Fatherhood part 2 [The end]ห้องนอนคริส….
แฟรงค์ครึ่งนั่งครึ่งนอนบนเตียง คริสป้อนข้าวต้มให้คนรัก เขาเฝ้าปรนนิบัติดูแลแฟรงค์ด้วยความรักและห่วงใย แฟรงค์ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ 3 วันแล้ว อาการทางกายไม่น่าเป็นห่วงเพราะแจ๊คกับบอยช่วยรับแรงกระแทกไว้จนทั้งคู่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่สถานการณ์น่าจะดีขึ้นแล้วแต่สภาพจิตใจของแฟรงค์ก็ยังไม่ปกติ ต่อหน้าทุกคนพูดคุยสนุก ลับหลังกลับนั่งเศร้าสีหน้าเหม่อลอย อาจเป็นเพราะตายังมองไม่เห็นจึงทำให้แฟรงค์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาระกับทุกคน
“อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่าแฟรงค์.. เราไม่ได้ไปพักผ่อนกันนานแล้ว นายอยากไปไหนมั้ย..”
แฟรงค์ส่ายหน้าเพราะไม่อยากไปไหนจริงๆ เป็นทะเลยิ่งไม่อยากไป ฝันร้ายหลายครั้งจนรู้สึกขยาด กลัวคริสทิ้งเขาไว้กลางทะเลเหมือนในฝัน
“ทำไมล่ะ หือ.. ไม่อยากไปไหนเพราะยังมองไม่เห็นใช่มั้ย”
แฟรงค์ไม่ตอบเบือนหน้าหนีข้าวต้มที่คริสป้อนให้
“อิ่มแล้วเหรอ.. เพิ่งกินได้แค่ครึ่งชามเอง”
คริสวางชามข้าวต้มลง จับมือแฟรงค์กุมไว้และจูบเบาๆ
“ฉันอยากให้นายหาย กลับมาเป็นแฟรงค์คนเดิมเร็วๆ รู้มั้ยว่าฉันปวดร้าวและทรมานใจแค่ไหนที่เห็นนายอยู่ในสภาพนี้วันแล้ววันเล่า ไปรักษาตาเถอะนะ แฟรงค์..”
คริสจับมือแฟรงค์สัมผัสใบหน้าและดวงตาของเขา
“นายไม่อยากเห็นหน้าฉัน ไม่อยากเห็นดวงตาแสนเซ็กซี่คู่นี้อีกแล้วเหรอ..”
“ผมมีเรื่องสำคัญ 2 เรื่องจะบอก ไม่รู้ว่าคุณจะรับได้รึเปล่า”
“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้มีนายอยู่ข้างๆ ขอแค่นายกลับมาเป็นแฟรงค์คนเดิม ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันรับได้ทั้งนั้น.. ”
“ผมไม่สามารถลืมเหตุการณ์ในคืนนั้นได้ ผมกลัวและแขยงทุกครั้งที่นึกถึง ผมยังจำความเจ็บปวดได้ฝังใจเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นและผ่านมาเมื่อคืนนี้เอง ถึงผมจะกลับเป็นแฟรงค์คนเดิมก็ไม่สามารถให้ความสุขคุณได้เหมือนเดิม และผมก็ไม่รู้ว่าจะพร้อมเมื่อไร ผมขอโทษนะคริส.. ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เราอยู่กันแบบเพื่อน แต่ถ้าคุณจะมีใครมาแทนที่ผม ผมก็ยินดี..” แฟรงค์กล่าวน้ำเสียงขื่น
คริสตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน นึกไม่ถึงว่าการกระทำที่แสนเลวร้ายของเจ้านิคจะส่งผลรุนแรงต่อจิตใจของแฟรงค์ขนาดนี้ กว่า 2 เดือนที่กลับมาอยู่บ้าน แฟรงค์ไม่ปฏิเสธอ้อมกอดของเขา แต่จะตัวสั่นทุกครั้งเวลาเขาเผลอสัมผัสด้วยความคิดถึง เขาผละออกด้วยความเข้าใจ คิดว่าแฟรงค์ยังไม่พร้อมเพราะอาการป่วยทางกาย นึกไม่ถึงว่าความไม่พร้อมของคนรักเกิดจากความหวาดกลัวที่ฝังลึกอยู่ในใจ
คริสกุมมือแฟรงค์ไว้และหันหน้ามาสบตาด้วย แม้อีกฝ่ายจะยังมองไม่เห็นแต่เขาก็อยากเห็นดวงตาของคนรักขณะฟังเขาพูด
“ฟังนะ แฟรงค์.. ฉันรักนายสุดหัวใจตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้แต่ว่าวันนี้ชีวิตฉันไม่อาจยืนอยู่เพียงลำพังโดยไม่มีนาย ฉันไม่สนว่านายจะให้ความสุขในเรื่องเซ็กซ์กับฉันได้หรือไม่ ฉันไม่ได้ต้องการให้นายอยู่เคียงข้างเพื่อบำเรอความสุขในเรื่องนี้ ได้โปรดเถอะนะ แพ็ททริค.. อย่าคิดกับฉันแบบนี้ นายเจ็บฉันก็เจ็บด้วย ฉันจะปกป้องดูแลรักษาแผลในใจของนาย ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ฉันก็จะรอ....”
ทุกคำพูดของคริสเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจของแฟรงค์ให้หายจากอาการเจ็บปวด แฟรงค์กล่าวน้ำเสียงสะอื้น
“ผมก็รักคุณสุดหัวใจของผม~ ผมไม่รู้ว่ารักคุณมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร~ รู้อีกทีก็ตอนที่คุณมีชารอนอยู่ใกล้ ผมเจ็บมาก~~ เพิ่งรู้ว่าอกหักเป็นยังไงก็ตอนที่คุณแต่งงานกับเธอ~~ ”
“รู้ว่าเจ็บแล้วยังยินดีให้ฉันมีใครมาแทนที่นายอีกรึเปล่า.. หือ..”
แฟรงค์ส่ายหน้าปฏิเสธก่อนเอนกายซบลงกับอกกว้าง คริสสวมกอดคนรักเบามือ
“คริส..” เสียงอ้อนเบาๆ
“หือ..”
“ผมปวดฉี่..”
คริสหัวเราะ แฟรงค์โอบไหล่ร่างสูงประคองตัวเดินเข้าห้องน้ำ แฟรงค์เป็นคนถนัดซ้ายแขนขวาเพียงข้างเดียวจึงใช้งานไม่ค่อยถนัด ที่สำคัญอาการบาดเจ็บที่ซี่โครงจำเป็นต้องมีคนช่วยพยุงเวลาเดิน
แฟรงค์ยืนนิ่งมองหน้าคนรักเป็นความหมายที่รู้กัน คริสช่วยรูดซิบกางเกงและจัดการนำแพ็ททริคน้อยออกมาให้คนรักได้ปลดทุกข์เบา ตอนที่แฟรงค์ยังลุกเดินไม่ได้เขาได้รับการปรนนิบัติจากคริสจนไม่รู้สึกเขินอายต่อกันแล้ว
“จริงซี!!.. นายบอกมีเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง อีกเรื่องล่ะ!!..”
“คุณต้องสัญญาว่าจะไม่โกรธ ผมถึงจะบอก”
คริสรับปากให้สัญญา
“อีกเรื่องก็คือ ผมขอยืนยันว่าจะไม่รักษาดวงตาด้วยการผ่าตัด”
“ทำไมล่ะ!!..”
แฟรงค์พยักหน้าให้ความหมายว่าเสร็จกิจแล้ว
คริสส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ ไม่ใช่เพราะต้องคอยจัดการธุระให้แต่เบื่อที่แฟรงค์ดื้อรั้นเรื่องรักษาดวงตา
“ก็ผมมองเห็นแล้วจะต้องรักษาทำไมอีก ผมได้เห็นใบหน้าและดวงตาเซ็กซี่ของคุณตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาขึ้นที่โรงพยาบาลแล้ว ”
คริสจ้องหน้าแฟรงค์ มิน่าล่ะ!!.. หลายวันมานี้ดวงตาของแฟรงค์ไม่เลื่อนลอยเหมือนก่อน แต่เขาไม่ได้นึกแปลกใจหรือสงสัย
“ผมแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอยู่ตั้งนาน ผมแอบมองคุณและเด็กๆ ทำให้ผมรู้ว่าทุกคนรักและเป็นห่วงผมมากแค่ไหน โดยเฉพาะคุณ คริส..”
แฟรงค์สัมผัสใบหน้าคนรัก
“ผมเห็นดวงตาเซ็กซี่คู่นี้มองผมอย่างห่วงใยมาหลายวันแล้ว ผมขอโทษที่ไม่บอกความจริง คุณโกรธหรือเปล่า..”
คริสยิ้มให้แฟรงค์ด้วยความยินดีจากใจ
“ฉันไม่โกรธหรอก แฟรงค์..” คริสกล่าวจบก็รูดซิบกางเกงให้
ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือก ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!! อา !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ” คริสตกใจก้มลงมอง …โอ!.. พระเจ้า เขารูดซิบกางเกงขึ้นโดยลืมเก็บน้องชายแฟรงค์ให้เรียบร้อย…
ร่างสูงทรุดตัวลงช่วยปลดแพ็ททริคน้อยออกจากฟันซิบ แฟรงค์ร้องครางด้วยความเจ็บปวด
“โอย~~~ ฮือ~~~ ไหนบอกว่าไม่โกรธไง ลงโทษอย่างอื่นก็ได้ ทำไมต้องทำร้ายผมด้วย ฮือ~~”
คริสลุกขึ้นสวมกอดคนรักปลอบใจ
“ขอโทษนะ แฟรงค์.. ฉันมัวแต่ดีใจเรื่องตาของนาย ไม่ทันได้ดูว่ายังไม่ได้เก็บเจ้าตัวเล็ก ไปที่เตียงนะ คนดี.. ฉันจะทายาให้..”
คริสประคองคนรักออกจากห้องน้ำ ใบหน้าหล่อเข้มแอบระบายยิ้มพึงใจ ในเมื่อเขาทำแพ็ททริคน้อยบาดเจ็บก็จะขอรับผิดชอบด้วยการเฝ้าปฐมพยาบาลจนกว่าจะหาย จะทายาให้เช้าเย็นเลย แฟรงค์กี้.. ^___^
ห้องพักผ่อน…
อีกครั้งที่บรรยากาศภายในคฤหาสน์บริเจคส์อบอวลด้วยความสุข สมาชิกทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าในอิริยาบถต่างๆ แม้จะดูน่าเวทนาบ้างสำหรับสองหนุ่มน้อยและหนึ่งหนุ่มที่อยู่ในสภาพเข้าเฝือกที่แขน แต่ทุกคนก็มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กัน
แฟรงค์กำลังต่อคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ไมเคิลและทิม เขานอนเหยียดยาวหนุนตักเจ้าหนูไมค์โดยมีทิมบีบนวดแข้งขาให้ แจ๊คนั่งเล่นหมากล้อมอยู่กับโอ บอยนั่งดูอยู่ข้างๆ
“คุณแฟรงค์.. ลุกขึ้นเถอะครับ ผมเมื่อยแล้ว”
“ได้ไง เพิ่งต่อถูกแค่ 3 คำเอง ต้องให้ได้ 10 คำก่อน นายก็เหมือนกันทิม..ห้ามหยุดนวดจนกว่าจะต่อถูกครบ 15 คำ”
“โอย!!...” ไมเคิลร้องคราง “แต่ผมปวดฉี่ ผมจะไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“เสียใจไมค์.. รู้ทันหลอกน่า ขืนปล่อยให้ลุกไปก็ไม่ยอมกลับมาอีก”
“โอย.. ผมปวดฉี่จริงๆ” หนุ่มน้อยร้องครางเพราะปวดฉี่จริง แล้วก็จะหนีจริงๆ ด้วย ก็คุณแฟรงค์เล่นเปิด Dictionary ถามแต่คำศัพท์ยากๆ ใครจะไปตอบถูก
“แด๊ดฮะ… ผมปวดฉี่ คุณแฟรงค์ไม่ยอมให้ผมไปห้องน้ำ” ไมเคิลรีบฟ้องทันทีที่คริสเดินเข้ามา
คริสเดินเข้ามาใกล้และส่งมือให้แฟรงค์
“ลุกขึ้นแฟรงค์.. ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
แฟรงค์ส่งมือขวาให้และขยับตัวขึ้นนั่งโดยคริสช่วยประคองลำตัวขึ้น ไมเคิลรีบลุกขึ้นตั้งท่าจะวิ่งก็ถูกคริสเรียกไว้
“เร็วๆ นะไมค์กี้.. เราจะโหวตสถานที่ที่จะไปเที่ยวกัน ลูกอยากไปไหน แด๊ดจะให้เลือกก่อนในฐานะที่อายุน้อยสุด”
พูดถึงเรี่องเที่ยวสี่หนุ่มรีบขยับเข้ามานั่งล้อมวง ทุกคนตื่นเต้นดีใจเพราะไม่ได้ไปไหนเลยเกือบ 2 ปีแล้ว ไมเคิลเปลี่ยนใจไม่ไปห้องน้ำ ขยับเข้ามานั่งข้างคริส แฟรงค์เอื้อมมืออ้อมหลังคริสบีบคอเจ้าหนูจอมกะล่อน
“ไหนบอกว่าปวดฉี่ไง ฮึ!!...”
ไมเคิลทำคอย่นร้องให้ปล่อย แฟรงค์ชูสองนิ้วที่ศีรษะเจ้าหนู โอ แจ๊ค บอยและทิมหัวเราะกันคิกคัก คริสส่ายหน้า
“ไม่เอาน่าแฟรงค์.. เล่นเป็นเด็กๆ ไปได้”
คริสบอกกับสมาชิกทุกคนว่าเขาจบงานสุดท้ายแล้ว และจะวางมือจากงานสักระยะเพื่อหาเวลาพักผ่อนบ้าง ครั้งนี้คริสตั้งใจจะพาสมาชิกไปเที่ยวบ้านเกิดของเขาที่แคลิฟอร์เนียร์
สมาชิกหนุ่มน้อยส่งเสียงเฮด้วยความดีใจ ไมเคิลขอไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ แจ๊คกับบอยอยากไปเที่ยวโรงถ่ายฮอลลีวู้ด โออยากไปชมความงามของน้ำตก ไนแองการา ทิมอยากไปทุกที่ที่ทุกคนไป ส่วนแฟรงค์นิ่งเฉยไม่ออกความเห็น
ให้หลังหนุ่มน้อยคริสเอ่ยถามความต้องการของคนรัก
“ไม่อยากไปอเมริกาหรือ แฟรงค์.. ฉันคิดว่านายอาจอยากไปเยี่ยมพี่สาวบ้าง ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนที่ใหม่ อยากไปไหนล่ะ..”
“เด็กๆ อยากไปก็ไปเถอะ อย่าห่วงใจผมเลย ถ้าจะให้ออกความเห็นผมไม่อยากไปไหนทั้งนั้น อยากอยู่บ้านมากกว่า ยกโขยงกันไปอย่างนี้ผมเสียดายตังค์”
คริสหัวเราะ แฟรงค์เคยถามเขาว่าจะทำงานหนักไปทำไมอีก ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ตอนนี้ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดแล้ว วันนี้แฟรงค์กลบเกลื่อนความในใจของตัวเองด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าท่า
“นายเป็นห่วงกลัวว่าฉันจะไปพบกับชารอนที่นั่นใช่มั้ย”
แฟรงค์สะดุ้ง จู่ๆ คริสก็พูดโพล่งออกมาตรงๆ แบบนี้และยังตรงกับใจเขาอีก แฟรงค์ไม่ตอบและไม่ยอมสบตาด้วย
“เจอแล้วเป็นยังไง นายก็รู้ว่าระหว่างฉันกับเธอ เราจบความสัมพันธ์ต่อกันด้วยความเข้าใจแล้ว” คริสโอบคนรักไว้ในวงแขน
“จนป่านนี้ยังห่วงเรื่องนี้อีกเหรอ.. รู้ก็ทั้งรู้ว่าฉันรักนายมากแค่ไหน”
แฟรงค์หน้าแดง ปฏิเสธด้วยอาการเขิน
“ใครห่วงเรื่องนี้เล่า!!.. ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะเจอกับเธออีกหรือเปล่า ผมไม่อยากคุยด้วยแล้ว”
แฟรงค์ขยับจะลุกขึ้นแต่คริสรั้งไว้
“การห่วงใครสักคนเป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะหวงล่ะก็ต้องมีเหตุผลหน่อยนะแฟรงค์”
“บ้าน่ะ คริส.. ผมจะหวงคุณทำไม พูดเข้าข้างตัวเอง”
คริสคลายอ้อมแขนจากคนรักกล่าวสีหน้าเครียด
“ความหึงหวงเกิดจากความรักนะ แพ็ททริค.. ยิ่งรักมากก็หวงมาก ฉันรักนายสุดหัวใจและขอบอกอย่างไม่อายเลยว่า ฉันทั้งห่วงและหวงนายเลย แฟรงค์.. ถึงวันนี้ฉันทนไม่ได้แล้วถ้านายไปมีใจให้ใครอีก..”
แฟรงค์ใจหายกับคำพูดตัดพ้อของคริส ความหมายของคริสคือเขารักคริสน้อยกว่าที่คริสรักเขา ร่างเพรียวผวาเข้าสวมกอดคนรักละล่ำละลั่กความในใจ
“ผมขอโทษที่พูดไม่ตรงกับใจ ผมห่วงเรื่องชารอนจริงๆ ผมกลัวคุณใจอ่อนกับเธอ ผมไม่ได้หวงแบบไม่มีเหตุผล มันเคยเกิดขึ้นแล้วและอาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้ แค่คิดผมก็กลัวแล้ว คุณไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ผมทนไม่ได้จริงๆ นะ คริส.. ถ้าอยากเที่ยวต่างประเทศจริงๆ นิวซีแลนด์ก็ไม่เลวนะ คุณว่ามั้ย.. ”
คริสสวมกอดแฟรงค์ด้วยความรักตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาผ่านความทุกข์ร้อนและทรมานใจเพราะต้องพลัดพรากจากคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นไมเคิลหรือแฟรงค์ต่างก็ให้ความเจ็บปวดแก่เขาไม่น้อยกว่ากันเลย นับจากวันนี้.. ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ เขาจะปกป้องคนที่เขารักด้วยชีวิต
ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง.. วันนี้เกย์อย่างเขาสามารถเป็นพ่อของลูกและมีครอบครัวที่อบอุ่นไม่แพ้ครอบครัวอื่นๆ แฟรงค์เป็นคู่ชีวิต คู่ทุกข์คู่ยากของเขา ไมเคิลคือแก้วตาดวงใจ หนุ่มน้อยทั้งสี่เป็นเหมือนญาติสนิทและลูกหลานที่เขาพร้อมจะส่งเสียและสนับสนุนทุกอย่าง..