[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 134228 ครั้ง)

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #330 เมื่อ04-10-2008 23:09:24 »

เข้ามาให้กำลังใจเจ้หมวยยยยด้วยคนน  อิอิ

อยากบอกว่าอ่านทุกเรื่องของเจ๊ 

หวังว่าเจ๊จะมีนิยายที่ดีดีแบบนี้ให้อ่านเรื่อยๆๆน๊า

ปล.  รอเรื่องใหม่อย่างใจจดจ่ออยู่น่ะเนี่ยะ  อิอิ :oni2:

beboy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #331 เมื่อ05-10-2008 20:04:06 »

ชอบครับ  สนุกดี 
ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #332 เมื่อ06-10-2008 12:11:42 »

Fatherhood part 2 [9] ต่อ...




“คุณคะ ป้าเตรียมน้ำอุ่นให้แล้ว ผ้าเช็ดตัวแขวนไว้ที่ราว แน่ใจว่าจะไม่ให้ป้าช่วยนะคะ หรือว่าอาย งั้นป้าจะให้ตาลุงเข้ามาช่วยดีมั้ยคะ”

แฟรงค์ยิ้มให้กับความมีอัธยาศัยของลุงป้าสองสามีภรรยา คนรับใช้เก่าแก่ของบ๊อบที่บ๊อบบอกว่าส่งมาช่วยเฝ้าบ้าน แต่จริงๆ แล้วเขารู้ว่าบ๊อบไม่ได้ส่งลุงป้ามาเฝ้าบ้านหรอก แต่ส่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนคอยดูแลรับใช้เขาต่างหาก

“ไม่ต้องหรอกครับป้า  ผมไม่ได้อายแต่อยากช่วยตัวเอง  ผมต้องฝึกและทำทุกอย่างด้วยตัวเองให้ได้”

แซมอยู่เป็นเพื่อนแฟรงค์ในคืนแรก บ๊อบตามมาอยู่เป็นเพื่อนในคืนที่สอง หลังจากนั้นแฟรงค์ต้องดำเนินชีวิตอยู่ในโลกมืดเพียงลำพัง วันนี้เขาได้รู้อย่างถ่องแท้แล้วว่าประสาทรับสัมผัสส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากตามีความสำคัญมากมายเพียงใดสำหรับคนที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะการสัมผัสด้วยมือและการใช้หูฟังเสียง เขาต้องพยายามเรียนรู้และฝึกการดำรงชีวิตในโลกมืดด้วยตัวเอง

นอกเหนือจากการจัดเตรียมอาหารและเสื้อผ้าให้เขาเปลี่ยนแล้ว แฟรงค์ไม่ได้ให้คนรับใช้ของบ๊อบทำอะไรให้เขาอีกเลย ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาอาจมองไม่เห็นตลอดชีวิตก็ได้ เพราะเขาคงไม่โชคดีอย่างไมเคิลเจ้าหนูที่มีจิตใจซื่อบริสุทธิ์ สวรรค์แค่แกล้งหยอกเล่นเท่านั้น แต่สำหรับเขาไม่ใช่... เขากำลังถูกสวรรค์ลงโทษเพราะทำเรื่องไม่ดีในชีวิตไว้เยอะ ในวัยเด็กเขาดื้อและเกเรมากคอยหาโอกาสกลั่นแกล้งน้องต่างมารดาเสมอ โตขึ้นยังมีเรื่องชกต่อยกับอาจารย์ โกรธและทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรงจนถูกไล่ออกจากบ้าน เขาเป็นคนกะล่อนและเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจเพื่อหาเงินใช้ไปวันๆ

สิ่งที่เจ้านิคกระทำกับเขา เขาเองก็เคยกระทำกับหนุ่มน้อยคนอื่นมาแล้ว ทิมมี่.. หนึ่งในสมาชิกหนุ่มน้อยก็โดนเขาใช้กำลังบังคับเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะอธิบายและปลอบยังไง ทิมก็ไม่ยอมฟัง เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียวจนเขาต้องจับเจ้าหนูมัดไว้กับเตียง และเอาผ้าปิดปากไว้เหมือนกับที่เจ้านิคทำกับเขา แต่เขาสาบานได้ว่าไม่ได้รุนแรงกับทิม เขาทำด้วยความนุ่มนวลและปลอบโยนเจ้าหนูให้คลายความตื่นกลัว เขาจำเป็นต้องทำเพราะหน้าที่ เขาต้องฝึกและสอนเด็กหนุ่มทุกคนให้เรียนรู้เรื่องเซ็กซ์เพื่อขึ้นไปปรนนิบัติและรับใช้คริส

ถึงวันนี้เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่หลงรับปากมาทำงานให้คริส บริเจคส์ เป็นเพราะเขาเห็นแก่เงินและความสุขสบาย เคราะห์กรรมที่เขาได้รับครั้งนี้มิใช่แค่ทางกายเท่านั้น จิตใจของเขาก็แหลกสลายไม่มีชิ้นดีหลังจากได้ยินถ้อยคำสนทนาพรอดรักระหว่างคริสและชารอนทางโทรศัพท์ มันยืนยันให้เขารู้ว่าคริสเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้วจริงๆ หากเขายังคบหากับคริสต่อไป เส้นทางที่เขาเดินไม่ใช่ทางเดียวกับคริสแล้วแต่เป็นทางคู่ขนาน เขาคงได้แต่ชำเลืองมองและเดินตามคริสและครอบครัวไป เขาจะเลือกเดินตามให้ปวดหัวใจทำไม สู้หันหลังเดินจากมา ถึงจะเจ็บปวดและโหยหาเพียงใดก็แค่ชั่วระยะเวลาเดียว

ไม้เท้าเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับเขา เขาคงเดินได้ดีกว่านี้ถ้าไม่ติดที่ขาขวาเข้าเฝือกไว้ทำให้ต้องใช้ไม้ค้ำอีกหนึ่งอันช่วยพยุงตัว นึกสภาพตัวเองแล้วก็รู้สึกสมเพชเวทนา แต่เขาก็ไม่ท้อพยายามฝึกเดินไปมาจนเริ่มชำนาญและคุ้นกับสถานที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพลาดหกล้มอยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งเขาล้มตอนเดินออกจากห้องน้ำไม้ค้ำกระแทกถูกหน้าท้องตรงแผลผ่าตัดอย่างแรง เขาเจ็บจนน้ำตาไหล โกรธและโมโหตัวเอง เขารู้ว่าอารมณ์ตัวเองในช่วงนี้ไม่ปกติ อ่อนไหว หงุดหงิดและตกใจง่ายทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังหรือเสียงผิดปกติใดๆ จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก็เขามองไม่เห็นนี่นา ไม่รู้ว่าภัยจะมาถึงตัวเมื่อไร….



 :m15:


แฟรงค์ตกใจตื่นกลางดึก ไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงผิดปกติแต่เพราะเขาฝันร้าย เหตุการณ์ร้ายแรงในฝันคงมาจากจิตใต้สำนึกของเขา คริสชวนเขาขับเรือออกไปเที่ยวเกาะโดยมีเธอไปด้วย เราไปกันเพียง 3 คน เขาเป็นคนขับ ในขณะที่คริสนั่งพรอดรักชมวิวกับเธออย่างสบายอารมณ์ เรือแล่นออกมาจากฝั่งได้ครึ่งทางเขาก็เริ่มหงุดหงิดและหมั่นไส้จึงวกเรือกลับ คริสไม่พอใจเดินมาต่อว่าและสั่งให้เขาหยุดเรือ เขากับคริสมีปากเสียงกัน เขาใช้คำพูดรุนแรงเพราะกำลังน้อยใจและโกรธ

“ทำไมต้องไปที่เกาะนั่นด้วย แค่อยากจะมีเซ็กซ์กับเธอบนเรือนี่ก็ได้ แค่นี้ก็ลับตาคนแล้ว เอาผมมาด้วยทำไม คุณขับเองก็ได้นี่นา หรือว่าคุณมีแผนอยากจะเล่นเซ็กซ์สาม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมขอข้างหลัง คุณอยู่ข้างหน้าก็แล้วกัน”

ขาดคำ… เขาก็ถลาร่วงลงน้ำด้วยแรงกระแทกจากหมัดของคริส คริสมองเขาด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะขับเรือจากไปโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกให้ช่วย

“ผมขอโทษคริส.. อย่าไป กลับมาก่อน กลับมารับผมก่อน คริส..”

เขาว่ายน้ำตามเรือจนหมดแรงและจมลงทะเลในที่สุด เขายังจำความรู้สึกตอนจมน้ำได้ ความรู้สึกสุดท้ายก่อนจะขาดใจ ถึงแม้จะตื่นแล้วแต่เพราะความมืดทำให้แฟรงค์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังประสบกับเหตุการณ์ร้ายนี้จริงๆ เขาสะอื้นโฮด้วยความเสียใจที่คริสปล่อยให้เขาจมน้ำตายเป็นครั้งที่ 2

“ฮือๆ ผมจะตายแล้ว ช่วยผมด้วย คริส.. ”

ถึงจะโกรธและเสียใจในสิ่งที่คริสกระทำกับเขา แต่แฟรงค์ก็ยังร้องเรียกให้ คริสช่วย ไม่รู้ว่าเขาเรียกหาคริสอยู่นานแค่ไหน กว่าจะรู้สึกว่าตัวเองฝันไป หมอนที่หนุนนอนอยู่ก็เปียกชื้นด้วยน้ำตาจนต้องกลับอีกข้างขึ้นมาหนุนแทนที่

แฟรงค์ฝันร้ายหลายคืนติดต่อกัน เขาสะดุ้งตื่นกลางดึกลุกขึ้นนั่งตัวสั่นอยู่ในความมืด พร่ำปลอบตัวเองไปมาว่า อย่ากลัว... แค่ฝันเท่านั้น….



 :m15:



เสียงคลื่นและกลิ่นอายทะเลทำให้อารมณ์ของแฟรงค์ผ่อนคลายขึ้น แม้จะเริ่มรู้สึกกลัวน้ำทะเลเพราะฝันว่าตัวเองจมน้ำถึง 2 ครั้ง แต่เขาก็ยังรักและผูกพันกับมัน อาจเป็นเพราะเขาเคยมีความสุขและประทับใจกับการพักร้อนทางเรือหลายต่อหลายครั้ง นี่ก็ใกล้จะถึงช่วงเวลาพักร้อนของคริสอีกแล้ว ปีที่ผ่านมาโปรแกรมการเดินทางถูกงด เพราะไมเคิลได้กลับคืนสู่อ้อมอกของคริสในสภาพที่ป่วยทั้งทางสมองและสายตา แต่ปีนี้บรรยากาศในบ้านบริเจคส์คงอบอวลด้วยความสุขเพราะเรื่องร้ายๆ ได้ผ่านพ้นและจบลงด้วยดีแล้ว คริสคงเตรียมโปรแกรมพักร้อนเหมือนทุกปี ปีนี้ชารอนคงอยู่ข้างๆ คริสแทนเขา

…ไม่เป็นไรหรอกคริส ผมไม่เสียใจที่ไม่ได้ไปด้วย ผมไม่มีวันขึ้นเรือลำเดียวกับคุณและเธอ ผมรอดตายจากความฝันหลายครั้ง แต่ในความเป็นจริงผมอาจไม่โชคดีเหมือนในความฝัน…







คลิกฟังเพลงที่นี่

http://203.150.224.157/musicart//newmusicstation/angel/alone.swf




ทุกๆ คราวที่มองฟ้า 

คิดถึงเธอทุกที

อยู่ห่างกันเพียงไหน

ขอสัญญาว่าไม่ลืม

ถึงแม้เธอจะมีใคร

ขอให้เธอโชคดี

อยู่กับคนที่เธอรัก

ขอให้มั่นคงต่อกัน


 
 o7


ทุกคืนวันที่เปลี่ยนไป

ทำให้ใจเธอเปลี่ยนแปลง

เขาคงดีกว่าฉัน

ขอให้เธอไปกับเขา

ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว

มีเพียงใจที่เหงา

ได้แต่มองดาวบนฟ้า

ที่คอยเป็นเพื่อนและปลอบใจ


 
 o7


ทุกคืนวันที่เปลี่ยนไป

ทำให้ใจเธอเปลี่ยนแปลง

เขาคงดีกว่าฉัน

ขอให้เธอไปกับเขา

ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว

มีเพียงใจที่เหงา

ได้แต่มองดาวบนฟ้า

ที่คอยเป็นเพื่อนและปลอบใจ

ได้แต่มองดาวบนฟ้า

ที่คอยเป็นเพื่อนและปลอบใจ



 :o12:

 

"แฟรงค์!!..”

แฟรงค์สะดุ้งเฮือก แซมรีบเข้าไปกอดคอเพื่อนกระซิบปลอบ

“ฉันเองแฟรงค์.. ฉันเอง ขอโทษที่ทำนายตกใจ”

“แซม.. กี่โมงแล้ว วันนี้วันอะไร มาแล้วใครจะดูร้านล่ะ”

“บ่ายสอง วันนี้วันจันทร์ลูกค้าไม่ค่อยเยอะเท่าไร ฉันเลยสั่งปิดร้านทุกวันจันทร์จะได้มีเวลาพักผ่อนกันบ้าง”

แฟรงค์พยักหน้าเห็นด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงโวยแล้ว งานบริการเป็นเรื่องสำคัญมากถ้านึกอยากจะหยุดก็หยุด จะทำให้เสียลูกค้าได้

แซมทรุดตัวลงนั่งบนพื้นทรายตรงหน้า ลอบถอนใจเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรักในวันนี้ แฟรงค์ไม่ชอบไว้หนวดเครามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาชอบให้ใบหน้าตัวเองสะอาดเกลี้ยงเกลา โดยให้เหตุผลว่าเรื่องอะไรจะเอาหนวดเครามาปิดบังความหล่อเหลาของเขา จริงอย่างที่แฟรงค์ว่าใบหน้าที่มีหนวดเคราขึ้นเขียวอยู่ในขณะนี้ มันทำให้แฟรงค์ดูทรุดโทรมและผ่ายผอมมากขึ้น น้ำหนักคงลดลงไม่ต่ำกว่า 5 กิโล ปกติแฟรงค์เป็นคนสำอาง แต่งกายง่ายๆ แต่ดูดีเสมอ เสื้อผ้าที่แฟรงค์ให้เขาจัดหาให้ใส่ที่นี่มีแต่กางเกเลและเสื้อยืด

“เป็นยังไงบ้างแฟรงค์.. นายโอเคมั้ย”

แฟรงค์พยักหน้าความหมายว่าโอเค.. แต่แซมไม่ค่อยเชื่อ

“นายพักผ่อนบ้างหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร แผลที่ท้องเป็นยังไงบ้าง ขาล่ะ”

แซมถลกชายกางเกงแฟรงค์ดูขาข้างที่เข้าเฝือกไว้ เข้าใจเหตุผลที่แฟรงค์เลือกใส่กางเกเลตอนนี้เอง มันหลวมและสบายต่อการสวมใส่จริงๆ

“เล่นตอบคำถามกับฉันอีกแล้วหรือ แซม..”

แซมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน สายตาของแฟรงค์ไม่ได้อยู่ที่เขาแต่จ้องมองไปที่ขอบฟ้าข้างหน้า เห็นสีหน้าเซียวของแฟรงค์ชัดๆ แล้ว แซมรู้สึกฉุนที่แฟรงค์พยายามปิดบังไม่พูดความจริง

“ไม่เอาน่า แฟรงค์.. ถ้าไม่บอกความจริงว่าตอนนี้นายเป็นยังไงบ้าง ฉันจะพานายกลับไปหาบ๊อบเดี๋ยวนี้เลย”

“บอกก็ได้ แค่นี้ทำไมต้องโมโหด้วย ฉันแค่นอนไม่ค่อยหลับเท่านั้น สุขภาพฉันโอเค ฉันเดินเก่งแล้วด้วยไม่เชื่อถามป้ามาลีก็ได้ ฉันเดินจากบ้านมานั่งตรงนี้เองด้วยนะ.. ”

แซมส่ายหน้า แฟรงค์พยายามคุยเพื่อให้เขาเชื่อว่าตัวเองแข็งแรงดี แต่มันขัดกับที่สายตาเขาเห็น

“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ นายคิดมากใช่มั้ย”

“เปล่า ฉันไม่ได้คิดมาก ฉัน.. เอ่อ.. ฉันฝันร้าย ตกใจตื่นก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ”

แฟรงค์เล่าความฝันให้เพื่อนฟัง กับแซม.. แฟรงค์ไม่เคยมีเรื่องปิดบัง

แซมกุมมือแฟรงค์บีบเบาๆ ในฐานะเพื่อนเขาแสดงกิริยาปลอบโยนได้เพียงเท่านี้

“รู้มั้ยทำไมถึงฝันร้าย จิตใต้สำนึกนายคิดถึงคริสในทางไม่ดี ฟังนะแฟรงค์ คริสไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด เขายังเป็นคริสคนเดิม”

แฟรงค์ส่ายหน้า

“อย่าพูดเลยแซม.. นายไม่รู้เหมือนที่ฉันรู้ อย่าพูดถึงคริสให้ฉันได้ยินอีกเลย ฉันขออยู่อย่างสงบที่นี่ ไม่ขอเกี่ยวข้องกับใครที่คฤหาสน์บริเจคส์อีก”

แซมหัวเราะในลำคอ

“แล้วไง!!.. นายได้อยู่อย่างสงบมั้ย อุตส่าห์หนีมาอยู่ที่นี่ คริสยังตามมาอยู่ในฝันนายได้เลย ฟังนะแฟรงค์.. เลิกหลอกตัวเองและหลอกคนอื่นๆ ซะที นายลืมคริสไม่ได้หรอก นายกับเขาไม่ได้คบหากันมาแค่เดือน 2 เดือน ไม่ใช่แค่นายเท่านั้นที่ลืมเขาไม่ได้ คริสก็ลืมนายไม่ได้ด้วยเหมือนกัน”

“ใครบอกนาย”

“ไม่ต้องมีใครบอกหรอก ฉันรู้หลังจากที่ฉันต้องโกหกคริสอีกเป็นครั้งที่ 2 เรื่องหนุ่มเคาบอยของนาย ให้ตายเถอะ! แฟรงค์ จะสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาทำไมไม่บอกกล่าวกันก่อน”

แฟรงค์นึกขึ้นได้ว่าเขาส่งข้อความเรื่องหนุ่มเคาบอยไปหาเด็กๆ ตั้งใจจะให้คริสเลิกถามหาเขา เพราะเป็นทางเดียวที่คริสจะไม่รั้งเขาไว้ และยอมให้เขาจากไปแต่โดยดี

“ขอโทษแซม.. ฉันลืมบอก ลืมสนิทเลย คริสโทรไปถามนายเหรอ แล้วนายว่าไง..”

“ไม่ใช่โทรมาถาม คริสมาหาฉันที่ร้านเลย เขาถามถึงนายและเรื่องหนุ่มเคาบอยนั่น ฉันตั้งรับแทบไม่ทันแต่ก็ต้องลื่นไหลเอาตัวรอด ฉันบอกคริสว่าไม่รู้เรื่อง แต่เคยได้ยินนายพูดถึงเหมือนกันไม่คิดว่าจะคบหากันจริงจัง คริสตกใจและเสียใจมากนะ แฟรงค์.. ได้โปรดเถอะน่า.. อย่าสร้างเรื่องหลอกใครอีกเลยโดยเฉพาะกับคริส ”

“ฉันขอโทษแซม.. มันจะไม่เกิดขึ้นอีก ฉันสัญญา… เรื่องของฉันกับคริสจบลงแล้ว เขาจะไม่มากวนใจนายอีก”

“แน่ใจหรือว่าจบ”

แซมถอดแว่นตาแฟรงค์ออก อยากรู้ว่าคำพูดที่ออกมาตรงกับใจหรือเปล่า ถึงดวงตาจะมองไม่เห็น แต่เขาเชื่อว่ามันยังสามารถสื่อความรู้สึกได้เหมือนเดิม

แฟรงค์พยักหน้าอย่างมั่นใจ  “ฉันแน่ใจ แซม.. ”

แซมหัวเราะ   “ฉันไม่เชื่อว่านายจบ และไม่เชื่อว่าคริสจะจบด้วย”

แฟรงค์ขมวดคิ้ว แซมก็รีบคลายความข้องใจ

“คริสไม่จบเรื่องกับนายง่ายๆ หรอก เขาฝากให้ฉันบอกนายว่าเขาอยากเจอ อยากคุยกับนายอีกครั้งก่อนที่นายจะตัดสินใจไปกับไอ้หมอนั่น”

สีหน้าแฟรงค์สลดลงดวงตาฉายแววเจ็บปวด จนแซมต้องกล่าวเตือนกึ่งปลอบโยน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2008 13:33:09 โดย j-muay »

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #333 เมื่อ06-10-2008 13:12:17 »

ป้ามาจิ้มคนแต่งจ๊ะ
ขอผ้าเช็ดหน้า ยาดม ยาหอม  เศร้าเหลือเกิน

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #334 เมื่อ06-10-2008 14:06:10 »

Fatherhood part 2 [9] ต่อให้จบ...







ยาหอมสำหรับผู้สูงวัย




ผ้าเช็ดหน้าเล็กไป กระดาษทิชชูก็ใช้เปลือง เปลี่ยนเป็นผ้าขนหนูให้จ้ะ





สีหน้าแฟรงค์สลดลงดวงตาฉายแววเจ็บปวด จนแซมต้องกล่าวเตือนกึ่งปลอบโยน

“พอเถอะแฟรงค์.. อย่าหนีต่อไปอีกเลย กลับไปคุยกับคริสอีกครั้ง นายจากเขามาแต่ตัว… หัวใจไม่ได้มาด้วย ดูนายตอนนี้ซี… ไม่เหมือนแฟรงค์คนเดิมแล้วรู้มั้ย นายไม่ได้ทรุดโทรมลงไปเพราะอาการป่วยทางกายแต่นายป่วยที่ใจ ฉันยอมให้นายมาพักอยู่ที่นี่เพราะอยากให้นายได้ผ่อนคลายและหลบไอ้นรกนิคนั่น 5 วันที่นายอยู่ที่นี่ รู้มั้ยว่าวันนี้นายดูแย่กว่าวันแรกที่มาถึง ถ้าบ๊อบมาเห็นนายตอนนี้ ฉันบอกได้เลยว่า ในฐานะหมอเขาต้องลากตัวนายกลับ…”

แฟรงค์กล่าวน้ำเสียงเครือ

“จะให้ฉันกลับไปคุยกับคริสเพื่ออะไร คุยหรือไม่คุยฉันกับเขาก็จบกันแล้ว ฉันคิดว่าฉันทำใจได้เรื่องชารอน และเคยคิดว่าจะคบหาคริสเป็นเพื่อนต่อไป แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ตั้งแต่ไอ้นรกนิคมันทำร้ายฉัน ฉันรู้สึกเกลียดและแขยงตัวเอง ไม่กล้าเจอและเข้าใกล้คริสอีก นายดูสภาพฉันตอนนี่ซี.. ถ้านายรักฉันและเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา ได้โปรดเถอะนะ แซม.. อย่าให้คริสรู้เรื่องฉัน อย่าให้เขามาเจอฉันในสภาพพิการน่าสมเพชแบบนี้…” แฟรงค์สะอื้นอย่างไม่อาย

แซมตกใจ เขารู้จากบ๊อบว่าวันที่แฟรงค์รู้ตัวว่าตามองไม่เห็น แฟรงค์ร้องไห้ด้วยความตกใจและเสียใจ วันนี้เป็นอีกวันที่แฟรงค์ร้องไห้อย่างขมขื่นและเจ็บปวดกับเคราะห์กรรมที่ได้รับ แซมรีบขยับเข้าไปเช็ดน้ำตาให้และกล่าวปลอบ

“โอเค.. แฟรงค์.. โอเค.. ฉันจะไม่เซ้าซี้เรื่องคริสอีก กลับเข้าไปพักผ่อนข้างในดีกว่า คืนนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายนะ..”

“รับปากฉันก่อน แซม.. ว่าจะไม่ให้คริสรู้เรื่องฉัน ”

แซมถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจำใจรับปากเพื่อให้เพื่อนสบายใจ



:เฮ้อ:



พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดสองสัปดาห์ที่ชารอนจะเดินทางกลับจากภูเก็ต คริสต้องไปพบเธอที่สนามบินเพื่อให้คำตอบกับเธอ

..คริสที่รัก..

“ฉันดีใจและมีความสุขมากที่ได้มีโอกาสมาพบเจอคุณอีกครั้ง และยังได้ใช้ชีวิตคู่อยู่กับคุณนานกว่า 3 เดือน ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันมีความสุขมาก มากจนไม่อยากให้การสมรสครั้งนี้ต้องมีอันจบลงเลย แต่ฉันไม่อาจเห็นแก่ตัวมีความสุขอยู่เพียงฝ่ายเดียวได้ ฉันไม่ได้ทดลองใช้ชีวิตสมรสกับคุณเพราะคิดว่าฉันอาจจะเปลี่ยนแปลงคุณได้ ฉันรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางเปลี่ยนความรู้สึกของคุณในเรื่องนี้ ฉันเพียงแต่อยากใช้ชีวิตคู่กับคุณเพื่อให้สัญญาที่เราเคยมีต่อกันเมื่อ 18 ปีที่แล้วลุล่วง

ที่รักคะ.. ถึงเวลาที่ฉันควรจะจากไปแล้ว ฉันไม่อาจมีความสุขบนความทุกข์ของคุณและแฟรงค์ต่อไปได้อีก อย่าห่วงเรื่องไมเคิล.. ฉันแค่เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านและเที่ยวไปรอบโลกตามประสาภรรยามหาเศรษฐีบริเจคส์เท่านั้น 1 ปีให้หลังฉันจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งและจดทะเบียนหย่ากับคุณอย่างเงียบๆ ขอให้รับรู้ว่าฉันไม่ต้องการทรัพย์สินใดๆ จากคุณ

กลับจากภูเก็ตฉันจะเดินทางกลับอเมริกาในคืนวันเดียวกัน ฉันจะรอพบคุณที่สนามบินเผื่อว่าคุณอาจไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของฉัน…”



นายจอนชำเลืองมองเจ้านายคริสผ่านกระจกส่องหลัง รู้สึกสงสารและเห็นใจเจ้านายอย่างมาก หมดจากเรื่องคุณไมค์แล้วนึกว่าคฤหาสน์บริเจคส์จะอบอวลด้วยความสุขเสียที แต่เปล่าเลย… เจ้านายยังคงมีเรื่องทุกข์ใจไม่จบสิ้นและความทุกข์ขณะนี้คงเป็นความในใจส่วนตัวที่ไม่สามารถระบายให้ใครฟังได้ ไม่เหมือนตอนเรื่องของไมเคิลยังบ่นและระบายให้เขาฟังบ้าง แต่ถึงไม่ได้ยินเจ้านายบ่นนายจอนก็พอจะรู้ว่าเจ้านายคริสของเขากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไร

นายจอนลอบถอนใจเมื่อเห็นทางแยกข้างหน้า ถ้าเลี้ยวซ้ายก็แปลว่าเขาต้องวนรถอีกหนึ่งรอบ เขาวนรถไปมารอบบริษัท 2 รอบแล้ว เพราะเจ้านายขึ้นมานั่งปุ๊บก็เล่นหลับตาพิงพนักไม่ยอมออกคำสั่งว่าจะไปไหน จะเอ่ยถามก็ไม่กล้าเพราะสีหน้าเจ้านายไม่ดีเลย นายจอนตัดสินใจบังคับรถเข้าเลนซ้าย

“ถ้าวนอีกรอบ ฉันจะตัดเบี้ยเลี้ยงแกเดือนนี้ทั้งเดือน”

นายจอนสะดุ้งโหยง หักพวงมาลัยเข้าเลนขวาแทบไม่ทัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้านายคริสพูดกับเขาทั้งที่ยังหลับตา...

“เอ่อ.. ผมรอคำสั่งเจ้านายครับ”

“แกอยู่กับฉันมากี่ปีแล้ว จอนนี่.. ถ้าฉันไม่สั่งแกก็ควรจะพาฉันกลับบ้าน จะมัววนรถอยู่หาอะไร!!..”

“เอ่อ.. ครับผม”

นายจอนรับคำเสียงอ่อยแต่นึกเถียงในใจ ถึงจะกลับบ้านเจ้านายก็จะสั่งทุกครั้ง ไม่เคยขึ้นมาแล้วนั่งหลับตาแบบนี้นี่นา...

นายจอนชำเลืองมองที่กระจกอีกครั้ง เจ้านายคริสเหม่อมองไปนอกรถอีกแล้ว เขามีเรื่องข้องใจเรื่องหนึ่งอยากจะถาม ไม่คิดว่าวันนี้เจ้านายจะอารมณ์ไม่ดี ชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องสำคัญ ถึงจะถูกดุก็ยอมเพราะเขาแน่ใจว่าเรื่องที่ถามต้องเป็นประโยชน์กับเจ้านายไม่มากก็น้อย

“เอ่อ.. เจ้านายครับ ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะเรียนถาม”

คิ้วเข้มขมวดก่อนจะเอ่ยอนุญาตด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

“ผมรู้จากคุณโอว่า คุณแฟรงค์กำลังเป็นไกด์พาเพื่อนใหม่ชาวอเมริกันเที่ยวเมืองไทย ถ้าเรื่องที่คุณโอพูดเป็นความจริง ผมรู้สึกแปลกๆ กับเรื่องที่แอบได้ยินเมื่อคืนวานครับเจ้านาย..”

คริสละสายตาจากหน้าต่างรถ หันมาให้ความสนใจด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์มากขึ้น จะให้สบอารมณ์ได้ยังไง เจ้าโชเฟอร์ตัวแสบบังอาจถามเขาเรื่องของแฟรงค์  หากแต่คำพูดประโยคหลังทำให้เขาข่มใจนิ่งฟังอย่างสงบ ไม่ขัดหรือทักท้วงอะไร

“เมื่อสองคืนก่อนผมไปเที่ยวคริสปี้ผับมาครับเจ้านาย.. พบแต่คุณแซมเพื่อนคุณแฟรงค์.. ผมลองถามถึงคุณแฟรงค์กับพนักงานก็ได้คำตอบว่าไปต่างประเทศ ผมไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร แต่ตอนเข้าห้องน้ำผมแอบได้ยินพนักงานสองคนคุยกันว่า ป่านนี้คุณแฟรงค์เป็นยังไงบ้าง หายดีหรือยัง…”

นายจอนหยุดพูดและชำเลืองมองกระจกหลัง สีหน้าไม่สบอารมณ์ของเจ้านายคลายลงแล้ว และกำลังนิ่งฟังเรื่องที่เขาเล่าด้วยความสนใจ นายจอนรีบกล่าวต่อก่อนที่เจ้านายจะเสียอารมณ์เพราะการหยุดพูดของเขา

“ผมแปลกใจกับเรื่องที่เขาคุยกันมากครับ และยิ่งแปลกใจพร้อมกับตกใจที่ได้ยินบริกรอีกคนพูดว่า “….เสียเลือดมากขนาดนั้น สงสัยต้องพักฟื้นอีกนาน..”   เจ้านายครับ… ผมไม่แน่ใจว่าหมายถึงใคร แต่ผมคิดว่า…”

นายจอนยังพูดไม่จบ คริสก็ออกคำสั่งให้ตรงไปคริสปี้ผับโดยไม่ถามสักคำว่าเรื่องที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า…



 o13




 o2    สีหน้าและอาการตกใจของแซมเป็นคำตอบให้กับคริสว่าเรื่องที่นายจอนได้ยินมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง

“คุณทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมากนะแซม.. ผมหลงไว้ใจและชื่นชมคุณในฐานะที่คุณเป็นเพื่อนรักของแฟรงค์.. แต่คุณกลับเห็นผมเป็นไอ้โง่  ปิดบังเรื่องของแฟรงค์ทั้งที่คุณก็รู้ว่าผมรักและเป็นห่วงเขามากขนาดไหน”

คริสกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความขมขื่น ไม่ดุดันเกรี้ยวกราดทั้งที่กำลังโกรธ ทำให้แซมรู้สึกเสียใจเพราะตัวเองผิดต่อคริสจริงๆ

“เอ่อ.. ผมขอโทษครับคุณคริส.. ผมไม่สามารถบอกอะไรคุณได้จริงๆ ผมผิดสัญญากับแแฟรงค์ไม่ได้”

“แฟรงค์ห้ามไม่ให้คุณบอกผมยังงั้นเหรอ..”

“เอ่อ.. ครับ”

คริสต้องใช้ความพยายามอย่างสูงสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเอง ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์บริเจคส์ เขาไม่สามารถเกรี้ยวกราดและต่อว่าแซมด้วยอารมณ์อย่างที่ทำกับสมาชิกในบ้านได้ทั้งที่ใจอยากจะทำ

“แฟรงค์ไม่ให้คุณบอกผมคุณก็ทำตาม คุณทำในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของแฟรงค์หรือแซม.. คุณคบกับเขามานานกว่าผม หมายความว่าคุณรักและเป็นห่วงแฟรงค์มากกว่าที่ผมรักและเป็นห่วงเขาอย่างนั้นเหรอ..”

“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะครับ ผมจำเป็นต้องทำ ผมบอกคุณได้แต่เพียงว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับแฟรงค์นิดหน่อย แต่ตอนนี้เขาปลอดภัยและสบายดีแล้ว”

คริสรับไม่ได้กับคำตอบ อุบัติเหตุที่ทำให้แฟรงค์ต้องเสียเลือดมากมันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับแซมยังงั้นเหรอ.. คริสหมดความอดทน เมื่อแซมไม่ยอมบอกเขาก็จะไม่เซ้าซี้ถาม

คริสลุกขึ้นยืน

“ขอบคุณแซม.. ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงความรักในฐานะเพื่อนรักระหว่างคุณกับแฟรงค์ ในเมื่อคุณแคร์ความรู้สึกของแฟรงค์โดยไม่สนใจความรู้สึกของผม ผมก็จะไม่สนใจความรู้สึกของคุณเหมือนกัน ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นเพื่อนรัก คู่ขาหรือหุ้นส่วนของแฟรงค์ ผมลงทุนเปิดคริสปี้ผับให้เพราะแฟรงค์อยากทำ เมื่อเขาไม่อยู่บริหารด้วยตัวเอง ผมก็เสียใจที่จะบอกคุณว่าผมให้เวลาอีก 7 วัน บอกลาลูกค้าของคุณซะ ตั้งแต่อาทิตย์หน้าคริสปี้ผับจะไม่เปิดบริการอีก”

แซมอ้าปากหวอ

“อะ.. อะไรนะครับ!!.. หมายความว่ายังไง คุณคริส.. คุณจะปิดกิจการของเราได้ยังไง..”

คริสหัวเราะ

“กิจการของคุณกับแฟรงค์หรือ แซม.. มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับสมองของคุณด้วยเหรอ.. คุณถึงลืมไปว่าคริสปี้ผับเกิดขึ้นจากเงินลงทุนของผมทุกบาททุกสตางค์”

 o12  “ผมไม่มีวันลืมหรอกครับคุณคริส.. แต่อย่างน้อยเราก็จ่ายคืนคุณไปแล้ว 2 ใน 3 แฟรงค์ให้ผมโอนเงิน 2 ล้านบาทเข้าบัญชีคุณเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว  ผมจำได้ว่าแจ้งให้คุณทราบแล้ว   แต่ถ้าคุณจำไม่ได้ผมมีเอกสารยืนยัน ถ้าคุณต้องการดูผมจะหยิบให้เดี๋ยวนี้”

แซมเริ่มไม่พอใจ  มหาเศรษฐีบริเจคส์ทำท่าจะรังแกคนทำมาหากินอย่างเขา

คริสยิ้มระบายยิ้ม   “เสียใจแซม.. ผมไม่รู้เรื่องเงิน 2 ล้านที่คุณว่า..”

แซมใจหายวาบ คิดไม่ถึงว่าคริสจะเล่นไม้นี้ ยังไม่ทันโวยต่อว่าก็ถูกคริสขัดขึ้นอย่างรู้ทัน

“อย่า—แม้แต่จะคิดนะแซม.. ผมไม่มีนิสัยขี้โกงใคร เงินสองล้านบาทไม่ได้เข้าบัญชีผม มันอาจจะยังอยู่ในบัญชีของแฟรงค์ก็ได้ และเมื่อไม่มีแฟรงค์ก็ไม่มีคริสปี้ผับ บอกแฟรงค์ว่าผมอยากให้เราจากกันด้วยดี อย่าหลบหน้าหรือสร้างเรื่องอะไรมาหลอกอีก ”

แซมมองหน้ามหาเศรษฐีบริเจคส์แทบไม่ติด ทั้งที่รู้ว่าถูกหลอก คริสก็ยังไม่ต่อว่าด้วยอารมณ์โกรธ

“ผมรับรู้จากคุณว่าแฟรงค์สบายดีแล้วนะแซม.. รับผิดชอบคำพูดคุณด้วย ”

คริสเดินจากไป แซมยืนอึ้งเย็นสันหลังวาบกับคำพูดประโยคสุดท้ายของคริส

คริสลดกระจกลงและสั่งให้นายจอนหยุดรถ เขาส่งยิ้มให้แซมที่ยืนหอบอยู่ตรงหน้า

“ถ้าผมไม่รับปากและสัญญากับแฟรงค์ไว้ ผมบอกคุณไปแล้ว ผมบอกไม่ได้แต่บางทีบ๊อบอาจจะบอกได้ ถ้าเขาไม่ได้รับปากแฟรงค์ไว้เหมือนผม”



:m29:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2008 14:10:03 โดย j-muay »

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #335 เมื่อ06-10-2008 14:15:16 »

 :a11:  ต่ออีก...



บ๊อบขับรถเข้ากรุงเทพฯ ด้วยความไม่สบายใจนัก ถ้าไม่ติดว่ามีคนไข้ประจำต้องดูแลและมีคิวผ่าตัดพรุ่งนี้เช้า หมอคงจะลาพักร้อนสัก 2-3 วัน อยู่ดูแลเพื่อน เพราะอาการป่วยทางใจที่เขาไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้ ทำให้อาการป่วยทางกายที่ทำท่าว่าจะทุเลาขึ้นกลับทรุดลงอีก

บ๊อบเดินทางไปหาแฟรงค์ในตอนบ่าย แซมโทรมาบอกเมื่อเช้าว่าแฟรงค์นอนไม่หลับหลายคืนแล้ว ให้นำยาที่ช่วยให้นอนหลับสบายไปด้วย เขาไม่เห็นด้วยกับแซม รู้ทั้งรู้ว่าไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

บ๊อบไปถึงบ้านพักเกือบ 4 โมงเย็น เมื่อรู้ว่าแฟรงค์หลับอยู่ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะนอกจากจะไม่ใช่เวลานอนแล้ว ยังไม่ใช่วิสัยของแฟรงค์ที่ชอบนอนพักผ่อน อาจเป็นเพราะนอนไม่หลับในตอนกลางคืนอย่างที่แซมว่า ก็เลยมางีบหลับเวลานี้

บ๊อบตกใจเมื่อพบว่าแฟรงค์ไม่ได้นอนหลับเพราะต้องการพักผ่อนธรรมดา แต่เพราะอาการป่วย แฟรงค์มีไข้ แผลผ่าตัดอักเสบและเป็นหนอง บ๊อบรู้สึกโกรธตัวเองที่ใจอ่อนยอมให้แฟรงค์มาพักอยู่ตามลำพัง โดยไม่จัดหาพยาบาลมาเฝ้าไข้ให้ เขาไม่น่าหลงเชื่อว่าแฟรงค์สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะถึงจะผ่านการเรียนแพทย์มาถึง 4 ปี แต่เวลานี้แฟรงค์อยู่ในฐานะคนไข้ และไม่ได้ป่วยแค่ทางกายจิตใจก็ป่วยหนักไม่แพ้กัน

แฟรงค์งัวเงียตื่นขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อถูกบ๊อบปลุก

“บ๊อบเหรอ…”

แฟรงค์ควานหานาฬิกาบนที่นอนและกดเช็คเวลา เมื่อรู้ว่าเป็นเวลาบ่าย 4 โมง ก็ขมวดคิ้ว

“ทำไมมาเวลานี้ล่ะบ๊อบ.. แซมเพิ่งกลับไปเมื่อตอนสายเองนี่นา ฉันไม่อยากให้นายสองคนเป็นห่วงจนต้องผลัดกันเทียวไปเทียวมาแบบนี้เลย ฉันดูแลตัวเองได้ เดินไปไหนมาไหนได้สบายแล้วด้วย ไม่ต้องห่วงหรอกนะบ๊อบ”

บ๊อบรู้สึกฉุนและหัวเสียทันทีเมื่อได้ยินคำพูดอวดเก่งของแฟรงค์

“ฉันไม่ได้มาหานายในฐานะเพื่อนเหมือนเจ้าแซม.. ฉันหมอบ๊อบมาดูแลคนไข้ตามหน้าที่ของฉัน และในฐานะที่ฉันเป็นหมอฉันขอต่อว่าว่านายเป็นคนไข้ที่แย่มาก ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาอาการเจ็บป่วย ไข้สูงขนาดนี้ยังมีหน้าบอกว่าสบายดี ปิดบังไม่แจ้งอาการป่วยกับหมอ รู้มั้ยว่าคนไข้ดื้อๆ อย่างนายจะต้องถูกลงโทษด้วยการจับฉีดยาซะให้เข็ด”

แฟรงค์นอนอึ้งด้วยความตกใจ น้ำเสียงบ๊อบกร้าวและดุดันบอกให้รู้ว่าหมอกำลังโกรธเขาจริงๆ

“ฉัน.. เอ่อ.. ฉัน..”

แฟรงค์ไม่รู้ว่าจะอธิบายหรือแก้ตัวอย่างไร บ๊อบคงไม่เชื่อว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองมีไข้ เขาแค่รู้สึกง่วงและเพลียเท่านั้น ก็เลยเข้ามานอนพักหลังทานกลางวัน ไม่คิดว่าจะหลับไปหลายชั่วโมง

“ฉันไม่ได้ปิดบังอาการป่วย ฉันไม่รู้ว่ามีไข้”

“ไม่รู้ว่ามีไข้ แสดงว่าไม่ปวดแผลเลยซีนะ” บ๊อบใช้สองนิ้วกดที่แผลไม่แรงนักแต่ก็ไม่เบา

แฟรงค์สะดุ้งนิ่วหน้าแต่ไม่ร้องเจ็บ กลับเอ่ยขอโทษบ๊อบเสียงอ่อย

“ฉันขอโทษบ๊อบ.. ฉันไม่รู้ว่าแผลอักเสบ”

“หึ!.. แค่แผลผ่าตัดนายยังดูแลไม่ได้ จะให้ฉันเชื่อใจปล่อยให้นายอยู่คนเดียวต่อไปได้ยังไง ป้ามาลีบอกว่านายไม่ยอมให้แกทำอะไรให้ ทำเองหมดทุกอย่างแม้กระทั่งอาบน้ำ ทั้งๆ ที่ตามองไม่เห็นและขาก็เดินกะเผลก นายทำได้ยังไง... รู้ก็ทั้งรู้ว่าห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำ ฟังนะแฟรงค์.. ฉันรู้ว่านายเก่ง นายช่วยตัวเองได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา ฉันอยากให้นายเซฟตัวเองไว้หน่อย รอให้หายดีหรือแข็งแรงมากกว่านี้ก่อนได้มั้ย หือ!!....”

บ๊อบเค้นเสียงถามเหมือนแฟรงค์เป็นเด็กดื้อๆ คนหนึ่ง

“ฉันรู้ ~ ~ ฉันไม่ได้ให้แผลถูกน้ำเลยนะบ๊อบ สงสัยเป็นเพราะสะดุดหกล้มมากกว่า ฉันเสียใจ ~ ~ ฉันมองไม่เห็นเลยไม่รู้ว่าแผลเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้ตั้งใจปิดบังอาการป่วยกับนาย จริงๆ นะบ๊อบ สาบานให้ก็ได้ ~ ~”

แฟรงค์สะอื้นน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่ทำให้บ๊อบโกรธ

บ๊อบใจหายวาบรู้สึกตัวเมื่อเห็นอาการเสียใจของเพื่อน รีบขยับเข้าไปกอดปลอบ น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นคนละคน

“ฉันขอโทษแฟรงค์.. ฉันไม่ได้ว่า ฉันพูดมากเพราะเป็นห่วง ถ้าทำให้นายเสียใจฉันขอโทษด้วย ลืมที่ฉันพูดเมื่อครู่ซะ แฟรงค์.. ฉันล้อเล่นน่ะ เดี๋ยวจะทำแผลให้นะ”

บ๊อบตกใจเมื่อรู้ว่าแผลผ่าตัดมีอาการอักเสบขึ้นเพราะแฟรงค์สะดุดหกล้ม รู้สึกเสียใจอย่างมากที่พูดจาต่อว่าเพื่อนแรงๆ ลืมไปว่าจิตใจของแฟรงค์ขณะนี้อ่อนไหวง่าย

“ฉันไม่ต้องถูกลงโทษด้วยการฉีดยาแล้วใช่มั้ย บ๊อบ..”

แฟรงค์ถามเสียงอ่อยขณะที่บ๊อบกำลังทำแผลให้

“ลงโทษเรื่องอะไร นายไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ เห็นแซมบอกว่านายนอนไม่ค่อยหลับ รับรองว่าคืนนี้นายได้นอนหลับสนิทจนถึงเช้าแน่ ฉันจะฉีดยานอนหลับให้หนึ่งเข็ม โอเค…”

แฟรงค์ร้องโวยไม่ยอมฉีดยาจะขอกินยาแทน บ๊อบยิ้มออกเมื่อเห็นแฟรงค์มีอารมณ์ผ่อนคลายขึ้นและแสดงนิสัยขี้โวยวายของตัวเองออกมา เขาอยากให้แฟรงค์เหมือนเดิม สนุกสนานร่าเริง ทะเล้นและลื่นไหลไปเรื่อย ไม่อยากเห็นเพื่อนอยู่ในสภาพหงอยเหงาทุกข์ใจอย่างนี้



 :m15:



 “มีแขกมารอพบคุณหมอค่ะ”

บ๊อบเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เกือบ 5 ทุ่มแล้วยังมีแขกที่ไหนมารอพบ บ๊อบชะงักเท้าเมื่อเด็กรับใช้รายงานเพิ่มเติมว่า คุณผู้หญิงอนุญาตให้เข้าไปนั่งคอยในบ้านเพราะแขกแต่เป็นฝรั่งบอกว่ามีธุระสำคัญมากจริงๆ

...หึ!.. ไม่ต้องถามต่อบ๊อบก็รู้แล้วว่าแขกที่มาเยือนเป็นใคร ถ้าเขาไม่อยู่บ้าน ภรรยาของเขาจะไม่ยอมต้อนรับแขกหรือแม้แต่เพื่อนสนิทของเขาที่ห้องรับแขก ส่วนใหญ่จะให้นั่งคอยที่สนามหรือระเบียงบ้าน และจะโทรบอกเขาก่อนเสมอ

ภรรยาของบ๊อบหลงใหลและชื่นชมมิสเตอร์บริเจคส์มาก ไม่ใช่เพราะความเป็นมหาเศรษฐีของเขา หรือเพราะบุคลิกและหน้าตาของคริสมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล แต่เธอรู้สึกทึ่งกับความพยายามของคริสที่ยอมสละความสุขส่วนตัวเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อให้ศาลยอมรับและเชื่อมั่นในความรักในฐานะพ่อของเขา เธอรู้สึกเห็นใจคริสมาก ยิ่งรู้ว่าแฟรงค์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของบ๊อบเป็นคนข้างกายของคริสด้วยแล้ว เธอยิ่งตื่นเต้นถึงกับออกปากให้บ๊อบพาเธอไปเยี่ยมแฟรงค์เพื่อจะได้เห็นตัวจริงของคริส

…อา! ถึงคิวนายแล้วบ๊อบ.. รู้ใช่มั้ยว่าจะบอกคริสว่ายังไง….

…เสียใจด้วยนะคริส.. ในฐานะหมอผมไม่สามารถบอกเรื่องของคนไข้ให้คนอื่นที่ไม่ใช่ญาติสนิทรับรู้…




 o13




TBC >>>>>>>>>>>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2008 15:13:56 โดย j-muay »

muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #336 เมื่อ06-10-2008 14:35:43 »

อ๊ากกกกกกกกกกกก.....

ค้าง

จะเป็นบ้าอยู่แล้ว

ขอยาระงับประสาทด่วน!!!!!

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #337 เมื่อ06-10-2008 15:52:56 »

ใจคอจะไม่มีใครบอกคริสจริงๆหรอ

มามะ งั้นหนูบอกเอง
.
.
.
.

ได้มั๊ยคะ

.
.
.
เจ้หมวย


ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #338 เมื่อ06-10-2008 23:07:57 »

เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #339 เมื่อ06-10-2008 23:29:31 »

วันนี้ค้างจนนอนไม่หลับ

อ่านใหม่อีกรอบ

ก็พบว่า

.........

ปวดใจ

ปวดใจจริงๆ

ผ้าขนหนูกะยาลม ชงักนักแล




แต่ไม่ได้ผลกับนิยายเรื่องนี้
 o2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
« ตอบ #339 เมื่อ: 06-10-2008 23:29:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #340 เมื่อ07-10-2008 00:07:38 »

อยากให้คริสเจอแฟรงค์เร็วๆจัง

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #341 เมื่อ07-10-2008 14:50:27 »

Fatherhood part 2 [10]



แฟรงค์ขยับตัวขึ้นนั่ง ดีใจทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถแต่ต้องซ่อนความรู้สึกไว้ ถ้าแซมหรือบ๊อบเห็นกิริยาดีใจของเขา มักจะถูกค่อนขอดว่าไหนบอกว่าไม่เหงาและเอ่ยปากชวนกลับทุกครั้ง

แต่วันนี้แฟรงค์รู้สึกแปลกใจและไม่สบายใจมากกว่ายินดี เพราะเสียงรถที่ได้ยินเป็นรถของบ๊อบ บ๊อบเพิ่งกลับไปเมื่อคืนเองนี่นา .... นี่บ๊อบไม่ไว้ใจให้เขาดูแลตัวเองแล้วจริงๆ เหรอ.. แค่แผลอักเสบเป็นหนองถึงขนาดต้องเทียวไปมากรุงเทพฯ – ประจวบทุกวัน หรือว่าแซมและบ๊อบกำลังร่วมมือกันหาทางทำให้เขายอมเปลี่ยนใจ กลับกรุงเทพฯ แต่โดยดี

แฟรงค์ได้ยินเสียงบ๊อบคุยกับใครเบาๆ สักครู่บ๊อบก็เดินเข้ามาส่งเสียงทักทายอยู่ใกล้ๆ

“ไง! แฟรงค์.. นั่งอาบแดดฟังเสียงคลื่น สบายอารมณ์เลยนะ”

“หวัดดีบ๊อบ มาทำไมอ่ะ เมื่อคืนเพิ่งกลับไปเอง ลืมอะไรหรือเปล่า”

แฟรงค์ถามตรงๆ เพราะสงสัยและไม่สบายใจ

“ดูพูดเข้า!!.. นี่บ้านพักตากอากาศของฉัน ฉันจะมาพักผ่อนบ้างไม่ได้เหรอ..”

“ขอโทษ.. ถ้ามาพักผ่อนก็แล้วไป ไม่ได้มาคนเดียวใช่มั้ย ฉันได้ยินเสียงนายคุยกับใคร”

“อือ.. หูดีจังเลยนะ แฟรงค์..  ฉันมีแขกมาด้วยจริงๆ เป็นคนไข้พิเศษของฉันเอง เขาอยากจะพักผ่อนเงียบๆ สัก 2-3 วัน ฉันก็เลยอาสาพามาพักที่นี่ นายไม่ขัดข้องใช่มั้ยแฟรงค์.. ต่างคนต่างอยู่เขาไม่รบกวนนายแน่ นายมองไม่เห็น ส่วนเขาพูดไม่ได้เพราะเพิ่งผ่าตัดต่อมทอนซิลมา”

แฟรงค์ไม่ค่อยชอบใจแต่ไม่แสดงความรู้สึกอะไร ก็บ๊อบเล่นถามเองตอบเองแบบนี้ ใครจะขัดข้องได้

“แล้วนายอยู่พักด้วยหรือเปล่า”

“ดูก่อน ถ้าอยู่ก็คงคืนเดียว พรุ่งนี้บ่ายมีผ่าตัด นั่งนานหรือยังแฟรงค์.. เข้าบ้านเถอะ ขอฉันดูแผลหน่อย”

แฟรงค์พยักหน้า ควานหาไม้ค้ำที่วางอยู่ข้างเก้าอี้และทรงตัวลุกขึ้น บ๊อบยืนนิ่งไม่ได้เข้าไปช่วยพยุง เพราะอยากเห็นพัฒนาการของเพื่อนว่าช่วยตัวเองได้จริงอย่างที่คุยหรือเปล่า




 :a11:



“ป้าเตรียมน้ำอุ่นไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ  ต้องการอะไรเพิ่มอีกมั้ยคะคุณ”

“ไม่ล่ะครับป้า ขอบคุณมาก เอ่อ.. ป้าครับ แขกของบ๊อบพักอยู่ห้องข้างๆผมใช่มั้ย”

“ค่ะ รู้สึกจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว คุณต้องการพบหรือคะ”

“เอ่อ.. เปล่า.. ผมถามเฉยๆ ป้าไปพักผ่อนเถอะ ช่วยปิดไฟและล็อกห้องให้ผมตอนออกไปด้วย”

“ได้ค่ะ”

วันนี้มีคนแปลกหน้ามาพักอยู่และบ๊อบก็ไม่ได้พักอยู่เป็นเพื่อนด้วย   รีบบึ่งรถกลับไปตอน 2 ทุ่มเพราะมีโทรศัพท์แจ้งเลื่อนนัดผ่าตัดพรุ่งนี้จากบ่ายเป็นเช้าทำให้บ๊อบต้องรีบกลับ ก่อนกลับยังสั่งเสียเขาด้วยความเป็นห่วง

“ทำตัวตามสบายนะแฟรงค์.. เขาอยู่ของเขานายอยู่ของนาย ไม่จำเป็นต้องทักทายกัน เขารู้และเข้าใจว่านายต้องการความสงบและเป็นส่วนตัว”

...พูดน่ะง่าย บ๊อบ.. เวลาทำไม่ง่ายอย่างที่พูดหรอก ตั้งแต่พรุ่งนี้เขาต้องอยู่ในสายตาของคนคนหนึ่ง เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะมองไม่เห็น หมอนั่นคงแอบมองและนึกสมเพชเขาอยู่ในใจ บ๊อบนะบ๊อบ.. ช่างทำได้ ถือว่าเป็นบ้านของตัวเองจะพาใครมาพักอยู่ก็ได้ ไม่คิดถึงใจและไม่ถามเขาก่อนสักคำ…

แฟรงค์เดินออกจากห้องน้ำในสภาพเปลือย ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวหรือสวมเสื้อคลุมเพราะภายในห้องมืดสนิท ตั้งแต่ตามองไม่เห็นแสงสว่างไม่มีความจำเป็นต่อเขา เขาไม่เคยเปิดไฟเวลาอยู่คนเดียว ยกเว้นแซมหรือบ๊อบอยู่ด้วย

แฟรงค์นั่งลงบนเตียงควานหาชุดนอนที่แม่บ้านจัดเตรียมไว้ให้ สวมเสื้อผ้าเสร็จก็ขยับตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มเตรียมจะพักผ่อน เขาควานหานาฬิกาที่หัวเตียงและกดเช็คเวลา เพิ่งจะ 3 ทุ่มเองปกติเขาจะออกไปนั่งด้านนอกฟังเพลงหรือเปิดทีวีฟังฆ่าเวลารอให้ง่วงแล้วค่อยเข้ามานอน แต่คืนนี้คงต้องนอนแต่หัวค่ำเพราะมีคนอื่นพักอยู่ด้วย เขาเองยังไม่อยากให้ใครรบกวน เขาก็ต้องไม่รบกวนคนอื่นด้วย

สองสามคืนที่ผ่านมาเขาเลิกฝันร้ายแล้ว แต่ยังนอนไม่ค่อยหลับเหมือนเดิม หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนอาจเป็นเพราะยังไม่ชินกับการอยู่คนเดียว หลายปีที่ผ่านมาเขาหลับอย่างเป็นสุขภายในคฤหาสน์บริเจคส์ เพราะที่นั่นอบอวลด้วยความรักและความอบอุ่น สมาชิกหนุ่มน้อยอยู่กันพร้อมหน้า แม้จะทะเลาะเบาะแว้งสร้างความปวดหัวให้กับเขาบ่อยๆ แต่เขาก็เป็นสุข และยิ่งมีความสุขมากขึ้นในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ตั้งแต่คริสเลิกยุ่งเกี่ยวกับหนุ่มน้อยและกลับมามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขาเพียงคนเดียว หลังจากนั้นมาเขาก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มคนอื่นๆ รักและเทิดทูนคริสสุดหัวใจ เขาไม่เคยข้องเกี่ยวหรือหาความสุขกับใครนอกบ้านอีก คริสไม่ได้ห้ามแต่บอกว่าถ้าทำอีกระหว่างเขากับคริสก็จบกัน จนถึงวันนี้เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแคร์ความรู้สึกของคริสด้วย ทีคริสยังไม่สนใจความรู้สึกเขาเลย พาแฟนเก่ามาอยู่บ้านและมีเซ็กซ์กับเธอ ใช้ชีวิตสมรสกับเธออย่างมีความสุขโดยบอกเขาว่ามันเป็นเพียงแค่แผน…

….ให้ตายเถอะ! นี่เขาคิดถึงคริสทำไม มันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ.. จะนอนคิดถึงให้เจ็บหัวใจทำไมอีก…

แฟรงค์ขยับตัวขึ้นนั่งเมื่อรู้สึกว่าสมองฟุ้งซ่านเกินไป  เขาควานหาขวดน้ำที่โต๊ะข้างเตียงและยกขึ้นดื่มก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ แต่ก็ยังนอนไม่หลับกระสับกระส่ายไปมาไม่ใช่เพราะยังคิดมาก แต่รู้สึกเหมือนถูกใครจ้องมองอยู่ แฟรงค์ขยับตัวลุกขึ้นอีกครั้งเงี่ยหูไปทางโซฟา

….เงียบ!!! ไม่มีเสียงผิดปกติใดๆ เขาคงระแวงไปเอง….

แฟรงค์ล้มตัวลงนอนต่อ พยายามข่มตาให้หลับ ก่อนนอนไม่ลืมบอกราตรีสวัสดิ์ทุกๆ คน เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเองว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก

“กู๊ดไนท์โอ.. แจ๊ค.. บอย.. ทิมมี่.. กู๊ดไนท์ ไมเคิล.. หลับฝันดีทุกๆ คนนะ”

แฟรงค์ยังคงกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา นึกโกรธบ๊อบ ขอยานอนหลับทิ้งไว้หน่อยก็ไม่ได้ ไม่รู้หรือว่าการนอนไม่หลับมันทรมานขนาดไหน

“กู๊ดไนท์ คริส...”

แฟรงค์ตัดสินใจเอ่ยประโยคสุดท้ายที่ค้างอยู่ในใจ เผื่อว่าจะทำให้เขานอนหลับได้
..กู๊ดไนท์ แฟรงค์.. หลับได้แล้ว หลับให้สบาย…

ได้ผล… แค่นึกภาพคริสกล่าวราตรีสวัสดิ์กับเขา แฟรงค์ก็เริ่มง่วงและผล็อยหลับไปในที่สุด



 :a12:



… หนึ่งปีที่ผ่านมานี้เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขา ไม่ทันข้ามปีเขาต้องพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้ต้องทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัสเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเมื่อไมเคิลได้กลับคืนสู่อ้อมอกเขาในสภาพที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะถูกพ่อเลี้ยงใจโหดทำร้ายจนประสาทตาและสมองกระทบกระเทือน มองไม่เห็นและจำอะไรไม่ได้ ครั้งนั้นพระเจ้าคงเมตตา.. เห็นแก่หนุ่มน้อยและเขาที่มีความรักและความผูกพันต่อกันในฐานะพ่อกับลูก จึงบันดาลให้ไมเคิลหายจากอาการป่วยและคลาดแคล้วจากโรคร้ายกลับมามีชีวิตที่ร่าเริงสดใสอีกครั้ง แต่ครั้งนี้… ไม่รู้ว่าพระเจ้าจะยังเมตตาเขาอยู่หรือเปล่า…

เหตุการณ์ร้ายแรงที่กิดขึ้นกับแฟรงค์ จนทำให้ชายหนุ่มมีสภาพอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้าเวลานี้สร้างความทุกข์ใจและเจ็บปวดให้คริสเหลือที่จะกล่าว ร่างกายงดงามสมส่วนอย่างที่นายแบบอาชีพหลายคนยังอาย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาคมเข้มหล่อเหลาตามสไตล์หนุ่มลูกครึ่ง วันนี้แฟรงค์ไม่เหลือสภาพที่น่าชื่นชมนั้นอีกแล้ว ร่างกายทรุดโทรมและผ่ายผอมไปเป็นคนละคน หนวดเคราบนใบหน้ายิ่งทำให้แฟรงค์ดูแย่มากขึ้น อาการป่วยทางตาของแฟรงค์เวลานี้ไม่ต่างจากที่ไมเคิลเคยเป็น แต่การที่แฟรงค์ยังมีความจำเป็นปกติในขณะที่สายตามองไม่เห็น ทำให้ตัวเองต้องอยู่อย่างทนทุกข์และเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่กล้าอยู่สู้หน้าใครแม้แต่เขา…




คริสนั่งเงียบอยู่ในความมืดนานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว สายตาคุ้นชินจนสามารถมองเห็นสภาพภายในห้องทุกซอกทุกมุม นอกจากเตียงนอนและโซฟาที่เขานั่งอยู่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอื่นใดวางเกะกะอีก แฟรงค์หลับสนิทไปแล้วหลังจากกระสับกระส่ายผุดลุกผุดนั่งอยู่เกือบชั่วโมง

บ๊อบบอกว่าแฟรงค์นอนไม่ค่อยหลับ ฝันร้ายเกือบทุกคืน ถ้าได้เขาอยู่เป็นเพื่อน  แฟรงค์คงไม่ฝันร้ายอีก ....แปลกเหลือเกิน แสงสลัวเพียงเล็กน้อยในห้องแต่ทำไมเขาจึงมองเห็นแฟรงค์ได้อย่างถนัด แฟรงค์เคยบ่นว่าเขาตอนที่เขาไว้หนวดเคราเพื่อปิดบังหน้าตาตัวเองไม่ให้เหมือนบิลของไมเคิล

“เมื่อไรจะโกนออกซะทีคริส หน้าตาดีๆ เอาหนวดเครามาปิดทำไม รู้มั้ยผมไม่ค่อยถูกชะตากับคนมีหนวด จ้าง 1 ล้าน ผมยังไม่อยากไว้เลย”

.…แสดงว่าต้องมีใครจ้างนายเกินกว่าหนึ่งล้านใช่มั้ย แฟรงค์….

เขาได้ยินแฟรงค์กล่าวราตรีสวัสดิ์กับเด็กทุกคน แต่กับเขาเหมือนแฟรงค์เอ่ยอย่างจำใจ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกยินดีจนอยากเข้าไปสวมกอดแฟรงค์ในนาทีนั้น

คริสอยากจะจับต้องใบหน้าของแฟรงค์ แต่กลัวจะตกใจตื่น

…เราไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้ว แพ็ททริค.. ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้พบนายอีกครั้งในสภาพนี้ หลับซะ แฟรงค์.. หลับให้สบาย ฉันจะไม่ยอมให้ใครมารังแกนายอีก และไม่ยอมให้นายหนีจากฉันไปไหนอีกแลัว…




 :m15:



แฟรงค์สะดุ้งเฮือกเจ็บปวดแทบขาดใจกับการกระทำของเจ้านิค ไม่มีแรงขยับเขยื้อนเพราะทั้งแขนและขาถูกตีด้วยไม้เบสบอลจนกระดูกแตกและหัก เขาเจ็บปวดและทรมานจนต้องหลับตาร้องเรียกให้คริสช่วย

“คริส!!.. ช่วยด้วย!!.. ผมเจ็บ~~~ โอย~~~”

แฟรงค์ลืมตาขึ้นเห็นคริสยืนอยู่ตรงหน้าจริงๆ แต่ไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวมีเธออยู่ข้างๆ ด้วย

“ช่วยด้วย!! คริส.. ช่วยผมด้วย โอ๊ย!!.. โอย~~~”

แฟรงค์สะดุ้งเฮือกและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เมื่อเจ้านิคกระทำทารุณกับเขารุนแรงขึ้นอย่างไม่ปรานีปราศรัยและส่งเสียงหัวเราะอย่างสะใจ ในขณะที่คริสยังยืนนิ่งเฉยไม่มีทีท่าว่าจะขยับเข้ามาช่วย และนอกจากไม่ช่วยแล้วคริสยังยืนดูเหมือนพอใจที่เห็นเจ้านรกนิคกระทำทารุณกับเขา

โอ!!.. พระเจ้า!!... แฟรงค์รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก กัดฟันตะโกนสุดเสียงให้คริสช่วยอีกครั้ง ถ้าคริสยังนิ่งเฉยอยู่อีก เขาก็ขอยอมตายแล้ว.…

“ช่วยด้วย คริส.. ช่วยผม ด้วยย~~~ ”  

 






คริสถลาไปที่เตียงช้อนศีรษะชายหนุ่มขึ้นมาสวมกอดและกระซิบปลอบ เขานิ่งมองแฟรงค์นอนกระสับกระส่ายพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์อยู่สักครู่ ก่อนที่เสียงเรียกให้ช่วยจะดังขึ้นเหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับแฟรงค์จริงๆ

“ฉันอยู่นี่ แฟรงค์.. ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว”

แฟรงค์คงไม่ได้ยินที่เขาพูด ร่างกายสั่นสะท้าน พึมพำเรียกให้เขาช่วยซ้ำไปมา

“ช่วยผมด้วย คริส.. ผมเจ็บ~~ ผมจะตายแล้ว~~ ช่วยด้วย คริส..” 

คริสกอดแฟรงค์ไว้แนบอกด้วยความรักและสงสารจับใจ เขาต้องปลุกแฟรงค์ให้ตื่นจากฝันร้ายก่อน

“ฉันอยู่นี่ แฟรงค์.. ตื่นเถอะ ไม่ต้องกลัว นายไม่เป็นไร ฉันไม่ยอมใหัใครมาแตะต้องหรือทำร้ายนายได้อีก ไม่ต้องกลัวนะแฟรงค์ ไม่ต้องกลัว..”

แฟรงค์ลืมตาขึ้นพบตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคริส คริสช่วยเขาให้พ้นจากไอ้นรกนิคได้แล้วจริงๆ ...แค่คริสยื่นมือลงมาเจ้านิคก็ยอมผละจากไปแต่โดยดี...

“ช่วยผมด้วย คริส.. ไอ้นิคมันจะฆ่าผม ผมกลัว~~ ขอผมอยู่ด้วย อย่าทิ้งผมนะ..”

...โอ! พระเจ้า.. แฟรงค์ฝันถึงเหตุการณ์เลวร้ายนั้นหรอกหรือ คริสกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อแฟรงค์ละล่ำละลักให้ช่วยด้วยอาการหวาดกลัวเหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นจริงๆ ...

“ฉันรักนาย แฟรงค์.. ไม่เคยคิดจะทิ้งนายเลย เราจะอยู่ด้วยกัน ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายนายอีกแล้ว อย่ากลัวนะ แฟรงค์.. ฉันอยู่นี่... ไม่ต้องกลัว..”

คริสกระซิบปลอบคนรัก น้ำตาร่วงผล็อยหยดลงที่ใบหน้าและดวงตาของแฟรงค์

แฟรงค์กระพริบตาภาพคริสก็จางหายไปเป็นความมืด

...นี่เขาฝันร้ายหรอกเหรอ... แต่ทำไมเขายังอยู่ในอ้อมกอดของคริส... 

แฟรงค์นอนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็ขยับตัวขึ้นเบี่ยงกายออกจากอ้อมกอดของใครคนหนึ่ง เขาฝันร้ายจริงๆ และคงร้องเสียงดังมากจนแขกของบ๊อบตกใจตื่นและวิ่งเข้ามาดู

แฟรงค์รู้สึกละอายใจรีบกล่าวขอโทษ

“ขอโทษครับ ผมส่งเสียงดังให้คุณตกใจตื่นใช่มั้ย ผมเสียใจ ผมฝันร้ายครับแต่ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้ว เชิญคุณกลับไปพักผ่อนเถอะครับ ผมต้องขอโทษอีกครั้งด้วย”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2008 14:55:15 โดย j-muay »

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #342 เมื่อ07-10-2008 14:56:35 »


ต่อ...


คริสนิ่งเงียบเมื่อแฟรงค์รู้สึกตัวและเข้าใจเช่นนี้ เขาก็ยังไม่อยากแสดงตัวและไม่อยากให้แฟรงค์ตกใจอีก คริสลุกขึ้นยืนมองดูแฟรงค์ที่ยังอยู่ในอาการตื่นตระหนกกับความฝัน เขาหยิบขวดน้ำที่โต๊ะใส่ไว้ในมือแฟรงค์และบีบไหล่เบาๆ

“ขอบคุณครับ ผมรบกวนคุณมากเลย ผมโอเคแล้ว เชิญคุณไปพักผ่อนเถอะครับ ไม่ต้องห่วงผม”

แฟรงค์ยกขวดน้ำขึ้นดื่ม รู้สึกละอายเหลือเกิน เขาไม่ใช่เด็กๆ ซะหน่อยที่ฝันร้ายแล้วต้องมีผู้ใหญ่มาปลอบขวัญ แขกของบ๊อบเป็นใครกันนะ ? ? ทำไมรู้สึกคุ้นๆ กับสัมผัสที่ได้รับ   

แฟรงค์ถอนใจโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงประตูปิด ควานหานาฬิกากดเช็คเวลา เพิ่งจะตีหนึ่งกว่าเอง อีกตั้งนานกว่าจะเช้า เป็นเพราะวันนี้เข้านอนเร็ว แต่ทำไมถึงฝันร้ายอีกทั้งๆ ที่หยุดฝันมา 3 คืนแล้ว นึกถึงตอนที่คริสฝันร้ายหลายๆ คืนติดกัน ส่วนใหญ่เป็นสังหรณ์ในเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเสมอ ถ้าฝันร้ายของเขาเป็นจริงเหมือน คริส เขาคงใกล้ตายแล้วกระมัง แฟรงค์รู้สึกหนาวเยือกจนต้องขยับตัวลงนอนและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างไว้

แฟรงค์นอนลืมตาอยู่ในความมืด รู้สึกสับสนกับความฝันของตัวเอง แซมบอกว่าจิตใต้สำนึกเขาคิดถึงคริสในทางไม่ดีจึงฝันแต่เรื่องร้ายๆ เขาขอยืนยันว่าไม่จริงเลย เขาไม่ได้คิดถึงแต่พยายามจะลืมต่างหาก เขาจำเป็นต้องออกมาจากชีวิตของคริสไม่ใช่เพราะชารอนเป็นสาเหตุใหญ่ แต่เพราะตัวเขาเองไม่อยู่ในสภาพที่จะมองหน้าคริสได้อีก เขาถูกเจ้านิคกระทำทารุณจนพิการทั้งร่างกายและจิตใจ เขาไม่สามารถกลับไปคบหาคริสได้อีกไม่ว่าจะในฐานะอะไร

แฟรงค์พยายามผ่อนคลายความรู้สึกของตัวเองด้วยการนึกถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในวันคืนที่ผ่านมา ถ้าเขาสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ เขาคงใช้เวลาส่วนตัวกับคริสให้มากกว่านี้ กำลังจะเคลิ้มหลับก็ต้องผวาขึ้นอีกครั้งเมื่อหน้าเจ้านิคแว่บเข้ามาในภวังค์ แฟรงค์ขยับตัวขึ้นนั่ง ตัดสินใจว่าจะนั่งอยู่จนถึงเช้า.. ไว้ไปงีบหลับตอนกลางวันดีกว่า...








TBC >>>>>



 บีบหัวใจกันมาหลายวัน  จบตอนนี้ สบายใจแล้วใช่มั้ย   :a4:   :a11:






ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #343 เมื่อ07-10-2008 15:12:29 »

เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

beboy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #344 เมื่อ07-10-2008 15:52:26 »

ชอบครับ  สนุกดี  ขอบคุณมมากครับ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #345 เมื่อ07-10-2008 16:05:39 »

ง่า แล้วเมื่อไหร่คริสจะได้แสดงตัวล่ะคะเนี่ย น่าสงสารแฟรงค์จัง คนรักอยู่ใกล้ๆแต่ไม่รู้ตัว  :sad2:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #346 เมื่อ07-10-2008 16:07:16 »

รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยๆครับแต่ชอบคำพูดของหมอบ๊อบอ่ะได้ใจผมเลยอ่ะ :a2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #347 เมื่อ07-10-2008 17:22:50 »

กราซิก กราซิก

muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #348 เมื่อ07-10-2008 19:57:16 »

โอ๊ย  เจ็บปวด

โถ พ่อคุณ ละเมออีกแล้ว คิดถึงเค้าก็ไม่ตามใจตัวเองหล่ะ

แต่ก็ดี สมน้ำหน้าคริส




modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #349 เมื่อ07-10-2008 20:43:57 »

เจอกันแล้ว


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
« ตอบ #349 เมื่อ: 07-10-2008 20:43:57 »





muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #350 เมื่อ08-10-2008 21:20:14 »

รอรอรอรอรอรอรอรอรอรรอรอรอรอต่อไป

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #351 เมื่อ09-10-2008 10:26:22 »


Fatherhood part 2  [10]  ต่อ..




คริสสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเหมือนของตกแตก รีบยกข้อมือดูเวลา เกือบ 4 โมงเช้าแล้วเหรอ ไม่อยากเชื่อเลย… เขาแค่จะของีบสักชั่วโมงเท่านั้น กลับหลับสนิทไป 5 ชั่วโมง เป็นเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน จะให้นอนได้ยังไงในเมื่อแฟรงค์เล่นนั่งตาค้างอยู่บนเตียงแบบนั้น กว่าเขาจะได้จังหวะหลบออกจากห้องได้ก็ปาเข้าไปตีห้า แฟรงค์ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ เขาจึงถือโอกาสเปิดประตูออกจากห้องตอนแฟรงค์กดชักโครก รับรองว่าแฟรงค์ไม่รู้แน่ว่ามีใครนั่งอยู่เป็นเพื่อนทั้งคืน

“คุณแฟรงค์ล่ะป้า..”

คริสถามถึงแฟรงค์กับแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดพื้นและเก็บเศษแก้วน้ำที่ร่วงจากโต๊ะข้างเตียงลงมาเพราะฝีมือการปัดของเขา

“คุณแฟรงค์ออกไปนั่งรับลมที่ลานพักผ่อนริมหาดค่ะ”

“แดดร้อนมากแล้วนะ ยังนั่งอยู่อีกเหรอ..”

“ไม่ร้อนหรอกค่ะมีร่มไม้บังแดด แต่อิฉันว่าเดี๋ยวจะไปตามให้เข้ามาพักผ่อนข้างใน เพราะคุณหมอสั่งไว้ว่าอย่าให้คุณแฟรงค์ออกไปนั่งข้างนอกนานๆ แต่คุณแกไม่ค่อยฟังค่ะ ชอบไปนอนหลับอยู่ริมทะเล อิฉันเห็นแกหลับก็ไม่กล้าปลุก”

คริสพยักหน้า คำถามสั้นๆ แต่ตอบซะยาวเหยียด

“ผมจะออกไปตามเอง”

คริสผละจากแม่บ้านออกไปตามหาแฟรงค์ ป่านนี้คงยังหลับปุ๋ยอยู่กระมัง ขนาดเขาสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติดียังรู้สึกเพลียจนหลับไม่รู้เรื่องตั้ง 5 ชั่วโมง ร่างกายของแฟรงค์ขณะนี้ต้องการพักผ่อนมากๆ กลับไม่ยอมนอนในเวลาที่ควรจะนอน ฝันร้ายของแฟรงค์คงน่ากลัวมากจริงๆ หวนนึกถึงตอนที่ตัวเองฝันร้ายแล้ว คริสก็เข้าใจความรู้สึกของแฟรงค์ เพราะเขาเองยังนอนตาค้างจนถึงเช้าอยู่บ่อย ๆ

คริสไม่พบแฟรงค์ที่ลานพักผ่อน เขาก้มลงหยิบแว่นกันแดดบนเก้าอี้ผ้าใบขึ้นมาถือไว้ ใจหายวาบเมื่อเห็นรองเท้าแตะหนึ่งข้างและไม้ค้ำช่วยเดินวางทิ้งอยู่บนพื้นทราย แฟรงค์สามารถเดินโดยไม่ต้องสวมรองเท้าได้ แต่คงเดินไม่ได้ถ้าไม่มีไม้ค้ำช่วยพยุงร่าง

…โอ! พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับนาย แฟรงค์…

คริสเหลียวซ้ายแลขวา ไม่รู้เหมือนกันว่ามองหาอะไร แค่อยากรู้ว่าเขาจะเริ่มตามหาแฟรงค์ทางไหนก่อนดี และแล้วคริสก็พบหลักฐานสำคัญที่ทำให้เขาแน่ใจว่า แฟรงค์ถูกอุ้มไป

“แฟรงค์!!!.. ฉันมาแล้ว มีของโปรดมื้อกลางวันสำหรับนายด้วย ”

เสียงแซมตะโกนโหวกเหวกอยู่ที่ลานจอดรถหน้าบ้านพัก แซมรู้จากบ๊อบว่า บ๊อบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้คริสฟังด้วยความยินดี และพาคริสเดินทางมาพักอยู่ด้วยเพื่อหาโอกาสทำความเข้าใจกับแฟรงค์



 :เตะ1:



แซมตกใจมากเมื่อรู้จากคริสว่าแฟรงค์ถูกคนร้ายลักตัวไป ผ้าเช็ดหน้าชุบยาสลบตกอยู่บนพื้นทรายไม่ไกลจากลานพักผ่อนมากนัก เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพราะแม่บ้านยืนยันว่าเธอยกเครื่องดื่มมาให้แฟรงค์ตอน 3 โมงครึ่งยังเห็นแฟรงค์นอนหลับอยู่

เหตุร้ายเกิดขึ้นกับแฟรงค์ในขณะที่คริสพักอยู่ด้วย ทำให้คริสรู้สึกผิดมาก ถ้าแฟรงค์เป็นอะไรไปเขาจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเลย

“ผมพอจะรู้ว่าใครอุ้มแฟรงค์ไป  ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นไอ้นรกนิค เมื่อสองคืนก่อนมันเข้ามาที่ผับและถามหาแฟรงค์ ผมบอกว่าแฟรงค์ไปต่างประเทศ  มันไม่เชื่อและบอกว่ามันจะตามหาให้เจอ ให้ตายเถอะ! ผมไม่ได้อยากมีเรื่องกับนักเลงอย่างพวกมันเลย  แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ผมก็ยอมสู้ตายล่ะ..”

คริสรู้สึกโกรธมาก ไอ้นรกนิคทำร้ายแฟรงค์จนบาดเจ็บขนาดนี้แล้วยังไม่สะใจตามมารังแกถึงนี่อีก มันคิดว่ามันเป็นนักเลงใหญ่โตขนาดไหน  บังอาจทำร้ายคนรักของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  หากแฟรงค์ได้รับบาดเจ็บจากมันอีกแม้เพียงปลายเล็บ  เขาสาบานว่ามันจะต้องชดใช้สิ่งที่มันทำกับแฟรงค์ไปอย่างสาสม   o7

คริสโทรหานายตำรวจใหญ่ที่ให้ความเกื้อกูลกันอยู่  ขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและลับเฉพาะที่สุด

จอนนี่เดินทางมาถึงที่พักไล่หลังแซมไม่นาน คริสสั่งล่วงหน้าไว้ว่าให้เดินทางมารับเขาและแฟรงค์กลับวันนี้ แต่อย่าเพิ่งบอกเด็กว่าเขาพบแฟรงค์แล้ว

คริส แซม และจอนนี่ แยกย้ายกันออกตามหาแฟรงค์ตามบ้านพักและรีสอร์ทใกล้เคียงก่อน แซมโทรกลับไปที่ร้านให้ปิดคริสปี้ผับชั่วคราวไม่มีกำหนด เขาไม่สามารถเปิดบริการเพื่อให้ศัตรูเข้ามานั่งเย้ยถึงที่ได้  บางทีคริสปี้ผับถึงคราวต้องปิดตัวลงจริงๆ อย่างที่คริสว่าก็ได้



 :a6:



แฟรงค์ใจหายวาบเมื่อรู้สึกตัวขึ้นและพบตัวเองถูกมัดมือสองข้างไขว้หลัง เย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจ รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของใคร

มีเสียงร้องบอกว่าเขาฟื้นแล้ว เสียงฝีเท้าหลายคนเดินใกล้เข้ามา และแล้วเสียงใครคนหนึ่งที่น่ารังเกียจที่สุดในชีวิตของเขาก็ดังขึ้นข้างหู

“ตื่นแล้วเหรอ แฟรงค์ที่รัก… ไม่ได้เจอกันเกือบเดือนแน่ะ รู้มั้ยว่าฉันคิดถึงแกมากแค่ไหน…”

แฟรงค์ถดร่างหนีด้วยความกลัว อุตส่าห์ไม่ยอมหลับทั้งคืนเพราะไม่อยากพบเจอมันในฝันแต่กลับหนีมันไม่พ้น วันนี้เขาคงไม่รอดแน่แล้ว...

แฟรงค์เอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ปล่อยผมเถอะนิค ผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ยังเจ็บอยู่เลย แผลผ่าตัดผมยังไม่หาย~~”

“อะไรกันแฟรงค์.. ทำไมใจเสาะอย่างนี้ ถึงขนาดต้องผ่าตัดเลยเหรอ พูดจริงหรือเปล่า ขอดูหน่อยซิ”

แฟรงค์ถูกผลักให้นอนหงายและถูกพวกมันถลกเสื้อและกางเกงเพื่อตรวจดูว่ามีบาดแผลผ่าตัดจริงหรือเปล่า แฟรงค์สะดุ้งเพราะถูกสมุนของมันดึงผ้าปิดแผลออกอย่างไม่ปรานีปราศรัย และยังถูกพวกมันใช้นิ้วกดที่แผลอย่างแรง

“โอ้ย!!!..” แฟรงค์ร้องคราง พยายามถอยหนีจากการถูกรังแก

“มีแผลผ่าตัดจริงๆ ครับ นาย”

แฟรงค์จำเสียงไอ้ราฟสมุนมือขวาของเจ้านิคได้ คงเป็นฝีมือของมันกดที่บาดแผลเขา

“ไม่อยากเชื่อเลย แฟรงค์.. ว่าแกจะอาการหนักขนาดนี้ ทำเหมือนเด็กหนุ่มรุ่นๆ ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนยังงั้นล่ะ แต่ฉันคิดถึงแกว่ะ รู้ได้ยังไงว่าฉันชอบคนไว้เครา ถึงมันจะทำให้แกดูโทรมไปหน่อยแต่มันก็ได้อารมณ์ดี สงสัยจะอดกลั้นความต้องการไว้ไม่ไหวแล้ว วันนี้ฉันจะไม่รุนแรงกับแก แฟรงค์..”

แฟรงค์ร้องเสียงหลงด้วยความกลัว

“ไม่นะ !!.. ไม่~~~~ ได้โปรดเถอะนิค อย่าทำผมอีกเลย ปล่อยผมเถอะ”

“เหลวไหลน่าแฟรงค์.. ร้องเป็นเด็กๆ ไปได้ จะให้ฉันปล่อยแกไปมันไม่ง่ายอย่างที่พูดหรอก ฉันอุตส่าห์ดั้นด้นมาหาแกถึงนี่ เพราะคิดถึงแกใจจะขาดอยู่แล้ว”

เสียงเจ้านิคสั่งลูกน้องสั้นๆ ว่า “จัดการ”

ฉับพลัน!!..

แฟรงค์ก็ถูกพวกมันจับข้อเท้าสองข้างลากไปที่ปลายเตียง กางเกเลของเขาถูกกระชากออกไปอย่างง่ายดาย แฟรงค์ไม่มีแรงขัดขืนหรือขยับหนีเพราะแขนสองข้างถูกมัดไขว้หลังอยู่ ไหนจะแผลผ่าตัดที่หน้าท้องและกระดูกบริเวณหน้าแข้ง แม้จะเข้าเฝือกไว้แต่ถูกพวกมันจับกระชากและลากอย่างไม่ปรานี ทำให้เขาปวดร้าวและเจ็บไปทั้งตัว

…โอ!พระเจ้า ฝันร้ายเมื่อคืนกำลังเป็นจริงแล้ว วันนี้เขาคงไม่รอดแน่ บ๊อบและแซมอยู่ไกลเกินกว่าจะมาช่วยเขาได้ ถ้าทุกอย่างเป็นจริงตามที่ฝัน คริสต้องมาช่วยเขาซี!!.. เมื่อคืนคริสยังช่วยเขารอดพ้นจากไอ้นรกนิคได้เลย เขาได้ยินเสียงคริสปลอบและยังได้อยู่ในอ้อมกอดคริสด้วย...

เสียงเจ้านิคสั่งให้ลูกน้องของมันออกจากห้อง แฟรงค์รีบร้องขอชีวิตตราบเท่าที่ยังมีโอกาส

“ได้โปรดเถอะนิค.. จะให้ผมทำอะไรก็ยอม อย่าขืนใจผมอีกเลย ขอเวลาให้ผมทำใจลืมคริสก่อนได้มั้ย”

เจ้านิคชะงักมือกับเข็มขัดกางเกง หัวเราะเสียงดัง

“อะไรกันแฟรงค์.. นี่แกยังทำใจลืมคริสไม่ได้อีก หมอนั่นมีลูกมีเมียไปแล้วไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้สนใจอะไรแกแล้ว ยังจะมีใจให้เขาอยู่ทำไม”

ได้ผล!!.. แฟรงค์คิดว่าสามารถยืดเวลาและต่อรองกับมันได้ เขารู้ว่าเจ้านิคไม่อยากมีเรื่องกับคริส ถึงมันจะเป็นนักเลงโตแต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เงินซื้อได้ทุกอย่างเสมอ

“ผมรักคริส.. ผมลืมเขาไม่ได้ ได้โปรดเถอะนิค.. ผมต้องทำอะไรคุณถึงจะยอมปล่อยผมไป”

เจ้านิคกระซิบที่ข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงที่น่าขยะแขยง

“สวดอ้อนวอนพระเจ้าซีแฟรงค์.. ฉันไม่ชอบแย่งของรักของใคร ฉันจะปล่อยแกทันที ถ้าคริสมายืนอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้แล้วบอกฉันว่า เขายังรักแกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

แฟรงค์สะอื้นเมื่อโอกาสที่เจ้านิคให้มันเป็นไปไม่ได้อย่างที่พูด แต่เขายังไม่ยอมแพ้พยายามต่อรองอีกครั้ง

“ให้คริสคุยโทรศัพท์กับคุณได้มั้ย นิค.. ผมอยากให้คุณขอผมจากเขาก่อน ถ้าคริสอนุญาตผมจะได้ทำใจเลิกรักเขา และจะยอมทุกอย่างที่คุณต้องการ ไม่ต่อรองอะไรอีก”

เจ้านิคเงียบไป แฟรงค์ภาวนาในใจขอให้มันยอมตามที่เขาเสนอ เสียงเจ้านิคตะโกนเรียกไอ้ราฟสมุนคนสนิทเข้ามาแก้มัดให้เขา


ไอ้ราฟโยนโทรศัพท์มือถือให้เขาตามคำสั่งของนายมัน มันคงไม่ได้ตั้งใจโยนใส่หน้าเขาหรอก แต่เขามองไม่เห็นโทรศัพท์จึงกระแทกเข้าที่หน้าและร่วงลงข้างตัว เขารีบควานหามันและหยิบขึ้นมาถือไว้ในมือด้วยความดีใจ เขาจำเบอร์มือถือของคริสได้ไม่มีวันลืม

...ให้ตายเถอะ! เขามองไม่เห็น โทรศัพท์ใส่ซองไว้ ยิ่งทำให้เขากดไม่ถูก...

“จำเบอร์ไม่ได้หรือไงแฟรงค์.. ถ้างั้นก็เสียใจด้วยนะ”

โทรศัพท์ถูกแย่งออกไปจากมือ แฟรงค์ละล่ำละลักบอกเบอร์มือถือของคริสให้เจ้านิค

“ผมจำได้ 081 8XXXXXX กดให้ผมหน่อย นิค..”

“กดเองซีโว้ย!!..” โทรศัพท์ถูกโยนลงมาที่ตักแฟรงค์อีกครั้ง

“เร็วๆ หน่อยนะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”

แฟรงค์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ มือสั่นด้วยความตื่นกลัว พยายามจ้องมองโทรศัพท์เผื่อว่าอาจจะมองเห็นลางๆ บ้าง แต่ไม่เลย.. เขาตัดสินใจเล็งหาเบอร์และกดสุ่มๆ ไป

เจ้านิคชักเอะใจ เพราะเบอร์ที่แฟรงค์กำลังกดไม่ตรงกับที่บอกมาเลย มันดึงโทรศัพท์ออกจากมือแฟรงค์และเงยหน้าเขาขึ้น จึงสังเกตเห็นความผิดปกติในดวงตาของแฟรงค์

“ตาแกเป็นอะไร!!.. อย่าบอกว่าแกมองไม่เห็นนะ แฟรงค์..”

แฟรงค์พยักหน้า
“ผมมองไม่เห็น ช่วยกดเบอร์ให้ผมหน่อยนิค..”

เจ้านิคนิ่งอึ้ง ตกใจเมื่อรู้ว่าหวานใจของเขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว มันหันไปมองหน้าเจ้าราฟด้วยความไม่พอใจ รู้ทันทีว่าสภาพของแฟรงค์วันนี้เป็นผลมาจากการรุมสกรัมของมันกับลูกน้องในคืนนั้น ราฟหลบสายตาเจ้านายมันและเดินเลี่ยงออกจากห้องไป

เจ้านิคเริ่มใจอ่อนเมื่อเห็นสภาพของแฟรงค์ เอ่ยปากขอแฟรงค์จากคริสก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย เขาเองจะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าแย่งคนรักของใคร

มือถือของคริสให้ฝากข้อความ เจ้านิคจึงตัดสายทิ้ง

“เสียใจด้วยนะแฟรงค์.. ติดต่อคริสทางมือถือไม่ได้ มีเบอร์อื่นอีกมั้ย”

แฟรงค์บอกเบอร์ที่คฤหาสน์บริเจคส์ไป จริงๆ แล้วไม่อยากโทรเข้าไปเลย แต่นี่เป็นนาทีชีวิตของเขาแล้ว เสียงเจ้านิคถามหามิสเตอร์บริเจคส์เป็นภาษาอังกฤษ แฟรงค์ใจหายเมื่อมันจบการสนทนาด้วยคำว่า ...ไม่เป็นไร...

“เสียใจด้วยนะแฟรงค์.. คริสไม่อยู่บ้านไปต่างจังหวัด มิสบริเจคส์ก็ไปต่างจังหวัดด้วย แกยังจะให้ฉันคุยกับคริสทำไมอีก เขาไปเปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนที่ทางมีเซ็กซ์กับเมียล่ะซี น่าทึ่งจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าคริสหลงเสน่ห์แม่ม่าย ถึงขนาดเขี่ยแกตกจากเตียงได้ทั้งๆ ที่คบหากันมาเกือบ 10 ปี อย่างนี้แล้วแกยังจะอาลัยอาวรณ์เขาอยู่ทำไม”

คำพูดของเจ้านิคสร้างความปวดใจให้กับแฟรงค์มาก แต่ถึงจะเจ็บแค่ไหน เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวมันมากกว่า

“ลองโทรมือถืออีกทีได้มั้ย นิค..”

เจ้านิคเริ่มรำคาญและไม่สบอารมณ์ที่แฟรงค์เซ้าซี้จะพูดกับคริสให้ได้ มันเดินไปวางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะ และกลับมาที่เตียงผลักแฟรงค์หงายหลังลง

“พอแล้ว!!.. ฉันให้โอกาสแกมากแล้ว หยุดเพ้อเจ้อถึงคริสซะที!!.. แกเป็นของฉันแล้วนะ แฟรงค์.. ยังทำใจยอมรับฉันไม่ได้ฉันก็ไม่ว่า แต่ถ้ายังคิดถึงคริสอยู่ ฉันจะไม่ยกโทษให้แกนะ”

เสียงเจ้านิคปลดซิบกางเกง แฟรงค์ใจหายวาบถดร่างหนีทั้งที่รู้ว่าหนีไม่รอด

“ได้โปรดเถอะนิค.. ผมยังเจ็บอยู่ แผลผมยังไม่หาย อย่าทำผมเลย โอ๊ะ! …”

แฟรงค์สะดุ้งและผวาเฮือก เพราะถูกไอ้ยักษ์นิคขยับขึ้นมานั่งทับที่หน้าท้องตรงแผลผ่าตัดพอดี เขาจุกและเจ็บมากจนพูดไม่ออก

“ไม่เอาน่าแฟรงค์ อย่าโยกโย้อีกเลย ฉันสัญญาว่าจะดูแลแกอย่างดี ไม่ทอดทิ้งแกเหมือนที่คริสทำ ฉันจะรักษาตาของแกให้หาย ไม่ต้องห่วงแฟรงค์ ฉันไม่ปล่อยให้สุดหล่อหวานใจของฉันตาบอดหรอก”

“โอย~~~ ” แฟรงค์ร้องครางเพราะเจ็บแผล กัดฟันขอร้องอีกครั้ง

“ขอลองโทรอีกครั้งเดียว นิค.. ได้โปรด…”

“ปัทโธ่เว้ย!!..” เจ้ายักษ์นิคเริ่มมีน้ำโห มันขยับตัวขึ้นและพลิกร่างแฟรงค์นอนคว่ำลง

“ฉันไม่ให้โอกาสแกอีกแล้ว แกทำให้ฉันโมโหมากก็จะเจ็บตัวมากรู้มั้ย..”

…โอ! พระเจ้า.. นึกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อครั้งก่อนและในความฝันเมื่อคืน แฟรงค์ตะกายร่างหนีด้วยกำลังที่มีอยู่ทั้งหมด

“ไม่!!.. ไม่นะ อย่าทำ ผมกลัว~~ ผมกลัวแล้ว ช่วยด้วย~~~ ”

“ฮะ ฮะ ฮะ” เสียงหัวเราะของเจ้านิคดังขึ้นอย่างสะใจ

“แหกปากเข้าไป แฟรงค์.. รู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันมีอารมณ์ขึ้นเยอะเลย”

แฟรงค์ตาเหลือกโพลงเมื่อถูกเจ้านิคใช้กำลังลากเข้าไปใกล้ และขึ้นนั่งคร่อมในอาการเตรียมพร้อม แฟรงค์ตัวสั่นเพราะความกลัวสุดขีด ใบหน้าของคริสผุดขึ้นมาในมโนสำนึก

“คริส!!!.. ช่วยด้วย!!!.. ช่วยผมด้วย~~~~ คริสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส~~~ ”


สิ้นเสียงร้องโหยหวนของแฟรงค์ เจ้าราฟวิ่งพรวดพราดหน้าตาตื่นเข้ามาในห้อง มันกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นเจ้านายนิคของมันนั่งเตรียมพร้อมอยู่ในท่านั้นพอดี

“เอ่อ.. เจ้านายครับ ขอให้ผมปิดปากมันก่อนดีกว่า เสียงมันดังออกไปนอกถนนแล้ว” เจ้าราฟเดินดุ่มเข้าไปได้สองก้าวก็ชะงัก เพราะถูกเจ้านายของมันตวาดกลับ

“ปิดปากมึงนั่นแหล่ะ ไอ้เวร!!.. ข้ายังไม่ทันได้ทำอะไรก็แหกปากร้อง ช็อกหมดสติไปแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าแพ็ททริค มันจะใจเสาะแบบนี้”

เสียงโทรศัพท์มือถือของนิคดังขึ้นขัดจังหวะ เจ้าราฟเดินไปหยิบโทรศัพท์มาส่งให้นายของมันที่ยังนั่งอยู่ในท่าเดิมแม้ว่าน้องชายจะคอพับไปแล้ว สงสัยคงตกใจเสียงร้องของแฟรงค์

นิครับสายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พูดคุยได้ 2 ประโยค ก็รีบขยับตัวออกห่างจากแฟรงค์และลุกขึ้นยืน

“มีปัญหาอะไรเหรอ สารวัตร..”

“มีแน่.. บอกมาก่อนว่าแฟรงค์ แพ็ททริค อยู่กับลื้อหรือเปล่า”

เจ้านิคยืนมองร่างที่นอนคว่ำหมดสติอยู่บนเตียง

“ใช่!!.. เขาอยู่กับผม บอกปัญหาที่ว่ามาเลยดีกว่า สารวัตร..”

“ปัญหาที่ว่าไม่ใช่ปัญหาของอั๊วแต่เป็นปัญหาของลื้อ ฟังนะโว้ย!! นิค.. เจ้านายอั๊วมีคำสั่งลงมาให้ควานหาตัวลื้อด่วน ลื้อมีปัญหากับเศรษฐีบริเจคส์ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยนะ ”

“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าสารวัตร.. ผมไม่เคยมีปัญหากับคริสและไม่เคยคิดจะมี”

“หึ!.. ลื้อพูดออกมาได้ยังไงวะ ว่าไม่มีปัญหากับคริส ลื้อให้ลูกน้องอุ้มแฟรงค์ แพ็ททริคมา ยังบอกไม่มีปัญหาอีกเหรอ..”

“อ้าว!!.. แล้วแฟรงค์เกี่ยวกับอะไรกับคริสด้วย ฟังนะสารวัตร ผมไม่ได้อุ้มแฟรงค์ออกจากคฤหาสน์บริเจคส์ สองคนนั่นเลิกคบหากันตั้ง 3 - 4 เดือนแล้ว คริสเองก็แต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว สารวัตรเปิดหูเปิดตาให้กว้างหน่อยซี….”

“ลื้ออย่ามาพูดจาประสานักเลงกับอั๊วนะนิค แฟรงค์ยินดีมากับลื้อหรือเปล่า ถ้าไม่.. ลื้อก็ผิดวันยังค่ำ แล้วไอ้ที่ลื้อพูดน่ะ ใครกันแน่วะที่เปิดหูเปิดตาให้กว้างหน่อย ใครบอกลื้อว่าคริสเลิกคบกับแฟรงค์แล้ว ถึงแต่งงานแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิกคบกัน…

….ฟังนะ นิค.. ตอนนี้คริสกำลังออกตามหาแฟรงค์อยู่ เขาโกรธลื้อมากที่บังอาจทำร้ายคนรักของเขา ลื้อทำแฟรงค์บาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ.. ถ้าแฟรงค์ต้องบาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากการกระทำของลื้อครั้งนี้ เขาสาบานว่าลื้อต้องชดใช้สิ่งที่ลื้อทำกับแฟรงค์อย่างสาสม

….แล้วแต่ลื้อนะ นิค.. จะยอมสู้กับคริสสักตั้งก็ได้ ถ้าคิดว่าเงินของลื้อมากพอ แต่อั๊วว่าอย่าดีกว่า ธุรกิจของลื้อมันล่อแหลม เจ้านายของอั๊วพยายามหาโอกาสเล่นงานลื้ออยู่แล้ว อย่าให้อั๊วต้องลำบากใจด้วยเลย ปล่อยแฟรงค์ไปซะ อ้อ!.. อั๊วโทรมาสายเกินไปหรือเปล่า หรือทำเขาบาดเจ็บหรือยัง ว่าไงวะ นิค.. ได้ยินที่อั๊วพูดหรือเปล่า…”

“ฟังนะ สารวัตร.. ตอนคุณโทรมาผมกำลังคร่อมอยู่บนร่างของแฟรงค์พอดี ทายมาซี.. ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่..”

“ให้ตายเถอะวะ!!.. นี่ลื้อหาเรื่องใส่ตัวเองนะ คริสไม่ปล่อยลื้อไว้แน่”

เสียงปลายสายโวยด้วยความโมโหทำให้เจ้านิคเริ่มมีอารมณ์บ้าง

“ก็ใครจะไปรู้ล่ะโว้ย!! ว่ามันยังรักใคร่ชอบพอกัน ก็เห็นแยกกันอยู่ตั้งหลายเดือนแล้ว ผมไม่ได้อยากมีปัญหากับมหาเศรษฐีตาน้ำข้าวหรอก ผมไม่โง่เอาเงินเกือบ 40 ล้านบาทไปแลกกับเงินแค่ 1 ล้านเหรียญของมัน อยากได้ก็เอาคืนไปเถอะ ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องวุ่นวายหาหมอมารักษาตาให้ ไปรักษากันเองก็แล้วกัน”

ปลายสายนิ่งอึ้งไปเมื่อรู้ว่าแฟรงค์ตาบอด เข้าใจความรู้สึกของมหาเศรษฐี บริเจคส์แล้ว ว่าทำไมจึงโกรธแค้นเจ้านิคมากมายถึงเพียงนี้...



 :เตะ1:



 

แหะ ๆ เป็นไปตามเนื้อเรื่องนะ อย่ามีอารมณ์ล่ะ 


ตอนนี้แฟรงค์กำลังดวงตก ถ้าตกสุดแล้วจะขึ้นพรวดเลยล่ะ

ไม่มีใครต้องร้องไห้ตลอดไปหรอกน่า    o7       สักวันหนึ่งเขาจะต้องยิ้มและหัวเราะได้


ฟ้าหลังฝน มักจะสดใสเสมอ  จริงๆ นะ ไม่โกหก   o13





three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #352 เมื่อ09-10-2008 10:41:38 »

พี่บอกว่าฟ้าหลังฝนมันจะสดใสใช่ไหมครับแต่กว่าจะหลังฝนนี้คงจมน้ำตาก่อล่ะครับ :sad2:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #353 เมื่อ09-10-2008 10:57:04 »

Fatherhood part 2 [11]  



คริส แทบช็อกเมื่อเห็นสภาพของแฟรงค์ เขาได้รับแจ้งจากตำรวจว่าพบแฟรงค์นอนหมดสติอยู่ริมทางหลวง ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเห็นชายร่างยักษ์แบกชายหนุ่มลงจากรถทิ้งไว้ริมถนนก่อนจะบึ่งรถเข้ากรุงเทพฯ ไป

คริสพาแฟรงค์กลับมาที่บ้านพักก่อน เพราะจุดที่พบอยู่ปากทางเข้าบ้านพักพอดี แสดงว่าพวกมันจงใจส่งแฟรงค์กลับคืนให้เขา หากแต่การส่งคืนในลักษณะนี้สร้างความโกรธแค้นให้คริสอย่างมาก เพราะหากแฟรงค์รู้สึกตัวขึ้นมาในสภาพที่ตามองไม่เห็นอะไรจะเกิดขึ้น บนทางหลวงนอกเมืองรถแต่ละคันวิ่งมาในความเร็วไม่ต่ำกว่า 150

....โอ!! พระเจ้า.. โชคดีเหลือเกินที่แฟรงค์ยังหมดสติอยู่ เขาสาบานว่าเจ้านรกนิคต้องชดใช้สิ่งที่มันทำกับแฟรงค์อย่างสาสม...



 :angry2:



แซมยืนกอดอกมองดูภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกทึ่ง ไม่อยากเชื่อเลยว่ามหาเศรษฐีบริเจคส์จะสามารถปรนนิบัติใครได้อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนแบบนี้ ที่ผ่านมามีแต่ได้รับการปรนนิบัติจากคนอื่น

คริสเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แฟรงค์ อาการบาดเจ็บของคนรักทำให้คริสรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย นอกจากแผลผ่าตัดที่ท้องน้อยซึ่งมีอาการบวมช้ำแล้ว เฝือกที่ขาขวาของแฟรงค์ยังมีรอยร้าว พวกมันคงจับกระชากลากถูอย่างไม่ปรานี แฟรงค์เจ็บที่กายมากแค่ไหน เขาก็รู้สึกเจ็บหัวใจมากเท่านั้น

คริสสัมผัสเคราที่แก้มของแฟรงค์อย่างแผ่วเบา สี่ชั่วโมงแห่งความทุกข์ร้อนกระวนกระวายใจผ่านพ้นไป มันทำให้คริสรู้ซึ้งว่าชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าผู้นี้มีความหมายต่อเขาเพียงใด เกือบสิบปีที่คบหาและอยู่ร่วมกันมา แฟรงค์ไม่ได้อยู่กับเขาในฐานะคู่ขาอย่างที่คนในสังคมเข้าใจ แต่อยู่ในฐานะเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากของเขา แฟรงค์หัวเราะอยู่ข้างๆ เวลาที่เขามีความสุข และคอยปลอบโยนแก้ปัญหาให้เวลาที่เขามีทุกข์ แฟรงค์เป็นคนใกล้ชิดคนเดียวที่เข้าใจความรู้สึกของเขา คอยแนะนำให้กำลังใจและปลอบโยนเขาเสมอมา ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาสมหวัง แม้กระทั่งความเหินห่างที่แฟรงค์มีต่อเขาในวันนี้ คริสรู้ดีว่าแฟรงค์ทำเพื่อเขา

คริสก้มลงจูบหน้าผากแฟรงค์เบาๆ ชั่วเวลาไม่ทันข้ามปีคนที่เขารักมากที่สุดในชีวิตถึงสองคนต้องประสบชะตากรรมที่โหดร้าย เขาเจ็บปวดแทบขาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไมเคิล ความรู้สึกครั้งนี้ไม่ต่างจากครั้งนั้นเลย กับไมเคิลเขาห่วงใยและทุกข์ร้อนในฐานะพ่อของลูก แต่กับแฟรงค์เขาบอกไม่ถูกว่าห่วงใยในฐานะอะไร รู้แต่ว่าหากมนุษย์จำเป็นต้องมีชีวิตคู่ แฟรงค์ คือคู่ชีวิตของเขา

“อือ~~~”

แฟรงค์ลืมตาขึ้น ส่งเสียงครางเหมือนเด็กชายที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นและยังอยู่ในอาการงัวเงีย ดวงตาเลื่อนลอยเพราะมองไม่เห็นจึงนอนนิ่งเฉย คริสนั่งอยู่ใกล้แฟรงค์ในระยะประชิดกลับไม่ยอมพูดจาทักทายด้วย เอาแต่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่เจ็บปวด

“ตื่นแล้วเหรอ แฟรงค์.. ไม่เป็นไรแล้วนะ นายกลับมาบ้านแล้ว”

แซมรีบเดินเข้ามากล่าวทักกึ่งปลอบโยนเมื่อเห็นเพื่อนนอนลืมตานิ่ง ...ถ้าไม่มีใครพูดอะไร แฟรงค์จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว…

แฟรงค์ไม่ทักตอบ แต่ขยับตัวและเงี่ยหูไปมาฟังเสียงเหมือนอยากรู้ว่ามีใครอยู่ใกล้หรือเปล่า

คริสยังคงนั่งนิ่งในขณะที่แซมเริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะทุกครั้งที่รู้ว่าเขามาถึงแฟรงค์จะซ่อนอาการดีใจไว้อย่างไร ก็ปิดบังความรู้สึกทางสีหน้าและดวงตาไม่ได้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไม่มีความรู้สึกยินดีให้เห็น เหมือนแฟรงค์ไม่รับรู้ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของเขา แซมรีบกล่าวย้ำอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“แฟรงค์.. ได้ยินมั้ย นายอยู่กับฉันที่บ้านแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้วนะแฟรงค์”

แซมจับมือแฟรงค์บีบเบาๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเพราะเพื่อนชักมือหนีและสะบัดแขนพร้อมกำปั้นถากสีข้างเขาไป ก่อนถดร่างหนีด้วยสีหน้าและดวงตาหวาดกลัวจนแซมและคริสตกใจขยับเข้าไปช่วยกันจับตัวแฟรงค์ไว้

“แฟรงค์.. ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไรแล้ว นายอยู่กับพวกเราที่บ้านแล้ว ฉันแซมไง.. คริสก็อยู่กับนายด้วย”

แซมพยายามปลอบแต่ไม่ได้ผล นอกจากแฟรงค์จะไม่ยอมฟังที่เขาพูดแล้วยังพยายามดิ้นรนหนีและร้องให้ช่วย

“ปล่อยนะ!!.. ปล่อย!!.. อย่า.. อย่าทำ.. ช่วยด้วย!!..” แฟรงค์เบิกตาโพลง สีหน้าหวาดกลัวสุดขีด

...โอ! พระเจ้า.. ไอ้นรกนิคมันทำให้นายหวาดกลัวถึงเพียงนี้เลยหรือ...

คริสสวมกอดแฟรงค์และกระซิบปลอบ

“ไม่ต้องกลัว แฟรงค์.. ฉันคริสนะ ฉันอยู่กับนายตรงนี้แล้ว ไม่มีใครทำอะไรนายได้อีก..”

“คริส....”

แฟรงค์หยุดดิ้นรน นอนนิ่งเหมือนกำลังทบทวนความจำบางอย่าง

แซมปล่อยมือเมื่อเห็นเพื่อนอยู่ในอ้อมกอดของคริสแล้วมีอาการสงบลง

“ขอโทรหาคริสหน่อย ขอโทรหน่อย..”

แฟรงค์พึมพำในลำคอ แซมฟังไม่ได้ศัพท์แต่สำหรับคริสเขาได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ คริสสวมกอดแฟรงค์แน่นด้วยความรักและสงสารจับใจ

“ฉันอยู่นี่แล้วแฟรงค์.. ไม่ต้องโทรแล้ว ฉันกอดนายอยู่นี่ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วนะ ฉันไม่ยอมให้ใครมารังแกนายอีก..”

“ขอโทรอีกครั้งได้มั้ย นิค.. ผมขอคุยกับคริสก่อน ปล่อยนะ!!.. อย่าทำ!!.. ผมกลัวแล้ว ช่วยด้วย!!!…”

แฟรงค์ขืนตัวและดิ้นหนีจากอ้อมกอดคริสได้อย่างสบายเพราะอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอาการตะลึงและตกใจ แซมได้สติรีบกระโดดขึ้นเตียงจับเพื่อนไว้ รู้สึกตกใจไม่น้อยเช่นกันที่แฟรงค์อยู่ในอาการหวาดกลัวจนจำเสียงเขาและคริสไม่ได้

“แฟรงค์.. เฮ้!!.. นี่พวกเราเอง ฉันแซมไง คริสก็อยู่นี่ด้วย ไม่เอาน่ะแฟรงค์ อย่าล้อเล่นแบบนี้” แซมหันหน้าแฟรงค์มาทางเขา

“ดูให้ดีซี.. ฉันใช่แซมเพื่อนของนายหรือเปล่า” แซมใจหายวาบทันทีที่เห็นดวงตาของแฟรงค์ รีบสวมกอดและกล่าวขอโทษ

“โอ! แฟรงค์.. ฉันขอโทษ ฉันลืมไปว่านายมองไม่เห็น นายจำเสียงฉันได้นี่นา ไม่เอาน่ะแฟรงค์ อย่าล้อเล่นอีกเลย โอ๊ะ!…”

แซมสะดุ้งร้องจ๊ากเพราะถูกแฟรงค์กัดที่ต้นแขน

“โอ๊ย!!… เจ็บนะแฟรงค์ นายหลอกกัดฉันเหรอ..”

แซมคลายอ้อมแขนและดันร่างแฟรงค์ออก

“โอ๊ย!!… เจ็บนะโว้ย!! ปล่อยนะ ไอ้หมาแฟรงค์ คริส.. ช่วยผมด้วย!!..”

คริสตะลึงกับอาการตื่นกลัวของแฟรงค์ เสียงแซมร้องให้ช่วยทำให้เขาได้สติ รีบสอดมือเข้าใต้คางและบีบแก้มของแฟรงค์อย่างแรงด้วยความจำเป็น แซมหลุดจากคมเขี้ยวของแฟรงค์ได้ก็กระโดดลงจากเตียงไปตั้งหลัก ส่งเสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

คริสปล่อยมือจากแฟรงค์ อาการหวาดกลัวของคนรักเวลานี้ทำให้คริสไม่กล้าเข้าไปจับต้องและทำอะไรให้แฟรงค์เจ็บตัวอีก ที่ผ่านมาแฟรงค์ได้รับความเจ็บปวดมากพอแล้ว

แฟรงค์ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ถดร่างหนีไปจนติดผนังห้อง ตะแคงตัวลงนอนในอาการเกร็ง คริสเห็นแล้วไม่อาจบรรยายความรู้สึกตัวเองได้ เลือดไหลจากมุมปากของแฟรงค์ทำให้คริสรู้สึกตัว รีบหันไปหาแซมที่นั่งบีบนวดต้นแขนด้วยสีหน้าที่ยังเจ็บปวดอยู่แต่เลิกร้องครวญครางแล้ว

“เป็นไงบ้างแซม.. ขอดูแผลหน่อย เลือดออกมากหรือเปล่า”

แซมส่ายหน้าความหมายว่าเลือดไม่ได้ออก แต่คริสกลับเข้าใจคนละอย่าง

“ออกนิดหน่อยก็ต้องทำแผลนะ ”

คริสตะโกนเรียกนายจอนให้เข้ามาช่วยทำแผลให้แซม แซมมองบาดแผลตัวเองอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ ...มันแค่ห้อเลือดเท่านั้น ทำไมคริสต้องตื่นเต้นขนาดนี้...

นายจอนวิ่งหน้าตื่นเข้ามา คริสบอกจอนนี่ช่วยทำแผลให้แซม

“ผมไม่เป็นไรคริส.. แค่ห้อเลือดเท่านั้น ดูเจ้าร็อตไวเลอร์แฟรงค์ของคุณเถอะ ไม่ต้องห่วงผม”

คริสหันไปทางแฟรงค์ที่นอนตะแคงคุดคู้อยู่บนที่นอน เลือดยังไหลเป็นทางจากมุมปากหยดลงบนที่นอน ถ้าไม่ใช่เลือดจากบาดแผลของแซมแล้วเลือดของใคร?

...เร็วกว่าใจคิด!!.. คริสถลาเข้าไปประคองแฟรงค์ไว้ในวงแขน...

...โอ! พระเจ้า.. แฟรงค์อยู่ในอาการเกร็งและกำลังกัดลิ้นตัวเองอยู่จนเลือดไหลกลบปาก เขายังนิ่งดูอยู่ได้

คริสบีบแก้มแฟรงค์อย่างแรงให้คลายอาการเกร็ง แต่ไม่ได้ผล แฟรงค์มีอาการรุนแรงขึ้น เลือดไหลกลบปากจนคริสตกใจ ตัดสินใจใช้นิ้วโป้งแทรกเข้าไปให้แฟรงค์กัดแทนลิ้น แซมและนายจอนตะลึงดูด้วยความตกใจ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อคริสร้องเรียก

“แซม!!.. หยิบผ้าขนหนูหรืออะไรก็ได้ เอามาให้แฟรงค์กัดหน่อย เร็ว!!..”

คริสกัดฟัน เขายอมเจ็บดีกว่าให้แฟรงค์กัดลิ้นตัวเอง

แซมหันซ้ายหันขวา คว้าผ้าขนหนูในอ่างน้ำที่คริสเช็ดตัวให้แฟรงค์เมื่อครู่บิด แล้วรีบเข้าไปช่วยคริสอ้าปากแฟรงค์ออกและยัดผ้าขนหนูให้กัดแทน

“จอนนี่.. ดูแผลที่นิ้วคุณคริสด้วย”

แซมขยับแฟรงค์ลงนอนเพราะไม่รู้ว่าจะปฐมพยาบาลยังไงต่อ รีบดึงโทรศัพท์ที่เอวขึ้นมากดหาบ๊อบ

คริสนั่งกุมขมับนิ่งเฉยไม่สนใจกับบาดแผลที่นิ้ว ความเจ็บปวดที่หัวใจเขาได้รับอยู่ในขณะนี้มากมายกว่าหลายเท่านัก จอนนี่ไม่กล้าเซ้าซี้เมื่อเห็นเจ้านายอยู่ในอาการทุกข์ใจเช่นนี้

วางสายบ๊อบแซมสั่งให้จอนนี่ออกไปคอยรับหมอ อีกห้านาทีจะมาถึง นายจอนรับคำสั่งและเลี่ยงออกจากห้องไป

แซมเข้าใจความรู้สึกของคริสดี อย่าว่าแต่จอนนี่ไม่กล้าเซ้าซี้ เขาเองยังไม่ค่อยกล้าพูดอะไร เห็นความรักและความห่วงใยที่คริสมีต่อแฟรงค์แล้ว มันไม่ใช่แบบที่ทุกคนเข้าใจ มันลึกซึ้งและมากมายกว่าคนที่เป็นคู่ขาจะพึงปฏิบัติต่อกัน เขารู้สึกว่าตัวเองทำผิดต่อคริสที่ช่วยปิดบังเรื่องของแฟรงค์ไว้ เหตุการณ์เลวร้ายในวันนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าคริสได้รู้ความจริงทั้งหมดและได้พบแฟรงค์ก่อนหน้านี้ ป่านนี้แฟรงค์ก็คงกลับไปนอนพักรักษาตัวอย่างปลอดภัยในคฤหาสน์บริเจคส์แล้ว

คริสรู้สึกตัวเมื่อแซมเช็ดเลือดที่ไหลเป็นทางจากนิ้วมือลงมาที่แขนให้เขา

“อย่าห่วงเลยคริส บ๊อบใกล้จะถึงแล้ว ทุกอย่างจะเรียบร้อย บ๊อบให้เราอยู่ห่างๆ แฟรงค์จะสงบลงเอง”

คริสหันไปมองแฟรงค์ที่อยู่ในอาการสงบลงแล้วจริงๆ แฟรงค์ดึงผ้าออกจากปากและนอนนิ่งดวงตาจ้องมองเพดานห้อง เขาอยากเข้าไปสวมกอดและกระซิบปลอบเหลือเกิน แต่กลัวแฟรงค์ตกใจอีก



 :m15:



“ขอดูอาการของแฟรงค์ก่อน แล้วผมจะบอกว่าต้องการสั่งสอนมันยังไง เตรียมคนของคุณไว้ให้พร้อม ขอกำลังไปคุ้มกันที่บ้านบริเจคส์ก่อนสัก 3 - 4 นาย แล้วจะติดต่อไปอีกที ”

แซมยืนรอจนคริสจบการสนทนาทางโทรศัพท์

“คริส.. บ๊อบอยากให้คุณคุยโทรศัพท์กับแฟรงค์หน่อย” แซมพูดยังไม่ทันขาดคำมือถือของคริสก็ดังขึ้น

“บ๊อบต่อสายให้คุณคุยกับแฟรงค์”

แซมเดินเข้าไปด้านใน  ปล่อยให้คริสสนทนากับแฟรงค์ที่ระเบียงบ้านตามลำพัง

“บริเจคส์ครับ”

“Hi! Christ.. ”

...โอ! พระเจ้า ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาได้ยินเสียงทักจากแฟรงค์ แล้วรู้สึกปีติยินดีเท่าครั้งนี้ แฟรงค์ทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสดใสเป็นปกติ แม้จะแหบพร่าเล็กน้อย แต่ถ้าไม่สังเกตหรือไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขาก็ไม่มีทางรู้ว่าแฟรงค์กำลังบาดเจ็บทั้งใจและกาย

“ Hi! Frank.. ”

คริสทักตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะเป็นปกติสักเท่าไร นึกทึ่งในฝีมือของบ๊อบ เข้าไปไม่ถึง 15 นาทีก็ทำให้แฟรงค์รู้สึกตัวพูดคุยเป็นปกติเหมือนเดิม

“สบายดีหรือเปล่าคริส.. ขอโทษที่ผมไม่ได้ติดต่อกลับไปเลย ทุกคนโอเคมั้ย ไมเคิลเป็นไงบ้าง..”

คริสลอบถอนใจ …ทั้งที่ตัวเองเจ็บหนักขนาดนี้ ยังมีแก่ใจถามทุกข์สุขของคนอื่นอยู่ได้…

“ฉันโอเค.. แล้วนายล่ะ เป็นไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”

คริสกลั้นใจฟังคำตอบ แฟรงค์คนเดิมของเขานอกจากจะเจ้าเล่ห์แล้วยังสำออยและขี้อ้อนอีกด้วย ไม่สบาย ปวดหัวเป็นไข้นิดหน่อย ก็มักจะร้องโอดครวญและโทรเรียกให้เขากลับบ้านเร็วๆ เสมอ ครั้งนี้แค่แฟรงค์บอกเขาว่าไม่ค่อยสบาย เขาจะรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดทันที

“ผมสบายดี ชารอนล่ะ.. เธอสบายดีหรือเปล่า นายกับเธอเป็นไงบ้าง แฮปปี้ดีใช่มั้ย”

...ให้ตายเถอะ ! … คริสเริ่มไม่สบอารมณ์กับบทสนทนาไร้สาระ แฟรงค์อยากคุยโทรศัพท์กับเขาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแค่นี้เหรอ

“ทุกคนสบายดีแฟรงค์ อย่าถามถึงคนอื่นอีกเลย นายมีธุระสำคัญใช่มั้ย ไม่งั้นคงไม่โทรมา”

คริสชักนำอีกฝ่ายเข้าเรื่อง เพราะเขาเองก็อยากรู้ว่าแฟรงค์อยากคุยกับเขาเรื่องอะไร

“ผมมีเรื่องนิดหน่อย~~…”

น้ำเสียงของแฟรงค์เริ่มไม่ดี เสียงบ๊อบบอกให้แซมช่วยยกขาแฟรงค์ขึ้น เขาแกล้งถามว่าอยู่กับใครและทำอะไรอยู่ แฟรงค์บอกว่าอยู่กับแซมแต่ไม่ยอมบอกว่ากำลังทำอะไร

“ผมมีเรื่องอยากขอให้คุณช่วยอีกสักครั้ง”

คำว่า “อีกสักครั้ง” ทำให้คริสรู้สึกเหนื่อยใจ ...เจ็บหนักขนาดนี้แล้วแฟรงค์ยังคิดจะหนีเขาอีก...

“เรื่องอะไรหรือ แฟรงค์...” คริสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ผมถูกนักเลงนิคกวนใจ อยากให้คุณช่วยคุยกับมันหน่อย หลอกมันว่าเรายังคบกันอยู่ และคุณไม่ต้องการให้มันมายุ่งกับผม”

“ทำไมไม่ให้แซมคุย มันจะเชื่อฉันเหรอ นายเล่นขนของออกจากบ้านต่างคนต่างอยู่กันแล้ว”

“แซมช่วยผมไม่ได้ มันจะยอมปล่อยผมถ้ารู้ว่าเรายังคบกันอยู่ ช่วยหน่อยได้มั้ยคริส แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ผมจะไม่รบกวนอะไรคุณอีก”

คริสรู้สึกเจ็บปวด นี่คงเป็นเรื่องสำคัญที่แฟรงค์อยากจะพูดกับเขา ไอ้นรกนิคคงให้โอกาสแฟรงค์ได้ติดต่อหาเขาแต่ติดต่อไม่ได้

“นายรู้จักนิสัยฉันดีนี่แฟรงค์.. ฉันไม่เคยพูดโกหกหรือล้อเล่นกับใคร พูดได้แต่เรื่องจริง”

“ผมรู้ คริส.. แต่มันจำเป็น~~ ผม.. ~~ ”

คริสรีบหาทางออกให้เมื่อน้ำเสียงของแฟรงค์เริ่มสั่นเครือ

“มีทางออกอื่นอีกมั้ย แฟรงค์.. ที่ไม่ต้องให้ฉันพูดโกหกแต่ให้ความหมายเดียวกัน อย่างเช่น… กลับมาอยู่บ้านเราซะ ดูซิว่ามันยังจะกล้ากวนใจนายอีกหรือเปล่า”

“กลับบ้าน~~ ”

แฟรงค์ทวนคำน้ำเสียงสั่นเครือ คริสพูดคำว่า “บ้านเรา” เหมือนเขายังเป็นสมาชิกคนหนึ่งในคฤหาสน์บริเจคส์...

“ทำไมล่ะ ไม่อยากกลับเหรอ รู้อะไรมั้ย แฟรงค์.. จนป่านนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าทำไมนายต้องออกจากบ้านไป”

“ผม.. เอ่อ.. ผมกลับไม่ได้”

“ทำไมล่ะแฟรงค์.. มีปัญหาอะไร”

“ผม.. เอ่อ.. แค่นี้ก่อนนะคริส แล้วผมจะติดต่อกลับไปใหม่ บาย..”

คริสส่ายหน้าเมื่อแฟรงค์วางหูลงดื้อๆ

...ดีเหมือนกันเพราะเขาเองก็ไม่อยากคุยโทรศัพท์กับแฟรงค์แล้ว คนดื้อรั้นชอบหนีหัวใจตัวเองแถมยังอวดเก่งอย่างนี้ ต้องคุยกันตัวต่อตัวถึงจะรู้เรื่อง..


คริสเดินเข้ามาในห้อง แฟรงค์นอนลืมตาอยู่บนเตียงมือยังถือโทรศัพท์อยู่บ๊อบใช้อีราสติกพันรอยร้าวของเฝือกไว้ชั่วคราว แซมกำลังช่วยบ๊อบเก็บเครื่องมือ เห็นคริสเดินเข้ามาก็แกล้งถามเพื่อนเสียงดัง

“คุยจบแล้วเหรอ แฟรงค์.. คริสว่ายังไงบ้าง”

“คริสบอกให้กลับบ้าน”

แฟรงค์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ กับแซมและบ๊อบแฟรงค์ไม่ต้องปิดบังความรู้สึกของตัวเอง เขารู้สึกอ่อนแอทุกครั้งที่พูดถึงคริส

“จริงเหรอ.. ถ้างั้นก็กลับเถอะ อยู่กับคริสปลอดภัยกว่านะแฟรงค์ มันจะได้ไม่กล้ามาตอแยนายอีก”

“ฉันกลับไม่ได้”

“ทำไมล่ะ!. นายยังห่วงอะไรอีก ฟังนะแฟรงค์.. เป็นเรื่องไร้สาระมากถ้านายยังห่วงเรื่องชารอน เธออยู่ของเธอ นายอยู่ของนาย ส่วนเรื่องไมเคิลฉันเจอเจอรี่เมื่อวาน เขาฝากบอกนายว่า ไม่ต้องเลิกคบกับคริสจริงจังขนาดนี้ก็ได้ คนที่จะจับตาดูพฤติกรรมของคริสไม่ใช่ศาลแต่เป็นคู่ความอีกฝ่าย ถ้าพวกเขายอมเลิกราเรื่องก็จบลงด้วยดีแต่เพียงเท่านี้ คริสให้เจอรี่ไปเจรจากับสองสามีภรรยาว่ายินดีจะออกค่าใช้จ่ายในการทำกิฟต์ให้ ถ้าทั้งคู่ต้องการมีบุตรจริงๆ พวกเขามีท่าทีสนใจบอกว่าจะขอหารือกันก่อน เห็นมั้ยแฟรงค์.. เวลา.. ทำให้เรื่องต่างๆ คลี่คลายไปได้เอง หมดปัญหาเรื่องไมเคิล นายก็กลับบ้านได้แล้ว รู้มั้ย..”

แฟรงค์รู้สึกยินดีกับเรื่องที่แซมเล่า แต่ทำไมถึงยังไม่โล่งอกซะที หรือว่าเรื่องไมเคิลเป็นปัญหาบังหน้า ปัญหาใหญ่ของเขาคืออะไรกันแน่…

แซมลุกจากเตียงเมื่อคริสเดินเข้ามาส่งซิกขอนั่งแทน บ๊อบพยักหน้าให้แซมออกจากห้อง ปล่อยให้คริสกล่อมแฟรงค์เอง

“ฉันยังกลับไม่ได้หรอก นายดูฉันซีแซม.. จะให้คริสเจอฉันในสภาพนี้ได้ยังไง.. แต่ฉันก็กลัวไอ้ยักษ์นรกนั่น ฉันต้องอยู่กับคริสเท่านั้นมันถึงจะยอมเลิกรา ฉันควรจะทำยังไงดี แซม..”

คริสไม่ตอบบีบนวดต้นขาให้แฟรงค์เหมือนที่แซมทำเมื่อครู่ เมื่อเพื่อนไม่ยอมให้ความเห็น แฟรงค์ก็ระบายความในใจต่อ

“นายว่าคริสยังรู้สึกกับฉันเหมือนเดิมมั้ยแซม.. คริสบอกให้ฉันกลับบ้านแต่ไม่พูดสักคำว่าคิดถึงฉันหรือเปล่า ฉันกลับไปก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ในฐานะอะไร ฉันคงอยู่ในฐานะเดิมไม่ได้แล้ว ถ้ากลับไปจริงๆ ฉันคงต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ จะนั่งๆ นอนๆ แล้วรอรับเงินเดือนจากคริสเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว แต่นายดูฉันซี.. ตาฉันมองไม่เห็น แม้แต่จะรับหน้าที่สอนหนังสือให้ไมเคิลยังทำไม่ได้เลย ขับรถก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าอีกนานมั้ยกว่าตาจะหาย ฉันไม่อยากกลับไปเป็นภาระให้ใครเลยแซม.. ถ้าคริสรู้ว่าฉันตาบอด อาจเปลี่ยนใจไม่อยากให้ฉันกลับไปก็ได้”

คริสหยุดมือที่กำลังบีบนวด แต่ละถ้อยคำตัดพ้อและตอกย้ำให้เขารู้สึกเจ็บปวดโดยเฉพาะประโยคสุดท้าย คริสกุมมือแฟรงค์ไว้แนบอกโน้มตัวลงกระซิบปลอบ

“ถ้าฉันรู้ว่านายตาบอด ฉันไม่มีวันปล่อยให้นายมาอยู่ลำพังในที่แบบนี้ ฉันชวนกลับบ้านยังไม่รู้อีกหรือว่าเพราะอะไร เพราะฉันคิดถึงนายจนทนไม่ไหวแล้ว แฟรงค์.. คิดถึงทุกลมหายใจเข้าออกของฉันเลย ฉันจะตอบคำถามแทนแซมนะ.. กลับไปอยู่บ้านเถอะ คริสจะปกป้องนายด้วยชีวิตของเขาเอง อยู่ในฐานะเดิมเหมือนที่นายเคยอยู่ ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นภาระให้กับใคร ทุกคนรอคอยให้นายกลับไป พวกเราพร้อมจะดูแลนายด้วยความรัก แฟรงค์.. กลับบ้านเราเถอะนะ..”

แฟรงค์นอนนิ่ง เขากำลังฝันไปหรือถูกแซมล้อเล่น แค่ลมหายใจอุ่นและกลิ่นกายที่คุ้นเคยจะให้เขาเชื่อได้ยังไง ประสาทรับสัมผัสทางหูและจมูกอาจไม่ปกติก็ได้

คริสยิ้มเมื่อเห็นแฟรงค์อยู่ในอาการตะลึงนอนตัวแข็งไม่พูดไม่จา เขาคว้ามืออีกข้างของแฟรงค์ขึ้นมาจับต้องใบหน้าของเขา

“สัมผัสดูก่อนก็ได้ ว่าใช่คริสของนายหรือเปล่า”

แฟรงค์จับต้องทั่วใบหน้าของคริส มือที่ถูกกุมอยู่ถูกชักออก ร่างสูงถูกสองมือจับต้องตามลำตัว การสำรวจสิ้นสุดลงเมื่อมือสั่นระริกประกบกันที่ท้ายทอยของคริส ร่างเพรียวโน้มตัวขึ้นซบไหล่กว้างด้วยอาการสะอื้น

คริสกอดปลอบอย่างอ่อนโยน สภาพของแฟรงค์เวลานี้ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่บาดเจ็บและบอบช้ำ จิตใจก็เจ็บปวดและบอบช้ำอย่างหนักไม่แพ้กัน

“อย่าร้องไห้ แฟรงค์.. ฉันอยู่นี่แล้ว ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายนายอีก กลับบ้านเราเถอะนะ ฉันคิดถึงนายมากรู้มั้ย นายคิดถึงฉันหรือเปล่า หือ…”

แฟรงค์สวมกอดคริสแน่นขึ้นแทนคำตอบ

“คริส~~.”

“หืมม์..”

“ผมง่วงนอน~~”

คริสหัวเราะ ปล่อยร่างเพรียวลงนอนกับหมอน

“ง่วงก็นอนซี พักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ”

แฟรงค์กุมมือคริสไว้ ดวงตาสะลืมสะลือค่อยๆ หรี่ลง

“บ๊อบไม่น่าฉีดยาให้ผมเลย ผมไม่อยากหลับ อยากคุยกับคุณก่อน”

“โอ! แฟรงค์ หลับก่อนเถอะนะ ตื่นขึ้นมาค่อยคุยก็ได้ ฉันสัญญาว่าทันทีที่ลืมตาขึ้นนายจะเห็นหน้าฉันก่อนใครเลย โอเค!!…”

แฟรงค์ส่ายหน้าทั้งที่หลับตา คริสใจหายนึกขึ้นได้ว่าแฟรงค์มองไม่เห็น รู้สึกฉุนและโกรธตัวเอง

“ขอโทษ แฟรงค์.. ฉันลืมว่านายมองไม่เห็น ” คริสบีบมือแฟรงค์เบาๆ

“หลับเถอะนะ  ฉันสัญญาว่าจะนั่งอยู่ข้างๆ จนกว่านายจะตื่นและจะจูบรับขวัญนายตรงนี้…”

คริสก้มลงจูบหน้าผากแฟรงค์เบาๆ  แต่อีกฝ่ายไม่รับรู้วิธีรับขวัญของเขาแล้ว



 :a12:





TBC >>>>>>>





หมดห่วงกันได้แล้วนะพวกเรา กลับสู่อ้อมอกของคริสแล้ว หวังว่าแม่ยกแฟรงค์ทั้งหลายจะนอนหลับอย่างเป็นสุขซะที


 :oni1:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #354 เมื่อ09-10-2008 11:18:23 »

"หมดห่วงกันได้แล้วนะพวกเรา กลับสู่อ้อมอกของคริสแล้ว หวังว่าแม่ยกแฟรงค์ทั้งหลายจะนอนหลับอย่างเป็นสุขซะที "  ยังครับอ่านนิยายพี่ชอบมีอะไรให้อึ้งตลอดอ่ะ :a4:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #355 เมื่อ09-10-2008 12:51:46 »

หลังฝนตกท้องฟ้าก็จะแจ่มใส แต่วันนี้ฝนตกหนักจนน้ำท่วมหน้าจอของป้าแล้ว

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #356 เมื่อ09-10-2008 13:58:24 »

ยังคงเป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #357 เมื่อ09-10-2008 15:16:20 »

เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนต่อไปอย่าใจจดจ่อ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #358 เมื่อ09-10-2008 16:32:18 »

แฟรงก์สู้ๆ

 :ped149: :ped149: :ped149: :ped149:

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [part 2] [Hurt story]
«ตอบ #359 เมื่อ09-10-2008 20:27:43 »

 o7 ในที่สุด แฟรงค์ก็กับคืนสู่อ้อมอกของคริส ซะที


มาต่อตอนต่อไปไวๆนะคับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด