[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 134026 ครั้ง)

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #210 เมื่อ22-09-2008 11:42:41 »

มารอตอนต่อไปคับ o13

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #211 เมื่อ22-09-2008 13:00:25 »

มาแล้ว :m1:

พร้อมกับปัญหาใหม่ :เฮ้อ:

muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #212 เมื่อ22-09-2008 13:55:14 »

โอ๊ย ปัญหาเยอะจัง
แก้ให้ได้นะคะ

สู้ๆ

เออ แล้วเรื่องหาแม่....
มามะ เดี๋ยวเป็นให้ แต่ต้องสังเวยด้วยเด็กๆวัยขบเผาะสักสองคนนะคะ
ห้าห้าห้า

วันนี้ขอสองไม่ได้หรอ :oni3:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #213 เมื่อ22-09-2008 14:54:37 »

ไม่จบไม่สิ้น

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #214 เมื่อ22-09-2008 16:47:40 »


Fatherhood  part 2  [2]



แฟรงค์เลี้ยวรถเข้าจอดในโรงเก็บ อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นรถของคริสจอดอยู่หน้าตึก จอนนี่กำลังยืนเช็ดถูทำความสะอาด  ...วันนี้เป็นวันหยุด ไม่รู้ว่าคริสจะไปไหนแต่เช้า...

          แฟรงค์เดินขึ้นตึกด้วยท่าทีอ่อนระโหย  แคชเชียร์และบริกรของร้านป่วยพร้อมกัน 3 คน ทำให้แฟรงค์เหนื่อยมากกว่าทุกวัน แขกของร้านซึ่งจองห้องพิเศษไว้หนึ่งกรุ๊ปยังขอต่อเวลาอีก 1 ชั่วโมง กว่าร้านจะปิดก็ปาเข้าไปตีสอง  เขายุ่งจนลืมโทรบอกคริส  นึกขึ้นได้ก็ตอนร้านปิดแล้ว เขาเห็นว่าดึกมากแล้วเลยไม่ได้โทรบอก แซมขอตัวกลับทันทีที่ร้านปิดและบอกให้เขารีบกลับ  แต่เขาขออยู่เคลียร์บัญชีต่อเพื่อให้แคชเชียร์ที่มารับงานต่อพรุ่งนี้ไม่งง  ทำไปทำมาก็หลับคร่อกคาสมุดบัญชี   เด็กในร้านที่นั่งอยู่เป็นเพื่อนม่อยหลับไปก่อนเขาซะอีก

          “โอ! คุณแฟรงค์..  กลับมาทันเวลาพอดีเลยครับ  คุณคริสให้เตรียมรถไว้  ถ้าเช้านี้คุณยังไม่กลับ  คุณคริสจะไปหาที่ร้าน”

          แฟรงค์เกือบหายง่วง  ทั้งที่เมื่อครู่ขณะขับรถกลับเขายังเผลอหลับในไม่รู้ตัว  แฟรงค์เดินขึ้นตึกทำทีเป็นไม่สนใจกับคำบอกเล่าของจอนนี่  นึกฉุนคริสขึ้นมาตะหงิด  ทำไมต้องทำเหมือนเขาเป็นเด็กหนุ่มในความปกครองด้วย  คอยคุมเวลากลับบ้าน  ทั้งที่เขาไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ซะหน่อย

          โอและบอยดักรอพบแฟรงค์ที่ห้องโถง ทั้งสองยังอยู่ในชุดนอน  โอตรงเข้ามาบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน

          “คุณแฟรงค์ฮะ ทำไมเพิ่งกลับป่านนี้  คุณคริสให้พวกผมโทรตามคุณตั้งแต่เมื่อคืน  โทรศัพท์ที่ร้านสายไม่ว่างตลอดเลย  มือถือคุณก็ติดต่อไม่ได้  คุณปิดมือถือหรือฮะ..”

          “จะบ้าเหรอ!!.. ฉันจะปิดทำไม แบตมันหมดโว้ย!!..  โทรศัพท์ที่ร้านเสีย 2 วันแล้ว  คุณคริสมีอะไรด่วนเหรอ..”

          แฟรงค์ทรุดตัวลงนั่งที่ขั้นบันได  รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องแต่แสร้งใจเย็นซ่อนความรู้สึกไว้  บอยทรุดตัวลงนั่งข้างๆ จับแขนแฟรงค์ไว้และกล่าวด้วยความเป็นห่วง

          “คุณแฟรงค์ระวังตัวนะครับ  คุณคริสอารมณ์ไม่ค่อยดี  เมื่อคืนเจอรี่มาคุยด้วยถึงเที่ยงคืน  พอเขากลับไปคุณคริสก็ให้โทรตามหาคุณ  คุณคริสโกรธมากที่เราติดต่อคุณไม่ได้”

          “คุณคริสว่าพวกนายเหรอ..”

          “เปล่าฮะ  คุณคริสพูดกับเราดี  บอกให้พวกเราไปนอน  คุณคริสไม่ได้บ่นว่าคุณด้วยนะฮะ  แต่สีหน้าคุณคริสทำให้พวกเราเป็นห่วงคุณ”

          แฟรงค์สูดลมหายใจเข้า  รวมรวมจิตใจและกล่าวปลอบเด็กหนุ่มทั้งสองที่กำลังตื่นเต้นและกังวลแทนเขา

          “ขอบใจนายสองคนมาก ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปคุยกับคุณคริสเอง รับรองว่าไม่มีการใช้กำลังกันแน่นอน  เชื่อฝีมือฉันซี..”

          “คุณแฟรงค์.. กะล่อนอย่างเดียวไม่พอนะฮะ  คุณต้องสำออยและมีมารยาด้วย   คุณคริสใจอ่อนเวลาเห็นน้ำตา”

          แฟรงค์กลืนน้ำลายกับคำแนะนำของโอ

          “พอเถอะ.. อย่าแนะนำเลย มันใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนหรอก  ฉันไม่ใช่เด็กๆ จะได้ให้นั่งคุกเข่าอ้อนวอนน้ำตาตกอย่างพวกนาย  ฉันมีวิธีของฉัน”

          “ทำยังไงฮะ”   

          “ช่างเถอะน่า  เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว”

          แฟรงค์ลุกขึ้นยืน กำลังจะก้าวขึ้นบันไดก็ใจหายวาบเมื่อรู้สึกเหมือนมีสายตาของใครจ้องมองอยู่จากเบื้องบน

“โชคดีนะฮะ คุณแฟรงค์~~”       โอและบอยส่งเสียงกระซิบพร้อมกันก่อนพากันวิ่งจู๊ดหนีกลับเข้าห้อง


      แฟรงค์ทำใจดีสู้เสือ  เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้

          “มอร์นิ่งครับ บ๊อส..”

 
 

 :m29:

 

 
          คริสสั่งให้แฟรงค์ขึ้นมาหาเขาที่ห้องก่อน มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แฟรงค์รู้สึกโล่งอกที่บรรยากาศบนชั้น 3 ของคฤหาสน์ไม่เครียดอย่างที่คิดไว้  เป็นเพราะมีเจ้าหนูไมเคิลอยู่ด้วย  หนุ่มน้อยกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่   

          “กู๊ดมอร์นิ่งครับ คุณแฟรงค์..”

          แฟรงค์เดินเข้าจูบแก้มเจ้าหนูทักทาย

          “มอร์นิ่ง ไมเคิล”

          หนุ่มน้อยเบือนหน้าหนีและต่อว่าแฟรงค์

“อื้อ~~  เหม็นจัง  คุณสูบบุหรี่หรือฮะ”

          แฟรงค์หัวเราะ  สบสายตากับคริสที่กำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างต้องการรู้คำตอบเช่นกัน   

          “สูบที่ไหนกันไมเคิล.. ทำงานในสถานเริงรมย์ก็อย่างนี้ล่ะ มีแต่คนสูบบุหรี่กินเหล้า  อยู่ใกล้ๆ ก็พลอยเหม็นไปด้วย  จริงๆ นะ สาบานได้ว่าฉันไม่ได้สูบ..”

          ประโยคสุดท้าย  แฟรงค์พูดกับเจ้าหนูไมค์แต่ทำตาละห้อยกับคริส   

          คริสลุกขึ้นยืนกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์

          “ไปล้างหน้าซะ แฟรงค์..   จัดการอาหารเช้าก่อนก็ได้  แล้วตามขึ้นไปคุยกับฉันข้างบน”

 
          ‘ข้างบน’ ที่คริสว่า คือห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นทั้งห้องทำงานและที่พักผ่อนส่วนตัวของคริส  หลังคาห้องมีสองชั้นด้านในเป็นกระจกใส  สามารถเลื่อนหลังคาด้านนอกออกเพื่อชมวิวภายนอกในคืนที่ท้องฟ้าโปร่ง  คริสไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปวุ่นวาย  แม้แต่แฟรงค์เองถ้าไม่มีความจำเป็นก็จะไม่เข้าไปในห้องนี้ถ้าคริสไม่อยู่  แต่กับไมเคิลคริสอนุญาตเป็นพิเศษ  อยากขึ้นไปนอนดูดาวเมื่อไรก็ได้  แต่ทุกครั้งคริสก็ต้องนอนเป็นเพื่อนด้วยเพราะหนุ่มน้อยไม่กล้านอนคนเดียว  ด้วยเหตุผลที่ทำให้คริสอดหัวเราะไม่ได้

          ...ถ้าเกิดมีตัวอะไรโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋บนหลังคา  ผมต้องช็อกแน่เลยฮะ แด๊ด…

 

          “แด๊ดดี้อารมณ์ไม่ค่อยดีครับ คุณแฟรงค์..”   ไมเคิลกระซิบบอกแฟรงค์เมื่อคริสเดินจากไป 

          “เรื่องอะไรรู้มั้ย ไมเคิล..”

          หนุ่มน้อยส่ายหน้า  จัดการข้าวต้มคำสุดท้ายเสร็จก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

          “ผมไม่รู้  เมื่อคืนผมหลับอยู่ในห้อง  เที่ยงคืนกว่าแล้วคุณโอก็เข้าไปปลุกบอกว่าแด๊ดอารมณ์ไม่ดี  ให้ผมขึ้นมานอนเป็นเพื่อนหน่อย”

          แฟรงค์ซ่อนยิ้ม  เจ้าหนุ่มแสบพวกนี้รู้จักเอาตัวรอดจริงๆ  ให้ไมเคิลอยู่ใกล้คริสเพื่อผ่อนคลายอารมณ์โกรธลง

          “อยู่ๆ ก็ขึ้นมาขอนอนด้วย  บอกแด๊ดว่ายังไงเหรอ..”

          “ผมก็ว่าผมฝันร้ายนอนไม่หลับ  ขอนอนด้วยคน”

          แฟรงค์หัวเราะ  อยู่ใกล้หนุ่มแสบพวกนี้  สักวันไมเคิลก็คงจะกะล่อนและเจ้าเล่ห์ตามไปด้วย

          “ผมจะลงไปวิ่งเล่นกับเจ้าร็อกกี้แล้วนะคุณแฟรงค์..  อยู่คนเดียวได้มั้ย”

          ไมเคิลถามด้วยความเป็นห่วง เพราะพอจะรู้ว่าแด๊ดโกรธที่คุณแฟรงค์กลับบ้านผิดเวลา

          แฟรงค์แกล้งตีหน้าเศร้า

          “คงได้มั้ง  ถ้ายังไงล่ะก็คอยดูบนหลังคาด้วยล่ะกัน  ถ้าฉันต้องการความช่วยเหลือจะจุดพลุขึ้นฟ้าหนึ่งนัด”

          ไมเคิลอ้าปากหวอก่อนหัวเราะออกมาเพราะรู้ว่าคุณแฟรงค์ล้อเล่น

          “ผมไม่เคยเห็นแด๊ดลงโทษใครรุนแรง  ยิ่งคุณด้วยแล้วผมเห็นโกรธกันทีไร  พูดกันแค่สองประโยคก็ดีกันแล้ว  คุณทำได้น่าแฟรงค์..  ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ”

          ไมเคิลตบไหล่แฟรงค์เบาๆ   แฟรงค์นั่งตาปริบๆ มองหนุ่มน้อยวิ่งลงบันไดไป

 

 

 TBC  >>>>


มาต่ออีกนิด ตามที่ muhan ขอ   :a4:  :a4:


 

 

         

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #215 เมื่อ22-09-2008 17:00:54 »

ดีใจได้อ่าน Part 2

แต่เริ่มต้นมาก็มีเรื่องเข้ามาเลย

 :serius2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #216 เมื่อ22-09-2008 18:20:52 »

เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #217 เมื่อ23-09-2008 10:00:20 »


Fatherhood  part 2  [2] ต่อ...



คริสเอนตัวพักผ่อนอยู่บนโซฟา เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ ในหัวสมองคิดถึงแต่เรื่องที่ทนายจรินทร์บอกเล่า

 
            “ผมได้ติดต่อพูดคุยกับคุณวัลยาแล้วครับ  เธอและสามีเป็นเพื่อนและญาติกับคุณลินดาจริงๆ  เธอมีหลักฐานรูปถ่ายให้ผมดู  สามีเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับลินดา  ส่วนเธอเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถม เธอและลินดานัดพบปะพูดคุยทุกข์สุขกันอยู่เสมอ  เรื่องไมเคิลเธอก็รับรู้มาตลอด  เธอรู้ด้วยว่าไมเคิลเป็นลูกพลทหารอเมริกันชื่อบิล สมิทธ์ เธอและสามีไม่มีลูกก็เลยต้องการรับไมเคิลไปอุปการะตามที่ลินดาเคยฝากไว้  เธอมีจดหมายที่ลินดาเขียนฝากไมเคิลกับเธอให้ผมดูด้วย  ผมค่อนข้างกังวลกับจดหมายฉบับนี้ครับ คุณคริส..”

 o7  คริสไม่เข้าใจว่าสวรรค์เล่นตลกกับเขาหรืออย่างไร   ส่งไมเคิลให้มาพบและรู้จักกับเขา  ดลจิตใจของเราทั้งสองให้มีความรักต่อกันฉันท์พ่อลูกแล้ว ทำไมจึงบันดาลให้เกิดสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เขาหลงวางใจว่าคงไม่มีเรื่องร้ายหรือเหตุการณ์ใดๆ จะมาพรากเขาและไมเคิลจากกันอีก  จึงยังรีรอที่จะหาทางรับไมเคิลเป็นบุตรชายอยู่อย่างเย็นใจ

 
“โชคดีนะครับที่คุณไม่ได้ทำตามที่คุณแฟรงค์บอก”

 
..ใช่! ถ้าเขาทำตามที่แฟรงค์บอก  ป่านนี้คงเจอข้อหายื่นหลักฐานเท็จไปแล้ว นึกถึงแฟรงค์แล้วอดโมโหไม่ได้  รู้อยู่ว่าเขามีเรื่องร้อนใจ  ขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อนกันหน่อยก็ทำได้แค่วันเดียว..

 
          คริสดีดข้อศอกออกจากตัวเมื่อรู้สึกเหมือนมีใครโน้มตัวเข้ามาประชิด

          “อุ๊บ!  โอ๊ย!…..”

          คริสลืมตาขึ้นพบแฟรงค์ยืนตัวงอสีหน้าเหยเกเพราะถูกเขาศอกเข้าที่สีข้างอย่างจัง 

          “บ้าจริงเชียว!!..  ชอบเข้ามาเงียบๆ ก็ต้องเจ็บตัวแบบนี้”

          แฟรงค์แกล้งส่งเสียงร้องโอดครวญ

          “คุณทำผมเจ็บไม่ขอโทษยังมาดุกันอีก”

          “ช่วยไม่ได้ นายทำฉันตกใจ  ย่องมาเงียบๆ คิดจะตัดกำลังฉันก่อนหรือไง  ไม่มีทาง  วิธีเก่าๆ ของนายเลิกใช้ได้แล้ว”

          แฟรงค์หัวเราะอายที่คริสรู้ทัน เขาอุตส่าห์อาบน้ำชำระร่างกายให้หอมกรุ่นก่อนจะขึ้นมาพูดคุยด้วย เผื่อว่าคริสจะอารมณ์ดีขึ้น ทุกครั้งที่คริสหัวเสียแฟรงค์มักจะหลอกล่อให้คริสคลายความโกรธลงด้วยการผ่อนคลายอารมณ์ทางเพศ  ส่วนใหญ่ได้ผลทุกครั้งยกเว้นปัญหานั้นไม่ได้เกี่ยวกับตัวเขา  ปัญหาหนักสำหรับคริสเวลานี้มีเรื่องเดียวคือเรื่องของไมเคิล  แฟรงค์เชื่อว่าอารมณ์ไม่จอยของคริสวันนี้คงไม่พ้นเรื่องของหนุ่มน้อย

          “มีอะไรหรือคริส  คุณหนักใจเรื่องอะไร  คุยปัญหาของคุณก่อน เรื่องของผมไว้คิดบัญชีทีหลัง”     

          คริสร้อนใจอยากจะคุยเรื่องนี้กับแฟรงค์หลายชั่วโมงแล้ว  จึงเล่าเรื่องที่ทนายจรินทร์รายงานให้ฟังเมื่อคืน

          “เจอรี่ว่าฐานะของสามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก รับราชการทั้งคู่  บางทีเราอาจเปลี่ยนความตั้งใจของพวกเขาได้ถ้าเสนอเงินสักก้อน”

          “ให้เงินเหรอ”    แฟรงค์พึมพำเบาๆ จำได้ว่าเขาเคยเสนอความคิดนี้กับคริส ตอนลินดาขอตัวไมเคิลกลับไป  แต่คริสไม่เห็นด้วย    “เป็นความคิดของคุณหรือคริส..”

          “เปล่า.. เจอรี่พูดขึ้นมา ฉันก็เลยคิดว่าน่าจะลองดู นายเห็นด้วยใช่มั้ยแฟรงค์.. นายเคยบอกฉันเองว่าเงินซื้อทุกอย่างได้”

          แฟรงค์พยักหน้า    …ใช่!.. เขาเห็นด้วยถ้าเรื่องนี้เขาจัดการเอง  แต่ถ้าให้ทนายอย่างเจ้าเจอรี่จัดการให้  เขาไม่ไว้ใจ ไม่ใช่เพราะเขามีปากเสียงกับหมอนั่น   เขาไม่ถูกชะตากับทนายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว  พยายามเลี่ยงไม่เจอด้วยถ้าไม่จำเป็น…

          “คุณให้เจอรี่ไปเจราจาเรื่องเงินเหรอ..”

          คริสพยักหน้า

          “ทำไมคุณไม่นัดพวกเขาสองคนมาคุยด้วย  บอกไปเลยว่าคุณรับอุปการะเด็กอยู่แล้ว  รอทำเรื่องตามกฎหมายเท่านั้น  บางทีพวกเขาอาจจะไม่ต้องการเงินสักบาทก็ได้”

          “เจอรี่ว่าพวกเขารู้ว่าฉันเป็นใคร  มีพฤติกรรมยังไง  เขายืนยันว่าต้องการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม  เขาขอร้องว่าอย่าให้มีปัญหาถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล  แต่ถ้าจำเป็นเขาก็ยอม”

          คริสถอนหายใจระบายความอัดอั้นและขมขื่น  ปัญหาวุ่นวายเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นตั้งแต่ลินดายังมีชีวิตอยู่  ถ้าเพียงแต่เขาไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ

          “ผมไม่ค่อยไว้ใจให้เจอรี่ไปเจรจาเรื่องเงิน” 

          “พอซะทีเถอะแฟรงค์   o12  เลิกมีปัญหากับเจอรี่ซะที  เขาเป็นทนายของฉัน ฉันต้องพึ่งเขา นายจะให้ฉันเจรจาเรื่องเงินด้วยตัวเองยังงั้นเหรอ แล้วฉันจะจ้างทนายไว้ทำไม!!..  ตัวนายเองไม่มีเวลาให้ฉันมานานแค่ไหนแล้วแฟรงค์  ปัญหาไมเคิลยังค้างคาอยู่แทนที่จะช่วยจัดการให้เรียบร้อยกลับปล่อยทิ้งไว้จนสองผัวเมียนั่นโผล่มา  นายไม่ช่วยยังเขม่นเจอรี่  ไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องที่เขาทำให้ฉัน  เพราะอะไรแฟรงค์  ทำไมไม่ไว้ใจเจอรี่ให้ไปเจรจาเรื่องเงิน  หรือว่าเรื่องที่เกี่ยวกับเงินนายต้องทำด้วยตัวเองทุกเรื่อง  นายกังวลมากเกินไปแล้ว  อย่าห่วงเลยแฟรงค์..  มันคนละส่วนกับที่นายจะได้รับจากฉัน”

          แฟรงค์ใจหายวาบ  ตั้งแต่คบหาและอยู่ร่วมกันมา  เขาไม่เคยถูกคริสต่อว่าด้วยอารมณ์โกรธรุนแรงอย่างวันนี้มาก่อน ไม่เพียงแต่จะทำให้เขารู้สึกตกใจเท่านั้น  คำต่อว่าประโยคสุดท้ายทำให้แฟรงค์เสียใจอย่างแรง   เขานั่งก้มหน้านิ่งไม่โต้ตอบหรือออกความเห็นอะไรอีก

          คริสถอนหายใจอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ด้วยความรู้สึกฉุนและโกรธตัวเองที่ระบายอารมณ์ต่อว่าแฟรงค์อย่างรุนแรง  โดยเฉพาะคำพูดสุดท้ายที่หลุดออกไป  เขารู้สึกเสียใจทันทีที่พูดจบ

          “แด๊ดดี้..”

          เสียงเรียกของไมเคิลขัดจังหวะอารมณ์ของคริสและแฟรงค์  หนุ่มน้อยยืนเกาะประตูแอบฟังเรื่องทั้งหมดอย่างไม่ตั้งใจ เจ้าหนูรู้สึกเป็นห่วงคุณแฟรงค์ จึงตามขึ้นมาดูว่าทั้งสองพูดคุยและปรับความเข้าใจกันด้วยดีหรือไม่  ไม่คิดว่าจะมาได้ยินเรื่องร้ายๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองอีกครั้ง

          หนุ่มน้อยวิ่งเข้ามาสวมกอดคริสละล่ำละลั่กกล่าวด้วยความหวาดกลัว

          “แด๊ดดี้ผมไม่ไปนะ ผมจะอยู่กับแด๊ด ผมไม่รู้จักพวกเขา เคยเห็นหน้าแค่ครั้งเดียวเองจะมาเป็นพ่อแม่ผมได้ยังไง   ผมไม่ยอมแล้วนะ  ถ้าให้ผมไปอีกครั้งนี้ผมต้องตาย”   

          คริสตกใจกับอาการตื่นกลัวของไมเคิล เขาสวมกอดเจ้าหนูแน่นและละล่ำละลั่กกล่าวปลอบด้วยความตกใจเช่นกัน

          “ไม่นะ ไมเคิล  ไม่ต้องกลัว  แด๊ดไม่ยอมให้ลูกจากไปไหนอีกแล้ว ไม่มีวัน ไม่มีทาง โอเค! ไม่มีทางเลยลูก  ไม่มี….”

          คริสสวมกอดร่างเล็กแน่น  นึกถึงความเจ็บปวดที่เจ้าหนูได้รับจากเจ้าโทนี่แล้ว  เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ไมเคิลพรากจากเขาไปอีก แม้จะต้องเสียเงินทองมากมายหรือแลกกับความสุขส่วนตัวชั่วชีวิตของเขา  เขาก็ยอม...

          แฟรงค์ลืมความเจ็บช้ำที่ได้รับเมื่อครู่เมื่อเห็นอาการเสียใจและตกใจกลัวของไมเคิล  รีบเดินเข้ามาช่วยปลอบ

          “ไม่ต้องกลัวไมเคิล.. นอกจากคุณคริสแล้วไม่มีใครเป็นพ่อของเธอได้ ครั้งที่แล้วเราจำเป็นต้องปล่อยเธอกลับไปกับแม่ แต่ครั้งนี้ไม่มีทาง!!.. ไปวิ่งเล่นเถอะนะ ไม่ต้องห่วง ฉันกับคุณคริสจะแก้ปัญหากันเอง  ทุกอย่างจะเรียบร้อย โอเค..”    แฟรงค์ลูบศีรษะหนุ่มน้อยปลอบ  เขารู้ว่าเจ้าหนูไมค์ย้อนกลับขึ้นมาดูสถานการณ์ระหว่างเขากับคริสด้วยความเป็นห่วง

          “จริงหรือครับ  แก้ปัญหาได้จริงๆ หรือ แด๊ด..” 

หนุ่มน้อยเงยหน้าถาม  เมื่อคริสพยักหน้าให้ก็ยิ้มออกและคลายความกังวลลง

 

          คริสและแฟรงค์กลับเข้าสู่อารมณ์และความรู้สึกเดิมอีกครั้งหลังไมเคิลออกจากห้องไป  ไม่มีใครเอ่ยหรือพูดจาใดๆ  คริสรู้สึกเสียใจที่ต่อว่าแฟรงค์เมื่อครู่แต่ก็ไม่อาจเอ่ยขอโทษก่อนได้

          สำหรับแฟรงค์ความรู้สึกขณะนี้คือเสียใจอย่างมาก ทุกถ้อยคำต่อว่าของคริสยังก้องอยู่ในหู  เขายอมรับผิดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องสุดท้ายที่รับไม่ได้   ในที่สุดคริสก็รู้สึกกับเขาอย่างที่คนอื่นๆ เข้าใจ   รอให้เรื่องไมเคิลเรียบร้อยและจบลงด้วยดีซะก่อน  เขาจะหาโอกาสจากไปทันที   

          เสียงโทรศัพท์ทำให้ทั้งคู่ตื่นจากภวังค์  อีกครั้งที่แฟรงค์ต้องเก็บความรู้สึกเจ็บช้ำไว้  เมื่อคริสจบการสนทนาและวางสายลง  แฟรงค์เดินเข้าไปหาและกล่าวออกความเห็นอย่างเหลืออด

          “นี่มันเรียกค่าไถ่กันชัดๆ   คุณจะยอมมั้ยคริส”

          คริสรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้รับรู้ความต้องการของอีกฝ่าย  แม้จะเหมือนการเรียกค่าไถ่ตัวอย่างที่แฟรงค์พูดจริงๆ แต่ถ้าเรื่องจบลงด้วยดีเพียงเท่านี้เขาก็ยอม


            “ผมผู้กองนเรศ สามีวัลยา  เราสองคนได้รับการเสนอจากคุณจรินทร์ ทนายความของคุณว่าคุณยินดีที่จะมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เรา  ผมบอกตรงๆ นะครับคุณคริส  ผมไม่ไว้ใจว่าคุณจะรับอุปการะไมเคิลอย่างลูกชายจริงๆ และผมก็เชื่อว่าศาลก็คงไม่ไว้ใจด้วยเช่นกัน   แต่ในเมื่อคุณให้โอกาสเราเลือก  ผมกับภรรยาตกลงกันแล้วว่า  เราขอเงินสด 20 ล้านบาท  บ้านหนึ่งหลังและรถยนต์อีก 2 คันรวมมูลค่าอีก 10 ล้านบาท  ถ้าคุณยอมเสียเงิน 30 ล้านบาท  ผมก็ยินดีเสียสละไมเคิลให้ด้วยความเต็มใจ  คุณจะรับอุปการะในฐานะอะไรก็ได้  ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย”

          “คนจิตใจต่ำอย่างนั้นสมควรจะได้รับเงิน 30 ล้าน หรือคริส.. ” 

แฟรงค์ไม่ได้กล่าวด้วยความเสียดาย  เขารู้ว่าคริสสามารถจ่ายได้อย่างสบายๆ  แต่เขาไม่อยากให้คริสถูกหยามศักดิ์ศรีแบบนี้

          “แล้วไง.. นายมีหนทางอื่นเหรอ..”

          คริสเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับแฟรงค์  ไอ้ผู้กองนั่นดูถูกและหยามเขาอย่างแรง  สามีภรรยาคู่นี้จะให้ความรักในฐานะพ่อแม่กับไมเคิลได้อย่างไร ในเมื่อจิตใจยังต่ำอยู่เช่นนี้

          “ผมจะหาผู้หญิงจดทะเบียนสมรสกับคุณ คริส..  ยื่นขอต่อศาลซะ  คุณเป็นต่อทุกเรื่องอยู่แล้ว  อย่างน้อยไมเคิลก็รักและต้องการอยู่กับคุณ  ยอมวุ่นวายขึ้นศาลหน่อยดีกว่าปล่อยให้โจรในครื่องแบบมารีดไถและหยามเราซึ่งๆ หน้า”

          คริสแทบไม่เชื่อหูตัวเอง  แฟรงค์เคยปฏิเสธและไม่เห็นด้วยกับทางเลือกนี้

          “ฉันหูฝาดหรือเปล่า แฟรงค์..  นายเคยบอกว่าไม่เห็นด้วย”

          “นั่นมันก่อนที่ผัวเมียคู่นี้จะโผล่มา  ผมยอมให้มันรีดไถคุณกินเปล่าอย่างนี้ไม่ได้  เก่งจริงก็ให้ไปสู้กันในศาล  มันไม่มีทางชนะและจะไม่ได้เงินสักบาทด้วย”

          “นายไม่กลัวว่าผู้หญิงที่หามาจะเป็นปัญหาให้เราภายหลังหรือแฟรงค์.. แทนที่จะเสียแค่ 30 ล้าน  ฉันอาจต้องเสียเงินค่าเลี้ยงดูเธอมากมายกว่านี้หลายเท่า  นายไม่ห่วงเรื่องนี้แล้วเหรอ..”

          คริสถามคำถามสำคัญเพื่อลองใจแฟรงค์  สำหรับเขาตอนนี้.. วิธีไหนก็ได้ทั้งนั้นขอเพียงให้ได้ไมเคิลมา

          “ถ้าคุณเห็นด้วยและยังไว้ใจให้ผมทำงานนี้ก็ขอให้วางใจเถอะ เธอที่ผมหามาจะไม่เป็นปัญหากับเราแน่นอน  ผมขอเวลา 2-3 วัน  ระหว่างนี้คุณให้เจอรี่ประวิงเวลาไว้ก่อน  บอกเขาว่าเราขอเวลาตัดสินใจ” 

แฟรงค์ไม่ใส่ใจแล้วว่าคริสจะคิดยังไง จะว่าเขาห่วงเรื่องเงินก็ช่าง ก่อนจากไปเขาขอทำงานสำคัญครั้งนี้ให้คริสเป็นครั้งสุดท้าย 

          คริสพยักหน้าเห็นด้วย 

…แฟรงค์ไม่เคยทำอะไรให้เขาไม่สำเร็จ ยกเว้นไม่ยอมทำ จริงๆ แล้วเขาเชื่อฝีมือแฟรงค์มากกว่าเจอรี่ แต่ทำยังไงได้ แฟรงค์ไม่มีเวลาให้เขา  และเจอรี่ก็เป็นทนายซึ่งต้องพึ่งเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ…

          แฟรงค์ขอตัวเมื่อหมดธุระ เขามีเรื่องต้องทำมากมาย  อย่างน้อยเรื่องแรกที่เขาต้องทำเมื่อกลับถึงห้องก็คือ  ขอนอนก่อนสักงีบ…

          “เดี๋ยวก่อน แฟรงค์..”

          แฟรงค์ชะงักเท้าที่ประตู  หันกลับไปถามด้วยสายตา  บางทีคริสอาจจะเปลี่ยนใจหรือไม่ไว้ใจให้เขาทำงานนี้

          ร่างสูงตรงเข้าประชิดและสวมกอดเขาโดยไม่พูดไม่จา  แฟรงค์ยืนนิ่งเข้าใจความหมายของการสวมกอดนี้ คริสจะไม่พูดหรือเอ่ยขอโทษใครก่อน ถ้าต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนคริสจะแสดงออกที่การกระทำแทนคำพูด

          “นายโกรธฉันใช่มั้ย..”

          แฟรงค์ส่ายหน้าและซบลงกับไหล่กว้าง  เขาไม่เคยนึกโกรธคริสเลย  แค่เสียใจเท่านั้น..

         “ฉันพูดจาไม่ดีกับนาย  ฉันเสียใจแฟรงค์..”

          “ผมก็เสียใจ.. ผมขอโทษที่ละเลยคุณ  ขอโทษที่กลับบ้านผิดเวลา  ขอโทษที่ไม่จัดการเรื่องไมเคิลให้เรียบร้อยไปก่อนหน้านี้  ขอโทษที่ทำให้คุณโกรธ  ขอโทษที่…”

แฟรงค์ไม่สามารถกล่าวต่อเพราะถูกคริสปิดปากไม่ให้พูดด้วยจูบที่ดูดดื่ม การผ่อนคลายอารมณ์ร่วมกันจะช่วยลดความโกรธของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลงได้ วันนี้คริสคงแคร์ความรู้สึกเขามากจึงเอาวิธีของเขาไปใช้

คริสปลดกระดุมเสื้อที่แฟรงค์สวมอยู่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ แฟรงค์ผละออกรู้สึกเขินเล็กน้อย

          “ไปนอนคอยที่เตียงก่อน แฟรงค์..”   คริสกระซิบสั่งก่อนเดินไปรับสาย

แฟรงค์ไม่เข้าใจว่าวันนี้เจ้านายคริสของเขาเป็นอะไร บทจะดีก็ดีใจหาย เมื่อครู่ยังโกรธและดุว่าจนเขาน้ำตาตกใน   แฟรงค์เดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงแต่โดยดี

          คริสรับสายทนายจรินทร์ซึ่งโทรมาถามข่าวคราว เขาสั่งให้จรินทร์ติดต่อสองสามีภรรยาแทนเพราะไม่อยากเสียเวลาพูดคุยด้วยอีก  และให้เตรียมเรื่องยื่นขอต่อศาล  จรินทร์รู้สึกประหลาดใจ ไม่อยากเชื่อว่าคริสและแฟรงค์เปลี่ยนใจยอมทำตามวิธีแนะนำเดิมของเขา   

          คริสกลับมาที่เตียงหนุ่มแฟรงค์ก็กรนคร่อกแล้ว  เขาส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ  กว่าสองเดือนที่ผ่านมาแฟรงค์มีความสุขกับงานที่ทำอยู่จนบางครั้งเขายอมรับว่ารู้สึกน้อยใจที่แฟรงค์ไม่มีเวลาให้  เช้านี้ตั้งใจจะเอ่ยปากว่าทันทีที่เห็นหน้า แต่เห็นสภาพสุดโทรมทั้งเหนื่อยและเพลียกับงานแล้วจะให้เขาเอ่ยปากต่อว่าเรื่องกลับบ้านผิดเวลาได้ยังไง 

          ร่างสูงเอนตัวลงนอนเคียงข้างและสวมกอดหนุ่มคนรักไว้  เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างหู

          “อีกไม่นานหรอกแฟรงค์ อีกไม่นาน.. สนุกให้เต็มที่ ฉันจะหาทางปิดมันก่อนที่นายจะโทรมลงไปมากกว่านี้”

         

 

 TBC>>>>>





    !

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ
«ตอบ #218 เมื่อ23-09-2008 10:14:17 »

Fatherhood part 2… ( 3 )




“เฮ้! แฟรงค์ คุณคริสมาแล้วนะ มีแขกมาด้วย ”

แฟรงค์พยักหน้ารับทราบ คริสโทรหาเขาเมื่อตอนบ่ายบอกว่าค่ำนี้จะพาเพื่อนเก่ามาหาแต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร

“เดี๋ยวก็รู้แฟรงค์ ฉันอยากให้นายพบและรู้จักเธอ”

อย่างน้อยแฟรงค์ก็รู้ว่าแขกของคริสเป็นผู้หญิง



 o13



“แฟรงค์ กลับก่อนเถอะ แขกเหลือไม่มากแล้ว คืนนี้ฉันอยู่เอง”

แฟรงค์นั่งดื่มเบียร์ที่บาร์ ห้าทุ่มกว่าแล้ว วันนี้วันธรรมดาแขกไม่เยอะเท่าไร ถ้าเป็นคืนวันศุกร์และเสาร์ เวลาดึกขนาดนี้ก็ยังยืนเบียดเสียดกัน บางคืนแทบจะไม่เหลือทางเดิน

“ฉันยังไม่กลับ จะขึ้นไปพักข้างบน นายปิดร้านด้วยนะแซม..” แฟรงค์ฝากเพื่อนดูร้านแทนก่อนเดินเลี่ยงขึ้นไปที่ห้องพักผ่อนชั้นบน

แซมยักไหล่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าแฟรงค์นั่งหงอยอยู่ที่บาร์นานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว หลังจากคริส บริเจคส์ กลับไปพร้อมกับแหม่มสาววัยกลางคนที่ทั้งสวยและสง่า โดยเฉพาะเมื่อเดินคู่กับคริสแล้วแขกในร้านพามองกันเหลียวหลัง หลายคนถามว่าใช่ดาราฮอลลีวู้ดหรือเปล่า

แซมไม่เข้าใจว่าทำไมแฟรงค์ต้องมีอาการเช่นนี้ เขาจะไม่แปลกใจเลยถ้าแขกที่มากับคริสเป็นชายหนุ่มไม่ใช่แหม่มสาว



 o13



“มิสชารอน แมนเนอร์ แฟรงค์.. นายจำได้ใช่มั้ย”

ทันทีที่ได้พบและเห็นหน้าเธอ แฟรงค์รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารู้จักว่าเธอเป็นใคร เคยเห็นเธอในรูปถ่ายและรู้เรื่องราวของเธอพอสมควรจากคำบอกเล่าของคริสเอง

ชารอน แมนเนอร์ สาวใหญ่วัย 38 เป็นรุ่นน้องที่คริสเคยคบหาฉันท์คนรักสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เธอและคริสรักกันมาก เคยให้สัญญาที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่แล้วก็มีอุปสรรคมาพรากเธอไปจากเขา คุณพ่อของชารอนเป็นกงศุลใหญ่ต้องย้ายไปประจำที่ประเทศญี่ปุ่น เธอจำเป็นต้องย้ายตามไปอยู่ด้วย ก่อนไปเธอให้สัญญากับคริสว่าจะกลับมาหาเขาอย่างแน่นอน

ชารอนส่งข่าวกลับมาหลังจากเงียบหายไปนานกว่า 4 ปีว่าเธอแต่งงานแล้วด้วยความจำเป็น คริสรู้สึกโล่งอกมากกว่าเสียใจเพราะเขาจะได้หยุดการรอคอยซะที ตลอดเวลาที่ผ่านมาคริสไม่เคยปันใจให้กับหญิงสาวคนไหน เพราะไม่อยากเป็นฝ่ายผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ เขาจึงพยายามเลี่ยงไม่คบหาหญิงสาว คบและผูกพันอยู่กับเพื่อนชายด้วยกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางเพศโดยไม่ได้ตั้งใจ


คริส บริเจคส์ เป็นวิศวกรหนุ่มที่มีฐานะมั่งคั่งในแอลเอ. เดินทางมาเมืองไทยเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตั้งใจเพียงเพื่อพักผ่อน แต่แล้วชะตาชีวิตหักเหให้เขาย้ายมาตั้งถิ่นฐานทำธุรกิจก่อสร้างในเมืองไทย แค่เพียง 5 ปี ธุรกิจของคริสก็มีชื่อเสียงอยู่ในชั้นแนวหน้า นอกจากงานก่อสร้างออกแบบตกแต่งครบวงจรแล้วยังมีโรงงานต่อเรือยอร์ชซึ่งเป็นธุรกิจที่คริสทำด้วยใจรักเป็นส่วนตัว

คริสเจอแฟรงค์ครั้งแรกตอนยังเป็นหนุ่มน้อย อายุ 19 ปี แฟรงค์เป็นนักเรียนแพทย์ปี 2 ส่วนคริสเป็นอาจารย์พิเศษคณะวิศวะฯ วิชาที่คริสสอนจะมีนักศึกษานั่งเรียนเกือบล้นห้อง บางคนไม่ใช่วิชาที่ตัวเองเรียนก็มาขอนั่งฟัง หนึ่งในนั้นคือ แฟรงค์ แพ็ททริค อรรคพล แฟรงค์มีเพื่อนเรียนอยู่คณะนี้จึงมีโอกาสได้นั่งอยู่ด้านหน้าสุดเพราะเพื่อนช่วยจองที่นั่งให้ แฟรงค์นั่งส่งสายตาหวานให้อาจารย์คริสและยกมือตอบคำถามได้ทุกข้อจนถูกนักศึกษาประจำวิชาเขม่นและมีปากเสียงกันหน้าชั้นเรียน พอรู้ว่าแฟรงค์เป็นนักศึกษาแพทย์มาแย่งที่นั่งเรียนก็พากันโห่ไล่ คริสต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและขอร้องให้นักศึกษาที่ไม่ได้เรียนวิชานี้อย่ามาแย่งที่เรียนของเพื่อน นับจากวันนั้นคริสก็ไม่ได้เจอหน้าหนุ่มแฟรงค์อีกเลย

เวลาผ่านไป 2 ปี คริสได้มีโอกาสพบกับแฟรงค์อีกครั้งในงานสังคม ครั้งนี้คริสเป็นแขกในงาน ส่วนแฟรงค์เป็นนายแบบบนเวทีแคทวอล์ค

แฟรงค์ตกใจแทบช็อกที่เจอคริสในงาน สภาพของเขาที่คริสพบในวันนั้น มันทำให้แฟรงค์รู้สึกอายมาก จะไม่ให้อายได้ยังไง โชว์ที่เขากำลังแสดงอยู่เป็นแฟชั่นชุดว่ายน้ำพอดี เขาไม่รู้สึกเขินอายแม้เพียงสักนิดกับสาวน้อยสาวใหญ่ที่จ้องมองตาไม่กระพริบและส่งเสียงวี้ดว้ายด้วยความพอใจ แต่กับคริสแค่สบตาด้วยแว่บเดียว แฟรงค์ก็อายจนเกือบเดินสะดุดตกเวที นึกภาวนาในใจขอให้คริสจำเขาไม่ได้




ในขณะที่แฟรงค์รู้สึกอายกับการพบเจอคริสในสภาพนั้น คริสกลับรู้สึกประทับใจอย่างมาก แค่เห็นแว่บเดียวเขาก็จำได้ว่าแฟรงค์เป็นนักศึกษาแพทย์ที่แอบเข้าไปนั่งจ้องหน้าเขาในชั้นเรียนของนักศึกษาวิศวฯ จะไม่ให้เขาจำเด็กหนุ่มคนนี้ฝังใจได้ยังไง ในเมื่อสายตาของเจ้าหนุ่มมองเขาหวานหยดจนแทบไม่มีสมาธิในการสอน

แฟรงค์รีบออกตัวกับคริสว่าเป็นนายแบบสมัครเล่น ไม่ได้มีอาชีพเดินแบบจริงจัง คริสหัวเราะและบอกว่าเขาก็ไม่เคยเห็นนักเรียนแพทย์คนไหนมีเวลาว่างเหลือพอที่จะมีอาชีพสมัครเล่น

แฟรงค์อึ้งไปก่อนจะบอกความจริงกับคริสว่าเขาไม่ได้เรียนแพทย์แล้ว เขาถูก Retry ออกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้เขายังไม่มีงานทำ จำเป็นต้องทำอาชีพนี้ไปก่อน คริสตกใจมากพร้อมกับรู้สึกเสียดายวิชาแพทย์ที่แฟรงค์อุตส่าห์เล่าเรียนมาถึง 4 ปี แต่เขาไม่ได้พูดให้แฟรงค์รู้สึกเสียใจและไม่ถามถึงเหตุผลของการถูก Retry กลับกล่าวปลอบใจและชวนแฟรงค์ไปทำงานด้วย

แฟรงค์ปฏิเสธว่าไม่มีความรู้ในงานที่คริสทำ แต่เมื่อคริสอธิบายหน้าที่และบอกจำนวนเงินค่าจ้างที่สูงถึงปีละ 7 หลัก แฟรงค์รีบตอบรับด้วยอาการลิงโลด และนั่นเป็นเวลา 8 ปี ผ่านมาแล้วของการเริ่มต้นคบหากันในฐานะเจ้านายและลูกจ้างระหว่างชายหนุ่มสองคนที่มีวัยห่างกันถึงหนึ่งรอบ คริส บริเจคส์ มหาเศรษฐีหนุ่มวัย 33 ปี ที่มีชื่อเสียงอยู่ระดับแนวหน้า และแฟรงค์ แพ็ททริค หนุ่มลูกครึ่งไทย-สวิส วัย 21 ปี ที่ชีวิตหักเหต้องพลาดจากการเป็นนายแพทย์ มาเป็นหนุ่มเพลย์บอยเจ้าสำอาง ไม่มีอาชีพและที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง เงินขาดมือเมื่อไรแฟรงค์ก็อ้อนขอจากแม่ที่สวิตเซอร์แลนด์


พ่อแม่แฟรงค์แยกทางกันตั้งแต่เขาอายุ 5 ขวบ แฟรงค์อาศัยอยู่กับพ่อซึ่งแต่งงานมีครอบครัวใหม่ แม้จะไม่ได้รับความรักและความเอาใจใส่จากพ่อเหมือนน้องชายสองคนที่เกิดกับแม่เลี้ยง แต่แฟรงค์เป็นเด็กฉลาด มีผลการเรียนที่ดีมากโดยไม่ต้องพึ่งการเรียนพิเศษหรือติวเข้มอย่างน้องชาย เมื่อแฟรงค์สอบแพทย์ติด สมาชิกในบ้านเริ่มปฏิบัติต่อเขาดีขึ้น เขากลายเป็นความหวังของพ่อ แต่แล้วเมื่อเขามีเรื่องชกต่อยกับอาจารย์จนถูก Retry ออกจากมหาวิทยาลัย เขารู้ว่าพ่อต้องโกรธและสูญเสียความหวังในตัวเขา แต่ไม่คิดว่าพ่อจะโกรธมากถึงขนาดตัดขาดความเป็นพ่อลูก แฟรงค์รู้ว่าพ่อไม่ได้โกรธที่เขามีเรื่องกับอาจารย์ ไม่ได้โกรธที่เขาไม่มีโอกาสได้เป็นหมอ แต่โกรธที่รู้ความจริงว่าเขามีจิตใจรักชอบผู้ชายด้วยกัน แฟรงค์รู้ว่าพ่อเกลียดชังคนประเภทนี้มาก และรับไม่ได้ที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกชายตัวเอง

…..ลูกชายของฉันต้องเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ใครนอกลู่นอกทางก็ไม่ควรอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ให้เป็นที่น่าละอาย…

คำพูดของพ่อที่แฟรงค์จำใส่ใจไม่มีวันลืม ขณะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พ่อยังมายืนที่ประตูพูดประโยคสุดท้ายที่เขาไม่มีวันลืมตลอดชีวิตนี้

...ฉันอยากให้แกลืมไปเลยว่าแกเป็นลูกฉัน พ่อของแกตายไปพร้อมกับลูกชายคนโตของฉันแล้ว…

แฟรงค์จำได้ว่า ตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยร้องไห้เสียใจเพราะถูกพ่อดุเลย คืนนั้นเขาร้องไห้อย่างหนักทั้งคืนเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

แฟรงค์ทราบข่าวพ่อเสียชีวิตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว วันนั้นเขาแค่แอบไปยืนเคารพศพอยู่ไกลๆ เท่านั้น ไม่ร้องไห้และเสียน้ำตาให้แม้สักหยดเพราะเขาจำได้ว่าร้องไห้กับการเสียพ่อไปในคืนนั้นแล้ว...



TBC >>>>>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2008 10:26:14 โดย j-muay »

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #219 เมื่อ23-09-2008 10:52:36 »

เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
« ตอบ #219 เมื่อ: 23-09-2008 10:52:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #220 เมื่อ23-09-2008 11:54:05 »

มาลงชื่อว่าติดตามค่า  :oni1:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #221 เมื่อ23-09-2008 12:34:58 »

มารอครับผม :oni2:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #222 เมื่อ23-09-2008 12:52:47 »

มารอด้วยคน

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #223 เมื่อ23-09-2008 13:11:58 »

โอม :amen: จงลง จงลง จงลง  :oni3: จงมาลงตอนต่อไป :oni3:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #224 เมื่อ23-09-2008 15:55:40 »

แล้วจะยังงัยต่อไปครับ

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #225 เมื่อ23-09-2008 23:40:09 »

แฟรงค์ อดทนหน่อยนะ อย่าไปจากคริสเลย

ไมเคิลเกิดวันไหนเนี่ย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดตลอดเลย

muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #226 เมื่อ24-09-2008 00:09:30 »

คุณพ่อสู้ๆ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #227 เมื่อ24-09-2008 09:52:48 »


Fatherhood part 2… ( 3 ) ต่อ..



แฟรงค์ทักทายชารอนอย่างเป็นกันเอง เธออายุน้อยกว่าคริส 3 ปี  สำหรับผู้หญิงอยู่ในวัยสาวใหญ่แล้ว แต่เธอเหมือนกระดังงาลนไฟ ผมสีบรอนซ์เป็นลอนสลวยแค่ไหล่ ดวงตาสีเดียวกับตาของคริส ริมฝีปากอิ่มได้รูป สวยเซ็กซี่ทุกกระเบียดนิ้ว เธอสวยกว่าในรูปที่เขาเห็นซะอีก

แฟรงค์พูดคุยเรื่องชวนหัวทำให้เธอหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาคริสตลอด แต่ทุกอิริยาบถของคริสก็อยู่ในสายตาแฟรงค์ตลอดเช่นกัน แฟรงค์นั่งคุยอยู่ด้วยพักใหญ่ก็ขอตัวออกมาเมื่อได้โอกาส เพราะลูกค้าเริ่มทยอยเข้าร้านมากขึ้น

จนถึงนาทีนี้แฟรงค์ยังไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำเป็นเรื่องจริง เขาได้พบและพูดคุยกับหญิงสาวที่เคยเป็นคนรักเก่าของคริส แฟรงค์บอกตัวเองไม่ได้ว่าทำไมจึงอยากให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน อาจเป็นเพราะท่าทีของคริสขณะอยู่กับชารอน หากเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองก็คงไม่เชื่อ คริสเสแสร้งความรู้สึกไม่เป็น พูดและกระทำทุกอย่างออกมาจากใจเสมอ สายตาของคริสบอกให้แฟรงค์รู้ว่าคริสชื่นชมชารอนและยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเธอไม่เปลี่ยนแปลง

คริสเขียนโน้ตให้เด็กนำมาให้เขาก่อนกลับ

“คืนนี้กลับเร็วหน่อยนะ แฟรงค์ ฉันอยากคุยเรื่องแผนของเรา”


:a11:  :a11:


“แฟรงค์.. ตื่นได้แล้ว กลับบ้านเถอะ ร้านปิดแล้ว แฟรงค์ เฮ้!…”

“อือ~~ กี่โมงแล้ว ” แฟรงค์สะลืมละลือถาม ตั้งใจจะนอนพักเท่านั้นไม่รู้ว่างีบหลับไปตั้งแต่เมื่อไร

“ตีหนึ่งกว่าแล้ว กลับบ้านเถอะแฟรงค์.. เดี๋ยวคริสบ่นอีก”

“อืมม์.. นายกลับก่อนเถอะ ฉันขอนอนต่ออีกหน่อย” แฟรงค์ทำท่าจะล้มตัวลงนอนแต่ถูกเพื่อนฉุดไว้

“จะบ้าหรือแฟรงค์.. ลุกขึ้นกลับไปนอนบ้าน  ขับรถไหวหรือเปล่า ไม่ไหวฉันจะไปส่ง”

“ฉันไม่อยากกลับ จะนอนนี่ นายกลับไปเถอะ ปิดร้านให้เรียบร้อยด้วย”

แฟรงค์สะบัดแขนออกและล้มตัวลงนอนต่อ

“โธ่เอ้ย!.. แฟรงค์.. ฉันสงสารนายจริงๆ”

แซมเป็นเพื่อนแฟรงค์ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม สนิทสนมและเล่นหัวกันมาตั้งแต่เด็ก  เป็นชายชาตรีโดยแท้แต่กลับคบหาแฟรงค์เป็นเพื่อนสนิท  เขาไม่สนว่าแฟรงค์จะมีพฤติกรรมทางเพศอย่างไร  รู้แต่ว่าแฟรงค์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา

“สงสารฉันเรื่องอะไรวะ!!  ฉันไม่ได้นอนกลางถนนซะหน่อย”

“หึ!.. ไม่ได้สงสารเรื่องนอน อย่าเฉไฉน่าแฟรงค์.. นายรู้นี่ว่าฉันสงสารนายเรื่องอะไร”

“เรื่องอะไร!!.. ถ้าพูดไม่ถูกหู  นายโดนเตะ..” แฟรงค์ฉุนเพื่อนที่ทำเป็นรู้มาก เขาไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อยแค่ง่วงนอนเท่านั้น...

แซมหัวเราะก๊าก ก้มลงกระซิบข้างหูเพื่อน

“คริสทำร้ายหัวใจนายหรือ แฟรงค์.. นายกำลังมีอาการเหมือนคนอกหัก รู้ตัวหรือเปล่า…”

แฟรงค์ผุดลุกขึ้นนั่งหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ยกเท้าขึ้นตั้งท่าจะยันเจ้าเพื่อนจอมแสบ แซมรู้ทันรีบจับข้อเท้าไว้

“อ๊ะ!.ๆ อย่า  แฟรงค์.. ฉันยูโยสายดำนะ”

แฟรงค์สะบัดเท้าออกลุกขึ้นจากเตียงไปนั่งที่โซฟา โกรธเพื่อนที่พูดจาจี้ใจดำเขา

 :o  “สู่รู้มากไปหน่อยแล้วนะ แซม.. ไม่ใช่หน้าที่ของนายจะมาคอยสอดส่องเรื่องของฉัน  นายอยากให้ฉันใส่เกือกให้หรือไง..”

แซมกลืนน้ำลาย  แฟรงค์ไม่เคยด่าใครแรงๆ  ถ้าไม่โกรธมากจริงๆ

“ขอโทษ แฟรงค์.. ฉันแค่เป็นห่วง ไม่อยากกลับ อยากนอนนี่ก็ตามใจ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อน เดี๋ยวจะลงไปบอกให้เด็กๆ กลับกันก่อน”

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะสวยและมีเสน่ห์มากขนาดนี้”

แฟรงค์พึมพำกับตัวเองแต่ก็ดังพอที่จะทำให้แซมชะงักเท้าหันกลับมายืนคุยต่อ

“นายรู้จักเธอหรือแฟรงค์.. โธ่! ถึงจะสวยยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง นายจะห่วงทำไม”

แฟรงค์มองเพื่อนด้วยสายตาเอือมระอา

“ทำไมวะแซม.. คริสนอนกับผู้หญิงไม่ได้เหรอ..  นายคิดว่าพวกเราอึ้บสาวไม่เป็นหรือไง”

แซมยิ้มแห้ง ไม่เถียงแต่ไม่วายออกความเห็นต่อ

“ถึงยังไงคริสก็ไม่ชอบผู้หญิง ถ้าจะมีอะไรด้วยก็แค่เปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น นายอย่าคิดมากไปเลยน่าแฟรงค์..”

แฟรงค์ก้มหน้าหลบสายตาเจ้าเพื่อนจอมสู่รู้ แว่บแรกที่เห็นเธอพูดคุยและเคลียคลอกับคริสอย่างสนิทสนม เขาสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง และโน้ตที่คริสเขียนถึงเขาก็ทำให้แฟรงค์ยิ่งมั่นใจ

“นายไม่รู้หรอกแซม.. ฉันไม่เคยคิดหรือคาดเดาอะไรผิด โดยเฉพาะเรื่องของคริส แค่มองตาฉันก็รู้ความคิดเขาแล้ว”

“งั้นเหรอ..” แซมพยักหน้าหงึก “ถ้างั้นนายกำลังกังวลเรื่องอะไร อย่าบอกว่าคริสกำลังจะจีบแหม่มสาวคนนี้นะ มันเป็นไปไม่ได้”

“เฮอะ!.. นายไม่รู้จักคริส นายไม่รู้หรอกว่าคริสทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มาแล้วหลายเรื่อง เพื่อไมเคิลแล้วเขาทำได้ทุกอย่าง อย่าพูดอีกเลย นายกลับไปนอนบ้านเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ มีเด็กติดรถกลับหลายคนไม่ใช่เหรอ..”

“เดี๋ยวให้เจ้านพขับรถฉันกลับ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนาย นายไม่กลับฉันก็ไม่กลับแต่ควรโทรไปบอกคริสก่อน เขาจะได้ไม่ต้องคอยหรือเป็นห่วง”

“ไม่จำเป็นหรอก ป่านนี้คริสคงหลับแล้วหรืออาจจะยังไม่กลับ บางทีอาจจะพาเธอไปนั่งรถกินลมหวนนึกถึงความหลังกันที่ไหน หรือไม่ก็__”

เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นขัดจังหวะ แฟรงค์ปิดมือถือไม่อยากให้คริสตาม แซมเดินไปรับสายเมื่อเห็นแฟรงค์นั่งนิ่งไม่สนใจ

“ของนาย..” แซมยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยสีหน้าอมยิ้ม “ถึงจะหลับก็ละเมอขึ้นมากดโทรศัพท์ได้นะ”

ในที่สุดแฟรงค์ก็ต้องกลับบ้านเพราะไม่อาจปล่อยให้คริสกระวนกระวายนอนไม่หลับตลอดคืนได้ เรื่องที่คริสจะคุยคงสำคัญมากจริงๆ

“ฉันไม่อยากรอถึงพรุ่งนี้ อยากคุยกับนายคืนนี้เลย มันสำคัญมากนะแฟรงค์.. ถ้าไม่ได้คุยคืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับ ฉันรู้ว่านายเหนื่อย เอางี้นะ ! นายรอฉันอยู่ที่นั่นฉันจะไปรับ”

“โอเค! คริส.. ผมจะกลับเดี๋ยวนี้ รออยู่ที่บ้านแหล่ะ อีก 15 นาทีเจอกัน”



:a4: :a4:



“ฉันเห็นกับตาตัวเองแล้วแฟรงค์.. ว่างานของนายเหนื่อยและวุ่นวายขนาดไหน ต่อไปฉันจะไม่เร่งรัดเวลากลับของนายอีก วันไหนเหนื่อยและกลับไม่ไหวขอให้โทรบอกหน่อยก็พอ  ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

คริสพูดด้วยความห่วงใยจากใจจริง เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแฟรงค์ทำงาน ไม่ใช่แค่ยืนต้อนรับหรือพูดคุยกับลูกค้า แฟรงค์ทำเกือบทุกหน้าที่ ถ้าเห็นใครวุ่นวายหรือทำไม่ทันแฟรงค์ก็เข้าไปช่วย แม้กระทั่งเคลียร์และเช็ดโต๊ะด้วยตัวเอง คริสเชื่อแล้วว่าแฟรงค์รักงานนี้จริงๆ แม้จะเหน็ดหนื่อยแต่แฟรงค์ก็สนุกกับงานจนไม่อยากเชื่อว่าหนุ่มสำอางอย่างเขาจะรับผิดชอบและจริงจังกับงานขนาดนี้

ให้ตายเถอะ!.. แฟรงค์ไม่เข้าใจตัวเองเลย เขาไม่รู้สึกยินดีที่ได้ยินคำพูดนี้จากคริส อยากให้คริสบ่นว่าเหมือนเดิมมากกว่า

“มีเรื่องสำคัญอะไรหรือ คริส.. ว่ามาเลยผมพร้อมแล้ว”

คริสหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าแฟรงค์จริงจังมาก

“อาบน้ำให้สบายตัวก่อนนะแฟรงค์ ฉันจะเตรียมน้ำอุ่นให้”

แฟรงค์สาบานได้ว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง คืนนี้คริสอารมณ์ดีและเอาใจเขาผิดปกติ

คริสหยุดชะงักที่หน้าห้องน้ำและหันมาสั่งทีเล่นทีจริง

“ห้ามหลับนะแฟรงค์.. ฉันแบกนายลงอ่างได้สบายๆ ยังไงคืนนี้เราก็ต้องคุยกัน”

แฟรงค์รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ สังหรณ์ใจว่าเรื่องที่คริสอยากคุยคงสำคัญและเป็นเรื่องดีสำหรับคริส แต่ไม่ใช่สำหรับเขาแน่นอน...



:a12:  :a12:



คริสพบชารอนที่ล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ เธอเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยและตั้งใจจะพักผ่อนท่องเที่ยวในเมืองไทยสักระยะหนึ่ง เธอดีใจมากที่ได้พบคริสอย่างไม่คาดฝัน เธอยังจำความหลังเมื่อครั้งยังคบหากันได้ ประโยคแรกที่เธอกล่าวทักคริสคือคำขอโทษ... เธอเสียใจที่ผิดสัญญากับเขา..

คริสใช้เวลาอยู่กับชารอนตลอดบ่ายวันนั้น นั่งฟังเธอเล่าเรื่องราวในอดีตที่ขมขื่น เธอไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตสมรสถึงสองครั้ง มันทำให้เธอเข็ดและไม่คิดที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกับใครอีก เธอมีปัญหาเรื่องสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้เธอไม่มีห่วง คริสเห็นด้วยในเรื่องนี้เพราะเมื่อก่อนเขาก็ไม่มีใครต้องคอยห่วง แต่เดี๋ยวนี้เจ้าหนูไมเคิลเป็นห่วงของเขา เป็นทั้งทุกข์และสุขของเขาด้วย

ขณะพูดคุยกับเธอคริสอดนึกไม่ได้ว่าหากความรักระหว่างเขากับเธอสมหวัง ชีวิตสมรสจะเป็นอย่างไร เขาคงไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ รักและชอบผู้ชายด้วยกันแบบวันนี้ ให้ตายเถอะ!.. เขาแว่บถึงแผนของแฟรงค์ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ...

คริสเล่าเรื่องของชารอนให้แฟรงค์ฟัง และถามคำถามสำคัญกับแฟรงค์

“นายคิดว่าชารอนเป็นภรรยาของฉันตามแผนของเราได้มั้ย แฟรงค์..”



:a5:  :a5:



ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #228 เมื่อ24-09-2008 10:19:07 »


Fatherhood  part 2..  [4]
 
         

            แฟรงค์ออกจากบ้านแต่เช้ามืด เขาไม่ได้ตื่นเช้าแต่เป็นเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน   คริสชวนเขานอนที่ห้องด้วยไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใด แค่อยากนอนคุยเรื่องสำคัญเท่านั้น กว่าจะเสร็จธุระพูดคุยก็ตี 3 กว่า  คริสหลับไปด้วยความสบายใจแต่แฟรงค์กลับไม่สามารถข่มตาหลับได้ 

“ถ้านายเห็นด้วยว่าเธอเหมาะสม ฉันจะคุยกับเธอพรุ่งนี้ ไม่ต้องห่วงนะ แฟรงค์..  ชารอนไม่มีปัญหากับเราในภายหลังแน่  เธอพอมีฐานะอยู่บ้างและถ้าเธอเข้าใจ  เธอก็คงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้ช่วยเหลือฉัน”

          “คุณจะบอกเธอเรื่องของเราหรือเปล่า”     แฟรงค์เอ่ยถามน้ำเสียงพร่า

          “ไม่จำเป็นหรอก   แค่รู้ว่าฉันเป็นเกย์   เธอก็เดาเหตุการณ์ออกแล้ว”

          แฟรงค์พยักหน้ารับทราบ  ไม่กล้าท้วงติงหรือแสดงความเห็นอะไร  คริสไม่ได้ขอความเห็นเขาแต่กำลังบอกให้เขารับรู้



        แฟรงค์ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน  รู้แต่ว่าเขาต้องออกจากบ้านก่อนที่คริสจะตื่นและเข้ามาพูดคุยเรื่องของเธอกับเขาอีก

        ให้ตายเถอะ!.. แฟรงค์ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเลย เขาควรยินดีกับคริส ถ้าชารอนยอมร่วมมือ  เรื่องของไมเคิลจะได้จบลงด้วยดีซะที...

       ….นายทำเหมือนคนกำลังอกหักรู้ตัวหรือเปล่า…

 
คำพูดกระเซ้าของแซมทำให้แฟรงค์รู้สึกละอายใจตัวเอง มันเป็นแค่แผนเท่านั้น  เมื่อเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็จะไปจากคริสเอง  แต่ถ้าเธอไม่ไปหรือคริสไม่ต้องการให้เธอไปล่ะ!!…

        “เป็นไปไม่ได้หรอกแฟรงค์.. นายคิดมากไปแล้ว คิดมากเกินไป…” 

        แฟรงค์พึมพำปลอบใจตัวเอง เขาชะลอรถเข้าข้างทางดับเครื่องและลดกระจกลง กลิ่นอายทะเลและลมเย็นๆ ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น  เขาควรหลับสักงีบก่อนจะตีรถกลับเข้าไปที่ร้านในตอนเย็น


:a12: :a12:
 

        อาหารค่ำวันนี้สมาชิกทุกคนอยู่กันพร้อมหน้ายกเว้นแฟรงค์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะตั้งแต่คริสปี้ผับเปิดดำเนินการ แฟรงค์ไม่ค่อยมีโอกาสได้อยู่ร่วมโต๊ะอาหารค่ำ  ยกเว้นวันที่คริสต้องการให้อยู่แฟรงค์จะกลับมาทานด้วย จากนั้นก็กลับไปที่ร้านต่อ

        วันนี้มีแขกสำคัญที่คุณคริสเชิญมาร่วมรับประทานอาหารด้วย  สมาชิกหนุ่มน้อยทั้งสี่นั่งมองตาปริบ   ทุกคนจำใจพูดคุยและทักทายตามมารยาท  ทั้งที่รู้สึกแปลกใจกึ่งไม่พอใจแต่ไม่มีใครกล้าแสดงกิริยาไม่ดี ต่างก้มหน้าทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อยทั้งที่รู้สึกตรงกันว่าอาหารค่ำมื้อนี้ฝืดคอสิ้นดี  มีคนเดียวในโต๊ะอาหารที่คุยจ้อเพราะเห็นคนอื่นไม่ค่อยคุยกัน  ไมเคิลพยายามพูดคุยและให้ความเป็นกันเองกับแขก   แต่ต้องอาศัยคริสเป็นล่ามให้เพราะฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง


        “คุณคริสกำลังทำอะไรหรือ โอ..”

        บอยเอ่ยถามขณะนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ในห้องของโอ  สี่หนุ่มระดมพลปรึกษาเรื่องสำคัญกันอย่างเคร่งเครียด

        “ไม่รู้ซี เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้  กับคุณแฟรงค์ก็เห็นดีกันอยู่ เมื่อคืนคุณคริสยังนั่งรอคุณแฟรงค์กลับบ้าน”

        โอไม่เข้าใจและไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  แม้ว่าทุกวันนี้คุณคริสจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาแล้ว  แต่ทุกคนก็ยังรักและภักดีต่อเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์ไม่เปลี่ยนแปลงและยอมรับว่าคุณแฟรงค์เป็นคนสำคัญของคุณคริส ไม่ได้มีฐานะเป็นแค่เพื่อนเหมือนก่อน  และคุณแฟรงค์ก็ยังปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเดิม เคยดูแลทุกข์สุขยังไงก็ยังงั้น  คุณแฟรงค์เป็นตัวกลางระหว่างพวกเขากับคุณคริส  บางขณะเป็นเหมือนตัวแทน  ทุกคนจึงรักและภักดีต่อคุณแฟรงค์ไม่น้อยกว่าคุณคริส

         ...เหตุการณ์ในคืนนี้ทำให้พวกเขาไม่พอใจและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น  คุณคริสพาแขกผู้หญิงมาแนะนำให้พวกเขารู้จัก  โอคงไม่รู้สึกอะไรถ้าแขกผู้หญิงคนนั้นไม่สวยสง่าและดูดีมากแบบนี้ โอรู้สึกหวงคุณคริสขึ้นมาอย่างแรงทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึก  ที่จริงแล้วคุณคริสไม่ได้ชอบผู้หญิง พวกเขาไม่น่าจะต้องรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจ  แต่ท่าทีของคุณคริสที่ปฏิบัติต่อเธอผู้นั้นทำให้โอไม่อาจคิดเป็นอย่างอื่นได้  คุณคริสเทคแคร์เธอเหมือนเธอเป็นคนสำคัญ  เหมือนคุณคริสกำลังมีใจให้เธอ  หรือว่า... คุณคริสกำลังหลงรักเธอ  o12   แล้วคุณแฟรงค์ของพวกเขาล่ะ!!…



:a6: :a6:
 

        “สวัสดีครับ  คริสปี้ผับยินดีรับใช้ ”   เสียงทักปลายสายทำให้แซมดีใจและโล่งอกพร้อมๆ กัน

        “อยู่ไหนน่ะ แฟรงค์.. พวกเราติดต่อนายไม่ได้เลย คริสโทรมาถามหาตั้งแต่บ่ายแล้ว  บอกว่านายออกจากบ้านตั้งแต่เช้า  นี่มัน 2 ทุ่มกว่าแล้วนะ  นายอยู่ไหน.. เป็นอะไรหรือเปล่า แฟรงค์..”

        แซมนิ่งฟังด้วยความตกใจ  แฟรงค์โทรมาบอกว่าเขาอยู่ที่ชะอำ  กระเป๋าเงินและโทรศัพท์หายเพราะจอดรถนอนพัก  โชคดีที่หัวขโมยไม่เอารถของเขาไปด้วย  แต่ยางถูกเจาะแบนทั้ง 4 เส้น  แฟรงค์ฝากแซมดูแลร้านแทน  คืนนี้เขาต้องหาที่พักและจัดการเรื่องรถให้เรียบร้อย  แฟรงค์ให้แซมช่วยจองห้องพักและสั่งเก็บเงินปลายทางให้ด้วย  เนื่องจากเขาไม่มีทั้งเงินและบัตรใดๆ ให้   เจ้าหน้าที่โรงแรมไม่เชื่อว่าแฟรงค์ถูกลักกระเป๋าเงิน อาจเป็นเพราะสภาพของเขาดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไร  แฟรงค์อยู่ในชุดกางเกงแพรเสื้อยืดและสวมรองเท้าแตะอีกต่างหาก  เขารู้สึกสมเพชกับสภาพของตัวเองเช่นกัน  ไม่น่าผลุนผลันออกมาทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนอย่างนี้เลย ต่อให้หล่อและดูดียังไง  ไก่งามเพราะขน  คนงามเพราะแต่งจริงๆ

         แฟรงค์ฝากข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของสี่หนุ่มพร้อมกัน  เพราะไม่แน่ใจว่าใครเปิดเครื่องไว้หรือวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ตรงไหน  อย่างน้อยต้องมีใครสักคนรับข้อความของเขาได้

          “เฮ้!.. หนุ่ม ใครรับข้อความนี้ได้ก่อนฉันมีรางวัลให้ บอกคุณคริสว่าฉันไม่กลับบ้านและฉันก็ไม่ได้อยู่ที่ร้าน มาทำธุระต่างจังหวัดเสร็จธุระเมื่อไรจะกลับ”

                                                              แฟรงค์...

 

        ประตูห้องนอนสี่หนุ่มเปิดออกพร้อมกัน โอ แจ็ค บอยและทิม ถือโทรศัพท์ในมือตั้งใจจะมาบอกกับเพื่อนว่าตัวเองรับข้อความของคุณแฟรงค์ได้ก่อน  ทิมเสียงดังกว่าเพื่อนบอกว่าเขากดก่อนแน่นอนเพราะกำลังถือโทรศัทพ์อยู่ในมือพอดี  โอจึงตัดสินในฐานะพี่ใหญ่ด้วยการเช็คเวลารับของเครื่อง 

        บอยรู้สึกไม่ชอบใจเลย  คุณแฟรงค์ชอบใช้รางวัลมาล่อทุกที ใครๆ ก็อยากได้รางวัลทั้งนั้น ถึงบอยจะทำใจยอมรับเพื่อนๆ ได้แล้วแต่บางครั้งก็อดโมโหไม่ได้  เพราะบอยไม่เคยมีโชคได้รางวัลกับเขาสักครั้ง  รางวัลของคุณแฟรงค์คืออนุญาตให้นอนด้วยหนึ่งคืน 

        โทรศัพท์ของทิมรับข้อความได้ก่อนเพื่อนจริงๆ แต่ทิมขอสละสิทธิ์ไม่รับรางวัล  โอรับข้อความได้เป็นคนที่สองจึงได้รางวัลครั้งนี้ไป  แจ็ค บอยและทิมพูดเป็นเสียงเดียวกันก่อนเดินกลับเข้าห้อง

          “ใครได้รางวัลขึ้นไปบอกคุณคริสด้วย”

        โอยืนอ้าปากหวอ  จะให้เขาขึ้นไปข้างบนทั้งที่คุณคริสอยู่กับแหม่มสาวคนนั้นเหรอ..  เมื่อไรเธอจะกลับซะทีนะ!!  นี่ตั้ง 4 ทุ่มกว่าแล้ว…


 
o12
 

        เสียงรถจอดที่หน้าตึก สมาชิกหนุ่มน้อยนั่งพักผ่อนดูทีวีกันอยู่ลุกพรวดขึ้นพร้อมกันราวกับนัดกันไว้

        แฟรงค์กลับถึงบ้าน 2 ทุ่มของอีกวัน  กว่าจะจัดการเรื่องรถเสร็จก็ปาเข้าไปบ่ายกว่า เขาไม่ได้แจ้งความเพราะไม่อยากมีเรื่องวุ่นวาย โชคดีแค่ไหนแล้วที่เจอแค่หัวขโมยกระจอก ถ้าเป็นโจรอาชีพมันคงไม่ทิ้งปอร์เช่คันหรูนี้ไว้ และป่านนี้เขาก็คงเป็นศพอยู่ในพงหญ้าหรือป่าข้างทางที่ไหนสักแห่ง

        แค่ก้าวเข้าประตู  แฟรงค์ก็ต้องชะงักกับเสียงเซ็งแซ่ของสี่หนุ่ม

        [[[[[[ คุณแฟรงค์  กลับมาแล้วเหรอ…  คุณแฟรงค์ไปไหนมาฮะ  ทำไมไม่บอกให้พวกเรารู้ว่าคุณอยู่ไหน… คุณแฟรงค์… ]]]]]]

        แฟรงค์จุ๊ยปากให้เหล่าหนุ่มน้อยเงียบเสียง  เบนซ์คันงามของคริสไม่อยู่ในโรงรถ   เดาว่าคริสคงไม่อยู่บ้านแต่ก็เอาแน่ไม่ได้..   

        “อย่าหนวกหูซี  คุณคริสอยู่มั้ย”

        แฟรงค์โล่งอกเมื่อสี่หนุ่มส่ายหน้าพร้อมกัน  แต่แล้วคำบอกเล่าของโอก็ทำเอาแฟรงค์ชาวูบที่หัวใจ

        “คุณคริสพาไมเคิลไปดูคอนเสิร์ต  แต่ไม่ได้ไปกันสองคนนะฮะ  คุณคริสพาเพื่อนแหม่มไปด้วย  เมื่อคืนคุณไม่กลับบ้านคุณคริสพาเธอมาทานอาหารค่ำกับพวกเราด้วยนะฮะคุณแฟรงค์”

        “ใช่ฮะ”   บอยเล่าต่อด้วยสีหน้าและน้ำเสียงส่อแววกังวลใจ 

“คุณคริสแนะนำพวกเราว่าเธอเป็นเพื่อนเก่าและเป็นแขกพิเศษของคุณคริส  แต่ที่เราเห็นมันชอบกลยังไงก็ไม่รู้นะฮะคุณแฟรงค์..”

        โอรีบตอบแทนด้วยอารมณ์ริษยา

        “จะชอบกลยังไง บอย..  นายไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว  เห็นๆ อยู่ว่าเธอกับคุณคริสสนิทสนมกันเหมือนไม่ใช่แค่เพื่อน  และที่สำคัญเมื่อคืนเธอก็นอนค้างที่นี่ด้วยนะฮะคุณแฟรงค์..”

        แฟรงค์ยืนอึ้งกับคำบอกเล่าของโอ  เขาไม่ทันตั้งตัวกับเหตุการณ์ที่ได้ยินได้ฟังในวันนี้  แจ๊คเห็นสีหน้าของคุณแฟรงค์แล้วรีบขยายความคำพูดของโอ

        “คุณคริสให้เธอนอนพักที่ห้องรับรองชั้น 2 ครับ คุณแฟรงค์  คุณเป็นอะไรหรือเปล่า  มีปัญหาไม่เข้าใจกับคุณคริสหรือครับ  พวกเราช่วยคุณได้มั้ย”

        แฟรงค์รู้สึกตัว เขาไม่ควรให้หนุ่มน้อยเหล่านี้เห็นความอ่อนแอในหัวใจของเขา

        “โอเค!.. พอแล้ว ๆ ขอบใจที่ช่วยกันรายงานสถานการณ์  ขอบใจที่เป็นห่วง  ฉันสบายดีไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคริส  พวกนายวางใจเถอะ  แหม่มสาวคนนั้นฉันรู้จัก เธอเป็นเพื่อนเก่าของคริสจริงๆ  มาเที่ยวเมืองไทยบังเอิญเจอคริสก็เท่านั้น ”

        แฟรงค์ผละจากกลุ่มหนุ่มน้อยเดินขึ้นบันได  โอ แจ๊ค บอยและทิมเดินล้อมหน้าล้อมหลังตามขึ้นมาด้วย

        “แต่มันน่าแปลกนะฮะ คุณแฟรงค์..”   โอกล่าวต่อด้วยความเป็นห่วง 

“ผมไม่เคยเห็นคุณคริสสนิทสนมกับใครแบบนี้โดยเฉพาะกับผู้หญิง  คุณคริสไม่นึกถึงความรู้สึกของพวกเราเลย”

        แฟรงค์ชะงักเท้า  รู้สึกฉุนโอที่เอาอารมณ์ของตัวเองมาใส่ให้เขา

        “พอได้แล้วโอ.. จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา คุณคริสจะทำอะไรก็เรื่องของเขา  ถ้าเขาชอบแหม่มสาวคนนั้นจริงๆ  พวกนายก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้  เข้าใจมั้ย..”

        สีหน้าแฟรงค์ขึงขังจนสี่หนุ่มยืนอึ้ง โดยเฉพาะโอหน้าเสียที่ถูกแฟรงค์ตวาดใส่  โอรู้ว่าคุณแฟรงค์ก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับพวกเขา  แต่พยายามปิดบังและซ่อนความรู้สึกไว้

        “จะทำอะไรก็ไปทำเถอะ  ขอบใจพวกนายมากที่เป็นห่วง  ฉันจะไปอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวจะเข้าไปที่ร้าน”

        “ไปอีกแล้วหรือฮะ”  ทิมมี่เอ่ยประโยคแรกและกล่าวด้วยความเป็นห่วง

        “หยุดอยู่บ้านสักวันเถอะฮะ คุณแฟรงค์.. ผมอยากให้คุณมีเวลาเจอะเจอและพูดคุยกับคุณคริสบ้าง   คุณคริสจะได้จำได้ว่ายังมีคุณอยู่..”

        แฟรงค์อดหัวเราะไม่ได้ทั้งที่ในใจรู้สึกขมขื่น  เขารั้งทิมเข้ามากอดและจูบที่ศีรษะเบาๆ ทิมเป็นหนุ่มน้อยคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ชอบพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน  เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว ที่คริสเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ยุ่งเกี่ยวกับหนุ่มน้อยเหล่านี้ เพราะเห็นว่าอยู่ในวัยเดียวกับไมเคิล   ตั้งแต่นั้นมาแฟรงค์ก็ไม่ฝืนใจให้ทิมทำในสิ่งที่ไม่ชอบด้วยเช่นกัน   
        “ขอบใจนะทิมมี่..  ฉันคงหมดความหมายสำหรับคริส  ถ้าต้องเห็นหน้าถึงจะจำได้ก็คงต้องบายกันแล้ว  ฉันต้องไปที่ร้าน ต้องรีบทำงานหาเงิน  ฉันอยากยืนได้ด้วยตัวเองซะที  หากต้องไปจากที่นี่ฉันจะได้ไม่อดตาย”

      [[[[ “คุณแฟรงค์!!..”  ]]]]    สี่หนุ่มประสานเสียงเรียกด้วยความตกใจ

        แฟรงค์หัวเราะ

        “ล้อเล่นน่ะ ทำตื่นเต้นไปได้  ฉันไม่จากไปไหนง่ายๆ หรอก ยกเว้นคุณ คริสของพวกนายออกปากเอง  ไปดูทีวีเถอะ  ฉันขอแช่น้ำอุ่นหน่อย”

        แฟรงค์เดินผละจากมา กำลังจะเปิดประตูห้อง  โอก็วิ่งตามเข้ามาประชิด

        “คุณแฟรงค์ฮะ  ที่พูดมาทั้งหมดพวกเราทำใจยอมรับได้อยู่แล้ว  ห่วงแต่คุณ.. ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น  คุณจะต้องเสียใจมากกว่าพวกเรา  เพราะเวลาเราเสียใจยังมีอกของคุณให้ซบ…  แต่ถ้าคุณเสียใจ  จะซบอกใครฮะ...” 

        โอน้ำตาคลอกับคำพูดของตัวเองก่อนหันหลังวิ่งกลับลงไป





 :m15: :m15:




 
TBC >>>>>



 

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #229 เมื่อ24-09-2008 10:49:36 »

 :m15:วุ่นวายไม่จบไม่สิ้น :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
« ตอบ #229 เมื่อ: 24-09-2008 10:49:36 »





ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #230 เมื่อ24-09-2008 11:29:22 »

ช่วงนี้แฟรงค์โดนมรสุมกระหน่ำเยอะจัง  :m15:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #231 เมื่อ24-09-2008 11:44:59 »

เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #232 เมื่อ24-09-2008 12:46:13 »

คงไม่เลวร้ายมากหรอกนะ
แฟรงกี้ สู้สู้

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #233 เมื่อ24-09-2008 14:50:03 »

นั่นสิ ถ้าแฟรงค์เสียใจแล้วจะซบอกใคร

แฟรงค์สู้ สู้นะ

:ped149:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #234 เมื่อ24-09-2008 15:44:33 »

ขอให้ผ่านไปด้วยดีครับ

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #235 เมื่อ24-09-2008 17:21:55 »

สู้ๆ  :ped149:   สู้ๆ :ped149:

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #236 เมื่อ24-09-2008 20:32:04 »

น่าจะไม่ง่ายที่จะเคลียร์เรื่องไมเคิลได้

คนแต่งสู้ๆจ้า

muhan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #237 เมื่อ24-09-2008 21:43:53 »

 :o :serius2:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ
«ตอบ #238 เมื่อ25-09-2008 09:40:54 »

Fatherhood  part 2..  [4]  ต่อ...



แซมเดินเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของแฟรงค์กับลูกค้าขาประจำของร้าน

   “ขอโทษครับ  มีโทรศัพท์ถึงนายแฟรงค์  คุณคริส..”

   แฟรงค์กำลังหัวเราะด้วยอารมณ์เบิกบานใจ  การได้พูดคุยเฮฮากับแขกทำให้เขาผ่อนคลายและลืมปัญหาส่วนตัวไปชั่วขณะ

   “คริสถามฉันว่ามือถือนายเป็นอะไร ทำไมติดต่อไม่ได้ เขามีเรื่องสำคัญมากจะคุยด้วย ถ้านายไม่ว่างมารับ อีกสักครู่เขาจะมาหา”

   แฟรงค์พยักหน้ารับทราบ

   “ขอบใจแซม..  ฉันจะขึ้นไปรับข้างบน”
   

:a6: :a6:


   “หายไปไหนมา แฟรงค์.. มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ฉันติดต่อนายไม่ได้สองวันแล้วนะ  มือถือเป็นอะไร!..”

คริสเริ่มโวย   เพราะที่ผ่านมาถึงจะไม่ค่อยได้เจอหน้าแต่ก็พูดจาทักทายกันทางโทรศัพท์ทุกวัน เขาพูดคุยกับแฟรงค์ได้ทุกเวลาที่นึกถึงจึงไม่รู้สึกหงุดหงิดเท่าไร  แต่สองวันเต็มๆ แล้ว ตั้งแต่เช้าตรู่ของเมื่อวานจนถึงค่ำของวันนี้ นอกจากจะไม่ได้เห็นหน้าแล้วแม้แต่เสียงก็ไม่ได้ยิน

   แฟรงค์เล่าเหตุการณ์ที่ถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินและเจาะยางรถ ขณะจอดรถนอนพักอยู่ริมชายหาด  เขาไม่เคยมีเรื่องปิดบังคริส  แต่สองวันนี้เขารู้สึกเหมือนมีเรื่องในใจปิดบังคริสอยู่  จึงไม่อยากพูดจาหลอกลวงถ้าไม่จำเป็น

   “นายถูกทำร้ายหรือเปล่า แฟรงค์..” คริสถามน้ำเสียงร้อนรนและห่วงใย   “บ้าจริง!.. ทำไมไม่บอกฉันสักคำว่านายจะไปทำธุระอะไร ที่ไหน ถ้าต้องออกนอกเมืองนายควรให้จอนนี่ขับรถให้ เวลาพักผ่อนของนายแทบจะไม่มีอยู่แล้ว ขับรถออกต่างจังหวัดคนเดียวได้ยังไง”

   “ผมโอเค คริส..  ผมไม่เป็นไร แค่ของหายเท่านั้น  คุยเรื่องของคุณดีกว่า มีเรื่องสำคัญอะไรเหรอ  เกี่ยวกับชารอนหรือไมเคิล..”

   แฟรงค์รีบเปลี่ยนเรื่องพูด ไม่อยากให้คริสซักมากความเพราะอาจทำให้เขาต้องพูดปดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
   “ฉันคุยกับชารอนเมื่อค่ำวาน เธอเพิ่งตอบรับฉันเมื่อสักครู่นี้เอง  เธอว่าเธอชอบเจ้าหนูไมค์ของเรา เมื่อคืนฉันเชิญเธอมาทานอาหารค่ำกับเราด้วย  พยายามโทรหานายแต่ติดต่อไม่ได้เลย  ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้น  ฉันเสียใจนะ แฟรงค์..”

   คริสกล่าวขอโทษแฟรงค์ก่อนเล่าเรื่องต่อ

   “ชารอนว่าไหนๆ เธอก็ผ่านการแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง  ถ้าจะแต่งหลอกๆ อีกสักครั้งก็คงไม่เป็นไร  เธอพร้อมจะจดทะเบียนสมรสกับฉันทุกเมื่อ  นายว่าไงแฟรงค์.. เมื่อไรดี  วันศุกร์นี้เลยดีมั้ย..”

   แฟรงค์ใจหายวาบ
   ….อา!  ให้ตายเถอะ  ทำไมเขาต้องรู้สึกเจ็บด้วย  บอกตัวเองหลายครั้งแล้วว่านี่เป็นเพียงแผน และยังเป็นแผนที่เกิดจากความคิดของเขาเอง เพียงเพราะไม่อยากเสียเงิน 30 ล้าน ให้ผัวเมียคู่นั้น  นึกแล้วก็สมน้ำหน้าตัวเอง  เขาคงไม่รู้สึกแย่อย่างนี้ถ้าผู้หญิงที่คริสจะจดทะเบียนสมรสด้วยไม่ใช่เธอ…

   “แฟรงค์..  ฟังอยู่หรือเปล่า”

   “ผมฟังอยู่..”  แฟรงค์พยายามหาทางชะลอเรื่อง  “คุณคุยกับเจอรี่หรือยัง ทางโน้นว่ายังไงบ้าง”

   “เขาขอคำตอบเรื่องเงินวันจันทร์เช้า  ถ้าไม่ตกลงตามนั้น  พวกเขาสองคนจะยื่นขอต่อศาลเหมือนกัน  ไม่มีเวลาแล้วนะแฟรงค์..  นี่มันวันพุธเข้าไปแล้ว”

   “ทำไมต้องเป็นชารอนด้วย คริส..”  

   “ว่าไงนะ!!..  เราพูดเรื่องนี้กันแล้วนี่  นายมีปัญหาอะไร”

   “เอ่อ.. ผมเปล่า  ผมไม่มีปัญหา  เพียงแต่อยากให้คุณทบทวนดูอีกครั้ง  ถ้าผมหาผู้หญิงคนอื่นวัยขนาดเธอ  สวยและมีบุคลิกงดงามเหมาะสมกับคุณ  โดยที่เราไม่ต้องเสียอะไรเลย  นอกจากเงินค่าจ้างจำนวนไม่ถึง 7 หลัก  คุณคิดยังไง คริส..”

               แฟรงค์พยายามยับยั้งความคิดของคริสอีกครั้ง คริสนิ่งเงียบไป แฟรงค์ใจเต้นไม่เป็นจังหวะขณะรอฟังคำตอบ  โอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว…

   ((ฟังฉันนะ แพ็ททริค..)) 

   คริสกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล  เขาเข้าใจความรู้สึกของแฟรงค์ดี และเหตุผลที่เขากำลังจะพูดต่อไปนี้หวังว่าแฟรงค์จะเข้าใจเช่นกัน

   ((ต่อหน้าศาลหรือคนอื่นๆ ถึงเธอคนนั้นจะแสดงเป็นภรรยาของฉันได้ แต่ฉันไม่สามารถแสดงเป็นสามีของหญิงที่ฉันไม่รู้จัก ฉันไม่ใช่นักแสดง  เรื่องนี้ต้องแนบเนียนและเหมือนจริงมากที่สุด ฉันต้องทำให้ศาลเชื่อและมั่นใจว่า เพื่อไมเคิลแล้วฉันสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้จริงๆ ชารอนช่วยฉันได้ ฉันไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเท่าไรถ้าต้องแสดงเป็นสามีเธอต่อหน้าคนอื่นๆ  อย่างน้อยเราก็รู้จักและคุ้นเคยกันมาก่อน นายเข้าใจใช่มั้ย แฟรงค์..))

   ครั้งนี้แฟรงค์เป็นฝ่ายเงียบ เขาเข้าใจและเห็นจริงตามที่คริสพูดทุกประโยค คริสเสแสร้งหลอกลวงใครไม่เป็น  ถ้าเป็นชารอนคริสแค่สมมติย้อนเวลาไปเมื่อ 18 ปีที่แล้วเท่านั้น แฟรงค์รู้สึกละอายใจที่ปล่อยให้อารมณ์และความรู้สึกของตัวเองขัดขวางแผนที่กำลังไปได้ด้วยดี

   “ขอโทษคริส..  ผมแค่เห็นว่านี่เป็นเพียงแผนการสมรสหลอก ๆ  เพื่อให้คุณได้ไมเคิลมาเป็นบุตรบุญธรรม   ผมไม่เห็นด้วยที่ชารอนมารับบทเป็นภรรยาชั่วคราวของคุณ ผมไม่อยากให้เธอมีประวัติไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เพิ่มขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม….”

   แฟรงค์พยายามหาเหตุผลมาอธิบายเพื่อเบี่ยงเบนและปิดบังอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง

   “…ถ้าเป็นชารอน  ไหนๆ ก็คุ้นเคยกันมาก่อน  ทำไมไม่ลองใช้ชีวิตคู่จริงๆ สักระยะ บางทีเธอกับคุณอาจจะเข้ากันได้  ชีวิตสมรสครั้งนี้ก็จะไม่ใช่แค่แผนแต่เป็นเรื่องจริง   เพื่อไมเคิล..  ผมเชื่อว่าคุณทำได้ คริส..”

   ปลายสายนิ่งเงียบไปอีกครั้ง แฟรงค์ไม่รู้ว่าคริสกำลังรู้สึกอย่างไรกับคำแนะนำของเขา  แต่สำหรับตัวเขาตอนนี้คือตกใจไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไป  และแล้วคำตอบที่ได้รับจากคริสก็ทำให้แฟรงค์แทบล้มทั้งยืน

   “เป็นความคิดที่ดีนี่แฟรงค์..  ฉันจะลองคุยกับชารอนเรื่องนี้  เพื่อไมเคิล.. ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้   กู๊ดไนท์ แฟรงค์..”

   คริสวางสายลงดื้อๆ  น้ำเสียงคริสเรียบเฉยจนแฟรงค์เดาอารมณ์และความรู้สึกไม่ถูก   แฟรงค์หมดแรงล้มตัวลงบนที่นอน  รู้สึกเหมือนอาการบาดเจ็บที่หัวใจเข้าขั้นโคม่าแล้ว   :sad2:


 :a6: :a6:




เดี๋ยวมาต่อตอนบ่ายนะ  เข้าประชุมก่อน  ^_^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2008 09:43:07 โดย j-muay »

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [ขึ้น part 2 แล้วจ้
«ตอบ #239 เมื่อ25-09-2008 10:03:19 »

 :a6:ทำไมเป็นแบบนี้ :sad2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด