บทที่ 6 สนามหญ้าหลังบ้าน
ผ้าปูที่นอนสีขาวเนื้อผ้านุ่มลื่นมือไม่รู้ว่าราคาจะแพงไหม แต่ไอ้มิ่งไม่สนหรอก เพราะไอ้มิ่งจัดการฉีกผ้าปูที่นอนเป็นสอง
ส่วนแล้วเอามามัดกับราวระเบียงเป็นที่เรียบร้อย
“ฝันไปเถอะว่ากูจะอยู่รอมึงมาแกล้งกูน่ะ หึหึ”
พูดกับตัวเองพลางยิ้มย่อมกระหย่องใจ ขาก็พลางก้าวลงจากระเบียงแล้วค่อยๆหย่อนตัวลงมาเงียบๆ ดีที่ห้องพี่แจ่มอยู่
คนละฝั่งกับที่จัดงานเลี้ยง ไม่อย่างงั้นคงจะมีคนผ่านมาเห็นมันกำลังทำท่าทำทางอย่างกับหัวขโมยย่องเข้ามาขโมยของในบ้าน
ไม่ผิดเพี้ยน แต่มันคงจะลืมไปแล้วว่าตัวมันน่ะกำลังเมายาดอง
ปึ๊ด!!
“ฮะ เฮ้ย!! ยะ อย่าเพิ่งหลุดนะโว้ยยยย รอกูลงไปถึงพื้นก่อนนน”
ปมที่คิดว่ามันเอาไว้แน่นจู่ๆก็คลายออกออกดังปึ๊ด ตาดำๆเบิกกว้างเท่าไข่ห่านเงยขึ้นไปมองปมผ้าปูที่นอนที่กำลังคลาย
ออกทีก่อนจะก้มมองพื้นข้างล่าง งานเข้าแล้วไหมล่ะไอ้มิ่ง!! ถึงระเบียงชั้นสองกับพื้นจะไม่สูงมากก็เถอะ แต่ถ้าตกลงไปไอ้มิ่งมี
เจ็บหนักแน่ นี่ก็ครึ่งทางแล้ว จะให้ปีนกลับไปก็ใช่เรื่อง แต่จะปีนลงไปก็ไม่ทันแน่ มัวแต่คิดหน้าคิดหลัง ไม่ทันเสียแล้วเมื่อปม
หลวมๆปมสุดท้ายของผ้าปูที่นอนค่อยๆคลายออก
ปึ๊ด!!
“อ๊ากกกกก!!”
ไอ้มิ่งร้องจ๊าก ร่วงหล่นลงมาจากระเบียงชั้นสอง ไม่แขนหักขาหักก็เคล็ดขัดยอกแหละวะ ไอ้มิ่งหลับตาปี๋ เตรียมตัวรับแรง
กระแทกเต็มที่ งานนี้มันได้อายไปสามบ้านแปดบ้านแน่ ข้อหาปีนระเบียงหนีเจ้าสาวตั้งแต่คืนแรกของวันแต่งงาน
ตุ๊บ!!
แต่จะว่าไป พื้นหญ้าหลังบ้านพี่แจ่มเนี่ยนิ๊มนิ่ม ไอ้มิ่งตกลงมาแล้วไม่เจ็บสักแอะ แถมหอมอีกต่างหาก ไอ้มิ่งเลยเผลอซุก
หน้ากับหญ้านุ่มๆแล้วลองดมดูว่ากลิ่นหอมๆที่มันคุ้นๆมันเหมือนกับกลิ่นอะไร จะว่าไปกลิ่นก็เหมือนกับ….
“พี่แจ่มบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้เกเร”
พี่แจ่ม!! ชิบหายแล้วไหมล่ะ!! ก็ถึงว่าตกลงมาแล้วทำไมไม่เจ็บ อะไรมันจะพอดิบพอดีปานนั้น ไอ้มิ่งตกลงมาสู่อ้อมอกพี่
แจ่มอย่างพอดิบพอดี แถมตอนนี้มันก็กำลังซุกหน้าลงกับอกขาวๆล่ำๆของพี่แจ่มอีกต่างหาก กลายเป็นว่าไอ้มิ่งกำลังคร่อมทับพี่
แจ่มอยู่บนสนามหญ้าหลังบ้านของป้ามาในคืนแรกของวันแต่งงานไปเสียแล้ว ใครมาเห็นเข้าคงเข้าใจผิดคิดว่ามันกำลังจัดหนัก
กับพี่แจ่มนอกสถานที่แน่ ก็แหม แต่ละคนนุ่งแค่โจงกระเบน ท่อนบนไม่ใส่อะไรเลยแบบนี้
“อะ อะ ไอ้แจ่ม มะ มึงมาได้ไง”
“จะไปไหนครับ”
“กู…จะกลับไปนอนบ้าน”เล่นถามมาเสียงเย็นขนาดนั้น เลยตอบไปเสียงขาดๆหายๆ ตาก็เสหลบไปมองทางอื่น
ถึงจะมืดแต่ไอ้มิ่งก็เห็นว่าพี่แจ่มกำลังมองมันอยู่ แล้วสายตาที่มองมันอยู่ก็เล่นทำเอาไว้กล้าสบตากลับ ปกติพี่แจ่มจะมอง
มันด้วยสายตาหวานเยิ้ม แต่ตอนนี้กลับมองมันด้วยสายตาไม่พอใจ ทำเอาไอ้มิ่งอดกลัวขึ้นมาไม่ได้ว่าพี่แจ่มจะโกรธมัน แต่จะว่า
ไปถึงพี่แจ่มจะโกรธแต่ไอ้มิ่งไม่เห็นจะต้องสนใจเลยนี่หว่า ถ้าไม่พอใจนักก็เลิกกันไปเลย ไอ้มิ่งจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดมากที่ได้พี่
แจ่มมาเป็นเมียแทนที่จะได้สาวตัวเล็กๆอย่างน้องจันทร์เจ้ามาเป็นเมียแทนน่ะ
“อยากกลับบ้านทำไมไม่บอกพี่แจ่ม”
“อย่างกับว่ากูบอกแล้วมึงจะให้กูกลับอย่างงั้นแหละ”ไอ้มิ่งประชดประชัน ขืนตัวจะลุกขึ้นจากตัวพี่แจ่ม แต่ก็ลุกไม่ได้เพราะ
เอวถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยแถมยังบังคับกดให้นั่งเอาไว้อย่างกับบังคับให้ตอบคำถามอยู่กลายๆ
“ถ้าขอพี่แจ่มดีดีพี่แจ่มก็ให้กลับครับ รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันอันตราย ถ้าพี่แจ่มมาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้ทำอะไร
ไม่คิดแบบนี้ล่ะ”
“นั่นมันก็เรื่องของกูน่า มึงน่ะเป็นแค่เมียก็อยู่ส่วนเมียสิ ใครขอให้มึงมารับกูล่ะ ว่าว่างมากก็เอาเวลาไป อะ อื้ออออ!!”
จะปล่อยให้มันพูดประชดให้จบประโชคก่อนก็ไม่ได้ สองมือของพี่แจ่มปล่อยออกจากเอวของไอ้มิ่งมาตะปบหน้าแล้วดึง
เข้าไปหาก่อนที่ริมฝีปากของพี่แจ่มจะกระแทกลงมาปิด เรียกว่ากระแทกน่ะไม่ผิดหรอก เพราะไอ้มิ่งรู้สึกได้ถึงว่าพี่แจ่มจูบปากมัน
แรง แรงจนมันไม่ทันได้ทันตั้งตัว แถมริมฝีปากของมันยังรู้สึกเปียกๆเหมือนว่าพี่แจ่มกำลังเลียปากมันอยู่ยังไงยังงั้น จะหันหนีก็
ไม่ได้เพราะหน้าถูกจับเอาไว้ไม่ให้หันไปทางอื่นนอกจากรับจูบของพี่แจ่มไปเต็มๆ
“อื้อ อ่อย อู๊!!”ร้องบอกเสียงอู้อี้ ใช้มือทุบไหล่พี่แจ่มไปหลายต่อหลายที
ไม่รู้ว่าหนังพี่แจ่มมันหนาหรืออะไรอะไรกันแน่ นอกจากไม่สะเทือนแล้วยังจัดกับพลิกจากข้างล่างขึ้นมาคร่อมทับข้างบน
แทน แต่ก็ยังดีที่ถอนจูบออกไปแล้วพักให้ไอ้มิ่งได้หายใจหายคอหน่อย แต่มันก็ยังตกอกตกใจอยู่ดีที่พี่แจ่มจู่ๆก็มาจูบมัน
“มึง…ทำอะไรของมึงวะ!! ถอยออกไปเลย!!”ถามเสียงแข็งพลางยกมือขึ้นมาเช็ดปากเช็ดจมูก เงยหน้ามองตาขวาง
“เปิดปากหน่อยสิ พี่แจ่มขอจูบหน่อย”
ไม่พูดเปล่าแต่ยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกรอบ ถึงจะไม่ปุบปับเหมือนเก่าแต่ไอ้มิ่งก็หนีไปไหนไม่รอด นอกจากจะถูกจับหน้า
เอาไว้ไม่ให้หันหนี หัวแม่มือของพี่แจ่มยังแหย่เข้ามาในปากของมันอีก
“อึง จะทำ อื้ออออ!!”
กำลังจะถามก็ต้องร้องอู้อี้อีกรอบ มันรู้แล้วว่าพี่แจ่มแหย่นิ้วเข้ามาในปากของมันทำไม ก็เพื่อที่จะสอดลิ้นเข้ามาในปากมัน
ไง
“อืม”เสียงครางทุ้มในลำคอของพี่แจ่มพาลเอาไอ้มิ่งขนลุก
“อื้อ อึก!!”
มือข้างหนึ่งละออกจากน้าของไอ้มิ่งก่อนจะลดต่ำลงมาลูบเอวสอบเบาๆ ลิ้นที่กำลังเลื้อยอยู่ในปากก็ทำหน้าที่ของมันได้
อย่างดีเยี่ยม ทำเอาไอ้มิ่งทำอะไรไม่ถูก จะหนีก็ถูกต้อนจนจนมุม ขัดขืนก็เหมือนกับตอบโต้ไปเสียอย่างนั้น ก้อนเนื้อในอกข้าง
ซ้ายออกไอ้มิ่งเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ความรู้สึกเหมือนกับครั้งแรกที่มันถูกพี่แจ่มจูบไม่มีผิดเพี้ยน ผิดก็
สถานที่ที่มันกำลังถูกพี่แจ่มปล้ำจูบจนปากกับจมูกแทบจะรวมกันเนี่ย เป็นสนามหญ้าหลังบ้านไม่ใช่บนเตียง!! จะมีใครมาเจอ
เมื่อไรก็ไม่รู้ แล้วเมื่อไหร่พี่แจ่มจะหยุดจูบมันสักทีวะเนี่ย!!
ตึก ตึก ตึก!!
งานเข้าแล้วไหมล่ะ!! เสียงตึกๆเนี่ยไม่ใช่เสียงหัวใจของไอ้มิ่งหรอก แต่เป็นพวกรับจัดไฟกำลังเดินเก็บไฟในงานแตกต่าง
หาก ชิบหายแล้วไหมล่ะ!! ถึงตรงนี้จะไม่มีไฟติดอยู่แล้ว แต่ห่างไปแค่ไม่กี่ก้าวมีไฟสีติดอยู่พอดิบพอดี
“อื้อออ อ่อย อู๊!!”
ไอ้มิ่งดิ้นพล่านเป็นไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก จะอยู่รอให้มาถูกเจอก็บ้าแล้ว ขืนมีคนมาเห็นว่ามันกับพี่แจ่มมานอนปล้ำจูบกัน
อยู่บนพื้นหญ้าหลังบ้านมีหวังคงจะเอาไปโพนทะนากันทั่วให้ได้อับอายขายขี้หน้าแน่ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเสียงหนึ่งตะโกน
ถาม
“นั่นใครน่ะ ไปทำอะไรลับๆล่อๆอยู่ตรงนั้นล่ะนั่น เดี๋ยวงูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ฉกเอาหรอก”
แหม่ ไอ้มิ่งยอมโดนงูฉกดีกว่าถูกพี่แจ่มฉกจูบจนปากระบมอย่างนี้
“แจ่มทำของตกลงมาจากระเบียงน่ะครับ เลยลงมาหา”พี่แจ่มตะโกนตอบกลับไป พลางผลุดลุกออกจากตัวไอ้มิ่ง
เรื่องความตอแหลล่ะไอ้มิ่งยกให้พี่แจ่มเป็นที่หนึ่งเลย
“อ้อ พ่อแจ่มกับไอ้มิ่งนี่เอง แล้วนี่ทำอะไรหล่นลงมาล่ะหึหึ”ถามแต่ตานี่กำลังมองมาทางพี่แจ่มกับไอ้มิ่งที่ไม่ได้ใส่เสื้อกัน
ทั้งคู่ แถมยังหัวเราะหึหึอีกต่างหาก
“ของเล็กๆน้อยๆน่ะครับ ว่าแต่กำลังเก็บไฟอยู่เหรอครับ ให้แจ่มช่วยไหมครับ จะได้เสร็จเร็วๆ”ไอ้นี่ก็ทำมาเป็นเสนอตัว ทำ
มายิ้มคุณชายส่งให้ชาวบ้านชาวเมืองเขาไปทั่วอีกตามเคย
“โอ้ย ช่วยเช่ยอะไรกัน นี่คืนเข้าหอของพ่อแจ่มใครจะกล้ากวน นี่ก็เหลือหลอดสุดท้ายแล้ว ว่าแต่พ่อแจ่มกับไอ้มิ่งหาของ
เจอยังล่ะ ให้ลุงไปช่วยหาไหม”
“ไม่เป็นไรครับ แจ่มกับน้องมิ่งหาเจอแล้ว”
“อ้อ งั้นเรอะ งั้นลุงไม่กวนแล้วล่ะ ตามสบายตามประสาคืนแรกกันเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ ไอ้ลุงก็ไม่รู้ว่ากำลังช่วยกันหาของ
อยู่ เดี๋ยวลุงไปบอกคนอื่นให้ เขาจะไม่ได้เดินผ่านมาแถวนี้นะ”
ยิ้มเหมือนมีอะไรแล้วทิ้งท้ายให้ไอ้มิ่งงงเป็นไก่ตาแตก ใช่ว่าลุงคนเก็บไฟเขาจะเข้าใจตามที่ไอ้แจ่มพูดใช่ไหมวะว่าไอ้มิ่ง
กับพี่ทำของหล่นแล้วลงมาตามเก็บน่ะ
“เรื่องอะไรของมึงถึงจะจูบกูน่ะ เกือบโดนคนอื่นเห็นแล้วไหมล่ะ”พอรอดตัวก็หันไปหาเรื่องพี่แจ่มทันที โยนความผิดโครม
ไปให้พี่แจ่มรับแต่เพียงผู้เดียว ไอ้มิ่งปัดเนื้อปัดตัวเองเศษดินเศษหญ้าออกจากตัว
“จูบลงโทษไงครับ”ตอบแล้วยังหันมายิ้มกริ่มใส่อีก
“จะ จูบลงโทษอะไรของมึง แล้วมึงมีสิทธิ์อะไรจะมาจูบลงโทษกู”แล้วลงโทษอะไร ไอ้มิ่งไปทำผิดตอนไหนวะ สงสัยเลย
ถามข้างๆคูๆออกไป แล้วหันหน้าหนี ไม่ได้อายที่มองปากพี่แจ่มยิ้มแล้วนึกถึงจูบหรอก แค่ไอ้มิ่งนึกเคืองพี่แจ่มจนไม่อยากจะมอง
หน้าต่างหาก
“ลงโทษที่น้องมิ่งหนีพี่แจ่มไง แล้วพี่แจ่มก็มีสิทธิลงโทษน้องมิ่งเพราะว่าเราสองคนแต่งงานกันแล้ว ต่อไปนี้ถ้าน้องมิ่งไม่
ฟังพี่แจ่มอีก พี่แจ่มจะลงโทษน้องมิ่งนะ”
“หนอย อย่าคิดนะว่าเป็นเมียกูแล้วจะทำอะไรก็ได้น่ะ ครั้งนี้เห็นว่ากูเมายาดองหรอกกูเลยได้ยอมมึงน่ะ ถ้ามีครั้งหน้าอีกล่ะ
คอยดู!!”ไอ้มิ่งชี้หน้าคาดโทษก่อนจะเดินหนีขึ้นบ้าน ลืมไปเสียสนิทว่าจะกลับไปนอนบ้านพ่อมุ่ยของมัน
แต่ก็เถอะ พี่แเจ่มน่ะทำเป็นมาอ้างสิทธิผัวเมียกับไอ้มิ่งเหรอวะ นี่ขนาดวันแรกพี่แจ่มยังใช้สิทธิเมียมาข่มมันขนาดนี้ แล้ววัน
ต่อไปจะขนาดไหน แต่เรื่องอะไรไอ้มิ่งจะยอม ถ้าไอ้มิ่งยอมไอ้มิ่งก็กลัวเมียเหมือนพี่เจิดน่ะสิ ไม่มีทาง!!
ว่าแต่ทำไมไอ้มิ่งถึงได้นึกสังหรณ์ใจแปลกๆกับรอยยิ้มของลุงคนเก็บไฟวะ เหมือนว่าจะมีลางบอกเหตุว่าวันพรุ่งนี้งานจะ
เข้ามันยังไงก็ไม่รู้
--------------------------------------------------------------------------
ทะยอยลงนะ ใจร่มๆเน้อ ค่อยเป็นค่อยไป
คนที่มันคิดว่าตัวเองเป็นหลัว ยังรอดและคิดว่าตัวเองเป็นหลัวต่อไป ฮ่าๆ
จะรอดไปได้อีกสักกี่น้ำนะลูกมิ่งของแม่ พ่อแจ่มเค้าพอได้แต่งก็เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้