..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9  (อ่าน 66155 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พี่ฆิตจะเซอร์ไพร์ไรป่ะเนี่ย รอลุ้นๆๆๆ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 18 กลัว



        จนกระทั่งเวลาผ่านไป ฆิตขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่โต ก่อนจะกดรีโมทประตูรั้วเพื่อเปิดกว้างและขับรถเข้าบ้านไปที่โรงจอด ฟากกราฟพอจะเริ่มเห็นเค้าลางอะไรบางอย่าง จึงถามไปไม่รีรอ


"พี่พาผมมาบ้านพี่หรอวะ?"
 
"อืม...พามาเปิดตัวไง"

 

"เรื่องสำคัญแบบนี้  ทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนวะ ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลยนะเว้ย ล...แล้ว ผมจะทำหน้ายังไง พ่อแม่พี่จะเกลียดผมไหม? ผมผู้ชายนะพี่...แล้ว...ก็...อื้ออ..."


      ทันใดนั้น ฆิตโถมตัวไปจูบกราฟเพื่อปิดปาก กลบถ้อยคำที่จะทำให้กราฟกังวลใจ จากนั้น ทั้งสองผละริมฝีปากออกจากกัน
 

"ใจเย็นๆนะมึง ครอบครัวกูรับเรื่องนี้ได้ กูจริงจังกับมึงนะ กูถึงพามา"

 
"วันหลังได้ไหมพี่"
 
"ไม่ได้!! มึงจะถอยกลับได้ไง นี่ถึงบ้านกูแล้วนะ"
 

"ก็ผมไม่พร้อม"

 

"มึงอยู่กับกู ไม่ต้องกลัว"


      ฟากฆิตว่าจบ ก็ลงรถมา แต่เขายังเห็นกราฟไม่ยอมออกมาจากรถ จึงเดินอ้อมไปฝั่งคนนั่ง และเปิดประตูดึงร่างเด็กหนุ่มออกมาจนได้
 

      กราฟยืนเก้ๆกังๆ ละล้าละลังว่าจะเข้าบ้านหรือไม่เข้าบ้านดี ด้านฆิตเองที่เห็นอาการกราฟจึงจับมือเพื่อสร้างความมั่นใจให้กราฟและพาเดินเข้าบ้าน


      กราฟกลัวว่าแม่พี่ฆิตเห็นแล้วจะไม่ชอบจึงรีบบิดมือออกจากการเกาะกุม แต่พี่ฆิตกลับกระชับมือแนบแน่นกว่าเดิม


"อย่ากลัวสิ กราฟ"



       พอเข้ามาถึงตัวบ้านด้านใน กราฟสวนกับพี่ฆีนพอดี ฟากฆีนอมยิ้มเพราะรู้ทันทีว่าน้องชายคงพามาแนะนำตัวกับแม่ของตัวเอง


"ไม่ต้องกลัวนะกราฟ แม่พี่ใจดี" ฆีนตบไหล่กราฟเบาๆ ก่อนจะขอตัวออกไปทำธุระข้างนอก
 

       ฆิตที่เจอป้านอมก่อนจึงถามว่าพ่อและแม่อยู่ไหน เมื่อได้คำตอบ ฆิตจึงรู้ว่า ตอนนี้ อยู่เพียงแค่แม่คนเดียวเท่านั้น


       ฆิตจูงมือกราฟไปหาคุณอรอนงค์ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขก  หางตาของแม่ฆิตเห็นร่างไหวๆเดินผ่านจึงชำเลืองมามองด้วยสายตาดุๆ


"ใครน่ะ ฆิต"
 

       กราฟหน้าซีดเมื่อได้ยินเสียงและแววตาดูขึงขังจนน่ากลัว


       แม้มารดาของพี่ฆิตจะดูสง่างาม ลุคเหมือนผู้หญิงจิตใจดี แต่สีหน้าเวลานี้ กราฟถึงกับไปไม่เป็น


       ไหนพี่ฆีนบอกว่าแม่ใจดีไง? ใจดีตรงไหนเนี่ย! จ้องมองถมึงทึงเสียขนาดนั้น


"แฟนฆิตเองแม่"
ฆิตแนะนำกราฟเสร็จสรรพ จากนั้นทั้งสองก็ทิ้งตัวลงนั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม

 
"แฟนลูกควรเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือ?"


!!!

       กราฟชะงักกึก อึ้งทันที เมื่อเห็นสีหน้าแม่ของพี่ฆิตคงไว้ซึ่งความเรียบเฉย ตอนนี้มือของกราฟชุ่มไปด้วยเหงื่อ จนฆิตสัมผัสได้ เขาคลายมือออกจากการกุมมือ แล้วดึงมือของกราฟมาวางไว้บนตักของฆิตแทน


"แม่ครับ เลิกแกล้งเถอะ...น้องมันกลัว"
ฆิตบอกแม่ด้วยหน้าจริงจัง
 

"อะไรกัน...ห้ะ!!...ฆิต...นี่กล้าเถียงแทนกันด้วยหรือไง? เราชื่ออะไรแนะนำตัวซิ"


"ผมชื่อกราฟครับ"
กราฟตอบซะแทบเสียงหายไปในลำคอ


"ดูไม่น่าจะคบกันยืดนะ เราคิดว่าจะเลิกกันเมื่อไหร่ล่ะ?"


 
"แม่ครับ ฆิตว่า..."
 

"ฆิตเงียบ แม่ถามกราฟ"



       แม้จะยังกลัวแม่พี่ฆิต แต่กราฟนั่งนิ่งอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนตอบ เพื่อรวบรวมสติและไล่ความกลัวออกไป เพราะต้องการให้แม่พี่ฆิตเห็นถึงความมุ่งมั่น จริงใจในความรักของกราฟ

 
"อนาคตผมไม่รู้ว่าเราต้องมีเหตุให้เลิกกันไหม แต่ถ้าถามถึงตอนนี้ เดี๋ยวนี้...ผม 'รัก' พี่ฆิตและไม่คิดเลิกแน่นอนครับ"


      ฆิตเบิกตาโพลง หันไปมองกราฟด้วยหัวใจฟูฟ่อง พองโตและรู้สึกดีใจมากเสียจนยิ้มกว้างโชว์ฟันสวย


      เพราะแม้ว่าจะเป็นแฟนกันแล้วก็จริง แต่กราฟไม่เคยพูดกับฆิตเลยสักคำว่า...รัก...
 

"ไม่อายคนมองหรือไงกัน?" แม่ฆิตถามอีกครั้ง
 

"ไม่อายครับ ถ้าเรามีความสุขและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ผมก็ไม่สนสายตาคนอื่นหรอกครับ"



      แม่ฆิตทำหน้านิ่ว คิ้วขมวดครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มกว้างและตบเบาะข้างๆ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง


"กราฟมานั่งใกล้ๆแม่ซิ เกร็งเลยล่ะสิ ฮึ?"
แม่ถามพลางยิ้มหน้าชื่น ตาบาน ด้านฆิตถอนหายใจยาว เพราะกว่าแม่จะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ แฟนเขาเป็นลมไปรึยัง?


      ฟากกราฟทำหน้างุนงง เมื่อเห็นแม่พี่ฆิตสีหน้าเปลี่ยนไปแถมเอ่ยเชื้อเชิญให้ไปนั่งด้วยกันอีก ฆิตเห็นกราฟยังคงนิ่ง เขาจึงดันไหล่กราฟเรียกสติ ให้ลุกขึ้นไปนั่งกับแม่ ซึ่งกราฟก็ทำตามโดยดี   
 

"แม่ขอโทษนะที่ต้องเล่นบทโหด แม่แค่อยากรู้ว่ากราฟจะจริงจังกับฆิตแค่ไหน? ตั้งแต่เกิดจนโตมา แม่เห็นฆิตพาแฟนมาบ้านแค่สองคนเอง แม่เชื่อว่า การที่ลูกแม่เลือกพาใครเข้าบ้าน เป็นเพราะเขาให้ความสำคัญ กราฟไม่ต้องกังวลนะจ้ะ แม่เห็นอย่างนี้ แม่รู้เลยว่าฆิตไม่เลิกกับกราฟง่ายๆแน่ ถ้ามีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ก็มาคุยกับแม่ได้ แม่ยินดีรับฟังนะ"


"ขอบคุณนะครับ คุณน้า" กราฟไม่รู้จะใช้สรรพนามแบบไหนดี จึงเรียกแบบนั้นไปก่อน


"เรียกแม่เถอะ กราฟ"


"ครับ แม่"
กราฟยิ้มเขินๆ


"วันนี้กราฟสะดวกไหม? อยู่รอกินมื้อเย็นด้วยกันสิ พ่อกับฆีนก็ไม่อยู่ด้วย แม่เหงาน่ะ"

 
"ก็ได้ครับ"

 

      จากนั้น แม่ยิ้มพลางวางมือบนไหล่กราฟ ลูบเบาๆ ก่อนจะขอตัวลุกไปบอกป้านอมเรื่องการทำอาหาร ส่วนฆิตและกราฟยังนั่งกันอยู่ที่เดิม


      ฆิตยิ้มกว้างอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยก็ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ผิดกับอีกคนที่กลับนั่งนิ่งเหมือนคนมีอะไรในใจ


      กราฟตัดสินใจถามออกไป


"พี่ฆิต อีกคนที่พี่พามาบ้าน คือ พีทใช่ไหม?"



     นั่นไง ฆิตว่าแล้วเชียวว่ากราฟต้องถาม ฆิตถอนหายใจ แต่เพราะไม่อยากโกหกจึงตอบตามจริง
 

"อืม...ใช่"




     ใบหน้าเด็กหนุ่ม ผุดรอยยิ้มฝืนๆขึ้นมาอย่างเบาบาง จู่ๆ กราฟก็เกิดน้อยใจขึ้นมาจนได้


     'แฟนเก่า' ที่ตรงสเปกพี่ฆิตทุกอย่าง คนที่ยังส่งข้อความไลน์หาพี่ฆิตเป็นปกติ ทำเหมือนไม่ได้เลิกกัน


      แม้พี่ฆิตจะไม่มีปฏิกิริยาสนใจพีทสักเท่าไหร่ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากพีทยังคงเข้ามารบเร้า พยายามแทรกกลางตลอดเวลา จนกราฟรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


     กลัวว่าถ่านไฟเก่า จะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง...




****1.1****

เตรียมรอคอยกับ
พาร์ทที่เหลือนะคะ ย้ำ!! พาร์ทที่เหลือ...หึๆ
นี่เราโรคจิตปะวะ เนี่ย!!
ชอบการโดนด่ารึไงกัน ป้าดดโถ่!...ฮ่าๆๆๆๆๆฮาาาาาา
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2017 22:06:03 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รออ่านพาร์ทหน้า  เหอๆๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
กราฟก็จัดการไฟเก่าเลย

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ต้องเคลียร์. ต้องจัดการแล้ว,,,

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 18 กลัว (2)





      แน่นอนว่า เป็นส่วนใหญ่เมื่อถึงวันเกิดของใครก็ตาม มักต้องหาเหตุผลในการสังสรรค์ ปาร์ตี้เต็มที่ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อยู่เสมอ


      เฉกเช่นวันนี้ ที่เป็นวันเกิดพี่กั๊กและแกเอ่ยปากชวนคนที่แผนกล่วงหน้าได้สองสามวันแล้ว ซึ่งทุกคนตบปากรับคำ มีแค่พี่ดลที่ติดงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนและพี่ฆีนที่ต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัดกับครอบครัว


      ได้เวลานัดหมาย พี่แพร พี่กั๊ก พี่ส้ม และท็อปออกจากบริษัทเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านบาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ ที่ห่างจากตัวบริษัทไม่ไกลเท่าไหร่นัก


       เมื่อถึงร้านแล้วนั้น พวกพี่ๆเดินขึ้นไปชั้นสอง เลือกที่นั่งตรงโซนเอาท์ดอร์ริมระเบียงเพื่อรับลมชมบรรยากาศภายนอก ได้ที่นั่งเรียบร้อยก็สั่งกับแกล้มเคียงคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ชุดใหญ่


      ผ่านไปสักพัก ทุกอย่างที่สั่ง เริ่มทะยอยมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ


"ท็อป ไหนว่าวันนี้จะพาแฟนมึงมาเปิดตัว อยู่ไหนล่ะ?" พี่กั๊กแกล้งทวงถาม เพราะท็อปเคยสัญญาว่าจะพามาให้เห็น
 

"กำลังเดินทางมาครับ" ท็อปตอบยิ้มๆ ฟากกั๊กพยักหน้าเออออ พลางยกแก้วขึ้นดื่ม


 
      ในระหว่างนี้ พวกพี่ๆก็หาเรื่องคุยไปเรื่อย ทั้งมีสาระบ้าง เฮฮาบ้างปะปนกันไป


       จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปได้ประมาณยี่สิบนาที เครื่องมือสื่อสารของท็อปแผดเสียงร้องดังขึ้น เขาจึงขอตัวพวกพี่ๆที่นั่งอยู่ไปรับโทรศัพท์หน้าร้าน

 
      ไม่นานนัก ท็อปเดินกลับเข้ามาพร้อมใครอีกคน พวกพี่ๆที่นั่งกันอยู่เหลือบเห็นคนเดินเคียงข้างท็อปมาถึงกับตาโต เพราะแฟนท็อปช่างน่ารักเหลือเกิน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาว ผมสีดำขลับความยาวเลยบ่านิดหน่อย หน้าตาเค้าโครงคล้ายสาวญี่ปุ่น เพียงแค่ยิ้ม เขี้ยวก็โดดเด่นมาแต่ไกล...
 

      ท็อปเลื่อนเก้าอี้ออกเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวได้นั่งอย่างสะดวก...ทุกคนมองท็อปที่บริการและดูแลมิ้มเป็นอย่างดี


      จากนั้น ท็อปแนะนำมิ้มให้พี่ๆทุกคนได้รู้จัก


"โห...แฟนมึงน่ารักว่ะ น้องครับมีเพื่อนแนะนำไหม?" กั๊กถาม แถมส่งสายตาเจ้าชู้ใส่หญิงสาวอย่างไม่ปกปิด



      ด้านมิ้มยิ้มเอียงอาย ฟากท็อปแกล้งแซวรุ่นพี่คนสนิท


"ได้ข่าวว่าพี่กั๊กมีลูกแล้วไม่ใช่หรอครับ?"



"แหม!...ไอ้ท็อปไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ"


"ฮ่าๆ"




      เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบโต๊ะ จากนั้น พวกพี่แพรก็เป็นฝ่ายเริ่มชวนมิ้มคุย ตั้งแต่เจอท็อปที่ไหน? รู้จักกันได้อย่างไร? เวลาท็อปทำหน้าที่แฟนโรแมนติกไหม? และอีกหลากหลายคำถามที่พวกพี่ๆผู้หญิงถามมิ้มด้วยความอยากรู้


       ขณะนี้ พวกพี่ๆยังถามมิ้มไม่หยุด ส่วนมิ้มก็ดูจะเข้ากับพวกรุ่นพี่ผู้หญิงได้ดีเหลือเกิน สังเกตได้จากการคุยกันอย่างออกรสชาติ


      ท็อปมองหน้าพวกพี่ๆแต่ละคนและยิ้มโล่งใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี



      นั่งดื่มพลางสนทนากันไปได้นานพอสมควร ฟากมิ้มเอนตัวซบไหล่ท็อปและกอดแขนแน่น จนท็อปเลิกคิ้วมองใบหน้าน่ารักอย่างแปลกใจ จึงเอ่ยถาม


"เมาแล้วหรอ? มิ้ม"


"มิ้มมึนแล้วค่ะ พี่ท็อป"


"กลับบ้านไหม? เดี๋ยวพี่ท็อปไปส่ง"


"ไม่ค่ะ พี่ท็อป มิ้มอยู่ก่อนได้"
มิ้มตอบพลางยิ้มหวานฉ่ำ สองมือรัดแขนท็อปแน่นกว่าเดิม


"ถ้ามิ้มไม่ไหวแล้วจริงๆ ต้องบอกพี่ท็อปนะ อย่าดื้อ"



     จังหวะที่ท็อปบอกมิ้ม เขาเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่เป็นจังหวะที่มิ้มหันมา เลยทำให้พี่ๆทุกคนโห่แซวกันเกรียวกราว เมื่อภาพตรงหน้านั้นเสมือนว่าท็อปจูบมิ้ม


"แหม...ท็อปหวานน้อยๆหน่อย รู้งี้กูไม่น่าบอกให้มึงพามาเลย อิจฉาเว้ยย!"


"ไม่หรอกพี่กั๊ก ที่เห็นนี่ ถือว่าปกติครับ"
ท็อปตอบยิ้มๆ กลบเกลื่อนความหน้าร้อนของตัวเอง


      ด้านกั๊กแอบเบะปากใส่รุ่นน้องอย่างหมั่นไส้ เมื่อเห็นท็อปทำสายตายียวน จากนั้น ทุกคนก็ชนแก้วกันอีกครั้ง และอีกครั้ง วนเวียนไปอยู่อย่างนั้น





      ในเวลาเดียวกัน ถัดมายังนอกร้าน มีใครคนหนึ่งวิ่งตะลีตะลานให้ถึงร้านเร็วๆ เพียงเพราะเป็นห่วงและรู้ดีว่าเวลาท็อปเมาเป็นแบบไหน...


      ฆีนเร่งฝีเท้าพลางหยิบโทรศัพท์กดโทรหากั๊กเพื่อถามว่านั่งส่วนใด ฆีนเดินเข้ามาตามพิกัดที่กั๊กบอก ฟากกั๊กก็ยืนชะเง้อมองพี่ฆีน จนกระทั่งเห็นชายหนุ่มรูปหล่อเดินมาไกลๆ กั๊กยกไม้ ยกมือโบก-ไปมาให้พี่ฆีนได้เห็น


"เฮ้...พี่ฆีน ทางนี้ครับพี่"


     ท็อปที่ยกแก้วขึ้นดื่มถึงกับชะงักค้างและรีบเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่พี่กั๊กตะโกนเรียกชื่อคนคุ้นเคย วินาทีนั้น แก้วเหล้าที่ท็อปถืออยู่หลุดมือจนร่วงหล่นพื้นแตกกระจาย


"พะ...พี่ฆีน" ท็อปอุทานเบาๆ


"อ้าว...ท็อปเป็นอะไรมือไม้อ่อนเลย" พี่แพรแซว


"ปะ...เปล่าครับ"



      ด้านพี่แพรส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะกวักมือเรียกบริกรให้ช่วยมาเก็บกวาดเศษแก้วที่อยู่ตรงพื้น


      เมื่อบริกรจัดการเก็บเศษแก้วเรียบร้อยแล้ว ท็อปนั่งหน้าซีด ไม่กล้าสบตาผู้ที่เพิ่งมาใหม่ ท็อปไม่คิดว่าพี่ฆีนจะมางานวันเกิดพี่กั๊ก เขารีบแกะมือมิ้มที่เกาะอยู่ออกทันที
 
 
     พี่ฆีนฉีกยิ้มให้ท็อปก่อนจะหันไปชำเลืองมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆคนรัก


      ฆีนหย่อนกายลงนั่งข้างกั๊ก ซึ่งตรงข้ามกับที่ท็อปนั่งพอดี


"พี่ฆีน ดูดิไอ้ท็อปมันพาแฟนมาอวดด้วย" กั๊กฟ้องพี่ฆีนทันทีที่มา แต่กั๊กไม่รู้ว่าการเมาท์รุ่นน้องอย่างสนุกปากนั้น กำลังทำให้ใครบางคนเจ็บ...

 
"พี่เห็นแล้วล่ะ" ปากตอบกั๊ก แต่ดวงตาจ้องท็อปเขม็ง

 
"ไหนพี่ฆีนว่าไปต่างจังหวัดกลับพรุ่งนี้ไงครับ"  ท็อปถามเสียงขาดห้วง เพราะตอนนี้ ใจเด็กหนุ่มหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
 

"พ่อพี่มีงานด่วน เลยต้องกลับวันนี้ ท็อปยังไม่แนะนำแฟนพี่ให้รู้จักเลย"
 
"ชะ...ชื่อมิ้มครับ"



      ทั้งสองสบประสานสายตากัน โดยไม่พูดอะไรต่อ


      ใครจะคิดล่ะว่า การรีบบึ่งรถมาหาคนรักเพราะความเป็นห่วง กลับกลายเป็นได้ความเสียใจตอบแทนกลับมาเมื่อต้องเห็นภาพที่ทำให้เจ็บปวดใจอย่างไม่ทันตั้วตัวขนาดนี้


      ฆีนรับแก้วจากกั๊กที่บริการชงให้เป็นพิเศษ ก่อนจะยกดื่มจนหมดแก้ว


      ฆีนเก็บอารมณ์พอสมควร เขาอธิบายความรู้สึกเวลานี้ได้ยากลำบากเหลือเกิน หัวใจมันเหมือนหน่วงๆ เจ็บจี๊ดและหายใจไม่ค่อยออก ราวกับมีมือมัจจุราชมาบีบหัวใจให้แน่นขึ้น แน่นขึ้นอีกและพร้อมจะฉีกกระชากหัวใจได้ทุกเมื่อ


      มือฆีนที่ถือแก้วก็ดูอ่อนแรงทุกครั้งที่ยกขึ้นดื่ม


      ฆีนไม่คิดเลยว่า คนรักเขาจะทำเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ได้...


      มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองเรา ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ท็อปเอาเวลาไหนไปคบใครอีกคน?


      ฆีนไม่เคยจะรู้...ไม่เลยสักนิดเดียว...


      ในขณะที่คนอื่นๆบนโต๊ะยังคงคุยกันเป็นปกติอย่างไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ลึกลับของทั้งสอง ฟากฆีนยังคงนั่งหน้าชา และนิ่งงันเพราะวนเวียนกับความคิดตัวเองในหัวสมอง จู่ๆ ฆีนก็แค่นยิ้มให้ตัวเองถึงชีวิตรักอันน่าสมเพช


       เพราะสุดท้าย ความรักของฆีนก็จบลงแบบเดิม


       คนที่ฆีนรักและวาดฝันไว้ว่าจะเป็นคนสุดท้ายกลับมาหลอกลวงให้เจ็บแสบเหมือนเช่นที่ผ่านมา


      ราวสามสิบนาที ที่ฆีนฝืนทนและยิ้มทำเหมือนไม่มีอะไร แต่บอกเลยข้างในหัวใจมันทรมาน...เพราะหนึ่งนาทีของฆีนเวลานี้ เสมือนยาวนานเป็นหนึ่งชั่วโมง...


     มันเจ็บมากจริงๆที่ต้องมาเห็นภาพบาดตาที่คนรักตัวเองนั่งกับคนที่กล้าบอกคนอื่นได้เต็มปาก เต็มคำว่านี่..แฟน..


     แล้วฆีนล่ะ...อยู่ในสถานะอะไร?


     สุดท้าย ฆีนทนจำใจนั่งอยู่ต่อไปไม่ได้จริงๆ เขายื่นเงินให้กั๊กและบอกว่าขอเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ ก่อนจะร่ำลาทุกคนและลุกขึ้นยืนเพื่อกลับบ้าน


 
      ท็อปมองตามหลังพี่ฆีนที่เดินไปจนพ้นตา วินาทีนั้น ท็อปไม่สนสายตาใคร เขาลุกพรวดออกจากโต๊ะวิ่งไปหาพี่ฆีน โดยไม่พูดอะไร ทิ้งให้ทุกคนที่นั่งอยู่ถึงกับงุนงงเมื่อเห็นอาการ


      จนกระทั่ง ท็อปวิ่งลงมาถึงหน้าร้าน ท็อปมองซ้าย แลขวา จนเห็นร่างไหวๆของพี่ฆีนเดินไปทางซ้ายไม่ไกล เด็กหนุ่มวิ่งหอบตามพี่ฆีนไปยังรถยนต์ที่จอดริมถนนเป็นทางยาว และท็อปคว้าไหล่พี่ฆีนไว้ได้ทัน


"พี่ฆีนฟังผมอธิบายก่อนนะ" ท็อปพูดไปหอบไป เด็กหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามตัวเองโดยอัตโนมัติ เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ร้ายแรง การพูดจาดีๆคงทำให้พี่ฆีนเห็นใจได้บ้าง


"ท็อปออกมาทำไม"
ฆีนถามโดยไม่มองหน้า
 

"ผมอยากคุยกับพี่ฆีน ผมขอโทษ ผมแค่ยังไม่พร้อมให้ใครรู้ว่าผมชอบ...ผู้ชาย..."



      คำสุดท้ายที่เป็นคำสำคัญกลับถูกกลบลบด้วยเสียงของฆีน


"พอเถอะ พี่ยังไม่พร้อมจะฟังเวลานี้"



"พี่ฆีนฟังผมก่อน ผมจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง รวมถึงเรื่องอดีตที่พี่อยากรู้ด้วยนะครับ พี่ฆีน"


"พี่ไม่มีอารมณ์มาฟังอะไรตอนนี้ พี่เดินทางมาเหนื่อยนะท็อป"



       ฆีนพูดความจริง ทั้งที่เขาเพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านเมื่อช่วงหัวค่ำแท้ๆ แต่ฆีนไม่พัก เพราะตั้งใจรีบมาหาคนรัก แต่ไม่คิดว่าทุกอย่างจะแย่กว่าที่คิด
   

"ผู้หญิงคนนั้น ผมไม่ได้จริงจังด้วย พี่ฆีนรอผมก่อนได้ไหม? เดี๋ยวคืนนี้ผมไปนอนกับพี่ฆีนนะครับ ขอกลับไปเอากระเป๋าก่อนนะ "


   
       ท็อปตอบเสียงหนักแน่น เพราะเขารู้ดีว่าใครสำคัญ ถ้าให้เลือกตอนนี้ ท็อปก็ตอบโดยไม่ลังเลเลยว่าเขาเลือกพี่ฆีนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์

 

"ทำไมเราเป็นคนแบบนี้นะท็อป กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นซะ"
 

"ไม่! ผมจะไปกับพี่ฆีน"



"ก็บอกให้กลับไปไง!!" ฆีนหันหลังกลับมาตะคอกเสียงดังลั่นทั่วบริเวณ จนท็อปสะดุ้งเฮือก


        ฆีนเงียบไปครู่และสูดลมหายใจเข้าลึกๆอยู่สองสามที ก่อนจะพูดเสียงเข้มขึงขังอีกครั้ง



"และไม่ต้องคิดแก้ตัว พี่ไม่อยากฟัง!"




       ฆีนไม่รีรอให้ท็อปได้อ้าปาก เขาหมุนตัวไปเปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ ออกจากที่แห่งนี้ไปทันที
 

       ท็อปยืนตัวแข็งทื่อ ก้าวขาไม่ออก ทั้งๆที่ในใจ ตัวเขาพุ่งไปหาคนรักด้านในรถแล้ว นาทีนี้ ท็อปทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนน้ำตาคลอเบ้า มองรถยนต์สีดำที่เคลื่อนออกไปไกลจนลับตา
 

      และแล้ว 'ความกลัวในอดีต' ที่ฝังลงไปในจิตใจของท็อปกำลังทำให้ชีวิตท็อปพังยับเยิน


     จะโทษใครได้เล่า...ในเมื่อท็อปทำพังเองกับมือ


     และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีแนวโน้มสูงที่ท็อปจะสูญเสียผู้ชายที่รักมากไปอีกเป็นคนที่สอง...
   


   ...............................

ไม่นานเกินรอ เราจะพาไปหวนรำลึกกับอดีตของท็อปด้วยกันค่ะ
.
.
รีบมาต่อให้เลยนะคะเนี่ย!!
...
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2017 20:39:04 โดย rinyriny »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เหอๆๆ  เริ่มเศร้าแล้ว  เหตุการณ์ในอดีตท็อป  ก็คงเศร้าอีกแล้วใช่ไหม  ถึงทำให้ท็อปในปัจจุบันเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้ออออ ต่อให้อดีตเป็นยังไงก็ไม่ควรทำแบบนี้กับพี่ฆีนไหม ท๊อปแม่งเลววะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากรู้อดีตแล้วววว

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พี่ฆีนไม่ใจร้ายหรอกท๊อป แต่ท๊อปเองก็ต้องเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำไปน่ะ รออดีตท๊อป ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

 ตอนที่ 19 เลิกกัน







        ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราทุกคนล้วนเคยปล่อยให้ความเห็นแก่ตัวเข้ามาครอบงำบ่อยครั้ง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล แต่สำหรับท็อปแล้วความเห็นแก่ตัวของเขาคงมีมากเกินจนส่งผลร้ายต่อความรักครั้งนี้


      ความเห็นแก่ตัว...ที่มาจากความหวาดกลัวเข้ามาเกาะกินในหัวใจ

     
       'กลัว' ไม่เป็นที่ 'รัก'


        ต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ทุกคนย่อมต้องการเป็นที่รัก เป็นที่สนใจ คงไม่มีใครอยากถูกรังเกียจ โดนมองเหยียดราวกับเป็นกองขี้เหม็นๆข้างถนนหรอกจริงไหม?


       ท็อปก็เช่นกัน เขาอยากเป็นที่รักของทุกคน จึงแคร์สายตาคนรอบข้าง ผนวกกับอดีตอันเลวร้ายได้หล่อหลอมให้ท็อปต้องโกหกคนอื่นเพื่อปิดบังรสนิยมที่แท้จริง


       ท็อปกลัวไปหมดทุกสิ่งอย่าง จนลามไปถึง กลัวการไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคม...เขาจึงเลือกแก้ปัญหาผิดๆโดยการคบผู้หญิงบังหน้า


       ด้วยเหตุผลที่ไม่ยอมรับหัวใจตัวเองว่า...ท็อปชอบผู้ชาย...มานานแล้ว


       นั่นหมายความว่า ที่ผ่านมาท็อปโกหกคนอื่นมาตลอด แต่ลึกๆแล้วนั้น ท็อปไม่สามารถโกหกหัวใจตัวเองได้เลยสักครั้งเดียว...




....................





      นับจากวันที่มีเรื่องคราวนั้นจนถึงวันนี้...ก็เป็นเวลาห้าวันแล้ว...


     ท็อปมาทำงานด้วยความเครียด เพราะพี่ฆีนไม่เปิดโอกาสให้ท็อปได้เคลียร์ปัญหาเลย ท็อปโดนกันทุกช่องทาง ทั้งบล็อกข้อความแชท ตัดสายทิ้งทุกครั้งที่โทรหา เจอหน้าก็เดินผ่านราวกับท็อปเป็นอากาศธาตุ จนเด็กหนุ่มอึดอัดใจต้องแอบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำเกือบทุกวัน


      ระยะเวลาห้าวันอาจดูไม่นานสำหรับคนอื่น แต่สำหรับคนที่รักกันและมีปัญหากันอยู่นั้น ช่างทรมานเสียจริงๆ...


       ยามนี้ ท็อปนั่งนิ่งด้วยใจเจ็บปวด เพราะพี่ฆีนยิ้มและเฮฮากับคนอื่นแต่เลือกที่จะชาเฉยใส่ท็อป เลี่ยงการพูดคุยกับท็อปอย่างมีชั้นเชิงโดยที่คนอื่นไม่ทันสังเกตเห็น ยิ่งทำให้ท็อปเสียใจเหลือเกิน


     
       แม้ปัญหาของพี่ฆีนจะยังไม่ถูกสะสาง แต่ปัญหาของมิ้ม ท็อปไม่รีรอที่จะจบความสัมพันธ์ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น วันรุ่งขึ้น ท็อปโทรบอกเลิกมิ้มทันทีและพูดความจริงว่ามีคนอื่น สิ่งที่ได้รับกลับมาแน่นอน คือ คำด่าทอต่างๆนานา แถมยังมีการตั้งกลุ่มแชทข้อความไลน์ที่มีเพื่อนๆของมิ้มรวมหัวมารุมด่าท็อปกันอย่างไม่ปราณี ซึ่งท็อปก็น้อมรับความผิดนั้นโดยดี และต้องขอบคุณมิ้มด้วยซ้ำที่ทำให้ท็อปชัดเจนในตัวเองได้สักที
 

       ขณะนี้ ท็อปนั่งทำงานพลางคิดหาจังหวะที่จะอธิบายเรื่องนั้นให้พี่ฆีนฟัง



      ต้องขอบคุณสวรรค์จริงๆ ที่จู่ๆ พี่ดลก็เดินมาป่าวประกาศกับน้องๆทุกคนว่าได้เซอร์ไพร์สสั่งพิซซ่ามากินกันที่บริษัท เพราะเป็นวันเกิดของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ พิซซ่ามาถึงแล้ว ทุกคนโห่ร้องดีใจ และเป็นพี่ฆีนที่อาสาลงไปให้ เพราะกำลังจะลงไปซื้อของข้างล่างพอดี



      ท็อปสบโอกาส จึงรอให้พี่ฆีนออกจากห้องก่อนและรีบลุกขึ้นตามไปทันที


      ในระหว่างที่ประตูลิฟต์กำลังปิด ท็อปแทรกตัวเข้าช่องแคบนั้นได้ทัน ฟากฆีนตกใจครู่หนึ่งที่เห็นท็อปเข้ามา แต่ก็ก้มหน้านิ่งเงียบเหมือนเดิม


"พี่ฆีน ผมขอโอกาสอธิบายเรื่องนั้นได้ไหมครับ?"



       ฆีนไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ นั่นหมายความว่า ท็อปพอมีโอกาส ท็อปปรี่ไปประชิดตัวคนรัก และรีบพูดก่อนจะสาย


"พี่ฆีน ผมขอโทษนะครับที่เห็นแก่ตัว พี่จะด่าจะว่าอะไรผมก็ได้ แต่ผมไม่ได้รักมิ้ม ผมเลวที่คบมิ้มบังหน้า เพียงเพราะความขี้ขลาดของตัวเองที่ยังไม่กล้าพอจะให้ใครรู้ว่าผมชอบผู้ชายด้วยกัน"
ท็อปเผยความจริงจนหมดเปลือก


       ฟากฆีนเมื่อได้ยินเหตุผลกลับไม่ชอบใจเท่าไหร่ เพราะไม่คิดว่าท็อปจะอายในสิ่งที่ตัวเองเป็นถึงเพียงนี้
 

      ในเมื่อ เราไม่คิดภูมิใจหรือรักตัวเอง แล้วจะอ้อนวอนขอให้ใครมารักกันเล่า...
 



"พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ!" 


      การบอกเลิกว่าเจ็บแล้ว สิ่งที่ทำให้ท็อปเจ็บยิ่งกว่า คือ เขาเห็นพี่ฆีนยืนน้ำตาคลอเบ้า
 

      หลอกกันเล่นหรือเปล่า? ไม่จริงใช่ไหม? ที่พี่ฆีนจะมาตัดสัมพันธ์กันแบบนี้


      ท็อปยืนหน้าชา ตัวชา ปากสั่นเหมือนนกน้อยไร้รังเป็นที่พึ่ง



"ไม่เอานะ พี่ฆีน ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมทีนะครับ"
   


"พี่ว่าพอแค่นี้ดีกว่า ที่ผ่านมาพี่โง่เอง สุดท้ายท็อปก็ไม่ได้รักพี่จริงๆหรอก เลิกกันน่ะดีแล้ว"


 
       ท็อปเอื้อมมือไปกุมมือพี่ฆีนแน่น
 

"ผมไม่เลิก...ไหนพี่ฆีนบอกว่าเราจะไม่เลิกกันไง พี่ฆีนสัญญากับผมแล้วนะ"



       ฆีนมองหน้าท็อป ก่อนจะแค่นยิ้มเยาะ


"ก่อนจะทวงคำสัญญา ลองถามตัวเองดูไหมว่าทำตัวให้คู่ควรแล้วหรือยัง?"

 
!!!


       ท็อปสะอึก ชะงักกึกที่โดนพี่ฆีนพูดจาแทงใจดำจนปวดหน่วงหนึบที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย


       ฆีนมองหน้าท็อปด้วยแววตาผิดหวัง ก่อนพูดประโยคทิ้งท้าย


"มันสายไปแล้วท็อป แค่นี้พี่ก็ดูออกแล้วว่า ท็อปไม่คิดพยายามเพื่อรักครั้งนี้เลย มีแต่พี่ที่ทุ่มเท ทำทุกอย่างอยู่ฝ่ายเดียว"

 

       ท็อปปล่อยโฮทันที  เด็กหนุ่มน้ำตาไหลราวเขื่อนแตก เขาไม่สนแล้วว่าผู้ชายร้องไห้มันช่างน่าอายขนาดไหน...


"พี่ฆีน...ฮึกฮือๆ...ผมขอโทษ แต่เราอย่าเลิกกันได้ไหม? ตอนนี้ให้ผมทำอะไรก็ได้ครับ ผมยอมหมดแล้วจริงๆ ขอร้องอย่าเลิกกันเลยนะครับ พี่ฆีน...ฮือออ"
ท็อปยืนวิงวอน ร้องขอทั้งน้ำตา


 
"ก่อนจะยอมทำอะไรเพื่อคนอื่น ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นให้ได้ก่อนเถอะ...ท็อป" 

 

      ถ้อยคำที่พี่ฆีนพูดมาดุจดั่งหอกแหลมทิ่มแทงหัวใจจนเจ็บปวดเจียนตาย...


      ท็อปไม่มีสิทธิ์เถียง เพราะพี่ฆีนพูดถูกทุกอย่าง...เพียงแต่ตอนนี้ ท็อปรู้ตัวและยอมรับในตัวเองได้แล้ว


      ช่างน่าสงสาร ที่ท็อปรู้ตัวช้าไป


      ความเจ็บปวดรวดร้าว ดั่งคนใกล้ตาย เป็นอย่างไร ท็อปเพิ่งเข้าใจวันนี้...นี่เอง...


      ท็อปร้องห่ม ร้องไห้อย่างไม่เหลือมาด ตอนนี้ ท็อปกลัวจับใจว่าพี่ฆีนจะทำจริงอย่างที่พูด


"พี่ฆีน ผมขอร้อง อย่าทิ้งผมไปนะครับ ฮึกฮือออ..." ท็อปสะอื้นตัวโยนพลางโผกอดพี่ฆีนแน่น


      ฆีนยืนนิ่งยอมปล่อยให้ท็อปกอด เพราะฆีนก็ไม่อยากเอาเวลาที่เหลืออีกไม่กี่นาทีนี้ มาโกรธท็อปอีกแล้ว


      ความเปียกชื้นบนบ่าที่ฆีนรับรู้ได้ถึงน้ำตาคนรักซึมทะลุผ่านผิวกายทำให้ฆีนเจ็บแปลบปลาบ


      ระยะเวลาที่ผ่านมา ฆีนได้ทบทวนเรื่องราวและคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า ถึงเวลาที่ควรปล่อยมือท็อปไปเสียที


      ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ตัวเองเผลอน้ำตาไหลตามคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีต


      ริมฝีปากอุ่นๆของฆีนประทับลงข้างขมับท็อปด้วยอาลัยรัก...


      แสนเสียดายที่ฆีนจะไม่ได้สัมผัสและแตะต้องตัวเด็กคนนี้อีกแล้ว


      ไม่กี่วินาทีต่อมา ฆีนเอื้อนเอ่ยคำสำคัญด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวราวขนนก



"พี่รักท็อปนะ แต่ปล่อยให้พี่ได้ไปใช้ชีวิตของตัวเองบ้างเถอะ..."

 

       ทำไมได้ยินประโยคนั้น แล้วท็อปเจ็บหัวใจจี๊ดๆ แถมรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก


       ท็อปกักเก็บน้ำตาและความรู้สึกไว้ไม่ได้อีกแล้ว เขาแสดงความอ่อนแอให้พี่ฆีนรู้ว่า ท็อปขาดพี่ฆีนไม่ได้จริงๆ สองมือเด็กหนุ่มโอบกอดพี่ฆีนแน่นจนร่างฆีนแทบลีบตามแรงรัด


"พะ...พี่ฆีนครับ ฮึกฮือออ...ผมไม่เอาแบบนี้  พี่ฆีนอย่าทิ้งผม...อย่าไปนะ อย่าไป...ฮือๆ...."

 
 
     แต่ทันใดนั้นเอง...
 

"คุณฆีน นี่มันอะไรกันคะ!!'

 

       ทั้งสองผละออกจากกันแทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าประตูลิฟต์เปิดออกแล้ว จังหวะนั้น ฆีนและท็อปเห็นคุณไอริณยืนกอดอกจ้องเขม็ง
 

       เชื่อได้ว่า เรื่องการกอดกันครั้งนี้ คงไปถึงหูของพี่ดลหรือไม่ก็ผู้บริหารระดับสูงในไม่ช้า...




 
****1.1****


* พี่ฆีนพูดแต่ละคำ จุกค่ะ...TT

** รอดูอดีตท็อปกันนะคะ...เศร้าไหมไม่รู้ แต่ดูแล้วน่าสงสารค่ะ 

*** ตอนนี้ก็คงพอเฉลยเรื่องสมัยที่ท็อปเจอพี่ฆีนแรกๆได้บ้างเนอะ


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มาอีกๆๆ. อยากรู้,,,

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lovejinjunno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เข้าใจท็อปนะ เข้าใจมากด้วย
ดังนั้นจึงไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดท็อปเลย
สงสารและเห็นใจด้วยซ้ำ
เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน กลัวขี้ขลาดไปเกือบทุกอย่าง ยิ่งกลัวก็ยิ่งเก็บซ่อน ยิ่งเก็บไว้เท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความกลัวไปได้อยู่ดี เหมือนหลงอยู่ในเขาวงกต เดินไปทางไหนก็ไม่เจอทางออก ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้หรอก คนที่ไม่เคยเป็น อย่ามองว่าเขาอ่อนแอเลย
ถ้าเราเป็นท็อป แล้วโดนพี่ฆีนขอเลิกด้วยคำพูดต่างๆเหล่านี้ คงไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคน ไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกแล้วอ่ะ พูดแบบนี้เหมือนไล่ทางอ้อมให้ไปตายเลย
คนที่จิตใจปกติ ได้รับคำพูดพวกนี้ยังจุกขนาดนี้เลย แต่กับคนที่จิตใจเปราะบางอย่างท็อป จะทนได้แค่ไหนกันเชียว สงสารท็อปมากที่สุดเลย

ส่วนเรื่องของอิพี่เขตกับเน คู่นี้ก็เชียร์มาตั้งแต่รู้ว่าเป็นพี่น้องคนละแม่ แล้วก็ชอบทะเลาะกันบ่อยๆแล้ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องมันบานปลายขนาดนี้ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นห่วงเนเหมือนกัน
แต่นาทีนี้ เป็นห่วงท็อปมากกว่า..จริงๆ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
เข้าใจท็อปนะ เข้าใจมากด้วย
ดังนั้นจึงไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดท็อปเลย
สงสารและเห็นใจด้วยซ้ำ
เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน กลัวขี้ขลาดไปเกือบทุกอย่าง ยิ่งกลัวก็ยิ่งเก็บซ่อน ยิ่งเก็บไว้เท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความกลัวไปได้อยู่ดี เหมือนหลงอยู่ในเขาวงกต เดินไปทางไหนก็ไม่เจอทางออก ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้หรอก คนที่ไม่เคยเป็น อย่ามองว่าเขาอ่อนแอเลย
ถ้าเราเป็นท็อป แล้วโดนพี่ฆีนขอเลิกด้วยคำพูดต่างๆเหล่านี้ คงไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคน ไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกแล้วอ่ะ พูดแบบนี้เหมือนไล่ทางอ้อมให้ไปตายเลย
คนที่จิตใจปกติ ได้รับคำพูดพวกนี้ยังจุกขนาดนี้เลย แต่กับคนที่จิตใจเปราะบางอย่างท็อป จะทนได้แค่ไหนกันเชียว สงสารท็อปมากที่สุดเลย

ส่วนเรื่องของอิพี่เขตกับเน คู่นี้ก็เชียร์มาตั้งแต่รู้ว่าเป็นพี่น้องคนละแม่ แล้วก็ชอบทะเลาะกันบ่อยๆแล้ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องมันบานปลายขนาดนี้ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นห่วงเนเหมือนกัน
แต่นาทีนี้ เป็นห่วงท็อปมากกว่า..จริงๆ


ถึงกับต้อง Log in มาตอบ และหาวิธีตอบกลับว่าทำยังไง 55555555,,, มึน!!

คุณเขียนข้อความมายาวมาก...แต่ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจสิ่งที่เรานำเสนอไป เราดีใจจัง นั่งคิดแทบตายว่าคนอ่านจะเข้าใจที่เราสื่อไหม? (มีหนึ่งคนก็ยังดีกว่าไม่มีเลย)...ฮ่าๆๆๆๆ


คันปากอยากอธิบาย ฮ่าๆๆๆ

1. เรื่องนี้เราพยายามให้เห็นการใช้ชีวิตของคนอะค่ะว่าถ้าคุณเดินทางโดยใช้ชีวิตยึดติดกับอดีตแล้วผลจะเป็นเช่นไร
 บางคนไม่ยึดติดอดีตก็ดีไป แต่บางคนยึดจนไปต่อไม่ได้ นั่นก็คือท็อปไง เขาเลยทำชีวิตพังโดยไม่รู้ตัว...เอาจริงสงสารท็อปนะ อย่าซ้ำเติมน้องเลย 55+

2.เรื่องการแคร์สายตาคนอื่น หรือแคร์สังคมมากเกินไป
เรื่องนี้เราจึงสร้างตัวละครมาที่มีความคิดแตกต่างกันชัดเจน อย่างกราฟที่ไม่สนใจอะไร ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เขารักก็รักเต็มที่แม้ว่าคนนั้นจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน กราฟไม่แคร์ขี้ปากชาวบ้าน ถ้าคนพวกนั้นไม่ใช่คนที่กราฟรัก ไปให้คุณค่าทำไม?

ผิดกับท็อปนี่ไม่ได้ แคร์ทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า
เพียงเพราะสาเหตุที่รู้ๆกันอยู่ นั่น คือ ยึดติดอดีต อีกตามเคย...


**มาอ่านตอนนี้ซ้ำอีกรอบ เออว่ะ!! แต่ละประโยคของพี่ฆีน  ...จัดว่าจุกแทบกระอักเลือดเลย...
แต่พี่ฆีนหวังดี จึงต้องพูดแรงๆเพื่อเตือนสติท็อปนะคะ ไม่งั้นท็อปจะไม่เปลี่ยนตัวเองสักที!!

3. ตายแล้ววววว!! ไม่คิดว่าจะมีคนชอบคู่เขต - เน ดีใจค่ะ เพราะตัวละครของเขตแทบไม่มีอะไรโดดเด่น แถมออกมานับครั้งได้ แต่ขนาดเราเขียนเองเราก็ชอบเขตนะ ไม่รู้เพราะอะไร งงเหมือนกัน? 55555+


4. สุดท้าย ขอบคุณอีกครั้งที่เข้าใจท็อปค่ะ น้องมีอดีตไม่ดีในวัยที่บริสุทธิ์เลยฝังใจจนเจ็บค่ะ

*** และขอให้คุณคนอ่าน ก้าวข้ามความกลัวในชีวิตให้ได้นะคะ...

สิ่งที่น่ากลัวกว่าความกลัว ก็คือ ความคิดของเราเอง

สู้ๆนะคะ ^^ ***


รักคนอ่าน


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 19 เลิกกัน(2)


 


      หลังจากที่คุณไอริณเห็นท็อปและพี่ฆีนกอดกันวันนั้น ไม่นานเรื่องก็ถึงหูผู้บริหารระดับสูงและพี่ดลถูกเรียกพบทันที แน่นอนล่ะว่าปัญหาก็ตามมาอย่างที่คาดคิดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน


      ฟากพี่ดล พอรู้เรื่องนี้ถึงกับกุมขมับ เรียกท็อปและพี่ฆีนเข้าห้องประชุมด่วน เพื่อสอบถามรายละเอียดชัดๆจากปากจนได้คำตอบทุกอย่างว่าเรื่องที่พี่ดลได้ยินก่อนหน้านั้นเป็นความจริง พี่ดลเครียดไม่น้อย เพราะเรื่องนี้ เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้บริหารพอสมควร เขาเสียดายความเป็นคนเก่งและมีความสามารถของพี่ฆีน จึงคิดหาทางช่วยเจรจากับทางผู้บริหารให้อีกหน แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล เพราะผู้บริหารไม่สบอารมณ์กับกรณีที่ผู้ชายคบกันเสียด้วย



       ต้องยอมรับว่าในสังคมวงกว้าง ยังมีคนรับไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก ทางผู้บริหารกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงให้ข้อสรุปเรื่องนี้ คือ พี่ฆีนและท็อปโดนเลิกจ้าง โดยมีการจ่ายค่าชดเชยให้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งมีผลอนุมัติในการให้ออกจากบริษัทภายในระยะเวลาสิบห้าวัน



      ทั้งสองก้มหน้ายอมรับชะตากรรมกับผลลัพธ์ที่มันออกมา และไม่คิดโทษใครทั้งสิ้น เพราะฆีนและท็อปดันเอาปัญหามาสะสางในที่ทำงาน มันก็สมควรแล้วที่ต้องโดนเช่นนี้


     ส่วนคนต้นเรื่องที่คาบข่าวไปบอกอย่างคุณไอริณ พอรู้ว่าพี่ฆีนเป็นเกย์ก็ช็อคพอสมควร...



      จากคนที่เคยหลงใหลได้ปลื้มพอรู้เรื่องรสนิยม เวลาพบหน้าพี่ฆีนโดยบังเอิญ คุณไอริณก็ทำท่าทางรังเกียจพี่ฆีนอย่างเห็นได้ชัด ฟากฆีนไม่ได้สนใจ เพราะเขายอมรับตัวเองได้ ในเมื่อเขาไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ทำไมต้องมานั่งสนใจสายตาคนที่รับไม่ได้ในสิ่งที่เขาเป็นด้วยล่ะ...จริงไหม?


       และดูเหมือนว่า เหตุการณ์นี้จะไม่จบลงง่ายๆ เพราะจากเรื่องที่ควรจะเงียบหาย กลับกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ของบริษัท ที่ไม่รู้ว่าเรื่องหลุดรอดไปได้อย่างไร ทั้งที่ความจริงมีเพียงผู้บริหารเท่านั้นที่รู้ ซึ่งพนักงานแผนกอื่นพอเห็นพี่ฆีนก็มองแล้วซุบซิบนินทากันใหญ่ ฆีนก็เดินผ่านนิ่งๆตามปกติอย่างไม่สนใจ เพราะมันเป็นความจริงที่ฆีนไม่คิดหนีอยู่แล้ว


       ส่วนคนในแผนกเอง พอได้รู้ข่าว ก็ไม่ได้นึกรังเกียจ แต่ตกใจมากกว่าที่รู้ว่าพี่ฆีนเป็นเกย์ เพราะพี่ฆีนดูไม่มีลักษณะไปทางนั้นเลย แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก คือเรื่องที่รู้ว่าพี่ฆีนและท็อปคบกัน เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน ท็อปเพิ่งพาแฟนที่เป็นผู้หญิงมาเปิดตัวอยู่เลย แต่เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกคนจึงไม่กล้าถามอะไร...ได้แค่ปลอบใจและมุ่งมั่นกับการทำงานต่อไปอย่างเช่นทุกวัน




......................



       ผ่านพ้นไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่ผลการเลิกจ้างถูกระบุมา เหลือเวลาอีกแค่แปดวันเท่านั้น ที่ทั้งสองต้องพ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้



     เวลาที่ล่วงเลยมา ดูเหมือนว่าพี่ฆีนตั้งใจหลบหน้า เพราะไม่เข้ามาที่บริษัทเลย ซึ่งท็อปมักรู้ข่าวจากพี่กั๊กที่บอกว่า พี่ฆีนออกไปทำงานข้างนอก ยังดีที่ตั้งแต่มีเรื่องมีราว พี่ๆที่แผนกก็ไม่มีใครถามอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากคงเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กลับเลือกที่จะให้ความสนใจด้วยการปฏิบัติต่อท็อปอย่างเอ็นดูและดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ



     ในตอนแรก ท็อปยอมรับว่าอายและกลัวเมื่อเรื่องถูกแพร่กระจายไป แต่พอเห็นพี่ๆทุกคนทำตัวเหมือนเดิม ท็อปก็ดีใจและค่อยๆคลายความกลัวลง แต่สิ่งที่กลัวในตอนนี้ คือ ท็อปกลัวไม่ได้เจอพี่ฆีนอีก เพราะเขาเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดพี่ฆีน ดังนั้น ท็อปต้องหาวิธีง้อพี่ฆีนอีกครั้ง เผื่อจะได้กลับมารักกันเหมือนเดิม



     วันนี้ ซึ่งตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ท็อปไม่ลุกไปไหน เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องนอน ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ซึ่งเรื่องอกหักช้ำรัก ทางครอบครัวของท็อปยังไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างพลและกราฟ ท็อปก็ปิดปากเงียบเช่นกัน



      ระยะเวลาที่เลิกรากันนั้น ท็อปร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึงพี่ฆีนและรู้สึกอยากตายตลอดเวลา แต่เพราะใจไม่กล้าพอและคิดว่าขอต่อเวลาตัวเองด้วยการหาทางง้อพี่ฆีนอีกครั้ง


       
      บนเตียงนอนที่มีร่างเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ใบหน้ายังมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ ท็อปยังคงร้องไห้ไม่หยุดเพราะนึกถึงวันเวลาเก่าๆที่มีแต่สองเรา เวลานี้ ยิ่งเปิดเพลงเศร้าคลอเคล้าด้วยแล้ว ในใจของท็อปยิ่งดำดิ่งลงสู่ความอ้างว้าง โหวงเหวง และโดดเดี่ยวเหลือเกิน เพราะตั้งแต่ที่พี่ฆีนไม่อยู่เคียงข้าง ชีวิตท็อปช่างดูว่างเปล่าและเหมือนไม่เหลืออะไรแล้ว

 
      คนที่เคยใกล้ คอยดูแล ห่วงใยอย่างรู้ใจ วันนี้ ไกลห่าง...


      คนที่เคยรักกันมาก ต้องมาจากกันไป


      คนๆนั้นที่ว่ามา... ท็อปได้ทำหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย 


      ความรักของท็อปที่เคยมีอยู่จริงได้สูญหาย เหลือไว้แต่ความทรงจำที่บรรจุอยู่ในหัวสมองและหัวใจท็อปเท่านั้น

     
      ในระหว่างที่ท็อปนอนน้ำตาไหลหวนคิดถึงอดีต เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดความคิดที่ผุดขึ้นในหัวสมอง ท็อปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของกราฟ ท็อปรับสายทั้งๆที่เสียงอู้อี้จนกราฟจับอาการได้ว่าท็อปแปลกไปจึงคาดคั้นเอาคำตอบ สุดท้าย ท็อปคิดว่าการได้ระบายให้ใครได้ฟังคงดีเหมือนกัน



      ท็อปยังไม่บอกเรื่องสำคัญผ่านทางปลายสาย เขาตัดสินใจนัดกราฟและฝากบอกให้ชวนพลมาด้วย

 
      จนกระทั่ง ทั้งสามมาถึงร้านกาแฟชื่อดังในห้างสรรพสินค้า เพื่อนๆตกใจเมื่อเห็นสภาพท็อปดูโทรมอย่างไม่น่าเชื่อ


      ทุกคนไม่เซ้าซี้ เพียงแต่นั่งนิ่งรอให้ท็อปเปิดปากพูดเอง ท็อปเงียบอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวความรัก ว่าเขาแอบคบกับพี่ฆีน และเล่าถึงสาเหตุที่มีปัญหาจนต้องเลิกกันด้วย ซึ่งท็อปก็ขอโทษเพื่อนๆซ้ำๆที่เรื่องนี้ ไม่ยอมบอกกล่าวกันก่อน


      ฟากพลและกราฟได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเข้าใจอารมณ์ท็อปตอนนี้ แม้จะสงสัยในตอนแรกที่ท็อปปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ชอบผู้ชาย แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงมาคบกับพี่ฆีนได้ แต่เพราะเห็นสีหน้าของท็อปแล้วไม่มีใครอยากถามหรือซ้ำเติมเท่าไหร่


      ตลอดการนั่งฟังที่ท็อปเล่ามา กราฟคิดว่า ปล่อยท็อปไว้คนเดียวน่าจะอันตราย เพราะกลัวท็อปคิดสั้น ฆ่าตัวตาย กราฟจึงเอ่ยขึ้น


"ช่วงนี้ มึงอย่าเพิ่งอยู่คนเดียวเลย มึงควรมีเพื่อน กูจะพามึงไปอยู่ห้องพี่ฆิต  เดี๋ยวกูนอนด้วย"
กราฟบอก เพราะบางที การให้ท็อปไปนอนห้องพี่ฆิต กราฟอาจจะขอความร่วมมือให้คนรักช่วยเรื่องพี่ฆีนด้วย


"ไม่เป็นไร กูเกรงใจพี่ฆิต" ท็อปบอก


"มึงเห็นพวกกูเป็นเพื่อนหรือเปล่าวะ? เพื่อนมีไว้ทำไม? มันต้องอยู่ได้ทั้งสุขและทุกข์ดิวะ ส่วนเรื่องพี่ฆิตมึงไม่ต้องเกรงใจ พี่ฆิตแฟนกู กูขอร้องแค่นี้ เขาทำให้กูได้อยู่แล้ว"
กราฟบอกอย่างมั่นใจ


       ท็อปยกมือเช็ดน้ำตาตัวเอง ก่อนตอบ


"ขอบใจนะ เห็นไหม กูถึงชอบบอกพวกมึงบ่อยๆว่ากูดีใจที่มีพวกมึงเป็นเพื่อนไง กูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ"



     ตั้งแต่ท็อปเกิดมา มีพลและกราฟที่ทำให้ท็อปรู้ว่าเพื่อนรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร ทั้งสองยิ้มกว้างและตบบ่าท็อปให้กำลังใจ พร้อมบอกว่า ท็อปก็เป็นเพื่อนที่ดีเช่นเดียวกัน


      ระบายความในใจมาได้ระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่กราฟและพลพาท็อปนั่งรถแท็กซี่กลับไปบ้านเพื่อช่วยกันเก็บเสื้อผ้าพาท็อปไปนอนที่คอนโดของพี่ฆิต


      จัดการเรื่องเสื้อผ้าของท็อปเรียบร้อย ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดของพี่ฆิตทันที


      ดูเหมือนว่า นอกจากห้องของฆิตจะกลายเป็นแหล่งสังสรรค์แล้ว ห้องของเขายังกลายเป็นแหล่งปรับทุกข์อีก เพราะตั้งแต่เนกลับบ้านไปเพราะพ่อโทรตาม ท็อปก็เข้ามาแทนที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน


      แต่ก่อนจะเดินทางไปถึงที่หมาย กราฟส่งข้อความไปบอกพี่ฆิตให้รู้เรื่องท็อปคร่าวๆจะได้ไม่ตื่นตกใจ


      ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสาม ถึงคอนโดพี่ฆิตเป็นที่เรียบร้อย ฆิตเดินมาเปิดประตูต้อนรับก็แอบตกใจ เมื่อเห็นท็อปดูผิดไปกว่าที่เคย เด็กหนุ่มที่มีผิวพรรณขาว สดใสกลับโทรมและหมองคล้ำ ไร้สง่า ราศี ร่างกายก็ผ่ายผอมจนฆิตเห็นแล้วสงสาร


"ผมรบกวนมานอนห้องพี่ฆิตหน่อยนะครับ" ท็อปว่าเสียงแผ่ว
 

"ไม่รบกวนเลยท็อป ดีซะอีก พี่จะได้ไม่เหงา" ฆิตยิ้มอบอุ่น ฟากท็อปยกมือไหว้ขอบคุณ



      หลังจากที่ท็อปเดินเข้าไปเก็บสัมภาระในห้องนอนเล็กของพี่ฆิตเรียบร้อยแล้ว เขาเดินมาหาเพื่อนๆที่นั่งรอกันอยู่ที่โซฟาด้วยแววตาที่มองมาอย่างเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา


      ท็อปกอดเข่าอยู่บนโซฟาอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ดวงตาก็เหม่อลอย ทอดสายตาอย่างไม่มีจุดหมาย ด้านพลและกราฟต่างลูบหลัง ลูบไหล่ แต่ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เวลาพาความรู้สึกที่ท็อปพร้อมเมื่อไหร่ก็คงอยากบอก อยากเล่าออกมาเอง

     
     ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคนรักได้ทำให้ท็อปร้องไห้อีกครั้ง เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้น ท็อปก็เปรยขึ้นมา


"พวกมึงอยากรู้ไหมว่า ทำไมกูต้องปิดบังเรื่องที่กูชอบผู้ชาย"



       พลและกราฟพยักหน้าแทนคำตอบ


"ต้นเหตุมาจากอดีตอันน่าสมเพชของกูเอง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง..."



       และอดีตอันเลวร้ายของท็อปที่เก็บเป็นความลับมานานกำลังจะถูกเปิดเผย เพราะท็อปไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนในชีวิต


       นี่จะเป็นครั้งแรกที่ท็อปจะบอกคนอื่นให้รู้อย่างไม่เหลืออะไรให้อายอีกแล้ว...


 


.........................................

ห้ามพลาดดดด!!!!

กับตอนต่อไปของเด็กชายทินภัทร์ อัตถขจร น้องท็อปในวัยเพียง 13 ปี

พื้นที่ขอสปอยล์ในตอนหน้า 'อดีตฝังใจ' จ้าาาาาาา


******

"ท็อปชอบพี่ใช่ไหม?" โฟล์ทย้ำหนักแน่น ฟากท็อปเบิกตากว้างอย่างตกใจและอายเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่รู้ความในใจ

      เด็กน้อยนั่งคิดในใจว่าจะทำอย่างไรดีนะ ถ้ายอมรับออกไป ท็อปจะผิดหวังหรือเปล่า?

"พี่โฟล์ทดูออกด้วยหรอครับ?"

"ตอนแรกก็ดูไม่ออกหรอก แต่พี่มาสังเกตว่า คนเราจะเดินหน้าแดงได้ตลอดเวลาเลยหรือ? มันไม่น่าจะใช่นะ ก็เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าท็อปน่าจะชอบพี่ใช่ไหมล่ะ ฮึ?" พี่โฟล์ทว่าพลางกลั้วเสียงหัวเราะ



******

"พี่อยากลองจูบท็อป ได้ไหม?"

   ไม่จริงใช่ไหม? คนที่ท็อปแอบชอบขอจูบกันโต้งๆ เด็กน้อยนั่งกระพริบตาปริบๆและเงียบเพื่อตัดสินใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2017 23:35:15 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ติดตามจ้า  ดราม่ามากเลยนะ  โดนเลิกจ้างทั้งคู่เลย  เหอๆๆ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มุมมองแคบไปนั สำหรับบริษัทนี้,,,

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

ตอนที่ 20 อดีตที่ฝังใจ





     คนส่วนใหญ่ย่อมเคยมีอดีตฝังใจจนกลายเป็นปมด้อยลึกๆอยู่ในจิตใต้สำนึก และบางครั้งก็เผลอซ้ำเติมตัวเองด้วยการแสดงออกไปในทางที่แย่โดยไม่รู้ตัว



      ย้อนกลับไปในอดีตอันเลวร้ายที่กลายเป็นตราบาปอย่างไม่มีวันลบออกไปจากใจ ของเด็กชายทินภัทร์ อัตถขจร น้องท็อปในวัยเพียง 13 ปี


      เด็กหนุ่มใส ซื่อตามวัย มีผิวพรรณเนียนขาวสะอาดสะอ้าน หน้าตาน่ารักมากกว่าจะดูหล่อในสมัยนั้น


      ครั้งวัยเยาว์ ท็อปเป็นเด็กที่โลกสดใสคนหนึ่ง เขาเป็นคนว่านอนสอนง่าย และขี้อ้อนมาก แต่กับแค่แม่และพี่ชายของตัวเองเท่านั้น


      จุดเปลี่ยนของท็อปเริ่มขึ้นในครั้งที่เรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ท็อปเป็นเด็กหัวปานกลาง ไม่เก่ง แต่ก็ไม่ทำตัวเกเรให้พ่อแม่เดือดร้อน ช่วงนั้น ท็อปมีเพื่อนสนิทสามคน ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด


      ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี ถ้าหัวใจของเด็กชายทินภัทร์ไม่เผลอมอบความรักให้ใครคนหนึ่ง


      ในตอนนั้น เด็กชายทินภัทร์ไม่รู้จักคำว่าเกย์ว่ามันหมายความว่าอย่างไร เขารู้เพียงแค่ว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น มีความแตกต่างจากสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะรู้ตัวเองดีว่าชอบผู้ชายและหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นคนที่ชอบ ช่างเหมือนสาวแรกแย้มไม่มีผิด


      และผู้ชายคนแรกที่ท็อปชอบจนกลายเป็นจุดหักเหของชีวิต นั่นคือ...



      พี่ 'โฟล์ท' รุ่นพี่มัธยมศึกษาชั้นปีที่สี่ สำหรับเด็กมัธยมแล้ว พี่โฟล์ทถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตัวสูง ลุคดูแบดบอยมากในยุคนั้น ที่สำคัญ เป็นรุ่นพี่ที่ดังที่สุดในระดับชั้นมอปลาย จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครต่างพากันรู้จักชื่อเสียงเรียงนามพี่โฟล์ทกันอย่างกว้างขวาง



       ต้นเหตุของการแอบชอบเริ่มมาจาก วันหนึ่ง ท็อปมีเรียนวิชาพละแล้วต้องเดินผ่านสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นจังหวะที่พี่โฟล์ทเล่นบอลกับเพื่อนๆ



     คงเพราะออร่าแผ่กระจายทำให้พี่โฟล์ทดูโดดเด่นกว่าใคร โดยเฉพาะเวลาเล่นบอลที่ต้องวิ่งไล่ลูกบอลกลางแดด จนเหงื่อไหลราวกับสายน้ำ ทำให้เสื้อนักเรียนของพี่โฟล์ทเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจนเสื้อแนบลำตัว ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้น่าหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ





     ตั้งแต่วันนั้น ท็อปพยายามสืบเสาะหาข้อมูลของพี่โฟล์ท จนได้ตารางเรียนมาและช่วงไหนที่พี่โฟล์ทรวมตัวเตะบอลกับเพื่อนๆ ท็อปยืนด้อมๆมองๆและพยายามเดินเลียบๆเคียงๆไปทางสนาม

 

     จนกระทั่งวันหนึ่ง ท็อปทำเช่นนี้เหมือนเดิม เขาเดินเลาะสนามไปแต่ดันเป็นจังหวะซวยที่เพื่อนพี่โฟล์ทเตะบอลออกนอกสนามมาลงตรงศรีษะท็อปพอดี

 

     แต่ท็อปก็ไม่คิดหรอก ว่าความซวยจะกลายเป็นความโชคดี เมื่อพี่โฟล์ทเป็นคนที่วิ่งมาเก็บลูกบอลแล้วพูดกับท็อปด้วยเสียงนุ่ม

 

"เจ็บไหม? น้อง"

 

"ไม่ครับ"
ท็อปตอบพลางหลุบสายตาลงต่ำ เพราะใจสั่นและเขินจัดที่คนที่ชอบมาอยู่ใกล้แค่เอื้อม




      พี่โฟล์ทตะโกนบอกเพื่อนอะไรสักอย่าง ซึ่งท็อปมึนเบลอเกินกว่าจะสนใจคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเอง พี่โฟล์ทกอดคอท็อปพาไปนั่งที่แสตนด์ข้างสนามฟุตบอล



"พี่ขอดูหน่อยสิ เมื่อกี้ลูกบอลโดนตรงไหน?"


 
      ท็อปยังคงก้มหน้า แต่ยกมือชี้บริเวณที่โดน ฟากพี่โฟล์ทคลำศรีษะของท็อปจนสัมผัสได้ถึงเนื้อที่ปูดโน



"หัวโนเลยนี่หว่า พี่ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะ"



     ท็อปหน้าร้อนและคงแดงจัดแล้ว เขาก้มหน้างุดไม่กล้ามองคนที่พูดจาช่างเป็นสุภาพบุรุษ

 

"ร้อนหรือ? ทำไมหน้าแดง หูแดงขนาดนั้น น้องชื่ออะไรล่ะ ฮึ?"

 
"ทะ...ท็อปครับ"
ทุกบทสนทนา ท็อปไม่ได้เงยหน้าเลยสักนิดเดียว

 

"พี่ชื่อโฟล์ทนะ อยู่มอสี่ เราอยู่มออะไร"


"ม...มอหนึ่งครับ"




"หืม...เด็กจัง แต่ก็น่ารักดี"

 



     และนั่นคือจุดที่ทำให้ท็อปและพี่โฟล์ทได้สานสัมพันธ์คุยกันต่อหลังจากนั้น...



     การพบเจอกันทำให้มีการแลกเบอร์โทรศัพท์และทั้งสองคุยกันมาเรื่อยๆ... มีบ้างที่เลิกเรียนแล้วพี่โฟล์ทชวนท็อปไปนั่งกินไอศกรีม หรือไม่ก็ดูหนังกันที่ห้างสรรพสินค้า



     จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองเดือนกว่าๆ


     วันหนึ่ง ช่วงเลิกเรียน พี่โฟล์ทนัดท็อปมานั่งที่ลานม้าหินอ่อนแถวหลังโรงเรียน ซึ่งตอนนั้น เด็กนักเรียนเริ่มบางตาลงบ้างแล้ว



      นั่งกันได้ไม่นาน โฟล์ทกุมมือท็อปแล้วเอ่ยขึ้น


"ท็อปชอบพี่ใช่ไหม?" ฟากท็อปเบิกตากว้างอย่างตกใจและอายเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่รู้ความในใจ



"ห้ะหา... พี่โฟล์ทว่าอะไรนะครับ"
ท็อปหน้าแดงทันที นี่เขาก็ไม่ค่อยแสดงออกเลยนี่นา ทำไมพี่โฟล์ทถึงรู้ได้

 

"ท็อปชอบพี่ใช่ไหม?"
โฟล์ทย้ำถามประโยคเดิมอีกครั้ง



      เด็กน้อยนั่งคิดในใจว่าจะทำอย่างไรดีนะ ถ้ายอมรับออกไป ท็อปจะผิดหวังหรือเปล่า?


"พี่โฟล์ทดูออกด้วยหรอครับ?"


"ตอนแรกก็ดูไม่ออกหรอก แต่พี่มาสังเกตว่า คนเราจะเดินหน้าแดงได้ตลอดเวลาเลยหรือ? มันไม่น่าจะใช่นะ ก็เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าท็อปน่าจะชอบพี่ใช่ไหมล่ะ ฮึ?"
พี่โฟล์ทว่าพลางกลั้วเสียงหัวเราะ



    ฟากท็อปเงยหน้ามองพี่โฟล์ทครู่หนึ่งก็เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจนใจละลาย ท็อปรีบหลุบสายตาลงต่ำ เขาใจเต้นแรงจนกลัวหัวใจวาย



     เพราะแววตาและรอยยิ้มพี่โฟล์ทแสดงออกมาช่างดูเหมือนว่าพี่เขามีใจให้ท็อปเลย...



     ในระหว่างที่ท็อปนิ่งงันนั้น อยู่ดีๆ พี่โฟล์ทดันคางท็อปให้เงยขึ้นมาประสานสายตากันและพูดในสิ่งที่ท็อปอึ้ง


"พี่อยากลองจูบท็อปได้ไหม?"



     ไม่จริงใช่ไหม? คนที่ท็อปแอบชอบขอจูบกันโต้งๆ เด็กน้อยกระพริบตาปริบๆและนั่งเงียบเพื่อตัดสินใจ

 
"น้องท็อปอย่าทำเป็นไม่ได้ยินน่า ให้พี่ลองจูบนะครับ"

 

     ท็อปนั่งคิดกัดปากแน่น เขาอยู่แค่มอหนึ่งเองนะ ยังอ่อนต่อโลก และไม่ประสี ประสาเรื่องรักสักเท่าไหร่ อีกทั้ง ความรู้เรื่องเพศค่อนข้างต่ำและไม่ค่อยเข้าใจด้วย


      แล้วการจูบนี่ คือต้องทำอย่างไร เพราะเด็กชายทินภัทร์ไม่เคยจูบใครมาก่อน กลัวจะทำตัวเปิ่น เด๋อด๋าใส่พี่โฟล์ทจังเลย


     ในระหว่างที่ท็อปยังหาคำตอบให้พี่โฟล์ทไม่ได้...ขณะนั้น โฟล์ทถือวิสาสะโน้มตัวไปจูบท็อป รุ่นพี่ขบเม้มริมฝีปากบนและล่างอย่างหยอกเย้า


       ท็อปเหวอและตกใจที่พี่โฟล์ทจูบโดยไม่ขอก่อน ท็อปยอมรับว่าเกร็งมาก เพราะทำไม่เป็น แต่จากความเงอะๆงะๆก็ผ่อนคลายและพยายามเรียนรู้ตามคนที่รุกก่อน


       เพิ่งรู้ว่าการได้จูบกับคนที่แอบรัก มันดีอย่างนี้นี่เอง...


 
       สัมผัสอันอบอุ่น นุ่มหยุ่น ทำท็อปใจเต้นตึกตักและรู้สึกเหมือนได้ขึ้นรถไฟเหาะ มันดีมากจริงๆ...


       เพราะโอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ การได้จูบคนที่เราชอบทำให้ท็อปลืมไปเลยว่าตอนนี้เขายังอยู่ในสถานศึกษา


       ท็อปเคลิบเคลิ้มกับจูบพี่โฟล์ทที่ตอนแรกเริ่มด้วยความนิ่มนวล ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ร้อนแรงจนวาบหวามหัวใจ


       เด็กชายทินภัทร์ดึงสติกลับมาเมื่อมือหนาของอีกฝ่ายรูดซิปกางเกงท็อปลง ก่อนจะล้วงเข้าไปในกางเกงนักเรียนของเด็กหนุ่ม ลูบคลำ เค้นคลึงไปมา


      แม้ใจอยากผลักออก แต่มือกลับไม่รักดี ดึงพี่โฟล์ทเข้าหาและขยุ้มแขนเสื้อพี่โฟล์ทจนยับยู่ยี่



     ท็อปไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เขาเรียกว่ามีอารมณ์ทางเพศหรือเปล่า?


     ทำไมน้องชายของท็อปถึงมีปฏิกิริยาตื่นตัวและแข็งขึ้น ทั้งๆที่ตอนแรกยังอ่อนยวบอยู่เลย
 

      ท็อปไม่เข้าใจจริงๆถึงสิ่งที่โดนกระทำอยู่ แต่ท็อปรู้ได้อย่างเดียวว่าเขามีความสุขที่คนที่แอบรักทำแบบนี้ มันดีต่อใจจนท็อปปล่อยกาย ปล่อยใจไปตามผู้คุมเกมส์อย่างพี่โฟล์ท แต่ทันใดนั้นเอง...


"ไอ้เหี้ยโฟล์ท ทำอะไรวะ"

 

     ทั้งสองผละออกจากกันรวดเร็ว และเป็นโฟล์ทที่ลุกขึ้น ก่อนจะใช้สองมือผลักอกท็อปอย่างแรงจนเด็กหนุ่มตัวกระเปี๊ยกปลิวตกลงจากม้านั่งหินอ่อน หลุดร้องสบถเสียงดังลั่น


     โฟล์ทลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนสามคนที่ทำหน้าเหมือนผิดหวังในตัวของโฟล์ท



"มึงเป็นตุ๊ดหรือวะ ไอ้โฟลท์"


     โฟล์ทรีบละล่ำละลักบอก


"ปะ...เปล่านะเว้ย!! ขอบคุณว่ะที่มึงเรียกสติกู กูเพิ่งรู้ว่าน้องแม่งชอบกูและมาขอจูบ กูเผลอเหม่อแปปเดียว แม่งดึงกูไปจูบเฉยเลย...เหี้ยเอ้ย!...พากูไปห้องน้ำ ล้างปากหน่อยดิวะ โคตรแขยงปากเลยว่ะ..."
โฟล์ทใช้หลังมือปาดปากไปมา ก่อนจะถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างรังเกียจเดียดฉันท์


       เพื่อนโฟล์ทได้ยินดังนั้น ก็เกิดอาการไม่พอใจ ในวัยติดเพื่อน ความรักเพื่อนพุ่งพล่านจนไม่ได้คิดไตร่ตรองก่อนเลย หนึ่งในแก็งค์เพื่อนพี่โฟล์ททำท่าจะเข้ามาเตะท็อป ที่ยังนั่งอยู่ที่พื้น แต่โฟล์ทยกมือดันอกเพื่อนห้ามไว้ก่อน และหนึ่งในแก็งค์นั้นพูดขึ้น


"ไอ้เหี้ย!...หน้าด้านจริงๆเลยนะมึง ขนเพิ่งขึ้นไม่ทันไรก็คิดจะอ่อยแล้วหรอวะ...มึงจำไว้นะ....อีตุ๊ด เพื่อนกูดีเกินกว่าจะเอาตุ๊ดอย่างมึงทำเมียว่ะ หึๆ"



       ท็อปน้ำตารื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดถากถางที่มาพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเย้ยทับถมไปอีก ท็อปอึ้งเพราะไม่ทันตั้งตัวและได้อธิบายอะไรเลย


      มันไม่ใช่ความจริงสักหน่อย...ทำไมพี่โฟล์ทพูดอย่างนั้นล่ะ ก็เขาเป็นฝ่ายขอท็อปจูบก่อนแท้ๆ



      นี่หมายความว่าอย่างไร?  หรือแท้จริงแล้ว พี่โฟล์ทไม่ได้ชอบท็อปเลย?

 
      ทำไม อยู่ดีๆ ท็อปก็รู้สึกเจ็บปวด หน่วงในอกเหลือเกินกับคำด่าเหล่านั้น...


      นั่งประมวลเหตุการณ์ จนตอนนี้ ท็อปฉลาดขึ้นในบัดดล เมื่อรู้ว่าท็อปโดนหักอกแล้ว


      ความเจ็บจากการโดนผลักจนก้นกระแทกพื้นมันยังน้อยกว่าคำด่าและอาการเมินของพี่โฟล์ทที่ทำแบบนั้น...


      พี่โฟล์ทมาให้ความหวังท็อปทำไมกันครับ....


     เมื่อก๊วนของพี่โฟล์ทเดินจากไป เหลือเพียงความโดดเดี่ยว จู่ๆ ท็อปเจ็บหัวใจจี๊ดๆจนทรมาน เด็กชายทินภัทร์ยังนั่งอยู่ที่พื้น ร้องไห้สะอื้นจนต้องยกมือปิดหน้าปิดตาด้วยความอายพร้อมคำถามที่มีอยู่ในใจว่า...

     ทำไมล่ะครับ?


     การที่ท็อปชอบผู้ชายมันผิดมากเลยหรือแม่...ฮึกฮือออ...

 


 


****1.1****



ขอบคุณที่อ่านค่ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แมสมัยเด็กของท้อปน่าสงสาร,,,

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
น่าสงสารท๊อปอ่ะ พี่ฆีนจะรู้ไหมน่ะ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 20 อดีตที่ฝังใจ(2)





      หลังจากมีเรื่องวันนั้น พี่โฟล์ทเงียบและไม่ติดต่อท็อปอีกเลย เด็กชายทินภัทร์ทำใจแล้วว่าคงอกหักแน่นอนและพร่ำบอกกับตัวเองให้มันเป็นบทเรียนสอนใจแทนแล้วกัน



      ท็อปคิดว่าเรื่องระหว่างท็อปกับพี่โฟล์ทมันควรจะจบลงด้วยดี แต่ไม่กี่วันถัดมา เรื่องราวที่สมควรถูกลืมเลือนปลิวหายไปกับสายลม กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเรื่องนี้ ถูกเล่าขานกันปากต่อปาก อันเนื่องมาจากเพื่อนรุ่นพี่ที่เห็นวันนั้นไปกระจายข่าวเพิ่มเติม ผนวกกับแก็งค์พี่โฟล์ทดันเป็นกลุ่มใหญ่ประจำโรงเรียน เรื่องที่ท็อปชอบพี่โฟล์ทกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่เด็กนักเรียนต่างฮือฮา แถมข่าวลือหนาหูนั้นกลับใส่สีตีไข่เพิ่มจนแทบไม่เหลือเค้าโครงความจริง ข่าวพูดกันว่า ท็อปอยากได้พี่โฟล์ทจนตัวสั่นเลยขอจูบพี่โฟล์ทก่อน และหลังจากนั้น ท็อปตามไปบ้านพี่โฟล์ทเพื่อยอมนอนอ้าขา พลีกายให้พี่โฟล์ทมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเรียบร้อยแล้ว

 

     นี่แหละหนา...ปากของคนเรา คิดอยากจะพูดเสริมเติมแต่งอะไรก็พูดไป ขอแค่ความสนุกปาก คึกคะนอง โดยไม่คำนึงหรือสนใจว่ามันอาจสร้างปัญหาบานปลายจนส่งผลกระทบต่อคนที่จิตใจอ่อนไหวง่ายให้เขาคิดอยากฆ่าตัวตายก็เป็นได้...



     ช่างน่าอดสูยิ่งนัก ที่คนเรามักสนุกเพราะได้เห็นความอับอายขายขี้หน้าของคนอื่น จนมันกลายเป็นสินค้าของสังคม



     ไม่เพียงเท่านี้ ความเจ็บปวดไม่หยุดแค่ข่าวลือ เพราะหลายครั้งในช่วงเวลาเปลี่ยนคาบเรียน ที่ท็อปบังเอิญเจอกลุ่มพี่โฟล์ท  ท็อปจะโดนพวกกลุ่มรุ่นพี่ตะโกนแซวเสียงดังลั่น ไม่ว่าจะเป็น 'ตุ๊ดน้อย!' 'ตุ๊ดหัวโปก' 'น้องตูดบาน' และเสียงหัวเราะไล่ตามหลัง จนคนที่เดินผ่านไป ผ่านมา มองท็อปเป็นสายตาเดียว



     เด็กชายทินภัทร์ฝืนเดินผ่านและไม่พูดอะไร ทั้งๆที่อายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี การแซวแบบนั้นส่งผลร้ายแรงให้กับชีวิตของเด็กชายทินภัทร์ในเวลาต่อมา เมื่อเพื่อนๆท็อปที่เคยสนิทสนมก็เริ่มเหินห่างเพราะอายที่จะมีเพื่อนเป็นตัวตลกของกลุ่มดังระดับโรงเรียน





       ท็อปยังไม่มีโอกาสได้บอกความจริง เพื่อนๆก็ตีตัวออกห่างและเด็กชายทินภัทร์ก็กลายเป็นคนไม่มีเพื่อนนับตั้งแต่บัดนั้นมา

 

       เมื่อไม่มีใครคบ ท็อปต้องไหว้วานแม่ให้ทำกับข้าวมื้อเที่ยงไปกินที่โรงเรียนทุกวัน ส่วนเวลามีรายงานกลุ่ม ท็อปก็โดนบังคับให้ทำรายงานเพียงคนเดียวเพื่อแลกกับการมีรายชื่อของตัวเองอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ...





       ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ทำให้ท็อปเสียความรู้สึกก็มาจากคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนในห้องเริ่มแกล้งท็อปเสียเอง หนักสุดก็เห็นจะเป็นการแปะโพสต์อิทไว้ที่หลังเสื้อนักเรียนของเด็กชายทินภัทร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งข้อความเขียนว่า

 

    'เป็นตุ๊ดครับ เชิญเอาตูดได้'

   



       ตั้งแต่มีเรื่อง ไม่มีวันไหนที่ท็อปไม่ร้องไห้เลย เขากลับมาจากโรงเรียนด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจว่า แค่เขาชอบผู้ชาย มันผิดขนาดนั้นเลยหรือ?



        เป็นอย่างนี้มาปีกว่าที่ทุกอย่างไม่ดีขึ้นจนเด็กชายทินภัทร์เครียดจนไม่อยากไปโรงเรียน ทำให้หลังๆมา ท็อปเริ่มโดดเรียน เพราะไม่อยากไปพบเจอหน้าใครอีก

 

        แต่แล้วความซวยก็ยังมาพาลพบ เมื่อวันหนึ่ง ท็อปเดินห้างสรรพสินค้า ดันเจอสารวัตรนักเรียนจับได้ เรื่องถึงฝ่ายปกครอง แต่ยังดีคนที่มาเจรจา เป็นพี่แทนเลยทำให้เรื่องไม่ใหญ่โตกว่าเดิม เพราะถ้าเป็นพ่อ ท็อปรู้เลยว่า คงโดนทำร้ายร่างกายไปแล้ว

 

       ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ ท็อปแย่แน่ๆ เขาทนไม่ไหว ตัดสินใจบอกแม่ขอย้ายโรงเรียนเพราะมีปัญหากับเพื่อน แม่ตบปากรับคำว่าจะช่วยพูดกับพ่อให้  เด็กชายทินภัทร์กลัวพ่อมาก เพราะพ่อเป็นทหาร ค่อนข้างดุและเคร่งครัดในระเบียบวินัย มีความขึงขัง แข็งแกร่งดั่งชายชาติทหาร และที่สำคัญกว่านั้น พ่อท็อปเกลียดเกย์เข้าไส้ ท็อปเคยได้ยินพ่อพูดบ่อยๆ ถึงรู้เหตุผล

 

      นั่นจึงเป็นจุดที่ท็อปต้องยิ่งกดความชอบไม่ให้ใครรู้และจับได้เรื่องรสนิยมที่ชอบผู้ชาย รวมถึงบุคลิกภาพภายนอกท็อปก็ต้องฝืนตัวเองแสดงออกด้วยความเป็นชายแท้โดยสมบูรณ์

 

      มันทรมานมากแค่ไหนกับสิ่งที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่แสดงออกไม่ได้ ท็อปเก็บกดมาโดยตลอด จนหัวสมองมีแต่เรื่องของการคิดฆ่าตัวตาย



     และแล้วก็มีโอกาส เมื่อวันหนึ่ง พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน พี่ธัญไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนพี่แทนไปทำธุระยังไม่กลับ เด็กชายในวัยมอสองคว้าเชือกไนล่อน มาผูกยึดกับราวแขวนเสื้อในตู้เสื้อผ้า เพื่อหวังจะปลิดชีพตัวเองให้จบปัญหานี้เสียที



     เด็กชายทินภัทร์มัดปมเงื่อนเสร็จเรียบร้อย พร้อมสวมเข้าคอตัวเอง แต่เสี้ยววินาทีนั้น พี่แทนที่ตั้งใจซื้อขนมมาฝากน้องชาย เปิดประตูเข้าห้องมาเห็นภาพตรงหน้า ถึงกับช็อคและวิ่งถลามาดึงเชือกออกและกอดท็อปแน่นจนท็อปตกใจ



     อ้อมกอดอบอุ่นที่เจือด้วยความรักแผ่ซ่านไปถึงหัวใจของเด็กชายทินภัทร์ และเสียงสะอื้นร้องไห้ของพี่แทนพร้อมคำพูดย้ำๆว่ารักทำให้ท็อปดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันและไม่คิดวู่วามอีก เพราะท็อปรู้เลยว่า เขายังมีครอบครัวเป็นที่พึ่งสุดท้าย



     คำว่ารักและอ้อมกอดของพี่แทนนั้น เป็นเหมือนสายน้ำชะโลมหัวใจให้เด็กหนุ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง และจุดพีคที่ทำให้ท็อปใจสั่น เมื่อพี่แทนจูบซับที่เปลือกตาของเด็กหนุ่มพร้อมบอกว่าจากนี้จะคอยอยู่เคียงข้างท็อปตลอดไป นั่นจึงเปลี่ยนความคิดของท็อปไม่คิดฆ่าตัวตาย รวมไปถึงความรักที่ท็อปมีให้พี่แทนก็ไม่ใช่แบบพี่ชายอีกต่อไป...



     และพี่แทน คือ ผู้ชายที่ท็อปรัก เป็นคนที่สอง...

 

      พี่แทน เป็นลูกชายคนโตและเป็นที่ปลาบปลื้มของพ่อพอสมควร เพราะเขาสามารถทำตามคำสั่งของพ่อได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง



      พี่แทน คือ ส่วนผสมผสานของความเป็นพ่อและแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขามีทั้งความเข็มแข็ง เด็ดเดี่ยวเป็นผู้นำ แต่ในทางกลับกัน เขาก็อ่อนโยน นุ่มนวลได้อย่างไม่น่าเชื่อ พี่แทนไม่เคยใช้บทโหดกับท็อปมีแต่เอ็นดูและปกป้องท็อปเสมอ





      และตั้งแต่วันที่ท็อปฆ่าตัวตาย พี่แทนไม่แพร่งพรายบอกใคร แถมดูแลและเป็นห่วงเป็นใยไม่ยอมให้ท็อปคลาดสายตาสักวินาทีเดียว



       ที่สำคัญ พี่แทนกลัวน้องชายคิดสั้นอีก จึงบังคับให้ท็อปมานอนที่ห้องด้วยกัน และทุกเช้าที่ตื่นมา ท็อปมักเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมกอดพี่แทน เด็กหนุ่มเคยถามก็ได้คำตอบว่า ท็อปนอนผวาตลอด พี่แทนเลยต้องกอดให้คลายกังวล



      พี่แทนเข้ามาเติมเต็มความรักในวันที่ท็อปขาดหายและไม่เคยได้รับจากใคร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ท็อปรักพี่แทนมากขึ้นกว่าเดิม



      จากนั้นไม่นาน ช่วงเวลาที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นของท็อปได้ผ่านพ้นไป เมื่อแม่ขอพ่อเรื่องย้ายโรงเรียนให้ท็อปได้สำเร็จ

   

     เด็กชายทินภัทร์ได้เข้าสถานศึกษาแห่งใหม่ ในขณะที่กำลังขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม

 

     ท็อปพร่ำบอกกับตัวเองว่า จากนี้เขาจะเข็มแข็ง ทำตัวแกร่งไม่ยอมให้ใครมาวางอำนาจบาตรใหญ่ใส่อีกต่อไป     



     เด็กชายทินภัทร์รู้สาเหตุแล้วว่าการชอบผู้ชายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ท็อปไม่เป็นที่รักและยอมรับในสังคม ท็อปจึงกดข่มความรู้สึกชอบผู้ชายฝังลึกลงไปในจิตใจ ไม่ยอมแสดงออกให้ใครรับรู้ เพียงเพราะอยากมีพื้นที่ยืนในสังคมเท่านั้นเอง



      เมื่อท็อปย่างกรายมา ณ สถาบันการศึกษาแห่งใหม่ ชีวิตเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ อาจเป็นเพราะท็อปเป็นคนผิวขาว หน้าตาดีเป็นทุนเดิม พอเข้าโรงเรียนใหม่ ท็อปกลายเป็นคนฮอตประจำโรงเรียน มีผู้หญิงเข้ามาจีบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องหรือแม้กระทั่งรุ่นเดียวกัน จนท็อปไม่คิดว่าเขาจะได้ชีวิตที่ดีกลับคืนมาอีกครั้ง



       เมื่อรู้ว่าทำแบบนี้แล้วดี ท็อปจึงหันหลังให้กับสิ่งที่ตัวเองเป็น



      ไม่น่าเชื่อว่า จากคนที่โดนล้อจนเคยคิดฆ่าตัวตาย เวลานี้ ชีวิตในรั้วโรงเรียนแห่งใหม่กลับดำเนินไปได้อย่างสวยงาม




       ท็อปได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไปโรงเรียนก็ไม่ต้องเครียดอะไร แถมกลับมาบ้านก็ยังเจอคนที่เขารักได้ทุกวัน



      เวลาถึงวันหยุด ท็อปชอบใช้เวลาอยู่กับพี่แทนเป็นส่วนใหญ่ไปขลุกอยู่ในห้องพี่แทนและดูหนังด้วยกัน ซึ่งหนังส่วนใหญ่ที่ดูก็ไม่พ้นความชื่นชอบของพี่ชาย คือ หนังแนวสงคราม ทหาร และประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้ท็อปชอบตามไปด้วย

 

      Black hawk down และ We Were Soldiers  คือหนังโปรดของพี่แทน และล่าสุด คือ Fury



     ทุกครั้งที่ดูหนัง ท็อปชอบนอนซบบนอกพี่แทน แต่เพราะท็อปเป็นคนขี้อ้อนอยู่แล้ว พี่แทนจึงชอบมองว่าท็อปเป็นเด็กเลยไม่เอะใจอะไร





     ท็อปมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คนที่รัก และไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับพี่แทนด้วย เวลาผ่านไปจนกระทั่ง ท็อปเรียนจบมอหก เขารู้สึกมีบางอย่างเปลี่ยนไป ท็อปเริ่มอยากสัมผัสและแตะต้องตัวพี่แทนมากกว่าแค่อยู่ใกล้กัน



      ทุกคืนเวลาที่พี่แทนหลับสนิทแล้ว ท็อปมักจะแอบจูบปากพี่ชายก่อนกลับห้องตัวเอง และเมื่อท็อปสังเกตว่าพี่แทนยังทำตัวปกติ ไม่มีทีท่าแปลกประหลาดหรือสงสัยอะไรในตัวน้องชาย ท็อปจึงทำแบบนี้มาเป็นปีๆ



      จนกระทั่ง คืนหนึ่ง ท็อปแอบจูบพี่แทนเช่นเคย ทว่า พี่ชายดันลืมตาขึ้นมา

 

      ท็อปอึ้ง เพราะไม่คิดว่าคนที่แอบรักจะตื่นลืมตา เขารีบดันตัวออกและรีบคิดหาข้อแก้ตัว แต่พี่แทนกลับยิ้มหัวเราะและพูดขึ้น



"ซ้อมจูบสาวหรอ? ฮึ!"


 

"อะ...อื้ม รู้ได้ไง พี่แทน" ท็อปรีบไหลตามน้ำ

 

"จูบอีกสิ"




"พ...พี่แทนว่าอะไรนะ"
ท็อปอึกๆอักๆพลางมองหน้าพี่แทนอย่างไม่เข้าใจ



       แม้พี่แทนจะเปิดทางให้ แต่ท็อปไม่กล้าเพราะกลัวว่าถ้าจูบกันหนนี้ พี่แทนจะจับได้ว่าท็อปคิดเกินเลยไปมากกว่าพี่ชาย แต่ทันใดนั้น พี่แทนกลับดึงคอท็อปโน้มลงมารับจูบกัน แต่มันไม่ใช่แค่ปากแตะปากกลับมีเรื่องของการใช้ลิ้นมาเกี่ยวข้อง

 

     ในวัยนั้น มันแปลกใหม่สำหรับท็อปมาก เพราะเขาไม่เคยจูบใครล้ำลึกเช่นนี้มาก่อน

 

    นานพอสมควรที่ทั้งสองจูบกันดูดดื่ม และเป็นพี่แทนที่ถอนริมฝีปากออก ก่อนจะใช้มือลูบผมท็อปอย่างอ่อนโยน จนเขาใจเต้นแรงจนกลัวจะทะลุออกจากอก



"จูบบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินเอง...อ้อ!...ถ้าจะออกเดทกับสาว อย่าลืมพกถุงยางด้วยล่ะ อะไรก็เกิดขึ้นได้นะ รู้ไหม?"


 

"พ....พี่แทน ไม่รังเกียจที่จูบกับผู้ช...า...."
ท็อปไม่สนคำเตือน สิ่งที่เขาสนคือพี่แทนจูบท็อปด้วยความรู้สึกที่ดูจริงใจ ท็อปจึงรีบถามอย่างอยากรู้

 

"อย่าถามมากได้ไหม? นอนได้แล้ว...คืนนี้ไม่ต้องกลับห้อง นอนกับพี่นี่แหละ"


 

    พี่แทนว่าจบก็รวบตัวท็อปไปกอดแน่นเหมือนท็อปเป็นหมอนข้าง จนท็อปสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น แต่แล้วจู่ๆ พี่แทนก็ดูดเม้มที่หลังคอ จนท็อปหน้าร้อนฉ่าเพราะอายที่รู้ว่าลูกชายตื่นตัวกับสิ่งที่พี่แทนทำ ท็อปรีบนอนหนีบขาตัวเองทันที



"ฝันดีนะ เด็กน้อยของพี่"



"อะ..อ่า...อื้มม....ฝันดีเหมือนกันนะ พี่แทน"


 

      ท็อปนอนยิ้มทั้งคืน เพราะสัมผัสได้ถึงความรักเต็มอ้อมกอด



       แต่ใครจะรู้ว่าคืนนั้น จะเป็นคืนสุดท้ายที่ได้นอนด้วยกัน เพราะหลังจากนั้น วันรุ่งขึ้น พี่แทนที่เดินทางไปทำธุระกับพ่อก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิต





      ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ คนที่เป็นเสมือนครึ่งหนึ่งของชีวิตท็อปได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา

   

     ร่องรอยแห่งการจูบของพี่แทนยังตราตรึงในหัวใจท็อป



     ไม่คิดว่านั่นคือจูบสุดท้าย

 

     การตายของบิดาและพี่ชายทำให้ครอบครัวสูญเสียเสาหลัก และท็อปเสียใจแทบบ้า คนที่รัก ดูแลและปกป้องท็อปเวลาเจอเรื่องไม่ดี บัดนี้ ไม่มีอีกแล้ว....



      กว่าท็อปจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้เหมือนเดิมก็เล่นใช้เวลาอยู่หลายเดือน และตั้งแต่ที่พี่แทนตายไป ท็อปไม่คิดรักใครอีกเลย



      จนเวลาผ่านไปสองปีกว่าๆ ที่ทำให้ท็อปได้พบรักอีกครั้ง...



      เป็นครั้งที่สาม ครั้งที่ทำให้ได้เจอกับพี่ฆีน


 

     ตั้งแต่ท็อปเลือกเส้นทางเดินให้ตัวเองต้องชอบผู้หญิงก็ไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนมาจีบ จนมาเจอพี่ฆีนที่กล้าเข้ามา และความย้อนแย้งในหัวใจท็อปก็เกิดขึ้น ทั้งชอบ ทั้งกลัว ปะปนกันจนปั่นป่วนในอก เมื่อพี่ฆีนมากระตุ้นความรู้สึกลึกๆในหัวใจ



      มันทรมานแค่ไหน ที่ท็อปต้องทำสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ เพื่อไม่ให้ใครมาว่าและเป็นตัวตลกของสังคมอีก

 

      แม้ใจจะชอบพี่ฆีน แต่เพราะรู้ดีว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ท็อปจึงกลบเกลื่อนด้วยการแสดงออกว่าเกลียดพี่ฆีนสุดฤทธิ์ เขาก้าวร้าว เพื่อให้พี่ฆีนไปจากกัน แต่ไม่คิดว่าพี่ฆีนจะมุ่งมั่นจีบท็อป จนท็อปนับถือหัวใจของเขาจริงๆ



       ท็อปไม่เคยเจอใครตื้อหนักเท่าพี่ฆีนมาก่อน ผู้ชายที่ไม่เคยลดละความพยายาม กลับยิ่งเพิ่มพูนความรักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไล่แล้วไม่ไป ท็อปก็คิดเสียว่าใช้โอกาสนี้ให้คุ้ม



        พออยู่กับพี่ฆีน ก็มักเป็นเหตุการณ์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มามีส่วนเกี่ยวข้อง ท็อปเลยใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างในการได้จูบ ได้สัมผัสกับคนที่ท็อปชอบเหมือนกัน เพื่อเวลาถ้าโดนจับได้ ท็อปจะได้มีสิทธ์ โยนความผิดและโทษได้ว่าเป็นเพราะความเมา ไม่ใช่ตัวท็อปแต่อย่างใด ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ท็อปจำได้แทบทุกรายละเอียด

 

      ตอนแรกท็อปตั้งใจจะฉวยโอกาสเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่คิดว่า ตัวเองจะเผลอรักพี่ฆีนไปจนหมดหัวใจ สุดท้าย ท็อปจึงตัดสินใจมอบกายให้พี่ฆีนเป็นครั้งแรกเพื่อการคบกันเป็นแฟน แต่เพราะการกลัวอดีตยังตามมาหลอกหลอน ท็อปจึงมีข้อต่อรองว่าขอคบแบบไม่ให้ใครรู้

 

      การใช้ชีวิตด้วยการยึดติดอดีต ย่อมไม่ส่งผลดีกับใคร



       รักพี่ฆีนแต่ยังกลัวสังคมตราหน้าทำให้ท็อปไม่กล้าเปิดเผยและทำอะไรไม่ชัดเจน แถมยังเลือกวิธีผิดๆ ด้วยการคบผู้หญิงบังหน้าไปพร้อมๆกัน



      และแล้ว กรรมก็ตามสนอง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย จนท็อปได้สูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดไปอย่างน่าเสียดาย



      มันก็ถูกต้องแล้ว ที่ท็อปได้รับบทเรียนจากผลของการกระทำที่ท็อปได้ทำลงไป...

     

       ช่วงระยะเวลาที่พี่ฆีนหายไป ทำให้ท็อปตระหนักอย่างถี่ถ้วนต่อสิ่งที่เลือกเดินแล้วว่า นาทีนี้ ท็อปไม่แคร์สังคมแล้ว ใครจะมองอย่างไรก็ช่าง จะด่าว่า เลว สวะ ขยะสังคม ตุ๊ด แต๋ว ตูดบาน หรืออะไรก็ตาม ท็อปไม่สนใจกับคำพูดเหล่านั้นอีกต่อไป

 

      สิ่งเดียวที่มีคุณค่ามากเกินกว่าคำพูดไร้ราค่าของคนเหล่านั้น คือ...พี่ฆีน...คนที่ท็อปรักสุดหัวใจ

   

      ผู้ชายที่ยอมทำเพื่อท็อปมาโดยตลอด ถึงเวลาที่ท็อปต้องตอบแทนสิ่งเหล่านั้น ด้วยการแก้ไขเป็นคนที่ดีขึ้นและพาพี่ฆีนกลับมาเป็นคนรักของท็อปให้ได้อีกครั้ง...






...........................................




คือ เราอยากบอกจากใจจริงๆอะค่ะ ขอซึ้งหน่อยนะ ฮ่าๆๆ

อยากขอบคุณจากใจ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์ เรารู้สึกดีจริงนะๆเพราะตั้งแต่เราเขียนนิยายตัวเองแล้วลองอ่านทบทวน มันค่อนข้างเครียดและดราม่าพอสมควร แต่พวกคุณก็ยังเลือกจะอ่านนิยายที่ไม่ค่อยผ่อนคลายและไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่
แถมมีแต่เหตุการณ์ชวนให้ด่าทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ

ชอบไม่ชอบตอนนี้บอกได้นะคะ เพราะเราจะนำไปพัฒนาเรื่องต่อไป

น้อมรับทุกคอมเมนท์
ขอบคุณค่าาาาา
rinyriny.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2017 22:05:03 โดย rinyriny »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด