[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 133364 ครั้ง)

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #30 เมื่อ22-08-2008 12:31:10 »


“โธ่เอ๊ย! ไมเคิล.. ดวงตาสีฟ้าเหมือนกันไม่ใช่เรื่องแปลก มีเยอะแยะไป”

“แต่คุณเหมือนหลายอย่างครับ ไม่ใช่แค่ดวงตา..”

“มีอะไรอีกล่ะที่เหมือน”

“ถ้าคุณมีพี่น้องฝาแฝด...พ่อผมอาจเป็นคู่แฝดของคุณก็ได้ฮะ..”

คริสตะลึงกับคำบอกเล่าของเด็กชาย เขาไม่ใช่แค่มีส่วนเหมือนหรือคล้ายกับพ่อของไมเคิล แต่เขาเหมือนราวกับเป็นคนๆ เดียวกันยังงั้นเหรอ.. นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหนูโผเข้าหาเขาครั้งแรกที่ได้พบ.. หรือแม้แต่ทุกวันนี้เขาเองก็รู้สึกว่าถูกเด็กชายลอบมองบ่อยครั้ง ให้ตายเถอะ ! ... เขาเพิ่งจะเข้าใจถ่องแท้ในนาทีนี้ว่า สายตาที่ไมเคิลจ้องมองเขาและความรู้สึกที่เจ้าหนูมีให้เขา คืออะไร...

นึกถึงเสียงร้องเรียกพ่อเมื่อครู่แล้ว คริสรู้สึกผิดอย่างมหันต์   เขาทำเรื่องเลวร้ายและเจ็บปวดกับความรู้สึกของเด็กชายมากมายเหลือเกิน

ดึกมากแล้วแต่ในสมองของคริส บริเจคส์ ยังทบทวนเรื่องราวของหนุ่มน้อย ในขณะที่เจ้าตัวหลับปุ๋ยไปนานแล้ว
.…ฉันเป็นเหมือนเงาของมิสเตอร์สมิธ พ่อของเธอยังงั้นหรือไมเคิล…



:m15:



“กู๊ดมอร์นิ่งฮะ คุณคริส..”

คริสสะดุ้งกำลังใช้ความคิดจึงไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีใครแอบมายืนข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร คริสหันหลังพิงระเบียงพบเด็กชายในชุดนอนใส่กลับข้างก็อดหัวเราะไม่ได้

“มอร์นิ่งไมเคิล.. รีบตื่นทำไมล่ะ ยังเช้าอยู่เลย..”

“ผมไม่ง่วงแล้วฮะ เมื่อคืนผมหลับสนิทเลย สงสัยเป็นเพราะยาที่คุณให้ทาน ผมเลยไม่ได้ฝันถึงพ่อ.. ปกติผมต้องฝันถึงพ่อทุกคืนเลยฮะ”

คริสใจหายเมื่อได้ยินคำว่า “พ่อ” ไมเคิลคุยจ้อด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมา ทำให้เขารู้สึกละอายใจมากขึ้นจนต้องรั้งร่างเล็กเข้ามาสวมกอด จูบที่ศีรษะและกระซิบขอโทษอีกครั้ง

“ขอโทษนะไมเคิล เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันเสียใจ ฉันขอโทษนะ”

“ผมก็ขอโทษคุณด้วย..ผมผิดเองฮะ”    ไมค์คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองมากกว่า ถ้าไม่คิดตอบแทนบุญคุณด้วยวิธีบ้าๆ ตามที่คุณแฟรงค์บอก เรื่องเมื่อคืนก็ไม่มีทางเกิดขึ้น

“ฉันต่างหากที่ผิด ทำให้เธอตกใจและกลัว ถึงตอนนี้ไม่ว่าเธอจะคิดยังไงกับฉันก็ไม่เป็นไรนะไมเคิล.. แต่ฉันอยากให้เธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะ โอเค!.. ”

“ถ้าจะให้ผมลืม คุณก็ต้องลืมด้วยนะฮะ”

“โอเค! ไมเคิล เราจะหลับตานับ 1-3 และลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมๆ กัน หลับตาซีไมเคิล..”

ไมเคิลหลับตาและนับหนึ่งถึงสาม คุณคริสไม่ได้นับด้วยแต่คุณคริสจูบไมค์ที่ศีรษะ..หน้าผาก..และแก้มครบ 3 ครั้งตามที่นับ เมื่อไมค์ลืมตาขึ้นก็พบคุณคริสจ้องเขม็งอยู่แต่ด้วยสีหน้าและสายตาเปลี่ยนไป

“ฟังนะไมเคิล.. คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่ฉันจะสอนภาษาอังกฤษให้เธอ หลังจากนี้ไปต้องขวนขวายฝึกฝนเอาเอง”

คริสผละจากเด็กชายเดินกลับเข้าห้อง นับจากนาทีนี้ไปเขาจะกลับเป็นคริสคนเดิมซะที

ไมเคิลวิ่งตามเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“ทำไมครับ คุณคริสโกรธผมเหรอ.. ไหนบอกว่าเราจะลืม…”

“ฉันไม่มีเรื่องอะไรต้องลืม ไมเคิล..”

เด็กชายผงะและถอยหนีด้วยความตกใจเมื่อถูกคริสตวาด

“ฉันเสียเวลากับเธอมานาน ฉันละเลยและไม่ได้ใส่ใจกับเด็กคนอื่นมานานแล้ว ถ้าเธอเป็นพวกเขาเธอจะรู้สึกยังไง”

ไมเคิลยืนอึ้งแม้จะเข้าใจที่คุณคริสพูดแต่มันก็เร็วจนใจหายวาบเลย ไมค์ได้แต่พยักหน้ารับทราบไม่กล้าพูดอะไรอีก เพราะหากถูกตวาดอีกครั้งไม่รู้ว่าตัวเองจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลได้รึเปล่า คุณคริสยิ่งชอบว่าไมค์เจ้าน้ำตาอยู่

“เก็บหนังสือและแบบฝึกหัดทั้งหมดกลับไปไว้ที่ห้อง ยังเช้าอยู่ไม่มีใครเห็นเธอหรอก รีบไปซะ เดี๋ยวนี้เลย”

สีหน้าคริสเครียดและจริงจังพอๆ กับน้ำเสียงจนเด็กชายไม่กล้าซักหรือเอ่ยถามอะไรอีก รีบไปเก็บสมุดทั้งหมดรวบมาถือไว้และเดินตรงไปที่ประตู ก่อนจะก้าวออกจากห้องไมเคิลหันกลับไปมองเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องจริงไม่ได้ฝันไป

คริสยืนพิงประตูห้องนอนมองดูอยู่ เด็กชายหันมาส่งยิ้มให้แต่คริสไม่ยิ้มตอบเบือนหน้าหนีและเดินกลับเข้าห้องนอนปิดประตูดังปัง!! ไมเคิลใจหายวาบรีบก้าวออกออกจากห้องและปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา



:m15:



คืนนั้นคุณคริสไม่ได้เรียกไมค์ขึ้นไปสอนเป็นคืนสุดท้ายตามที่ตกลงไว้ กลับเรียกบอยขึ้นไปแทน แต่ไมค์ก็ดีใจที่คุณคริสไม่เรียก เพราะไมค์ไม่กล้าเข้าใกล้หรือแม้แต่จะสบตากับคุณคริสอีก ถึงตอนนี้ไมค์ยังไม่รู้เลยว่าถูกคุณคริสโกรธด้วยเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืน…คุณคริสบอกเองว่าให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วทำไม….



:m15:



หลังจากวันนั้นคริสกลับมาเรียกหาหนุ่มน้อยจอมซ่าของเขา โดยให้ผลัดเปลี่ยนเวรกันเหมือนเคย.. เล่นเอาหนุ่มแสบทั้งสี่แอบฉลองใหญ่ด้วยความดีใจ

“ฉันบอกนายแล้ว สักวันคุณคริสก็ต้องเบื่อไมเคิล และกลับมาเรียกหาพวกเราเหมือนเดิม” แจ๊คกล่าวกับโอในขณะที่นั่งร่วมวงเฮฮากัน

“แต่กว่าจะเบื่อปาเข้าเกือบ 3 เดือน ในขณะที่พวกเราแค่ 2-3 อาทิตย์เท่านั้น รู้อะไรมั้ยแจ๊ค ฉันมีแผนจะกำจัดไอ้หนูนั่นออกไปให้พ้นทางพวกเราอยู่แล้วเชียว.. นับว่ามันโชคดีที่ถูกคุณคริสเบื่อเสียก่อน”

“ไม่เอาน่าโอ.. ไมค์เด็กกว่านายตั้งเยอะ ไม่ละอายใจบ้างหรือไง”

“ละอายทำไม ถ้านายเห็นเหมือนอย่างที่ฉันเห็น นายจะไม่พูดคำนี้”

ภาพที่โอเห็นและยังติดตาอยู่ทุกวันนี้คือ วันที่คุณคริสสวมกอดและจูบไมเคิลที่หน้าระเบียงห้องในตอนเช้ามืด โอตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำและบังเอิญมองขึ้นไปเห็นพอดี ความริษยาในตัวไมเคิลถึงจุดสิ้นสุดที่เขาจะอดทนต่อไป เมื่อคุณคริสมีท่าทีเปลี่ยนไปในเย็นวันนั้น โอจึงเป็นคนเดียวที่ไม่เชื่อและคิดว่าคุณคริสคงหลอกให้พวกเขาตายใจ แต่เมื่อได้ยินคำพูดจากปากของคุณคริสเอง โอจึงเชื่อสนิทพร้อมๆ กับรู้สึกสะใจไปด้วย

“เด็กใจเสาะอย่างไมเคิล จะให้ความสุขฉันได้ยังไง เอะอะก็ร้องไห้ ฉันไม่ชอบเห็นน้ำตาใคร เธอก็รู้นี่นาโอ..”




:m15: :m15:




TBC


~•SAkurAIro•~

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #31 เมื่อ22-08-2008 13:07:36 »

ฮ่า !!~ ได้จิ้มเจ๊หมวยด้วยย >.,<

อ่า เพิ่งเข้ามาอ่านใหม่ครับบบ :o8:

เรื่องสนุกมากเลยอ่า อ่านแล้วลื่นไหลดีครับบ ชอบบ
และก้อยากอ่านแนวนี้มานานแล้ววว  :oni1:  พ่อ-ลุก ๆ   :a2:

รอตอนต่อไปน้าครับบบ  :oni2:  +1 ให้ด้วยยย อิอิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2008 13:09:57 โดย ~•SAkurAIro•~ »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #32 เมื่อ22-08-2008 13:08:22 »

เกลียดโออะ

แมร่ง เลว

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #33 เมื่อ22-08-2008 13:28:29 »

แง้...สงสารนู๋ไมค์ :sad2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #34 เมื่อ22-08-2008 14:31:34 »

 :o12: เศร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #35 เมื่อ24-08-2008 00:37:36 »

สงสารหนูไมค์อ่ะ เง้อไปทำให้โกรธตอนไหนเนี่ย

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #36 เมื่อ25-08-2008 09:17:41 »

6



ตั้งแต่เช้ามืดวันนั้นจนถึงวันนี้ 1 สัปดาห์เต็มๆ แล้วที่ไมเคิลไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่เงาของคุณคริส ถึงวันนี้ไมค์เข้าใจแล้วว่าพี่ๆ พวกนั้นรู้สึกอย่างไร หากคุณคริสไม่เรียกพบอย่าว่าแต่จะได้เขาใกล้เลย บางวันก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้า เพราะในแต่ละวันสมาชิกทุกคนจะพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารเวลา 1 ทุ่มตรงเพียงมื้อเดียวเท่านั้น ส่วนมื้อเช้าและกลางวันตามอัธยาศัย วันไหนที่คุณคริสสั่งไว้ว่าจะกลับมาทานมื้อเย็น มื้อนั้นทุกคนจะต้องอยู่กันพร้อมหน้า แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คุณคริสออกจากบ้านแต่เช้าและกลับดึกทุกคืน มีเพียงไมค์คนเดียวเท่านั้นแหล่ะที่ไม่มีโอกาสได้เห็นคุณคริสเลย ส่วนคนอื่นๆ ผลัดกันขึ้นไปพบคนละคืน แม้คุณคริสจะกลับดึกขนาดไหน เวรใครคนนั้นก็มีหน้าที่คอย

วันนี้ไมเคิลตื่นแต่เช้ามืดตั้งใจมาดักรอพบคุณคริส ไม่ได้เห็นหน้าหลายวันแล้วบางทีคุณคริสอาจจะหายโกรธและทักทายกับไมค์บ้าง ไมค์นั่งดูน้าจอนทำความสะอาดรถอยู่หน้าตึก อยากเข้าไปช่วยแต่ถูกห้ามไว้บอกให้นั่งดูเฉยๆ จึงนั่งคิดอะไรเพลินๆ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อน้าจอนนี่กุลีกุจอเปิดประตูรถ ก็รู้ว่าคุณคริสกำลังเดินลงมาจากตึกแล้ว

ไมเคิลลุกขึ้นและหันไปมองด้วยความดีใจ แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าไม่ใช่คุณคริสที่เดินลงมา คงจะเป็นเพื่อนหรือไม่ก็คงเป็นแขก ไมค์มองเข้าไปในบ้านไม่เห็นคุณคริสเดินตามออกมา และแขกของคุณคริสก็ยังไม่ยอมเดินไปขึ้นรถ เล่นยืนจ้องหน้าจนไมค์ทำอะไรไม่ถูกต้องยิ้มให้และกล่าวสวัสดีเป็นภาษาอังกฤษ เพราะแขกของคุณคริสเป็นฝรั่งเหมือนกัน

แขกทักตอบและถามว่ามายืนทำอะไรตรงนี้ พอไมค์ตอบว่ามารอคุณคริส เขาก็หัวเราะและเดินตรงไปที่รถ ไมค์มองตามด้วยความไม่ชอบใจที่ถูกหัวเราะโดยไม่รู้สาเหตุ และยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเมื่อเห็นแขกก้าวขึ้นไปนั่งในตำแหน่งเดียวกับที่คุณคริสนั่ง คงจะเป็นคำสั่งของคุณคริสให้น้าจอนนี่ไปส่งแขก แต่ทำไมต้องใช้รถคันนี้ด้วยแล้วคุณคริสจะออกไปทำงานยังไง

เร็วเท่าใจคิด… ร่างเล็กวิ่งเข้าไปหานายจอนซึ่งกำลังก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่เตรียมออกรถ

“น้าจอนนี่.. เดี๋ยวก่อนครับ”

“มีอะไรหรือครับ คุณไมค์”

“น้าจะไปส่งแขกหรือครับ แล้วเดี๋ยวคุณคริสจะออกไปยังไง น้าจะกลับมารับทันเหรอ… หรือว่าวันนี้คุณคริสไม่ไปทำงานครับ”

นายจอนอมยิ้มไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน ชำเลืองมองกระจกส่องหลังและเอ่ยถามเบาๆ

“จะให้ตอบยังไงดีครับเจ้านาย..”

แขกคุณคริสลดกระจกลงไมค์จึงได้มีโอกาสเห็นใบหน้าเขาชัดๆ ถึงจะมีหนวดเคราเต็มหน้าแต่ก็ดูอ่อนโยนและใจดี โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องมองมาให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด แม้จะไม่เข้าใจที่นายจอนพูดแต่ไมค์ก็รีบถอยห่างออกจากรถพร้อมกับกล่าวขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ เพราะนึกขึ้นได้ว่ากำลังทำให้แขกเสียเวลา

“ขอบใจนะที่เป็นห่วงกลัวฉันไปทำงานไม่ได้ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ฝึกสอนมาเกือบ 3 เดือน เธอพูดได้แล้วนี่ไมเคิล ขอให้คุยกับพ่อให้สนุกนะ”



 o2



“คุณไมค์มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ จะเอาอะไรหรือเปล่า”

ไมเคิลไม่รู้ว่าตัวเองยืนตะลึงอยู่นานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีเมื่อนายชมมาเขย่าแขนและเรียกเบาๆ ไมค์ส่ายหน้าก่อนจะวิ่งกลับขึ้นไปบนตึกโดยไม่พูดอะไร ทิ้งให้นายชมยืนเกาหัวด้วยความงุนงง

ไมเคิลวิ่งกลับเข้ามาในห้องไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น คุณคริสคนเดิมของไมค์หายไปไหน ทำไมคุณคริสวันนี้มีหน้าตาแบบนี้ ไมค์ไม่อยากร้องไห้แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่รู้สึกเสียใจโดยไม่มีสาเหตุ หน้าตาของคุณคริสเปลี่ยนไปยังไงไม่น่าเกี่ยวข้องกับไมค์ แค่ไม่ได้เห็นหน้าพ่อผ่านใบหน้าของคุณคริสเท่านั้น ไมค์หลับฝันถึงพ่อเองก็ได้..



:o12:



อาหารเย็นวันนี้เป็นมื้อใหญ่ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะคุณคริสกลับมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยทุกคนจึงอยู่กันพร้อมหน้า

สมาชิกในโต๊ะอาหารกำลังวิพากษ์วิจารณ์เจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์กันอย่างสนุกสนาน เพราะวันนี้มิสเตอร์บริเจคส์อารมณ์ดีและเป็นคนเอ่ยอนุญาตให้วิจารณ์ได้

“เหมือน ฌอน คอนเนอรี่ เลยฮะ”

“อะไรกันทิมมี่.. ฉันแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ผมว่าเหมือน เควิน คอสเนอร์ ตอนติดเกาะแล้วไม่ได้โกนหนวด” บอยกล่าวอย่างมั่นใจ

แฟรงค์ส่ายหน้ากับความเห็นไร้สาระของเด็กๆ

“เหลวไหล… ดูยังไงก็ยังเป็นคริส บริเจคส์ อยู่ดี โอ๊ะ! ไม่ใช่ซี ไม่เหมือนก็ตรงดวงตานี่แหละ นึกยังไงถึงเปลี่ยนโฉมซะขนาดนี้อ่ะ คริส ถึงขนาดเปลี่ยนสีของดวงตานี่ มันยังไงๆ อยู่นา.. เหมือนหนีใครยังงั้นล่ะ หวังว่าคงไม่ใช่ตำรวจนะ "

คริสแค่นยิ้มเมื่อได้ยินคำว่า "เหมือนหนีใคร"

“หึ!.. ก็แค่นึกเบื่อหน้าตัวเองขึ้นมา นายอยากเปลี่ยนตาของนายเป็นสีฟ้าบ้างมั้ยล่ะ”

“จริงด้วยฮะคุณแฟรงค์.. ลองเปลี่ยนดูซีครับผมว่าคุณต้องเหมือนจอห์น ทราโวลต้า แน่ๆ ”

“บ้าน่าแจ๊ค หุ่นนายแบบอย่างฉัน นายเอาไปเทียบกับทราโวลต้าได้ไง”

ทุกคนร่วมวงสนทนาและออกความเห็นกันอย่างสนุก ช่วยเพิ่มรสชาดให้อาหารมื้อนี้อร่อยขึ้น โอพูดน้อยที่สุดเพราะมัวแต่เฝ้าสังเกตุกิริยาของไมเคิลซึ่งนั่งอยู่ท้ายสุดฝั่งตรงข้าม รู้สึกสะใจที่เห็นเจ้าหนูนั่งหงอยก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรสักคำ

“ข้าวบ้านเราคงอร่อยมากเลยนะครับคุณคริส ไมเคิลถึงกินข้าวเปล่าได้เกือบหมดจาน”

ข้อสนทนานี้เบนความสนใจให้ทุกคนหันมองไปหนุ่มน้อย ในขณะที่ไมเคิลกำลังจะตักข้าวเข้าปากเป็นคำสุดท้ายต้องรีบวางช้อนลงและหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม

คริสจ้องมองไปที่เจ้าหนูของเขา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าไมเคิลหงอยลงไปเป็นคนละคน แม้ที่ผ่านมาจะไม่พูดมากต่อหน้าคนอื่นแต่ก็ไม่นิ่งเงียบแบบนี้

“ไม่มีความเห็นกับเขาบ้างหรือไมเคิล.. ว่าฉันเหมือนใคร”

ไมเคิลมองหน้าคุณคริสแค่แว่บเดียวก็หลบสายตาลง คุณคริสวันนี้ไม่ใช่คุณคริสที่เขาเคยอยู่ใกล้ชิดด้วย

“เอ่อ.. ผมไม่ค่อยได้ดูหนัง ผมไม่รู้ครับว่าเหมือนใคร"

“ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงหรอกนะไมเคิล คนใกล้ตัวเธอ ใครก็ได้ที่เธอรู้จัก”

……เพียงแค่นี้เด็กชายก็รู้แล้วว่า คุณคริสจงใจถามเพราะต้องการให้ตอบว่า เขายังเหมือนใครในฝันของไมค์หรือเปล่า……

ไมเคิลส่ายหน้าและกลั้นใจตอบ

“ไม่ครับ ไม่เหมือนใครที่ผมรู้จัก”

“ดีมาก ไมเคิล.. เพราะฉันไม่ชอบเหมือนใคร และไม่ชอบให้ใครมาเหมือนด้วย

คำพูดของคริสทำให้หนุ่มน้อยหน้าเสียและใจหาย

….สาเหตุที่คุณคริสเปลี่ยนไปเพราะเรื่องนี้นี่เอง…

แฟรงค์เรียกสาวใช้เก็บโต๊ะและให้เอาของหวานและผลไม้มาเสิร์ฟ เขาจงใจขัดจังหวะการสนทนาเพราะรู้สึกผิดปกติในคำพูดและน้ำเสียงระหว่างคริสและไมเคิล

ไมเคิลขอตัวไม่ทานของหวานเพราะหวังว่าจะได้ลุกออกจากโต๊ะ แต่คริสไม่อนุญาตถึงไม่ทานก็ต้องนั่งรอจนกว่าสมาชิกส่วนใหญ่จะทานเสร็จ อาหารเย็นมื้อนี้ไมค์จึงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน สายตาหลายคู่จ้องมองมาที่ไมค์ด้วยความรู้สึกต่างๆ กัน แต่สายตาคู่เดียวที่ไมค์แคร์มากที่สุดในชีวิตกลับไม่สนใจมองมาที่ไมค์เลย



 :m15:



เสียงเคาะประตูทำให้ไมเคิลต้องรีบเก็บสมุดแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษซ่อนไว้ด้วยความเคยชิน แม้ทุกคนจะรู้กันหมดแล้วว่าคุณคริสช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ไมค์เปิดประตูก็พบคุณโอและทิมยืนอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร

“นายบอกซีทิม..” โอให้ทิมพูด

“พี่แหล่ะเป็นคนพูด พี่เป็นคนเริ่มเรื่องก่อน”

“มีเรื่องอะไรหรือครับ” ไมเคิลรีบเอ่ยถามเมื่อเห็นทั้งสองคนเกี่ยงกันพูด

โอตัดสินใจบอกเรื่องที่ตั้งใจจะมาพูด

“คืองี้นะไมเคิล ทิมมี่เขาอยากได้ห้องของเขาคืน”

“เฮ้ย! ได้ไง ทำไมพูดเรื่องของผมก่อนล่ะ เรื่องของพี่มาก่อนนะโอ”

ทิมโวยหนุ่มโอเพราะไม่อยากให้ไมเคิลเข้าใจผิด เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้วทิมไม่เคยมีปัญหากับไมค์ แถมยังพูดคุยถูกคอกันด้วยเพราะมีวัยไล่ๆ กัน

ไมเคิลพอจะเข้าใจว่าทั้งสองต้องการอะไร

“ฉันอยากได้ห้องของฉันคืน ไมเคิล.. และคุณคริสก็อนุญาตแล้วด้วย บอกให้พวกเราจัดการแลกคืนกันเอง ฉันจะย้ายกลับไปห้องเดิม และทิมก็จะย้ายกลับมาห้องนี้ ส่วนนายก็ต้องย้ายกลับไปที่ห้องของนาย”

“ห้องไหนเหรอครับ”

“ห้องเดิมที่นายเคยอยู่ไง จำไม่ได้หรือไมเคิล”

ไมค์ยิ้มให้แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บช้ำ    “ได้ครับ ย้ายตอนนี้เลยหรือเปล่า”

“ตอนนี้ได้ก็ดี” โออยากให้ย้ายเลยแต่ทิมขอให้ย้ายพรุ่งนี้เพราะคืนนี้ดึกแล้ว

ไมเคิลกลับเข้าห้องเก็บเสื้อผ้า 2-3 ชุดเท่าที่จำเป็นต้องใส่ และสมุดแบบฝึกหัดรวมทั้งหมด 5 เล่ม เตรียมขนไปไว้ห้องพักเดิมที่เคยอยู่พรุ่งนี้เช้า ไมค์ยอมย้ายห้องแต่โดยดี ไม่ได้เอ่ยถามว่าคุณคริสอนุญาตจริงหรือเปล่า ไมค์คิดว่าไม่มีใครกล้าเอาชื่อคุณคริสมาอ้างเล่น และเชื่อว่าคุณคริสคงรู้เรื่องทั้งหมด เพราะคุณคริสวันนี้ไม่ใช่คุณคริสคนเดิมของเขาแล้ว

ไมเคิลกลับมาเป็นเพื่อนข้างห้องนายชมอีกครั้ง กิจวัตรของไมค์ทุกวันนี้คือ ช่วยลุงชมทำสวนและตัดหญ้า ก่อนหน้านี้ไมค์แอบมาช่วยลุงชมทำสวนบ่อยๆ แต่ทุกครั้งถ้าคุณคริสรู้ไมค์ก็จะถูกดุ คุณคริสไม่อยากให้ไมค์หาเรื่องเหนื่อยและสกปรกเลอะเทอะมากกว่าเรื่องอื่น เมื่อไมค์ขออนุญาตจริงจังโดยอ้างว่าเป็นการออกกำลังกายและเป็นการทำตัวให้เป็นประโยชน์ดีกว่าอยู่เปล่าๆ คุณคริสก็เลยอนุโลมให้บ้าง แต่อย่าบ่อยหรือใช้เวลาอยู่กลางแดดนานๆ แต่เดี๋ยวนี้ถึงไมค์จะอยู่กลางแดดนานกี่ชั่วโมงคุณคริสก็คงไม่สนใจแล้ว



:m15:



“เกิดอะไรขึ้นหรือคริส.. คุณมีปัญหาอะไรกับไมเคิลงั้นเหรอ..”

แฟรงค์เอ่ยถามเมื่อแน่ใจแล้วว่าคริสมีปัญหาอะไรบางอย่างกับไมเคิล ไม่ใช่แค่อาการเบื่อที่เคยเกิดขึ้นกับหนุ่มน้อยคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ยิ่งรู้ว่าเจ้าหนูย้ายกลับไปพักในห้องเก็บของที่เรือนคนรับใช้ แม้คริสจะไม่ได้เป็นคนสั่งย้ายแต่เขาก็ไม่ทักท้วงอะไร กลับปล่อยให้หนุ่มแสบทั้งสี่คนทำตามอำเภอใจ

แฟรงค์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับปัญหาและเรื่องส่วนตัวระหว่างคริสกับเด็กๆ พวกนี้ เขารู้จักนิสัยคริสดีว่าไม่เคยรักหรือเกลียดใครจริงจัง เด็กทุกคนที่นี่ผ่านอารมณ์รักและเบื่อของคริสมาแล้ว บทจะเบื่อคริสก็หยุดเรียกหาเอาดื้อๆ เหมือนกับที่ไมเคิลถูกกระทำอยู่ทุกวันนี้ เขาจึงเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่จู่ๆ คริสก็กลับมาเรียกหาหนุ่มน้อยทั้งสี่คนใหม่

แต่ถึงกระนั้นเจ้าหนูไมเคิลก็เป็นหนุ่มน้อยคนแรกและคนเดียวที่คริสเอื้ออาทรผิดกับคนอื่นๆ จนบางขณะแฟรงค์เองก็ไม่แน่ใจว่าความรักที่คริสให้กับเจ้าหนูเป็นความรักแบบเดียวกับที่เขาให้หนุ่มน้อยคนอื่นๆ หรือเปล่า

“ไม่มีอะไร ก็แค่เบื่อ..”

คำตอบง่ายๆ ของคริสทำให้แฟรงค์ส่ายหน้า

“ไม่เอาน่าคริส ผมรู้ว่ามันไม่ใช่แค่เบื่อ.. คุณกำลังมีปัญหา ใจคุณไม่ปกติ”

“ให้ตายเถอะ ! แฟรงค์.. นายเป็นเลขาส่วนตัวที่เยี่ยมยอดจริงๆ รู้ใจฉันหมดทุกเรื่อง… ”

“คุณโกรธไมเคิลเรื่องอะไร” แฟรงค์เปลี่ยนคำถามใหม่

((ตั้งแต่คบกันมา ฉันจำได้ว่านายไม่เคยตั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของฉันเลยนะ แฟรงค์..))

คริสกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบหากแต่ภาษาที่ใช้ทำให้แฟรงค์หน้าเสีย เพราะเป็นที่รู้กันว่าเมื่อไรที่คริสอยู่ในอารมณ์โกรธเขาจะไม่ใช้ภาษาไทย คริสเคยให้เหตุผลว่าบางครั้งเขาใช้คำพูดรุนแรงเพียงเพื่อต้องการระบายอารมณ์เท่านั้น ไม่อยากให้คนที่รับฟังตกใจและเสียใจกับคำต่อว่าของเขา

แฟรงค์กล่าวขอโทษ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของคริสทำไม

“ผมเสียใจคริส ขอโทษที่ทำให้คุณเสียอารมณ์ ผมเพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่ให้ไมเคิลไปพักอยู่ในห้องที่คุณเคยเรียกมันว่า “รูหนู” เท่านั้นเอง”

“แล้วไง นายอยากให้ไมเคิลพักที่ไหนล่ะ แฟรงค์..”

“ถึงผมอยากก็ไม่มีสิทธิ์หรอก บ้านของคุณ คุณสั่งให้ใครพักที่ไหนก็ที่นั่น”

คริสไม่พูดอะไรต่อ แฟรงค์จึงแหย่อีกประโยคลองใจ

“ในเมื่อคุณเบื่อแล้วผมขอนะ คริส..”

…ให้ตายเถอะ!!!... ! แฟรงค์เห็นดวงตาของคริสฉายแววโกรธเคืองทันทีที่เขาพูดจบ แต่เพียงแค่แว่บเดียวเท่านั้น.. ก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆ จะปรากฏพร้อมคำพูดที่ทำให้แฟรงค์สะอึกอีกเป็นครั้งที่ 2

“อะไรที่เบื่อ.. ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการนะ แฟรงค์..”

“คุณยังต้องการอีกหรือคริส คุณผลักไสเด็กไปอยู่ในรูหนูไกลตัวขนาดนั้น ผมไม่คิดว่าคุณยังต้องการเขาอีก”

“ฟังนะแฟรงค์.. ฉันจะไม่คุยกับนายเรื่องไมเคิลอีกแล้ว ถ้าเขาอยู่ในรูหนูนั่นไม่ได้ให้เขามาบอกฉันเอง”

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ แฟรงค์ลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าป่วยการที่จะท้วงติงอะไรอีก

“โอเค! คริส ผมขอโทษ ลืมมันซะ ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไร”

แฟรงค์เดินไปที่ประตูและพูดต่อโดยไม่ได้หันมามองอีกฝ่าย

“มีภาษาไทยบางคำที่ผมเชื่อว่าคุณยังไม่รู้จัก คริส..”

แฟรงค์เปิดประตูออกพบทิมยืนตาปริบๆ มอง เขาหันกลับไปยิ้มให้คริส

“ไม่รู้ว่าคุณอยากรู้หรือเปล่า…แต่ผมอยากบอก “หวงก้าง” คริส.. ถ้าอยากรู้ความหมายถามทิมมี่ดู..”

แฟรงค์เดินจากไปด้วยสีหน้าไม่คอยจอย หนุ่มน้อยทิมมองตามด้วยความงุนงงก่อนจะเดินเข้าไปหาคุณคริสที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์อยู่เช่นกัน

“เอ่อ.. คุณคริสอารมณ์ไม่ดี ผมกลับออกไปก่อนนะครับ”

หนุ่มใหญ่พยักหน้าให้ ไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้เวลาที่เขากำลังโกรธหรืออารมณ์ไม่ดี

“เดี๋ยวก่อน ทิมมี่..”

คริสร้องเรียกเมื่อทิมกำลังจะก้าวออกจากห้อง หนุ่มน้อยหยุดชะงักและหันกลับมา

“ หวงก้าง… แปลว่าอะไร”



:m29:



อาหารค่ำวันนี้สมาชิกในโต๊ะอาหารส่งเสียงพูดคุยกันสนุกสนาน ไม่ต้องมีใครเกรงใจใครเพราะคุณคริสและคุณแฟรงค์ไม่ได้อยู่ร่วมโต๊ะด้วย และเพราะไม่มีแม้แต่คุณแฟรงค์ อาหารเย็นมื้อนี้ไมเคิลแทบต้องกินข้าวคลุกน้ำตาเพราะถูกกระเซ้าเย้าแหย่จากหนุ่มแสบทั้งสี่คน โดยเฉพาะโอและแจ๊ค..แหย่ด้วยคำพูดแรงๆ หลายครั้ง

“แจ๊ค ถ้านายติดอยู่บนเกาะร้างคนเดียว นายจะทำยังไง”

“จะทำยังไงเหรอ ฉันก็จะใช้ชีวิตแบบชาวเกาะ สร้างกระท่อมไม่ไผ่นอน ฉันคงไม่เข้าไปนอนในซอกหินหรอก อึดอัดตายชัก”

ไมเคิลกลืนข้าวแทบไม่ลงเมื่อได้ยินคำว่า “ซอกหิน” หลังจากที่ไม่ได้ยินมานานแล้ว เพราะช่วงที่คุณคริสดีกับไมค์ไม่มีใครกล้าพูดจาให้ระคายหู ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง แต่วันนี้เมื่อไมค์ไม่เป็นที่เอ็นดูของคุณคริสแล้ว ไม่ใช่แค่คำว่า “ซอกหิน” เท่านั้นที่แสลงใจ แต่ทุกคำพูดของโอและแจ๊คทำให้หนุ่มน้อยเจ็บแปลบที่หัวใจจนนั่งทานต่อไม่ได้ ต้องลุกหนีออกจากโต๊ะอาหารกลางครัน

“เคยได้ยินประโยคที่ว่า หัวเราะทีหลังดังกว่า  มั้ยไมเคิล..”    โอพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ แจ๊ครีบกล่าวเสริม

“แล้วคำว่า ตกกระป๋อง เคยได้ยินมั้ย พวกฉันเคยตกกันมาแล้ว แต่สำหรับนายไม่ใช่แค่กระป๋องโว้ย ไมค์.. ของนายต้องเป็นตุ่ม เพราะนายตกลงไปมิดหัวเลยว่ะ ฮะ ฮะ..”

ไมค์นั่งทานข้าวไปเรื่อยๆ ไม่ได้พูดโต้แย้งสักคำ เพราะทุกเรื่องที่ได้ยินเป็นเรื่องจริงทั้งหมด หนุ่มโอกล่าวแดกดันต่ออย่างมันส์ในอารมณ์

“ตุ่มที่นายลงไปตอนนี้เป็นตุ่มเปล่าไม่มีน้ำ พวกฉันจะใส่น้ำลงไปทีละขันช้าๆ ถ้าไม่รีบลุกขึ้นมาตอนนี้ นายจะไม่มีโอกาสอีกเลยนะไมเคิล นายไม่ตายอยู่ในซอกหินแต่กลับต้องมาทนทุกข์ทรมานอยู่ในตุ่ม ช่างน่าสังเวชจังว่ะ ฮะๆ”
โอหัวเราะด้วยความสะใจ คนอื่นๆ ก็หัวเราะตามด้วย แต่สำหรับไมเคิลมือที่จับช้อนตักข้าวสั่นจนเมล็ดข้าวร่วงลงในจาน

บอยกล่าวขึ้นบ้างแต่ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าแจ๊คและโอ

“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะไม่ขึ้นมาร่วมทานอาหารบนตึกหรอกไมเคิล ที่อยู่และที่กินควรจะเหมาะสมกัน”

ประโยคที่บอยพูดแสบไม่เบาสำหรับความรู้สึกของโอ แต่สำหรับไมเคิลมันคือคำแนะนำที่ดี…

ไมค์รวบช้อนส้อมทั้งที่ยังเหลือข้าวกว่าครึ่งและเอ่ยขอโทษก่อนจะลุกออกจากโต๊ะอาหารท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะอย่างสะใจไล่หลัง



:m15:



ไมเคิลรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นคุณคริสเดินลงจากตึกตรงมาที่รถ ไมค์มาดักรอพบคุณคริสอีกครั้งในเช้านี้เพื่อจะขออนุญาตบางเรื่อง

“มีอะไรไมเคิล..”

คริสเอ่ยถามเสียงแข็ง หากแต่แฝงความอ่อนโยนไว้ภายใต้ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เมื่อเด็กชายเดินเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า

“ผมมีเรื่องจะขออนุญาตครับ”

สายตาอ้อนวอนของเด็กชายทำให้คริสต้องเบือนหน้าหนี นึกถึงเรื่องที่พูดคุยกับแฟรงค์ เขายินดีจะเปลี่ยนห้องพักให้ถ้าไมเคิลเอ่ยปากขอ

“เรื่องอะไร”

“ผมขออนุญาตทานอาหารในครัวกับลุงชมและน้าจอนนี่ครับ”

คริสนิ่งอึ้งกับเรื่องที่ไมเคิลขอ ไม่คิดว่าเจ้าหนูกำลังเปลี่ยนตัวเองเป็นคนรับใช้ในบ้านไปแล้ว ดวงตาคู่สวยแฝงความไม่สบอารมณ์แทนความอ่อนโยนเมื่อครู่ เขาเอ่ยอนุญาตน้ำเสียงห้วน

“ตามใจ จะกินที่ไหนก็เรื่องของเธอ ถ้าคิดว่ามันเหมาะแล้ว”

ไมเคิลนั่งคุกเข่ามองดูรถของคุณคริสแล่นออกจากบ้านไป รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของดวงตาและใบหน้าที่ไมค์เคยหลงรักและแอบมองอยู่ทุกวัน ต่อนี้ไปไมค์คงไม่มีโอกาสได้เห็นคุณคริสคนเดิมที่เป็นเหมือนตัวแทนของแด๊ดดี้อีกแล้ว…



:m15:



ตั้งแต่คุณคริสอนุญาตให้ทานอาหารในครัว นับจากวันนั้นไมเคิลก็ไม่ได้ขึ้นไปบนตึกอีกแม้แต่บริเวณหน้าตึกก็ไม่ได้ย่างกรายเข้าไปใกล้ จึงไม่มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับสมาชิกคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มแสบทั้งหลายหรือคุณแฟรงค์ อย่างมากก็แค่เห็นเดินไปมาในระยะไกล ยิ่งคุณคริสด้วยแล้วไมค์ไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่เงา แค่เห็นรถแล่นเข้าออกในบ้าน ได้รับรู้ว่าคุณคริสไปหรือกลับจากทำงานแล้วเท่านั้น



:m15:



“คุณไมค์ คุณไมค์”

เด็กชายสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นนั่งและยิ้มแห้งๆ ให้นายชม เป็นเพราะเมื่อคืนฝันร้ายตกใจตื่นทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน วันนี้ไมค์เลยเผลองีบหลับใต้ต้นไม้ทั้งที่บอกลุงชมไว้ว่าจะช่วยถางหญ้าให้

“ขอโทษฮะลุง ผมช่วยถางให้เดี๋ยวนี้เลย”

“ไม่ต้องแล้วครับ.. ลุงทำเสร็จแล้ว”

ไมเคิลมองออกไปที่สนาม พื้นหญ้าสีเขียวถูกถางสั้นเรียบร้อยแล้ว หนุ่มน้อยลุกขึ้นยืนกล่าวกับนายชมเสียงอ่อยๆ

“ขอโทษนะฮะ ผมเผลอหลับไป ทำไมลุงไม่ปลุกผมล่ะครับ”

“โธ่! คุณไมค์ ลุงจะกล้าปลุกได้ยังไงครับ นี่มันงานของลุง ไปพักผ่อนต่อที่ห้องเถอะครับ ดูท่าจะยังไม่หายง่วงล่ะซี”

“หายแล้วครับ ถ้างั้นผมช่วยทำอย่างอื่นก็ได้ แต่ขอไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวมานะครับ ลุง…”

นายชมมองหนุ่มน้อยวิ่งไปด้วยความรู้สึกเวทนา เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดจากนายจอนว่าคุณไมค์ถูกคุณๆ ทั้งสี่คนไม่ชอบหน้าและแอบรังแกอยู่เสมอ ถึงขนาดต้องย้ายกลับมาอยู่ในห้องแคบๆ นี้ก็เป็นเพราะหนุ่มน้อยเหล่านี้ฉวยโอกาสในช่วงที่เจ้านายกำลังเบื่อคุณไมค์



:m15:
 



TBC


ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #37 เมื่อ25-08-2008 12:34:09 »

 :sad2: รันทด

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #38 เมื่อ25-08-2008 14:47:30 »

สงสารหนูไมค์

กราซิ กราซิก

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #39 เมื่อ25-08-2008 15:23:57 »

เอาเข้าไปมันจะรันทดไปยิ่งกว่าระครหลังข่าวอีกไหมเนี้ย :sad2:
สู้ๆสิครับไมเคิลสู้มันอย่าไปยอม :เตะ1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #39 เมื่อ: 25-08-2008 15:23:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #40 เมื่อ25-08-2008 18:37:52 »

โอ๊ย!  สงสารน้องไมค์มากเลยค่ะ :o12: :serius2:




ลงต่อได้เยอะจุใจมากเลยค่ะ มาต่อไวๆนะคะ :oni1:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #41 เมื่อ26-08-2008 00:51:46 »

หนูไมค์อารายมันจารันทดได้เยี่ยงนี้น่าสงสารอ่ะ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #42 เมื่อ26-08-2008 12:53:01 »

7


คริสหยิบสมุดแบบฝึกหัดที่ไมเคิลหลงทิ้งไว้หนึ่งเล่มขึ้นมาพลิกหน้ากระดาษไปมา นึกทบทวนเหตุการณ์ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ความฝันในคืนแรกและคืนถัดๆ ไป ซึ่งชักนำเขาออกตามหาจนพบและช่วยชีวิตหนุ่มน้อยออกจากเกาะร้างได้  เขายอมรับว่าไมเคิลเป็นหนุ่มน้อยคนแรกที่เขามีความรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษ เขาให้เวลากับไมเคิลมากกว่าใครๆ ไม่ใช่เพราะเขาเห่อสมาชิกใหม่อย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่เพราะความรู้สึกบางอย่างที่เขาบอกตัวเองไม่ได้ว่าคืออะไร รู้แต่ว่าเขารู้สึกสุขใจอย่างประหลาดทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ได้พูดคุยและเห็นรอยยิ้มของเด็กชาย

เขาเคยนึกสงสัยว่าไมเคิลแอบมองเขาบ่อยๆ ทำไม แต่เขาก็ไม่ถามและคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติของเด็กที่แอบมองผู้ใหญ่ที่ตัวเองชื่นชอบว่าเป็นฮีโร่ ไมเคิลเห็นผลงานที่เขาสร้างตึกใหญ่ๆ หลายตึกแล้ว มักจะอ้าปากค้างทุกที

หวนนึกถึงคืนสุดท้ายที่เขาอยู่กับเจ้าหนู ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไมเคิลคิดจะตอบแทนบุญคุณเขาด้วยวิธีที่เห็นหนุ่มน้อยคนอื่นๆ เป็นกัน เขาก็คงไม่รู้ว่าไมเคิลมีความรู้สึกกับเขาอย่างไร เหตุการณ์คืนนั้นทำให้เขารู้ว่าเด็กชายลอบมองเขาบ่อยๆ เพราะอะไร ….เพราะเขาเป็นเงาของบิล สมิธ ไมเคิลมองเขาด้วยสายตาเดียวกับที่มองพ่อตัวเอง….

เหตุการณ์ในคืนนั้นไม่เพียงแต่ทำให้เขารู้ว่าไมเคิลรู้สึกอย่างไรกับเขา แต่มันทำให้เขาได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อหนุ่มน้อยด้วย เขานอนคิดตลอดหลายคืนที่ผ่านมา…ยิ่งคิดยิ่งมั่นใจ เขายอมรับว่าเขากลัวหากความรู้สึกนั้นจริงจังและฝังลึกจนถอนใจไม่ขึ้น เขาจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเจ้าหนูไมเคิลซะ

เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาไม่มีความสุขเลย เหมือนขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป เขาพยายามหลอกตัวเองว่าเขามีความสุขดีอยู่  บอกตัวเองว่าไม่ได้คิดถึงหนุ่มน้อยที่ชื่อไมเคิล ไม่ได้คิดถึงแม้เพียงนาทีเดียว

แต่สำหรับคืนนี้…คริสหลอกตัวเองไม่ได้แล้วว่าเขาไม่ได้คิดถึงเด็กชาย จะไม่ให้คิดถึงได้ยังไง ตั้งแต่เขาออกปากอนุญาตให้ไมเคิลทานอาหารในครัวได้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เกือบ 2 สัปดาห์แล้วที่เขาไม่ได้เห็นเจ้าหนูเลย ได้เห็นบ้างในระยะไกลเมื่อเด็กชายก้มๆ เงยๆ อยู่ที่สนามช่วยนายชมตัดหญ้าบ้าง รดน้ำต้นไม้บ้าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะเรียกมาดุและห้ามไม่ให้ไปวุ่นวายอีก แต่วันนี้..มิสเตอร์คริส บริเจคส์ กำลังเบื่อเจ้าหนูไมเคิลอย่างแรง…แม้แต่หน้ายังไม่อยากเห็นเลย จะให้เรียกมาว่ากล่าวได้อย่างไรกัน



:เฮ้อ:



ไมเคิลวางดินสอลงหลังจากจรดๆ จ้องๆ อยู่นานแล้วว่าแบบฝึกหัดข้อนี้จะตอบอย่างไร ไมค์พยายามทำแบบฝึกหัดที่เหลือเอง ทำไปได้ 2-3 หน้าก็เริ่มยากขึ้นจนตอบไม่ถูกและไม่รู้ว่าที่ทำไปแล้วหลายหน้าถูกหรือเปล่า

ไมค์หยิบแบบฝึกหัดเล่มแรกๆ ที่คุณคริสสอนมาทบทวน จริงๆแล้วไมค์ตั้งใจจะทบทวนความรู้ภาษาอังกฤษ แต่กลับเป็นภาพความหลังช่วงที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณคริส ทุกอิริยาบถของคุณคริสไมค์จำได้ติดตา รวมถึงใบหน้าเกลี้ยงเกลาและดวงตาสีฟ้ามีเสน่ห์คู่นั้น ไมค์จดจำมาตั้งแต่เด็กไม่มีวันลืม

หลายคืนแล้วที่ไมค์ไม่ได้เห็นหน้าพ่อ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะทุกครั้งที่ผ่านมาหากนึกถึงพ่อก่อนนอน คืนนั้นไมค์จะได้เห็นหน้าพ่อในฝันเสมอ และก่อนหน้านั้นแค่ได้มองหน้าคุณคริสก็หายคิดถึงพ่อแล้ว บางครั้งรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ใกล้จริงๆ เลย   แต่วันนี้ไม่มีเงาของพ่ออยู่ใกล้ๆ อีกแล้ว ไมค์ไม่รู้ว่าจะอดทนกับความคิดถึงได้นานแค่ไหน

น้ำใสหยดแหมะลงที่สมุด เสียงเคาะประตูทำให้เด็กชายรู้สึกตัวรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นไปเปิด

“สวัสดีครับ คุณแฟรงค์”

ไมค์กล่าวทักด้วยความตกใจไม่คิดว่าคุณแฟรงค์จะลงมาพบ และยิ่งแปลกใจมากขึ้นเมื่อคุณแฟรงค์ส่งยิ้มให้ สีหน้าและแววตาอ่อนโยนจริงใจ ไม่เจ้าเล่ห์เหมือนทุกครั้ง

“หวัดดีไมเคิล ทำอะไรอยู่ ฉันมารบกวนหรือเปล่า”

“เปล่าครับ ไม่ได้ทำอะไร”

“เห็นไฟเปิดอยู่คิดว่าคงยังไม่นอนก็เลยแวะลงมาหา ขอเข้าไปในห้องได้มั้ย”

“เอ่อ.. ได้ครับ แต่ว่า…” ไมเคิลหันไปมองในห้องก่อนตอบ “ในห้องไม่ค่อยสะดวกครับ ไม่มีที่นั่งครับ คุณแฟรงค์”
แฟรงค์เลิกคิ้ว แสดงสีหน้าแปลกใจ

“อ้าว! แล้วเธอนั่งตรงไหนล่ะ ไมเคิล”

“ผมนั่งที่พื้น หรือไม่ก็บนที่นอนครับ”

แฟรงค์พยักหน้ารับทราบ

“เธอนั่งตรงไหนฉันก็นั่งตรงนั้นแหล่ะ เข้าไปเถอะ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”

แฟรงค์ใจหายเมื่อก้าวเข้ามาในห้อง แค่เดินพ้นประตูก็ถึงที่นอนแล้ว มันเล็กกว่าห้องน้ำในห้องเขาซะอีก ภายในห้องมีเพียงที่นอนและหมอน 1 ใบ มีเสื้อผ้า 2-3 ชุดพับไว้ที่หัวนอน สมุดแบบฝึกหัด 4-5 เล่ม กระจายอยู่บนที่นอนและพื้นห้อง เจ้าหนูรีบทรุดตัวลงเก็บสมุดให้เข้าที่และปัดที่นอนให้เรียบร้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเชิญเขานั่ง

แฟรงค์ทรุดตัวลงนั่งที่พื้นห้องแทนที่จะนั่งบนที่นอน

“นั่งบนนี้เถอะครับ คุณแฟรงค์” ไมค์กล่าวด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ

“ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ไมเคิล นั่งตรงไหนก็เหมือนกัน”

แฟรงค์เงยหน้าสำรวจไปรอบๆ ห้อง นับว่ายังโชคดีที่ห้องนี้มีอากาศถ่ายเทพอสมควร กระจกบานเกล็ด 1 คู่ ทำให้ห้องไม่อึดอัดจนเกินไป ไมเคิลรีบออกตัวเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“ถึงห้องจะเล็กแต่ก็อยู่สบายครับ ผมไม่มีของอะไร แค่มีที่นอนก็พอแล้วครับ”

“พอแล้วจริงเหรอ ไมเคิล..”

แฟรงค์กล่าวถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะต้องการหยั่งรู้ความในใจของหนุ่มน้อย

“จริงครับ”

แฟรงค์ลอบยิ้มเมื่อเจ้าหนูรับรองอย่างหนักแน่นแต่ไม่ยอมสบตากับเขา

ไมเคิลนั่งนิ่งรอธุระที่คุณแฟรงค์จะพูดด้วย รู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่อยู่กับคุณแฟรงค์สองคนในห้อง เมื่อก่อนไมค์ถูกคุณแฟรงค์กระเซ้าด้วยคำพูดแปลกๆ เสมอ ไมค์ได้แต่ยิ้มให้เพราะไม่รู้ แต่ตอนนี้ไมค์รู้แล้วว่าทุกคนในบ้านมีพฤติกรรมอย่างไร

“ไมเคิล”

“ครับ”

“ทำไมไม่ขึ้นไปทานข้าวบนตึกล่ะ คริสบอกว่าเธอเป็นคนขอลงไปทานในครัวจริงเหรอ”

“จริงครับ”

แฟรงค์ไม่เคยพูดจามีสาระเป็นเรื่องราวและด้วยความรู้สึกจริงใจกับเด็กชายมาก่อน เขาเป็นคนสนุก พูดจาติดตลกแต่ค่อนข้างจะไปทางลามกนิดๆ โดยเฉพาะเวลาที่เข้ากลุ่มกับหนุ่มแสบทั้งสี่คนนั่น ที่ผ่านมาไมเคิลไม่เคยพูดคุยกับแฟรงค์เป็นเรื่องเป็นราว อย่างมากก็แค่ทักทายเล่นหัวตามประสาคนอยู่บ้านเดียวกัน

“ไม่ได้เห็นหน้าหลายวันแล้ว รู้มั้ยว่าฉันคิดถึงเธอมากเลย ไมค์..”

ไมเคิลตกใจกระเถิบออกห่าง ไม่ใช่เพราะคำพูดแต่เพราะคุณแฟรงค์เล่นขยับเข้ามานั่งชิดเอาดื้อๆ ไมค์อึกอักไม่รู้จะตอบยังไง

“กลับขึ้นไปทานข้าวบนตึกเถอะนะไมเคิล... จะได้เห็นหน้ากันบ้าง”

“เอ่อ.. อย่าเลยครับ ผมทานในครัวสะดวกกว่า คุณคริสอนุญาตแล้วด้วย ขอกลับไปกลับมา เดี๋ยวคุณคริสโกรธอีก..”

“ยังกลัวคุณคริสโกรธอยู่อีกหรือไมเคิล.. ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้รู้มั้ยว่ามันต่ำถึงที่สุดแล้ว คุณคริสของเธอถึงจะโกรธใครมากขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยทำร้ายจิตใจใคร อย่างมากลงโทษแล้วก็จบไป ไม่ใช่อย่างที่เขาทำกับเธอทุกวันนี้”

“คุณคริสไม่ได้ทำร้ายจิตใจผมนะครับ คุณแฟรงค์..”

ไมเคิลรีบออกตัวเพราะไม่อยากให้คุณแฟรงค์เข้าใจคุณคริสในทางไม่ดี

“เป็นเพราะคุณคริสช่วยชีวิตเธอไว้ หรือเป็นเพราะเธอหลงใหลเขาเรื่องบนเตียง ถึงทำให้เธอรักและเทิดทูนเขามากขนาดนี้ หือ..”

ไมค์ตกใจกับคำถาม ตอบไม่ถูกได้แต่ส่ายหน้า

“ถ้าเป็นเรื่องแรกฉันคงสู้คุณคริสไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องหลังล่ะก็..ฉันไม่แพ้เขานะไมเคิล”

ไมเคิลเขยิบตัวออกห่างอีกเมื่อคุณแฟรงค์ขยับเข้ามาประชิดตัว

“เอ่อ.. ไหนคุณบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย เรื่องอะไรหรือครับ”

ไมค์หาเรื่องเบนความสนใจของคุณแฟรงค์ แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้ไมค์ต้องถดตัวอีกจนชิดผนังห้อง

“ธุระของฉันกำลังบอกเธออยู่นี่ไงไมเคิล คุณคริสเขาไม่เรียกหาเธอแล้ว ตอนนี้เธอก็ว่างพอที่จะให้บริการกับฉันบ้าง” แฟรงค์ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูหนุ่มน้อย

“ตอนนี้เลยได้มั้ยไมเคิล.. ฉันรอมานานแล้วนะ” แฟรงค์ไม่พูดเปล่าใช้จมูกสัมผัสที่แก้มนุ่มของหนุ่มน้อย

ไมเคิลหลับตาปี๋หัวใจเต้นแรงด้วยความตี่นกลัว ความรู้สึกนี้เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วในคืนสุดท้ายที่อยู่กับคุณคริส ไมค์เบือนหน้าหนีเพราะไม่รู้จะขยับไปทางไหน คุณแฟรงค์เล่นเอามือสองข้างยันผนังห้องไว้

“อย่าครับคุณแฟรงค์.. ผมทำไม่ได้”

“ทำไมทำไม่ได้ ทีกับคุณคริสเธอยังบริการเขาทุกคืน”

“ผมเปล่า~~ ผมไม่เคยบริการคุณคริส.. ปล่อยเถอะครับคุณแฟรงค์~~ ผมทำไม่ได้ ผมกลัว~~”

ไมเคิลปฏิเสธเสียงสั่นร่างเล็กสะท้านด้วยความตื่นกลัวจนแฟรงค์ตกใจ รีบผละออกห่าง เจ้าหนูไมเคิลทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ ขืนกระเซ้าต่อมีหวังน้ำตาไหลพรากแน่

“ไม่เอาน่าไมเคิล ทำไมต้องกลัวขนาดนี้ด้วย ฉันแค่รู้สึกปวดเมื่อย อยากให้เธอนวดให้บ้างเท่านั้น”

แฟรงค์กล่าวจริงจังแต่เด็กชายก็ยังมีสีหน้าตื่นกลัวเหมือนไม่เชื่อที่เขาพูด

“ฉันล้อเล่นน่ะ ไมเคิล.. ไม่ได้เห็นหน้าตั้งหลายวัน คิดถึงก็เลยมาคุยด้วย”

แฟรงค์ส่ายหน้าเมื่อเห็นไมเคิลยังทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออยู่อีก เขาขยับขึ้นไปนั่งบนที่นอนหยิบสมุดแบบฝึกหัดที่หัวนอนขึ้นมาเปิดดู อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นลายมือคริสตรวจและเซ็นต์ชื่อพร้อมลงวันที่กำกับเหมือนเซ็นต์เอกสารสำคัญ

“ยังทำแบบฝึกหัดอยู่อีกหรือไมเคิล” แฟรงค์ถามเมื่อเห็นดินสอเสียบอยู่ในสมุดและมีคำตอบที่ตอบค้างไม่จบข้อ

“ครับ”   ไมเคิลหายจากอาการตื่นกลัวและขยับเข้ามาใกล้ เชื่อแล้วว่าคุณแฟรงค์ล้อเล่นจริงๆ

“ไม่มีคนตรวจแล้วจะรู้เหรอว่าผิดหรือถูก”

แฟรงค์ไม่รู้ว่าคำพูดที่แสนจะธรรมดาของเขาทำให้หนุ่มน้อยรู้สึกเสียใจจนต้องก้มหน้าหลบสายตาขณะตอบ

“ผมอยากทำต่อให้หมดเล่มครับ ข้อไหนไม่แน่ใจผมจะวงไว้หน้าข้อก่อน ไว้กลับมาทำใหม่ครับ”

แฟรงค์หัวเราะเพราะที่เห็นอยู่นี่วงไว้เกือบทุกข้อ

“ทำเองตรวจเองเลยหรือไมเคิล ทำไมเก่งจัง หือ..”

แฟรงค์เงยหน้าหนุ่มน้อยขึ้นสบตาด้วย กะจะบอกว่าที่เขาเห็นตอนนี้ถูกเกือบทุกข้อแล้ว แต่ก็ต้องอึ้งไปพร้อมๆ กับรอยยิ้มจางลงเมื่อเห็นดวงตาเจ้าหนูมีน้ำใสคลอระริก

“อืมม์.. ถ้ายังอยากจะเรียนต่อทำไมไม่ลองหาครูสอนคนใหม่ล่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นฝรั่งก็สอนได้นะ...”

“ออกไปหาที่เรียนข้างนอกหรือครับ ถ้าจะออกไปข้างนอกต้องขออนุญาตคุณคริสก่อน ผมไม่กล้าครับ แค่คุณคริสช่วยชีวิตผมไว้และให้ผมพักอาศัยอยู่ด้วย ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไง ผมไม่กล้าขออะไรอีก…”

เหตุผลยืดยาวของเจ้าหนูทำให้แฟรงค์อดหัวเราะไม่ได้

“ใครบอกเธอล่ะไมค์ ว่าให้ออกไปหาครูสอนนอกบ้าน เธอจะมีปัญญาออกจากบ้านได้ยังไง ตั้งแต่มาพักอยู่ที่นี่เคยออกจากบ้านกี่ครั้ง หือ…”

จริงอย่างที่คุณแฟรงค์พูด เกือบ 4 เดือนที่อยู่ที่นี่ไมค์ไม่เคยก้าวออกจากคฤหาสน์หลังนี้เลย คุณคริสไม่ได้ห้ามให้ไมค์ออกไปข้างนอก แต่จะออกไปต้องขออนุญาตก่อน ไมค์ไม่เคยขอเพราะไม่รู้จะออกไปไหน มีเพียงหนึ่งครั้งที่ได้ออกไปพร้อมๆ กับสมาชิกทุกคน ตอนคุณคริสพาไปเลี้ยงฉลอง Project ใหม่เท่านั้น

“ฉันพอจะเป็นครูคนใหม่ของเธอได้มั้ย.. ถึงฉันจะเป็นลูกครึ่ง แต่ภาษาของฉันคุณคริสเขายอมยกนิ้วให้นะ”

ไมเคิลตาโตด้วยความตื่นเต้นและดีใจที่คุณแฟรงค์อาสาจะช่วยสอนต่อแทนคุณคริส แต่ต้องหน้าเสียลงเมื่อได้ยินคำพูดถัดมา

“แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะไมเคิล.. ฉันอยากได้อะไรจากเธอบ้าง”

แฟรงค์ซ่อนยิ้มในหน้าเมื่อเห็นเด็กชายคอตก และเกือบจะหัวเราะก๊ากออกมากับคำกล่าวปฏิเสธที่ออกจากปากเจ้าหนู

“ผมแลกเปลี่ยนไม่ได้หรอกครับ พ่อคงไม่ชอบถ้าผมจะพูดภาษาของพ่อได้แต่ต้องใช้ร่างกายแลกมา ผมทำไม่ได้ครับคุณแฟรงค์ ได้โปรดอย่าบังคับผมอีกเลย”

“ให้ตายเถอะไมเคิล มองโลกในแง่ดีบ้างซีไอ้หนู เห็นฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่ชอบบังคับขืนใจใครหรอกนะ ฉันมีความสุขบนความทุกข์ของใครไม่เป็นหรอก เลิกกลัวได้แล้ว เธอเป็นของคริส ตราบใดที่เขาไม่อนุญาต…ฉันไม่กล้าแตะต้องเธอหรอก”

ไมเคิลกลืนน้ำลายลงคอ หมายความว่าถ้าคุณคริสเอ่ยอนุญาตคำเดียว คืนนี้คุณแฟรงค์คงไม่ล้อเล่น อีกไม่นานหรอก… อีกไม่นานคุณคริสก็คงจะเอ่ยปาก เพราะคุณคริสเบื่อไมค์แล้ว

“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าอย่างนั้นซีไมเคิล.. รู้มั้ยว่าคุณคริสเขายังต้องการเธออยู่ เขาแค่เบื่อนิดหน่อยเท่านั้น”

สรุปแล้วแฟรงค์ตกลงกับไมเคิลว่าจะช่วยสอนภาษาอังกฤษให้วันละ 1 ชั่วโมง แลกกับการที่เด็กชายต้องขึ้นไปบีบนวดให้เขาวันละ 1 ชั่วโมงเช่นกัน แต่กว่าเจ้าหนูจะยอมตกลงเขาต้องยอมรับเงื่อนไขก่อน 2 ข้อ

“คุณต้องสัญญาว่าจะไม่เปิดวีดีโอแบบวันนั้น และต้องไม่บังคับให้ผมทำเรื่องนั้นอีกนะครับ”



:m13:



TBC

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #43 เมื่อ26-08-2008 13:05:39 »

แหม...........................................นายแฟรงค์รีบเลยน่ะ

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #44 เมื่อ26-08-2008 13:34:12 »

เหมือนหมาป่าห่มหนังแกะจังเลยอ่ะค่ะ...แฟรงค์

สงสารหนูไมค์สุดใจขาดดิ้นเลย ให้ตายสิ มีแต่คนจ้องจะกลั่นแกล้ง :serius2:

ลงต่อไว๊ ไวค่า  เอาไปเลย +1  :oni2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #45 เมื่อ26-08-2008 14:51:46 »

ไมค์น่าสงสารเป็นที่สุด

อย่าแกล้งไมค์ของผมเลยครับ

sweetmonkey

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #46 เมื่อ26-08-2008 17:30:05 »

ว้าววว เจ้หมวยย อิอิ

อ่านกี่เรื่องๆ ของ เจ้ ก้อชอบทุกเรื่องเรย

ซึ้งน้ำตาไหลทุกที

มาต่อเร็วนะค่ะเจ้ อยากอ่านต่อไหวๆ หุหุ

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #47 เมื่อ27-08-2008 02:04:17 »

สงสารน้องไมเคิลลลลล

ทู้โน้นก็เศร้า ทู้นี้ก็เศร้า :m15:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #48 เมื่อ27-08-2008 09:16:02 »

7 (ต่อ)


คืนนี้เป็นคืนแรกที่ไมเคิลขึ้นมาหาแฟรงค์ที่ห้อง แฟรงค์นัดเด็กชายให้ขึ้นมาหาตอน 2 ทุ่มทุกวันเว้นวัน   ทันทีที่เห็นไมเคิลเดินขึ้นมาบนตึก โอก็ตรงรี่เข้าไปต่อว่าทำราวกับเป็นเจ้าของคฤหาสน์

“ใครอนุญาตให้นายเหยียบขึ้นมาบนตึก.. กลับไปที่พักของนายซะ ก่อนที่คุณคริสจะกลับมา”

“คุณคริสสั่งห้ามไม่ให้ไมค์ขึ้นมาบนตึกตั้งแต่เมื่อไร.. ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย”

แฟรงค์อารมณ์เสียใส่โอที่พูดจาใหญ่โตเกินฐานะทำเอาเด็กหนุ่มหน้าเสีย เพราะนึกไม่ถึงว่าคุณแฟรงค์จะออกรับแทนซ้ำยังพาเจ้าหนูขึ้นไปบนห้อง สายตาสี่คู่มองตามตาปริบๆ โดยเฉพาะบอยนึกน้อยใจคุณแฟรงค์ที่นัดไมเคิลมาหา ทั้งที่เมื่อตอนเย็นเขาขอขึ้นไปหาที่ห้องแต่คุณแฟรงค์ปฏิเสธ และบอกว่าวันนี้เหนื่อยมากอยากพักผ่อนแต่หัวค่ำ

บอยนึกในใจ ….รอให้คุณคริสกลับมาก่อนเถอะ นายเสร็จแน่ ไมเคิล…



 :m14:



ไมเคิลบีบนวดให้คุณแฟรงค์ได้ประมาณ 20 นาที ก็ได้ยินเสียงกรนคร่อก อยากจะหยุดมือแต่กลัวคุณแฟรงค์แกล้งหลับและหาว่าอู้ก็เลยบีบนวดไปเรื่อยๆ สายตามองเรื่อยเปื่อยไปรอบๆ ห้อง ก็พบว่าห้องนอนคุณแฟรงค์สะอาดเรียบร้อยอย่างไม่น่าเชื่อ อาจเป็นเพราะคุณแฟรงค์ไม่ได้ทำงานก็ได้ จึงไม่มีเอกสารหรือโมเดลวางเกะกะเหมือนห้องคุณคริส

คุณแฟรงค์คงชอบถ่ายรูปจึงมีกรอบรูปตั้งไว้ในห้องหลายจุด ถ้าไม่ได้เข้ามาในห้องไมค์คงไม่มีโอกาสรู้ว่าคุณแฟรงค์เป็นนายแบบสมัครเล่นด้วย ไมค์มองรูปที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงแล้วก็ต้องตาโตด้วยความตื่นเต้น…

เกือบ 4 ทุ่มแล้ว…ไมเคิลเขย่าขาคุณแฟรงค์และเอ่ยเรียกเบาๆ

“คุณแฟรงค์ครับ.. คุณแฟรงค์..”

แฟรงค์ตกใจตื่น รีบมองดูนาฬิกาที่หัวเตียงก่อนจะลุกขึ้นนั่ง

((4 ทุ่มแล้วเหรอ.. พอแล้วไมเคิล ต่อไปถ้าเห็นฉันหลับก็ไม่ต้องนวดแล้วนะ กลับลงไปพักผ่อนได้เลย วันนี้พอแค่นี้… กลับไปนอนได้แล้วไมค์.. กู๊ดไนท์ไอ้หนู))

แฟรงค์กล่าวเป็นภาษาอังกฤษตามข้อตกลงว่า ระหว่างชั่วโมงการสอนเขาจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนไมเคิลจะตอบเป็นภาษาอังกฤษหรือไทยก็ได้ ถ้าหากไม่เข้าใจหรือไม่รู้เรื่องที่เขาพูดจริงๆก็ให้ยกมือ เขาจะทวนคำพูดเป็นภาษาไทยให้ แต่เจ้าหนูไม่ได้ยกมือให้เขาทวนคำพูดเลย แสดงว่าเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดี แต่คำตอบที่ได้รับมักจะเป็นภาษาไทยมากกว่า อาจเป็นเพราะยังไม่ค่อยกล้าพูดหรือเห็นว่าเขาไม่ใช่ฝรั่งจริงๆ

แฟรงค์ทำท่าจะล้มตัวลงนอนต่อ

“คุณแฟรงค์ครับ”

“หือ..”

“ผมขออนุญาตดูรูปที่หัวเตียงหน่อยนะครับ”

ไมค์ไม่กล้าถือวิสาสะหยิบรูปดูตอนที่คุณแฟรงค์หลับ

“ตามสบาย…”

แฟรงค์พยักหน้าและล้มตัวลงนอนต่อทำทีเป็นไม่สนใจ แต่แอบลอบสังเกตกิริยาดีใจของหนุ่มน้อยขณะคลานไปหยิบรูปถ่ายที่เขาถ่ายคู่กับคริสมาดู เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไม่เคยเห็นสีหน้าและแววตาของเด็กชายฉายแววสุขใจแบบนี้มาก่อน

แฟรงค์ขยับขึ้นนั่ง กล่าวกระเซ้าเมื่อหนุ่มน้อยจ้องมองรูปถ่ายตาไม่กระพริบ

“ฉันดูหล่อกว่าตัวจริงมากเลยใช่มั้ย ไมเคิล.. เธอถึงจ้องมองตาค้างยังงั้น”

“เอ่อ.. ครับ” ไมค์เงยหน้าขึ้นและยิ้มแห้งๆ ก่อนจะวางรูปลงอย่างจำใจ

“ผมกลับไปนอนนะครับ”

แฟรงค์พยักหน้า       “กู๊ดไนท์ ไมเคิล..”

“กู๊ดไนท์ครับ คุณคริส..”   ไมค์เอ่ยด้วยความเคยชินเพราะเคยพูดประโยคนี้กับคุณคริสทุกคืน และใบหน้าของคุณคริสยังติดตาอยู่จากรูปที่ดูเมื่อครู่

“อุ๊ย..ขอโทษครับ” ไมเคิลสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ รีบหันมากล่าวลาแฟรงค์ใหม่    “กู๊ดไนท์ครับ คุณแฟรงค์..”

แฟรงค์อมยิ้มและพยักหน้าให้ ทำไมเขาจะไม่รู้…ว่าเจ้าหนูไมค์มีคุณคริสอยู่ในหัวใจตลอดเวลา...

“เดี๋ยวก่อนไมเคิล..” แฟรงค์เรียกหนุ่มน้อยไว้ขณะกำลังจะเปิดประตู และพยักหน้าให้เข้ามาหา

“มีอะไรหรือครับ คุณแฟรงค์..”

ไมเคิลเอ่ยถามแต่สายตาจับจ้องรูปถ่ายที่ดูอยู่เมื่อครู่ ซึ่งตอนนี้มันถูกถอดออกจากกรอบมาอยู่ในมือคุณแฟรงค์แล้ว

“อยากได้รูปถ่ายใบนี้ใช่มั้ย”

ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความดีใจ อยู่ดีๆ คุณแฟรงค์ก็มีความคิดตรงกับใจไมค์

“ครับ” ไมเคิลพยักหน้ารับแต่ประโยคถัดมาของแฟรงค์ทำเอาเด็กชายคิดหนัก

“แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะไมเคิล.. คืนนี้เธอต้องนอนที่นี่”

“เอ่อ!.. นอนเฉยๆ หรือเปล่าครับ”

หนุ่มน้อยเล่นถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ทำให้แฟรงค์อดหัวเราะไม่ได้

“ฮะ ฮะ นอนเฉยๆ ซี แต่นอนข้างๆ ฉันตรงนี้นะ” แฟรงค์ตบที่นอนข้างตัวและยิ้มให้ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

ไมเคิลคิดหนัก ใจอยากได้รูปถ่ายใบนั้นมาก รูปคุณคริสที่เหมือนแด๊ดดี้บิล ราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน ดวงตาสีฟ้าคู่เดิมที่ไมค์ไม่ได้เห็นมาเกือบเดือนแล้ว เพราะฝันหาพ่อไม่เจอ

เด็กชายตัดสินใจแน่วแน่แล้วพยักหน้าให้แฟรงค์



:m13:



“ขยับเข้ามาหน่อยก็ได้ ไมเคิล.. เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก”

แฟรงค์กล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วงจริงๆ เพราะแค่พลิกตัวเท่านั้นเจ้าหนูก็จะร่วงลงจากเตียงทันที แฟรงค์ส่ายหน้าเมื่อไมเคิลยอมขยับแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงแสร้งกล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“ถ้ากลัวมากนักก็กลับลงไปนอนที่ห้องเถอะ หยิบรูปไปได้ ฉันอนุญาต”

ไมค์รู้สึกผิดที่ทำให้คุณแฟรงค์โกรธ รีบขยับเข้าไปนอนใกล้ๆ และกล่าวขอโทษ

“ขอโทษครับ คุณแฟรงค์..”

แฟรงค์เสยผมเด็กชายและกล่าวเบาๆ

“ยังจะกลัวอะไรอีกล่ะ ไฟก็เปิดให้แล้ว ถ้าฉันจะทำอะไรเธอ นอนตรงไหนก็หนีไม่พ้นหรอก”

“แต่คุณสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอะไร” ไมค์รีบทวงสัญญา

“ใช่..ฉันสัญญาแล้ว ทำไมเธอยังกลัวอยู่อีกล่ะ ไม่เชื่อว่าฉันจะทำตามสัญญาใช่มั้ย”

ไมเคิลนอนนิ่งไม่กล้าตอบว่า …ใช่…

แฟรงค์ขยับลุกขึ้นนั่ง และหันไปหยิบอัลบั้มรูปที่อยู่ในลิ้นชักข้างเตียงขึ้นมาเปิดและดึงรูปถ่ายออกมา 1 ใบถือไว้ในมือ

“ฉันมีข้อเสนอใหม่นะไมเคิล ลุกขึ้นมาดูรูปใบนี้ซิ”

ไมเคิลรีบลุกขึ้นนั่งและขอดูรูปถ่ายในมือคุณแฟรงค์ หัวใจพองโตอีกครั้งที่ได้เห็นดวงตาสีฟ้าคู่นี้ มันเป็นรูปคุณคริสถ่ายครึ่งตัว ภาพสวยกว่ารูปถ่ายใบแรก ที่สำคัญไม่มีคุณแฟรงค์อยู่ในรูปด้วย

“อยากเปลี่ยนเป็นภาพนี้แทนมั้ย ไมเคิล..”

ไมค์พยักหน้ารับด้วยความดีใจ แต่นึกขึ้นได้ว่าคุณแฟรงค์ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอีกจึงรีบเอ่ยถามก่อน

“ผมต้องทำอะไรอีกหรือเปล่าครับ”

แฟรงค์พยักหน้าและก้มลงกระซิบข้างหูหนุ่มน้อย



:m13:



แฟรงค์ไม่อยากเชื่อเลยว่าแค่รูปถ่ายของคริสใบเดียว เจ้าหนูไมเคิลยอมรับเงื่อนไขที่เขาเสนอให้คือ ยอมให้เขากอดเฉยๆ และต้องนอนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ห้ามขยับไปนอนริมเตียงอีก

แฟรงค์ได้ยินเสียงหัวใจเต้น เขารู้ว่าเจ้าหนูกำลังตื่นกลัวเพราะนอกจากจะนอนตัวแข็งแล้วยังเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขาแกล้งหยอกด้วยการฝังจมูกลงที่ซอกคอ แต่เพียงแค่สัมผัสเท่านั้นร่างเล็กในอ้อมกอดก็ขืนตัวและผลักเขาออก แต่กำลังของหนุ่มน้อยจะสู้เขาได้อย่างไร แฟรงค์ลืมตัวไปชั่วขณะด้วยความเคยชินนึกว่าไมเคิลเป็นหนุ่มน้อยอีกคนที่เขากำลังสอนให้เรียนรู้ ซึ่งครั้งแรกจะมีกิริยาต่อต้านและแข็งขืนแบบนี้ทุกคน

“ปล่อยนะคุณแฟรงค์.. คุณผิดสัญญา คุณโกหก ผมไม่ต้องการของของคุณแล้ว ฮึก..”

เด็กชายสะอื้นด้วยความตกใจและเสียใจที่ถูกคุณแฟรงค์หลอกจนได้ ในขณะที่แฟรงค์เองรู้สึกตัวรีบผละออกและกล่าวปลอบ

“ฉันขอโทษไมเคิล ฉันล้อเล่นนะ เฮ้! ไม่เอาน่ะ ไอ้หนู อย่าร้องไห้ซี..”

แฟรงค์โมโหตัวเองที่ทำให้เด็กชายตกใจกลัวจนเขารู้สึกกลัวไปด้วย ถ้าเป็นเด็กคนอื่นเขาก็จะปลอบพร้อมๆ กับสอนไปด้วย แต่กับไมเคิลเขาไม่ได้มีความคิดหรือตั้งใจจะสอนเรื่องแบบนั้น เพราะนอกจากจะผิดสัญญาที่ให้กับเจ้าหนูเองแล้ว คำสั่งของคริสยังคงก้องอยู่ในหูเขา…

….อย่ายุ่งกับไมเคิลนะ แฟรงค์.. เด็กคนนี้ฉันดูแลเอง…

และจนบัดนี้คำสั่งนั้นก็ยังไม่ถูกยกเลิก หากเขาทำอะไรลงไปคริสเอาเขาตายแน่

แฟรงค์ลุกจากเตียงเดินวนไปมารอบห้อง ปล่อยหนุ่มน้อยอยู่บนเตียงคนเดียวยิ่งปลอบยิ่งไม่ได้เรื่อง สักครู่ไมเคิลก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นและขอตัวกลับลงไปนอนที่ห้อง

“ขอโทษนะไมค์กี้.. ฉันล้อเล่นจริงๆ อย่าโกรธนะ ”

ถึงจะเชื่อว่าคุณแฟรงค์ล้อเล่นจริงๆ แต่ไมเคิลก็โกรธกับการล้อเล่นของเขา คุณแฟรงค์ยื่นรูปใส่มือไมค์

“เอาเก็บไว้ มันเป็นของเธอแล้ว”

ไมเคิลจ้องดูรูปอีกครั้ง หายโกรธคุณแฟรงค์ทันทีที่ได้เห็นใบหน้านี้ รีบเก็บรูปใส่กระเป๋าเสื้อก่อนที่คุณแฟรงค์จะเปลี่ยนใจหรือมีลูกเล่นอะไรอีก

แฟรงค์เดินตามมาส่งเด็กชายที่ประตู

“ขอบคุณครับ คุณแฟรงค์”

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นคำว่า เธอไม่โกรธฉันได้มั้ย”

ไมเคิลพยักหน้าและกล่าว

“ผมไม่โกรธคุณครับ”

((ขอบใจนะไมเคิล แล้วเจอกันมะรืนนี้)) แฟรงค์กล่าวลาเป็นภาษาอังกฤษ ไมเคิลจึงกล่าวลาตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน

((กู๊ดไนท์ครับ คุณแฟรงค์ แล้วเจอกันครับ))

“เดี๋ยวก่อน ไมเคิล” แฟรงค์เอามือดันประตูไว้

“ขอถามอะไรสักข้อได้มั้ย รูปคุณคริสมีความหมายกับเธอมากในฐานะอะไร"

ไมเคิลขมวดคิ้วไม่เข้าใจคำถาม

“ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ได้มองรูปนี้เป็นคุณคริส แต่เหมือนเธอมองใครที่มีความหมายกับเธอมาก…ใช่มั้ย”

เด็กชายยืนนิ่งไม่คิดว่าคุณแฟรงค์จะช่างสังเกตุ

“ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร กู๊ดไนท์ ไมเคิล..” แฟรงค์เปิดประตูให้ แต่หนุ่มน้อยยังยืนนิ่งเฉยเหมือนกำลังชั่งใจที่จะตอบ

“ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่บอกใคร..”

แฟรงค์พยักหน้า    “ฉันสาบานว่าจะไม่ผิดสัญญาในครั้งนี้ ถ้าผิดขอให้สวรรค์….”

“รูปนี้เหมือนแด๊ดดี้ผมครับ”  ไมค์รีบบอกเพราะไม่อยากได้ยินคำสาบาน

เด็กชายออกจากห้องไปนานแล้ว แต่แฟรงค์ยังยืนนิ่งอยู่กับคำตอบที่ได้รับ…



 o2



ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #49 เมื่อ27-08-2008 09:36:10 »


[8]



เกือบ 5 ทุ่มแล้ว….ดึกป่านนี้ทุกคนคงจะเข้านอนกันหมด ไมเคิลค่อยๆ ย่องลงบันไดและคิดหาทางว่าจะออกจากตึกประตูไหนดี ตัดสินใจเดินผ่านห้องหนังสือเพื่อออกทางประตูครัวจะดีกว่า

“ไมเคิล”  เสียงกังวานมีพลังดังขึ้นด้านหลัง

ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกหัวใจเต้นเป็นกลองรัว ค่อยๆ หันกลับไปพบร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่ที่หน้าห้องหนังสือ

“ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน ขึ้นมาทำอะไร”

ไมเคิลก้มหน้านิ่งไม่รู้จะตอบคำถามยังไง นึกถึงคำพูดของคุณแฟรงค์ว่าถ้าบังเอิญคุณคริสเห็นให้บอกว่าขึ้นมาบีบนวดให้ ไม่ควรบอกว่ามาเรียนภาษาอังกฤษเพราะคุณคริสอาจจะโกรธหรือไม่พอใจ

“ว่ายังไงไมเคิล.. ไม่ได้ยินคำถามเหรอ”

ไมค์เงยหน้าขึ้น ดวงตาคุณคริสยังคงเป็นสีน้ำตาลเข้ม หนวดเคราสีน้ำตาลทองยาวปกคลุมบริเวณแก้มและคาง คุณคริสคนเดิมของไมค์คงไม่กลับมาแล้วจริงๆ

“ผมมาหาคุณแฟรงค์ครับ” ไมค์ตอบเสียงอ่อย

“มาหาแฟรงค์ทำไม!!..” คริสถามเสียงขุ่นด้วยความไม่พอใจ

“คุณแฟรงค์ให้ผมมานวดให้ครับ”

“ว่าไงนะ!!..” คริสรั้งร่างเล็กเข้ามาจับแขนสองข้างเขย่าด้วยอารมณ์โกรธ

“แฟรงค์ให้มานวดเธอก็มาหรือไมเคิล เดี๋ยวนี้คิดจะทำอะไรไม่ต้องขออนุญาตฉันแล้วเหรอ…”

ไมค์ตกใจพร้อมๆ กับรู้สึกเสียใจที่ทำให้คุณคริสโกรธ

“ผมขอโทษครับ คุณแฟรงค์เห็นผมว่างๆ ก็เลยขอให้ผมขึ้นไปนวดให้ นวดเฉยๆ ครับคุณคริส คุณแฟรงค์ไม่ได้ทำอะไร…”

“แฟรงค์ไม่ได้ทำอะไรงั้นเหรอ…”

คริสบีบลำแขนเล็กสองข้างอย่างแรงด้วยความลืมตัว เพราะนอกจากจะรู้สึกเสียหน้าที่เจ้าหนูหันไปปรนนิบัติแฟรงค์เหมือนที่เคยปฏิบัติต่อเขาแล้ว ยังรู้สึกโกรธที่ไมเคิลหลงเชื่อใจแฟรงค์ ทั้งที่รู้อยู่ว่าแฟรงค์เป็นคนยังไง

“เธอเชื่อเขาหรือ ไมเคิล.. แฟรงค์บอกว่าจะไม่ทำอะไร เธอก็เชื่อเขา เธอไม่รู้จักนิสัยแฟรงค์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนยังไง ฉันคอยปกป้องเธอไว้เพื่ออะไร!!   อยู่ดีๆ ก็ขึ้นไปหาเรื่องใส่ตัว!!..”

ไมเคิลรู้สึกเจ็บที่ต้นแขนแต่ไม่กล้าร้องได้แต่กัดฟัน สีหน้าเจ็บปวดของเด็กชายทำให้คริสรีบคลายมือออก

“คุณแฟรงค์สัญญาว่าจะไม่แตะต้องผม คุณแฟรงค์ว่าไม่ชอบบังคับใจใคร”

คริสหัวเราะในลำคอ และกัดฟันพูดด้วยอารมณ์โกรธที่ยังไม่คลายลง

“เธอไม่รู้จักนิสัยเขาจริงๆนะไมเคิล แฟรงค์เขามีวิธีจัดการกับเด็กทุกประเภท แม้แต่เธอเองก็เถอะ.. ถึงไม่ยินยอม

แฟรงค์ก็จะจับเธอมัดคาเตียงเหมือนที่ทำกับเด็กคนอื่นๆ”

ไมค์ตกใจกับเรื่องที่คุณคริสบอก ไม่อยากเชื่อว่าคุณแฟรงค์จะทำเรื่องแบบนั้นได้ แต่เมื่อนึกถึงอาการลืมตัวของคุณแฟรงค์เมื่อครู่แล้ว ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที

“ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ขึ้นไปนวดให้คุณแฟรงค์อีกแล้ว”

“เรื่องของเธอ อยากจะทำอะไรก็ทำ ฉันเตือนเธอครั้งเดียวและจะไม่พูดอีก กลับไปนอนซะ ดึกมากแล้ว”

คริสจบการว่ากล่าวแต่เพียงเท่านี้ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กชายคุกเข่าลงกับพื้นยกมือไหว้และเอ่ยขอโทษเขาอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน..”

ไมเคิลหยุดชะงักเมื่อเดินออกมาได้ 3 ก้าว

“รูปอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อ”

ไมค์ใจหายวาบ ก้มลงดูที่กระเป๋าเสื้อ…รูปถ่ายที่คุณแฟรงค์ให้โผล่ออกมาจากกระเป๋าและยังหงายด้านที่เป็นรูปออก ทำยังไงดี…ไม่คิดว่าจะลงมาเจอคุณคริสเลยไม่ได้เก็บซ่อนไว้…

“ว่าไงไมเคิล.. ขอดูหน่อยได้มั้ย”

คริสทวนคำถามด้วยน้ำเสียงห้วนขึ้น ไมเคิลจึงรีบดึงรูปออกจากกระเป๋าเสื้อส่งให้และก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาด้วย ภาวนาขอให้คุณคริสอย่าโกรธแต่คำภาวนาของไมค์ไม่ได้ผล…

“ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะมีนิสัยแบบนี้ คนที่หยิบของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ภาษาอังกฤษว่าอะไรไมเคิล”

ไมเคิลใจหายวาบเมื่อถูกคุณคริสเข้าใจว่าเป็นขโมย รีบคุกเข่าลงกับพื้นชี้แจงความจริงให้ทราบ

“คุณแฟรงค์อนุญาตให้ผมเอารูปมาได้ฮะ ผมไม่ได้แอบหยิบมาเอง..”

“แฟรงค์อีกแล้วเหรอ.. เขามีสิทธิอะไรอนุญาตให้เธอเอารูปของฉันไป ถึงรูปใบนี้จะเป็นของเขาแต่มันเป็นรูปฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาตเธอไม่มีสิทธิเก็บรูปของฉันไว้ เข้าใจมั้ยไมเคิล.. ถ้ายังไม่เข้าใจ ฉันจะเรียกนายแฟรงค์ลงมาอธิบายพร้อมๆ กัน”

หนุ่มน้อยก้มหน้าลงกับพื้น ไม่กล้าสบตากับเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์อีก

“เข้าใจครับ.. ผมผิดเองที่ผมอยากได้ ผมเป็นคนขอรูปกับคุณแฟรงค์.. อย่าโกรธคุณแฟรงค์เลยนะครับ”

“หึ! ยังจะห่วงนายแฟรงค์อีกเหรอ เธอควรจะห่วงตัวเองเสียก่อน รู้มั้ยว่าเธอทำให้ฉันโกรธ”

ร่างเล็กพยักหน้ารับทราบทั้งที่ยังก้มหน้างุด

“แล้วรู้มั้ย…ว่าถ้าฉันโกรธใครและไม่ได้ลงโทษ นั่นคือฉันไม่อยากเสียเวลาอบรมสั่งสอนหรือพูดคุยด้วยอีกต่อไป ”

คริสทรุดตัวลงเพราะเจ้าหนูไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย

“แล้วแต่ใจนะ ไมเคิล.. ว่าเธออยากให้ฉันลงโทษหรือเปล่า”

ถึงตอนนี้เด็กชายไม่อาจนั่งก้มหน้านิ่งอยู่ได้ รีบเงยหน้าขึ้นตอบคำถามโดยไม่ต้องคิด

 :m15:  “ผมอยากให้คุณคริสลงโทษครับ~~”

เสียงสั่นเครือของหนุ่มน้อยและน้ำใสที่เอ่อคลอดวงตากลมโต ทำให้คริสต้องรีบลุกขึ้นยืนและกล่าวตัดบท

“โอเค! งั้นก็กลับไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ขึ้นมาหาฉัน 3 โมงเช้า ฉันจะบอกว่าเธอควรจะได้รับโทษอะไร”

“ครับ”

เด็กชายออกจากตึกมาด้วยหัวใจที่บอบช้ำ   :o12:   ร่างเล็กวิ่งตรงกลับไปที่พักอย่างเร็ว เสียงฝีเท้ากลางดึกทำให้เจ้าโดเบอร์แมนร็อกกี้ ส่งเสียงคำรามและวิ่งไล่ตามด้วยความตกใจ นึกว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้าน แต่พอเข้ามาใกล้และรู้ว่าเป็นไมเคิลเพื่อนซี้ก็หยุดเห่าและวิ่งตามมาส่งถึงห้องพัก

ไมเคิลล้มตัวลงนอน น้ำตาไหลเป็นทางด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องรูป กว่าจะได้มาต้องอดทนกับความกะล่อนของคุณแฟรงค์ แต่คุณคริสกลับเก็บคืนไปโดยไม่ถามสักคำว่าไมค์จะเอาไปทำอะไร คุณคริสไม่ต้องการให้ไมค์ได้มีโอกาสเห็นดวงตาสีฟ้าคู่นั้นแล้วจริงๆ


:m15:


คริสกลับขึ้นมาบนห้องด้วยหัวใจที่เจ็บช้ำเช่นกัน ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องรู้สึกเสียใจกับการว่ากล่าวไมเคิล เหมือนความรู้สึกของหนุ่มน้อยสะท้อนกลับมาที่ตัวเอง เขาเป็นคนดุว่าแท้ ๆ ยังรู้สึกเจ็บเพียงนี้ ความรู้สึกของเจ้าหนูขณะนี้จะเจ็บช้ำเพียงไร พรุ่งนี้เขาจะออกปากลงโทษหนุ่มน้อยอย่างไรจึงจะไม่เจ็บปวดมาถึงหัวใจตัวเอง


o7
 

เกือบตี 1 แล้ว…. แฟรงค์ยังเดินวนไปมาอยู่ในห้อง สมองของเขามีเรื่องให้คิดจนไม่สามารถข่มตาหลับได้ เสียงเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์ดุว่าสมาชิกในบ้านเบาอยู่ซะเมื่อไร ไม่ใช่แต่แฟรงค์เท่านั้นที่ได้ยิน หนุ่มน้อยทั้งหลายที่พักอยู่ด้านล่างก็ได้ยินกันทั่วแต่ไม่มีใครกล้าออกมาเสนอหน้า ต่างเงี่ยหูรอฟังสถานการณ์อยู่ที่ประตูห้องนอนตัวเอง

ตั้งแต่ไมเคิลเข้ามาเป็นสมาชิกในคฤหาสน์บริเจคส์ แฟรงค์เพิ่งได้มีโอกาสพูดคุยและอยู่ใกล้ชิดหนุ่มน้อยในคืนนี้ มันทำให้เขารู้ว่าตลอดเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา คริสมิได้ปฏิบัติกับไมเคิลเหมือนหนุ่มน้อยคนอื่นๆ อาการตื่นกลัวของเจ้าหนูขณะถูกเขาสวมกอดทำให้แฟรงค์มั่นใจ และเข้าใจแล้วว่าทำไมคริสจึงไม่อนุญาตให้เขาแตะต้องเด็กชายลูกครึ่งคนนี้

เหตุการณ์ที่คริสว่ากล่าวไมเคิลเมื่อครู่ทำให้แฟรงค์มั่นใจว่าระหว่างคริสและเด็กชายมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน แต่ไม่เข้าใจว่าแค่รูปถ่ายใบเดียวทำไมคริสจึงโกรธไมเคิลมากมายถึงขนาดต้องลงโทษด้วย เรื่องที่เจ้าหนูขึ้นมาหาเขาที่ห้องไม่เป็นที่พอใจของคริสไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคริสไม่เคยไว้ใจเขาเรื่องนี้ แต่เพราะเหตุใดไมเคิลจึงยังเป็นคนพิเศษของคริส ทั้งที่คริสเองก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจเด็กแล้ว หากแต่ขณะดุว่าน้ำเสียงของคริสกลับแสดงความห่วงใยอย่างมาก ไหนจะความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในตัวคริสที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล และคำตอบที่ไมเคิลให้เขาเรื่องรูปถ่าย ยิ่งคิดแฟรงค์ก็ยิ่งมั่นใจว่ามหาเศรษฐีบริเจคส์กำลังหนีความจริงอะไรบางอย่างด้วยการหลอกตัวเอง


:เฮ้อ:


อาหารเช้าวันนี้สมาชิกทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า พ่อบ้านลูเดินเคาะประตูห้องปลุกทุกคนแต่เช้าและแจ้งให้ทราบว่าคุณคริสจะรับประทานอาหารเช้าและขอพบทุกคนที่โต๊ะอาหาร

หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่นั่งทานอาหารกันเงียบกริบ เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ไม่มีใครกล้าพูดคุยเล่นเพราะไม่แน่ใจอารมณ์ของคุณคริส ขนาดนั่งทานอาหารยังไม่ยอมพูดคุยหรือทักทายใครสักคนเอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ และอาหารเช้าของคุณคริสก็มีแค่กาแฟเพียงถ้วยเดียว ในขณะที่คนอื่นๆ คุณคริสให้เสิร์ฟอาหารเช้าเต็มชุดวางไว้ล่วงหน้าเลย
แฟรงค์เตรียมใจที่จะพูดคุยกับคริสเรื่องไมเคิล แต่อีกฝ่ายกลับไม่เอ่ยถามอะไรสักคำ ทำเหมือนกับไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมา

คริสพับหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะเมื่อสังเกตุว่าทุกคนอิ่มกันเกือบหมดแล้ว

“ถ้าไม่มีใครมีธุระที่ไหนให้ไปเก็บเสื้อผ้าตามฉันไปภูเก็ต เราจะค้างที่นั่น 1 คืน”

“คืนเดียวเองหรือครับ คุณคริส” โอเอ่ยถามแทนเพื่อนๆ

“ฉันไม่ได้ไปเที่ยว ไปธุระเรื่องงาน ให้พวกเธอตามไปด้วยแก้เหงาเท่านั้น ถ้าใครไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”

“ผมไปฮะ” หนุ่มแสบทั้งสี่คนเอ่ยขึ้นพร้อมๆ กัน

คริสหันมาทางชายหนุ่มซึ่งนั่งจิบกาแฟเงียบอยู่ข้างๆ

“มีธุระที่ไหนหรือเปล่าแฟรงค์.. ถ้าไม่มีฉันอยากให้นายไปด้วย”

“ให้ไมเคิลไปด้วยหรือเปล่า”

แฟรงค์ตั้งใจถามแม้รู้ว่าอาจทำให้อีกฝ่ายเสียอารมณ์ แต่ผิดคาดรอยยิ้มมีเสน่ห์ของคริสฉายขึ้นบนสีหน้า และคำตอบที่แฟรงค์ได้รับตามมา ถ้าไม่ได้ยินกับหูเขาไม่มีวันเชื่อว่าคริสเป็นคนพูด

“โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับไมเคิลหรอก เขาไม่ชอบทะเล ไม่ชอบเกาะ พาไปด้วยเดี๋ยวจะพาลนึกถึงเกาะร้างจนนอนร้องไห้ทั้งคืน”

แฟรงค์อึ้งกับคำตอบที่ได้รับ คำพูดประชดประชันนี้น่าจะออกจากปากเจ้าตัวเแสบทั้งสี่คนมากกว่า

“งั้นผมขอตัวล่ะกัน ไมเคิลคงรู้สึกไม่ดี ถ้าเราไปกันหมดทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว”

ครั้งนี้คริสเป็นฝ่ายนิ่ง คำพูดของแฟรงค์แสดงความเป็นห่วงไมเคิลอย่างออกนอกหน้า ยังไม่ทันเอ่ยอะไรหนุ่มบอยก็รีบแย้งขึ้นเพราะอยากให้คุณแฟรงค์ไปด้วย

“อยู่คนเดียวที่ไหนกันฮะคุณแฟรงค์ คนในบ้านออกเยอะแยะ แล้วเดี๋ยวนี้ไมเคิลก็แทบจะไม่ได้ขึ้นมาบนตึกแลัว พวกเราอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่เห็นเกี่ยวเลย หรือว่าคุณแฟรงค์จะให้ไมค์…”

“หยุดได้แล้ว บอย..”

คริสขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เขารู้ว่าบอยจะพูดอะไรและเขาไม่ต้องการได้ยิน

“ไม่ต้องอธิบายเหตุผล แฟรงค์ไม่อยากไปก็เรื่องของเขา ใครจะไปก็เตรียมตัว เจอกันที่หน้าตึก 3 โมงเช้า”

คริสลุกขึ้นยืน

“นายอยู่เฝ้าบ้านก็ดีแฟรงค์.. จะได้อยู่เป็นเพื่อน เจ้าหนูของฉัน” คริสย้ำคำว่าของฉันก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบข้างหูเลขาคู่ใจ

“หวังว่าฉันคงไม่ได้ฝากปลาย่างไว้กับแมวขโมยนะ”

คริสหันไปสั่งพ่อบ้านให้ตามไมเคิลขึ้นไปพบที่ห้องก่อนเดินจากไป

แฟรงค์กลืนน้ำลายลงคอและแอบพึมพำเบาๆ

“ฝรั่งปากจัด.. รู้มากนักนะ”



o12



TBC>>>>



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #49 เมื่อ: 27-08-2008 09:36:10 »





ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #50 เมื่อ27-08-2008 09:46:12 »

ตกลงอีตาคุณคริสนี่มันจะเอายังไงกันแน่   o12

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #51 เมื่อ27-08-2008 10:27:07 »

ว้อยขัดใจ

สงสารไมเคิลใจจะขาด

ผู้ชายใจร้าย เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งนั้น

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #52 เมื่อ27-08-2008 10:29:10 »

ไม่ใจร้ายเกินไปเหรอครับคุณทำเงี้ยถ้าทำงี้สู้เอาไปปล่อยไว้บ้านเมตตาดีกว่านะครับสงสารจิตใจเด็ก :angry2:มั้งเหอะตาเฒ่า

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #53 เมื่อ27-08-2008 11:46:00 »

สงสารน้องไมค์จริงๆ ไม่เข้าใจผู้ใหญ่เรื่องนี้เลยทำไมต้องทำร้าย
ขอให้น้องไมค์แก้แค้นให้ได้หน่อยเถอะ o12

sweetmonkey

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #54 เมื่อ27-08-2008 13:24:21 »

ทไมคริส ไม่ยอมรับใจตัวเองสักที ว่าคิดไงกะไมเคิล

หนีไปทำไมก้อม่ายรุ คนที่เจ็บปวด ก้อทั้งไมเคิล ทั้งคริสอยู่ดี

เฮ้อ สงสานหนูไมค์กี้จริงๆเรลย

nez

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #55 เมื่อ27-08-2008 22:30:54 »

 :sad2:
 :sad2:
 :sad2:

สงสารน้องไมค์อ่ะ 

คริสใจร้ายจัง

 :m31:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #56 เมื่อ28-08-2008 12:45:01 »

[8]  ต่อ


“จำได้ใช่มั้ยไมเคิล ว่าฉันจะลงโทษเธอด้วยความผิดอะไร”

ไมเคิลพยักหน้ารับทราบและยินดีรับผิด

“ฟังนะไมเคิล วันไหนที่ฉันหรือแฟรงค์กลับมาทานอาหารเย็น ให้เธอขึ้นมาทานบนตึกไม่อนุญาตให้ทานในครัวอีกแล้ว แต่ถ้าฉันหรือแฟรงค์ไม่อยู่ทั้งคู่จะนั่งทานที่ไหนก็ตามใจ แต่สำหรับเย็นนี้จะมีแฟรงค์คนเดียวที่อยู่บ้าน เธอจะขึ้นมาทานพร้อมเขาก็ได้…ถ้าเขาอยู่”

คริสสั่งเสร็จก็ลุกขึ้นยืนและบอกให้เด็กชายกลับออกไปได้

“ครับ”   ไมค์รับคำสั่งใหม่ก่อนจะเอ่ยถามถึงบทลงโทษที่ตัวเองจะได้รับ

“เอ่อ.. แล้วเรื่องลงโทษ…จะให้ผมทำอะไรครับ”

“สั่งไปแล้วไง… ที่บอกเมื่อครู่คือโทษที่เธอได้รับ”



 :m13:

 

“เฮ้! โอ.. รู้มั้ยว่าคุณคริสสั่งให้ไมเคิลกลับขึ้นมาทานข้าวบนตึกเหมือนเดิมแล้ว”

บอยรีบเข้ามารายงานโอเพราะแอบได้ยินที่คุณคริสสั่งโดยไม่ได้ตั้งใจ บอยกำลังจะเข้าไปขออนุญาตคุณคริสว่าขออยู่บ้านดีกว่า เพราะหากคุณแฟรงค์ไม่ไปเขาก็ไม่อยากไป ไม่มีใครรู้ว่าลึกๆ ในใจของบอยรักคุณแฟรงค์มากกว่าคุณคริส

สองสามวันมานี้บอยเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่ไมเคิลเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณแฟรงค์ถึงขนาดขึ้นไปบีบนวดให้ที่ห้องแล้ว บอยรู้จักนิสัยคุณแฟรงค์ดี หากปล่อยให้อยู่ตามลำพังกับไมเคิลในคืนนี้..อะไรจะเกิดขึ้น แค่คิดหนุ่มบอยก็ไม่ชอบหน้าไมเคิลขึ้นมาทันที จึงคิดหาวิธีกำจัดโดยไม่ต้องลงมือเอง แค่รายงานให้โอรู้ก็พอ...

“นายต้องทำอะไรสักอย่างนะโอ.. ถ้าปล่อยไว้ไม่นานพวกเราก็ต้องกลับไปตกกระป๋องเหมือนเดิม อีกสองวันคุณคริสอาจมีคำสั่งใหม่ให้เจ้าไมค์ย้ายขึ้นมานอนบนตึกเหมือนเดิมและเราก็ต้องสับเปลี่ยนย้ายห้องกันอีก เตรียมตัวไว้เถอะโอ..”

บอยใส่อารมณ์ให้สมจริงสมจัง    เมื่อโอรักคุณคริสมากเท่าไร เขาก็จะเกลียดชังเจ้าหนูไมเคิลมากขึ้นเท่านั้น...



o3


“ไมเคิล”

เด็กชายหันไปตามเสียง...พบคุณแฟรงค์ยืนกวักมือเรียกที่ระเบียงหน้าตึก รีบวางสายยางลงและวิ่งเข้าไปหา

“ครับ คุณแฟรงค์..”

แฟรงค์พิศมองหนุ่มน้อยด้วยความรู้สึกเวทนา เสื้อยืดที่สวมอยู่ทุกวันสับเปลี่ยนไปมาเพียงไม่กี่ชุด และขณะที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้เนื้อตัวก็มอมแมมเหมือนคลุกกับดินมา

“ทำไมต้องทำด้วย ไมเคิล..”

“ทำอะไรครับ”

“ก็รดน้ำต้นไม้ ทำสวนอะไรเนี่ย.. คุณคริสสั่งให้เธอทำเหรอ..”

“เปล่าครับ คุณคริสไม่ได้สั่ง ผมทำเอง ผมอยากช่วยครับ”

แฟรงค์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้พักผ่อนหน้าระเบียง เขาอยู่ในชุดพร้อมจะออกจากบ้าน กลิ่นน้ำหอมโชยกรุ่นตามสไตล์

“เลิกทำได้แล้วนะ ไปอาบน้ำอาบท่าซะ   มอมแมมชะมัดเลย”

“แต่ผมยังรดน้ำต้นไม้ไม่เสร็จ สนามด้านโน้นยังไม่ได้รดเลยครับ”

“ปล่อยให้นายชมทำ ไม่ใช่หน้าที่เธอซะหน่อย”

“แต่วันนี้ลุงชมไม่ค่อยสบาย ผมอาสาช่วยลุงทำแล้ว ต้องทำให้เสร็จครับ”

แฟรงค์แกล้งกระเซ้าลองใจ

“โอ! ไมเคิล.. จิตใจช่างดีงามเหลือเกิน ทำไมคุณคริสถึงมองไม่เห็น ทำร้ายจิตใจเธอได้นะ” พูดถึงคริสเด็กชายหน้าจ๋อยลงทันที

“ไมเคิล..”

“ครับ”

“เรื่องเมื่อคืน...คุณคริสลงโทษอะไรเธอหรือเปล่า”

ไมเคิลยืนนิ่งตอบไม่ถูกว่าคุณคริสลงโทษหรือเปลา เมื่อคุณแฟรงค์ถามย้ำ

ไมค์จึงบอกว่าคุณคริสลงโทษโดยสั่งให้กลับขึ้นไปทานอาหารบนตึกทุกมื้อที่คุณคริสหรือคุณแฟรงค์อยู่ร่วมโต๊ะด้วย

แฟรงค์ตีสีหน้าขรึมทั้งที่อยากจะหัวเราะก๊ากออกมากับบทลงโทษใหม่ของเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์

“น่าเสียดายเหลือเกินไมเคิล.. เย็นนี้ฉันมีนัดซะด้วย เธอต้องนั่งทานข้าวคนเดียวล่ะซี”

“คนเดียวที่ไหนครับ คุณไม่อยู่ผมก็ไปทานในครัว”

“อ้อ!.. จริงซี เธอมีพรรคพวกเยอะนี่ ฉันจะได้ไม่ต้องห่วง คืนนี้อาจจะไม่กลับ ไ ม่ต้องคอยนะไมเคิล.. เข้านอนก่อนได้เลย”

แฟรงค์เดินผิวปากไปที่รถอย่างอารมณ์ดี

“ทำไมผมต้องคอยคุณด้วย  ไม่ได้นอนห้องเดียวกันซะหน่อย”

เด็กชายพึมพำเบาๆ ขณะที่สายตามองตามชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันงามแล่นออกจากประตูคฤหาสน์ไป



:m13:



ดึกมากแล้ว...แต่ไมเคิลยังไม่ง่วงนอนจึงออกมาเดินเล่นที่สนาม นึกถึงคำพูดของบอยที่แกล้งเดินมาพูดเยาะเย้ยก่อนขึ้นรถ

“คุณคริสจะพาพวกเราไปเที่ยวทั้งหมดเลย เสียใจด้วยนะไมเคิลที่นายอดไป คุณคริสบอกว่ากลัวนายนอนร้องไห้ เพราะที่เราจะไปเป็นเกาะ มันอาจทำให้นายคิดถึงเกาะร้างและซอกหินขึ้นมาอีก คุณคริสก็เลยไม่พานายไปเพราะไม่อยากให้นายสะเทือนใจ”

จนถึงวันนี้ไมค์ยังใจหายทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า“ซอกหิน” ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะทำใจได้ และวันนี้ไม่ใช่แค่ใจหายวาบอย่างเดียว แต่รู้สึกเสียใจที่คำพูดนี้ออกจากปากคุณคริสผู้ซึ่งเป็นคนช่วยไมค์ออกจากเกาะและให้ชีวิตใหม่กับไมค์เอง
อากาศเย็นลงจนไมเคิลเริ่มรู้สึกหนาว คิดว่าถึงเวลาที่ควรจะเข้านอนแล้ว ระหว่างเดินกลับไปห้องพักไมค์อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมวันนี้ไม่ได้ยินเสียงเจ้าร็อกกี้เลย ทุกครั้งมันจะมาเดินเป็นเพื่อนและหมอบอยู่ข้างๆ เวลากลับก็จะเดินตามไปส่ง

ไมเคิลเป็นคนเดียวที่เจ้าโดเบอร์แมน-ร็อกกี้  สุนัขของคริสยอมเล่นและสนิทสนมด้วยอย่างรวดเร็วจนทุกคนในบ้านแปลกใจตามๆกัน ขนาดหนุ่มน้อยทั้งสี่คนอยู่ที่นี่มาเกือบสองปีแล้วยังเข้ากับเจ้าร็อกกี้ไม่ค่อยได้ ส่วนเจ้าเซนต์เบอร์นาร์ด-โรบิน สุนัขของแฟรงค์เข้าได้กับสมาชิกทุกคน



:sad2:


ไมเคิลสะดุ้งตื่นกลางดึกเมื่อได้ยินเสียงกุกกัก กี่โมงแล้วก็ไม่รู้เพราะไม่มีนาฬิการู้แต่ว่าเพิ่งเคลิ้มหลับไปได้ไม่นาน ไมค์ลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่หน้าห้องและพยายามจะเปิดประตูเข้ามา นึกถึงคุณแฟรงค์ก่อนทันที รีบลุกขึ้นเปิดไฟ ใจเต้นตุ้บตับด้วยความตื่นกลัวอีกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของคุณคริสเมื่อคืน กำลังจะร้องถามประตูก็ถูกผลักเข้ามา ร่างเล็กถูกผลักล้มลงบนที่นอนพร้อมกับที่แสงสว่างในห้องดับมืดลง เด็กชายตกใจตะกายตัวหนีกำลังจะร้องตะโกนก็ถูกฝ่ามือทั้งใหญ่และหนาปิดปากไว้ ร่างเล็กถูกคร่อมทับอย่างไม่ออมแรงจนหายใจไม่ออก เด็กชายกลัวจับใจจนร่างกายสั่นสะท้าน คนที่นึกถึงคือพ่อ.. หากแต่มโนภาพของพ่อในวันนี้กลับเป็นใบหน้าที่มีหนวดเคราและดวงตาสีน้ำตาลเข้มไม่ใช่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่มีดวงตาสีฟ้าเหมือนทุกครั้ง


:sad2:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2008 13:07:12 โดย j-muay »

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #57 เมื่อ28-08-2008 13:04:31 »

[9]



นายชมขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นเด็กชายตื่นแต่เช้ามืดนั่งซักผ้าอยู่ในห้องน้ำ

“คุณไมค์ นั่งซักอะไรแต่เช้าครับ”

“ซักผ้าปูที่นอนครับ” เด็กชายก้มหน้าตอบ

“ทิ้งไว้เถอะครับ ทำไมต้องซักเองด้วย ลำบากเปล่าๆ เดี๋ยวให้ลูซี่จัดการให้”

“ไม่ครับลุง ผมทำมันเลอะ ผมจะซักเอง”

“ตามใจครับ”

นายชมเดินเลี่ยงออกมาเพราะเห็นหนุ่มน้อยมีท่าทางแปลกๆ ไม่ค่อยอยากให้ซักถามอะไร คงจะเลอะอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครเห็น นายชมเดาเอาว่าหนุ่มน้อยคงจะปัสสาวะรดที่นอน จึงอายและไม่อยากให้ใครรู้ …เด็กหนอเด็ก…

ไมเคิลนั่งก้มหน้าซักผ้าปูที่นอน  มือเล็กคลี่ผ้าที่ซักออกดูว่าร่องรอยที่เลอะจางหายไปหรือยัง น้ำตาร่วงผล็อยลงบนฟองสบู่สีขาวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ร้ายที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมง ไมค์หมดสติไปตอนไหนไม่รู้ รู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกก็นอนไม่หลับตลอดคืน เพราะพอหลับตาก็คอยแต่จะผวากับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น


:m15:


หลังอาหารเช้าไมเคิลเก็บตัวอยู่แต่ในห้องพัก นายชมรู้สึกผิดปกติแต่ก็ไม่ซักมากความ เพราะหนุ่มน้อยบอกว่าเมื่อคืนฝันร้ายเลยนอนไม่หลับทั้งคืน นายชมจึงบอกให้ไปนอนพักผ่อน

“คุณไมค์  คุณไมค์  ตื่นเถอะครับ”

นายชมสะกิดเรียกหนุ่มน้อยเมื่อกลับเข้ามาในห้องแล้วพบว่าไมเคิลยังนอนหลับสนิทอยู่ที่พื้นห้องข้างเตียงนอนของเขา ไมเคิลขออนุญาตนายชมเข้ามานอนในห้องเมื่อตอนบ่าย โดยบอกว่านอนในห้องตัวเองแล้วฝันร้าย

ร่างเล็กสะดุ้งตื่นเหงื่อซกเต็มกาย  กำลังฝันร้ายพอดี  ลุกขึ้นนั่งมองไปรอบๆ  รู้สึกโล่งอกที่ไม่ใช่ห้องตัวเอง

“กี่โมงแล้วครับลุง..”   

“6 โมงเย็นแล้วครับ ใกล้จะได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สดชื่นก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะได้ขึ้นไปทานอาหารบนตึก”

ไมเคิลส่ายหน้า     “ผมจะทานในครัว”

“ทานในครัวได้ยังไงครับ ลืมไปแล้วหรือว่าคุณคริสสั่งให้คุณขึ้นไปทานบนตึกทุกมื้อที่ท่านหรือคุณแฟรงค์ร่วมโต๊ะด้วย”

“แต่วันนี้คุณคริสไม่อยู่”

“กลับมากันหมดแล้วครับ ตั้งแต่บ่าย 4 โมง คุณคริสกลับมาถึงก็ถามหาคุณเลย พอรู้ว่านอนหลับอยู่ก็บอกว่าไม่เป็นไร สั่งให้ผมเตือนคุณให้ขึ้นไปทานอาหารเย็นด้วย”

“ผมไม่อยากขึ้นไปทานบนตึกครับ” ลำแขนเล็กสวมกอดตัวเองเพราะรู้สึกหนาวเหมือนกับจะเป็นไข้ “ผมไม่ค่อยสบาย”

“ปวดหัวใช่มั้ยครับ” นายชมรีบถามดักคอเพราะใครนอนเวลานี้ตื่นขึ้นมามักหงุดหงิดไม่สบายใจหรือปวดหัวทุกราย
ไมเคิลพยักหน้ารับทั้งที่ไม่ได้ปวดหัวแต่ปวดระบมไปทั้งตัวต่างหาก ไมค์ไม่อยากเจอใครบนตึกในเวลานี้แม้แต่คุณคริสเองก็เถอะ

“ลุกขึ้นไปอาบน้ำให้สบายก่อนเถอะนะครับ แล้วจะรู้สึกดีขึ้น.. วันนี้เป็นวันแรกของคำสั่งใหม่ ไม่ขึ้นไปทานจะไม่ดีนะคุณไมค์ คุณคริสท่านคลายโกรธลงแล้ว อย่าทำให้ท่านหงุดหงิดอีกเลย ดูท่าท่านอยากพบคุณด้วย อาจจะมีของฝากก็ได้นะครับ”

ไมค์ส่ายหน้าและลุกขึ้นอย่างจำใจ     “ผมไม่อยากได้ของฝาก”

ก่อนออกจากห้องไมเคิลบอกนายชมว่าคืนนี้ขอนอนในห้องด้วยคน ไม่อยากนอนคนเดียวกลัวฝันร้ายอีก  นายชมรับปากด้วยความเต็มใจ…



:sad2:



อาหารเย็นมื้อนี้ไมเคิลกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านอีกครั้ง คุณคริสไม่เอ่ยทักไมค์สักคำ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งทำไม... สู้ลงโทษให้ยืนในวงกลมหรือเฆี่ยนตียังดีเสียกว่าให้มานั่งเผชิญหน้าด้วยแต่ไม่ยอมพูดจาทักทาย ไม่แม้แต่จะสบตาด้วยซ้ำ

ไมเคิลไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องนั่งตรงไหนเพราะทุกคนสลับที่นั่งกันใหม่หมด ปกติคุณแฟรงค์ต้องนั่งติดกับคุณคริส แต่วันนี้เป็นโอและแจ๊คนั่งขนาบข้าง ถัดมาฝั่งแจ๊คเป็นบอยและทิม ไมค์ยืนรีรอไม่แน่ใจว่าควรจะนั่งติดกับโอหรือเปล่าเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบหน้าตัวเองเอามากๆ

“ใครอยากนั่งตรงไหนก็นั่ง มาก่อนก็นั่งก่อน” คุณคริสเปรยขึ้นโดยไม่ยอมเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์

ไมเคิลรีบเดินเข้าไปนั่งข้างโอเพราะไม่อยากให้คุณคริสเสียอารมณ์กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะทรุดตัวลงบนเก้าอี้  ก็ถูกร่างสูงเพรียวแทรกตัวเข้ามานั่งแทนพร้อมกับรั้งหนุ่มน้อยให้นั่งลงข้างตัวเอง

คริสซ่อนยิ้มในสีหน้าเมื่อเลขาคู่ใจของเขาแก้ไขสถานการณ์ไว้ได้ เขายอมรับว่าแฟรงค์เป็นคนละเอียดอ่อน รู้จักนิสัยและอารมณ์ของเด็กแต่ละคนดีกว่าเขา

คริสอยากจะทักทายเจ้าหนูไมเคิล เพราะเมื่อคืนเขานอนหลับๆ ตื่นๆ ตลอดคืน ใจไม่เป็นสุขคอยคิดถึงหนุ่มน้อยอย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่เคยคิดถึงหรือเป็นห่วงใครมากถึงขนาดทำให้ตัวเองนอนไม่หลับแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อได้พบและเห็นหน้าเขากลับไม่ทักทายเจ้าหนูตามที่ใจต้องการ ยิ่งได้ยินคำพูดที่แฟรงค์พูดกระเซ้าเด็กชายแล้วทำให้เขารู้สึกว่าเสียเวลาคิดถึงและเป็นห่วงเปล่าๆ

“เมื่อคืนโอเคมั้ย ไมเคิล..”

ไมเคิลผวากับคำถามก้มหน้างุดลงทันที ร่างเล็กสั่นน้อยๆ เหมือนตื่นกลัวอะไรบางอย่าง แฟรงค์รีบโอบกอดไว้และกระซิบปลอบโดยไม่สนใจกับสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอยู่

"เฮ้!..ไม่เอาน่ะไมเคิล..ไม่ต้องกลัวนะ… ไม่สบายตรงไหนก็บอก.. หือ.."

คริสพยายามสะกดกลั้นอารมณ์กับภาพที่เห็น

“ทานข้าวได้แล้วแฟรงค์.. ไม่ใช่เวลามาปลอบโยนกัน”

แฟรงค์คลายวงแขนออกรู้สึกฉุนคริสที่ไม่สนใจความรู้สึกของเด็กชาย ไมเคิลเงยหน้าขึ้นฝืนยิ้มให้เขาและกล่าวกระซิบเบาๆ มือเล็กจับช้อนส้อมเตรียมทานอาหาร

“ผมไม่เป็นไรครับคุณแฟรงค์..”

ไมเคิลทานข้าวไปได้ 2-3 คำก็รู้สึกปวดท้องอยากจะถ่าย นึกโกรธตัวเองทำไมต้องปวดเวลานี้ด้วย ถ้านั่งทานอยู่ในครัวก็ขอลุกออกไปได้ แต่นี่... ดวงตากลมโตชำเลืองมองที่หัวโต๊ะ สีหน้าไม่สบอารมณ์ของคุณคริสทำให้หนุ่มน้อยต้องอดทนไม่กล้าเอ่ยขออนุญาต มีทางเดียวคือรีบทานให้อิ่มและขอลุกไปทีเดียว

ไมเคิลอดทนทานต่อได้ 3 คำก็สุดที่จะกลั้นต่อไปได้อีก มือเล็กวางช้อนส้อมลงและยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“เป็นอะไรไมเคิล อาหารไม่อร่อยเหรอ”

ไมค์ไม่สนใจคำถามของคุณแฟรงค์ รีบลุกขึ้นยืนและเอ่ยขออนุญาต

“ขออนุญาตครับ”

คริสชะงักมือที่กำลังตักอาหารเพราะรู้ว่าคนที่หนุ่มน้อยกำลังพูดด้วยคือเขาไม่ใช่แฟรงค์ คริสชำเลืองสายตาขึ้นสบดวงตากลมโตของร่างเล็ก ใจหายเมื่อเห็นสีหน้าหม่นเศร้าและแววตาอ้อนวอนตัดพ้อของเจ้าหนู

“มีอะไรหรือไมเคิล..”

“ผมขออนุญาตอิ่มก่อน.. ผมปวดท้องอยากถ่ายครับ”

ไมเคิลจำเป็นต้องบอกเหตุผล เพราะถ้าไม่บอกถึงอิ่มแล้วก็ต้องนั่งรอคนอื่นๆ อยู่ดี ตอนนี้ไมค์นั่งรอใครไม่ไหวแล้ว..

แฟรงค์แทบสำลักเมื่อได้ยินเหตุผลที่ไมเคิลรีบอิ่มอาหาร

“โธ่เอ๊ย! ไมเคิล ทำไมถึง…”

“รีบไปซี ยืนอยู่ทำไม”  คริสเอ่ยขัดจังหวะก่อนที่แฟรงค์จะโวย    “ไปทำธุระให้เรียบร้อยแล้วกลับมาทานข้าวต่อ ฉันจะคอย..”

คริสกล่าวอนุญาตด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน สมาชิกหนุ่มน้อยไม่มีใครกล้าหัวเราะต่างนั่งก้มหน้าทานข้าวของตัวเองต่อไป

ไมเคิลอยากจะบอกคุณคริสว่าไม่ต้องคอยแต่พูดอะไรไม่ได้แล้ว เพราะรู้สึกปวดมากจนต้องรีบเดินออกจากโต๊ะอาหารและวิ่งไปหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด ไมค์รีบจนลืมขอบคุณที่คุณคริส อนุญาตด้วยซ้ำ

20 นาทีแล้วที่ไมเคิลหายออกไปจากโต๊ะอาหาร หนุ่มน้อยทั้งสี่อิ่มกันหมดแล้ว โอ แจ๊ค และทิมนั่งทายปัญหาฆ่าเวลา ส่วนหนุ่มบอยลุกจากที่นั่งของตัวเองมานั่งข้างๆ แฟรงค์กระซิบออดอ้อนจนแฟรงค์ใจอ่อนยอมให้ขึ้นไปหาที่ห้องคืนนี้

“โอ๊ะ โอ! ไมเคิลหลับในส้วมหรือเปล่านะเนี่ย..”

แฟรงค์นึกขึ้นได้ว่ากำลังนั่งคอยเด็กชายกันอยู่ เขาเป็นคนทานอาหารช้าที่สุดและอิ่มเป็นคนสุดท้ายประจำ แต่สำหรับคริสยังไม่อิ่มเพราะเล่นไม่แตะต้องอาหารเลย  เอาแต่อ่านหนังสือคอยเจ้าหนูไมเคิลตามที่บอกไว้
คริสปิดหนังสือและดูเวลาที่ผนังห้อง ไมเคิลหายไปนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วหรือว่าไม่ได้ยินที่เขาสั่งและกลับห้องไป  คริสอนุญาตให้ทุกคนแยกย้ายกันไปได้  แฟรงค์ลุกขึ้นนำทีมหนุ่มน้อยไปพักผ่อนต่อในห้องเธียเตอร์

คริสสั่งพ่อบ้านไปดูว่าไมเคิลกลับห้องไปหรือยัง ลูหายไปไม่ถึงหนึ่งนาทีก็กลับมารายงานว่าห้องน้ำที่ไมเคิลเข้าไปยังล็อคอยู่ แต่ร้องเรียกแล้วไม่มีเสียงขานรับ กำลังให้นายจอนวิ่งไปดูที่ห้องพัก คริสร้อนใจจนต้องลุกไปดูที่ห้องน้ำด้วยตัวเอง ประตูห้องน้ำล็อคจริงตามที่พ่อบ้านรายงาน

“ไมเคิล.. ยังอยู่ข้างในหรือเปล่า ไมค์..”

คริสเอ่ยเรียกหนุ่มน้อยเบาๆ เพราะไม่แน่ใจว่าจะยังอยู่ข้างใน น่าจะกลับไปที่ห้องพักแล้วมากกว่า ประตูอาจถูกล็อคโดยไม่ได้ตั้งใจ

นายจอนวิ่งกลับมารายงานด้วยอาการเหนื่อยหอบ

“ยังไม่กลับไปที่ห้องเลยครับเจ้านาย ลุงชมบอกว่ายังไม่เห็นคุณไมค์เลยครับ”

คริสร้อนใจหนักขึ้น มั่นใจแล้วว่าไมเคิลยังอยู่ในห้องน้ำ

“ไมค์.. อยู่ข้างในหรือเปล่า ไมเคิล!!..”

คริสตะโกนเรียกแค่สองครั้งก็หันมาขอกุญแจห้องน้ำจากพ่อบ้านลู ลูล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจห้องพักในบ้านออกมา และเลือกดูอยู่สักครู่ก่อนจะยื่นกุญแจส่งให้   ระหว่างไขกุญแจคริสภาวนาขออย่าให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับเด็กชาย เขาผลักประตูห้องน้ำเปิดออกช้าๆ


ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #58 เมื่อ28-08-2008 13:18:31 »

 o7
มาต่อแล้วเย้ๆๆๆ

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #59 เมื่อ28-08-2008 14:01:23 »

ใครมันทำร้านน้องไมเคิล :m31:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด