[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 133350 ครั้ง)

sweetmonkey

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #60 เมื่อ28-08-2008 16:11:12 »

ช่างทำร้ายจิตใจ เจงๆ ไมกี้ของช้านนน่าสงสาร

อ่านกี้รอบก้อเศร้า แงงง :sad2:


nez

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #61 เมื่อ28-08-2008 16:56:12 »

อร๊ายยยยยย  คัยทำแบบนี้ก่ะน้องไมค์อ้ะ


เครื่องประหารหัวสุนัขขขขขข

 :m31:

nez

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #62 เมื่อ30-08-2008 00:50:03 »

อยากอ่านนนน

รอนะคะ

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #63 เมื่อ30-08-2008 01:01:11 »

ไอ่บ้านั่นเป็นใครกัน :m15:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #64 เมื่อ01-09-2008 11:21:10 »


[10]


คริสแทบช็อคกับภาพที่เห็น เจ้าหนูไมเคิลอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่างนั่งชันเข่าในอ่างอาบน้ำด้วยอาการสั่นสะท้าน น้ำตาไหลพรากอาบแก้มแววตาเลื่อนลอยไร้จุดหมาย เสียงพึมพำเบาๆ ออกจากริมฝีปากซีดจนเกือบจะเขียว

เด็กชายนั่งร้องไห้ในอ่างอาบน้ำคงไม่ทำให้คริสตกใจเกือบช็อค ถ้าไม่ใช่เพราะพื้นอ่างน้ำบริเวณที่หนุ่มน้อยนั่งอยู่มีของเหลวสีแดงไหลนองเป็นทางลงช่องระบาย และไม่ใช่แค่ในอ่าง โถส้วมและพื้นห้องเต็มไปด้วยกระดาษทิชชูซับเลือด ดูแล้วคงไม่ใช่บาดแผลเล็กๆ เพราะเลือดยังไม่หยุดไหล

“โอ! พระเจ้า.. ไมเคิล..เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

คริสถลาเข้าหาร่างเล็กด้วยความตกใจ เขาเงยหน้าหนุ่มน้อยขึ้นกล่าวปลอบและเช็ดน้ำตาให้

“ไม่ต้องกลัวนะไมเคิล เจ็บตรงไหนบอกฉันซิ...”

ไมเคิลยังไม่มีสติและไม่รับรู้ว่าคริสอยู่ใกล้ แม้แต่เขายังเกือบช็อค...หนุ่มน้อยคงอยู่ในอาการช็อคไปแล้ว

“แด๊ดดี้.. แด๊ดดี้..”

คริสเงี่ยหูฟังเสียงพึมพำ วิธีเดียวที่จะทำให้ไมเคิลมีสติได้คือต้องสวมรอย เสียงทุ้มกระซิบปลอบอ่อนโยน

“แด๊ดอยู่นี่ไมเคิล ลูกเจ็บตรงไหน ขอแด๊ดดูหน่อยนะ”

เพียงเท่านี้อาการสะอื้นเงียบก็เปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นโฮ ร่างเล็กโผเข้าสวมกอดคริสแน่น

“แด๊ดดี้.. ช่วยด้วย ฮึก… ฮืออ~~~”

คริสดึงตัวไมเคิลขึ้นจากอ่าง ร่างเล็กหมดแรงแม้แต่จะยืนจึงโอบกอดไว้แนบอกและโน้มตัวลงตรวจดูบาดแผลบริเวณที่เลือดออก

...โอ! พระเจ้า!!!.. คริสใจหายวาบเมื่อเห็นตำแหน่งของบาดแผล และพบว่ายังมีเลือดไหลเป็นทางลงมา แม้จะไม่มากแต่มันก็ไหลไม่หยุดจนน่ากลัวว่าหนุ่มน้อยอาจจะเสียเลือดมากเกินไปแล้ว

“แฟรงค์!!!.. ไปเรียกนายแฟรงค์มา...เดี๋ยวนี้!!!…”

พ่อบ้านลูได้สติรีบวิ่งไปเรียกคุณแฟรงค์ ในขณะที่นายจอนยืนเก้ๆ กังๆ รอคำสั่งให้เตรียมรถ

“ท้องผูกหรือไมเคิล ถ่ายไม่ออกใช่มั้ย..” คริสปลอบถามทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่น่าจะใช่

ไมเคิลส่ายหน้าและกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสะอื้น

“ผมเปล่าท้องผูก.. ผมถ่ายเสร็จแล้ว... เลือดไหลออกมาเอง ผมเจ็บ…ฮึก..”

คำบอกเล่าของหนุ่มน้อยทำให้คริสใจหายอย่างแรง ให้ตายเถอะ..!.. มีคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับไมเคิล คริสหันไปตะโกนเรียกแฟรงค์ด้วยอารมณ์โกรธ เจ้าตัวก็วิ่งหน้าตื่นมาที่ประตูพอดี โอ แจ๊ค บอยและทิม วิ่งตามกันมาเป็นพรวนยืนออกันอยู่หน้าห้องน้ำ

“เกิดอะไรขึ้นคริส ไมเคิลเป็นอะไร โอ! พระเจ้า..”

แฟรงค์อุทานด้วยความตกใจเช่นกันเมื่อเห็นสภาพของเด็กชาย

“ฉันต่างหากที่ควรจะถามนายว่าเกิดอะไรขึ้นกับไมเคิล ตรวจดูซิแฟรงค์ เลือดออกตอนถ่ายหมายความว่ายังไง” คริสกัดฟันพูดอย่างพยายามระงับอารมณ์

แฟรงค์ไม่ใส่ใจอารมณ์โกรธของคริสรีบก้มลงตรวจอาการบาดเจ็บของเจ้าหนู ใจหายวาบทันทีที่เห็นบาดแผล เลือดที่ออกไม่ใช่จากแผลฉีกขาดภายนอกเท่านั้นแต่มาจากบาดแผลด้านใน แฟรงค์เข้าใจแล้วว่าคริสกำลังโกรธเขาด้วยเรื่องอะไร

“ว่าไงแฟรงค์ อย่าบอกว่านายไม่รู้ว่าไมเคิลเป็นอะไร”

แฟรงค์บอกอาการของไมเคิลให้คริสฟัง แต่ยังพูดไม่จบก็ถูกมือใหญ่คว้าคอเสื้อกระแทกร่างเข้ากับผนังห้องน้ำเต็มแรงในขณะที่มืออีกข้างยังสวมกอดเจ้าหนูไว้

((ฉันบอกนายแล้วใช่มั้ยแฟรงค์!!.. อย่าแตะต้องไมเคิล นายบังอาจทำร้ายหัวใจฉันและยังทำเขาเจ็บขนาดนี้ นายคิดว่านายยังเป็นเพื่อนฉันอยู่หรือเปล่า)) คำต่อว่าเป็นภาษาอังกฤษของคริสแสดงถึงอารมณ์โกรธอย่างรุนแรง

((ไม่นะคริส คุณเข้าใจผิด ผมสาบานได้ ผมไม่เคยแตะต้องไมเคิล))

((ไม่ใช่นายแล้วใคร ไม่มีใครในบ้านกล้าทำเรื่องแบบนี้นอกจากนาย แฟรงค์..))

แฟรงค์นิ่งอึ้ง เขาไม่ได้โกรธที่ถูกคริสเข้าใจผิดและต่อว่าอย่างรุนแรง แต่กำลังนึกตามที่คริสพูด เมื่อไม่ใช่เขาก็ต้องเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนในบ้านอย่างแน่นอน แต่ใครล่ะ? มีคนลอบเข้ามาทำร้ายไมเคิลในบ้านยังงั้นหรือ...

ยังไม่ทันที่แฟรงค์จะแสดงความเห็นหรือแก้ตัวใดๆ คริสก็ปล่อยมือจากคอเสื้อเขา เพราะไมเคิลหมดสติไปในอ้อมกอด คริสตะโกนสั่งจอนนี่ให้เตรียมรถและขอผ้าเช็ดตัวซึ่งพ่อบ้านลูรีบยื่นให้ทันทีเพราะถือเตรียมไว้แล้ว คริสห่มผ้าเช็ดตัวคลุมร่างเล็กและช้อนไว้ในวงแขน

“จะพาไปไหนคริส ไปที่ห้องพยาบาลเถอะ ผมขอดูเขาก่อน”

“นายไม่ใช่หมอ ไมเคิลไม่ใช่หนูทดลองของนาย ฉันจะพาเขาไปโรงพยาบาล บัญชีของนายฉันจะกลับมาคิดทีหลัง แฟรงค์..”

“คุณพาเขาไปโรงพยาบาลไม่ได้นะคริส คุณจะบอกหมอยังไงถ้าเขาตรวจพบว่าไมเคิลเป็นอะไร”

“เกี่ยวอะไรด้วย หมอมีหน้าที่รักษาจะมาซักถามอะไร”

คริสอุ้มหนุ่มน้อยตรงไปที่รถ แฟรงค์เดินจ้ำอ้าวตามมาติดๆ

“คุณไม่เข้าใจหรือคริส ไมเคิลอายุแค่ 13 คุณไม่ใช่ผู้ปกครองหรือพ่อ คุณอาจถูกข้อหาล่วงละเมิดหรือทารุณทางเพศกับเด็กนะ”

ร่างสูงชะงักเท้ากับข้อหาที่แฟรงค์ยัดเยียดให้หันมาตะคอกใส่

“นายต่างหากที่เป็นคนทำ ไม่ใช่ฉัน”

“ได้โปรดเถอะน่าคริส ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทะเลาะกัน ไมค์จะบอกเราเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ไม่ว่าคุณหรือผมก็พาไมเคิลไปโรงพยาบาลไม่ได้ สังคมรู้ว่าเราเป็นเกย์ เรื่องจะต้องถึงตำรวจเพราะเขายังเด็ก”

คริสเริ่มลังเลมองหนุ่มน้อยในอ้อมแขน คราบน้ำตายังฉ่ำนองใบหน้า

“ให้ผมดูแผลเขาก่อนนะคริส ถ้าทำไม่ได้ผมจะเรียกบ๊อบมาช่วยดูให้ เราไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเอง เรียกหมอมาที่บ้านสะดวกกว่า”

คริสจำต้องรับฟังคำแนะนำของแฟรงค์เพราะการตกเป็นข่าวลักษณะนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เขามีงานใหญ่หลายโปรเจ็คอยู่ในมือ อาจส่งผลกระทบ

แฟรงค์โทรตามหมอบ๊อบซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและเรียนแพทย์รุ่นเดียวกันมาช่วยดูอาการของไมเคิลเมื่อตรวจพบว่าบาดแผลของเจ้าหนูไม่น้อยเลย นึกถึงอาการตกใจและหน้าถอดสีของไมเคิลตอนถูกเขาทักที่โต๊ะอาหารแล้ว ทำให้แฟรงค์มั่นใจว่ามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับเด็กชายเมื่อคืนที่ผ่านมา

“พวกนายรุนแรงกับเด็กมากเกินไปนะแฟรงค์..”   หมอบ๊อบกล่าวเตือนเสียงเรียบขณะทำแผลให้เด็กชายโดยมีแฟรงค์เป็นผู้ช่วย

“จะบ้าหรือวะ หมอ.. นี่นายคิดว่าฉันและคริสเป็นคนทำงั้นเหรอ”

หมอบ๊อบส่ายหน้า จะไม่ให้เขาคิดได้ยังไงในเมื่อที่นี่เหมือนฮาเร็มในหนังอินเดีย แต่เป็นฮาเร็มที่มีแต่เด็กหนุ่ม เพราะเจ้าของซึ่งเป็นวิศวกรชื่อดัง หนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์อย่างมิสเตอร์คริส บริเจคส์ ยอมรับกับสังคมอยู่แล้วว่าเขาเป็นโฮโมเซ็กช่วล

“ฟังนะ ไอ้หมอ.. ฉันและคริสไม่เคยรุนแรงกับเด็กถึงขั้นเลือดตกยางออก ยิ่งคริสด้วยแล้วแค่เด็กไม่ยินยอมเขาก็ไม่แตะต้องแล้ว”

“ถ้างั้นก็เหลือนายที่เป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียวในบ้าน”

หมอบ๊อบแกล้งกระเซ้า เขาเชื่อว่าแฟรงค์และคริสไม่ได้เป็นคนทำ เพราะดูจากบาดแผลแล้วไม่ใช่วิสัยที่เกย์หนุ่มทั้งสองจะทำเรื่องรุนแรงกับเด็กได้ หลังถูกกระทำเด็กชายคงมีเพียงบาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยที่ปากทวารหนักซึ่งเลือดหยุดไหลไปแล้ว อาการรุนแรงที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ได้เกิดจากบาดแผลภายนอก แต่มาจากบาดแผลส่วนปลายลำไส้ใหญ่ เมื่อลำไส้มีการบีบรัดและขยายตัวตอนถ่ายแผลจึงเปิดกว้างเป็นสาเหตุให้มีเลือดไหลออกไม่หยุด

บ๊อบคาดว่าจะต้องเป็นชายร่างใหญ่โตทำร้ายขืนใจเด็ก แต่หมอก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแฟรงค์จัดการเอง เพราะนอกจากแฟรงค์จะสามารถวินิจฉัยอาการได้เองเพราะมีความรู้ทางการแพทย์ในระดับหนึ่งแล้ว แค่เห็นบาดแผลแฟรงค์ย่อมรู้อยู่เต็มอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กชาย

แฟรงค์ไม่คิดจะแก้ตัว ในเมื่อเขาไม่ได้ทำก็ไม่จำเป็นต้องเดือดร้อน ไมเคิลจะบอกเองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นคนทำหรือไม่ก็หลีกหนีความรับผิดชอบไม่ได้ สมควรแล้วที่คริสจะโกรธ ไมเคิลถูกทำร้ายในขณะที่เขาไม่อยู่บ้านทั้งที่ควรจะอยู่

โอ! พระเจ้า... เขาไม่อยากนึกภาพเลยว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นทารุนจิตใจหนุ่มน้อยขนาดไหน แค่เขาล้อเล่นด้วยการกอดรัดร่างเล็กยังตกใจกลัวตัวสั่น ต่อไปนี้อย่าหวังว่าเขาหรือแม้แต่คริสจะได้เข้าใกล้เจ้าหนูเลย แค่เห็นไมเคิลก็อาจจะกลัวลนลานเพราะฝังใจกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นแล้ว



:sad2:



คริสเอ่ยถามอาการของไมเคิลเมื่อแฟรงค์เดินกลับเข้ามาหลังจากส่งบ๊อบที่หน้าตึก

“ไม่เป็นไรแล้วคริส บ๊อบทำแผลให้ไมเคิลเอง ผมเป็นแค่ลูกมือคอยส่งเครื่องมือให้”

“ฉันไม่ได้ถามนายเรื่องนี้ บาดแผลรุนแรงแค่ไหน พอจะรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับไมเคิล ถ้าสมมติว่าฉันเชื่อว่านายไม่ได้แตะต้องเขา”

“เชื่อเลยไม่ได้หรือคริส ทำไมต้องสมมติด้วย”

แฟรงค์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังจนคริสอึ้งไป เขาและแฟรงค์คบหากันมานานและต่างเชื่อใจกันและกัน นิสัยส่วนตัวของแฟรงค์แม้จะกะล่อนแต่ไม่เคยโกหก

“โอเค! แฟรงค์.. ถ้านายทำนายคงคุกเข่าสารภาพกับฉันแล้ว นายมันปลาไหลไม่ใช่พิน็อคคิโอหรือเด็กเลี้ยงแกะ”

แฟรงค์ส่ายหน้าเมื่อคริสหาเรื่องเหน็บอีกจนได้ เขาบอกเล่าอาการของไมเคิลตลอดจนข้อสันนิษฐานถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา แฟรงค์ขอรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรับปากว่าจะหาตัวคนทำร้ายไมเคิลให้พบ เพราะแทนที่เขาจะอยู่เฝ้าบ้านตามที่คริสสั่งกลับออกไปเที่ยวสนุกและทิ้งหนุ่มน้อยไว้ตามลำพังในคฤหาสน์ใหญ่โต มีเพียงหมา 2 ตัวกับคนรับใช้มีอายุอีก 2 คน คือนายชมและลุงแซมพ่อครัว

แฟรงค์คาดว่าหมาทั้งสองตัวถูกวางยานอนหลับเพราะวันนี้เจ้าโรบินหงอยไป ทุกครั้งที่เจอเขามันจะเข้ามาพันแข้งพันขาเดินตามทุกฝีก้าว ถ้าไม่ออกปากไล่ก็จะไม่ออกห่าง แต่เมื่อตอนเย็นมันนอนสงบนิ่งผิดปกติ แม้แต่เจ้าร็อกกี้ซึ่งปกติจะคอยส่งเสียงบอกให้ทุกคนในบ้านรู้ว่าเจ้านายคริสกลับมาแล้ว และวิ่งตามรถของคริสจากหน้าประตูใหญ่มาส่งถึงหน้าตึก หรือวิ่งจากหน้าตึกตามไปส่งคริสที่ประตูใหญ่เป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้กลับนอนหมอบเฉยอยู่หน้าตึกเหมือนยังไม่สร่างยา



 o12



คริสนั่งมองหนุ่มน้อยที่กำลังหลับสนิทอยู่ตรงหน้า ถึงตอนนี้เขาหนีหัวใจตัวเองไม่ได้แล้ว เขายอมรับว่าเขารักเจ้าหนูไมเคิล ความรักที่ให้กับเด็กชายไม่เหมือนที่ให้กับหนุ่มน้อยคนอื่นๆ เขาไม่เคยสัมผัสกับความรักแบบนี้มาก่อน รักโดยไม่มีอารมณ์ใคร่เข้ามาเกี่ยว แค่ได้เห็นหน้าหรืออยู่ใกล้ๆ ก็มีความสุขแล้ว

คริสมั่นใจแต่แรกแล้วว่าเขารักไมเคิลคนละแบบกับที่รักหนุ่มน้อยคนอื่นๆ แต่ไม่เข้าใจว่าเป็นความรักแบบไหน จนกระทั่งคืนที่เจ้าหนูบอกความจริงเรื่องพ่อ คืนนั้นนอกจากเขาจะได้รับรู้ความรู้สึกที่หนุ่มน้อยมีต่อเขาแล้ว เขายังได้รับรู้ความรู้สึกของตัวเองด้วยซึ่งมันไม่ต่างจากที่เจ้าหนูรู้สึกกับเขาเลย

คริสยอมรับว่าเขาทำตัวเหินห่างเพราะอยากตัดความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับไมเคิล เขาไม่อยากให้ไมเคิลรู้สึกว่าเขาเป็นตัวแทนของพ่อ เขาคิดว่าหากไมเคิลไม่รู้สึกกับเขาแบบนี้เขาก็คงไม่รู้สึกเช่นเดียวกันนี้กับเจ้าหนู แต่เขาคิดผิดเพราะเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ความรู้สึกที่เขามีให้เจ้าหนูไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย กลับคิดถึงและห่วงใยตลอดเวลาด้วยซ้ำ

“ห้องพักจัดเรียบร้อยแล้วครับ นายท่าน”

พ่อบ้านลูเดินเข้ามารายงาน ดึกมากแล้วแต่ลูยังไม่กลับบ้านเพราะวันนี้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เขาจำเป็นต้องอยู่รับใช้เจ้านายและดูแลความเรียบร้อยอื่นๆ สาวใช้สองคนลูให้กลับไปแล้ว ส่วนตัวเขามีห้องพักอยู่ที่นี่ซึ่งเจ้านายคริสสั่งไว้ว่าหากวันไหนมีงานวุ่นวายถึงดึกดื่นหรือเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะเดินทางกลับก็ให้นอนพักที่นี่เลย คืนนี้ลูก็คงจะนอนพักที่นี่ไม่ใช่เพราะเหน็ดเหนื่อยแต่เพราะสงสารเจ้านายคริสของเขา หากต้องการอะไรจะเรียกใช้ใครได้

“ขอบใจนะลู.. คืนนี้นอนนี่หรือเปล่า”

“ครับผม”

คริสพยักหน้าและบอกให้พ่อบ้านกลับไปพักผ่อนได้ เขาช้อนร่างเล็กขึ้นจากเตียงอย่างเบามือและพาออกจากห้องพยาบาลขึ้นไปพักในห้องนอนเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของเขา คริสขยับผ้าห่มคลุมร่างหนุ่มน้อยและก้มลงจูบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะดับไฟ เขาก้าวออกจากห้องก็พบแฟรงค์ยืนกอดอกคอยอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง เหมือนมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย

แฟรงค์รายงานความคืบหน้าเรื่องของไมเคิล หลังจากที่ได้สอบถามนายชมก็พบว่าเด็กชายผิดปกติไปตั้งแต่เช้า

“ไมเคิลลุกขึ้นซักผ้าปูที่นอนแต่เช้ามืด บอกว่าทำเลอะจะขอซักเอง นายชมเข้าใจว่าไมเคิลฉี่รดที่นอนจึงไม่กล้าซักถามอะไร ผมเข้าไปตรวจดูในห้องพบรอยเลือดบนที่นอนของเด็ก วันนี้ทั้งวันไมเคิลนั่งซึมไม่พูดไม่จา ไม่เข้าไปช่วยนายชมทำสวนเหมือนทุกวัน บอกว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับเพราะฝันร้าย เข้าไปขอนอนในห้องนายชมเมื่อตอนบ่ายและบอกว่าคืนนี้จะขอมานอนด้วย…

หมาสองตัวของเราถูกวางยาจริงๆ เจ้าโรบินยังไม่สร่างยาเลยตอนผมกลับมา ส่วนเจ้าร็อคกี้วันนี้เอาแต่นอนทั้งวัน ผมดูวงจรปิดทุกจุดแล้วไม่พบอะไรผิดปกติเลย คนร้ายรู้ทางเข้าออกดีและรู้ด้วยว่าไมเคิลพักอยู่ที่ไหน เหมือนจงใจเข้ามาเพื่อทำร้ายเด็กเท่านั้น ”

คริสนิ่งฟังรายงานจากแฟรงค์ด้วยความปวดร้าวใจ มิน่าล่ะ! เมื่อคืนเขานอนไม่หลับเกือบทั้งคืนใจคอยพะวงถึงไมเคิลอย่างไม่มีสาเหตุ หลังอาหารเย็นวันนี้เขาตั้งใจจะบอกเด็กชายให้ย้ายขึ้นมาพักบนตึกเหมือนเดิม ไม่คิดเลยว่าความตั้งใจของเขามันสายเกินไป เหตุร้ายคงไม่เกิดขึ้นง่ายดายแบบนี้ถ้าเขาไม่ละเลยปล่อยให้เด็กชายยังคงพักอยู่ในห้องรูหนูนั่น  อย่างน้อยบนตึกก็มีสัญญาณเตือนภัยและวงจรปิดติดตั้งไว้หลายจุด

“กี่คนแฟรงค์.. พอเดาได้มั้ย..” คริสถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

แฟรงค์นิ่งไปเขารู้ว่าคริสเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของตัวเอง เขานิ่งอยู่นานจนคริสย้ำคำถามเดิมอีก แฟรงค์จึงเดาจำนวนคนร้ายจากบาดแผลที่เห็น

“ไม่ใช่คนเดียวแน่ น่าจะเป็นสอง..”

คริสเสียใจอย่างมากจนกลั้นอารมณ์และความรู้สึกไว้ไม่ได้ ถูกชายฉกรรจ์สองคนรุมทำร้าย...ไม่เพียงแต่ร่างกายจะบอบช้ำอย่างที่เห็น จิตใจเจ้าหนูของเขาจะเจ็บปวดและหวาดกลัวขนาดไหน น้ำตาเอ่อคลอดวงตาคู่งามของมหาเศรษฐีบริเจคส์ผู้ไม่เคยเสียใจกับการกระทำใดๆ ของตัวเองมาก่อน เพราะทุกเรื่องที่ทำเขาตัดสินใจรอบคอบและกลั่นกรองดีแล้วเสมอ

คริสต้องการรู้ตัวคนร้ายและจับมันให้ได้โดยเร็วที่สุด แฟรงค์รับปากจะสืบหาตัวคนร้ายโดยไม่ให้เรื่องถึงตำรวจ

“ผมจะจ้างหน่วยสืบสวนของผู้กองแจ๊คเป็นการส่วนตัว.. ไม่ต้องห่วงนะคริสรับรองว่าเราต้องได้ตัวมันภายใน 3 วัน”

แฟรงค์วกเข้าเรื่องส่วนตัวระหว่างคริสและไมเคิล

“จะทำยังไงกับไมเคิลต่อไปคริส.. ถ้ายังคิดไม่ออก ฟังความเห็นของผมหน่อยได้มั้ย”

คริสนั่งนิ่งไม่พูดอะไร แฟรงค์ถือว่านั่นคือการอนุญาต

“ฟังนะ คริส.. ระหว่างคุณกับไมเคิลมีความรู้สึกผูกพันกันเป็นพิเศษอย่างประหลาด คุณเองก็รู้ตัวใช่มั้ยว่าคุณไม่ได้รักไมเคิลเหมือนเด็กคนอื่นๆ ผมอยากให้คุณไตร่ตรองสิ่งที่คุณปฏิบัติกับไมเคิลว่าตรงกับที่หัวใจคุณต้องการจริงหรือเปล่า”

แฟรงค์หยุดพูดเพื่อดูท่าทีของคริสว่ายินดีจะรับฟังเขาพูดต่อหรือไม่ เพราะสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปคริสอาจจะโกรธที่เขาวุ่นวายเรื่องส่วนตัวแต่เขาก็ยอม เมื่อคริสยังคงนั่งนิ่งเหมือนกำลังไตร่ตรองคำพูดของเขา แฟรงค์จึงเข้าประเด็นที่ต้องการจะบอก

“รู้มั้ยคริส.. ทำไมผมถึงให้รูปคุณกับไมเคิล เพื่อแลกกับรูปของคุณไมเคิลถึงกับยอมทำทุกอย่างที่ผมต้องการ”

ดวงตาคมเข้มฉายแววขุ่นเคืองขึ้นทันที แฟรงค์รีบพูดต่อก่อนจะถูกเข้าใจผิด

“ผมแค่ขอให้ไมเคิลมานอนข้างๆ ด้วยเท่านั้น ไม่ได้ให้ทำอะไรมากกว่านั้น สาบานได้ อ้อ!.. ผมขอกอดเขาเพื่อแลกกับรูปงามๆ ของคุณ เขาก็ยอมทั้งที่กลัวจนตัวสั่น รู้มั้ยคริส...ว่าทำไมไมเคิลอยากได้รูปคุณ”

คริสเบือนหน้าหลบสายตาแฟรงค์

“ผมรู้ว่าคุณรู้..คริส.. คุณกลัวว่าไมเคิลจะรักคุณแบบเดียวกับที่รักพ่อของเขา และคุณเองก็กลัวว่าตัวเองจะรักไมเคิลแบบเดียวกับที่พ่อรักลูกใช่มั้ย.. คุณทำตัวเหินห่างจนดูเหมือนไม่สนใจ..ไม่แยแส... เพราะคุณคิดว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกระหว่างคุณกับไมเคิลได้ แต่เปล่าเลย…คริส.. จนถึงนาทีนี้ทั้งคุณและไมเคิลยังมีความรู้สึกต่อกันเหมือนเดิม.. หยุดหลอกตัวเองเถอะคริส... คุณรักไมเคิล...และรักอย่างลูก ไม่จำเป็นต้อง...”

“ไม่” คริสกล่าวขัดขึ้นด้วยอารมณ์และน้ำเสียงขมขื่น

“ฉันให้ความรักแบบนั้นกับไมเคิลไม่ได้ ฉันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพ่อของลูก ไม่มีใครเชื่อว่าฉันจะรักเด็กผู้ชายที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองแบบลูก”

“ให้ตายเถอะ!!..คริส.. คุณกลัวคนอื่นไม่เชื่อคุณหรือคุณไม่เชื่อใจตัวเองกันแน่.. คุณสมบัติของคนที่เป็นพ่อเป็นยังไงหรือคริส.. ทำไมถึงคิดว่าเกย์อย่างพวกเราเป็นพ่อของลูกไม่ได้ คุณกลัวอะไรกันแน่..”

คริสตอบไม่ได้ว่าเขากลัวอะไร หรือว่าเขากลัวใจตัวเองอย่างที่แฟรงค์พูดจริงๆ

“ฟังนะ..คริส... ความรักระหว่างพ่อกับลูกไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ถ้าวันนี้คุณมั่นใจว่ารักไมเคิลแบบลูกจริงๆ วันข้างหน้าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไมเคิลรู้ว่าคุณเป็นยังไง เขายังหลงรักคุณในฐานะพ่อจนถอนใจไม่ขึ้นแล้ว ถ้าคุณได้เห็นสีหน้าและสายตาของเจ้าหนูตอนจ้องมองรูปของคุณแล้ว คุณจะเข้าใจ..คริส.. มันเหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ เวลาจ้องมองพ่อของมัน ยังไงยังงั้นเลย”

คริสกลืนน้ำลายกับคำเปรียบเทียบของแฟรงค์

“นายไม่เข้าใจหรอกแฟรงค์.. ทุกครั้งที่ไมเคิลจ้องมองฉัน เขาคิดถึงบิล สมิทธ์ ไม่ใช่ คริส บริเจคส์ ฉันเป็นเหมือนเงาของบิลเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ”

“มันไม่ต่างกันหรอกคริส บิลไม่มีตัวตนแล้ว ในเมื่อคุณเหมือนกับบิล และคุณก็ยังเป็นคนช่วยชีวิตไมเคิลไว้ ไมเคิลพร้อมจะรักคุณเหมือนกับที่รักพ่อของเขา แค่คุณถามเขาคำเดียวเท่านั้น คำตอบของไมเคิลจะเป็นคำตอบของคุณด้วย”

คริสนิ่งอึ้งไม่คิดว่าแฟรงค์จะรับรู้และเข้าใจความรู้สึกระหว่างเขากับไมเคิลได้ดีกว่าตัวเขาเอง เพราะที่ผ่านมาแฟรงค์ดูเหมือนไม่ใส่ใจกับไมเคิล คอยแต่กระเซ้าหยอกล้อหนุ่มน้อยไปวันๆ

“คุณไม่รู้ตัวหรือคริส..ว่าคุณเปลี่ยนไป คุณอาจจะกำลังเตรียมความพร้อมในการเป็นพ่อคนโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ทิมกับบอยแอบถามผมด้วยคำถามเดียวกันว่า เขามีอะไรไม่ดีต้องปรับปรุงตัวเองตรงไหน ระยะหลังที่คุณเรียกพวกเขาขึ้นไปหา แค่ให้บีบนวดเฉยๆ ไม่ถึงชั่วโมงก็ไล่กลับลงมานอน ไม่รู้ว่าแจ๊คกับโอเจอปัญหาเดียวกันหรือเปล่า ผมอยากบอกคุณว่าทำทุกอย่างที่ใจอยากทำเถอะ มันไม่มีผลกระทบอะไรหรอก... อย่าฝืนความรู้สึกหรือความต้องการของตัวเอง เวลาคุณอยู่กับไมเคิลไม่เหมือนกับเวลาที่อยู่กับเด็กพวกนี้หรอก….  …ไม่แน่นะคริส บางทีคุณอาจจะเป็นเกย์คนแรกที่เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองได้….”

ประโยคสุดท้ายของแฟรงค์ก่อนจะขอตัวกลับไปพักผ่อน บอกว่าพรุ่งนี้มีเรื่องจะต้องจัดการอีกเยอะ



:laugh:


เกือบตีสองแล้ว...แต่คริสยังข่มตานอนไม่หลับ คำพูดของแฟรงค์ยังก้องอยู่ในโสตประสาท

…..คุณกลัวคนอื่นไม่เชื่อใจคุณหรือคุณไม่เชื่อใจตัวเอง…

…..ความรักระหว่างพ่อกับลูกไม่มีวันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ถ้าวันนี้คุณมั่นใจว่ารักไมเคิลแบบลูกจริงๆ วันข้างหน้าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง….

คริสยังตกใจกับอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนูในคืนนั้น หากเขารักไมเคิลอย่างลูกชายจริงๆ เขาไม่ควรมีความรู้สึกเช่นนั้นเกิดขึ้น หรือเป็นเพราะขณะนั้นเขายังไม่รู้ว่าไมเคิลรู้สึกกับเขาอย่างไร

คริสลุกขึ้นจากเตียงเมื่อรู้สึกว่านอนไม่หลับ ไปนั่งเฝ้าไมเคิลอาจทำให้รู้สึกง่วงขึ้นมาได้

“ฮือออ....เจ็บ … แด๊ดดี้ ช่วยด้วย ฮือ ...”

โอ! พระเจ้า.. หนุ่มน้อยกระสับกระส่ายไปมาและร้องเรียกให้พ่อช่วย ไมเคิลคงหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเก็บมาฝันร้าย คริสก้มลงสวมกอดและกระซิบข้างหูปลอบประโลมเบาๆ

“แด๊ดอยู่นี่..ไมเคิล... ไม่ต้องกลัวนะ... แด๊ดอยู่กับลูกตรงนี้แล้ว ไม่มีใครทำอะไรอีก แด๊ดสัญญาว่าจะอยู่ใกล้ๆ ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวแบบนั้นอีกแล้ว ไม่กลัวนะไมเคิล...”

คริสต้องสวมรอยเป็นบิลเพื่อปลอบหนุ่มน้อยจากอาการฝันร้าย ไมเคิลค่อยๆ สงบลงในอ้อมกอดของพ่อจำเป็น

“ขอโทษนะ ไมเคิล.. ฉันเสียใจที่ทำให้เธอต้องเจ็บแบบนี้ ฉันขอโทษ..”

คริสรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอาการบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจของไมเคิล เขาพร่ำขอโทษหนุ่มน้อยเพราะเหตุการณ์ทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเขาไม่ละเลยและปล่อยให้เด็กชายพักอยู่ในห้องที่คับแคบไม่มีความแข็งแรงและปลอดภัยแบบนั้น หากไมเคิลรู้สึกตัวตื่นขึ้นอาจจะโกรธและเปลี่ยนใจไม่รักเขาเหมือนเดิม แค่คิดก็ทนไม่ได้แล้ว.... เขาต้องรีบทำตามที่แฟรงค์บอก ถามความต้องการของเจ้าหนู...เพราะคำตอบที่ได้จะเป็นคำตอบให้ตัวเขาด้วย...



:serius2:




TBC




ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #65 เมื่อ01-09-2008 11:36:38 »

อะไรกันเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฝีมือใคร

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #66 เมื่อ01-09-2008 11:38:40 »

 :sad2:ใครทำไมเคิบลลูกชายป๋มเนี้ย :เตะ1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #67 เมื่อ02-09-2008 12:31:25 »

[11]


วันนี้แฟรงค์ตื่นแต่เช้าเพราะมีภาระต้องจัดการหลายเรื่อง และเรื่องที่ต้องทำก่อนคือขึ้นไปดูอาการของไมเคิลซึ่งอาจจะปวดแผลเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น แฟรงค์ชะงักที่หน้าประตูเมื่อพ่อบ้านลูก้าวสวนออกมาจากห้องหน้าตาตื่น

“คุณแฟรงค์มาพอดี ช่วยดูคุณไมค์หน่อยครับ”

“เกิดอะไรขึ้นลู..”

แฟรงค์ไม่รอคำตอบ ตรงรี่ไปที่เตียงก็พบว่าไมเคิลกำลังอยู่ในอาการตื่นกลัว ร่างเล็กนอนขดอยู่ที่หัวเตียงกอดหมอนปิดหน้าไว้

“ไมเคิล..ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เป็นไรแล้ว..ไมเคิล เฮ้!..”

แฟรงค์พยายามดึงหมอนออกแต่ถูกมือเล็กยื้อไว้แน่น จนเขาต้องเปลี่ยนไปจับข้อเท้าสองข้างของเด็กชายตั้งใจจะขยับร่างที่นอนขดตัวอยู่ให้นอนในท่าที่สบายขึ้น แต่แค่สัมผัสถูกเพียงเบาๆ หนุ่มน้อยก็แผลงฤทธิ์เตะถีบด้วยความตกใจและส่งเสียงร้องอยู่ใต้หมอน

“ออกไป!! ออกไป!! ช่วยด้วย!!..”

แฟรงค์ปล่อยมือด้วยความตกใจ ปลายเท้าของเจ้าหนูเฉียดคางเขาไปนิดเดียว

“เฮ้! ไมค์ ฉันแฟรงค์ไง ไม่มีใครทำอะไรเธอที่นี่ ไม่ต้องกลัวนะไมเคิล”

แฟรงค์พยายามดึงหมอนออกแต่กว่าจะได้ก็ถูกหนุ่มน้อยเตะถีบหลายที

...โอ!!! ใบหน้าของเด็กชายฉ่ำนองด้วยน้ำตา เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจ แฟรงค์ขยับเข้าไปกระซิบปลอบ

“ไม่เป็นไรแล้วนะไมเคิล.. เธอปลอดภัยแล้ว ไม่มีใครทำอะไรเธอได้อีก ฉันจะจับพวกมันติดคุกให้หมดเลย ไม่ต้องกลัวนะ ..”

หนุ่มน้อยส่ายหน้าและถดตัวออกห่างแฟรงค์

“ออกไป!! ออกไปให้พ้น ผมเกลียดคุณ”

“เฮ้! ฉันแฟรงค์นะ มองหน้ากันก่อนซีไมเคิล..”

ไมเคิลยังคงหลับตาถดตัวหนีห่าง ความรู้สึกของหนุ่มน้อยขณะนี้…เกลียดและกลัวทุกคนที่อยู่ในบ้าน..

“ผมเกลียดคุณ เกลียดทุกๆ คน ฮึก.. ผมจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว ผมจะไป…”

แฟรงค์อึ้งไปเมื่อรู้ว่าไมเคิลตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนรู้สึกเกลียดและกลัวทุกคนในบ้านหลังนี้ด้วย

"ไม่ต้องกลัวแล้วไมเคิล ที่นี่ปลอดภัย คุณคริสนอนอยู่ห้องข้างๆ นี้เองนะ ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเธออีก”

“ไม่.. ผมไม่อยากอยู่ใกล้คุณคริส คุณคริสเกลียดผม ทุกคนเกลียดผม ไม่มีใครอยากให้ผมอยู่...ผมก็ไม่อยากอยู่ ผมจะไปจากที่นี่...จะไปเดี๋ยวนี้เลย.."

เด็กชายยันตัวขึ้นนั่งแต่แล้วก็ต้องทรุดฮวบลงเพราะปวดแผลอย่างมาก

"โอ!..ไมเคิล.." แฟรงค์เช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียน  "ฉันไม่เคยเกลียดเธอเลยนะ คุณคริสก็ไม่ได้เกลียดเธอด้วย…"

"เกลียด.. คุณคริสเกลียดผม คุณคริสไม่อยากให้ผมเห็นหน้าจริงๆ ของเขาแปลว่าคุณคริสเกลียดผม พวกคุณโอก็เกลียดผมด้วย.. ขืนอยู่ต่อไป…พวกมันก็กลับมาทำร้ายผมอีก ฮืออๆ…."

แฟรงค์ใจหายวาบไม่ใช่จากถ้อยคำตัดพ้อ แต่จากคำพูดที่ฟังดูเหมือนเด็กชายถูกข่มขู่ เขาอยากซักต่อแต่ไม่ใช่เวลาที่ดี… กลัวเจ้าหนูมีอาการหวาดผวาขึ้นอีก เท่าที่ทำได้ขณะนี้คือปลอบ

“โอเค ไมเคิล.. เธอไม่อยากพูดกับฉันเพราะเธอเกลียดฉันแล้วใช่มั้ย”

ไมเคิลพยักหน้ารับอาการสะอื้นลดน้อยลง

“ไม่ยุติธรรมเลยนะไมค์..” แฟรงค์กล่าวน้ำเสียงอ่อนโยนหาเรื่องพูดคุยให้เด็กชายหายกลัวและไว้ใจเขา “ทำไมฉันต้องถูกเธอเกลียดด้วย ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอซะหน่อย”

“ผมเกลียดทุกคนที่เป็นพวกเดียวกับมัน~~”

เหตุผลของไมเคิลทำเอาแฟรงค์กลืนน้ำลายลงคอ

“ไม่เหมือนกันนะไมค์.. ฉันจะอธิบายยังไงให้เธอเข้าใจ ฉันไม่ได้เป็นพวกเดียวกับมัน”

“คุณเป็น!!.. คุณชอบเด็กผู้ชายเหมือนพวกมัน คุณเคยคิดจะทำร้ายผมด้วย ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฮึก…"

“ก็ได้ ๆ ถ้าเธอเกลียดฉันแปลว่าเธอก็ต้องเกลียดคุณคริสด้วย เพราะเขาก็ชอบผู้ชายเหมือนกัน”

แฟรงค์แหย่หนุ่มน้อยด้วยการเอ่ยชื่อคริส เผื่อว่าจะทำให้เจ้าหนูหายกลัว

“ผมเกลียดทุกคนในบ้านหลังนี้!!! ผมจะไปจากที่นี่!!!..”

เด็กชายย้ำคำพูดเดิมแต่ไม่ยอมบอกว่าเกลียดคุณคริส

“ไม่เอาน่าไมเคิล พูดเล่นใช่มั้ย เธอไม่อยากไปจากคุณคริสหรอก เธอรักคุณคริสไม่ใช่เหรอ”

เด็กชายสะอื้นไห้น้ำตาไหลอาบแก้มเนียน ถึงคุณคริสจะเป็นคนช่วยชีวิตและเคยดีกับไมค์แต่วันนี้คุณคริสเปลี่ยนไปแล้ว…

“ผมรักแด๊ด~ ไม่ได้รักคุณคริส"

แฟรงค์อึ้งไป คำตอบของเจ้าหนูทำให้เขานึกถึงคำพูดของคริส คริสเป็นตัวแทนบิลจริงๆ ไมเคิลรักคริสเพราะคริสเหมือนพ่อ…ไม่ได้รักในฐานะอื่นเลย แฟรงค์หันไปที่ประตูเห็นคริสยืนกอดอกฟังอยู่

"คุณคริสไม่ยอมให้เธอไปจากที่นี่หรอก มันไม่ใช่เหตุผลเลยที่เธอจะไปจากที่นี่เพราะคิดว่าคุณคริสเกลียด.. ถ้าเธอเป็นฝ่ายเกลียดคุณคริสก็ว่าไปอย่าง.."

"ผมจะไป~~  คุณคริสเกลียดผม ผมก็เกลียดคุณคริสด้วย~~" เด็กชายซุกหน้ากับหมอนและพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้แต่ก็พอฟังได้ศัพท์

“โอเค! ถ้างั้นฉันจะไปบอกคุณคริสให้นะ ว่าเธอเกลียดเขาและไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” แฟรงค์ก้มลงกระเซ้าหนุ่มน้อย
“ฉันจะบอกคุณคริสว่าเธอเกลียดเขาจับใจเลย ไม่อยากเห็นหน้าเขาอีก ใช่มั้ยไมเคิล..”

ไมเคิลนอนนิ่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แฟรงค์ซ่อนยิ้มในสีหน้า

“โอ! คุณคริสมาพอดี คุยกันเองนะไมค์.. บอกคุณคริสว่าเธอเกลียดเขาและไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” แฟรงค์ลุกขึ้นยืนและพูดเสียงดังให้เจ้าหนูได้ยิน

“ไมเคิลอยากไปจากที่นี่ คริส.. ”

ไมค์ใจหายแว้บเมื่อได้ยินเสียงคุณคริสพูดเบาๆ กับคุณแฟรงค์เป็นภาษาอังกฤษ รีบคว้าหมอนขึ้นปิดหน้าไม่กล้าหันมองไปที่ประตู

คริสเดินมาที่เตียงและทรุดตัวลงนั่ง อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นไมเคิลพยายามหลบหน้าและกระเถิบหนีเขา หมอนใบใหญ่ที่หนุ่มน้อยกอดไว้ ทำให้คริสสังเกตุเห็นรอยช้ำบริเวณรอบข้อมือทั้งสองข้างของเจ้าหนู ใจหายเพราะรู้ทันทีว่ารอยช้ำนั้นเกิดจากอะไร เขาสัมผัสบริเวณรอยช้ำและลูบเบาๆ หนุ่มน้อยทำท่าจะขยับหนีแต่ถูกเขาเบี่ยงเบนความสนใจด้วยคำถาม

“เห็นแฟรงค์บอกว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหรือไมเคิล..”

.... เงียบ!! ร่างเล็กนอนนิ่ง  ไม่มีคำตอบ ....

คริสยังคงลูบข้อมือเล็กไปมา โดยที่เจ้าหนูก็นิ่งเฉยยอมให้จับต้องแต่โดยดี

“แฟรงค์ว่าเธอเกลียดเขาแล้ว เกลียดทุกๆ คนในบ้านหลังนี้รวมถึงฉันด้วย จริงหรือไมเคิล” ประโยคสุดท้ายคริสก้มลงถามใกล้ๆ ถึงจะมีหมอนใบใหญ่ปิดอยู่ แต่คริสรู้ว่าไมเคิลได้ยินทุกคำที่เขาพูด

.... เงียบ!! ไม่มีคำตอบจากหนุ่มน้อย คริสจึงเปลี่ยนคำถามใหม่....

“ถ้าเธอไม่ยืนยันด้วยคำพูดเธอเองแสดงว่าแฟรงค์พูดโกหก เธอไม่ได้อยากไปจากที่นี่ซะหน่อย”

“ผมอยาก ผมอยากไปจากที่นี่ ผมจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว”

ไมเคิลฝืนใจตอบ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอดทนอยู่ต่อไปอีก คุณคริสไม่อยากให้ไมค์เห็นหน้าจริงๆ ของตัวเองแปลว่าคุณคริสเกลียดไมค์แล้ว…

“ทำไมล่ะไมเคิล ทำไมถึงอยากไปจากที่นี่..”

“ผมเกลียดทุกคน ผมไม่อยากอยู่ใกล้พวกคุณ”

คริสรู้สึกปวดใจกับคำตอบ เขารู้ว่าทำไมไมเคิลจึงรู้สึกเช่นนี้ คงต้องใช้เวลากว่าหนุ่มน้อยจะทำใจได้กับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น

“เกลียดทุกคนจริงหรือไมเคิล แสดงว่ารวมถึงฉันด้วยซีนะ”

“ใช่ ผมเกลียดคุณด้วย เกลียดคุณที่สุด!!  เกลียดกว่าทุกๆ คน คุณก็เกลียดผมด้วยผมรู้~~”
มือเล็กเผยอหมอนขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงที่ลอดผ่านออกมาจึงชัดถ้อยชัดคำจนคนฟังใจหายอย่างแรงกับถ้อยคำตัดพ้อโดยเฉพาะประโยคสุดท้าย

“ไม่จริงนะไมเคิล ใครบอกว่าฉันเกลียดเธอ”

คริสอยากเห็นหน้าเจ้าหนูของเขาว่าคำพูดที่ออกมาตรงกับใจหรือเปล่า… มือใหญ่พยายามดึงหมอนออกแต่ร่างเล็กขยับตัวหนี

“ไม่ต้องมีใครบอกหรอก คุณไม่อยากให้ผมเห็นหน้าคุณ ผมก็รู้แล้วว่าคุณเกลียดผม”

“ไม่จริงนะไมค์ ฉันไม่ได้เกลียดเธอ ยังรักเธอเหมือนเดิม มองตาฉันซีไมเคิล… แล้วเธอจะรู้ว่าฉันยังเหมือนเดิมหรือเปล่า”

คริสดึงหมอนออกจนได้แต่หนุ่มน้อยกลับไม่ยอมลืมตาดูเขา รีบคว่ำหน้าลงกับที่นอน คริสส่ายหน้ากับความแง่งอนของเจ้าหนู เขารู้ว่าไมเคิลไม่ได้เกลียดเขาหรอกแค่น้อยใจเท่านั้น

“ก็ได้..ไมเคิล ถ้าอยากไปจากที่นี่ เธอต้องหันมายืนยันกับฉันก่อนว่าเธอเกลียดฉันแล้วจริงๆ เพราะตราบใดที่เธอยังรักฉันอยู่ ฉันไม่มีวันยอมให้เธอจากไปไหน”

“ผมจะไป ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ ผมไม่รักคุณแล้ว” ร่างเล็กขยับตัวนอนหงายดวงตากลมโตลืมขึ้นเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง

“ผมไม่….”
เด็กชายหลุดคำพูดออกไปเพียง 2 คำ ก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก คริสส่งยิ้มหวานให้แววตาเป็นประกายวาววับ

“พูดอีกครั้งซีไมเคิล ว่าเธอไม่รักฉันแล้ว คำพูดคนเราจะรู้ว่าโกหกหรือเปล่าต้องดูที่ดวงตารู้มั้ย”

ไมเคิลไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ไม่ใช่เพราะคุณคริสส่งยิ้มหวานให้ แต่เพราะดวงตาของคุณคริสในเช้าวันนี้กลับกลายเป็นสีฟ้าเหมือนเดิม ซ้ำหนวดเคราดกหนาก็หายไปแล้ว

“บอกซีไมเคิล ว่าเธอเกลียดฉันแล้ว ถ้าไม่บอกก็แปลว่ายังรักอยู่ใช่มั้ย”

คริสย้ำถามอีกครั้งเมื่อหนุ่มน้อยนอนนิ่งไม่พูดไม่จาเอาแต่จ้องมองเขาตาค้าง
น้ำใสเอ่อคลอรอบดวงตาเจ้าหนูแทนคำตอบ คริสกำลังจะเอ่ยปลอบก็ได้ยินคำตอบด้วยน้ำเสียงสะอื้น

“ผมรักเพราะคุณเหมือนบิลของผม ผมเกลียดเพราะคุณเป็นคุณคริส คุณไม่อยากให้ผมคิดว่าคุณเป็นบิล ไม่อยากให้ผมรักคุณแบบที่รักบิล คุณใจร้าย ฮึก.. ผมเกลียดคุณ ผมจะไม่เป็นเหมือนที่คนอื่นๆ เป็นด้วย”

ไมเคิลเบือนหน้าหนีดวงตาสีฟ้าคู่สวยนั้นน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม

“ผมไม่จำเป็นต้องเห็นบิลผ่านคุณก็ได้ แด๊ดมาหาผมในฝันทุกคืนอยู่แล้ว ถึงคุณจะกลับมาเหมือนบิลอีกผมก็ไม่สน!!..”   ไมค์จำเป็นต้องพูดโกหกหลอกคุณคริสและหลอกตัวเองด้วย ถึงเวลาที่ไมค์ควรจะไปจากที่นี่แล้ว

คริสสงสารเจ้าหนูของเขาจับใจ อยากจะสวมกอดและปลอบให้หายจากความเสียใจและน้อยใจ แต่เท่าที่ทำได้คือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้

"ไม่สนแล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งซี… หือ.."

เสียงทุ้มกึ่งกระเซ้ากึ่งปลอบ คริสไม่รู้ว่ากิริยาที่ทำอยู่เช่นนี้เหมือนกับที่บิลปฏิบัติกับไมเคิลในความฝันทุกครั้งที่หนุ่มน้อยมีเรื่องเสียใจ สองมือแกร่งขยับร่างเล็กขึ้นจะสวมกอดเมื่อเช็ดยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าน้ำตาจะหยุดไหล แต่กลับถูกเด็กชายโผเข้าหาด้วยอาการสะอื้นอย่างแรง

"ฮือๆ… ผมอยากอยู่กับแด๊ด ผมคิดถึงแด๊ด.. ฮึก.."

ถึงตอนนี้ไมค์ไม่สนแล้วว่าพ่อจะมีหน้าตาเปลี่ยนไป พ่อเหมือนคุณคริส หรือคุณคริสเหมือนพ่อก็ไม่ต่างกัน เพราะทั้งคุณคริสและพ่อ ไมค์แยกความรู้สึกจากกันแทบไม่ออกแล้ว

คริสสวมกอดหนุ่มน้อยแน่น อย่าว่าแต่ไมเคิลเลยที่สับสนแม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าขณะกำลังสวมกอดเจ้าหนูไมค์อยู่นี้ เขาคือบิลหรือคริส

“แด๊ดก็อยากอยู่กับลูกไม่อยากให้ลูกจากไปไหน แด๊ดอยู่ที่นี่ ลูกก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วย”

ไมเคิลรู้สึกตัวว่าหลงไปกับเงาของพ่ออีกแล้ว รีบปล่อยมือและผละออกแต่คุณคริสกลับไม่ยอมปล่อยและกอดไมค์แน่นขึ้นกว่าเดิม

“ปล่อยนะ!!  คุณไม่ใช่แด๊ดของผม”

“พอเถอะไมเคิล เธอทำให้ฉันสับสนจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้ว ฉันเป็นแด๊ดของเธอหรือไม่เป็นก็อยู่ที่เธอ ไมเคิล”

คริสรั้งหนุ่มน้อยออกจากตัวและตั้งคำถามสำคัญ ซึ่งคำตอบของไมเคิลจะเป็นคำตอบให้เขาด้วย

“บอกซิไมเคิล ว่าเธออยากให้ฉันเป็นบิล พ่อของเธอหรือเปล่า”

ไมค์ตกใจกับคำถาม ….คุณคริสถามไมค์ด้วยคำถามนี้ทำไม จะมีประโยชน์อะไรถ้าไมค์ตอบว่าอยาก…

หนุ่มน้อยนิ่งอึ้งไปไม่ยอมตอบคำถาม คริสจึงลำดับคำถามใหม่

“ฉันเหมือนบิล พ่อของเธอมากเลยใช่มั้ย ไมเคิล”

ไมค์พยักหน้าตอบและหลบสายตาลงเพราะไม่อยากเห็นดวงตาสีฟ้าของพ่อ

“เธอว่า.. ถ้าฉันปลอมเป็นเขา จะมีใครจับได้มั้ยว่าไม่ใช่บิลตัวจริง”

หนุ่มน้อยส่ายหน้าหลงไปกับคำถามของคริส

“ถ้างั้นนับจากวันนี้ไปฉันจะเป็นบิล และเมื่อบิลอยู่ที่นี่ เธอยังคิดอยากจะไปอยู่ที่อื่นอีกหรือไมเคิล”

“แต่คุณไม่…” ไมค์พูดไม่จบเพราะถูกมือของคุณคริสปิดปากไว้

“ไม่อะไรอีกล่ะไมเคิล หือ.. ไม่ใช่หรือไม่เหมือน อยู่ที่เธออยากให้เป็น ตอบฉันซิ.. ว่าอยากให้ฉันเป็นบิลหรือเปล่า..”

คริสปล่อยมือออกและเสยผมหนุ่มน้อยขึ้นจูบหน้าผากเบาๆ

“หรือเธออยากรู้ความรู้สึกของฉันก่อนไมเคิล ฉันบอกเธอก่อนก็ได้ว่าฉันอยากเป็นบิล อยากเป็นตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าฉันมีหน้าตาเหมือนเขาแล้ว ไมเคิล..”

คริสพูดจบก็ถูกเจ้าหนูของเขาโผเข้าสวมกอดอีกครั้ง ไมเคิลละล่ำละลักตอบเหมือนรอคอยอยากจะพูดประโยคนี้มานานแล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2008 16:49:29 โดย j-muay »

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #68 เมื่อ02-09-2008 13:02:34 »

 :sad2: :sad2: :sad2:ไร้คำบรรยายครับผม

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #69 เมื่อ02-09-2008 16:30:22 »

ดีใจที่อ่านทันแล้ว

แต่ก็เสียน้ำตาไปหลายปี๊บ

 :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #69 เมื่อ: 02-09-2008 16:30:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #70 เมื่อ02-09-2008 16:58:26 »

แล้วใครที่มันทำร้ายไมค์ละ

แอร้ยสสสสสสสสสสสสสสสสส

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #71 เมื่อ02-09-2008 21:17:49 »

จะเป็นยังไงต่อเนี่ย

แต่ไมค์เข้มแข็งจัง เจอแต่เรื่องเลวร้ายทั้งนั้น

ไหนจะสี่คนนั้นอีก ต้องเป็นฝีมือของใครในกลุ่มนั้นแน่ๆ

เข้มแข็งต่อไปนะ ไมเคิล

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #72 เมื่อ03-09-2008 11:16:14 »

[11]  ต่อ



คริสพูดจบก็ถูกเจ้าหนูของเขาโผเข้าสวมกอดอีกครั้ง ไมเคิลละล่ำละลักตอบเหมือนรอคอยอยากจะพูดประโยคนี้มานานแล้ว

“ผมก็อยากด้วยครับ ผมอยากให้คุณเป็นบิล อยากให้เป็นตั้งแต่วันแรกที่ตื่นขึ้นมาเห็นคุณที่โรงพยาบาลแล้ว”
“โอ! ไมเคิล”

คริสสวมกอดหนุ่มน้อยไมเคิลของเขา พอกันทีกับการปิดบังความรู้สึกหรือหลอกตัวเอง เกย์อย่างเขาสามารถเป็นพ่อของลูกได้ และเขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นได้จริงๆ



:กอด1:



คริสตกใจอย่างมากเมื่อแฟรงค์รายงานว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับไมเคิลมีโอรู้เห็นด้วย

“ทิมแอบมากระซิบบอกผมว่าเมื่อวานตอนเช้าโอรับสายมือถือแล้วยิ้มแปลกๆ และยังมีอาการลุกลี้ลุกลนตอนที่เกิดเรื่องวุ่นวายในห้องน้ำเมื่อคืน วันนี้มือถือของโอดังเกือบทั้งวันแต่โอไม่ยอมรับสาย ผมให้ทิมแอบขโมยโทรศัพท์ตอนโอเข้าห้องน้ำและพบว่ามีข้อความแปลกๆ ฝากไว้ คุณอ่านดูเอง คริส.."

แฟรงค์ยื่นโทรศัพท์ให้คริสอ่านข้อความใน Mail box

….งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าเจ้าเปี๊ยกไม่กล้าอยู่ที่นั่นอีกต่อไป อย่าลืมนะ โจอี้… นัดให้รางวัลคืนนี้ 2 ทุ่มตรง เจอกันที่เดิม…

คริสต้องใช้ความพยายามอย่างสูงสะกดอารมณ์ ไม่เคยโกรธใครมากเท่านี้มาก่อน หนุ่มน้อยโอซึ่งเขาเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือมาตั้งแต่อายุ 15 ไม่เคยส่อแววว่าจะมีจิตใจโหดร้ายขนาดนี้ ตอนทิมมาอยู่ใหม่ๆ เคยถูกโอรังแกกลั่นแกล้งหลายครั้งแต่ด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สุดท้ายก็เข้ากันได้ดี ทำไมกับไมเคิล…โอถึงกล้าทำเรื่องรุนแรงได้ขนาดนี้… เขาไม่รู้สึกโกรธที่โอแอบไปมีสัมพันธ์กับใครอื่นนอกเหนือจากแฟรงค์ทั้งที่ควรจะโกรธ แต่ที่โกรธมากและไม่มีทางให้อภัยได้คือการทำร้ายไมเคิล..



:o



วันนี้โอขอตัวไม่ทานอาหารเย็นและขออนุญาตคุณคริสว่าจะไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน   โอแต่งตัวเสร็จก็ค้นหาของบางอย่าง ใจหายวาบเมื่อหาไม่เจอ

“อะไรหายหรือจ๊ะ ที่รัก..”

เด็กหนุ่มสะดุ้งเงยหน้าขึ้นยิ้มแห้งๆ ให้คุณแฟรงค์ซึ่งยืนกอดอกอยู่หน้าประตู

“เอ่อ.. เปล่าฮะ ไม่มีอะไรหาย”

“อ้าว! งั้นเหรอ แสดงว่าโทรศัพท์นี่คงไม่ใช่ของนาย หรือจะเป็นของแจ๊ค งั้นฉันจะลองไปถามแจ๊คดู” แฟรงค์หมุนตัวกลับ

“เดี๋ยวฮะ คุณแฟรงค์”

โอวิ่งเข้ามาหาและขอดู เมื่อแฟรงค์โชว์โทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือก็ทำเอาโอหน้าเสีย

“เอ่อ.. ของผมฮะ คุณแฟรงค์ ขอผมเถอะ”

“ของนายแน่เหรอ”

โอพยักหน้าและเข้ามากอดแฟรงค์เพื่ออ้อนขอโทรศัพท์ แฟรงค์ซ่อนยิ้มในหน้า

“จะรู้ได้ไงว่าเป็นของนาย อาจเป็นของแจ๊คหรือบอยก็ได้ เอางี้ละกัน ข้อความสุดท้ายที่อยู่ในเมลล์บ๊อกซ์ จำได้มั้ยว่าอะไร”

แฟรงค์ทำท่าจะกดข้อความอ่าน โอร้องลั่น

“อย่านะฮะ !!!.. ทำไมต้องใช้วิธีนี้ด้วย โทรศัพท์ของพวกเรามีชื่ออยู่ข้างหลัง…คุณก็รู้นี่… พลิกดูซิฮะ..”

โอครวญเสียงสั่น ใบหน้าแจ่มใสเมื่อครู่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด โทรศัพท์มือถือของหนุ่มน้อยทั้งสี่คน แฟรงค์เป็นคนจัดหาให้โดยจงใจให้เหมือนกันทั้งรุ่นและสีเพื่อตัดปัญหาการแย่งของกันอย่างเด็กๆ

แฟรงค์พลิกด้านหลังเครื่องรำพึงเบาๆ

“จริงซีนะ ทำไมคุณคริสต้องใช้วิธีเปิด Message อ่านด้วย”

โอตาเหลือก    o2   “อะไรนะฮะ !!!.. คุณคริสอ่านข้อความของผมเหรอ..”

“คุณคริสเป็นคนเก็บโทรศัพท์นายได้ เขาบอกว่าไม่แน่ใจว่านายหรือเปล่าที่ชื่อโจอี้.. เลยให้ฉันมาถาม"

สีหน้าหนุ่มโอขาวซีดปากสั่นด้วยความตกใจ ไม่กล้าพูดอะไรอีก คำพูดทิ้งท้ายของแฟรงค์ก่อนเดินจากไป ทำเอาเด็กหนุ่มขาอ่อนหมดแรงทรุดลงลงกับพื้น

“ถ้าใช่ของนายก็ตามไปรับคืนกับคุณคริสเองล่ะกัน คุณคริสรออยู่ที่ห้องหนังสือ มีสองคำถามให้นายตอบก่อนจะออกไปงานวันเกิดเพื่อน รีบตามมานะ เบบี๋.. ”



 o2


 
“ผมเสียใจฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจให้พวกเขารุนแรงกับไมเคิลแบบนี้”    :m15:

คริสซักคำถามแรกกับโอว่า “เจ้าเปี๊ยก” ในข้อความใช่ไมเคิลหรือเปล่า โอปฏิเสธเสียงแข็งก่อนทันทีแต่เมื่อเจอคำพูดและสายตาเย็นชาของคริส   เด็กหนุ่มก็รีบสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดทันที

“สารภาพเองลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าจำนนด้วยหลักฐานนอกจากฉันจะไม่เลี้ยงเธอไว้ดูเล่นอีก ฉันจะส่งเธอเข้าสถานกักกันเยาวชนด้วย”

“ผมแค่ให้พวกเขามาขู่ไมเคิลให้ไปจากที่นี่ ผมไม่ได้ให้เขาทำร้ายไมค์ ผมเสียใจฮะ ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมด้วยนะฮะ คุณคริส”

หนุ่มน้อยน้ำตาคลอสารภาพผิดเพราะคิดว่าอาจทำให้คุณคริสใจอ่อนและลงโทษเขาสถานเบา แต่ผิดคาด…บทลงโทษที่คริสให้โอในครั้งนี้ แม้แต่แฟรงค์ก็นึกไม่ถึง


“ไปเก็บเสื้อผ้าข้าวของทั้งหมด มาจากไหนกลับไปที่นั่น ให้เวลาหนึ่งชั่วโมง รีบไปให้พ้น!!…”

โออ้าปากค้างด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงว่าคุณคริสจะหมดความเอ็นดูและไม่มีเยื่อใยให้แล้วจริงๆ

…..โอเป็นเด็กต่างจังหวัดฐานะยากจน เข้ากรุงเทพฯ มาเรียนหนังสือ คุณคริสพบโอที่สี่แยกไฟแดงขณะวิ่งขายพวงมาลัยหารายได้พิเศษ เนื่องจากเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ไม่พอจ่ายค่าเรียนและค่าเช่าหอ โอต้องดิ้นรนหาเองเพราะอยากเรียนหนังสือให้จบ คุณคริสถูกชะตากับโอให้นามบัตรไว้พร้อมกับเงินค่าพวงมาลัย 3,000 บาท….

เด็กหนุ่มก้มลงกราบแทบเท้าร่างสูงสะอื้นไห้… ครั้งนี้ไม่ได้หวังให้คุณคริสใจอ่อนแต่เพราะสำนึกผิดในเรื่องที่ตัวเองทำจริงๆ และไม่กล้าอ้อนวอนขอร้องอีกเพราะรู้จักนิสัยคุณคริสดีว่าพูดคำไหนคำนั้น



:m15:



“ลงโทษแรงเกินไปหรือเปล่าคริส..”   แฟรงค์ออกความเห็นเมื่อเด็กหนุ่มเดินร้องไห้ออกไป

“หึ!.. ถ้านายได้ยินตอนที่ไมเคิลฝันร้ายและร้องให้ช่วย นายจะรู้ว่าโทษที่ฉันให้เขาสถานเบาแล้ว..”

แฟรงค์นิ่งเงียบ นึกถึงอาการตื่นกลัวและร้องไห้ของเจ้าหนูไมค์เมื่อเช้าแล้ว เขาเข้าใจความรู้สึกของคริสดี แต่ถึงยังไงก็รู้สึกว่าโทษที่โอได้รับหนักกว่าที่เขาคาดไว้

“จะทำยังไงกับไอ้พวกนั้น”

“แจ้งตำรวจ … คงวุ่นวายซีนะ”   คริสถามเองตอบเอง

“ได้.. ถ้าคุณพร้อมจะเป็นข่าว”

คริสถอนใจ เขาเบื่อสถานะทางสังคมที่เป็นอยู่ บางครั้งนึกอยากจะกลับประเทศบ้านเกิดแต่ก็ได้แต่นึกเท่านั้น เขาไม่ได้ห่วงทรัพย์สมบัติ เงินทอง ชื่อเสียง หรือฐานะทางสังคมที่เป็นอยู่ ชีวิตคนรอบข้างต่างหากที่เขาห่วง ไม่มีเขาสักคนทุกชีวิตในคฤหาสน์บริเจคส์นี้จะเป็นอย่างไร

“หาทางสั่งสอนพวกมันแฟรงค์.. ด้วยวิธีไหนก็ได้…ให้มันรู้สึกเจ็บและสำนึกไปตลอดชีวิตว่า… เป็นผลจากการเหยียบย่างเข้ามาในคฤหาสน์บริเจคส์และบังอาจแตะต้องทำร้ายดวงใจของฉัน..”



o7 


คริสยืนมองร่างเล็กนอนคอพับอยู่บนโซฟา มีสมุดแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษวางอยู่บนตัก เขาก้มลงหยิบสมุดขึ้นมาพลิกดูพบลายมือแฟรงค์ตรวจและแก้ไขข้อความที่ถูกให้ 2 - 3 หน้า เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าไมเคิลยอมสนิทสนมกับแฟรงค์เพราะอะไร

คริสก้มลงกระซิบปลุกหนุ่มน้อย

“ไมเคิล.. ตื่นเถอะ ไปนอนที่เตียง”

เด็กชายรู้สึกตัวรีบลุกขึ้นนั่งและสวมกอดร่างสูง

“ผมมีเรื่องอยากคุยด้วยครับ แด๊ด..”

คริสเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจระคนสุขใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะถูกสวมกอดหรือแปลกใจที่หนุ่มน้อยมีเรื่องอยากคุยด้วย แต่เพราะคำเรียก ”แด๊ด” ที่ไมเคิลเอ่ยเรียกโดยไม่ทันให้เขาเตรียมใจต่างหาก หัวใจเขาพองโตด้วยความรู้สึกยินดีและเป็นสุข เพราะเป็นครั้งแรกที่เจ้าหนูเอ่ยเรียกเขาว่าพ่อในขณะที่มีสติ ไม่ได้อยู่ในอาการฝันร้ายเหมือนทุกครั้ง

ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งข้างๆ  สวมกอดหนุ่มน้อยแนบอกเพื่อลดอาการตื่นเต้นที่หัวใจได้รับ 

“อยากจะคุยเรื่องอะไรหรือไมเคิล หือ..”

“เรื่องคุณโอครับ”

รอยยิ้มสดใสจางลงเมื่อได้ยินชื่อนี้ คริสรั้งศีรษะไมเคิลซุกกับอกและจูบเบาๆ ให้อารมณ์สดชื่นขึ้นก่อน เพราะเรื่องที่จะคุยต่อไปอาจทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด

“คุณคริสไล่คุณโอออกจากบ้านหรือครับ”

“มีใครบอกหรือไมเคิล”

“ผมแอบได้ยินคุณบอยคุยกับคุณแจ๊ค  ผมไม่อยากให้คุณไล่คุณโอออกไปครับ ผมสงสารเขา”

“ไมเคิล รู้มั้ยว่าฉันลงโทษเขาเพราะอะไร”

คริสขมวดคิ้วเมื่อเด็กชายพยักหน้า

“รู้เหรอ… รู้แล้วเธอยังสงสารเขาอีก”

ไมเคิลพยักหน้าอีกครั้ง คริสก็รู้สึกอ่อนใจ

“ไม่ได้หรอกนะไมค์.. ฉันยกโทษให้โอไม่ได้ จิตริษยาโหดร้ายใจดำแบบนั้นฉันรับไม่ได้ เขาทำร้ายดวงใจของฉันรู้มั้ย”

“ผมเป็นดวงใจของคุณเหรอครับ” ไมค์เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เมื่อคุณคริสพยักหน้าก็รู้สึกดีใจและฉงนใจพร้อมๆ กัน

“แล้วคุณโอล่ะ เคยเป็นดวงใจของคุณเหมือนกัน แต่ตอนนี้คุณหมดรักเขาเพราะผมใช่มั้ยครับ”

“เหลวไหล! ไมเคิล ใครบอกว่าโอเป็นดวงใจของฉัน ไม่รู้หรือว่าความหมายของคำว่า “ดวงใจ” คืออะไร”

“ก็แปลว่าคนที่เรารักไงครับ”

คริสอดยิ้มไม่ได้

“ความรักของคนมีหลายแบบ… ถ้าฉันรักเธอแบบที่รักคนอื่นๆ ฉันก็คงไม่อยากเป็นบิลหรอก คนอื่นๆ จะมาเป็นดวงใจฉันได้ยังไง ดวงใจฉันมีแค่ดวงเดียวคือเธอไง ไมเคิล..”

เด็กชายหน้าแดงเพราะรู้สึกเขิน คุณแฟรงค์เคยบอกว่าคุณคริสพูดจาเพราะอ่อนหวาน หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หรือแม้กระทั่งสาวๆ ถ้าได้เข้าใกล้เป็นต้องหลงใหลคุณคริสทุกคน ไมค์เพิ่งเคยได้ยินกับหูเป็นครั้งแรก ขณะพูดในฐานะบิลยังหวานขนาดนี้  ถ้าพูดในฐานะมิสเตอร์บริเจคส์…จะหวานขนาดไหน..

“แต่ผมไม่สบายใจครับ ที่เป็นต้นเหตุให้คุณโอต้องไปจากที่นี่”

“เธอเป็นต้นเหตุที่ไหน เขาต่างหากเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ นี้ขึ้น พอเถอะนะไมเคิล อย่าพูดถึงเด็กคนนั้นอีกเลย”

“แต่ว่า.. ผมไม่สบายใจนี่ครับ”   หนุ่มน้อยน้ำตาคลอเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอด

:เฮ้อ:  คริสถอนใจเฮือก ไมเคิลคงไม่สบายใจจริงๆ ที่เห็นโอได้รับโทษรุนแรงเช่นนี้ เขาควรจะทำอย่างไรเพื่อความสบายใจของเจ้าหนู

“โอเค! ไมเคิล ฉันอาจลงโทษโอรุนแรงเกินไปจริงๆ  แต่เพราะฉันอยู่ในฐานะบิล… ไม่มีพ่อคนไหนทนเห็นลูกถูกรังแกได้ โทษแค่นี้ยังไม่สะใจบิลด้วยซ้ำ แต่ถ้าฉันเป็นแค่คุณคริสของเธอ ฉันคงไม่ถึงกับไล่เขาออกไป อย่างมากก็ลงโทษหนักให้หลาบจำ ยืนในวงกลม 1 เดือนและตัดค่าเบี้ยเลี้ยง หรือเฆี่ยนให้หลาบจำ เลือกซิไมเคิลว่าโอควรจะได้รับโทษอะไรดี…”

ไมเคิลยิ้มออก   ฟังดูเหมือนคุณคริสยอมลดโทษให้โอแล้ว

“จริงหรือครับ ผมเลือกอะไร  คุณโอจะได้รับโทษนั้นจริงเหรอ”

คริสพยักหน้า

“ถ้ามันทำให้เธอสบายใจ..” มือใหญ่รั้งศีรษะหนุ่มน้อยเข้ามาซุกอกอีกครั้ง

“ฟังนะไมเคิล.. ถ้าเธอยอมลดโทษให้โอ แสดงว่าเธอพร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาในบ้านหลังนี้อีกยังงั้นใช่มั้ย”

ไมค์พยักหน้าและขอเลือกให้โอรับโทษโดยการยืนในวงกลมทั้งคืน แต่ขอต่อรองจาก 1 เดือนเหลือแค่ 1 สัปดาห์ คุณคริสไม่พอใจที่ไมค์ใจดีเกินไปและว่าจะเพิ่มโทษเป็น 2  เดือนถ้ายังต่อรองอีก ไมค์เลยรีบตกลง

สรุปแล้ว…คริสต้องยอมลดโทษให้โอตามที่ไมเคิลขอร้องเพื่อความสบายใจของเจ้าหนู  แต่โทษที่ได้รับนี้ตามด้วยการงดจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง 3 เดือน และย้ายห้องนอนเด็กหนุ่มลงไปอยู่ในห้องรูหนูที่ไมเคิลอยู่อย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะประพฤติตัวดีขึ้น

เมื่อโอรู้ว่าตัวเองได้รับการลดโทษจากคุณคริสเพราะไมเคิลขอร้องให้   ก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่กระทำลงไป และยิ่งเสียใจมากขึ้นเมื่อคุณคริสเรียกสมาชิกทุกคนรวมถึงคนรับใช้ในบ้านมาประชุมพร้อมกัน และแจ้งให้ทุกคนทราบว่าคุณคริสจะรับไมเคิลเป็นบุตรบุญธรรม แม้ในทางกฎหมายจะยังดำเนินการอะไรไม่ได้ แต่ทางพฤตินัยขอให้ทุกคนรับทราบว่าเขารักไมเคิลอย่างลูกชาย และไมเคิลก็รักเขาในฐานะพ่อตั้งแต่แรกเห็น  คริสย้ำว่าไมเคิลเป็นแก้วตาดวงใจของเขา หวังว่าคงไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับไมเคิลอีก…



++++… F a t h e r h o o d …++++



TBC>>>>



three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #73 เมื่อ03-09-2008 11:27:58 »

นายโอทำไปได้ :m31:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #74 เมื่อ03-09-2008 14:04:56 »

ไอ้เลววววววววววววววววววววววววววว

แสรดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #75 เมื่อ03-09-2008 14:26:39 »

บอยจะก่อเรื่องอะไรอีกมั๊ยอ่ะ คนที่วางแผนนี่บอยนี่นา
แต่คนทำให้เกิดเรื่องคือโอ :serius2:

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #76 เมื่อ03-09-2008 15:01:19 »

เพียงแค่คำว่า 'อิจฉา' ทำให้ใจคนโหดร้ายได้ แล้วโอจะสำนึกผิดรึเปล่า

ไมเคิลเธอช่างเป็นคนดีเหลือเกิน


ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #77 เมื่อ03-09-2008 17:41:00 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #78 เมื่อ04-09-2008 12:20:41 »

[12]



เสียงโทรศัพท์ปลุกแฟรงค์สะดุ้งตื่น รีบควานหามือถือที่หัวเตียงขึ้นมากดรับสาย แต่เสียงเรียกยังคงดังอยู่ทำให้แฟรงค์ต้องขยับตัวขึ้นคว้าโทรศัพท์ภายในขึ้นมากดรับและส่งเสียงให้ปลายสายด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจอย

“แฟรงค์พูด วันนี้ใครมีปัญหาอะไรอีก!!.. เรื่องมากกันจัง”

แฟรงค์โวยดักก่อนเพราะเจอบอยกับทิมผลัดกันโทรขึ้นมาอ้อนขอให้ไปส่งที่โรงเรียนสองวันติดกันแล้ว อ้างว่าตื่นสายและมีสอบตอนเช้า

“ไม่มีใครมีปัญหาหรอก”

แฟรงค์สะดุ้งเล็กน้อยหัวเราะแก้เขินนึกว่าหนุ่มน้อยเจ้าปัญหาทั้งหลายโทรขึ้นมา ร้อยวันพันปีคริสไม่เคยโทรสายในหาเขา

((มอร์นิ่งครับบ๊อส.. มีอะไรให้รับใช้ครับ))  แฟรงค์ส่งคำถามแก้เขินเป็นภาษาอังกฤษ

“มีแน่แฟรงค์.. ลุกจากเตียงเดี๋ยวนี้ อาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวไปส่งไมเคิลเรียนพิเศษด้วย วันนี้ฉันมีประชุมเช้า”

“อีกแล้วเหรอ...ทำไมต้องเป็นผมด้วย...” แฟรงค์โอดครวญเพราะเท่ากับว่าวันนี้เป็นวันที่สามที่เขาต้องลุกขึ้นแต่เช้าเพื่อขับรถส่งเด็กไปโรงเรียน

“ไม่เป็นนายแล้วเป็นใคร ถ้าไม่อยากส่งไมเคิลไปโรงเรียนก็มาขับรถให้ฉัน  ให้จอนนี่ไปส่งเด็กแทน”

คริสหาทางออกให้ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์  ...เรื่องอะไรแฟรงค์จะหลงกล  ขับรถส่งเด็กไปโรงเรียนยังดีกว่าขับรถส่งเจ้านายคริสไปทำงานในสภาพที่อารมณ์ไม่จอย...

“โอเคครับบ๊อส เดี๋ยวผมส่งไมเคิลเอง ล้อเล่นแค่นี้ต้องอารมณ์เสียด้วย แฮ่ะ แฮ่ะ ”

กว่าสองเดือนแล้วที่พฤติกรรมของมหาเศรษฐีบริเจคส์เปลี่ยนไป ตั้งแต่ตกที่นั่งพ่อของลูกอารมณ์ของคริสเปลี่ยนไปจากที่เคยอารมณ์เย็นและเป็นคนง่ายๆ  กลายเป็นคนเจ้าระเบียบและขี้กังวล โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องของไมเคิล ใครทำอะไรให้ก็มักจะไม่ถูกใจ คริสจัดการเรื่องต่างๆ ให้กับไมเคิลด้วยตัวเอง ตั้งแต่หาที่เรียนพิเศษ พาไปซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว ซึ่งปกติแล้วหน้าที่นี้เป็นของแฟรงค์ แต่กรณีของไมเคิลถือว่าอยู่นอกเหนือหน้าที่ เพราะเจ้าหนูไม่ได้อยู่ในฐานะเดียวกับหนุ่มน้อยคนอื่นๆ



:oni1:



“คริส... ผมขอคุยอะไรหน่อย”

แฟรงค์ดักรอคริสที่หน้าห้องนอนไมเคิล คริสต้องเข้าไปดูแลให้หนุ่มน้อยเข้านอนตรงเวลา จูบราตรีสวัสดิ์และดับไฟให้ทุกคืน ทำเหมือนเจ้าหนูไมค์อายุ  5-6 ขวบ

“มีอะไรก็รีบว่ามาแฟรงค์ ฉันง่วงแล้ว” คริสเอ่ยถามและเดินกลับเข้าห้อง แฟรงค์ก้าวตามติดๆ

“ผมอยากคุยกับคุณเรื่องไมเคิล”

คริสยังไม่ทันเอ่ยถามแฟรงค์ก็ยื่นซองจดหมายให้และกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเครียด

“ผลตรวจเลือดของไมเคิล คุณอ่านดูเอง”

“ทำไม!!.. ไมเคิลเป็นอะไร แฟรงค์..” คริสกล่าวด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงขณะดึงเอกสารในซองเปิดออกอ่านอย่างร้อนรน

“อย่าบอกนะว่า……”  น้ำเสียงแหบพร่าขาดหายไป เมื่อพบว่าผลตรวจเลือดของหนุ่มน้อยเป็นปกติ คริสถอนใจโล่งอก  รู้สึกฉุนแฟรงค์ที่แสดงสีหน้าให้หลงเข้าใจผิด

“เรื่องนี้เหรอที่นายอยากจะคุย”

“เปล่า... ผมได้ผลตรวจเลือดของไมเคิลมาหลายวันแล้วแต่ลืมให้คุณดู ที่ผมอยากจะคุยตอนนี้เป็นเรื่องระหว่างคุณกับไมเคิล ฟังนะคริส.. ผมรู้ว่าคุณรักไมเคิล...และรักมากเกินกว่าที่ผมคิดไว้ด้วยซ้ำ แต่ถึงคุณจะรักเขามากแค่ไหนก็ขอให้เผื่อใจไว้บ้าง อย่าลืมว่าไมเคิลยังมีแม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะร้างอาจเกิดจากความเข้าใจผิดหรืออารมณ์ชั่ววูบ ถ้าเธอรู้ว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ เธออาจต้องการลูกคืน ถึงตอนนั้นคุณเตรียมใจไว้บ้างหรือเปล่าว่าจะทำยังไง…”

คริสใจหายวาบ ให้ตายเถอะ! เขาลืมสนิทเลยว่าไมเคิลยังมีแม่…



 :oni1:



คริสวางสายจากครูสอนพิเศษของไมเคิล  เขาต้องการให้เด็กชายสอบเทียบชั้นประถมให้ผ่านก่อนจะส่งเข้าเรียนต่อระดับมัธยมในโรงเรียนนานาชาติ เขาให้ไมเคิลเรียนพิเศษแบบสบายๆ ไม่ต้องคร่ำเคร่งหรือเร่งรัดการเรียน สอบผ่านเมื่อไรก็เมื่อนั้น

“เรียนช้าไป 2-3 ปี ก็ยังไม่สายหรอก ไม่ต้องรีบร้อนเครียดเปล่าๆ รู้มั้ย”

“เด็กคนอื่นที่อายุเท่าผมเขาอยู่ชั้นมัธยมกันหมดแล้วครับ ผมยังไม่จบ ป. 6 เลย”

“ช่างเขาปะไร จะรีบเรียนจบทำไม เห็นจบกันออกมาก็มาเดินเตะฝุ่นหางานทำไม่ได้อยู่ดี”

“แล้วผมล่ะครับ จะหางานทำได้เหรอ”

คริสจับศีรษะหนุ่มน้อยซุกกับอก

“จะรีบคิดทำไมไมเคิล อย่างน้อยก็มี 2-3 บริษัทที่เธอเดินเข้าไปทำได้เลย ไม่ต้องเขียนใบสมัครด้วย”

“ใช้เส้นหรือครับ  ไม่เอาหรอก  ผมจะสมัครเอง  ผมจะหางานทำเองครับ”

คริสหัวเราะด้วยความเอ็นดู  ...ไมเคิลเป็นคนดีที่หนึ่งเลย... อย่างที่แฟรงค์ชอบกระเซ้าจริงๆ



 :oni1:


คืนนี้คริสพาสมาชิกในครอบครัวมาเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสที่โอและแจ๊คสอบเอ็นทรานซ์ได้ทั้งคู่ โออายุมากกว่าแจ๊คหนึ่งปีแต่เรียนอยู่ระดับเดียวกัน โอสอบได้คณะสถาปัตย์ในขณะที่แจ๊คติดวิศวะ หนุ่มน้อยทั้งสองรักการเรียนและหัวดีทั้งคู่ ต่างมีความตั้งใจที่จะสอบเอ็นทรานซ์ให้ติดเพื่อจุดประสงค์คนละอย่าง

โออยากช่วยแบ่งเบางานจากคุณคริส หวังให้คุณคริสภูมิใจในตัวเขาเพื่อลบความผิดที่เคยทำไว้ ส่วนแจ๊คตั้งใจจะเรียนวิศวเพราะนอกจากคุณคริสจะมีงานให้ทำโดยไม่ต้องหาเองแล้ว แจ๊คเคยอ้อนขอกับคุณคริสว่าถ้าเขาสอบวิศวะได้อยากขอรถสปอร์ต 1 คัน คุณคริสนิ่งเฉยไม่ได้ตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แค่นี้แจ๊คก็มีความหวังแล้ว เพราะถ้าคุณคริสเซย์โน นั่นหมายถึงหมดหวังและไม่ต้องเอ่ยปากขออีกต่อไป

งานนี้หนุ่มแฟรงค์หน้าบาน อย่างน้อยเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกครองของหนุ่มแสบทั้งสี่คน ความสำเร็จของโอและแจ๊ควันนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้มงวดและเอาใจใส่ของเขา ไม่ใช่แค่ความประพฤติและอุปนิสัยที่แฟรงค์เฝ้าสั่งสอน บ่อยครั้งที่แฟรงค์ต้องสอนและติวเรื่องการเรียนให้หนุ่มน้อยเหล่านี้ด้วยตัวเอง

แฟรงค์กอดคอโอและแจ๊คที่นั่งขนาบข้างและกล่าวยินดี

“ฉันภูมิใจกับนายสองคนมาก ถ้าใครอยากได้รางวัล คืนนี้เชิญที่ห้องฉันมีรางวัลให้”

“ผมไม่อยากได้รางวัลของคุณหรอกฮะ   ผมรอรางวัลคุณคริสดีกว่า” แจ๊คกล่าวอย่างมีความหวัง คุณคริสยิ้มให้ไม่พูดอะไรแค่นี้แจ๊คก็พอใจแล้ว

“นายล่ะโอ.. อยากได้รางวัลจากฉันมั้ย”

“ไม่ล่ะฮะ ผมไม่อยากได้อะไร แต่ถ้าคุณแฟรงค์อยากให้ ผมขอเปลี่ยนให้บอยดีกว่า”

แฟรงค์หันไปทางบอยซึ่งนั่งหน้าจ๋อยอยู่ วันนี้เขามัวแต่ปลื้มและยินดีกับโอและแจ๊ค ไม่ได้สนใจและหันมาพูดคุยกับบอยสักคำ  บอยรีบก้มหน้าหลบสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมาทางเขา

แฟรงค์หัวเราะ ลุกขึ้นสลับที่นั่งกับแจ๊คและรั้งตัวบอยเข้ามากอด

“ไม่เอาน่าบอย..อย่าทำหน้าอย่างนี้ซี... จะให้ฉันมองหน้าคุณคริสยังไงถ้าเขารู้ว่าเธอมีใจลึกซึ้งกับฉันขนาดนี้อ่ะ ”

แฟรงค์แกล้งกระเซ้าเพื่อสร้างบรรยากาศให้สนุก แต่บอยไม่สนุกด้วย  รู้สึกเขินอย่างแรง ลำพังเพื่อนๆ ไม่เท่าไรหรอกเพราะล้อเล่นกันเป็นประจำ แต่กับคุณคริสบอยไม่กล้าสบตาด้วยเลย กลัวคุณคริสโกรธที่บอยรักคุณแฟรงค์มากกว่า

“ผมจะไปห้องน้ำฮะ”

บอยขอตัวเข้าห้องน้ำแก้เขิน ไมเคิลซึ่งกำลังอยากเข้าห้องน้ำอยู่พอดีร้องขอไปด้วย

สถานที่ที่คริสพาสมาชิกมาเลี้ยงฉลองในคืนนี้ เป็นภัตตาคารหมุนลอยฟ้า  สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองกรุงในยามค่ำคืนได้รอบ 360 องศา คริสไม่ชอบนั่งเลี้ยงสังสรรค์ในที่รโหฐานที่เป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ โดยเฉพาะถ้ามากับสมาชิกในครอบครัวด้วยแล้ว นั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่พลุกพล่านได้บรรยากาศมากกว่า

บอยเดินกลับมาที่โต๊ะเพียงลำพัง และตรงเข้ามากระซิบข้างหูแฟรงค์ก่อนทรุดตัวลงนั่ง แฟรงค์มีสีหน้าตื่นเล็กน้อย  ชะเง้อมองไปที่โต๊ะอาหารด้านหลัง

คริสเอ่ยถามเชิงตำหนิขณะที่สายตาจ้องมองไปที่โต๊ะอาหารตัวเดียวกันกับแฟรงค์

“ไมเคิลนั่งคุยอยู่กับใคร บอย  ทำไมไม่รอเดินกลับมาพร้อมกัน”

“เอ่อ.. ไม่ทราบครับ ไมเคิลออกมาจากห้องน้ำก่อน ผมตามออกมาก็เห็นไมค์นั่งคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผมเดินเข้าไปบอกว่าผมจะกลับมาที่โต๊ะก่อน ไมค์ไม่ได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ดูแล้วสนิทสนมกันมาก เธอกอดไมเคิลไม่ยอมปล่อยเลยครับคุณคริส..”

คริสใจหายอย่างแรง เจ้าหนูของเขาสนิทสนมกับหญิงสาวผู้นั้นถึงขนาดยอมให้กอดและหอมด้วยความรัก เธอจะเป็นใครได้นอกจาก…

รวดเร็วสมเป็นเลขาคู่ใจ แฟรงค์ลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะเอ่ยเรียก

“ผมไปดูเองคริส.. บางทีไมเคิลอาจเจอเพื่อนเก่า”

แฟรงค์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาคำตอบให้เขา แฟรงค์เป็นคนเดียวที่เข้าใจจิตใจเขาอยู่ทุกขณะว่ากำลังคิดและรู้สึกอย่างไร

หญิงสาววัย 30 ปีเศษ บุคลิกดีหน้าตางดงาม ลุกขึ้นยืนเมื่อแฟรงค์เดินเข้าไปแนะนำตัว เธอพูดคุยและทักทายด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะมองตรงมายังโต๊ะที่สมาชิกบริเจคส์นั่งอยู่ แฟรงค์หยิบนามบัตรจดยิกๆ ด้านหลังและยื่นให้เธอ ก่อนจะขอตัวไมเคิลเดินกอดคอพากลับมานั่งที่โต๊ะ

ไมเคิลกลับมาที่โต๊ะด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตรงเข้าไปกอดคอและกระซิบกับคริสอย่างอารมณ์ดี

“ทายซีครับว่าผมไปเจอใครมา”

“ใครล่ะ”

คริสย้อนถามกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพราะรู้คำตอบจากสายตาของแฟรงค์แล้วว่าหญิงสาวผู้นั้นเป็นเธอจริงๆ

“ผมเจอแม่ครับ”

ไมเคิลกระซิบแค่ประโยคสั้นๆ และทรุดตัวลงนั่ง  คงอยากให้ถามต่อแต่เขากลับไม่มีคำถามอะไร เพราะหัวใจร้อนรุ่มไม่อยู่กับตัว บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร

แฟรงค์สั่งเช็คบิลเพราะรู้ว่าจิตใจของคริสขณะนี้ไม่พร้อมจะสังสรรค์เฮฮาอะไรอีก ทิมบ่นเสียดายว่ายังไม่ได้ทานของหวานเลยถูกแฟรงค์ดุว่าเห็นแก่กิน

คริสขอตัวไปคอยที่รถก่อน ไมเคิลนั่งมองตาปริบๆ ดูคุณคริสเดินออกไปจนแฟรงค์ต้องเตือน

“ตามไปซิไมเคิล คุณคริสไม่ค่อยสบาย ไปนั่งคอยที่รถก่อน”

ไมเคิลรู้สึกตัวลุกขึ้นวิ่งตามไปทันคุณคริสที่หน้าลิฟต์พอดี เข้าลิฟต์มากับคุณคริสสองคนไมค์จึงสังเกตุเห็นว่าคุณคริสมีสีหน้าไม่ค่อยดี คงไม่ค่อยสบายจริงๆ คุณคริสยืนนิ่งไม่พูดจากับไมค์สักคำ อยู่กับคุณแฟรงค์และสมาชิกหนุ่มแสบกลุ่มนี้มากว่าครึ่งปีแล้ว ไมค์รู้ว่าจะต้องแก้ไขสถานการณ์ยังไงจึงจะทำให้คุณคริสอารมณ์ดีขึ้น
ร่างเล็กขยับเข้าสวมกอดและซุกศีรษะกับอกกว้างอ้อนถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณคริสไม่สบายหรือครับ ให้ผมช่วยพยุงไปที่รถนะ”

คริสสวมกอดไมเคิลด้วยความรัก ไม่รู้ว่าเขาหลงรักเจ้าหนูมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร รู้แต่ว่าวันนี้.. นาทีนี้.. เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงความทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสได้หากหนุ่มน้อยมีอันต้องพรากจากไป...

“แม่เค้าว่ายังไงหรือไมเคิล หือ…”

ประตูลิฟต์เปิดออก  มีชายหญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและมองคุณคริสกับไมค์ด้วยสายตาแปลกๆ

คริสกล่าวกับหนุ่มน้อยเป็นภาษาอังกฤษดังพอที่คนอื่นในลิฟต์ได้ยินด้วย

((เดี๋ยวค่อยไปเล่าที่รถนะว่าแม่เค้าว่ายังไงบ้าง))

ไมเคิลไม่ชอบใจสายตาแต่ละคู่ที่แอบชำเลืองมา ขณะที่คุณคริสพูดทุกคนหันหน้าเข้าประตูลิฟต์ทำทีเป็นไม่สนใจแต่ไมค์รู้ว่าพวกเขาหูผึ่งฟังกันทุกคน ไมค์รีบตอบคุณคริสเป็นภาษาไทย

((แม่บอกว่าพรุ่งนี้จะมาหาเราที่บ้าน จะมาขอบคุณแด๊ดด้วยครับ))

คำเรียก “แด๊ด” ไมค์เรียกเวลาอยู่กับคุณคริสสองต่อสองและเฉพาะบางอารมณ์เท่านั้น แต่ตอนนี้แม้จะมีคนอื่นอยู่เต็มลิฟต์ไมค์ก็จะเรียก เพราะอยากให้รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไมค์กับคุณคริสไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเข้าใจ



 :oni1:



คริสหลับตาเอนศีรษะพิงพนักทำท่าเหมือนต้องการจะพักผ่อน ไมเคิลก็เลยไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง รู้สึกว่าคุณคริสจะไม่สบายใจมากกว่าไม่สบายกาย โอนั่งคู่กับแฟรงค์ซึ่งทำหน้าที่โชเฟอร์ ในขณะที่แจ๊ค,บอยและทิมนั่งอยู่ตอนในสุด ภายในรถเงียบกริบไม่เอะอะเฮฮาเหมือนตอนขามา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเสียงดังเมื่อเห็นคุณ คริสอยู่ในอารมณ์เช่นนี้

ไมเคิลสะดุ้งเมื่อถูกเขกศีรษะเบาๆ รีบหันขวับไปหาคนมือดี แจ๊คทำท่าสวมกอดบอยซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ และชี้มือไปที่คุณคริส ไมค์ขมวดคิ้วและส่ายหน้าความหมายว่าไม่!!..


แจ๊ค ทิมและบอยต่างพยักหน้าให้ไมค์ทำตามที่แจ๊คบอก ไมค์หันกลับมาชำเลืองดูคุณคริสอีกครั้ง แม้คุณคริสจะหลับตาแต่สีหน้าและคิ้วที่ขมวดเข้าหากันบอกให้รู้ว่ากำลังมีเรื่องไม่สบายใจจริงๆ ไมค์ไม่กล้าทำตามที่แจ๊คบอกแต่อย่างน้อยก็ควรจะทำอะไรบางอย่าง เช$
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2008 13:42:16 โดย j-muay »

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #79 เมื่อ04-09-2008 13:23:27 »

 :m15:ความเศร้ากำลังมาเยือนแล้ว :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #79 เมื่อ: 04-09-2008 13:23:27 »





ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #80 เมื่อ04-09-2008 13:36:51 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #81 เมื่อ04-09-2008 13:43:56 »

[12]  ต่อ..


แจ๊ค ทิมและบอยต่างพยักหน้าให้ไมค์ทำตามที่แจ๊คบอก ไมค์หันกลับมาชำเลืองดูคุณคริสอีกครั้ง แม้คุณคริสจะหลับตาแต่สีหน้าและคิ้วที่ขมวดเข้าหากันบอกให้รู้ว่ากำลังมีเรื่องไม่สบายใจจริงๆ ไมค์ไม่กล้าทำตามที่แจ๊คบอกแต่อย่างน้อยก็ควรจะทำอะไรบางอย่าง เช่นกุมมือคุณคริสไว้เผื่อจะช่วยให้กำลังใจได้บ้าง
ทันทีที่มือเล็กสัมผัสกับฝ่ามือใหญ่ แทนที่หนุ่มน้อยจะเป็นฝ่ายกระทำตามที่ใจคิด กลับถูกคริสกุมมือไว้และเอาไปแนบที่หน้าอกตรงกับหัวใจ

ไมเคิลชำเลืองมองคุณคริส เห็นรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากแต่คิ้วที่ขมวดเข้าหากันก็ยังไม่คลายออก แสดงว่าคุณคริสมีเรื่องให้คิดอยู่ในสมองอาจจะเป็นเรื่องงานก็ได้ เพราะทุกครั้งที่คุณคริสเครียดเรื่องงานมักจะมีสีหน้าเช่นนี้เสมอ นึกถึงเรื่องงาน ไมค์สงสารคุณคริสที่ทำงานอย่างหนักอยู่คนเดียวเพื่อให้ทุกคนในบ้านได้อยู่กันอย่างสุขสบาย

ไมเคิลไม่รู้ว่าศีรษะตัวเองซบอยู่กับอกคุณคริสตั้งแต่เมื่อไร รู้สึกตัวตอนได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ

“ถึงบ้านแล้วไมเคิล ตื่นได้แล้ว”

ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนห้องใครห้องมัน คริสขอคุยกับแฟรงค์ที่ห้องหนังสือก่อนแต่ไม่ลืมหันมาสั่งไมเคิลให้เข้านอน

คริสเปิดห้องพักชั้นสองซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนแฟรงค์ให้เป็นห้องนอนไมเคิล หลังจากที่เจ้าหนูอ้อนขอย้ายลงจากชั้น 3 มาพักใกล้ๆ กับห้องพักของหนุ่มน้อยทั้งสี่โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากพักข้างบนเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ มันไม่ดี เลยถูกคริสดุและย้อนถามว่าลูกชายเจ้าของบ้านพักอยู่ชั้นบนกับพ่อไม่ดีตรงไหน

คริสแยกกับแฟรงค์ที่หน้าห้องนอนไมเคิล เขาไม่พบหนุ่มน้อยในห้องนอน เสื้อผ้าที่เจ้าหนูสวมเมื่อครู่ถูกถอดกองไว้บนเตียง มีกระดาษโน้ตแผ่นใหญ่วางข้างๆ

“คืนนี้ผมจะนอนข้างบนกับแด๊ด..”

คริสอดยิ้มไม่ได้ รู้สึกสุขใจทุกครั้งที่ได้ยินคำเรียกนี้…

คริสกลับขึ้นมาที่ห้องพบหนุ่มน้อยในชุดนอน ใบหน้ามีแป้งขาวเป็นรอยมือนั่งตาปรืออยู่หน้าทีวี

“ง่วงแล้วทำไมไม่นอนล่ะไมเคิล ยังจะดูทีวีอีก..”

“ผมรอคุยกับคุณก่อน”

คริสเลิกคิ้วยังไม่ทันเอ่ยถาม หนุ่มน้อยก็ชิงตอบก่อน

“ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องแม่เลย เมื่อกี้แม่บอกว่ายังไงบ้าง คุณบอกให้ผมเล่าให้ฟังไงครับ”

“อืมม์.. จริงซี.. ลืมสนิทเลย”

คริสเสยผมหนุ่มน้อยไปมาเขารู้ว่าไมเคิลง่วงมากแล้ว ถ้าให้คอยอีกสักสิบนาทีมีหวังหลับปุ๋ยแน่

“ขออาบน้ำก่อนนะไมเคิล เสร็จแล้วเราค่อยมานอนคุยกันดีมั้ย”

ไมเคิลหาวหวอดใหญ่ก่อนพยักหน้าหงึก

“ก็ได้ครับ ผมรอคุณอาบน้ำเสร็จก่อน ”

คริสหัวเราะ รั้งหนุ่มน้อยเข้ามากอดและจูบที่แก้มเบาๆ

“ต้องคุยคืนนี้ด้วยเหรอ ถ้าง่วงก็นอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยดีกว่ามั้ย”

“ไม่ครับ ผมยังไม่ง่วง ผมจะคอย..”

“ถ้างั้นไปนอนคอยที่เตียง โอเค!.. ”

หนุ่มน้อยพยักหน้าและลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนอย่างว่าง่าย คริสไม่อาจทนฟังคำบอกเล่าจากปากไมเคิลเองได้ เท่าที่ฟังจากแฟรงค์เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

“เรื่องที่เกิดขึ้นบนเกาะร้างเกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างเธอกับสามี ทำให้ไมเคิลต้องติดอยู่บนเกาะ เธอเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นและฝากขอบคุณคุณที่ช่วยชีวิตลูกชายเธอไว้ เธอจะหาโอกาสมาพบและขอบคุณด้วยตัวเอง อ้อ! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไมเคิล ผมเดาว่าทำให้เธอต้องเลิกกับสามีคนนั้นแล้ว เพราะคืนนี้เธอกำลังมีนัดสำคัญที่ไม่สามารถยกเลิกอย่างกระทันหันได้ ผมก็เลยถือโอกาสขอพาตัวไมเคิลออกมาและบอกว่าถ้าเธอต้องการพบไมเคิลก็ให้มาหาตามที่อยู่ในนามบัตร”

คริสใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมง   ออกมาเจ้าหนูไมค์ก็หลับปุ๋ยไปแล้วจริงๆ  นึกถึงอาการดีใจของไมเคิลที่ได้พบแม่แล้ว คริสรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ถูกที่แสดงอาการไม่ยินดียินร้ายกับข่าวดีที่ไมเคิลกระซิบบอก  เขาบอกตัวเองไม่ได้ว่าเพราะอะไร   รู้แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับเขา…



… F A T H E R H O O D …





three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #82 เมื่อ04-09-2008 15:08:24 »

ช่างเป็นข่าวที่แย่สุดๆ :m15:

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #83 เมื่อ04-09-2008 15:54:33 »

แล้วแม่จะมาเอาไมเคิลคืนรึเปล่าอ่า

 :sad2:

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #84 เมื่อ04-09-2008 16:07:07 »

จะเป็นยังไงต่อไป กับพ่อลูกคู่นี้

ออฟไลน์ ren

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
    • " Welcome To Y Entertainment "
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #85 เมื่อ04-09-2008 22:55:08 »

แวะมาทักทายเจ๊หมวยค่า  ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมบอร์ดตั้งนาน  :m23:

หุหุ  จะมีนิยายรวมเล่มของเจ๊หมวยอีกแล้ว  เรนจองนะคะอุดหนุนแน่นอน  :m1:


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #86 เมื่อ05-09-2008 10:57:16 »


[13]



“แม่ฮะ  ทำไมไม่โทรมาก่อน มาถูกได้ไง”

หนุ่มน้อยตรงรี่เข้าไปทักทายมารดาด้วยความดีใจ ที่จู่ๆก็มาเป็นแขกของคฤหาสน์บริเจคส์แต่เช้า

“ทำไมจะมาไม่ถูกจ๊ะ คฤหาสน์บริเจคส์ถามใครก็รู้จัก”

หญิงสาวดึงลูกชายนั่งลงข้างๆ และสวมกอดด้วยความรัก

“แม่นอนไม่หลับทั้งคืน ดีใจที่ได้พบลูก แม่บนบานไปทั่วเลยรู้มั้ยว่าขอให้มีคนผ่านไปช่วยลูกของแม่ออกจากเกาะที โอ! ไมเคิล ลูกโกรธแม่หรือเปล่า แม่ขอโทษนะจ๊ะ แม่เลิกกับลุงกฤษณ์เขาแล้ว ตอนนี้แม่กำลัง…”

“ช่างเถอะฮะ แม่..”

ไมเคิลรีบขัดคอเพราะไม่อยากได้ยินเรื่องที่แม่กำลังจะบอก เลิกกับลุงกฤษณ์แล้วแม่ก็กำลังจะมีคนใหม่ ทำไมไมค์จะไม่รู้…

“แม่ฮะ.. ผมอยากให้แม่รู้จักคุณคริส คุณคริสช่วยชีวิตผมไว้ พาผมออกมาจากเกาะและให้ที่พักอาศัยผมด้วย”

“จ้ะ แม่ก็อยากพบ อยากขอบคุณคุณคริสของลูก”

“คุณคริสอาบน้ำอยู่ เดี๋ยวลงมาครับแม่”

ไมค์มองมารดาซึ่งเริ่มสำรวจความใหญ่โตของคฤหาสน์ด้วยสายตา แม่คงตะลึงเหมือนกับตอนที่ไมค์มาเห็นใหม่ๆ แหล่ะ

“คุณคริสของลูกคงเป็นระดับมหาเศรษฐีเลยใช่มั้ย  บ้านพักถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้”

“ก็ไม่ถึงขนาดมหาเศรษฐีหรอกฮะแม่ คุณคริสมีเงินมากเพราะทำงานหนักครับ จริงซีฮะแม่ ถ้าแม่ได้เห็นคุณคริสแม่จะแปลกใจว่าคุณคริสเหมือนกับผู้ชายคนแรกที่แม่รัก”

“ผู้ชายคนแรกที่แม่รัก คนไหนเหรอลูก”

หนุ่มน้อยหน้าเสียไม่อยากเชื่อว่าแม่จำผู้ชายคนแรกที่แม่รักไม่ได้ ไมค์ผละออกห่างมารดาด้วยความรู้สึกเสียใจที่แม่จำพ่อไม่ได้ เป็นเพราะแม่มีผู้ชายที่แม่รักหลายคน ถึงพ่อจะเป็นผู้ชายคนแรกก็ไม่มีความหมายอะไรสำหรับแม่..

“โอ! ไมเคิล อย่าทำหน้าอย่างนั้นซี แม่ล้อเล่นจ้ะ ลูกหมายถึงบิลพ่อของลูกใช่มั้ย คุณคริสเหมือนบิลมากหรือลูก เหมือนตรงไหนจ๊ะ”

หญิงสาวรีบถามเอาใจไม่อยากให้ลูกโกรธและเสียใจที่เธอลืมพ่อของเขา

“เหมือนทุกส่วนเลยครับแม่ เหมือนในรูปที่แม่ให้ผมดูเลย นั่นไงครับแม่ คุณคริสลงมาพอดี”

ไมค์ลุกขึ้นวิ่งไปหาคุณคริส  ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดพร้อมจะไปทำงาน หล่อสมาร์ทเหมือนทุกวัน แต่วันนี้สีหน้าคุณคริสไม่สู้ดี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้โกนหนวดหรือยังมีอาการปวดศีรษะอยู่ ไมค์สะดุ้งตื่นตอนเช้าพบตัวเองนอนอยู่บนเตียงคุณคริส คุณคริสยังหลับสนิทอยู่เลย พอไมค์ปลุกก็งัวเงียบอกว่ายังไม่อยากตื่น ยังปวดหัวอยู่

“คุณคริสค่อยยังชั่วหรือยังครับ หายปวดหัวหรือยัง”   

หนุ่มน้อยถามด้วยความเป็นห่วง  คริสยิ้มให้และเอ่ยถามกลับไป

“แม่มาหาหรือ ไมเคิล”

“ครับ แม่รอพบคุณคริสด้วย นั่นไงครับ แม่นั่งชะเง้อมองอยู่โน่น แม่อาจตกใจเหมือนที่ผมตกใจ ตอนเจอคุณครั้งแรก”   ไมค์จูงมือคุณคริสตรงไปหามารดา

คริสฝืนยิ้ม เขาเตรียมใจไว้ทั้งคืนแล้ว อะไรจะเกิดก็เกิดเถอะ...

“แม่ครับ แม่.. แม่..” ไมค์เขย่าแขนมารดาซึ่งยืนตะลึงจ้องมองคุณคริสอยู่

“เอ่อ.. จ๊ะ ไมเคิล”

“แม่ครับ นี่คุณคริสเจ้าของบ้านหลังนี้ คุณคริสช่วยชีวิตผมไว้ครับแม่”

ไมค์หันมายิ้มให้คุณคริส “แม่ผมครับ คุณคริส”

คริสยื่นมือให้หญิงสาว เนื่องจากเห็นว่าเธอคงคุ้นเคยกับการทักทายแบบสากล อย่างน้อยเธอก็เคยมีสามีเป็นฝรั่ง

“คริส บริเจคส์ ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณเอ่อ..”

“ลินดาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

หญิงสาวกล่าวขอบคุณคริสที่ช่วยชีวิตลูกชายเธอไว้ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ คริสฟัง…

เช้าวันที่ 3 ของการตั้งแคมป์บนเกาะร้าง กฤษณะซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงอดีตสามีของเธอได้ชวนเธอและลูกๆ ของเขาข้ามไปเกาะฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางไปกลับไม่เกิน 3 ชั่วโมง โดยออกเดินทางกันตอนเช้ามืด เธอขอให้ปลุกไมเคิลไปด้วย แต่กฤษณะบอกว่าเกาะอยู่ใกล้แค่นี้เอง รีบไปรีบกลับ มาถึงไมเคิลยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ เธอวางใจเนื่องจากบนเกาะร้างนั้นไม่มีสัตว์ร้ายและอันตรายใดๆ แต่เมื่อขึ้นไปถึงบนเรือกว่าจะรู้ว่ากฤษณะจงใจหลอกเธอให้ทิ้งลูกชายไว้บนเกาะ เรือก็แล่นห่างออกมาจากฝั่งไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอโกรธเขามากและบอกให้เขานำเรือกลับไปรับไมเคิล แต่เขาไม่ยอม พยายามหว่านล้อมและบอกเธอว่าพรุ่งนี้ค่อยกลับไปรับ กฤษณะว่าไมเคิลเป็นเด็กผู้ชายแต่ขี้แยและใจเสาะมากไป เขาต้องการฝึกให้ไมเคิลช่วยตัวเองและเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น เธอยอมเชื่อเขาแต่พอวันรุ่งขึ้น เขากลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปรับจนเธอเหลืออด ทะเลาะกับเขาอย่างรุนแรงถึงขั้นแตกหัก เธอขอแยกทางกับเขาและออกตามหาลูกชาย

จังหวะนั้นมีพายุฝนเข้ามาพอดี ไม่มีเรือลำไหนยอมพาเธอไปกลับไปที่เกาะร้างนั้น กว่าพายุจะสงบเวลาผ่านไปอีก 3 วัน แต่เมื่อเธอกลับไปที่เกาะอีกครั้งก็ไม่พบลูกชายของเธออยู่บนเกาะ คนเรือบอกเธอว่าถ้าลูกชายของเธอติดอยู่บนเกาะนี้จริง ไม่น่าจะรอดชีวิตจากพายุฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักตลอด 3 วันเต็มๆ

ระหว่างที่ลินดาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง คริสรู้สึกว่าเธอคอยเลี่ยงไม่ยอมสบตากับเขา เธอคงรู้สึกละอายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งฟังดูเหมือนเธอละเลยและไม่ใส่ใจลูกของตัวเอง ถึงขนาดยอมปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวบนเกาะร้าง แม้จะเพียงแค่ 3 ชั่วโมงก็ตาม

ขณะที่นิ่งฟังคริสหวนนึกถึงวันและเวลาที่เขาได้พบไมเคิล ตกใจเมื่อรู้ว่าลินดาเดินทางกลับไปที่เกาะร้างก่อนหน้าเขา 1 วัน แต่กลับหาลูกชายไม่พบ คริสไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมเธอจึงไม่พบลูกชาย แต่ที่เขาข้องใจคือทำไมเขาจึงเป็นฝ่ายรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของหนุ่มน้อยแทนที่จะเป็นลินดา ทั้งๆ ที่เธอเป็นแม่….

ลินดาสวมกอดลูกและพร่ำขอโทษต่อหน้าคริส

“ยกโทษให้แม่นะไมเคิล แม่สัญญาว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ลูกอย่าโกรธแม่นะจ๊ะ”

“ผมไม่โกรธแม่หรอกครับ ผมรักแม่”

“แม่ก็รักลูกจ้ะ ”

สองแม่ลูกสวมกอดบอกรักกันและกันน่าจะทำให้คริสรู้สึกยินดีด้วย แต่นอกจากจะไม่รู้สึกยินดีแล้ว เขายังรู้สึกแปลกๆ กับความรักในฐานะแม่ของหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า

“แม่ครับ แม่ยังเก็บรูปผมไว้ในกระเป๋าหรือเปล่า”

ไมค์ถามหารูปของตัวเอง ซึ่งเป็นรูปที่ไมค์นำไปเคลือบพลาสติคให้แม่ติดกระเป๋าไว้

“มีซีจ๊ะ แม่ติดตัวไว้ตลอดเวลาเลยนะไมเคิล”

ลินดารีบคว้ากระเป๋าสตางค์ขึ้นมาค้นหารูปใบที่ลูกชายถามถึง เธอคิดว่าไมเคิลคงลองใจว่าเธอยังรักและคิดถึงเขาจริงหรือเปล่า

“นี่ไงจ๊ะไมค์ รูปของลูก”

ไมค์รับรูปมาถือไว้ด้วยความตื่นเต้น ไมค์ไม่ได้ต้องการดูรูปตัวเองหรอก แต่รูปที่ต้องการเห็นอยู่ด้านหลังรูปของไมค์ต่างหาก

“นี่ไงฮะแม่ แม่ดูซี คุณคริสเหมือนแด๊ดดี้ผมมั้ย”

หญิงสาวใจหาย นึกขึ้นได้ว่ามีอีกหนึ่งรูปประกบอยู่ด้านหลัง

“เอ่อ.. เหมือนจ้ะ เอาให้แม่เก็บเถอะ”   ลินดาแบมือขอรูปคืนแต่ไมเคิลชักรูปหนี

“เดี๋ยวซีฮะแม่ ขอให้คุณคริสดูก่อน”

ไมเคิลขยับไปนั่งข้างๆ คริส  โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของมารดา และยื่นรูปให้คริสดู

“ดูรูปแด๊ดผมซีครับคุณคริส ว่าเหมือนคุณจริงๆ หรือเปล่า”

คริสรับรูปมาถือไว้   ถ้าลินดาไม่ได้นั่งอยู่ด้วยเขาคงสวมกอดหนุ่มน้อยไว้แล้วไม่นั่งสำรวมอยู่อย่างนี้
ลินดาพยายามทักท้วงลูกชายไม่ให้ส่งรูปให้คริสดู แต่ไม่สำเร็จ เธอนั่งนิ่งมองดูคริสเพ่งดูรูปพ่อของไมเคิลอย่างตั้งใจ ไมเคิลคิดว่ามารดาคงรู้สึกเขินหากคุณคริสได้เห็นกับตาว่าเขามีหน้าตาเหมือนกับบิลจริงๆ

ร่างเล็กขยับเข้าไปนั่งกระแซะคริสและเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี

“เหมือนใช่มั้ยครับ ผมบอกแล้ว ผมไม่โกหกหรอก”

“เหมือนจริงๆ ด้วยไมเคิล เหมือนราวกับเป็นคนเดียวกันเลย”   คริสเอ่ยเบาๆ สายตายังจ้องเขม็งอยู่ที่รูป ด้านล่างของรูปมีข้อความเป็นลายมือเขียนไว้ว่า

“นี่คือแด๊ดดี้บิล ของลูกจ๊ะ ไมเคิล..”

พ่อบ้านลูเดินเข้ามารายงานขัดจังหวะ

“คุณไมค์ครับ  คุณแฟรงค์ให้มาถามว่าจะไปซื้อรองเท้าหรือเปล่า คุณแฟรงค์จะออกไปข้างนอกจะพาไปซื้อครับ”

ไมค์เงยหน้าขึ้น ยังไม่ทันเอ่ยตอบคุณคริสก็ตอบแทน

“ไปซีไมเคิล ให้คุณแฟรงค์พาไปซื้อเลย เดี๋ยวไม่มีใส่ไปเรียนพิเศษนะ”

“แต่ว่าแม่.. .”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะนั่งคุยกับแม่เธอไปพลางๆ” คริสหันไปขอความเห็นจากลินดา

“ใช่มั้ยครับ คุณลินดา เรามีเรื่องจะต้องพูดคุยและทำความรู้จักกัน ถ้าไม่รังเกียจผมขอรับรองคุณแทนไมเคิล”

“เอ่อ.. มิได้ค่ะ ดิฉันไม่กล้ารังเกียจ แต่จะเสียเวลาคุณเปล่าๆ”

“ไม่เลยครับ ผมหยุดพักงานสักวันก็ได้”

“ถ้างั้นผมไปซื้อของก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับ แม่อย่าเพิ่งกลับนะ รอผมก่อน”

“จ้ะ แม่จะคอย”

ลินดายิ้มให้ลูกชาย ไมเคิลลุกขึ้นยืนขยับจะเดินออกไปก็ต้องหยุดชะงักเหมือนนึกขึ้นได้ ก่อนจะก้มตัวลงมาหอมแก้มคริสด้วยความเคยชิน ถึงตอนนี้คริสอดใจนั่งเฉยอยู่ต่อไปไม่ได้ เขาหอมแก้มหนุ่มน้อยกลับคืนและกระซิบเบาๆ

“บอกคุณแฟรงค์ อย่าขับรถเร็วล่ะ”

หญิงสาวรู้สึกสะท้อนใจเมื่อเห็นกิริยาที่ลูกชายปฏิบัติต่อเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์ ไมค์คงเห็นชายผู้นี้เหมือนพ่อ ก็เลยหลงรักและปฏิบัติต่อกันเช่นนี้

เป็นครั้งแรกที่คริสสบตากับหญิงสาวอย่างจริงจัง และคำถามเกริ่นนำของเขาทำให้เธอไม่กล้าหลบสายตาเขาอีก

“ผมว่าเรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีมั้ยครับ  ก่อนที่ผมจะมีคำถามบางคำถามเกี่ยวกับรูปใบนี้และแด๊ดดี้ของไมเคิล”



+ + fatherhood + +



คริสยืนกอดอกมองดูหนุ่มน้อยของเขานั่งขัดสมาธิบนเตียง สายตาจับจ้องอยู่ที่จอทีวีอย่างเอาจริงเอาจัง เขานึกขำกับอุปนิสัยการดูภาพยนตร์ฝรั่งของสมาชิกหนุ่มน้อยในบ้าน ภาพยนตร์ทุกเรื่องต้องเป็นซาวด์แทรคจึงจะได้อารมณ์สมจริง แต่กว่าจะรู้เรื่องต้องนั่งอ่านบรรยายใต้ภาพกันอย่างเอาจริงเอาจัง

ร่างเล็กสะดุ้ง จู่ๆ ทีวีก็ถูกปิดทั้งที่หนังกำลังมัน หันขวับไปข้างหลังก็พบคุณคริสยืนยิ้มให้อยู่ที่หัวเตียง

“ได้เวลานอนแล้ว ไมเคิล”

“เพิ่ง 3 ทุ่มเอง หนังยังไม่จบด้วย ขอผมดูจบก่อนนะครับ”

“ไม่ได้หรอก มานอนซะ เร็วๆ เข้า” คริสทรุดตัวลงบนเตียง

“แต่ผมยังไม่ง่วงนี่ครับ ผมอยากดูหนังให้จบก่อน เดี๋ยวผมเข้านอนเอง”

“หนังดูเมื่อไรก็ได้ ถึงเวลานอนก็ควรจะนอน”

คริสเอามือตบที่นอนข้างตัวเป็นความหมายให้หนุ่มน้อยขยับมานอนซะ

“ทีคุณบอยกับทิมไม่เห็นถูกบังคับเวลานอนเลย ทำไมต้องห้ามผมนอนเกิน 3 ทุ่มด้วย”

คริสส่ายหน้าเมื่อไมเคิลเริ่มต่อรองและเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

“บอยกับทิมไม่ได้เรียกฉันว่าแด๊ดดี้ เขาไม่อยู่ในฐานะที่ฉันต้องไปกำหนดเวลานอน ถ้าเธออยากจะเหมือนเขาก็ได้..”

คริสคว้ารีโมทเปิดทีวี   ร่างเล็กรีบคลานมานอนข้างๆ  กล่าวเอาใจเสียงหวาน

“ก็ได้ฮะ  นอนก็ได้ ชักง่วงแล้ว”   ไมค์ซุกตัวลงในผ้าห่มและขยับตัวลงนอนแต่โดยดี     “ปิดซีฮะ ผมไม่ดูแล้ว”

คริสซ่อนยิ้ม  กดรีโมทปิดทีวีและย้ำถามความต้องการของหนุ่มน้อยอีกครั้ง

“อยากจะเหมือนทิมมี่กับบอยหรือ ไมเคิล”

ไมค์รีบสั่นศีรษะทันที 

“ผมไม่ได้บอกว่าอยากเหมือนซะหน่อย แค่ถามเฉยๆ”

คริสเสยผมหนุ่มน้อยไปมา  การกระทำนี้ช่วยเร่งให้เกิดอาการอยากนอนหรือง่วงนอนเร็วขึ้นโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ   เด็กโตอย่างไมเคิลคงจะไม่ได้ผลแต่เขาก็อยากจะทำ

“มีใครเคยบอกมั้ยไมเคิล ว่าเธอเหมือนใคร พ่อหรือแม่”

เด็กชายขมวดคิ้ว  นิ่งคิดชั่วครู่ก่อนตอบ

“ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าผมเป็นลูกของแม่ แม่เคยหลอกคนอื่นว่าเก็บผมมาเลี้ยงพวกเขายังเชื่อเลย”

ไมเคิลบอกเล่าหน้าตาเฉย  ไม่รู้สึกอะไร   แต่คนที่รู้สึกกลับเป็นคริส

“ถ้าไม่เหมือนแม่ก็แปลว่าเหมือนพ่อใช่มั้ย” คริสแกล้งลองใจ ไม่แน่ใจว่าไมเคิลรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองเหมือนบิลผู้เป็นพ่อ

“ผมเคยเอารูปพ่อให้ใครๆ ดู พวกเขาก็ว่าผมไม่เหมือนพ่ออีก”

ไมค์ขยับไปที่หัวเตียงหยิบรูปถ่ายของคริสมาถือไว้

“คุณช่วยดูหน่อยซิครับ ว่าผมเหมือนพ่อตรงไหนมั้ย”

คริสมองรูปถ่ายตัวเองและหัวเราะ

“นี่มันรูปฉันนะไมเคิล ไม่ใช่บิล สมิทธ์”

“ก็เหมือนกันล่ะครับ ถ้าพ่อยังอยู่พ่อต้องมีหน้าตาแบบนี้  ถึงจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังหล่อสมาร์ทอยู่เลย”

สายตาหนุ่มน้อยจับจ้องที่รูปถ่ายของคริสและกล่าวชื่นชมพ่อด้วยความลืมตัวทำเอาคริสนิ่งอึ้งพูดไม่ออก   ไมค์รู้สึกตัวเมื่อเห็นคุณคริสนิ่งไป รีบวางรูปลงและกล่าวขอโทษ

“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

คริสยิ้มให้    “ขอโทษเรื่องอะไรไมเคิล คิดถึงพ่อไม่ใช่เรื่องผิด”

ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งสีหน้าสำนึกผิด

“แต่ผมนึกถึงบิล ทั้งๆ ที่ผมมีคุณแล้ว”

คริสรั้งหนุ่มน้อยเข้ามากอด   “ไม่เป็นไรหรอก นึกถึงบิลบ้างก็ดี เขาจะได้ไม่น้อยใจที่ลูกชายตัวเองไปรักคนอื่นเหมือนพ่อ”

“คนอื่นที่ไหนกันฮะ  คุณมีพระคุณกับผม ช่วยชีวิตผมไว้ และถ้าคุณไม่เหมือนบิล ผมก็ไม่รักคุณอย่างที่รักบิลหรอก คุณอยากเหมือนพ่อผมทำไม”

คริสจับศีรษะหนุ่มน้อยซุกกับอก เคยแปลกใจมาตลอดว่าบิลเหมือนเขามากขนาดไหนวันนี้เขาได้เห็นรูปถ่ายบิลกับตาตัวเอง  รู้แล้วว่าทำไมไมเคิลจึงรักและรู้สึกกับเขาอย่างพ่อจนบางครั้งเกือบจะเห็นเขาเป็นบิลเลย

“อยากรู้มั้ยไมเคิล ว่าเธอมีส่วนไหนเหมือนบิล”

ไมค์พยักหน้า เมื่อคริสบอกให้นอนลงก่อนเจ้าหนูก็ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย

“พร้อมหรือยังไมเคิล   ถ้าฉันแตะส่วนไหนของร่างกายเธอ  ก็ตรงนั้นแหล่ะเหมือนบิลมากที่สุด”

“พร้อมครับ” ไมค์ยิ้มเพราะจะได้รู้ซะทีว่าตัวเองมีอะไรเหมือนพ่อบ้าง

ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อถูกคุณคริสจับต้องส่วนที่เหมือนพ่อ   สองมือรีบปิดป้องและถอยออกห่าง
 
“ขี้โกงนี่  คุณคริสขี้โกง”

ร่างสูงใหญ่ขยับตามไปกอดรัดหนุ่มน้อยไว้

“ผิดที่เหรอ..  ถ้าตรงนี้ไม่เหมือนก็ไม่มีอะไรเหมือนแล้ว จับต้องเฉยๆ ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ต้องขอดูกับตาด้วยว่าเหมือนจริงหรือเปล่า”

“ไม่ได้นะ!!..  คุณเป็นพ่อบุญธรรมของผมนะ..”

“พ่อบุญธรรม ก็เหมือนแด๊ดน่ะแหล่ะ มีสิทธิจับต้องทุกส่วนของลูกได้ ขอแด๊ดดูหน่อยซิไมเคิล ไม่ต้องอายหรอกน่า..”

คริสปล้ำกอดหนุ่มน้อยด้วยความรักสุดหัวใจที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อนในชีวิตนี้...



++ F A T H E R H O O D ++



:laugh:  “เหลือเชื่อเลยคริส นี่หมายความว่าหน้าตาของบิลที่ไมเคิลจำฝังใจมาถึงทุกวันนี้ ที่จริงแล้วคือคุณงั้นเหรอ..”

คริสไม่ตอบ.. อย่าว่าแต่แฟรงค์เลยที่ไม่อยากเชื่อ แม้แต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าลินดาทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร

“เธอตกใจมากที่เห็นฉัน ไม่ใช่เพราะฉันเหมือนสามีของเธอ แต่เพราะฉันเหมือนชายในรูป เหมือนจนเกือบจะเป็นคนเดียวกัน”

คริสโยนรูปถ่ายเคลือบพลาสติคให้แฟรงค์ดู

“โอ! ให้ตายเถอะบิล นายเหมือนคุณคริสจริงๆ ว่ะ เหมือนราวกับฝาแฝดกันเลย มิน่าล่ะ! ลูกนายถึงหลงรักคริสหัวปักหัวปำ”

แฟรงค์กระเซ้าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เห็นแค่แว่บเดียวเขาก็รู้แล้วว่าชายในรูปถ่ายใบนี้คือคริส

“ไมเคิลเซ้าซี้เธอทุกวันว่าอยากเห็นหน้าพ่อ เธอเห็นรูปฉันในนิตยสารมีดวงตาสีเดียวกับบิล เลยบอกไมเคิลว่านี่คือรูปพ่อของเขา”

“เธอคบหานายบิลยังไง รูปถ่ายใบเดียวก็ไม่มี”

“หึ! จะมีได้ไงแฟรงค์ คบหากันแค่สองวัน เช้าวันที่สามพลทหารบิลก็หนีกลับขึ้นเรือรบหน้าหาดพัทยาแล้ว”

“อะไรนะ! นายบิลเป็นพลทหารอเมริกันยังงั้นเหรอ ให้ตายเถอะ! นี่เธอหลอกลูกชายให้หลงเชื่อว่าพ่อเป็นนักธุรกิจ แต่ที่แท้.. โอ! ไมเคิล..”

“เธอไม่อาจบอกความจริงเรื่องพ่อให้ไมเคิลฟังได้ เธอว่าไม่อยากให้ไมเคิลถูกล้อและเธอเองก็อาย ถ้าใครรู้ว่าผู้หญิงดีดีอย่างเธอทำตัวไม่ต่างจากผู้หญิงหากินหน้าชายหาด ฉันไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงฟรีเซ็กซ์อย่างเธอ ทำไมไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ ถ้าเธอรู้จักป้องกันก็คงไม่ต้องมาคิดหาวิธีหลอกลูกตัวเองแบบนี้”

แฟรงค์นิ่งอึ้งกับเรื่องที่ได้ยิน มิน่าล่ะ! คริสกับไมเคิลจึงมีจิตผูกพันกันได้ เจ้าหนูคงเรียกหาพ่อและนึกถึงใบหน้าของคริสมาตั้งแต่เด็กๆ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นบนเกาะทำให้จิตของหนุ่มน้อยส่งถึงคริส เรียกคริสไปช่วยจนได้ เหลือเชื่อจริงๆ…

“แล้วเรื่องไมเคิล เธอว่ายังไง จะพาลูกกลับไปอยู่ด้วยหรือเปล่า”

“ไม่รู้ซี.. ฉันไม่ได้ถาม ให้ไมเคิลตัดสินใจเอง เขาอยากอยู่ที่นี่หรืออยากกลับไปอยู่กับแม่ก็แล้วแต่ใจ…”

“แล้วแต่ใจใคร? ไมเคิลหรือแม่ ฟังนะคริส.. ถึงไมเคิลอยากอยู่กับคุณถ้าเธอไม่อนุญาตไมเคิลก็ทำตามที่ใจตัวเองต้องการไม่ได้ ผมว่าคุณควรเป็นคนพูดกับเธอเรื่องนี้ไม่ใช่ไมเคิล บอกเธอว่าคุณรักเด็ก  ต้องการรับเด็กเป็นลูกบุญธรรม  เธอคงยินดีและไม่ขัดข้องเพราะคุณเองก็ถูกเธอเลือกให้เป็นตัวแทนพ่อของไมค์อยู่แล้ว รีบพูดก่อนที่เธอจะเอ่ยปากขอลูกกลับไปดูแลเองเพราะความเกรงใจ”

คริสนิ่งอึ้ง ....ถ้าลินดาต้องการลูกกลับไปอยู่ด้วยจริงๆ เขาจะทำอะไรได้ แค่ลองคิดก็ใจหายแล้ว....




:serius2:


TBC>>>>



ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #87 เมื่อ05-09-2008 11:51:52 »

 :serius2: อย่ายอมน้าาแด๊ดคริส  แม่ไม่ไหวเลยอ่ะ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #88 เมื่อ05-09-2008 12:43:06 »


โฉมหน้า  คริส บริเจคส์   ในอิมเมจของเจ๊หมวย 





:oni2: เจ๊หมวยขอใช้สิทธิ์ในฐานะผู้เขียน  ใครเห็นด้วยช่วยกรี๊ดดดดด~~~~
 
:o  ใครไม่เห็นด้วยอย่าขัดคอนะ   

:o8:  เจ๊ชอบ Alec Baldwin  มาก  สมัยยังหนุ่ม โค ตะ ระ หล่ออออออ มากกกกกกกก  แต่ตอนนี้บวมอืดซะแล้ว เฮ้อ  :เฮ้อ:  แต่ถึงจะฉุก็ยังชอบอยู่   จึงขอใช้สิทธ์ในฐานะผู้เขียนเลือกตัวแสดงที่ตัวเองชอบ ฮ่ะ ฮ่า~~  : :laugh:









:oni2:   :oni2:

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #89 เมื่อ05-09-2008 13:00:05 »

กริ๊ดดดดค่าา :oni1: :oni1: :oni1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด