บทที่ 25 เอาอกเอาใจ
ตื่นเช้ามาก็ไอ้มิ่งก็ไม่เจอพี่แจ่มแล้ว เมื่อคืนพี่แจ่มแทบจะไม่ปล่อยให้มันได้ลงจากเตียงเลย จะมีก็แค่พักกินน้ำกินท่า อาบน้ำอาบท่า ประเดี๋ยวก็หันกลับมากัดมามาจับมันทำลูกต่ออีกหลายต่อหลายยก
ไอ้มิ่งก็ไอ้มิ่งเถอะ ระบมไปทั้งตัว จะเรียกว่าคลานลงจากเตียงก็ว่าได้ ตูดระบม เอวเคล็ด ทั้งตัวมีแต่รอยฟันกัดเป็นจ้ำๆ มองดูตัวเองในกระจกก็แทบจะหาที่เว้นว่างที่พี่แจ่มไม่ได้ทิ้งรอยกัดไม่ได้เลย
“อูยยยย ซี๊ดดด”ซี๊ดปากเบาๆพลางก้าวลงบันไดบ้าน
มือหนึ่งจับราวบันไดพยุงตัวอีกมือก็จับบั้นเอวเอา ท้องส่งเสียงร้องจ๊อกๆหิวข้าวเพราะไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อเย็นวาน
มันเองก็นึกว่าพี่แจ่มจะหายโกรธแล้วมาเร้าหรือมันแต่เช้าก่อนออกไปทำงานเหมือนทุกวัน แต่วันนี้กลับออกไปทำงานไม่บอกไม่กล่าวเอาดื้อๆ เห็นทีว่าคงยังไม่หายโกรธกันเป็นแน่ คิดแล้วก็ปวดใจ นี่มันลงทุนง้อไปหลายกระบวนท่าจนตูดระบมเอวเคล็ดขนาดนี้แล้ว ใจคอจะไม่หายเคืองกันจริงๆเหรอวะ
“ตื่นแล้วหรือคะพี่มิ่ง”ลงมาก็เจอน้องจันทร์เจ้านางฟ้าแสนดีเดินผ่านมาพอดี
“ตื่นแล้วจ้ะ…ว่าแต่ไอ้แจ่มออกไปแล้วเหรอจ๊ะน้องจันทร์”ถามไถ่เผื่อว่าจะทันเจอพี่แจ่มกินกาแฟในห้องกินข้าว
“พี่แจ่มออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอจ๊ะ”พยักหน้าเบาๆ
ตาหลุบมองพื้นบ้านปูหินอ่อน ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยว่าทำหน้าเสียอกเสียดายที่มาไม่ทัน แต่เสียงแหลมเล็กก็ร้องเรียกให้หันไปมอง
“แม่มิ่งงงงงงงงงงงงงงงง”
หันไปมองก็เห็นว่าน้องจี๊ดตัวดีวิ่งรี่ออกมาจากห้องนั่งเล่นทันทีที่เห็นมัน ตัวเล็กๆวิ่งดุ๊กดิ๊กมากระโดดโถมตัวเกาะหมับเข้าที่ขา
“อูยยย”
แต่ก็นั่นแหละ แค่น้ำหนักที่โถมมาก็ทำเอาคนบอบช้ำไปทั้งตัวอย่างมันร้องอูยออกมา มือตะปบเข้าที่บั้นเอวสอบอีกมือก็จับหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนปรามเอาไว้ไม่ให้ซนไปมากกว่านี้
“เมื่อวานแม่มิ่งไปไหนมาคับ น้องจี๊ดหาแม่มิ่งไม่เจอ เมื่อวานแม่มิ่งแอบไปเที่ยวกับพ่อแจ่มมาใช่ไหมคับ”เงยหน้าขึ้นมาทำแก้มป่องถามตาแป๋ว
“เอ่อ…”จะว่ายังไงดีล่ะ ไอ้มิ่งก็ไม่อยากจะโกหกเด็กเสียด้วยสิ ครั้นจะบอกความจริงก็กลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ป่านนี้ก็คงจะรู้กันทั้งบ้านแล้วมั้ง
“แม่มิ่งของน้องจี๊ดไม่ได้ไปเที่ยวค่ะ แม่มิ่งของน้องจี๊ดไปธุระนะคะ”น้องจันทร์แสนดีช่วยพูดแทนไอ้มิ่งอีกตามเคยเมื่อเห็นว่าไอ้มิ่งอึกอักคิดคำตอบไม่ทัน
“ธุระเหรอครับ อื้อออ”พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ หัวก็ถูไถขาไอ้มิ่งเบาๆ
โคร่กกกกก
อับอายขายขี้หน้าประชาชีไหมล่ะเมื่อท้องไม่รักดีจู่ๆก็ส่งเสียงร้องดังสนั่น น้องจันทร์เจ้าพอได้ยินก็หัวเราะคิดคักชอบอกชอบใจ ส่วนน้องจี๊ดตัวดีก็ทำหน้าทำตาตื่นเต้น ตากลมๆเบิกกว้างมองมาที่ท้องของไอ้มิ่ง
“แม่มิ่งๆ น้องร้อง แม่มิ่งมีน้องแล้วคับ”นิ้วป้อมๆจิ้มมาที่ท้องของมัน
“ไม่ใช่น้องแต่ร้องร้องหิวข้าวต่างหากเล่า”ไอ้มิ่งรีบแก้ต่าง
“ว๊า น้องจี๊ดนึกว่าแม่มิ่งมีน้องให้น้องจี๊ด เสียดายจัง”
แล้วดูทำท่าทำทาง ทำท่าเสียอกเสียดาย ทำหน้ามุ่ยแก้มป่อง มือก็ยังเกาะขามันไม่เลิก สงสัยจะกลัวมันหายไปไหนเหมือนเมื่อวาน
“คิกๆ น้องจันทร์ว่าพี่มิ่งไปที่ครัวได้แล้วนะคะ แม่บ้านจะได้หาอะไรให้กิน”น้องจันทร์บอกพลางหัวเราะ
“แหะๆ พี่มิ่งก็ว่าจะไปอยู่จ้ะ ว่าแต่…”
“ว่าแต่อะไรหรือคะ?”
“วันนี้น้องจันทร์ว่างไหมจ๊ะ”
“วันนี้น้องจันทร์ไม่ได้ออกไปไหนค่ะ พี่มิ่งมีอะไรหรือคะ”ยิ้มตอบพลางเลิกคิ้วถามท่าทางน่ารัก
“น้องจันทร์ช่วยไปเป็นเพื่อนพี่มิ่งหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
“ได้สิคะ ถ้าไปกับน้องจันทร์ล่ะก็ไม่มีปัญหา สบายใจได้หายห่วงค่ะ”ชูนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทำท่าเยี่ยม
“น้องจี๊ดไปด้วยคับ ให้น้องจี๊ดไปด้วยนะ น้องจี๊ดอยากไปด้วย ไปเที่ยวกับแม่มิ่ง”มือป้อมกระตุกชายเสื้อเบาๆให้ก้มลงไปมอง
“ไม่ได้ค่ะ อย่าลืมสิคะว่าวันนี้น้องจี๊ดต้องเรียนเอบีซีกับคุณครู”น้องจันทร์ก้มลงไปทำหน้าดุพลางชี้นิ้วบอก
“แต่ว่า…น้องจี๊ดอยากไปกับแม่มิ่งกับคุณอาจันทร์”
“เป็นลูกผู้ชายมันก็ต้องเรียนหนังสือสิวะ จะได้ฉลาดๆไม่โง่เหมือนควาย”
“งื้อออ น้องจี๊ดไม่อยากเป็นเหมือนพี่เหม็น”ส่ายหน้าพูดถึงควายที่ไอ้มิ่งเคยเล่าให้ฟัง
“งั้นก็ต้องตั้งใจเรียน เดี๋ยววันนี้ซื้อของเล่นกับขนมมาฝาก ตกลงไหม”ก้มลงไปบอกก่อนจะใช้มือยีผมนุ่มๆให้ฟูฟ่อง
“อื้อ ก็ได้คับ น้องจี๊ดตั้งใจเรียน”
“ดีมาก”
พอถูกชมก็ยิ้มอวดฟันน้ำนมจนเหงือกบานส่ายหัวรับกับมือที่กำลังยีผมอย่างหมั่นเขี้ยว น่ารักน่าชังขนาดนี้แถมยังพูดอะไรก็เชื่อฟังอีก เป็นใครเล่าจะไม่หลง
-----------------------------------------------------------------------
ตกดึกเสียงเรไรในสวนนอกบ้านส่งเสียงร้องกันเจี๊ยวจ๊าว ทว่าใครดึกป่านนี้แล้วใครบางคนยังไม่ได้กลับบ้านเลย คนรอก็รอไปเถอะ เดินวนไปวนมาชะเง้อมองนอกหน้าต่างมองประตูบ้านว่าเมื่อไรจะเปิดเมื่อไรจะมีรถแล่นเข้ามา แต่จนแล้วจนก็กลับเงียบกริบ นั่งก็แล้ว เดินก็แล้ว หันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ก็ส่งเสียงร้องบอกเวลาเที่ยวคืนพอดี ทีวีที่เปิดทิ้งเอาไว้ไม่รู้เลยว่าฉายรายการอะไรเพราะใจก็มัวแต่จดจ่อรอคนที่ยังไม่กลับบ้าน
“ห้าววววว”อ้าปากกว้างหาววอดแล้ววอดอีก ตากลมปรือปรอยจะหลับแหล่มิหลับแหล่
ทว่าเสียงประตูบ้านเปิดกับเสียงรถที่แล่นเข้ามาก็ทำให้มันสะดุ้ง ตาเบิกโพล่งด้วยความตื่นเต้น ใจเต้นโครมครามแทบจะหลุดออกมานอกอก พอตั้งตัวได้ก็เดินรี่ไปยืนรอที่ประตูโถงหน้าบ้านกะจะทำให้แปลกใจถ้าว่าเปิดประตูเข้าบ้านมาแล้วเจอมัน
พี่แจ่มจะแปลกใจไหมวะถ้าเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วเจอมันยืนรออยู่ หรือว่าจะตกใจแล้วคิดว่าโดนผีหลอก แค่คิดก็ตื่นเต้น ว่าแต่ว่าพี่แจ่มจะหายโกรธมันรึยัง ใช่ว่าจะยังโกรธไม่หายล่ะ แต่ก็ช่างเถอะ ถ้าพี่แจ่มรู้ว่ามันเตรียมอะไรไว้ให้ล่ะก็ กลับมาพูดกับมันเหมือนเดิมแน่ ไอ้มิ่งรับรอง
“น้องมิ่ง”
ไม่รอช้าประตูก็เปิดออก พี่แจ่มดูออกจะแปลกใจไม่น้อยที่เปิดประตูบ้านเข้ามาก็เห็นว่าไอ้มิ่งยืนยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียวหน้าประตู
“กลับมาแล้วเหรอวะ”ไอ้มิ่งทักทาย
“ดึกมากแล้ว ทำไมยังไม่นอนล่ะครับ”บอกก่อนก้มลงไปจะถอดรองเท้าหนังราคาแพงวางบนชั้น
“กูก็รอมึงไง”
“รอพี่แจ่ม?...คราวหลังไม่ต้องรอนะครับ น้องมิ่งนอนก่อนเลย”บอกเหมือนจะเป็นห่วง แต่น้ำเสียงกลับเรียบนิ่ง ไม่ยิ้มแถมไม่มองหน้าไอ้มิ่งอีก อย่างนี้ยังไม่หายเคืองมันแน่นอน ไอ้มิ่งรับประกัน
“กูยังไม่ง่วงเลย มานี่สิ กูมีอะไรจะให้”
พูดจบก็คว้าแขนพี่แจ่มออกแรงดึงให้เดินตามเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่มันเปิดทีวีทิ้งไว้
“อะไรครับ”
“มึงกินข้าวมารึยัง หิวไหม กูทำเนื้อย่างเอาไว้รอมึงกลับมาเลยนะ วันนั้นมึงบอกว่าอยากกินฝีมือกูนี่”
พอมาถึงก็อวดจานเนื้อย่างที่เย็นชืดหมดแล้ว มันดันพี่แจ่มให้นั่งลงที่โซฟา จัดแจงใช้ส้อมจิ้มชิ้นเนื้อย่างแล้วจิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดเอาไปจ่อที่ปากพี่แจ่ม
“พี่แจ่มทานข้าวมาจากข้างน้องแล้วครับ”ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ก็อ้าปากรับชิ้นเนื้อแล้วเคี้ยวก่อนจะกลืนลงคอ
“เป็นไง อร่อยสู้ร้านหรูๆที่มึงพากูไปกินได้ไหมวะ”
ถามท่าทางตื่นเต้น ตาก็จ้องมองหน้าหล่อๆรอคำตอบใจจดจ่อ
“อร่อยครับ”พยักหน้าเบาๆ เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำเย็นที่หายเย็นแล้วมาดื่มล้างปาก
“เห็นไหมกูบอกแล้วว่าฝีมือกูอร่อยเหาะ นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวทำคนอื่นร้านเจ๊งกูเปิดร้านไปแล้ว”
ขี้โม้ล่ะที่หนึ่ง แต่คนฟังก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะอารมณ์ดีตอบมันเลย สงสัยถึงเวลาที่มันจะต้องใช้ไม้เด็ดเสียแล้วสิ
“ไปนอนได้แล้วครับ ดึกแล้ว”บอกพลางทำท่าจะลุกขึ้น
“เดี๋ยวสิ รอก่อนสิวะ จะรีบไปไหนเล่า อย่าพึ่งไปไหน หลับตาก่อน”
“หลับตาทำไมครับ”
“เออน่าหลับตาแล้วก็หันมาทางนี้ด้วย หลับตาเร็ว ยื่นมามาด้วย ห้ามแอบดูนะโว้ย”
หน่อยตัวลงนั่งข้างๆจัดแจงให้พี่แจ่มนั่งเอี้ยวตัวเข้า นั่งเสร็จก็เอื้อมมือไปดึงมือพี่แจ่มมาวางไว้ที่หน้าขาของมันเอง ปากก็ฉีกยิ้มตื่นเต้นเสียเอง พอแน่ใจดีว่าพี่แจ่มหลับตาแล้วถึงได้ล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงนอนตัวใหม่ที่พี่แจ่มซื้อให้แล้วล้วงกล่องกำมะหยี่ออกมาเปิดฝากล่องออก
พอเปิดกล่องออกโลหะมันวับสะท้อนต้องกับแสงไฟระยิบระยับ มันไม่รอช้าหยิบจับสิ่งที่อยู่ข้างในกล่องไปใส่เข้าที่ข้อมือของใครอีกคนที่กำลังหลับตาอยู่
“คราวนี้ก็ลืมตาได้”
“นาฬิกา?”ลืมตาขึ้นมาได้ พอเห็นนาฬิกาก็เลิกคิ้วถาม
“ก็เออไง นาฬิกา มึงเห็นว่าเป็นสายสิญจน์รึไง เป็นไงล่ะ สวยล่ะสิ”ทำท่ากอดอกภูมิอกภูมิใจ
“น้องมิ่งให้พี่แจ่มเหรอครับ”
“ก็ให้มึงสิวะ ไม่ให้มึงแล้วจะให้กูให้ใครล่ะ”
“น้องมิ่งเอาเงินที่ไหนไปซื้อครับ”หันมาถามท่าทางแปลกใจ
“ก็ตังค์ค่าที่กูไปถ่ายรูปมาไง นี่กูลงทุนหาตังค์มาซื้อของขวัญครบรอบแต่งงานมาให้มึงเลยนะ ถึงมึงจะมีแล้วหลายเรือนก็เถอะ กูไม่รู้จะซื้ออะไรให้มึงดีก็เลยซื้อนาฬิกาให้มึงบ้าง กูหาเรือนที่มันเหมือนกันไม่เจอ หาได้แค่ที่มันคล้ายๆกัน ที่กูให้นาฬิกามึงนี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ กูแค่อยากให้มึงใส่นาฬิกาที่กูให้ มึงจะได้มองนาฬิกาแล้วนึกถึงหน้ากู จะได้กลับบ้านกลับช่องเร็วๆไม่ปล่อยให้กูรอกินข้าวเย็นนานๆ ทีนี้ก็หายงอนแล้วพูดกับกูได้แล้ว งอนเป็นผู้หญิงไปได้”
นี่ไอ้มิ่งไม่ได้กระดากอายหรือเขินอะไรเลยจริงๆนะ ที่พูดไปยาวยืดก็แค่อยากจะพูดทีเดียวจบ จะได้ไม่ต่อความยาวสาวความยืดเพราะมันดึกแล้ว ก็แค่นั้นเอ๊ง ไม่ได้หลบตาหนีหรือใจเต้นเพราะรอยยิ้มคุณชายที่กลับมาแปะอยู่บนหน้าของพี่แจ่มเลย ไม่เลยจริงๆ
“ที่น้องมิ่งแอบพี่แจ่มออกไปโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวเพราะจะซื้อนาฬิกาให้พี่แจ่มเหรอครับ”ถามย้ำ ริมฝีปากยกยิ้มอวดฟันเรียงซี่สวย
“ก็เออน่ะสิ ถึงไม่แพงเท่าที่มึงซื้อให้แต่กูก็หมดตังค์เลยนะ ซื้อของเล่นให้ไอ้จี๊ดก็หมดตังค์พอดี ละ แล้วมึงชอบไหมล่ะ”
“ชอบสิ พี่แจ่มชอบมากเลยครับ”
กลับมายิ้มกลับมาพูดเสียงนุ่มหูมันก็ดีอยู่หรอก แต่มันจะดีกว่านี้ถ้ามือมันจะอยู่นิ่งๆไม่เอื้อมมาเกี่ยวเอวมันแล้วรั้งเข้าไปกอด และจะดีกว่านี้ถ้าไม่ออกแรงผลักให้ไอ้มิ่งล้มลงไปนอนหงายบนโซฟาแล้วขึ้นมาคร่อมทับเสีย พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดขึ้นมาบนริมฝีปาก
งานเข้าอีกแล้วไหมล่ะไอ้มิ่ง!!
“ดะ เดี๋ยวสิวะไอ้แจ่ม”ยกมือขึ้นยันอกกว้างเอาไว้
แต่ก็เท่านั้นเมื่อจมูกโด่งก้มลงซุกแก้มมันก่อนจะหายใจเข้าปอดไปฟอดใหญ่ มือไม้ช่างอยู่ไม่สุดเอาเสียเลย ทั้งลูบทั้งคลำไปทั่ว
“ครับ”ถึงปากจะตอบรับ แต่ก็ยังไม่หยุดจู่โจม
“นี่มันห้องนั่งเล่นนะโว้ย จะ ใจเย็นสิวะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”
“ดึกแล้ว ไม่มีใครมาเห็นหรอกครับ”
เคยฟังที่มันพูดเสียที่ไหนเล่า กว่าจะได้ขึ้นห้องนอนก็เผลอทำลูกกันที่ห้องรับแขกไปแล้ว มันก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครผ่านมาเห็นเข้า ไม่งั้นคงจะอายไปทั้งชาติแน่ แต่จะว่าก็ว่าเถอะ แล้วคืนนี้มันจะได้นอนไหมล่ะเนี่ย
-----------------------------------------------------------------------------------
ไม่ได้นอนจริงๆด้วย แดดอ่อนๆส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาแล้ว ผ้าม่าโปร่งแสงขยับไหวไปมา ไม่รู้ว่าขยับเพราะลมหรือขยับเพราะแรงกระแทกของพี่แจ่มกันแน่
“อะ อือ อะ บะ เบาๆหน่อยสิ กะ กูไม่ไหวแล้วนะ”
ไอ้มิ่งบอกเสียงเครือซุกหน้าลงกับหมอน ก้นกระดกขึ้นตามแรงมือที่จับเอวเอาไว้ เท่าชันกับที่นอน มือขยุ้มหมอนแน่นเมื่อพี่แจ่มไม่แค่ไม่ยอมทำตามที่มันร้องขอแต่กลับเสือกมังกรยักษ์ตัวใหญ่แถมใส่มุกเข้ามาลึกกว่าเก่า คราวนี้ทั้งสั่นทั้งสะดุ้ง ปลายเท้าจิกทึ้งผ้าปูที่นอนชื้นเหงื่อจนยับยู่ยี่
“อืม”คนที่ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยส่งเสียงครางในลำคอพึงพอใจ
“อะ อ๊ะ ระ รอบนี้พอแล้วนะ ไม่ อะ เอาแล้ว ซี๊ดดด”
บอกเสียงกระท่อนกระแท่น ได้ยินเสียงเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดสลับกับเสียงครางเครือในลำคอ สะดุ้งตัวโยนเมื่อหนอนด้วงตัวน้อยกำลังถูกมือใหญ่รังแกอีกแล้ว ไม่รู้ว่าถูกรังแกจนร้องไห้น้ำตาแตกไปแล้วกี่รอบต่อกี่รอบ หัวแดงๆน้ำตาปริ่มผงกหัวหงึกๆจวนเจียนจะร้องไห้อีกระรอกเต็มทน
“ก็ได้ครับ”ก้มลงมากระซิบตอบรับเสียงพร่าจากทางด้านหลัง
หน้าท้องแข็งแรงแนบชิดกับแผ่นหลังของมันทั้งที่บั้นเอวยังคงขยับไม่มียั้งแรง ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน มือก็ยังคงเขย่ารังแกหนอนด้วงตัวน้อยของมันไม่หยุดหย่อน ยิ่งออกแรงเร่งมือหนักน้ำตาก็ยิ่มปริ่มจวนจะแตกเต็มทน
“คราวที่แล้ว มะ มึงก็พูด อะ แบบนี้”
รับปากว่ารอบสุดท้าย พอจะนอนให้หายเหนื่อยสักพักก็หันมาสะกิดยิกๆ จบที่ต่อรับยิ่งกว่าซื้อตั๋วรำวงงานวัดเสียอีก
“หึหึ”
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย อะ อื้อ ไอ้แจ่ม ช้าๆสิ กูบอกให้ อะ อื้ออออ”
ไม่ทันเสียแล้ว เม็ดมุกสี่ห้าเม็ดเสียดสีข้างในเข้ามาลึกครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำหนอนด้วงตัวน้อยยังถูกรังแกหนักมือเสียจนทนไม่ไหวร้องไห้น้ำตาแตกออกมาเปรอะเลอะเตียง มันเอื้อมมือสั่นๆไปเกาะเสาเตียงแน่นทั้งที่ตัวคลอน ตัวสั่นเกร็งปากขบเข้าหากันแน่น ลมหายใจพรูเข้าออกถี่ๆหอบจนตัวโยน
“หึหึ”เสียงเหาะเราะเจ้าเล่ห์ดังมาจากข้างหลัง
มือใหญ่ที่รั้งเอวมันเอาไว้ยังคงรั้งไม่ยอมปล่อย ยังคงเสือกมังกรยักษ์เข้ามาลึกและเน้นหนักกว่าเดิม
ตายแน่ ไอ้มิ่งต้องตายเพราะพี่แจ่มเข้าสักวันแน่ แรงดีไม่มีตกเลยจริงๆ
นานพอดูกว่าพี่แจ่มจะขยับเน้นย้ำถี่เร็วกว่าเดิม ก่อนที่มังกรยักษ์ตัวดีจะแผลงฤทธิ์เดชด้วยการพ่นพิษเข้ามาในตัวมันให้ท้องน้อยรู้สึกร้อนวูบวาบอีกรอบ
ตัวใหญ่กว่าโถมน้ำหนักตัวลงมาทับมันเต็มแรงทั้งที่ยังคงไม่ยอมดึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกไปจากเมืองของมัน
“แฮ่กๆ เอาออกไปได้แล้ว กูง่วงนอน อยากอาบน้ำนอนแล้ว”เอียงคอหันมาบอกทั้งที่หอบ
“พี่แจ่มขออีกรอบนะครับ”ไม่ยอมถอนออกซ้ำยังกระซิบบอกคำต้องห้ามอีก
“ห่ะ!! มะ มึงว่าอะไรนะ”
แทบจะไม่เชื่อหูก็เลยหันไปถามเสียงดัง
“หึหึ พี่แจ่มล้อเล่นครับ”
ยังมีหน้าจะมาหัวเราะอีก มันใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นไหมล่ะนั่น ขืนทำลูกกันอีกสักรอบสองรอบได้มีสลบกลางคันแน่
-------------------------------------------------
บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่คนทำไร่ทำนาอย่างไอ้มิ่งมีแย่แน่เมื่อเจอพี่แจ่มทำลูกถี่แบบนี้ ฮ่าๆ ง้อเพลียแต่ทะที เล่นเอาเคล็ดขัดยอกชอกช้ำไปทั้งร่าง แต่ก็นะ ถึงกับให้นาฬิกาจะได้ให้มองนาฬิกาแล้วนึกถึงหน้ามันแล้วกลับบ้านมาหามันไวๆนี่ก็กระไรอยู่นะ
ไปๆๆ กลับบ้านดอนไฟไหม้กันดีกว่าเนอะ