหันมาตอบ

“เรียบร้อยแล้วม๊า มึงอ่ะโฟร์กินแล้วใช่มั้ย” ปั้นยิ้มส่งให้แล้วนั่งลงใกล้ๆ

“อืมเรียบร้อยแล้ว”

“งั้นซอ ขึ้นห้องเลยนะครับ”





แล้วเราสองคนก็เดินขึ้นห้องมาด้วยกัน จากแปรงสีฟันที่เคยวางในห้องน้ำเพียงอันเดียวตอนนี้ก็มีสอง รองเท้าที่ผมใส่เรียนก็มีผ้าใบเก่าๆมาวางประกบอีกคู่ ชุดนักศึกษาที่มีแต่เสื้อสูทก็มีเสื้อช็อปวิศวแทรกมาอีกตัว เตียงกว้างที่เคยนอนเพียงคนเดียวก็มีอีกคนมาแบ่งครึ่ง ถึงผมจะเปิดแอร์23องศาแต่อุ่นมากเหมือนมีฮีตเตอร์ในตัวไม่เคยหนาวเลยสักวันที่มันมานอนข้างๆ คงไม่ใช่เพราะผ้าห่มสีน้ำตาลผืนหนาที่ผมกับแฟนซุกตัวหลังอาบน้ำเสร็จหรอกนะครับ




“คิดอะไรอยู่วะมึง” ไอ้โฟร์พลิกตัวนอนตะแคงเข้าถามผม ที่กำลังเอาแขนเกยหน้าผากครุ่นคิด

“ไม่มีอะไร ขอถามหน่อยดิโฟร์”

“ว่ามา”

“สมมุตินะโฟร์แค่สมมุติ สมมุติว่า ถ้ากูไม่ได้รักมึงแค่คนเดียวมึงจะรักกูอยู่มั้ย”

ผมปล่อยแขนออกจากหน้าผากแล้วตะแคงหันหน้ามองหน้าแฟนรอคำตอบ มันเงียบและถอนหายใจเฮือกยาว

“งั้น สมมุติบ้างนะ สมมุติว่ามึงไม่ได้รักกูคนเดียวจริงๆ กูขอแค่มึงรักกูมากกว่าเขาได้มั้ย

ไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบที่เป็นคำถามเชิงขอร้องแบบนี้เลย น้ำตาจะไหลซะให้ได้

“พอๆ ซีเรียสกูแค่ถามเล่นๆ” พลางกุมมืออีกฝ่ายไว้
เบาๆ

“เอ่อ! วันนี้ไอ้เอโทรหากู พ่อแม่มันให้พี่พลอยย้ายเข้าบ้านนะ เดี๋ยวเราต้องไปช่วยมันขนของ” รู้สึกเหมือนมีตึกถล่มทับผมเลย มันรู้ทุกอย่าง แต่…

“มึงรู้ว่ากูโกหก ทำไมไม่ด่ากูละโฟร์” ผมมองตาคมคู่นี้อย่างสำนึกผิด

“กูจะด่ามึงทำไม ก็มึงไม่ได้ตั้งใจโกหกกูใช่มั้ยละ” ไม่ด่าสักแอ๊ะ กลับดึงผ้าห่ม ห่มให้ผมเอามือจับที่แก้ม

“=//=”

“มองหน้าทำไมนอนไม่หลับหรอ”

“กูขอโทษนะโฟร์ เดี๋ยวกูจะรีบเคลียร์”

“ค่อยๆคิด กูรอได้” แล้วมันก็ดึงผมเข้ามากอดในอ้อมแขน

“โฟร์จูบหน่อยดิ” เปล่าอ่อยแฟนนะ อยากลองจูบกับมันบ้าง

“ไม่เอา ไม่จูบ กูไม่อยากให้มึงหลับ” เอาสิครับพออยากให้จูบกลับปฏิเสธ อะไรของมันนะ

“นี่มึง ไม่อยากจูบกูเลยหรอโฟร์” มือดันตัวมันออกด้วยความสงสัย

“ไม่ต้องห่วง กูทำมากกว่าจูบแน่ แต่ไม่ใช่วันนี้”

“ไอ้ทะลึ่ง”

“จริ๊ง กูหาวีธีได้ก่อน เป็นแฟนกันทำได้มากกว่าจูบไม่ใช่หรอวะ”

“มันไม่มีทางหรอกโฟร์ ยังไงก็หลับ”

“มี! กูจะจูบมึงอย่างมีความสุขและมึงต้องไม่หลับ คอยดู”

“ฮ่าๆๆ เออๆแล้วแต่มึง”





ผมมุดเข้าอ้อมแขนอีกรอบขำไม่หยุดกับคำพูดของแฟน จะเป็นไปได้ยังไงที่ผมจูบแล้วจะไม่หลับ ไอ้โฟร์มันก็เพ้อไปเรื่อย ทุกอย่างเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้จะหลับหรือไม่หลับผมไม่สนตรงนั้นแล้ว เพราะสิ่งสำคัญคือคนที่กำลังกอดผมอยู่นี่ต่างหากละไม่ใช่จูบ ในที่สุดเพื่อนก็ทำให้ผมรักมันจนได้










ผมงัวเงียบิดเนื้อบิดตัวในผ้าห่มเพราะรู้สึกปวดแขนนิดหน่อยก็ไอ้ซอเล่นนอนหนุนแขนทั้งคืนไม่ยอมห่าง เมื่อยแต่มีความสุข ปวดแต่เต็มใจที่จะให้ใครอีกคนหลับสบาย เจ้าตัวไม่อยู่แล้วครับมันตื่นไปเรียนแต่เช้าเหลือแค่ผมที่ยังกลิ้งไปกลิ้งมา และตัดสินใจอยู่จะไปเรียนดีไหมความขี้เกียจเริ่มก่อตัวเล็กน้อย แต่พอโผล่หัวออกจากผ้าห่มก็เห็นเสื้อช็อปห้อยเตรียมไว้ให้และมีโฟสอิทเล็กๆติดที่หน้ากระจกแต่งตัว กระดาษใบนั้นมีแรงดึงดูดทำให้ผมลุกจากเตียงมาหยิบอ่านจนได้


“Morning kiss จูบแบบนี้ไม่หลับนะ”


พร้อมรอยริมฝีปากจางๆที่จูบไว้ที่กระจกเงา ชุ่มชื่นหัวใจเติมพลังงานให้ร่างกายอย่างไร้เหตุผล อาการปวดเมื่อยหายไปในพริบตา หวานกว่าแฟนผมก็มีแค่น้ำตาลเท่านั้นแหละครับ จูบทับรอยริมฝีปากเล็กๆที่กระจกแล้ว ก็ได้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนสักที










เรื่องเล่าเช้านี้ที่ตึกการบินคงหนีไม่พ้นข่าวดีจากไอ้เอ เพื่อนๆส่งเสียงกรี๊ดแสดงความดีใจและกำลังรุมสัมภาษณ์ไอ้เอยกใหญ่ หลังจากหมดคาบเรียนว่าที่เจ้าบ่าวเล่นประกาศอย่างเป็นทางการเชิญเพื่อนไปร่วมงานแต่งมันกับพี่พลอยที่บ้าน เสียงเฮจากเพื่อนๆดังขึ้นทั่วห้องให้กับคุณพ่อวัย19 ทั้งขวดน้ำดื่มทั้งม้วนกระดาษจ่อที่ปากไอ้เอเป็นไมค์โคโฟน





“ยังไงไอ้เอ เห็นนิ่งๆเงียบๆมีเมียซ่ะแล้วแถมลูกอีกหนึ่ง”

“ท้องกี่เดือน”

“ฟันเพื่อนพี่เลยหรอวะ”

“แก่กว่าจริงหรอ แล้วเป็นพี่กี่ปี”

“เชื้อดีโคตร”

“ซอยถี่สิมึงครั้งเดียวติดเลย”

“ดีๆคบกับผู้ใหญ่ไม่งอแงเหมือนเด็ก”

“พี่เขาย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับเอแล้วหรอ พี่เขาแพ้ท้องไหมอ่ะเราอยากรู้”

“อย่าบอกนะว่าคนที่ขับรถมาส่งมึงที่ตึกวันนี้ โคตรสวยอ่ะมึง”

ไอ้เอยิ้มรับหน้าบาน “นั้นแหละพี่พลอย”

“ให้เมียมารับมาส่งเลยหรอวะเอ” ฮิ้ววววววว!!

“สัส! พี่เขาหยุดงานจะกลับไปเอาเสื้อผ้าคอนโดเลยแวะมาส่งกูเฉยๆ พวกมึง มึง มึง เลิกแซวสักที แล้วก็เตรียมตัวไปงานแต่งที่บ้านกูด้วยนะ ใครไปไม่ถูกกูส่งแผนที่เข้าไลน์กลุ่มให้แล้ว”

“ไหนพี่พลอยบอกไม่เอาพิธีไงเอ” ผมถามบ้าง

“พ่อแม่กูไม่ยอมไงเลยจัดงานเลี้ยงเล็กๆต้อนรับหลาน ไม่มีพิธีการหรอกมึงชวนแค่เพื่อนๆ แล้วตอนบ่ายพี่พลอยจะมารับไปลองชุดกูไม่เข้าเรียนนะ ฝากงานส่งด้วย”

“อิจฉาอ่ะ เมียมารับด้วยเว้ย พามาทำความรู้จักกับเพื่อนๆหน่อยดิเอ อยากเจอ”

“พอเลยไอ้พัด ไปรู้จักวันงาน” ไอ้เอบอกปัดเพื่อนอย่างอายๆตอบบ้างไม่ตอบบ้าง กับคำถามที่มาเป็นร้อยๆ





เรื่องไอ้เอจบลงด้วยความสมหวังเพื่อนมีความสุขผมก็แฮปปี้ เห็นมันยิ้มได้แล้วสุขใจกับเพื่อนจริงๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนยังเป็นผีตายซาก มาวันนี้ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูคงไม่ต้องขนเสื้อผ้าไปปรับทุกข์ที่บ้านผมแล้วสินะ 


“ไอ้ซอมีเพื่อนมาหา”


ไอ้พัดเรียกผมเสียงดังแล้วใครมาหาละ ก็ไอ้โฟร์บอกจะมารับเย็นๆเพราะผมมีเพื่อนไม่มากนักหรอกถ้าไม่นับเพื่อนที่คณะ เชี่ย!สบถทันใดเมื่อมองเห็นคู่เพื่อนซี้เบลเนสนั่งรอที่หน้าห้องเรียน นับตั้งแต่วันที่เห็นสร้อยของพี่ธัน ผมไม่เจอมันสองคนนานเป็นเดือนๆ




“เนสเบล มาได้ไงเนี่ยมึง” ผมลากเก้าอี้ออกมานั่งใกล้ๆ

“อ่อ ว่าจะมาหาไอ้เอ พอดีเพิ่งรู้ข่าวมันกับพี่พลอย”

“เอ มันออกไปกับพี่พลอยตะกี้ พวกมึงมาช้า” มันสองคนส่งยิ้มแปลกๆให้กัน

“งั้น กูคุยกับมึงแล้วกันซอ” ว่าแล้วมันต้องมีเรื่อง

“คุยกะกูเนี่ยนะ เรื่องไรวะมึง”

“กูโทรหาทำไมไม่รับสาย” ไอ้เนสทำท่าขึงขัง

“กูปิดเสียงวะ โทษทีไม่ได้ยิน” เห็นเบอร์ไอ้เนสนั้นแหละครับถึงไม่กล้ารับสาย

“ที่โรงอาหารกูไปดักรอก็ไม่เจอสักวัน คาบENGมึงก็ไม่เข้า ไม่ได้หนีกูสองคนอยู่ใช่ม่ะ” ไอ้เบลเริ่มซักผมอีกคน ทำหน้าไม่ถูกเลยจริงๆกระอักกระอ่วนมากตอนนี้

“เฮ้ย! งานที่คณะยุ่ง จะหนีพวกมึงทำไม”

“เข้าเรื่องเลยนะ ที่มาวันนี้พวกกูจะมาคุยเรื่องพี่ธัน คือว่า..” ในที่สุดมันก็เอ่ยเรื่องที่ผมกลัว

“กูมีเรียน อาจารย์เข้าห้องแล้วเดี๋ยวไม่ทันกูไปก่อน” ผมลุกขึ้นพรวดพราด ไอ้เนสคว้ามือผม ไอ้เบลวิ่งขวางหน้าประสานงานกันดีจริงๆ เพื่อนคู่นี้

“ซอ มึงเลิกหนีเหอะวะ”

“กูมีเรียนจริงๆ ไม่ได้หนี มีเรื่องอะไรสำคัญหรอ”  ผมนั่งลงอีกครั้ง

“เรื่องพี่ธันกับมึงไงซอ” ใจสั่น สั่นอย่างหวาดกลัว กลัวเพื่อนสองคนตรงหน้าต้องเสียใจเพราะผมอีกครั้ง

“กูกับพี่ธันไม่ได้มีอะไร มึงสองคนวางใจได้”

“จะให้พวกกูวางใจได้ไง ก็พี่ธันรักมึงแล้วซอ มึงรู้ตัวมั้ยเขารักมึงมาก” ไอ้เบลพูดจ้องหน้า แต่สายตาไม่โกรธเลยสักนิด

“กูไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เสียงสั่นแล้วผม

“พี่ธัน ไม่เคยรักใครเลยนะซอแต่เขารักมึง มึงเป็นคนแรก” อึ้งบวกช็อกและหน้าเหวอ บ้าหรือเปล่าเมียพี่ธันกำลังพูดว่า พี่ธันรักผม

“เป็นไปได้ไง”

“เป็นไปแล้วซอ เชื่อพวกกูเถอะ พี่ธันเปลี่ยนไปมาก ถ้ามึงรักเขาก็อย่าหนีพี่ธันเลยนะ”

“ทำไมพวกมึงพูดแบบนี้เนี่ย แล้วมึงสองคนละ เขาไม่รักหรอ”  คิ้วผมขมวดด้วยความสงสัย

“พวกกูเสียสละให้มึงได้นะซอถ้ามึงรักพี่ธันเหมือนกัน เพราะพี่ธันก็เสียสละให้พวกกูมามากพอแล้ว อยากเห็นเขามีความสุขบ้าง ส่วนเรื่องเหตุผลจะเล่าให้ฟังวันหลัง”

ไอ้เบลวางมือทับมือผม ทั้งสายตาท่าทางน้ำเสียงที่จริงใจและจริงจังนี้มันคืออะไร สองคนนี้ทำไมดีมากมายและรักพี่ธันได้ขนาดนี้

“มันไม่สำคัญว่ากูจะรักเขามั้ย แต่กูรักไอ้โฟร์มาก และอีกอย่างพวกมึงอย่าเสียสละเพื่อกูเลยวะ กูทำร้ายเพื่อนดีๆอย่างมึงสองคนไม่ได้หรอก”

“แสดงว่า มึงก็รักพี่ธันใช่มั้ยซอ” ไอ้เนสเอื้อมมือมาวางทับมือผมอีกคน

“จะรักหรือไม่รัก มันก็เป็นไปไม่ได้ กูถามมึงสองคนบ้างนะ เวลาที่จับมือกับพี่ธันพวกมึงอุ่นไหม”

“อุ่นสิ” ไอ้เนสตอบ

“แล้วกอดละอุ่นไหม”

“อุ่นมาก” ไอ้เบลตอบ

“งั้น พวกมึงสองคนก็ให้พี่ธันปกป้องเถอะ เพราะกูกอดเขาไม่เคยอุ่นเลยสักครั้งเดียว”




สองเพื่อนซี้ปล่อยมือออกได้แค่ส่งยิ้มแห้งๆก่อนจะเดินจากไป นับถือในน้ำใจของการเสียสละจริงๆ ทำไมมันถึงรักพี่ธันได้ขนาดนี้ จะด้วยเหตุผมอะไรก็ตามแต่ผมไม่สามารถเห็นแก่ตัวและทำร้ายคนรอบข้างได้ และสำคัญที่สุดคือพี่ธันไม่เคยทำให้ผมใจอุ่นได้เลยจริงๆ













“เดี๋ยวชินมึงจะรีบไปไหนวะ กูกับพลอยจะล้มแล้วสัส ปล่อยก่อนดิ” ผมสะบัดมือเพื่อนทิ้ง ไอ้ชินมันลากแขนผมกับพลอยหัวแทบคะมำ

“มึงสองคนก็เดินเร็วดิห่า โต๊ะเต็มหมด” มันทำหน้าเหวี่ยงหงุดหงิด

“นี่เพิ่งสองทุ่มเองชิน ใครจะบ้าจองโต๊ะเร็วขนาดนั้น ผู้มีเยอะไม่ต้องรีบ” พลอยยืนบ่นเพื่อนที่หน้าสถานบริการแห่งหนึ่งเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน

“มึงสองคนไม่รู้อะไร ที่นี่โต๊ะเต็มแต่ทุ่มแล้ว ช้าก็อดดิ”

“เว่อละมึง” ชินเอามือวางบนไหล่

“ไม่เว่อ เด็กที่นี่จัดว่าเด็ดสุดล่ะสมราคา แพงหน่อยแต่ดีมึงลืมที่มึงเคยซื้อแดกได้เลย ไอ้ธัน”

“แล้วมึงจะรอเหี้ยอะไรค่ะเพื่อน กูอยากลองแล้วจะเด็ดอย่างที่โฆษณาไว้มั้ย”





เลขาผมเดินนำหน้าเข้าร้าน พนักงานชายหน้าตาดีเดินมาต้อนรับ พาเรามานั่งที่โซฟาด้านหน้าใกล้กับเวที ร้านแบบนี้ผมเที่ยวบ่อยไม่เห็นว่าจะแปลกตาหรือหน้าตื่นเต้นตามคำโฆษณาชวนเชื่อของไอ้ชินสักเท่าไหร่ แนวเพลงก็เพลงแดนซ์สลับกับ EDM




“ตรงไหนที่เด็ดชิน”

“แป๊ปดิใกล้แล้ว แดกเหล้ารอไป”




ด้านในร้านไม่กว้างมากนักด้านหน้ามีเวที ตรงกลางเป็นโซฟาสำหรับแขกที่มีประมาณสามสิบโต๊ะเห็นจะได้ ผนังสองข้างถูกปิดด้วยม่านสีแดงผืนใหญ่ แค่ชั่วพริบตาโต๊ะทุกโต๊ะถูกจับจองเต็ม


แสงสปอ์ตไลท์สาดส่องไปที่ด้านหน้าเวที เพลงแดนซ์เสียงเบสหนักๆเริ่มดังกระหึ่มเป็นการเปิดตัวโคโยตีชายเปลือยท่อนบนออกมาโชว์จังหวะหมุนเอวยั่วยวนแขก ภาพเหล่านี้เห็นจนชินตาไม่ได้แปลกใหม่หรืออะไร


จนกระทั้งโคโยตี้เดินกลับหลังเวที ผ้าม่านสีแดงที่ปิดผนังทั้งสองฝั่งก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆตามจังหวะดนตรี
พลอยถึงกับสะดุ้งตกใจมือปิดปากตาโตไม่กระพริบ เพราะหลังม่านคือฟิตเนสที่กั้นด้วยกระจกใสในนั้นมีผู้ชายให้เลือกอย่างละลานตา ทั้งลูกครึ่ง ไทยแท้ หน้าเกาหลี หน้าญี่ปุ่น มีทุกไซค์ทุกขนาด สายตาเชิญชวนพร้อมให้แขกชี้นิ้วเรียกใช้บริการกันทุกคน




“เป็นไงมึง เด็ดพอไหม ซ้ายเป็นรุก ขวาเป็นรับอย่าชี้ผิดตู้นะอีพลอย”

“เชี่ย! เลือกไม่ถูก ซิคแพ็คแน่นมาก ” พลอยดูตื่นตาตื่นกับผู้ชายในฟิตเนส

“มึงอยากได้อันไหนรีบชี้เลยอีพลอย เดี๋ยวโดนปาด อดนะ”

“ไม่จัดหรอธัน งานดีงานพรีเมี่ยมเด็กมหาลัยล้วนๆ ร้านเค้าเปลี่ยนเด็กทุกอาทิตย์หน้าใหม่ๆก็หลายคนนะไม่สนหน่อยหรอวะ” ไอ้ชินเริ่มเชียร์แขก

“ไม่อ่ะ มึงกับพลอยเอาเลย วันนี้กูไม่มีอารมณ์”

“จิ๊ กูพามาหาความบันเทิงเสือกทำหน้าเบื่อโลก หรือมึงอยากได้เด็กนั่งคุยที่นี่ก็มีนะ กูจัดให้”

ไอ้ชินลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงเข้าไปคุยกับผู้จัดการร้านซุบซิบๆ แล้วกลับมานั่งที่  ส่วนพลอยเดินไปมองที่หน้าตู้ฟิตเนต จดๆจ้องๆ

“สวัสดีครับพี่ พี่จะให้ผมนั่งตรงไหนครับ” ผมหันไปมองเด็กผู้ชายสองคนที่ใส่กางเกงขาสั้นกับผ้ากันเปื้อนสีดำปราศจากเสื้อ ส่งยิ้มมาให้

“นั่งเลยครับใกล้ๆเพื่อนพี่เลย มันชื่อธัน พี่ชื่อชิน น้องชื่ออะไรกันบ้างครับ” ชินถามน้องที่เพิ่งมา

“ผมชื่อเนส เพื่อนผมชื่อเบลครับ” ฟังจากเสียงดูกล้าๆกลัวๆ

“นั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนไอ้ธันหน่อยล่ะกัน เห็นผู้จัดการบอกเพิ่งมาทำงานวันแรกหรอ” ชินส่งแก้วให้น้องชงเหล้าให้

“ครับพี่ผมเป็นเด็กฝึกหัด ถ้าเป็นงานแล้วถึงจะได้นั่งในตู้นั้นครับ” หยิบแก้วมือยังสั่น

“สั่นขนาดนี้จะทำได้หรอน้อง” ไอ้ชินคว้าหมับเข้าที่มือ ตอนที่น้องส่งแก้วเหล้าให้

 “ได้สิพี่ ผมกับเพื่อนมาหาเงินเรียน ถ้าไม่กล้าก็ไม่ได้เรียน” เนสตอบจนผมต้องวางแก้วแล้วถามน้องกลับ

“ทำไมไม่ทำอย่างอื่น เด็กทั้งคู่อยู่เลย พาสไทม์มีเยอะเยะ” เนสกับเบลหันมองหน้ากัน

“รุ่นพี่แนะนำครับ บอกได้เงินดี ยิ่งเป็นครั้งแรกเงินยิ่งเยอะ ค่าเรียนเลยนะพี่”

แววตาอันใสซื่อตอบอย่างไม่มีเล่ห์กล แต่แฝงไปด้วยความหวาดกลัว ผิดกับเพื่อนนักเที่ยวตัวยงอย่างไอ้ชินที่ทำตาโตเป็นไข่ไดโนเสาร์ เมื่อคำว่าเวอจิ้นผ่านเข้าหู
 
“ยังจิ้นทั้งคู่เลยหรอน้อง”

เด็กทั้งสองก้มหน้าอายๆ “ครับพี่”

“ค่าเทอมน้องเท่าไหร่ พี่จ่ายให้” ผั้ว!

“ไอ้ชิน น้องเค้ากลัว มึงเอามือออกเลยสัส” มือไอ้ชินทั้งลูบทั้งคลำเข้าที่ใต้ผ้ากันเปื้อนของเบล

“เชี่ยธัน กูกำลังฝึกน้องเค้าอยู่ จะได้ชินมือไม่เขิน ผ่านกูได้ เก่งชัวร์”


เด็กสองคนยิ้มแต่แววตาเศร้าเมื่อเพื่อนผมลวนลามตามเนื้อตัว ซุกไซ้เข้าที่ต้นคอ สีหน้าเก็บความรู้สึกเอาไว้ มือจิกเข้าที่โซฟา ยิ้มปนความทุกข์ส่งมาที่ผม น้ำตาคลอแต่กลับไม่ไหลออกมา


“พอๆชิน กูเอาน้องสองคนนี้แหละ”

“ไหนบอกไม่มีอารมณ์ไงวะ”

“กูจะรับเลี้ยงน้องเค้าเอง”

ไม่เคยคิดจะเลี้ยงดูส่งเสียใครเป็นพิเศษ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาก็แค่จ่ายตังค์คือจบ แต่ครั้งนี้รู้สึกสงสารและเอ็นดูเด็กสองคนนี้มาก

“เอาจริงหรอธัน คนไหน” ผมมองหน้าสลับกันไปมาเด็กนั่งนิ่งสายตาอ้อนวอนเศร้า ผมตัดสินใจชี้ที่เบล อีกคนก้มหน้าลง

เบลลุกจากโซฟานั่งลงกับพื้น จับมือผม

“พี่ธันถ้าพี่จะเลี้ยงผมจริงๆ พี่ช่วยรับเราไว้ทั้งสองคนได้มั้ยครับ ผมไม่อยากให้เพื่อนนั่งในตู้นั้นเหมือนกัน”

“พี่จะรับเลี้ยงทั้งสองคนได้ไง เป็นเพื่อนกันไม่มีปัญหากันหรอ” ผมวางมือทับมือเบล

“ถ้าผมกับเพื่อนต้องผ่านคนอื่นจนนับไม่ได้ ผมยอมมีคนเลี้ยงดูคนเดียวกับเพื่อนดีกว่า พี่จะช่วยเราได้ไหมพี่ธัน”
 
“ว่าไงธัน ไหวป่าวเด็กเต็มใจขนาดนี้ กูยอมวะ ยกให้เลย”

“หรือพี่มีปัญหาเรื่องเงิน”

“ฮ่าๆๆๆ น้องครับ ไอ้ธันรับเลี้ยงอีกสิบคนยังไหว”

“ถ้าเราสองคนไม่มีปัญหาพี่ก็ไม่มีปัญหา ชินมึงไปเคลียร์ค่าเสียหายของน้องกับผู้จัดการให้กูด้วย”


 

เด็กสองคนพุ่งตัวเข้ากอดผมแน่นด้วยความดีใจขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ผมชดใช้ค่าตัวน้องทั้งสองให้กับร้านแล้วพาออกมาตั้งแต่วันที่เจอ ตอนแรกก็งงกับชีวิตที่ต้องมีคนให้ส่งเสียเลี้ยงดูถึงสองคน


ช่วงแรกแบ่งเวลายากมากเพราะมันไม่ลงตัว สามคนจึงมีการตั้งข้อตกลงขึ้นมากมายเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไม่มีข้อผูกมัด ไม่รู้จะต้องทำอะไรกับเด็กสองคนนี้เพราะคำว่ารักไม่เคยมีในหัว ที่รับเลี้ยงคงถูกชะตาและสงสารด้วยแววตาที่ใสและอ่อนโยนทั้งสองคู่ พอผมได้เนสกับเบลมาอยู่ด้วยก็ทำให้ผมเที่ยวสถานบริการอย่างว่าน้อยลง และเลิกเที่ยวได้ในที่สุด





“เบลกูสงสารพี่ธันวะมึง เล่าความจริงให้ไอ้ซอฟังไหม”

“อย่าเลยเนส ดูไอ้ซอรักแฟนมันมากนะ”

“พี่ธันมันก็รัก กูดูออก”

“แต่มันเลือกโอ้โฟร์แล้วไง”

















999999999999999999999999999999









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2017 22:55:38 โดย 19919 »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ซอเลือกโฟร์แล้วจริงๆ ใช่ไหม จะมีพลิกอะไรหรือเปล่า พี่ธันก็ดูมีพัฒนาการดีถึงจะเปิดตัวมาดูแย่ก็เถอะ แต่โฟร์ก็มั่นคงและทุ่มเทจริงๆ ยังไงก็เชียร์โฟร์นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อดีตของเบล เนส  :mew2:
พี่ธัน ก็เป็นคนดีนะ
ไม่ใช่ตั้งใจมีสนมซ้าย ขวา
ซอ ตั้งใจเคลียร์กับพี่ธัน เพราะรักโฟร์
รู้ว่าโฟร์รักตัวเองโคตรๆ
ไม่อยากให้คาปัญหาต่อไป
แต่พี่ธัน ก็รักซอ เป็นรักแรกซะด้วย  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ. "พี่ธันไม่ใช่พระเอก".    ก็ขอให้พี่ธันเจอรักแท้(ที่ไม่ใช่ซอ)

รอดูความหวานของโฟร์ซอ.  :mew1:  ขอบคุณค่ะ :3123:




ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อดีตของเบล เนส  :mew2:
พี่ธัน ก็เป็นคนดีนะ
ไม่ใช่ตั้งใจมีสนมซ้าย ขวา
ซอ ตั้งใจเคลียร์กับพี่ธัน เพราะรักโฟร์
รู้ว่าโฟร์รักตัวเองโคตรๆ
ไม่อยากให้คาปัญหาต่อไป
แต่พี่ธัน ก็รักซอ เป็นรักแรกซะด้วย  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

เริ่มเห็นใจพี่ธันละ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่15 น้ำตาลไหม้



มีผัวเป็นตัวเป็นตนสักทีนะอีพลอย รักน้องเอของกูให้มากๆ อีชะนีเพื่อน
                                                          Chin :mc4:

ยินดีด้วยเลขาคนเก่งน้องเอด้วยนะครับขอให้เป็นครอบครัวที่มีความสุขในโลก
ดูแลกันดีๆให้เหมือนวันแรกที่อยู่ด้วยกันนะเพื่อนรักมึงนะพลอย
                                               December o13

มีเมียแล้วก็อย่าเที่ยวให้มันมากเก็บเงินไว้ให้ลูกด้วย
ถ้ามันดื้อพี่พลอยจัดหนักๆเลยนะครับ
                                                            4 :z2:
ผมขอให้พี่พลอยกับเอมีความสุขมากๆ ขอให้หลานแข็งแรงเป็นเด็กดี
รักพี่พลอยมากๆอย่างที่มึงเคยพูดกับกูไว้ด้วย อย่าทำให้พี่พลอยเสียใจ ยินดีด้วยคุณพ่อเอคุณแม่พลอย
                                                          ซอ :L2:







ผมวางปากกาปิดสมุดอวยพรจับมือกับโฟร์อย่างมั่นใจแล้วเดินเข้างานเลี้ยงค็อกเทล ฉลองต้อนรับลูกสะใภ้กับหลานของพ่อแม่ไอ้เอ สวนหน้าบ้านถูกจัดตกแต่งโทนสีชมพูอ่อนสลับขาวดูเรียบๆสบายตา โต๊ะกลมๆหลายสิบตัวตั้งกลางสนามหญ้าสีเขียวดอกฟอร์เก็ตมีน็อตสีฟ้าชู่ช่อในกระถางไม้เล็กๆ และแสงนวลสีส้มจากไฟประดับสร้างความอบอุ่นรอบๆงาน  เจ้าสาวอยู่ในชุดลูกไม้ลายหวานปาดไหล่แขนยาว กระโปรงทรงซุ่มสั้นคลุมเข่าพร้อมผมบ๊อบสั้นดูน่ารักไปอีกแบบ


เจ้าบ่าวอยู่ในชุดสูทสีดำเข้ารูป ดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิด งานนี้พี่พลอยออกไอเดียทั้งหมดไอ้เอมีหน้าที่แค่ทำตามเมีย และพูดเป็นแค่คำเดียว คือ ครับ ครับ แล้วก็ ครับ  ดูก็รู้ใครเป็นใหญ่ในบ้าน แหย่เล่นนะเพื่อน





ครอบครัวผมกับครอบครัวโฟร์มาร่วมแสดงความยินดีกับบ่าวสาวและได้รับเกรียตินั่งร่วมโต๊ะกับพ่อแม่ไอ้เอเป็นญาติฝ่ายชาย ส่วนญาติฝ่ายพี่พลอยมีแค่น้องสาวเพราะพ่อแม่เสียหมดแล้วนอกนั้นก็เพื่อนจากที่ทำงานไม่กี่คน มาเยอะสุดก็เพื่อนเจ้าบ่าว เล่นยกโขยงกันมาทั้งรุ่นตามคำเชิญของไอ้เอเพราะอยากเห็นหน้าเจ้าสาว มองผ่านๆก็เหมือนงานเลี้ยงรุ่นไม่มีผิด ตากล้องในงานคืนก็ได้พี่แฝดทั้งสองคอยถ่ายภาพเก็บบรรยากาศในงานอย่างชื่นมื่นโต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ที




“ถ่ายรูปครับ ยิ้มนะทุกคน 1 2 3 กันเสีย ขอมินิฮาร์ทนะทุกคน”

“สวยครับสวย เจ้าบ่าวเจ้าสาวชิดๆหน่อย โอเคสวย ชีสสสสส” เสียงกดชัดเตอร์รัวๆสมกับเป็นช่างภาพมืออาชีพจริงๆ




ผมกับโฟร์ปลีกตัวออกมานั่งกับเพื่อนที่คณะ ทำใจยากที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับกลุ่มพี่ธันโดยที่มีโฟร์นั่งอยู่ข้างๆ ใจไม่แข็งแรงพอที่จะให้เขาเผชิญหน้ากันตรงๆ ปวดร้าวมากที่เห็นสองคนนี้วนมาเจอกันอีกครั้ง แต่มันก็เหลี่ยงไม่ได้ ความเข้มแข็งเริ่มอ่อนแอ ความกังวลเริ่มแผ่ซ่าน ความกลัวก็แทรกซึมจนเหงื่อที่ฝ่ามือเปียกชุ่ม ไหนจะคิ้วข้างขวาที่กระตุกไม่หยุดนี่อีกละ ขอให้ความเชื่อโบราณครั้งนี้ผิดทีเถอะ



ผมได้แต่แอบมองห่างๆอย่างสงสัย ที่จู่ๆเบลกับเนสออกงานพร้อมกันได้อย่างไร อุตส่าห์จะหาช่องว่างคืนสร้อยและบอกลาพี่ธันเป็นครั้งสุดท้าย ความรักที่สับซ้อนยุ่งเหยิงและวุ่นวายนี้ควรยุติลงสักที เบลกับเนสต้องอยู่กับพี่ธันต่อไปไม่ใช่เสียสละให้ผม ถ้ามีคนเสียก็ต้องมีคนได้และผมไม่ต้องการเป็นฝ่ายได้อยู่คนเดียว ผมเลือกโฟร์จะมีคนเจ็บแค่สองคน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมเลือกพี่ธันขึ้นมาจริงๆจะมีอีกหลายคนที่สาหัสปางตาย เดาไม่ออกเลยว่าจะหนักหนามากแค่ไหนหนึ่งในนั้นคือคนที่นั่งข้างๆผมตอนนี้


เมื่อก่อนคิดแค่ว่าการมีความรักเป็นเรื่องดี แต่ความรักที่ต้องเลือกมันไม่ได้ดีอย่างที่คิด




 
“ซอมึงกินอะไรมั้ยเดี๋ยวเดินไปตักให้” ภาพใครอีกคนหายวับ เมื่อมีใครอีกคนที่สำคัญกว่าอยู่ตรงหน้า

“อ๋อ อะไรก็ได้”

“เป็นไรป่าวซอ มือเย็นมาก” แฟนผมคลี่มือออกแล้วเช็ดเหงื่อให้

“ไม่ๆ กูสบายดี”

“แน่ใจนะ”

“อืม”

“รักกันจังนะสองคนนี้” เนแซวเมื่อเห็นโฟร์เอามืออังที่แก้มผม

“เนกับฟางเอาอะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวตักมาให้” โฟร์เอามือออกแล้วหันไปถามเพื่อนผม

“ไม่ต้องเลยไอ้โฟร์ แฟนกู กูบริการเอง มึงไปตักให้เมียมึงคนเดียวก็พอ”

“ไอ้สัสพัด”

“ไอ้พัดพูดถูก มึงอ่ะเมีย ฮ่าๆๆ”




สรุปเพื่อนที่คณะผมก็กลายเป็นพรรคพวกแฟนไปจนหมด ไม่ใช่เพิ่งเป็นนะเป็นตั้งแต่วันเฟรสชี่เดย์โน้นเชียร์กันมาตลอด เดือนวิศวดีอย่างโน่นดีอย่างนี้ พูดกรอกหูทุกวันพอเป็นแฟนกันเข้าจริงๆพวกเพื่อนก็เข้าข้างเดือนวิศวแบบสุดๆอย่างที่เห็น


ไอ้พัดกับแฟนเข้าขาหัวเราะคิกคักเดินไปตักของกินมาให้ ก็ได้เวลานั่งคุยกับถ่ายรูปอัปสเตตัสตามประสาเพื่อนผู้หญิงอาหารและเครื่องดื่มในงานคืนนี้ก็เป็นอภินันทนาการจากพ่อแม่โฟร์ที่สั่งมาให้ไอ้เอเป็นพิเศษ




แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง! พี่ชินใช้ช้อนตีเข้ากับแก้วไวน์




“เอาล่ะครับ ในค่ำคืนนี้เป็นคืนพิเศษที่เราร่วมยินดีให้พลอยกับเอใครมีคำถามอยากถามบ่าวสาวบ้าง เชิญได้เลยครับ”


หวิ้ดดดดหวิ้วววววว อร๊ายยยย เสียงแซวดังกระหึ่มจากเพื่อนการบิน  ไอ้พัดยกมือขึ้น ฟรึ๊บ


“ผมๆ ผมขอถามไอ้เอทำท่าไหนพี่พลอยถึงท้องครับ” ฮ่าๆๆๆเสียงหัวเราะลั่นเมื่อคำถามแรกดังขึ้น

“เป็นคำถามที่ดีมากน้อง เอตอบเพื่อนสิ ท่าไหน” ไอ้เอหน้าแดงก่ำเพราะเมาและตอบกลับอย่างไม่มีสติ

“เยอะครับ จำไม่ได้” เจ้าสาวยืนมองเด็กๆถามคำถามอย่างเมามันส์และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเมื่อไหร่ เสียงโห่ร้องและเสียงแซวยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ

“สุดยอดเลยเอ ใครจะถามต่อเชิญครับ” จากนั้นคำถามใต้สะดืออีกมากมายถูกถามมาเรื่อยๆ เรื่องดีๆไม่ถามสักคำ

“ไม่มีคำถามแล้วใช่ไหมครับ งั้นเรามาฟังความรู้สึกบ่าวสาวกันบ้างครับ เริ่มที่เอก่อน อยากขอบคุณหรือพูดอะไรกับเจ้าสาวมั้ย” พี่ชินถาม

“ขอบคุณครอบครัวมากครับ ผมจาร๊ากพี่พลอยให้มากๆ จาดูแลลูกเป็นอย่างดี ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ขอบคุณเพื่อนๆที่มาร่วมงานและขอบคุณพี่พลอยที่มาอยู่กับเอ” เจ้าบ่าวยืนตอบตัวโยกเหยกไปมา

“เจ้าสาวล่ะครับมีอะไรจะพูดมั้ย”

“พลอยขอบคุณพ่อแม่และกัสมากที่ไม่แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ แล้วก็ดีใจมากที่ได้ผัวเด็กค่ะ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  คำตอบของเจ้าสาวสร้างเสียงหัวเราะให้คนในงานจนน้ำตาเล็ด ไม่มีคำหวานๆไม่มีพิธีการมีแต่ความสุขอย่างเป็นกันเอง



ไลน์! ข้อความเด้งโชว์ที่หน้าจอ ผมละสายตาจากบ่าวสาวก้มมองที่มือถือ



December09: ไม่ยิ้มเลยนะ



อากาศหายใจเริ่มน้องลงอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“โฟร์ กูเข้าห้องน้ำแป๊ปนะ”





ขอหาที่สูดอากาศเข้าปอดสักหน่อยเผื่อจะหายใจได้สะดวกขึ้น ผมเดินออกจากสวนเหลี่ยงๆสายตา นั่งหลบมุมที่กำแพงนอกบ้าน 

“มานั่งทำอะไรคนเดียว” เจ้าของเสียงนั่งลงใกล้ๆ ผมก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตา

“พี่ธันกลับเข้าไปในงานเหอะ เดี๋ยวเนสกับเบลจะเห็นมันไม่ดี”

“ขออยู่ด้วยได้มั้ย ซอเป็นอะไร”

“เราสองคนเลิกเห็นแก่ตัวได้แล้วพี่ธัน ผมเจ็บบบ” สองมือสอดประสานกันแน่นเสียงสั่น

“ไม่เป็นไร พี่เจ็บเป็นเพื่อน” พี่ธันเอาแขนโอบตัวดึงให้ซบลงที่ไหล่

“:T^T:”

“ตาเล็กนิดเดียวทำไมร้องไห้เก่งจังนะ” มือพลางลูบหัวผมเชิงปลอบใจ

“พี่อย่าทำให้ผมเป็นตัวร้าย แฟนผมอยู่ในงาน ไหนจะเนสกับเบลก็อยู่แค่หลังกำแพงกั้น ผมไม่กล้าสู้หน้ามันสองคนแล้ว ผมเกลียดตัวเอง” ผมผละตัวออกจากไหล่พี่เขา

“พี่จะไม่ให้ซอเป็นตัวร้าย ขอแค่ซอรักพี่ และอย่าถอยห่างไปมากกว่านี้ก็พอ”

“เราควรหยุดได้แล้วนะพี่ธัน ผมรักโฟร์ รักมาก”

“พี่ละ ซอรักพี่มั้ย” มือพี่ธันปาดน้ำตาที่แก้ม

“ผมรักพี่นะพี่ธัน แต่อย่าให้ความรักของเราทำร้าย คนที่รักเราเลยนะ ผมขอเก็บพี่ไว้ในนี้” วางมือที่อกข้างซ้ายน้ำไหลออกจากตา มองเห็นหน้าพี่ธันมัวๆ

“ซอ” พี่ธันดึงผมเข้ากอด ต่างคนต่างกอด

“ผมขอคืนสร้อยพี่นะครับ” ผละตัวออกวางสร้อยใส่ฝ่ามือให้เจ้าของ

“อย่าคืนเลย สร้อยเส้นนี้พี่รักมาก และอยากให้มันอยู่กับคนที่พี่รักที่สุดเหมือนกัน” แล้วพี่ธันก็หยิบสร้อยเส้นนี้ใส่ให้ผม เศร้าใจที่สุดกับการลาใครสักคน

“พี่ธัน” มือกุมกันไว้มองตาให้นานที่สุด

“พี่จูบได้ไหม”



ผมพยักหน้า พี่ธันใช้มือปิดปากผม แล้วจูบลงบนหลังมือ ปลายจมูกสัมผัสกันและกันสายตาจ้องมองด้วยความอาลัย จากแล้วต้องจากกันจริงๆแล้ว



“ไม่ต้องร้องแล้วนะคนดี ซอเลือกถูกแล้ว พี่จะอยู่ข้างๆซอเสมอถ้าซอต้องการ ไม่ต้องรู้สึกผิด เราสองคนไม่ได้ทำร้ายใคร”

“แต่มึงสองคนทำร้ายกู” และแล้วหัวใจอีกครึ่งดวงของผมก็เข้ามา



เสียงโกรธดุดันจากคนที่ได้ชื่อว่าแฟนแทรกกลางเข้ามา พร้อมฉุดตัวพี่ธันลุกขึ้นต่อยเข้าที่ปากจนพี่เขาล้มหงายไปกับพื้น ผมรีบเอาตัวเข้าขวางกางแขนกั้น รางร้ายเมื่อตอนหัวค่ำมันเกิดขึ้นจนได้



“อย่า อย่า โฟร์ อย่า” น้ำตาผมไหลพรากๆเมื่อเห็นคนสองคนที่รักใช้กำลังตัดสินปัญหาเหมือนใจจะขาดรอนๆ

“มึงมันเหี้ย ไอ้เห็นแก่ตัว” โฟร์ชี้หน้าด่า พี่ธันยืนขึ้นเลือดซิบที่มุมปาก

“โฟร์มึงเข้าใจผิดแล้ว ฟังกูก่อน”

“กูไม่ฟัง” โฟร์ผลักผมล้มกระแทกกับพื้นปูน



จูบเลย! จูบเลย! จูบเลย! เสียงเชียร์บ่าวสาวดังมาจากอีกฝั่งของกำแพงบ้านสามารถกลบเสียงทะเราะจนเงียบสนิท



“ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงทำกับคนที่รักมึงแบบนี้หรอ” พี่ธันง้างหมัดเตรียมสวนกลับ ขณะเดียวกันผมก็รีบลุกโผล่เข้ากอด ใช้ตัวบังโฟร์ไว้

“พี่ธันอย่าทำเพื่อนผม” ผมหลุดปาก ผมแค่หลุดปากพูดไป ไม่ได้หมายความแบบนั้นเลย แต่คนฟังสิ

เพื่อน!? เพื่อนหรอซอ สุดท้ายกูก็เป็นได้แค่เพื่อนมึงใช่มั้ย” โฟร์เข่าอ่อนทรุดนั่งกองกับพื้นอย่างหมดแรง

“ไม่ใช่โฟร์ ไม่ใช่ กูรักมึงนะ มึงเข้าใจผิด” ผมขุกเข่าตาม นั่งจับมือไว้ พยายามอธิบายให้คนใจร้อนตรงหน้าได้ฟัง



จูบเลย! จูบเลย! เฮ่!!!!!! เบาๆเอคืนนี้ได้อีกเยอะ



“งั้นบอกกูสิ ที่บอกจะพยายาม มึงพยายามจะรักกูหรือมึงพยายามจะลืมมันกันแน่”

“มึงพอได้แล้วโฟร์ ซอรักมึงมากนะ” พี่ธันที่ยืนอยู่ข้างหลังช่วยพูด

“มึงแน่ใจหรอว่ามันรักกู” โฟร์ลุกขึ้นกำหมัดพุ่งเข้าหาพี่ธันอีกรอบ

“โฟร์พอได้แล้ว กูขอร้องพอได้แล้ว มึงเข้าใจผิด กูแค่ลาพี่ธัน มันจบแล้วจริงๆ”



โฟร์ฉะงักเมื่อตัวผมขวางหมัดที่กำลังพุ่งตรงเข้าหาพี่ธัน ผมถลาเอาหน้าซบเข้าที่อกของแฟนร้องไห้หนักกว่าเดิมน้ำตาไหลเป็นห่าฝน โฟร์คลายหมัดยกแขนขึ้นกอดมือลูบหลังขึ้นลงกระชับอ้อมกอดเป็นระยะ พี่ธันเองก็หยุดและยืนดูผมร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรตรงหน้า ทั้งสองคนยืนเฝ้าผมจนน้ำตาเริ่มแห้งเหลือแค่เสียงสะอื้น



“ไหวมั้ย”

“วะวะไหว”

“ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไม่น่ารักเลย เข้างานกันไอ้เอถามหาแล้วมั้ง”

ผมเงยหน้ามองคนพูดที่ไม่อาจคาดเดาความคิดกับสีหน้าที่นิ่งเฉย จนมันทำให้ผมรู้สึกกลัว กลัวผู้ชายที่โฟร์เป็นครั้งแรก โฟร์เอามือเช็ดหน้าเช็ดตา พร้อมเสยผมจัดแจงทรงให้เข้าที่ แล้วจับมือเตรียมเดินเข้างานอีกรอบ

“พี่ขอโทษ” มือพี่ธันรั้งไว้อีกข้าง

“ปล่อย!” โฟร์หันขวับเตือนพี่ธันเสียงเข้ม จนผมต้องสะบัดมือพี่ธันทิ้งก่อนที่จะมีการวางมวยรอบใหม่





ตอนนี้เวลาร่วงเลยไปเกือบตีหนึ่งแขกคนอื่นๆกลับกันจนหมดเหลือแค่คนในครอบครัวบ่าวสาวที่กำลังส่งตัวพี่พลอยกับไอ้เอเข้าหออย่างเป็นทางการอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างโฟร์กำลังจมลงในขวดเหล้าอย่างรวดเร็ว วางแก้วกระแทกกระทั่งกับโต๊ะ ปึ๊ก! ปึ๊ก! สีหน้าที่เคร่งขรึมเครียดคิ้วขมวดมีความโกรธพร้อมปะทุตลอดเวลา ตาจ้องพี่ธันเขม็ง พี่ธันก็นั่งชนแก้วกับพี่แฝดมองมาทางเราเช่นกัน



“ไงมึง เปรี้ยวกับเจ้านายกูปากแตกเลยนะสัส” พี่ชายผมย้ายมานั่งชนแก้วกับโฟร์

“หึ น้อยไปด้วยซ้ำที่มันโดน” ชน!

“ใจเย็นวัยรุ่น ทุกปัญหามีทางออก”

“ทางออกสำหรับผมตันแล้วเฮีย น้องเฮียมันไม่ได้รักผม แต่มันรักไอ้เชี่ยนั้น เฮียว่าผมควรทำยังกับน้องเฮียดี”

“ทำไมพูดแบบนี้อ่ะ กูต้องบอกมึงอีกกี่ครั้ง กูรักมึง” ผมดึงแก้วเหล้าออกจากมือแฟน

“มึงเลิกใช้คำว่ารักกับกูได้แล้วซอ จะไปไหนก็ไป” มันกระชากแก้วคืน

“มึงเมามาก ไปคุยที่บ้าน”

“กูไม่กลับ ไปไกลๆ” ครั้งแรกที่มันพูดจากับผมแบบนี้ เมื่อก่อนที่ผมพูดกับมันความรู้สึกคงไม่ต่างกัน

“ใจเย็นๆค่อยๆคุย น้องกูไม่ได้โกหกมึงหรอกโฟร์ มันรักมึง” พี่ชายวางมือที่ไหล่แฟน

“เฮียพามันกลับเหอะ ผมจะนอนกับไอ้เอ” ลูกบ้ามันมาอีกแล้ว

“มึงจะนอนได้ไง ไอ้เอมันแต่งงานแล้ว” พี่ชายผมเตือนสติแฟนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์บดบังการรับรู้เหตุผลไปซะหมด

“เฮีย ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้ซอ”

“ถ้ามึงไม่กลับกูก็ไม่กลับ โฟร์”

“ได้ มึงเลือกเอาจะกลับดีๆหรือจะให้กูเดินเข้าไปหาไอ้ธัน” โฟร์ยืนขึ้น

“พอๆ ใจร้อนทั้งคู่ งานแต่งไอ้เอนะพวกมึง คิดเยอะๆ” ไอ้ฉิ่งดึงแขนโฟร์ไว้

“แต่…” ผมดื้อด้านไม่อยากกลับ

“ซอ ไอ้โฟร์ไม่พร้อมที่จะฟัง มึงก็ควรกลับ รอมันพร้อมแล้วค่อยอธิบาย เรื่องพี่ธันมึงเคลียร์แล้วใช่มั้ย”

“อืม เคลียร์แล้ว”

“ก็ดี กลับได้ละกูไปส่ง”





พี่ชายผมขับรถมาส่งที่บ้านและย้อนกลับบ้านไอ้เออีกรอบด้วยความเป็นห่วงโฟร์ ความกระวนกระวานอัดแน่นในใจ น้ำตาก็สั่งไม่ได้ยิ่งห้ามมันยิ่งไหล ผมชินกับการมีใครอีกคนมานอนข้างๆแล้ว เขาเป็นคนที่ทำให้ผมหลับฝันดีทุกคืนแค่ได้กอด ต่อจากนี้ถ้าคนสำคัญของผมหายไปหรือไม่กลับมา มันคงยากที่จะเรียนรู้การอยู่คนเดียวอีกครั้ง




หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้













999999999999999999999999999999999

คนเขียนเลือกไม่ถูก55

งอนก็ง้อสิเนาะ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2017 01:02:23 โดย 19919 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก็คิดว่า วันหนึ่งมันคงจะมีเหตุการณ์อย่างนี้
ถ้าโฟร์ ไม่หึงหวง จะเป็นไปได้อย่างไร
คำพูด ที่พูดไปแล้ว มันเอากลับมาไม่ได้
มันฉุกละหุก กระทันหัน พูดว่าโฟร์เป็นเพื่อนมาสิบกว่าปี
ตอนนี้โฟร์ งอนแล้ว ทั้งที่รูว่าซอ พี่ธันจบกัน
ยังไม่ช่วยให้โฟร์ อารมณ์ดีได้เลย
ซอ ก็นอนไม่หลับ เพราะมีโฟร์ มานอนด้วยจนติด  :z3: :z3: :z3:
ซอ คงไม่ไปทนทวนตัวเอง โดยหนีโฟร์ กับทุกคนไปนะ
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
คนเขียนตอบไปทางโน้น เนื้อเรื่องดันมาทางนี้ คนอ่านสับสนก็มโนไปอีกทาง เดาไม่ถูกแล้ว ก็เป็นสีสันดี 555

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
คนเขียนตอบไปทางโน้น เนื้อเรื่องดันมาทางนี้ คนอ่านสับสนก็มโนไปอีกทาง เดาไม่ถูกแล้ว ก็เป็นสีสันดี 555

คนเขียน ก็งง นะ นึกว่าพี่ธันเป็นพระเอก55
แต่แค่ยังไม่ใช่ช่วงหวานของ โฟร์ เลยดูว่าพี่ธันมาวินมากกว่า
คนเขียนลงเรือ 4ซอ :mc4:

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่16 รักแบบ4D





เลขหมายที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้





นั่งกดเบอร์ตลอดทั้งวันกดอยู่เบอร์เดียว กดย้ำๆๆจนนิ้วล็อกก็ติดต่อไม่ได้เป็นแบบนี้มาอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ รอสายเรียกเข้ารอว่าโฟร์จะติดกลับมาแต่ว่างเปล่า เพื่อนในห้องเรียนเป็นเพียงอากาศที่พัดผ่านมาแล้วพักผ่านไป มองทางไหนก็เจอแต่คำว่าเหงา เพิ่งสะกดคำว่าหว้าเหว่เป็นในวันที่โฟร์ไม่อยู่ การขาดใครไปสักคนไม่มีผลดีต่อการดำเนินชีวิตเลยสักนิด ทุกอย่างรอบๆตัวล่องลอยเบาหวิวและไร้คุณค่า



ถ้าหากความคิดถึงกลั่นออกมาเป็นคำพูดได้ ท้องฟ้าที่ผมกำลังนั่งมองจากหน้าต่างในตอนนี้คงเขียนไม่พอ ขอโทษที่เคยไล่ไปไกลๆ ขอโทษที่พูดอย่างไม่คิดอยู่บ่อยครั้ง ขอโทษที่ทำให้เสียใจมาตลอด ขอโทษที่เพิ่งรู้มึงคือลมหายใจอีกครึ่งของกู




“พาร์ทต่อไปเป็นพาร์ทของข้อสอบปลายภาค นักศึกษาตั้งใจนิดนึ่งนะค่ะ คะแนนจะได้ออกมาดีๆ ถ้าตั้งใจก็ง่ายนิดเดียวจะได้ไม่ต้องมาลงเรียนใหม่อีกรอบ เรามาเริ่มกันที่โครงสร้างของ ความเหงา ความเหงามีส่วนประกอบพื้นฐานอยู่สามส่วน”

“ส่วนแรกคือ เกิดจากการที่เราคิดถึงใครหนึ่งคนมากๆ เราจะสร้างจินตนาการภาพใครคนนั้นในหัวจนสลัดไม่หลุด”

“ส่วนที่สอง แยกออกเป็นสองข้อย่อยคือความผูกพันและเวลา ยิ่งใกล้ชิดยิ่งคิดถึงแค่เรามองข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าทุกๆอย่างที่ใช้ร่วมกันก็เป็นสาเหตุหลักๆของความเหงาได้”

“ส่วนที่สาม เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ความเหงาเกิดจากความรัก เวลาที่ใครคนนั้นหายไป ความเหงาจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่าโดยที่เราไม่สามารถต้านทานหรือยับยั้งความเหงานั้นได้”




“อาจารย์ครับ แล้วมีวิธีแก้ความเหงาให้ทุเลาลงได้มั้ยครับ”


ผั๊ววว!!!!


“ไอ้เชี่ยซอ! มึงถามอะไรของมึงเนี่ย อาจารย์พูดถึงเรื่องแคทเทอริ่ง นั่งลงเลยสัส” ไอ้เอดึงแขนผมให้นั่งลง

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

“ออกไปพักก่อนไหม กนิกนันท์ อาจารย์อนุญาต”

“ขอโทษครับ อาจารย์”




โค้งตัวขอโทษอาจารย์แก้เขินแล้วค่อยหย่อนตูดนั่งที่เก้าอี้ เมื่อกี้ผมถามอะไรออกไปนะครับ ไอ้เอตบซะแรงเชียว ก้มหน้าก้มตามองหนังสือใหม่อีกรอบ อายเพื่อนในห้องที่หัวเราะเยาะเสียงดัง นี้ขนาดเพื่อนๆนั่งเต็มห้องยังเหลือที่ว่างให้ความเหงามานั่งข้างๆผมได้เลย



จะสอบอยู่แล้วนะซอยังไม่มีสติอีกนั่งเหม่อหาอะไร ผมพยายามเรียกสติกลับแล้วแต่มันไม่ยอมกลับมาผมต้องทำไง ก็โฟร์มันหายไปแบบนี้ ผมจะเอาสติมาจากไหนมาตั้งใจเรียนทั้งห่วงทั้งคิดถึง คนรอบข้างก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลยสักคน หลังจากงานแต่งไอ้เอแฟนผมก็หายจากชีวิตไปไม่ติดต่อกลับมาปล่อยให้ผมนอนกอดหมอนข้างมาเป็นอาทิตย์



เหงามากแค่ไหนนะหรอ เหงาถึงขนาดไม่กล้านอนที่ห้องตัวเองต้องไปนอนเบียดเฮียขลุ่ยหรือบางคืนก็เฮียฉิ่งสลับกันอยู่แบบนี้ มุมทุกมุมของห้องก็มีแต่ภาพและความทรงจำของมันปรากฏ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม มือที่กุมแก้มผมก่อนนอนก็ยังอยู่ ตามหาทุกที่ ที่โรงแรม ที่บ้าน ตึกวิศวที่ไม่เคยนั่งก็ไปดักรอเพราะหวังว่าจะเจอแต่ก็ไม่เจอ อยากปรับความเข้าใจ อยากขอโทษและอยากให้กลับมากอดเหมือนทุกคืนที่อยู่ด้วยกัน  กดใหม่อีกรอบเผื่อจะเปิดเครื่องแล้ว




เลขหมายที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้




แหว๊ะ!!!!



“เอ เป็นไร” ฟางยื่นถุงพลาสติกให้ไอ้เออ้วกใส่ พลางช่วยลูบหลังเพื่อน

“ฟาง เราขอกินมะม่วงสักชิ้นดิ มึนหัวมากสงสัยเรียนหนักจนเครียด” ไอ้เอกินมะม่วงเปรี้ยวกับเพื่อนสาวจนผมเข็ดฟันแทนร้อยวันพันปีไม่เคยแตะของเปรี้ยว

“เรามีอีกถุงกินเยอะๆ ว่าแต่พักผ่อนน้อยป่าวเนี่ยเอ หน้าซีดๆนะ” ฟางยื่นถุงมะม่วงให้ไอ้เอเพิ่ม

“หนัก จนไม่มีเวลาพักเลยหรอเอ เพลาๆหน่อยนะมึง” ไอ้พัดเริ่มแหย่เพื่อน

“ไอ้พัดไอ้จัญไร พี่พลอยท้อง ทุกวันนี้จะจับมือเมีย กูยังขออนุญาตเขาอยู่เลยสัส เลิกคิดอัปปรีย์เลยนะมึง”

“สวยขนาดนั้นปล่อยได้ไงวะ เป็นกูหน่อยไม่ได้” ไอ้พัดยักคิ้วใส่ไอ้เอ

“พัดเลิกแซวเอได้แล้ว เนว่าพัดห่วงซอดีมั้ย ดูสิใจลอยไปถึงไหนละ” เนเอ็ดแฟนทันทีที่เริ่มพูดเรื่องทะลึ่ง

“เห้ย!! เราโอเค” ผมไม่ได้เหม่อสักหน่อย ได้ยินทุกคำที่เพื่อนคุยกันนะ

“มึงไม่โอเค ซอ อั๊วกกกกก” ไอ้เอพูดไปอ้วกไป

“มึงนั้นแหละที่ไม่โอเค ไอ้เอ”

“แล้วเป็นส้นตีนอะไร เรียนก็ไม่ตั้งใจเข้าหัวบ้างป่ะเนี่ยจะสอบแล้วนะมึง” ไอ้เอยังจิ้มมะม่วงกับพริกเกลือ ปากก็ด่าผมไม่หยุด

“โฟร์ติดต่อไม่ได้เลยมึง กูเป็นห่วงมัน ไม่มีใครรู้เลยว่ามันอยู่ไหน”

“อ่อ ที่แท้ก็คิดเรื่องผัวนี่เอง ถ้ากูเห็นอย่างมัน ก็ฟิลว์ขาดนะมึง กอดกับพี่ธันตัวกลมแบบนั้น”

“เรื่องพี่ธันจบแล้วไง จะซ้ำเติมกูเพื่อ มันโทรหามึงบ้างป่ะ”

“ไม่โทร แหว๊ยะ!!!”

“ช่วยห่าอะไรไม่ได้เลยนะมึง หรือมันจะทิ้งกูวะเอ” ทิ้งร่างหมอบกับโต๊ะหงอยๆ เพื่อนคงสมน้ำหน้าผมอยู่ในใจ

“เออ กูขอให้มันทิ้งมึงจริงๆ หลายใจดีนัก”

“ไอ้เหี้ยเอ” ผมยื่นมือตบหัวไอ้เอ ข้อหาปากหมา พูดจาไม่เข้าหู




ครืด~~~ครืด~~~~ครืด~~~~~




รีบล้วงมือถือขึ้นมาดูเผื่อสายเรียกเข้าจะเป็นเบอร์ที่เมมชื่อว่า แฟน แต่ก็ไม่ใช่ เฮ่ย! ถอนหายใจทิ้งทั้งวันแหละนะ ไม่อยากกดรับเลย  Calling 0802244888 จะสไลท์รับสายหรือจะตัดสายทิ้งดีนะ  ลูกค้าเจ้ขิมโทรตามเอกสารแน่ๆ



ครืด~~~~ครืด~~~~ครืด~~~~



“รับสายเร็วๆ กูรำคาญ”


ไอ้เอกดรับสายแทนผมแล้วยัดมือถือแนบกับหู เป็นผู้หญิงโทรเข้ามาครับ เสียงกระเส่าร้องไห้สะอึกสะอื้นให้ผมคิดตามและประติดประต่อร้อยเรียงเรื่องเข้าด้วยกัน คีย์เวิร์ดสามคำที่พอจับใจความได้คือ อังกฤษ สุวรรณภูมิ โฟร์ แล้วแม่ก็วางสาย มวลน้ำมหาสารได้ไหลทะลักเอ่อล้นท้วมตาเป็นเขื่อนแตกทันที



“เห้ย! ซอเป็นไร” เพื่อนสาวผมตีที่ไหล่เรียก

“เดี๋ยวค่อยคุยกันนะฟาง ไอ้เอ ไปสุวรรณภูมิด่วน ไอ้โฟร์กำลังจะทิ้งกูแล้วจริงๆ หื้อ หื้อ”

“กูอ้วก ไปไม่ไหววะมึง”

“ถือถุงไปอ้วกบนรถ ก่อนที่กูจะเสียไอ้โฟร์ไป เร็ว!”




หูตาฝ่าฟางมองเห็นป้ายบอกทางไปสุวรรณภูมิขมุกขมัว สายตาที่เคยมองอะไรต่ออะไรอย่างชัดเจนกลับเลือนรางลงมอเตอร์เวย์รถหนาแน่นคับคลั่งแต่ก็เหยียบคันเร่งไม่มีผ่อน อยากหายตัวอยู่สนามบินซะให้ได้เลยตอนนี้ ปิ๊น! ปิ๊น! ขับช้าไปวิ่งเลนซ้ายเลยไป๊ คนกำลังรีบแซงซ้ายทีแซงขาวที จับพวงมาลัยจนสั่นกลัวไปไม่ทันก่อนเครื่องออก กลัวไม่ทันเห็นหน้ากลัวโฟร์มันทิ้งผม



“ไอ้ซอ รถ!!!!!!”

“โทษที กูรีบ”

“ให้กูเห็นหน้าลูกก่อนสัส”




ไอ้เอร้องเสียงหลงเมื่อเห็นรถบรรทุกที่จ่อตรงหน้าและผมหักหลบกะทันหันลืมว่าเพื่อนนั่งมาด้วย ก็คนมันใจร้อนอยากถึงเร็วๆ บทโฟร์มันเอาจริงขึ้นมาน่ากลัวจะตายเพราะลูกบ้ามันเยอะใครจะห้ามมันได้ ผมเองยังไม่แน่ใจเลยจะห้ามมันไม่ให้ไปอังกฤษได้ไหม


 
มาถึงสนามบินผมวิ่งแหวกฝูงชนที่มีนับหมื่นหาแค่โฟร์คนเดียวสายตาต้องการเห็นแค่มัน วิ่งวนเป็นหมาบ้าทุกเคาน์เตอร์ของสายการบิน มือพลางกดโทรออกสลับกับเงยหน้ามองหา นี่มันฉากในละครหลังข่าวที่นางเอกวิ่งตามพระเอกชัดๆ



จนเรามาหยุดที่สายการบินสีม่วง ไอ้เอนั่งหมดแรงที่เก้าอี้พร้อมถุงพลาสติกในมือ ผู้ชายรูปร่างคุ้นตาที่ทำให้ใจเต้นแรง ผู้ชายที่สูง186ซม หนัก 80 โล คนที่ผมกำลังวิ่งตามหา คนที่ทำให้ผมนอนคนเดียวไม่ได้ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขากำลังยืนหันหลังในมือถือพาสปอร์ตเล่มแดง



ผมกระโจนเข้ากอดอย่างไม่กลัวผิดคน แผ่นหลังที่ผมนอนกอดทุกคืนใครจะจำมันไม่ได้จริงไหม หน้าสบเข้าแผ่นหลังมือสอดผ่านเอวกอดแน่น กลิ่นกายอ่อนที่สัมผัสได้นี้ยิ่งเตือนได้ดีว่าผมกอดโฟร์




“โฟร์อย่าไปไหนนะ”

เสียงอ้อนวอนเล็กๆที่กลั่นออกจากใจพยายามห้ามคนรักไม่ให้หายไปไหน มันออกจากก้นบึ้งของความรู้สึก ช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่าน มันก็แย่มากพอแล้ว ถ้าจะต้องห่างกันคนละทวีปแบบนี้ผมคงไม่สามารถอยู่เป็นผู้เป็นคนได้เลยสักวัน

“มึงมาทำไมซอ” โฟร์ถามเสียงแข็ง พร้อมใช้มือแกะแขนผมออกจากตัว หน้าบูดบึ้งไร้ความรู้สึกท่าทีที่นิ่งเฉยและเดาความคิดไม่ได้ อย่าโกรธนานได้ไหม



หันหลังกลับมาผมแอบยักคิ้วให้ไอ้เอที่นั่งไม่ไกลมากนัก มันยิ้มตอบแล้วก็อ้วกต่อ ส่วนคนตรงหน้าร้องไห้เป็นเผาเต่า ยืนตัวสั่น กล้าๆกลัวๆ ตาดวงเล็กของมันบวมจนจะปิดและแดงก่ำเพราะร้องไห้มาหลายรอบ ไอ้เอบอกผมมาแบบนั้น



“ก็มาตามมึงกลับบ้านไง อย่าไปนะโฟร์กูขอร้อง หื้อหื้อหื้อ”

ผมโผล่เข้ากอดโฟร์อีกครั้ง เอาหน้าแนบที่หัวใจเผื่อบางทีอาจได้ยินความคิดของมันบ้าง ทำไมเย็นชาละช่วยร่าเริงเหมือนเดิมได้ไหม ช่วยกลับมากวนตีนกูเหมือนเดิมได้ไหมโฟร์



ผมยืนนิ่งๆทิ้งแขนลงแนบตัวไม่ได้กอดมันตอบ ทั้งๆที่อยากกอดมากคิดถึงที่สุดแต่ต้องนิ่งยืนฟังและปล่อยให้มันพูดไป ไอ้เอแอบมองและกลั้นขำเมื่อเห็นสภาพเพื่อนร้องไห้งอแงเป็นเด็กกลางสนามบิน


 
“กูไม่กลับ” ความเจ็บปวดเพิ่มพูนมาจากไหนกัน แค่คำว่าไม่กลับขาก็หมดแรงลงทันที มันจะไปจากผมให้ได้ใช่ไหม ผมจะเสียมันไปแล้ว

“ไหนมึงบอกจะอยู่ข้างๆกู จะดูแลกูแล้ววันนี้มึงจะทิ้งกูหรอ ไม่ให้ไปนะโฟร์ ไม่ให้ไปนะ” ผมกอดแฟนแน่นขึ้น โฟร์ไม่กอดผมเลย ไม่แม้แต่จะเช็ดน้ำตาให้ ผมต้องรั้งมันให้ได้



โอ้ย! ผมจะสงสารไอ้ซอหรือขำดี มันเหมือนเด็กมากเอาหน้าซุกอกพลางมือขยำเสื้อ ไม่ให้ไป ไม่ให้ไป พูดซ้ำๆ ร้องไห้โยเยโคตรน่ารัก ง้อผมก็เป็นนี่หน่านึกว่าเหวี่ยงเป็นอย่างเดียว อยากบอกไอ้เอช่วยอัดคลิปไว้ดูจัง



“มึงเจอเจ้าชายของมึงแล้วนิ จะอยู่ทำไม ปล่อยกูได้แล้ว” 

ยังมีความโกรธอยู่เต็มเปี่ยม ที่จะไปเพราะเรื่องพี่ธันหรอ อธิบายก็ไม่ยอมฟัง ผมอาจจะผิดที่ปล่อยปัญหานั้นไว้นาน แต่ก็เคลียร์ไปแล้ว ไม่มีทางที่ผมจะอยู่กับพี่ธันได้ ทำไมมันไม่เข้าใจสักที

“กูไม่อยากตื่นมาแล้วเจอเจ้าชาย แต่กูอยากตื่นมาแล้วเจอหน้ามึงทุกวัน รักมึงนะโฟร์ กูอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว เหงามากตอนที่มึงไม่อยู่ กลับบ้านกันนะ”

ผมผละตัวเองยกแขนปาดน้ำตา โฟร์ยังคงมองด้วยสายตาที่นิ่ง แววตาไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วผมก็ยื่นมือกุมแก้มของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยความห่วงหา

ค่อยๆเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยให้เหม่งได้สัมผัสกันและกัน ให้ลมหายใจอีกครึ่งมาเติมเต็มในส่วนที่หายไป



“กลับบ้านเรานะ”



จากนั้นซอก็เลื่อนริมฝีปากเล็กของมันมาประทับจูบผมทุกอย่างซอฟนุ่มนวลละมุนละไม อ่อนโยนน่าทะนุทนอม รับรู้ถึงความเหงาและคิดถึงที่ส่งผ่านเข้ามา แววตาใสราวกับท้องฟ้าของมันค่อยๆเคลิ้มและฟุ๊บเข้าที่ไหล่ของผม หลับกลางสนามบินเลยนะซอ ใครจะกล้าทิ้งแฟนประหลาดรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นแบบนี้ได้ลงคอนะ ผมรีบช้อนตัวอุ้มขึ้น ไอ้เอเดินเข้ามาใกล้หลังจากที่แฟนผมหลับไป




“เล่นแรงไปไหมมึง”

“ไม่หรอกน่า เบาๆ”

“เบาพ่องมึงสิ กูเกือบไม่ได้กลับไปเจอหน้าลูกเมียแล้วเชี่ย ฟาสต์แอนด์ฟิวเรียสเร็วแรงทะลุนรกมาก หลบรถพ่วงมันส์เลยสัส ปาดซ้ายปาดขวา กูนี่ใจหล่นแว๊ปป”

“ฮ่าๆๆ ขนาดนั้นหรอวะ มึงเห็นมันอ้อนกูป่าวละน่ารักโคตร คุ้มนะ”

“เอ้อ น่ารักม๊ากกก อย่าให้มันรู้ว่าเป็นแผนละกัน มึงจะเห็นความเหี้ยมันก็คราวนี้สัส”

“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหัวเราะลั่นขณะที่อุ้มแฟน เดินมาลานจอดรถ

“แล้วพ่อแม่มึงไปนานไหม” ไอ้เอถามพลางเปิดประตูรถให้ผมเอาตัวซอไว้ที่เบาะหลัง

“ก็เดือนหนึ่งแหละ กูต้องเข้าไปดูโรงแรมแทนเขา”

“อ่อ! ตอนที่มันติดต่อมึงไม่ได้ กูนึกว่ามันตายห่าซะละ ยิ่งกว่าหมาป่วยเลยนะมึง แต่ในที่สุดมันก็ยอมรับความรู้สึกที่มีต่อมึงสักที เสือกสร้างกำแพงกั้นตัวเองดีนัก ถ้าไม่มีตัวแปรอย่างพี่ธันมันก็ไม่รู้หรอกว่ามันรักมึงมากแค่ไหน คงหนีอีกนาน”

“เข้าใจมันนะ ก็กูเป็นเพื่อนมันนิ คงยากแหละที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”

“ใช่อ่ะนะ ก็มันกลัวความรักเพราะกลัวโดนทิ้งเลยปิดกั้นทุกคนที่เข้ามา ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่มึงแล้วนะโฟร์”

“เออกูรู้ มึงขับรถนะเอ กูขอนั่งดูหน้ามันหน่อยโคตรคิดถึงไม่เจอตั้งนาน”

“อ๊วกกก!! หยิบถุงให้กูที อ๊วกกกก!!”





เสียงอ้วกของไอ้เอทำลายบรรยากาศดีๆหมดคนกำลังซึ้ง ผมนั่งมองหน้าแฟนที่นอนหลับปุ๋ยหนุนตักผมมาจนถึงโรงแรมและอุ้มขึ้นมานอนที่ห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารออีกฝ่ายฟื้นขึ้นมา วันนี้แหละที่จะทำให้มันรู้นอกจากการจูบยังมีอย่างที่สำคัญกว่า




“งื้ออออ” ผ้าห่มขยับตามคนดิ้นดุกดิกๆข้างใต้

“ตื่นแล้วหรอ ฝันดีไหม”

“มึงพากูมาอังกฤษด้วยหรอโฟร์”

“ตลกละมึง ดูดีๆ ที่ไหน” ผมเดินมานั่งที่เตียง

“กูไม่ได้ฝันใช่มั้ย” ผมยื่นหน้าเข้าไปจุ๊ปเหม่งมันหนึ่งที

“ฝันป่ะละ” ซอลุกขึ้นกระโดดสุดตัวเข้ากอดผม

“ขอบคุณนะที่ไม่ไป ขอบคุณที่กลับมาอยู่ด้วยกัน”

“ใครจะทิ้งแฟนตัวเองได้นะ” ผมเอามือขยี้หัวมันเบาๆ

“แล้วทำไมพากูมานอนโรงแรงละ”

มันทำหน้างง ปกติเราจะนอนที่บ้านมัน ต่อจากนี้อีกหนึ่งเดือนก็ต้องนอนที่นี้แหละครับพ่อแม่ไม่อยู่ ต้องเข้ามาดูงานแทนท่าน

“ก็เตียงที่นี้มีสปริง ที่บ้านไม่มีไง” ผมโน้มตัวเข้าไปใกล้ อีกฝ่ายก็เอนตัวหนี

“อะไรของมึงเนี่ย เตียงสปริงอะไร เอาหน้าออกไปเลย” มันผลักผมออกหน้าแดงหูแดง

“แฟนครับ ขอนะ”





กระซิบข้างหูจบผมก็เริ่มรุกโดยการใช้แขนสองข้างกั้นซอไว้ เสนอหน้ายื่นเข้าไปใกล้พยายามบังคับด้วยภาษากายให้มันล้มตัวนอนราบไปกับเตียงอีกครั้ง ซอมองตาปิ๊บๆผมก้มไล่จูบที่ต้นคอช้าๆ มันสะดุ้งหันหน้าหลบเล็กน้อย จมูกฝังที่แก้มซ้ายขวาและพยายามหลีกเหลี่ยงจุดอันตราย  มือเริ่มปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด ริมฝีปากผมเลื่อนลงต่ำมาหยุดที่หน้าอก จูบลงเบาๆ มือขวาเริ่มมุดเข้าในกางเกง ทว่า…




ไอ้แฟนตัวดีกลับชักมือออกแล้วดึงตัวผมให้หน้าประชิดกัน อย่านะซอ อย่าทำ กูขอร้องบ้าง และแล้วมันก็ประกบจูบผมอย่างดูดดื่มสอดลิ้นเข้ามาทักทายทำหน้าล้อเรียนกวนตีน ตาค่อยๆปิดและหลับไปพร้อมกับยิ้มหวาน



"ไม่ๆซอ อย่าเพิ่งหลับ  ลืมตาก่อน ซอ ซอ!" มือตบที่แก้ม เบาๆ



อยากเอานิ้วถ่างตาให้มันตื่นจริงๆ เล่นแบบนี้ใช่ไหมซอ คิดว่าจะรอดใช่ไหม ได้เลยครับแฟน เดี๋ยวเจอกัน

น่ารักก็ส่วนน่ารัก กวนตีนก็ส่วนกวนตีน ไม่มีทางหนีพ้น คอยดูจะนั่งเฝ้าจนกว่าจะตื่นอีกรอบ ยังไงก็ต้องสำเร็จคืนนี้เพราะน้องชายมันไม่ยอมนอนแล้วนะตื่นมารับผิดชอบเดี๋ยวนี้ซอ












99999999999999999999999999999999

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่น่ารักด้วยนะค่ะ
แนะนำได้นะจะได้ปรับปรุงแก่ไข :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2017 20:26:15 โดย 19919 »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
อ่านตอนซอฟังอาจารย์บรรยายแล้วขำก๊าก กำลังคิดตามอยู่ว่าวิชาอะไรทำไมมีเรียนเรื่องความเหงาด้วย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ฮ่าๆๆๆ ขำไรท์  นึกว่าพี่ธันเป็นพระเอก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ก็มีคนอ่านสองทีม เชียร์อยู่นี่นะ ทีมพี่ธัน กับ ทีมโฟร์
โอ๊ย.......ซอ ง้อโโฟร์ ได้น่ารัก น่าเอ็นดู น่ากอดมากๆ
ทั้งกอด ทั้งร้องไห้ กุมแก้มโฟร์  เขย่งปลายเท้าให้เหม่งได้สัมผัสกันและกัน
ให้ลมหายใจอีกครึ่งมาเติมเต็มในส่วนที่หายไป /  ฟินนนนน
กลับบ้านเรานะ จุ๊บปากโฟร์เสร็จ สลีปปี้เลย /โอ๊ย.....นังโฟร์ เลิกเล่นตัวได้ละ
แล้วดูนังโฟร์ พูดกับเอ "มึงเห็นมันอ้อนกูป่าวละน่ารักโคตร คุ้มนะ"  / ฮึ่ยยยยย
ส่วนโฟร์  'วันนี้แหละที่จะทำให้มันรู้นอกจากการจูบยังมีอย่างที่สำคัญกว่า'
แล้วมันอะไรล่ะ คนอ่านก็อยากรู้มากกกกก เหมือนกัน
อูยยย........โฟร์ เอาจริงและ สุดท้าย ซอ ก็กวนตีน ชิงหลับ
โฟร์ ก็'ยังไงก็ต้องสำเร็จคืนนี้
เพราะน้องชายมันไม่ยอมนอนแล้วนะตื่นมารับผิดชอบเดี๋ยวนี้ซอ'
  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล.  ขอแก้ที่ผิดนะ
พาทต่อไป ------ พาร์ท
โกรธอยู่เต็มเปรี่ยม ------ เปี่ยม
คนกำลังซึ่ง ------ ซึ้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ฮ่าๆๆๆ ขำไรท์  นึกว่าพี่ธันเป็นพระเอก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ก็มีคนอ่านสองทีม เชียร์อยู่นี่นะ ทีมพี่ธัน กับ ทีมโฟร์
โอ๊ย.......ซอ ง้อโโฟร์ ได้น่ารัก น่าเอ็นดู น่ากอดมากๆ
ทั้งกอด ทั้งร้องไห้ กุมแก้มโฟร์  เขย่งปลายเท้าให้เหม่งได้สัมผัสกันและกัน
ให้ลมหายใจอีกครึ่งมาเติมเต็มในส่วนที่หายไป /  ฟินนนนน
กลับบ้านเรานะ จุ๊บปากโฟร์เสร็จ สลีปปี้เลย /โอ๊ย.....นังโฟร์ เลิกเล่นตัวได้ละ
แล้วดูนังโฟร์ พูดกับเอ "มึงเห็นมันอ้อนกูป่าวละน่ารักโคตร คุ้มนะ"  / ฮึ่ยยยยย
ส่วนโฟร์  'วันนี้แหละที่จะทำให้มันรู้นอกจากการจูบยังมีอย่างที่สำคัญกว่า'
แล้วมันอะไรล่ะ คนอ่านก็อยากรู้มากกกกก เหมือนกัน
อูยยย........โฟร์ เอาจริงและ สุดท้าย ซอ ก็กวนตีน ชิงหลับ
โฟร์ ก็'ยังไงก็ต้องสำเร็จคืนนี้
เพราะน้องชายมันไม่ยอมนอนแล้วนะตื่นมารับผิดชอบเดี๋ยวนี้ซอ'
  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล.  ขอแก้ที่ผิดนะ
พาทต่อไป ------ พาร์ท
โกรธอยู่เต็มเปรี่ยม ------ เปี่ยม
คนกำลังซึ่ง ------ ซึ้ง

ขอบคุณค่ะ^^ :pig4:

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1





ตอนที่17  รักและห่วงใย






ผมวางแก้วกาแฟใบที่สามไว้ที่จานรองพร้อมกับนั่งมองเข็มสั้นนาฬิกาชี้ที่เลข3พอดี นั่งถ่างตาทำไมนะหรอครับก็นั่งรอคนที่นอนยิ้มแฉ่งอยู่บนเตียงตื่นมาอีกรอบไง มันตื่นมาแล้วรอบหนึ่งตอนตี2ผมก็ซุกไซ้บวกกับซุกซนนิดๆหวังว่าจะได้ประสานเสียงด้วย เลยลองขอฟิตเจอริ่งกับแฟนเป็นครั้งที่2ของคืนนี้ มันดูเหมือนจะยอมนะหน้าเคลิ้มเชียวแหละ แต่…ขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอารมณ์พุ่งสูงปี๊ดอยู่นั้น มันฉวยโอกาสตอนผมเผลอแอบจูบเพื่อให้ตัวเองหลับจนได้  ถามว่าใครปวดหละทีนี่ ถ้าไม่ใช่ผม



พอแฟนหลับปุ๋ยอย่างสบายใจก็ได้เวลาทบทวนคำถามตอนสอบโอเน็ต ที่บอกว่าถ้ามีอารมณ์ทางเพศให้ออกกำลังกายแล้วจะหาย ผมกระโดดตบไปหนึ่งร้อยครั้ง ลุกนั่งอีกหนึ่งร้อยครั้ง ใครออกข้อสอบครับช่วยแก้คำตอบโอเน็ตให้ด้วย ผมทดสอบกับตัวเองแล้วยืนยันนะช่วยไม่ได้ มันยังคงโดดเด้งปึงปังเหมือนเดิมเลย ไม่ใช่กาแฟที่ทำให้ตาค้างแต่ช่วงล่างมันไม่ยอมให้ผมนอนต่างหาก



คอยดูไอ้แฟนตัวแสบเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับผมแบบนี้  ผมเป็นคนความอดทนสูงซะด้วย มีหรือที่จะยอมแพ้มันง่ายๆ ตามจีบก็หลายปี ยอมให้มันด่าเป็นล้านๆครั้ง กว่าจะได้มาเป็นแฟนก็ยากแสนเข็ญ ตอนนี้ต้องมาอดทนรอให้มันตื่น บอกเลยเบๆ เอาชนะใจก็ทำได้แล้วเหลือแค่เอาชนะโรคประหลาดของมันเท่านั้นแหละ




“อ่า~~~~”

“ไอ้ตัวดี ตื่นสักทีนะมึง”

“โฟร์ นี่มึงยังไม่นอนอีกหรอ”

“เอ้อ มันค้างแบบนี้ ให้กูหลับได้ไง”  นิ้วชี้ที่ตา แต่หน้าก้มมองที่เป้า

“ไอ้หื่นโฟร์”

มันดึงผ้าห่มมาปิดหน้าอก เพราะก่อนหน้านี้เล้าโลมกันจนเครื่องร้อนไปถึงขั้นถอดเสื้อออกได้เรียบร้อยแล้ว แฟนผมมันบ้า จูบผมทั้งคืนเลยหลับแล้วหลับอีก
 
“เครื่องกูติดนานแล้วนะมึง ให้ไม่ได้หรอวะ น้อยใจชิบหาย ทีกับไอ้ธันนะทั้งจูบทั้งกอดกับกูอะไรๆยากจัง เริ่มสงสัยละนะ มึงรักกูจริงๆหรือเปล่า ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนนะโว้ย” 

หมุนเก้าอี้หนีตีหน้าเศร้า งานแสดงต้องมา ดราม่าเกินร้อย ผมนี่แหละลูกศิษย์ครูเงาะ เจอไม้นี้มันจะทำไง

“งอนอะไรนักหนา กูเป็นของมึงทั้งตัวและหัวใจนั้นแหละ”

มันลงจากเตียงเข้ากอดผมจากด้านหลังคางเกยที่หัวไหล่  ริมฝีปากจุ๊ปเข้าที่ต้นคอ น่ารักแบบนี้จะแกล้งให้ยาวเลย

“หรืออยากกลับไปหาพี่ธันของมึง” แกล้งถามเสียงเข้มใส่อีกฝ่ายที่ยังกอดผมไม่ปล่อย

“ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับเค้าเลย”

“แน่จ๊าย แล้วหลับหนีกูทำไม”

“ไม่ได้หลับหนีสักหน่อย แค่จะจูบให้หายคิดถึงเฉยๆ” ซอใช้ริมฝีปากมาคลอเคลียกับแก้มของผมหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก

“หายคิดถึงรึยังละ ถ้าหายแล้ว ขอนะ”

ผมแกะอ้อมกอดมันออกหมุนเก้าอี้กลับมามองคนที่ยืนหน้าแดง ดึงตัวให้นั่งลงที่ตักมือประสานกันไว้ที่หลังเพื่อประคองอีกฝ่าย เงยหน้ามองตาเล็กๆที่กำลังแสดงอาการเขินอาย

“หายคิดถึงแล้ว แต่กลัวเจ็บ กูไม่เคยนิ” หึหึหึ แอบขำในใจอย่างวายร้าย

“ก็ยอมซะสิจะได้เคย สัญญาว่าจะค่อยๆทำ นะๆ”

ผมกระชับอ้อมกอดดึงอีกฝ่ายเข้ามาประชิดแนบแก้มลงที่อกขาวๆจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัว และดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่าง ส่องแสงวิ๊บวั้บเข้าตา

“ยังใส่สร้อยเส้นนี้อีกหรอ”ผมผละหน้าออกจากอก
ขาวมือจับจี้ไม้กางเขนแล้วมองสลับกับหน้าซอ

“กูถอดก็ได้ถ้ามึงไม่ชอบ” ซอยกมือขึ้นกำลังจะถอดสร้อยเส้นนั้นออก

“ไม่ต้องก็ได้ เก็บมันไว้เป็นความทรงจำมึงเหอะ กูไม่คิดมากหรอก” ผมรั้งมือซอให้ไม่ให้ถอดสร้อยออก

“รักมึงนะโฟร์ รักมาก ขอบคุณๆๆๆ”

ซอกอดผมอีกครั้งด้วยความดีอกดีใจ ความทรงจำดีๆบางอย่างของแฟนผมไม่อยากให้มันลบทิ้งไป อย่างน้อยความทรงจำพวกนั้นก็ทำให้ซอมีความสุขและยิ้มได้

“เลิกหอมได้แล้ว ตกลงกูจะได้มั้ย จะสว่างละนะซอ” พูดด้วยความหมั่นเขี้ยวมือแกล้งตีที่ก้นมันหนึ่งที จนอีกฝ่ายรีบลุกขึ้นทันที

“อาบน้ำก่อน”






มองค้อนเล็กน้อยแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผมชอบแฟนในร่างนี้มากไม่มีคำพูดแรงให้น้อยใจ ไม่เหวี่ยงไม่ออกฤทธิ์ออกเดช ดูเขินหน่อยๆนิ่มนวลนิดๆอ่อนหวานเล็กๆ น่ารักจนผมต้องนั่งสัปหงกรอทั้งๆที่ง่วงมากตาปิดไปหลายรอบแต่ก็พยายามถ่างตารอ เราน่าจะได้เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว เสียดายเวลาที่ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ ไม่อย่างนั้นคงได้ใช้เวลาชีวิตร่วมกันเยอะขึ้นอีกตั้งสามปีแหนะ แต่เอาเถอะ60ปีข้างหน้าผมจะใช้ชีวิตร่วมกับซอให้มีความสุขไปด้วยกันทุกๆวันเลย



เสียงน้ำจากฝักบัว ดัง ซ่า ซ่า คงอีกหลายนาทีขอเอนตัวพักเติมแรงนะครับวันนี้เหนื่อยและง่วงพอสมควร โลวแบตเตอรี่มากของีบชาร์จพลังสักครู่จะได้ตื่นมาจัดการไอ้ตัวดีให้เคยๆสักที






อ้าว…ทำไมหลับแล้วละไหนบอกจะรอไง นอนขาเกยกอดหมอนหลับปุ๋ยซะแล้ว ท่าทางคงง่วงมากแต่ก็ฝืนร่างกายแค่จะกวนผม นิสัยขี้แกล้งเป็นตั้งแต่เด็กจนโตกับไอ้เอไม่เห็นจะแกล้งมันบ้างนะ ทีกับผมกวนตีนยังไงก็ยังคงกวนตีนได้สม่ำเสมอจนถึงทุกวันนี้ ผมเช็ดเนื้อตัวใส่เสื้อผ้า ปิดไฟ แล้วขึ้นบนเตียง ดึงผ้าผมให้โฟร์พร้อมซุกตัวเข้าในอ้อมแขน



“โฟร์ โฟร์ครับ” ลองปลุกดูก่อนเผื่อว่ามันจะไหว “โฟร์ ตื่น” เรียกอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆคืนนี้ก็กอดกันก่อนแล้วกันนะ ส่วนเรื่องนั้นเมื่อไหร่ก็ได้เพราะไม่คิดจะหนีไปไหนอยู่แล้ว “ฝันดีนะโฟร์” จุ๊ปเข้าที่แก้วนุ่มๆ



วันนี้ที่ผมจูบโฟร์จนนับครั้งไม่ได้นั้น ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะหนีหรือบ่ายเบี่ยงอะไรเลยแค่อยากจูบกับแฟน มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาและง่ายมากสำหรับคนทั่วไป แต่ทำไมมันเป็นเรื่องยากสำหรับผมนะ เริ่มเบื่อโรคนี้ขึ้นมาอีกครั้งแล้วละ เมื่อก่อนตอนที่ม๊าหาวิธีรักษาตัวผมให้หายจากอาการป่วย ผมไม่เคยสนใจหรือคาดหวังในผลการรักษาเลยแม้แต่นิดเดียว ทำใจและยอมรับกับสภาพที่ประหลาดๆของตัวเองได้



แต่พอมาวันนี้ความคิดนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ผมอยากลองฮึดสู้กับมันอีกครั้ง ผมต้องหาย ผมจะเป็นคนธรรมดาให้ได้ ขอบคุณเจ้าของกำลังใจ คน คนนั้นก็คือคนที่นอนกอดผมตัวกลมอยู่นี่ไง คนที่เป็นเหมือนลมหายใจและเป็นคนที่ทำให้ผมอยากตื่นจากความฝันมาสร้างเรื่องราวดีๆ บนโลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่แค่เพียงโลกในนิทานของ สโนวไวท์ ผมอยากหายจากคำสาบบ้าๆ อยากแต่งเติมความสุขให้ผู้ชายคนนี้ได้บ้าง



ขอโทษที่ตั้งกำแพงปิดกั้นตัวเองและหนีมาตลอด ตอนนี้กูรู้แล้วว่ามึงสำคัญแค่ไหน อยากบอกมึงว่าการที่มีเพื่อนเป็นแฟนมันโคตรวิเศษเลยวะโฟร์ กอดกันไปนานๆนะ “ฝันดี”








“ซอ มึงตื่นเลย ซอ” ผมจับตัวซอเขย่าให้ตื่น เผลอหลับแค่10เอง

“อารายยย โฟร์” มันใช้มือขยี้ตาเล็กๆอย่างงัวเงียและค่อยเบิกตามองผม

“อาบน้ำเสร็จแล้วทำไมไม่ปลุก นี้กูนอนแค่แป๊ปเดียวเองนะมึง” ผมนั่งขัดสมาธิจ้องหน้าคนที่นอนอยู่

“หากตาดูก่อน นี่มันแปดโมงแล้วโฟร์” แฟนผมชี้ไปที่นาฬิกาผนังห้อง

“เฮ้ยยยย แปดโมงจริงด้วย ทำไมไม่ปลุกกูอ่ะ ทำไมอ่ะ” ผมงอแงเป็นเด็กใส่แฟน และแกล้งจี้เอว

“ฮ่าๆๆๆ โฟร์อย่า อย่า ฮ่าๆๆ กูปลุกมึงแล้ว ฮ่าฮ่า แต่มึงไม่ตื่น ฮ่าๆๆ พอแล้ว โฟร์กูจั๊กจี้ ฮ่าๆๆ” ซอหัวเราะชักดิ้นชักงอ

“ตอนนี้ได้มั้ยล่ะ” ก้มลงหอมที่ต้นคอ

“ไม่ได้ เช้าแล้ว” มันให้วิชาม้วนผ้าห่มพันตัวเป็นมัมมี่แล้วเกลี้ยงไปอีกฝั่งของเตียง

“อย่าหนีนะ มานี่เลย” ซอลงจากเตียงหอบผ้าห่มผืนใหญ่คลุมตัววิ่งหนีหยอกล้อผมให้วิ่งตาม

“จับให้ได้สิ ฮ่าๆๆๆๆ” เราวิ่งเล่นไล่จับกันจนทั่วห้อง กอดรัดฝัดเหวี่ยงอย่างสนุกสนาน “จะหนีไปไหน” ผมวิ่งดักหน้าดักหลัง อีกฝ่ายทำหน้าทะเล้นเยาะเย้ย
 
“เสร็จกูล่ะ” ผมดึงผ้าห่มหลุด ล็อกตัวไว้แล้วอุ้มขึ้นเพื่อเดินไปที่เตียงอีกรอบ

“ปล่อยเลย”

“ไม่ปล่อย”

“เอาจริงดิ”

“จริงครับ”



 ก๊อก!ก๊อก!




“มีคนมาเคาะห้อง ปล่อยกูก่อน”

“ปล่อยให้เคาะไป” ผมวางซอลงบนเตียง



ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!



“ไปเปิดก่อน โฟร์” แฟนผมลุกขึ้นนั่งไล่ให้ผมไปเปิดประตู

“ใครมาเคาะตอนนี้ว่ะ เดี๋ยวไล่ออกให้หมดเลย” เดินผมเดินหน้ามุ่ยไปเปิดประตู หายใจฝึดฝัด

“ขอโทษที่รบกวนแต่เช้าค่ะ คุณศิวะ” เลขาพ่อผมยืนที่หน้าประตู

“คุณแจงมีอะไร รึเปล่าครับ”

“คุณท่าน อยากให้คุณศิวะลงไปต้องรับลูกค้าวีไอพีตอนเก้าโมงครึ่ง คุณศิวะไหวนะค่ะ” เลขามองหน้าผมแอบอมยิ้มที่มุมปาก

“อ๋อ! ไหวครับ ผมขอแต่งตัวก่อนแล้วเจอกันที่ล๊อบบี้”

ส่งยิ้มให้คุณแจง ค่อยๆปิดประตูห้อง มองแฟนที่น่าฝัดนั่งอยู่บนเตียงอย่างตาละห้อย เครื่องเริ่มร้อนแล้วนะยังมีคนมาขัดจังหวะอีกข่มใจไว้ ข่มใจก่อน

“มีงานหรอ”

“อืม ต้องลงไปต้อนรับแขกวีไอพีของพ่อ อดเลย” มือหยิบผ้าขนหนูเตรียมเข้าห้องน้ำ

“พอมีเวลานะ อีกครึ่งชั่วโมงแหนะ โฟร์ มา มะ” มันทำหน้าล้อเลียนผม ก็ได้ยินอยู่ว่าติดงานยังจะมายั่วผมอีก

“ไม่พอหรอก อย่างกูสองชั่วโมงอัป” พูดทิ้งท้ายไว้แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำ

“ไอ้บ้ากาม”









อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ลงมาหาคุณแจงที่ล๊อบบี้ เพื่อรอแขกของพ่อ คุณแจงบอกเป็นลูกค้าคนสำคัญของโรงแรม ส่วนมากพ่อกับแม่จะมาต้อนรับด้วยตัวเอง แปลกใจตรงที่ครั้งนี้ลูกค้ารีเควสให้ผมลงมาต้อนรับแทน ไม่นานนักความแปลกใจนั้นก็ปรากฏตรงหน้า เมื่อคู่ปรับหัวใจเดินตรงมาทางผมกับคุณแจง



“คุณศิวะค่ะ นี่คุณธันวาและคุณพลอยค่ะ” คุณแจงนะนำแขกวีไอพี

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” เขายื่นมือมากล่าวคำทักทาย

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

ผมยื่นมือไปจับ เขาก้าวขามาหนึ่งก้าวประชิดตัวผมใกล้ ดึงตัวผมเข้าไปกอดเล็กน้อย ตบที่หัวไหล่ แล้วกระซิบที่ข้างหู

“ว่างไหมกูขอคุยด้วยหน่อย”

ผมรีบผละตัวออก มองหน้าอย่าง งงๆ เขาต้องการอะไรในเมื่อเรื่องราวทั้งหมดมันจบลงด้วยดีแล้วตั้งแต่งานแต่งไอ้เอ จะมาก่อกวนอะไรกันอีก

“คุณแจงผมขอคุย ส่วนตัวกับคุณธันวานะครับ” ผมหันไปบอกเลขา เธอพยักหน้าแล้วเดินหายไป

“แหมๆ น้องโฟร์ทำเหมือนไม่รู้จักกันไปได้นะ คนกันเอง” พี่พลอยพูดขึ้น

“อ่อ ครับพี่พลอย แล้วเพื่อนพี่มีอะไรกับผม ไม่ทราบ”

ไม่ได้หาเรื่องนะแต่ไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นหน้าแฟนผมอีก ข้อนี้ผมรู้ว่ามันยาก ก็เราเป็นเพื่อนกับไอ้เอต้องมีสักวันที่ต้องวนเวียนมาเจอกันจนได้

“โฟร์ คุยกันดีๆ กูไม่ได้มาหาเรื่อง คือมีธุระจะคุยด้วย นั่งก่อนไหม”

คู่ปรับผมชี้ไปทางร้านกาแฟ ขณะที่เรากำลังจะเดินเข้าในร้าน ไอ้แฟนตัวดีดันวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา อุตส่าห์คิดในใจอย่าลงมานะ อย่าลงมา แต่...

“โฟร์ แม่มีธุระจะคุยด้วย” ซอยื่นโทรศัพท์ให้ผม โดยที่ไม่ทันมองคนข้างๆ

“หวัดดีน้อง ซอ สบายดีมั้ย”

พี่พลอยกล่าวทักจนทำให้แฟนผมสะดุ้งตกใจ  โผ๊ะ!มือถือหล่นลงพื้นและมันก็ใช้แผ่นหลังเป็นโล่กำบัง แล้วค่อยๆยื่นหน้าออกมาทักทาย เสียงสั่นๆ

“พี่ ธะธะ ธาน พี่พลอย สวัสดีครับ” ซอใช้มือกำเสื้อด้านหลังผมสั่นๆ

“ไม่ต้องหลบ” ผมก้มหยิบมือถือที่ตกอยู่แล้วดึงแขนซอให้ออกมาจากด้านหลังโอบไหล่ไว้

“นั้นสิ ซอจะหลบพี่ทำไม ไปนั่งคุยด้วยกันเลยก็ได้ เรื่องนี้เกี่ยวกับซอนั้นแหละ” ซอมองหน้าผมเหมือนไม่อยากเจอพี่เขาแล้ว

“เอาหน่า กูอยู่นี้จะกลัวอะไร” สอดประสานมือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน






จนเราทั้งสี่คนเดินมานั่งในร้านกาแฟของโรงแรม




 
“พี่มีอะไรก็ว่ามา” ผมยังจับมือซอแน่น และรอฟังที่เขาจะพูด

“มาหาซอ อยากเห็นหน้า” สายตาเขาจับจ้องที่แฟนผม

“ตกลงจะมากวนตีนใช่มั้ย จะไม่จบก็ได้นะ” ผมทำเสียงเข้มใส่

“ธัน มึงก็เลิกแหย่ได้แล้ว เข้าเรื่อง ก่อนจะได้เรื่อง กูไม่ห้ามนะมึง” พี่พลอยเริ่มห้าม

“ฮ่าๆ ใจเย็นก่อน คือกูมีเพื่อนเป็นจิตแพทย์ อยากให้มึงลองพาซอไปคุยดู เขาน่าจะมีวิธีรักษาแฟนมึงได้นะ”

“พี่ธัน ซอไม่ได้เป็นโรคจิตสักหน่อย” ซอหันขวับว่าพี่ธัน

“พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น การไปหาจิตแพทย์ไม่ต้องบ้านะซอ” พี่ธันยื่นมือขยี้หัวแฟนผม

“เห้ย! พี่ธัน” ผมรีบเอามือปัดมือเขาออกทันที ต่อหน้าต่อตาเลยนะ

“โทษที ลืมตัววะ นี่นามบัตรเพื่อนกู พาซอเข้าไปปรึกษาดู ไม่เจ็บหรอก ไอ้หมอมันเก่งมาก อาจจะหาสาเหตุเจอก็ได้” เขาวางนามบัตรไว้ที่โต๊ะให้ผม

“แล้วพี่จะช่วยผมทำไม” ผมหยิบนามบัตรนั้นขึ้นมาอ่าน

“มึงไม่อยากให้ซอหายหรอโฟร์ กูถามจริงๆ”

ผมเงียบไม่ตอบอะไร อยากให้แฟนหายจากโรคนี้มากนะครับแต่ไม่อยากให้มันเจ็บตัวเพราะสงสารเห็นทีไรอยากเจ็บแทนทุกที

“พี่ธัน ขอบคุณมากที่ช่วยเรา ลองดูก็ได้ไม่เสียหายนะโฟร์ นะ” ซอลูบที่หลังมือผมเบาๆ

“ไม่เป็นไรพี่เต็มใจ ขอแค่ได้ดูแลซอห่างๆแบบนี้ก็พอ” ไม่พูดเปล่าเสือกยิ้มระรื่น สงสัยอยากโดนกำปั้นอีก

“พี่ธัน!!!!!!” ผมต้องตะคอกเสียง

“ซอเป็นลมบ่อยถึงต้องหาจิตแพทย์เลยหรอธัน”

“ใช่ครับพี่พลอย ผมเป็นลมขั้นรุนแรง ว่าแต่พี่พลอย เป็นไงบ้าง ท้องโตขึ้นเยอะเลยนะครับ………”






สุดท้ายแล้วเราก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องมาถามชีวิตครอบครัวของพี่พลอยกับไอ้เอแทน มันไม่อยู่ก็ถูกพี่พลอยเผาจนเกรียม ผมกับซอนั่งฟังเรื่องของไอ้เอขำจนท้องแข็งแต่มือยังจับกันแน่น ช่วงแรกที่ซอเจอเขามือทั้งสั่นทั้งเกร็ง พอเวลาผ่านไปมือที่เย็นเฉียบก็เริ่มผ่อนคลายและหายเป็นปกติ



ดูท่าทางแล้ว เขาเองก็รักซอไม่น้อยกว่าผม ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความรักที่มีแต่การให้ มีแต่ความหวังดีซ่อนด้วยความห่วงใยไม่ได้คิดร้ายอะไร ผมว่าผมมองผู้ชายที่ชื่อพี่ธันไม่ผิดเพราะนัยน์ตาเขากับผมเหมือนกันเวลาที่มองซอ ถึงเขาจะกวนตีนหรือกัดกับผมอยู่บ่อยครั้งก็ตาม อย่างน้อยความรักของเขาก็เป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่ได้ต้องการครอบครอง ก่อนหน้านี้ทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายแต่สุดท้ายแล้วเราก็กลับมาคุยกันได้


เพียงเพราะเรารักผู้ชายคนเดียวกัน










999999999999999999999999999

มาลุ้นกันน้องซอจะหายมั้ย
ใกล้จบแล้วนะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน
ขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ

 :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2017 13:49:35 โดย 19919 »

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
พี่ธันชอบหยอกอ่ะ แต่ไม่มีความชัดเจนให้ จะช้อนซอไปไว้ในฮาเร็มอีกคนหรือไง
พี่ธันนางใจดีกะทุกคน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เป็นทางเลือกที่ดีนะ หาจิตแพทย์
ไม่เจ็บด้วย อาจเป็นการรักษาที่ถูกกับโรค
พี่ธันก็รักซอ โฟร์ก็รักซอ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ก็เห็นใจพี่ธันนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ 21/09
«ตอบ #84 เมื่อ21-09-2017 22:45:33 »

ตอนจบ ฝันดีนะ




“5โมงเย็น คุณซอกับคุณโฟร์ มีนัดกับลูกค้าที่จะมาดูห้องจัดเลี้ยงนะค่ะ”





เสียงเลขาบอกเมเนเจอร์ฝ่ายจัดเลี้ยงที่มีโต๊ะทำงานในห้องเดียวกับผม  ผู้จัดการคนนี้โตขึ้นเยอะมากนับตั้งแต่เรียนจบมา  เขาทิ้งความฝันที่จะเป็นสจ๊วตตามคำขอร้องของผม หลังจากเมื่อหลายปีก่อนเราไปพบจิตแพทย์ตามคำแนะนำของพี่ธันและนั้นคือการรักษาครั้งสุดท้ายของชีวิตซอ







“ไม่ต้องหายก็ได้ เลิกร้องแล้วนะ”







นั้นคือสิ่งที่พูดไปหลังการรักษาจบสิ้นลง น้ำตาหลั่งมาเป็นสายใบหน้าบอกถึงความผิดหวัง  ซอเจ็บตัว  เจ็บใจ เสียความรู้สึกและผิดหวังซ้ำๆ กับผลการรักษา  ด้วยวิธีการต่างๆ สุดท้ายแล้วผลที่ออกมาก็เหมือนเดิม



           
ซอเอาแต่โทษตัวเอง โทษเวรกรรม โทษโชคชะตา ตีอกชกตัวมาตลอดทาง นั่งร้องไห้และพรึมพรัมด่าตัวเองในรถจากโรงพยาบาลมาจนถึงบ้าน  คนในครอบครัวไม่กล้าเอ่ยปากถามสักคำ  เมื่อเห็นสีหน้าอันแสนเศร้ากับคาบน้ำตาเต็มแก้มทั้งสองข้าง




ซออยากเป็นคนปกติ  อยากใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น  อยากจูบผมเหมือนแฟนทั่วไปที่เขาทำกัน  คนอื่นเขาแค่คนธรรมดาซอไม่รู้หรอ  ซอเป็นสเปย์เซียลวันนะ  จูบทุกครั้งก็หลับทุกครั้ง คนพิเศษแบบนี้ในหาที่ไหนอีกละ






“ไม่หายก็ไม่เป็นไร เป็นคนธรรมดาไม่ได้ เป็นคนพิเศษสำหรับกูก็พอ”






ผมนอนกอดเขาในอ้อมแขน มือพรางเช็ดน้ำตาให้ไม่ขาด ซอเงียบและซึมอยู่เป็นอาทิตย์  กว่าจะกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม 




จนกระทั้งสอบเสร็จและเจ้ขิมให้เงินซอตามสัญญา  ผมซื้อตั๋วนัดสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาลของลิเวอร์พลู  พากันไปเที่ยวและพักผ่อน ให้ลืมเรื่องเศร้า  ถามว่าใช้ชีวิตกันยังไง? อยู่กันแบบเพื่อนครับ  และถ้าถามว่าแล้วมีอะไรกัน ตอนไหน อะไร ยังไง จูบได้หรือเปล่า?






“ยิ้มอะไร โฟร์” ผู้จัดการฝ่ายจัดเลี้ยงหันมาถามเสียงแข็งต่อหน้าเลขา



“ป่าว”








ผมไม่แตะต้องซอเลยเป็นปี  ทั้งๆที่อยากอมให้เหมือนเป็นลูกกวาดตั้งแต่วันแรกที่เป็นแฟนกัน  สิ่งที่ผมทำได้คือ หอมแก้ม  จูบเหม่ง  นอนกอด  วนอยู่แบบนี้มาเรื่อยๆ เพราะผมไม่อยากให้เขาคิดเรื่องปมประหลาดอีก  ผมก็อาศัยจูบส่วนอื่นแทนการจูบริมฝีปากที่ยั่วยวนนั้น




มาวันหนึ่งช่วงปีสามจะขึ้นปีสี่  ซอยื่นกล่องกระดาษ คล้ายกับกล่องทิชชู่ประมาณนั้นได้มั้งครับ  ข้างในเป็นแผ่นพลาสติกนิ่มๆ คล้ายกับที่เล็ปอาหาร  แต่มีความยืดหยุ่นมาก  เหนียวมาก  และบางเฉียบ


ถามสิ สงสัยก็ต้องถาม เอาแผ่นพลาสติก ให้ผมทำไม






“ให้กูทำไม”



“ก็ให้มึงไว้จูบกูไง”







แผ่นพลาสติกนั้นเอาไว้ปิดริมฝีปากระหว่างผมกับซอเพื่อที่จะจูบกันไม่ให้หลับ  ยังไม่ทันอ่านวิธีใช้ข้างกล่องด้วยความใจร้อน  ผมหยิบแผ่นนั้นประกบที่ปากตัวเองแล้วกระโจนเข้าหาซอทันที 



การทดสอบความยืดหยุนของพลาสติกบางใสเริ่มขึ้นเมื่อผมนั่งคร่อมร่างซอไว้  สัมพัสรักครั้งแรกของกันและกัน  ขณะที่ซอยังลืมตาคู่เล็กมองผมปริ๊บๆมันชั่งสุดแสนวิเศษจริงๆ ไออุ่นในโพลงแก้มที่มีพลาสติกบางกั้นมันชุ่มชื่นและนิ่มนวลอย่างที่ไม่เคยได้สัมพัสนานขนาดนี้มาก่อนเลย




ผมนั่งจูบซออยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง เปลี่ยนพลาสติกไปหลายแผ่นเพราะมันเปียกโชกด้วยน้ำลายผม  กล้วว่าจะพลาดทำให้ซอหลับโดยที่ไม่ตั้งใจ  มันอาจไม่เต็มร้อยในส่วนของลิ้น  แต่ผมทดแทนให้ในส่วนอื่นเกินล้านเปอร์เซ็น  เมื่อมือผมเริ่มขยับซุกซนเลื่อนไปจับส่วนอื่นของร่างกายซอ  มือคงทนเริ่มไม่ไหวเหมือนกับส่วนล่างที่มันขยับและพองตัวขยายใหญ่รออยู่นานแล้ว





 
“ให้จูบเฉยๆนะโฟร์ เอามือออก”



“มาถึงขั้นนี้แล้ว จูบคงไม่พอ”



“ไอ้โฟร์ ไม่ๆ”







ความเป็นแฟนที่แท้ทรูเกิดขึ้นคืนนั้นเช่นกัน  ถึงเราจะคบกันมาเป็นปี  นั้นก็เป็นครั้งแรกที่ซอยอมผม  ริมฝีปากเล็กๆบอกเจ็บๆ  เอวกลับเด้งตามจังหวะ  ไม่เอาๆปล่อยกูๆ  แล้วอะไรที่มันกำลังตั้งชูชันอยู่นะซอ  มันหยุดไม่ได้แล้วไง  เข้าสัมพัสเนื้อในได้แล้ว  ใครจะถอย? 




ผมผ่อนหนักเบาให้เป็นระยะ  ปลอบประโลมด้วยรอยจูบ ไม่ให้คิดเรื่องเจ็บ  อยากให้คิดแค่ว่าเรากำลังจะเป็นมากกว่าเพื่อนอย่างถาวร  เราจะกลายเป็นครึ่งหนึ่งของกันและกัน  มันอาจไม่โรแมนติกสักเท่าไหร่กับผู้ชายสองคนกลิ้งวนไปมาบนเตียง  ขนาดเป็นแฟนกันผมกับซอยังใช้สรรพนาม มึง กู อยู่เลย ก็ผมได้เพื่อนเป็นเมียต้องทำยังไงถึงจะเรียกว่าโรแมนติก




ผมรู้ผมหวานกับซอไม่ค่อยเก่ง  เรื่องบนเตียงคืนแรกจึงไม่ได้สวยงามเหมือนดูระบำใต้น้ำ  แต่คุณกำลังดูการยิงประตูของกองหน้าที่ชื่อโฟร์  ใส่ไม่ยั้ง  ลูกโทษจ่อๆหน้าประตู  หรือจะเป็นลูกฟรีคลิกจากด้านข้างก็มี  ไม่มีใครยอมใคร  วัดพลังกันอยู่อย่างนั้น  ซอสู้ผมได้ทุกท่าสูสีเลยทีเดียว  ตอนแรกนึกว่าจะไม่กล้าตอบโต้อะไร  การันตีครับ  ซอเป็นผู้รักษาประตูที่เก่งพอตัว 




ถึงการจูบของเราจะแปลกกว่าคนบนโลกใบนี้  แต่คนบนโลกใบนี้น่าจะอิจฉาผมมากกว่านะ  ผมดึงร่างกายที่อ่อนล้าเข้ามากอดไว้  เมื่อเราถึงจุดหมายปลายทาง






“กูรักมึงนะซอ”



“กูเจ็บ”



“งั้น หลับนะจะได้หาย Goodnight”






หลังจากคืนแรกที่ได้กัน  ผมกับซอก็อาศัยจูบผ่านแผ่นพลาสติกนั้นมาจนถึงทุกนวันนี้  การจูบของเราสองคนอาจลำบากกว่าของคนอื่นมาก  พยายามแสดงความรักต่อกันในสิ่งที่คนอื่นไม่ต้องพยายาม  ผมกลับได้เรียนรู้ในความพยายามนั้น  เรียนรู้ที่รักกันให้มากดูแลอีกฝ่ายและเข้าใจในความพิเศษนี้ไปด้วยกัน






“โฟร์ โฟร์ ไอ้โฟร์!!”



“ห๊ะ หะ…มีอะไร เรียกซะเสียงดัง เลขาตกใจหมด”



“คุณโฟร์นั้นแหละคะที่ตกใจ คุณซอเรียกคุณหลายรอบแล้ว แต่คุณไม่ได้ยิน เอาแต่นั่งยิ้มอยู่ท่าเดียว” 


เลขาผู้จัดการฝ่ายจัดเลี้ยงกล้าแซวผมด้วยนะ เพราะทุกคนที่โรงแรมลือไปตามๆกันว่าผมกลัวซอเป็นที่หนึ่ง



“คุณเลขา ออกไปก่อน ผมคุยกับคุณซอเอง” เลขาลุกจากเก้าอี้เดินออกไปนอนห้อง



“บอกแล้วไง ว่าอย่าเรียกไอ้โฟร์ต่อหน้าพนักงาน พวกเขายิ่งแซวว่ากูกลัวเมีย อายเค้า”


ผมลุกออกจากโต๊ะทำงานตัวเองแล้วเดินไปนั่งเบียดที่เก้าอี้ตัวเดียวกันกับซอ


“แล้วมึงนั่งยิ้มอะไร เลขาพูดมึงฟังบ้างป่าว”



“ไหนบอกมาสิ ผมมีงานอะไรบ้างครับ คุณผู้จัดการซอ” เอาหัวซบที่ไหล่อ้อน ริมฝีปากเริ่มจูบที่ต้นคอ



“หยุดเลย ที่ทำงาน” ซอเอามือยันหน้าผมออกทันที



“จูบหน่อยนะๆ จะตั้งใจทำงานเลย”


ผมลุกออกจากเก้าอี้และนั่งลงกับพื้นแทรกตัวอยู่ระหว่างขา มือสอดประสานไว้ที่เอวของคนที่นั่งข้างบนเก้าอี้ แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้



“พ่อโฟร์ พ่อซอคร๊าบ”


เด็กตัวน้อยวิ่งแจ่นมาหา ผมนี่ผละตัวออกแทบไม่ทัน ซอรีบวิ่งไปกอดเด็กคนนั้นทันที


“ไงครับน้องอิน พ่อซอคิดถึงจัง หอมหน่อย ๆ”  ซอหอมเข้าที่แก้มอมชมพูฟอดใหญ่ของเด็กชายที่วิ่งนำหน้าแม่เข้ามาที่ห้องทำงานเรา



“พี่พลอย สวัสดีครับ”



“พี่รบกวนหน่อยนะ เอไปบิน พี่มีประชุมที่เชียงใหม่กับไอ้ธันไม่มีใครดู ฝากสักสามสี่วันนะ เดี๋ยวเอมารับ” พี่พลอยยื่นกระเป๋าเสื้อผ้า และตระกร้าของใช้ของน้องอินให้ผม



“รบกวนอะไรพี่พลอย ผมก็พ่อน้องอินนะ”



“ขอบใจนะ พี่ไปละ น้องอินแม่ไปทำงานนะครับ ห้ามดื้อนะ”







ลูกไอ้เอกับพี่พลอยยิ่งโตยิ่งน่ารัก  หน้าก๊อปปี้ไอ้เอมาเลย  เรียนจบไอ้เอก็สอบได้สจ็วตสายการบินใหญ่  เลยไม่ค่อยมีเวลาอยู่ที่ไทยมากนัก  แต่มันก็ดูแลลูกเมียเป็นอย่างดี  เวลามันบินไปต่างประเทศนานๆ  มันก็จะเอาน้องอินมาฝากผมกับซอช่วยเลี้ยงให้เป็นประจำ  น้องอินเลยเป็นเด็กที่มีพ่อเยอะกว่าเด็กคนอื่น  วิ่งเล่นที่โรงแรมจนพนักงานเรียกคุณหนูอิน






“พ่อซอครับ น้องอินหิวข้าว”



“ได้ครับ วันนี้น้องอินอยากกินไรครับลูก” ซออุ่มน้องอินขึ้น



“พ่อโฟร์ยังไม่จุ๊ฟน้องอินเลยวันนี้ จุ๊ฟแต่พ่อซอ น้องอิน งอลเหล๊า” เด็กน้อยแกล้งงอลเอาหน้าฟุบเข้าที่ไหล่ของซอ



“ฮ่าๆๆๆ มาๆ พ่อโฟร์จุ๊ป น้องอิน แล้วน๊า” ผมก้มหอมแก้มน้องอินที่อยู่ในอ้อมของพ่ออีกคน



“ไม่ต้องมาหัวเราะ บอกกี่ครั้งว่าอย่าทำลุ่มล่ามที่ทำงาน ลูกเห็นจนได้ ตัดเงินเดือน” ดูเหมือนว่าผู้จัดการจะมีอำนาจเหนือกว่าเจ้าของโรงแรมอีกนะครับ







ซอบ่นเสร็จ  เราสามคน พ่อ พ่อ ลูก  ก็กำลังเดินไปห้องอาหารที่อยู่ใกล้ๆล็อบบี้  ขณะนั้นผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่เคยเป็นคู่กัด  คู่แข่งและเป็นเจ้าของสร้อยที่ซอใส่อยู่นั้นก็เดินมาหยุดตรงหน้า  ผมไม่เจอเขานานมากแล้วเท่าที่จำได้  ครั้งสุดท้ายคือตอนที่พี่พลอยคลอดน้องอินที่โรงพยาบาล  เขาหายออกจากวงจรชีวิตผมกับซอไปเลย เหตุผลก็คงไม่ต้องบอก  คนที่ยืนอุ้มน้องอินอยู่นี่แหละ








“อ้าว!! สวัสดีครับพี่ธัน ไม่เจอนานเลย พี่สบายดีนะ” ซอถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น



“อืม พี่สบายดี แล้วเราสองคนละ สบายดีนะ” พี่ธันมองหน้าผมเอามือตีที่ต้นแขนผมเบาๆ



“สบายดีพี่ ว่าแต่พี่มีไรป่าว”



“ป่าว พลอยลืมยาน้องอิน พี่เลยเอามาให้ อีกอย่างไม่เจอนานแล้วแค่อยากเจอหน้าเฉยๆ”



ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่ยอม  หรืออาจกวนตีนกลับโดยเร็ว  ตอนนี้โตแล้วผมไม่มีความคิดแบบนั้นเหลือเลย ส่วนคนข้างๆผมยิ้มตอบเมื่อได้ยินที่พี่ธันพูด



“คิดถึงก็อยู่กินกาแฟก่อน ค่อยไปพี่” ผมชวน



“นั้นสิพี่ธัน ผมจะได้ถามเรื่องเบลกับเนสด้วย เป็นไงบ้าง”



“สองคนนั้นก็ดี ซอนัดมากินข้าวได้นะ บ่นถึงซอเหมือนกัน”



“สองคนนั้นโอเค แล้วคนอื่นๆละ ตบตีกันอยู่ป่าว ได้ข่าวมีเพิ่มเยอะนิพี่”



“แซวกูนะมึง ผ่านมาแล้วผ่านไปวะ ใกล้เวลาเครื่องออกแล้ว พลอยรออยู่ ครั้งหน้านะ จะมากินกาแฟด้วย” พี่ธันเอาถุงยายืนให้ผม



“จริงนะพี่”



“ถ้ามีโอกาสนะซอ ไปนะน้องอิน”



“พ่อธัน บ๊าย บ่าย คร๊าบบ”



พี่ธันเดินหันหลังให้เราก้าวไปไม่ถึงสิบก้าวก่อนจะหยุด และหันหน้ากลับมา



“ซอพี่ขอกอดที”







งานแต่งไอ้เอผมต่อยพี่ธันเลือดกลบปาก  ที่เห็นเขาสองคนกอดกันแน่นตรงหน้า  ครั้งนี้ขอต่อหน้า  ไฟโกรธที่เคยเผาใจผมในวันนั้น  มันทำให้ทุกคนแย่  แย่ในทุกเรื่อง แย่ในทุกความรู้สึก ไม่มีอะไรดีเลย  สมองซีกซ้ายของผมหยุดการทำงาน  มันไม่ได้มีการคิดไตร่ตรอง  ขาดความเชื่อใจ  ปล่อยให้ความระแวงครอบงำ ไม่ฟังคำธิบาย  เราทั้งหมดมีแต่เสียใจ  และซอก็คือคนที่เสียใจที่สุด







“เอาลูกมาซอจะได้กอดถนัดๆ กอดได้กูไม่ว่าหรอก” ผมยื่นมือไปอุ้มน้องอินแทนซอ



“อย่าเลยครับพี่ธัน มันไม่เหมาะ”



“เฮ้ย! ไม่เหมาะอะไร พี่น้อง กูไม่ว่าจริงๆ”







ซอยืนนิ่งๆมองหน้าพี่ธัน  ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายโผลเข้ามากอดซอก่อน  กอดด้วยความห่วงหา  กอดด้วยความอาลัย  ผมเข้าใจความรู้สึกนี้นะ  ตาที่แดงกล่ำของพี่ธันมันแสดงความรู้สึกแทนคำพูดออกมาแล้ว  ถ้าเขาไม่มีไอ้เบลกับไอ้เนสอยู่ในอ้อมแขนอยู่แล้ว  ผมก็คงไม่มีซอในวันนี้เหมือนกัน






เราทั้งหมดที่สร้างเรื่องราวให้มันเกิดขึ้นมากมาย  คงตอบไม่ได้หรอกว่า  เราทำถูกหรือผิดตรงไหนบ้าง เพราะความรักไม่ใช่เรื่องที่กำหมดได้  เราไม่สามารถบอกให้คนสองคนรักกันหรือเลิกรักกันได้  ผมรวมถึงเรื่องของ พี่ธัน ไอ้เนส ไอ้เบลด้วยนะเป็นความรักที่หายาก  แต่รักก็คือรัก ไม่ต้องสรรหาหรืออธิบายก็คงเข้าใจในตัวมันเอง 



ยังไงก็ตามแต่  ขอบคุณความรักที่ทำให้ผมมองโลกสวยขึ้น  ขอบคุณคนสองคนตรงหน้าที่ทำให้รู้ว่าความรักอบอุ่นมากแค่ไหน






“ขอบใจนะซอ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตพี่ หวังว่าจะมีโอกาศได้เจอกันนะ” พี่ธันพูดท้ายน้ำเสียงเศร้าก้มหน้ามองพื้น แล้วรีบก้าวเท้าเดินฉับๆออกจากประตูโรงแรมไป



“พ่อโฟร์ครับ พ่อธันร้องไห้ น้องอินต้องโอ๋ก่อน” ความไร้เดียงสาของเด็กก็พูดตามที่เห็น  ซอกลับเป็นคนที่ยืนยิ้มและไม่ร้อง



“พ่อธันไม่ได้ร้องนะน้องอิน แมลงเข้าตา เราไปกินข้าวกันครับ พ่อซอหิวม๊าก”


“น้องอินจะกินไข่ดาว ไส้กรอก แล้วก็เค้ก”



“ครับลูก”








น้องอินนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยกับไข่ดาวลาดซอสฟองโต  คนป้อนก็ชวนคุยส่งเสียงหัวเราะดัง  ผมนั่งดูก็อดเพลอยิ้มไม่ได้  เมียและลูกที่หยอกล้อกันไปมา  ที่ผมนั่งยิ้มเหมือนคนบ้าไม่ใช่แค่ที่ซอเล่นกับน้องอิน  แต่วันนี้ซอทำให้ผมเห็นแล้วว่า  สัญญาเมื่อหลายปีก่อนที่เคยให้ไว้เขาทำได้  สายตาที่ซอมองพี่ธันมันเปลี่ยนไปแล้ว  คงไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมมีความสุขไปมากกว่าตอนที่เห็นสายตาคู่นี้อีกแล้ว






“พ่อซอคร๊าบบ เค้กมาแล้ว พ่อซออ้ำๆๆ” น้องอินจับช้อนยื่นเค้กทำท่าจะป้อนซอ



“พ่อซอ อิ่มแล้วครับน้องอิน”



“ถ้าดื้อ น้องอินจะทำโทษ” คำนี้ไอ้เอพูดกับน้องอินบ่อยๆ


“จะทำโทษอะไรครับ”






ด้วยความที่เป็นเด็กเห็นอะไรก็จดจำและทำตามที่ผู้ใหญ่สอน  ผ้าขาวผืนน้องก็เช่น  คงจำมาจากไอ้เอ เวลาลูกดื้อมันจุ๊ปปากน้องอินถือเป็นการทำโทษ 



และตอนนี้คนที่น้องอินลงโทษด้วยการจุ๊ปแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น  ตาดวงเล็กค่อยๆเคลิ้มหลับร่างกายหมอบฟุ๊ปไปกับโต๊ะ  ดีที่ผมเอามือช้อนหัวไว้ทัน ไม่งั้นหัวคงฟาดกับแก้วน้ำเป็นแน่  หลับกลางอากาศแบบนี้นานมากแล้วนะที่ไม่เห็น





ซอก็ยังเป็นคนที่นอนหลับที่น่ารักที่สุดในโลกสำหรับผมเสมอ














“ฝันดีนะซอ”

































“พ่อโฟร์ครับ พ่อซอนอนทำไมครับ น้องอินยังไม่ได้กินเค้กเลย”

“พ่อซอง่วงครับน้องอิน พ่อโฟร์ป้อนเองนะครับ"
















...................................................................................................










           ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ ขอบคุณมากๆ














 









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2017 23:20:59 โดย 19919 »

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
«ตอบ #85 เมื่อ02-04-2018 15:42:37 »

4 มีบทน้อยกว่าพี่ธันไปอีก 555
อ่าน ๆ ไปก็มีขัดใจบ้่าง #ทีมธัน
แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง..ซอตัดสินใจได้ดีแล้วค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Gear77

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
«ตอบ #86 เมื่อ04-04-2018 04:18:34 »

ขัดใจอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งคำที่พิมพ์ผิดและการลำดัยเนื้อเรื่อง
ตอนแรกนี่ธันมาอย่างเยอะจนนึกส่าเป็นพระเอก แต่ติดเพราะมีเด็กเลี้ยงสามคน คนเลยไม่ปลื้มม

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
«ตอบ #87 เมื่อ16-04-2018 20:31:22 »

ขอบคุณมากสำหรับนิยายดีๆนะคนเขียน แต่ที่ว่ามีเพิ่มนี่ยังไงอ่ะธัน

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
«ตอบ #88 เมื่อ10-11-2018 07:59:03 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
«ตอบ #89 เมื่อ16-04-2020 14:29:56 »

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด