[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 133360 ครั้ง)

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
« เมื่อ18-08-2008 12:09:38 »

ซาหวัดดีทุกคน   o15  เจ๊หมวยเองค่า  เพื่อนๆ น้องๆ   จำกันได้รึเปล่า

ช่วงนี้เจ๊หมวยกำลังเขียนเจ้านายจ๊ะจ๋า (ตอนพิเศษ) เพื่อทำรวมเล่ม  ไม่มีเวลาเขียนนิยายใหม่เลย  ขอขุดนิยายเก่าในบ้านพ่อมาลงใหม่ที่นี่ให้เพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังไม่เคยอ่านได้อ่านกัน  

หวังว่าจะยังไม่เบื่อนิยายแนวนี้นะคะ


o14



******************


Fatherhood... (1)


ดวงตาคู่สวยละจากแบบร่างอาคารในมือเหลือบขึ้นมองคนขับรถที่กำลังโบกมือไล่เด็กขายพวงมาลัยด้านนอกอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะหลุบต่ำลงทำท่าจะสนใจกับงานตรงหน้าต่อ  แต่แล้วกลับช้อนสายตาขึ้นเพ่งมองออกไปนอกรถอีกครั้งพร้อมกับเอื้อมมือลดกระจกด้านข้างลง
   เด็กชายเลิกสนใจกับโชเฟอร์ก้าวพรวดไปที่ประตูหลังทันที
   “รับพวงมาลัยมั้ยครับ.. อ๊ะ .!.. เอ่อ..”
   สีหน้าตกใจและผิดหวังของหนุ่มน้อยเมื่อพบว่าหนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่ในรถเป็นฝรั่ง  รีบผละออกเพราะคิดว่าไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อพวงมาลัย 
   “ทั้งหมดที่ถืออยู่ในมือ”
   น้ำเสียงทุ้มแปร่งที่ตอบกลับมาทำให้ร่างเล็กที่กำลังจะผละออกชะงัก สีหน้าตื่นเต้นยินดีแต่แฝงความไม่แน่ใจเห็นๆ
   “เอ่อ.. ต้องการรับพวงมาลัยทั้งหมดนี้หรือครับ”  คำถามชัดถ้อยชัดคำเพราะต้องการย้ำความเข้าใจของตัวเอง  และเพื่อให้คนฟังซึ่งเป็นฝรั่งเข้าใจง่ายขึ้น
   “ใช่… ใส่ถุงซะ”
   คำตอบที่ได้กลับมาชัดถ้อยชัดคำเช่นกัน และส่อแววเร่งรีบจนเด็กชายปลดพวงมาลัยลงถุงแทบไม่ทัน   มือไม้สั่นด้วยความดีใจที่วันนี้จะได้กลับบ้านเร็ว  หากแต่เมื่ออีกฝ่ายยื่นเงินให้เด็กชายกลับยืนนิ่งไม่ยอมรับ จึงถูกมือใหญ่ยัดเยียดลงในกระเป๋าเสื้อ  กระจกรถเลื่อนขึ้นพร้อมกับเสียงแตรรถหลังบีบไล่  ทำให้ร่างเล็กต้องรีบถอยไปยืนบนฟุตบาทด้วยอาการงงๆ
   เด็กชายหยิบเงินออกจากกระเป๋าเสื้อเพื่อดูให้แน่ชัดอีกครั้งว่าตาไม่ฝาด หัวใจพองโตแทบจะล้นอกเมื่อเห็นเต็มตาว่าเป็นแบงค์พันถึง 3 ใบ พร้อมนามบัตร.. เอ๋..!!!นามบัตร ??????…


- F a t h e r h o o d -


   “เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ โอ...”
   “ไม่.. ถ้าไม่ยอมให้อ่านดีๆ ฉันจะบอกคุณแฟรงค์ว่านายมีแฟน”
   “ไอ้บ้า.. ไม่ใช่แฟนโว้ย  เป็นเพื่อนเฉยๆ”
   “ไม่รู้ล่ะ   ถ้าไม่ยอมให้อ่าน  ฉันบอกแน่..”
   “ไอ้…”
   เด็กหนุ่มสองคนแย่งซองจดหมายในมือ  โดยมีสองหนุ่มน้อยนั่งเป็นกองเชียร์อยู่ข้างๆ  เสียงรถแล่นมาจอดหน้าตึกทำให้อาการลิงทะโมนของหนุ่มน้อยทั้ง 4 สงบลง  หนุ่มโอยอมปล่อยมือแต่โดยดีอีกฝ่ายจึงพับซองจดหมายที่อยู่ในสภาพยับเยินเก็บใส่กระเป๋าและผละจากเพื่อนไปนั่งหน้ามุ่ยอยู่อีกมุม
   ร่างสูงของหนุ่มใหญ่วัย 40  ก้าวเข้ามา  หนุ่มน้อยทั้งสี่ก็ลุกขึ้นและกล่าวทักโดยพร้อมเพรียง
   “สวัสดีครับคุณคริส..”
   “หวัดดี…  แฟรงค์ล่ะ..”
   “คุณแฟรงค์ยังไม่กลับครับ   บอกไว้ตั้งแต่เช้าว่าวันนี้จะกลับค่ำครับ”  หนุ่มโอเป็นคนตอบคำถามในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม
   “โทรตามที บอกให้รีบกลับมา  ฉันมีธุระสำคัญจะคุย”  ร่างสูงใหญ่ผละจากไปแต่เปรยตามหลังมาเบาๆ   
   “วันนี้เวรใคร..ตามขึ้นมาด้วย”
   เหล่าหนุ่มน้อยผ่อนคลายท่าทีลงแต่ยังอยู่ในอาการสำรวม  โอ เด็กหนุ่มวัย 19 ปี หยิบโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ตามคุณแฟรงค์  ปากก็กล่าวเตือนเพื่อนในกลุ่ม
   “วันนี้เวรใคร   นายใช่มั้ย บอย.. รีบตามขึ้นไปเลยอย่าให้หงุดหงิด”
   หนุ่มน้อยวัย 17 ปี  ลุกขึ้นด้วยท่าทีอิดออด สีหน้าไม่ค่อยดีทั้งที่เมื่อครู่ยังหัวเราะคิกคักอยู่เลย 
   “ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย  ปวดท้องอ่ะ  ใครแลกเวรกับฉันทีได้มั้ย  แจ๊ค..”
   “เฮ้ย!  ไม่ได้หรอก  เวรฉันเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเอง  นายแหล่ะ ทิม..  สลับกับบอยล่ะกัน”
   เจ้าหนูทิมวัยเพียง 15 ปี  ลุกขึ้นด้วยความเต็มใจไม่อยากอิดออด  ไม่ลงเวรวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเจออยู่ดี…


- F a t h e r h o o d -


   “คริส..   คุณสั่งกัปตันแวะเกาะร้างข้างหน้าอีกเหรอ”
   ผู้ถูกถามพยักหน้าตอบ  สายตายังไม่ละจากหนังสือในมือ
   “โอ! ไม่เอาน่าคริส  ทำไมเราไม่แวะเกาะที่คนเค้าเที่ยวกันบ้าง  สองวันนี้คุณพาพวกเราลงเกาะร้างมา 5 เกาะแล้วนะ  ไม่เห็นจะมีอะไรเลย””
   “ถ้านายไม่อยากลงก็อยู่บนเรือ”  คำตอบเรียบง่ายเหมือนช่วยแก้ปัญหาให้แต่อีกฝ่ายกลับโวยหนัก”
   “จะบ้าเหรอ… ให้ผมอยู่คนเดียวบนเรือได้ไง คุณลงเกาะคนเดียวมั้ยล่ะ  พวกเราจะอยู่บนเรือ”
   คำพูดต่อรองเหมือนท้าทายทำให้อีกฝ่ายต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้พูด ดวงตาสีฟ้าวาววับส่อแววไม่สบอารมณ์ แต่เพียงแค่แว่บเดียวก็ปรากฎรอยยิ้มที่มุมปาก
    “ก็ได้ฉันจะลงไปคนเดียว นายกับเด็กคอยบนเรือ แต่ถ้าคอยนานอย่าบ่นนะ  บางทีอาจจะเป็นวัน  สองวัน หรือมากกว่านั้น”
   “โอ!  ได้โปรดเถอะน่า คริส  ผมรู้ว่าคุณจะหาอะไร แต่มันเป็นแค่ความฝัน  คุณไม่มีวันเจอหรอก  เสียเวลาเปล่า..”
   คริสปิดหนังสือและลุกขึ้นยืน  ร่างสูงใหญ่อย่างชาวตะวันตกข่มร่างสูงโปร่งของหนุ่มลูกครึ่งไทยสวิส
   “ฉันไม่เคยเสียเวลาเปล่า แฟรงค์..  ฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่แค่ความฝัน เอาเถอะ… ฉันจะลงไปกับจอนนี่สองคน นายพาเด็กไปแวะไหนต่อก็ไป หากฉันต้องการให้มารับเมื่อไรจะวิทยุเรียก โอเคมั้ย....”
   บทสรุปของมหาเศรษฐีคริส บริเจคส์ จะมีใครกล้าขัด  แม้แต่แฟรงค์เองก็เถอะ  เขาลองโวยดูเผื่อฟลุ้คเท่านั้น


- F a t h e r h o o d -


   คริส  บริเจคส์  วิศวกรหนุ่มใหญ่ผู้เป็นเจ้าของทุกอย่างบนเรือยอร์ชลำหรูนี้  เขามีโปรแกรมพักร้อนทางเรือทุกปี สมาชิกที่ร่วมเดินทางมาในแต่ละปีเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นไม่ซ้ำหน้ากัน  แต่ที่หน้าเดิมตลอดรายการคือ แฟรงค์  แพททริค ชายหนุ่มที่มีวัยอ่อนกว่าถึงหนึ่งรอบ เป็นคนสนิทที่อยู่ในฐานะเลขาส่วนตัว มีนิสัยร่าเริงรักสนุกขี้โวยเล็กๆ คริสรู้จักนิสัยแฟรงค์ดีจึงไม่ถือความและรู้ว่าแฟรงค์ก็รู้จักนิสัยเขาดีเช่นกันว่าพูดคำไหนคำนั้น
   วันนี้เป็นวันที่สามของการเดินทาง โปรแกรมพักร้อนทางเรือในปีนี้ถูกกำหนดขึ้นอย่างกระทันหัน  ทั้งๆ ที่ดินฟ้าอากาศยังไม่เอื้ออำนวยเนื่องจากพายุฝนเพิ่งสงบ  แต่คริสยืนยันว่าเขาต้องการจะเดินทาง หากทุกคนไม่พร้อมเขาจะเดินทางคนเดียว เท่านั้นเองแฟรงค์และสมาชิกหนุ่มน้อยอีกสี่คนก็พร้อมที่จะเดินทางไปด้วย  เพราะไม่อาจปล่อยให้คริสเดินทางไปเพียงลำพังได้
   โปรแกรมการเดินทางถูกเปลี่ยนวัตถุประสงค์เป็นการผจญภัย ซึ่งทุกคนก็เห็นชอบด้วย  คริสจึงถือโอกาสพาสมาชิกบนเรือแวะเกาะร้างทุกเกาะที่อยู่ในทะเลแถบนี้  สองวันที่ผ่านมารวม 4 เกาะแล้วอย่างที่แฟรงค์บอกจริงๆ  เขารู้ว่าหนุ่มน้อยทั้งหลายเริ่มเบื่อแต่ไม่มีใครกล้าบ่น  มีก็แต่นายแฟรงค์จอมโวยนั่นแหละ
   เกาะเล็กๆ ข้างหน้าเป็นเกาะร้างเกาะสุดท้ายในน่านน้ำแถบนี้แล้ว  คริสฝันประหลาดหลายคืนติดต่อกันก่อนตัดสินใจออกเดินทาง  และสองคืนที่ผ่านมาบนเรือ  เขาก็ยังฝันเหมือนเดิมและชัดเจนมากขึ้นจนไม่สามารถละความตั้งใจในการค้นหา   เพราะเสียงร้องเรียกให้ช่วยดังก้องอยู่ในโสตประสาทเขาตลอดเวลา
   “ไม่พบอะไรเลยครับ เจ้านาย”   นายจอนเดินเข้ามารายงาน  หลังจากค้นหาสิ่งที่เจ้านายสั่งไม่พบ
   “ถ้างั้นเราแยกกันหา  ฉันจะไปด้านข้าง  แกไปด้านหลังของเกาะ โอเค..”
   “จะดีหรือครับเจ้านาย ผมว่าเราไปทางเดียวกันดีกว่า เกาะร้างแบบนี้อันตรายนะครับ  เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตายครับ”
   แม้จะรู้สึกระอาใจกับความขลาดของคนขับรถ   แต่ก็เป็นเหตุผลที่คริสยอมคล้อยตามด้วย 


- F a t h e r h o o d -


   ภาพที่เห็นเบื้องหน้าสวยงามจนทำให้คริสลืมทุกอย่างไปชั่วขณะ ท้องทะเลที่เขาเห็นบนดาดฟ้าเรือว่างามแล้ว  ยังเทียบไม่ได้กับความงามที่เขายืนมองจากชะง่อนผาแห่งนี้  องค์ประกอบของภาพไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินใหญ่เบื้องหน้า  เรือลำน้อยใหญ่ที่ลอยอยู่กลางทะเล และแสงระยิบระยับทั่วผืนน้ำ ช่างเป็นภาพที่สวยงามประทับใจจนเขานึกเสียดายที่ไม่ได้ถือกล้องติดมาด้วย
   “เจ้านายครับ  มาดูอะไรนี่ซีครับ”
   คริสเดินตามนายจอนไปที่ซอกหิน
   “ดูข้างในซีครับเจ้านาย…  ไม่ทราบว่าใช่ที่กำลังหาหรือเปล่า”
   คริสตะลึง 
   …โอ! พระเจ้า…  เขาไม่รู้เหมือนกันว่าใช่ที่เขาฝันถึงหรือเปล่า เพราะในฝันเขาได้ยินแต่เสียงร้องเรียกให้ช่วย  สลับกับหาดทรายสีขาว ท้องทะเล เกาะเล็กๆ ที่ไม่มีผู้คนอยู่ ป่าเขา และก้อนหิน  แต่ละภาพวนสลับกันไปมาในความฝัน …
    คริสทรุดตัวลงกุมขมับ เขาจะเอาร่างเล็กนั้นออกมาได้ยังไง  ทางเข้าซอกหินแคบเกินกว่าที่เขาหรือนายจอนจะแทรกตัวเข้าไปได้  และร่างนั้นก็ซุกตัวอยู่ลึกเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมมือถึง
   “ถ้าคุณทิมขึ้นมาด้วยก็ดีนะครับ เจ้านาย  แกตัวเล็กที่สุดในบรรดาคุณๆ ทั้งหมด”
   คริสยิ้มออกเพราะเป็นครั้งแรกที่นายจอนพูดจาเข้าหู  เขาวิทยุเรียกแฟรงค์ให้นำเรือกลับมารับโดยด่วนที่สุด 
   คริสช่วยเอาร่างเล็กของเด็กชายออกมาจากซอกหินจนได้  โดยให้หนุ่มน้อยทิมซึ่งเป็นสมาชิกที่มีรูปร่างเล็กที่สุดในกลุ่มช่วยพาออกมา  แต่ถึงกระนั้นก็ยังคืบตัวเข้าไปด้วยความยากลำบาก


- F a t h e r h o o d -


   ห้องพยาบาลในเรือมีเวชภัณฑ์ ยา และเครื่องมือแพทย์ครบครัน เป็นคลีนิกขนาดย่อมเลยก็ว่าได้  และแฟรงค์ก็มีหน้าที่ดูแลห้องนี้โดยเฉพาะ
   “ใช่ที่คุณหาอยู่หรือ คริส..   ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณหาจนพบ”
   คริสไม่สามารถตอบคำถามได้เพราะถึงขณะนี้เขาเองก็ยังไม่รู้ว่า …ใช่หรือไม่…
   “เป็นไงบ้าง แฟรงค์”
    “อืมม์.. ผมถึงถามว่าใช่ที่คุณหาอยู่หรือเปล่า  ถ้าใช่… ก็เตรียมทำใจไว้ได้เลยว่าเด็กอาจจะไม่รอด  เขาอ่อนแอมากจนแทบไม่อยากจะหายใจแล้ว””
   “ไม่นะแฟรงค์ เขาต้องไม่เป็นอะไร  นายต้องช่วยเขาให้ถึงมือหมออย่างปลอดภัย  ได้ยินมั้ยแฟรงค์  นี่เป็นคำสั่ง..”
   แฟรงค์กลืนน้ำลายลงคอ เป็นคำสั่งที่เอาแต่ใจที่สุดเท่าที่เคยทำงานร่วมกันมา  คงเห็นว่าเขาเคยเรียนแพทย์มาถึง 4 ปี  แต่ก็เรียนไม่จบนี่หว่า.. จะมาสั่งเหมือนเขาเป็นหมอได้ยังไง…


- F a t h e r h o o d -


   จนถึงขณะนี้คริสยังไม่รู้ว่าเด็กชายลูกครึ่งที่นอนหลับสนิทอยู่ตรงหน้า ใช่ที่เขาฝันถึงหลายคืนติดต่อกันหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือ เขาหยุดฝันมาสองคืนแล้วตั้งแต่พบและพาเด็กออกมาจากซอกหินบนเกาะร้างนั้นได้  นึกแล้วอดใจหายไม่ได้...ถ้าเขาไปช้ากว่านี้หรือไม่ได้ฝันถึงเหตุการณ์แปลกๆ ที่ชักนำให้เขาออกค้นหา เจ้าหนูที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าก็คงนอนสงบนิ่งอยู่ในซอกหินไปนานแสนนาน
   สองวันเต็มที่หนุ่มน้อยนอนนิ่งไม่ได้สติ   เสียงเพ้อหาเบาๆ ในเช้านี้ทำให้คริสต้องขยับเข้าไปฟังใกล้ๆ ด้วยความอยากรู้
   “.................................”
   …โอ! พระเจ้า.. เสียงเดียวกับที่เขาได้ยินในฝันจริงๆ  เขาได้ยินประโยคนี้ซ้ำไปมาในความฝัน ทำไมต้องเป็นเขา เป็นคำถามที่คริสไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้…
   และเมื่อเด็กชายลืมตาขึ้นก็สร้างความประหลาดใจให้กับคริสอีก เพราะเจ้าหนูเล่นโผขึ้นสวมกอดเขาทันทีที่เห็นหน้า
   “อย่าทิ้งผมนะ ..  ให้ผมไปอยู่ด้วยนะฮะ.. ฮืออ..”
    คริสนิ่งอึ้งและตะลึงไปชั่วขณะ ไม่ใช่เพราะถูกสวมกอดโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เพราะคำพูดที่ละล่ำละลักบอกพร้อมๆ กับวงแขนเล็กที่กอดรัดเขาแน่นขึ้น เหมือนกลัวจะถูกทอดทิ้งอีก  มันทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธความเข้าใจของเด็กในทันทีทันใด  จำต้องสวมกอดและลูบศีรษะหนุ่มน้อยเบาๆ เพื่อให้คลายความตื่นกลัว
   “อะแฮ่ม!  จะไม่ลืมตาขึ้นมาดูกันให้ชัดๆ หน่อยหรือไอ้หนู ว่าใครเป็นใคร”
   เสียงของแฟรงค์ทำให้ร่างเล็กในอ้อมกอดของคริสสะดุ้งและผละออกด้วยความตกใจ  คิ้วเรียวขมวดมุ่นขณะเงยหน้ามองดวงตาสีฟ้าของร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองคนอื่นๆในห้องทีละคน
   เป็นเวลานานทีเดียวที่เด็กชายนั่งก้มหน้านิ่งอยู่บนเตียง  คริสนิ่งรอเพราะรู้ว่าเจ้าหนูกำลังใช้ความคิดและคงกำลังเรียบเรียงคำถามเพื่อไขข้อข้องใจจากเขา บรรยากาศในห้องจึงเงียบกริบ หนุ่มน้อยทั้งสี่ยืนเกาะกลุ่มกัน  ไม่มีใครกล้าเอ่ยหรือพูดจาใดๆ  แต่แล้วก็มีคนที่อดทนรอไม่ไหวถึงถูกดุก็ยอม
   แฟรงค์เดินมาที่เตียงและกล่าวกับเด็กชาย
   “เฮ้!..  จะไม่เงยหน้ามาพูดคุย แนะนำตัวกันหน่อยหรือ ไอ้หนู..  หรือยังนึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร มานั่งอยู่ที่นี่ได้ยังไง  ฉันจะช่วยฟื้นความจำให้เธอเอง”



ตอนที่ 1 ยังไม่จบแค่นี้ เนื่องจากเจ๊หมวยแก้ไขข้อความใหม่เลยถูกตัดตอนท้ายออกไปเยอะ  ถ้าไงตามไปอ่านที่นี่ล่ะกัน

http://www.geocities.com/j_muay2003/fatherhood01.html

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2008 17:50:30 โดย j-muay »

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #1 เมื่อ18-08-2008 12:53:12 »

ไม่เบื่อค้าบ ไม่เบื่อเลยค้าบ ^3^

ชอบค้าบ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #2 เมื่อ18-08-2008 12:54:36 »

 o13 รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #3 เมื่อ18-08-2008 13:29:52 »

เวลคัมแบค คร้าบบบบ เจ้หมวย

คิดถึงเจ้นะครับ

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #4 เมื่อ18-08-2008 14:25:00 »

ยินดีต้อนรับนะครับผม :L2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #5 เมื่อ18-08-2008 14:31:01 »

มารอตอนต่อไปจ้ะ  :m13:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #6 เมื่อ18-08-2008 15:10:06 »

เอาล่ะซิ ได้อ่านนิยายเจ๊อีกแร๊ะ  :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #7 เมื่อ18-08-2008 19:52:26 »


 :L2: เข้ามาทักทายตามประสาแฟนคลับที่ดี  อิอิ

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #8 เมื่อ19-08-2008 00:55:00 »

มารอตอนต่อไปของเจ๊หมวย

เคยเห็นเรื่องนี้บ้านพ่อด้วย

แต่ยังไม่ได้อ่าน

งั้นรออ่านที่นี่แล้วกัน
 :m1:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #9 เมื่อ19-08-2008 01:04:28 »

อ้ากกกกกกเรื่องใหม่อิอิ
รออ่านตอนต่อไปค้าบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #9 เมื่อ: 19-08-2008 01:04:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #10 เมื่อ19-08-2008 08:16:10 »

 :mc4: :mc4: :mc4: มาต้อนรับจ้า

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #11 เมื่อ19-08-2008 13:59:14 »


[2]    




“อรุณสวัสดิ์ ไมเคิล..”

          “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณแฟรงค์”  เด็กชายทักตอบแต่ตามองเลยไปที่ประตู

          “ไม่ต้องมองหาหรอก วันนี้คุณคริสไม่มา เขาให้ฉันมารับเธอกลับบ้านของเรา  เปลี่ยนเลื้อผ้าซะ  ฉันจะไปเคลียร์ค่าใช้จ่าย  เดี๋ยวกลับมารับ”

          หนุ่มน้อยรับถุงที่แฟรงค์ยื่นมาให้และกล่าวขอบคุณ ก่อนเอ่ยเบาๆ ด้วยความไม่แน่ใจ

          “คุณคริสบอกว่าจะมารับผมเอง”

          “ทำไม..  มีปัญหาเหรอ...  กลัวฉันพาเธอไปขายหรือไง…”

          “เอ่อ..เปล่าฮะ ผมเพียงแต่สงสัย  คุณคริสเพิ่งบอกผมเมื่อคืนเองว่าเช้านี้จะมารับกลับบ้าน”

          “งั้นเหรอ.. ใครจะอัพเดทกว่ากันไอ้หนู  คุณคริสของเธอปลุกฉันตื่นตอนตี 5 สั่งให้มารับเธอ  เพราะเขามีงานด่วนต้องบินไปฮ่องกง 8 โมงเช้า”

          “เอ่อ.. ขอโทษครับที่ทำให้คุณลำบาก”  ไมเคิลสบตาอีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิดและเกรงใจที่ตัวเองต้องเป็นภาระให้

          แฟรงค์ยิ้มออกเมื่อเจ้าหนูเอ่ยขอโทษ  เขาโน้มตัวลงไปใกล้และเอ่ยเบาๆ 

          “ไม่เป็นไรหรอกไมเคิล.. ฉันเต็มใจ  ของของคุณคริสฉันต้องดูแลแทนอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว  คริสไม่เคยหวงของกับฉันเลย  เราแบ่งกันใช้เสมอ...”

          ประโยคสุดท้ายแฟรงค์ขยับเข้าไปกระซิบและจูบใบหูหนุ่มน้อยเบาๆ   ทำเอาเด็กชายผละออกด้วยความตกใจ 

          แฟรงค์หัวเราะสนุกที่ได้กระเซ้าเด็ก  ก่อนออกจากห้องไม่ลืมย้ำให้เจ้าหนูรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า

          เด็กชายนั่งนิ่งบนเตียงอยู่หลายนาที รู้สึกขัดหูกับคำพูดและการกระทำแปลกๆของชายหนุ่มผู้นี้   ...ผมเป็นคนนะ...ไม่ใช่สิ่งของซะหน่อย  จะแบ่งกันใช้ได้ยังไง….

 

 

- F a t h e r h o o d -





   ไมเคิลรู้สึกตื่นตะลึงกับสถานที่ที่คุณแฟรงค์เรียกว่า “บ้านของเรา”  มันไม่ใช่แค่บ้านหลังใหญ่ธรรมดา....แบบนี้กระมังที่เขาเรียกว่า “คฤหาสน์”

   ….เมื่อคุณแฟรงค์ขับรถมาจอดที่หน้าตึก หนุ่มวัยรุ่นสี่คนที่ไมค์เคยเห็นที่โรงพยาบาลก็กรูกันเข้ามาห้อมล้อมที่รถ คุณแฟรงค์แนะนำไมค์ให้รู้จักกับทุกคน    บอกชื่อและอายุเสร็จสรรพ  โอ เป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม อายุ 19 ปี แจ๊ค อายุ 18   บอย อายุ 17 และทิมมี่ อายุ 15  แก่กว่าไมค์ 2 ปี แต่ตัวสูงใหญ่กว่านิดเดียว แจ๊ค และทิมมี่เป็นลูกครึ่งฝรั่งเหมือนไมค์   ส่วนโอและบอยเป็นเด็กไทยหน้าตาดีมาก….

   ไมเคิลยกมือไหว้ทำความเคารพทุกคน  แต่ทุกคนรับไหว้อย่างเสียไม่ได้
   โอกล่าวโพล่งขึ้นอย่างกวนๆ
   “แน่ใจหรือไอ้หนูว่านายรับคุณคริสไหว ตัวกะเปี๊ยกเดียว  คิดจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของพวกเรา  ไม่ไหวมั้ง”
   “หุบปากซะโอ.. อย่าข่มเด็กหน่อยเลย ถึงตัวเล็กแค่นี้แต่ก็คงมีดีเหมือนกัน  จริงมั้ยไมเคิล”   แฟรงค์ต่อว่าเด็กหนุ่มแต่ลงท้ายกลับพูดกระเซ้าซะเอง

   ไมเคิลไม่เข้าใจความหมายที่คุณแฟรงค์และโอพูด  คนที่นี่พูดจากันแปลกๆ แบบนี้ทุกคนเหรอ..




- F a t h e r h o o d -




   แฟรงค์ผลุนผลันออกจากบ้านไปหลังรับโทรศัพท์เพื่อน โดยฝากให้โอช่วยดูแลและจัดหาที่พักให้เด็กชาย โอรับปากอย่างแข็งขันด้วยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง

   “นี่ห้องของนาย  คุณคริสสั่งให้จัดเตรียมไว้ให้”

   ห้องพักที่โอจัดเตรียมไว้ให้สมาชิกใหม่อยู่ที่เรือนคนรับใช้  เดิมเป็นห้องเก็บของแต่โอและพรรคพวกช่วยกันขนย้ายข้าวของออกไปเก็บไว้ที่ห้องคนรับใช้ที่ยังว่างอีกหนึ่งห้อง  นายชมคนสวนถึงกับส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าคุณโอเริ่มออกลายต้อนรับสมาชิกใหม่อีกแล้ว

   “ไง!.. พออยู่ได้มั้ย แต่ถ้านายคิดว่ามันเล็กเกินไป  ฉันจะช่วยขอคุณคริสเปลี่ยนห้องใหม่ให้”
   หนุ่มโอแสร้งคุยโวให้คนฟังเข้าใจว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของคริส
   “เอ่อ.. ไม่ต้องครับ แค่นี้ผมก็อยู่สบายแล้ว ผมไม่มีข้าวของอะไร” ไมค์รีบปฏิเสธ  แค่นี้คุณคริสก็มีบุญคุณกับเขามากมายแล้ว
   “นั่นน่ะซี นอกจากที่นอนแล้วนายยังมีที่นั่งเล่นเหลืออยู่ตั้งเมตรกว่าๆ  ยังไงก็กว้างและสบายกว่าอยู่ซอกหินเยอะเลย จริงมั้ยวะแจ๊ค..”

             โอหันไปขอความเห็นเพื่อนและหัวเราะกันอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน  ในขณะที่เด็กชายหน้าเสียใจหายวาบกับคำคำนี้ ได้ยินทีไร  รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งๆจุกที่ลำคอทุกครั้ง

              สองหนุ่มหยุดหัวเราะเมื่อเห็นน้องใหม่ทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้

             “ล้อเล่นแค่นี้ทำไมต้องร้องไห้ด้วย  ฉันขอเตือนนายด้วยความหวังดีนะไมเคิล.. ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่...  ถึงจะไม่ได้อยู่อย่างลูกผู้ชายก็ร้องไห้ไม่ได้  คุณคริสไม่ชอบคนขี้แง..  จำไว้!!..”

              โอกอดคอแจ๊คเดินจากไปทิ้งให้เด็กชายมองตามด้วยความรู้สึกแปลกๆ  ...ทำไมต้องไม่ได้อยู่อย่างลูกผู้ชายด้วย...




- F a t h e r h o o d -




   “สวัสดีครับลุง  ให้ผมช่วยมั้ยครับ”

   นายชมเงยหน้าขึ้นก็เห็นสมาชิกใหม่ของบ้านเป็นเด็กชายลูกครึ่งหน้าตาดี แม้จะดูซูบผอมไปหน่อยแต่ทุกคนที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากนายฝรั่งของเขา เพียงไม่กี่เดือนก็โตวันโตคืนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ทุกคน  ดูอย่างคุณโอกับคุณแจ๊ค  อายุแค่ 18 -19  ตัวสูงใหญ่เกือบเท่าคุณแฟรงค์

   ไมเคิลยิ้มให้นายชมและเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งยองๆ
   “พรวนดินหรือครับลุง  ให้ผมช่วยนะ  ผมทำเป็น”
   “โอ!.. อย่าเลยครับคุณหนู  เลอะเทอะเปล่าๆ”

   นายชมไม่เคยเรียกคุณๆบนตึกว่าคุณหนูสักคน  แต่กับหนุ่มน้อยคนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าหลุดปากเรียกออกไปได้อย่างไร  อาจเป็นเพราะความมีอัธยาศัยและความน่ารักในตัวเด็ก  และวัยที่ไม่น่าจะเกิน 13 ปี  เมื่อเทียบกับวัยของนายชมแล้ว ไมเคิลยังคงเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ  จึงอดไม่ได้ที่จะใช้สรรพนามเอ่ยเรียกว่า  คุณหนู…

   “ผมชื่อไมเคิล  ลุงเรียกผมว่าไมค์ก็ได้ครับ” 

             ไมเคิลแนะนำตัวเองพร้อมกับหยิบที่ตักดินขึ้นมาช่วยขุด   เด็กชายถนัดทำสวนและทำเป็นจริงๆ เพราะตอนอยู่บ้านพ่อเลี้ยง  ไมค์ถูกสั่งให้เป็นคนคอยดูแลและทำสวนแทนคนสวนที่ลาออกไป

   “ลุงชื่อชม คุณหนูไมค์เรียกลุงว่านายชมเหมือนที่คุณๆ เขาเรียกกันเถอะครับ”

   ไมค์ขมวดคิ้วรู้สึกข้องใจ
   “ทำไมผมต้องเรียกเหมือนคนอื่นๆ ในบ้านนี้ล่ะครับ  ผมไม่ใช่คุณหนูนะ  ผมเป็นแค่คนอาศัย คุณคริสช่วยชีวิตผมไว้แล้วให้ผมมาอาศัยอยู่ด้วย  คุณคริสใจดีจังเลยนะครับลุง  พูดไทยเก่งด้วย”

   นายชมลอบยิ้ม  เด็กหนุ่มที่มาอยู่บ้านหลังนี้คิดอย่างนี้ทุกคน
   “ครับ คุณคริสท่านอยู่เมืองไทยมานานกว่า 15 ปีแล้ว  ท่านใจดีกับทุกคนในบ้านชอบช่วยเหลือคน คุณ ๆ  ทั้งสี่คนนั่นคุณคริสก็รับมาอุปการะให้ที่พักอาศัยแบบเดียวกับคุณหนูน่ะแหล่ะครับ  คุณคริสใจดีก็จริงแต่อย่าให้ท่านโกรธนะครับ ไม่มีใครเข้าหน้าติดแม้แต่คุณแฟรงค์  วางมือเถอะครับคุณหนูไมค์  เลอะเทอะหมดแล้ว…”

   “เรียกผมไมค์เฉยๆ ซีครับลุง  ไม่งั้นผมไม่วางมือหรอก”

   “เอ้า.. ก็ได้ คุณไมค์  วางมือเถอะครับ”

   หนุ่มน้อยยิ้มออกยอมวางมือแต่โดยดี  นอกจากคุณคริสแล้วทุกคนที่นี่มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับไมค์เลย ซ้ำยังคอยกระแนะกระแหนด้วยคำพูดแปลกๆ เสมอ ลุงชมเป็นคนแรกในคฤหาสน์หลังนี้  ที่ไม่พูดจาแปลกหูและพูดคุยกับไมค์ด้วยความเต็มใจ




- F a t h e r h o o d -




   ...วันนี้ย่างเข้าวันที่สามแล้วที่ไมค์เข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ “บริเจคส์”  สองวันที่ผ่านมาไมค์ไม่ได้พูดคุยกับใครเลยนอกจากลุงชม  ไมค์ได้มีโอกาสเดินสำรวจรอบๆ แต่ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ตึก  ลุงชมบอกว่าถ้าคุณคริสไม่อยู่ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะอยู่บ้านโดยเฉพาะคุณแฟรงค์ และช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมคุณๆ ทั้งหลายออกเที่ยวเตร่เกือบทุกวัน  แต่ถ้าคุณคริสอยู่บ้านทุกคนก็จะไม่ไปไหนและทำตัวเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้

   ไมค์เพิ่งรู้ว่าที่นี่ใหญ่โตก็จริง  แต่คนรับใช้อยู่ประจำมีเพียง 3 คน มีพ่อครัว 1 คน ลุงชมคนสวน และน้าจอนนี่คนขับรถของคุณคริส  พ่อบ้านลู บางวันก็พักอยู่ที่นี่แต่ส่วนใหญ่จะกลับไปพักที่บ้านหลังจากดูแลทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว    นอกนั้นเป็นประเภทไปเช้าเย็นกลับ มี maid 2 คน และคนทำสวนรายวันอีก 1 คน จะมาช่วยงานเวลาที่ลุงชมเรียกเท่านั้น  ลุงชมบอกว่าบ้านนายฝรั่งไม่ชอบให้มีคนรับใช้อยู่ด้วยเยอะๆ  จะมีเท่าที่จำเป็นเท่านั้น...

   สองวันที่ผ่านมาไมเคิลไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรและมีหน้าที่ต้องทำอะไร  ได้แต่คอยอยู่ใกล้นายชมและของานทำ  วันนี้หนุ่มน้อยคอยป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ จนได้ฝึกงานตัดแต่งต้นไม้สมใจ

   “รับผู้ช่วยมาทำสวนตั้งแต่เมื่อไร  นายชม..”

   คำพูดชัดถ้อยชัดคำแต่ด้วยสำเนียงแปล่งๆ ทำเอานายชมสะดุ้ง กรรไกรแทบหล่นจากมือ  เงยหน้าขึ้นยิ้มแหยๆ
   “เอ่อ..  คุณไมค์แกมาขอหัดทำครับนายท่าน”

   คริสขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่างานทำสวนมันน่าสนใจตรงไหนจึงต้องมาขอหัดทำ

   นายชมถอนใจโล่งอกเมื่อเจ้านายเดินตรงไปหาหนุ่มน้อยโดยไม่ได้ต่อว่าอะไร เขาเชื่อที่นายจอนเล่าให้ฟังแล้วว่า  เด็กชายคนนี้เป็นคนพิเศษสำหรับนายคริสจริงๆ  เพราะขนาดกลับมาถึงเหนื่อยๆ ยังไม่ยอมขึ้นตึกไปพักผ่อนก็ผิดวิสัยคุณคริสแล้ว

   ไมเคิลนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นสนาม  กำลังบรรจงตัดแต่งใบไม้อย่างตั้งใจ  ตัดแล้วก็เพ่งมองไปมาด้วยความภูมิใจว่าตนเองทำได้  ร้องบอกนายชมด้วยความดีใจ

   “ลุงครับ ผมตัดเสร็จแล้ว มาดูซีครับว่าใช้ได้มั้ย”   

             เด็กชายหันมาทางนายชมก็พบร่างหนึ่งยืนบังอยู่เต็มๆ สะดุ้งเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นมองและเบิกตาโพลงด้วยความดีใจ  เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกจ้องมองอยู่ส่งยิ้มให้

             “คุณคริส..  กลับมาแล้วหรือครับ”

   ไมค์วางกรรไกรลงและยกมือไหว้ ถ้ามือไม่เลอะไมค์คงกอดขาสองข้างไว้ด้วยความคิดถึงแล้ว  คุณคริสไม่รู้หรอกว่าไมค์คิดถึงคุณคริสสลับกับคิดถึงพ่อตลอดเวลา  เป็นเพราะหน้าตาของคุณคริสเหมือนพ่อมาก  มากจนอยากคิดว่าเป็นพี่น้องฝาแฝดกันเลย..
 
   “ทำอะไรอยู่น่ะไมเคิล.. หายดีแล้วเหรอ ถึงออกมาตากแดดตากลมอย่างนี้ ลุกขึ้นซิ”     คริสยื่นมือให้เด็กชายจับ

             ไมเคิลมองมือตัวเองและคิดว่าควรจะทำความสะอาดซะก่อนอย่างน้อยเช็ดกับกางเกงก็ยังดี   แต่เด็กชายก็ได้แต่คิดเพราะมือของคริสคว้ามือเล็กไว้และฉุดให้ลุกขึ้น

   “มือผมเลอะครับ”   ไมเคิลรีบชักมือกลับและเช็ดกับกางเกง

   คริสมองหนุ่มน้อยตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่แน่ใจว่าชุดที่สวมใส่อยู่จงใจใส่มาเพื่อทำสวนหรืออย่างไร   ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นชุดเก่าของทิม

   “คุณคริสกลับเร็วจังครับ  คุณแฟรงค์บอกว่าคุณจะไป 1 อาทิตย์”

   “เสร็จงานเร็วก็กลับเร็ว  ฉันมีห่วงอยู่ที่นี่เยอะมากเธอไม่รู้หรอก”

   คริสพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเครียดทำให้หนุ่มน้อยหน้าจ๋อย  รู้สึกเสียใจที่ตัวเองพูดจาไม่ถูกหู

   “มีใครพาไปซื้อเสื้อผ้าหรือยัง ไมเคิล..”

   เด็กชายส่ายหน้าและรีบออกตัว
   “ผมมีเสื้อผ้าใส่แล้วครับ  คุณทิมแบ่งมาให้ตั้งหลายชุด”

   คริสไม่สบอารมณ์กับคำตอบเมื่อธุระที่เขาฝากแฟรงค์ไว้ไม่เรียบร้อยด้วยดี   เขายิ้มให้เมื่อเห็นหนุ่มน้อยหน้าจ๋อยลง

   “อยู่ที่นี่นอนหลับสบายหรือเปล่าไมเคิล..”

   “ครับ ผมหลับสบายทั้งสองคืนเลย ขอบคุณคุณคริสครับที่ให้ผมอาศัยอยู่ด้วย”    ไมเคิลยกมือไหว้อีก  คริสอดหัวเราะไม่ได้

   “เธอเป็นเด็กลูกครึ่งที่มืออ่อนมากเลยนะไมเคิล ยิ่งกว่าเด็กไทยแท้ๆ ซะอีก  ไป..พาฉันไปดูห้องพักเธอซิ  มีอะไรขาดเหลือบ้าง”

   คริสกอดคอเด็กชายพาเดินออกมาจากสนามตรงไปที่ตึก  กำลังจะก้าวขึ้นก็ต้องหยุดชะงัก  เพราะหนุ่มน้อยยื้อไว้ไม่ยอมก้าวเดินตามมา

   “หยุดทำไมล่ะ ไมเคิล..  จะทำอะไรอีก”

   “เปล่าทำครับ  คุณคริสจะให้ผมพาไปที่ห้องไม่ใช่หรือครับ”

   “ใช่.. แล้วเธอจะไปไหนอีกล่ะ”

   “ไปที่ห้องไงครับ ห้องผมอยู่ด้านหลัง”  ไมค์ชี้มือไปที่ห้องพักตัวเองซึ่งอยู่ที่เรือนคนรับใช้ด้านหลัง
 
   คริสไม่สบอารมณ์อย่างแรง รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกคนใหม่ของบ้าน  ซึ่งมักจะถูกต้อนรับด้วยความผิดพลาดอย่างนี้ทุกคน  แต่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับไมเคิลเพราะครั้งนี้เขาฝากธุระไว้กับแฟรงค์ไม่ใช่โอ

   คริสฝืนยิ้มให้หนุ่มน้อย
   “ไปซี..  พาฉันไปดูห้องเธอหน่อย ไมเคิล..”

              ทันทีที่ประตูห้องพักเปิดออก เด็กชายรีบทรุดตัวลงพับเสื้อผ้าที่กองอยู่บนที่นอน มันเป็นเสื้อผ้าเก่าที่หนุ่มน้อยทั้งสี่คนบริจาคให้ 

“ขอโทษครับ ผมยังไม่ได้พับผ้าเลย”

   คริสยืนอึ้งพูดไม่ออกกับสภาพห้องที่เห็นซึ่งมีขนาดแค่ 2 x 3 เมตร  มันเล็กกว่าห้องที่คนรับใช้คนอื่นๆ อยู่ซะอีก  ถ้าเขาจำไม่ผิดมันเป็นห้องว่างสำหรับเก็บของแต่ไม่เข้าใจว่ามันถูกแปลงสภาพให้เป็นห้องนอนของเด็กชายได้อย่างไร

              คริสรู้สึกโกรธและอารมณ์เสียอย่างมากแต่พยายามซ่อนความรู้สึกไว้ ไม่อยากให้เจ้าหนูซึ่งไม่คุ้นเคยกับอารมณ์ของเขาตกใจกลัว

   “ลุกขึ้น ไมเคิล..  ไม่ต้องพับแล้ว”

   “ครับ”   เด็กชายเงยหน้าขึ้น  เห็นสีหน้าของคุณคริสก็รีบลุกขึ้นยืน

   “นั่นสมุดอะไร  สำคัญมั้ย”  คริสพยักหน้าไปที่สมุดซึ่งซุกอยู่ใต้หมอน

   “เอ่อ..”  ไมค์ยิ้มอายๆ  “ไดอารี่ของผมครับ”

   “หยิบขึ้นมาซิ”

   ไมเคิลก้มลงหยิบสมุดมาถือไว้ ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรก็ถูกคริสคว้าข้อมือจูงออกจากห้องพาเดินไปที่ตึก เด็กชายไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะรู้แล้วว่าคุณคริสอารมณ์ไม่ดี  นึกถึงคำพูดของลุงชมที่ว่าอย่าให้คุณคริสโกรธ ไม่มีใครเข้าหน้าติดตอนนี้ไมค์เองก็แทบจะไม่กล้ามองหน้าคุณคริสแล้ว ใจเต้นตุ้บตับ ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดหรือทำอะไรไม่ถูกใจหรือเปล่าถึงทำให้คุณคริสอารมณ์ไม่ดี….




 :oni1: :oni1:



ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #12 เมื่อ19-08-2008 14:07:57 »

^
^
จึ้ก!

ฮัดโช้ะ!

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #13 เมื่อ19-08-2008 14:15:29 »

มีคำว่า "คนพิเศษ" ลอยขึ้นมาเต็มเลย  :m1: :m1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #14 เมื่อ19-08-2008 14:19:24 »

[3]  

 

            คริสอารมณ์เสียมากขึ้นเมื่อมาที่ตึกแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลย  โดยเฉพาะแฟรงค์ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่พาไมเคิลมาส่ง เพิ่งโทรมาแจ้งพ่อบ้านลูว่าจะกลับเย็นนี้ มิน่าล่ะ! เพราะเจ้าแฟรงค์ไม่อยู่ซ้ำยังฝากธุระไว้กับหนุ่มแสบ 4 คน  เจ้าหนูของเขาจึงถูกต้อนรับขับสู้อย่างดี

          คริสพาเด็กชายมาที่ห้องนอนของเขา  สั่งให้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่  คริสชอบให้สมาชิกในบ้านแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยไม่สกปรกมอมแมม  ไมเคิลรีบทำตามคำสั่งแต่โดยดีไม่กล้าซักถามอะไร  

            คริสสั่งพ่อบ้านโทรเรียกหนุ่มแสบทั้งหมดกลับมาภายใน 1 ชั่วโมง  สำหรับแฟรงค์เขาโทรตามด้วยตัวเองโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูดหรือซักถามอะไรทั้งสิ้น

          “ไม่ว่านายกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน..  ฉันให้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง  ถ้าไม่รีบกลับมาให้ทันเวลาอย่าหาว่าฉันโหดนะ แฟรงค์..  เงินเดือนเดือนนี้ทั้งเดือนอาจเหลือแต่ซองเปล่า…”

          คริสเดินสำรวจห้องพักในบ้านฆ่าเวลา  เขาเคยคิดว่าคฤหาสน์หลังนี้มีห้องพักมากมายเกินความจำเป็นหรือเปล่า  แต่เอาเข้าจริงๆแล้วสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนห้องพักเหลือว่างเพียงไม่กี่ห้อง   ชั้น 3 ของคฤหาสน์เป็นที่พักผ่อนส่วนตัวของเขา เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ  ห้องนอนขนาดใหญ่และห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง  ส่วนพักผ่อนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ห้องทำงานและฟิตเนสส่วนตัว  วันไหนอารมณ์ไม่ดีคริสแทบจะไม่ก้าวลงจากชั้นเลย

             บริเวณชั้นสองมีห้องพักทั้งหมด 4 ห้อง   แฟรงค์พักอยู่ห้องริมปีกขวา  เป็นห้องสูทระดับ 5 ดาว  ในฐานะที่แฟรงค์เป็นคนสนิทและเป็นผู้ดูแลจัดการเรื่องส่วนตัวให้เขา  อีก 3 ห้องเป็นห้องรับรองแขก ห้องริมปีกซ้ายเป็นห้องสูทเช่นเดียวกับห้องพักของแฟรงค์  อีก 2 ห้องที่เหลือเป็นห้องพักระดับ Superior   ห้องพัก 3 ห้องนี้เขาเก็บไว้รับรองแขกสำคัญ  

              นานแล้วที่คริสไม่ได้เดินตรวจตราห้องพักของสมาชิกในบ้าน  เป็นที่รับรู้กันว่านานๆ ครั้งคริสจะเดินตรวจความเรียบร้อยภายในห้องต่างๆ โดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า  นอกจากเขาจะชอบให้ทุกคนแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยแล้ว  ห้องพักก็ต้องเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย

              คริสตั้งใจว่าจะไม่รับอุปการะใครอีกแล้ว  ทุกวันนี้เขาปวดหัวและวุ่นวายพอแรง  แต่แล้วเจ้าหนูไมเคิลก็ย่างกรายเข้ามาเป็นสมาชิกคนที่ 6 ของบ้านจนได้  เขาสั่งให้แฟรงค์ปรับห้องว่างชั้นล่างที่ยังเหลืออยู่อีกหนึ่งห้องเป็นห้องนอนของไมเคิล  ห้องนี้อยู่ติดกับห้องนอนของหนุ่มน้อยทั้งสี่  ถูกออกแบบให้เป็นห้องพักผ่อนและห้องทำงานของแขกที่พักอยู่บริเวณชั้นล่าง  แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครใช้ห้องนี้ตามวัตถุประสงค์   เพราะภายในห้องนอนของแต่ละคนมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน  และส่วนใหญ่จะมานั่งพักผ่อนรวมกันที่โถงพักผ่อนหรือห้องเธียร์เตอร์  ห้องที่ว่านี้จึงกลายเป็นห้องเก็บของ ใครมีสมบัติที่ไม่ใช้หรือเบื่อก็จะมาฝากเก็บไว้ที่นี่  ระยะหลังหลายคนเรียกห้องนี้ว่าห้องเก็บของ

          หนุ่มน้อยทั้งสี่มีความเป็นอยู่สุขสบายจนเสียนิสัย  คอยแต่จะอิจฉาสมาชิกใหม่ ทิมมี่ซึ่งเป็นสมาชิกคนสุดท้ายและมีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มก็เคยโดนรังแกมาแล้ว  สำหรับไมเคิล คริสจึงตั้งใจไว้ว่าจะดูแลเจ้าหนูคนนี้เป็นพิเศษ  เพราะนอกจากจะเป็นเด็กกว่าหนุ่มแสบพวกนั้นแล้ว การได้พบกันระหว่างเขากับไมเคิล ยังเป็นเรื่องประหลาดที่เขาต้องค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง

          คริสหยิบเสื้อผ้าของทิมมี่ชุดที่คิดว่าไมเคิลน่าจะใส่ได้ และสั่งพ่อบ้านนำขึ้นไปให้เจ้าหนูบนห้องเขา  คริสเหลือบดูนาฬิกาใกล้จะถึงเวลาหนึ่งชั่วโมงตามที่นัดหมาย  ถึงเวลาที่เขาต้องพิพากษาคดีอีกแล้ว…

 

 

F a t h e r h o o d

 

 

((ไมเคิลเขาต่างจากพวกเธอตรงไหน… ถึงพาเขาไปพักในที่แบบนั้น))

          คำถามเป็นภาษาอังกฤษทำให้หนุ่มน้อยทั้งสี่นั่งคุกเข่าก้มหน้านิ่ง  ไม่มีใครตอบคำถามไม่ใช่ไม่เข้าใจแต่ไม่กล้า…  เพราะรู้ว่าคุณคริสกำลังโกรธมาก  

          คริสเปลี่ยนคำถามใหม่เป็นภาษาไทย

          “ใครเป็นคนพาไมเคิลไปพักที่ห้องนั้น  ตอบซิโอ..”  

          เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสีหน้าเหมือนสำนึกผิด  แต่ยังมีข้อแก้ตัว

          “ผมขอโทษครับคุณคริส  ผมเข้าใจผิด  คุณแฟรงค์บอกให้ผมจัดห้องเก็บของแต่ไม่ได้บอกว่าห้องเก็บของบนตึกครับ”

          คริสรู้สึกโกรธที่โอไม่รับผิด ซ้ำยังแก้ตัวน้ำขุ่นๆ  เขารู้นิสัยหนุ่มน้อยทั้งสี่คนดีว่าใครมีนิสัยอย่างไรจึงไม่ซักถามให้เสียเวลา ลงโทษก่อนเดี๋ยวก็ยอมรับสารภาพเอง

          “บอยกับทิมมี่ยืน 3 ชั่วโมง แล้วอนุญาตให้ไปทานข้าวและเข้านอนได้  แจ๊คกับโอ เธอสองคนยืน 6 ชั่วโมง  เข้านอนโดยไม่ให้ทานข้าว”

          เวลาขณะนี้คือ 6 โมงเย็น  ฟังดูแล้วไม่โหดร้ายเท่าไรสำหรับการลงโทษด้วยการให้ยืนกอดอกอยู่กับที่  แต่ที่แย่หน่อยคือ จะต้องยืนอยู่ในวงกลมโลหะเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2 ฟุต  หากขยับหรือก้าวออกจากวงนอกจากจะมีเสียงดังแล้ว ยังถูกไฟช็อตพอเจ็บๆ คันๆ  และจะทำให้เวลาที่ตั้งไว้ย้อนกลับไปตั้งต้นที่ศูนย์ใหม่

          บอยกับทิมทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้  คริสรู้ว่าเด็กสองคนนี้ไม่เกี่ยวข้องด้วย  แต่เขาจำเป็นต้องลงโทษเพราะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน

          หนุ่มแจ๊คคลานออกมาข้างหน้า   จับขาคริสไว้และกล่าวขอโทษ

          “คุณคริสครับ  ผมขอโทษ  ผมไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย  ผมบอกโอแล้วว่าเป็นห้องเก็บของบนตึก  แต่โอบอกว่าไม่ใช่”

          “นายเห็นดีด้วยกับฉันนะแจ๊ค  ไอ้เพื่อนทรยศ!!..  คิดจะเอาตัวรอดเหรอ”

          โอแหวใส่แจ๊คแต่ต้องสลดลงเมื่อเจอสายตาของคริสจ้องเขม็งมาที่เขา คริสทรุดตัวลงตรงหน้าเด็กหนุ่ม ใบหน้ายิ้มละไมมีเสน่ห์ชวนฝันของเขา ทำให้ทั้งสาวและหนุ่มหลงใหลมามากต่อมาก

          “ว่าไงโอ..  ถ้าไม่รับว่าเธอจงใจทำก็ยืนคนเดียวจนถึงเช้า ให้แจ๊คเข้านอนตอนเที่ยงคืน”

          เด็กหนุ่มสะดุ้งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

          “ไม่นะฮะคุณคริส  ผมขอโทษครับ ผมยอมรับผิดแล้ว ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้น  กะว่าวันนี้จะมาจัดห้องที่ตึกให้  ไม่คิดว่าคุณจะกลับมาเร็ว  ผมขอโทษครับ”

          แค่นี้แหล่ะที่คริสต้องการ คำกล่าวขอโทษของคนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิด บอยและทิมถูกยกเลิกคำสั่งไม่ต้องโดนทำโทษ เพราะไม่เกี่ยวข้องด้วยจริงๆ  สำหรับแจ๊คให้ยืน 3 ชั่วโมง  ส่วนโอยืน 6 ชั่วโมงแต่เอาเข้าจริงๆ ยืนไม่ถึง  เพราะแฟรงค์กลับมาช่วยขอร้องไว้โดยบอกกับคริสว่า  เขาผิดเองที่ฝากเรื่องทั้งหมดให้โอจัดการแทน

           “สำหรับนายเจอเต็มๆ อยู่แล้วแฟรงค์  ไม่ต้องขอรับผิดแทนเด็กหรอก”

          “โอเค! คริส  แต่ผมไม่ยอมยืนในวงกลมหรอกนะ”

          “ได้ซี  ฉันไม่ให้นายยืนหรอก  แค่ตัดเบี้ยเลี้ยงครึ่งเดือนก็พอ”

          แฟรงค์ตาเหลือก  คุกเข่าอ้อนวอนอย่างเดียวกับที่หนุ่มแสบทั้งหลายทำ เพราะพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลจริงๆ

          “โอ! ไม่นะคริส   ลงโทษอย่างอื่นเถอะ   ให้ผมทำอะไรก็ได้   นะคริสนะ  ได้โปรด….. ค่าใช้จ่ายเดือนนี้ติดลบอื้อเลย  ผมต้องตายแน่ถ้าโดนตัดเบี้ยเลี้ยง…”

          คริสส่ายหน้าด้วยความระอาใจ   เป็นเหมือนกันหมดทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่

 
          คืนนั้นคริสให้ไมเคิลนอนในห้องของทิม โดยขอให้ทิมไปนอนกับบอยที่ห้อง  แต่กว่าทิมจะยอมยกห้องให้ก็ยึกยักน่าดู  จนคริสต้องจูงมือไมเคิลกลับและพูดเปรยๆ ว่า

          “ไม่มีใครเต็มใจยกห้องให้ก็ไม่เป็นไร   ไปนอนข้างบนกับฉันดีกว่า  จะนอนในห้องเล็ก หรืออยากจะนอนห้องเดียวกับฉันก็ได้นะไมเคิล เตียงฉันใหญ่และกว้างพอที่เธอจะนอนดิ้นได้อย่างสบาย   อยากจะนอนกอดฉันก็ได้นะ ฉันอนุญาต..”

          เท่านั้นเองทิมและบอยก็แย่งกันยกห้องตัวเองให้  เพราะกลัวว่าไมเคิลจะได้นอนกับคุณคริสของเขา  ทำเอาเด็กชายงงตามไม่ทันคนพวกนี้

          ในที่สุดไมเคิลก็มีห้องส่วนตัวโดยที่ห้องเก็บของก็ไม่ได้ถูกปรับเปลี่ยน  คริสสั่งให้หนุ่มแสบทั้งสี่คนสลับและย้ายห้องกัน  ห้องพักของโอมีขนาดใหญ่กว่าห้องคนอื่น  คริสจึงสลับให้บอยและทิมมาอยู่ด้วยกัน

          “ทิมกับบอยย้ายมานอนด้วยกันในห้องโอ โอไปนอนห้องบอย และให้ไมเคิลนอนห้องทิม”  

          ลับหลังคริสทุกคนแอบบ่นกันโดยเฉพาะหนุ่มโอโวยวายไม่พอใจที่แจ๊คไม่โดนแจ๊คพ็อทด้วย ส่วนทิมกับบอยไม่ค่อยมีปัญหา  ถึงจะไม่ได้อยู่ห้องเดี่ยวส่วนตัวแต่ก็ดีใจที่ได้พักอยู่ด้วยกัน

          ในขณะเดียวกันไมเคิลก็ไม่สบายใจเลยกับการได้ห้องพักส่วนตัวมา  แต่ทำให้คนอื่นๆ ต้องเดือดร้อนกันอย่างนี้

 

 

F a t h e r h o o d

 

 

         ในห้องพักของบอยและทิมมี่  ซึ่งเป็นห้องพักเก่าของโอ

          “แจ๊ค..  พักนี้คุณคริสเรียกนายขึ้นไปหาบ้างหรือเปล่า”

          แจ๊คส่ายหน้า  โอจึงหันไปพยักหน้ากับทิมและบอย  

         “นาย 2 คนล่ะ”

          เมื่อบอยและทิมส่ายหน้าอีก  สีหน้าของโอเริ่มเครียดและเดินวนไปมากลางห้อง  รู้สึกฉุนมากขึ้นเมื่อเพื่อนๆ ไม่สนใจคำถามของเขา   บอยและทิมนั่งดูอินเตอร์เนทอยู่หน้าเครื่องคอมฯ  แจ๊คนั่งดูนิตยสารรถอยู่บนเตียงด้วยความหวังว่าสักวันคุณคริสอาจจะซื้อให้ถ้าเขาทำตัวดีๆ

          “นี่พวกนายไม่คิดอะไรบ้างเลยเหรอ”

          ทุกคนหันมองโอซึ่งยืนท้าวสะเอวอยู่กลางห้อง

          “คิดอะไรเหรอ..”    แจ๊ค บอยและทิมกล่าวถามขึ้นพร้อมๆ กัน

          “พวกนายอยู่เฉยกันได้ยังไง   สองอาทิตย์เต็มๆ แล้วนะที่ไอ้เจ้าเปี๊ยกนั่นมาอยู่ด้วย  คุณคริสเรียกมันขึ้นไปที่ห้องทุกคืน  ไม่คิดอะไรบ้างเลยหรือไง”

          “คิดทำไม  ใครมาใหม่ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น  คุณคริสเห่อของเล่นใหม่ เดี๋ยวเบื่อก็เลิก  กับพวกเราก็เป็นอย่างนี้ทุกคน”

          แจ๊คให้ความเห็นอย่างสบายๆ  บอยกับทิมพยักหน้าเห็นด้วย

          “ใช่..  ตอนทิมมาใหม่ๆ  คุณคริสก็เรียกหาเกือบทุกคืน  จนนายขยาดเลยใช่มั้ยทิม..  ถึงกับนั่งร้องไห้ในห้องน้ำเลย…”    

          บอยหันมาเย้าคู่หู  ในขณะที่ทิมมี่ยิ้มอายๆ

         “มันไม่ใช่แค่นั้นนะโว้ย!!..  พวกนายไม่ได้สังเกตเลยเหรอ  ว่าเจ้าเปี๊ยกนั่นไม่ได้ผ่านคุณแฟรงค์ก่อนเหมือนพวกเรา”

          “คุณคริสอาจจะอยากสอนบทเรียนให้กับไมเคิลด้วยตัวเองก็ได้นะโอ”

          บอยให้ความเห็น

          “ไม่จริงหรอก  คุณคริสไม่ชอบสอนใครเรื่องนี้  ไม่ชอบเห็นใครตกใจกลัวหรือถอยหนี  เขาถึงให้คุณแฟรงค์เป็นคนสอนทุกอย่างกับพวกเรา  แต่กับเจ้าไมค์ ทำไมคุณคริสถึงคิดจะสอนมันเอง  เป็นเพราะอะไร  มันมีดีอะไรวะ!!..”

          ประโยคสุดท้ายโอพูดด้วยความฉุนเฉียว กระโดดขึ้นเตียงนอนด้วยอารมณ์ริษยาจนแจ๊คอดหัวเราะไม่ได้  

           “สงบสติหน่อยโอ.. ดีไม่ดีเจ้าไมค์มันก็ส่งกระแสจิตมาเข้าฝันคุณคริสให้ไปรับมันที่เกาะได้ก็แล้วกัน…”



:a11: :a11:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2008 17:59:36 โดย j-muay »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #15 เมื่อ19-08-2008 15:17:34 »

จิ้มๆๆๆ

เจ้หมวย

สงสารไมค์อะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #16 เมื่อ19-08-2008 15:22:10 »

 :เฮ้อ: ยังอ่อนวัยนัก  :เฮ้อ:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #17 เมื่อ20-08-2008 10:38:45 »

ทำไมล่ะอ่อนคิดไรแบบนี้เนี้ย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #18 เมื่อ20-08-2008 11:38:48 »

เห็นชื่อเจ๋หมวยก็รีบเข้ามาอ่านเลย ก๊าบ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #19 เมื่อ20-08-2008 11:44:33 »

ตามมาจิ้มกะเช้าบ้านเค้าไม่ทัน :sad2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2008 13:27:17 โดย ไต๋ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #19 เมื่อ: 20-08-2008 11:44:33 »





ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #20 เมื่อ20-08-2008 12:30:39 »

[4]



คริสนั่งเอกเขนกบนโซฟา สายตาจับจ้องเด็กชายซึ่งกำลังคร่ำเคร่งกับแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษที่เขาให้ทำในคืนนี้ เขาให้ไมเคิลขึ้นมาหาที่ห้องทุกคืนเพื่อสอนภาษาอังกฤษให้วันละ 1-2 ชั่วโมง  เพราะหลังจากที่เด็กชายเริ่มคุ้นเคยและไว้ใจเขามากขึ้น  คริสจึงเลียบเคียงถามเรื่องราวส่วนตัว ซึ่งเจ้าหนูก็ยอมเล่าให้ฟังแต่โดยดี  คริสบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับหนุ่มน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงเป็นผู้รับกระแสจิตที่ไมเคิลส่งถึงพ่อบนเกาะร้างนั้น…




- F a t h e r h o o d -



… ตั้งแต่จำความได้… ไมค์ไม่เคยเห็นตัวจริงของพ่อเลย แม่บอกว่าพ่ออยู่บนสวรรค์ พ่อของไมค์เป็นนักธุรกิจชาวแคนาดาหน้าตาดีมาก ไมค์จึงเป็นลูกครึ่งที่น่ารัก ใครเห็นก็อดหยิกแก้มและจับหัวไม่ได้

... แม่เล่าว่า…พ่อไม่ใช่ผู้ชายที่แม่แต่งงานด้วย พ่อกลับประเทศของพ่อไปโดยไม่รู้ว่าแม่มีไมค์ แต่พอไมค์อายุได้ 2 ขวบ แม่ก็ติดต่อกลับไปหาพ่อบอกว่าแม่มีไมค์ซึ่งเป็นลูกชายของพ่อ พ่อเงียบหายไปหลายเดือนไม่ยอมส่งข่าวตอบมา แม่เข้าใจว่าพ่อคงไม่เชื่อที่แม่บอกหรือไม่ก็คงไม่อยากรับผิดชอบไมค์ แต่แล้วแม่ก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะเดินทางมารับไมค์ไปอยู่ด้วย พ่อเสียชีวิตบนท้องฟ้าจะไม่ให้ไมค์คิดว่าพ่ออยู่บนสวรรค์ได้ยังไง

... ตั้งแต่ไมค์รู้ว่าตัวเองมีพ่อเป็นฝรั่ง เวลาเดินไปไหนมาไหนทุกครั้งที่เห็นผู้ชายต่างชาติที่เป็นฝรั่ง ไมค์จะมองจนเหลียวหลังเลย อยากรู้จังว่าพ่อมีหน้าตายังไง ไมค์เซ้าซี้ถามแม่ตั้งแต่จำความได้ว่าอยากเห็นหน้าพ่อ จนเมื่อไมค์อายุ 5 ขวบ แม่ก็ยื่นรูปใส่มือและบอกว่าเป็นคนที่ไมค์อยากรู้จัก วินาทีแรกที่ได้สบตากับผู้ชายในรูปไมค์เห็นดวงตาสีฟ้าคู่สวยนั้นส่องประกายแวววับให้  ไมค์หลงรักชายในรูปจับใจ หลับฝันถึงทุกวันทุกคืนเลย….

... สามีคนปัจจุบันของแม่คือลุงชาติ ต่อหน้าแม่จะทำดีกับไมค์   แต่ลับหลัง  เขาแอบกระซิบกับไมค์บ่อยๆ ว่าเขาเกลียดคนต่างชาติและเด็กลูกครึ่ง

... ลุงชาติพาแม่และครอบครัวไปพักร้อนทางทะเลและตั้งแคมป์ผจญภัยบนเกาะร้าง ไมค์หลงกับทุกคนในวันสุดท้ายขณะลัดเลาะป่าเพื่อข้ามไปขึ้นเรืออีกฟากหนึ่งของเกาะ กว่าจะหาทางออกมาที่ที่เรือจอดอยู่ได้ก็กินเวลานานหลายชั่วโมง พอมาถึงก็ไม่พบใคร เห็นเรืออยู่ลิบๆ กลางทะเลไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า.. ไมค์พยายามปลอบใจให้เข้มแข็งไม่คิดว่าตัวเองถูกทิ้งเพราะมีแม่ไปด้วย จึงนั่งคอยโดยหวังว่าทุกคนจะย้อนกลับมารับ… ไมค์นั่งคอยนานมาก… นานเป็นวันๆ นานจนลืมไปเลยว่าตัวเองนั่งคอยอะไรอยู่…



- F a t h e r h o o d -



“ภาษาอังกฤษยากมั้ยครับ คุณคริส”
“สนใจเหรอ ไม่ยากหรอกถ้าเธอตั้งใจ ภาษาไทยของเธอยากกว่าเยอะ ฉันยังพูดได้”
“จริงด้วยครับ คุณคริสเก่งจัง ผมอยากพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง”
“จะไปพูดกับใครหรือไมเคิล”
“ผมอยากคุยกับพ่อเป็นภาษาอังกฤษ ทุกครั้งที่ผมเจอพ่อในฝันเราพูดกันคนละภาษาแต่เราก็เข้าใจกัน จริงๆ นะครับ ถ้าผมพูดภาษาของพ่อได้ พ่อต้องดีใจแน่ๆ ”

คำตอบที่ได้รับทำให้คริสถึงกับอึ้ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงยอมสละเวลาคืนละ 1 - 2 ชั่วโมง สอนภาษาอังกฤษให้



- F a t h e r h o o d -



“เสร็จหรือยังไมเคิล เลยเวลาแล้วนะ”
“จะเสร็จแล้วครับ เหลืออีกข้อเดียว” เด็กชายกล่าวตอบโดยไม่ยอมเงยหน้า

ไมเคิลยื่นแบบฝึกหัดให้คริส และทรุดตัวลงนั่งที่พื้นแต่ถูกมือใหญ่ฉุดให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ
“วันนี้ทำไมทำนานจัง ยากเหรอ”

ไมเคิลพยักหน้าหงึกๆ และยิ้มเขิน ชะเง้อมองคริสตรวจแบบฝึกหัดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ คริสมีสีหน้าเคร่งเครียดตรวจเสร็จก็ส่งสมุดคืนให้

“ทำคะแนนไม่ดีเลย เปิดหน้าถัดไปแล้วทำใหม่”

ไมค์เหลือบดูเวลาที่หัวเตียง   4 ทุ่มแล้ว
“แต่มันเลยเวลาแล้วนะครับ รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณด้วย ผมเอาลงไปนั่งทำที่ห้องนะครับ”

คริสลุกขึ้นยืน
“รบกวนที่ไหนกัน ฉันจะเข้านอนอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว เธอนั่งทำที่นี่แหล่ะ ทำเสร็จแล้วค่อยกลับลงไปนอน พรุ่งนี้เช้าฉันจะตื่นขึ้นมาตรวจ กู๊ดไนท์ ไมเคิล..”

คริสตื่นขึ้นกลางดึกก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นแสงไฟส่องสลัวอยู่ด้านนอก หันดูเวลาที่หัวเตียง ตี 2 กว่าแล้ว…

ไมเคิลฟุบหลับคาโต๊ะเขียนหนังสือ คริสส่ายหน้าและอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นมือขวาของเจ้าหนูยังจับดินสอคาไว้ที่แบบฝึกหัดข้อสุดท้ายแต่ยังไม่ได้ทำ คงจะง่วงมากจนฟุบหลับไปก่อน เขาดึงดินสอออกจากมือและอุ้มเด็กชายไปที่ห้องนอน



- F a t h e r h o o d -



ประตูห้องนอนถูกเคาะขณะที่คริสเดินออกจากห้องน้ำพอดี    หนุ่มโอในชุดพร้อมจะออกจากบ้านยืนยิ้มอยู่หน้าประตู

“กู๊ดมอร์นิ่งครับ คุณคริส..”

“มอร์นิ่ง โอ.. มีธุระอะไรแต่เช้า”

“ผมจะมาขอติดรถไปมหา’ลัยด้วยฮะ”

คริสพยักหน้ารับทราบ   “แจ๊คไปด้วยหรือเปล่า”

“ไม่ฮะ วันนี้แจ๊คไม่มีเรียน ”

คริสพยักหน้าอนุญาตและบอกให้ลงไปรอข้างล่าง หันหลังกลับก็ถูกเด็กหนุ่มเรียกไว้

“เอ่อ.. คุณคริสฮะ”

“อะไรอีก...”  คริสหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงเนือยๆ

โอหน้าเสียไม่ใช่เพราะท่าทีหรือน้ำเสียงของคริส แต่เพราะเห็นร่างเล็กงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอน สีหน้าโอสลดลงด้วยความน้อยใจเพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่คริสจะยอมให้ใครนอนอยู่เคียงข้างจนถึงเช้า ส่วนใหญ่จะถูกปลุกกลางดึกให้กลับลงไปนอนที่ห้องเสมอ

“ว่าไงโอ... ถ้าไม่มีอะไรก็ลงไปคอยข้างล่าง ทานอาหารเช้าให้เรียบร้อย ฉันจะเข้าไปแต่งตัว” คริสขยับจะถอยกลับเข้าห้องก็ถูกเด็กหนุ่มสวมกอดและตัดพ้ออย่างนึกไม่ถึง

“ผมคิดถึงคุณฮะ คุณคริส.. ผมไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดคุณเป็นเดือนแล้ว ให้ผมขึ้นมารับใช้คุณบ้างนะฮะ ได้โปรด..”

โอส่งสายตาอ้อนวอน กลิ่นน้ำหอมที่คริสชอบโชยกรุ่นอ่อนๆ ทำให้อารมณ์ของเขาอ่อนไหว อดไม่ได้ที่จะก้มลงจุมพิตริมฝีปากเด็กหนุ่มเบาๆ

“คืนนี้ค่อยเจอกัน  ลงไปคอยข้างล่างไป”

โอผละออกด้วยความดีใจ ยังไม่ทันได้กล่าวอะไรเสียงหนุ่มน้อยที่อ่อนวัยกว่าดังขึ้นด้านหลัง

“กู๊ดมอร์นิ่งฮะ คุณคริส..”

คริสหันไปเห็นเด็กชายยืนงัวเงียผมเผ้ายุ่งเหยิง

“มอร์นิ่งไมเคิล รีบตื่นทำไมล่ะ ยังง่วงอยู่ไมใช่เหรอ”

“ผมขอโทษฮะ คุณคริส.. เมื่อคืนผมทำไม่เสร็จ”

คริสเสยผมยุ่งเหยิงของหนุ่มน้อยด้วยความเอ็นดู

“ช่างเถอะ ฉันไม่ดีเองให้เธอหักโหมเกินไป คืนนี้ค่อยทำต่อแต่ต้องตั้งใจมากขึ้นกว่าเดิมนะ กลับไปนอนต่อเถอะยังเช้าอยู่เลย”

คำพูดและการกระทำของคริสทำให้อารมณ์ของหนุ่มโอพลุ่งพล่านด้วยความริษยา เข้าใจว่าเมื่อคืนคุณคริสคงพยายามสอนบทเรียนบางอย่างให้กับเจ้าหนู

“ผมกลับไปนอนที่ห้องนะฮะ”

คริสพยักหน้า    ไมเคิลหันมายิ้มให้โอและกล่าวทัก แม้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยชอบหน้าตัวเอง

“กู๊ดมอร์นิ่งครับ คุณโอ”

“มอร์นิ่ง” โอทักตอบตามมารยาท เป็นเพราะอยู่ต่อหน้าคุณคริสหรอก

ไมเคิลออกจากห้องไปโดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกยิ้มเยาะ

“ยืนทำอะไรอยู่อีกล่ะ ลงไปซะที ฉันจะแต่งตัว”

คริสเดินกลับเข้าไปในห้องนอน โอเดินตามเข้ามาด้วยอารมณ์กระฟัดกระเฟียด

“คุณคริสรับปากผมแล้วนี่ฮะ ว่าคืนนี้จะให้ผมอยู่ด้วย”

“แล้วไง.. เธอก็รู้นะโอ ฉันไม่ชอบคนเซ้าซี้” คริสเลือกชุดที่จะสวมและดึงออกจากตู้

“แต่คุณนัดไมเคิลคืนนี้อีกแล้ว คุณจะให้ผมกับไอ้หนูนั่นอยู่กับคุณพร้อมกันเหรอฮะ”

คริสหัวเราะ

“ทำไมต้องพร้อมกันด้วย ให้ไมเคิลขึ้นมาหาฉันก่อนตอน 2 ทุ่ม 3 ทุ่มครึ่งเธอค่อยขึ้นมา..”

โออ้าปากหวอก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ใช่เพราะคำพูดที่ได้ยินแต่เพราะเห็นหนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์อย่างคริสกำลังสวมกางเกงในต่อหน้าต่อตา

“ได้ยินมั้ยโอ.. ถ้าเข้าใจแล้วก็ลงไปได้”

“ทำไมฮะ คุณคริส”

“ทำไมอะไร!!..”

“คุณไม่เจอไมเคิลหนึ่งคืนไม่ได้หรือฮะ ไอ้เปี๊ยกนั่นมันมีอะไรดี คุณถึงเรียกหามันทุกคืนจนลืมพวกเราไปเลย”

คริสรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญเต็มที่ เสียงเขียวใส่โจอย่างไม่สบอารมณ์

“ฟังนะโอ ห้ามเรียกไมเคิลว่า “มัน” อย่าเรียกไมเคิลว่าไอ้เปี๊ยก..หรือไอ้หนู.. ฉันกับไมเคิลต้องเจอกันทุกคืน ถ้าเธอหรือใครๆ ต้องการพบฉันก็ต้องหลังจากที่ฉันเสร็จธุระกับไมเคิลแล้ว ถ้าเธอมีปัญหาและไม่เข้าใจก็ยกเลิกที่ฉันพูดเมื่อสักครู่ซะ”

“ไม่ฮะ.. ไม่นะฮะ.. ผมขอโทษ”

โอทรุดตัวลงคุกเข่าเป็นกิริยาสำนึกผิดที่หนุ่มแสบทั้ง 4 คน บางครั้งรวมถึงแฟรงค์ด้วยจะทำเมื่อเห็นว่าคริสโกรธมากจริงๆ

“ผมจะไม่เรียกไมเคิลว่ามันอีกแล้ว ผมขอโทษฮะ คืนนี้ 3 ทุ่มครึ่งผมจะขึ้นมารับใช้นะครับ คุณคริส..”

คริสยืนนิ่งไม่พูดอะไร  โอลุกขึ้นยืนโน้มตัวขึ้นหอมแก้มคริสก่อนวิ่งออกจากห้องไป   ร่างสูงส่ายหน้าด้วยความระอา



- F a t h e r h o o d -



ไมเคิลนอนลืมตาอยู่บนเตียง ไม่สามารถข่มตาหลับต่อได้ทั้งที่ยังง่วงอยู่  รู้สึกสับสนกับกิริยาที่คุณคริสปฏิบัติกับโอที่หน้าประตู ถ้าโอเป็นผู้หญิงไมค์ก็คงไม่แปลกใจอะไรอย่างมากก็แค่เขินเท่านั้นที่ออกมาเห็นพอดี คุณคริสเองก็เคยจูบและหอมแก้มไมค์หลายครั้งแต่ไม่ใช่แบบที่ทำกับโอเมื่อสักครู่นี้ ไม่ใช่แน่นอน….




- F a t h e r h o o d -



ห้องพักผ่อนคฤหาสน์ “บริเจคส์”

วันนี้เป็นวันหยุดสมาชิกในบ้านอยู่กันพร้อมหน้า ไม่มีใครออกไปไหนเพราะฝนตกเกือบตลอดวัน โฮมเธียเตอร์วันนี้ถูกจองคิวกันคนละเรื่อง 2 เรื่อง โดยเฉพาะทิมชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ

คริสนั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนโซฟาตัวโปรดที่มุมห้อง โดยมีไมเคิลนั่งคุกเข่าบีบนวดอยู่ข้างๆ แฟรงค์นั่งคุยโทรศัพท์เป็นชั่วโมงแล้วโดยไม่สนใจกับระบบเสียงเซนเซอร์ราวด์ของหนังแอคชั่นสุดมันส์ที่หนุ่มแจ๊ค บอย และทิม นั่งเรียงแถวบนโซฟายาวจ้องเขม็งตาไม่กระพริบ ในขณะที่โอนั่งที่โซฟาเดี่ยวตามลำพัง สายตาไม่ได้จับจ้องอยู่ที่จอทีวีเหมือนเพื่อนๆ แต่คอยชำเลืองมองที่คริสและไมเคิลตลอดเวลา

ความรู้สึกของโอขณะนี้ไม่ใช่ความหึงหวงแต่เป็นความอิจฉา เขาไม่เข้าใจว่าไมเคิลมีอะไรดีคุณคริสจึงหลงมากขนาดนี้ คุณคริสไม่เคยปฏิบัติกับใครแบบนี้มาก่อน แม้แต่ทิมซึ่งคุณคริสเคยหลงอยู่พักใหญ่ถึงขนาดเรียกหาเกือบทุกคืน   แต่เพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็เบื่อ

ก่อนที่ไมเคิลจะเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้าน พวกเขาสี่คนผลัดกันขึ้นตามเวรในวันที่คุณคริสเรียกหา คุณคริสจะไม่เอ่ยชื่อใครแต่จะบอกว่าใครว่างให้ขึ้นไป

สองเดือนที่ผ่านมานี้คุณคริสไม่เรียกหาพวกเขาเลยนอกจากไมเคิลคนเดียว ถ้าวันนั้นเขาไม่เป็นคนเอ่ยขอเองก็อย่าหวังว่าจะได้เข้าใกล้คุณคริส แต่แม้จะได้เข้าใกล้คุณคริสก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเขาเหมือนเดิม กลับให้นั่งบีบนวดเหมือนอย่างที่ไอ้หนูไมเคิลกำลังทำอยู่ตอนนี้ หลายวันมานี้โอจึงรู้สึกหงุดหงิด และยิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อพรรคพวกในกลุ่มไม่มีใครสนใจเลยว่า มีกระป๋องมาวางดักอยู่ตรงหน้าเพื่อให้พวกเขาเดินตกลงไป

โอสะดุ้งเมื่อถูกหอมแก้มโดยไม่รู้ตัว เสียงคุณแฟรงค์กระซิบข้างหู

“เสียมารยาทนะโอ.. แอบมองอยู่ได้ อิจฉาล่ะซี..”

โอหน้างอเมื่อแฟรงค์พูดแทงใจดำ แฟรงค์เข้าใจจิตใจและรู้จักนิสัยหนุ่มน้อยทั้งสี่คนดีกว่าคริส

“ไหนคุณเคยบอกไงฮะ ว่าคุณคริสไม่เคยหวงพวกเรากับคุณ ไมเคิลมาอยู่ที่นี่ 2 เดือนแล้ว คุณยังไม่ได้แอ้มเลยใช่มั้ยฮะ”

แฟรงค์สะอึกเมื่อถูกเด็กหนุ่มย้อนแทงใจดำเข้าบ้าง…

เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า…เด็กหนุ่มทุกคนที่เข้ามาอยู่ในความอุปการะและพักอาศัยในคฤหาสน์หลังงามแห่งนี้ นอกจากจะต้องเป็นเด็กดีรักการเรียนแล้วยังต้องเข้าใจและรับสภาพที่เป็นอยู่ได้ และไม่ใช่ธุระของคริสที่จะมาทำความเข้าใจกับหนุ่มน้อยเหล่านี้ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของแฟรงค์… ตั้งแต่ดูแลเรื่องการเรียนและความเป็นอยู่ตลอดจนสอนบทเรียนในการปรนนิบัติต่อเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าแฟรงค์จะสอนให้หนุ่มน้อยแต่ละคนเข้าใจและยอมรับ เขาต้องใช้วาทะศิลป์ในการเกลี้ยกล่อมสมาชิกใหม่แต่ละคนไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะทิมเขาต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนกว่าหนุ่มน้อยจะหายตกใจและยอมเรียนรู้จากเขา แต่ถึงกระนั้นเมื่อทิมขึ้นไปหาคริสในคืนแรกก็ถูกไล่กลับลงมาเพราะความไม่พร้อม คริสไม่ชอบการบังคับ แค่รู้สึกว่าเด็กตื่นกลัวหรือไม่เต็มใจเขาก็จะไม่แตะต้อง อย่างมากให้บีบนวดสักพักก็ไล่กลับห้อง
แต่สำหรับเด็กชายวัย 13 ปีคนนี้ คริสไม่ได้ออกปากให้เขาดูแลเหมือนเด็กคนอื่นๆ ซึ่งเขาเข้าใจว่าคริสอาจต้องการดูแลและฝึกสอนทุกอย่างให้กับเจ้าหนูเอง และเมื่อคริสไม่ออกปากเขาจึงไม่กล้าเข้าไปวุ่นวายกับไมเคิล และจริงอย่างที่โอว่า… ช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้คริสอยู่ใกล้ชิดเด็กชายเกือบทุกคืน น่าจะเบื่อได้แล้วแต่กลับไม่เบื่อ….

เมื่อโอพูดแทงใจดำเหมือนรู้ ทำให้แฟรงค์อดไม่ได้ต้องเดินไปหาคำตอบเพื่อคลายความข้องใจ เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ไมเคิลซึ่งกำลังบีบนวดที่ขาของคริสแต่สายตาจับจ้องที่ทีวี

“ทำไมนวดเก่งจัง หัดมาจากไหนหรือไมเคิล”

หนุ่มน้อยละสายตาจากทีวี หันมายิ้มให้

“ตอนเด็กๆ ผมต้องนวดให้แม่ทุกวันฮะ”

“อิจฉาคุณคริสจัง จองคิวเธอมาเป็นเดือนๆแล้ว เมื่อไรจะว่างนวดให้ฉันบ้างล่ะไมเคิล”

“เอ่อ.. ครับ เมื่อไรก็ได้”

แฟรงค์ขยับเข้าไปกระซิบถามเด็กชายเบาๆ

“จริงเหรอ คืนนี้เลยได้มั้ย”

ไมเคิลพยักหน้า กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเบาลงเช่นกัน

“ได้ครับ.. แต่ต้องดึกหน่อย กว่าผมจะออกจากห้องคุณคริสก็เกือบ 4 ทุ่ม บางทีก็ดึกกว่านั้น”

เรื่องที่คริสสอนภาษาอังกฤษให้กับไมเคิล เขาสั่งเด็กชายให้ปิดเป็นความลับเพราะเขาไม่เคยเสียเวลาในเรื่องนี้กับใครมาก่อน จึงไม่อยากให้เด็กคนอื่นเห็นว่าเขาลำเอียง

“ดึกแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ฉันคอยได้ เธอเสร็จธุระจากคุณคริสเมื่อไรก็ลงมาหาฉันที่ห้องเลยนะ โอเค..” แฟรงค์รีบนัดแนะกับเจ้าหนูด้วยความยินดี

“อะแฮ่ม!!!!  ” เสียงคริสกระแอมขัดจังหวะ แฟรงค์สะดุ้งเล็กน้อยขยับตัวออกห่างจากเจ้าหนู

“มีอะไรหรือไมเคิล..”

“คุณแฟรงค์อยากให้ผมนวดให้บ้างฮะ ให้ผมไปหาที่ห้องคืนนี้”

คริสปิดหนังสือพิมพ์โยนไปที่ชายหนุ่ม

“คุณแฟรงค์เขาล้อเล่นน่ะไมเคิล  เขาเส้นตื้น  ไม่ชอบให้ใครมาบีบนวดให้ ใช่มั้ย… แฟรงค์”

แฟรงค์ยิ้มแห้งๆ คำถามที่ย้อนกลับมาเป็นคำตอบแล้วว่าคริสไม่ต้องการให้เขายุ่งเกี่ยวกับเจ้าหนูไมเคิล แฟรงค์พยักหน้าและยิ้มให้หนุ่มน้อยซึ่งกำลังจ้องมองและถามเขาด้วยสายตา

“ฉันล้อเล่นน่ะ ไมเคิล.. อยากรู้ว่าเธอมีน้ำใจหรือเปล่า” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนและพูดเปรยๆ

“ไม่เป็นไรหรอก… รอให้เบื่อก่อนก็ได้…”

แฟรงค์เดินเลี่ยงออกจากห้องไป โอลุกขึ้นวิ่งตามไปติดๆ

“คุณแฟรงค์หมายถึงอะไรครับ ทำไมต้องให้เบื่อก่อน”

“ไม่มีความหมายหรอกไมเคิล อย่าใส่ใจเลย ไปนั่งดูหนังเถอะไม่ต้องนวดแล้ว”

“ครับ” ไมค์รับคำและลุกขึ้นไปหาที่นั่งหน้าจอ

….คอยไปเถอะแฟรงค์ อย่าหวังเลยว่าฉันจะเบื่อ….

นับวันคริสยิ่งหลงรักเด็กชายมากขึ้นและมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้   เป็นความสุขที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนไม่ว่าจะกับโอ แจ๊ค บอย หรือทิมมี่ ความสุขที่เขาได้รับจากหนุ่มน้อยเหล่านี้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวและเฉพาะเวลาที่อยู่ใกล้เท่านั้น แต่กับไมเคิลเหมือนเจ้าหนูอยู่ในหัวใจเขาตลอดเวลา ทั้งรักและห่วง  คริสบอกตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกที่เขามีให้ไมเคิลคืออะไรกันแน่...



- F a t h e r h o o d -



คืนนี้ไมเคิลไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษเพราะคริสโทรมาบอกว่าจะกลับดึกมากให้เข้านอนเลยไม่ต้องคอย หลังอาหารเย็นเด็กชายจึงกลับมาที่ห้องนั่งทบทวนแบบฝึกหัดที่ทำไป และฝึกอ่านออกเสียงตามที่คุณคริสสอน
เสียงเคาะประตูทำให้ไมค์ต้องรีบเก็บสมุดซ่อนไว้ใต้ที่นอนเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ตามที่คุณคริสสั่งไว้

“ทำอะไรอยู่ไมค์..”

แจ๊คถามด้วยความสงสัยเพราะไมเคิลชอบเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว ไม่ค่อยมาเข้ากลุ่มเอะอะเฮฮาด้วยกัน ทั้งๆ ที่รู้จักคุ้นเคยกันนานพอสมควรแล้ว

“อ่านหนังสืออยู่ เอ่อ.. เปล่าครับ ไม่ได้ทำอะไร”

ไมค์ตกใจที่พูดความจริงออกไป แจ๊คขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าไมเคิลอ่านอะไร ไม่ได้เรียนหนังสือซะหน่อย สายตามองไปที่โต๊ะเขียนหนังสือเห็นนิตยสารรถที่ไมค์เคยขอยืมเขามา

“โธ่เอ้ย! นายชอบดูรูปรถเหรอ ฉันมีอีกหลายเล่มเลยเดี๋ยวเอามาให้ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ อย่าเพ้อฝัน… ถึงแม้ตอนนี้นายกำลังเป็นคนโปรดของคุณคริส แต่อย่าคิดเอ่ยปากอยากได้เป็นอันขาด เพราะนอกจากจะข้ามหน้าข้ามตาพวกเราแล้ว นายเองก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะขับรถ ฉันพยายามไม่มีอคติกับนายนะไมเคิล อย่าให้ฉันรู้สึกไม่ชอบหน้านายเหมือนนายโอ คุณคริสเคยรับปากกับฉันว่าจะซื้อรถให้เมื่อถึงเวลา ถ้าฉันต้องอดได้เพราะนายเป็นต้นเหตุ นายเจ็บตัวแน่ ไมค์..”

แจ๊คกล่าวจบก็เดินกลับออกไปอย่างไม่สบอารมณ์กับเรื่องที่คิดและเข้าใจไปเอง จนลืมไปว่าตัวเองมาหาไมเคิลทำไม   ไมค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยความงุนงง  ร่างเล็กถอยกลับเข้าห้องก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงเรียกของแจ๊คอีกครั้ง

“เฮ้! ไมเคิล คุณแฟรงค์ให้มาตามนายไปที่ห้อง เดี๋ยวนี้เลยนะ”

เป็นครั้งแรกที่ไมค์ได้มีโอกาสเข้ามาในห้องของคุณแฟรงค์ พบสมาชิกทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าในห้องนี้ ไมค์เดินเข้ามาในห้องแต่เพียงแค่ 2 ก้าวก็ต้องหยุดชะงักกับภาพที่เห็นในจอทีวี คุณแฟรงค์ โอ แจ๊ค และทิมมี่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่บนเตียงจ้องดูตาไม่กระพริบ ราวกับดูหนังแอคชั่นมันส์ๆ อย่างนั้นล่ะ

“เอ่อ.. ขอโทษครับ” ไมค์รีบหันหลังเดินกลับไปที่ประตูแต่บอยยืนขวางไว้

“จะไปไหน ไมเคิล..” แฟรงค์ร้องถาม

“ผมขอตัวก่อนครับ เดี๋ยวค่อยมาใหม่” ไมค์ตะโกนตอบโดยไม่หันไปมอง ขยับจะเดินออกจากห้อง แต่บอยขวางไว้ไม่ยอมให้ออก

“ขอตัวไปไหนล่ะ มานี่ซี มานั่งดูด้วยกัน” แฟรงค์พยักหน้าให้บอย

“เอ่อ.. ไม่ฮะ ผมไม่ดู ผมขอตัวก่อน ผมไม่อยากดูฮะ ปล่อยผม…”

บอยฉุดกระชากไมเคิลมาจนได้เพราะตัวใหญ่กว่าเยอะ แฟรงค์ฉุดมือเด็กชายให้นั่งลงบนเตียง ไมค์ตกใจหันหลังให้จอทีวี ก้มหน้างุดไม่กล้าแม้แต่จะชำเลืองมองจนแฟรงค์อดหัวเราะไม่ได้

“อะไรกันไมเคิล.. ทำไมต้องตกใจขนาดนี้ด้วย นี่เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเพศศึกษานะ”

“ผมไม่อยากศึกษาวิชานี้ ให้ผมกลับออกไปเถอะครับคุณแฟรงค์..”

แฟรงค์จับหนุ่มน้อยให้หันหน้าไปหาทีวี ไมเคิลตกใจกับภาพที่เห็นจนหัวใจเต้นแรง ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าจะมีการกระทำแบบนี้ด้วย ทำไมทุกคนนั่งดูกันเฉยเหมือนนั่งดูรายการทีวีปกติเลย

“คุณคริสทำอย่างนี้กับเธอหรือเปล่าไมเคิล หือ..”

แฟรงค์กระซิบถามเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันทำให้ไมค์สะดุ้งและใจหายวาบ

“ไม่ครับ ไม่… คุณคริสไม่เคยทำ..”    ไมค์เบือนหน้าหนีไม่สามารถทนมองภาพในทีวีได้อีก รู้สึกกลัวจนตัวสั่น ขยับจะลุกก็ไม่ได้เพราะคุณแฟรงค์ใช้ขาหนีบตัวไมค์ไว้

“อะไรกันสองเดือนกว่าแล้วนะ คุณคริสยังสอนเธอไม่ถึงบทนี้อีกเหรอ นี่ถ้าให้ฉันสอนป่านนี้ได้ขึ้นสวรรค์กันไปแล้ว เขาให้เธอทำอะไรบ้าง หือ..”

แฟรงค์ขยับขาหนีบร่างหนุ่มน้อยแน่นขึ้นเมื่อเจ้าหนูพยายามจะลุกหนีให้ได้

“ปล่อยเถอะฮะคุณแฟรงค์ ผมจะกลับห้อง”

“ไม่ปล่อย ฉันหวังดีกับเธอนะไมเคิล เธอไม่อยากรู้วิธีปรนนิบัติคุณคริสของเธอให้มีความสุขหรอกเหรอ เขาช่วยชีวิตเธอไว้ เธอควรจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณเขานะ ไมค์”

ไมเคิลรู้สึกตกใจและตื่นกลัวกับเรื่องที่ได้ยิน คำพูดของคุณแฟรงค์กำลังจะตอบข้อสงสัยของพฤติกรรมและคำพูดแปลกๆ ที่ไมค์เคยเห็นและเคยได้ยินในบ้านหลังนี้

“ไม่ฮะ คุณคริสไม่ทำแบบนี้กับผม ผมอยากให้คุณคริสมีความสุข ผมทำทุกอย่างที่คุณคริสสั่งแล้วแต่ไม่ใช่แบบนี้หรอกฮะ ปล่อยเถอะครับคุณแฟรงค์ ผมจะกลับห้อง” ไมเคิลขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“คุณคริสไม่ทำกับเธอไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการนะไมเคิล แต่เขาบังคับและฝืนใจใครไม่เป็น เธอต้องเป็นฝ่ายปรนนิบัติคุณคริสรู้มั้ย ไอ้หนู”

“ใช่!! ตั้งแต่นายมาอยู่ที่นี่ คุณคริสไม่เคยเรียกหาพวกเราเลย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณคริสไม่ได้ทำอะไรกับนายแบบนี้ ไม่อย่างนั้นเขาไม่หลงนายจนลืมพวกเราหรอก”

โอกล่าวแทนเพื่อนๆ ด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นจริงด้วย

ไมเคิลตกใจจนพูดไม่ออกได้แต่ส่ายหน้า แฟรงค์รีบปล่อยเด็กชายเมื่อเห็นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไมเคิลลุกขึ้นกระโดดลงจากเตียงและวิ่งหนีออกจากห้องไป  :o12:    ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจไล่หลัง



- F a t h e r h o o d -



กลับเข้ามาในห้องนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วไมเคิลก็ยังไม่หายตื่นตกใจ ไม่ใช่ภาพที่เห็นในจอทีวีหรอกที่ทำให้ไมค์ตกใจมากขนาดนี้ แต่เพราะเรื่องของคุณคริสที่ไมค์รับรู้มาจากคำบอกเล่าของคุณแฟรงค์ต่างหาก

ดึกมากแล้วแต่ร่างเล็กยังนอนกระสับกระส่ายไปมา ในสมองมีแต่คำพูดของคุณแฟรงค์

….คุณคริสไม่ทำกับเธอ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการนะไมเคิล.. คุณคริสช่วยชีวิตเธอไว้เธอควรทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา……

….คุณคริสไม่ชอบบังคับฝืนใจใคร เธอต้องเป็นฝ่ายปรนนิบัติเขา ไมเคิล..




:m15: :m15:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #21 เมื่อ20-08-2008 13:21:38 »

^
^
^
ร้องด้วย  :m15: :m15:

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #22 เมื่อ20-08-2008 13:34:49 »

เฮ้ย !!

คริส คิดอะไรอยู่น้า :เฮ้อ:

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #23 เมื่อ20-08-2008 17:17:35 »

เฮะ ๆ มาต่อเร็วนะครับ


ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #24 เมื่อ20-08-2008 21:08:10 »

เฮอ เฮอ เฮอ...อีกเรื่องของคุณเจ๊หมวย
ก็ตามสิคร้าบ...มาช้าไปหน่อย
แต่ดีก่าไม่มาเนอะ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #25 เมื่อ21-08-2008 00:53:27 »

อารายกานมาอิจฉาอะำไรก่ะเด็กตัวเล็กๆๆอิอิ ไมค์น่ารักมากกกกกก
รออ่านตอนต่อไปค้าบ

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #26 เมื่อ22-08-2008 09:24:14 »

ไปสอนเด็กแบบนั้นซะได้ :เฮ้อ:คิดไรกัน :m31:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #27 เมื่อ22-08-2008 10:17:10 »

ว้าวววววววววววววววววว เจ๊หมวยกลับมาแล้ว แบบนี้ไม่อ่านไม่ได้แล้ววววววววว อิอิ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #28 เมื่อ22-08-2008 11:34:18 »

5



“เข้ามาซี ไมเคิล”

ไมค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นคุณคริสพันผ้าขนหนูไว้เพียงผืนเดียว ทั้งที่ปกติชอบใส่เสื้อคลุมมากกว่า

“เอ่อ.. คุณคริสเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ วันนี้งดก็ได้ครับ  ดึกแล้วด้วย”

“ทำไมล่ะ เธอง่วงเหรอ”

“เปล่าครับ ผมไม่อยากให้คุณคริสเหนื่อย”

คริสหัวเราะ
“ถ้าเธอไมง่วงหรือขี้เกียจฉันก็ไม่เหนื่อย เข้ามาไมเคิล.. อย่าโอ้เอ้”   คริสพยักหน้าให้เด็กชายเดินตามเข้ามาในห้อง

“นั่งทำแบบฝึกหัดไปก่อนไมเคิล.. ฉันจะอาบน้ำ เดี๋ยวจะกลับออกมาตรวจ”

คริสหายเข้าไปในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง เขาเผลองีบในอ่างน้ำอุ่นด้วยความเพลีย วันนี้เขาเหนื่อยมากจริงๆ ต้องวิ่งดูงานถึง 2 ที่ งานก่อสร้างอาคารเป็นงาน Job ของเขา ส่วนโรงงานต่อเรือยอร์ชเป็นธุรกิจส่วนตัวและกำลังอยู่ในระหว่างเร่งงานเพื่อให้ทัน order จริงอย่างที่ไมเคิลกังวลว่าเขาเหนื่อย แต่เมื่อวานงดสอนไปหนึ่งวันแล้ววันนี้เลยไม่อยากงด อย่างน้อยเรียกขึ้นมานั่งพูดคุยด้วยสักหนึ่งชั่วโมงก็ไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยขึ้น  กลับได้ความสุขใจและรู้สึกหายเหนื่อยมากกว่า

“เสร็จหรือยัง ไมเคิล..”

ไมค์สะดุ้งและใจหายอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อคุณคริสเข้ามายืนด้านหลังก้มลงดูแบบฝึกหัด กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ โชยเข้าจมูกทำให้ไมค์ใจเต้นตุ้บตับ

“ทำไมเพิ่งทำได้แค่ 2 ข้อล่ะ นี่มันแบบฝึกหัดเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่เลยนะ”

“เอ่อ.. วันนี้ผมไม่ค่อยสบายครับ คุณคริส”

…..แปลกจัง! ทำไมวันนี้จิตใจไมค์ไม่ค่อยอยู่กับตัว สะดุ้งทุกครั้งที่คุณคริสเรียก ...

คริสตกใจจับศีรษะหนุ่มน้อยซุกเอามือแตะหน้าผากด้วยความเป็นห่วง

“เป็นอะไรไมเคิล ไม่สบายมากหรือเปล่า”

“ไม่เป็นอะไรมากครับ ปวดหัวนิดหน่อยเอง”

“ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะ หือ..” คริสกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก้มลงหอมแก้มหนุ่มน้อยและกระซิบสั่งเบาๆ

“เดี๋ยวทานยาแล้วไปนอนซะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้นต้องไปหาหมอนะ”

ไมค์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจับไข้เมื่อถูกคุณคริสหอมแก้ม คุณคริสทำแบบนี้กับไมค์ทุกคืน แต่ทำไมคืนนี้ไมค์ต้องรู้สึกตื่นเต้นและกลัวด้วย

คริสเชื่อสนิทว่าหนุ่มน้อยไม่สบายเพราะมีอาการเหมือนจะจับไข้ เขาผละไปหายาและน้ำมาให้ดื่ม

"ทานยาซะไมเคิล แล้วกลับไปนอน พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาจะดีขึ้น”

ไมเคิลจำเป็นต้องทานยา เพราะไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองกำลังไม่สบายจริงๆ หรือเปล่า รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ

“ฉันจะพาไปส่งที่ห้อง”    คริสจูงมือเด็กชายจะพาไปส่งแต่ร่างเล็กขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตาม เขาหันมาส่งคำถามด้วยสายตา

“ผมไม่อยากไปนอนที่ห้อง” ไมค์ก้มหน้าลง “ผมขอนอนที่นี่ได้มั้ยฮะ”

คริสเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เป็นครั้งแรกที่ไมเคิลเอ่ยขออะไรจากเขา ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอย่าหวังเลยว่าคริสจะใจอ่อน ถึงจะไม่สบายก็เถอะ…

คริสหัวเราะในลำคอ ดึงเด็กชายเข้ามาสวมกอดและเงยหน้าขึ้นสบตา

“ได้ซีไมเคิล.. สำหรับเธอมีอะไรไม่ได้”

ไมเคิลแกล้งนอนหลับเกือบ 10 นาทีแล้ว คริสก็ยังไม่ยอมเข้านอน ไมค์แอบลืมตาขึ้นดูเห็นร่างสูงใหญ่ยังคร่ำเคร่งกับงานที่โต๊ะเขียนแบบ ไมค์รู้สึกสงสาร ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณคริสต้องเหนื่อยอยู่คนเดียว คุณแฟรงค์วันๆ ไม่เห็นทำอะไร แถมยังได้เงินเดือนจากคุณคริสอีก

….เห็นคุณคริสเหนื่อยแบบนี้ ไมค์ตัดสินใจแล้วว่าควรจะทำอะไรบางอย่างตอบแทนให้คุณคริสหายเหนื่อยบ้าง…

คริสดับไฟที่โต๊ะทำงานและเดินมาที่เตียงล้มตัวลงนอนด้วยความรู้สึกเมื่อยล้า สักพักก็ขยับตัวเข้าไปในผ้าห่ม ตกใจเมื่อเห็นเด็กชายนอนขดตัวอยู่ คริสส่ายหน้าเพราะเจ้าหนูเล่นนอนซุกอยู่ในผ้าห่มทั้งตัวจนเขามองไม่เห็น และลืมไปเลยว่าคืนนี้ไมเคิลขอนอนที่ห้องด้วย

คริสขยับร่างเล็กขึ้นมานอนหนุนหมอนและห่มผ้าให้ เขาแตะมือที่หน้าผากเมื่อเห็นว่าไม่มีอาการไข้ก็โล่งใจ ก้มลงจูบหน้าผากหนุ่มน้อยเบาๆ ก่อนดับไฟที่หัวเตียงและล้มตัวลงนอน

กำลังจะเคลิ้มหลับคริสก็สะดุ้งตื่นเมื่อถูกลำแขนเล็กป่ายมาสวมกอด นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ชอบให้ใครมานอนข้างๆ ด้วย โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องการหลับหรือพักผ่อนจริงๆ บางครั้งแค่มีใครนอนอยู่ข้างๆ ถึงจะอยู่ห่างๆ เขาก็นอนไม่หลับแล้ว คืนนี้คริสอนุโลมให้เด็กชายนอนด้วยเพราะวันนี้รู้สึกเหนื่อยมาก แต่ถ้าถึงขนาดเข้ามาสวมกอดอย่างนี้ต่อให้เหนื่อยขนาดไหนก็นอนไม่หลับ

คริสนอนนิ่งอยู่ชั่วครู่กะว่ารอให้หนุ่มน้อยหลับสนิทแล้วค่อยขยับร่างออกไป แต่แล้วก็เริ่มรู้สึกผิดปกติ เมื่อเจ้าหนูไม่ได้สวมกอดเขาด้วยแขนอย่างเดียว แต่ขยับขามาพาดที่ลำตัวเขาตามด้วยเสียงพึมพำเบาๆ เหมือนคนละเมอ

“ผมรักคุณคริสฮะ”

….เขาหูฝาดไปหรือเปล่าที่ได้ยินประโยคนี้จากปากไมเคิล ถ้าเป็นเด็กแสบพวกนั้นพูดเขาจะไม่แปลกใจเลย แต่นี่เป็นเจ้าหนูไร้เดียงสาที่เขาไม่กล้าแตะต้องหรือคิดเป็นอื่น นอกจากความรักที่ให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

คริสชักไม่แน่ใจว่าไมเคิลขยับเข้ามาสวมกอดเขาเพราะฝันหรือละเมอ เพราะมือของเจ้าหนูเริ่มอยู่ไม่สุก สอดเข้าไปในเสื้อนอนและลูบที่แผงอกเขาเบาๆ โอ!.. ให้ตายเถอะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ เขาขณะนี้คือไมเคิล มันน่าจะเป็นโอหรือแจ๊คมากกว่า

คริสเอื้อมมือเปิดไฟที่หัวเตียงและหันมาเขย่าร่างเล็กที่ซุกอยู่กับอก เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหนูมีสติหรือกำลังฝันอยู่กันแน่

“ไมเคิล.. หลับอยู่หรือเปล่า ตื่นก่อนเร็ว”

คริสตกใจเมื่อเด็กชายขยับตัวเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่จ้องมองมาไม่ได้ส่อแววงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน คริสยิ้มให้หนุ่มน้อยและเอ่ยถามเพื่อยืนยันความเข้าใจอีกครั้ง

“ฝันไปหรือเปล่าไมเคิล.. รู้มั้ยว่าเธอละเมอว่าอะไร”

หนุ่มน้อยส่ายหน้าและยืนยันคำพูดเดิม

“ผมไม่ได้ละเมอ ผมพูดจริงๆ ผมรักคุณคริสฮะ.. คุณคริสรักผมมั้ย..”

คริสขยับตัวขึ้นในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน คำถามของไมเคิลทำให้จิตใจเขาเริ่มไม่ปกติจำต้องตอบคำถามและฝืนยิ้มให้

“รักซีไมเคิล.. ไม่รักฉันคงไม่เสียเวลาอยู่ใกล้ชิดกับเธอทุกคืนอย่างนี้”  พูดจบก็ต้องใจหายวาบอีกเมื่อเด็กชายขยับขึ้นมาสวมกอดและซุกหน้าลงกับอก

“ผมก็รักคุณคริสฮะ ผมยอมทำทุกอย่างที่คุณต้องการ ถ้าทำให้คุณมีความสุข…”

“ไมเคิล.. พูดอะไรอยู่รู้ตัวหรือเปล่า”

“รู้ครับ คุณช่วยชีวิตผมไว้ คุณมีพระคุณกับผม จะทำอะไรก็ได้ผมยอมทุกอย่าง…”

คริสเริ่มไม่แน่ใจกับคำพูดจึงรั้งเด็กชายให้ลุกขึ้นนั่ง

“เธอหมายถึงอะไรไมเคิล อยากให้ฉันทำอะไรงั้นเหรอ”

“ทำเหมือนกับที่คุณทำกับคุณๆ ทั้งสี่คนไงฮะ” ไมเคิลก้มหน้างุดขณะตอบคำถามนี้

คริสกลืนน้ำลายลงคอ ไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลยว่าไมเคิลรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เขาสั่งห้ามทุกคนในบ้านไม่ให้บอกเล่าเรื่องราวอะไรให้เด็กชายฟัง ปล่อยให้ค่อยๆ รับรู้ไปเอง ส่วนตัวเขาไม่เคยคิดจะปิดบังแต่ก็จะไม่บอกเล่าถ้าไม่จำเป็น

“แน่ใจหรือไมเคิล.. ว่าเธอรู้ว่าฉันทำอะไรกับเด็กพวกนั้น”

ไมเคิลพยักหน้ารับทั้งที่ยังก้มงุดอยู่

คริสเงยหน้าเด็กชายขึ้น ดวงตาชวนฝันของเจ้าหนูในคืนนี้ส่อแววเชื้อเชิญจนอารมณ์ของเขาเริ่มอ่อนไหว

“แน่ใจนะไมเคิล.. ว่าพร้อมที่จะให้ฉันทำกับเธอแบบที่ทำกับคนอื่นๆ”

แทนคำตอบหนุ่มน้อยปลดกระดุมเสื้อนอนและถอดออก  ร่างเล็กขยับเข้าสวมกอดคริสและกระซิบคำพูดเดิม

“ผมรักคุณคริสฮะ… ”


คริสไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไป เมื่อเจ้าหนูที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมานานกว่า 2 เดือน เป็นฝ่ายเรียกร้องและต้องการความรักจากเขา เขาสวมกอดเด็กชายไว้แนบอก ตอบตัวเองไม่ได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ความรู้สึกที่มีให้ไมเคิลซึ่งเขามั่นใจว่าไม่ใช่แบบที่รู้สึกในตอนนี้ ทำไมจึงแปรเปลี่ยนไปได้ เขาเคยคิดว่ามันบริสุทธิ์กว่าความรู้สึกที่มีให้กับหนุ่มน้อยคนอื่นๆ ที่สุดแล้วมันก็ไม่แตกต่างกันเพียงแค่เด็กชายรับรู้และยินยอมเท่านั้น หรือเป็นเพราะเขาเก็บความต้องการของตัวเองไว้ยาวนานเกินไป เพราะตั้งแต่มีไมเคิลอยู่ใกล้ เขาไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์กับเด็กหนุ่มคนไหนเลย

ร่างเล็กบางสั่นสะท้านเมื่อถูกคริสจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปาก เขารีบผละออกเพราะรู้ว่าครั้งแรกของหนุ่มน้อยจะตกใจกลัวจนตัวสั่นอย่างนี้ทุกคน

คริสจัดการกับกางเกงนอนของเด็กชายซึ่งมีอาการขัดขืนเล็กน้อยก่อนจะยินยอมด้วยดีเหมือนนึกขึ้นได้ ริมฝีปากอุ่นไล่จุมพิตผะแผ่วทั่วผิวกายของเด็กชายด้วยความรู้สึกเสน่หา กลิ่นกายอ่อนเยาว์ของหนุ่มน้อยปลุกเร้าอารมณ์เขาจนเตลิดไปไกลเกินกว่าจะหยุดได้แล้ว

เด็กชายผวาเฮือกเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นคร่อมโดยออมแรงไว้ไม่ทาบทับลงไปทั้งตัว คริสกระซิบปลอบเมื่อร่างเล็กข้างใต้สั่นสะท้านมากขึ้น

"ไม่กลัวนะไมเคิล.. เด็กดี… ไม่ต้องกลัวนะ…"

เด็กชายหลับตาซุกหน้าลงกับหมอน ทุกครั้งที่กลัวหรือเจ็บปวดจากอะไรก็ตามไมค์จะร้องเรียกให้พ่อช่วยเสมอ ความรู้สึกในขณะนี้ทำให้เสียงครางดังแผ่วออกมาพร้อมอาการสะอื้นไห้

“แด๊ดดี้..อย่าทำเจ็บนะ ผมกลัว.. ฮือๆ .."

โอ! พระเจ้า… อารมณ์ที่กำลังเตลิดไปไกลชะงักลง สติและสามัญสำนึกย้อนกลับคืนมาทันทีที่คำเรียก “แด๊ดดี้” ของเจ้าหนูผ่านเข้าโสตประสาทของคริส เขาผละออกจากเด็กชายคว้าเสื้อคลุมขึ้นสวมอย่างเร็ว รู้สึกตกใจกับการกระทำของตัวเอง

คริสขยับเข้าสวมกอดร่างเล็กที่นอนสั่นอยู่เพื่อปลอบประโลม....ใจหายเมื่อรู้ว่าอาการสะท้านไม่ได้มาจากความตื่นกลัวแต่มาจากอาการสะอื้นไห้ เจ้าหนูของเขาร้องไห้... ให้ตายเถอะ !... นี่เขาทำอะไรลงไป…

“โอ! ไมเคิล.. ฉันเสียใจ ฉันขอโทษนะ.. อย่าร้องไห้ไมเคิล ได้โปรด…”

เด็กชายยังคงหลับตาและส่ายหน้าเหมือนไม่รับรู้คำขอโทษ คริสขยับผ้าห่มคลุมร่างเปลือยของหนุ่มน้อยไว้และสวมกอดเบาๆ ให้คลายความตกใจ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้.



:m15:


“ผมขอโทษครับ” ประโยคแรกของเด็กชายเมื่อรู้สึกตัวและหายตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คริสเสยผมหนุ่มน้อยไปมา

“ขอโทษเรื่องอะไร ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษเธอไมเคิล.. ”

“ผมขอโทษที่ผมตกใจ ผมยังไม่พร้อม ขอเวลาผมหน่อยนะฮะ”

คริสเลิกคิ้ว ขันคำพูดของเจ้าหนูที่คิดจะขอเวลาแก้ตัวใหม่

“ไม่ได้หรอกไมเคิล.. ครั้งเดียวก็เกินพอ... ไม่มีครั้งที่สองอีกแล้ว รู้มั้ย...”

“ผมเสียใจ ผมอยากตอบแทนคุณ จะให้ผมทำยังไงครับ”

“ทำไมเหรอ.. มีใครบอกให้เธอตอบแทนบุญคุณฉันด้วยวิธีนี้ใช่มั้ย”

ไมเคิลส่ายหน้าไม่อยากให้คุณแฟรงค์เดือดร้อน

“ฟังนะไมเคิล.. ลืมเรื่องหนี้บุญคุณซะ สวรรค์กำหนดให้ฉันและเธอได้พบกัน จากนี้ไปฉันมีหน้าที่ดูแลให้เธอเติบโตเป็นคนดี ถ้าต้องการทดแทนคุณจริงๆ ล่ะก็ เป็นเด็กดีก็พอ เข้าใจมั้ย..”

“เข้าใจครับ แต่ผมเห็นคุณเหนื่อยทุกวัน ผมอยากให้คุณมีความสุขบ้าง”

“โอ! ไมเคิล ไม่รู้หรือว่าทุกวันนี้แค่ฉันได้เห็นหน้าเธอฉันก็มีความสุขแล้ว..”

“ผมก็เหมือนกัน ผมมีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้ๆ คุณ จนไม่อยากอยู่ห่างเลยฮะ”

“ทำไมปากหวานจัง..หือ.. ขอชิมหน่อยได้มั้ยว่าหวานจริงหรือเปล่า”

คริสแกล้งกระเซ้าด้วยการจูบที่ริมฝีปากหนุ่มน้อยเบาๆ 1 ครั้ง ครั้งนี้ไมเคิลไม่ได้ตื่นตกใจจนตัวสั่นแค่รู้สึกเขินเท่านั้น และยิ่งรู้สึกอายหนักขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น

“คุณคริส... ขอเสื้อผ้าให้ผมหน่อยฮะ..”

คริสหัวเราะหันมองไปรอบเตียงก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปใต้ผ้าห่มควานหาเสื้อและกางเกงให้  

เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้คริสนอนไม่หลับทั้งที่รู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก เขาเอ่ยเรียกเด็กชายเบาๆ

“ไมเคิล.. หลับหรือยัง..”

“ยังฮะ” หนุ่มน้อยตอบรับทันทีแต่ด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“ฉันมีคำถามอยากให้เธอช่วยตอบหน่อยได้มั้ย..”

ไมเคิลขยับตัวหันเข้าหาคุณคริส ก็พบคุณคริสนอนเท้าแขนจ้องมองอยู่

“ได้ฮะ ”

“ฉันมีอะไรบางอย่างเหมือนพ่อของเธอใช่มั้ย ไมเคิล..”

ไมค์พยักหน้ารับ

“ดวงตาใช่มั้ย..” ดวงตาคู่สวยของคริสจ้องเขม็งที่เจ้าหนูอย่างต้องการคำตอบ และคำตอบที่ได้ก็คืออาการพยักหน้ารับอีกครั้ง

“ทำไมถึงไม่บอกฉันเรื่องนี้ล่ะไมเคิล.. เธอเล่าทุกๆ เรื่องให้ฉันฟังได้ ทำไมไม่บอกเรื่องนี้ด้วย”

“บอกไปคุณจะเชื่อเหรอครับ ว่าจะมีใครเหมือนคุณ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2008 12:27:31 โดย j-muay »

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #29 เมื่อ22-08-2008 12:13:07 »

มาให้กาลังใจเจ๊หมวยยยยยยยยย

อิอิ   ลงให้ถึงภาค 2 เร็วๆๆน๊า 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด